enjoyjam.net » ข่าวบันเทิง » ข่าวบันเทิง (Moderators: happy, sianbun) » รายการคุยแซ่บShow ค่ะ “บี พีระพัฒน์” เผยโควิดเล่นงาน ไม่ได้ร้องเพลง 2 ปี « previous next » Print Pages: [1] Go Down happy on November 20, 2021, 07:15:55 PM “บี พีระพัฒน์” เผยโควิดเล่นงาน ไม่ได้ร้องเพลง 2 ปี พร้อมเปิดเส้นทางรักกว่า 17 ปี ฝ่าบทพิสูจน์ 5 ปี นักร้องหนุ่มเสียงดี บี พีระพัฒน์ ขอควงภรรยาคนสวย ฬินา ภชสร มาเปิดตำนานเส้นทางความรักระหว่างนักร้องและนักแต่งเพลงกว่า 17 ปี พร้อมเปิดเผยอุปสรรคความรัก โดนเม้าท์เป็นหนูตกถังข้าวสาร เพราะฝ่ายหญิงรวยมาก อีกทั้งเปิดชีวิตคู่ช่วงโควดไม่ได้ร้องเพลงกว่า 2 ปี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ความรัก 17 ปี เจอกันได้ยังไง?บี : เจอกันที่งานรำลึกสึนามิที่ภูเก็ต มีศิลปินไปเล่นเพื่อหาเงิน เขาก็เป็นนักแต่งเพลงอยู่ที่ โซนี่ มิวสิค ซึ่งมีคนเอารูปเขามาให้ผมดูก่อนแล้วว่าคนนี้เขาไปเรียนกลองกับเพื่อนผมที่วง เป็นนักแต่งเพลงด้วย ผมก็ดูรูป ไม่น่าเชื่อ หน้าตาไม่น่าเป็นนักแต่งเพลง ตอนนั้นรู้ไหมว่ามีคนแอบส่องรูปเราอยู่?ฬินา : ไม่ทราบเลย ไม่เคยเจอหน้า ได้ยินแต่เพลง ตอนที่ได้ฟังเพลงทีแรก ตอนนั้นเพลงวีนัสออกมา ก็รู้สึกว่าเสียงเขาไม่เหมือนใคร แล้วจิตนาการว่าเป็นผู้ชายตัวใหญ่ แต่พอได้เจอตัวจริงแล้วเซอร์ไพรส์มากเลย คนนี้เหรอ ใช่เหรอ เจอครั้งแรกแอบตกใจว่าเขาเอาพลังมาจากไหน เมื่อก่อนเขาผอมกว่านี้อีกบี : ผอมกว่านี้ 10 กว่ากิโล พอเราเจอเขาตอนนั้นรู้สึกยังไง?บี : ผมว่าก็น่ารักดี ตัวจริงตาเขาเป็นประกาย พอเจอเขาคุณตามต่อได้ยังไง?บี : ตอนนั้นผู้จัดการคนเก่าผมเขาทำงานอยู่ที่โซนี่ แล้วเป็นแม่สื่อให้ ลากเขามานั่งกับผมที่งานรำลึกสึนามิฬินา : วันนั้นยังไม่รู้สึกอะไร แต่ก็ข้องใจอยู่ แอบมองแว๊บๆ ว่าใช่เหรอ เพราะเสียงกับตัวไม่เท่ากันบี : ผมสงสัยว่าหน้าตาแบบนี้แต่งเพลงได้จริงเหรอ ผมอยู่ในวงการผมไม่เคยเห็นคนแต่งเพลงหน้าตาประมาณนี้ อันนี้ไม่ได้บูลลี่อะไร แค่พูดถึงโดยทั่วไป เห็นเขาแล้วแบบเขาน่ารักด้วย เขาแต่งเพลงได้ด้วย แต่งเพลงได้มันเป็นหนึ่งข้อที่ประทับใจผม แล้วจีบเขายังไง?บี : ผมก็ให้ผู้จัดการนี่แหละ ตอนนั้นมันยังไม่มีไลน์ ไม่มีอะไรฬินา : เพิ่งมีเฟซบุ๊ก โทรศัพท์ยังเป็นขาว-ดำ เพิ่งเปลี่ยนเป็นสีบี : ผมก็ให้ผู้จัดการขอเบอร์โทรศัพท์ ผมใช้คุ้มเลยผู้จัดการผม ตอนนั้นผู้จัดการบอกว่ายังไง?ฬินา : ตอนนั้นคุยลักษณะเรื่องงานมากกว่า ให้เรามาเขียนเพลงให้พี่บี เพลงแรกที่แต่งให้คือเพลงอะไร?ฬินา : เพลงดินแดนแห่งความรักนี่แหละ เมื่อก่อนเวลาฬินาจะเขียนเพลงให้ใคร ต้องสื่อสารกับตัวนักร้องก่อน เพื่อที่เขาร้องจะได้เป็นภาษาเขา ทีนี้พอคุยกัน ไปๆ มาๆ มันก็เลยสนิทกัน ก็เลยไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นที่ตรงไหน แล้วตอนนั้นคุณไปขอเขาเป็นแฟนได้ยังไง?บี : เนียนๆ ไป ผมคุยเรื่องงาน แล้วนัดกินข้าว นัดดูหนัง เป็นการทำความรู้จักกัน น่าจะสัก 5-6 เดือนกว่าที่จะเริ่มคบกันฬินา : พอคุยๆ กันก็รู้สึกว่าพี่เขาก็น่ารักดี เหมือนเขาแปลกดี ปกติจะไม่ค่อยได้เจอแนวนี้ จะเป็นนักธุรกิจอะไรอย่างนี้บี : ตอนนั้นผมรู้หมดว่ามีใครมาจีบเขาบ้าง เราก็มีหมั่นไส้บ้าง มีเนื้อเพลงอยู่ท่อนนึงที่พี่บีเคยพูดกับฬินา?บี : ใช่ๆ ฬินา : ใช่ค่ะ ส่วนใหญ่เวลาฬินาคุยกับพี่บีแล้วมันจะมีคำที่เราประทับใจแล้วโดนๆ แล้วแอบโน้ตไว้ เขาบอกเป็นภาษาพูดไม่เหมือนในเพลง ฬินาว่าไหมเหมือนชีวิตคนเราเกิดมาบางทีเราคิดว่าเรามีความรักมาหลายๆ ครั้งแล้ว แล้วพอมาเจอคนที่ใช่แล้ว แล้วที่ผ่านมามันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้นะ ตอนที่เราพูดว่ามันเป็นความรักแล้วเราพูดว่า ฉันรักเธอนะ อยากเอาคืนมาให้หมด เอามาให้คนที่ใช่คนเดียว มันเสียเวลาชีวิต แล้วมันแปลงเป็นเพลงอะไร?ฬินา : เพลงดินแดนแห่งความรัก ตอนท่อนฮุก หน้าตาคล้ายกัน มีคนเคยบอกไหม?บี : เมื่อก่อนไม่คล้ายนะครับ อยู่ไป อยู่มาเขาเรียนแบบผม สมัยก่อนตอนที่คบกันใหม่ๆ เขาบอกเลยว่า บี เป็นหนูตกถังข้าวสาร?บี : มีบ้าง แต่ก็ไม่เยอะ แต่ก็มีบางคนที่เป็นเจ้าของหนังสือแล้วก็ชอบเขา แล้วให้ลูกน้องเขียนข่าวว่าผม วันๆ ไม่ทำอะไรตามแต่ผู้หญิง ถามว่าโกรธไหม แรกๆ ก็โกรธ อะไรวะ ก็พาไปเที่ยว ไม่ได้อะไรสักอย่าง ไปกินข้าวก็ต้องเลี้ยง ผมก็บ่นกับเขานี่แหละ ผมคิดอย่างเดียวเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เดี๋ยวก็เห็นเอง พอฬินาเห็นข่าวเราให้กำลังใจพี่บีอย่างไร?บี : ก็จะบอกพี่บีว่ามันเป็นการโฆษณาการพาดหัวข่าวให้น่าสนใจ เขาก็คงอยากให้คนเข้าไปอ่าน นานไหมกว่าจะตัดสินใจแต่งงานกัน?บี : ปีที่ 7 พอดี ถามว่าทำไมรอนาน ก็เพราะว่าพ่อเขาไม่อนุญาต 5 ปีแรก ผมได้ยินแต่ชื่อ ไม่เจอเลย แล้วเคยเจอกันงานแต่งงานพี่ชายเขาครั้งเดียว ผมไปร้องเพลงให้ สวัสดีคุณพ่อ แล้วผมก็พยายามบอกฬินาว่าอยากเจอคุณพ่อ อยากกินข้าวด้วยฬินา : พยายามหลายครั้งแล้ว คุณพ่อไม่เลย ไม่ยอม ตอนคบกัน 5 ปี คุณพ่อทราบไหมว่าเราคบคนนี้?ฬินา : ทราบค่ะ บอกคุณพ่อตลอด แต่คุณพ่อคิดว่าเด็กๆ คบกันเดี๋ยวก็เลิก แล้วด้วยความที่อาชีพศิลปิน แล้วที่บ้านเป็นนักธุรกิจก็จะชินกับครอบครัวที่จะทำธุรกิจด้วยกัน เขาอาจจะไม่ชินกับศิลปินที่ไม่มั่นคง แล้วคงจะเด็กๆ คบกันเดี๋ยวก็เลิกกันไปเองคุณรู้แบบนี้ห่อเหี่ยวไหม?บี : ครั้งแรกก็เซ็งนิดนึง แต่โดยอาชีพผม ผมชินแล้วไง เรื่องแบบนี้หมายถึงว่า คนมองว่าอาชีพนี้ไม่มั่นคง ตอนนั้นทั้งๆ ที่มันเพิ่งเริ่มต้น ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร ร้องเพลงกลางคืน ผมเจอเรื่องแบบนี้จนชินแล้ว ผมก็ได้แต่คิดว่าเดี๋ยวก็เห็น ก็ทำไปเรื่อยๆ พ่อ แม่ ไม่สนับสนุนแบบนี้ อะไรทำให้คู่นี้ถึงตัดสินใจแต่งงาน?บี : เรารักกันแค่นั้น จับมือกันแล้วต้องผ่านมันไปให้ได้ แล้วอะไรที่ทำให้คุณพ่อยอมเจอ?ฬินา : คุณพ่อคงเห็นว่ามัน 5 ปีแล้ว ฬินาเป็นคนบอกคุณพ่อว่าคบกัน 5 ปีแล้ว ก็เริ่มนัด ครั้งแรกที่เจอเป็นยังไงบ้าง?บี : เกร็งมาก ผมตื่นเต้นจมูกบาน ก็เจกันที่ร้านอาหารข้างนอก แล้วก็คุยกันทำให้มื้อนั้นทำให้เราก้าวมาอีกสเต็ปนึง แล้วก็ประทับใจ เพราะว่าคุณพ่อน่ารักไม่เหมือนที่เราคิดไว้ว่าจะมีนัยยะ แต่ปรากฏว่าคุณพ่อดีทุกอย่างเลย ก็เปลี่ยนความคิดไปเลย แล้วหลังจากนั้นก็เจอกันบ่อยๆ ตอนแต่งบอกพ่อ แม่เขาตอนไหน?บี : ก็นัดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว แล้วบอกคุณพ่อว่าผมขออนุญาตนะคุณพ่อ ผมอยากจะขอฬินามาอยู่กับผม ท่านก็ยิ้มฬินา : พ่อเขาก็ก็มีเหอะๆ นิดหน่อย แล้วก็มีคุยกับฬินานอกรอบด้วย ว่าการที่คบกันเป็นแฟนแล้วการที่แต่งงานกันจริงๆ มันไม่เหมือนกันนะลูก เราก็ฟัง ตอนนั้นอะไรก็ได้ เป็นเด็กดีบี : หลังจากที่คุยกันวันนั้นคุณพ่อก็โอเค ในความเป็นจริงเราคบกันมาสักพักแล้ว คุณพ่อก็รู้อยู่แล้วก็อยู่ในสายตาคุณพ่อตลอด วันนั้นคุณพ่อก็ อืม... เพิ่งครบรอบแต่งงาน 10 ปี?ฬินา : ใช่ค่ะ 11 พฤศจิกายน แล้วที่คุณพ่อบอกชีวิตแต่งงานกับเป็นแฟนมันเหมือนกันไหม?ฬินา : ก็ไม่เหมือน มันมีเพิ่มเติมมา มันเริ่มไม่ใช่คนสองคน มันจะมีเรื่องของครอบครัวเรา ครอบครัวเขา คนมันก็จะเยอะมากขึ้นบี : มันก็ต้องดูครอบครอบเขาด้วย มันกลายเป็นว่าเราทำอะไรมันก็มีผลกระทบไปถึงชื่อเสียงนามสกุลของเขาด้วยต้องปรับตัวกันเยอะไหม เวลาที่เรามาอยู่ด้วยกัน?บี : เยอะเหมือนกันฬินา : อย่างช่วงแรกๆ เวลาเข้าห้องน้ำ ยิ่งแบบนี้ดึกๆ ฬินาเป็นคนดื่มน้ำเยอะ ตอนเย็นๆ เข้าห้องน้ำปุ๊บก้นหล่นลงไปในโถเลย ขาชี้บี : เขาก็พูดว่าพี่บี ผมก็เอาอีกแล้ว ผมโดนอีกแล้ว คุณฉี่ไม่เคยยกโถเลย?บี : ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมยกแล้วผมไม่เอาลงฬินา : ใช่ ฬินาก็หล่นลงไปเลย เราก็บอกบ่นหลายครั้ง จนเขาทำจนได้ คู่นี้ทะเลาะกันไหม?ฬินา : ทะเลาะ เรื่องไร้สาระบี : เรื่องหนังยังทะเลาะกันได้เลย พี่บีดูภายนอกเป็นคนใจเย็นมาก?บี : เมื่อก่อนผมใจร้อนมาก ตอนนี้ใจเย็นแล้ว เมื่อก่อนถ้ามีอะไรอยู่ในมือผมปา ผมเรียนโรงเรียนชายล้วน ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวอะไรหรอก ผมอาจจะเป็นคนเลือดร้อนด้วยโดยสันดานหรืออะไรก็ไม่รู้แหละ เมื่อก่อนนี้ ต่อยกำแพงอะไรแบบนี้ อะไรทำให้เราเปลี่ยน?บี : เขาเลย แต่ตอนคบกันก็ยังเป็นอยู่ ตอนขับรถชอบด่า ใครตัดหน้าไม่ได้เลยไม่ยอม ทีมงานบอกว่าทะเลาะกับแท็กซี่?บี : ผมก็เป็นแบบนี้แหละ ผมขับตามแท็กซี่ปาดกันไปหลายแยกแล้ว ประมาณตี3 สมัยนั้นผมยังดื่มอยู่ ยังไม่รู้จักฬินา ขับตามไปถึงแยก จอดปุ๊บเตรียมตัวลงแล้ว เปิดประตูลงไป แท็กซี่เปิดประตูลงมา ดึงมีดออกมายาวมากแล้วไฟส่องมาแบบเงาแว๊บเลย เหมือนดาบซามูไร ผมก็ถอยสิครับ ขาเราก็มีกลัวอะไร เราขึ้นรถแล้วไปเลย เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าความเป็นกับความตายอยู่แค่เสี้ยวนาที หลังจากนั้นกลายเป็นใจเย็นลงเลยไหม?บี : ก็ยังไม่เย็นเท่าไหร่ แต่จะเข็ดเรื่องการลงไป เรื่องแบบถึงตัว จะเริ่มแบบไม่กล้าซ่าแล้ว กลับมาคิดอีกทีถ้าวันนั้นมันมีปืนละ วิ่งก็ไม่ทันนะ อย่างนี้เวลาคนตัดด่าในรถไหม?บี : ด่าฬินา : เคยๆ คือปกติพี่บีเขาจะค่อนข้างสุภาพก็จะคุยกันปกติ อันนี้คือเมื่อก่อนนะคะพอมีคนปาด หรือขับรถไม่สุภาพบนท้องถนน พี่บีก็เหมือนมีอีกร่าง ตอนหลังฬินาก็บอกพี่บีว่าพี่บีคนที่ได้ยินอะ พวกนั้นเขาไม่มีใครได้ยินเลยนะ ฬินาเป็นคนที่ได้ยิน พี่บีเขาก็เลยปรับบี : ผมก็เลยเปิดโลกทัศน์ เออหวะ...เขาคือคนฟัง ผมก็เลยเริ่มปรับ เริ่มเรียนรู้ว่าเวลาเราโมโห เวลาเราโกรธ ถ้าเราพูดคำหยาบเนี่ยมันเหมือนเอาน้ำมันไปราดในกองไฟ ก็เลยเวลาโกรธจะต้องพูดสุภาพ ผมจะเก็บคำหยาบไว้พูดกับเพื่อน แล้วตอนที่เคยเกือบเลิกกันล่ะ?ฬินา : ตอนนั้นอยู่ญี่ปุ่นบี : น่าจะคบกัน 2-3 ปี ฬินา : วันนั้นเราไปถึงไฟล์เช้า แล้วเราก็พักผ่อนกันไม่พอทั้งคู่ ฬินาก็เหมือนอยากถ่ายรูปสวยๆ ก็ใส่บูทยาว รองเท้าส้นเข็มสูง 5 นิ้วประมาณนี้ แล้วเขาเห็นทาวเวอร์ เรกคอร์ส เขาจะวิ่งเข้าไปในนั้น แล้วเขาจะไม่ให้ฬินาไปตรงอื่นด้วยนะ ให้เป็นกำลังใจ ให้อยู่ข้างๆ คือเราก็ชอบฟังเพลงนะ แต่ว่าพี่บีแบบฟังจริงๆ แล้วเขาอยู่ในนั้น 3 ชั่วโมงแล้ว เราก็เริ่มเมื่อย เริ่มหน้าหงิกแล้ว แล้วเขาก็บอกว่าฬินาไม่สนับสนุนสิ่งที่พี่รักได้ยังไง นี่มันอาชีพการงานของพี่นะ แต่พี่บีมัน 3 ชั่วโมงแล้วนะ พี่เพิ่งเข้ามาในนี้แค่ครึ่งชั่วโมง ทำหน้าอย่างนี้แล้วเหรอบี : ผมก็โกรธ เหมือนที่ผมคบกับเขา เพราะว่าผมเข้าใจว่าเขารักงานของผม รักดนตรี เพราะผมจะมีปมเรื่องคนที่มาคบกับผม ต้องรับชีวิตผมได้ด้วย รับงานผมได้ด้วยนะ มันถึงจะอยู่กันได้ เพราะว่างานผมไม่ปกติ ทีนี้พอเขาไม่อินกับโลกของเรารู้สึกผิดหวัง นอยด์ไปเอง แล้วเวลาทะเลากันหยาบไหม?บี : ไม่หยาบ หยาบไม่ได้ฬินา : เขาจะแบบจริงจัง แบบเป็นคู่ชีวิตกัน แต่งงานกันแล้วพี่ก็คิดว่าฬินาจะเข้าใจพี่ แต่นี่เรื่องงานพี่ เรื่องเพลงพี่ฬินาไม่สนับสนุนได้ไง ก็ฬินาเมื่อยพี่บี ปกติก็ฟังเพลง ชอบด้วยกัน เสร็จแล้วพี่บีก็ไม่เชื่อ คือตัวเองก็เหนื่อยด้วย ฬินาก็ยังไงสลับกันไป แล้ววันนั้นจบยังไง?บี : เลิกกันเลยฬินา : ใช่ อย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ฬินาก็สะบัดไป เดินข้ามถนนไปก็ถึงโรงแรมบี : แล้วอีก 10 นาทีผมก็ตามไป แต่ในใจคือเลิกจริง คือเราไม่ใช่คนพูดซี้ซั่ว เลิกคือเลิก แล้วบังเอิญเป็นเตียงคู่ แยกกันนอนหันหลัง แบบเลิกแน่ๆ ค่ำๆ เหมือนเราคิดว่าเราทำอะไรผิด เหมือนแบบสติมาฬินา : เหมือนฬินาก็เสียใจ ร้องไห้ แต่พี่บีกลับเข้ามาตัวเองก็ตาแดงมากเลย เข้ามาแบบร้องไห้ แล้วสักพักเขาก็มานั่งบนเตียงแล้วมากอด แล้วบอกว่าเย็นนี้เราไปทานอะไรอร่อยๆ กันนะ แสดงว่าครั้งนั้นทะเลาะกันหนักสุด?ฬินา : ใช่ค่ะบี : แล้วเป็นครั้งเดียวที่พูดว่าเลิก เลิกกัน 5 ชั่วโมง เวลาฬินาโมโหเคยพูดคำหยาบบ้างไหม?ฬินา : ไม่ๆ โดยธรรมชาติเราไม่พูด ตอนที่บอกว่าเลิกกันแล้ว ทำไมถึงกลับไปง้อ?บี : มันรู้สึกเหมือนเราทำอะไรผิดไป ทบทวนไป ทบทวนมา มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดที่เราต้องเลิกกับเขาจริงๆ นี่หว่า เราแม่งงี่เง้า มันไม่เคยทะเลาะกันแรงๆ พอทะเลาะกันมันหดหู่ แล้วแบบเราพูดคำนี้ออกไปได้ยังไง คบกันมา 17 ปี อะไรที่ทำให้เราคบกันได้นานขนาดนี้?ฬินา : อย่างน้อยเราคุยกันรู้เรื่อง พี่บีเป็นคนจริงจังกับเรื่องงานมาก เพลงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับชีวิตเขา แล้วสิ่งที่เรารู้เรื่องที่สุดก็เป็นเรื่องเพลง ช่วงโควิดเขาบอกว่าคุณสบายมากเลยเหรอ?บี : ตอนแรกรู้สึกไม่เคยหยุดฬินา : ดูทุกเรื่องในเน็ตฟิกบี : ซื้อทีวีใหม่ เราก็ไม่ได้ทำงานตลอดทุกวัน แต่ 1-2 วันก็ต้องออกไปแล้ว ไม่เคยได้หยุดนานๆฬินา : วันที่ไม่มีงานเขาก็ต้องซ้อม ก็เหมือนทำงานทุกวันพอได้หยุดแล้วเป็นไง?บี : ตอนแรกเพลินมากเลย ไปซื้อทีวีใหม่ดีกว่า ใช้คุ้มเลย ดูทุกอย่างที่อยากดู แล้วเริ่มจิตตกตอนไหน?บี : ตอนรอบหลัง รอบแรกช่วงปลายปีเปิดได้ ผมก็มีคอนเสิร์ตยาวเลย พอโควิดมาอีกคอนเสิร์ตก็ถูกยกเลิก โอเคทำใจนิดนึง เดี๋ยวต้นปีกุมพาก็กลับมามีงาน มีนาปิดอีก ทีวีเริ่มไม่น่าดูแล้ว เอาไปเปลี่ยนเป็นเงินได้ไหม เริ่มแบบทำไงดี งานเริ่มหายไปเรื่อยๆ ทีนี้เริ่มนาน เริ่มจิตตก เหมือนไร้ค่า ไม่มีประโยชน์อะไรต่อโลกเลยเหรอ แล้วทำยังไงให้เปลี่ยนชีวิตเราได้?บี : ช่วงนั้นมันมีข่าวลบเยอะ แล้วเราเป็นคนที่ทำงานอยู่กับความสุขตลอด ภูมิต้านทานเรื่องความทุกข์เราจะต่ำกว่าคนอื่น พอจิตตกมากๆ ก็ดาวน์ แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรมาก ตอนหลังอยู่ดีๆ เขาบอกจะขายของไอจี ลูกค้าสั่งของ เขาก็มานั่งสั่งของเอง เพื่อจะได้มีอะไรทำในช่วงโควิด ผมก็เห็นทุกวัน ผมก็รู้สึกอาย เขายังลุกมาทำนู่น ทำนี่เลย ผมจะมานั่งอยู่อย่างนี้ทำไม ผมก็เริ่มได้สติแล้ว ผมจะทำอะไรดี เราร้องเพลงได้ ทำออนไลน์ก็ได้ ทำยูทุบ ทำเพจ ก็เริ่มไปไลฟ์ในเพจ ทำคลิปในยูทูบ เอาเพลงที่เก็บไว้ออกมาปล่อยผ่านยูทูบติดตามชมคำสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คุยแซ่บShow” ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mamaคลิปสัมภาษณ์ บี พีระพัฒน์ และ ฬินา ภชศร https://youtu.be/uRdM4mGtbewhttp://www.youtube.com/watch?v=uRdM4mGtbew Logged Print Pages: [1] Go Up « previous next » enjoyjam.net » ข่าวบันเทิง » ข่าวบันเทิง (Moderators: happy, sianbun) » รายการคุยแซ่บShow ค่ะ “บี พีระพัฒน์” เผยโควิดเล่นงาน ไม่ได้ร้องเพลง 2 ปี