อัดฉีดนักชกไทยสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020
31 กรกฎาคม 2564 – นักมวยสากลของไทย รอรับอัดฉีดหากสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 บ.บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) นำทัพแจกเงิน 10 ล้านบาท ถ้าได้เหรียญทอง ลุ้นระทึก 3 นักชกในรอบ 8 คนสุดท้าย ประเดิมชิงเหรียญทองแดง 2 รุ่น ในวันที่ 1 ส.ค.นี้การแข่งขันมวยสากลกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 นักชกไทยเตรียมสร้างประวัติศาสตร์ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยนักชก 2 คน มีโปรแกรมแข่งขันในรอบ 8 คนสุดท้าย ได้แก่ รุ่น 57 กก.ชาย “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี พบกับ ลาซาโร่ อัลวาเรซ จากคิวบา และ รุ่น 51 กก.หญิง “เฟี้ยว”จุฑามาศ จิตรพงศ์ ที่ต้องดวลกับ บูเซนาซ ชาคิโรกลู จากตุรกี ถ้าชนะจะได้เข้ารอบรองชนะเลิศการันตีเหรียญทองแดงทันทีนอกจากนี้ ยังมี “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี ที่ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย ได้เช่นกัน โดยจะพบกับ แคโรไลน์ ดูบัวส์ (สหราชอาณาจักร) วันที่ 3 สิงหาคม รวมทั้งสิ้น 3 คน ที่นักชกไทยจะได้ลุ้นเหรียญโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 หลังจากที่ ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ริโอ เดอ จาเนโร 2016 ทีมกำปั้นไทยไม่ได้เหรียญรางวัลใด ๆ เลยเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าได้ ตนได้หารือกับกลุ่มพันธมิตร และ บ.บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) ตั้งเงินรางวัลอัดฉีดเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจนักมวยทีมชาติไทย เหรียญทอง รับเงินอัดฉีด 10 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ภาคส่วน จาก บ.บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) 5 ล้านบาท และ กลุ่มพันธมิตร (ยังไม่เปิดเผยรายชื่อ) 5 ล้านบาท , เหรียญเงิน บ.บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) มอบ 3 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาทนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กล่าวต่อไปว่า นักชกทั้ง 3 คน ทำผลงานได้น่าประทับใจ มีหัวใจนักสู้ มีการพัฒนาด้านการชกที่ดี รวมทั้งมีความแข็งแกร่ง ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่จะพบ นักชกคิวบา ที่ดูชื่อชั้นจะเหนือกว่าไทย แต่เชื่อว่าหาก "สด" ชกได้อย่างมั่นใจเหมือนรอบที่ผ่านมา ก็มีโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ สำหรับ "แต้ว" สุดาพร สีสอนดี ที่เตรียมตัวมาดี บวกกับประสบการณ์ในการชกระดับชาติ น่าจะใช้ประสบการณ์ เอาชนะนักมวยจากสหราชอาณาจักรได้ ในขณะที่ จุฑามาศ จิตรพงษ์ พบ นักชกตุรกี ถือว่ามีโอกาสมากที่สุดในบรรดา 3 คน เพราะนักมวยหญิงจากประเทศอิสลาม ส่วนใหญ่มีตัวเลือกไม่มาก ทำให้ "เฟี้ยว" มีลุ้นมากขึ้นในขณะที่ “บิ๊กชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการทีมมวยสากลและประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักชกทุกคนในชุดโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 มีความเสียสละอย่างมาก ตั้งแต่การเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จนมาถึงรอบนี้ ถือได้ว่าความฝันใกล้เป็นความจริงแล้ว
ทั้งนี้ หลังจากเสร็จศึกโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 สมาคมกีฬามวยสากลฯ จะนำทีมนักชกทั้งหมดเดินทางกลับประเทศไทยไปกักตัวตามมาตรการ 14 วัน ที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งเดิมนั้นจะกักตัวที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ จ.สระบุรี แต่หลังจากพิจารณาแล้ว ที่เกาะสมุย ขณะนี้รัฐบาลประกาศให้เป็น โครงการ “สมุย พลัส (7+7)” เหมือนกับ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ของ จ.ภูเก็ต เรียบร้อยแล้ว นักชกไทยจะได้พักผ่อนในบรรยากาศที่ดี ด้วยความพร้อมหลายอย่าง และจะได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย นอกจากการซ้อมมวยต่อเนื่อง ก็จะเป็นการโปรโมทและส่งเสริมการท่องเที่ยวของเกาะสมุยไปพร้อมกันด้วย