มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีผนึกไอบีเอ็ม จัดตั้ง“ศูนย์บ่มเพาะ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีผนึกไอบีเอ็ม จัดตั้ง“ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยี” แห่งแรกในประเทศไทย

มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยนำหลักสูตร IBM Academic Initiative เพื่อเสริมสร้างความรู้ และพัฒนาความสามารถในทักษะทางด้านเทคโนโลยี รวมทั้ง ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน และเอาชนะความท้าทาย เพื่อช่วยให้โลก ‘ฉลาดขึ้น’

กรุงเทพฯ – 26 มกราคม 2554 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิด “ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยี” หรือ Center of Excellence ศูนย์ผลิตผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับประกาศนียบัตรอย่างเป็นทางการจากไอบีเอ็ม พร้อมเสริมสร้างทักษะของบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของไอบีเอ็ม พร้อมปฏิวัติการเรียนการสอนอย่างล้ำสมัย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ มุ่งผลิตบุคลากรที่มีความรู้ ทักษะ และความสามารถด้านไอที เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในประเทศไทย

ในปัจจุบัน ปัญหาท้าทายของการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศประการหนึ่ง คือ ขาดแคลนผู้มีความรู้ ทักษะ ความสามารถทางด้านไอที จำนวนบุคลากรที่สถาบันการศึกษาผลิตออกมาในแต่ละปียังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเมนเฟรม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีมากว่า 45 ปี และใช้งานกันอย่างแพร่หลายในองค์กรธุรกิจ แต่ก็ยังมีจำนวนบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในด้านดังกล่าวไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีจึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อช่วยเอาชนะความท้าทายในด้านดังกล่าว

ศูนย์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของสถาบันการศึกษาด้านไอทีอย่าง มจธ. ในการผลิตบัณฑิตและมหาบัณฑิตที่มีทักษะสูงและพร้อมทำงานอย่างมืออาชีพต่อไป โดย มจธ. จะเป็นผู้จัดหาสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ส่วนไอบีเอ็มจะรับหน้าที่จัดหาซอฟต์แวร์ชั้นนำ สื่อการเรียนการสอน การฝึกอบรม การพัฒนาหลักสูตร และการจัดสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรจากไอบีเอ็มเมื่อนักศึกษาจบหลักสูตรฯ 
   
อีกทั้ง นักศึกษายังได้มีโอกาสฝึกทักษะความรู้ในเทคโนโลยีหลาย ๆ ด้านของไอบีเอ็ม เช่น เมนเฟรมหรือซิสเต็ม ซี (System z) ดีบีทู (DB2) เว็บสเฟียร์ (WebSphere) โลตัส (Lotus) ทิโวลี (Tivoli) และเทคโนโลยีใหม่ เช่น คลาว์คอมพิวติ้ง การวิเคราะข้อมูลเชิงธุรกิจ วิทยาศาสตร์บริการ การจัดการและวิศวกรรม ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้นักศึกษาเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างให้โลกชาญฉลาดขึ้น เนื่องด้วยสามารถนำความรู้ความสามารถไปใช้งานได้อย่างเชี่ยวชาญเมื่อสำเร็จการศึกษาทันที โดยส่วนใหญ่ของงานจำเป็นต้องมีความเข้าใจทั้งภาคธุรกิจและเทคโนโลยี  นอกจากนั้น กระบวนการเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัยยังจะช่วยให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรง ได้รับความคุ้นเคยกับการสร้างนวัตกรรม และสามารถพัฒนาเป็นแรงงานที่มีขีดความสามารถแข่งขันทั้งในประเทศและในตลาดโลกได้ เป็นอย่างดี

ผศ.ดร.นิพนธ์ เจริญกิจการ คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดเผยว่า “มจธ. เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศที่เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยมีแผนพัฒนาศักยภาพทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาควิชาการและภาคปฏิบัติ รวมถึงการพัฒนาความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีและการวิจัย เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก ในส่วนของคณะเทคโนโลยีและสารสนเทศ ซึ่งถือเป็นความเชี่ยวชาญหลักและเป็นสาขาหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัย ขณะนี้ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างทักษะและความเชี่ยวด้านไอทีของนักศึกษาให้ทันกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไอบีเอ็มเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ร่วมทำงานกับทางคณะฯ มาอย่างยาวนาน โดยได้นำทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านไอทีระดับโลกมาถ่ายทอดให้กับคณาจารย์ นักศึกษา และนักวิจัยอย่างต่อเนื่อง”

 “เราเล็งเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอทีเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรในทุกหน่วยงาน แต่กลับมีบุคลากรที่มีความสามารถด้านไอทีรอบด้านจำนวนน้อย ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของสังคม รวมถึงเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านไอทีของคณะ จึงได้จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีขึ้น ด้วยความมุ่งหวังที่จะผลิตบุคลากรที่มีความรอบรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ มีทักษะการวิเคราะห์ วางแผนและการบริหารจัดการด้านไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการบุคลากรด้านพลังงานของประเทศ การจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีในครั้งนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือระหว่างสององค์กรที่จะมุ่งสร้างมืออาชีพด้านไอทีผ่านนวัตกรรมการเรียนรู้ที่เน้นความร่วมมือกันการปฏิบัติจริง”

นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มมีความยินดีที่ได้สานต่อความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาที่มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง มจธ. ในโครงการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีซึ่งจะเป็นแหล่งผลิตผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอทีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ นอกจากนี้ เราจะเดินหน้าในความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำแห่งอื่น ๆ อีกเพื่อขยายขอบข่ายการเรียนรู้ที่ไร้ขีดจำกัดเช่นนี้ไปในวงกว้างขึ้น นับเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้างและส่งเสริมให้ผู้เกี่ยวข้องพัฒนานวัตกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป”   

ผศ.ดร.ประเสริฐ คันธมานนท์รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายบริหารและผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (CIO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวเสริม “ปัจจุบันมีบัณฑิตที่จบด้านไอทีและสาขาที่เกี่ยวข้องกว่ามากกว่า 50,000 คนต่อปี แต่น่าเสียดายที่มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่มีความรู้และทักษะระดับมืออาชีพ ซึ่งประเทศไทยกำลังขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น การจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มจธ. ให้สามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสนองตามความต้องการของตลาด สามารถสร้างผลงานที่มีคุณค่า เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม องค์กรของรัฐและเอกชน ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติต่อไป”

ในส่วนของการพัฒนาเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน หนึ่งในเทคโนโลยีจากไอบีเอ็มที่ มจธ. นำมาใช้เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยขณะนี้ คือ เซิร์ฟเวอร์ ไอบีเอ็ม ซิสเต็ม ซี (IBM System z) หรือเมนเฟรมที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่สอดรับกับวิสัยทัศน์ “โลกฉลาด” (Smarter Planet) ของไอบีเอ็มได้อย่างครบครัน โดยผสานรวมความยืดหยุ่นของระบบประมวลผลขั้นสูงเข้ากับเสถียรภาพและความสามารถในการปรับขนาดของระบบเมนเฟรมเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังมีความโดดเด่นในแง่ความเสถียรในการประมวลผล เอื้อต่อการลดค่าใช้จ่ายและการประหยัดพลังงานต่อการใช้งานในองค์กรชั้นนำ ทั้งนี้ นับถึงปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยทั่วโลกที่ได้นำเมนเฟรมหรือ ไอบีเอ็ม ซิสเต็ม ซี ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอนด้านไอทีแล้วกว่า 500 แห่ง โดยมีนักศึกษากว่า 50,000 คนที่ได้เรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีฯ ดังกล่าว


เกี่ยวกับศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยี

ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยี (Center of Excellence) เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ไอบีเอ็ม อคาเดมิค อินนิชิเอทีฟ” (IBM Academic Initiative) ซึ่งไอบีเอ็มได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษากว่า 2,000 แห่งหลายประเทศทั่วโลก ถือเป็นโครงการสำคัญอีกโครงการหนึ่งของไอบีเอ็มที่มุ่งเน้นพัฒนาความรู้และทักษะด้านไอทีให้กับบุคลากร นักเรียน นิสิต/นักศึกษาทั่วโลก

 
โครงการ “ไอบีเอ็ม อคาเดมิค อินนิชิเอทีฟ” (IBM Academic Initiative) จัดตั้งในปี 2547 เพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างไอบีเอ็มและสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ โดยมุ่งเน้นเพิ่มพูนความรู้ พัฒนาทักษะและความชำนาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับคณาจารย์ นิสิต นักศึกษาและบุคลากรทั่วไป เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ ทักษะ ความชำนาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับบุคลากรในประเทศต่าง ๆ ให้สามารถสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานที่กำลังขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในด้านดังกล่าว ปัจจุบันมีคณาจารย์กว่า 30,000 คน จากสถาบันการศึกษากว่า 5,900 แห่งทั่วโลกร่วมมือกับไอบีเอ็มในโครงการนี้ และมีนักศึกษากว่า 2.5 ล้านคนทั่วโลกที่ได้ผ่านการอบรมในโครงการดังกล่าว   

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการไอบีเอ็ม อคาเดมิค อินิทิเอทีฟ
เข้าไปที่ www.ibm.com/academicinitiative

KMUTT and IBM Collaborate to set up Thailand’s First on Campus "Center of Excellence"
Thailand’s leading university to leverage IBM Academic Initiative resources; Knowledge and skills development in technology will meet market needs and help make the world 'smarter'
Bangkok - January 26, 2011: The School of Information Technology at King Mongkut’s University of Technology Thonburi (KMUTT) have announced a collaboration with IBM to launch Thailand’s first “Center of Excellence" to produce high quality IT specialists, who will be certified by IBM. This centre aims to teach and develop skills on IBM technologies  so as to produce personnel with the knowledge, skills, business and IT abilities to meet the growing IT and business needs of the public and private sectors in Thailand.

A recurring challenge in the development of information technology is a lack of skilled personnel with the relevant IT knowledge.  This is caused by an insufficient number of skilled resources produced each year, particularly in the areas of mainframe technology.   The Center of Excellence is being set up to help overcome these issues.

The center will enhance the capabilities of IT education at institutes such as KMUTT in producing graduates and postgraduates, who possess high quality skills and professional certification. KMUTT will provide an advanced technology infrastructure  including required facilities, whilst IBM will provide the leading software, educational materials, training, curriculum, and the testing necessary to gain IBM certification, when the student graduates. 

Students will also be schooled in the many areas of hardware and software technology from IBM, for example in the System z mainframe technologies, DB2, WebSphere, Lotus, and Tivoli software capabilities, and new important technologies and disciplines such as cloud computing and business analytics .

These skills enable students to help build a Smarter Planet by contributing immediately upon graduation in numerous jobs that require both business and IT savvy. In addition, the learning process in a modern laboratory will inspire students to become familiar with innovation, to motivate them to compete domestically and globally.

Associate.Professor.Dr. Nipon Charoenkitkarn, Dean of the School of Information Technology, KMUTT said., "KMUTT, as the nation's leading university, has been focused on science and technology for the past 50 years.  We are looking to further reinforce our superiority in technology and research, to reach our aim of becoming a world-class university, with the School of Information Technology playing a key role. 

We aim to improve students’ IT skills and knowledge, to help them keep up with the rapid change in technology. IBM is one of our long-standing partners working with the faculty, to provide support through their global IT expertise and experience to our university’s professors, students, and researchers. "

He continued, “We recognise the need for more IT specialists as they are essential to any enterprise, but are hampered by the current lack of such skilled resources. Responding to the demands of the market, and the increased requirement for research and development knowledge, the Center of Excellence is being established with the aim of producing such graduates with the required knowledge, ability and analytic skills to plan and manage IT effectively through innovative learning process and practical teamwork."

Khun Parnsiree Amatayakul Managing Director, IBM Thailand Co.,Ltd. said, "IBM is pleased to continue our cooperation with institutions that are prominent in information technology such as KMUTT. This new Center of Excellence will be an important source of developing and producing IT professionals for local and international companies. IBM aims to continue collaborating with other leading academic institutions to expand the scope of endless learning, to encourage openness and innovation, so as to benefit the general public. "

Associate.Professor.Dr. Prasert Kanthamanon, Senior Vice President for Administrative Affairs and Chief Information Officer Level (CIO), KMUTT added "There are over 50,000 graduates from IT and related fields per year, but unfortunately only 10 percent of them have the required knowledge and professional skills so Thailand has a major shortage of personnel in this field .  The establishment of the Center of Excellence will empower the School of Information Technology at KMUTT to produce graduates with the relevant IT knowledge and skills, to contribute to the creation of valuable work, meeting the demands of both public and private organizations, locally and for the international market. "

Concentrating on the development of technological infrastructure, KMUTT is currently the first and only institution in Thailand to teach its students capabilities of the IBM System z mainframe that comes with features that are fully in line with IBM’s vision of a “Smarter Planet”. The flexibility of the system integration provides distinction in terms of processing stability, contributing to lower costs and energy savings.. Universities around the world are using the IBM System z mainframe as part of the teaching curriculum, with more than 500 universities and over 50,000 students who have been certified.

About the Thailand Center of Excellence

The Thailand Center of Excellence is part of the IBM Academic Initiative project, which has seen IBM partnering with thousands of educational institutions around the world and is focused on developing the knowledge and skills of IT personnel and students around the world.


The IBM Academic Initiative Project was established in 2004 with the aim of fostering collaboration between IBM and various universities to develop knowledge, skills and expertise in information technology of professors, students and the general public, especially where the numbers are lacking.  There are currently more than 30,000 teachers from more than 5,900 institutions in a worldwide partnership with IBM on this project. More than 2.5 million people worldwide have trained in the program.

More information about the IBM Academic Initiative is available at www.ibm.com/academicinitiative.

ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีไอบีเอ็ม
IBM’s Center of Excellence (COE)

วิสัยทัศน์ทางด้านไอทีแห่งอนาคต

โลกเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันต้องการบุคลากรที่มีความรู้ ทักษะและความสามารถรอบด้าน สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะทั้งทางด้านเทคโนโลยีและความรู้ในด้านอื่น ๆ ได้ ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมไอทีต้องการนักพัฒนานวัตกรรมที่รู้จักปรับเปลี่ยนและเรียนรู้ ซึ่งหมายถึงบุคคลที่มีความคิดริเริ่ม ประยุกต์วิธีการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และมีการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด และเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติอันสมบูรณ์อันเป็นผลมาจากความรู้ ทักษะและประสบการณ์ที่มากพอ อีกทั้งช่วยองค์กรเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ

ด้วยวิสัยทัศน์ดังกล่าว ไอบีเอ็มจึงได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่งทั่วโลกเพื่อจัดตั้ง “ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี” (Center of Excellence หรือ COE) เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความสามารถทั้งทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและความรู้ที่เป็นประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านให้แก่คณาจารย์นิสิต นักศึกษา และบุคลากรทางด้านการศึกษา เพื่อให้สามารถนำความรู้และทักษะฯ ดังกล่าว ไปใช้ประโยชน์ต่อหน่วยงาน องค์กร ชุมชนของตน และเอาชนะความท้าทายรอบด้าน เพื่อช่วยกันสร้างโลกให้ ‘ฉลาด’ และน่าอยู่ยิ่งขึ้น (Smarter Planet)

ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี
โลกแห่งการเสริมสร้างทักษะด้านไอที

ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยีของไอบีเอ็มถือเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างไอบีเอ็มกับสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องการสร้างบุคลากรที่มีความรู้ทักษะที่ได้มาตรฐาน สามารถนำความรู้ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ต่อวิชาชีพของตนได้  ศูนย์ฯ แห่งนี้ถือเป็นโครงการต่อยอดจากโครงการ “ไอบีเอ็ม อคาเดมิค อินนิชิเอทีฟ” (IBM Academic Initiative) ของไอบีเอ็ม ซึ่งมีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ของโลก เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5,900 แห่ง ภายใต้โครงการนี้ ไอบีเอ็มทำงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและแวดวงวิชาการเพื่อส่งเสริมความรู้ ทักษะ การค้นคว้าวิจัยด้วยเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม ในรูปแบบของการสนับสนุนในหลาย ๆ ด้าน เช่น ด้านสื่อการเรียนการสอน โปรแกรมการฝึกอบรม การพัฒนาหลักสูตร และการสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรฯต่าง ๆ จากไอบีเอ็ม เป็นต้น

โครงการนี้ นอกจากจะมีส่วนในการช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่เป็นประเทศผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม โดยสนับสนุนการพัฒนาทักษะและการนำเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังมีจุดม่งหมายเพื่อพัฒนา ความรู้ ความสามารถในมุมกว้าง เพื่อรองรับกับการแข่งขันในตลาดแรงงานระดับโลกอีกด้วย


ลักษณะการดำเนินโครงการ ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี

ไอบีเอ็มได้ร่วมมือกับวิทยาลัยที่เปิดสอนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำหลายแห่งเพื่อจัดตั้ง ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี ซึ่งช่วยสนับสนุนให้คณาจารย์ นิสิต นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้ เพิ่มพูนความรู้ สร้างเสริมทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม เช่น ซอฟต์แวร์ DB2, WebSphere, Lotus, Rational และ Tivoli หรือเทคโนโลยีทางด้านฮาร์ดแวร์ เช่น เมนเฟรม หรือ ซิสเต็ม ซี พาวเวอร์ ซิสเต็ม หรือ สตอเรจ ฯลฯ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง คลาวด์ คอมพิวดิ้ง หรือโปรแกรมการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ เป็นต้น

ในการดำเนินโครงการนี้ ไอบีเอ็มแบ่งงานเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย การอบรม การให้ความรู้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และช่วยพัฒนาความรู้ ทักษะแก่คณาจารย์ และนิสิตนักศึกษาเพื่อให้สามารถนำความรู้ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีของไอบีเอ็มไปใช้ประโยชน์ต่อไปในวิชาชีพของตนได้ 

ในส่วนถัดมา สถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะรับหน้าที่จัดหาสาธารณูปโภคพื้นฐานและระบบที่ทันสมัยรองรับ โดยที่ไอบีเอ็มจะเปิดโอกาสให้สถาบันเหล่านั้นใช้ซอฟต์แวร์และสื่อต่าง ๆ ของไอบีเอ็มเพื่อการเรียนการสอนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยศูนย์ฯ แห่งนี้จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้ความรู้ พัฒนาทักษะ ความสามารถของตน โดยไม่มีขีดจำกัด

ประโยชน์ที่สถาบันการศึกษาจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ ได้แก่
•   โอกาสในการผลิตบุคลากรที่ได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากไอบีเอ็ม
•   โอกาสในการจัดตั้งห้องอบรม ศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม (IBM CoE lab) โดยมีคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ของไอบีเอ็มใช้เพื่อการเรียนการสอน
•   โอกาสในการอบรมคณาจารย์เพื่อนำไปสอนนิสิต นักศึกษา
•   โอกาสในการผนวกเนื้อหาเกี่ยวกับเทคโนโลยีของไอบีเอ็ม เพื่อให้สามารถนำไปในการนับเป็นหน่วยกิตได้

IBM’s Center of Excellence in Thailand

The current world of information technology needs personnel with knowledge, skills, and versatility who apply this knowledge and skills in technology and other areas. The IT industry also requires innovative developers who can adapt and learn quickly, who have the initiative, apply methods of learning according to the situation and make decisions wisely to help organizations increase their business value.
With this vision in mind, IBM collaborated with leading educational institutions throughout the world to establish the “Center of Excellence” (COE), to enhance the knowledge, skills, capabilities and information technology curriculum useful to the faculty, students, and staff, so as to help overcome challenges and create a Smarter Planet.
 Nurturing the Next Generation of IT talent
The Center of Excellence is a collaboration project between IBM and academic institutions to offer programs in information technology to develop personnel with the knowledge and skills to benefit the progression of their careers. This is a project extension from the "IBM Academic Initiative”, which over 5,900 universities and colleges have joined, including those in Thailand. In this program, IBM works closely with academic institutions, government agencies, and academia to promote an exchange of knowledge, skill, technologies, and research from IBM in the various forms of support, such as educational material, training programs, curriculum, and examinations to obtain various certificates from IBM.
This project will significantly contribute to Thailand’s objective of driving towards a culture of innovation. This Project will support the development of IT skills to help the students to be more competitive in the global labor market.
IBM’s Center of Excellence operations
The Center of Excellence gives professors and students the opportunity to learn, develop their knowledge, and enhance skills related to technology of award-winning software from IBM such as the IBM DB2, WebSphere, Lotus, Rational and Tivoli technologies; or hardware in mainframe, Power systems, or storage, and hot technologies such as cloud computing, business analytics.

The project is divided into two parts - first, training and providing information to schools and teachers for their curriculum and access to technologies that meet the needs of the labor market which will enable them to apply knowledge of the IBM technology learned to use in their future profession.

Secondly, the participating institution must be committed to provide a modern infrastructure and supporting system. IBM will provide support in this area by allowing free use of IBM software for learning and teaching.

The Benefits of participating in this IBM Project for the institutions include: 
•   The opportunity to produce graduates who have been certified by IBM, enhancing their competitiveness when they begin their job search
•   The opportunity to set up training rooms,  and the IBM Center of Excellence (IBM CoE lab) with computers operating IBM's software for teaching and enabling a culture of IT knowledge, skills experience and innovation exchange
•   The opportunity for a training faculty to teach students the latest in software and hardware technology, upgrading their standing in the workforce and global market
•   The opportunity to integrate IBM's technology-related content which will be counted as school credits.