Recent Posts

Pages: 1 ... 8 9 [10]
91
"เรย์มาร์ท โซเลแดด" กำปั้นฟิลิปปินส์ ฟอร์มเหนือชั้น ชนะTKO ยก 5 คว้าเข็มขัดแชมป์ WBC Asia ไปครองสำเร็จ


            เมื่อวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ที่สนามมวย เวิลด์สยาม สเตเดี้ยม เขตบางกะปิ ได้มีการจัดการแข่งขันชกมวยศึก "NARIS - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS" จัดโดยโปรโมเตอร์สองคู่เขย มิสเตอร์ บริโก้ แซนติก โปรโมเตอร์ชาวฟิลิปปินส์ กับ “ปุ่นอินเตอร์” นายศุภณัฐ จันทร์แรม โปรโมเตอร์ชาวไทย พร้อมด้วย นายนริส สิงห์วังชา ประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย (ABF) และ นายกสมาคมกีฬาชักกะเย่อ แห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดศึก "NARIS - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS" เป็นการชิงข็มขัดแชมป์ WBC Asia และ ABF ทั้งหมด 6 เส้น 2 สถาบัน ศึกใหญ่นัดประวัติศาสตร์อัดแน่นนักสู้ 23 คู่ยอดฝีมือจากทั่วโลกเสิร์ฟความมันส์ที่โลกต้องจดจำในศึกแห่งศักดิ์ศรี ศึก "NARIS - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS" ครั้งนี้ได้รับความสนใจจากคณะกรรมการ การประชุมใหญ่ "WBC Annual Convention ครั้งที่ 63" และ "WBC Muaythai Convention ครั้งที่ 1" เดินทางมาร่วมรับชมการแข่งขันฯ ในครั้งนี้อีกด้วย




ส่วนผลคู่มวยในรายการศึก "NARIS - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS" มีดังนี้

คู่ที่ 1.อุ่นเครื่อง (4 ยก) รุ่นไลท์เวท 135 ปอนด์ ระหว่าง แพ็ททริค โล นักชกจากฮ่องกง ชนะTKO ยก 1 มงคล นาคศรี นักชกไทย

คู่ที่ 2. อุ่นเครื่อง (4 ยก) รุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวท 168 ปอนด์ ระหว่าง อลิสเชอร์ อิสมาลิลอฟ นักชกจากคาซัคสถาน ชนะTKO ยก 1 วิน ตุน โอ นักชกจากเมียนมาร์

คู่ที่ 3. อุ่นเครื่อง (4 ยก) รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ระหว่าง เชสชาน อาลี นักชกจากสหราชอาณาจักร ชนะTKO ยก 2 อภินันท์ ครองชัย นักชกไทย

คู่ที่ 4. อุ่นเครื่อง (4 ยก) รุ่นซุปเปอร์เฟเธอร์เวท 130 ปอนด์ ระหว่าง อบาสอาลี ออเซส นักชกจากแคนาดา ชนะTKO ยก 2 วิชัย คำสอน นักชกไทย





คู่ที่ 5. อุ่นเครื่อง (4 ยก) รุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท 140 ปอนด์ ระหว่าง ฮุยเจนลองไวเจสัน นักชกจากสิงคโปร์ ชนะTKO ยก 1 มูเซอร์ คูเดมิ นักชกไทย

คู่ที่ 6. อุ่นเครื่อง (6 ยก) รุ่นแฮฟวี่เวท มากกว่า 200 ปอนด์ ระหว่าง ไทมอร์ แกน นักชกจากปากีสถาน ชนะTKO ยก 2 รวิภัทร คำสอน นักชกไทย
 
คู่ที่ 7. อุ่นเครื่อง (4 ยก) รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ ระหว่าง อับดุลลา ดาวอส นักชกจากซาอุดิอาราเบีย ชนะTKO ยก 2 พัทรพงศ์ กันยา นักชกไทย

คู่ที่ 8. อุ่นเครื่อง (4 ยก) รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ ระหว่าง แม็คดาเลน่า สเวส นักชกจากโปร์แลนด์ ชนะTKO ยก 2 บัวแก้ว ส.แสงมณี นักชกไทย





คู่ที่ 9. มวยหญิงอุ่นเครื่อง (6 ยก) รุ่นอะตอมเวท 102 ปอนด์ ระหว่าง ศิริธอน ไฮแลนด์ ยิม ไทยพบไทย ณัฐนิชา อ.นพชัย ชนะTKOื ยก 1

คู่ที่ 10. อุ่นเครื่อง (6 ยก) รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์  ระหว่าง ซาเมียร์ ข่าน นักชกจากปากีสถาน ชนะคะแนน ซอ ทาน ซิน นักจากเมียนมาร์

คู่ที่ 11. อุ่นเครื่อง (6 ยก) รุ่นไลท์แฮฟวี่เวท 175 ปอนด์ ระหว่าง ตีมอร์ บัสซิตอฟ นักชกจากคาซัคสถาน ชนะTKO ยก 2 จาเหม็ด จาลาเลส นักชกจากอินโดนีเซีย

คู่ที่ 12. ชิงแชมป์ ABF รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง รูเซ็น เชียง นักชกจากจีน พบกับ กุยเรียโน่ แฟนตั้น นักชกจากฝรั่งเศส เกมส์การชก กุยเรียโน่ เป็นฝ่ายเดินเข้าออกหมัดได้แม่นยำด้าน รูเซ็น แม้จะออกหมัดตัดลำตัวแต่ก็ไม่ชัดเจนครบยก กุยเรียโน่ เป็นฝ่ายชนะคะแนนคว้าแชมป์ ABF มาครองอย่างสะใจ





คู่ที่ 13. อุ่นเครื่อง (3 ยก) รุ่นอเมเจอร์ 103 ปอนด์ ระหว่าง ดาเซ มากิน นักชกจากออสเตรเรีย ชนะTKO ยก 2 กิตติคุณ คมเรียงลัง นักชกไทย

คู่ที่ 14. อุ่นเครื่อง (6 ยก) รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ระหว่าง บราส มอร์แกน นักชกจากออสเตรเลีย ชนะTKO ยก 1 พงษ์กอน ยากาลา นักชกไทย

คู่ที่ 15. อุ่นเครื่อง (4 ยก) รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ระหว่าง คีวัน วัง นักชกจากจีน ชนะTKO ยก 3 นภัทรสอน เชียงขวัญ นักชกไทย

คู่ที่ 16. อุ่นเครื่อง (6 ยก) รุ่นไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์ ระหว่าง ยีเกียง โชว์ นักชกจากเกาหลี ชนะTKO ยก 2 เกษรา เจตภักดี นักชกไทย





คู่ที่ 17. อุ่นเครื่อง (6 ยก) รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์ นากัมบา ล็องเจียม นักชกจากอินเดีย ชนะคะแนน ชลสิทธิ์ ต.บัวมาศ นักชกไทย

คู่ที่ 18. อุ่นเครื่อง (6 ยก) รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์ เบน อินเนส นักชกจากออสเตรเลีย ชนะคะแนน ธรรณชนิตย์ มีแสงชัย นักชกไทย

คู่ที่ 19. มวยหญิงชกชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA CONTINENTAL รุ่นแบนตัมเวท พิกัด 118 ปอนด์ (8 ยก) ระหว่าง โทโมมิ ทาคาโนะ นักชกหญิงจากญี่ปุ่น ปะทะ ธันวรัตน์ แสงจำจิตต์ นักชกหญิงไทย เกมส์การชกจบลงเร็วเกินคาดเมื่อต้นยก 3 โทโมมิ ได้จังหวะฮุคขวาตัดลำตัวเน้นๆ ทำเอา ธัญยรัตน์ ถึงกับทิ้งตัวลงให้กรรมการนับ 10 ทำให้ โทโมมิ คว้าแชมป์ WBC Asia มาครองอย่างสวยงาม

คู่ที่ 20. ชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA YOUTH รุ่นซิลเวอร์ซูเปอร์ไลท์เวท พิกัด 140 ปอนด์ (8 ยก) ระหว่าง แบลร์ เกราตี นักขกจากออสเตรเลีย ปะทะ ศุภโชติ โพธิ์ใบ นักชกไทย ผลปรากฏว่า เกลาติ อาศัยความแข็งแกร่งเดินออกหมัดตัดลำตัวทะงใบหน้าทำเอา ศุภโชติ ตั้งรับไม่ทันแม้จะออกหมัดได้บางครั้งจนกระทั่งกลางยก6 เกลาติเดินเร็วขึ้นไล่ยำใหญ่ ศุภโชติ ได้แต่รับฝ่ายเดียวออกอาการอ่อนแรงจนกรรมการจับแพ้ทีเคโอทันที ทำให้ เกลาติ เป็นฝ่ายชนะTKO ยก 6 คว้าแชมป์ WBC มาครองสมใจ





คู่ที่ 21. ชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA CONTINENTAL รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท พิกัด 160 ปอนด์ (8 ยก) ระหว่าง เอลเลียต แมทธิวส์ นักชกจากสหราชอาณาจักร ปะทะ อาห์หมัด ซามีร์ ดาวรานี นักชกจากอัฟกานิสถาน คู่นี้มวยยักษ์เวทใหญ่เริ่มยกแรกทั้งคู่ยังจดๆ จ้องๆ อาห์หมัด โชว์หมัดก่อน แต่ เอลเลียด ออกหมัดได้แม่นยำชัดเจนผิดกับ อาห์หม็ด ที่ต่อยไม่เข้าเป้าครบยก เอลเลียต เป็นฝ่ายชนะคะแนนคว้าแชมป์ WBC   Asia มาครอง

คู่ที่ 22. ชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท พิกัด 175 ปอนด์ (10 ยก ) ระหว่าง ฮาราลด์ ฟิงสเทิล นักชกจากออสเตรีย ปะทะ แจ็ค สก็อตต์ นักชกจากสหราชอาณาจักร เริ่มยกแรก แจ็ค สก็อต เดินเข้าต่อยตัดลำตัวได้จะแจ้งผิดกับ ฮาราลด์ ที่พยามออกหมัดแต่ไม่เข้าเป้าช่วงท้ายๆ แจ็ค สก็อต ยังออกหมัดเหนือชั้นกว่าครบยก แจ็ค สก็อต เป็นฝ่ายชนะคะแนนเอกฉันท์ คว้าแชมป์ WBC Asia มาครองได้สำเร็จ

คู่ที่ 23. ชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA CONTINENTAL รุ่นเวลเตอร์เวท พิกัด 147 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง เรย์มาร์ท โซเลแดด นักชกจากฟิลิปปินส์ ปะทะ อภินันท์ คงสงค์ นัก ชกไทย คู่เอกปิดท้ายรายการทั้งคู่ต่างหมัดหนักด้วยกัน เรย์มาร์ท เป็นฝ่ายเดินเข้าหาออกหมัดซ้ายได้แม่นยำ ผิดกับ อภินันท์ ที่ออกหมัดวืดวาดกระทั่งต้นยก 5 ทั้งคู่ยืนปักหลักแรกหมัดกันเกมส์ลงเร็วมากเมื่อ เรย์มาร์ท ฮุคขวาเข้าลิ้นปี่ อภินันท์ ถึงกับร่วงทันทีกรรมการนับ 10 ทำให้ เรย์มาร์ท เป็นฝ่ายชนะTKO ยก 5 คว้าแชมป์ WBC Asis  มาครองได้สำเร็จ สะใจกองเชียร์







            บรรยากาศในสนามมวยโดยมีชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าชมการแข่งขันชกมวยกันอย่างคับคั่ง ซึ่งมีนักสู้ขึ้นชิงชัยทั้งหมด 23 คู่ มีแฟนมวยชาวไทยและชาวต่างชาติพากันส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจนักมวยที่เป็นชาติของตนเอง กองเชียร์ส่งเสียงเชียร์กันอย่างสนุกสนานจนเสียงดังกระหึ่มทั้งสนาม
92
"กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า" ถือกำเนิด! รวมพลังกว่า 10 พรรคการเมือง
ประกาศเจตนารมณ์ "การเมืองใหม่เพื่อประชาชน" ลั่น "เสียงประชาชนซื้อไม่ได้"





การรวมตัวครั้งประวัติศาสตร์ จุดเปลี่ยนการเมืองใหม่ ​โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น - 29 พ.ย. 68 ความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาในแวดวงการเมืองไทยได้เกิดขึ้นในการจัดงานเสวนา "จิ๊กซอว์ความตั้งใจของพรรคการเมืองที่ใหญ่กว่า..."

​จากการเสวนาดังกล่าว กลุ่มพรรคการเมือง ได้ประกาศรวมตัวจัดตั้งเป็น "กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า" อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการผนึกกำลังเพื่อ แก้ไขปัญหาของประเทศ และกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายที่มุ่งเน้นผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนอย่างแท้จริง โดยกลุ่มฯ ได้ประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมปล่อยให้ปัญหาบ้านเมืองดำเนินไปโดยปราศจากการแก้ไขจากฝ่ายผู้แทนประชาชน







การรวมพลังของหลากหลายพรรคการเมือง

​การรวมตัวครั้งนี้ถูกยกให้เป็น "จุดเปลี่ยนทางการเมืองครั้งสำคัญ" ที่รวบรวมพรรคการเมืองที่มีจุดยืนชัดเจน และเป็นตัวแทนของประชาชนจากหลากหลายสาขาอาชีพเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีพรรคการเมืองที่ร่วมก่อตั้งกลุ่มมากกว่า 10 พรรค อาทิ ​พรรครวมพลังประชาชน, ​พรรคไทยสมาร์ท, ​พรรคพร้อม, ​พรรคกรีน, ​พรรคไทยก้าวหน้า, ​พรรคประชาไทย, ​พรรคพลังประชาธิปไตย, ​พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย, ​พรรครวมใจไทย และพรรคอื่น ๆ อีกหลายพรรค

​​ภายหลังการรวมกลุ่มอย่างเป็นทางการ นายอภิวิชญญ์ ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคแกนนำ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวถึงแรงจูงใจในการรวมกลุ่มครั้งนี้อย่างหนักแน่น

​"การรวมตัวกันของ 'กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า' ในวันนี้ คือการพิสูจน์ให้เห็นว่า พรรคการเมืองสามารถรวมพลังกันเพื่อสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ ได้ เราไม่ได้รวมกันเพื่อต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง แต่เรามารวมกันเพื่อ เป็นปากเสียงที่เข้มแข็งให้กับประชาชน ในทุกระดับ" นายอภิวิชญญ์กล่าว

​"เราเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของประชาชน และเราจะเดินหน้าผลักดันการเมืองที่โปร่งใส เน้นการทำงานจริง และยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ คำพูดที่ว่า 'เสียงของประชาชนไม่สามารถจัดซื้อได้' คือหัวใจของการทำงานในกลุ่มของเรานับจากนี้"







เน้นย้ำศักดิ์ศรีประชาชน: "เสียงของประชาชนไม่สามารถจัดซื้อได้"

​"กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า" ได้กำหนดเป้าหมายสำคัญคือการ ผลักดันนโยบายร่วมกัน และ ขับเคลื่อนการเมืองใหม่ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทุกคน โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของประชาชน

มติเลือกแกนนำกลุ่ม

​ที่ประชุมมีมติเลือก ดร.อรุณ คงเจริญ เป็น ประธานกลุ่ม และ นายวัฒนา จำปาดิบรัตนกุล เป็น โฆษกประจำกลุ่ม เพื่อทำหน้าที่เป็นแกนนำในการประสานงาน สื่อสารทิศทางการทำงาน และขับเคลื่อนวาระสำคัญของกลุ่ม "จิ๊กซอสองเก้า" ให้สาธารณชนรับทราบต่อไป

​#กลุ่มจิ๊กซอสองเก้า
#การเมืองใหม่
#พรรคการเมือง
#รวมพลังพรรคการเมือง








93
แฟนคลับอบอุ่น! "ทูน หิรัญทรัพย์" จัดมีตติ้งสุดพิเศษบนเรือหรู ส่งใจถึงพี่น้องหาดใหญ่




เมื่อค่ำคืนวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.00 น. บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข ในงาน "Meeting FC Toon (ทูน หิรัญทรัพย์)" ซึ่งจัดขึ้นอย่างเป็นกันเองบนเรือสำราญสุดหรู วันเดอร์ฟูล เพิร์ล (Wonderful Pearl) ที่ล่องไปตามสายน้ำเจ้าพระยาอันงดงาม

งานนี้เป็นโอกาสพิเศษที่แฟนคลับตัวจริงของนักแสดงรุ่นใหญ่ ทูน หิรัญทรัพย์ ได้มารวมตัวกันอย่างใกล้ชิด โดยภายในงานนอกจากจะเป็นการสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีร่วมกันแล้ว คุณทูนยังได้ใช้โอกาสนี้ ส่งความห่วงใยและกำลังใจ ไปยังพี่น้องชาวหาดใหญ่และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ที่อาจกำลังประสบปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ







นอกจากนี้ ในงานยังมีการผนึกกำลังเพื่อสังคม โดยมี จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ ที่ได้ประกาศตัวเป็น ศูนย์กลางในการเปิดรับบริจาค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเน้นย้ำว่า ไม่ขอรับบริจาคเป็นเงินสด แต่ขอเป็นสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสาร และอาหารแห้ง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถนำสิ่งของมาบริจาคได้ที่ พหลโยธิน 52 แยก 3

การรวมตัวครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการพบปะของแฟนคลับเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงน้ำใจและความห่วงใยที่พร้อมจะส่งต่อถึงเพื่อนร่วมชาติในยามที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง

#ทูนหิรัญทรัพย์ #FCMeeting #วันเดอรุฟูลเพิร์ล #WonderfulPearl #ล่องเจ้าพระยา #ส่งกำลังใจ #หาดใหญ่ #ภาคใต้ #จ่าคิงส์แตงทิม #เปิดรับบริจาค

















94
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งขยายโอกาส สร้างอาชีพ สร้างชีวิตอย่างเท่าเทียมแก่ชาวพิษณุโลก มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมมอบวีลแชร์แก่ผู้พิการ และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรี ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านสองแคว ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก




วานนี้ (วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ จำนวน 17 ราย คิดเป็นมูลค่า 339,410 บาท พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการ จำนวน 15 ราย คิดเป็นมูลค่า 45,000 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 384,410 บาท (สามแสนแปดหมื่นสี่พันสี่ร้อยสิบบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ และอาสาสมัคร ออกหน่วยให้บริการประชาชนฟรี อาทิ บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป แจกแว่นสายตา บริการตัดผมชาย-หญิง และบริการทันตกรรม โดยมี นางสาวปิยะฉัตร ไพชนม์ ปลัดจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายปิยะ เสนานุช รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานมาตรฐานฝีมือแรงงาน และนางสาวทิพวรรณ โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการ ค้ามนุษย์ (บ้านสองแคว) จังหวัดพิษณุโลก  ร่วมในพิธี ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก







นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เปิดเผยว่า โครงการ ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยการคัดกรองผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม เสริมทักษะอาชีพ ส่งมาให้มูลนิธิฯ พิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป







ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจwww.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418








95
"อัครา" หนุน พม. จับมือ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ - คณะแพทยศาสตร์ มธ. ขยายโอกาสเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ สังคม-สาธารณสุข ช่วยกลุ่มเปราะบางผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า





นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง" ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวต้อนรับ และศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวแสดงเจตจำนงความร่วมมือ ทั้งนี้ นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) , รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอัจฉรา ตั้งสถาพรพงษ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมลงนาม ณ ศูนย์ประชุมคณะแพทยศาสตร์ ชั้น 8 ศูนย์ฝึกทักษะทางการแพทย์ธรรมศาสตร์ (TMEd) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี




นายอัครา กล่าวว่า รัฐบาลได้วางแนวทางสำคัญในการสร้างระบบสาธารณสุขที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย เท่าเทียม และมีคุณภาพ ควบคู่กับการยกระดับสวัสดิการและความมั่นคงทางสังคม ซึ่งแนวทางนี้ชัดเจนว่า “รัฐต้องเข้าไปให้ถึงประชาชน เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับการรักษาและสวัสดิการอย่างไม่ติดขัด” ทั้งนี้ กระทรวง พม. จึงได้กำหนดนโยบาย “พม. ใกล้คุณ”เพื่อทำให้แนวคิดนี้เกิดขึ้นจริงทั้งในด้านการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการ มีการลดภาระของครอบครัวเปราะบาง และการบูรณาการทำงานกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างมุ่งเป้า และทันสถานการณ์

นายอัครา กล่าวต่อไปว่า วันนี้ การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) "โครงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง" ระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นั้น นับเป็นตัวอย่างของการนำ นโยบายระดับชาติมาผสานกับ ศักยภาพระดับพื้นที่ระหว่างภารกิจด้านสังคมของกระทรวง พม. และศักยภาพด้านการแพทย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางได้รับโอกาสในการรักษา ฟื้นฟู และกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องแบกรับภาระเกินความจำเป็น คือความร่วมมือที่มี “ผลลัพธ์จับต้องได้” ต่อกลุ่มเปราะบาง ความร่วมมือที่เราลงนามกันในวันนี้เป็นตัวอย่างของการนำ นโยบายระดับชาติมาผสานกับศักยภาพระดับพื้นที่ระหว่างภารกิจด้านสังคมของกระทรวง พม. และศักยภาพด้านการแพทย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนได้รับโอกาสในการรักษา ฟื้นฟู และกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องแบกรับภาระเกินความจำเป็น ซึ่งคือความร่วมมือที่มี “ผลลัพธ์จับต้องได้” ต่อประชาชนกลุ่มเปราะบาง และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความร่วมมือนี้ จะไม่หยุดเพียงการผ่าตัด หรือการรักษาเฉพาะหน้า แต่จะเป็นฐานสำคัญของการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุในระยะยาวของประเทศเพื่อรองรับสังคมสูงวัยที่กำลังเป็นความท้าทายสำคัญของประเทศไทย




นายอัครา กล่าวว่า สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ดังกล่าว มีเจตนารมณ์ร่วมกันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบางให้สามารถเข้าถึงบริการทางสังคมและสุขภาพ ด้วยการดำเนิน “โครงการจิตอาสา ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเฉลิมพระเกียรติ” ภายใต้ โครงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางฯ มีขอบเขตการดำเนินงานหลักในการคัดกรอง  สำรวจ และผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าให้กับกลุ่มเปราะบางในพื้นที่เป้าหมาย โดยกระทรวง พม. ร่วมดำเนินการ ดังนี้ 1) สำรวจและคัดกรองกลุ่มเปราะบางในพื้นที่เป้าหมาย โดยประสานการดำเนินงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ และภาคีเครือข่าย 2) สนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ รวมถึงถ่ายทอดไปสู่ผู้ปฏิบัติงาน และหรืออาสาสมัครด้านสังคมในพื้นที่เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการดูแลกลุ่มเปราะบางให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และ 3) บูรณาการการติดตามการดำรงชีวิตกลุ่มเปราะบางในทุกมิติภายหลังการเข้าร่วมโครงการ

"สำหรับความร่วมมือในอนาคต นั้น กระทรวง พม. และกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ ต้องการให้ MOU ครั้งนี้ เป็นต้นแบบสำหรับโครงการนำร่องในการทำ MOU ร่วมกับศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อที่จะดูแลกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศต่อไป และจาก MOU การบูรณาการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยทั่วไทย ระหว่าง 4 กระทรวง กับ 3 สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น ในระยะยาว เราจะให้หน่วยงานท้องถิ่นชี้เป้ากลุ่มเปราะบางในพื้นที่ที่ยังเข้าไม่ถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐ โดยเฉพาะเรื่องของการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า  เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น" นายอัครากล่าว

#พมใกล้คุณ
96
สะดวก ประหยัด นั่ง Shuttle Bus ฟรี !
ไปเที่ยวงาน MOTOR EXPO 2025


             “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” อำนวยความสะดวก ให้ผู้สนใจไปเที่ยวงาน ด้วยบริการ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี 2 เส้นทาง ดังนี้

1.  หมอชิต-IMPACT-หมอชิต BTS สถานีหมอชิต EXIT 2, MRT สถานีจตุจักร EXIT 4
รอบแรกจากหมอชิต 11.00 น. และรอบสุดท้ายจาก IMPACT 22.30 น.

2.  รังสิต-IMPACT-รังสิต บริเวณด้านหน้า Big C
รอบแรกจากรังสิต 11.00 น. และรอบสุดท้ายจาก IMPACT 22.30 น.


             รถออกทุก 30 นาที หรือออกเมื่อผู้โดยสารเต็ม เวลาเดินรถอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพจราจร

             นอกจากนี้ ยังมีบริการ  SHUTTLE BUS รับ-ส่งระยะใกล้ จากลานจอดรถริมทะเลสาบ-ชาลเลนเจอร์ 3 สำหรับผู้ขับรถไปชมงานที่ไม่อยากเสียเวลาวนหาที่จอดในอาคาร

             เชิญเที่ยวงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”
97
เปิดฉากอลังการ MOTOR EXPO 2025
รวมนวัตกรรมยานยนต์ พร้อมโปรแรงส่งท้ายปี


             เริ่มแล้ว “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” ชมรถยนต์รุ่นล่าสุด 42 แบรนด์ จักรยานยนต์ 16 แบรนด์ รับโปรโมชั่นเร้าใจ ตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568


             ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” เปิดเผยว่า ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “อลังการงานแสดง-The Magnificent Motor Expo” จัดแสดงรถยนต์ 42 แบรนด์ รถจักรยานยนต์ 16 แบรนด์ โดยคาดว่า งานนี้จะสร้างยอดขาย กระตุ้นตลาด และอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้คำนึงถึงความเหมาะสมในการจัดกิจกรรม และการแต่งกายของพริทที เพื่อให้ภาพรวมของงานมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน


             ไฮไลท์ของงาน ได้แก่ GAC GOVY AIRCAB รถบินได้ พลังไฟฟ้า 100 % หรือที่เรียกว่า eVTOL พัฒนาโดย eVTOL ของ GAC GROUP เป็นแบบ 2 ที่นั่ง ติดตั้งใบพัด 6 แกน 12 ใบ บนหลังคา ประตูแบบปีกนก ระยะทางบิน 20-30 กม. ความเร็วสูงสุด (ขณะบิน) 120 กม./ชม. ชาร์จเร็วเต็มได้ใน 25 นาที แพลทฟอร์มขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ L4 มีเครือข่ายดิจิทอลไร้คนขับ 3 มิติ ช่วยสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของการปฏิบัติการแบบไดนามิคได้อย่างเต็มที่


             CHERY QQ3 EV เป็นรุ่นใหม่ที่ใหญ่ และทันสมัยกว่า QQ ICE CREAM มาก เปิดตัวครั้งแรกในงาน 2025 CHENGDU AUTO SHOW สร้างบนแพลทฟอร์ม T12 ของ CHERY มีความยาวกว่า 4,200 มม. และฐานล้อกว้างกว่า 2,700 มม. ภายในหรูหรา เทคโนโลยีสูง จอแสดงผลดิจิทอล และจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว ใช้ชิพ QUALCOMM SNAPDRAGON 8155 มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง ให้กำลัง 90 กิโลวัตต์/121 แรงม้า


             HONDA STEP WGN e:HEV รุ่น SPADA ใหม่ เอมพีวี 7 ที่นั่ง ประตูสไลด์ มิติตัวรถ 4,830 มม. กว้าง 1,750 มม. สูง 1,845 มม. ฐานล้อ 2,890 มม. ขับเคลื่อนระบบฟูลล์ไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 184 แรงม้า มอเตอร์แรงบิด 315 นิวทันเมตร อัตราสิ้นเปลือง 19.5-20 กม./ลิตร

             HYUNDAI XRT CONCEPT รถยนต์แนวคิดที่เน้นการลุยทางวิบาก โดยใช้พื้นฐานจาก HYUNDAI SANTA FE มาออกแบบรูปทรงเหลี่ยมใหม่ บึกบึน เน้นการใช้งานจริงนอกถนน ยางแบบ ALL-TERRAIN ดอกยางใหญ่ ช่วงล่างยกสูง


             OMODA 4 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีรุ่นล่าสุดจาก CHERY ส่งออกในนาม OMODA รุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ เป็นเอสยูวีที่มีขนาดเล็กที่สุด ในตระกูล OMODA โดยวางตำแหน่งไว้ต่ำกว่า OMODA 5 เดิมทีเคยใช้ชื่อว่า OMODA 3 แต่ได้เปลี่ยนมาเป็น OMODA 4

             WULING STARLIGHT เอมพีวีไฟฟ้าประตูสไลด์ 7 ที่นั่ง เผยโฉมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระยะวิ่งไกลถึง 540 กม. ที่นั่งเรียงแถวแบบ CAPTAIN SEAT เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวขนาดกลาง ที่มีเด็ก และผู้สูงวัย รวมถึงตลาดรถลีมูซีน VIP TAXI และกลุ่ม RIDE HAILING ที่ต้องการรถหรูหราที่กว้างขวาง และสะดวกสบาย

             ZEEKR MIX จากบริษัทแม่ GEELY มิติตัวถังยาว 4,688 มม. กว้าง 1,995 มม. สูง 1,755 มม. ฐานล้อ 3,008 มม. ออกแบบไร้เสากลาง เมื่อเปิดประตู เบาะนั่งคู่หน้าหมุนได้ 270 องศา แบทเตอรีพัฒนาร่วมกับ CATL มีความจุกระแสไฟ 86 กิโลวัตต์ชั่วโมง เหมือนกับ 001 ขนาด 800 โวลท์ รับกระแสชาร์จได้ถึง 360 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางสูงสุด 702 กม. (CLTC)


             นอกจากนี้ มีรถยนต์เปิดตัวครั้งแรกในโลก ได้แก่ TOYOTA HILUX TRAVO

             เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ AVATR 07, BYD Ti7, DENZA B5, GEELY EX2, LEXUS LX 500D

             เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ BMW iX LCI, DFSK E5 PLUS, GWM WEY G9 Hi4, MAXUS eDELIVER 5, MG IM5, NEX CARGO VANTASTIC, NISSAN X-TRAIL e-POWER e-4ORCE และ VOLVO XC60


             สำหรับผู้ชมงาน มีสิทธิ์ลุ้นรับฟรีรถยนต์ 3 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ในรายการ ซื้อรถ...ชิง AVATR 11 รุ่น STANDARD RANGE / ซื้อบัตร...ชิง MITSUBISHI XFORCE รุ่น ULTIMATE / ซื้อมอเตอร์ไซค์...ชิง SUZUKI รุ่น GSX-8R / ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิง WULING BINGUO รุ่น DC ICON

             ยิ่งกว่านั้น สามารถชมงานผ่าน MOTOR EXPO APPLICATION อัดแน่นข้อมูลของงาน ทั้งรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จาก Influencer ชื่อดัง พร้อมฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย อาทิ ข้อมูลเปรียบเทียบคันต่อคัน  โปรโมชั่น แคมเปญพิเศษ ช่วยในการเลือกซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ดาวน์โหลดโบรชัวร์ จำหน่ายบัตรชมงานทั่วไป และบัตรชมงานแบบวีไอพี MOTOR EXPO EXCLUSIVE VISITOR ฯลฯ

             การเดินทางไปชมงานมีบริการ รถรับ-ส่ง ฟรี ! 2 เส้นทาง ดังนี้

1.  หมอชิต-IMPACT-หมอชิต BTS สถานีหมอชิต EXIT 2, MRT สถานีจตุจักร EXIT 4
2.  รังสิต-IMPACT-รังสิต บริเวณด้านหน้า Big C


             ส่วนผู้ต้องการมาเที่ยวงาน MOTOR EXPO 2025 แบบไม่ต้องวนหาที่จอดในอาคาร เรามีบริการ  SHUTTLE BUS รับ-ส่งระยะใกล้ จากลานจอดรถริมทะเลสาบ-ชาลเลนเจอร์ 3

             งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” จัดขึ้น ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”
98
"บริโก้ แซนติก" จัดศึกใหญ่นัดประวัติศาสตร์ ศึก "NARIS - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS" ต้อนรับการประชุมใหญ่  "WBC Annual Convention ครั้งที่ 63" นักสู้ 23 คู่พร้อมระเบิดศึก!


            เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ที่ โรงแรมทาวน์อินทาวน์ กรุงเทพฯ ได้มีพิธีการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักนักมวยอย่างเป็นทางการ ผลการชั่งน้ำหนักนักมวยในครั้งนี้ ปรากฎว่านักชกทั้ง 23 คู่ผ่านการตรวจสภาพร่างกายและชั่งน้ำหนักผ่านฉลุย นักมวยทุกคู่พร้อมดวลเดือดในศึก "NARIS - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS" ซึ่งรายการนี้เป็นการชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA และ ABF ทั้งหมด 6 เส้น2 สถาบัน จัดโดย โปรโมเตอร์สองคู่เขย มิสเตอร์ บริโก้ แซนติก โปรโมเตอร์ชาวฟิลิปปินส์ กับ “ปุ่นอินเตอร์” นายศุภณัฐ จันทร์แรม โปรโมเตอร์ชาวไทย พร้อมด้วย “พ่อพระวงการมวย” นายนริส สิงห์วังชา ประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย (ABF) และ นายกสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดการแข่งขัน




            ทางด้าน บริโก้ แซนติก โปรโมเตอร์ชาวฟิลิปปินส์ กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ทางทีมงาน IGHLAND BOXING PROMOTIONS เตรียมต้อนรับคณะกรรมการ การประชุมใหญ่ "WBC Annual Convention ครั้งที่ 63" และ "WBC Muaythai Convention ครั้งที่ 1" ที่จะเดินทางมาร่วมรับชมศึก "NARIS - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS" ศึกใหญ่นัดประวัติศาสตร์อัดแน่นนักสู้ยอดฝีมือจากทั่วโลกพร้อมเสิร์ฟความมันส์ที่โลกต้องจดจำในศึกใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ที่แฟนมวยโลกชาวไทยและชาวต่างชาติต้องมาเชียร์มาลุ้นและรับชมความดุเดือดขั้นสุดในศึก WBC NIGHT OF CHAMPIONS ปะทะเดือดในวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ณ สนามมวย เวิลด์สยาม สเตเดี้ยม เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ถ่ายทอดสดทางช่อง TRILLER TV ช่องดังอเมริกา สำหรับแฟนๆ มวยชาวไทยสามารถรับชมดวลเดือดได้ที่เพจ HIGHLAND BOXING GYM ได้ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป




ส่วนผลการชั่งน้ำหนักนักมวย มีดังนี้

คู่ที่ 1.อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นไลท์เวท 135 ปอนด์ ระหว่าง แพ็ททริค โล นักชกจากฮ่องกง พบกับ มงคล นาคศรี นักชกไทย

คู่ที่ 2. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวท 168 ปอนด์ ระหว่าง อลิสเชอร์ อิสมาลิลอฟ นักชกจากคาซัคสถาน พบกับ วิน ตุน โอ นักชกจากเมียนมาร์

คู่ที่ 3.อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่น เวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ระหว่าง เชสชาน อาลี นักชกจากสหราชอาณาจักร พบกับ อภินันท์ ครองชัย นักชกไทย

คู่ที่ 4. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์เฟเธอร์เวท 130 ปอนด์ ระหว่าง อบาสอาลี ออเซส นักชกจากแคนาดา พบกับ วิชัย คำสอน นักชกไทย





คู่ที่ 5. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท 140 ปอนด์ ระหว่าง ฮุยเจนลองไวเจสัน นักชกจากสิงคโปร์ พบกับ มูเซอร์ คูเดมิ นักชกไทย

คู่ที่ 6. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นแฮฟวี่เวท มากกว่า 200 ปอนด์ ระหว่าง ไทมอร์ แกน นักชกจากปากีสถาน พบกับ รวิภัทร คำสอน นักชกไทย
 
คู่ที่ 7. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ ระหว่าง อับดุลลา ดาวอส นักชกจากซาอุดิอาราเบีย พบกับ พัทรพงศ์ กันยา นักชกไทย

คู่ที่ 8. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ ระหว่าง แม็คดาเลน่า สเวส นักชกจากโปร์แลนด์ พบกับ บัวแก้ว ส.แสงมณี นักชกไทย





คู่ที่ 9. มวยหญิงอุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นอะตอมเวท 102 ปอนด์ ระหว่าง ศิริธอน ไฮแลนด์ ยิม ไทยพบไทย ณัฐนิชา อ.นพชัย

คู่ที่ 10. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์  ระหว่าง ซาเมียร์ ข่าน นักชกจากปากีสถาน พบกับ ซอ ทาน เซีย นักจากเมียนมาร์

คู่ที่ 11. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นไลท์แฮฟวี่เวท 175 ปอนด์ ระหว่าง ตีมอร์ บัสซิตอฟ นักชกจากคาซัคสถาน พบกับ จาเหม็ด จาลาเลส นักชกจากอินโดนีเซีย

คู่ที่ 12. ชิงแชมป์ ABF รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์ 10 ยก ระหว่าง รูเซ็น เชียง นักชกจากจีน พบกับ กุยเรียโน่ แฟนตั้น นักชกจากฝรั่งเศส


คู่ที่ 13. อุ่นเครื่อง 3 ยก รุ่นอเมเจอร์ 103 ปอนด์ ระหว่าง ดาเซ มากิน นักชกจากออสเตรเรีย พบกับ กิตติคุณ คมเรียงลัง นักชกไทย

คู่ที่ 14. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ระหว่าง บราส มอร์แกน นักชกจากออสเตรเลีย พบกับ พงษ์กอน ยากาลา นักชกไทย

คู่ที่ 15. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ระหว่าง คีวัน วัง นักชกจากจีน พบกับ นภัทรสอน เชียงขวัญ นักชกไทย

คู่ที่ 16. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์ ระหว่าง ยีเกียง โชว์ นักชกจากเกาหลี พบกับ เกษรา เจตภักดี นักชกไทย





คู่ที่ 17. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์ ระหว่าง นากัมบา ล็องเจียม นักชกจากอินเดีย พบกับ ชลสิทธิ์ ต.บัวมาศ นักชกไทย

คู่ที่ 18. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์ เบน อินเนส นักชกจากออสเตรเลีย พบกับ ธรรณชนิตย์ มีแสงชัย นักชกไทย

คู่ที่ 19 . มวยหญิงชกชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA CONTINENTAL รุ่นแบนตัมเวท พิกัด 118 ปอนด์ (8 ยก) ระหว่าง โทโมมิ ทาคาโนะ นักชกหญิงจากญี่ปุ่น ปะทะ ธันวรัตน์ แสงจำจิตต์ นักชกหญิงไทย

คู่ที่ 20. ชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA YOUTH รุ่นซิลเวอร์ซูเปอร์ไลท์เวท พิกัด 140 ปอนด์ (8 ยก) ระหว่าง แบลร์ เกราตี นักขกจากออสเตรเลีย ปะทะ ศุภโชติ โพธิ์ใบ นักชกไทย





คู่ที่ 21. ชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA CONTINENTAL รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท พิกัด 160 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง เอลเลียต แมทธิวส์ นักชกจากสหราชอาณาจักร ปะทะ อาห์หมัด ซามีร์ ดาวรานี นักชกจากอัฟกานิสถาน

คู่ที่ 22. ชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท พิกัด 175 ปอนด์ (10 ยก ) ระหว่าง ฮาราลด์ ฟิงสเทิล นักชกจากออสเตรีย ปะทะ แจ็ค สก็อตต์ นักชกจากสหราชอาณาจักร

คู่ที่ 23. ชิงเข็มขัดแชมป์ WBC ASIA CONTINENTAL รุ่นเวลเตอร์เวท พิกัด 147 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง เรย์มาร์ท โซเลแดด นักชกจากฟิลิปปินส์ ปะทะ อภินันท์ คงสังข์ นักชกไทย


            แฟนมวยโลกมาชมมาเชียร์การดวลหมัดต่อหมัดจัดเต็มแบบดุเดือดเด็ดเผ็ดมันส์ ในครั้งนี้จัดยิ่งใหญ่นัดประวัติศาสตร์ต้อนรับรับคณะกรรมการ การประชุมใหญ่ "WBC Annual Convention ครั้งที่ 63" และ "WBC Muaythai Convention ครั้งที่ 1" จะเดินทางมาร่วมรับชมความมันส์อันดุเดือดตลอดทั้งการต่อสู้ในศึก "NARIS - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS"  ขึ้นสังเวียนชิงชัยในวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ณ สนามมวย เวิลด์สยาม สเตเดี้ยม เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ถ่ายทอดสดทางช่อง TRILLER TV ช่องดังอเมริกา สำหรับแฟนๆ มวยไทยสามารถรับชมดวลเดือดได้ทางเพจ HIGHLAND BOXING GYM ได้ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
99
ซัมมิท แคปปิตอล ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้


คุณโยซูเกะ อูนิกาเมะ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (กลาง) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด ร่วมส่งมอบน้ำดื่มจำนวน 500 ขวด อาหารแห้ง เครื่องดื่ม และของใช้จำเป็น ให้แก่ กองทัพเรือ เพื่อนำไปกระจายสู่พื้นที่ประสบภัยต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ตามความเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และช่วยให้ประชาชนสามารถดำรงชีพได้ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน




กว่า 30 ปี บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เราพร้อม “ขับเคลื่อน เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” โดยมุ่งมั่นสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคม ในการมีส่วนร่วมรับมือและพยายามที่จะแก้ไขกับปัญหาและประเด็นต่าง ๆ ทางสังคม ผ่านการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาองค์กรตามหลักการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาและช่วยเหลือสังคมไทยอย่างยั่งยืน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.summitcapital.co.th
100
เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ชวนร่วมรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ที่ประสบอุทกภัย


บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยภาคใต้ ผ่านโครงการ PowerPlat Give เชิญชวนทุกท่านร่วมส่งต่อกำลังใจด้วยการร่วมบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น เพื่อส่งมอบให้แก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย นำไปบรรเทาความเดือดร้อนและสนับสนุนฟื้นฟูในพื้นที่ประสบภัย

ร่วมบริจาคได้ที่ บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 โซน 2 ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์
ตั้งแต่วันนี้จนถึง วันที่ 1 ธ.ค 2568 เวลา 09.00-19.00 น. สิ่งของที่ต้องการเร่งด่วน ได้แก่ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์เครื่องนอน (ของใหม่) ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม อาหารแห้งฮาลาล ของใช้จำเป็นอื่นๆ โดยสินค้าบริโภค ควรมีวันหมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือนขึ้นไป

ทุกการให้…มีความหมายต่อการฟื้นฟูชีวิตของผู้ประสบภัยในครั้งนี้
Pages: 1 ... 8 9 [10]