Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - happy

Pages: 1 ... 413 414 [415] 416 417 ... 2255
6211
realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition รุ่นแรกของโลก
พร้อมเปิดตัวในไทยที่แรก พบกัน 12 เม.ย. นี้


realme แบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และแบรนด์เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคน Gen-Z เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนดีไซน์ใหม่ในธีม Free Fire เครื่องแรกของโลกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 12 เมษายน กับ​ realme 9 Pro+ Free Fire Limit Edition

realme ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่คนรุ่น Gen Z ต่างชื่นชอบ ทั้งดนตรี แอนิเมชั่น กีฬาอีสปอร์ต แฟชั่นและอีกมากมาย โดยที่ผ่านมา realme ได้มุ่งพัฒนาการออกแบบสมาร์ตโฟนด้วย IPs ที่มีชื่อเสียงมากมายในตลาดทั่วโลก รวมถึงผลงานอย่าง Dragon Ball และ Spider-Man ซึ่งเป็นการออกแบบสมาร์ตโฟนที่น่าทึ่งและประหลาดใจให้กับคนรุ่นใหม่อย่าง Gen-Z และยังได้สรรค์สร้างสมาร์ตโฟนแบบใหม่ที่ไม่น่าเบื่อและเดิม ๆ อีกต่อไป

กีฬาอีสปอร์ตเป็นอีกหนึ่งในเทรนด์ใหม่ของคนหนุ่มสาวทั่วโลก realme จึงได้ร่วมมือกับ Free Fire ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเกมมือถือยอดนิยม ด้วยการการออกแบบสมาร์ตโฟนให้กับผู้ใช้งานทั่วโลกเป็นครั้งแรก กับ​
realme 9 Pro+ Free Fire

ติดตามพร้อมกันครั้งแรกของโลก กับ realme 9 Pro+ กับเวอร์ชั่น Free Fire Limited Edition กับการเปิดตัวรูปแบบออนไลน์ในประเทศไทย วันที่ 12 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของทาง realme ได้แก่ YouTube และ Facebook

###

เกี่ยวกับ realme (เรียลมี)

realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก นำเสนอผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ AIoT ที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยซึ่งให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เทคโนโลยีไลฟ์สไตล์ที่คุ้มค่าทั้งสเปก คุณภาพ และงานออกแบบระดับพรีเมียม เพื่อเจาะกลุ่มคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในระดับราคาที่ทุกคนสามารถซื้อหาได้ บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 2018 โดย Sky Li ภายใต้แนวคิด “Dare to Leap” ปัจจุบัน realme ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกและสามารถเติบโตจนติดกลุ่ม 5 อันดับแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำใน 18 ประเทศทั่วโลกภายในเวลาเพียง 2 ปี โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 realme สามารถขยายตลาดมากถึง 61 ตลาด ทั้งในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และแอฟริกา สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.realme.com


6212
เมซอง แบร์เช่ ปารีส Happy Songkran Festival
ลดจุใจคลายร้อน 8-16 เมษายน นี้


เมซอง แบร์เช่ ปารีส Happy Songkran Festival​ ลดจุใจคลายร้อน 8-16 เมษายน นี้​ ตะเกียงน้ำหอม คอลเลคชั่น Sphere ดีไซน์โมเดิร์นมาพร้อมลายจุด Polka Dot ที่ไม่เคยตกเทรนด์ หนึ่งในตะเกียงรุ่นที่ขายดีที่สุดในกล่องประกอบด้วย ตัวตะเกียง ใส้ตะเกียง ฝาครอบทึบสีเงิน ฝาครอบโปร่งสีเงินทรงกลม กรวยสำหรับเติมน้ำหอม ราคา 1,990 บาท จากราคาปกติ 4,070 บาท น้ำหอมเติมตะเกียง 3 ขวด (ขนาด 1 ลิตร 1 ขวด และขนาด 500 มิลลิลิตร 2 ขวด) ราคา 1,970 บาท จากราคาปกติ 4,310 บาท น้ำหอมเติมเครื่องกระจายความหอมอัตโนมัติ ราคา 550 บาท จากราคาปกติ 950 บาท พิเศษเฉพาะการสั่งซื้อวันที่ 8-16 เมษายน 2565 เท่านั้น

สั่งซื้อได้ทางออนไลน์ Facebook: MaisonBergerThailand LINE: @maisonbergerthai IG: maisonbergerthailand และ www.maisonbergerthailand.com ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความหอมที่พร้อมให้บริการถึง 10 สาย สอบถามรายละเอียด โทร. 02-672-2088

#อยู่บ้าน…. บ้านต้องหอม นึกถึง Maison Berger Paris ความหอมที่บริสุทธิ์และปลอดภัยด้วยมาตรฐานการผลิต ISO : 9001 จากประเทศฝรั่งเศส และได้รับสัญลักษณ์ EPV (Entreprise du Patrimoine Vivant) จากรัฐบาลฝรั่งเศส ในฐานะเป็นผลิตภัณฑ์ทรงคุณค่าและนำเสนอภูมิปัญญาของฝรั่งเศส ผลิตตะเกียงน้ำหอมที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมฟอกอากาศให้บริสุทธิ์

#MaisonBergerThailand #LampeBerger #HomeFragrance #Decor #Nature #Design #Wellness #HomeFragrance #StaySafe #ThankYou #Festival #HaffOfFame #HomeFragrance #น้ำหอมสำหรับบ้าน #น้ำหอมสำหรับบ้านสไตล์ฝรั่งเศส

6213
สามหนุ่ม สามมุม รีเทิร์น


มองปร๊าดนึงถึงกับทาบอก นึกว่า สามหนุ่ม สามมุม กบ แท่ง มอส จะรีเทิร์นกลับมารวมตัวซะอีก ที่ไหนได้ มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ น่ะใช่ แต่หนุ่ม ๆ อีกสอง ไม่ใช่ใครที่ไหน ที่แท้ คือ ผู้บริหารหนุ่มจากบมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป นี่เอง สิงโต - พีระศักดิ์ บุญมีโชติ นั่งแท่นกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกุ้ง และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และหลานชาย เยน - ธนโชติ บุญมีโชติ​ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด ลูกชายสุดหล่อของคุณพ่อ ฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ร่วมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์คิวเฟรช (Qfresh) ที่ทั้งคู่เข้ามาดูแลอย่างเต็มตัว เนื่องจากผลิตภัณฑ์คิวเฟรชเป็นอาหารทะเลแช่แข็ง ซึ่งมอสเป็นตัวแทนของแฟมิลี่แมนที่ทำอาหารได้และยังได้ร่วมแข่งขันในรายการมาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความสามารถและทักษะในการทำอาหาร จึงเป็นตัวแทนในการสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ดี ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งในฐานะผู้บริโภค รวมถึงในฐานะมืออาชีพ นอกจากนี้ ยังดัดแปลงเพลงใหม่ “ด้วยรักและปลากะพง” และนำไปทำแคมเปญชาเลนจ์ใน TikTok สื่อสารไปยังผู้บริโภค ให้จดจำได้ง่าย และด้วยทำนองเพลงที่สนุกสนาน มีท่าเต้นที่สามารถเต้นตามได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้แบรนด์สื่อสารไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นอีกด้วย ผู้บริหารหล่อและเฉียบคมขนาดนี้ การันตีความโป๊ะเป็นศูนย์แน่นอน

###

เกี่ยวกับคิวเฟรช
แบรนด์ ‘คิวเฟรช’ (Qfresh) ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั่วโลก ผสานกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้สินค้าคิวเฟรชคงความสดใหม่ไว้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมรักษาคุณค่าทางโภชนาการ จุดเด่นของคิวเฟรช คือ เรามั่นใจในความปลอดภัยของผู้บริโภค การันตีไม่มีฟอร์มาลีน และที่สำคัญสามารถตรวจสอบกรรมวิธีการผลิตได้ทุกขั้นตอน
ยิ่งไปกว่านั้น คิวเฟรชยังมีสินค้าพร้อมรับประทาน และพร้อมปรุงที่สะอาดปลอดภัย ไม่มีวัตถุกันเสีย เพราะเราใส่ใจในทุกไลฟ์สไตล์ คิวเฟรชจะทำให้การเตรียมอาหารของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย สามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ www.qfreshshop.com และซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป


เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นกว่า 45 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 141,000 ล้านบาท (4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ™BONE และ UniQ™DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAVITA

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 8 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

6214
“ปลากะพง Qfresh” สวรรค์ของคนชอบทานปลา




               แบรนด์คิวเฟรช (Qfresh) ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขอแนะนำเมนูไฮไลท์แห่งปี ปลากะพง Qfresh ทำอะไรก็อร่อยเหมือนเชฟมาเอง ไม่ว่าจะเป็นปลากะพงหั่นชิ้น พร้อมซอสนึ่งมะนาว หรือซอสน้ำปลา 89 บาท เซตพร้อมปรุงปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว 195 บาท ปลากะพงขาวผ่าผีเสื้อแช่แข็ง 199 บาท และปลากะพงหมักซอสปรุงรสพริกไทยดำแช่แข็ง 285 บาท ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายทั้งกุ้ง หอย ปู และปลา ครบครันอาหารทะเลพร้อมปรุง สด สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน แถมยังสะดวก ง่ายต่อการปรุงเป็นเมนูได้หลากหลาย อร่อยได้ทั้งบ้านเด็ก ๆ ถูกใจ ผู้ใหญ่ชื่นชอบ มีตุนติดบ้านไว้ไม่ผิดหวัง ตามสโลแกนของคิวเฟรช “ฟรีซความสดใหม่ ให้ชีวิตลงตัว” นอกจากนี้ ยังสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมชาเล้นจ์เต้นใน TikTok กับพี่มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ในเพลง "ด้วยรักและปลากระพง" อีกด้วย สั่งความอร่อยได้ง่าย ๆ ที่ร้านค้าชั้นนำใกล้บ้าน โลตัส แม็คโคร และช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.qfreshshop.com และไลน์ @qfresh หรือ Call Center โทร. 062-591-2472

###

เกี่ยวกับคิวเฟรช

แบรนด์ ‘คิวเฟรช’ (Qfresh) ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั่วโลก ผสานกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้สินค้าคิวเฟรชคงความสดใหม่ไว้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมรักษาคุณค่าทางโภชนาการ จุดเด่นของคิวเฟรช คือ เรามั่นใจในความปลอดภัยของผู้บริโภค การันตีไม่มีฟอร์มาลีน และที่สำคัญสามารถตรวจสอบกรรมวิธีการผลิตได้ทุกขั้นตอน
ยิ่งไปกว่านั้น คิวเฟรชยังมีสินค้าพร้อมรับประทาน และพร้อมปรุงที่สะอาดปลอดภัย ไม่มีวัตถุกันเสีย เพราะเราใส่ใจในทุกไลฟ์สไตล์ คิวเฟรชจะทำให้การเตรียมอาหารของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย สามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ www.qfreshshop.com และซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป


เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นกว่า 45 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 141,000 ล้านบาท (4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ™BONE และ UniQ™DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAVITA

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 8 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

6215
วช. จัดกิจกรรมสืบสานตำนานเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ดร.วิภารัตน์  ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ วช. สักการะพระพรหม ศาลพระภูมิ พร้อมทำบุญเลี้ยงพระ 9 รูป และตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในกิจกรรมสืบสานตำนานงานเทศกาลสงกรานต์ วช. ประจำปี 2565 เพื่อความเป็นสิริมงคล และอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ณ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ






































6216
นิราวิลล์ เปิดเกมส์รุกปีเสือ ฉลองรางวัลอสังหาดีเด่นระดับนานาชาติ
ด้วยการเปิดตัว 4 โครงการมูลค่า 1,500 ล้าน

                 นิราวิลล์ กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าถิ่น เมืองสมุทรสาคร จังหวัดชายทะเลอ่าวไทย จัดใหญ่ พร้อมแปลน 4 โครงการใหญ่ในปีนี้ ได้แก่ นิราวิลล์ วิลเลจ พลัส, นิราวิลล์ ฟอร์เต้, นิราวิลล์ คอทเทจ, และนิราวิลล์ ซีรีน รวมมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท


                 นางสุวรรณี จินชาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) นิราวิลล์ กรุ๊ป ผู้ก่อตั้งและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในโซนย่านสมุทรสาคร ภายใต้แนวคิดเรื่องความคุ้มค่า “สร้างบ้านคุณภาพเหมือนเพื่ออาศัยอยู่เอง” เปิดเผยว่า เทรนด์การซื้อที่อยู่อาศัยมีการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เดิมคนเลือกซื้อคอนโดอยู่ในเมือง ใกล้รถไฟฟ้า แต่การเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Work From Home ส่งผลให้ผู้ซื้อเริ่มมองหาบ้านขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ด้วยความที่เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับเขตหนองแขม เขตบางบอน และบางขุนเทียน ซึ่งเป็นเขตปริมณฑลของกรุงเทพมหานคร จึงนับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้อยู่อาศัย​ ในปีนี้ นิราวิลล์ กรุ๊ป จึงมีแผนเตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ คือ นิราวิลล์ วิลเลจ พลัส​ โครงการหมู่บ้านจัดสรรจำนวน 116 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านแฝด 112 ยูนิต และบ้านเดี่ยว 4 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 18-3-28.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท นิราวิลล์ ฟอร์เต้ ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 125 ยูนิต พื้นที่โครงการ 12-0-4.3 ไร่ มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท​ นิราวิลล์ คอทเทจ โครงการหมู่บ้านจัดสรรจำนวน 296 ยูนิต พื้นที่โครงการ 28-0-49.1 ไร่ มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท และโครงการ​ นิราวิลล์ ซีรีน ที่อยู่ระหว่างเตรียมการ มีมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท รวมทั้ง 4 โครงการในปีนี้ รวมมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท


                 “บ้านคือสถานที่เราทุกคนใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับครอบครัว เราจึงต้องใส่ใจในการออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลงานที่ดีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้า เพื่อส่งต่อบ้านที่มีความคุ้มค่า คุ้มราคา ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าให้มากที่สุดแก่ลูกค้า” นางสุวรรณี กล่าว

                 โครงการบ้านของนิราวิลล์ เน้นเรื่องการดีไซน์ที่ทันสมัย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคุ้มค่าในเรื่องพื้นที่ใช้สอย รวมถึงใช้วัสดุที่มีคุณภาพ แข็งแรง ถนนภายในโครงการกว้างขวาง พร้อมพื้นที่ส่วนกลาง สโมสร สระว่ายน้ำระบบเกลือ ศูนย์ฟิตเนส และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการอยู่อาศัย ที่การันตีด้วยรางวัลเกียรติยศ โครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นระดับนานาชาติ “FIABCI-THAI Prix D’Excellence Awards 2021” ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ โครงการนิราวิลล์ ไอริช และประเภทที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง โครงการนิราวิลล์ วิลเลจ​ ซึ่งเป็นรางวัลที่ตอกย้ำด้านคุณภาพบ้านของโครงการนิราวิลล์


                 กว่า 15 ปีที่ผ่านมา นิราวิลล์ กรุ๊ป ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในย่านสมุทรสาคร กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ บ้านแฝด บ้านชั้นเดียว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ผ่านโครงการมาแล้วมากกว่า 3,000 ยูนิต อาทิ เช่นโครงการ นิราสิริ,นิราวิลล์ , นิราวิลล์ พลัส , นิราวิลล์ แคร์ไลฟ์ , นิราวิลล์ไอริช , กรีนเนอรี่ บาย นิราวิลล์ (เอกชัย-โพธิ์แจ้) , กรีนเนอรี่ บาย นิราวิลล์ (นาดี) ผู้สนใจสามารถเข้าชมโครงการบ้านนิราวิลล์ หรือติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่​ http://niravillegroup.com/ หรือ Line ID @ : @niraville https://www.facebook.com/Niravillegroup โทรศัพท์ 087 368 4411

6217
อว. ติดตามโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย ราชภัฏภูเก็ต
หวังพัฒนาศักยภาพบุคลากรในพื้นที่และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต


              นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี หัวหน้ากลุ่มภารกิจบริหารยุทธศาสตร์ สำนักปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ลงพื้นที่ติดตามโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย Reinventing University โดยมี​ ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ​ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นำชมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลอันดามัน มุ่งเน้นการทำงานสู่ความเป็นเลิศ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยใช้องค์ความรู้ นวัตกรรม ในการพัฒนาสินค้า และบริการให้ตอบโจทย์วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของภาคใต้ ผ่านโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย กลุ่มยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ (Area-Based & Community) ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เมื่อเร็ว ๆ นี้

6218
Hoegaarden เปิดตัว Hoegaarden Botanic

รสชาติใหม่ส่งตรงจากเกาหลีใน ‘H Botanic Exhibition’






Hoegaarden แบรนด์เครื่องดื่มในเครือ บริษัท บริวเบอรี่ จำกัด บริษัทหนึ่งในเครือธุรกิจของ “คุณจี๊บ เทพอาจ กวินอนันต์” ผู้บริหารแถวหน้าของไทย ได้จัดงานเปิดตัว Hoegaarden รสชาติใหม่ที่มีชื่อว่า “Hoegaarden Botanic” วีทเบียร์ Infused กับสารสกัดจากธรรมชาติที่พร้อมสร้างความสดชื่นส่งตรงจากเกาหลี (Light Wheat beer infused with Beer Infused with Natural Botanical extracts) โดยงานจัดขึ้นที่ 515 Victory เมื่อไม่นานมานี้ จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2565

ในงานได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติและอินฟลูเอนเซอร์คนดังมาร่วมงานอย่างคับคั่งประกอบด้วย Go See It, Nonstop Journey, HashCorner, 17_th_, Khunvee589, guideline, S.thuthida, porschary, Thewtypo, kontorns, F1stfaloo และ 9.ittipon










โดย Hoegaarden ได้เนรมิตร Garden Installation Art สวนพฤกษศาสตร์ใจกลางเมืองที่จะชวนทุกคนหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองมาเติมเต็มความสดชื่นและผ่อนคลายไปด้วยกัน Hoegaarden กับประสบการณ์ใหม่ให้ได้สัมผัสที่รับรองได้ว่าจะประทับใจและไม่อาจลืมเลือนสไตล์ Hoegaarden Botanic ผ่านโสดประสาททั้ง 4 ไม่ว่าจะเป็นผ่านการมองเห็นด้วยการเนรมิตรสวนพฤกษศาสตร์สไตล์เกาหลี มินิมอล ผ่านการนำเสนอกลิ่นความหอมแบบธรรมชาติเสมือนผ่อนคลายอยู่ในสปา ผ่านการได้ยิน เปิดเสียงคลอตลอดทั้งงานเป็นเสียงจากธรรมชาติจะช่วยผ่อนคลายความเครียด มีอารมณ์ที่ดี จิตใจสงบ และผ่านการชิมเครื่องดื่มรสชาติใหม่สุดพิเศษ ที่จะทำให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายความเครียด ภายใต้ความเชื่อของ Hoegaarden ที่ว่า “การที่เราได้ Recharge และ Reset ตัวเองในกลิ่นอายของธรรมชาติจะทำให้เราได้ผ่อนคลายตัวเองในวันที่อ่อนล้าและเติมเต็มความสดชื่นให้กับชีวิต”






 



สำหรับความพิเศษของ Hoegaarden Botanic นั้นเป็นวีทเบียร์นวัตกรรมใหม่จากเกาหลีและถือเป็นวีทเบียร์โบทานิกตัวแรกของประเทศไทยที่ใช้นวตกรรมการผลิตชุดพิเศษ โดยใช้สารสกัดพฤกษศาสตร์จากธรรมชาติ 100% สารสกัดจากตะไคร้ และเปลือกมะนาวทำให้มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยความเบาดื่มแล้วสดชื่น มาพร้อมแพ็คเกจดีไซน์ที่สวยสะดุดตาในสีม่วงพาสเทลซึ่งเป็นสีหลักประจำปี 65 สำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบต้องไม่พลาดกับ Hoegaarden Botanic เพราะจะมีวางจำหน่ายเพียงแค่ 3 เดือนตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 65 นี้เท่านั้น

#JEEPTK #JEEPLOVEiS #Hoegaarden #HoegaardenBotanic








6219
อว. ติดตามโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย กลุ่มราชภัฏภาคใต้
ศูนย์อัจฉริยะการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ “ด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” มรภ.ภูเก็ต


                 นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี (คนกลาง) หัวหน้ากลุ่มภารกิจบริหารยุทธศาสตร์ สำนักปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) พร้อมด้วย​ รศ.ดร.รัฐชาติ มงคลนาวิน (คนที่ 1 จากขวา) คณะอนุกรรมด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย ลงพื้นที่ติดตามโครงการศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ “ด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยมี ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ (คนที่ 3 จากซ้าย) อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ให้ข้อมูลถึงความก้าวหน้าโครงการฯ มุ่งเน้นความเป็นเลิศ “ด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์”โดยใช้องค์ความรู้ นวัตกรรม ผนวกกับจุดแข็งในด้านความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของภาคใต้ เพื่อสร้างคุณค่า มูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เมื่อเร็ว ๆ นี้

6220
NTT DATA เปิดผลวิจัยองค์กรกว่าครึ่งมุ่งลงทุนผลิตภัณฑ์-บริการด้านธนาคารยั่งยืน


โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น – NTT DATA ผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการด้านไอทีชั้นนำระดับโลก เปิดผลการวิจัย Global Research into Corporate Banking's Future โดยเปรียบเทียบความต้องการของธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก กับการให้ความสำคัญในการลงทุนของธนาคารทั่วโลก ในปัจจุบันพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในวงการการเงินและธนาคารภายใต้วิกฤตโควิด-19 ที่เน้นบูรณาการระบบดิจิทัลและความยั่งยืนมากขึ้น ให้สอดคล้องกับคนรุ่นมิลเลนเนียลรุ่นใหม่ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงในองค์กรเพิ่มขึ้น

นายมิเกล มาส ผู้อำนวยการธุรกิจธนาคารทั่วโลก บริษัท เอ็นทีที เดต้า ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (NTT Data EMEA Ltd.) เปิดเผยถึงผลการงานวิจัย Global Research into Corporate Banking's Future เปรียบเทียบความต้องการขององค์กรขนาดใหญ่ กับสิ่งสำคัญในการลงทุนของธนาคารระดับโลกในปัจจุบัน พบว่าภายหลังวิกฤตโควิด-19  กลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กร ได้เปลี่ยนการทำงานเป็นแบบบูรณาการในรูปแบบดิจิทัลและเพิ่มความยั่งยืนมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียลรุ่นใหม่ที่เริ่มมีตำแหน่งสูงขึ้นในองค์กร จากผลการวิจัยผู้มีอำนาจตัดสินใจระดับสูงจากธุรกิจธนาคารและองค์กรต่าง ๆ กว่า 880 คน จาก 12 ประเทศทั่วโลก เพื่อค้นหาแนวทางการปรับตัวในอนาคตของกลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กร พบว่าปัจจัยที่ทำให้พื้นฐานธุรกิจธนาคารเปลี่ยนไป เกิดจากการปรับใช้เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเจเนอเรชันที่เปลี่ยนไปของลูกค้า บวกกับการฟื้นตัวจากวิกฤตโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง


ปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ หันมาสื่อสารกับธนาคารผ่านแอปพลิเคชั่นบนระบบ APIs หรือ Application Programming Interfaces ซึ่งเป็นการสื่อสารด้วย เทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถส่งข้อมูลระหว่างกันผ่านการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องมือและอุปกรณ์อินเทอร์เน็ต (M2M) มากขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับการสื่อสารแบบตัวบุคคลถึงตัวบุคคล(Person-to-person) ทั้งยังให้ความสำคัญกับขั้นตอนการนำกระบวนการแบบอนาล็อกและสิ่งที่เป็นรูปธรรมมาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลไปจนเสร็จสิ้น (End-to-end digitization) และสามารถส่งมอบบริการที่ลื่นไหล (Frictionless Banking)  มากกว่าการสร้างความสัมพันธ์ผ่านตัวบุคคลซึ่งเป็นภาพลักษณ์แบบเดิม ทั้งนี้ 85% ของธุรกิจธนาคารรายงานว่ากำลังเพิ่มประสิทธิภาพพอทัล (Portal) ต่าง ๆ ของธนาคารให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค

“จากงานวิจัยพบว่าอนาคตของกลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กร จะเป็นการทำงานแบบบูรณาการ ดิจิทัล และยั่งยืนมากขึ้น ถึงแม้กฎเกณฑ์ใหม่ๆมีส่วนขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง แต่แท้จริงแล้วการเปลี่ยนเจเนอเรชันต่างหากที่กำหนดว่าธนาคารควรปฏิบัติงานอย่างไร ปัจจุบันกลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กรมีความรวดเร็วมากขึ้น เช่นเดียวกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น เห็นได้ว่าธนาคารต่าง ๆ เริ่มหันมาลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Ai และ Automation ซึ่งล้วนมาจากความต้องการของผู้บริโภค” นายมิเกล กล่าว


ทั้งนี้ งานวิจัยได้แนะให้ธนาคารผสานบริการเข้ากับความต้องการของผู้บริโภค ที่ปัจจุบันความต้องการขององค์กรได้เปลี่ยนจากธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิมจากโปรดักส์เงินทุนหมุนเวียน (Working capital products) ไปสู่หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง(Structured products) รวมทั้งเทคโนโลยีก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน เราจึงเห็นธนาคารเริ่มนำระบบอัตโนมัติ (Automation) มาใช้ในการทำงานมากขึ้น รวมทั้งการใช้โมเดล Advanced Machine learning ในงานต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านเครดิต ตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าธนาคารควรฟังเสียงจากกลุ่มลูกค้าองค์กร และความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมเพื่อส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด อาทิ 70% ของกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างยังคงต้องการโซลูชันด้านการกู้เงิน และการบริหารเงินสดขององค์กรแบบ Omni-channel แต่บริการดังกล่าวกลับไม่ถูกผสมผสานเข้ากับแพลตฟอร์มของธนาคารพาณิชย์​ อีกทั้งแนวคิด ESG (Environmental, social and corporate governance) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อกลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กร ผู้กำหนดกฎเกณฑ์และนโยบายต่างเรียกร้องให้มีการนำ ESG มาปรับใช้มากขึ้นเพื่อมุ่งสู่โลกแห่งอนาคต แม้จะทราบดีว่าการเดินหน้าสู่แนวคิดเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low-carbon economy) จะเพิ่มความยุ่งยากให้กับธุรกิจบริการด้านการเงิน ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงจากบริการที่เปลี่ยนไป

ทั้งนี้ องค์กรต่าง ๆ ต้องการทำธุรกรรมกับธนาคารที่สะท้อนมุมมองและความเชื่อของตน ด้วยลูกค้าในกลุ่มธุรกิจองค์กรรุ่นใหม่ เริ่มให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน จากผลการวิจัยพบว่า 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มองค์กรต้องการให้ธนาคารของตนลงทุนในผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความยั่งยืนมากขึ้น โดย 44% ของธุรกิจธนาคารเริ่มลงทุนในด้านดังกล่าวแล้ว


“ความยั่งยืนคือกุญแจสำคัญในการแข่งขัน องค์กรเกือบครึ่งต่างต้องการให้ธนาคารของตนลงทุนในด้านนี้เพิ่มขึ้น และธนาคารที่มีวิสัยทัศน์ได้เริ่มสร้างทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน ESG เพื่อตอบโจทย์นี้แล้ว ทั้งความยั่งยืนยังเป็นโอกาสสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจเหนือคู่แข่งอีกด้วย”นายมิเกลกล่าวทิ้งท้าย

สามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://uk.nttdata.com/insights/reports/corporate-banking-outlook-2022

###

เกี่ยวกับบริษัท เอ็นทีที เดต้า
บริษัท เอ็นทีที เดต้า ภายใต้ เอ็นทีที กรุ๊ป ในฐานะผู้คิดค้นนวัตกรรมระดับโลกด้านไอทีและบริการทางธุรกิจที่มีสำนักงานใหญ่ในโตเกียว เราช่วยลูกค้าพัฒนาองค์กรผ่านบริการการให้คำปรึกษา โซลูชันอุตสาหกรรม บริการกระบวนการทางธุรกิจ การปรับปรุงด้านไอทีให้ทันสมัย และบริการการบริหารจัดการ NTT DATA เราช่วยให้ธุรกิจลูกค้า และสังคมสามารถก้าวไปสู่อนาคตดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ เรามุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จในระยะยาวไปพร้อมกับลูกค้าของเราในการส่งมอบบริการชั้นเลิศอย่างมืออาชีพ

6221
เผยรายงานภัยร้ายคุกคามสุขภาพมนุษย์
ที่ซ่อนอยู่ในระบบปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรมเนื่องในวันอนามัยโลก


กรุงเทพฯ, 7 เมษายน 2565 – องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) เผยงานวิจัยล่าสุดเนื่องในวันอนามัยโลก ชี้ชัดว่าการทำฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษยอย่างมหาศาล ซึ่งเชื่อมโยงให้เห็นถึงภัยของ ซูเปอร์บั๊ก' (Superbug) หรือ 'เชื้อดื้อยา' ซึ่งกำลังเป็นวิกฤตของประเทศไทย รวมถึงภัยด้านสุขภาพอื่น และสถานการณ์นี้ก็จะเลวร้ายลงไปอีก หากความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


รายงาน​ “ภัยคุกคามสุขภาพที่ซ่อนไว้ในระบบปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรม” ฉบับนี้ เผยให้เห็นว่ารัฐบาลทั่วโลกเพิกเฉยต่อปัญหาสุขภาพมนุษย์ที่เกิดจากฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมและความทุกข์ทรมานของสัตว์ในฟาร์มนับพันล้านตัว โดยภายในปี พ.ศ. 2573 การบริโภคเนื้อสัตว์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ต้องแลกมาด้วยชีวิตสัตว์นับหลายพันล้านตัวที่ต้องเผชิญกับความเครียด จากการถูกตัดตอนอวัยวะและต้องอยู่ในกรงที่คับแคบมาทั้งชีวิต โดยในแต่ละปีร้อยละ 70 ของสัตว์ฟาร์มจำนวน 80,000 ล้านตัว* ทั่วโลกนั้น ถูกเลี้ยงและถูกฆ่าในระบบฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมอย่างโหดร้าย


รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นตามแนวคิด 5 ประการที่ “ระบบอาหารส่งผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพ” ในรายงาน “Food Systems Delivering Better Health” iโดยองค์การอนามัยโลก เมื่อปี พ.ศ. 2564  นอกจากนี้ ในรายงานยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของผลเสียต่อสุขภาพที่เกิดจากการทำฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมโดยตรง  ซึ่งยังหมายรวมถึงประเด็นวิกฤติเชื้อดื้อยาในประเทศไทย ที่ภาครัฐของไทยยังคงขาดการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันโรค ตลอดจนขาดการยกระดับมาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์มให้สูงขึ้น


โชคดี สมิทธิ์กิตติผล ผู้จัดการโครงการสัตว์ฟาร์ม องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย

“การใช้ยาปฏิชีวนะที่มากเกินจำเป็นในฟาร์มเป็นผลจากการเลี้ยงสัตว์แบบไม่มีสวัสดิภาพที่ดี ส่งผลให้เกิดเชื้อดื้อยาขึ้นในฟาร์มและปนเบื้อนออกมายังแหล่งน้ำสาธารณะ สิ่งแวดล้อมรวมถึงร่างกายมนุษย์ ข้อมูลของการใช้ยาปฏิชีวนะแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดที่ 38.56 กรัม/คน/ปี ซึ่งสูงกว่าประเทศเนเธอร์แลนด์ถึง 6 เท่าที่ 6.57 กรัม/คน/ปี ii  ยาปฏิชีวนะควรใช้เพื่อรักษาสัตว์ที่ป่วยรายตัวเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อป้องกันโรคแบบรวมกลุ่ม อันมีสาเหตุมาจากสวัสดิภาพที่ย่ำแย่” โชคดี สมิทธิ์กิตติผล ผู้จัดการโครงการสัตว์ฟาร์ม องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าว


Jacqueline Mills หัวหน้าฝ่ายสัตว์ฟาร์ม องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า “ฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมกำลังทำให้เราป่วย หากมองอย่างผิวเผินแล้วเนื้อสัตว์ ปลา หรือผลิตภัณฑ์นม อาจดูเหมือนราคาถูก แต่เรามีต้นทุนที่ต้องจ่ายจากปัญหาสุขภาพที่ตามมาอีกทั้งรัฐบาลต้องจ่ายเงินจำนวนหลายล้านล้านเหรียญในแต่ละปีเพื่อบรรเทาความเสียหายเหล่านี้”


“เราต้องยุติวงจรความทุกข์ทรมานของสัตว์ที่อยู่ในระบบอาหารของเรา การสนับสนุนของรัฐบาลเพื่อทำให้เนื้อสัตว์มีราคาถูกนั้นเท่ากับเป็นการส่งสัตว์เข้าสู่วงจรการทำฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมที่โหดร้าย ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต่างๆจะต้องให้ความสนใจกับผลกระทบต่อสุขภาพของคน สัตว์และโลกที่ดีกว่านี้”


“การทำฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมในอนาคตต้องหมดไป เราต้องหยุดการทำฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมไว้ชั่วคราว อุตสาหกรรมอาหารนั้นต้องมุ่งหน้าไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและมีมนุษยธรรม โดยที่เราบริโภคอาหารที่ทำจากพืชเป็นหลัก และการทำฟาร์มสัตว์ต้องอยู่ในระบบที่มีสวัสดิภาพที่ดีและสัตว์ก็ต้องมีชีวิตที่ดีด้วย ”

เราต้องเปลี่ยนระบบเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อสุขภาพของเรา โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นรวมถึงการเน้นการสนับสนุนการทำฟาร์มที่ยั่งยืนและมีมนุษยธรรมแทนการทำฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรม การทำให้ราคาอาหารที่มาจากพืชนั้นสามารถเข้าถึงได้ และสร้างทางเลือกใหม่ให้กับเกษตรกรหากไม่ต้องการทำฟาร์มสัตว์อุตสาหกรรมอีกต่อไป


องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกหยุดสนับสนุนการทำฟาร์มสัตว์แบบอุตสาหกรรม พร้อมกับเสนอและบังคับใช้มาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ที่สูงขึ้น ตลอดจนการกำหนดนโยบายห้ามใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันโรคแบบรวมกลุ่มกับสัตว์ฟาร์ม เพื่อนำไปสู่การสร้างระบบอาหารที่มีมนุษยธรรมและยั่งยืน

ร่วมกันเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อโลกที่ดีกว่าสำหรับคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมวันนี้ที่
www.worldanimalprotection.or.th/Ban-AMR

###

หมายเหตุ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.worldanimalprotection.or.th

คลิปวีดีโอ “การเลี้ยงสัตว์โดยไม่คำนึงถึงสวัสดิภาพ นำมาสู่ภัย ซูเปอร์บั๊ก” https://fb.watch/cbF1NptruP/

*ไม่รวมจำนวนปลาในฟาร์ม
I องค์การอนามัยโลก. 2564. https://www.who.int/publications/i/item/9789240031814 (เข้าดูล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564)
ii https://www.worldanimalprotection.or.th/Antibiotic-Footprint-Calculator
FAO/OECD คาดว่าการผลิดเนื้อวัย เนื้อหมู สัตว์ปีกและแกะจะเติบโตขึ้นร้อยละ 5.9, 13.1, 17.8 และ 15.7 ภายในปี พ.ศ. 2573


เกี่ยวกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก หรือ World Animal Protection เป็นองค์กรเพื่อคุ้มครองปกป้องสวัสดิภาพสัตว์ และยุติการทารุณกรรมสัตว์อย่างถาวร โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 มีบทบาทในการให้คำปรึกษากับองค์การสหประชาชาติและสภายุโรป ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อยกระดับอภาพสัตว์ สร้างความแตกต่างให้สัตว์ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ถูกทารุณกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยดำเนินงานครอบคลุมทั้งสัตว์ในชุมชน – สุนัข, สัตว์ป่า - สัตว์ในฟาร์ม รวมถึงการให้ความรู้ด้านปศุสัตว์ที่มีมนุษยธรรมอันส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนและสัตว์ ข้อมูลเพิ่มเติม www.worldanimalprotection.or.th

6222
เทคโนโลยีระดับโลกพลิกโฉมการเดินทางกรุงเทพมหานคร

วีซ่า จับมือ ธนาคารกรุงไทย กรุยทางยกเครื่องระบบการชำระเงินเพื่อยกระดับการเดินทางคนกรุงเทพฯ

บทความ โดย สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย


ย้อนกลับไปเมื่อระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯ ได้เปิดให้บริการในปลายปี 2542 หลายคนอาจคาดไม่ถึงต่อผลที่เกิดขึ้นต่อการดำรงชีวิตในเมืองของเรา แน่นอนว่าการสัญจรในเมืองสะดวกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกันพัฒนาการของระบบขนส่งมวลชนยังเป็นตัวเร่งให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจเมืองในทุกแห่งหน ช่วยให้เด็กๆ เดินทางไปโรงเรียนได้เร็วขึ้น เปิดประตูสู่สถานที่ใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจเล็กใหญ่​ ในขณะเดียวกันยังช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการเดินทางให้กับโลกใบนี้อีกด้วย 

เมื่อการปรับเปลี่ยนสู่สังคมเมืองขยายตัว และจำนวนประชากรในเมืองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลต่อกำลังของโครงสร้างสาธารณูปโภคในปัจจุบัน ข่าวดีก็คือเมืองของเรายังคงเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา และไม่ได้มีเพียงเส้นทางใหม่ๆ เท่านั้นที่ได้รับการพัฒนา แต่ยังคงรวมถึงระบบการรับชำระเงินเบื้องหลังที่จัดว่าเป็นเครื่องยนต์การขับเคลื่อนประสบการณ์การเดินทางที่สำคัญ ด้วยการยกเครื่องใหม่ในครั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถใช้บัตรเครดิตที่มีอยู่แล้วเพื่อชำระค่าโดยสารที่ประตู ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวเพื่อเติมเงิน และที่สำคัญที่สุดเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น

ล่าสุด วีซ่า ได้ร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) (BEM) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อนำเทคโนโลยีระดับโลกมาใช้ในรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ซึ่งหมายความว่าผู้โดยสารสามารถใช้บัตรเครดิตประเภทคอนแทคเลสของตนเอง “แตะเพื่อจ่าย” ที่ประตูทางเข้า ซึ่งนอกจากจะทำให้การชำระเงินเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยแล้ว ยังช่วยขจัดขั้นตอนในการเข้าคิวเพื่อซื้อตั๋ว หรือเติมเงินในบัตรโดยสารทุกเดือนอีกด้วย และนี่เป็นก้าวสำคัญที่ยกระดับให้กรุงเทพฯ มีความทันสมัยทัดเทียมกับมหานครของโลกอย่าง ลอนดอน นิวยอร์ก ดูไบ ซิดนีย์ และสิงคโปร์ และอีกมากกว่า 500 โปรเจกต์ในหัวเมืองชั้นนำทั่วโลกให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ

เมื่อพูดถึงการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล ประเด็นที่ต้องเน้นย้ำคือเรื่องความปลอดภัย ในรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินและม่วงนี้ใช้โซลูชั่นการชำระเงินแบบดิจิทัลของวีซ่าที่มีชื่อว่า Cybersource ซึ่งหนึ่งในฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยหลักคือระบบโทเค็น ซึ่งเป็นระบบการปกก้อง และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัยตามมาตราฐานสูงสุดของวีซ่า กล่าวคือเมื่อผู้โดยสารแตะบัตรเครดิตลงบนที่อ่านบัตรบนประตู ระบบจะแปลงตัวเลข 16 หลักบนบัตรเป็นรหัสโทเค็น (เช่น จาก 4123 5678 9101 2131 เป็น 0001 1001 1100 0011) เพื่อใช้ในการชำระเงิน ซึ่งระบบโทเค็นนี้เป็นเกราะป้องกันชั้นเลิศที่ป้องกันไม่ให้ข้อมูลของผู้ถือบัตรถูกนำไปใช้ได้ ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อเสริมความปลอดภัยอีกขั้นไม่ว่าจะเป็น รฟม. และธนาคารกรุงไทยเองก็ไม่เก็บข้อมูลบัตรเครดิตเอาไว้ได้ นับเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยอย่างแท้จริง


แถวหน้า ซ้ายไปขวา - รุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ (ซ้าย) ที่ปรึกษากรรมผู้จัดการใหญ่ รักษาการผู้บริหารสายงาน สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์รายย่อยธนาคารกรุงไทย และ สุริพงษ์ ตันติยานนท์ (ขวา) ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย
แถวหลัง ซ้ายไปขวา – กิติพงศ์ มุตตามระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Retail Payment Solution ธนาคารกรุงไทย พุทธิพงษ์ ตันติพนารัตน์ ผู้อำนวยการสายงานการคมนาคมเมืองอัจฉริยะ วีซ่า ประเทศไทย และ เจตนา เชมเบอร์ส ผู้เชี่ยวชาญโซลูชั่น Cybersource วีซ่า ประเทศไทย


ที่สุดแล้วความร่วมมือของวีซ่า กับ รฟม. BEM และธนาคารกรุงไทย ได้ช่วยปลดล็อกสิ่งที่เรารู้จักกันในวงการอุตสาหกรรมการชำระเงินว่า “ระบบสัญจรแบบเปิด (open-loop)” อันนำมาซึ่งฝันที่เป็นจริงที่ผู้โดยสารต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานคร ทุกวันนี้คนกรุงฯ ต้องพกบัตรมากมายในกระเป๋าสตางค์ซึ่งแต่ละใบใช้กับระบบขนส่งแต่ละประเภท ระบบสัญจรแบบเปิดช่วยให้บัตรหนึ่งใบสามารถใช้ชำระค่าโดยสารทุกประเภท โดยไม่จำเป็นต้องพกบัตรโดยสารแต่ละประเภทในการเดินทางให้ยุ่งยากอีกต่อไป ในทางปฏิบัติหมายความว่าคุณใช้บัตรเพียงแค่ใบเดียวที่ใช้ชำระค่าโดยสารเมื่อไปทำงาน ซื้อข้าวกลางวัน ช้อปปิ้ง และเดินทางกลับบ้าน ถือเป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นอย่างแท้จริง

การใช้งานการชำระเงินแบบคอนแทคเลสยังให้ประโยชน์มากมายแก่ผู้ประกอบการ โดยค่าใช้จ่ายในการเก็บค่าโดยสารสามารถลดลงได้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งยังช่วยลดค่าบริหารจัดการเงินสดได้อีกด้วย และการเดินทางแบบไร้รอยต่อจะช่วยลดการเข้าคิวที่สถานีซึ่งเป็นปัจจัยในการเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ผู้โดยสารได้ จากการศึกษาในสหรัฐฯ พบว่า 84 เปอร์เซ็นต์ ของนักเดินทางในเมืองใหญ่ๆ หงุดหงิดจากการเข้าคิวต่อจากคนที่ใช้เวลานานในการซื้อตั๋วโดยสาร และ 67 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าพวกเขาพลาดรถไฟเที่ยวที่จะขึ้นเพราะคิวซื้อตั๋วที่ยาวเหยียด ด้วยการชำระแบบคอนแทคเลสนี้เราไม่จำเป็นต้องรอแลกเหรียญหรือเติมเงินบัตรโดยสารของเราอีกต่อไป ลองคิดดูว่าการเดินทางสัญจรทั่วกรุงเทพฯ สำหรับนักท่องเที่ยวจะง่ายเพียงใด หากเราสามารถมอบประสบการณ์การเดินทางแบบไร้รอยต่อที่แท้จริงให้กับพวกเขาได้
     
ถือได้ว่านี่เป็น “จิ๊กซอว์” ชิ้นสุดท้ายที่จะเชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทาง ทางด่วน และเรือโดยสาร ให้สามารถรองรับการชำระแบบคอนแทคเลสได้ แต่ในมุมมองของเรา ประโยชน์ของการมีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัย และเชื่อมต่อนั้นเป็นมากกว่าการช่วยให้การชำระเงินในการเดินทางนั้นรวดเร็วและปลอดภัย แต่ส่งผลโดยตรงไปยังสามแกนหลักในด้านความยั่งยืนอย่าง ประชากร เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม อีกด้วย



สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย

บางทีประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการทำให้ระบบขนส่งเชื่อมโยงได้ทั่วทั้งเมืองคือการเปิดประตูสู่สถานที่แห่งใหม่ สิ่งนี้จะเป็นเหมือนการผจญภัยครั้งสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงชาวเมืองให้สามารถค้นหาคาเฟ่และร้านอาหารใหม่ๆ หรือจะเป็นการสำรวจเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่ก็เป็นได้ ทั้งยังเป็นการช่วยคลายความหนาแน่นจากย่านใจกลางเมือง ขยายพื้นที่ทำงาน และบริการ และยังช่วยสร้างงานและโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กเติบโตได้อีกด้วย และอีกสิ่งที่ลืมไม่ได้คือเมื่อมีคนสัญจรผ่านระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นก็จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและมลพิษอื่นๆ

จริงอยู่ที่ระบบการขนส่งมวลชนแบบเปิดช่วยให้คนเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้รวดเร็วและง่ายดายขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่สิ่งสำคัญที่มากกว่านั้นคือการยกระดับคุณภาพชีวิต เมื่อพื้นที่เมืองของเรากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายมากขึ้น เราต้องไม่ลืมว่าความคิดนอกกรอบ บวกกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมและพิสูจน์แล้ว จะช่วยแก้ปัญหาหรือแม้แต่สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นก็เป็นได้


###

เกี่ยวกับวีซ่า
Visa Inc. (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก วีซ่าให้บริการในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างผู้บริโภค ร้านค้า สถาบันการเงิน และหน่วยงานภาครัฐมากกว่า 216 พันล้านรายการต่อปี ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้ สะดวก และปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ผู้บริโภค ร้านค้า และเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจที่รวมทุกคนในทุกที่เข้าด้วยกัน จะช่วยยกระดับทุกคนในทุกที่ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ Visa.com

6223
บทสรุปการแข่งขัน RoV Pro League 2022 Summer
Bacon Time คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 6,000,000 บาท และสิทธิเข้าร่วม AIC 2022

      ●      Bacon Time ทำสำเร็จ คว้าแชมป์ที่ 3 พร้อมสิทธิ์ลุย AIC 2022 ต่อ
      ●      BAC MarkKy คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น
      ●      KFC x Talon เซอร์ไพรส์เพียบ ทั้งสลับเลน และหยิบเทพเจ้า Yorn
      ●      ติดเทรนด์อันดับ 1 บน YouTube คนดูเยอะที่สุดในประเทศ


การแข่งขัน RoV Pro League 2022 Summer ที่ตัดสินชะตาทุกอย่างของทั้ง 4 ทีมได้เริ่มต้นขึ้น ทีมที่เข้ารอบในครั้งนี้ได้แก่ Bacon Time เข้ารอบมาเป็นอันดับที่ 1 อยู่ในสายบน ปะทะกับ KFC x Talon เข้ารอบมาเป็นลำดับที่ 2 คู่นี้แข่งแมตช์แรกใครชนะจะเข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศทันที


ครั้งนี้เป็นทาง Bacon Time ที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม แม้ทาง KFC x Talon จะเซอร์ไพรส์ด้วยการสลับผู้เล่น โดยเอา KTN Erez ไปอยู่ Dark Slayer Lane แทนที่ NTNz และให้ Difoxn มาประจำการ Abyssal Dragon Lane แทน แต่ Bacon Time ก็เอาชนะไปได้อย่างขาดลอย 4 ต่อ 0 เกม เข้าไปรอบในรอบชิงชนะเลิศ


แมตช์ต่อมาของรอบ Championship วันแรก เป็นการปะทะของทีมอันดับ 3 PSG Esports พบกับ Buriram United Esports ที่เข้ารอบมาเป็นลำดับที่ 4 สองทีมนี้อยู่ในสายล่างถ้าใครแพ้จะตกรอบทันที ซึ่งแน่นอนว่าภายใต้เงื่อนไขนี้ทำให้ทั้งสองทีมต่างต้องงัดทุกอย่างออกมาเผชิญหน้ากันเพื่อช่วงชิงโอกาสในการเข้าสู่รอบต่อไป ทำให้แมตช์นี้เต็มไปด้วยความดุเดือด แต่สุดท้ายเป็นฝ่ายปราสาทสายฟ้า Buriram United Esports ที่เอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 4 - 2 เกม ส่ง PSG Esports กลับบ้าน


ต่อมาในวันที่ 2 ของรอบ Championship ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันที่เราจะได้รู้กันแล้วว่าใครคือผู้ที่แข็งแกร่งตัวจริง เริ่มต้นกันด้วยแมตช์สายล่าง KFC x Talon ปะทะ Buriram United Esports ที่ใครชนะแมตช์นี้จะได้เข้าไปชิงแชมป์กับ Bacon Time

KFC x Talon และ Buriram United Esports เป็นสองทีมที่ทุกคนต่างจับตามองเพราะทั้งคู่เป็นแชมป์ระดับนานาชาติในปี 2021 และทั้งสองทีมก็ถือเป็นคู่ที่ปะทะกันมาหลายต่อหลายครั้งทั้งการแข่งขันในและต่างประเทศ ซึ่งการปะทะของพวกเขาทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยความดุเดือดคาดเดาผลการแข่งขันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

การแข่งขันในแมตช์นี้เริ่มต้นด้วยการเซอร์ไพรส์อีกครั้งของ KFC x Talon ที่สลับตัวผู้เล่น โดยนำเอา Difoxn ไปเล่นในตำแหน่ง Support แทนที่ Tony และคืนตำแหน่งเดิมให้กับ NTNz กับ Erez ผลการแข่งขันเต็มไปด้วยความสูสี Buriram United Esports ขึ้นนำไปก่อน 1 - 0

แต่ด้วยแผนการเล่นและสกิลเพลย์อันช่ำชองของแชมป์โลก AWC ทีมล่าสุด พวกเขาตีเสมอได้ในเกมที่ 2 และเอาชนะอย่างต่อเนื่อง ปิดสกอรืเกมนี้ไปด้วยชัยชนะ 4 ต่อ 1 เกม ส่ง Buriram United Esports กลับบ้าน และพาตัวเองเข้าไปแก้มือกับ Bacon Time อีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ



และแล้วก็มาถึงรอบชิงชนะเลิศที่จะตัดสินทุกอย่างในการแข่งขันตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ศึกใหญ่ระหว่าง Bacon Time ที่เวียนมาพบกับ KFC x Talon กันอีกครั้ง


Difoxn ยังคงลงเล่นในตำแหน่งที่ไม่คุ้นตาอย่าง Support แทนที่ขาประจำอย่าง Tony แน่นอนว่า แฟน ๆ เหยี่ยวแดงหลายคนยังแอบหวั่นใจ กับภาพจำที่เหยี่ยวแดงยังไม่เคยชนะ Bacon Time เลยสักครั้งในซีซันนี้แต่ผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมากลับตรงข้ามกับภาพเหตุการณ์ในวันแรกของรอบ Championship ราวกับหนังคนละม้วนเลยทีเดียว

KFC x Talon ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี พวกเขาสามารถเดินเกมได้สูสีกับ Bacon Time จนกระทั่งเกิดจังหวะตัดสินกันที่หน้า Dark Slayer ในนาทีที่ 15 ส่งผลให้ Bacon Time ตายกันยกทีม กลายเป็น KFC x Talon ที่ขึ้นนำไปก่อน 1 - 0

ส่วนในเกมที่ 2 เป็นฝั่ง Bacon Time ก็เริ่มเรียกสติคืนมาได้ พวกเขาได้เดินเกมอย่างเฉียบคมมากขึ้น โดยในไฟต์ตัดสินต้องชื่นชม AlmondP ที่ยืนรอตัวสำคัญของ KFC x Talon อยู่ในพุ่มอย่างใจเย็น แม้จะไม่สามารถจัดการตัวดาเมจของศัตรูไปได้ตั้งแต่ทีแรก แต่ด้วยดาเมจที่ทำไว้นั้น ก็เพียงพอแล้วที่จะให้เพื่อนร่วมทีมตามเก็บงาน พร้อมกับไล่บี้จนเอาชนะเกมที่ 2 มาได้สำเร็จและในเกมที่ 3 ทาง Bacon Time ก็เริ่มเครื่องร้อนมากขึ้น พวกเขาเริ่มเล่นแบบรอบคอบ รัดกุมจนทำให้ KFC x Talon ต้องแพ้ไป
ทำให้ทางเหยี่ยวแดงต้องแก้แผนปรับทัพอีกครั้งโดยการส่ง Tony ลงมาในตำแหน่ง Support ดังเดิม และ Erez เล่นในตำแหน่ง Dark Slayer Lane ส่วน Difoxn ไปเล่นตำแหน่ง Abyssal Dragon Lane แต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะหยุด Bacon Time ได้ เจ้าหมูเบคยังคงฟอร์มร้อนแรงเอาชนะเกมที่ 4 ไปอีกครั้ง คว้า Match Point พร้อมก้าวขาข้างหนึ่งที่เหยียบบนบัลลังก์แชมป์เรียบร้อยแล้ว

แต่เมื่อมาถึงเกมที่ 5 เหยี่ยวแดง KFC x Talon งัดแผนเด็ดดราฟต์ฮีโร่ไฟต์เตอร์มายืนเลนข้างทั้งสองตัว และปล่อยให้แครี่อย่าง Wisp เข้าไปเล่น Jungle แทนผลตอบรับที่ออกมานั้นก็ยอดเยี่ยมเกินคาด เพราะทาง Bacon Time เสียท่าให้กับการดราฟต์สับขาหลอกจนพลาดท่าพ่ายไปในที่สุด

มาถึงเกมที่ 6 เป็นเกมสุดตึงเครียดทาง Bacon Time ที่ต้องการเพียงแต้มเดียว ส่วน KFC x Talon ก็แพ้ไม่ได้อีกแล้วพวกเขาไม่มีจุดให้ถอยอีกต่อไป ส่งผลให้เกิดการงัดแผนเซอร์ไพรส์ที่ทำให้ทั้งคู่ต่อสู้และคนดูต่างก็ร้องว้าวไปตาม ๆ กัน นั่นคือการเลือกเทพเจ้า Yorn ลงสนามของ Difoxn

การลงมาของเทพเจ้า Yorn ในครั้งนี้เหมือนจะทำให้ Bacon Time ตั้งรับไม่ทัน รูปเกมตกเป็นของ KFC x Talon จนพวกเขาสามารถเอาชนะได้สำเร็จซื้อโอกาสเกมสุดท้าย และสร้างความกดดันให้กับ Bacon Time เป็นอย่างมาก จบเกมที่ 6 ไปด้วยสกอร์เสมอกัน 3 - 3 ไปตัดสินกันต่อในเกมที่ 7

ในเกมที่ 7 ทุกฮีโร่ที่ถูกเล่นมา และถูกแบนในระบบ Globan Ban-Pick จะถูกปลดล็อกทั้งหมด นั่นจึงหมายความว่า บรรดาตัวเก่ง ๆ ประจำเมต้าจะถูกเลือกใช้กันอย่างเต็มสูบอย่างแน่นอน ด้านรูปเกมก็ไม่มีใครยอมใคร ทั้งสองทีมต่างผลัดกันรุก ผลัดกันรับกันไปมา จนกระทั่งเกิดจุดพลิกผันในนาทีที่ 13

ฝั่ง Bacon Time สามารถตักตวงจังหวะ KFC x Talon พลาดท่าไว้ได้อย่างเหมาะเจาะ พวกเขาไล่สังหารตัวสำคัญทั้ง Difoxn กับ IPodPro ลงได้สำเร็จ ซึ่งนับตั้งแต่ตรงจุดนั้น Bacon Time ก็ไม่ยอมปล่อยให้ความได้เปรียบหลุดลอยไปสู่ฝั่ง KFC x Talon ได้อีกเลยจนกระทั่งจบเกม กลายเป็นชัยชนะและแชมป์สมัยที่ 3 ของ Bacon Time ไปอย่างสวยงามด้วยคะแนน 4-3





และด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ Markky หนึ่งในผู้เล่นที่อายุน้อย แต่มากฝีมือ ตลอดทั้งฤดูกาลการเล่นของ MarkKy นั้นมีมาตรฐานที่คงที่อยู่เสมอ  รางวัล FMVP ประจำซีซันนี้จึงได้ตกไปอยู่ในมือของเขาโดยปริยาย คว้าเงินรางวัลไปนอนกอดเพิ่มอีก 40,000 บาท ในฐานะผู้เล่นทรงคุณค่าประจำการแข่งขัน


สรุปอันดับ และเงินรางวัลของการแข่งขัน RoV Pro League 2022 Summer ได้ดังนี้
อันดับที่ 1 Bacon Time เงินรางวัล 6,000,000 บาท และถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติ
อันดับที่ 2 อันดับที่ 2 KFC x Talon เงินรางวัล 1,800,000 บาท
อันดับที่ 3 Buriram United Esports เงินรางวัล 700,000 บาท
อันดับที่ 4 PSG Esports เงินรางวัล 400,000 บาท
อันดับที่ 5 eArena เงินรางวัล 200,000 บาท
อันดับที่ 6 Valencia CF Esports เงินรางวัล 200,000 บาท
อันดับที่ 7 King of Gamers Club เงินรางวัล 200,000 บาท
อันดับที่ 8 Goldcity Esports เงินรางวัล 200,000 บาท
อันดับที่ 9 EVOS Esports เงินรางวัล 200,000 บาท



ที่สำคัญไลฟ์สตรีมถ่ายทอดสดในรอบชิงของวันที่ 3 เมษายน ยังขึ้นเทรนด์มาแรงใน YouTube เป็นอันดับที่ 1 ของประเทศอีกด้วย




ทางทีมงาน Garena RoV Thailand ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามรับชม และสนับสนุนกีฬา Esports ของเกม RoV ให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง แล้วพบกันใหม่ในการแข่งขันครั้งถัดไป รอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ ที่ Facebook Garena RoV Tournament

###

เกี่ยวกับ Garena (การีนา)

การีนา (Garena) ผู้ให้บริการและผู้พัฒนาเกมออนไลน์ชั้นนำระดับโลก โดยมี Free Fire เกมมือถือประเภท mobile battle royale ที่การีนาพัฒนาขึ้นเอง และได้รับการจัดอันดับจาก App Annie ให้เป็นเกมที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในโลกติดกัน 2 ปีซ้อน (พ.ศ. 2562 - 2563)

การีนาดำเนินธุรกิจโดยสโมสรงานที่มีใจรักในเกมและมีความเข้าใจในความต้องการของเกมเมอร์ โดยให้บริการเกมชั้นนำชื่อดังจากพันธมิตรผู้พัฒนาเกมระดับโลก อาทิ เกม RoV (Arena of Valor) เกม Call of Duty : Mobile และเกม League of Legends ซึ่งเปิดให้บริการในมากกว่า 130 ตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นแพลตฟอร์มสื่อกลางที่มอบประสบการณ์ความบันเทิงผ่านเกมออนไลน์ เชื่อมโยงให้เกิดปฏิสัมพันธ์ของคนในสังคม การีนายังเป็นผู้ริเริ่มให้การสนับสนุนวงการกีฬาอีสปอร์ต (esports) ทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกเพื่อผลักดันให้ระบบนิเวศอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตมีความเข้มแข็งและยั่งยืน

การีนา เป็นบริษัทในเครือ Sea Limited (NYSE:SE) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มสำหรับผู้บริโภค ก่อตั้งที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปี 2552 โดยมีพันธกิจคือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและพัฒนาการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยด้วยเทคโนโลยี โดยธุรกิจในเครือได้แก่ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (SeaMoney)

6224
จากปลายปากกาของ “Daemi (แดมี่)”
กลายเป็นซีรีส์วายมาเฟีย “KinnPorsche The Series”
ดูออนไลน์แบบ Uncut บนแอป iQiyi และ www.iQ.com

               “17 ล้านวิว ในระยะเวลาเพียงแค่สองปี!!” นี่คือสถิติของนักเขียนนามปากกา “Daemi” (แดมี่) “ซึ่งถ้าเอ่ยชื่อมาตอนนี้ ในวงการหนังสือนิยายต่าง ๆ คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเจ้าของผลงานสุดฮิตจากเว็บไซต์ธัญวลัย โดย 2 นักเขียนกับลุคสุดเฟียต​ “ปอย (พรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ)” และ​ “หยก (สิทธิชัย ปัญญา)” เจ้าของนิยายผู้ซึ่งได้เขย่าวงการซีรีส์วายในบ้านเราอย่าง “KinnPorsche The Series (คินน์ พอร์ช เดอะ ซีรีส์)”


               ใครจะรู้ว่าจากนิยายแต่งขึ้น ที่ใส่ความเป็นตัวตนของแต่ละคนด้วยหลักความคิดที่ไม่ซับซ้อน อย่าง ”สิ่งที่เป็น และสิ่งที่อยากเป็น” จนกลายเป็นซีรีส์วายมาเฟียที่คนรอมากที่สุด!​“KinnPorsche The Series (คินน์พอร์ช เดอะ ซีรีส์)” ภายใต้นามปากกาสุดเก๋ “Daemi (แดมี่) ที่กวาดยอดวิวถึง 17 ล้านวิว ในเวลาเพียงแค่สองปี โดยคุณปอย (พรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ) และคุณหยก (สิทธิชัย ปัญญา) สองเพื่อนซี้เจ้าของพล๊อตเรื่องซีรีส์วายสายเลือดใหม่ได้ร่วมกันแต่งขึ้นพูดถึงที่มาของเรื่องนี้ว่า​ “มันเริ่มจากเหตุการณ์โควิดเมื่อสองปีที่แล้ว เราสองคนได้คุยกันถามไถ่สาระทุกข์สุขดิบทั่วไป จนมาถึงเรื่องหนังสือนิยาย กับซีรีส์ที่ชอบ จนเราได้มาคิดว่า จะดีกว่าไหมถ้าเราได้อ่านนิยาย หรือดูซีรีส์แบบที่เราชอบ มีเรื่องราวในแบบของเรา นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราสองคำตัดสินใจทำนิยาย โดยเอาสิ่งที่เราเป็น และสิ่งที่เราอยากจะเป็น ผสมกับสตอร์รี่ต่าง ๆ เวลาพวกเราอยู่ในแก๊งเพื่อนลงไปในนิยายของเรา ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้มีอะไรซับซ้อน พูดง่าย ๆ คือแค่ความเป็นมนุษย์ ที่มีนิสัยความชอบที่ไม่เหมือนกัน บุคลิกการแสดงออกที่ต่างกัน ล้วนแล้วแต่มีทั้งด้านดี และไม่ด้านดีเหมือน ๆ กัน บดเข้ากับความแฟนตาซีของความคิดที่อิสระแบบสุดโต้ง ฉะนั้นนิยายเรื่องนี้ก็เหมือนโลกอีกใบของพวกเรา” ปอย-พรรธน์ชญมน กล่าว

               หยก-สิทธิชัย กล่าวถึงตัวละครว่า “คาแรคเตอร์ต่าง ๆ ของตัวละครในซีรีส์ ส่วนหนึ่งมาจากบุคลิกเราสองคน แล้วเราก็ยังหยิบเอาจากคนรอบข้างอีกส่วนหนึ่ง อย่างที่บอกเราไม่ได้คิดอะไรที่เป็นกลไกลซับซ้อนเลย ทุกอย่างเราเห็นได้จากสิ่งที่อยู่รอบตัวเราทั้งนั้น คาแรคเตอร์ นิสัยของตัวละครก็เช่นกัน ซึ่งเปรียบได้กับตัวแทนที่สะท้อนอารมณ์ของความรัก โลภ โกรธ และหลง เราแค่ดึงออกมาให้ชัดขึ้น ลงลึกมากขึ้น เช่นทำไมคนคนนี้ถึงดูเก็กขรึมตลอด ทำไมอีกคนดูเพี๊ยน ๆ ทำไมอีกคนดูโตกว่าอายุ อะไรแบบนี้ ซึ่งถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าสิ่งที่แสดงออกมาแบบนี้แท้จริงแล้วมันคือเกราะป้องกันตัวเอง เมื่อเวลาเราไปอยู่ในที่ที่เรารู้สึกไม่ปลอดภัย”




               “KinnPorsche The Series La Forte (คินน์พอร์ช เดอะซีรีส์ ลา ฟอร์เต้)” ซึ่งเป็น iQiyi (อ้ายฉีอี้) ออริจินัลซีรีส์วายเรื่องแรก เป็นซีรีส์แนวแอ็คชั่น ดราม่า โรแมนติก คอมเมดี้ กลิ่นอายของวงการมาเฟีย ที่ซ่อนไปด้วยปมปริศนาอันวุ่นวายของลูกเจ้าพ่อเจ้าอารมณ์ และบอดี้การ์ดมาดกวน ที่เริ่มจากความร้ายแต่ลงท้ายด้วยความรักภายใต้เงื่อนไขของความไว้ใจ




                สามารถรับชม KinnPorsche The Series La Forte ดูออนไลน์เวอร์ชันเอ็กซ์คลูซีฟ แบบ UNCUT ที่เข้มข้นเข้าถึงอรรถรสมากยิ่งขึ้น ทุกวันเสาร์เวลาเที่ยงคืน 24.00 น บนแอปพลิเคชัน iQiyi (อ้ายฉีอี้) และเว็บไซต์ www.iQ.com ที่เดียวเท่านั้น

                สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก VIP สามารถรับชม แบบไม่มีโฆษณาคั่น ด้วยภาพคมชัดระดับ Full HD และเสียงระบบ Dolby เสมือนดูในโรงภาพยนตร์ โปรโมชั่นเดือนแรก จ่ายเพียง 35 บาท สามารถดูได้พร้อมกัน 2 จอ, ดาวน์โหลดเพื่อดูแบบออฟไลน์แบบไม่มีโฆษณาคั่น ด้วยภาพคมชัดระดับ Full HD และเสียงระบบ Dolby เสมือนดูในโรงภาพยนตร์ บนแอปพลิเคชัน iQiyi (อ้ายฉีอี้) และ เว็บไซต์ www.iQ.com

                ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทั้งสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตได้ใน AppStore และ Google Play – กดดาวน์โหลดฟรี  https://i.qy.net/f34caJ-b7 อัปเดต และติดตามความเคลื่อนไหวสาระบันเทิงยอดนิยมแห่งเอเชียได้ทางFacebookFanpage:http://www.facebook.com/iQIYIThailand; IG:@iQIYIThailand; Twitter:@iQIYIThailand; YouTube:iQIYIThailand

6225
วช. หนุนนักวิจัยไทยสร้างชื่อ เข้าร่วมงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติคว้าเหรียญทองเกียรติยศ และเหรียญทอง 11 รางวัล


เพื่อผลักดันการพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยและด้านการประดิษฐ์คิดค้น ให้นักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยผ่านการดำเนินกิจกรรมหลายรูปแบบ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงให้การสนับสนุนให้นักวิจัย/นักประดิษฐ์ไทยเข้าร่วมประกวดและนำเสนอผลงานในเวทีระดับนานาชาติ และหนึ่งในกิจกรรมที่ วช. ดำเนินการต่อเนื่องทุกปีคือ การสนับสนุนให้นักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทยส่งผลงานเข้าประกวดในงาน “Inventions Geneva Evaluation Days – Virtual Event” ซึ่งเป็นงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสวิสฯ อาทิ The Swiss Federal Government of the State และ The City of Geneva และองค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก  หรือ The World Intellectual Property Organization (WIPO)  ซึ่งจัดขึ้นตลอดช่วงเดือนมีนาคม 2565 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งนอกจากการเปิดโอกาสให้มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศแล้ว ยังเป็นช่องทางหนึ่งในการสร้างโอกาสแก่นักวิจัยและนักประดิษฐ์ของไทย สำหรับการรับรองมาตรฐานแก่ผลงานประดิษฐ์คิดค้น และการยอมรับในผลงานที่มีโอกาสทางการตลาดและพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์


ดร.วิภารัตน์  ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดเผยว่า ด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตร วช. ได้นำผลงานของนักวิจัย/นักประดิษฐ์ไทย จำนวน 35 ผลงาน จาก 17 หน่วยงานเข้าร่วมประกวด ประกอบด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา โรงเรียนนานาชาตินิสท์ โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ บริษัท เอ็นคอนเน็ค จำกัด  บริษัท เฮิร์บ การ์เดียน จำกัด บริษัท 7 ดราก้อน อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ฟู้ดแมททริซ์ โกลบอล จำกัด บริษัท อาร์ แอนด์ ดี รีเสิร์ช อินโนเวชั่น แอนด์ ซัพพลาย จำกัด จากผลงานของนานาประเทศที่ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดและแสดงนิทรรศการกว่า 500 ผลงาน จาก 20 ประเทศ  เป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งว่านักวิจัย/นักประดิษฐ์ไทย ได้รับรางวัลต่างๆ ในการประกวดสิ่งประดิษฐ์นานาชาติครั้งนี้ ประกอบด้วย รางวัลเหรียญทองเกียรติยศ (Gold with Congratulations of the Jury) จำนวน 1 รางวัล รางวัลเหรียญทอง จำนวน 11 รางวัล รางวัลเหรียญเงิน จำนวน 18 รางวัล รางวัลเหรียญทองแดง จำนวน 5 รางวัล โดยมีรายละเอียดดังนี้


รางวัลเหรียญทองเกียรติยศ (Gold with Congratulations of the Jury) จำนวน 1 ผลงาน เรื่อง อุปกรณ์เสริิมสำหรับเก้าอี้รถเข็น ขึ้นลงทางลาด โดย นายจีระศักดิ์ จิตรโรจนรักษ์ และ นางสาววริษฐา มโนรถจตุรงค์ แห่ง โรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา




สำหรับรางวัลเหรียญทอง จำนวน 11 ผลงาน ดังนี้ 1. เรื่อง อุปกรณ์ไมโครฟลูอิดิกส์ชิปสำหรับตรวจไมโครฟิลาเรียในเลือด โดผู้ช่วยศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิงศริยา อัศวกาญจน์ และคณะ แห่ง คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  2. เรื่อง Tri-interactive exercise with brain energy & stimulation training โดยรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงโสฬพัทธ์ เหมรัญช์โรจน์ และ นางสาวณัชณิชา เพ็ญศรีสิริกุล แห่ง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3. เรื่องนมข้นหวานจากข้าวและธัญพืช สูตรมังสวิรัติ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤติยา เขื่อนเพชร และคณะ แห่ง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 4. เรื่อง เฮมพ์-พารา วอลล์ : วัสดุก่อผนังฉนวนความร้อนจากแกนกัญชงอัดน้ำยางธรรมชาติ โดย ดร.ประชุม คำพุฒ และคณะ แห่ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 5. เรื่องการสร้างต้นแบบแท่งเย็น RIXI® สำหรับบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เกียรติศักดิ์ แสงประดิษฐ์ และ ดร.นิพัชชา โรจน์รัตนวาณิชย์ แห่ง สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี  6. เรื่องอาจารย์หุ่นยนต์ โดย ดร.ขวัญฤทัย บุญยะเสนา และคณะ แห่ง คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 7. เรื่อง  ฟิล์มโพรเทกซ์เตอร์ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.รังสิมา หญีตสอน และคณะ แห่ง คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  8. เรื่องฐานรองแก้วน้ำช่วยเตือนการดื่มน้ำ โดย นายจีระศักดิ์ จิตรโรจนรักษ์ และ เด็กชายสรกฤช ธัญญวรรณ์ แห่ง โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม  9. เรื่องกระบวนการผลิตเข็มขนาดไมครอนบนผืนผ้าแบบรวดเร็วและสามารถปรับเปลี่ยนฟีเจอร์ โดย ดร.ไพศาล ขันชัยทิศ และคณะ แห่ง ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  10. เรื่อง  ReLeep – A New Lifestyle Technology โดย ดร.เอกฉัตร บ่ายคล้อย และคณะ แห่ง บริษัท เอ็นคอนเน็ค จำกัด  11. เรื่องไฟท์ฝุ่นสเปรย์ลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 โดย  ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ร้อยตำรวจเอกหญิง ดร.สุชาดา สุขหร่อง และคณะ แห่ง  บริษัท เฮิร์บ การ์เดียน จำกัด






สำหรับรางวััลเหรียญเงิน จำนวน 18 ผลงาน ดังนี้ 1. เรื่อง สเปรย์สมุนไพรนาโนสูตรเย็นบรรเทาอาการปวดเมื่อย โดยนางสาววราภรณ์ โชติสวัสดิ์ และคณะ แห่ง คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  2. ชุดตรวจวิเคราะห์ดีเอ็นเอคู่ไม่สมอย่างรวดเร็ว  โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปาริยา ณ นคร และนางสาวกาญจนาพร ชมพูนุช แห่ง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3. เรื่องเซรั่มลดริ้วรอยเฟลมแอนด์เฟริ์ม โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปาริยา ณ นคร แห่ง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 4. เรื่อง ลิปซ์ เอสเทอร่า โปร เอ็มโฟร์เอ็กซ์ โดย  ดร.วรรณฑณี สิทธิวงษ์ และคณะ  แห่ง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 5. เรื่อง ปฏิกิริยาไบโอดีเซลชนิดแม่เหล็ก โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร บุญยืน และคณะ แห่ง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 6. เรื่อง โซโอเรียนติน สกัดจากใบไผ่เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและใช้งานด้านเวชสำอาง โดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร บุญยืน และคณะ แห่งคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 7. เรื่อง อาหารเสริม ไพรม์ วี หนึ่งห้าหนึ่งศูนย์ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภกร บุญยืน และคณะ แห่งคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 8. เรื่อง  เซนเซอร์ฉลาดสำหรับความปลอดภัยในอาหาร โดย รองศาสตราจารย์ ดร.นภาพร ยังวิเศษ และคณะ แห่ง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 9. เรื่อง  Real-time Water-saving Irrigation System for High Quality Organic Product in Arid Region to Supply High Value Organic Market โดย






รองศาสตราจารย์ ดร.ดุสิต อธินุวัฒน์ และคณะ แห่ง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์  10. เรื่อง นวัตกรรมชุดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออแกนิคจากข้าวหอมกระดังงาเพื่อการชะลอวัย โดย ดร.ไฉน น้อยแสง และคณะ แห่ง คณะการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี  11. เรื่อง น้ำยาทำความสะอาดผิวแบบเช็ดออกลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อจากการสัมผัส ด้วยสารสำคัญคือ lauryl glycoside และสารสกัดว่านหางจระเข้ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชุดาณัฏฐ์ สุดทองคง และ นางสาวจุฑาภรณ์ นันทจินดา  แห่ง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 12. เรื่อง  เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศโดยใช้รังสี UVC แบบติดเพดาน โดย นายจีระศักดิ์ จิตรโรจนรักษ์ และคณะ แห่ง โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม  13. เรื่อง นาโน-แอล โดย นายจีระศักดิ์ จิตรโรจนรักษ์ และ เด็กชายเศรษฐ์ศิริ ชัยยศบูรณะ แห่ง โรงเรียนนานาชาตินิสท์ 14. เรื่อง ตัวดูดซับอัจฉริยะ CARBANO-Ag สำหรับผลิตน้ำดื่มปลอดเชื้อและบำบัดมลพิษ โดย ดร.พงษ์ธวัฒน์ เข็มทอง และคณะแห่งศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 15. เรื่อง รีเชอรอล เนเชอรัล เฟเชียว ซีรั่ม จากเทคโนโลยีการกักเก็บสู่นวัตกรรมเครื่องสำอาง โดย ดร.ธงชัย กูบโคกกรวด และคณะ แห่ง ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 16. เรื่อง  อนุภาคนาโนแคลเซียมกักเก็บวิตามินดี โดย ดร.สุวิมล บุญรังสิมันตุ์ และคณะ  แห่ง ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 18. เรื่อง จี อาร์ เอ็กซ์ พลัส โดย นายยอดชาย ตั้งใจดีบริสุทธิ์ และคณะ แห่ง บริษัท ฟู้ดแมททริซ์ โกลบอล จำกัด  รางวัลเหรียญทองแดง จำนวน 5 ผลงาน ดังนี้ 1. เรื่อง ห้องปฏิบัติการดีจัง โดย นายพรคิด อั้นขาว และคณะ แห่ง คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร  2. เรื่อง แอปพลิเคชั่นปฏิสัมพันธ์ การตรวจจับสัญญาณมือจราจร โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชุดาณัฏฐ์ สุดทองคง และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรพงศ์ สุนทรพิพิธ แห่ง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี  3. เรื่อง  ปลอดภัยหายห่วงไปกับ Wristband อัจฉริยะ โดย นายอานนท์ มากมี และคณะ แห่ง โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี  4. เรื่อง การศึกษาและพัฒนาการค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะด้วยวิธี Transit Photometry โดย นายวิเชียร ดอนแรม และคณะ  แห่ง โรงเรียนวิทยศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี 5. เรื่อง  Colosal-D: สารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤิทธิ์ยับยั้งยีนส์ชราและชะลอวัยในอุตสาหกรรมการแพทย์และผิวหนัง โดย ดร.เดวิด มกรพงศ์ และคณะ แห่ง บริษัท อาร์ แอนด์ ดี รีเสิร์ช อินโนเวชั่น แอนด์ ซัพพลาย จำกัด






Pages: 1 ... 413 414 [415] 416 417 ... 2255