This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
1
Sport News & Motor Sport / 5 โปรหนุ่มไทยผ่านควอลิฟาย คว้าตั๋วลุยเอเชียน ทัวร์ ฤดูกาล 2025
« on: Today at 07:19:39 PM »5 โปรหนุ่มไทยผ่านควอลิฟาย คว้าตั๋วลุยเอเชียน ทัวร์ ฤดูกาล 2025
21 ธันวาคม 2567 – เอเชียน ทัวร์ ได้นักกอล์ฟ 35 คน คว้าทัวร์การ์ดลุยฤดูกาล 2025 จากการชิงชัยรอบควอลิฟายอิ้งสคูลสเตจสุดท้ายที่สนามเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมี 5 โปรหนุ่มไทยได้สิทธิลงแข่งขันในทัวร์ได้สำเร็จ
เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันควอลิฟายอิ้งสคูลสเตจสุดท้าย ชิงชัย 5 รอบ ระหว่างวันที่ 17-21 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ สนามเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,973 หลา พาร์ 71 อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อคัดผู้เล่นที่จบในอันดับท็อป 35 จะได้สิทธิ์ลงเล่นในเอเชียนทัวร์ฤดูกาล 2025 ผลปรากฎว่า ทาคุมิ มุระคามิ นักกอล์ฟวัย 25 ปี จากญี่ปุ่น หวดเพิ่มวันสุดท้ายได้อีก 1 อันเดอร์พาร์ 70 จบด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 335 คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 7,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 256,000 บาท โดยเฉือนชนะ คยุง กังนัม จากเกาหลีใต้ เพียงสโตรคเดียว
ทางด้านนักกอล์ฟชาวไทยที่ทำผลงานติดท็อป 35 คน มี 5 คน ได้แก่ จักรนาถ อินมี สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 342 จบอันดับ 13 รวมถึง ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ (อันดับ 15), เอกปริษฐ์ หวู่ (อันดับ 17) และ เศรษฐี ประคองเวช (อันดับ 20) มีสกอร์รวมเท่ากันที่ 12 อันเดอร์พาร์ 343 และฉ่างไท้ สุดโสม สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 345 รั้งอันดับ 28 คว้าตั๋วลงเล่นฤดูกาล 2025 ได้สำเร็จ
สำหรับกอล์ฟเอเชียน ทัวร์ จะเปิดฤดูกาล 2025 ด้วยศึกฟิลิปปินส์ โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 5 แสนเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 17 ล้านบาท แข่งขัน ณ สนามมะนิลา เซาธ์วูดส์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 23-26 มกราคมปีหน้า ต่อด้วยการแข่งขันอินเตอร์เนชั่นซีรีส์ อินเดีย ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 68 ล้านบาท ปลายเดือนมกราคม
ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
2
ข่าวบันเทิง / ปักหมุดไว้ดูเลย “แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก” 3 ภาครวดที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24
« on: Today at 06:32:07 PM »ปักหมุดไว้ดูเลย “แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก” 3 ภาครวดที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24
ขอยกให้ “แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก” เป็นหนังเฟรนไชส์ที่สนุกสุดมันส์ กับฉากไล่ล่าสุดระห่ำของตำรวจคู่หู ไมค์และ มาร์คัส แห่งกรมตำรวจไมอามี่ ที่ออกปราบปรามอาชญากรรมแบบโหดมันส์ฮา ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 จัดเต็มความสนุกให้ชมกันยาวๆ ทั้ง 3 ภาค ต้อนรับวันหยุดกับเทศกาลคริสต์มาส!
ประเดิมด้วย “แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก” ภาคแรก ที่เริ่มต้นในปี 1995 ภาพยนตร์แอ็กชั่นคอมเมดี้ที่นำแสดงโดย วิล สมิธ รับบทเป็น ไมค์ โลว์รีย์ และ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ รับบทเป็น มาร์คัส เบอร์เน็ตต์ ในบทบาทของตำรวจคู่หูที่ต้องตามหายาเสพติดที่ถูกขโมยไป โดยภาค 1 สามารถกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 140 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่สูงมากในปีนั้น ดูกันได้ในวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 12.30 น ต่อด้วย “แบดบอยส์ คู่หูขวางนรก 2” ออกอากาศวันอังคารที่ 24 ธันวาคม เวลา 12.30 น. ภาคต่อที่เต็มไปด้วยการไล่ล่าและการต่อสู้ เมื่อคู่หูต้องเผชิญหน้ากับเจ้าพ่อค้ายาเสพติดที่อันตรายอย่าง จอห์นนี่ ทาเปีย (จอร์ดี้ มอลล่า) และยังต้องไปช่วย ซิด (แกเบรียล ยูเนี่ยน) ซึ่งเป็นน้องสาวของมาร์คัส ที่แอบแฝงตัวไปทำงานกับทาเปีย และเธอยังเป็นคนรักของไมค์อีกด้วย ตบท้ายด้วยความสนุกจาก ภาค 3 “คู่หูขวางนรก ตลอดกาล” ออกอากาศวันพุธที่ 25 ธันวาคม เวลา 12.30 น. มาร์คัสตัดสินใจที่จะปลดเกษียณตำแหน่งของตัวเองเพื่อไปใช้ชีวิตที่ “ปลอดภัย” กับครอบครัว ส่วนไมค์ยังคงสนุกกับงานและการใช้ชีวิตแบบหล่อเท่ตามเดิม จนกระทั่งวันหนึ่งไมค์ถูกลอบสังหารจากอาชญากรลึกลับจนอาการสาหัสปางตาย ไม่นานนักเขาก็เริ่มค้นพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกี่ยวพันกับอดีตของตัวไมค์เอง
3
news & activity / 💡ถอดรหัส เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เติบโตสวนกระแสตลาดก่อสร้างพัฒนา
« on: Today at 04:32:52 PM »💡ถอดรหัส เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เติบโตสวนกระแสตลาดก่อสร้างพัฒนา “ปูนเอสซีจี คาร์บอนต่ำ” รายแรกของไทยบุกตลาดโลก 🌍
ทำไมปูนเอสซีจี คาร์บอนต่ำได้รับการยอมรับระดับโลก ส่งออกสู่อเมริกา 1.3 ล้านตัน แคนาดา ออสเตรเลีย อาเซียน
ลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 15-20% ด้วยปูนคาร์บอนต่ำ เจเนอเรชัน 2 ✨
🪴มั่นใจในคุณภาพ ผิวเรียบ แข็งแรงทนทาน อายุยาวนาน
🪴 ตอบโจทย์โครงการต่าง ๆ ได้ดี ทั้งอาคารใหญ่ นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ ไปจนถึงงานใต้ทะเล
🪴ลดต้นทุนให้ภาคธุรกิจจากการเริ่มใช้มาตรการภาษีคาร์บอนในหลายประเทศ
#SCG #LowCarbonCement #ปูนคาร์บอนต่ำ #ปูนเอสซีจี #InclusiveGreenGrowth #GreenInnovation #SCGthePossibilities #เป็นไปได้ไปด้วยกัน #โตด้วยกรีนโตด้วยกัน
4
news & activity / ชวนช้อปเพลินเดินชิล ในงาน NEW YEAR CELEBRATION 2025
« on: December 20, 2024, 09:52:41 PM »ชวนช้อปเพลินเดินชิล ในงาน NEW YEAR CELEBRATION 2025
ศูนย์การค้าแพลทินัม ชวนช้อปเพลินเดินชิล ในงาน NEW YEAR CELEBRATION 2025 พบกับของขวัญของฝากมากมาย ให้เลือกสรรเพื่อส่งมอบความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กับสินค้า GIFT SET เพื่อสุขภาพ อาทิ ชุดสปาผ่อนคลาย สินค้าที่ระลึกแบบ DIY กระเป๋าผ้าถัก ฯลฯ พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารไทยและนานาชาติสไตล์สตรีทฟู้ดรวมมากกว่า 70 ร้านค้า นอกจากนี้ยังมีการแสดงมายากลและพาเหรด Percussion ที่ยกขบวนความสุขมาให้ชมกัน อย่างใกล้ชิด ในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.
พลาดไม่ได้กับสินค้าอาหารของขวัญของฝากสุดประทับใจในงาน NEW YEAR CELEBRATION 2025 ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 ณ ลานกิจกรรมด้านหน้าศูนย์การค้าแพลทินัม ติดตามรายละเอียดร้านค้าและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ได้ที่ FB: Platinum Fashion Mall แพลทินัม แฟชั่น มอลล์
5
news & activity / WakaStudio ตอบรับเทรนด์ Character Music ส่งศิลปิน “เพนนี” สร้างสีสันให้วงการเพลง
« on: December 20, 2024, 09:16:14 PM »WakaStudio ตอบรับเทรนด์ Character Music ส่งศิลปิน “เพนนี” สร้างสีสันให้วงการเพลง
สตูดิโอน้องใหม่ WakaStudio ที่เคยฝากชื่อในวงการเกม และออกแบบคาร์แรคเตอร์ กระโดดเข้าวงการเพลง ร่วมส่งความสดใสให้ชาวไทยและต่างประเทศ ผ่านศิลปินหน้าใหม่ “เพนนี” ตัวละครแพนด้าสุดคิ้วท์ ตอบรับกระแส Character Music
WakaStudio เกิดจากแนวคิด “Everything is Fun” สร้างสรรค์ความสนุกในทุกโมเมนต์ โดยศิลปินคนแรกเริ่มต้นจากความเชี่ยวชาญของ WakaStudio ในด้าน Character Design เพื่อเป็นสื่อกลาง สร้างความสุข และพัฒนาต่อยอดมาเป็น “Penny The Panda” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “เพนนี” แพนด้าสาว วัยรุ่นสุดคิ้วท์น่ากอด โดยตั้งเป้าเป็นศิลปินที่จะสร้างความสนุกในรูปแบบใหม่ และเข้าถึงง่ายสำหรับคนทุกกลุ่ม
นายพิศร จึงวิวัฒน์อนันต์ กรรมการผู้จัดการ WakaStudio เผยว่า “ในยุคปัจจุบันที่แฟนเพลงต้องการ ประสบการณ์บันเทิงรูปแบบไหม่ WakaStudio ได้ใช้แนวคิด Character Music ในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยหวังจะช่วยยกระดับคาร์แรคเตอร์ผ่านบทเพลง ให้น่าจดจำทั้งระดับประเทศและสากล”
โดยล่าสุดได้ปล่อยซิงเกิ้ล “แพนด้าชอบกินไผ่” ให้เหล่าแฟนเพลงป๊อปได้ลองฟัง ผ่านทางแอป Music Streaming ชั้นนำทั่วไป
ติดตามความเคลื่อนไหวของ WakaStudio และ Penny The Panda ได้ทาง Youtube : PennyThePanda, TikTok : PennyThePanda, Facebook : pennythepanda.th และ Instagram : pennythepanda.th
6
ข่าวบันเทิง / สัมมนาติดอาวุธเติมความรู้ส่งท้ายปี! TNN ช่อง 16 จัดงาน “Path to Sustainability”
« on: December 20, 2024, 08:11:14 PM »สัมมนาติดอาวุธเติมความรู้ส่งท้ายปี!
TNN ช่อง 16 จัดงาน “Path to Sustainability”
ปั้นแบรนด์ธุรกิจสู่ความยั่งยืน ปรับกลยุทธ์รับมือเศรษฐกิจโลกปี 2568
TNN ช่อง 16 จัดงาน “Path to Sustainability”
ปั้นแบรนด์ธุรกิจสู่ความยั่งยืน ปรับกลยุทธ์รับมือเศรษฐกิจโลกปี 2568
20 ธันวาคม 2567 กรุงเทพ - รายการ “การตลาดเงินล้าน” TNN ช่อง 16 จัดงานสัมนา "Path to Sustainability : ปั้นแบรนด์ธุรกิจ สู่ความยั่งยืน" เปิดมุมมองการทำการตลาดยุคใหม่ ปรับกลยุทธ์วางแผนธุรกิจรับความท้าทายในปี 2568 เผยเคล็ดลับการสร้างแบรนด์ที่มีคุณค่าและยั่งยืน จากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตในสมรภูมิการค้าโลกได้อย่างแข็งแกร่ง โดยงานจัดขึ้นที่ บริเวณด้านหน้า เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2568 เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญความท้าทาย จากการแข่งขันภายนอกที่รุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ เศรษฐกิจผันผวน ปัญหาสิ่งแวดล้อม และภัยพิบัติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างชัดเจน โดยในอาเซียนคาดการณ์ความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่ 1 ล้านล้านบาท หากแบรนด์สามารถปรับกลยุทธ์การตลาด เพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านี้ ก็จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และนำไปสู่ความยั่งยืนของธุรกิจ นอกจากนี้ การปรับแนวคิด Conventional Brand ไปสู่ Sustainable Brand หรือ “แบรนด์ที่ยั่งยืน” โดยยังคงเน้นผลกำไรควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างมูลค่าสินค้า และบริการภายใต้แนวคิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการกำหนดเป้าหมายของแบรนด์ให้เกิดผลบวกต่อสังคม พร้อมใช้นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจเข้มแข็ง
หลังจากนั้น ไปฟังกุญแจไขสู่ความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ จาก นายธีระพงศ์ ระบือธรรม ประธานกรรมการ บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด เผยว่า ปัญหาหนึ่งที่นักการตลาดต้องเจอ เมื่อสินค้ามีกระแสตอบรับที่ดีจะเกิดการแข่งขันด้านราคา ดังนั้นหากปรับราคาลง ก็ต้องลดคุณภาพลงด้วย ซึ่งแบรนด์หงส์ไทยไม่ทำการตลาดลักษณะนี้ โดยเชื่อว่าการรักษาคุณภาพจะทำให้แบรนด์ไม่ตาย และสิ่งสำคัญคือการเก็บข้อมูลด้านการตลาดให้มากที่สุด เพื่อนำมาต่อยอดพัฒนาสินค้า
ด้าน นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปลี่ยนแนวคิดจากการรับจ้างผลิตให้แบรนด์ต่างๆ มาเป็นเจ้าของแบรนด์ และเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง ปัจจุบันบริษัทได้ลดสัดส่วนการรับจ้างผลิตให้ลูกค้าต่างประเทศลดลงเหลือเพียง 10% โดยบริษัทจะเน้นศึกษาข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของซาบีน่า ด้วยการรวบรวมข้อมูลมาพัฒนาสินค้า และบริการ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น พร้อมมุ่งเน้นการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ปิดท้ายงานสัมมนาด้วย กลยุทธ์การปั้นแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง จาก นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า สิ่งที่แบรนด์มากุโระให้ความสำคัญ คือ การค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเป็นธุรกิจด้านอาหาร วัตถุดิบและรสชาติ รวมถึงกระบวนการปรุงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ยังใช้ทุกชิ้นส่วนของวัตถุดิบอย่างคุ้มค่า เพื่อลด “ขยะอาหาร” ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความใส่ใจ ทั้งนี้ สามารถรับชมคลิปสัมมนาย้อนหลังทางเว็บไซต์ www.tnnthailand.com และทาง Youtube ของ TNN ช่อง16
7
news & activity / DGA เตรียมจัดงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล DG Awards 2024
« on: December 20, 2024, 07:53:16 PM » สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA เตรียมจัดงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลประจำปี ๒๕๖๗ หรือ DG Awards 2024 ให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลในระดับสูง ในวันศุกร์ที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐–๑๑.๓๐ น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการมอบรางวัล พร้อมด้วย นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ตัวแทนหน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เข้าร่วมงานในครั้งนี้
8
news & activity / SCGD เดินหน้าสู่หุ้นยั่งยืน คว้า SET ESG Rating ระดับ “A” กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
« on: December 20, 2024, 10:42:38 AM »SCGD เดินหน้าสู่หุ้นยั่งยืน คว้า SET ESG Rating ระดับ “A” กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอสซีจี เดคคอร์ (SCGD) เปิดเผยว่า “SCGD ได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้เป็นหนึ่งใน “หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings” ระดับ A กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Propcon) ประจำปี 2567 สะท้อนการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในไทยและอาเซียน สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ลงทุนในระยะยาว โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม พร้อมกับการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อ สิ่งแวดล้อม สังคม ผ่านการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance: ESG) สอดคล้องกับเทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืน”
ที่ผ่านมา SCGD มุ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยพัฒนานวัตกรรมสินค้ากรีนที่ตอบเทรนด์ลูกค้ารักษ์โลกอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างกลุ่มสินค้ากระเบื้องรักษ์โลก หรือ ECO Collection กลุ่มสินค้าสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ขณะเดียวกันยังมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 หรือ NET ZERO 2050 จึงเร่งลงทุนในโครงการลดต้นทุนจากการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อย่างต่อเนื่อง สามารถผลิตไฟฟ้าจากโซลาเซลล์ประมาณ 10% ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด และโครงการใช้พลังงานชีวมวลประมาณ 19% ของพลังงานความร้อนทั้งหมด คิดเป็นต้นทุนพลังงานที่ลดลงประมาณ 280 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 300,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าเพิ่มการใช้งานพลังงานโซลาร์เซลล์ และพลังงานชีวมวล เป็น 15% และ 46% ภายในปี 2573 ตามลำดับ
การประเมิน SET ESG Ratings จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นเครื่องมือที่แสดงให้เห็นถึงการเป็นหุ้นยั่งยืน ซึ่งนักลงทุนจะใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนในบริษัทที่ทำเรื่อง ESG ได้โดดเด่น ทั้งนี้ ในปี 2567 มีบริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนอยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืน 228 บริษัท โดยเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Propcon) จำนวน 34 บริษัท
9
news & activity / ศูนย์การค้าแพลทินัม ชวนอิ่มอร่อยสุดคุ้มกับโปรโมชั่น SAWASDEE NEW YEAR 2025
« on: December 20, 2024, 12:07:49 AM »ศูนย์การค้าแพลทินัม ชวนอิ่มอร่อยสุดคุ้มกับโปรโมชั่น SAWASDEE NEW YEAR 2025
ศูนย์การค้าแพลทินัม ร่วมส่งมอบความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ชวนอิ่มอร่อยยกชั้นที่โซน SAWASDEE FOODIE HUB ชั้น 5 ศูนย์รวมความอร่อยสไตล์ไทย คอนเซ็ปต์ ตลาดน้ำ – งานวัด พบกับโปรโมชั่นอิ่มอร่อยสุดคุ้ม SAWASDEE NEW YEAR 2025 ที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้
- ร้าน ZOOK ZAAP 56 ทานอาหารครบ 300 บาท รับส่วนลด 150 บาท
- IYARA FRUIT ซื้อครบ 500 บาท รับฟรี ตุ๊กตาช้างไอยรา มูลค่า 399 บาท
- ร้าน MANGO SIAM พร้อมเสิร์ฟเมนูเซตพิเศษในราคา 129 บาท
(รับน้ำมะม่วงปั่นมูลค่า 129 บาท ทานคู่กับข้าวเหนียวมะม่วง 70 บาท )
- MY AVOCADO รับส่วนลด 10 บาท สำหรับเมนูเครื่องดื่มอาโวคาโดปั่น
- ร้านปังสยาม ซื้อเมนูเครื่องดื่มครบ 120 บาท รับส่วนลด 10 บาท
- ร้าน KHOBKHUN ซื้อ 4 แถม 1 สำหรับสินค้าราคา 250 บาทและซื้อ 5 แถม 1 สำหรับสินค้าราคา 120 บาท
- DURIAN STORY ซื้อ 1 แถม 1
- GU ROTI CHA CHAK ลด 50 % เมื่อสั่งเมนูที่สอง
- LIME PALM ลด 30 บาท เมื่อสั่งเครื่องดื่มแก้วที่สอง
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มๆ อีกมากมายให้เลือกสรร พร้อมรับชมการแสดงฟ้อนรำและดนตรีโปงลาง ทุกวันศุกร์และวันเสาร์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 4 มกราคม 2568 พลาดไม่ได้ ! กับโปรโมชั่นสุดคุ้มอิ่มอร่อย ตั้งแต่วันนี้จนถึง 8 มกราคม 2568 โซน SAWASSDEE FOODIE HUB ชั้น 5 ศูนย์การค้าแพลทินัม ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ใน FB: Platinum Fashion Mall แพลทินัม แฟชั่น มอลล์
10
news & activity / พานาโซนิค มอบโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ โรงเรียนพื้นที่ห่างไกล จ.เชียงราย
« on: December 19, 2024, 11:39:46 PM »พานาโซนิค มอบโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์
โรงเรียนพื้นที่ห่างไกล จ.เชียงราย ยกระดับคุณภาพชีวิตยามค่ำคืน
โรงเรียนพื้นที่ห่างไกล จ.เชียงราย ยกระดับคุณภาพชีวิตยามค่ำคืน
กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย โดยโครงการ “พานาโซนิค แคร์” มอบโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Lanterns) จำนวน 100 ชุด ภายใต้โครงการ “Light up The Future” ให้แก่โรงเรียนบ้านแม่ตาแมว และโรงเรียนบ้านปางหก อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนแสงสว่างเพื่อดำเนินชีวิตประจำวันยามค่ำคืน และยังต้องเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดจากการสูดดมควันตะเกียงน้ำมัน
มร.ฮิเดคาสึ อิโตะ ซีอีโอ กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย กล่าวว่า “พานาโซนิคมีปณิธานการดำเนินธุรกิจที่มุ่งใส่ใจในสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี ความปลอดภัย ความสะดวกสบายของผู้คน สังคม และทุกชีวิตบนโลกอย่างยั่งยืน พานาโซนิค โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จึงได้ดำเนินโครงการ “Light up The Future” บริจาค “โคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Lanterns)” ส่งมอบแสงสว่างให้กับผู้คนและชุมชนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ กว่า 760 ล้านคนในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นทั้งด้านการศึกษา สุขภาพอนามัย และความปลอดภัยในชีวิต ซึ่งพานาโซนิค ได้ริเริ่มโครงการนี้ ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน และได้ส่งมอบโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้วกว่า 120,000 ชุด ใน 30 ประเทศ ของทวีปเอเชีย แอฟริกา และ ลาตินอเมริกา โดยในประเทศไทยได้เริ่มทำโครงการนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 และได้มอบโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้วเป็นจำนวนรวม 392 ชุด ให้กับชุมชนใน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ อ.สังคม จ.หนองคาย อ.ยะหา และ อ.กาบัง จ.ยะลา
ในปีนี้ กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย โดยโครงการ “พานาโซนิค แคร์” (Panasonic Cares) ได้สานต่อโครงการดังกล่าว ด้วยการนำทีมผู้บริหารและพนักงานลงพื้นที่ที่ยังคงขาดแคลนแสงสว่างในอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เพื่อมอบ “โคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์” (Solar Lanterns) จำนวน 50 ชุด ให้แก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่ตาแมว และอีก 50 ชุดให้แก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านปางหก เพื่อยกระดับการเรียนรู้ ให้เด็ก ๆ ได้มีแสงสว่างในการอ่านหนังสือ และยกระดับคุณภาพชีวิต ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวมีความสะดวกต่อการประกอบอาชีพ และดำเนินชีวิตในยามค่ำคืนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ ที่พานาโซนิคพัฒนาขึ้นนั้น มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ให้แสงสว่างเพียงพอ ลดการใช้ตะเกียงน้ำมันที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของคนในครอบครัว
และเพื่อเป็นการส่งต่อรอยยิ้ม เรายังได้จัดเตรียมมื้ออาหารกลางวันสำหรับเด็ก ๆ พร้อมกับนำสิ่งของจำเป็น อาทิ เสื้อกันหนาว ถุงเท้า และเครื่องเขียน ที่พนักงานของเราได้ร่วมกันบริจาค นำมาส่งมอบให้เด็ก ๆ ในครั้งนี้อีกด้วย
โดยโครงการ “พานาโซนิค แคร์ (Panasonic Cares)” เป็นโครงการเพื่อตอบแทนสังคมไทยของกลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย ภายใต้กรอบการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ Sustainable Development Goals (SDGs) ในมิติต่าง ๆ ได้แก่ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี คุณภาพการศึกษา ระบบนิเวศบนบกที่ยั่งยืน การขจัดความยากจน การบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ ผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
###
About Panasonic Cares
“พานาโซนิค แคร์” (Panasonic Cares) คือ โครงการเพื่อสังคมซึ่งเป็นความร่วมมือของกลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย เริ่มดำเนินงานในปี 2566 ภายใต้คอนเซ็ปต์ For the Wellbeing of People, Society and the Planet ที่มุ่งตอกย้ำเจตนารมณ์การดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจในสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี ความปลอดภัย ความสะดวกสบายของผู้คน สังคม และทุกชีวิตบนโลกอย่างยั่งยืน ด้วยการวางกรอบการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ Sustainable Development Goals (SDGs) ใน 3 มิติ คือ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health & Well-Being) คุณภาพการศึกษา (Quality Education) และระบบนิเวศบนบกที่ยั่งยืน (Life on Land) และในปี 2567 ได้นำกรอบ SDGs ที่สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของบริษัทเข้ามาเป็นกรอบการดำเนินงานเพิ่มเติม ได้แก่ “การขจัดความยากจน” (No Poverty) และ “การบริโภคและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ” (Responsible Consumption and Production) และยังสอดคล้องกับ Panasonic Green Impact โครงการระยะยาวเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับพานาโซนิคกรุ๊ปทั่วโลก ที่มุ่งมั่นสร้างความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนและลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมไปแล้วมากมาย อาทิ การมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่โรงเรียน โรงพยาบาล การปลูกต้นไม้ร่วมกับชุมชน การสนับสนุนด้านสุขภาพของพนักงานและครอบครัว และล่าสุดกับกิจกรรมมอบชุดถังขยะแยกประเภท ส่งให้กับชุมชนทั่วประเทศ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ให้เยาวชนได้เรียนรู้ถึงการจัดการขยะที่ถูกต้อง ลดปัญหาขยะล้นเมืองและรักษาสภาพแวดล้อมในชุมชนให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยนำร่องที่จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดแรก และต่อยอดสู่จังหวัดสมุทรปราการ
11
news & activity / "Thailand Halal Assembly 2024" โชว์ศักยภาพฮาลาลไทยในยุคเทคโนโลยีดิจิตอล
« on: December 19, 2024, 08:25:30 PM »"Thailand Halal Assembly 2024" โชว์ศักยภาพฮาลาลไทยในยุคเทคโนโลยีดิจิตอล หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย
เมื่อโลกก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิตอล ทิศทางฮาลาลจะเป็นอย่างไร พร้อมค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจและ เทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคตได้ กับงานฮาลาลที่ดีที่สุดในไทย “ #ThallandHalalAssembly2024 " ภายใต้แนวคิด "Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs" หรือ "ความไว้วางใจด้านฮาลาล ผ่านเทคโนโลยี ดิจิทัลสองเอไอ” หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย อีกทั้งช่วยให้ประเทศ ไทยได้ขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลโลก โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 20 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมอัลมีรอช กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน
รศ.ดร.วินัย ตะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธาน จัดงาน Thailand Halal Assembly 2024 กล่าวว่า # ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ( #ศวฮ.) เป็น เจ้าภาพหลักในการจัดงาน "Thailand Halal Assembly 2024 ( #THA2024 )" การประชุมวิชาการด้าน วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมฮาลาลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ ความรู้ใหม่และนวัตกรรมใหม่ๆ ในโลกฮาลาล ให้กับมุสลิมด้วยกันเอง และผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมที่มีความสนใจใน อุตสาหกรรมสาลาล โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs" หรือ “ความไว้วางใจด้านฮาลาลผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลสองเอไอ" ซึ่งปฏิเสรไม่ได้ว่าปัจจุบันโลกของเราก้าวสู่การ เป็นโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ #2AIs ที่ต้องการนำเสนอในงานครั้งนี้ได้แก่ เลโอที่ หนึ่ง คือ Actual Implementation ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานผ่านการอัพสกิล ฝึกปฏิบัติด้วยหนึ่งสมองสองมือในการ ทำงาน เช่น งานการมาตรฐานฮาลาล, การวางระบบ HAL-Q. งานห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล, งานพัฒนา นวัตกรรม, งานพัฒนาฐานข้อมูล H numbers, การตัดสินทางศาสนา (ฟุตวา) เพื่อให้มนุษย์หรือคนยังคงสภาพผู้นำ โดยมีเครื่องจักรและเอไอเป็นผู้ตาม และเอไอที่สอง คือ Artificial Intelligence โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อบริหาร จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต และช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ฮาลาล"
ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ งาน IHSATEC (International Halal Science and Technology Conference) ครั้งที่ 11 และงาน HASIB (Halal Science, Industry and Business) งานประชุมวิชาการ ฮาลาลนานาชาติ ครั้งที่ 17 โดยมีหัวข้อการประชุมหลัก คือ “2 AIs for Thailand's Halal Trust & Confidence" และหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ สาสาลกับสุขภาพและความงาม, ฮาลาลกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม และ Halal Route Workshop ซึ่งทั้งสองงานประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการจัดการประชุมระดับ นานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และธุรกิจฮาลาล โดยมีผู้เข้าร่วมจากมากกว่า 40 ประเทศ บทความวิชาการที่นำเสนอในการประชุม จะได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการนานาชาติ JHASIB หรือ Journal of Halal Science, Industry and Business ซึ่งจะเผยแพร่ปีละสองฉบับ เพื่อส่งเสริม งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สา ลาลในระดับสากล
รวมถึง โซน SMEs ฮาลาล การจัดแสดงศักยภาพผู้ประกอบการในการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ร่วม พัฒนาโดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีพัฒนาการทั้งกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ และ การตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการที่นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกิจกรรมนี้ ซึ่งได้รับการคัดเลือก จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะได้รับรางวัลนวัตกรรม SMEs ฮาลาล รวม 18 สถานประกอบการ จากผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เช่น Suwirun Tea Shop Thailand Premium Organic Tea, Madi Kombucha, Vanapan Vegan Nail Care และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย และที่ห้ามพลาดกับ นิทรรศการ "Halal Trust Through Digital Technology 2AIs" ที่ผสานการนำไปปฏิบัติจริงกับปัญญาประดิษฐ์ (Al) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและอุตสาหกรรมฮาลาลในประเทศไทย เกิดความน่าเชื่อถือและเสริมสถานะ บนเวทีโลก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้คาดว่าจะมี ประโยชน์ อย่างยิ่งต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม และธุรกิจ ฮาลาล ช่วยให้ประเทศไทยขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลจากมูลค่าปัจจุบัน 6.1 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐ โดยไม่รวมการท่องเที่ยวฮาลาล ยา และโลจิสติกส์ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในขณะนี้
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลและนวัตกรรมฮาลาล ค้นพบโอกาสใหม่ๆ ทาง ธุรกิจและเทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคต รวมถึงติดตามข่าวสารต่างๆ ของงานเพิ่มเติมได้ที่ www.Thailandhalalassembly.com , Facebook: Thailand Halal Assembly หรือโทร. 02-218-0618 รศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย
12
news & activity / วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม ตราไทเชฟ อร่อยเต็มคำ
« on: December 19, 2024, 07:25:14 PM »วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม ตราไทเชฟ อร่อยเต็มคำ
ไทเชฟ (ThyChef) ผู้นำด้านผงโรยอาหารและผงชงเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติ ขอแนะนำ วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม มีทั้งหมด 3 กลิ่น ได้แก่ กลิ่นมะพร้าว กลิ่นเมล่อน และกลิ่นสตรอว์เบอร์รี ที่มาพร้อมกับความนุ่ม หนุบหนับ สามารถนำไปท็อปปิ้งน้ำแข็งใส บิงซู หรือนำไปทานคู่กับเครื่องดื่มแบบเย็น แบบปั่น หรือนำไปทานคู่กับขนมหวานก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูทานเล่นที่หวาน หอม อร่อย เคี้ยวเพลิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาขนมทานเองที่บ้าน หรือพ่อค้า แม่ค้า กำลังมองหาเมนูสำหรับขายในช่วงปีใหม่ สามารถนำผลิตภัณฑ์ของไทเชฟไปสร้างกำไรได้
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของไทเชฟ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วประเทศ หรือบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อทางออนไลน์กับบริการ “ฟาสต์ ไทเชฟ” สั่งวันนี้ ส่งวันนี้พรุ่งนี้ถึง เร็วทันใจที่ www.thychef.com หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%40thychef หรือทาง Lazada : https://www.lazada.co.th/shop/thychef ,Shopee : https://s.shopee.co.th/ 7zslrSS489 ,FB: ThyChef, ID Line: @thychef สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-968-3723-6
13
news & activity / เอสซีจีหนุน SME ด้วยโครงการ Go Together เปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ
« on: December 19, 2024, 06:40:28 PM »เอสซีจีหนุน SME ด้วยโครงการ Go Together เปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ เปิดโรงงานทั่วประเทศให้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน
เอสซีจีเดินหน้าชูโครงการ Go Together ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เชิญผู้ประกอบการมุ่งเปลี่ยนผ่านสู่การดำเนินธุรกิจแบบคาร์บอนต่ำตลอดห่วงโซ่อุปทาน ด้วยการจัดกิจกรรมเปิดโรงงานของเอสซีจีทั่วประเทศตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 รวม 8 ครั้ง ให้ SME ผู้ร่วมโครงการ Go Together กว่า 600 คน ได้เรียนรู้จากหน้างานจริง เพื่อนำไปปรับใช้ในการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ลดต้นทุน ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาด เตรียมพร้อมรับมือกับทุกความท้าทาย ทั้งยังสร้างเศรษฐกิจเติบโตในภาพรวม สร้างผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตามแนวทาง Inclusive Green Growth
นายชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจีได้ศึกษาดูงานจากต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และได้นำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานโดยคำนึงถึงลักษณะธุรกิจ สถานการณ์ และสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราจึงอยากส่งต่อสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ดังนั้นจึงได้เปิดบ้านหรือโรงงานของเราในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศให้ SME มาเยี่ยมชม เพื่อจุดประกายไอเดีย และสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินธุรกิจสีเขียวในแง่การลดคาร์บอน ลดต้นทุน และลดความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการ Go Together เน้นให้ผู้ประกอบการร่วมศึกษา เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และตัวอย่าง พร้อมรับคำปรึกษา รวมทั้งสร้างเครือข่ายการเข้าถึงเทคโนโลยี และแหล่งทุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจปัญหาที่แท้จริง กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อมุ่งหาอุปกรณ์ วิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับ SME ทั้งขนาดกลางและขนาดย่อมให้ตอบโจทย์ความต้องการสูงสุด”
นอกจากความรู้ที่ได้จากการศึกษาดูงานแล้ว โครงการนี้ยังช่วยสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งซึ่งพร้อมปรับตัวให้อยู่รอดท่ามกลางวิกฤตที่ท้าทาย ให้เกิดการต่อยอดแลกเปลี่ยนความคิดและความรู้ระหว่างผู้ประกอบการจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะเสาหลักอุตสาหกรรมของประเทศซึ่งมีสมาชิกอยู่กว่า 10,000 ราย นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากสมาคมธนาคารไทย ที่มีส่วนช่วยผลักดันด้านเงินทุนสนับสนุน Green Finance ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในภาพรวม สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน
เอสซีจี วางแผนต่อยอดให้ผู้ประกอบการเดินหน้าต่อสู้ภาวะโลกเดือดไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง ด้วยการจัดหลักสูตร NET ZERO Accelerator Program หรือ NZAP ระยะเวลาเรียน 8 สัปดาห์ ในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2568 สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง - ย่อม และผู้บริหารภาครัฐรุ่นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ประกอบการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ลดต้นทุน สร้างกำไร พร้อมสร้างความเข้าใจในภาครัฐเพื่อต่อยอดการปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งรู้จักและใช้เทคโนโลยีเป็นระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และเปิดโอกาสการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐ ติดตามรายละเอียดได้จาก เฟสบุ๊ค SCG HR Solutions
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://www.scgnewschannel.com /Facebook: scgnewschannel และ Line@: @scgnewschannel
14
news & activity / ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ผนึกสามหน่วยงานรัฐ-เอกชน
« on: December 19, 2024, 06:28:46 PM »ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ผนึกสามหน่วยงานรัฐ-เอกชน เปิดตัวโมเดลรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่รุ่น MSU-8
ผนึกสามหน่วยงานรัฐ-เอกชน เปิดตัวโมเดลรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่รุ่น MSU-8
กรุงเทพฯ 19 ธันวาคม 2567 – ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล (ที่ 5 จากซ้าย) ศ.ดร.นพ. ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช (ที่ 6 จากซ้าย) รศ.นพ. ยงชัย นิละนนท์ ประธานศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (ที่ 7 จากซ้าย) รศ.ดร.ธนภัทร์ วานิชานนท์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ที่ 4 จากซ้าย) นายดาเรน แอมบรอส กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) และ นายคริส พอเรย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส ประเทศไทย (ที่ 8 จากซ้าย) ร่วมเปิดตัวรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่รุ่น MSU-8 มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย ช่วยยกระดับการวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันในขั้นตอนก่อนถึงโรงพยาบาลให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดอัตราการพิการหรือเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทย รวมถึงเป็นโมเดลต้นแบบการพัฒนารถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ให้แก่โรงพยาบาลทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ อาคารศรีสวรินทิรา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เมื่อเร็ว ๆ นี้
###
รายนามบุคคลในภาพเรียงจากซ้ายไปขวา
1. นายสแตนเลย์ ชาน ไว จง ผู้จัดการทั่วไป ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท อาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ จำกัด
2. นายดาเรน แอมบรอส กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอ็มเอ ออโตโมทีฟ จำกัด
3. รศ.ดร. พรชัย ชันยากร รองคณบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพกระบวนงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
4. รศ.ดร.ธนภัทร์ วานิชานนท์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
5. ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
6. ศ.ดร.นพ. ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช
7. รศ.นพ. ยงชัย นิละนนท์ ประธานศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
8. นายคริส พอเรย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส ประเทศไทย
15
news & activity / โรงพยาบาลพระรามเก้า ผนึกกำลัง SCGC ขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเปลี่ยนแกลลอน
« on: December 18, 2024, 09:57:15 PM »โรงพยาบาลพระรามเก้า ผนึกกำลัง SCGC ขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเปลี่ยนแกลลอนน้ำยาล้างไตเป็นถุงพลาสติกรีไซเคิลสำหรับใช้ในโรงพยาบาลเดินหน้าดูแลสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความยั่งยืน
โรงพยาบาลพระรามเก้า ผู้ให้บริการทางการแพทย์ชั้นนำ ผนึกกำลัง เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) ผู้นำธุรกิจพอลิเมอร์ครบวงจรเพื่อความยั่งยืน เดินหน้าขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการจัดการแกลลอนน้ำยาล้างไตใช้แล้วให้กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลระบบปิดอย่างครบวงจร เปลี่ยนเป็น Green Polymer เม็ดพลาสติกคุณภาพสูงด้วยนวัตกรรมรีไซเคิลจาก SCGC เพื่อผลิตเป็นถุงพลาสติกรีไซเคิลสำหรับใช้ในโรงพยาบาลทั้งในพื้นที่ผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ช่วยคืนคุณค่าให้พลาสติกใช้แล้ว ลดการใช้ทรัพยากรใหม่อย่างยั่งยืน พร้อมปลุกจิตสำนึกรักษ์โลกและสร้างวิถีใหม่สู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งเป้าขยายผลนำเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงจากโครงการฯ ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกอื่น ๆ เพื่อใช้ภายในโรงพยาบาลพระรามเก้าต่อไปในอนาคต
นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า “โรงพยาบาลพระรามเก้าเล็งเห็นความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ตามแนวทาง ESG คือ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และหลักธรรมาภิบาล (Governance) ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของโรงพยาบาลฯ เราวางรากฐานด้วยการทำ Digital Transformation สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อบุคลากรของเรา ซึ่งนอกจากการมุ่งมั่นยกระดับการให้บริการที่มีประสิทธิภาพแล้ว เรายังมุ่งให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย พญ.กีรติ์นุช เรียวโชติสกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โรงพยาบาลยังมุ่งเน้นหลักการ 1A3Rs ภายในองค์กร คือ Avoid, Reduce, Reuse, Recycle เพื่อให้เกิดการจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสำหรับโครงการ“เปลี่ยนแกลลอนน้ำยาล้างไตเป็นถุงพลาสติกรีไซเคิล” ในครั้งนี้ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคไตที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีฟอกไตที่โรงพยาบาลพระรามเก้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปริมาณการใช้น้ำยาล้างไตก็มากขึ้นด้วย ส่งผลให้แกลลอนน้ำยาไตที่อยู่ในกลุ่มขยะรีไซเคิลมีปริมาณเพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนั้นด้วยนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจึงได้ร่วมมือกับ SCGC นำแกลลอนเหล่านี้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกสำหรับใช้ภายในโรงพยาบาล โดยโครงการนี้ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา”
นายชาตรี เอี่ยมโสภณา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพาณิชย์ SCGC เผยว่า “SCGC ได้นำแนวทาง ESG มาใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมุ่งสู่ Low Waste, Low Carbon เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน พร้อมสร้างวิถีใหม่สู่สังคมคาร์บอนต่ำ หัวใจสำคัญของหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน คือ การบริหารจัดการให้พลาสติกใช้แล้วหมุนเวียนกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างครบวงจร ซึ่ง SCGC มีความเชี่ยวชาญและได้คิดค้นพัฒนานวัตกรรมรีไซเคิลขั้นสูงมาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ยอมรับจากแบรนด์ต่าง ๆ สามารถผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ SCGC Green PolymerTM เพื่อป้อนตลาดรักษ์โลก เช่น บรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและบำรุงผิว แกลลอนน้ำยาล้างจาน ขวดน้ำมันหล่อลื่น และถังสีทาอาคาร เป็นต้น สำหรับความร่วมมือกับโรงพยาบาลพระรามเก้าในครั้งนี้ เป็นการนำแกลลอนน้ำยาล้างไตใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลระบบปิดอย่างครบวงจร เปลี่ยนเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงพอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง (High Quality PCR HDPE Resin) เพื่อนำไปผลิตเป็นถุงพลาสติกรีไซเคิลกลับมาใช้ภายในโรงพยาบาล โดยถุงพลาสติกรีไซเคิลนี้มีส่วนผสมของเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงพอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูงถึง 30%”