Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - happy

Pages: 1 ... 1654 1655 [1656] 1657 1658 ... 2254
24826
กองประกวดปล่อยภาพ Portrait สาวงาม Miss Tiffanyทั้ง30 คนในชุดราตรีสุดปัง!
































24827
Miss Tiffany’s Universe 2016 เผยโฉม 30 สาวงามในชุดราตรีสุดปัง
พร้อมชวนแฟนๆ ไลค์ & แชร์คนที่ ใช่ให้คว้าตำแหน่ง Miss Popular Vote 2016


เดินหน้าสร้างความ “ปัง” อย่างต่อเนื่อง สำหรับการประกวด Miss Tiffany’s Universe 2016  ล่าสุดจับ 30 สาวงามผู้เข้ารอบสุดท้ายจัดเต็มเสื้อผ้าหน้าผมในชุดราตรีเรียบหรูดูแพง ในการถ่ายภาพนิ่ง ชุด “After” จากฝีมือของช่างภาพชั้นนำระดับอินเตอร์ โอ๊ต ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี สะท้อนพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ทัศนคติ สไตล์ บุคลิกภาพ และจิตวิญญาณ ของบรรดาสาวงามหลังรับการขัดเกลาจากสุดยอด Inspirators ในเวิร์กช็อปสร้างแรงบันดาล “Lifespiration” สู่การเป็นสาวงามที่คู่ควรกับตำแหน่งมิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส คนที่ 19

แต่แค่ดูอย่างเดียวยังไม่พอ! Miss Tiffany’s Universe 2016 ชวนแฟนนางงามโหวตสาวงามที่ชื่นชอบให้ครองตำแหน่ง Miss Popular Vote 2016 ผ่านการโหวตออนไลน์ โดยเข้าไปที่ Facebook ของ Miss Tiffany's Universe แล้วคลิกไลค์ & แชร์คลิปวิดีโอและรูปถ่ายของคนที่คุณคิดว่า“ปัง” จาก 3 อัลบั้มต่อไปนี้






-   วิดีโอคลิปแนะนำตัวผู้เข้าประกวด Miss Tiffany’s Universe 2016
-   ภาพถ่ายชุด Before
-   ภาพถ่ายชุด After


นับคะแนนจากยอดไลค์และแชร์ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2559 เวลา 24.00 น. โดยสาวงามผู้ครองตำแหน่ง Miss Popular Vote 2016 จะได้รับรางวัลเงินสด 15,000 บาท สายสะพาย และสิทธิผ่านเข้าสู่รอบ 12 คนสุดท้ายโดยอัตโนมัติ

สำหรับการประกวดรอบตัดสินจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2559 ณ โรงละครทิฟฟานี่โชว์ พัทยา ตั้งแต่เวลา 21.00 น. โดยสาวงามผู้ที่ “ปัง” ที่สุดในทุกด้านจะได้ครองตำแหน่ง Miss Tiffany’s Universe 2016 พร้อมด้วยสายสะพาย มงกุฎเพชร รถยนต์ เงินรางวัลและของรางวัลจากผู้สนับสนุนการประกวด มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท

ผู้สนใจเข้าชมการประกวดรอบตัดสินสามารถสำรองที่นั่งได้ที่โรงละครทิฟฟานี่ โชว์ พัทยา โทร.038-421-700-5 หรือรับชมการถ่ายทอดการประกวด “Miss Tiffany’s Universe 2016” ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ตั้งแต่เวลา 23.00 น. หรือรับชมการถ่ายทอดสดผ่าน Live Streaming ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป ทาง YouTube ช่อง Miss Tiffany's Universe และ www.MissTiffanyUniverse.com

ติดตามข่าวสารการประกวดฯ เพิ่มเติมได้ที่
www.MissTiffanyUniverse.com
www.facebook.com/MissTiffanyUniverse
www.instagram.com/MissTiffanyUniverse







24828
ฝุ่น...ภัยร้ายที่ซ่อนในบ้านคุณ!!

ไดสันและศูนย์บริการและวิจัยไรฝุ่นศิริราชเผยถึงความจริงที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น...ของไรฝุ่น
ภายในบ้านพักอาศัยของประชากรในกรุงเทพฯ

ผลการสำรวจเผย:
•   1 ใน 4 ของบ้านพักอาศัยในกรุงเทพฯ เสี่ยงต่อการเป็นโรคภูมิแพ้ไรฝุ่น
•   ระดับ แอนติเจน (สิ่งหรือสารแปลกปลอม ที่จะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน กระตุ้นให้สร้างแอนติบอดี้ เปรียบได้กับข้าศึกที่เข้ามาเพื่อมุ่งจะทำลายร่างกาย) ที่พบในบ้านพักอาศัยบางหลังของคนกรุงเทพ อยู่ในระดับที่สูงเกินกว่า 10 ไมโครกรัม/กรัม ซึ่งจากผลวิจัยขององค์การอนามัยโลกระบุว่า แอนติเจน ในระดับนี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการหอบหืดได้ 
•   จากรายงานการศึกษาครั้งนี้พบว่า ปริมาณของฝุ่นแค่เพียง 1 กรัม สามารถพบไรฝุ่นในนั้นได้ถึง 56 ตัว ในบางกรณีที่ร้ายแรงอาจพบไรฝุ่นได้ถึง 220 ตัว



คุณเคยสงสัยไหมว่าภายในบ้านที่ดูสะอาด...แท้จริงแล้วมีอะไรซ่อนอยู่ในนั้น หลังผ้าม่าน ใต้ที่นอน ซอกเฟอร์นิเจอร์ มีอะไรสะสมไว้ในนั้น ไดสัน บริษัทผู้นำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเทคโนโลยีของโลกจากประเทศอังกฤษ และเป็นบริษัทที่ทุ่มเทเพื่อพัฒนาคุณภาพของสภาพแวดล้อมภายในบ้าน ได้ดำเนินการสำรวจภายในบ้านของจังหวัดกรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบและเข้าใจถึงศัตรูล่องหนว่าซ่อนตัวอยู่ที่ใด

โดยไดสันได้ร่วมมือกับศูนย์บริการและวิจัยฝุ่นศิริราช ดำเนินการเก็บฝุ่นจากบ้านพักอาศัยที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง เพื่อทำการศึกษาถึงสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้าน ทั้งนี้ทางทีมวิจัยได้ดำเนินการเก็บฝุ่นโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นของ Dyson เป็นเครื่องมือในการเก็บฝุ่น เนื่องจากมีพลังในการดักจับและดูดฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูดได้แม้กระทั่งฝุ่นขนาดเล็กมากที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น รวมถึงสิ่งสกปรกที่มีอนุภาคเล็กมากๆด้วยเช่นกัน เพื่อให้การศึกษาได้ผลออกมาอย่างแม่นยำที่สุด  บริเวณที่ทีมวิจัยเน้นในการเก็บฝุ่นตัวอย่างได้แก่ พื้นบ้าน ที่นอน และบริเวณชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางโทรทัศน์ เป็นต้น


สารก่อภูมิแพ้ภายในบ้าน

ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้น จำนวนของประชากรโลกกว่าครึ่ง ประสบกับปัญหาโรคภูมิแพ้(1) และประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของชาวเอเชียแปซิฟิคยอมรับว่าประสบปัญหาโรคภูมิแพ้ในทางเดินหายใจ(2) โรคภูมิแพ้สามารถเกิดขึ้นได้จากสารก่อภูมิต้านทาน หรือ แอนติเจนหลายชนิดที่อยู่รอบตัวเราในความหนาแน่นที่มาก ไรฝุ่นถือเป็นอันดับ 1 ของสารก่อภูมิแพ้ที่พบในบ้าน ที่เป็นต้นเหตุของอาการภูมิแพ้ในประเทศไทย(3)

รายงานการศึกษาฝุ่นของไดสันพบว่า 1 ใน 4 ของบ้านพักอาศัยในกรุงเทพมีระดับแอนติเจนจากไรฝุ่นในปริมาณสูง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ไรฝุ่นของผู้อยู่อาศัยมากขึ้นด้วย (หากมีความหนาแน่นของสารก่อภูมิต้านทาน หรือ แอนติเจนในระดับสูงกว่า 2 ไมโครกรัม/กรัม จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อความไวที่จะทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ไรฝุ่น สำหรับบุคคลที่สุขภาพไม่แข็งแรง)

ผลการศึกษาเผยว่าระดับสารก่อภูมิต้านทาน หรือ แอนติเจนในบางครัวเรือนสูงกว่า 10 ไมโครกรัม/กรัม ซึ่งเสี่ยงต่อโอกาสเกิดโรคหอบหืดเมื่ออ้างอิงจากองค์การอนามัยโลก นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบว่าระดับไรฝุ่นสูงสุดที่พบจากกลุ่มตัวอย่างในกรุงเทพฯสูงถึง 15.67 ไมโครกรัม/กรัม
                                                                 
ไรฝุ่นชนิดที่พบบ่อยภายในบ้านพักอาศัยของประชากรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีดังต่อไปนี้ Dermatophagoide pteronyssinus หรือ ไรฝุ่นยุโรป Dermatophagoide farina หรือ ไรฝุ่นอเมริกา และ Blomia tropicalis หรือไรฝุ่นเขตเมืองร้อน รายงานจากประเทศสิงคโปร์เผยว่าไรฝุ่นเหล่านี้สามารถพบเจอได้ทุกที่ทั่วโลก ไม่เฉพาะแต่พื้นที่ที่เป็นชื่อเรียกทางการของไรฝุ่นชนิดเหล่านั้น ซึ่งในพื้นที่เขตร้อนชื้นจะมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของไรฝุ่นอยู่แล้ว ทำให้สามารถพบชนิดของไรฝุ่นได้หลากหลาย

รายงานฉบับนี้ยังเผยอีกว่า ปริมาณของฝุ่นแค่เพียง 1 กรัม สามารถพบไรฝุ่นในนั้นได้ถึง 56 ตัว ในบางกรณีที่ร้ายแรงอาจพบไรฝุ่นได้ถึง 220 ตัว   โดยปกติแล้วผิวหนังของมนุษย์จะหลุดร่วงไปตามธรรมชาติประมาณ 28 กรัมในทุกๆเดือน ซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นยอดให้แก่ไรฝุ่น ไม่เพียงแต่ไรฝุ่นเท่านั้น มูลของไรฝุ่นก็เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน เนื่องจากมีโปรตีนที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ในปริมาณสูง และเป็นที่มาของอาการหอบหืดและภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ  หนึ่งในโปรตีนนั้นมีทั้งเอนไซม์ที่ทำให้ผิวหนังหลุดร่วงและเชื้อราซึ่งเป็นอาหารของไรฝุ่น


1. World Health Organization. White Book on Allergy 2011-2012 Executive Summary. By Prof. Ruby Pawankar, MD, PhD, Prof. Giorgio Walkter Canonica, MD, Prof. Stephen T. Holgate, BSc, MD, DSc, FMed Sci and Prof. Richard F. Lockey, MD. 2. EAACI. Global atlas of allergic rhinitis and chronic rhinosinusitis. 2015. 3.Choovivathanavanich P, et al. J Med Assoc Thai 1971; 54:826-35. Daengsuwan T, et al. Asian Pac J Allergy Immunol 2003; 21:199-204.

ภัยร้ายจากฝุ่น...พบได้ทุกที่

เชื้อราที่พบภายในบ้านจะสืบพันธุ์โดยปล่อยสปอร์ขนาดเล็กมาก ซึ่งมักจะเป็นตัวกระตุ้นอาการภูมิแพ้ต่างๆรวมไปถึงหอบหืด และมีผลต่อผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จากการศึกษาพบว่าในหนึ่งตัวอย่างมีปริมาณเชื้อราอยู่ 628 cfu (หน่วยที่ได้จากวิธีตรวจนับปริมาณจุลินทรีย์) ต่อฝุ่น 1g และเชื้อราเพียงตัวเดียวสามารถผลิตโปรตีนมากกว่า 40 ชนิดที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ อาการของภูมิแพ้ที่เกิดจากเชื้อรา คือ จาม อาการคัดจมูก และอาการคันที่ตาหรือน้ำตาไหล

Prasarnphanich T, Sindhurat S. Pediatr Allergy Immunol 2005; 16:402-7.
Kongpanichkul A, et al. J Med Assoc Thai 1997; 80:69-75.


ขนาดสปอร์ของเชื้อราบางสายพันธุ์ เช่น Aspergillus Penicillium และ Cladosporium จะมีขนาดที่เล็กมาก (น้อยกว่า 10 ไมครอน) จึงทำให้แทรกตัวลงไปยังหลอดลมได้ง่ายและทำให้เกิดอาการแพ้ที่มาจากระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น อาการหอบหืดหรือผนังถุงลมหนาขึ้น จากการศึกษาพบตัวอย่างที่มีเชื้อราหนาแน่นที่สุดสูงถึง 1,208 cfu/g ในเขตร้อนชื้นจะพบเชื้อราได้มาก ดังนั้นเมื่อมีจำนวนเชื้อราที่มีความหนาแน่นมาก ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดอาการภูมิแพ้ที่สูงขึ้น

ไดสัน...สามารถกำจัดภัยร้ายจากฝุ่น

อาการภูมิแพ้กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลกด้วยสาเหตุจากไรฝุ่นหรือเชื้อราเป็นสาเหตุหลัก และจากการศึกษาของไดสันได้ยืนยันว่าทั้งไรฝุ่นและเชื้อรานั้นอยู่รอบๆตัวเรา การมีระบบการทำความสะอาดที่ดีและการถ่ายเทอากาศอย่างเป็นประจำเป็นเรื่องสำคัญในการจัดการกับสิ่งที่ไม่ต้องการเหล่านี้

ไดสันได้พัฒนาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายเพื่อรับมือกับศัตรูร้ายล่องหนเหล่านี้ ตั้งแต่ฝุ่นรวมไปถึงสารก่อภูมิแพ้ต่างๆที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นบ้าน ที่นอน จนกระทั่งอณูต่างๆที่ล่องลอยในอากาศที่เราหายใจเข้าไป  ทั้งนี้ไดสัน ดิจิตอล มอเตอร์ V6 เป็นหัวใจหลักของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายของไดสัน โดยดิจิตอล มอเตอร์ V6 ทำให้เครื่องดูดฝุ่นไดสันเป็นเครื่องดูดฝุ่นอันทรงพลังที่สุดตั้งแต่เคยผลิตมา มีศักยภาพในการดูดและกำจัดฝุ่นรวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆได้อย่างเต็มที่ ใช้งานง่าย สะดวกสบาย ตัวกรองที่มีประสิทธิภาพสูงทำให้สามารถดักจับสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างยอดเยี่ยมและยังปล่อยอากาศบริสุทธิ์ยิ่งกว่าอากาศที่เราหายใจอยู่ในปัจจุบัน


###

Notes to editors

ห้องปฏิบัติการณ์จุลชีววิทยาของไดสัน:

•   ไดสันเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่มีห้องปฏิบัติการณ์จุลชีววิทยาภายในบริษัทเป็นของตัวเอง ห้องปฏิบัติการณ์นี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ของไดสันสามารถศึกษาจุลินทรีย์และสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็ก จากนั้นนักวิศวกรของไดสันจะนำข้อมูลวิทยาศาสตร์ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆของไดสัน เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขลักษณะและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าในปัจจุบัน

•   ในห้องปฏิบัติการณ์จุลชีววิทยาของไดสัน นักวิทยาศาสตร์สามารถเพาะเลี้ยงไรฝุ่นเองได้ ทั้ง ไรฝุ่นสายพันธุ์ยุโรป (Dermatophagoidespteronyssinus)  และไรฝุ่นสายพันธุ์อเมริกา (Dermatophagoidesfarinae) โดยให้อาหารด้วยยีสต์ผสมกับจมูกข้าวสาลีและอาหารสุนัข และรักษาไว้ในอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสและความชื้นที่ระดับ 75% +  การเพาะเลี้ยงไรฝุ่นทำให้นักวิทยาศาสตร์ของไดสันสามารถศึกษาพฤติกรรมไรฝุ่นและสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ที่ผลิตออกมา

เกี่ยวกับรายงานการศึกษาฝุ่นของไดสัน

รายงานการศึกษาฝุ่นของไดสันเป็นการศึกษาขนาดเล็ก โดยเก็บฝุ่นจากกลุ่มตัวอย่างบ้านพักอาศัยในหลากหลายพื้นที้ และนำผลจากการเก็บกลุ่มตัวอย่างนี้ มาศึกษาวิเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงอันตรายของฝุ่น...ภัยร้ายในบ้าน ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าที่เราคิด รวมทั้งหาแนวทางป้องกันฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เพื่อให้บ้านที่เราอาศัย เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและมีสิ่งแวดล้อมที่ดีเหมาะกับการพักอาศัยอย่างแท้จริง

วิธีการเก็บกลุ่มตัวอย่างฝุ่น: ทีมงานจะดำเนินการเก็บกลุ่มตัวอย่างแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นไร้สายของไดสัน ที่มีไดสัน ดิจิตอล มอเตอร์ V6 เป็นขุมพลัง แบ่งเป็น

1.   การเก็บกลุ่มตัวอย่างบริเวณพื้น:  ในบริเวณนี้จะใช้หัวแปรงแบบ motorised brush bar ที่เป็นหัวแปรงสำหรับการทำความสะอาดพื้นโดยเฉพาะ หรือ สามารถหัวแปรงแบบ Fluffy ของเครื่องดูดฝุ่นไดสัน  รุ่น Dyson Fluffy ได้
2.   การเก็บกลุ่มตัวอย่างบนที่นอน: เครื่องดูดฝุ่นของไดสันจะมีหัวแปรงขนาดเล็ก ที่ออกแบบเฉพาะมาสำหรับการทำความสะอาด ดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกบนที่นอนโดยเฉพาะ สามารถดูดขึ้นมาได้แม้สิ่งสกปรกที่ยึดติดฝังลึกในที่นอน

หลังจากการเก็บกลุ่มฝุ่นตัวอย่างในแต่ละครั้ง จะดำเนินการเทสิ่งที่ดูดมาได้ทิ้งและจัดเก็บในอุปกรณ์ภาชนะที่ปิดไว้เพื่อป้องกันการปนเปื้อน

กลุ่มตัวอย่าง: ทดสอบจากกลุ่มตัวอย่างบ้านพักอาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 30 หลัง ขั้นตอนการดำเนินการเก็บตัวอย่างรวมถึงทำการวิเคราะห์ วิจัยฝุ่นที่เก็บได้ กระทำภายใต้ระบบที่มีมาตราฐานอย่างเคร่งครัด และมีความเชื่อถือได้ - โดยศูนย์บริการและวิจัยฝุ่นศิริราช

โรคภูมิแพ้ – การกำจัดสิ่งสกปรกที่เรามองไม่เห็นด้วยตา:

-   ปัจจุบันมีประชากร 400 ล้านคนทั่วโลกที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้
-   ฝุ่นในบ้านเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้ผู้คนประสบปัญหาภูมิแพ้ภายในบ้าน
-   ละอองเกสรบางชนิดสามารถเดินทางได้ไกลกว่า 100 ไมล์ไปสู่สภาพอากาศที่อุ่นและแห้ง จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการภูมิแพ้
-   บนที่นอนอาจมีไรฝุ่นตั้งแต่ 100,000 – 1 ล้านตัวอาศัยอยู่
-   โดยเฉลี่ยแล้วพรมหนึ่งผืนจะมีไรฝุ่นสูงถึง 1,000 ตัวต่อตารางเมตร
-   สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ที่มาจากเชื้อรามักจะก่อให้เกิดอาการเรื้อรัง และเกิดอาการได้ตลอดทั้งปี อาการจะรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อสภาพอากาศเปียกชื้นและอบอ้าว โดยเฉพาะสภาพอากาศในฤดูร้อนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีอากาศร้อนชื้น

24829



การสร้างบิลค่าบริการที่ดีกว่าเดิม
โดย: โจนาห์ พรานสกาย, ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ ด้านการจัดการรายได้และโซลูชั่น, แอมดอกซ์


คุณคิดว่าผู้ให้บริการทางโทรคมนาคมมองว่าช่องทางใดเป็นช่องทางการติดต่อลูกค้าที่สำคัญที่สุด? ลองขบคิดดู สำหรับท่านที่ตอบว่า “บิลค่าบริการรายเดือน” คุณคิดถูกแล้ว เนื่องจากบิลค่าบริการรายเดือนสร้างโอกาสให้ผู้ให้บริการติดต่อลูกค้าโดยตรงได้ 12 ครั้งต่อปี ซึ่งพวกเขาสามารถใช้โอกาสนี้ในการสร้างความประทับใจและแนะนำสินค้าและบริการใหม่ๆ รวมถึงแนะนำโปรโมชั่นที่เหมาะสมตามการใช้งานของพวกเขา
 
ถึงแม้ว่าบิลค่าบริการรายเดือนจะมีความสำคัญทางด้านการสื่อสารกับลูกค้า อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมยังคงพยายามที่จะยกเลิกวิธีการแจ้งค่าบริการประเภทกระดาษ เพราะมีราคาแพงและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลักดันให้ลูกค้าหันมาใช้การแจ้งค่าบริการรายเดือนรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bills ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มักจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงรูปแบบนี้ โดยมีผู้ให้บริการเพียง 10-30% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยน เนื่องจากลูกค้าจำเป็นจะต้องจำชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านในการแจ้งค่าบริการรายเดือนรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสร้างความยุ่งยากให้กับพวกเขา นอกจากนี้ ลูกค้ามักไม่ไว้วางใจในข้อมูลที่ปรากฏในระบบออนไลน์ เนื่องจาก พวกเขาเคยเจอข้อมูลจากหลายหลากช่องทางที่ไม่ตรงกัน
 
 
ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าว เป็นปัญหาสำหรับทั้งผู้ให้บริการและลูกค้า โดยผู้ให้บริการต้องลงทุนเงินจำนวนมากสำหรับการพิมพ์และจัดส่งบิลค่าบริการรายเดือนทางไปรษณีย์  ขณะเดียวกัน ลูกค้าที่ต้องการบิลที่ชัดเจนและช่องทางการชำระที่สะดวกสบาย แต่ไม่ได้รับความพึงพอใจจาก e-bills
 
เพื่อสร้างความประทับใจ แอมดอกซ์ได้พัฒนาประสบการณ์การแจ้งค่าบริการผ่านหลายช่องทาง หรือ Omni-Channel Billing Experience ซึ่งเป็นเรียกเก็บค่าบริการรายเดือนในรูปแบบของไฟล์ HTML ที่ลูกค้าสามารถโต้ตอบได้ผ่านทางอีเมล์ จึงทำให้ผู้ให้บริการสามารถติดต่อลูกค้าได้อย่างสะดวก 12 ครั้งต่อปี อีกทั้งลูกค้ายังสามารถตรวจเช็คบิล, อัพเกรดโปรโมชั่น, ตรวจเช็คประวัติการชำระค่าบริการ และชำระเงินได้อย่างสะดวกสบาย การรวมช่องทางผ่านระบบ omni-channel จะช่วยลดความซับซ้อน และช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใช้งานที่สอดคล้องกันในทุกช่องทาง


###

เกี่ยวกับ แอมดอกซ์

แอมดอกซ์ ผู้นำทางด้านโซลูชั่นซอฟต์แวร์และบริการสำหรับผู้ให้บริการทางด้านการสื่อสาร, เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และมีเดีย ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมไปถึง The New World of Customer Experience™ ที่นำเสนอนวัตกรรมการบริการส่วนบุคคลให้กับลูกค้าผ่านดีไวซ์และเน็ตเวิร์คทุกรูปแบบ กว่า 30 ปี โซลูชั่นต่างๆจากแอมดอกซ์ ซึ่งประกอบไปด้วย BSS, OSS, การจัดการเน็ตเวิร์ค และ Optimization รวมไปถึงบริการและการจัดการระดับมืออาชีพ ทำให้มูลค่าทางธุรกิจของลูกค้าเติบโตขึ้น โดยการลดความซับซ้อนของของระบบปฏิบัติการ, ลดค่าใช้จ่าย และใช้เวลาสำหรับวางแผนการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการรูปแบบใหม่ๆ

แอมดอกซ์และพนักงานกว่า 24,000 คนให้บริการลูกค้าในกว่า 90 ประเทศ และอยู่ในรายชื่อ NASDAQ Global Select Market ในปีการเงิน 2015 แอมดอกซ์มีรายได้ 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐ

Amdocs: Embrace Challenge, Experience Success. ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.amdocs.com

24830


ลาซาด้า ตั้งศูนย์เทคโนโลยี (Tech Hub) ในประเทศไทย
ดันพัฒนาโมบายล์คอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ลาซาด้า กรุ๊ป ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เปิดตัวศูนย์เทคโนโลยี (Tech Hub) ในกรุงเทพฯ ประเทศไทยเพื่อเตรียมพร้อมผลักดันการพัฒนาโมบายล์คอมเมิร์ซอย่างมียุทธศาสตร์ พร้อมมุ่งยกระดับประสบการณ์ของกลุ่มผู้ซื้อ – ผู้ค้าของลาซาด้าในภูมิภาคนี้ให้ดียิ่งขึ้น
 
ศูนย์เทคโนโลยีลาซาด้าประจำประเทศไทย จะมุ่งเน้นการดีไซน์ที่ล้ำสมัย พร้อมปรับปรุงเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของลาซาด้าบนแพลตฟอร์มมือถือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเนื่องด้วยจำนวนแอปพลิเคชั่นที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 30 ล้านครั้ง รวมถึงข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2558 ที่ผ่านมา ระบุว่า มูลค่าการขายสินค้า (Gross Merchandize Value) กว่า 60% ของลาซาด้ามาจากการซื้อขายผ่านมือถือทั้งสิ้น ลาซาด้าจึงได้ตัดสินใจลงทุนด้านโมบายล์คอมเมิร์ซ  ผ่านการริเริ่มพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ และปรับปรุงเว็บไซต์ให้ง่ายต่อการใช้งานบนมือถือมากยิ่งขึ้น


นายไอฟอ อีวานส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยี ลาซาด้ากรุ๊ป กล่าวว่า “นวัตกรรมบนมือถือเป็นสิ่งที่ผู้นำในตลาดออนไลน์จำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างจริงจัง รวมถึงการมีบุคลากรที่ดี และมีความสามารถก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบผลิตภัณฑ์และแก้ไขปัญหาต่างๆ  ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเอื้อต่อการใช้งานที่ง่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและประสบการณ์ของผู้ค้าและผู้บริโภคของเราอีกด้วย เราเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการดึงดูดบุคลากรที่มีพรสวรรค์และทักษะในด้านนี้ และในฐานะที่ลาซาด้าเป็นผู้นำด้านการช้อปปิ้งและแพลตฟอร์มพื้นที่ขายของออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะยกระดับการพัฒนาด้านโมบายล์และเทคโนโลยีในภูมิภาคนี้ต่อไป”
 
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ศูนย์เทคโนโลยีแห่งใหม่ของลาซาด้าตั้งเป้าที่จะเสริมทัพบุคลากรที่มีความสามารถอีกกว่า 50 คน ประกอบด้วย นักพัฒนาระบบปฏิบัติการ iOS และแอนดรอยด์ นักเขียนโปรแกรมพัฒนาภาษา Go รวมถึงวิศวกรประกันคุณภาพ (QA engineer) โดยทีมงานใหม่นี้ จะปฏิบัติงานที่ศูนย์เทคโนโลยีใหม่ของลาซาด้า ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ใจกลางกรุงเทพฯ
 
ลาซาด้ากรุ๊ป ได้ริเริ่มเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากการเปิดตัวศูนย์เทคโนโลยีแห่งแรกของลาซาด้าที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ลาซาด้านำนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับสูงมาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากนั้นเพื่อตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของลาซาด้า ศูนย์เทคโนโลยีแห่งที่สองก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นที่กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา
 
ศูนย์เทคโนโลยีในประเทศไทย เวียดนาม และรัสเซีย ที่บริหารงานโดยลาซาด้า ได้อุทิศตนเพื่อขับเคลื่อนวิศวกรพัฒนาผลิตภัณฑ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีในระดับโลก ทำให้ลาซาด้าก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการนวัตกรรมเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียต่อไป


เกี่ยวกับลาซาด้า

ลาซาด้า โดยลาซาด้ากรุ๊ป เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มการช้อปปิ้งและพื้นที่ขายของออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย (www.lazada.co.id) มาเลเซีย (www.lazada.com.my) ฟิลิปปินส์ (www.lazada.com.ph) สิงคโปร์ (www.lazada.sg) ไทย (www.lazada.co.th) และเวียดนาม (www.lazada.vn)
 
ลาซาด้ากรุ๊ป ก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2555 ถือเป็นผู้บุกเบิกอี-คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมอบความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งให้กับผู้บริโภคผ่านวิธีการชำระเงินหลากหลายรูปแบบ อาทิ การเก็บเงินปลายทาง (Cash-on-Delivery) ศูนย์บริการลูกค้าแบบครบวงจร หรือบริการส่งคืนสินค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลาซาด้านำเสนอสินค้าที่หลากหลายในแต่ละหมวดหมู่ ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เครื่องใช้ภายในบ้าน ของเล่น สินค้าแฟชั่นและอุปกรณ์การกีฬา
 
ลาซาด้ามีแพลตฟอร์มพื้นที่การขายหรือมาร์เก็ตเพลสสำหรับแบรนด์สินค้า และผู้ค้า ด้วยระบบการจัดการที่เป็นมิตร และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกว่า 560 ล้านคนในหกประเทศผ่านช่องทางการขายปลีกของลาซาด้าเพียงที่เดียว

24831
“เอส เซน โซ่”กาแฟไมโครกราวด์!! บุกตลาด 2in1
ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า

“เอส เซน โซ่”กาแฟไมโครกราวด์!! บุกตลาด 3in1 และ 2in1 ปีแรกหวังสร้างแบรนด์เป็นที่จดจำ หลังจากนั้นตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท โดยดึงตลาดกาแฟปรุงสำเร็จชนิด 2 อิน 1 เป็นเจ้าแรก เข้าช่วยรักษาฐาน ตลาดกาแฟรวมที่ 15-18% จากมูลค่ารวม 17,000ล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า


                   นายปีเตอร์ ตัน กรรมการบริหาร บริษัท เอส ซี เอ็ม แอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย "เอสเซนโซ่” กาแฟไมโครกราวด์ เปิดเผยว่า กาแฟนับเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในทวีปเอเซีย ซึ่งพบว่าปริมาณการดื่มกาแฟในตลาดการค้าหลักของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศไทย พม่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียตนาม และจีน มีเพิ่มขึ้นมานานกว่า 5 ปีแล้ว แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะเผชิญกับความผันผวนอยู่บ้างก็ตาม ตัวอย่างเช่น ระหว่างปี พ.ศ.2554 - 2558 ความต้องการบริโภคกาแฟในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นกว่าร้อยละ 7 เป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกัน โดยในปี พ.ศ. 2558 มีปริมาณการบริโภคมากถึง 175,000 เมตริกตัน ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงเป็นตลาดกาแฟที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี พ.ศ. 2558

                   ด้วยเหตุที่บริษัทเป็นผู้บุกเบิกตลาดกาแฟปรุงสำเร็จ จึงคิดริเริ่ม “เอสเซนโซ่” กาแฟไมโครกราวด์ เข้าตีตลาดกาแฟและให้มีทางเลือกกับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เอสเซนโซ่”กาแฟไมโครกราวด์ เป็นการนำเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ มาบดละเอียดด้วยความเร็วต่ำ ในห้องที่ปราศจากออกซิเจนและมีอุณหภูมิต่ำมาก เพื่อคงไว้ซึ่งน้ำมันตามธรรมชาติอยู่ในเมล็ดกาแฟ มีจุดเด่นอยู่ที่ความเป็นกรดต่ำและรสชาติกาแฟที่เข้มข้นละลายน้ำได้ง่าย โดยออกมาเป็น 2 แบบ ได้แก่ กาแฟเอสเซนโซ่ชนิด 3 อิน 1 ประกอบด้วย กาแฟไมโครกราวด์ น้ำตาลและครีมเทียม และ กาแฟเอสเซนโซ่ชนิด 2 อิน 1 ประกอบด้วย กาแฟไมโครกราวด์ ผสมครีมเทียม ชนิด 2 อิน 1จนถึงเวลานี้ยังไม่มีสินค้าประเภทนี้วางจำหน่ายในท้องตลาด มีเพียงตราสินค้า“เอสเซนโซ่”ของบริษัท แต่เพียงผู้เดียวที่วางจำหน่ายอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตประเทศไทยและหวังครองใจกลุ่มลูกค้าที่มีฐานะดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดการ ผู้บริหารและนักธุรกิจ (PMEBs) ที่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล

                   ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การสรรสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในรูปแบบกาแฟไมโครกราวด์ ผนวกกับการบุกเบิกตลาดกาแฟปรุงสำเร็จชนิด 2 อิน 1 จะทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดรวมกาแฟปรุงสำเร็จ ได้ประมาณ 15-18% จากมูลค่าตลาดรวมที่ 17,000 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การสร้างตราสินค้า นวัตกรรมใหม่ๆและความหลากหลายของสินค้า จะเป็นหนทางนำพาบริษัทฯไปสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมกาแฟปรุงสำเร็จ ด้วยการนำเสนอกาแฟไมโครกราวด์ ที่ช่วยสร้างความแตกต่างไปจากกาแฟปรุงสำเร็จตราสินค้าอื่น โดยตั้งเป้าหมายปีแรกของการเปิดตัวให้เป็นปีของการสร้างแบรนด์ จากนั้นอีก 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้ายอดรายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท โดยวางแผนการตลาดปีแรก ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท แยกเป็นงบการตลาด 70% และงบกิจกรรมทดลองชิมสินค้า 15% ส่วนงบที่เหลืออีก 15% ใช้ในด้านการส่งเสริมการขายและด้านตลาดการค้าอื่นๆ ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนขยายตลาดต่างประเทศ โดยจะเริ่มที่ประเทศจีนต่อจากประเทศไทย ในไตรมาส 3 ของปีนี้


                   ผู้สนใจ สามารถหาซื้อ เอสเซนโซ่ กาแฟไมโครกราวด์ (ESSENSO™) ชนิด 3 อิน 1 การผสมผสานของกาแฟผงสำเร็จรูปชนิดละลายน้ำได้ทันที ประกอบด้วย กาแฟไมโครกราวด์ น้ำตาลและครีมเทียม กาแฟเอสเซนโซ่ ชนิด 3 อิน1มอบรสชาติกาแฟที่เข้มข้น หอมกรุ่น รสละมุนติดปลายลิ้นจนหยดสุดท้าย ราคา 95 บาท ขนาดบรรจุ 330 กรัม/แพค 22 กรัม X 15 ซอง และ เอสเซนโซ่ กาแฟไมโครกราวด์ (ESSENSO™) ชนิด 2 อิน 1 – กาแฟผสมครีมเทียม การผสมผสานของกาแฟผงสำเร็จรูปชนิดละลายน้ำได้ทันที กาแฟไมโครกราวด์และครีมเทียม กาแฟผสมครีมเทียมรสชาตินุ่มละมุนปราศจากน้ำตาล รสชาติที่ลงตัวและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่หลงใหลในรสชาติเข้มข้นของกาแฟ กลิ่นหอมกรุ่น รสละมุนติดปลายลิ้นแม้หยดสุดท้าย ราคา 95 บาท ขนาดบรรจุ 210 กรัม/แพค 14 กรัม X 15 ซอง  วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ชั้นนำ และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ

24832
เผยแรงบันดาลใจแนวคิดการออกแบบ
เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
สถาปัตยกรรมหรูสะท้อนการเดินทางและวิถีชีวิตริมน้ำเจ้าพระยา


เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โครงการห้องชุดพักอาศัยระดับหรูของแบรนด์ แมนดาริน โอเรียนเต็ล แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นที่รู้จักภายในเวลาอันรวดเร็ว ในฐานะหนึ่งในโครงการที่พักอาศัยที่หรูหราและน่าจับจองมากที่สุดในโลก ขอเชิญท่านร่วมเปิดประสบการณ์สุดพิเศษกับ Sale Gallery แห่งใหม่ที่พร้อมมอบประสบการณ์ของห้องชุดสุดหรู ที่ผสานความงดงามด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตและการเดินทางล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ผสานมาตรฐานความเป็นเลิศด้านการบริหารโครงการอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ แมนดาริน โอเรียนเต็ล

เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นำเสนอห้องชุดพักอาศัยสุดหรูพร้อมมอบกรรมสิทธิ์แบบฟรีโฮลด์ บนพื้นที่โครงการ ดิ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศไทย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามเยื้องโรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โดยโครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นำเสนอห้องชุดรวม 146 ยูนิต ทุกห้องสามารถชื่นชมทิวทัศน์ของแม่น้ำได้อย่างทั่วถึง โดยมีขนาดห้องชุด 130 – 230 ตารางเมตร รวมถึงห้องเพนท์เฮาส์และดูเพล็กซ์เพนท์เฮาส์ ขนาด 380 – 710 ตารางเมตร ตอบโจทย์การลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ ทั้งในด้านการบริการ คุณภาพ คุณภาพวัสดุก่อสร้าง และการออกแบบ รวมไปถึงภาพลักษณ์โครงการและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งนำเสนอภายใต้สุนทรียศาสตร์ความเป็นไทยไว้อย่างสมบูรณ์   

อิสรา นาคแก้ว สถาปนิกโครงการอาวุโส เปิดเผยถึงแนวคิดสถาปัตยกรรมของโครงการว่า “ภาพรวมการออกแบบ และรูปทรงที่หรูหราสง่างามของ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตและช่องทางการค้านับแต่อดีตกาลของมหานครกรุงเทพฯ ซึ่งสิ่งที่สร้างความประทับใจจากการล่องแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งในช่วงเวลารุ่งอรุณและยามอาทิตย์อัศดง คือประกายอันระยิบระยับของแสงสะท้อนบนผิวน้ำ รูปทรงของบ้านเรือนไทย และสุนทรียภาพของวัฒนธรรมริมน้ำ รวมถึงคุ้งน้ำที่กว้างใหญ่สุดสายตาราวกับเป็นต้นกำเนิดของสรรพชีวิตของแม่น้ำสายนี้”

           “เราใช้รูปทรงและเฉดสีเหล่านี้ในการออกแบบ โดยเป็นการออกแบบเชิงสัญลักษณ์และมีความเป็นอมตะเหนือกาลเวลา รูปทรงที่บิดโค้งของระเบียงห้องสะท้อนถึงรูปทรงพื้นฐานของแนวคิดการออกแบบ ตกแต่งด้วยกระจกผสานเข้ากับการไล่ระดับโครงสร้างที่ซ้อนเหลื่อมกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดแสงตกกระทบในมุมที่แตกต่างในเฉดสีทอง เงิน และทองแดง ที่เป็นเฉดสีในสถาปัตยกรรมไทย ซึ่งผสมกลมกลืนไปกับรูปทรงอาคารสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว” อิสรา กล่าว



เอกลักษณ์ความเป็นเอเชียและความสะดวกสบายอย่างมีระดับ ได้ถูกส่งต่อมาจากโรงแรมระดับตำนานอย่างโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โดยมีพนักงานคอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งครอบคลุมทั้งการต้อนรับ บริการในที่จอดรถ การรักษาความปลอดภัย การบริหารสินทรัพย์ และพนักงานควบคุมการเข้าออกในส่วนเรสซิเดนซ์ ซึ่งพนักงานทุกคนล้วนได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานขั้นสูงของเครือแมนดาริน โอเรียนเต็ล ผู้พักอาศัยยังสามารถจองบริการพิเศษเพิ่มเติมได้ผ่านทางพนักงานต้อนรับ โดยโดยชำระค่าบริการพิเศษเพิ่มเติม อาทิ บริการที่ปรึกษาด้านการช้อปปิ้ง บริการดูแลสัตว์เลี้ยง หรือผู้ช่วยด้านการท่องเที่ยว ฯลฯ

เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยแบรนด์ระดับหรูในทุกๆรายละเอียด โดยวัสดุครัว เป็นแบบบิวท์อินจากแบรนด์ Bulthaup และ Gaggenau โดยใช้อ่างของ FRANKE และเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Siemens อุปกรณ์ระบบน้ำมาตรฐานเดียวกับโรงแรมระดับ 5 ดาว พร้อมอุปกรณ์ติดตั้งจากแบรนด์ Hansgrohe และอ่างอาบน้ำระบบน้ำวน และชุดสุขภัณฑ์จาก Neorest ได้รับการออกแบบภายในโดย จอยซ์ แวง โดยโทนสีหลักในการตกแต่งของจอยซ์คือ แซนด์เบจ อลูมิเนียม รอยัลบราวน์ และควอทซ์สโตน เพื่อสื่อถึงประกายอันระยิบระยับของวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา

บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เรียนเชิญทุกท่านเข้ามาเยี่ยมชมห้องตัวอย่าง พร้อมร่วมสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ ณ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ  หากท่านต้องการติดต่อเข้าชมห้องพักหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ +66 (0)2118 2211 สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.moresidencesbangkok.com

24833
แมคโดนัลด์ เขย่าตลาด QSR เมืองไทย
ส่ง แมคไก่ทอดจัมโบ้ การันตีใหญ่ใหญ่ เพิ่มสีสันและทางเลือกให้คอนซูมเมอร์

แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำร้านอาหารบริการด่วน เผยกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกเขย่าตลาด QSR เปิดตัว ‘แมคไก่ทอดจัมโบ้’ การันตีความใหญ่แบบท้าให้ลองอร่อยคุ้มค่าคุ้มราคา ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคชาวไทย พร้อมปูพรมสื่อสารทุกช่องทางเพื่อกระตุ้นต่อมอยากของคอไก่ทอดตัวจริง


นางสาวเพชรัตน์ อุทัยสาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท แมคไทย จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำตลาดเบอร์เกอร์ซึ่งเป็นเมนูหลักของแมคโดนัลด์ เรายังได้คิดค้นพัฒนาโลคอลเมนูหลากหลายซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและถูกปากของผู้บริโภคชาวไทย อาทิ เมนูโจ๊ก ปาท่องโก๋ ข้าวกระเพรา ฯลฯ และจากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค พบว่า ลูกค้าต้องการรับประทานไก่ทอดที่มีขนาดใหญ่พิเศษที่ยังไม่เคยมีในตลาด เราจึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มเมนูไก่ทอดทั้งหมดให้มีขนาดใหญ่พิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า (Customer centric) โดยคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันจาก      ซัพพลายเออร์ที่มีกระบวนการเลี้ยงไก่ในฟาร์มมาตรฐานแบบปิดที่ผ่านการคัดเลือกและตรวจสอบตามมาตรฐานของแมคโดนัลด์จนได้วัตถุดิบเนื้อไก่คุณภาพ (Real Ingredients) คลุกเคล้าเครื่องปรุงรสที่เป็นสูตรเฉพาะ ผ่านการประกอบอาหารที่ได้มาตรฐานของแมคโดนัลด์ ในเรื่องของคุณภาพอาหาร ความสะอาดปลอดภัย และที่สำคัญคือความอร่อยที่ลงตัว จนกลายเป็น ‘แมคไก่ทอดจัมโบ้’ ที่การันตีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด QSR แต่มาในราคาใหม่ที่ถูกกว่าเดิมเพียงชิ้นละ 37 บาท พร้อมเมนูที่หลากหลายท้าให้ผู้บริโภคได้ลองพิสูจน์”

ปัจจุบันตลาดร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurants) ในประเทศไทย มีมูลค่ารวมมากกว่า 3.4 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ทุกปี ทั้งนี้ ตลาดไก่ทอดในประเทศไทยมีมูลค่า 1.4 - 1.7 หมื่นล้านบาท1  และยังพบว่าคนไทยนิยมบริโภคเนื้อไก่มากถึง 19.70 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาโปรตีนทั้งหมด เช่น หมู ปลา เนื้อ อาหารทะเล และโปรตีนอื่นๆ2








“เรามั่นใจว่า แมคไก่ทอดจัมโบ้ การันตีใหญ่ใหญ่ จะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มสีสันการแข่งขันในตลาด QSR และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย” นางสาวเพชรัตน์ กล่าวเสริม

แมคไก่ทอดจัมโบ้ การันตีใหญ่ใหญ่ เป็นแพลตฟอร์มที่ประกอบด้วยเมนูไก่ทอดที่หลากหลาย เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้เลือกอิ่มอร่อยแบบกรอบนอก เนื้อแน่น ถึงเครื่องในราคาสุดคุ้มเพียงชิ้นละ 37 บาท พร้อมเซตเมนูที่หลากหลายเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค อาทิ ชุดจัมโบ้ดี๊ดี ราคา 69 – 99 บาท ชุดจัมโบ้สุดคุ้ม ราคา 129 – 149 บาท ชุดจัมโบ้เต็มอิ่ม ราคา 199 บาท ชุดจัมโบ้จัดหนัก ราคา 259 บาท และชุดจัมโบ้ใหญ่ใหญ่ ราคา 369 บาท พร้อมเติมรสชาติแซ่บแบบไทยๆ ด้วยน้ำจิ้มแจ่วสูตรเฉพาะ

การเปิดตัว แมคไก่ทอดจัมโบ้ การันตีใหญ่ใหญ่ ในครั้งนี้ แมคไทยใช้งบการตลาดมากกว่า 50 ล้านบาท เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และกระตุ้นพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค ที่ครอบคลุมทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ทุกช่องทาง และเน้นทำกิจกรรมทางการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างในรูปแบบต่างๆ ที่มุ่งขยายฐานลูกค้าหลัก 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัว คนทำงาน วัยรุ่น อาทิ กิจกรรมท้าให้ลองพิสูจน์ความอร่อยไซส์ใหญ่ของ แมคไก่ทอดจัมโบ้ การันตีใหญ่ใหญ่ ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยการดึงเน็ทไอดอลและฟู้ดบล็อกเกอร์ มาร่วมลิ้มลองแมคไก่ทอดจัมโบ้ และถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live แบบเรียลไทม์ กิจกรรมถ่ายภาพและติดแฮชแท็ค กิจกรรมประกวดเต้นคัพเวอร์แดนซ์ เพื่อลุ้นรางวัลผ่านทาง Facebook การสร้างไวรัลผ่านทางพอร์ทัลเว็บไซต์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังจัดทำหนังโฆษณา และมิวสิควิดีโอเผยแพร่ทุกช่องทางทั้ง ทีวี, YouTube, facebook, LINE, Instagram, ทีวีพลาสม่าบนรถไฟฟ้าบีทีเอส และ โรงภาพยนตร์ รวมถึงการผลิตสื่อประสัมพันธ์ที่ติดตั้งบนรถไฟฟ้าบีทีเอส และสื่อโฆษณาต่างๆ ภายในร้านแมคโดนัลด์”

ที่มา:    1. ASTV ผู้จัดการ
2. สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย

24834
เปิดโผ 30 หนูน้อย ‘แมคโดนัลด์ โอลิมปิค คิดส์’
ผู้ผ่านคัดเลือกรอบแรก ร่วมพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิค 2016 ที่บราซิล


ผ่านไปแล้วกับการคัดเลือกเด็กไทยรอบ 30 คนแรก จนได้หนูน้อยมากความสามารถที่มีโอกาสจะได้เข้าร่วมเป็น  ‘แมคโดนัลด์ โอลิมปิค คิดส์’ (McDonald’s Olympics Kids) เพื่อเป็นตัวแทนมิตรภาพเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน โอลิมปิค เกมส์ 2016 ณ เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 1 - 8 สิงหาคม 2559 นี้ โดยน้องๆ ตัวแทนเด็กไทยทั้ง 2 คนที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ประเทศบราซิล พร้อมที่พัก อาหาร และยานพาหนะฟรีตลอดการเดินทาง 7 วัน 4 คืน สำหรับตนเองและผู้ปกครอง 1 ท่าน ได้กระทบไหล่นักกีฬาดังระดับโลกและชมการแข่งขันกีฬาแบบติดขอบสนาม พร้อมเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนเยาวชนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก พร้อมทัศนศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของชาวบราซิล ซึ่งนับเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตที่สามารถนำกลับมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ในประเทศไทยได้รับรู้

เป็นเวลากว่า 2 เดือนที่แมคโดนัลด์ ได้เฟ้นหาเด็กไทยที่มีความสามารถจากทั่วประเทศ เพื่อสานฝันน้องๆได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิต โดยมีน้องๆเด็กไทยอายุ 8 - 12 ปี ให้ความสนใจกรอกใบสมัคร ส่งภาพถ่ายและส่งคลิปวิดิโอบอกเล่ามุมมองเกี่ยวกับมิตรภาพ พร้อมแสดงความสามารถผ่านทาง  LINE ID: @mcdolympicskids คณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกโดยพิจารณาจากการสมัครถูกต้องตามกฎกติกา ความคิดสร้างสรรค์และการแสดงความสามารถ จนได้หนูน้อยคนเก่งผู้ผ่านเข้ารอบ 30 คนแรก ดังนี้

1.   ด.ญ.กัณย์สิณี  ประเสริฐศักดิ์ (ยูกิ)      อายุ 9 ปี      โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรห์
2.   ด.ช.กัมปนาท กรกัมปนาท (บูมบูม)      อายุ 8 ปี    โรงเรียน   AIT International school
3.   ด.ช.กิตติคุณ ทองหนุน (บุคกิ้ง)      อายุ 12 ปี   โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี
4.   ด.ญ.กุลธิรัตน์ สังขวรจักรชัย (คุกกี้)      อายุ 8 ปี      โรงเรียนเซ็นต์ฟรังซิสเซเวียร์ นนทบุรี
5.   ด.ญ.ฐิณัฐฐา อรรคเศรษฐัง (แจ๊สมิน)      อายุ 7 ปี      โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
6.   ด.ญ.ณัฏฐชา กมลรัตนานันท์ (ปางแก้ว)   อายุ 10 ปี   โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา
7.   ด.ญ.ณิชารัศม์ พงษ์พันธ์เดชา (ฟินฟิน)      อายุ 10   ปี   โรงเรียนมาร์มาร่า จินดามณี
8.   ด.ญ.เดือนสอง  ลีละพัฒนา (ไหมจีน)      อายุ 8 ปี      โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดีวิเทศน์ศึกษา
9.   ด.ช.ธนพัต แก่นสีใจ (พัต)         อายุ 8 ปี      โรงเรียนอัสสัมชัญ ระยอง
10.   ด.ช.ธนัช โอสายไทย (ฟีฟ่า)         อายุ 9 ปี    โรงเรียนรักเรียนพิทยา
11.   ด.ญ.ธนัญชนก ลาภประเสริฐ (ไข่มุก)      อายุ 8 ปี    โรงเรียนราชินีบน
12.   ด.ช.ธันวา เนตรไทย (พรู)         อายุ 12 ปี   โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
13.   ด.ช.นฐกร วิเศษวงศ์สหกิจ (ปุณ)      อายุ 11 ปี   โรงเรียนวรรณสว่างจิต
14.   ด.ญ.นันท์นภัส ลำธารทอง (พู่กัน)       อายุ 9 ปี      โรงเรียนอนุบาลนนทบุรี(English Program)
15.   ด.ญ.ปิ่นปินัทธิ์ จารุศิริเปรมสกุล (แซนดี้)   อายุ 11 ปี   โรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ รามคำแหง
16.   ด.ช.ปิยโชติ นภาพยัคฆ์ศิริ (ฟูจิ)      อายุ 9 ปี      โรงเรียนโรงเรียนนานาชาติแอสคอท
17.   ด.ช.พชร บุญพัฒน์ (เจบี)         อายุ 8 ปี      โรงเรียนคริสเตียนนานาชาติเชียงราย
18.   ด.ญ.พัชรนันท์ สุวรรณสกนธ์ (โนเบล)      อายุ 8 ปี      โรงเรียนสาธิตประสานมิตร
19.   ด.ญ.พิชญา ฐิติสวัสดิ์ (พีช)         อายุ 10 ปี   โรงเรียนธิดาแม่พระ
20.   ด.ญ.ภาษา กรรณิการ์ (จ๋า)          อายุ 9 ปี      โรงเรียนพิชญศึกษา
21.   ด.ญ.ภูริชญา สุมณศิริ (ช่อเอื้อง)      อายุ11 ปี   โรงเรียนต้นกล้า
22.   ด.ญ.มันตา  บุญจันทึก (แบม)         อายุ 8 ปี      โรงเรียนเทพประทานพร
23.   ด.ช.มีดี เกษมสุข (มีดี)         อายุ 8 ปี      โรงเรียนสาธิตสวนสุนันทา
24.   ด.ช.วุฒิชาติ ยังพะกูล (อั๋น)         อายุ 11   ปี   โรงเรียนทรงวิทย์ศึกษา
25.   ด.ช.ศศิศ  เกตุแก้ว (บิ๊วท์)         อายุ 11   ปี   โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม(เอกตรา 2)
26.   ด.ญ.ศุภารมย์ วัฒนจินดา (แองจี้)      อายุ 10   ปี   โรงเรียนเซนต์ปอลคอนแวนต์
27.   ด.ช.สิรภพ มั่นคง (มายด์)         อายุ 12   ปี   โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง
28.   ด.ช.สิรภพ วิชัยอุรุโรจน์ (โอม)         อายุ 11   ปี   โรงเรียนวรรณสว่างจิต
29.   ด.ญ.สิริพัชชา สุปรีดิ์วรกิจ (พั๊นซ์)      อายุ 11   ปี   โรงเรียนนีรชาศึกษาและนีรชาบริหารธุรกิจ
30.   ด.ญ.อัยย์ โศภนกิจ (อัยย์)         อายุ 11 ปี   โรงเรียนอัสสัมชัญคอนเเวนต์ สีลม

น้องๆน่ารัก สดใส มากความสามารถกันทุกคนและน้องๆเหล่านี้จะทำให้คณะกรรมการต้องหนักใจกันอีกครั้งกับการคัดเลือกรอบ 10 คนสุดท้าย โดยจะประกาศรายชื่อน้องๆในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ผ่านทาง LINE ID: @mcdolympicskids และ www.facebook.com/McThai

24835
ดีแทค แอคเซอเลอเรท จับมือเฟซบุ๊กสตาร์ท ให้ความรู้และผู้เชี่ยวชาญของเฟซบุ๊ก มาอบรมบ่มเพาะให้สตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้นธุรกิจ




13 พฤษภาคม 2559 – เฟซบุ๊กสตาร์ท หรือ FbStart เป็นโครงการที่เฟซบุ๊กก่อตั้งขึ้น เพื่อช่วยเหลือให้กลุ่มโมบายล์สตาร์ทอัพสร้างการเติบโตจากแอปพลิเคชั่น โดยเฟซบุ๊กสตาร์ทได้เลือกดีแทค แอคเซอเลอเรท โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ เป็นพันธมิตรรายแรกในประเทศไทย ด้วยเหตุผลที่เห็นศักยภาพการเติบโต และความสำเร็จของสตาร์ทอัพ ที่ร่วมในโครงการดีแทค แอ็คเซอเลอเรท โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพเบอร์ 1 ของไทยกับหลักสูตรระดับโลก โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากเฟซบุ๊กบินตรงมาไทย เพื่อเปิดคอร์สอบรมให้กับสตาร์ทอัพของดีแทค แอคเซอเลอเรท ปี 1- 4 ทั้ง 22 ทีม ที่  Hangar co working space

นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจและดีแทค แอคเซอเลอเรท บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า "ดีแทค แอคเซอเลอเรท เป็นโครงการที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมา 4 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้มีการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัยในบูธแคมป์ ทั้งหัวข้อการเรียนที่กำลังเป็นเทรนใหม่ของโลก ที่สตาร์ทอัพทุกคนต้องรู้ และการเชิญวิทยากรที่เป็นกูรูขั้นเทพของสตาร์ทอัพจากทุกมุมโลก ตลอดจนความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกที่จะมาให้องค์ความรู้ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ
 
ความร่วมมือกับ เฟซบุ๊กสตาร์ท หรือ FbStart ในครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจให้กับดีแทค แอคเซอเลอเรท เป็นอย่างมากที่เฟซบุ๊กโซเชียลมีเดียอันดับหนึ่งของโลก เห็นถึงศักยภาพและความสำเร็จของโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพของเรา ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะมีเนื้อหา เปิดมุมมองในการทำธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับเฟซบุ๊ก ที่มีผู้ใช้งานกว่า 1600 ล้านคน ซึ่งจะให้สิทธิประโยชน์กับสตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้น คือ

1. สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้โดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญของเฟซบุ๊ก ได้ตลอดในช่วงเวลาทำงาน ทางอีเมล์
2. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Facebook startup communities.
3. ได้รับสิทธิประโยชน์จาก Facebook advertising product (Facebook Ad Credit) เป็นมูลค่าของเครื่องมือและบริการที่มากกว่า 2.8 ล้านบาท และจาก partner อาทิ Dropbox, Mailchimp
โดยคอร์สอบรมนี้จัดขึ้นพิเศษสุดเฉพาะมีมูลค่ารวม 1.75 ล้านบาทให้กับทุกๆ สตาร์ทอัพในโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท"




dtac accelerate portfolio companies join FbStart program and receive Facebook training

May 13, 2016 – FbStart is a program by Facebook designed to help mobile startups build and grow their apps. dtac accelerate is FbStart's first incubator partner in Thailand given its proven record in driving participating startups to grow and success. dtac accelerate is ranked Thailand's number one incubator program with a world class training curriculum. The FbStart program includes training by experts from Facebook for 22 startup teams participating in the dtac Accelerate Batch 1-4 at Hangar Co-working Space.

Mr. Sompoat Chansomboon, Director of Business Innovation and dtac accelerate, Total Access Communication PLC. or dtac said, "dtac accelerate is in the 4th year running, and we have continually updated and modernized our training curriculum for the bootcamp, which includes training and mentoring by top startup experts and world class partners from around the world. We are very proud to receive Facebook training and FbStart credits because the world's number one social network, Facebook, has recognized the potential and success of our incubator program. This training program will open up a new perspective and opportunity to grow with Facebook, which has over 1,600 million users. The benefits to early stage startups include:

1. Access to direct mentorship from Facebook team through events, office hours and email
2. Meet and connect with other startups in the program
3. Facebook benefit packages (including Facebook Ad Credit) with up to 80,000 USD in free tools and services, award per team from partners such as Dropbox and MailChimp.
The exclusive training course is worth 1.75 million Baht for each startup in the dtac accelerate program."

24836
ดีแทค เเละ Uber มอบประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับด้วยบริการ Super 4G บนรถ uberX เเละ UberBLACK พร้อมบริการรถรับ-ส่งสนามบินฟรี สำหรับลูกค้าดีแทค BLUE MEMBER


กรุงเทพฯ 11 พฤษภาคม 2559 - Uber ประเทศไทยจับมือกับดีแทคผู้ให้บริการด้านดิจิทัล เปิดตัวแคมเปญ "Uber – dtac Super 4G Free Wi-Fi" ครั้งแรกในเมืองไทย ด้วยการมอบประสบการณ์การใช้งานบนโครงข่ายดีแทคกับบริการ Super 4G  สปีดอีกขั้นของ 4G ที่มีความเร็วมากขึ้น 3 เท่าบนคลื่น 1800 MHz  ในรถ uberX และ UberBLACK กว่า 200 คันให้แก่ลูกค้า Uber ฟรีตลอดการเดินทางเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป  และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า  BLUE MEMBER รับบริการรถรับ-ส่งสนามบินฟรี 2 ครั้ง/ปี เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
 
ในตลาดโลก Uber ให้บริการครอบคลุมมากกว่า 400 เมือง ใน 69 ประเทศ ด้วยจำนวนผู้ร่วมขับมากกว่า 1.2 ล้านราย และผู้โดยสารมากกว่า 10 ล้านราย ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา  และ Uber ในประเทศไทยมีผู้สนใจเข้าเป็นผู้ร่วมขับ Uber เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า เพื่อรองรับความต้องการของผู้โดยสารที่เติบโตขึ้นในทุกๆวัน


นางเอมี่ กุลโรจน์ปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและมวลชนสัมพันธ์, เอเชียแปซิฟิก Uber กล่าวว่า "Uber ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการอย่างต่อเนื่องโดยยังคงยึดถือแนวทางในการทำธุรกิจคือความปลอดภัยของผู้โดยสาร และพาร์ทเนอร์ผู้ร่วมขับ นอกจากนี้ยังเดินหน้าในการหาพาร์ทเนอร์ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่ดีด้านการให้บริการแก่ผู้บริโภคคนไทยเพื่อได้มีชีวิตที่ดีขึ้นควบคู่กันด้วย และนี่เป็นสิ่งที่ Uber มีความตั้งใจในการสร้างเรื่องดีๆ ให้เกิดขึ้นแก่พาร์ทเนอร์ผู้ร่วมขับและผู้โดยสารในแง่ของการใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี"

เป็นความร่วมมือระหว่าง Uber และดีแทคด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยทำให้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ดีขึ้นระหว่างโดยสารอยู่บนท้องถนนในทุกๆ วัน เพิ่มประสบการณ์ความสนุกระหว่างการเดินทางผ่านบริการ Super 4G  บน รถ uberX เเละ UberBLACK ในการเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านโมบายล์อินเทอร์เน็ตโดยผู้โดยสารสามารถทำงาน ฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง ดูซีรีส์ และมิวสิควิดีโอ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ติดขัด และฟรีตลอดการเดินทางไปยังจุดหมาย เป็นความร่วมมือระหว่าง Uber และดีแทคด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยทำให้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ดีขึ้นระหว่างโดยสารอยู่บนท้องถนนในทุกๆ วัน เพิ่มประสบการณ์ความสนุกระหว่างการเดินทางผ่านบริการ Super 4G  บน รถ uberX เเละ UberBLACK ในการเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านโมบายล์อินเทอร์เน็ตโดยผู้โดยสารสามารถทำงาน ฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง ดูซีรีส์ และมิวสิควิดีโอ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ติดขัด และฟรีตลอดการเดินทางไปยังจุดหมาย

นางสาวปริศนา รัตนสุวรรณศรี  ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดธุรกิจโพสต์เพด  บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า "ปัจจุบันลูกค้าดีแทคได้รับประสบการณ์การใช้งานจากโครงข่าย ดีแทค Super 4G ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว ราบรื่น ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สืบเนื่องมาจาก การพัฒนาโครงข่าย ดีแทค 4G มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดให้บริการ 4G ด้วยคลื่นความถี่ 1800 MHz แล้วใน 50 จังหวัด รวมทั้งเปิดให้บริการ 4G ด้วยคลื่นความถี่ 2.1GHz ได้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยแล้ว ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล ให้ได้รับความสะดวกสบายจากการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ต ทุกที่ ทุกเวลา และเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับลูกค้า BLUE MEMBER เพื่อมอบความสะดวกสบายในการเดินทาง ตอบโจทย์สิทธิพิเศษ ด้าน Blue Lifestyle ทางดีแทค จึงได้ร่วมมือกับทาง Uber มอบสิทธิพิเศษคือ

1. ให้ผู้ใช้บริการ Uber ทุกคน ได้ใช้และสัมผัสประสบการณ์ Super 4G ฟรีตลอดการเดินทาง สปีดอีกขั้นของ 4G ที่มีความเร็วมากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า ผ่าน pocket wifi ในรถ uberX และ UberBLACK กว่า 200 คัน
2. สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า BLUE MEMBER รับบริการรถรับ-ส่งฟรี สำหรับ uberX จากที่พักถึงสนามบิน รับสิทธิ์ได้ 2 ครั้ง/ปี เพิ่มความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง หรือใช้เป็นส่วนลดสำหรับ UberBLACK ในวงเงินไม่เกิน 500 บาท/ครั้ง ตั้งแต่ 3 พ.ค.-31 ธ.ค.59
3. มอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ขับ Uber ทุกท่าน โดยผู้ขับใหม่ที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2559 – 30 เมษายน 2560 เมื่อขับครบ 10 ทริป รับสิทธิ์ใช้งานฟรี แพ็กเกจ Super Non-Stop มูลค่า 499 บาทนาน 6 เดือน หรือส่วนลดแพ็กเกจใดก็ได้ 500 บาท นาน 6 เดือน มูลค่ารวม 3,000 บาท ผู้ขับปัจจุบันที่ใช้เบอร์ดีแทค รับอินเทอร์เน็ตเพิ่มฟรีถึง 24 GB ให้คุณใช้งานได้อย่างคล่องตัว





เกี่ยวกับ Uber

Uber มีส่วนในการปรับเปลี่ยนการเดินทางของผู้คนทั่วโลก ด้วยการเชื่อมความต้องการในการเดินทางของผู้คนกับพาร์ทเนอร์ร่วมขับผ่านแอพพลิเคชั่น ทำให้การเดินทางในแต่ละเมืองเข้าถึง ปลอดภัย และง่ายดายยิ่งขึ้น สร้างโอกาสในการเดินทางให้แก่ผู้ที่ต้องการเดินทาง และในขณะเดียวกัน สร้างธุรกิจให้แก่พาร์ทเนอร์ร่วมขับ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงปัจจุบันที่มีการให้บริการในหลายร้อยเมือง Uber ขยายการให้บริการไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก ทำให้ผู้คนที่อาศัยในแต่ละเมืองใกล้ชิดกับเมืองที่ตนเองอาศัยอยู่มากขึ้น  ปัจจุบัน Uber ให้บริการใน 400 เมือง ใน 69 ประเทศทั่วโลก

เกี่ยวกับดีแทค

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เป็นหนึ่งในผู้นำให้การบริการโทรศัพท์มือถือของประเทศไทยทั้ง 4G, 3G และ 2G แก่ผู้ใช้บริการมากกว่า 25 ล้านเลขหมายในปัจจุบัน ดีแทค ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม  ปี 2532 ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดีแทคได้ใช้งบประมาณในการลงทุนไปมากกว่า 130,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โดยการพัฒนาเทคโนโลยี และเพิ่มคุณภาพของบริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ดีแทคยังได้มุ่งเน้นกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการนำอินเทอร์เน็ตและบริการดิจิทัลต่างๆ ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการพัฒนาด้านการศึกษา เยาวชน ตลอดจนการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ดีแทค (บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย: DTAC) ชมข้อมูลได้ที่ www.dtac.co.th



dtac Super 4G Presents Superior Travel Experiences on uberX & UberBLACK
Free Rides to and from Airport for dtac BLUE MEMBER Customers


Bangkok, May 11, 2016 - Uber Thailand, in collaboration with leading digital-service provider dtac, today launches the "Uber - dtac Super 4G Free Wi-Fi" campaign. For the first time ever in Thailand, this campaign brings dtac's Super 4G service to hundreds of uberX and UberBLACK cars free of charge throughout the ride, starting from May 10, 2016. dtac's Super 4G delivers 4G service on 1800 MHz spectrum at 3 times faster than standard 4G. In addition, dtac BLUE MEMBER customers receive 2 free rides to-and-from airport per year, starting from May 3, 2016.
 
Across the world, Uber has been active in 400 cities across 69 nations. Its more than 1.2 million drivers have already served more than 10 million passengers the past 12 months; Uber Thailand's driver-partner base has grown six-fold and continues to serve the growing demand of riders daily.


Ms. Amy Kunrojpanya, Director of Communications & Public Affairs, Asia Pacific at Uber, says, "We have placed a strong emphasis on technological integration for the purpose of constantly improving Uber services. Our focus is always on ensuring the safety of passengers as well as driver-partners. We have also striven to attract business partners who have the shared commitment of creating good customer experiences so that Thais can enjoy a better quality of life because at the core, Uber is committed to improving our driver-partners and riders' lives through technology".

The "Uber - dtac Super 4G Free Wi-Fi" campaign is part of a strategic partnership between Uber and dtac. As part of this campaign, Bangkok commuters can travel through Bangkok more productively & enjoyable. In select uberX and UberBLACK cars, riders can use the Super 4G service which gives more convenient access to online entertainment. Mobile Internet enables Uber riders to listen to mu­sic, watch series, and check out music videos fast and free throughout their Uber rides. They can also stay connected with a more reliable signal and continue working uninterrupted.

Ms. Prisana Ratanasuwanasri, Senior Vice President, Postpaid Division, Total Access Communication PLC or dtac, says, "Today, dtac customers are able to experience faster and smoother Internet service on the Super 4G network. dtac's 4G 1800 MHz network expansion already covers 50 provinces in Thailand. Combined with the existing 4G network on 2.1 GHz, dtac has achieved full nationwide 4G coverage. In the digital era, customers demand the convenience of using mobile Internet from anywhere, anytime, so dtac BLUE MEMBER customers will receive special privileges that give them a superior travel experience. The following are special offers from dtac and Uber, which fit perfectly with the Blue Lifestyle."
 
1. All Uber riders can use and experience dtac's Super 4G at 3 times the speed of standard 4G for free throughout their rides via pocket Wi-Fi in hundreds of 200 uberX and UberBlack cars.
 
2. dtac BLUE MEMBER customers enjoy the special privilege of 2 free uberX rides to and from the airport per year, or alternatively receive 500-Baht discount for UberBLACK rides. The offer is valid from May 3 – December 31, 2016.
 
3. All new Uber drivers who sign up to drive from May 11, 2016 – April 30, 2017, will receive either free Super Non-Stop package valued at 499 Baht for 6 months or a 500 Baht-discount off any package for 6 months. Current Uber drivers using dtac will receive 24 GB free Internet.


About Uber

Uber has revolutionized the way of traveling for people around the world, by connecting people who need a ride with Uber's driver-partners through an application. Thanks to Uber initiative, people find it easier and safer to get a ride around their town while driver-partners each practically own a business of driving services. Since its launch in 2009, Uber has fast expanded its coverage to hundreds of cities around the globe and enabled their residents to become more familiar with their hometowns via convenient Uber rides. Today, Uber services are available in 400 cities across 69 nations.

About dtac

Total Access Communication Public Company Limited or dtac is a leading mobile network operator in Thailand, currently providing 4G, 3G, and 2G services for over 25 million subscribers. Founded in August 1989, dtac has invested over 130,000 million Baht over the last 10 years to strengthen its business by continuously upgrading its technology and to improve quality of life through social activities utilizing Internet and digital services in education and child development and agricultural productivity improvement. For more information about dtac (The Stock Exchange of Thailand symbol: DTAC), please visit www.dtac.co.th.

24837
ดีแทคยืนยันยังเป็นที่ 2 ในแง่ส่วนแบ่งการตลาดในเชิงรายได้

10 พฤษภาคม 2559 - นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า "จากกรณีที่มีการเปิดเผยจำนวนเลขหมายที่ใช้งานในปัจจุบันและสร้างความเข้าใจว่า ดีแทคมีจำนวนเบอร์มือถือที่ให้บริการอยู่ในตลาดเป็นอันดับสามนั้น ดีแทคยังคงยืนยันในสถานะความเป็นผู้นำที่มีส่วนแบ่งการตลาดเชิงรายได้ (service revenue market share) และส่วนแบ่งจำนวนผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 2 ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเติบโตจากทั้งกลุ่มผู้ใช้บริการระบบเติมเงิน และระบบรายเดือนเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้ง ดีแทคยังประสบความสำเร็จในการเพิ่มสัดส่วนผู้ใช้งานบริการข้อมูลของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 58% และเพิ่มสัดส่วนผู้ใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนเป็น 63% ของฐานลูกค้าจากไตรมาสก่อนหน้า ที่สำคัญ เป็นครั้งแรกที่รายได้การให้บริการดาต้าเพิ่มขึ้นถึง 50% ของรายได้รวมจากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ซึ่งบ่งชี้ความต้องการในการใช้บริการดาต้ายังเติบโตแบบก้าวกระโดด"

ทั้งนี้ ดีแทคจะติดตามผลการดำเนินงานจากทุกค่าย ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังประกาศไม่เสร็จสิ้น จึงอาจเป็นการด่วนสรุปเกี่ยวกับอันดับของผู้ให้บริการในปัจจุบัน

24838
ดีแทคพร้อมวางจำหน่าย iPhone SE ในประเทศไทย วันพุธที่ 11 พฤษภาคม นี้


กรุงเทพ – วันที่ 10 พฤษภาคม 2559 – ดีแทค ประกาศวางจำหน่าย iPhone SE สมาร์ทโฟนหน้าจอ 4 นิ้วที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตั้งแต่วันพุธที่ 11 พฤษภาคม นี้เป็นต้นไป
 
iPhone SE อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลังของ iPhone 6s ในดีไซน์ขนาดกระทัดรัด วัสดุภายนอกเป็นอลูมิเนียมที่ทุกคนชื่นชอบ มาพร้อมหน้าจอ Retina ขนาด 4 นิ้วที่สวยงาม มี 4 สีเมทัลลิคสุดสวยให้เลือกรวมทั้งสี Rose Gold มีประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมด้วยชิพ A9 64-บิต อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น นวัตกรรมกล้อง iSight® ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สามารถถ่าย Live Photos และ วีดีโอ 4K พร้อมรองรับ Touch ID iPhone SE จึงเป็นโทรศัพท์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนที่ต้องการโทรศัพท์ขนาดกระทัดรัด
 
ดีแทคพร้อมมอบข้อเสนอหลากหลายแพคเก็จที่น่าสนใจให้ลูกค้าดีแทคได้ใช้งาน iPhone SE บนเครือข่าย ดีแทค SUPER 4G ตรวจสอบรายละเอียดราคาได้ที่ http://www.dtac.co.th/iphone-se/
 
ลูกค้าที่สนใจสามารถซื้อ iPhone SE ได้ที่ศูนย์บริการดีแทค และดีแทค ออนไลน์สโตร์ ที่ http://www.dtac.co.th/iphone-se/ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม เป็นต้นไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone ได้ที่ www.apple.com/th/iphone




dtac to Offer iPhone SE in Thailand Beginning Wednesday, May 11

BANGKOK — May 10, 2016 – dtac today announced it will offer iPhone SE, the most powerful phone with a four-inch display, beginning Wednesday, May 11.
 
iPhone SE packs the power of iPhone 6s in a beloved compact aluminum design that customers love, featuring a stunning four-inch Retina display and four gorgeous metallic finishes, including rose gold. With the exceptional performance of the advanced 64-bit A9 chip, longer battery life, camera innovations including a 12-megapixel iSight camera, Live Photos, the ability to record in 4K and Touch ID, iPhone SE is the perfect phone for everyone who wants a smaller phone.
 
dtac will offer a variety of affordable packages for iPhone SE customers to enjoy dtac's SUPER 4G network. For complete details on pricing, please visit http://www.dtac.co.th/en/iphone-se/
 
Customers can purchase iPhone SE at dtac service centers and online at http://www.dtac.co.th/en/iphone-se/ beginning Wednesday, May 11. For more information on iPhone, please visit www.apple.com/iphone

24839
ดีแทคประกาศแต่งตั้ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาดคนใหม่


นายสิทธิโชค นพชินบุตร

9 พฤษภาคม 2559 – ดีแทคประกาศแต่งตั้งนายสิทธิโชค นพชินบุตร ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด (Chief Marketing Officer, CMO) คนใหม่ มีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 แทน นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน ซึ่งครบวาระในการปฏิบัติหน้าที่ในดีแทค และจะกลับไปทำงานตำแหน่งใหม่ในเทเลนอร์ กรุ๊ปต่อไป
 
ก่อนมาร่วมงานกับดีแทค คุณสิทธิโชค เคยดำรงตำแหน่งรองประธานธุรกิจโทรคมนาคม และดิจิทัล บริษัท ไทยซัมซุง อิเลกโทรนิกส์ จำกัด รับผิดชอบ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และโมบายล์ คอมมูนิเคชั่นส์ ที่ดำเนินธุรกิจโทรศัพท์มือถือในไทย โดยเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ การตลาดและการสื่อสารของธุรกิจโทรศัพท์มือถือทั้งหมด นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าทีมในส่วนของ ดิจิทัล การพัฒนาแอปพลิเคชั่น และโซเชียลเน็ตเวิร์ค ด้วยความสามารถในการทำงานอย่างทุ่มเท ทำให้การดำเนินธุรกิจซัมซุงในประเทศไทยเติบโต มีส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นอันดับ 1 ในปัจจุบัน ทำให้ผลการดำเนินงานของซัมซุงประเทศไทยพุ่งขึ้นติดตลาดในซัมซุงเอเชีย
 
คุณสิทธิโชค เป็นนักวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในการนำพาทีมให้ประสบความสำเร็จจากการเติบโตอันเป็นประวัติการณ์ของตลาดโทรศัพท์มือถือ  และเป็นผู้บริหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับรางวัล  " Samsung Award of Honor" จากประธานกรรมการบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ในฐานะที่มีส่วนช่วยผลักดันให้โทรศัพท์มือถือซัมซุงในประเทศไทย เติบโตขึ้นทุกเซ็กเม้นท์อย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านั้น คุณสิทธิโชคเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์องค์กรให้กับบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตและการแข่งขันสูงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น


นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า  "ด้วยประสบการณ์ ความสามารถ และผลงานอันโดดเด่น จนเป็นที่ยอมรับในแวดวงโทรคมนาคม ผมจึงมีความมั่นใจอย่างมากว่า คุณสิทธิโชคจะนำพาให้ดีแทคได้บรรลุเป้าหมายทางการตลาด พร้อมเดินหน้า ตามกลยุทธ์การดำเนินงานไปสู่การเป็นบริษัทฯที่ดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลที่ดีที่สุดในประเทศไทย
 
และขอขอบคุณนายซิกวาร์ท ที่ได้นำความสำเร็จด้านการตลาดมาสู่ดีแทค ด้วยความมุ่งมั่น และทุ่มเทเวลาในการเรียนรู้พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าคนไทยได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาของการเติบโตจากการใช้งานด้วยเสียงมาสู่การใช้โมบายล์ อินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ กับการทำตลาดลูกค้าโพสต์เพดและพรีเพด รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรในระดับประเทศและระดับโลก และเป็นผู้นำในการสร้างระบบการบริหารการตลาดที่ใช้เทคโนโลยีด้าน analytics ระดับโลก"




dtac appoints new Chief Marketing Officer

May 9, 2016 – dtac announces the appointment of Mr. Sitthichoke Nopchinabutr as the new Chief Marketing Officer (CMO) effective June 1, 2016, replacing Mr. Sigvart Voss Eriksen, who has completed his tenure with dtac and will assume a new role with Telenor Group.
 
Prior to joining dtac, Sitthichoke served as Vice President, Telecommunications & Digital at Thai Samsung Electronics Co., Ltd. He was responsible for IT and Mobile Communications and runs Thai mobile phone business. Sitthichoke was in charge of business strategy planning, marketing and communication for the mobile phone business. He also led the digital, application development and social network teams. His skills and dedication contributed to the growth of Samsung operation in Thailand as no.1 in terms of market share, making Thai Samsung ranked among the top contributors in the Asian market for Samsung.
 
Sitthichoke is a marketing strategist who plays a pivotal role in leading his company to an unprecedented growth in the mobile phone market. He was a recipient of the Samsung Award of Honor, presented by Samsung chairman, for his contribution to the rapid growth of Samsung mobile phone business in all segments in Thailand. Before Samsung Electronics, Sitthichoke served several roles in several fast growing and highly competitive business in various industries, for example, The Minor Food Group and Proctor & Gamble Trading (Thailand) Ltd.


Mr. Lars Norling, Chief Executive Officer, Total Access Communication PLC or dtac said, "I am confident that Sitthichoke's vast experience, talent, and outstanding track record in the telecom industry will lead dtac to achieve marketing goals, drive operational strategy to further enhance our strong position in the market, and achieve our target to become the best digital service provider in Thailand.
 
I would also like to thank Sigvart for the success he brought to dtac through his commitment and the dedication of his time to understand Thai customers' behaviors and need. With the shifting behavior from voice to mobile internet services, Sigvart has led postpaid and prepaid marketing efforts, established partnerships with top local and global partnerships, and lead the development of world class digital and analytical capabilities."

24840
TCCT Strengthened Relationship with Partners in BKNIX Peering Forum 2016

May 10, 2016, Bangkok - To Connect and Collaborate with leading providers of private and organizations of public sector, Mr. Voradis Vinyaratn, Executive Director and Acting Managing Director of TCC Technology joined BKNIX Forum to network with top-tier Internet Exchange Professionals to share ideas, industry viewpoint, and the company’s contribution to the country in order to apply industry’s latest technology and innovation and develop IT infrastructure standard, benefitting enterprises and end users in the country. Khun Adisak Chabtalay, Operation Director of Leap Solutions Asia Co., Ltd., a joint venture company and Thailand’s leading Cloud provider also participated to give viewpoints on Cloud industry, trends, and also share Thailand’s Cloud market outlook. TCCT also joined networking activity to tighten relationship with partners in the event.




About TCC Technology (TCCT)
T.C.C. Technology Co., Ltd. (TCCT) is a member of the TCC Group, one of the largest conglomerates in Thailand. TCCT is the first certified SAP Hosting and SAP Cloud Partner in Thailand and also a Microsoft Certified Partner, offering the best-in-class cloud-based solutions and data center services via its strong collaboration with various global partners. TCCT offers commercial managed hosting and infrastructure solutions designed to meet increasing demands from organizations looking to outsource their information technology requirements. TCCT currently operates not only highly secure multiple world-class Enterprise Data Centers in downtown Bangkok and the city’s eastern suburbs, but also covers Industrial and International Data Centers in Asia in five countries via its Asia Data Center Alliance (ADCA) network.

www.tcc-technology.com

Pages: 1 ... 1654 1655 [1656] 1657 1658 ... 2254