Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: [1] 2 3 ... 2230
1
ซีพีแรม ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์บริหารจัดการองค์กร โชว์ศักยภาพในงาน Thailand Quality Prize 2023




คุณทิวากร จงมีความสุข (กลาง) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย คุณรุ่งรัศมี ปิยางสุ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส คุณทัศดาพร พึ่งจิตต์ตน รองผู้จัดการทั่วไป คณะผู้บริหาร และพนักงาน บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทาน เข้าร่วมในงาน Thailand Quality Prize 2023  เพื่อแสดงศักยภาพนำเสนอกลยุทธ์แนวทางการบริหารงานคุณภาพ การบริหารจัดการขององค์กร ที่มุ่งมั่นบริหารงานคุณภาพทั่วทั้งองค์กรด้วยระบบ TQM โดยนำกิจกรรมกลุ่มคุณภาพ QCC มาใช้ขับเคลื่อน พร้อมสนับสนุน ผลักดัน และปรับปรุงงานอย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาพนักงาน ทีมงาน และองค์กร อย่างมีประสิทธิภาพสืบไป จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (ส.ส.ท.) ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

2
ประเทศไทยมี INTO1 ครบทั้ง 11 หนุ่มแล้ว!!!
เตรียมพบกับพวกเขาในคอนเสิร์ตครั้งแรก INTO1 2023 ‘GROWN UP’ CONCERT IN BANGKOK


                 หลังจากเปิดขายบัตรไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วยกระแสตอบรับแรงเกินต้านจากแฟน ๆ ของ 11 หนุ่ม INTO1 ที่กำลังจะมาเจอกับแฟนชาวไทยใน INTO1 2023 ‘GROWN UP’ CONCERT IN BANGKOK วันที่ 1 - 2 เมษายน นี้ ณ ยูเนี่ยน ฮอลล์ 2 ชั้น 6 ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์  ซึ่งบัตรได้จำหน่ายหมดเป็นที่เรียบร้อยอย่างรวดเร็วทั้งสองรอบการแสดง

                 สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้นับเป็นการมาเยือนเมืองไทยพร้อมกันครั้งแรกของสมาชิกทั้ง 11 คน ประกอบด้วย หลิวอวี่ (INTO1 LIU YU), ซานตะ (INTO1 SANTA) , ริกิมารุ (INTO1 RIKIMARU ), มิกะ (INTO1 MIKA) , นาย (INTO1 NINE) , หลินโม่ (INTO1 LIN MO) , ป๋อหย่วน (INTO1 BO YUAN) , จางเจียหยวน (INTO1 ZHANG JIAYUAN ) , แพทริค (INTO1 PATRICK) , โจวเคออวี่ (INTO1 ZHOU KEYU) และ หลิวจาง (INTO1 LIU ZHANG) ซึ่งแฟน ๆ รอคอยการที่จะได้เจอกับ11 หนุ่ม INTO1 นานเกือบ 2 ปี และคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นช่วงเวลาของการก้าวผ่านฤดูกาลแห่งการบอกลาเพื่อการเติบโตและเริ่มต้นที่จะเปล่งประกายครั้งใหม่ โดยยังมีความรักความผูกพันที่มั่นคงในช่วงเวลาอันแสนมหัศจรรย์นี้อยู่ร่วมกันเสมอและตลอดไปสำหรับทั้ง 11 หนุ่มและเหล่า INsider ที่จะได้ร่วมกันสร้างความทรงจำและความประทับใจในคอนเสิร์ตครั้งนี้ไปพร้อมกัน สำหรับใครที่มีบัตรคอนเสิร์ตเตรียมตัวพบกับช่วงเวลาสุดพิเศษไว้ได้เลย ส่วนใครที่พลาดบัตรคอนเสิร์ตก็สามารถมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำครั้งสำคัญนี้ได้ในงานนิทรรศการ LOOKING BACK TO MOVE FORWARD ‘GROWN UP’ EXHIBITION ซึ่งทาง The DnD ผู้จัดงานครั้งนี้เตรียมไว้ให้ทุกคนได้มีช่วงเวลาที่สวยงามและเติบโตไปกับเรื่องราวของ INTO1 ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับโอกาสในการเลือกช้อปสินค้า Official Merchandise และ Bangkok Collection ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะในงานนี้ให้ได้สะสมเป็นที่ระลึกอีกด้วย โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2566 ณ บริเวณ  Co-Event Space ชั้น G ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ แล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาสุดอัศจรรย์แห่งการเติบโตไปพร้อมกับ 11 หนุ่ม INTO1 ด้วยกัน

#INTO1_GROWNUPEXHIBITIONINBKK‬ #INTO1_GROWNUPINBKK‬ #INTO1  #THEDNDTH‬
โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทางสื่อของ The DnD ได้ทุกช่องทาง

Website : www.thednd.com
Facebook : https://www.facebook.com/THEDNDTH
Twitter : https://twitter.com/TheDNDth
Instagram : https://www.instagram.com/thedndth/

3
Infinix ปล่อยมือถือเกมมิ่งรุ่นเริ่มต้น HOT 30 Series ชูจุดขายชาร์จเร็วสูงสุด 33W
เริ่มจำหน่าย 3 เมษายนนี้ คุ้มค่าที่สุด เริ่มต้นเพียง 4,499 บาท*

พร้อมคอลแลป Free Fire มอบไอเทมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และเตรียมพบเซอร์ไพรส์ในกิจกรรม HOT 30 Booyah Challenge NOW!


                 31 มีนาคม 2566, กรุงเทพฯ – อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์สมาร์ตโฟนสายเกมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เดินหน้ารุกตลาดสมาร์ตโฟนเกมมิ่งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว Infinix HOT 30 Series เกมมิ่งโฟน​ รุ่นเริ่มต้นซีรีส์ใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยเป็นประเทศแรกของโลก ภายใต้สโลแกนคอนเซปต์ “Booyah Now! - หนึ่งเดียว เพื่อชัยชนะ” ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีการชาร์จไวสูงสุด 33W ให้แรมเยอะจุใจและเป็นหนึ่งเดียวที่มากับ RAM 8GB และสามารถผสาน RAM ได้สูงสุดถึง 16GB จัดเต็มครอบคลุมทุกการใช้งาน เหนือระดับด้วยชิปเซ็ตทรงพลังจาก MediaTek Helio G88 ตลอดจนยกระดับทุกการใช้งานและการเล่นเกมบนมือถืออย่างเต็มประสิทธิภาพ ลื่นไหลด้วยหน้าจอรีเฟรชเรทลื่นไหล 90Hz หน้าจอใหญ่ 6.78 นิ้ว รวมถึงดีไซน์ที่ ทันสมัย เปิดตัวในราคา 4,799 บาท วางจำหน่ายแบบ Online Exclusive ที่ร้าน Infinix Official Store บน Shopee, Lazada และ TikTok Shop ในราคาพิเศษ 4,499* บาท ระหว่างวันที่ 3 – 9 เมษายน 2566


                 อินฟินิกซ์ (Infinix) เข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานเป็นอย่างดี เราจึงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้มือถือตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งล่าสุดได้ปล่อย​ Infinix HOT 30 Series​ อีกหนึ่งซีรีส์ที่ถือได้ว่าเป็นที่สุดแห่งการดีไซน์ โดยเป็นเกมมิ่งโฟนในตระกูล HOT เน้นจับกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงานระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางที่ชื่นชอบการเล่นเกมบนมือถือและกลุ่มผู้ใช้งานที่ให้ความสนใจด้านเทคโนโลยีที่คุ้มค่า โดยได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพทุกการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น พร้อมชูจุดขายเป็นแบรนด์เดียวที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วสูงสุด 33W และให้แรมเยอะที่สุดในเรทราคาคุ้มค่าไม่เกิน 5,000 บาท และพิเศษสุดกับการผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำอย่าง Free Fire ร่วมกันครีเอทลิมิเต็ดอิดิชัน บ็อกซ์เซ็ต และกิจกรรม HOT 30 Booyah Challenge NOW! เพื่อเอาใจเหล่าสาวกคอเกมตัวจริง โดยสมาร์ตโฟน ซีรีส์นี้เน้นชูจุดเด่น 3 หัวใจหลัก ดังนี้


สนุกทุกการใช้งาน ยาวนานตลอดวันด้วยชาร์จเร็วสูงสุด 33W

                 มอบประสบการณ์การเล่นเกมยาวนานด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็วปลอดภัยกำลังไฟ 33 วัตต์ ที่ช่วยให้แบตเตอรี่เต็มไว สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 55% ในเวลาเพียง 30 นาที และแบตฯ กลับมามีพลังงาน 100% ในเวลาอันรวดเร็ว มาพร้อมกับแบตเตอรี่อึด ถึก ทน ขนาดความจุ 5000mAh และเทคโนโลยีพาวเวอร์ มาราธอน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีซอฟต์แวร์เอกลักษณ์เฉพาะของอินฟินิกซ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มอิสระในการใช้งานและช่วยให้ประหยัดพลังงานทำให้ไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ รองรับการเล่นเกมและรับชมความบันเทิงได้ต่อเนื่องยาวนาน สามารถสแตนบายการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน


สัมผัสประสบการณ์เล่นเกมอย่างมีสไตล์ ด้วยหน้าจอ 6.78 นิ้ว ลื่นไหล 90 Hz

                 สำหรับมือถือในซีรีส์นี้ โดยในรุ่นท็อปอย่าง HOT 30 ยกระดับการเล่นเกมและรับชมความบันเทิงที่เหนือระดับ ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบเจาะรูขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว ความละเอียดสูง 1080 พิกเซล ที่ให้ภาพสดใส คมชัด สวยงามสมจริง มาพร้อมกับการเล่นเกมแบบไร้ขีดจำกัด ลื่นไหล ไม่มีสะดุดด้วยอัตราการรีเฟรชที่ 90Hz และความเร็วในการตอบสนองบนหน้าจอ 270Hz นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีปรับปรุงการแสดงผลในพื้นที่มืด ที่ช่วยให้สามารถมองจอได้อย่างชัดเจน ด้วยความสว่างสูงสุด 600nit และขอบเขตสี 96% DCI-P3 เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมทุกความบันเทิงได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีการดีไซน์ด้านหลัง ด้วยการสร้างเงาแบบไดนามิกที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ตลอดจนการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างที่ทำได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ทำให้การปลดล็อคมือถือเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด


มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด เอาใจเกมเมอร์ด้วย MediaTek Helio G88

                 Infinix HOT 30 Series มีหัวใจการทำงานหลักด้วยชิปเซ็ทจาก Media Tek Helio G88 โดยถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่เร็วและแรงกว่าด้วย Octa-core และ Arm Cortex-A75 อันทรงพลัง โดยมีความถี่สูงถึง2.00GHz และ Arm Cortex-A75 แปดคอร์ที่ช่วยยกระดับความเร็วในการใช้งาน และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Dar-Link 3.0 AI Game Booster ที่เร่งประสิทธิภาพการเล่นเกม การโหลดฉาก คำนวณกราฟิก และควบคุมพลังงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีช่วยควยคุมอุณหภูมิ เพื่อเอาใจคอเกมและกลุ่มเด็กวัยรุ่นในเมืองร้อนอย่างประเทศไทยให้สามารถเล่นเกมได้เต็มอรรถรส ลื่นไหล ไม่มีสะดุดจากอาการเครื่องร้อน นอกจากนี้ ยังเสริมศักยภาพการใช้งานด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุถึง 128GB แรมจากเดิม 8GB ขยายเพิ่มได้อีก 8GB จึงเสมือนได้แรมมากสุดถึง 16GB ทำให้สามารถดาวน์โหลดเกมได้อย่างรวดเร็ว จุใจ และรองรับการเปิดแอปพลิเคชันพร้อมกันได้สูงสุดถึง 18 แอปฯ ในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด


                 ทั้งนี้ อินฟินิกซ์ยังตั้งใจมอบความพิเศษให้ผู้ใช้งานด้วยการจับมือกับ Free Fire ผลิตแพ็กเกจลิมิเต็ดอิดิชัน พร้อมครีเอทธีมลายวอลเปเปอร์บนมือถือ ด้วยการใช้คาแรกเตอร์หลักจากเกม และมอบไอเทมสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั้งในเกมและนอกเกมมากมาย เพื่อตอกย้ำภาพความเป็นเกมมิ่งโฟนและเอาใจเหล่าสาวกคอเกมตัวจริง นอกจากนี้เตรียมพบกับเซอร์ไพรส์ในกิจกรรม HOT 30 Booyah Challenge NOW! ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมสนุกเพื่อลุ้นรับของรางวัล HOT 30 Free Fire Limited Box Set จำนวน 3 รางวัล และ Gift Code Alvaro Item สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน - 9 พฤษภาคม 2566 เพียงถ่ายคลิปดูเอ็ทรีวิวมือถือ Infinix HOT 30 ตามสไตล์ของคุณ แล้วอัปโหลดคลิปลงในช่อง TikTok พร้อมติดแฮชแท็ก #InfinixHOT30FREEFIRE สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Infinix Mobile Thailand


                 สำหรับ Infinix HOT 30 Series มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ HOT 30 รุ่น 128+8, HOT 30i รุ่น 128+4 และ รุ่น 128+8 โดยสีที่วางจำหน่ายในประเทศไทยสำหรับรุ่น HOT 30 มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Surfing Green), สีดำ (Racing Black), สีขาว (Sonic White) และอีกรุ่น HOT 30i มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีฟ้า (Glacier Blue), สีดำ (Mirror Black), สีขาว (Diamond White) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลายในทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว


                 ห้ามพลาด! กับสมาร์ตโฟนใหม่ล่าสุด Infinix HOT 30 Series โดยรุ่น HOT 30 เปิดตัวในราคาสุดคุ้ม 4,799 บาท จำหน่ายวันแรกวันที่ 3 เมษายน 2566 โดยจะมีราคาพิเศษในช่วงเปิดตัวระหว่างวันที่ 3 - 9 เมษายน 2566 ราคาพิเศษเพียง 4,499 บาท* พร้อมของแถมสุดลิมิเต็ดมากมาย และ HOT 30i รุ่น 128+4 ราคา
3,599 บาท และ รุ่น 128+8 ราคา 3,999 บาท โดยจะวางจำหน่ายช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป สั่งซื้อได้ผ่านทางออนไลน์ ที่ร้าน Infinix Official Store บน Shopee, Lazada, TikTok Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ


                 ผู้สนใจคลิกซื้อสินค้าได้ที่ Link : https://cutt.ly/H4Mq8rF หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.infinixmobility.com/th และติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก Infinix Mobile Thailand

###

เกี่ยวกับอินฟินิกซ์

อินฟินิกซ์ โมไบล์ (Infinix Mobile) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2556 เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ออกแบบ ผลิต และทำการตลาดโทรศัพท์มือถือให้ขยายตัวทั่วโลกภายใต้แบรนด์ อินฟินิกซ์ (Infinix) โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผสานเข้ากับมือถืออย่างพิถีพิถัน นำเสนอสไตล์ที่โดดเด่น เด็มเปี่ยมไปด้วยพลังและประสิทธิภาพ เป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานในทุกย่างก้าว ด้วยแนวคิดที่เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์อย่าง “THE FUTURE IS NOW” พร้อมกับแสดงตัวตนให้โลกได้เห็นว่าอินฟินิกซ์มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ตลอดจนรูปลักษณ์ที่เฉียบและมีสไตล์สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่อยากตกเทรนด์

กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีการจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งทวีปแอฟริกา ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ โดยในช่วงปี พ.ศ. 2561 - 2563 อินฟินิกซ์ (Infinix) ได้ขยายตัวถึง 160% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน  และมีแผนใหญ่ที่จะสร้างมือถือระดับเรือธงที่มีดีไซน์ที่โดดเด่นและข้อเสนอที่คุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.infinixmobility.com

4
วางแผนภาษีต้นปีดีอย่างไร


                 วางแผนภาษีคือการเตรียมแผนการเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กฎหมายภาษีอากรกำหนดไว้โดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างเต็มที่หากเราวางแผนภาษีได้เป็นอย่างดีจะทำให้เราเสียภาษีน้อยลง เงินที่เหลือเราก็สามารถนำไปต่อยอดให้งอกเงยได้มากยิ่งขึ้น

                 โดยปกติแล้วการวางแผนภาษีที่ดีนั้น นอกจากจะต้องพิจารณาเรื่องรายได้ที่จะได้รับในปีนั้นๆ และสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขต่างๆ แล้ว ยังจะต้องพิจารณาเรื่องเวลาด้วย เพราะการวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้เรามีเวลาเหลือเพียงพอที่จะนำรายได้หรือเงินที่ต้องจ่ายภาษีมาทำประโยชน์ได้ก่อนซึ่งจะช่วยให้เราใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

                 นักการเงินหรือนักวางแผนภาษีจึงมักแนะนำให้วางแผนภาษีไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อให้เราได้เห็นภาพของการบริหารภาษีและเงินได้ของเราในแต่ละปีได้ชัดเจน และทำประโยชน์ได้มากที่สุด

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ ของการวางแผนภาษีตั้งแต่ต้นปีมีอะไรบ้าง ลองมาติดตามไปกับบทความนี้เลย


1. ทราบตัวเลขรายได้สุทธิที่ชัดเจน เพื่อวางแผนการใช้จ่ายในแต่ละเดือน

อย่างที่ทราบดีว่ารายได้หรือเงินเดือนที่ได้จากการทำงานหรือการลงทุนใดๆ ไม่ใช่รายได้สุทธิที่เราจะเอาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ทั้งหมด รายได้ที่ได้รับจะต้องถูกหักภาษี เงินประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident funds) และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ ภาษีคือเงินก้อนใหญ่ที่มักจะถูกหักจากเงินเดือน บางบริษัทสามารถทำเรื่องบันทึกค่าลดหย่อนในแบบแจ้งรายการเพื่อหักลดหย่อน (ล.ย.01) ได้ ทำให้ภาษีที่ถูกหักในแต่ละเดือนน้อยลงและใกล้เคียงกับการยื่นภาษีประจำปีมากขึ้น เพราะถูกคำนวณหลังจากหักค่าลดหย่อนแล้ว

การที่เราจะบันทึกค่าลดหย่อนได้นั้น เราต้องมีการวางแผนภาษีก่อนจึงจะทราบว่าเราควรจะใช้สิทธิลดหย่อนในเรื่องใดและจำนวนเท่าไร เมื่อเราได้บันทึกค่าลดหย่อนไปแล้ว บริษัทจะคำนวณภาษีและหักภาษีจากเงินเดือนตามข้อมูลที่เราได้แจ้งไป ทำให้ได้เงินเดือนในแต่ละเดือนมากขึ้น เงินที่ได้เพิ่มขึ้นมาก็สามารถนำไปใช้ทำประโยชน์อื่นๆ ได้ด้วย ดังนั้น การที่เราวางแผนภาษีเร็ว และบันทึกค่าลดหย่อนเร็ว จะยิ่งทำให้เราได้เงินกลับมาทำประโยชน์ได้เร็วขึ้นนั่นเอง


2. เตรียมเงินไว้เพียงพอต่อการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี

ปัญหาคลาสสิกที่พบจากการไม่ได้วางแผนภาษีล่วงหน้า คือ เมื่อใกล้ช่วงสิ้นปีเราต้องรีบใช้สิทธิลดหย่อนภาษี และเมื่อคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายออกมาก็พบว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อประกัน กองทุนรวม หรือต้องใช้จ่ายเพื่อการลดหย่อนภาษีต่างๆ อีกมากมาย ด้วยความที่เป็นเงินก้อนใหญ่ทำให้เงินที่เตรียมไว้มักจะไม่เพียงพอ ต้องรีบขายหุ้นหรือกองทุนรวมเพื่อมาซื้อผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ส่งผลต่อแผนการลงทุนและแผนการใช้เงินที่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว

หากมีการวางแผนภาษีตั้งแต่ต้นปี ทำให้เราสามารถเตรียมเงินหรือแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้พร้อมสำหรับการซื้อกองทุนและประกันในช่วงปลายปีหรือจะทยอยซื้อในระหว่างปีก็ได้ โดยไม่กระทบต่อแผนการลงทุนและแผนการใช้เงินด้วย


3. สามารถทยอยซื้อกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษี (SSF, RMF) ได้ทุกๆ เดือน ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนระหว่างปี

เมื่อเราได้วางแผนภาษีเรียบร้อยแล้วจะทำให้เรารู้ว่าจะต้องซื้อกองทุน SSF/RMF จำนวนเท่าไร ซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาช่วงเวลาที่จะสามารถซื้อกองทุนในช่วงที่ถูกที่สุดของปีได้ แต่เราสามารถทยอยซื้อกองทุนในทุกๆ เดือน หรือการทำ DCA (Dollar-Cost Averaging) เพื่อเฉลี่ยต้นทุนการซื้อ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากการลงทุน อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนระหว่างปีจากการปันผลของกองทุนรวมเพิ่มขึ้นอีกด้วย

4. ซื้อประกันเร็วจะได้รับความคุ้มครองก่อน

หากต้องมีการซื้อประกันไม่ว่าจะคุ้มครองชีวิตหรือสุขภาพ การวางแผนภาษีไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้เราสามารถซื้อประกันไว้ก่อนได้เลย หากซื้อประกันไว้ตั้งแต่ต้นปีนั่นหมายความว่าเราก็ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่เราเลือกได้ก่อน และประกันบางประเภทมีระยะเวลารอคอย (Waiting Period) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประกันจะยังไม่คุ้มครองหลังจากซื้อประกันแล้ว ทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น หากเรามาซื้อประกันช่วงปลายปีก็อาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่เราอาจจะมีการเดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนนั่นเอง

5. ถ้าซื้อประกันที่ได้ผลตอบแทน จะได้ผลตอบแทนกลับมาเร็วมากกว่า

ประกันบางประเภทนอกจากจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังสามารถสร้างผลตอบแทนคืนกลับมาให้ผู้ซื้อประกันด้วย เช่น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment) ประกันประเภทนี้มักจะมีการจ่ายคืนผลตอบแทนกลับมาในรูปของเงินคืนในแต่ละปีกรมธรรม์ หากเราได้ทำประกันประเภทนี้ไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี เราก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมาในช่วงต้นปีถัดๆ ไป ทำให้สามารถเอาผลตอนแทนที่ได้รับไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

อย่าลืมว่าช่วงปลายปีคือเวลาสังสรรค์ เฉลิมฉลอง และพักผ่อน อย่าให้การลดหย่อนภาษีมาเบียดบังเวลาแห่งความสุขอันมีค่าของเรา ดังนั้นการรีบวางแผนภาษีไว้ก่อนก็เพื่อให้ความสุขปลายปีเป็นความสุขที่สมบูรณ์ของเรานั่นเอง

สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เราก็มี 3 ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ครบทั้งการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท* การออมเงินเพื่อเป้าหมายระยะสั้น การออมเงินเพื่อความมั่นคงในอนาคต การคุ้มครองชีวิต และเพิ่มโอกาสในการรับเงินปันผลได้มากขึ้น


      ●      KKPGEN Wealth​ 12/5 (Par) เน้นวางแผนออมเงิน จ่ายเบี้ยสั้น พร้อมโอกาสรับเงินปันผล  ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://link.kkpfg.com/YCCWe

      ●      KKPGEN Extra 25/15 เน้นวางแผนออมเงิน และความคุ้มครองชีวิตนาน 25 ปี พร้อมรับผลตอบแทนรวม 147%** ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://link.kkpfg.com/wRErw

      ●      KKPGEN Infinite Return เน้นวางแผนเกษียณ ที่การันตีรับเงินคืนสูงสุด 24%** ต่อเนื่องตั้งแต่อายุ 61-89 ปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://link.kkpfg.com/USL57

หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทรทุกสาขา หรือ โทร. 02 165 5555

*เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
**ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

คำเตือน:
-  พิจารณารับประกันภัย โดย บมจ. เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) เงื่อนไขการสมัครและชำระเบี้ยประกันภัย เป็นไปตามที่ผู้รับประกันภัยกำหนด
- ธนาคารในฐานะนายหน้าประกันชีวิต
- ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

5
เปิดแล้ว!! งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51ฯ
ชวนทุกคนมาร่วมเป็น "Bookfluencer" สร้างซอฟต์พาวเวอร์ด้วยการอ่าน




เปิดแล้ว! งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 21 สนับสนุนโดยBOOK☆WALKER ภายใต้แนวคิด "Bookfluencer : ผู้นำอ่าน ผลักดันให้ใช้การ “นำอ่าน” เป็นซอฟต์พาวเวอร์สร้างสังคมการอ่านอย่างยั่งยืน พบ 7 โซนหนังสือน่าอ่าน นิทรรศการน่าสนใจ กิจกรรมแนะนำหนังสือใหม่ สนทนาสาระจากนักเขียนที่ชื่นชอบ เปิดประสบการณ์ดีๆ กับนักเขียนนักวาดจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันนี้ -  9 เมษายน 2566 ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พิเศษ 3 วันแรกเปิดงานถึงเที่ยงคืน




              นางสาวทิพย์สุดา สินชวาลวพัฒน์​ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า ภายใต้แนวคิดการจัดงาน Bookfluencer - ผู้นำอ่าน นั้น คาดหวังให้ทุกคนสามารถเป็นผู้นำอ่าน ใช้เป็นเครื่องมือของการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้เกิดสังคมการอ่านได้อย่างยั่งยืน โดยงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 51ฯ นี้ มีสำนักพิมพ์เข้าร่วม 333 ราย จำนวนกว่า 905 บูธแบ่งโซนจำหน่ายหนังสือทั้งหมด 7 หมวด ได้แก่ หนังสือเด็กและการศึกษา, หนังสือต่างประเทศ, หนังสือเก่า, หนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland), หนังสือนิยายและวรรณกรรม, หนังสือนิยายวาย (Wonder Y) และหนังสือทั่วไป นิทรรศการที่น่าสนใจไ ด้แก่ นิทรรศการพระราชนิพนธ์แปลวรรณกรรมข้ามชาติข้ามวัฒนธรรม ในกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ​ จัดแสดงพระราชนิพนธ์แปลอันทรงคุณค่าในกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาจีน นิทรรศการแสดงหนังสือดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2566 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ หรือ สพฐ.​ นิทรรศการวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้ากับการสร้างแรงบันดาลใจ โดยรัฐสภา​ นิทรรศการ Following the Readers ตามไปดู รู้จักผู้อ่าน โดย TK Park ตลอดจน นิทรรศการสื่อสิ่งพิมพ์จีนสัญจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 7 โดย บริษัท เซี่ยเหมิน อินเตอร์เนชั่นแนล บุ๊ก จำกัด ร่วมด้วย กิจกรรมจาก BOOK☆WALKER, TikTok และ Bingbook Bingblock เป็นต้น




              ขณะเดียวกัน ในวันที่ 31 มีนาคม มูลนิธิหนึ่งอ่านล้านตื่น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย สร้างคนคุณภาพ ผ่านหนังสือคุณภาพ ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานครมอบหนังสือตรงใจให้บ้านหนังสือ 15 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ในชุมชนบนพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ 18 แห่ง โดยได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธี 10.30 น.




              สำหรับเวทีกลางยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจตลอดทุกวัน อาทิ การเปิดตัวหนังสือใหม่ กิจกรรมทอล์คจากอินฟลูเอนเซอร์ กิจกรรมสำหรับเด็กและครอบครัว รวมถึงกิจกรรมที่จะได้พบกับนักเขียนต่างประเทศ ที่ห้อง Meeting Room ชั้น 2 อาทิ Taiwan-Thailand Comics Exchange: ttcomics 2023 พบกับนักเขียนการ์ตูนชาวไทยและชาวไต้หวัน ได้แก่ มุนินทร์ สายประสาท, อาร์ต จีโน, หร่วน กวาง หมิน (Ruan Guang-Min) และ เหวย หลี รั่ว หมิง (Rimui), งานแจกลายเซ็นนักเขียนและนักวาด อ.ไดสุเกะ ไอซาวะ และ อ.โทไซ จากไลต์โนเวล “ชีวิตไม่ต้องเด่น ขอแค่เป็นเทพในเงา” (The Eminence in Shadow) โดย คาโดคาวะ อมรินทร์ และ กิจกรรมจากเจแปนฟาวน์เดชั่น จัดงานสัมมนาภาพสะท้อนสังคมในงานวรรณกรรม (Society Reflected in Literature) โดย มัทสึดะ อาโอโกะ นักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่นร่วมกับ 3 นักเขียนไทย ได้แก่ วีรพร    นิติประภา, จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท และชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์ โดยมีฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล และโช ฟุกุโตมิ ดำเนินรายการ สนับสนุนโดยสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทยและสมาคมญี่ปุ่นในประเทศไทย






              นอกจากนี้ เพื่อให้ช่วง 3 วันแรกของการจัดงานที่เปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนเป็นครั้งแรกนั้นน่าสนใจ ผู้จัดงานได้เตรียมกิจกรรมพิเศษตั้งแต่เวลา 21.00 น. ได้แก่ กิจกรรมจากสมาคมบอร์ดเกมประเทศไทย (30-31 มีนาคม) การแจกโปสเตอร์งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 51ฯ ผลงานจากศิลปินกราฟฟิตี้ระดับโลก​ อเล็ก เฟส (Alex Face) ร่วมด้วยการจำหน่ายกระเป๋าผ้าลายพิเศษเฉพาะงานสัปดาห์หนังสือ ครั้งที่ 51ฯ ที่ออกแบบโดย อเล็ก เฟส เช่นกันในราคาใบละ 690 บาท มีจำนวนจำกัด, กิจกรรม TikTok Live จำหน่ายหนังสือในราคาพิเศษ และทั้งสามวันสามารถนำใบเสร็จ 500 บาทลุ้นรับคูปองเงินสดมูลค่า 500 บาท ติดตามรายละเอียดได้ที่​ www.facebook.com/bookthai

6
รายการ “หนีเที่ยวกัน”
เสาร์ที่ 1 เมษายน 66 เวลา 09.00 น. Workpoint ช่อง 23

“ซัน” คลายร้อนสุดแซ่บ
ยอมรับแมนๆ ติดอ่าง!!




                อากาศอย่างเดือด!! เข้าสู่เดือนที่ร้อนที่สุดแห่งปี พิธีกรหนุ่มฮอต​ ซัน-ประชากร​ จะพาไปคลายร้อน ลงอ่าง!​ สุดฟิน ไม่ใช่อ่างธรรมดาๆ แต่เป็นอ่างน้ำแร่ธรรมชาติ ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา งานนี้ซันยังยอมรับแมนๆ ว่า​ ติดอ่าง! ลงอ่างตลอดๆ โอ้วแซ่บเวอร์ร์ร์ “หนีเที่ยวกัน” วันเสาร์ที่ 1 เม.ย. นี้ 9 โมงเช้า ทาง Workpoint ช่อง 23​ ดูย้อนหลังทาง​ YouTube FlukeLee https://www.youtube.com/c/FlukeLee/featuredและไปหนีเที่ยวกันแบบจุใจในเฟซบุ๊ก​ https://www.facebook.com/nheetiew/ และอินสตาแกรม @nheetiewgun.th
















7
วช.หนุนศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
ตามแนวพระราชดำริการเกษตรแบบผสมผสาน


                สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ( วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้การสนับสนุนโครงการศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากตามแนวพระราชดำริการเกษตรแบบผสมผสาน อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเป็นการนำแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทำกินแบบครบวงจร จัดตั้งศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรง พัฒนาและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งชันโรง สร้างฐานข้อมูลศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรงเสมือนจริงผ่านแอปพลิเคชั่น ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบบนฐานการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นแบบอย่างและแนวทางให้แก่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกจังหวัดสงขลา นำไปสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน


                ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช.เป็นองค์กรของรัฐ ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ให้การสนับสนุนโครงการวิจัยต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวชุมชน โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่จำเป็นต้องมีแนวทางในการบริหารจัดการ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างช่องทางในการหารายได้จากหลายผลิตภัณฑ์ อย่างพื้นที่ในอำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา เกษตรกรได้จัดสรรพื้นที่สวนยาง เพื่อการเพาะปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชสมุนไพร และการเลี้ยงชันโรง ส่งผลให้สามารถเก็บผลผลิตจากชันโรงออกจำหน่าย  สามารถชดเชยระดับราคาน้ำยางพาราที่ลดต่ำลง สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร และสามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้การเกษตรแบบผสมผสานอีกด้วย


                ดร.ฉัตรธิดา หยูคง อาจารย์โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์( ฝ่ายมัธยมศึกษา )คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ทีมงานวิจัยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเกษตรทฤษฎีใหม่ในการบริหารจัดการพื้นที่ใช้สอยในด้านการเกษตร ซึ่งพื้นที่ตำบลบางกล่ำ อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา นับเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ หรือเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่สีเขียว เนื่องด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรสวนผลไม้ และสวนยางพาราตั้งอยู่ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภาและคลองบางกล่ำ ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่ปลอดจากโรงงานอุตสาหกรรมและมลพิษ จึงถือเป็นต้นทุนทางทรัพยากรทางธรรมชาติของชุมชนที่สำคัญ และสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรและน้ำผึ้งชันโรง สามารถขับเคลื่อนการทำเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อลดและกระจายความเสี่ยงของกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรสามารถจัดสรรพื้นที่สวนยาง เพื่อการเพาะปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชสมุนไพร และการเลี้ยงชันโรงออกจำหน่ายชดเชยรายได้ในช่วงราคายางหรือราคาพืชผลทางการเกษตรอื่นๆตกต่ำ






                อาจารย์ฉัตรธิดา กล่าวว่า คณะผู้วิจัยและทีมงานจึงได้นำเสนอโครงการเพื่อจัดการความรู้การเลี้ยงชันโรงตามแนวพระราชดำริการเกษตรแบบผสมผสาน และสร้างศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรง ลักษณะห้องเรียนมีชีวิตในพื้นที่ตำบลบางกล่ำ ขยายผลเป็นพื้นที่ต้นแบบคนเลี้ยงชันโรงในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ อำเภอสะเดา และอำเภอนาทวี พัฒนาและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้งชันโรงในพื้นที่ตำบลบางกล่ำ และ สร้างฐานข้อมูลศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรงเสมือนจริงผ่านแอปพลิเคชั่น นอกจากนี้พื้นที่ตำบลบางกล่ำ อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลาได้มีความพร้อมในด้านคน โดยคนในพื้นที่ให้ความร่วมมือไม่ใช่สารเคมีในพื้นที่การเกษตร 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะหากมีการใช้สารเคมีจะส่งผลให้ชันโรงจะไม่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณนั้น และความพร้อมของสมาชิกวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงอุงและญิงยวนบางกล่ำ ที่จะเรียนรู้ พัฒนาตนอยู่เสมอ ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การอบรมเพื่อพัฒนาการเลี้ยงชันโรง หรือ การถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรพื้นที่อื่น ๆ เป็นต้น จากความพร้อมทั้งทางด้านทรัพยากรทางธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล นับเป็นจุดเด่นที่ส่งผลให้วิสาหกิจชุมชนเลี้ยงอุงและญิงยวนบางกล่ำเกิดการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง






                สำหรับการการขยายผลต่อยอดจากการเลี้ยงชันโรงในหลาย ๆ ด้านอาทิ การผลิตกล่องเลี้ยงชันโรง เพื่อจำหน่ายแก่สมาชิกภายในวิสาหกิจชุมชน และคนภายนอก การจำหน่ายขี้ชัน สิ่งที่เหลือจากการกรองน้ำผึ้งชันโรง และมีประโยชน์ต่อการดึงดูดชันโรงเข้าสู่กล่องเลี้ยงใหม่ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปชันโรงเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำผึ้งชันโรง น้ำเถาคันผสมชันโรง สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู โลชั่น ลิปบาล์ม ลิปสติก ครีมบำรุงใต้ตา และตะลิงปลิงอบแห้งผสมชันโรง รวมถึงการสร้างศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรงในชุมชน เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้กระบวนการเลี้ยงชันโรงผ่านการลงมือปฏิบัติจริง ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้าเยี่ยมชมหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

                •​คุณคมคาย เพชรมุณี ประธานวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงอุงและญิงยวนบางกล่ำ
เบอร์โทรศัพท์ 061-2532874
•​สวนลุงรมย์ ศูนย์ต้นแบบการเรียนรู้คนเลี้ยงชันโรง เบอร์โทรศัพท์ 086-6937173
•​สวนพี่โอ ศูนย์เรียนรู้การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากชันโรง
เบอร์โทรศัพท์ 089-1978192

















8
นักชกจีนผงาดคว้า 2 แชมป์ 2 สถาบันด้านฟิลิปปินส์ไม่น้อยหน้าคว้า 2 แชมป์เช่นกัน ศึกไฮแลนด์ วิค ท็อปคิงส์ เป็กพลัส บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น ที่เวทีมวยชั่วคราว สเป็กพลัส แบ็งค์คอก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566ทั่ผ่านมา



                เมื่อวันที่30 มีนาคม 2566 ที่สเป็กพลัส กรุงเทพฯ ย่านอาร์ซีเอ พระราม9 ที่ผ่านมา เเป็นการชิงแชมป์ 7รุ่น 3สถาบันประกอบด้วย ABF WBC ASiA IBF โดยได้รับเกียรติจากนายนริศ สิงห์วังชา ประธาน ABFเป็นประธานที่ปรึกษา นายสุรพจน์ พงษ์จิวานิช มิสเตอร์นาสเซอร์ ครู้ช จากฟิลิปปินส์ ตัวแทนจากWBC ASiA พร้อมด้วยโปรโมเตอร์ประกบคู่มวย นายศุภณัฐ จันทร์แรม พร้อมด่วยคู่เขย มิสเตอร์บรีโก้ แซนดิก จากฟิลิปปินส์




                โดยคู่เอกของรายการเป็นการชิงแชมป์ที่ว่างรุ่นครุยเซอร์เวท พิกัด 200 ปอนด์ ของ IBFระหว่างนักชกจากแคเมอรูน โรลี่ แลเบอร์ด กับ นักชกแอฟริกาใต้ ลีโบแกงค์ มาชิโตเอ  ตลอดการชกทั้ง12 ยก โลลี่ แลมเบอร์ด ออกหมัดได้ดีกว่าชัดเจนหนักหน่วงเป็นฝ่ายชนะคะแนนเอกฉันท์116-110.119-104.116-110 คว้าแชมป์ABFมาครอง ด้านรองคู่เอกเป็นการชิงแชมป์ 2สถาบัน ABFํ กับ WBC ASIA รุ่นซุปเปอร์เหเธอร์เวท พอกัน 130 ปอนด์ นักจีน ชี กัง เช็ง กับนักชกฟิลิปินส์ คอนราโด้ทานามอร์ นักชกจีนเดินถลุงลำตัวสลีบใบกน้าก่อนที่เป็นฝ่ายชนะทีเคโอยก3 คว้าแชมป์มาครองทั้งสองสถาบันอย่าสนใจ




                ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆเป็นการป้องกันแชมป์ABF รุ่นแบนตั้มเวท พิกัด 118 ปอนด์ของนักชกฟิลิิปินส์ เฮอรัน โกเมธ กับผู้ท้าชิงนักชกไทย พิษณุ ฉิมสุนทร กำหนด10ยก เกมส์การชกนักชกฟิลิปปินส์อาศัยความสดบดเก็าไล่ถบุงข้าวเดียวเป็นฝ่ายเอาชนะทีเคโอ ยก3 ป้องกันแชมปฺำว้ได้สวยงาม คู่ต่อมาชิงแชมป์ABFที่ว่างรุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท  พิกัด 140 ปอนด์กำหนด 8ยก อิเก้ อลิน โคน๊อก จากตุรกีชนะคะแนน อรรถวุธ มะลิวรรณ ชิงแชมป์ที่ว่าง ABF ที่ว่างรุ่น ไลท์เวท 135 ปอนด์ เอฟฟี่ เดอร์ริน จากตุรกี ชนะทีเคโอยก 1 ชิงแชมป์ว่างABFรุ่นเวลเตอร์เวท พิกัด147ปอนด์กำหนด8ยก โจเฟอร์ มอนตาโน จากฟิลิปินส์ ชนะทีเคโอยก6 กราซาเฮียกัสซีมี้ จากอิหร่าน
















9
สวยรับซัมเมอร์ไปกับ FIRSTER Summer Seeking Vibes
ช้อปวันนี้รับสิทธิพิเศษถึง 3 ต่อ! Top Spender ลุ้นรับ FIRSTER Voucher มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท


               มีนาฯ นี้ต้องสวยกว่าใคร! ต้อนรับซัมเมอร์ไปกับโปรโมชั่นสุดฮอตจาก​ FIRSTER (เฟิร์สเตอร์) เพียงช้อปผลิตภัณฑ์ใดๆ กับเฟิร์สเตอร์ก็รับสิทธิพิเศษถึง 3 ต่อในแคมเปญ FIRSTER Summer Seeking Vibes ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค. 66 ไม่ว่าจะเป็น


•   ต่อที่ 1: ช้อปผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่ FIRSTER ทุกสาขา รับส่วนลดทันที 5% พิเศษ! เฉพาะสมาชิก FIRSTER รับส่วนลดเพิ่มทันที 20% เมื่อช้อปครบ 3,500 บาท พร้อมรับ Scratch & Win Card เพิ่มอีก 1 ใบ ให้คุณลุ้นกับการขูดการ์ดค้นหาโลโก้ FIRSTER 3 อัน ผู้โชคดีลุ้นรับคูปองส่วนลดถึง 1,000 บาท (สำหรับการช้อปในรอบบิลถัดไปเมื่อซื้อครบ 3,000 บาท) ** เฉพาะสินค้าที่เข้าร่วมรายการ **


•   ต่อที่ 2: ช้อปผลิตภัณฑ์ใดๆ FIRSTER ร่วมลุ้นเป็น Top Spender (สำหรับลูกค้าที่มียอดซื้อสะสมสูงสุด 10 อันดับแรกเท่านั้น) และรับ FIRSTER Voucher มูลค่า 10,000 บาท จำนวน 10 รางวัล รวมมูลค่าถึง 100,000 บาท


•   ต่อที่ 3: Lipster’s Day เฉพาะวันศุกร์ทุกสิ้นเดือน ศุกร์นี้ 31 มี.ค. 66 เท่านั้น ช้อปลิปสติกครบ 2 แท่ง รับส่วนลดทันที 25% ** เฉพาะสินค้าที่เข้าร่วมรายการ **


               อยากนำเทรนด์การช้อปสุดล้ำไปกับขบวนสินค้าแบรนด์ดังก่อนใคร ช้อปได้ที่ร้าน FIRSTER ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาคิง เพาเวอร์ มหานคร และสาขาสยามสแควร์ (ซอย 7 หรือบริเวณสยามสแควร์ Main Street) อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่​ https://www.facebook.com/firsterlifestyle  หรือ​ https://www.facebook.com/firsterbeauty


10
“สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่จับมือพันธมิตรปักธงปั้นโมเดล พัฒนาเขาใหญ่เมืองท่องเที่ยวด้วย Green Energy สู่ NET ZERO อย่างยั่งยืนพร้อมดึงนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวจากทั่วโลก”




สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จัดกิจกรรม​ “Shaping Khao Yai with Green Future” เขาใหญ่เมืองท่องเที่ยวยั่งยืนด้วยพลังงานสะอาด ร่วมฉายภาพเขาใหญ่ในปี 2023-2026 ในวันที่ 30 มีนาคม 2566  ณ สวนผักปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา


นางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการในพื้นที่เขาใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงให้หันมาใช้พลังงานสะอาดซึ่งเป็นอีกหนึ่งในแนวทางการมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก( คาร์บอนไดออกไซด์) สุทธิเป็นศูนย์( NET ZERO) ภายในปีค.ศ. 2065- 2070 เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอุตสหากรรมการท่องเที่ยวและการบริการในอนาคต​ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเขาใหญ่เมืองท่องเที่ยวด้วย Green Energy สู่ NET ZERO อย่างยั่งยืน


นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง ประธานกล่าวงาน ให้เกียรติมาร่วมเปิดงานในครั้งนี้ กิจกรรมไฮไลท์ที่สำคัญภายในงาน ได้แก่ การเสวนาในหัวข้อ “Shaping Khao Yai with Green Future” เพื่อเสนอแนวทางการใช้พลังงานทดแทนและมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงตัวอย่างความสำเร็จของภาคเอกชนที่ปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานทางเลือกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณพฤฒิ เกิดชูชื่น ผู้ก่อตั้งแดรี่โฮม , คุณซ่อนกลิ่น พลอยมี รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ), คุณรวิวัฒน์ พนาสันติภาพ นายกสมาคมบริษัทจัดการพลังงานไทย, รศ. ดร.วรวัฒน์ มีวาสนา อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ดำเนินรายการโดย อาจารย์รัชฎาพร วิสุทธากร อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี คุณกิตติกร โตใหญ่ ผู้จัดการศูนย์กลุ่มจังหวัดให้บริการ SMEs ครบวงจรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 จังหวัดนนครราชสีมา




นอกจากนี้ภายงานยังมีกิจกรรมการออกบูธให้คำปรึกษาจากหน่วยงานของรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.),สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ( สสปน.) กลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจพลังงาน อาทิ อินเตอร์โซลาร์รูฟ เทรดริช ไทเฮ, SCG Housing and Living Solutions, เอนเนอร์จีกา,Insee Eco Cycle, Look Solar, พรีเมียร์ โปรดัคส์,Recycle Day,และสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ อาทิ ธนาคารกรุงไทย,ธนาคารออมสิน,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม,ธนาคารกสิกรไทย, กลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อาทิ ซิน ไฉ ฮั้ว เป็นลาว ไร่โชตวัน สวนผักปากช่อง อุดมทรัพย์ฟาร์ม  โตโยต้า ปากช่อง Trekking Thailand Tour ฯลฯ เพื่อให้คำปรึกษาเบื้องต้นแก่ผู้เข้าร่วมงานที่สนใจหันมาใช้พลังงานสะอาด​ การออกซุ้มอาหารชุมชน จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวคลองม่วง​ ผลิตภัณฑ์ออแกนิก  การสาธิต “หม่อนซ่อนเงื่อน” จากสวนเอเดน ออร์แกนิกส์ และซุ้มอาหารจากผู้ประกอบการชมรมร้านอาหารอำเภอปากช่อง ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายทั้งในอำเภอปากช่อง อาทิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สมาคมBIZ CLUB นครราชสีมา สมาพันธ์เอสเอ็มอี จังหวัดนครราชสีมา ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารอำเภอปากช่อง ชมรมฮักเขาใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้าง TOKO APPLICATION แดรี่โฮม ฯลฯ










ปิดท้ายด้วยการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการด้วยการนำเสนอโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เพื่อผู้ประกอบการนำสู่เศรษฐกิจชุมชนโดยสสปน.(TCEB)” สนใจศึกษารายละเอียดได้ที่ www.meeting.thaimiceconnect.com

FB: สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่

ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อคุณจิรา (แอดมิน) เบอร์094-239 3916

11
เด็กยุคใหม่ต้องสตรอง  เจาะเทรนด์ LPR โพรไบโอติก เกรด A ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน


               ปัจจุบันการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มให้ความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะกลุ่มแม่ๆ ที่กำลังมองหาตัวช่วยเสริมเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับลูกและคนในครอบครัว  หนึ่งสิ่งที่เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว และกำลังอยู่ในกระแสความสนใจคือ LPR โพรไบโอติก

               หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า LPR โพรไบโอติก คืออะไร? LPR โพรไบโอติก คือจุลินทรีย์ดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่จะเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ลูกรัก การที่เด็กมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นสิ่งที่แม่ๆ ยุคนี้ให้สำคัญอย่างมาก ซึ่ง LPR โพรไบโอติก นับเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรงในทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดสุขภาพที่คุณแม่ยุคใหม่ให้ความใส่ใจมากขึ้น ผู้ผลิตจึงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามเทรนด์อยู่เสมอ การคัดสรรสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยความใส่ใจตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายรอบตัวลูกในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัส หรือแบคทีเรียที่พบได้ในปัจจุบัน


               LPR โพรไบโอติก ได้รับคำแนะนำระดับ Grade A สำหรับประโยชน์ในเรื่องของภูมิคุ้มกันจาก The consensus opinions from the 4th Triennial Yale/Harvard Workshop on Probiotics Recommendations (2015) ให้เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ และกำลังได้รับความสนใจโดยเฉพาะในวงการผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย และสมาคมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ทั้งในยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ อีกทั้งยังมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุด โดยมีการศึกษาค้นคว้าในด้านคุณประโยชน์ต่อเนื่องกว่า 30 ปี

               สำหรับ​ LPR โพรไบโอติก เกรด A ในเรื่องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และเป็นหนึ่งใน จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ที่พบในนมแม่ โยเกิร์ต และนมบางชนิด โดยมีงานวิจัยรองรับในหลากหลายด้านรวมถึง งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ในการปกป้องทางเดินหายใจ ด้วยการลดความเสี่ยงการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจในเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในยุคนี้มาก เนื่องด้วยปัจจุบันเด็กต้องเผชิญกับเชื้อโรคที่หลากหลาย

                ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของจุลินทรีย์เพิ่มเติมว่า LPR โพรไบโอติก สามารถช่วยปกป้องระบบทางเดินหายใจ ในเด็กอายุ 1-7 ปี และยังช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนได้ถึง 37% เห็นได้ชัดว่า LPR โพรไบโอติก เป็นอีกหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้เด็กมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เมื่อเด็กไม่เจ็บป่วย สมองก็พร้อมเรียนรู้ในทุกๆวัน ร่างกายแข็งแกร่งพร้อมเผชิญโลกกว้าง


กราฟแสดงค่าความเสี่ยงสัมพัทธ์เปรียบเทียบความเสี่ยงการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจในเด็ก ระหว่างกลุ่มที่ได้รับ LPR โพรไบโอติกและกลุ่มควบคุม
(reference: Hojsak I, et. al. Clin Nutr. 2010 Jun;29(3):312-6.)

                นอกจากนี้ หากลูกรักได้รับLPR โพรไบโอติก อย่างเหมาะสมก็จะสามารถช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ให้ดีได้ และยังส่งผลให้​ การย่อย การดูดซึมสารอาหาร และการขับถ่ายเป็นปกติดีอีกด้วย


                แต่อย่างไรก็ตามการได้รับประโยชน์จากสารอาหารที่มาจากธรรมชาติอย่างเหมาะสมครบถ้วน ถือเป็น ทางเลือกแรกที่ควรตระหนักและการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงออกกำลังกายและทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็กจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการตามวัย จึงจะถือเป็นการดูแลทั้ง สุขภาพร่างกายและใจที่ดีที่สุด เพื่อให้เด็กยุคใหม่เติบโตอย่างมีคุณภาพและแข็งแกร่งพร้อมเผชิญโลกกว้าง #ยิ่งทำยิ่งเติบโต

                เรียนรู้ข้อมูลเรื่อง LPR โพรไบโอติก เพิ่มเติมได้ที่​ https://www.nestlemomandme.in.th/lpr-benefits

สามารถติดตามข่าวสาร ข้อมูลอันเป็นประโยชน์และกิจกรรมอื่น ๆ ได้ที่ Mommy Bear Club หรือโทร 02-268-8866

Reference:
- 1. Floch MH, et. al. J Clin Gastroenterol 2015; 49:S69-S73
- 2. Lara-Villoslada F, et al. Br J Nutr. 2007 Oct;98 Suppl 1:S96-100.
- 3. Sun J, et al. J Dairy Sci. 2019 Jul;102(7):5971-5978.
- 4. Fox MJ, et al. BMJ Open. 2015 Jan 14;5(1):e006474
- 5. Hojsak I, et. al. Clin Nutr. 2010 Jun;29(3):312-6.
- 6. Kort R, et. al., Microb Cell Fact. 2015 Dec 8;14:195.

12
สร้างปรากฏการณ์ “ลมหายใจที่มีคุณภาพ” ใจกลางเมือง
 พร้อมเปิดตัว พีพี-กฤษฏ์ พรีเซนเตอร์ยาดม Peppermint Field





              Peppermint Field (เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์) แบรนด์ยาดมเพื่อคนรุ่นใหม่ นำโดย มีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด เปิดพื้นที่ลานกิจกรรม สยามสแควร์ วัน -ทางเชื่อม BTS สยาม ให้เป็นโซน “ลมหายใจที่มีคุณภาพ” ที่ทุกคนได้เข้ามาเปิดประสบการณ์ใหม่ สัมผัสความหอม สดชื่น พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุด “พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” ศิลปินชื่อดังตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ลมหายใจที่มีคุณภาพ ผ่านผลิตภัณฑ์ยาดมของเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ในงาน “ปรากฏการณ์ลมหายใจที่มีคุณภาพใจกลางกรุง Peppermint Field X PP Krit”




              โดย มีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้บริหารเบอร์แทรมและแบรนด์ Peppermint Field เผยถึงที่มาของ “ลมหายใจที่มีคุณภาพ” นี้ มาจากการที่ ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ของเราเป็นผลิตภัณฑ์ยาดมที่มีคุณภาพ มีส่วนผสมวัตถุดิบจากธรรมชาติ ได้แก่เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ออยล์และยูคาลิปตัส ออยล์ รวมถึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลก GMP-PIC/S จนมาเป็นยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ที่ผู้ใช้สามารถมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย ดมได้บ่อย เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ดมแล้วไม่แสบจมูก เป็นไอเทมติดตัวที่พกง่าย ใช้สะดวก สูดดมเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่ไม่พึงประสงค์จากสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน  เช่น ร้อน อาการวิงเวียนศีรษะ เมารถ เมาเรือ เครียดจากการทำงานหรือการเรียน ช่วยเปลี่ยนให้ทุกลมหายใจ เป็นลมหายใจที่มีคุณภาพได้ในทุก ๆ วัน โดยเรามีอยู่ 2 สูตร คือ ยาดม Peppermint Field (เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์) หลอดสีขาว มีความหอมอะโรมาติก จากเป๊ปเปอร์มิ้นท์ออยล์ และ ยาดม Peppermint Field Black Inhaler (แบล็ค อินเฮเลอร์) หลอดสีดำ หอมเข้ม โล่งจมูกด้วยยูคาลิปตัส ออยล์ ที่เพิ่มมากขึ้น 2 เท่า ผู้ใช้สามารถเลือกยาดมให้ตรงกับบุคลิก ความชอบและไลฟ์สไตล์ของตนเอง




              ด้วยความโดดเด่นของยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ทั้งสองสูตร มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เราจึงมองหาตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนได้อย่างมั่นใจ จึงได้มาลงตัวที่ คุณพีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร นักแสดงและนักร้องชื่อดัง มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์ Peppermint Field เพราะพีพี-กฤษฏ์ มีความสามารถ สดใส เท่ เป็นตัวของตัวเองไม่ตามแบบใคร และมีภาพลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี พร้อมนำเสนอผ่านรูปแบบของเพลง (Music Marketing) สร้างการจดจำระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เลือกใช้เมโลดี้ที่เข้าใจง่าย ไพเราะ และเน้นใส่ความรู้สึกไปในคำเนื้อร้อง “ลมหายใจที่มีคุณภาพ สูด Peppermint Field” ซึ่งเราจะสื่อสารออกไปในทุกแพลตฟอร์มทั้งออนไลน์ และออฟไลน์แบบ 360 องศา โดยนี้ถือเป็นครั้งแรกของพีพี-กฤษฏ์ ที่มาทำหน้าที่เป็นทั้งพรีเซนเตอร์ และร้องเพลงซิงเกิ้ลให้เราเป็นครั้งแรกด้วยค่ะ”    




              โดยพีพี เผยความรู้สึกในฐานะพรีเซนเตอร์ ว่า “ก่อนอื่นพีพี รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่แบรนด์เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ได้เลือกพีพีมาเป็นตัวแทนในการสื่อสารแนวคิดและมอบประสบการณ์ “ลมหายใจที่มีคุณภาพ” ให้กับทุกคน แล้วส่วนตัวพีพีเองก็ใช้ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ อยู่แล้วด้วย ยิ่งช่วงนี้จะใช้บ่อยมาก เพราะแต่ละวันต้องเดินทางไปทำงานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง ทำงานเยอะมาก ก็มีบ้างที่รู้สึกมึนหัว เวียนหัว เพลียบ้าง แต่ก็ยังดีที่พกยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ทั้งสองสูตรติดตัวไปด้วยทุกที่ พอเริ่มมีอาการก็หยิบมาดมได้ทันที คือชอบที่คุณภาพของสินค้าด้วยกลิ่นหอมอะโรมาติกที่เป็นเอกลักษณ์ สดชื่น ผ่อนคลาย ทำให้เรากลับมามีแรงรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ แถมยังสูดดมได้เรื่อย ๆ ปลอดภัยต่อจมูก ขอฝากติดตามหนังโฆษณาชุดใหม่ รวมถึงเพลง Peppermint Field  ลมหายใจที่มีคุณภาพกันด้วยนะครับ แล้วมาสนุกกับกิจกรรมมากมายจากทางเป๊เปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ กันนะครับ”





   


















13
วช. เชิดชู ศ.ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ปี 66 สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้ใช้งานวิจัยสยบมาลาเรียในอาเซียน ช่วยสกัดการแพร่เชื้อไปทั่วโลก


วันที่ 30 มีนาคม 2566 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงานแถลงข่าว “NRCT Talk : นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2566 ครั้งที่ 2” เปิดตัว ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ แห่ง คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2566 โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นายเอนก บำรุงกิจ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธาน ณ ศูนย์จัดการความรู้การวิจัย อาคาร วช.1 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กรุงเทพฯ


นายเอนก บำรุงกิจ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า  วช. ภายใต้กระทรวง อว. มีภารกิจที่สำคัญในการยกย่อง เชิดชู ประกาศเกียรติคุณหรือยกย่องบุคคลหรือหน่วยงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยเป็นผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อวงวิชาการส่วนรวม ซึ่งในปีนี้ วช. ได้มอบรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2566 ให้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ แห่ง ภาควิชาชีวโมเลกุลและพันธุศาสตร์โรคเขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล สำหรับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ วช. จัดให้มีการมอบรางวัลฯ เพื่อเป็น “กำลังใจ” ให้นักวิจัยไทยมืออาชีพที่ได้อุทิศตนให้กับการสร้างผลงานวิจัยที่มีคุณประโยชน์ต่อประชาชน สังคมและประเทศชาติจนเป็นที่ประจักษ์ และที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับยกย่องว่ามีจริยธรรมของนักวิจัย สมควรเป็นแบบอย่างแก่นักวิจัยผู้อื่นได้ ซึ่งเวที NRCT Talk จะเป็นเวทีในการที่จะนำนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติแต่ละสาขามาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ นำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมผ่านสื่อมวลชนและยังเป็นการเชิดชูนักวิจัยทางด้านสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่มีคุณค่า สร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้นักวิจัยเกิดยกระดับงานวิจัยและนวัตกรรมสร้างองค์ความรู้พื้นฐานทางวิชาการต่อสังคมและเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งของผลงานวิจัยดังกล่าวจะนำไปสู่การใช้ประโยชน์ต่อสังคมของประเทศชาติต่อไป


ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ กล่าวว่า ทั่วโลกเผชิญปัญหาเชื้อมาลาเรียดื้อยา มาลาเรียยังคงเป็นปัญหาหลักสำคัญของโลกคร่าชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลกมากกว่า 600,000 คน ต่อปี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขของไทยและองค์การอนามัยโลกได้กำหนดยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยปลอดจากเชื้อมาลาเรียภายในปี พ.ศ. 2567 นำไปสู่การประยุกต์ใช้เทคนิคทางชีวโมเลกุลเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ในการกำจัดมาลาเรียรวมถึงการดื้อยาทั้งในประเทศไทยและประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขง โดยจากผลการวิจัยนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคทางชีวโมเลกุลการตรวจหาผู้ที่ติดซื้อมาลาเรียแบบไม่แสดงอาการที่มีความไวสูงกว่าเทคนิคมาตรฐานกว่า 2,000 เท่า และนำไปตรวจในอาสาสมัครที่แข็งแรงจากไทย ลาว และกัมพูชา จำนวน 61,544 ราย เป็นครั้งแรก ทำให้สามารถบ่งชี้ได้ว่าใครเป็นผู้ติดเชื้อบ้างอยู่บริเวณใดและได้ดำเนินการให้ได้รับยาในรูปแบบ mass drug administration เพื่อกำจัดเชื้อมาลาเรีย ส่งผลให้ผู้ที่ติดเชื้อมาลาเรียลดลงถึง 5 เท่าหลังการใช้ยา จากการศึกษาค้นคว้าสู่การค้นพบการแพร่กระจายการดื้อยาอาร์เทมิซินิน จากเมืองไพลิน ประเทศกัมพูชาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลาว และเวียดนาม เป็นครั้งแรกของโลก ส่งผลให้เกิดการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้การแพร่กระจายการดื้อยานี้กระจายไปสู่ พม่า อินเดีย และไปถึงแอฟริกาในที่สุด จากการค้นพบนี้จะช่วยสร้างระบบเร่งรัดกำจัดเชื้อมาลาเรียดื้อยาเพิ่มประสิทธิภาพของยารักษาโรคมาลาเรียที่มีอยู่สู่การพัฒนายาใหม่ควบคุมและกำจัดโรคมาลาเรียได้อย่างทันท่วงที สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการที่ใช้ในการตรวจหาเชื้อมาลาเรีย ได้ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0 2306 9100-09 ต่อ 1414 และ 1418




ทั้งนี้ วช. ได้มีการจัดงาน NRCT Talk ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเวทีให้นักวิจัยได้นำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมผ่านสื่อมวลชนและยังเป็นการเชิดชู ให้นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ เพื่อสร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้นักวิจัยท่านอื่น ๆ เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคน พัฒนางาน พร้อมยกระดับงานวิจัยและนวัตกรรมสร้างองค์ความรู้สู่การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงโลกแห่งอนาคต สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยและขับเคลื่อนประเทศได้อย่างยั่งยืน


























14
พิซซ่า ฮัท เปิดตัวพิซซ่าใหม่รับซัมเมอร์ ด้วยคอนเซ็ปต์ “ทะเลกุ้งเทพ”
วัยรุ่นเตรียมกดไลค์ เมนู “พิซซ่ากุ้งถังฮอทฉ่า” และ “พิซซ่าขอบกุ้งเด้งดิป”
รสชาติเข้มข้นสไตล์ใหม่ ทั้งหน้า! ทั้งขอบ!


กรุงเทพมหานคร, 30 มีนาคม  2566 – พิซซ่า ฮัท 1150 แบรนด์พิซซ่าระดับโลกภายใต้การบริหารงานของบริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด สาดความอร่อยสุดจุ้งด้วยพิซซ่าหน้าพิเศษในคอนเซ็ปต์ “ทะเล กุ้งเทพ” เปิดตัวรับซัมเมอร์นี้ 2 เมนู ที่วัยรุ่นจะต้องกดไลค์รัวๆ คือ “พิซซ่ากุ้งถังฮอทฉ่า” เข้มข้นกับซอสผัดฉ่าบาร์บีคิวสไตล์กุ้งถังพร้อมซีฟู้ดอัดแน่นเต็มถาดเหมือนยกมาทั้งทะเล และ “พิซซ่าขอบกุ้งเด้งดิป” หน้าอัดแน่นด้วยไก่นิวออลีนส์ และปูอัด กับขอบกุ้งสุดปัง 12 ตัว พร้อมดิปปิ้งซอสเทาซันด์ไอแลนด์

ให้ลูกค้าได้อร่อยเพลินอร่อยฟินเกินคุ้มกับโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 1 ในราคา 399 บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 มิถุนายน 2566 
 
โปรโมชัน “ทะเลกุ้งเทพ”  รู้ใจ คุ้มจริง จัดเลย!
 
      ●      โปรซื้อ 1 แถม 1
เมื่อลูกค้าซื้อพิซซ่าทะเลกุ้งเทพถาดกลาง 1 ถาด (พิซซ่ากุ้งถังฮอทฉ่า หรือ พิซซ่าขอบกุ้งเด้งดิป) ราคาเพียง 399 บาท  จากปกติ 738 บาท แถมฟรี! พิซซ่าหมวดดีลักซ์ หรือ เลิฟเวอร์ อีก 1 ถาด

      ●      โปรเซ็ทคอมโบสุดคุ้ม ราคาเพียง 439 บาท จากปกิต 676 บาท ประกอบด้วยอาหาร 4 อย่าง ดังนี้ พิซซ่ากุ้งถังฮอทฉ่า หรือ พิซซ่าขอบกุ้งเด้งดิป ถาดกลาง 1 ถาด, อาหารทานเล่น 1 รายการ ราคา 69 - 99 บาท และ  สปาเก็ตตี้  1 รายการ ราคา 129 บาท เป๊ปซี่รีฟิล 2 แก้ว ขนาด 16 ออนซ์ เมื่อทานที่ร้าน หรือ เป๊ปซี่ขนาด 1.49 ล. หรือเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาลขนาด 1.45 ล. จำนวน 1 ขวด

เงื่อนไข

      ●      ลูกค้าเพิ่มเงิน 130.- ถาดที่แถม เพื่อเพิ่มขอบชีสหรือขอบไส้กรอกชีสได้
      ●      ลูกค้า เพิ่มเงิน 40.- เพื่ออัพเกรดพิซซ่าหน้าที่แถม ในหมวดดีลักซ์/เลิฟเวอร์ เป็นหมวดสุพรีม
      ●      ลูกค้าเพิ่มเงิน 60.- เพื่ออัพเกรดพิซซ่าหน้าที่แถม ในหมวดดีลักซ์/เลิฟเวอร์ เป็นหมวดซีฟู้ด
      ●      สปาเก็ตตี้ในหมวด129 บาท จำนวน 1 ที่สามารถเลือกรสชาติได้(รสไวท์ครีมซอส, รสเบคอน, รสผัดฉ่าไส้กรอกไก่ และรสอิตาเลียนชิกเก้น)
      ●      พิซซ่าทะเลกุ้งเทพไม่สามารถอัพขอบหรืออัพไซส์ได้

พร้อมรับออเดอร์ ที่ร้านพิซซ่า ฮัท ทุกสาขา หรือโทร. 1150, เว็บไซต์ www.pizzahut.co.th และ Pizza Hut Application แอปเดียวที่คนรักพิซซ่าต้องมี สั่งง่าย ส่งไว ส่งร้อนทุกที่ ดาวน์โหลดเลยวันนี้ที่ Google Play และ APP Store ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม – 15 มิถุนายน 2566!


###

เกี่ยวกับ พีเอช แคปปิตอล

บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด เป็นบริษัท ร่วมทุนระหว่างบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีเอ็ม แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริหารงานโดยตระกูลมหากิจศิริ ที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ ในการบริหารธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมาอย่างยาวนาน เป็นพันธมิตรกับแบรนด์ระดับโลกอย่างเนสท์เล่ มากว่า 40 ปี รวมถึงได้รับความไว้วางใจให้บริหารแบรนด์อาหารระดับโลก อาทิ มาการอง Pierre Hermé (ปิแอร์ แอร์เม่) และ Maison de la Truffe (เมซอง เดอ ลา ทรูฟ) จากฝรั่งเศส และร้านโดนัท Krispy Kreme
 
บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ในกิจการพิซซ่า ฮัท ในประเทศไทยจาก บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับแต่งตั้งให้เป็นแฟรนไชส์ซี ประกอบธุรกิจบริหารร้านพิซซ่า ฮัท ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560

15
ซีเล็คทูน่า ไม่แผ่วดึง “ยิปซี คีรติ” ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก
ปลุกความฮอตตลาดทูน่ากระป๋อง ดันแคมเปญเด็ด “ซีเล็คสิ่งดีดี ซีเล็คทูน่า”


กรุงเทพฯ 30 มีนาคม 2566; แบรนด์ ซีเล็ค (SEALECT) ทูน่ากระป๋องยอดขายอันดับ 1 ของประเทศไทย ภายใต้บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตอาหารทะเลระดับโลก เดินหน้าปรับลุคปลุกตลาดทูน่ากระป๋องในไทย เสิร์ฟแคมเปญ “ซีเล็คสิ่งดีดี ซีเล็คทูน่า” เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ พร้อมส่ง “ยิปซี คีรติ” นักแสดงและยูทูบเบอร์สายเฮลธ์ตี้ รั้งตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซีเล็คทูน่า ดีเดย์ปูพรมเปิดโฆษณาตัวใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์ 1 เมษายนนี้ทั่วประเทศ


นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มหันมาใส่ใจสุขภาพผ่านการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและได้คุณค่าทางโภชนาการและออกกำลังกายควบคู่กันไปมากขึ้น นับเป็นโอกาสของธุรกิจปลาทูน่ากระป๋องที่จะเติบโตได้มากขึ้น ขณะนี้ตลาดทูน่ากระป๋องในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดราว 700 ล้านบาท ซึ่งซีเล็คทูน่าเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 59% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยซีเล็คทูน่ามีเป้าหมายในการเติบโต 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ผ่านกิจกรรมทางการตลาด โฆษณา โปรโมชั่น และการเลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์มาช่วยประชาสัมพันธ์


นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์พรีเมี่ยมของกลุ่มสินค้าทูน่าเยลโล่ฟิน อย่างซีเล็คทูน่าในน้ำมันมะกอกนำเข้าจากยุโรป ซีเล็คทูน่าพลัสคอลลาเจน 2,000 ม.ก. และสินค้าใหม่ในอนาคต บริษัทฯ จึงได้​เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกในรอบ 30 ปีของซีเล็คทูน่า คือ​ “ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์” นักแสดงและยูทูบเบอร์ชื่อดัง ที่มีความโดดเด่นทั้งพรีเมี่ยมไลฟ์สไตล์ บุคลิกภาพ และมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเองทั้งในด้านรูปร่าง ความมั่นใจ ความสดใส ความทันสมัย และที่สำคัญคือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีทัศนคติเกี่ยวกับความสวยที่มีได้หลากหลายรูปแบบและต้องทำควบคู่กันไปทั้งการมีวินัยในการเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกาย สามารถเข้าถึงได้ถึงทั้งผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงและผู้ชาย ตอบโจทย์แบรนด์ ซีเล็คทูน่า


“นอกจากเราใช้กลยุทธแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นยิปซีแล้ว เพื่อต่อยอดให้แบรนด์แข็งแกร่งและตอบโจทย์เทรนด์ปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น บริษัทฯ ยังออกแคมเปญใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ซีเล็คสิ่งดีดี ซีเล็คทูน่า” ที่พูดถึงประโยชน์และโภชนาการที่ดีจากปลาทูน่าให้คนเข้าใจและหันมาทานปลาทูน่าในหลากหลายเมนูมากขึ้น พร้อมตั้งงบการตลาดราว 15 ล้านบาท เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผ่านงานโฆษณามากกว่า 10 เวอร์ชั่น เผยแพร่ในช่องทางออนไลน์อย่างครบวงจร เช่น Facebook, Youtube, Instagram, Tiktok รวมถึง Billboard เป็นต้น โดยจะเริ่มออนแอร์เวอร์ชั่นแรกพร้อมกันในทุกช่องทางวันที่ 1 เมษายนนี้ และจะทยอยออกโปรโมชั่นและทำสินค้าพรีเมี่ยมผ่านดิสทริบิวเตอร์ต่าง ๆ แบบต่อเนื่อง คาดว่าปี 2566
ซีเล็คทูน่า จะสามารถเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน” นายศรัณย์ กล่าว


ทั้งนี้ ปัจจุบันซีเล็คทูน่า มีผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายหลากประเภท ได้แก่ 1.กลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมทูน่าเยลโล่ฟิน เช่น ซีเล็คทูน่าในน้ำมันมะกอกนำเข้าจากยุโรป, ซีเล็คทูน่า พลัสคอลลาเจน 2,000 ม.ก. และอื่น ๆ 2.กลุ่มเพื่อสุขภาพ เช่น ซีเล็คฟิตต์ในน้ำแร่ธรรมชาติ น้ำเกลือ และน้ำมันถั่วเหลือง  3. กลุ่มน้ำพริก เช่น น้ำพริกผัดทูน่า, น้ำพริกนรก, น้ำพริกทูน่ากรอบ และ 4.กลุ่มพร้อมทาน (Read to eat ; RTD) เช่น มัสมั่น, พะแนง และแกงเขียวหวาน เป็นต้น

สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ จากแบรนด์ซีเล็คทูน่าได้ที่ Facebook.com/SEALECTbrand และ LINE Official Account : @SEALECT

Pages: [1] 2 3 ... 2230