Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: [1] 2 3 ... 2447
1
ทำถึง ! ต่อยอดความปัง “น้องหมีเนย Butterbear” เตรียมสร้างปรากฏการณ์ ประกาศจัดงานแฟนมีตติ้งสุดคิ้วท์ครั้งแรกในประเทศไทย กับงาน “Butterbear’s 1st Fam Meeting : Adventure Awaits!”


เชิญชวนมัมหมี-พ่อหมีทั่วโลกร่วมเดินทางผจญภัยไปกับน้องเนย พร้อมบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ชวนทุกคนมาร่วมเป็น family เดียวกัน ลุ้นไปกับมิชชั่นสนุกๆ และโชว์เต็ม รูปแบบครั้งแรก! เตรียมพบกับเซอร์ไพรส์มากมายจากเพื่อนน้องเนยที่จะมาร่วมผจญภัยครั้งนี้ ไปด้วยกัน กับโปรเจกต์ไอเดียสุดสร้างสรรค์จาก Butterbear ร่วมกับ 4NOLOGUE




แฟนคลับเตรียมใจละลาย ปักหมุดนัดหมายผจญภัยพร้อมกัน 2 รอบการแสดง ในวันที่ 9-10 พฤศจิกายน 2024 ติดตามรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม ผ่านโซเซียลมีเดียทุกช่องทางของ Butterbear และ 4NOLOGUE

งานนี้ พส มัมหมี-พ่อหมีเตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาร่วมเก็บ โมเมนต์สุดฟิน ผจญภัยความสนุกไปด้วยกัน

#ผจญภัยไปกับเนย 🧸
#Butterbears1stFamMeeting
#AdventureAwaits
#ด้อมน้องเนย
#Butterbear
#4NOLOGUE



2


ทำถึง ! น้องฉัตร ควง กำปั้น กวินพนธ์+ เต้ นันทศัย ลุคนี้ดี๊ ถ่ายแบบเแบรนด์ ไฮเนส (highness) ฮ็อตไฟลุกตะโกน iconic คอลเลคชั่นใหม่ไทยร่วมสมัย
ปล่อยภาพสุดปัง แซ่บ เท่ กระแทกใจแฟนแฟนแบบรัวรัว


กระแสดีต่อเนื่อง เมื่อ 3 คนดัง “น้องฉัตร  - กำปั้น กวินพนธ์ (กำปั้น บาซู) และ เต้ นันทศัย ร่วมเฟรมถ่ายแบบให้กับแบรนด์ ไฮเนส (highness) จุดเด่นจำหน่ายเสื้อผ้าคลุมอาบน้ำ เสื้อเชิ้ต กางเกง นับได้ว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นเนื้อผ้าสุดพรีเมียม การรุกกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อให้มีความชัดเจน ด้านการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการจดจำแก่ลูกค้าได้ง่าย ด้วยคาแรคเตอร์คนดัง


แบรนด์ ไฮเนส ( highness) คว้า 3 คนดังเพื่อโหมการรับรู้ อาทิ คุณฉัตรชัย เพียงอภิชาติ หรือน้องฉัตรCEO และเจ้าของแบรนด์ ฉัตรคอสเมติก @chat_cosmetics ได้รับความนิยมระดับต้นๆ เมืองไทย เรื่องการแต่งหน้าและการผลิตเครื่องสำอางค์จำหน่ายที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้านความเป็นไทย  พร้อมแชะร่วมเฟรมสองหนุ่มที่หุ่นฟิตเฟิร์ม ซิกแพคแน่น คือ กำปั้น - กวินพนธ์ พาณิชย์พงส์ (กำปั้น บาซู) นักร้อง-นักแสดง @gp_bazoo ควงคุณเต้- นันทศัย พิศลยบุตร นักแสดง-นักร้อง @taekopman369 ที่มีความเป็นไทยตอบโจทย์แบรนด์อย่างมาก เผยการถ่ายทำเบื้องหลังสนุก มีความเป็นธรรมชาติ แชะภาพแต่ละภาพ สะท้อนเสื้อผ้าสวย ลายผ้ามีเอกลักษณ์ ทีมงานเบื้องหลังมืออาชีพ ทำให้ทุกอย่างลงตัว Photography @poppybeauty_9 Make up @affanmakeup66 Hairstylist @khunyong _hair Stylist @dong_nateephat Stylist asst. @is_lui05 Outfits @pattricboyle ละมุนดีต่อใจเสียเหลือเกิน




แฟนแฟนห้ามพลาดโมเม้นต์พิเศษนี้   สำหรับคอลเลคชั่นใหม่เป็นการดีไซน์ผสมผสานกราฟฟิกทันสมัย ลายพญานาคและดอกไม้ “Naga with Thai Flower” และ “Naga CMYK” เรียกได้ว่าไทยร่วมสมัย ครีเอทตั้งแต่ลวดลายสีสัน รวมไปถึงองค์ประกอบศิลป์ตามสไตล์แบรนด์ให้เหมาะกับลูกค้าในยุคดิจิทัลนี้ สามารถติดตามชมคอลเลคชั่นใหม่แบบจุกจุก @highness.officialth






3
สวพส.คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติด้านองค์กรนวัตกรรม “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2567”


            (4 ต.ค. 2567) สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) รับรางวัลเชิดชูเกียรติด้านองค์กรนวัตกรรม “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2567” โดยมี ดร.อัจฉรา ภาวศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัย เข้ารับรางวัล จาก ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ



            รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ รางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดของประเทศไทย ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อประกาศเกียรติคุณ เชิดชูเกียรติแก่บุคคลและองค์กรของไทยที่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีความโดดเด่น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างชัดเจน พร้อมทั้งต้นแบบการพัฒนานวัตกรรมด้านต่าง ๆ สู่สาธารณะชนในวงกว้าง นำไปสู่การผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นชาติแห่งนวัตกรรม


            สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส.ดำเนินงานพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนบนพื้นที่สูงของประเทศ  ที่อยู่ห่างไกลและทุรกันดาร เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ให้เข้าถึงบริการพื้นฐานของรัฐอย่างเสมอภาค และสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารของประเทศ โดยมีการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วยนวัตกรรม ทั้งการสร้างองค์ความรู้จากงานวิจัย วางแผนยุทธศาสตร์ จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่สูงเชิงพื้นที่ของ 30 หน่วยงาน ทำให้การพัฒนาพื้นที่สูงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดผลสัมฤทธิ์ในวงกว้าง ชุมชนบนพื้นที่สูงมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง จากการเกษตรที่ประณีตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติบนพื้นที่สูงให้อุดมสมบูรณ์






4
จัดยิ่งใหญ่! นัดประวัติศาสตร์ ศึก "FCC 7 ดับเบิ้ลอิมแพ็ค" ระดมขุนพลนักสู้ 13 คู่มวย มาระเบิดความมันส์ 6 ต.ค.นี้ ที่ลุมพินี


              จัดเต็มความมันส์ นัดประวัติศาสตร์ FCC Fight Club Championship Thailand ร่วมมือกับ Highlands Boxing Promotion จัดศึก "FCC 7 ดับเบิ้ลอิมแพ็ค" ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ถนนรามอินทรา ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป




              เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567 ที่ เวฟ เวลเนส มาสสาจ แอนด์ สปา RCA ได้มีการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักนักมวยอย่างเป็นทางการ นำทัพคู่มวยนัดประวัติศาสตร์โดย มิสเตอร์ อเลสซิโอ บิซุตติ โปรโมเตอร์ชาวอิตาลี ร่วมมือกับ สองโปรโมเตอร์ นายศุภณัฐ จันทร์แรม โปรโมเตอร์ไทย และ มิสเตอร์ บริกโก้ แซนติก โปรโมเตอร์ชาวฟิลิปปินส์ พร้อมด้วย นายนริส สิงห์วังชา ประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชียหรือ (ABF) และ ประธานที่ปรึกษา ที่ระดมขุนพลนักสู้ขึ้นสังเวียนทำศึก "FCC 7 ดับเบิ้ลอิมแพ็ค" การตรวจร่างกายครั้งนี้ มีแพทย์จากสนามมวยลุมพินี เป็นผู้ตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักนักมวย ผลปรากฎว่า นักมวยทั้ง 13 คู่ผ่านการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักผ่านฉลุยพร้อมระเบิดศึก "FCC 7 ดับเบิ้ลอิมแพ็ค" ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ถนนรามอินทรา ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป มวยคู่เอกคับคั่งกับนัดยิ่งใหญ่นัดประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้มีชิงเข็มขัดแชมป์โลกทั้งหมด 7 เส้น 3 สถาบัน (IBO , WBF และ UBO) พร้อม มวยไทย และการแสดงศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย มาเชียร์มาดูให้ตาฉ่ำกับนัดประวัติศาสตร์กันได้ที่เวทีมวยลุมพินี พลาดไม่ได้!




              คู่เอก เป็นการชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก UBO รุ่นเฮฟวี่เวท (10 ยก) พิกัด 225 ปอนด์ ระหว่าง อเลสซิโอ บิซุตติ กำปั้นจอมโหดนักชกจากอิตาลี ขึ้นสังเวียนต่อยกับ เกอร์กัน การาดัก นักชกจากตุรกี ชั่งได้ 220 ปอนด์ตามพิกัดพอดี พร้อมที่จะขึ้นตะบันหน้ากัน เพื่อชิงเข็มขัดแชมป์ UBO ใครจะคว้าไปครอง




              ส่วนคู่เอกอีกคู่ เป็นการชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก WBF รุ่นเฮฟวี่เวท พิกัด 175 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง แมตต์ ฟลอยด์ นักชกไร้พ่ายชาวออสเตรเลีย พบกับ "เจ้าโอ๋" ศิริมงคล สิงห์วังชา นักมวยหน้าหยกอดีตแชมป์โลกชาวไทย

              ผลการชั่งน้ำหนักนักมวยคู่อื่นๆ มีดังน




คู่ที่ 1. มวยหญิง รุ่นฟลายเวท พิกัด 112 ปอนด์ ชกอุ่นเครื่อง (6  ยก) ระหว่าง ฮิน ติง ชาน นักชกหญิงจากฮ่องกง พบกับ เนตรสรา ปุ่นอินเตอร์ นักชกหญิงไทย

คู่ที่ 2. เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก UBO รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท พิกัด 154 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง ริคาร์โด้ ริซซี่ นักชกจากอิตาลี พบกับ อิสราร์ อุสมานี นักชกจากอินเดีย

คู่ที่ 3. เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก UBO รุ่นไลท์เวท พิกัด 140 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง อีเฟ เดริน โคนุก นักชกจากตุรกี พบกับ ราม ซิงห์ นักชกจากอินเดีย





คู่ที่ 4. เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก UBO รุ่นเวลเตอร์เวท พิกัด 147 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง โจเฟอร์ มอนทาโน่ นักชกจากฟิลิปปินส์ พบกับ ชตวา ทักราน นักชกจากอินเดีย
   
คู่ที่ 5. รุ่นเฟเธอร์เวท พิกัด 126 ปอนด์ ชกอุ่นเครื่อง (6 ยก) ระหว่าง อิปราช ข่าน นักชกจากปากีสถาน พบกับ กรีติภัค ด้วงนุช (ไฮแลนด์ยิม) นักชกไทย

คู่ที่ 6. เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก UBO รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท พิกัด 135 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง เอจ อาริน โกนุก นักชกจากตุรกี พบกับ ชีวาม นักชกจากอินเดีย





คู่ที่ 7. มวยหญิง เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก IBO รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท พิกัด115 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง แองเจลิน่า ลูคัส นักชกหญิงจากคาซัคสถาน พบกับ อนาฮี โลเปซ นักชกหญิงจากอาร์เจนตินา

คู่ที่ 8. การชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก WBF รุ่นเฮฟวี่เวท พิกัด 175 ปอนด์ (10 ยก) ระหว่าง แมตต์ ฟลอยด์ นักชกไร้พ่ายชาวออสเตรเลีย พบกับ "เจ้าโอ๋" ศิริมงคล สิงห์วังชา นักชกหน้าหยกอดีตแชมป์โลกชาวไทย

คู่ที่ 9. คู่เอกเป็นการชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก UBO รุ่นเฮฟวี่เวท พิกัด 225 ปอนด์ (10 ยก) กำปั้นจอมเก๋า อเลสซิโอ บิสุตติ นักชกจากอิตาลี ขึ้นสังเวียนพบกับ เกอร์กัน คาราดัก นักชกจากตุรกี





คู่ที่ 10. มวยไทยหญิง พิกัด 114 ปอนด์ (3 ยก) ระหว่าง แพตตี้ ป.ปุ๋ยบุญพืช ไทยพบไทย ดวงใจพ่อ ปุ่นอินเตอร์

คู่ที่ 11. มวยไทยหญิง พิกัด 110 ปอนด์ (3 ยก) ระหว่าง นกน้อย ช.ฉัตรชัย ไทยพบไทย ขวัญเมือง ว.มณีวรรณ

คู่ที่ 12. มวยไทยหญิง พิกัด 102 ปอนด์ (3 ยก) ระหว่าง เปรี้ยวหวาน เพชรไพรัช ไทยพบไทย สร้อยเงิน ส.ก.อำนาจยิม

คู่ที่ 13. มวยไทยชาย พิกัด 126 ปอนด์ (3 ยก) ระหว่าง เพชรชมพู ป.ปุ๋ยบุญพืช นักชกไทย พบกับ บุญทอง เมย์ นักชกจากกัมพูชา


              ชวนแฟนมวยมาเชียร์ให้สุดใจครบเครื่องความมันส์กับนัดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการแข่งขันมวยชิงแชมป์โลก ซึ่งมีชิงเข็มขัด 7 เส้น 3 สถาบัน (IBO , WBF และ UBO) พร้อม การแข่งขันชกมวยไทย และการแสดงศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย ในศึก "FCC 7 ดับเบิ้ลอิมแพ็ค" นัดปฐมฤกษ์ในนัดประวัติศาสตร์ ของ FCC Fight Club Championship Thailand ที่ร่วมมือกับ Highlands Boxing Promotion จัดเต็มกับ 13 คู่มวยมันส์ที่จะสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ชม ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี ถนนรามอินทรา ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป โอกาสนัดประวัติศาสตร์ สำหรับแฟนๆ คอมวยสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่หน้างาน ราคาบัตรมีดังนี้ ริงไซด์ 1,500 บาท, วีไอพี 1,200 บาท, มาตรฐาน 800 บาท และคนไทย 100 บาท แฟนๆ คอมวย ห้ามพลาด!

5
ชวนดู ‘อิเกร์ กาซิยาส’ อดีตผู้รักษาประตูมือ 1 ของโลก เล่นเกมโยนปิงปองสุดสนุก




               อิเกร์ กาซิยาส แบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการของ FUN88 อดีตผู้รักษาประตูมือ 1 ของโลก เล่นเกมส์โยนปิงปอง ‘Ping Pong Pan Challenge’ แฟน ๆ มาดูกันว่าเขาจะทำประตูได้กี่ลูก โดยการโยนลูกปิงปองให้เด้งบนก้นกระทะและให้ลงถ้วย มีโอกาสเพียง 12 ครั้ง มาชมผลลัพธ์กันว่าเข้าประตูไปกี่ครั้ง รับชมคลิปได้ที่ https://shorturl.asia/rbEhq

               โดยกิจกรรม FUN88xอิเกร์กาซิยาส นี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างแอมบาสเดอร์ อิเกร์ กาซิยาส และ FUN88 อย่างเป็นทางการ สามารถกดติดตามเพจ https://www.facebook.com/FUN88AsiaTH เพื่อรับชมกิจกรรมสนุกที่พร้อมเสิร์ฟให้แฟนกีฬาในอนาคต


#FUN88 #FUN88Asia #LiveYourDream #กล้าฝันกล้าสนุก #FUNangel #FUNxพรีเมียร์ลีก #FUNxNewcastle #สเต็ปดีชีวิตดี #fun88news.co #fun88xอิเกร์กาซิยาส


6
เอเชียนทัวร์เชิญคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อดัง ร่วมกิจกรรมกอล์ฟ 2 รายการใหญ่ที่ไทย


ลุค ควอน


แม็ค บูเชอร์


แท-อุก โค

2 ตุลาคม 2567 - เอเชียนทัวร์ เชิญคอนเทนครีเอเตอร์ชื่อดังร่วมแข่งขัน 2 ทัวร์นาเมนท์ใหญ่รายการ แบล็ค เมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ หัวหิน และรายการ อินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทย คันทรี คลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา สองสัปดาห์ติดต่อกันในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งทั้งสองทัวร์นาเมนท์เป็นรายการ 5 และ 6 ในสิบรายการของศึกอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ปีนี้ เพื่อขยายฐานผู้ชมและสร้างการรับรู้แบรนด์         

สำหรับกอล์ฟรายการ แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ กำหนดแข่งขันที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน ระหว่างวันที่ 17 - 20 ตุลาคม ต่อด้วยรายการ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 24 - 27 ตุลาคม โดยก่อนหน้านี้พอล เคซีย์ โปรกอล์ฟอดีตมือ 3 ของโลกชาวอังกฤษ ดาวดังลิฟ กอล์ฟ ลีกจากทีม Crushers GC รวมถึง จอห์น แคทลิน ผู้นำอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง คนปัจจุบัน ตอบรับเข้าร่วมแข่งขันทั้งสองรายการเป็นที่แน่นอน

ล่าสุดเอเชียนทัวร์ ได้เชิญสามคนดังในวงการกอล์ฟยุคใหม่ เข้าร่วมทดสอบฝีมือกับโปรกอล์ฟชั้นนำของเอเชียนทัวร์ และสัมผัสประสบการณ์ สร้างสีสันในเกมการแข่งขันรายการยกระดับของเอเชียนทัวร์ เริ่มจาก ลุค ควอน อินฟลูอินเซอร์ชื่อดังซึ่งเกิดที่เกาหลีและย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกาตามครอบครัว มียอดติดตามช่องยูทูป 290,000 คน และอินสตาแกรม 240,000  คน ได้รับเชิญร่วมแข่งขันและร่วมทำคอนเทนต์ในรายการ แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นรายการที่ 5 ของศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ในฤดูกาลนี้ และรายการที่ 17 ของเอเชียนทัวร์ ระหว่างวันที่ 17-20 ตุลาคมนี้


ควอน เป็นอดีตแชมป์พีจีอัวร์ ไชนา และเคยลงเล่นในพีจีเอทัวร์ ลาตินอเมริกาด้วย เขาชนะเลิศในรายการ “ครีเอเตอร์ คลาสสิค” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยเป็นทัวร์เมนท์ที่เชิญเหล่าครีเอเตอร์ดังร่วมแข่งขันสโตรกเพลย์ 9 หลุม ก่อนการแข่งขัน “เดอะ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ” แมตช์สุดท้ายของพีจีเอทัวร์

คอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อดังอีกรายที่ได้รับเชิญร่วมแข่งขันที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ คือ แท-อุก โค จากนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นที่รู้จักของแฟนกอล์ฟออนไลน์หลายล้านคนในชื่อ “Taco Golf” มียอดผู้ติดตามช่องยูทูบและอินสตราแกรมมากกว่า 250,000 คน โดยก่อนหน้านี้ แท-อุก โค เป็นนักกอล์ฟอาชีพที่ลงเล่นในพีจีเอทัวร์ ออฟ ออสเตรเลีย และเป็นแชมป์นิวซีแลนด์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2021

ด้านแม็ค บูเชอร์ อดีตโปรกอล์ฟชาวแคนาดาที่ผันตัวเองมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักจากการทำคอนเทนต์กอล์ฟทริคช็อต ได้รับเชิญเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทยคันทรีคลับ ระหว่างวันที่ 24 - 27 ตุลาคม

โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและซีอีโอ ของเอเชียนทัวร์ เผยว่า “การเชิญคอนเทนต์ครีเอเตอร์มาร่วมทัวร์นเมนท์เป็นนวัตกรรมใหม่ของเราในเวทีเอเชียนทัวร์ ในยุคที่ภูมิทัศน์สื่อเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็วที่การบริโภคเนื้อหาขึ้นอยู่กับตัวบุคคล การมอบโอกาสให้กับนักกอล์ฟมากความสามารถทั้ง 3 ท่านนี้ ได้มาสัมผัสการแข่งขันที่ยกระดับในเอเชียนทัวร์ เป็นแนวทางที่เราสามารถพัฒนาเกมการแข่งขันและขยายฐานแฟนกอล์ฟทั่วโลก พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้ดียิ่งขึ้นผ่านช่องทางสื่อที่แตกต่างและหลากหลายรวมถึงผ่านอินฟลูเอนเซอร์”


ทางด้านราหุล ซิงห์ ผู้อำนวยการของการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ กล่าวเสริมว่า “กอล์ฟอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ เป็นรายการที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่นักกอล์ฟอาชีพ ในการเป็นบันไดก้าวสู่ลิฟกอล์ฟ ลีก ซึ่งเป็นเวทีการแข่งขันระดับเวิลด์คลาสที่มีคุณภาพ และเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยินดีที่ได้จัดการแข่งขันด้วยกลยุทธ์ใหม่ผ่านการเข้ามามีส่วนของ ลุค ควอน, แท-อุก โค และแม็ค บูเชอร์”

ควอน กล่าวว่า: “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่มีโอกาสได้ผสมผสานสร้างคอนเทนต์ร่วมกับการเป็นนักกีฬากอล์ฟอาชีพไว้ด้วยกัน ขอขอบคุณเอเชียนทัวร์และความเป็นผู้นำในการเป็นต้นคิดให้เกิดความร่วมมือครั้งนี้ เราหวังว่าความร่วมมือจะทำให้เกมกอล์ฟเติบโตเพิ่มขึ้นไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง”       

ขณะที่โค กล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ถ่ายทำคอนเทนต์ระหว่างที่พวกเราร่วมแข่งขันในรายการแบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ  ผมมีความทรงจำดีๆ กับการแข่งขันในภูมิภาคเอเชีย และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาอีกครั้ง ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายสำหรับโอกาสในครั้งนี้”


ส่วนบูเชอร์ กล่าวว่า “นี่จะเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่เยี่ยมที่สุดในอาชีพของผม กับการออกรอบร่วมกับกลุ่มนักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในทัวร์  ขอขอบคุณเอเชียนทัวร์ และอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ที่ทำให้ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมที่สนามไทยคันทรีคลับ และลงเล่นรายการอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์”         

สำหรับการแข่งขันกอล์ฟรายการ แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ และอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งใน 6 ทัวร์นาเมนท์ใหญ่ที่ชิงชัยในช่วง 8 สัปดาห์แห่งการชี้ชะตาแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ซึ่งจัดแข่งขัน 10 ทัวร์นาเมนท์ต่อปีในเวทีเอเชียนทัวร์ เพื่อมอบโอกาสคว้าสิทธิ์เข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก           

ติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ได้ที่เว็บไซต์ www.internationalseries.com

7
LINE NEXT เปิดตัว “Super Mates”
แอปพลิเคชันคาแรคเตอร์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่ขับเคลื่อนด้วย AI

-  Super Mates ใช้ AI ในการสร้าง Avatar ของศิลปินและคนดัง ที่แฟนๆ สามารถโต้ตอบและพัฒนาได้
-  Super Mates จับมือกับศิลปินชื่อดังมากมาย นำโดยวงเคป็อปชื่อดังอย่าง aespa


ซ็องนัม เกาหลีใต้ – 26 กันยายน 2567 – LINE NEXT Corporation ประกาศเปิดตัว “Super Mates” แอปพลิเคชันคาแรคเตอร์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI พร้อมเผยความร่วมมือแรกกับเกิร์ลกรุ๊ปยอดนิยม aespa จาก SM Entertainment




LINE NEXT ได้ใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้าน Avatar และเทคโนโลยี AI ในการสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน Super Mates ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนา Avatar ที่สะท้อนถึงรูปลักษณ์และลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละศิลปิน ให้ผู้ใช้งานรู้สึกเข้าถึงศิลปินที่ชื่นชอบได้อย่างแท้จริง ผ่านการโต้ตอบในภาษาอังกฤษ เกาหลี หรือญี่ปุ่น

เทคโนโลยี AI ช่วยให้ผู้ใช้งาน Super Mates สามารถเพลิดเพลินกับการสนทนาโต้ตอบที่เสมือนจริงกับ Avatar ในแอปพลิเคชัน พร้อมตัวเลือกต่างๆ เช่น การให้ตัวละครเริ่มต้นการสนทนา หรือการเก็บบันทึกเกี่ยวกับการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้งาน


นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถสามารถตกแต่งตัวละครด้วยเสื้อผ้าหรือไอเท็มอื่นๆ หรือแม้กระทั่งสร้างวิดีโอและภาพของตัวเองได้อีกด้วย

Super Mates เปิดตัวด้วย Avatar ของกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปซูเปอร์สตาร์จาก SM Entertainment อย่าง aespa ซึ่งประกอบด้วยศิลปินยอดนิยมสี่คน ได้แก่ Karina, Giselle, Winter และ NingNing โดย aespa ได้เปิดตัวอัลบั้มแรกชื่อว่า “Armageddon” ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเพิ่งเสร็จสิ้นการทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชีย และออสเตรเลีย aespa ยังเป็นศิลปินหญิงที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรกที่จัดคอนเสิร์ตที่โตเกียวโดม 2 ปีติดต่อกัน ซึ่งเหล่า Avatar ใน Super Mates ของ aespa ได้สะท้อนถึงสไตล์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของอัลบั้ม Armageddon โดยมีเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เข้ากับคอนเซปต์ของอัลบั้ม รวมถึงสามารถพูดคุยเกี่ยวกับ เกี่ยวกับอัลบั้มได้อีกด้วย


ในโอกาสฉลองการเปิดตัว Super Mates ในครั้งนี้ LINE NEXT จะมอบไอเท็มและของรางวัลหลากหลายให้แก่ผู้ใช้งานในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งรวมถึงภาพถ่ายที่ยังไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อนของศิลปิน และซีดีพร้อมลายเซ็นต์ โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในแอปพลิเคชัน Super Mates และหน้ากิจกรรม https://www.supermates.io/aespa

“LINE NEXT มุ่งหวังให้แฟนๆ สามารถใกล้ชิดกับเหล่าศิลปินและสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง ผ่านแอปพลิเคชันของเรา โดยมีแผนที่จะร่วมงานกับพันธมิตรศิลปินรวมถึง IP ต่างๆ เพื่อสร้าง Avatar ที่หลากหลายขึ้นไปอีก” ย็องซู โค ซีอีโอของ LINE NEXT กล่าว

LINE NEXT ยังมีแผนที่จะพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Super Mates ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีมากยิ่งขึ้น และทำให้แอปพลิเคชันนี้กลายเป็นบริการโซเชียลรูปแบบใหม่ในที่สุด

8
ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 แจกทริปเที่ยวบางแสนสุดชิล กับ 2 หนุ่ม The Fadd




              เตรียมตัวให้พร้อมกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ True4U แฟนเดย์ “One Day Trip in Bangsaen” จะพาคุณผู้ชมทางบ้าน เที่ยว ชิม ช้อป และชมวิวไปกับ TheFadd BlogVlog  2 หนุ่มอินฟลูฯ สายกินหุ่นแซ่บ ที่มาแนะทริคการถ่ายรูป และสร้างคอนเทนต์สุดปังบนโลกออนไลน์ เอนจอยกันให้เต็มที่กับจุดเช็คอินใหม่ “บางแสนโทชิน สุดคิ้วสไตล์ญี่ปุ่น” ชิมบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติสุดพรีเมี่ยมกว่า 150 เมนูจากเชฟดัง ท่องโลกใต้ทะเลแบบตื่นตาตื่นใจ ชมแมงกระพรุนเรืองแสงหลากสี ลอดอุโมงค์ใกล้ชิดปลาทะเลตัวโตที่ “อควาเรียมบางแสน” นั่งจิบกาแฟฟังเสียงคลื่นสุดชิลที่คาเฟ่ริมชายหาด เที่ยวฟินตลอดทั้งวัน 17 ตุลาคมนี้ฟรี สิทธิพิเศษสำหรับแฟนทรูโฟร์ยู เพียงสแกน QR CODE หรือกดลิ้งค์ https://forms.gle/zKUE2jpCdK7zPf1w9 พร้อมตอบคำถาม และทำตามกติกาครบถ้วนที่สุด ก็มีสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีไปเที่ยวบางแสนฟรี จำนวน 7 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง ร่วมสนุกได้ตั้งแต่ 1-8 ตุลาคม 2567 ประกาศผล 9 ตุลาคม 2567 ทางเฟซบุ๊ก True4U

9
ยูเนี่ยนแพนฯ จัด “Furniture Expo”
แย่งกันซื้อ แย่งกันขาย ลดใหญ่ คืนกำไรให้กับผู้ซื้อ ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี





               ยูเนี่ยนแพนฯ ผู้จัดงานแฟร์อิมแพ็ค ตอบรับกระแสความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยรวมงานใหญ่ 3 งาน อาทิ จัดงาน “Furniture Expo” “แย่งกันซื้อ แย่งกันขาย” , Home Electronics Expo และ Wedding Fair ซึ่งมาพร้อมโปรโมชั่น และส่วนลดสูงสุดถถึง 80% คืนกำไรให้กับผู้ซื้อ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 13 ตุลาคม 2567  ณ อาคาร 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยคาดว่าเงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานมากว่า 100,000 คน ตลอดการจัดงาน 9 วัน

             นางวชิรา จิตศักดานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ยูเนี่ยน แพน เอ๊กซิบิชั่นส์ จำกัด ผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นอีกหนึ่งงานที่ถูกจัดขึ้นต่อเนื่อง ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เกิดการผลักดันการใช้จ่าย และการตื่นตัวของกระแสเงินไหลหมุนเวียนในช่วงปลายปี 2567 รวมไปถึงการก่อให้เกิดการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเกินกว่า 500 ล้านบาท ที่ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อย และ SME ให้มีอัตราการเติบโตขึ้นในช่วง ไตรมาสสุดท้ายเกินกว่า 5%” ประกอบไปด้วยงาน







               1.   งาน Furniture Expo ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แย่งกันซื้อ แย่งกันขาย”  รวมผู้ผลิต ผู้จำหน่ายรายใหญ่ รายย่อย ในกลุ่มสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ ชุดห้องนอน, ชุดรับแขก, ชุดรับประทานอาหาร, ชุดห้องครัว, ชุดห้องสำนักงาน ครบทุกห้อง ครบทุกดีไซน์ ทำให้มีสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่มีความหลากหลาย  รวมถึงของตกแต่งบ้านตั้งแต่ขิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ที่มีความครบวงจรมากขึ้น ให้เลือกชม เลือกซื้อ พร้อมโปรโมชั่นลดสูงสุดถึง 70% และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้จัดงาน Top Spender สำหรับลูกค้าที่มียอดใช้จ่าย สูงสุด 3 อันดับแรก รับฟรี Gift Voucher ที่พัก 3 วัน 2 คืน ที่ Jingle Jungle Resort @Khaoyai

               2.   งาน Home Electronics Expo  มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิดคลัง ลดทุกไอเท็ม มาประชันราคากัน กว่า 20 แบรนด์ชั้นนำ จาก UR Mall  รวบรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจร ที่มีตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าชื้นเล็ก ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชื้นใหญ่ อาทิ Samsung, Sony, Daikin, Electrolux, Beko และอื่น ๆ อีกหลายแบรนด์  โดยมาพร้อมกับโปรโมชั่น ลดสูงสุดถึง 80%,  ผ่อนสบาย 0% นาน  24 เดือน  , เครดิตเงินคืน 38,000 บาท   จัดโปร  ทั้งลด ทั้งแถม แจกเครดิตเงินคืน ส่งฟรี ติดตั้งฟรี 

               3.   งาน  Wedding Fair วิวาห์นี้มีแต่ประทับใจ  รวบรวมผู้ให้บริการมืออาชีพ, ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง, กองทัพชุดวิวาห์ บ่าว-สาว   มาให้เลือกชมพร้อมแพ็คเกจแต่งงานลดสูงสุด 50% สำหรับทุกคู่รัก จากสตูดิโอชั้นนำ อาทิ  โคโค ชิค สตูดิโอ, คลาสสิค สตูดิโอ, อมตะ สตูดิโอ, โมนิค สตูดิโอ, เฌอติน ไบดอล, และ อิมเมจิ้น สตูดิโอ   มาไว้รวมกันในที่เดียวและ  ยังเรียกได้ว่าเป็น One Stop Service  งานเดียวที่มาครบทุกฟังก์ชั่นการจัดงานแต่งงาน  และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้จัดงาน Top Spender สำหรับลูกค้าที่มียอดจองแพ็กเกจสูงสุด 3 อันดับแรกภายในงาน  3 คู่ 6 ท่าน รับ Voucher ล่องเรือยอร์ช ฟรี ที่พัทยา








               อย่างไรก็ดี ทาง ยูเนี่ยนแพนฯ ยังคาดว่า การจัดงานดังกล่าว ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 13 ตุลาคม 2567  ณ อาคาร 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะเป็นอีกหนึ่งงาน ที่จะมาพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศไทย ให้กลับมาตื่นตัวมากขึ้นกว่าเดิม ประกอบกับทิศทางบวกของสถานการณ์ในประเทศไทยที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะทำให้ผู้ประกบการมีความเชื่อมั่น และกล้าที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการวางแผนการตลาด ให้เติบโตมากขึ้นในปีหน้าด้วย”

               อีกทั้งผู้เข้าชมงาน  ซื้อสินค้าภายในงานครบ 3,000 บาทขึ้นไป นำบิลใบเสร็จหรือใบมัดจำ มาลงทะเบียนแลกรับของสมนาคุณฟรี 1 ชิ้น  และภายในงานยังมีการสอนเรียนทำเดคูพาจ , สอนทำขนมลูกชุป, สอนทำสวนขวด และเทสีใส่ตุ๊กตาหมี ฟรี เพื่ออาชีพหรือเพื่องานอดิเรก ภายในงานคาดว่าจะมีเข้าร่วมชมงานกว่า 100,000 คน และเงินสะพัดกว่า 400 ล้านบาท  ภายในการจัดงาน 9 วัน







10
จีไอเอส ดันแพลตฟอร์ม NOSTRA LOGISTICSยึดหลัก ESG ตอบโจทย์อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ สู่การเติบโตยั่งยืน


จีไอเอส ขยายเป้าการทำงาน เดินหน้าผลักดันเทคโนโลยี NOSTRA LOGISTICS นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุน และปรับปรุงกระบวนการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยระบบบริหารจัดการงานขนส่งอัจฉริยะ (NOSTRA LOGISTICS TMS) ให้ผลตอบแทนการลงทุนได้สูงสุดถึง 15% สอดรับกลยุทธ์ ESG เพื่อโลก และธุรกิจเติบโตไปพร้อมกัน

บริษัท จีไอเอส จำกัด ผู้นำให้บริการระบบภูมิสารสนเทศแบบครบวงจร ภายใต้กลุ่มบริษัทซีดีจี เร่งเครื่องพัฒนาแพลตฟอร์มการขนส่งอัจฉริยะ NOSTRA LOGISTICS ขับเคลื่อนโลจิสติกส์สีเขียว ชูเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อผลตอบแทนการลงทุนด้านไอทีที่คุ้มค่า ภายใต้แนวคิด Digitalization for Sustainable Growth สนับสนุนให้ธุรกิจเดินหน้าตามกลยุทธ์ ESG พร้อมรับมือทุกความท้าทายในอนาคต เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานขนส่ง ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุน ลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านระบบบริหารการขนส่ง TMS ที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนได้สูงสุดถึง 15% เผยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ตอกย้ำแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยโซลูชันล้ำสมัยเพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน

นางวรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการอาวุโสส่วนซัพพลายเชนโซลูชัน-เทคโนโลยี บริษัท จีไอเอส จำกัด  เปิดเผยว่า เพื่อรับมือความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม NOSTRA LOGISTICS จึงพัฒนาโซลูชันเพื่อเข้ามาสนับสนุนคู่ค้าในอุตสาหกรรมการขนส่ง ให้สามารถดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้ตามกรอบการดำเนินการบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย หรือ NDC Roadmap โดยนำเอานวัตกรรม และเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาผ่านกระบวนการทำงาน ซึ่ง NOSTRA LOGISTICS TMS สามารถกำหนดเส้นทางขนส่ง ติดตาม และควบคุมการขนส่ง ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น เพิ่มความสามารถการเลือกใช้ทรัพยากรขนส่งให้คุ้มค่า ลดการใช้น้ำมัน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และลดต้นทุนการขนส่ง ตลอดจนสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการวิเคราะห์ วางแผนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยมีเป้าหมาย 3 ด้าน ได้แก่ ประสิทธิภาพการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การปรับปรุงนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ผลักดันให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุดและเกิดกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด


เทคโนโลยีของ NOSTRA LOGISTICS จึงเปรียบเสมือนเครื่องมือสำคัญที่เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการขนส่ง ลดการใช้พลังงาน และปรับปรุงกระบวนการขนส่งให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพสังคมที่ดีของ CDG Group อีกทั้งยังมอบความคุ้มค่าการลงทุนในเทคโนโลยี เพิ่มโอกาสและมูลค่าแก่ธุรกิจ สร้างความเติบโตไปพร้อมกัน ผ่านนวัตกรรมแพลตฟอร์มการขนส่งอัจฉริยะและโซลูชัน4 ด้าน คือ

1. Optimization, Energy Efficiency & Cost Reduction ระบบบริหารจัดการการขนส่งอัตโนมัติ (NOSTRA LOGISTICS TMS) ที่สามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงสุดถึง 15% เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ผ่านการติดตามและควบคุมการขนส่ง

2. Real-Time Visibility & Data Analytics ระบบรวบรวมข้อมูลการขนส่ง Big Data อาทิ ข้อมูลสินค้า ผู้ให้บริการขนส่ง รถขนส่ง อัตราค่าขนส่ง การติดตามรถ ประวัติการใช้รถ การซ่อมแซมบำรุงรักษารถ ฯลฯ นำเสนอข้อมูลบนระบบ NOSTRA LOGISTICS แบบเรียลไทม์ วิเคราะห์ รายงานผลแม่นยำ รวมถึงการใช้แดชบอร์ดและการแจ้งเตือน ให้ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจและวางกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงสุดถึง 3%

3. Ecosystem & Seamless Integration Services ระบบคลาวด์แพลตฟอร์ม ที่มีความยืดหยุ่นในการบริการ สามารถลดหรือขยายการใช้งานได้โดยมีต้นทุนที่ต่ำ เชื่อมต่อระบบให้เป็น IT Ecosystem ของโลจิสติกส์ซัพพลายเชนแบบไร้รอยต่อ อาทิ ระบบ ERP, WMS เป็นต้น

4. Safety Monitoring ระบบการติดตามและเพิ่มความปลอดภัยในการขับรถขนส่งด้วยการใช้เทคโนโลยี เช่น กล้อง AI และเซนเซอร์ Telematics จะสามารถตรวจจับความเสี่ยงพฤติกรรมการขับรถและแจ้งเตือนพนักงานขับรถได้ทันที อาทิ ขับรถเร็ว หลับใน มือไม่จับพวงมาลัย ฯลฯ ช่วยลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

“การดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือ และความตระหนักรู้เรื่องการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจากหลายฝ่าย ทั้งนี้ปี 2567-2569 มีแนวโน้มอัตราการเติบโตของธุรกิจบริการขนส่งทางถนนเฉลี่ย 2-3% ต่อปี ซึ่งธุรกิจขนส่งเปรียบเป็นฟันเฟืองหลักที่จะขับเคลื่อนต่อการบริหารจัดการทรัพยากรในแง่เพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานด้านคมนาคมขนส่ง ระบบบริหารการขนส่ง TMS จึงกลายเป็นสิ่งที่ “ต้องมี” สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการขนส่งในทุกองค์กรทั้งภาคการผลิตและภาคบริการขนส่ง องค์กรที่นำระบบ TMS มาใช้จะได้รับประโยชน์มากมาย เช่น จำนวนเที่ยวการขนส่งลดลง เส้นทางการขนส่งที่ดีขึ้น ลดต้นทุนค่าขนส่งได้ต่ำลง บริการจัดส่งเป็นระบบและรวดเร็วขึ้น ใช้แรงงานคนน้อยลง และการปล่อยมลพิษลดลง จึงเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยสนับสนุน ปรับปรุง และยกระดับอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ให้ดำเนินไปสู่ความยั่งยืน” นางวรินทร กล่าว

11

*History in the Making: Thailand’s Biggest Boxing Show — FCC 7: Double Impact II*


This October 6th, Lumpinee Boxing Stadium, the iconic venue in the heart of Bangkok, will host an unprecedented combat sports event, marking a historic night for both boxing and Muay Thai enthusiasts.



With seven championship matches, competitors from 12 countries, and world-class titles on the line, this will be Thailand’s biggest boxing show to date. The event will showcase a Double World Championship (IBO & WBF), the prestigious UBO International Title, and 4 UBO Continental Titles.




*Main Event Highlights:*
- *UBO Continental Heavyweight Championship*: Italy's Alessio Bisutti takes on Turkey’s Gurkan Karadag in a bout that promises high-octane action as both fighters vie for supremacy in the heavyweight division.
- *WBF World Light Heavyweight Championship*: Australia's Matt Floyd will face Thailand’s Sirimongkhon Iamthuam in a thrilling clash for the world light heavyweight crown.
- *UBO International Lightweight Championship*: Turkish boxer Efe Derin Konuk is set to battle India’s Ram Singh in another exciting contest for the UBO international title.
- *IBO Super Flyweight Championship*: Women’s boxing will also take center stage with Angelina Lukas and Anahi Lopez competing for the coveted super flyweight title.
- *UBO Continental Super Lightweight Championship*: Turkey’s Ege Arin Konuk faces India’s Shivam.
- *UBO Continental Welterweight Championship*: Joepher Montano of the Philippines squares off against India’s Shiva Thakran.
- *UBO Continental Super Welterweight Championship*: Italy’s Ricardo Rizzi clashes with Israr Usmani from India.





In addition to the boxing matches, Muay Thai will have a significant presence with four bouts featuring top Thai fighters. These traditional fights will add a local flair to the event, ensuring a thrilling combination of Thailand’s national sport alongside international boxing.


Don’t miss out on what promises to be a milestone event in the world of combat sports. Tickets are now available, including a complimentary shuttle bus service from and to Pattaya.


*Ticket Prices:*
- Ringside: 1,500 THB 
- VIP: 1,200 THB 
- Standard: 800 THB 
- Thai Residents: 100 THB 

*Get your tickets today! Contact +66 95-724-3564 on Line or WhatsApp*. For more information and updates, follow FCC Fight Club Championship Thailand on Facebook, @fcc_promotion on Instagram, and the official YouTube channel @FCC-FightClubChampionship


#####



*ประวัติความเป็นมา: รายการชกมวยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย — FCC 7: Double Impact II*


วันที่ 6 ตุลาคมนี้ สนามมวยลุมพินี สถานที่อันโดดเด่นใจกลางกรุงเทพฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาการต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน ค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์สำหรับผู้รักการชกมวยและมวยไทย



ด้วยแมตช์ชิงแชมป์ 7 แมตช์ ผู้เข้าแข่งขันจาก 12 ประเทศ และรายการระดับโลก นี่จะเป็นรายการชกมวยที่ใหญ่ที่สุดของไทยจนถึงปัจจุบัน งานนี้จะจัดแสดง Double World Championship (IBO & WBF), UBO International Title อันทรงเกียรติ และ UBO Continental Titles 4 รายการ




*ไฮไลท์กิจกรรมหลัก:*
- *UBO Continental Heavyweight Championship*: Alessio Bisutti จากอิตาลีปะทะ Gurkan Karadag จากตุรกี ในไฟต์ที่สัญญาว่าจะออกเทนสูง ในขณะที่นักสู้ทั้งสองต่างแย่งชิงตำแหน่งสูงสุดในรุ่นเฮฟวี่เวต
- *แชมป์โลกรุ่นไลต์เฮฟวี่เวต WBF*: แมตต์ ฟลอยด์จากออสเตรเลียจะเผชิญหน้ากับสิริมงคล เอี่ยมท้วม จากไทยในการปะทะอันน่าตื่นเต้นเพื่อชิงมงกุฎโลกรุ่นไลต์เฮฟวี่เวต
- *UBO International Lightweight Championship*: นักมวยชาวตุรกี Efe Derin Konuk เตรียมขึ้นชกกับ Ram Singh จากอินเดียในการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นอีกครั้งเพื่อชิงตำแหน่ง UBO ระดับนานาชาติ
- *IBO Super Flyweight Championship*: การชกมวยหญิงจะขึ้นเวทีกลางโดยมี Angelina Lukas และ Anahi Lopez แข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตอันเป็นที่ปรารถนา
- *UBO Continental Super Lightweight Championship*: Ege Arin Konuk จากตุรกี เผชิญหน้ากับ Shivam จากอินเดีย
- *UBO Continental Welterweight Championship*: โจเฟอร์ มอนตาโน จากฟิลิปปินส์ ปะทะ ศิวะ ทักราน จากอินเดีย
- *UBO Continental Super Welterweight Championship*: ริคาร์โด้ ริซซี จากอิตาลี ปะทะ อิสราร์ อุสมานี จากอินเดีย





นอกเหนือจากการแข่งขันชกมวยแล้ว มวยไทยยังจะมีความโดดเด่นด้วยไฟต์ 4 ไฟต์ที่มีนักชกไทยชั้นนำ การต่อสู้แบบดั้งเดิมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มกลิ่นอายของท้องถิ่นให้กับงานนี้ ทำให้เกิดการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นของกีฬาประจำชาติของไทยควบคู่ไปกับการชกมวยนานาชาติ


อย่าพลาดสิ่งที่สัญญาว่าจะเป็นเหตุการณ์สำคัญในโลกแห่งกีฬาการต่อสู้ จำหน่ายบัตรแล้ว รวมถึงบริการรถรับ-ส่งฟรีไปและกลับพัทยา


*ราคาตั๋ว:*
- ริงไซด์: 1,500 บาท 
- วีไอพี: 1,200 บาท 
- มาตรฐาน: 800 บาท 
- ชาวไทย: 100 บาท 

*ซื้อบัตรได้แล้ววันนี้! ติดต่อ +66 95-724-3564 ทางไลน์หรือ WhatsApp* ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและอัพเดตได้ที่ FCC Fight Club Championship Thailand บน Facebook, @fcc_promotion บน Instagram และช่อง YouTube อย่างเป็นทางการ @FCC-FightClubChampionship

12
สาวน้อยยูเรก้า เกริลกรุ๊ปอายุน้อย แต่พลังความสามารถสุดปัง




               สาวน้อยยูเรก้า ได้โชว์เต็มที่ในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตต่าง ๆ ทั้งได้ไปโชว์ตามสถานศึกษา ต่างประเทศ งานอีเว้นท์ และยังได้รับเชิญจากพี่ๆ ดารา ที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่ากระแสแรงเกินคาด กับเกริลกรุ๊ปอายุ 8-13 ปีที่เก่งเกินวัย ทั้งร้องทั้งเต้น ที่ได้ร่วมงานกับศิลปินรุ่นพี่ จนเป็นที่ยอมรับอย่างดีเยี่ยม ลองติดตามผลงานของวงยูเรก้า ที่มียอดวิวผ่านสู่หลักล้านได้อย่างรวดเร็ว ทั้งจากเสียงร้อง และพลังการเต้นที่ไม่เป็นลองใคร ให้ได้ติดตามกันในทุกช่องทาง












13
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมกับมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. มอบเงิน 150,000 บาท
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ ส่งต่อความห่วงใยและกำลังใจสู่ชุมชน

นางสาวช่อฟ้า ยุกตะนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดและบริหารลูกค้า กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ มอบเงินบริจาคให้แก่ ดร.บรรจงเศก ทรัพย์โสภา ผู้อำนวยการ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ เพื่อเด็กและเยาวชนฯ

              นางสาวช่อฟ้า ยุกตะนันท์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและบริหารงานลูกค้า กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ มอบเงินจำนวน 150,000 บาท จากการจัดแคมเปญ “เปลี่ยนคะแนน GEN Points เป็นเงินบริจาค” ชวนลูกค้าเจนเนอราลี่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ  ด้วยการเปลี่ยน 1,000 คะแนนในแอปพลิเคชัน GEN 365 เป็นเงินบริจาคมูลค่า 20 บาท และทุกยอดบริจาค เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมสมทบ 1 เท่า เพื่อมอบให้แก่มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ นำไปจัดซื้อ “ถุงยังชีพ” บรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน โดยได้รับเกียรติจาก ดร.บรรจงเศก ทรัพย์โสภา (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการ พร้อมด้วย นายทวีโชค สุโภภาค (ที่ 1 จากขวา) ผู้จัดการแผนกระดมทุนผู้อุปการะรายใหญ่ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ร่วมรับมอบ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ บริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์


              นางสาวช่อฟ้า กล่าวว่า เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ขอร่วมส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยทุกท่าน พร้อมยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการอยู่เคียงข้างและสนับสนุนสังคมไทยในทุกสถานการณ์ ด้วยความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือและความห่วงใยจากทุกภาคส่วน จะช่วยให้ชุมชนที่ประสบภัยกลับมาฟื้นตัวและมีชีวิตที่ดีขึ้นในเร็ววัน


              ขอให้ผู้ประสบภัยทุกท่านมีพลังใจและก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว








14
SCGJWD รุกโลจิสติกส์โซลูชันสำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิทั่วอาเซียน วาง 4 กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ ปักหมุดทำเลยุทธศาสตร์โฟกัสตลาดศักยภาพสูง


SCGJWD ลุยโซลูชันโลจิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิครบวงจรทั่วอาเซียน รับเศรษฐกิจฟื้นตัว และแนวโน้มอุตสาหกรรมคลังสินค้าห้องเย็น อาหาร และเฮลท์แคร์ เติบโตแข็งแกร่ง นับจากปี 2024-2029 วาง 4 กลยุทธ์ ปักหมุดลงทุนในไทยต่อเนื่องบนทำเลยุทธศาสตร์อีก 8 โลเคชัน รุกสร้างโอกาสใหม่ในต่างประเทศ ร่วมมือพาร์ทเนอร์ขยายธุรกิจและนำเสนอโซลูชัน มุ่งโฟกัสตลาดเฮลท์แคร์และยาที่มีศักยภาพสูง นำเทคโนโลยี AI ยกระดับโลจิสติกส์และประหยัดพลังงาน ดันรายได้โตต่อเนื่อง


นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัทเอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก ทำให้ความต้องการจัดเก็บและขนส่งอาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานแช่แข็งเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากการบริโภคภายในประเทศและการที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำหรับส่งออก พร้อมกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะกับการจัดเก็บสินค้า อาทิ อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารสัตว์ ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยประเมินแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) ในประเทศไทย จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 8.03% ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า (2024-2029) และคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.78 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2029


แผนการดำเนินธุรกิจของ เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี (SCGJWD) จึงเร่งเสริมความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ด้วยการต่อยอดจุดแข็งในปัจจุบัน เช่น เป็นผู้ให้บริการห้องเย็นสาธารณะที่มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุด 8 โลเคชันครอบคุมทั่วประเทศ รวมกว่า 241,000 พาเลต (แท่นวางสินค้า), ติดตั้งระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ, ผ่านการรับรองมาตรฐานสากลและใบอนุญาตทุกประเภท เป็นต้น โดยในปี 2025-2029 ได้วางงบลงทุนธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นรวมกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันรายได้จากธุรกิจดังกล่าวให้มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 12.8% ต่อปี จากเป้าหมายรายได้ปี 2025 ที่ 1,100 ล้านบาท ภายใต้ 4 กลยุทธ์หลักที่ขับเคลื่อนการขยายธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าควบคุมอุณหภูมิในประเทศไทยและอาเซียน ได้แก่


•   ขยายฮับคลังสินค้าห้องเย็นในจังหวัดภูมิภาค: ลงทุนขยายคลังสินค้าห้องเย็นในจังหวัดที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งหลัก เสริมความสะดวกในการกระจายสินค้า ลดระยะเวลาการขนส่ง และประหยัดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ โดยปัจจุบัน SCGJWD มีคลังสินค้าห้องเย็น 8 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย สมุทรสาคร 3 แห่ง สมุทรปราการ 3 แห่ง ฉะเชิงเทรา 1 แห่ง และสระบุรี 1 แห่ง รองรับสินค้ามากกว่า 241,000 พาเลท และจะลงทุนปรับปรุงคลังสินค้าทั่วไปของ SCG Logistics เดิมให้รองรับการจัดเก็บสินค้าแช่เย็นแช่แข็งในจังหวัดหัวเมืองที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญอีก 8 แห่ง เช่น ปทุมธานี สระบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต เป็นต้น โดยจะมีพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 24% เป็น 300,000 พาเลทภายในปี 2029


•   ขยายธุรกิจในอาเซียน: บริษัทฯ วางแผนสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ โดยขยายการลงทุนและร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในอาเซียน ได้แก่ ความร่วมมือกับ SWIFT ขยายธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในมาเลเซีย รวมทั้งขยายธุรกิจในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งในแต่ละประเทศและศึกษาโอกาสการทำ M&A




•   ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ขยายธุรกิจและออกแบบโลจิสติกส์โซลูชันตามโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้า: โดยบริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับกลุ่มไทยยูเนี่ยน จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อลงทุนคลังสินค้าห้องเย็นระบบอัตโนมัติ (ASRS) สำหรับจัดเก็บสินค้าปลาทูน่า ในจังหวัดสมุทรสาคร และร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ให้บริการโซลูชันจัดส่งสินค้าเบเกอรี่แก่ร้าน Amazon Café กว่า 500  สาขาทั่วประเทศ โดยใช้นวัตกรรมขนส่งเย็น Cool Container ผ่านเครือข่ายขนส่งของ SCGJWD ที่มีจำนวนฟลีทรถมากที่สุด สามารถขยายพื้นที่จัดส่งได้ครอบคลุมทั่วประเทศและคงคุณภาพสินค้าที่ดีถึงปลายทาง




•   ขยายบริการแบบ End-to-End Supply Chain Solution ในธุรกิจเฮลท์แคร์และยา: จะใช้จุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญบริการขนส่งและคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิทั่วประเทศ การได้รับรองมาตรฐานระดับสากล ระบบประกันคุณภาพสินค้าตลอดกระบวนการ และบริการเสริม เพื่อขยายบริการภายใต้กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การจับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ และเจาะกลุ่มยาและวัคซีนที่มีอัตรากำไรที่ดี


นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม SCGJWD กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และ AI ตลอดกระบวนการซัพพลายเชนเพื่อยกระดับการบริหารจัดการคลังสินค้าห้องเย็นให้รวดเร็ว แม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ ใช้เทคโนโลยีจัดเก็บและจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage Retrieval System: ASRS) เพื่อช่วยจัดเก็บสินค้าได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำกว่า 99.9% ปลอดภัยสูง คงความสดใหม่และรักษาคุณภาพของสินค้าได้ดีกว่าเดิม รวมทั้งติดตั้งระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) คัดขนาดปลาทูน่า เพิ่มความแม่นยำได้มากกว่า 95% และจะขยายสู่การคัดแยกสายพันธุ์ปลาในปีหน้า




บริษัทฯ มุ่งดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ‘โลจิสติกส์สีเขียว (Green Logistics)’ โดยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) ที่คลังสินค้าห้องเย็นทุกแห่ง เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการซื้อไฟฟ้า เปลี่ยนมาใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแทนรถน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงการใช้เทคโนโลยีจัดเก็บและจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage Retrieval System: ASRS) ที่ช่วยลดการใช้ไฟฟ้า เพิ่มขีดความสามารถในการจัดเก็บ เทคโนโลยีหลักที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ช่วยให้บริษัทบริหารต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้นและช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถลดค่าไฟฟ้าได้กว่า 200 ล้านบาท และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 33,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และเทคโนโลยี TMS (Transport Management System) ที่ช่วยเรื่องวางแผนการเส้นทางการขนส่ง ทำให้สามารถประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายของบริษัทฯ สู่ Net Zero ในปี 2050










15
2 หนังดังของ “วิลล์ สมิธ” ซุปตาร์แห่งฮอลลีวูด ที่คุณไม่ควรพลาดชมที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


             แน่นอนว่าคอหนังฮอลลีวู้ดคงไม่มีใครไม่รู้จัก “วิลล์ สมิธ” นักแสดงระดับแนวหน้าที่สร้างสรรค์ผลงานสุดปัง บนจอเงินมาอย่างยาวนาน ด้วยทักษะการแสดงที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร หลากหลายบทบาทเขาก็ตีบทแตกกระจุย ไม่ว่าจะเป็นแนวแอ็คชั่น คอมเมดี้ โรแมนติก หรือดราม่า ทรูโฟร์ยูจึงไม่พลาดที่จะนำ 2 ภาพยนตร์ดังของเขามาฝากให้ชมกัน




             เริ่มต้นความสนุกด้วย คู่หูขวางนรก ตลอดกาล (Bad Boys for Life) ออกอากาศเวลา 12.30  น. พบเรื่องราวของสองเพื่อนซี้ตำรวจนอกเครื่องแบบ ไมค์ โลว์รีย์ (วิลล์ สมิธ) และ มาร์คัส เบอร์เน็ตต์ (มาร์ติน ลอว์เรนซ์) ที่ต้องกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง เพื่อจัดการกับแก๊งค้ายาเสพติดที่อันตราย แม้ว่ามาร์คัสจะตั้งใจเกษียณตัวเองแล้วก็ตาม แต่เมื่อเพื่อนรักของเขาตกอยู่ในอันตราย มาร์คัสจึงต้องกลับมาช่วยไมค์ในภารกิจสุดระห่ำ ต่อด้วย แฮนค็อค ฮีโร่ขวางนรก (Hancock) เวลา 14.55 น. จอห์น แฮนค็อค (วิลล์ สมิธ) ซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและชอบดื่มเหล้า ทำให้เขาเป็นที่เกลียดชังของประชาชนในลอสแอนเจลิส แม้ว่าเขาจะช่วยชีวิตผู้คนได้ก็ตาม แต่ก็สร้างความเสียหายมากมายเช่นกัน และชีวิตของแฮนค็อคต้องเปลี่ยนไป เมื่อเขาช่วยชีวิต เรย์ เอมเบรย์ (เจสัน เบตแมน) นักประชาสัมพันธ์ เรย์ได้กอบกู้ภาพลักษณ์ของแฮนค็อคให้ดีขึ้น จนเมื่อเขาได้พบกับ แมรี (ชาร์ลิซ เทรัน) ภรรยาของเรย์ ซึ่งมีพลังวิเศษเช่นเดียวกัน เรื่องราวความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น เตรียมพบความมันส์ กับผลงานของ วิลล์ สมิธ ได้ในวันอาทิตย์ที่  6 ตุลาคมนี้ ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และ https://true4u.com/live

Pages: [1] 2 3 ... 2447