1
news & activity / โรงพยาบาลยันฮี เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์แก่องค์กรพันธมิตร
« Last post by fh400 on Today at 10:07:54 AM »โรงพยาบาลยันฮี ตอกย้ำการเป็นหน่วยงานมาตรฐานระดับสากล
เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์ แก่องค์กรพันธมิตร
ปูพื้นฐานสร้างบุคลากรคุณภาพ เพื่อประโยชน์แก่สังคม
เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์ แก่องค์กรพันธมิตร
ปูพื้นฐานสร้างบุคลากรคุณภาพ เพื่อประโยชน์แก่สังคม

โรงพยาบาลยันฮี ตอกย้ำการเป็นหน่วยงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้รับการยอมรับมาตรฐานในระดับสากล เปิดบ้านต้อนรับ 2 หน่วยงานและองค์กรพันธมิตร ได้แก่ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตและสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ วิทยาเขต EEC อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์และด้านวิชาการ การดูแลบริการสุขภาพและการบริบาลขั้นสูง โดยได้รับเกียรติจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมทีมสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง จากโรงพยาบาลยันฮี ร่วมถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้อันเป็นประโยชน์ ตอกย้ำการเป็นหน่วยงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานระดับสากล ทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และบริการทางวิชาการแก่องค์กรและหน่วยงานที่มีความสนใจเพื่อก่อประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม

ศูนย์ทันตกรรมแบบครบวงจร โรงพยาบาลยันฮี นำโดย ทันตแพทย์อำนวย สันติวิภานนท์ หัวหน้าทันตแพทย์ ศูนย์ทันตกรรม และศูนย์ศัลยกรรมขากรรไกร พร้อมด้วย นางสาวบุญศรี พรหมดวง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และ นางสาวพรปวีณ์ เรืองอัศวไชย ผู้อำนวยการศูนย์ทันตกรรม ให้การต้อนรับคณะอาจารย์และนักศึกษาชั้นปีที่ 5 จากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เข้าศึกษาดูงานในคลินิกทันตกรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนในรายวิชา "การบริหารจัดการคลินิกทันตกรรม" โดยเบื้องต้นผู้บริหารของโรงพยาบาลได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาและนำเสนอระบบบริหารจัดการศูนย์ทันตกรรม ก่อนจะนำคณะนักศึกษาและอาจารย์ไปเยี่ยมชมศูนย์ทันตกรรม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับหัตถการทุกประเภทที่โรงพยาบาลเปิดให้บริการดูแลรักษาสุขภาพฟันและช่องปากแก่ประชาชนแบบครบวงจร ภายใต้การดูแลโดยทีมทันตแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางจากหลากหลายสาขา

สำหรับในการเปิดบ้านเพื่อต้อนรับว่าที่หมอฟันจากรั้วแม่โดมเข้าศึกษาดูงานในครั้งนี้ ทุกท่านยังได้เข้าเยี่ยมชมห้องตรวจ ที่สามารถรองรับผู้เข้ารับบริการได้มากถึง 83 ห้อง ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน เช่น 3D CT X-RAY, Digital Dentistry Technology (ระบบดิจิทัลทางทันตกรรม), CAD/CAM Dental Lab (แลบปฏิบัติการเซรามิคทันตกรรม), Endodontic Microscope(การรักษารากฟันโดยใช้กล้องไมโครสโคป) เป็นต้น
ในขณะที่ ศูนย์ผู้สูงอายุแบบครบวงจร โรงพยาบาลยันฮี นำโดย นางสาวจีราภรณ์ โพธิ์กระจ่าง ผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาลศูนย์ผู้สูงอายุฯ ให้การต้อนรับคณะผู้เข้าอบรม หลักสูตรพนักงานบริการสุขภาพและการบริบาลขั้นสูง (Care Angel Program) จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ วิทยาเขต EEC อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สถาบันอุดมศึกษาเอกชนภายใต้การสนับสนุนจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 40 ท่าน

พร้อมเปิดพื้นที่เพื่อจัด "ฝึกอบรมภาคปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงวัยขั้นพื้นฐาน ในระหว่างวันที่ 11 กันยายน - 30 ตุลาคม 2566" ทั้งนี้เพื่อร่วมปูพื้นฐานในการสร้างมาตรฐานด้านการบริบาลขั้นสูงให้แก่บุคลากรรุ่นใหม่ที่เปี่ยมคุณภาพในอนาคต ภายใต้การให้คำแนะนำและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกับทีมงานสหวิชาชีพของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ อันเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพและบำบัดรักษาโรคในผู้สูงอายุแบบครบวงจร
สำหรับโครงการการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์และด้านวิชาการในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมืออีกมิติหนึ่ง เพื่อผลิตบุคลากรการแพทย์ที่มีคุณภาพสู่ระบบสาธารณสุขไทย ทั้งยังถือเป็นการตอกย้ำว่า นอกจากโรงพยาบาลยันฮี จะเป็นหน่วยงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานระดับสากลแล้ว ยังเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และบริการทางวิชาการแก่องค์กรและหน่วยงานที่มีความสนใจเพื่อก่อประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมอีกด้วย
2
news & activity / เอช เซม ลงนามความร่วมมือ ร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา
« Last post by happy on Today at 01:57:41 AM »เอช เซม ลงนามความร่วมมือ
ร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา
ร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา
จากภาพ นายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษากับวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ตามแนวนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาให้เพิ่มพูนทักษะและศักยภาพให้กับนักศึกษาอาชีวะได้นำหลักสูตรที่ศึกษามาทำงานจริง ณ หอประชุมอร่ามเรืองรอง วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
######
เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด
บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM Motor Co., Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถกอล์ฟไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า และรถสามล้อเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ภายใต้ชื่อ “เอช เซม” เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการใช้ระบบขนส่งที่มีความคล่องตัว ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ในราคาที่จับต้องได้ ดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hsemmotor.com/ หรือ www.facebook.com/hsemmotor.sev และ www.facebook.com/hsemmotor.stc
เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด
บริษัท เอช เซม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (H SEM Trading Corporation Co.,Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป เป็นบริษัทรับผิดชอบดูแลการจัดจำหน่าย แต่งตั้งดีลเลอร์ และกำหนดกลยุทธ์การตลาดให้กับสินค้าของ เอช เซม ทั้งในประเทศไทยและประเทศในเขตภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ CLMV ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เวบไซต์ https://www.hsemmotor.com/ หรือแฟนเพจ www.facebook.com/hsemmotor.sev และ www.facebook.com/hsemmotor.stc
3
news & activity / สวพส. ชู แนวทางการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ให้กับเกษตรกรในพื้นที่สูง
« Last post by happy on Today at 01:51:07 AM »สวพส. ชู แนวทางการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ให้กับเกษตรกรในพื้นที่สูง
ส่งเสริมธนาคารอาหารในป่า (Food bank)
มีส่วนช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟู
และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ตามแนวทาง BCG Model
ส่งเสริมธนาคารอาหารในป่า (Food bank)
มีส่วนช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟู
และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ตามแนวทาง BCG Model
ชุมชนป่าเมี่ยงแม่พริก อยู่ในตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ครอบคลุม 3 หมู่บ้าน 125 ครัวเรือน ประชากร 400 คน อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง ในอดีตทรัพยากรป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ ชุมชนมีอาชีพที่พึ่งพิงกับป่า ด้วยการปลูกชาอัสสัม หรือชาเมี่ยง เพื่อทำเมี่ยงหมัก และเก็บหาของป่า แต่ด้วยมีประชากรเพิ่มขึ้น และเริ่มมีเทคโนโลยีเข้าไปในชุมชน กอปรกับความนิยมบริโภคเมี่ยงหมักลดลง ทำให้ชุมชนมีรายได้ลดลง เกิดปัญหาการบุกรุกป่าเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และใช้สารเคมีการเกษตรสูง ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในป่าที่เป็นแหล่งอาหารของชุมชนเริ่มลดน้อยลง โดยพบว่าพืชท้องถิ่นที่ชุมชนมีการใช้ประโยชน์ 19 ชนิด อยู่ในสถานภาพเป็นพืชหายากหรือใกล้สูญหายจากพื้นที่ ชุมชนต้องพึ่งพาอาหาร (ข้าวและกับข้าว) ยารักษาโรค และไม้ใช้สอยจากภายนอกมากขึ้น ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) (สวพส.) โดยโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงวาวี ได้เริ่มดำเนินการในชุมชนป่าเมี่ยงแม่พริก ตั้งแต่ปี 2558 โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาชุมชนให้มีความมั่นคงด้านอาหาร และมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ รวมทั้งลดการบุกรุกป่า ฟื้นฟู อนุรักษ์ และจัดการทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของชุมชน เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก “การพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืนแบบโครงการหลวง” และได้นำแนวทางของ “โครงการธนาคารอาหารชุมชนตามพระราชดำริ” (Food Bank) พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นการสร้างแหล่งอาหารในผืนป่าและในชุมชน เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคประจำวันและหมุนเวียนตลอดทั้งปี
การดำเนินงานโครงการธนาคารอาหาร เริ่มจากการสร้างแหล่งอาหารฝากไว้ในผืนป่า ซึ่งเปรียบเสมือนการฝากเงินในระบบธนาคาร มีการรักษาและปลูกพืชท้องถิ่นหลากหลายเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นอาหารทั้งของคนและสัตว์ เป็นยารักษาโรค และมีประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ เช่น ไม้ใช้สอย สีย้อมธรรมชาติ และแหล่งพลังงาน ซึ่งคนในชุมชนสามารถถอนออกมาใช้ประโยชน์ได้ เปรียบเช่นเดียวกับการถอนเงินในระบบธนาคาร และหากมีเหลือจากการบริโภคแล้ว สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อสร้างเป็นอาชีพและสร้างรายได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความหวงแหนและช่วยกันดูแลผืนป่าและแหล่งน้ำรอบชุมชน ทำให้เกิดมีดอกเบี้ยความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้แหล่งอาหารธรรมชาติของชุมชนมีเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเปรียบได้กับดอกเบี้ยในระบบธนาคาร โดย “ธนาคารอาหารของชุมชน” มีระบบการบริหารจัดการแบบครบวงจรเช่นเดียวกับระบบธนาคารทั่วไป ด้วยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ร่วมกันกำหนดกฎกติกา ให้การยอมรับและถือปฏิบัติร่วมกัน ตลอดจนมีความร่วมมือของภาคีเครือข่ายหน่วยงานร่วมบูรณาการทุกภาคส่วน
นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง กล่าวว่า ปัจจุบันชุมชนบ้านป่าเมี่ยงแม่พริก มีแหล่งอาหารจากพืชท้องถิ่น ที่ได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม สามารถเข้าถึงแหล่งอาหารจากธรรมชาติได้มากขึ้น รวมทั้งสามารถเพาะปลูกข้าวเพื่อบริโภค ซึ่งทำให้ลดรายจ่ายจากการต้องซื้อจากภายนอกลงกว่าร้อยละ 50 “ก่อให้เกิดความมั่นคงด้านอาหาร” โดยสามารถผลิตข้าวได้ 3,000 กิโลกรัม/ปี และมีพืชอาหารและสมุนไพรท้องถิ่นสำหรับใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น 53 ชนิด ชุมชนมีอาชีพที่หลากหลายและเกื้อกูลป่า สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทพื้นที่ ทำให้มีรายได้พอเพียงต่อการดำรงชีพ “ก่อให้เกิดความมั่นคงด้านรายได้” ขณะที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับการอรุรักษ์ฟื้นฟูอย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดประโยชน์ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับทั้งภายในประเทศและนานาชาติ
ในแนวทางของการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ทางโครงการได้คัดเลือกเกษตรกรนำร่อง เพื่อเพาะปลูกพืชท้องถิ่นที่สามารถปลูกร่วมกับป่า และมีศักยภาพทางการตลาด เช่น หวาย ลิงลาว ไผ่ ผักกูด และเห็ดตับเต่า และนำเกษตรกรในพื้นที่ไปศึกษาดูงานเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในพื้นที่อื่นที่มีบริบทใกล้เคียงกัน รวมทั้งการอบรมให้ความรู้ในการพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (value added) ของพืชท้องถิ่น ให้เป็นสินค้าที่มีอัตลักษณ์ของชุมชน และให้หน่วยงานร่วมบูรณาการเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินงาน ได้แก่ การวิเคราะห์ปัญหาร่วมกับชุมชน การตั้งวัตถุประสงค์และเป้าหมายร่วมกัน และการวางแผนปฏิบัติงาน โดยใช้ระบบฐานข้อมูลสารสนเทศชุดเดียวกัน รวมทั้งการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานร่วมกัน สามารถสร้างความมั่นคงอาหารได้ระดับหนึ่ง
โดยชุมชนปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นปลูกข้าวไร่ และข้าวเหนียวดำพันธุ์ลืมผัว จำนวน 23 ครัวเรือนในพื้นที่ 150 ไร่ ผลผลิตข้าวรวม 3,000 กิโลกรัม ทำให้ชุมชนมีผลผลิตข้าวเพียงพอต่อการบริโภคตลอดปี สามารถลดรายจ่ายจากการซื้อข้าวเพื่อบริโภคในระหว่างปี พ.ศ.2562-2563 ได้ถึง 178,984 บาท และพัฒนาปริมาณการผลิตข้าวก่ำพันธุ์ข้าวลืมผัวให้มากขึ้นเพื่อการจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวท้องถิ่นที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน โดยเกษตรกรมีการรวมกลุ่มและจดทะเบียน “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตและแปรรูปข้าวป่าเมี่ยงแม่พริก” เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 และมีเครื่องหมายการค้า “ตราดอกเมี่ยง” โดยมีสมาชิก 13 ราย สร้างรายได้ให้แก่กลุ่ม 25,000 บาท
รวมทั้งการปลูกฟื้นฟูพืชท้องถิ่นเพื่อเสริมแหล่งอาหาร (Food bank) ในพื้นที่ป่าใช้สอยของชุมชน 53 ชนิด ในพื้นที่เกษตรกรรมและสวนหลังบ้าน พื้นที่ 65 ไร่ จำนวน 34 ชนิด 37,000 ต้น เช่น ลิงลาว ผักกูด ผักหนาม หวายหนามขาว เชียงดา เสลดพังพอนตัวผู้และตัวเมีย ฟ้าทะลายโจร สะแล พริกไทย ดีปลี รวมทั้งมีการเพาะเลี้ยงเห็ดท้องถิ่นเพื่อเสริมแหล่งอาหาร เช่น เห็ดหูหนู เห็ดนางฟ้า-นางรม เห็ดขอน และเห็ดตับเต่า เป็นต้น ก่อให้เกิดรายได้จากการเพาะปลูกพืชท้องถิ่นและเพาะเลี้ยงเห็ด รวม 205,070 บาท
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การปลูกกาแฟภายใต้ร่มเงา 30 ครัวเรือน พื้นที่ 131 ไร่ ผลผลิตกาแฟกะลา 5,141 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ารวม 723,965 บาท ชาอัสสัม 450,000 บาท การเพาะปลูกไม้ผล 48 ครัวเรือน รายได้ 363,406 บาท และอื่น ๆ 12,782 บาท
ลดพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ร้อยละ 83.5 (จากพื้นที่ปลูกเดิม 850 ไร่ เหลือ 140 ไร่) โดยปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกข้าวไร่ ระบบการปลูกพืชแบบผสมผสานและไม้ผลยืนต้น ลดการเผาเตรียมพื้นที่ และลดการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้กับผืนป่า 53 ชนิด มีค่าดัชนีความหลากหลายของพรรณพืช (Species diversity index) เท่ากับ 2.97 และป่ารอบชุมชน 8,932 ไร่ ได้รับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู โดยชุมชนและหน่วยงานร่วมบูรณาการ ป่ามีค่าการสะสมคาร์บอนในมวลชีวภาพเฉลี่ย 11.75 ตัน/ไร่
เกิดการพัฒนาเกษตรกรในพื้นที่ให้เป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) เพื่อเป็นตัวอย่างของความสำเร็จ และมีบทบาทเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านต่างๆ (Change Agent) ของชุมชนป่าเมี่ยงแม่พริก เกิดความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ผ่านการเรียนการสอนในหลักสูตรท้องถิ่นการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พืชท้องถิ่นและความหลากหลายทางชีวภาพ ร่วมกับโรงเรียนบ้านป่าเมี่ยงแม่พริก “เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ สู่ความยั่งยืน”
ปัจจุบัน ต้นแบบ “ธนาคารอาหารในป่า” ของชุมชนป่าเมี่ยงแม่พริก มีการขยายผลเพิ่มขึ้นใน 2 บริบทพื้นที่ ได้แก่ บริบทชุมชนป่าเมี่ยง (ชาอัสสัม) และบริบทชุมชนปลูกข้าวโพด/ไร่หมุนเวียน ในพื้นที่เครือข่ายจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และน่าน รวม 25 ชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารและสร้างรายได้ที่พอเพียงต่อการดำรงชีพของชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนบนพื้นที่สูง รวมทั้งพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนจากพืชอาหารและสมุนไพรท้องถิ่น เพื่อเป็นกลไกในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน
4
news & activity / GOOD A DAY เปิดตัวผงปรุงรสรูปแบบใหม่ 2 รสชาติ พกพาสะดวก
« Last post by happy on Today at 01:24:13 AM »GOOD A DAY เปิดตัวผงปรุงรสรูปแบบใหม่ 2 รสชาติ พกพาสะดวก
บริษัท โฟร์ ฟูดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารทั้งในและต่างประเทศมายาวนานกว่า 20 ปี ขอแนะนำ GOOD A DAY ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบซองใหม่ล่าสุด 2 รสชาติ ได้แก่ ผงปรุงรสลาบ - น้ำตก และผงปรุงรสน้ำยำ สูตรคลีน มาพร้อมกับรสชาติเข้มข้น จัดจ้าน แซ่บจี๊ด โดนใจคนไทย เต็มไปด้วยเครื่องเทศจากธรรมชาติ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตของคนรักสุขภาพ
วิธีทำลาบ - น้ำตกง่าย ๆ เพียงรวนหมูสับให้สุก แล้วนำมาคลุกเคล้ากับผงปรุงรส ลาบ - น้ำตก (ไม่ต้องปรุงรสเพิ่ม) จากนั้นใส่ผักชี ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ หอมแดงและต้นหอมซอย เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูลาบ แซ่บ นัว ครบรส หอมกรุ่นข้าวคั่ว เสิร์ฟพร้อมกับผักเคียง ข้าวเหนียวร้อน ๆ หรือจะนำมาเป็นกับแกล้มก็อร่อยได้ไม่ซ้ำใคร สำรับผงปรุงรสน้ำยำ เหมาะสำหรับทำยำประเภทต่าง ๆ อาทิ ยำวุ้นเส้น ยำมาม่า ยำเล็บมือนาง และยำเห็ด เพียงลวกวัตถุดิบที่ต้องการให้สุก แล้วนำมาคลุกเคล้ากับผงปรุงรสน้ำยำ ใส่หอมแดง มะเขือเทศ พริกซอย และขึ้นฉ่าย คลุกเคล้าอีกรอบให้วัตถุดิบเข้ากัน และเสิร์ฟพร้อมกับผัดสด เท่านี้ก็จะได้ยำรสชาติจัดจ้าน อร่อยด้วยฝีมือตนเอง
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ GOOD A DAY สามารถซื้อได้ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ อาทิ ร้านใบเมี่ยง ร้านสบายใจ หรือ Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/thychef, Shopee: https://shp.ee/5arggvn, Line: https://lin.ee/aiRAgzm หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB: Good A Day ผงปรุงรสเพื่อสุขภาพ หรือโทร. 02-968-3723-6
5
news & activity / Dr.TATTOF ตอบโจทย์ทุกความต้องการ “ลบรอยสัก” ครอบคลุมครบ 4 หัวความยาวคลื่น
« Last post by happy on Today at 01:17:07 AM »Dr.TATTOF ตอบโจทย์ทุกความต้องการ “ลบรอยสัก” ครอบคลุมครบ 4 หัวความยาวคลื่น ลบรอยสักได้ทุกแบบ ทุกขนาด ทุกสี ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
หากพูดถึงเทคโนโลยีเลเซอร์ด้านการลบรอยสักที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านวัตกรรมเลเซอร์ คือ โปรแกรม PicoWay Laser จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยม และถูกพูดถึงมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถลบรอยสักได้อย่างปลอดภัย และเห็นผลชัดเจน
นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ ประธานบริษัท ด็อกเตอร์ แททออฟ คลินิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเลเซอร์ กล่าวว่า “Dr.TATTOF CLINIC เราเป็นผู้นำด้านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการลบรอยสักมากที่สุด ทั้งในด้านประสบการณ์ของบุคลากรและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เราใช้โปรแกรม PicoWay จากสหรัฐอเมริกาที่ได้รับมาตรฐาน US-FDA มีทุกหัวความยาวคลื่น ที่จะตอบโจทย์ทุกการลบรอยสักทุกขนาด ทุกสี ได้ที่นี่ที่เดียว ประกอบไปด้วย PicoWay 1064 nm. ลบรอยสักสีดำ, PicoWay 532 nm. ลบรอยสักสีแดง สีเหลือง สีส้ม และ PicoWay 785/ 730 nm. ลบรอยสักสีเขียว และสีฟ้า”
โปรแกรม PicoWay Laser เป็นเทคโนโลยีระดับ Picosecond พลังงานความเร็วสูง 1 ต่อล้านล้าน/วินาที สามารถลบรอยสักได้ทุกแบบ ทุกขนาด ทุกสี อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น และเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงมากถึง 10 - 15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าใช้บริการ นอกจากนี้ยังใช้จำนวนครั้งในการลบน้อยกว่าเทคโนโลยีดั้งเดิม นพ.นัทธพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม
คุณพงศยา ตราชูนิตย์ ผู้บริหาร Dr.TATTOF Clinic กล่าวว่า “ล่าสุด Dr.TATTOF ประกาศความสำเร็จบนเส้นทางการเป็นผู้นำอันดับ 1 ในเอเชีย-แปซิฟิก ด้านการลบรอยสัก โดยได้รับรางวัล APAC TOP PERFORMANCE FOR TATTOO REMOVAL TREATMENT และใช้ช็อตในการรักษามากที่สุด 350,000,000 ช็อต (350 ล้านช็อต) เป็นรางวัลแห่งความสำเร็จสูงสุดในการลบรอยสัก รอยแผลเป็น และรักษาปัญหาผิว ด้วยนวัตกรรมเลเซอร์โปรแกรม PicoWay”
Dr.TATTOF ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจด้วย 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1. การเป็น THE EXPERT เพราะประสบการณ์ทำให้เราเชี่ยวชาญ Dr.TATTOF ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลบรอยสัก รอยแผลเป็น รอยดำ ถือเป็นคลินิกลบรอยสักแห่งแรก แห่งเดียวที่มีประสบการณ์เยอะที่สุดในประเทศไทยและในเอเชีย-แปซิฟิกในการใช้เลเซอร์โปรแกรม PicoWay ที่ได้มาตรฐานรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US-FDA) และประเทศไทย (THAI-FDA) ที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพระดับสากล
2. ผ่านการรับรองการเป็นสถานพยาบาลระดับสากลจาก American Accreditation Commission International (AACI) เข้ามายกระดับคุณภาพสถานพยาบาลจากเดิมที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจในการรักษา ทั้งมาตรฐานด้านการแพทย์ ความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางแพทย์ กระบวนการรักษา มาตรฐานเครื่องมือทางการแพทย์ การติดตามผลการรักษา ระบบการป้องกันการติดเชื้อ สิทธิและความปลอดภัยของผู้รับบริการ ระบบการจัดการข้อมูลผู้รับบริการ รวมถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยนำร่องที่สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต เป็นสาขาแรก
การดำเนินงานตามกลยุทธ์ธุรกิจข้างต้น รวมถึงความทุ่มเทในการรักษาคนไข้ และผลลัพธ์การรักษาที่ดีเยี่ยมของ Dr.TATTOF ลูกค้าของเราจึงเป็นกลุ่มลูกค้าประจำ หรือ Loyalty Customer ที่เข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่อง ใช้แล้วรู้สึกดี รู้สึกคุ้มค่า เกิดความประทับใจจนมีการบอกต่อกับคนรอบข้างให้มาใช้บริการ ทำให้คนรู้จักแบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น คุณพงศยา กล่าวปิดท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Dr.TATTOF: Medical Laser Solutions, Inbox: http://m.me/dr.tattof, Line@: http://line.me/ti/p/~@dr.tattof หรือโทร สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ 090-546-2424, สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว 095-428-9424, สาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา 097-428-2424, สาขาเอท ทองหล่อ 099-614-2424, สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 083-535-2424, สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า 064-679-2424, สาขาเดอะ พรอมานาด 064-756-2424, สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต 064-568-2424, สาขาเซ็นทรัล พระราม2 063-856-2424 และสาขาเมกาบางนา 090-895-2424
6
กิน - เที่ยว เปรี้ยวซ่า / "LEO Presents วันปล่อยเสือ 3" เทศกาลดนตรีเล่นกลางป่า มวกเหล็ก สระบุรี
« Last post by happy on Today at 12:46:03 AM »"LEO Presents วันปล่อยเสือ 3" เทศกาลดนตรีเล่นกลางป่า มวกเหล็ก สระบุรี สนองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย 21 - 22 ตุลาคมนี้ @สนาม Mac มวกเหล็ก สระบุรี
"Heavy Organizer"" เปิดแถลงข่าวเทศกาลดนตรี "LEO Presents วันปล่อยเสือ 3" เทศกาลดนตรีเล่นกลางป่า มวกเหล็ก สระบุรี 2 วัน 2 คืน ในวันที่ท21 - 22 ตุลาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ณ สนาม Mac มวกเหล็ก สระบุรี โดยงานแถลงข่าวจะมีผู้บริหาร LEO มาร่วมพูดคุยกับ เฮง - บุรินทร์ทร แซ่ล้อ หัวเรือใหญ่ของเฮฟวี่ ออร์แกไนเซอร์ พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร และตัวแทนศิลปิน อาทิ เล็ก กรีซซี่ คาเฟ่ , วง door plant , วง KNO3 , Melodic Sync , Ball Mad Pack It , Sitta , ใหม่ สิบล้อ , เปิ้ล คณะขวัญใจ , หนู มิดด้าม (เทวัญ โกลด์เรด) ฯลฯ พร้อมโชว์พิเศษ เพลง "ปล่อยเสือ" แต่งและขับร้องโดยหนู มิดด้าม และมินิคอนเสิร์ต 1 ชั่วโมงเต็ม จาก Moving and Cut
ทั้งนี้ ทางเพจวันปล่อยเสือได้เริ่มทยอยประกาศไลน์อัพศิลปินกันแล้ว สามารถกดติดตามได้ที่เพจ วันปล่อยเสือ เพื่ออัปเดตข้อมูลข่าวสารกันได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง เฮฟวี่ ออร์แกไนเซอร์ เจ้าเก่าเจ้าเดิม ขอการันตี
สำหรับโปรฯเสือเดี่ยว เหลือไม่มาก
บัตรราคาปกติ 1,500 บาท ลดเหลือ 890 บาท (เข้างานได้ทั้ง 2 วัน)
**จำกัดจำนวน 2,000 ใบเท่านั้น**
ซื้อบัตรได้เลย ที่ m.me/Tigercamps://goo.gl/maps/p6SP5Xb18ixa4jr1A
ล่าสุดทางเพจได้เปิดเผย Line Up ศิลปิน “Leo Presents วันปล่อยเสือ” เทศกาลดนตรีเล่นกลางป่า ปี 3 ที่จะมีขี้นในวันที่ 21 - 22 ตุลาคม 2566 ที่จะถึงนี้ ณ สนาม Mac มวกเหล็ก สระบุรี กันแบบจัดเต็มจุก ๆ 2 วัน 3 เวที กว่า 50 วงขนาดนี้ เฮฟวี่ ออร์แกไนเซอร์ ผู้จัดขอประกาศเลยว่า อย่าได้พลาดกันเชียว ! รับรองจะฟินไปกับทุกแนวเพลง เคล้าธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร โดยศิลปินคุณภาพชื่อดัง ทั้ง Anatomy Rabbit , โบกี้ไลออน , Blackbeans , Doorplant , Death of a Saleman , Error99 , Freehand , Greasy Cafe , Goldred , HYBS , H3F , Inspirative , อิ้งค์ วรันธร , Kno , Lham Sompol , Luxxa , Max Jenmana , Mad Pack It , โมเดิร์นด็อก , Moving and Cut , Monomania , Mai Siplor , Melodicsync , Never Gets Old , Polycat , Safeplanet , Sillyfools , Solitude is Bliss , Stoondio , Sitta , Tattoo Colour , Television off , Three Man Down , T_047 , Yourmood , Yented , Yew , Zweed n' Roll / Zeal , พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ , ดวงดาวเดียวดาย , อภิรมย์ , เรนิษรา , ไววิทย์ , มนัสวีร์ , คณะขวัญใจ , หนูมิดด้าม , โลกีย์ เรดไลท์, ภูมิจิต / ถาวร / ORANGE SMALL FISH / Lost n' Found / Puppets / HANGDAB / เศกสรรค์ สุกร / BaroqueSway / โหน่ง หัสดี / LAST FIGHT FOR FINISH และอีกคับคั่ง
พิเศษสุด โปรโมชั่นบัตรเข้างาน เสือคู่ รู้ไลน์อัพ แบบซื้อ 1 แถม 1 ในราคา 1,500 บาท (เข้างานได้ทั้ง 2 วัน) เริ่มจำหน่ายแล้ววันนี้ ถึงวันที่ 15 ส.ค. 66 (จำกัดเพียง 2,000 คู่เท่านั้น !) จำหน่ายบัตรที่ INBOX PAGE วันปล่อยเสือ m.me/TigerCampTH อย่าช้ากันเชียว ถ้าหมดแล้วจะอดราคางาม ๆ แบบนี้
ข่าวดีสำหรับเสือแคมป์ผู้ชอบนั่งดูคอนเสิร์ตหน้าบ้านในงานวันปล่อยเสือ
รถบ้านจำนวน 3 วัน 2 คืน ทัก INBOX PAGE วันปล่อยเสือได้เลย
-----------------------------------------------
Package A รถบ้านสำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตร 25,000 บาท
บัตรเข้างาน 4 ใบ นอนได้ 4 คน ที่จอดรถใกล้งาน 2 คัน
-----------------------------------------------
Package B รถบ้านสำหรับผู้ที่มีบัตรแล้ว 22,500 บาท
นอนได้ 4 คน ที่จอดรถใกล้งาน 2 คัน
-----------------------------------------------
สามารถเข้าพักได้ในวันเสาร์ที่ 21 ต.ค.เวลา 13:00 เป็นต้นไป
Checkout ออกวันจันทร์ที่ 23 ต.ค.ก่อนเวลา 11:00 ภายในรถบ้านมีสุขาและห้องอาบ เครื่องปรับอากาศ และเตียงนอน หมอน ผ้าห่ม สำหรับผู้เข้าพัก 4 ท่าน
๐พื้นที่จอดรถบ้านอยู่ในงานวันปล่อยเสือ
๐มีพื้นที่หน้ารถบ้านสำหรับนั่งชมคอนเสิร์ต
๐ไม่สามารถนำเครื่องดื่มหรืออาหารทุกชนิดจากภายนอกเข้ามาในงาน
๐งดสูบบุหรี่บริเวณหน้ารถบ้านโปรดสูบบุหรี่ในจุดที่ทางงานกำหนด
๐งดก่อไฟในบริเวณงาน
**ในวันงานช่วงเช้าของแต่ละวันจะมีเสียงทดสอบระบบที่เวที
#LEOมันส์ทุกทีที่อยู่รวมกัน #LEOรวมกันมันส์กว่า
#Yuedpao
#ควิกแสบแสบเข้าเส้น
#โปรฯเสือเดี่ยว
#วันปล่อยเสือ
#วันปล่อยเสือ3
#สระบุรี
#HEAVY
7
เทคโนโลยีใหม่ๆ - Smart Phone - PC - IT / คอมมี่ เอาใจสาวก Apple ขนแกดเจ็ตฮอต ร่วมแคมเปญ GADGET FOR IPHONE ลดจัดหนัก
« Last post by happy on Today at 12:13:31 AM »คอมมี่ เอาใจสาวก Apple ขนแกดเจ็ตฮอต
ร่วมแคมเปญ GADGET FOR IPHONE ลดจัดหนัก สูงสุดถึง 90%
ร่วมแคมเปญ GADGET FOR IPHONE ลดจัดหนัก สูงสุดถึง 90%
“คอมมี่” (COMMY) ผู้นำด้านการผลิต จัดจำหน่ายแบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมสินค้าไอที เอาใจสาวกแบรนด์ Apple นำแกดเจ็ตสุดฮอตร่วมแคมเปญ GADGET FOR IPHONE บน Lazada ให้ช้อปกันแบบสุดมันส์กับส่วนลดสูงสุดกว่า 90% อาทิ “แบตเตอรี่สำรองพร้อมสาย” ขนาดความจุ 10,000 mAh ชาร์จพร้อมกันได้สูงสุด 3 อุปกรณ์ ผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ราคาเพียง 590 บาท "Adapter 20W" หัวชาร์จเร็ว รุ่น AD002PQ จ่ายไฟสูงถึง 20 วัตต์ รองรับเทคโนโลยีชาร์จด่วน ชาร์จเร็วขึ้นถึง 70% ภายใน 30 นาที ราคาเริ่มต้น 260 บาท "Super Hydrogel film" ฟิล์มไฮโดรเจลประสิทธิภาพสูง ป้องกันทุกแรงกระแทก ราคาเพียง 275 บาท “หูฟังบลูทูธ” ราคาเริ่มต้นเพียง 990 บาท สุดคุ้มกับ "Commy Premium Gift Set for iPhone15 Series" ชุดกิ๊ฟเซ็ทที่รวบรวม 4 ไอเทมพิเศษสำหรับ iPhone 15 ทุกซีรีส์ในกล่องเดียว ราคาเริ่มต้นเพียง 1,090 บาท และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย
เตรียมช้อปได้ตั้งแต่วันที่ 26-29 กันยายน 2566 ที่ Commy Official Store บน Lazada พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมมากมาย อาทิ โค้ดส่วนลดสูงสุดถึง 90% บาท คูปองส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุดอีก 20% พร้อมคูปองส่งฟรี พบกับสินค้าราคาพิเศษ Flash Sale ตลอดทั้งวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook – Commy4uหรือ LINE Official Account : @commy4u
8
news & activity / ย้อนรอยการเดินทาง 20 ปี ของ “มิสเตอร์พี” (Mr. P) เด็กทะลึ่งอารมณ์ดี
« Last post by happy on September 21, 2023, 11:47:16 PM »ย้อนรอยการเดินทาง 20 ปี ของ “มิสเตอร์พี” (Mr. P)
เด็กทะลึ่งอารมณ์ดีที่แค่เห็นก็อมยิ้มแล้ว
เด็กทะลึ่งอารมณ์ดีที่แค่เห็นก็อมยิ้มแล้ว
ถ้าใครรู้จัก “มิสเตอร์พี” (Mr. P) คาแรคเตอร์เด็กทะลึ่งขี้อายแต่กล้าโชว์อวัยวะเพศ ที่ปรากฎอยู่ในของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่เคยเห็นหุ่น Mr. P ขนาดยักษ์เกือบ 5 เมตร ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าสยาม เซ็นเตอร์ บอกได้ทันทีว่าคนๆ นั้น ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว เพราะ “มิสเตอร์พี” (Mr. P) คือตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์สัญชาติไทยแท้ที่กำลังจะมีอายุครบ 20 ปี ในปีหน้านี้แล้ว
ย้อนเวลาทำความรู้จัก “มิสเตอร์พี” (Mr. P)
คุณสาธิต กาลวันตวานิช หรือ “พี่แก่” นักคิด นักสร้างสรรค์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฟีโนมีนา จำกัด โปรดักชั่น เฮ้าส์แถวหน้าของคนไทยและยังเป็นผู้ก่อตั้งพร็อพพาแกนดา (Propaganda) เล่าว่า หลังจากที่พร๊อพพาแกนดาได้ทำแบรนด์สินค้าเครื่องใช้ที่ใส่ไอเดียสนุกและสร้างสรรค์ได้ประมาณ 10 ปี นักออกแบบของแบรนด์ ซึ่งในตอนนั้นคือ ตุ๊ด-ชัยยุทธ์ พลายเพ็ชร์ (รางวัลศิลปาธรสาขาการออกแบบ 2557) ก็นึกสนุกอยากออกแบบคาร์แรคเตอร์ที่สะท้อนความเป็นตัวตน ในปี พ.ศ. 2547 Mr. P จึงได้กำเนิดขึ้นจากอารมณ์ขันแบบไทยๆ กลายเป็นคาร์แรคเตอร์เด็กทะลึ่งแต่ขี้อาย ซึ่งอุทิศอวัยวะของตัวเองให้เป็นฟังก์ชั่นใช้งาน เพื่อสะท้อนการใช้งานแบบ Emotional Approach
สินค้าตัวแรกเป็น Mr. P Lamp หรือ One Man Shy สะท้อนความขี้อาย แต่ก็อยากโชว์ ทำหน้าที่เป็นโคมไฟในร่างเด็กผู้ชายเปลือยกายล่อนจ้อนมีเพียงฝาครอบที่ศีรษะ โดยมีสวิตช์เปิด-ปิดอยู่ที่อวัยวะเพศซึ่งใช้วัสดุเป็นยางให้เกิดความนุ่มเวลาสัมผัส หลังจากเปิดตัวเพียง 1 ปี โคมไฟ Mr. P Lamp ก็กลายเป็นสินค้ายอดฮิต และถูกส่งออกไปขายไม่ต่ำกว่า 40 ประเทศทั่วโลก จนเกิดเป็นไลน์สินค้าอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแท่นตัดสก็อตช์เทป (Tape Dispenser) หรือแก้วกาแฟ (Mug Lick) และสินค้าอีกกว่า 50 รายการ ที่ได้มีการเพิ่มลูกเล่นและดีไซน์ แต่ยังคงความน่ารัก ความตลกและความสุข ความทะเล้น ทำให้ Mr. P เข้าไปอยู่ในใจของคนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และทำให้แบรนด์ไทยอื่นๆ เริ่มสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมายด้วยความเชื่อที่ว่าไม่มีถูกไม่มีผิด หากคิดจะนอกกรอบหรือไม่เหมือนใคร และที่สำคัญเชื่อมั่นในสไตล์ของตัวเอง
กำเนิดแลนด์มาร์คแห่งสยาม
ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี Mr. P โด่งดังจนทำให้ ร้าน Propaganda สาขาสยามดิสคัฟเวอรี่ กลายเป็นเดสติเนชั่นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยี่ยมชมและช้อปปิ้ง หนังสือแนะนำแหล่งท่องเที่ยว (Guidebook) เกือบทุกเล่มของทุกประเทศแนะนำว่า Propaganda คือที่ที่นักท่องเที่ยวต้องมาให้ได้!!!!
ในปี พ.ศ. 2556 จึงได้ถือกำเนิด “มิสเตอร์พี แอ็บโซลูทสยาม” (Mr. P Absolute Siam) ขึ้นบริเวณสยาม เซ็นเตอร์ โดยได้รับการออกแบบให้เป็นตัวหุ่นสีขาวไฟเบอร์กลาสขนาดประมาณ 5 เมตร ที่กำลังเพลิดเพลินกับการฟังเพลงโปรด สวมหูฟัง ทำท่าเดินอย่างมีความสุข ในขณะที่เส้นทางข้างหน้ามีก้อนอุจจาระสีเหลืองกองอยู่ตรงหน้า สะท้อนถึงประสบการณ์จริงว่าการเดินทางของชีวิตมนุษย์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะในบางครั้งเราอาจพบเจออุปสรรค แต่เราจะเห็นจะว่า Mr. P เดินอย่างสบายใจ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่ง ทั้งความสุข ความทุกข์และอุปสรรค และเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถก้าวข้ามไปได้ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นไอคอนนิคและเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ดึงดูดทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาถ่ายรูป และโด่งดังจนได้เคยปรากฏภาพบนจอที่ไทม์สแควร์ นิวยอร์ก มาแล้ว ในขณะที่บริเวณหน้าร้านพร๊อพพาแกนดา ก็มี Mr. P Sleep นอนอยู่หน้าร้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปและใกล้ชิดกับเจ้าเด็กหน้าทะเล้นกันมากขึ้น ซึ่งต่อมาได้รับการติดต่อเพื่อนำไปจัดแสดงไว้ที่ China Design Center ประเทศจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงหนึ่งที่บริเวณด้านหน้าสยามเซ็นเตอร์ ฝั่งพาร์ค พารากอน หลายคนอาจจะได้เห็น Mr. P Water ซึ่งเป็น Mr.P เด็กชายอารมณ์ดีขนาดยักษ์จำนวน 3 ตัว ที่มีความสูงกว่า 4 เมตร 3 เมตร และ 2 เมตรตามลำดับ เป็นหุ่นไฟเบอร์กลาสที่ขึ้นรูปด้วยมือและมีขนาดใหญ่ที่สุด อวดโฉมเด่นตระหง่านในท่าทางคุกเข่า แลบลิ้นอย่างอารมณ์ดี มีน้ำไหลออกมาจากปาก สะท้อนถึงความเชื่อเกี่ยวกับศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยที่เชื่อว่าการตั้งจุดน้ำไหลบริเวณหน้าบ้าน จะเสริมสิริมงคลให้บ้านนั้นๆ
สินค้าคาแรคเตอร์ Mr. P ยังได้ไปปรากฏในระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ต่างประเทศ รวมถึงเป็นไอเทมประดับบ้านของคริสติน่า อาร์กีเรล่า นักร้องนักแสดงชื่อดัง รวมถึงเคยถูกนำไปติดตั้งเป็นวินโดว์ดิสเพลย์ของร้าน Paul Smith แฟลกชิปสโตร์สาขาแรกในย่าน Covent Garden ใจกลางกรุงลอนดอนอีกด้วย
แล้วตอนนี้ Mr. P อยู่ที่ไหน
ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ เราไม่ได้เห็นการต่อยอดคาแรคเตอร์สนุกๆ ของ Mr. P ไปสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เท่าไหร่นัก แต่ใครที่เป็นแฟนของเจ้าเด็กหน้าทะเล้น ที่กำลังเติบโตเป็นหนุ่มขี้เล่นตัวนี้ ก็จะได้มีโอกาสได้เห็น Mr. P กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ภายใต้โปรเจกต์ความร่วมมือของ Mr. P และ A49 เรากำลังจะได้อมยิ้มไปกับ Sculpture หุ่น Mr. P ในท่วงท่า อากัปกิริยาใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน ภายในส่วนต่างๆ ของอาคารคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ‘KingBridge Tower’ โดยเครือสหพัฒน์ ซึ่งถูกตั้งใจออกแบบมาเพื่อให้คนที่ทำงานในตึกนี้มีความสุขเป็น Happiness Tower ซึ่งพื้นที่ Communal Space ที่ทำให้คนที่เข้ามาใช้รู้สึกว่า “ตึกนี้ใจดีจังเลย” และเติมเต็มให้ความสุขให้สมบูรณ์ด้วยอารมณ์ขัน ความทะลึ่ง และท่าทางต่างๆ ของ Mr. P ที่แค่ได้เห็นก็ยิ้มแล้ว
อาคาร ‘KingBridge Tower’ จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2024 ที่จะมาถึงนี้ และหากเรานับอายุนับตั้งแต่วันที่ Mr. P ก่อกำเนิดแล้ว ปี 2024 ที่กำลังจะมาถึงนี้ก็จะเป็นปีที่เขามีอายุครบ 20 ปีพอดี เตรียมตัวมาอมยิ้มและเฉลิมฉลอง 20 ปีของ Mr. P ไปด้วยกัน
9
การเงิน ธนาคาร ประกันภัย / กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมส่งเสริมความเข้าใจ-ใส่ใจสุขภาพสูงวัย รับมือโรคร้าย
« Last post by happy on September 21, 2023, 11:17:47 PM »กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมส่งเสริมความเข้าใจ-ใส่ใจสุขภาพสูงวัย รับมือโรคร้ายอัลไซเมอร์
กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมรณรงค์เนื่องในวันอัลไซเมอร์โลก 21 กันยายน ของทุกปี ชวนคนไทยตระหนักถึงการใส่ใจสุขภาพ พร้อมวางแผนการดูแลและเตรียมรับมือเพื่อเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสม ผ่านแบบประกัน แฮปปี้ ซีไอ ที่ช่วยสร้างความอุ่นใจด้วยผลประโยชน์ที่คุ้มค่า ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงรวมถึงโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ที่พบเพิ่มมากขึ้นในผู้สูงอายุ รับเงินก้อน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หรือเบี้ยประกันภัยที่ชำระแล้วสะสมตามจริงแล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงระหว่างสัญญา หรือมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา พร้อมอุ่นใจกับความคุ้มครองยาวนานถึงอายุ 99 ปี ด้วยเบี้ยประกันภัยคงที่ตลอดสัญญา
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความใส่ใจและมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงทางการเงินผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองตามเป้าหมายที่ต้องการแก่ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงอายุ เพื่อเตรียมรับมือกับภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด โดยเฉพาะผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นผู้สูงวัยซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มประเทศไทยที่ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ซึ่งหนึ่งในโรคร้ายแรงที่ถือเป็นภัยคุกคามของผู้สูงอายุที่กำลังเพิ่มมากขึ้นคือ โรคอัลไซเมอร์ ที่ส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพและจิตใจของผู้ป่วย รวมถึง ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และความต้องการการดูแลระยะยาวซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อครอบครัวและคนใกล้ชิด
ทั้งนี้ เนื่องในวันอัลไซเมอร์โลก วันที่ 21 กันยายนนี้ กรุงเทพประกันชีวิตขอร่วมรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและทำความเข้าใจของโรคดังกล่าว รวมทั้งเตรียมแผนการรับมือทั้งด้านสุขภาพและการวางแผนด้านการเงิน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยและคนใกล้ชิดมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้พัฒนาแบบประกัน “แฮปปี้ ซีไอ” ซึ่งเป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่มักพบบ่อย 6 กลุ่ม ซึ่งนอกจากจะให้ความคุ้มครองกลุ่มโรคที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุอย่างโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสันแล้ว ยังรวมไปถึงกลุ่มโรคมะเร็งและเนื้องอก กลุ่มโรคที่เกียวกับหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคที่เกียวกับเส้นเลือดสมองและระบบประสาท กลุ่มโรคที่เกียวกับไต กลุ่มโรคที่เกียวกับการติดเชื้ออย่างรุนแรง
สำหรับจุดเด่นของแบบประกันโรคร้ายแรง “แฮปปี้ ซีไอ” คือผลประโยชน์ที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงระหว่างสัญญาหรือมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญาสามารถรับเงินก้อน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยหรือเบี้ยประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมแฮปปี้ ซีไอ ที่ชำระแล้วสะสมตามจริงแล้วแต่จำนวนใดมากกว่า โดยรับประกันภัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 75 ปี จำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้น 100,000 บาท สูงสุด 5 ล้านบาท คุ้มครองยาวนานถึงอายุ 99 ปี สบายใจกับเบี้ยประกันภัยคงที่ตลอดสัญญาไม่เพิ่มตามอายุ และเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยได้ทั้งแบบ 20 ปี หรือถึงอายุ 99 ปี อีกทั้งยังสามารถนำเบี้ยประกันภัยไปใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจริง สูงสุด 25,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
โรคอัลไซเมอร์เป็นภาวะเสื่อมสภาพสมองที่เกิดความผิดปกติในความจำ ความคิด และพฤติกรรม ถึงแม้สาเหตุที่แท้จริงของโรคอัลไซเมอร์ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างชัดเจน แต่อายุ พันธุกรรม และปัจจัยด้านการดำเนินชีวิตอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคซึ่งอาการมักพัฒนาอย่างช้า ๆ จนยกระดับไปถึงขั้นรุนแรง โดยอาการเด่นที่สุดคือการสูญเสียความจำ ซึ่งจากการศึกษา พบว่าปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมีหลายด้านและส่งผลแตกต่างกัน เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น โดยพบว่าในคนอายุ 65 ถึง 74 ปีอาจพบผู้ป่วยประมาณ 4 รายต่อพันคน ขณะที่คนอายุ 85 ปีขึ้นไป พบผู้ป่วยสูงถึง 76 รายต่อพันคน รวมทั้ง ผู้มีประวัติครอบครัวและพันธุกรรม และโรคประจำตัวบางชนิด เช่น ภาวะดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) ที่อาจพบโรคอัลไซเมอร์ได้เร็วกว่าประชากรทั่วไป 10 ถึง 20 ปี ผู้มีประวัติการได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ โดยเฉพาะผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปี ที่มีประวัติสมองได้รับการกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ ยิ่งความรุนแรงต่อสมองมากขึ้นก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสื่ยงอื่น ๆ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก การนอนหลับที่ไม่เป็นเวลา หรือผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
“กรุงเทพประกันชีวิต เราใส่ใจดูแลทุกคนทุกช่วงเวลา แบบประกัน แฮปปี้ ซีไอ นี้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยผ่อนภาระค่าใช้จ่ายในวันที่สุขภาพเปลี่ยนแปลง มอบความอุ่นใจให้พร้อมรับการรักษาด้วยความคุ้มครองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ มีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างคลายกังวล” นายโชนกล่าว
สนใจติดต่อ ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินกรุงเทพประกันชีวิต โทร. 02-777-8888 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkoklife.com
10
news & activity / แม็คโคร เดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการร้านโชห่วยให้เข้มแข็ง
« Last post by happy on September 21, 2023, 10:20:31 PM »แม็คโคร เดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการร้านโชห่วยให้เข้มแข็ง
ลุยจัดงาน “แม็คโครโชห่วยออนทัวร์” ภาคใต้ เสริมแกร่งโชห่วยทั่วไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
ลุยจัดงาน “แม็คโครโชห่วยออนทัวร์” ภาคใต้ เสริมแกร่งโชห่วยทั่วไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
แม็คโคร โดย นางสาวปิยนุช บุญเลิศ ประธานการจัดงานโชห่วยครั้งที่ 14 และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเหล่าพันธมิตร ร่วมเปิดงาน “แม็คโครโชห่วยออนทัวร์ สมาร์ทสร้างกำไร ใส่ใจทุกความสำเร็จ ส่งเสริมโชห่วยท้องถิ่น” เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยสู่การเป็นสมาร์ทโชห่วยที่เข้มแข็ง สร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการนำองค์ความรู้และเทคนิคดีๆ จากความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจโชห่วยของ แม็คโครที่มีมากกว่า 34 ปี มาร่วมแบ่งปัน เพื่อเป็นแนวทางนำไปปรับปรุงร้านค้าให้ก้าวสู่การเป็นสมาร์ทโชห่วย พร้อมแนะนำการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยในการลดต้นทุน สร้างรายได้ ให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงาน ณ แม็คโคร สาขาหาดใหญ่
ทั้งนี้ ภายในงาน “แม็คโครโชห่วยออนทัวร์” จะได้พบกับสินค้าราคาลดกระหน่ำ โปรแรงในราคาสุดพิเศษ พร้อมโปรโมชันจาก แม็คโครโปร แอปพลิเคชัน เพื่อนำไปต่อยอด สร้างกำไร เพิ่มรายได้ งานนี้ยังได้เพลิดเพลินไปกับทัพศิลปินดังที่จะมามอบความบันเทิงตลอดงาน และเตรียมพบ “แม็คโครโชห่วยออนทัวร์” ครั้งสุดท้ายก่อนปิดซีซั่นของปีนี้ ในวันที่ 18 - 22 ตุลาคม 2566 ณ แม็คโคร สาขาเชียงใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1432 หรือ www.makro.co.th