Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: [1] 2 3 ... 2428
1
สวพส. เปิดงาน สืบสานการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ปี 2567 ประชาชนอยู่ดี พื้นที่สูงมั่นคง
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567




           (24 ก.ค. 67) สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. จัดงาน สืบสานการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ปี 2567 “ประชาชนอยู่ดี พื้นที่สูงมั่นคง” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยนายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 - 25 กรกฎาคม 2567 โดยมีผู้นำเกษตรกรบนพื้นที่สูง และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมงาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่


           นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการสถาบัน สวพส. กล่าวว่า จากผลสำเร็จของโครงการหลวงได้ก่อเกิดองค์ความรู้ ที่สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนบนพื้นที่สูงให้อยู่ดีมีสุข ตลอดจนช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำธารให้มีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จนได้รับการยอมรับว่าเป็น “ต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน” ในการช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา และช่วยชาวโลก ตามพระราชปณิธานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 และปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราโชบายให้สืบสาน รักษา ต่อยอดงานโครงการหลวง ในการสร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนและสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง


           สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นับเป็นหน่วยงานหลักที่รัฐบาลได้จัดตั้งขึ้น เพื่อสนองพระราชประสงค์ มีหน้าที่ในการวิจัยและพัฒนาสนับสนุนโครงการหลวง และการขยายผลสำเร็จของโครงการหลวงไปพัฒนาพื้นที่สูงอื่น ๆ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยองค์ความรู้และวิธีการทำงานแบบโครงการหลวง และด้วยปีนี้เป็นปีมหามงคลของประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่พร้อมแสดงความจงรักภักดี ในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สวพส.จึงได้จัดงานสืบสาน การพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ปี 2567 ประชาชนอยู่ดี พื้นที่สูงมั่นคง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ขึ้น ถือเป็นการนำผลสำเร็จการขยายผลของโครงการหลวง ที่ได้ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ทั้งด้านการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพ การสร้างความเข้มแข็งของคนและชุมชน และการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เกิดชุมชนต้นแบบที่เป็นแหล่งเรียนรู้ สามารถเผยแพร่และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของชุมชนบนพื้นที่สูง


           นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ได้กล่าวถึงการดำเนินงานของ สวพส. ที่เริ่มต้นจาก 57 ชุมชน ในปีพ.ศ. 2548 จนกระทั่งในปัจจุบัน มีชุมชนบนพื้นที่สูง 616 ชุมชนที่ได้รับการพัฒนา และมีเครือข่ายอีกมากกว่า 1,000 ชุมชน ได้เข้าถึงการพัฒนาในด้านต่างๆ ของรัฐอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม สามารถดำรงชีวิตที่มั่นคงสร้างรายได้ด้วยการทำการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่า 470 ล้านบาทต่อปี ด้วยการใช้องค์ความรู้ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนอยู่ร่วมกับป่าและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชาติ


           การจัดงานสืบสาน การพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนฯนี้ มีกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้บุคลากรและผู้นำเกษตรกรในพื้นที่ดำเนินงานของ สวพส. ได้เพิ่มความรู้ ทักษะ เทคนิคและประสบการณ์ รวมถึงมีเวทีได้แลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันระหว่างหน่วยงานร่วมบูรณาการจนเกิดเป็นเครือข่ายการทำงานพัฒนาพื้นที่สูงร่วมกัน ซึ่งทำให้สามารถต่อยอดและขยายผลสำเร็จของการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสร้างเครือข่ายการเรียนรู้และขับเคลื่อนงานพัฒนาพื้นที่สูงร่วมกันอย่างยั่งยืน












2
สจล. ผนึกกำลัง มหาวิทยาลัยชั้นนำไต้หวัน จัดตั้งสถาบัน KAISM
เขตพัฒนาพิเศษ EEC จ. ฉะเชิงเทรา สร้างหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการบุคลากร
ด้านSemiconductor และ Smart Electronics ในอนาคต


เมื่อวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2567 – รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ( สจล.) รองศาสตราจารย์ ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมด้วยผู้บริหาร สจล. ได้ร่วมหารือกับผู้บริหาร นักวิจัยของ Chang Gung University (CGU) และ Ming Chi University of Technology และเยี่ยมชม Semiconductor Lab เพื่อวางแผนหลักสูตร 2 ปริญญา (Double Degree) การแลกเปลี่ยนอาจารย์ นักศึกษา และพบกับนักศึกษา สจล.ที่มาทำวิจัยที่ CGU พร้อมผลักดันให้สจล. เป็นศูนย์กลางสำหรับการ Reskill/ Upskill ทางด้าน Smart Electronics ในอนาคต


นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไต้หวัน หารือกับผู้บริหารและบุคลากรศูนย์ Academy of Innovative Semiconductor and Sustainable Manufacturing (AISSM)  “National Cheng Kung University (NCKU)” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับในระดับนานาชาติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านวิชาการ โดยมีการหารือถึงแนวทางการจัดตั้ง KMITL Academy of Innovative Semiconductor Manufacturing (KAISM) ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เพื่อสร้างหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการทักษะ Semi-Conductor และ Smart Electronics  ตอบสนองความต้องการบุคลากรด้านนี้ของตลาดโลกในอนาคต รวมทั้งการหารือถึงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา สจล. มี Global Citizen Skill นำไปสู่การพัฒนาตัวเอง




รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย National Cheng Kung University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของไต้หวัน เพื่อผลักดันหลักสูตรด้าน Smart Electronics นับว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในระดับโลก โดยทั้ง 2 สถาบันจะมุ่งเน้นการออกแบบหลักสูตรเพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทักษะความรู้ที่เกี่ยวข้องทางด้าน Smart Electronics และ Semiconductor ทำให้นักศึกษาไทยได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในระดับโลก โดยเฉพาะได้มีโอกาสฝึกฝนจากประสบการณ์จริง สามารถยกระดับศักยภาพกับ การฝึกงานร่วมกับ ภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สำคัญที่จะทำให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วมีเส้นทางอาชีพที่สอดรับกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เพื่อเตรียมพร้อมในด้านของการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันต่อไปอีกด้วย






ติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th และติดตามรายละเอียดหลักสูตรที่เปิดสอนได้ที่  https://curriculum.kmitl.ac.th/  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000

3
เมเจอร์ ซีนีแอด จัดงาน “Exclusive Movie Night : Deadpool & Wolverine”


          กรุงเทพฯ – นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดงาน “Exclusive Movie Night : Deadpool & Wolverine” โดยได้เชิญคุณปารมี ทองเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็กซ์ โมบิลิตี้ ประเทศไทย จำกัด หรือ เอ็กซ์เผิง ประเทศไทยและคุณศศิบุษย์ มานะนาวิกผล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอเอ็มจี เวิล์ด จำกัด พร้อมด้วยพันธมิตรทางการค้าอีกหลากหลายบริษัทกว่า 100 คน ร่วมเข้าชมจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ระดับโลก “Deadpool & Wolverine” ก่อนใคร ณ โรงภาพยนตร์ VIP SCREEN 1 และ 2 ชั้น 5 พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน


จากซ้ายไปขวา

คุณพรสวรรค์  พวงภาคีศิริ Sourcing and Commercial Director บริษัท เอเบสท์ จำกัด

คุณปารมี ทองเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็กซ์ โมบิลิตี้ ประเทศไทย จำกัด หรือ เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย

คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)

คุณศศิบุษย์ มานะนาวิกผล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอเอ็มจี เวิล์ด จำกัด

คุณพร้อมศักดิ์  จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็กซ์โซลูชั่น เซอร์วิส จำกัด

4
ไทยจัดศึกใหญ่ “อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์” สองรายการติดต่อกัน ในเดือนตุลาคมนี้


สนามกอล์ฟไทยคันทรี คลับ


สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน


เวด ออร์มสบี


ซีห์วาน คิม

25 กรกฏาคม 2567 – ไทยเตรียมเป็นสังเวียนดวลวงสวิงศึก “อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์” สองรายการติดต่อกันในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากเอเชียนทัวร์ประกาศเพิ่มโปรแกรมการแข่งขันและบรรจุใน 10 ทัวร์นาเมนท์ใหญ่ของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ประจำปีของทัวร์

สำหรับกอล์ฟสองรายการใหญ่ที่เพิ่มเข้ามาคือ “แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ” แข่งขัน ณ สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน ระหว่างวันที่ 17- 20 ตุลาคม 2567 ต่อด้วยรายการ “อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์” ที่สนามกอล์ฟไทยคันทรี คลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม 2567 ชิงเงินรางวัลรวมรายการละ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 72 ล้านบาท  โดยทั้งสองทัวร์นาเมนท์ถือเป็นรายการที่ 5 และ 6 ในสิบทัวร์นาเมนท์ของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ประจำฤดูกาลนี้ ทำให้การแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ มีเงินรางวัลรวมทั้งฤดูกาลสูงถึง 23.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 846 ล้านบาท

ทั้งนี้การประกาศยืนยันโปรแกรมการแข่งขันที่ประเทศไทย ทำให้ได้เวทีชิงชัยในศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2024 ครบ 10 รายการ ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเอเชียนทัวร์ และลิฟ กอล์ฟ โดยก่อนหน้านี้แข่งขันไปแล้ว 4 รายการ เหลืออีก 6 รายการในช่วง 8 สัปดาห์สำคัญ สำหรับนักกอล์ฟที่จะได้ลุ้นทำผลงานขยับอันดับในตารางคะแนนสะสม และชิงเงินรางวัลรวม 15.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 558 ล้านบาท ก่อนปิดฤดูกาล

ราฮุล ซิงห์ ผู้อำนวยการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ กล่าวว่า  “การกลับมาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นเวทีสำคัญของกอล์ฟเอเชียนทัวร์ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน คือถ้อยแถลงที่สำคัญในโปรแกรมการแข่งขันของเรา ที่เน้นย้ำให้เห็นถึงความน่าสนใจของแบรนด์ในตลาดกอล์ฟเอเชียดั้งเดิม ในขณะที่เราเพิ่มความหลากหลายสู่ตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง”


“การแข่งขันทั้งสองรายการดังกล่าวช่วยให้อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ฤดูกาลนี้ได้ข้อสรุปและแต่ละสนามมีความเหมาะสมอย่างมากสำหรับเป็นเวทีแข่งขันของเหล่านักกอล์ฟมือดีระดับโลกที่ลุ้นตำแหน่งสำคัญในตารางคะแนนสะสม ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลที่น่าตื่นเต้น” ซิงห์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านโช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและประธานบริหารของเอเชียนทัวร์ กล่าวเสริมว่า “ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของเอเชียนทัวร์มาโดยตลอด และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศยืนยันการจัดการแข่งขัน 2 รายการใหญ่ติดต่อกันที่ประเทศไทยในปีนี้ ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับนักกอล์ฟและแฟนกีฬากอล์ฟในภูมิภาคนี้”

สำหรับกอล์ฟรายการ แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ จัดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสนามแข่งขันกอล์ฟเอเชียนทัวร์มาแล้ว  7 รายการในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ซึ่งรวมถึงกอล์ฟรายการ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ สองครั้งล่าสุด

ทั้งนี้ กอล์ฟ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ปีนี้ถือเป็นการจัดที่ประเทศไทยเป็นปีที่ 3 โดยเมื่อปีที่แล้ว เวด ออร์มสบี คว้าแชมป์ไปครองหลังเอาชนะ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม นักกอล์ฟชาวไทยในการดวลเพลย์ออฟหลุมแรก ที่สนามแบล็คเมาเทน กอล์ฟ คลับ


ขณะที่ซีห์วาน คิม นักกอล์ฟจากสหรัฐอเมริกา เป็นแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ คนแรก โดยเอาชนะ พชร คงวัดใหม่ โปรหนุ่มของไทยสองสโตรก หลังระเบิดฟอร์มร้อนแรงหวด 63 ในรอบสุดท้ายเมื่อปี 2022 ซึ่งเป็นการเปิดตัวรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เป็นครั้งแรก

ทางด้านสนามไทยคันทรีคลับมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเอเชียน ทัวร์ มาอย่างยาวนาน จากการเป็นเจ้าภาพสนามแข่งขันหลายรายการ ซึ่งรวมถึงรายการ เอเชียน ฮอนด้า คลาสสิค ปี 1997 ซึ่งไทเกอร์ วูดส์ คว้าแชมป์ในครั้งนั้น, รายการ วอลโว่ มาสเตอร์ 4 ครั้ง และรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 3 ครั้ง ทั้งนี้เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น ครั้งล่าสุด เมื่อปี 2019 โดย จอห์น แคทลิน เฉือนเพลย์ออฟคว้าชัยชนะไปครอง

ทั้งนี้การแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ที่ประเทศไทยเป็นรายการแข่งขันต่อจาก โอมาน, มาเก๊า, โมร็อกโก และอังกฤษ อีกทั้งยังเป็นการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สามสัปดาห์ติดต่อกัน รวมกับอินโดนีเซียน มาสเตอร์ส ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2567

ส่วนการแข่งขันอีกสามสัปดาห์ก่อนปิดฤดูกาลได้แก่รายการ ฮ่องกง โอเพ่น ระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2567 ตามด้วย อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ กาตาร์ ระหว่างวันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2567 และปิดท้ายที่รายการ พีเอฟไอ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนล พาวเวอร์บาย ซอฟต์แบงก์ อินเวสต์เมนท์ แอดไวเซอร์ส ระหว่างวันที่ 4-7 ธันวาคม 2567

โดยการแข่งขันกอล์ฟ พีเอฟไอ ซาอุดิ อินเตอร์เนชันแนลฯ ชิงเงินรางวัล 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 182 ล้านบาท จะเป็นทัวร์นาเมนท์ส่งท้ายฤดูกาลของเอเชียนทัวร์ และอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ซึ่งมีโปรกอล์ฟชื่อดังจากลิฟ กอล์ฟ ลีก ดีกรีแชมป์เมเจอร์สองสมัยอย่าง ดัสติน จอห์นสัน, คาเมรอน สมิธ  แชมป์ดิ โอเพ่น 2022 และอับราฮัม อันเชอร์ แชมป์เก่า ยืนยันร่วมชิงชัย

นอกจากนี้การลุ้นตำแหน่งแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ และแชมป์เอเชียนทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต หรือตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินรวมสูงสุด จะได้บทสรุปที่สนามริยาด กอล์ฟ คลับ หลังจากต่อสู้มายาวนาน ซึ่งนักกอล์ฟที่ครองอันดับหนึ่งของตารางคะแนนสะสมในศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เมื่อจบฤดูกาล จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาล 2025 โดยอัตโนมัติ ขณะที่ผู้เล่นในท็อป 30 จะได้เข้าร่วมลุ้นตั๋วจากรายการ ลิฟ กอล์ฟ ลีก โปรโมชันส์ ซึ่งจะคัด 3 อันดับแรก ผ่านเข้าร่วมชิงชัยในลิฟ กอล์ฟ ลีก ต่อไป

5
เจ้าของธุรกิจอสังหาฯ เลือกธุรกิจ MOVE EV X


             เป็นเจ้าของธุรกิจกับ MOVE EV X (มูฟ-อี-วี-เอกซ์) ธุรกิจขายและให้บริการสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าง่าย ๆ ไม่มีเวลาก็สามารถลงทุนได้ ด้วยระบบของตู้เปลี่ยนแบตเตอรี่ ที่ทำงานแบบอัตโนมัติไม่ต้องดูแลเอง พร้อมมีทีมงานดูแลตลอด 24 ชม. สามารถตรวจเช็ครายได้ ได้แบบเรียลไทม์พร้อมรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย เหมาะกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบัน

             นายกอบชัย วราภาสกุล เจ้าของสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ MOVE EV X ซึ่งตั้งอยู่ที่ตลาด BTS โรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ และผู้บริหารบริษัท กมลวันท์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า “นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ผมกำลังดำเนินอยู่ ผมยังได้มองหาธุรกิจที่เกี่ยวรถไฟฟ้า ส่วนตัวมองว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตและอยากจะขยายธุรกิจในแนวนี้เพิ่มเติมจากธุรกิจเดิม จากการหาข้อมูลได้รู้จักกับ MOVE EV X ทางสื่อออนไลน์ และได้ติดต่อเข้าไปเพื่อสอบถามรายละเอียดการลงทุนเพราะมองเห็นว่าธุรกิจตู้เปลี่ยนแบตเตอรี่นี้เป็นธุรกิจที่มีอนาคตมาก และบริษัท MOVE EV X เองก็มีศักยภาพเกี่ยวกับธุรกิจด้านนี้พร้อมทั้งมีทีมงานคอยช่วยดูแลตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากหลายแบรนด์ ซึ่งยังมีอนาคตไปได้อีกไกล”

             ผู้สนใจทำธุรกิจและเป็นผู้มีส่วนร่วมสร้างระบบ Ecosystem อย่างยั่งยืน กับ “MOVE EV X by H Sem” สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เว็บไซต์ www.moveevx.com หรือสอบถามได้ที่ Line ID: @moveevx หรือ Call Center 1513 (วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30น. – 17.30น.)

###

เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด

บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด (H SEM Motor Co., Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถกอล์ฟไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า และรถสามล้อเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ภายใต้ชื่อ “เอช เซม” เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการใช้ระบบขนส่งที่มีความคล่องตัว ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ในราคาที่จับต้องได้ ดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hsemmotor.com/ หรือ www.facebook.com/hsemmotor.sev  และ www.facebook.com/hsemmotor.stc

เกี่ยวกับ บริษัท เอช เซม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด

บริษัท เอช เซม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (H SEM Trading Corporation Co.,Ltd.) บริษัทในเครือ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป เป็นบริษัทรับผิดชอบดูแลการจัดจำหน่าย แต่งตั้งดีลเลอร์ และกำหนดกลยุทธ์การตลาดให้กับสินค้าของ เอช เซม ทั้งในประเทศไทยและประเทศในเขตภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ CLMV ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เวบไซต์ https://www.hsemmotor.com/ หรือแฟนเพจ www.facebook.com/hsemmotor.sev และ www.facebook.com/hsemmotor.stc

6
แอ็กซอลตา สนับสนุนวงการยานยนต์
ในกิจกรรม “ก้าวไปด้วยกัน เพื่อความเป็นเลิศในงานจัดซ่อม”
จัดโดยชมรมศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะ ประกันภัย ภาค 6


          บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกับ ผู้นำสีพ่นรถยนต์ระดับโลก สนับสนุนกิจกรรม “ก้าวไปด้วยกัน เพื่อความเป็นเลิศในงานจัดซ่อม” จัดโดย ชมรมศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะ ประกันภัย ภาค 6 กิจกรรมครั้งนี้เน้นให้ความรู้ความเข้าใจและทักษะด้านแนวทางการใช้งานรหัสอะไหล่ การสื่อสารและเทคนิคการเจรจากับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ


          ทั้งนี้ แอ็กซอลตามีการนำเสนอจัดแสดงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ สีพ่นเคลือบแรปเตอร์ มีคุณสมบัติเด่นที่สามารถพ่นได้ทุกชิ้นงานพลาสติกของตัวรถได้หลากหลายรุ่น พร้อมทั้งสามารถปรับแต่งลายและสีได้หลายรูปแบบตามความต้องการ พ่นง่าย ทนกระแทกและรอยขีดข่วน สร้างความสนใจแก่ผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก

###

เกี่ยวกับ แอ็กซอลตา

แอ็กซอลตา เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ในธุรกิจสีเคลือบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมแห่งสีสัน สูตรสีที่สวยงามคงทน พร้อมด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อยานพาหนะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ สีเพื่องานพ่นซ่อม อุปกรณ์ ส่วนประกอบที่เป็นไฟฟ้า อาคาร ท่อส่งน้ำ สีของแอ็กซอลตาทนทานต่อการกัดกร่อน เพิ่มประสิทธิภาพ ให้สีติดทนนาน ด้วยประสบการณ์กว่า 150 ปี ในอุตสาหกรรมสีเคลือบ ตอบสนองกลุ่มลูกค้ากว่า 100,000 คน ดำเนินธุรกิจใน 140 ประเทศทั่วโลก แอ็กซอลตาพร้อมตอบสนองลูกค้าด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ดีที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมที่ axalta.co.th Twitter @axalta

7
2 กำปั้นต่างแดน คว้าเข็มขัดแชมป์ ABF และ WBA Asia


              "น็อกกันสุดเดือด" กับศึก WAY OF THE CHAMPIONS จัดโดย NARIS - HIGHLAND -  SPACE PLUS BOXING PROMOTIONS คู่เอกเข็มขัด ABF CONTINENTAL SUPER Light weight ตกเป็นของ ฟาอุส ทาเวอร์ดีกำปั้นหนุ่มอาเซอร์ไบจาน ส่วนกำปั้นหญิงจากคาซัคสถาน ไบอุสซา มุสดิมาน คว้าเข็มขัด WBA Asia Female Bantam weight กลับบ้าน


              เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ที่ เวทีมวยชั่วคราว Space Plus RCA PLAZA รัชดาภิเษก สองโปรโมเตอร์คู่เขยไทย - ปินส์ ศุภณัฐ จันทร์แรม และ บริโก้ ซานติก แห่ง NARIS HIGHLAND SPACE PLUS BOXING PLOMOTIONS พร้อมสองที่ปรึกษา คุณนริส สิงห์วังชา ประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF  และ พล.ต.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ จัดศึกใหญ่สะท้านวงการกำปั้นดวลหมัดกันเต็มอิ่มกับ 19 คู่มวยสุดโหดพร้อมชิงเข็มขัด 2 เส้นจาก 2 องค์กรมวย โดยผลการแข่งขันของนักชกจาก 10 ประเทศทั้ง 19 คู่มีดังนี้


คู่ที่ 1 อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวท 168 ปอนด์ รามี่ บาดาคานี่จากเลบานอน ชนะคะแนน อภิสิทธิ์ หนูเล็ก นักชกไทย

คู่ที่ 2 อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์ อาเหม็ด อับดุลลาซิส จากยูเออี ชนะน็อค ภพธรรม จุลลา นักชกไทยในยกที่ 3

คู่ที่ 3 อุ่นเครื่อง 4 ยก (หญิง) รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์ อมรรัตน์ ปุ่น อินเตอร์ ชนะคะแนน สมหวัง ศิริมงคลยิมส์ นักชกสาวไทยเพื่อนร่วมชาติ

คู่ที่ 4 อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ อลา ออ อัสคา จากเลบานอน ชนะน็อค พัฒน์พงค์ กันยา นักชกไทยยกที่ 2

คู่ที่ 5 อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์แบนตั้มเวท 122 ปอนด์เลอบอย อาเทนซิโอ จากฟิลิปปินส์มาอย่างดุน็อค วิสิทธิศักดิ์ สายแวว นักชกไทยต้นยก 1





คู่ที่ 6 อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นไลท์แฮฟวี่เวท 175 ปอนด์ แม็ส ฟอย จากออสเตรเลีย น็อค บรรพต ขาวเอี่ยม นักชกไทยยก 1

คู่ที่ 7 อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นบริสเจอร์เวท 220 ปอนด์ ทาเยล จาฟารอฟ จากอาร์เซอร์ไบจาน ชนะน็อคยก 1 มวยแทนจากประเทศไทย พรพิษณุ สุวรส

คู่ที่ 8 อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์เฟเธอร์เวท 130 ปอนด์ ไทเลอร์ บริสซาส จากออสเตรเลีย ปิดจ็อบเร็วน็อค อัษฎา รักษ์มิตร กำปั้นไทยยกแรกเช่นกัน

คู่ที่ 9 อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท 140 ปอนด์ เนอร์ซาน เซอร์ริบาเยฟ จากคาซัคสถานปิดเกมเร็วยกแรกน็อคกำปั้นไทย ปรมินทร์ สิงห์มนัสศักดิ์ยิมส์

คู่ที่ 10 อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ เจสัน บาลาจาเดีย จากฟิลิปปินส์ ฮุคขวาเข้ากรามซ้าย คูเชาว์ วียาส จากอินเดียชนะน็อคยกที่ 2

คู่ที่ 11 อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์แบนตั้ทเวท 122 ปอนด์ อิสคานเดอร์ คาซาน จากคาซัคสถาน ดวลเดือด 6 ยกกับ สมศักดิ์ มานพชัยยิมส์ นักชกไทยก่อนเสมอกันไป





คู่เอกคู่ที่ 12 เป็นการชิงแชมปฺ์ ABF คอนติเนลตัล รุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท 140 ปอนด์ ฟาอุส ทาเวอร์ดี จากอาเซอร์ไบจาน  หมัดหนักกว่าถล่ม คัมภีร์ พายม นักชกไทยพ่ายน็อคยก 3 ได้รับเกียรติจากคุณนริส สิงห์วังชา ประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF ขึ้นแสดงความยินดีพร้อมคาดเข็มขัดแชมป์ให้

คู่เอกคู่ที่ 13 ชิงแชมปฺ์ WBA Asia รุ่นแบนตั้มเวท 118 ปอนด์ 8 ยก ระหว่าง ไบอุสซา มุสดิมาน กำปั้นสาวคาซัคสถาน ที่ซ้อมมาดีออกหมัดรวดเร็วแม่นยำชนะน็อค จิตฑามาส มานพชัยยิมส์ นักชกสาวไทยไปในยกที่ 3 คว้าแชมป์กลับบ้าน

คู่ที่ 14 อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวท 168 ปอนด์ เยลข่าน ทาบินบาเยฟ จากคาซัคสถาน น็อค รุ่งโรจน์ สิงห์มนัสศักดิ์ยิมส์ นักชกไทยยกที่ 1

คู่ที่ 15 อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ เวน เจีย เซ็ง นักชกจีน แพ้คะแนน ธานี นรินทรฺ์รัมย์ นักชกไทย





คู่ที่ 16 อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นไลท์แฮฟวี่เวท 175 ปอนด์ ดู หวัง มังกรจีนหมัดหนักจริงน็อค คมสันต์ วงศ์สุรินทร์ นักชกไทยคาเวทียก 1

คู่ที่ 17 อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นเวลเตอรฺ์เวท 147 ปอนด์ จุน ยี่ ซี จากจีนจีน เบียดชนะคะแนน เวชชัยยันต์ ส.บางครุ นักชกไทยเจ้าถิ่น

คู่ที่ 18 อุ่นเครี่อง 6 ยก รุ่นแฮฟวี่เวท 220 ปอนด์คู่นี้ชกกันสนุก ยี่ ซี เจียง ยักษ์ใหญ่ชาวจีนสักมังกรเต็มแผ่นหลังแต่ขู่ อิมาน ราเมซันปัว นักชกอิหร่านไม่ได้ดวลกันเดือดครบ 6 ยกก่อนกรรมการชูมือให้กำปั้นอิหร่านชนะคะแนนสุดมันส์

คู่ที่ 19 คู่มวยหญิงปิดท้ายรายการอุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์ เจียน ปิง อูหยาง นักชกสาวจีน ชนะ ณัฐนันทร์ บ้านโพธิฺ์ สปอร์ต ยิมส์ นักชกไทย เก็บชัยชนะส่งท้ายให้ทีมกำปั้นจีน


              ทั้งหมดคือความสนุกสนานตื่นเต้นของ 19 คู่มวยในรายการ WAY OF THE CHAMPIONS ประจำเดือนกรกฎาคม ส่วนเดือนหน้าฝากแฟนกำปั้นติดตามกันได้ในวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2567 พบกันแน่นอนกับศึกกำปั้นสุดเดือดรับประกันความมันส์โดย NARIS - HIGHLAND - SPACEPLUS BOXING PROMOTIONS

8
"Sharing Day" วช. เปิดเวทีแลกเปลี่ยน สร้างศักยภาพผู้นำ สู่การพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ ในงาน อว.แฟร์


วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเวทีเสวนา "Sharing Day : ถอดบทเรียนความสำเร็จของผู้บริหารจัดการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge)" เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนจากผู้บริหารศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา โดยมี ศ. ดร. พญ.ณัฏฐิยา หิรัญกาญจน์ ผู้บริหารจัดการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งแห่งประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ. ดร. นพ.ดำเนินสันต์ พฤกษากร ผู้บริหารจัดการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญของเครือข่ายนักวิจัย ด้านชีวสารสนเทศแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ. ดร.สุขุม อิสเสงี่ยม ผู้บริหารจัดการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบวงจรไมโครอิเล็กกรอนิกส์ประเทศไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ. ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท ผู้บริหารจัดการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี หลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลไม้ มหาวิทยาลัยนเรศวร ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ผู้บริหารจัดการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศ และภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผศ. ดร.ต่อภัสร์ ยมนาค ผู้บริหารจัดการศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปรัปชับ และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ. ดร. หมุดตอเล็บ หนิสอ ผู้บริหารจัดการศูนย์กลางความรู้ด้านการให้ควาพร้อนถ้วยคลื่มโมโครเวฟ การพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของมนุยชาติมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ร่วมกันเสวนาบนเวที ในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ด้วยพลังสหวิทยาการ ณ ห้องประชุม MR 209 ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร


ศ. ดร. พญ.ณัฏฐิยา กล่าวว่า ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งแห่งประเทศไทย มีหน้าที่บริหารจัดการบุคลากรด้านมะเร็งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาวิธีการรักษาและยารักษาโรคมะเร็งที่ล้ำสมัย การสร้างและพัฒนาทีมงานที่มีความรู้ความสามารถสูง จะช่วยให้เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วยที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และนำไปสู่การเพิ่มอายุขัยและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างมีนัยสำคัญ


รศ. ดร. นพ.ดำเนินสันต์ กล่าวว่า ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญของเครือข่ายนักวิจัย ด้านชีวสารสนเทศแห่งประเทศไทย ว่าศูนย์นี้เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนและพัฒนางานวิจัยด้านชีวสารสนเทศของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์และพัฒนางานวิจัยที่มีคุณภาพ ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างนักวิจัย สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม และส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ


รศ. ดร.สุขุม กล่าวว่า ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบวงจรไมโครอิเล็กกรอนิกส์ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดย รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและ ส่งเสริมการวิจัย เพื่อ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ และ สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ ผลักดันให้ไทยเป็น ศูนย์กลางด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์ในอาเซียน


รศ. ดร.พีระศักดิ์ กล่าวว่า ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลไม้ มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพและขยายตลาดผลผลิตทางการเกษตรของประเทศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและการแปรรูปผลไม้ เพื่อเพิ่มมูลค่า ลดการสูญเสีย และยกระดับมาตรฐานผลผลิตให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการเผยแพร่ความรู้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมผลไม้ไทยอย่างยั่งยืน


ดร.สุพัฒน์ กล่าวว่า ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศ และภูมิอากาศ เป็นศูนย์ที่รวบรวมนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมหลากหลายสาขา มาร่วมกันศึกษา วิจัย และพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะมลพิษทางอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างครอบคลุม โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาอย่างละเอียด เพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการแก้ไขที่ตรงจุด สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหา และให้คำปรึกษาเชิงวิชาการเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ


ผศ. ดร.ต่อภัสร์ กล่าวว่า ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปรัปชับ และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค เป็นศูนย์กลางรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน พัฒนาองค์ความรู้ และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับคอร์รัปชัน มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาค และพัฒนากลไกป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างแหล่งเรียนรู้สำหรับบุคคลทั่วไป นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงาน


รศ. ดร. หมุดตอเล็บ กล่าวว่า ศูนย์กลางความรู้ด้านการให้ควาพร้อนถ้วยคลื่มโมโครเวฟ การพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของมนุยชาติ มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีคลื่นไมโครเวฟจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเศรษฐกิจ


การเสวนา "Sharing Day : ถอดบทเรียนความสำเร็จของผู้บริหารจัดการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ และศูนย์กลางด้านความรู้" ในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำความรู้ไปพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศไทยในระยะยาว




ทั้งนี้ วช. ขอเรียนเชิญประชาชนทุกท่านร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับงาน “อว. แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อนำเสนอนวัตกรรมและผลงานวิจัยอันล้ำสมัยที่น่าสนใจ พร้อมกิจกรรมที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่สนใจเทคโนโลยีและอนาคตของประเทศไทย ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 ก.ค. นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


9
ศุภมาส ปลื้มเยาวชนดนตรีเก่ง คว้าถ้วยรางวัลพระราชทานเวทีประลองฝีมือ


วันที่ 24 ก.ค. 2567 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ร่วมกับมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จัดแสดง "วัฒนธรรมดนตรีเพื่อพลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่" บนเวที Main Stage Exhibition Hall 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ภายในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ด้วยพลังสหวิทยาการ โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเยาวชนผู้ชนะการประกวด ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวต้อนรับ และ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ประธานมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข อำนวยการแสดงวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตรา ร่วมบรรเลงบทเพลงอันไพเราะ สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม โครงการ "วัฒนธรรมดนตรีเพื่อพลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่" มุ่งหวังที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจไทยผ่านดนตรี โดยได้รับการสนับสนุนจาก วช.




นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ขอชื่นชมเยาวชนทุกคนที่เป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับเยาวชนคนอื่น ๆ ทั่วประเทศ การจัดการแข่งขัน "ประลองยอดฝีมือเยาวชนดนตรี" ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ริเริ่มขึ้นโดยความร่วมมือจาก วช. สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายในการส่งเสริม เปิดโอกาส และสร้างพื้นที่ให้เยาวชนนักดนตรีได้พัฒนาฝีมือและแสดงความสามารถบนเวทีระดับประเทศ ปลูกฝังความมั่นใจในวิชาชีพดนตรี และถือโอกาสอันล้ำค่าที่เยาวชนนักดนตรีได้ร่วมงานกับนักดนตรีระดับมืออาชีพอย่างวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตรา ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยพัฒนาทักษะและความสามารถของเยาวชนดนตรีไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง




ไฮไลท์ของการประกวดในปีนี้ คือการประกวดเยาวชนดนตรี เยาวชนนักดนตรีจากหลายสถาบันการศึกษาเข้าร่วมแข่งขัน ผ่านการคัดเลือกจนเหลือ 6 วง เพื่อขึ้นเวทีแสดงฝีมือในงาน และร่วมฝึกซ้อมกับนักดนตรีมืออาชีพจากวงไทยซิมโฟนีออร์เคสตราเป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งโครงการนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของดนตรีที่สามารถนำมาผสมผสานกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ช่วยส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนนักดนตรี สร้างงานสร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น






สำหรับผลการแข่งขันเยาวชนดนตรีประลองฝีมือในครั้งนี้
- ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ วงพิชชโลห์ จากวิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทาน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- ทีมที่ได้รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ วง Chicken Wind Quintet จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ทีมที่ได้รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ วงอุดรถิ่นอีสาน จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
- ทีมที่ได้รับรางวัลชมเชย จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ 1) วงบ้านแขก จาก วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ เจ้าพระยา 2) วงลวนรินทร์ จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จังหวัดลพบุรี และ 3) วงศิลป์บรรลือ จาก จังหวัดเลย







การแสดง “วัฒนธรรมดนตรีเพื่อพลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่ ในครั้งนี้ เป็นการแสดงของ 6 ดนตรีเยาวชนดังกล่าว บรรเลงร่วมกับ วงไทยซิมโฟนีออร์เคสตร้า , การแสดงขับร้องประสานเสียงวงปล่อยแก่ ชมรมสายใย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และการแสดง วง Aum Aree String Orchestra ซึ่งการแสดงทั้งหมดควบคุมวง โดย ดร. ธีรนัย จิระสิริกุล






ทั้งนี้ วช. ขอเชิญชวนประชาชนเที่ยวงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 28 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ภายในงานมีกิจกรรมมากมายที่น่าสนใจ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
















10
ตระการตา! ชาวจังหวัดบุรีรัมย์เร่งเตรียมงาน “ลมหายใจของแผ่นดิน”
มิวสิคัลเทิดพระเกียรติ สุดยิ่งใหญ่แห่งปี พร้อมเปิดเมืองต้อนรับนทท.ทั่วโลกแล้ว





               จังหวัดบุรีรัมย์เผยความคืบหน้าและการดำเนินงานช่วงโค้งสุดท้าย การจัดงาน “ลมหายใจของแผ่นดิน” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา  28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งงานจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2567 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ที่สนามฟุตบอลช้างอารีนา เปิดให้ชมฟรีตลอด 3 วัน ล่าสุดมีผู้สำรองที่นั่งผ่านช่องทางออนไลน์มากมาย จนเกือบเต็มทุกที่นั่ง เตรียมถ่ายทอดผ่านช่องอมรินทร์ทีวีสู่ผู้ชมทั่วประเทศและทั่วโลก







               นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ความพร้อมของการจัดงานลมหายใจของแผ่นดิน ใกล้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นกิจกรรมที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจกันของภาคประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างแท้จริง โดยในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ จะเป็นการซ้อมใหญ่ของ นักดนตรีนักแสดง การประดับประดา ตกแต่งสถานที่ ทดสอบระบบไฟแสงสีเสียง และเช็คความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรองรับประชาชนที่ร่วมงาน ตลอด 3 วัน ซึ่งหลังเปิดจองที่นั่งผ่านช่องทางออนไลน์มีผู้สำรองที่นั่งเกือบเต็มความจุที่รองรับได้ โดยที่นั่งทั้ง 3 วันยังคงว่างอยู่ประมาณ 2,000 ที่นั่งเท่านั้น

               “ลมหายใจของแผ่นดิน เป็นงานใหญ่อีกงานของจังหวัดบุรีรัมย์ในปีนี้ มีไฮไลต์สำคัญที่อยากเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกภูมิภาค มาร่วมชมการแสดง “มิวสิคัล เทิดพระเกียรติ ” ตระการตาด้วยภาพ 3D MAPPING  ฝีมือคนไทย ที่เคยสร้างผลงานในระดับนานาชาติ ได้รับรางวัลจากประเทศญี่ปุ่น โดยการแสดงจะผสานไปกับการบรรเลงโดยวงดนตรีออร์เคสตรา (Orchestra) วงใหญ่  เครื่องดนตรีกว่า 120 ชิ้น ผสมผสานเครื่องดนตรีสากลและเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้ นักแสดง-นักดนตรี ลูกหลานชาวจังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 200 ชีวิต ดนตรีทั้งหมด เป็นการเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ เพื่องานนี้ รวมถึงนำบทเพลงพระราชนิพนธ์มาบรรเลง โดยงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ”

               “ตลอด 3 วัน เราจะได้เห็นการแสดง “มิวสิคัล” ที่เกิดจากคนเล็กๆที่มีหัวใจยิ่งใหญ่ ลูกหลานชาวจังหวัดบุรีรัมย์ที่ร่วมกันฝึกซ้อมเป็นแรมเดือน อย่างไม่ย่อท้อ เพื่อให้เป็นโชว์ที่ดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด ส่งผ่านเรื่องราวพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สร้างความผาสุกอย่างยั่งยืนแก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย”







               นอกจากนี้ยังมีการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาให้ชมอย่างจุใจตลอด 3 วัน และเพื่อเป็นของขวัญสำหรับแฟนกีฬาในฐานะเมือง Sport City ยังมีกิจกรรมเปิดตัวนักฟุตบอล สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประจำฤดูกาล 2024/25 ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 พบกับทัพนักเตะดาวดังแบบฟูลทีม นอกจากนี้ยังมีนักบิดชื่อดังสายเลือดไทย ได้แก่ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จากทีมฮอนด้าและ “ตี” อนุภาพ ซามูล จากยามาฮ่า ตบเท้าเข้าร่วมงานในครั้งนี้อีกด้วย

               ภายในงานยังมีการบำเพ็ญสาธารณกุศลต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ “บริจาคโลหิต” ส่งต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย จำนวน 720 ยูนิตต่อวัน รวม 7,200 ยูนิต โดยสามารถบริจาคภายในงาน หรือร่วมบริจาคได้ที่โรงพยาบาลจำนวน 10 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลบุรีรัมย์, นางรอง, ประโคนชัย, ละหานทราย, ลำปลายมาศ, สตึก, พุทไธสง, บ้านด่าน, หนองกี่ และหนองหงส์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ โทร. 044-611-562

               “โรงทานปันสุข” บริการอาหารขึ้นชื่อของดี-ของดัง จังหวัดบุรีรัมย์แก่ผู้ร่วมงานฟรี จัดโดยชาวจังหวัดบุรีรัมย์และร้านค้าชื่อดังต่างๆ สามารถร่วมทำบุญได้ที่บัญชี “บุรีรัมย์ปันสุข เฉลิมพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 10” ธนาคารกรุงไทย เลขที่ 308-3-21900-8







               นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียม “เหรียญที่ระลึก” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 80,000 เหรียญ มอบให้กับผู้ร่วมชมงานอีกด้วย

               ผู้สนใจสำรองที่นั่ง เพื่อรับชมการแสดง ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://buriram.glide.page โดยผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว สามารถมารับบัตรเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันนี้ – 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00-20.00 น. บริเวณหน้า Mega Store สนามฟุตบอลช้างอารีนา

               ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจ BURIRAM UNITED หรือรับชมผ่านช่องอมรินทร์ทีวี 34HD ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 19.45 น.

#ลมหายใจของแผ่นดิน
#บุรีรัมย์
#บุรีรัมย์ยูไนเต็ด






























11
“ภูมิกิตติ์” นักกอล์ฟสมัครเล่นคนแรกคว้าแชมป์ เอสเอที-ไทยแลนด์ วันเดย์ ทัวร์ 2024


ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์

24 กรกฎาคม 2567 – ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงหวด 7 อันเดอร์พาร์ 65 จารึกชื่อเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นคนแรกที่คว้าแชมป์ “เอสเอที-ไทยแลนด์ วันเดย์ ทัวร์ 2024” สนามที่ 6 ณ สนามเดอะ วินเทจ คลับ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา


ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์

การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย และ ภาคเอกชน บริษัท พีทีจี เอ็นเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) บริษัท TCMT หลักสูตรกอล์ฟผู้บริหาร EGA จัดการแข่งขันกอล์ฟ เอสเอที-ไทยแลนด์ วันเดย์ ทัวร์ 2024 (SAT-Thailand One Day Tour 2024) ชิงชัย 8 รายการ รวมเป็นเงินรางวัลให้ช่วงชิง 2.5 ล้านบาท แข่งขัน ณ สนามเดอะ วินเทจ คลับ จังหวัดสมุทรปราการ โดยแชมป์ทำเงินรางวัลสะสมสูงสุดของทัวร์ยังได้รับเงินรางวัลโบนัสพร้อมสิทธิลงเล่นในรายการไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ และรางวัลพิเศษอื่นๆ


ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์

การแข่งขันสนามที่ 6 ชิงชัยที่สนามเดอะ วินเทจ คลับ พาร์ 72 อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีนักกอล์ฟสนใจเข้าร่วมแข่งขัน 120 คน อาทิ ณัทพงศ์ นิยมชน, อรรถพล ศรีบุญแก้ว และ พงศ์พิพัฒน์ กองทอง รวมถึง ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ และ ภิมพิศา สีสุธรรม สองนักกอล์ฟสมัครเล่นสาวดาวรุ่ง


กรวิชญ์ เยี่ยมศิริ

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์ นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 16 ปี โชว์ฟอร์มร้อนแรงหวด 18 หลุมเข้ามา 7 อันเดอร์พาร์ 65 จากการทำ 8 เบอร์ดี้ เสียเพียงโบกี้เดียว คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 30,000 บาท โดยมี กรวิชญ์ เยี่ยมศิริ กับ พีรวิทย์ ศรีธัญรัตน์ สองโปรหนุ่มไทย และ แซนวิช-ภิมพิศา สีสุธรรม มืออันดับ 83 สมัครเล่นโลก ตามมาที่อันดับสองร่วมด้วยสกอร์คนละ 4 อันเดอร์พาร์ 68


พีรวิทย์ ศรีธัญรัตน์

สำหรับรูปแบบการแข่งขันรายการ เอสเอที-ไทยแลนด์ วันเดย์ ทัวร์ 2024 เป็นการแข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 1 วัน ภายใต้ระเบียบ ข้อบังคับ กฎ กติกา และเป็นไปตามมาตรฐานการจัดการแข่งขันตามที่สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยกำหนด โดยรับสมัครนักกอล์ฟเข้าแข่งขันรายการละไม่เกิน 120 คน ซึ่งนักกอล์ฟอาชีพที่จบในอันดับ 1-40 จะได้รับเงินรางวัล ทั้งนี้แชมป์แต่ละรายการยังได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรายการ ไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ (Thailand Development Tour: TDT) ขณะที่นักกอล์ฟที่ทำเงินรางวัลสะสมอันดับที่ 1 และ 2 (ภายหลังจากทำการแข่งขันครบทั้ง 8 รายการ) จะได้สิทธิลงเล่นใน SAT- Thailand Development Tour และ Thailand PGA Tour เป็นเวลา 1 ปี


แซนวิช-ภิมพิศา สีสุธรรม

นอกจากนี้ยังมีเงินโบนัสพิเศษอีก 50,000 บาท สำหรับนักกอล์ฟที่ทำเงินรางวัลสะสมสูงสุดของทัวร์ รวมถึงสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นในฤดูกาล 2024 มอบสิทธิ์รอบควอลิฟายในรายการไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์ สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำคะแนนดีที่สุดในกลุ่มของนักกีฬาสมัครเล่น 3 อันดับแรก ในแต่ละรอบการแข่งขันของไทยแลนด์ ดีเวลลอปเมนท์ ทัวร์

ติดตามข่าวสารของการแข่งขัน เอสเอที-ไทยแลนด์ วันเดย์ ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.satonedaytour.com และ Facebook: SAT-THAILAND ONE DAY TOUR

12
ยัวซ่าร่วมสนับสนุนกีฬามวยไทย “ศึกเพชรยินดี” ที่สนามมวยราชดำเนิน


              มร.สึเนะโนริ โยชิมูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบรางวัลแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ และมอบพวงมาลัยเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬามวยไทยในรายการ “ศึกเพชรยินดี” บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้ชื่นชอบกีฬามวยไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมเข้าชมในสนามฯ เป็นจำนวนมาก เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ สนามมวยราชดำเนิน กรุงเทพฯ






              ทั้งนี้ รายการศึกเพชรยินดียังได้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่องทรูโฟร์ยู ดูฟรี True4U (ช่อง 24) ทุกวันพฤหัสบดี เริ่ม 18:00 – 20:00 น. อีกด้วย

13
เมย์แบงก์ ผนึก บางจาก สร้างเสริมความรู้การลงทุนให้พนักงาน


              บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) นำโดย เนธิตา กระบวนรัตน์ (ที่สี่จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสายงานบริหารการลงทุน พร้อมด้วย กิติชาญ ศิริสุขอาชา (ที่สี่จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่าย Investment Solutions ร่วมกับ บางจาก คอร์ปอเรชั่น โดย กชชนก ลายประดิษฐ์ (ที่สามจากขวา) ผู้จัดการส่วนบริหารความผูกพันองค์กร ร่วมจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อสร้างเสริมความรู้การลงทุนให้กับพนักงานในเครือบางจาก ณ บางจาก สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆนี้

              กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Jump Start พุ่งทะยาน คว้าทุกโอกาสบนโลกการลงทุนยุคใหม่”ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้และนำเสนอเครื่องมือด้านการลงทุนที่ถูกต้อง แก่พนักงาน โดยวิทยากรจากเมย์แบงก์ เพื่อช่วยให้พนักงานมีความรู้และความเข้าใจในเรื่องการลงทุนมากขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการพัฒนาตนเองและองค์กรได้อย่างเต็มที่ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) เป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน ทั้งนี้หากบริษัทใดมีความประสงค์ให้บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เข้าไปให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่พนักงานผ่านโครงการ “Jump Start”สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ 02-658-5050

14
บู๊สะท้านยุทธภพ “บางปะกอกกังฟู”  หนังตลกป่วนฮาที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


            แจกฮารับวันหยุด ทรูโฟร์ยูชวนทุกคนมาขยับปอดคลายเครียด กับมุกตลกของหัวกระทิแห่งวงการตลกไทย บอล เชิญยิ้ม แอนนา ชวนชื่น หน่อย เชิญยิ้ม เฮียหมู บางรัก ซอยเก้า  และ จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม มาร่วมสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในภาพยนตร์ล้อเลียนโคตรฮา “บางปะกอกกังฟู”








            เมื่อเพื่อนรักสามคนแห่งสำนักบางปะกอกต้องมาผิดใจกัน เพราะทั้งสามตกหลุมรักหญิงสาวคนเดียวกัน ความแค้นส่งต่อถึงรุ่นลูก โดยแบ่งออกเป็นแก๊งศาลเจ้ามี อาแป๊ะ (แอนนา ชวนชื่น) เป็นผู้ดูแล และแก๊งบางประกอกเรนเจอร์ มี บอล (บอล เชิญยิ้ม) เป็นหัวโจก แก๊งศาลเจ้าหากินโดยการเชิดสิงห์โต อีกฝ่ายเก็บส่วยค่าคุ้มครองตลาด สองแก๊งไม่ลงรอยกัน ถ้าเจอกันเมื่อไรต้องมีเรื่องทะเลาะวุ่นวาย อาแป๊ะศาลเจ้าจึงสอนกังฟูให้ลูกน้องเอาไว้ป้องกันตัว จนวันหนึงทั้งสองแก๊งได้นัดประลองท้าวิทยายุทธ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามความสนุกได้ในภาพยนตร์เรื่อง “บางปะกอกกังฟู” วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 18.40 น. ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และ https://true4u.com/live

15
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เปิดประตูอนาคต ย้ายสู่สำนักงานใหญ่แห่งใหม่
ที่ “พาร์ค สีลม” ยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน


          เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่ อย่างเป็นทางการ ทั้ง บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) สู่ “พาร์ค สีลม” (Park Silom) อาคารมิกซ์ยูสระดับพรีเมียมแห่งใหม่ ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป โดยการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์นี้ เพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงยกระดับคุณภาพชีวิตของบุคลากรเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่ในการดำเนินงานของอุตสาหกรรมประกันภัย และสานต่อกลยุทธ์ Hybrid Work Model เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


          นายอาร์ช คอลมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ที่เจนเนอราลี่ เราเชื่อว่า ‘บุคลากร’ คือสิ่งที่มีค่าทีสุดขององค์กร” การย้ายสำนักงานใหญ่ สู่อาคาร “พาร์ค สีลม” (Park Silom) ในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนสถานที่ตั้ง แต่นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการบริหารงานในประเทศไทย ที่จะเปลี่ยนผ่านสู่รูปแบบแห่งอนาคตในการทำงานของอุตสาหกรรมประกันภัย ด้วยการนำรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดมาใช้ และการลงทุนเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมสำนักงานที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินเท่านั้น แต่เรากำลังส่งเสริม และยกระดับประสบการณ์การทำงานของพนักงานของเราอีกด้วย โดยก้าวสำคัญของความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ได้สะท้อนถึงพันธกิจของเรา ที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมนวัตกรรม สร้างความเป็นอยู่ที่ดี และการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงส่งผลต่อการยกระดับการให้บริการลูกค้าของเรา  สอดรับกับพันธกิจของเจนเนอราลี่ กรุ๊ป ที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างต่อเนื่อง”

          โดยแนวคิด Hybrid Work Model เป็นแนวทางที่พนักงานสามารถออกแบบตารางการทำงานของตนเองได้ มีความยืดหยุ่นในการทำงานที่สำนักงาน หรือทำงานจากสถานที่อื่น ๆ คำนึงถึงการทำงานในรูปแบบ Smart Workplace เพิ่มพื้นที่ส่วนกลางให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพื่อรองรับการทำงานหลากหลายรูปแบบ มีการติดตั้งเทคโนโลยีสำนักงานอัจฉริยะ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน อาคารสำนักงานตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่มีความสะดวกในการเดินทาง เชื่อมต่อทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT รวมถึงการให้ความสำคัญพื้นที่สีเขียวสำหรับการพักผ่อน โดยตัวอาคารถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับมาตรฐานอาคารสีเขียว ระดับสากล  (LEED Certification: Gold Level)


          “การย้ายเข้าสู่สำนักงานใหม่ครั้งนี้ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ในการเป็น ‘Lifetime Partner’ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา เราเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ จะช่วยขับเคลื่อนให้เราก้าวสู่ความสำเร็จไปอีกขั้น พร้อมรองรับการเติบโตทางธุรกิจ และเสริมสร้างความพึงพอใจของลูกค้าในระยะยาว รวมถึงทำให้พนักงาน พันธมิตร และลูกค้าของเรา ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ และร่วมก้าวสู่อนาคตของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ไปพร้อมกัน ณ สำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้ที่ พาร์ค สีลม” นายอาร์ช กล่าวปิดท้าย

ที่อยู่สำนักงานใหญ่ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์

บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)


          •   เลขที่ 1 อาคารพาร์ค สีลม ชั้น 21 และชั้น 20 ยูนิต 2002 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันภัย (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

          •   เลขที่ 1 อาคารพาร์ค สีลม ชั้น 20 ยูนิต 2001 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

หมายเหตุ: การย้ายสำนักงานใหญ่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของ เลขทะเบียนบริษัท บัญชีธุรกรรมทางการเงิน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ รวมถึงช่องทางการติดต่ออื่นๆ

ลูกค้าสามารถติดต่อบริษัท ได้ทางช่องทางต่อไปนี้

สำนักงานใหญ่ โทร 0 2685 3828
ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ CUSTOMER FIRST : 1394
LINE : @GeneraliThailand
E-mail : info@generali.co.th

เวลาทำการ วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 08:30 – 20:00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)

ฝ่ายขาย ติดต่อได้ที่ Generali Center อาคารสาทรธานี และสำนักงานตัวแทนทั่วประเทศ

Pages: [1] 2 3 ... 2428