Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: [1] 2 3 ... 2464
1
เอสซีจี จับมือ ศุภาลัย คว้ารางวัล LEED ที่ “ศุภาลัย ไอคอน สาทร” การันตีมาตรฐานสากลสำหรับอาคารสำนักงานลักซ์ชัวรี่รักษ์โลก


นายดุสิต ชัยรัตน์ Head of Smart Solution Business เอสซีจี ร่วมแสดงความยินดีในพิธีมอบป้ายมาตรฐานอาคารเขียว LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) แก่บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) นำโดย ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หลังโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร ในส่วนอาคารสำนักงานประสบความสำเร็จผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED ตอกย้ำแนวคิด “Green Building @ Sathorn” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างลงตัว โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท SCG Building and Living Care Consulting เป็นที่ปรึกษาการขอรับรองมาตรฐานครั้งนี้


ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 40 ภายในปี 2573 จาก BAU (Business As Usual) สำหรับโครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร เป็นหนึ่งในโครงการมาสเตอร์พีซของศุภาลัย ที่โดดเด่นด้วยแนวคิดรักษ์โลก “Green Building @ Sathorn” ให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบอาคารที่ช่วยประหยัดพลังงาน การเลือกใช้วัสดุ Green Product และการเลือกคู่ค้าที่ใส่ใจกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการก่อสร้าง การบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ นอกจากนี้ การได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED สำหรับอาคารสำนักงาน ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของศุภาลัยในการสร้างสรรค์อาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยรักษ์โลก ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม”


ด้าน นายดุสิต ชัยรัตน์ Head of Smart Solution Business เอสซีจี กล่าวว่า “โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร เป็นตัวอย่างของการพัฒนาอาคารสำนักงานอย่างยั่งยืน โดยสามารถลดการใช้พลังงานและทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED เกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัท SCG Building and Living Care Consulting ในฐานะที่ปรึกษาการทำมาตรฐานอาคาร LEED ของโครงการ และบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่นำแนวคิดอาคารเขียวมาผสมผสานกับการพัฒนาที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการอยู่อาศัยและการทำงานในยุคปัจจุบัน”


ทั้งนี้ บริษัท SCG Building and Living Care Consulting จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญให้บริการด้านอาคารเขียว อาคารประหยัดพลังงาน อาคารเพื่อสุขภาวะที่ดี และการพัฒนาอาคารเพื่อมุ่งสู่ Net Zero โดยเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรอง LEED Proven Provider จากองค์กร U.S. Green Building Council การันตีถึงประสบการณ์และคุณภาพระดับสูงของทีมงานให้คำปรึกษา มีบริการด้านการขอรับรองมาตรฐานอาคาร อาทิ  LEED, TREES, Edge, WELL และ Fitwel โดยมีโครงการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลแล้วกว่า 200 โครงการ สำหรับผู้ที่สนใจรับคำปรึกษาการขอรับรองมาตรฐานอาคาร สอบถามข้อมูลได้ที่ อีเมล : scgconsulting@scg.com  หรือ โทร. 065-719-7909

2
Q-CHANG จัดงาน “I AM Q-CHANG FAIR 2024” เชื่อมสัมพันธ์ช่างในแพลตฟอร์มสร้างการรับรู้เป้าหมาย ผนึกกำลังเติบโตไปด้วยกัน


Q-CHANG (คิวช่าง) ศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจร จัดงาน “I AM Q-CHANG 2024 ครั้งยิ่งใหญ่รวมช่างใจสั่งมา” เชื่อมสัมพันธ์ทีมช่างในแพลตฟอร์ม พร้อมสร้างการรับรู้เป้าหมาย เพื่อเติบโตต่อเนื่องไปด้วยกัน ตามพันธกิจของ Q-CHANG ในการเป็นแบ็กอัป (Back Up) ที่แข็งแกร่งให้กับทีมช่างเพื่อ “ชีวิตทุกวันช่างง่าย” อีกทั้งในปีนี้ Q-CHANG ได้มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานของช่างผู้มีความมุ่งมั่น เพื่อสนับสนุนการพัฒนาความรู้และทักษะด้านต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและเสริมสร้างความมั่นคงในอนาคตให้กับครอบครัวของทีมช่าง 

งาน “I AM Q-CHANG FAIR 2024 ครั้งยิ่งใหญ่รวมช่างใจสั่งมา” จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีช่างและแม่บ้านในแพลตฟอร์มเข้าร่วมงานกว่า 700 คน ภายในงานอัดแน่นด้วยกิจกรรมที่มุ่งเน้นการเชื่อมความสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เป้าหมายร่วมกัน ตอกย้ำความแข็งแกร่งของเครือข่ายช่างระดับประเทศ อาทิ การประกาศรางวัลช่างดีเด่นประจำปี หรือ “ช่างฮีโร่” โดย Q-CHANG ได้มอบเสื้อเกียรติยศและประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติแก่ช่างที่มีผลงานยอดเยี่ยมและเป็นส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ Q-CHANG บรรลุวัตถุประสงค์และเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 6 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการกว่า 300,000 ราย สร้างยอดขายสะสมมากกว่า1,200 ล้านบาท





นอกจากนี้ ในงานดังกล่าว Q-CHANG ยังได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 9 ทุน ครอบคลุมตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงอุดมศึกษา แก่บุตรหลานช่างผ่านโครงการ “Young Q-CHANG” เพื่อสนับสนุนเยาวชนของทีมช่างให้ก้าวหน้าด้านการศึกษา สอดคล้องกับความตั้งใจของ Q-CHANG ที่ต้องการสนับสนุนสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ สร้างความมั่นคง และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ช่างผู้ให้บริการในแพลตฟอร์มของ Q-CHANG โดยมุ่งหวังให้ช่างสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ เสริมให้ชีวิตทุกวันช่างง่าย โดย Q-CHANG พร้อมเป็นแบ็กอัปคอยช่วยเหลือช่างและแม่บ้านในทุกสถานการณ์

Q-CHANG มุ่งหวังว่า งาน “I AM Q-CHANG” จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยั่งยืนระหว่างบริษัทฯ และช่างผู้เชี่ยวชาญทั่วประเทศ โดยการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของช่างอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน อาทิ ทักษะด้าน Soft Skills, Hard Skills และ Business Skills เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของช่างที่มีคุณภาพในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน

3
เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ ขยายฐานการผลิต “ปูนคาร์บอนต่ำ” มุ่งผลักดันการส่งออก พร้อมสร้างความเชื่อมั่นกับ Distributor เดินเครื่องเต็มสูบในเวียดนามใต้


เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ ขยายฐานการผลิตปูนคาร์บอนต่ำ (SCG Low Carbon Super Cement) ในประเทศเวียดนามใต้สูงถึง 6,000 - 8,000 ตันต่อวัน ผลักดันตลาดส่งออกทั่วโลก เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา และประเทศออสเตรเลีย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเอสซีจีในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ ภายใต้แนวทาง Inclusive Green Growth


นายวิเชษฐ์ ชูเชื้อ Chief Operating Officer บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด กล่าวว่า “เอสซีจี มุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะนวัตกรรมกรีน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างในภูมิภาคและทั่วโลก ผ่านการลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งมุ่งหวังให้การขยายการผลิตปูนคาร์บอนต่ำ (SCG Low Carbon Super Cement) ช่วยผลักดันการก่อสร้างอย่างยั่งยืนในประเทศเวียดนามและในตลาดประเทศต่างๆ ทั่วโลก”


ทั้งนี้ เอสซีจี ได้ต้อนรับผู้แทนจำหน่าย หน่วยงานราชการท้องถิ่น และสื่อมวลชนกว่า 100 คน เยี่ยมชมโรงงาน Nhơn Trạch ในประเทศเวียดนามตอนใต้ ภายใต้การกำกับของบริษัททุกขั้นตอนในรูปแบบ Exclusive OEM เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพที่คงที่อย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐานรองรับระดับสากล ทั้ง ASTM (อเมริกา) และ BSEN (ยุโรป) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเอสซีจี ในการผลิตปูนซีเมนต์คุณภาพสูงที่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลก


ปูนคาร์บอนต่ำ (SCG Low Carbon Super Cement) ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่ให้ความสำคัญ กับการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคุณสมบัติเด่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อร่วมลดคาร์บอนมุ่งสู่ Net Zero 2050 พร้อมความแข็งแรง ทนทาน และผิวที่เรียบเนียน ได้มาตรฐานระดับสากล ทำให้เอสซีจีเป็นที่ยอมรับในฐานะผู้นำธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นสินค้ารักษ์โลกที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และโดดเด่นท่ามกลางการแข่งขันสูงในตลาด


นอกจากสร้างความเติบโตทางธุรกิจในการเพิ่มโอกาสขยายฐานการผลิตรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างสีเขียวในประเทศเวียดนามและตลาดต่างประเทศในอนาคตแล้ว การขยายฐานการผลิตในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนภาพความเป็นผู้นำของเอสซีจี ในฐานะผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างที่มุ่งเน้นนวัตกรรมสีเขียว ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง Inclusive Green Growth

4
ฮาแบบไม่พัก "ZOMBIELAND" 2 ภาครวด สนุกฉ่ำที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


              หากคุณชอบหนังที่มีทั้งความตลกและความตื่นเต้น Zombieland (ซอมบี้แลนด์) เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด! หนังซอมบี้แนวเขย่าขวัญนี้นำเสนอด้วยรูปแบบหนังตลกอารมณ์ดี ควบคู่ไปกับฉากลุ้นระทึกที่ทำให้คุณต้องเอาใจช่วยตัวละครให้รอดพ้นจากสถานการณ์คับขัน นำแสดงโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก, เอ็มมา สโตน, วูดดี แฮร์เรลสัน และ อาบีเกล เบรสลิน








              เมื่อประเทศอเมริกาโดนเชื้อไวรัสซอมบี้เล่นงาน คนเกือบทั้งประเทศได้กลายเป็นซอมบี้ แต่ก็ยังมีผู้รอดชีวิตอยู่บ้าง หนึ่งในนั้นคือ โคลัมบัส (เจสซี ไอเซนเบิร์ก) หนุ่มขี้ขลาดที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ โดยเขาได้ตั้งกฎการเอาชีวิตรอดไว้มากมาย จนวันหนึ่งเขาได้พบกับ ทัลลาฮาสซี (วูดดี้ แฮร์เรลสัน) ชายที่ชื่นชอบการล่าซอมบี้ วิชิต้า (เอ็มมา สโตน) และ ลิตเทิล ร็อค (อาบีเกล เบรสลิน) สองพี่น้องที่ฉลาดและกล้าหาญ พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ เหล่าแก๊งซ่าส์ล่าซอมบี้ได้ออกเดินทางไปยังสถานที่ปลอดภัย ร่วมผจญภัยและพบผู้รอดชีวิตอื่นๆ ที่นำมาซึ่งความฮาแบบขั้นสุด ความป่วนชวนฮา ติดตามชม Zombieland ภาค 1 เวลา 12.30 น. และภาค 2 เวลา 14.55 น. กันให้ฉ่ำตา ได้ในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคมนี้ ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และ https://true4u.com/live

5
ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ผนึกกำลัง ธุรกิจห้าดาว พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มคู่เมนูอร่อยเอาใจลูกค้าทั่วประเทศ


กรุงเทพฯ 2 ธันวาคม 2567 - บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับ ธุรกิจห้าดาว  (Five Star) ธุรกิจ แฟรนไชส์อาหาร บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจาก ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ในร้านค้าแฟรนไชส์จำหน่ายอาหารในเครือ ธุรกิจห้าดาว อาทิ ซุ้มไก่ย่าง-ไก่ทอดห้าดาว กระทะเหล็ก Hi Pork เป็ดเจ้าสัว และข้าวมันไก่ไห่หนาน ซึ่งในปัจจุบันมีมากกว่า 5,000 ราย ทั่วประเทศ และเตรียมเปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ “คู่ซี้ คู่อร่อย” เร็ว ๆ นี้


นายบุญชัย อัศวฤทธิพรหม์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เล็งเห็นความสำคัญของการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องและเกื้อหนุนกัน เพื่อนำสินค้าของ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ไปอยู่ในทุกที่และทุกเวลาที่ผู้บริโภคต้องการ เราให้ความสำคัญกับการเพิ่มพันธมิตรในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทั้งในแง่ของธุรกิจ และสร้างการรับรู้ แบรนด์สินค้า โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์สู่ลูกค้ากลุ่มใหม่อยู่เสมอ ในครั้งนี้บริษัทฯ จับมือกับ ธุรกิจห้าดาว ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารชั้นนำที่อยู่คู่คนไทยมานานหลายสิบปีอย่างไก่ย่างห้าดาว (Five Star) เพื่อให้เป๊ปซี่เป็นเครื่องดื่มคู่ใจของคนรักไก่ย่างห้าดาว ซึ่งมีฐานผู้บริโภคครอบคลุมทุกกลุ่มทั่วประเทศ และนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของบริษัทฯ อาทิ สติงค์ และ ลิปตัน ซ่า ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ก้าวสู่การเป็น ‘บริษัทเครื่องดื่มที่ผู้บริโภครักมากที่สุดในประเทศไทยโดยมุ่งเน้นความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง’ (the Most Beloved Beverage Company in Thailand with True Gemba Centricity)”


นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจห้าดาว สร้างสรรค์ประสบการณ์ความอร่อยให้กับผู้บริโภคมายาวนานกว่า 40 ปี เรามีแฟรนไชส์จำหน่ายอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่ร้านไก่ย่างห้าดาว กระทะเหล็ก Hi Pork เป็ดเจ้าสัว และข้าวมันไก่ไห่หนาน หนึ่งในคุณค่าที่เรายึดมั่นเสมอมาในการดำเนินธุรกิจ คือ การนำเสนออาหารที่มีรสชาติอร่อย คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้และเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันให้กับผู้บริโภค การจับมือกับซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย จะช่วยให้เราส่งมอบความอร่อยคุ้มค่าพร้อมความซ่าสดชื่นให้ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการผสานความชำนาญและประสบการณ์ในธุรกิจของทั้งสองบริษัท ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในด้านต่าง ๆ อาทิ การขยายฐานลูกค้า การสร้างแบรนด์ และการตลาดเพื่อดึงดูดและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ”

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มุ่งสร้างความสำเร็จร่วมกับคู่ค้าภายใต้แนวคิด “Win With Customers” โดยวางกลยุทธ์การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำมากมาย พร้อมเดินหน้าขยายฐานคู่ค้าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) เครือข่ายร้านอาหาร และช่องทาง E-commerce ซึ่งธุรกิจห้าดาวถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่งทั้งในแง่ของธุรกิจ การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย และการสร้างแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคในเรื่องความคุ้มค่า

6
กระทรวงวัฒนธรรม ชมงาน MOTOR EXPO 2024


             จริญญา จักรกาย ผู้อำนวยการกองเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เข้าพบ ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” เพื่อแสดงความชื่นชมคณะผู้จัดงาน ที่กำหนดมาตรฐานการแต่งกายของพริททีภายในงาน ให้สุภาพ เรียบร้อย สง่างาม ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567

7
COMBKK ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลและอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลก พร้อมบริการครอบคลุมทุกมิติ ตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาดแบบครบวงจร

             COMBKK ผู้ให้บริการด้านการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร กับบริการที่หลากหลายปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ จับมือเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกสร้างความแตกต่างในอุตสาหกรรม


            คุณแจ็กสัน แก้วจันทร์ ผู้ก่อตั้ง COMBKK เปิดเผยว่า บริษัท คอมบีเคเค จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 ด้วยพันธกิจที่ชัดเจนในการเป็นผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจรและอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศไทย เน้นการให้บริการที่ครอบคลุม ตั้งแต่การสร้างเว็บไซต์ ทำ SEO การตลาดออนไลน์ ดูแลช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ การจัดการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Shopee, Lazada และ Tiktok Shop รวมถึงการโฆษณาทุกรูปแบบ

             “บริการหลักของ COMBKK คือ การสร้างเว็บไซต์ การทำ SEO การจัดการและดูแลโซเชียลมีเดีย การสร้างแคมเปญการตลาดออนไลน์ การโฆษณาทุกรูปแบบ และการบริหารจัดการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ สำหรับแบรนด์ที่ต้องการขยายการตลาดแบบครบวงจร เราช่วยให้ธุรกิจบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขายหรือเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและขยายธุรกิจให้เติบโตต่อไปในตลาดระดับสากล พร้อมกับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและผู้บริโภค” คุณแจ็กสัน กล่าว


            คุณวิลาวัณย์ ม่วงไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) COMBKK กล่าวว่า บริษัทฯ มีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าตั้งแต่ ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการขยายแบรนด์ เพิ่มความเข้าถึงของลูกค้า หรือรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผ่านการทำการตลาดดิจิทัลแบบมืออาชีพ ธุรกิจSMEs ที่กำลังเติบโตและต้องการขยายฐานลูกค้า มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการความคุ้มค่าในการลงทุน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่ขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ โดยต้องการเพิ่มยอดขายและการรับรู้แบรนด์ผ่านกลยุทธ์ออนไลน์ ธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ต้องการขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้และทดลองตลาดอย่างรวดเร็ว ธุรกิจในสายบริการเช่น โรงแรม ร้านอาหาร หรือคลินิกสุขภาพ ที่ต้องการดึงดูดลูกค้าใหม่และเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ จนถึงแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มการรับรู้ในระดับสากล ที่ต้องการเจาะตลาดใหม่หรือขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ ซึ่งเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม


            “ปัจจุบัน COMBKK ถือเป็นหนึ่งในผู้นำการตลาดดิจิทัลและอุตสาหกรรมบันเทิงในไทย เราได้สร้างความสัมพันธ์และทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับโลก และยังมีทีมงานที่แข็งแกร่งกว่า 59 คน ซึ่งล้วนมีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ของการตลาดดิจิทัล ทำให้สามารถออกแบบและดำเนินแคมเปญที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ พร้อมให้บริการลูกค้าครอบคลุมทุกมิติของการตลาดดิจิทัล ด้วยความหลากหลายของบริการที่มีให้ลูกค้าเลือก COMBKK ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถขยายการตลาดและเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ” คุณวิลาวัณย์ กล่าวปิดท้าย

            COMBKK Digital Marketing Agency บริษัทเอเจนซี่การตลาดออนไลน์ที่เดียวจบ รับสร้างเว็บไซต์ รับทำ SEO การตลาดออนไลน์ ทำการตลาดออนไลน์ ทุกรูปแบบ ดูแลเพจ ดูแลช่องยูทูป รวมถึงการโฆษณาทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีทีมดูแล Shopee, Lazada, Tiktok Shop จัดการข้อมูลและคลังสินค้าทั้งหมดได้ที่เดียว เพิ่มยอดขายและสร้างแบรนด์ของคุณให้แข็งแกร่งไปกับ COMBKK ปรึกษาการทำตลาดออนไลน์ สามารถแอด LINE: @combkk ดูรายละเอียดบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://combkk.com/ หรือ FB: https://www.facebook.com/combkkthailand หรือติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์ 02-114-8496 หรือ 082-859-7997 E-mail: info@combkk.co.th

8
กรุงศรีเสริมแกร่งธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ชูแนวคิด Trade Advisory ที่ปรึกษารอบด้าน เร่งขับเคลื่อนให้ลูกค้าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง


กรุงเทพฯ (29 พฤศจิกายน 2567) - กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยกลุ่มงานธุรกรรมการเงิน (Transaction Banking Group) ตอกย้ำการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาค ที่มุ่งเป็นพันธมิตรในการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ผ่านบทบาทความเป็น Trade Advisory ที่ปรึกษาด้านธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ สนับสนุนลูกค้าในทุกก้าว ด้วยทีมงานที่มากประสบการณ์และมีความเข้าใจในธุรกิจ โดยผสานความร่วมมือกับ MUFG หนึ่งในกลุ่มการเงินชั้นนำระดับโลก ให้การชำระเงินระหว่างประเทศรวดเร็ว สะดวก และง่ายขึ้น รวมถึงยกระดับบริการ Trade Services แบบครบวงจร ครอบคลุมทุกมิติความต้องการของธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และเร่งเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีการเงินใหม่ๆ เพื่อตอบสนองธุรกิจนำเข้าและส่งออกให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

คุณนิลวรรณ จีระบุญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีให้ความสำคัญกับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมให้คำปรึกษากับลูกค้า เราไม่เพียงมอบบริการทางการเงิน แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะติดอาวุธให้กับลูกค้า ด้วยการให้คำปรึกษาแบบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ การจัดการกับความท้าทายที่ลูกค้าอาจพบเจอ อาทิ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยน สกุลเงิน การโอนเงินและรับเงินจากคู่ค้าปลายทาง และการนำเสนอโอกาสใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคงในตลาดต่างประเทศ”

กรุงศรี Trade Advisory จึงถูกนำมาใช้เป็นแนวคิดหลักในการผลักดันและเข้ามาช่วยสนับสนุนลูกค้าธุรกิจทุกขนาด ครอบคลุมทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ไปจนถึง SME โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าจากต่างประเทศ ให้สามารถขยายตัวและแข่งขันในระดับภูมิภาคและทั่วโลกได้ นอกจากกรุงศรีจะมุ่งมั่นให้บริการการค้าระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทุกความต้องการทางธุรกิจ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาทางการเงิน การสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม การบริหารจัดการความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ไปจนถึงการเข้าถึงสินเชื่อพิเศษที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้ว กรุงศรียังพร้อมเป็นที่ปรึกษา เป็นพันธมิตรที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจการค้าต่างประเทศของลูกค้าในทุกด้านผ่านกลยุทธ์ความแข็งแกร่งทั้ง 5 ด้านของกรุงศรีนั่นคือ

1) เครือข่ายระดับภูมิภาคและระดับโลก ด้วยความร่วมมือจาก MUFG และธนาคารพันธมิตรทั่วโลก 2) ทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่คอยดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำในการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ 3)ต่อยอดบริการทางการเงินดิจิทัล เพิ่มความคล่องตัวให้ลูกค้า เช่น บริการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  4) นำเสนอบริการที่ช่วยบริหารจัดการความเสี่ยง อาทิ ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และ 5) เข้าถึงข้อมูลสำคัญและเทรนด์ใหม่ๆ เช่น จัดกิจกรรมสัมมนาอัพเดทความรู้การเงินระดับโลก เป็นต้น

จากความตั้งใจที่จะเดินเคียงคู่ไปกับลูกค้าผ่านแนวคิด Trade Advisory สร้างความประทับใจให้กับบริษัท กิจเสรีอินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด หนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของกรุงศรี โดยมองว่ากรุงศรีมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อการขยายธุรกิจ การให้คำปรึกษาด้านการเงิน การให้บริการธุรกรรมการเงินทั้งขารับและขาจ่าย สำหรับธุรกรรมในประเทศและต่างประเทศ ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยในระดับสากล

คุณวีรชาติ วัฒนาพฤกษากุล กรรมการบริหาร บริษัท กิจเสรีอินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “กรุงศรีไม่ได้เป็นเพียงธนาคาร แต่ยังเป็นที่ปรึกษาที่เราสามารถไว้วางใจได้ การที่เราสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศและเติบโตได้อย่างมั่นคง เป็นผลจากการที่กรุงศรีให้การสนับสนุนในหลายๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การให้คำปรึกษาจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงการช่วยให้เราสามารถเข้าถึงตลาดการค้าระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการที่เรามีคู่ค้าในจีน การมีบริการชำระเงินและโอนเงินด้วยสกุลเงินหยวน ทำให้เราสามารถตอบโจทย์ คู่ค้าของเราในต่างประเทศได้ อีกทั้งเงินหยวนยังมีความผันผวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้เราสามารถบริหารจัดการต้นทุนของเราได้ดีมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือกรุงศรีสามารถลดทอนกระบวนการเรื่องเอกสารต่างๆ ให้สะดวก รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น ทำให้การชำระเงินระหว่างเราและคู่ค้าปลายทางเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อธุรกรรมคล่องตัว ธุรกิจก็เดินหน้าไปต่อได้"

ทั้งนี้ กรุงศรียังมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อรองรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าธุรกิจระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมี Krungsri TradeLink เป็นแพลตฟอร์มหลักที่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งสามารถเพิ่มความสะดวก รวดเร็วด้วยการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งรวมทั้งการขอสินเชื่อเพื่อการนำเข้า (Trust Receipt) การแจ้งเลตเตอร์ออฟเครดิต (Letter of Credit Advising) และยืนยันการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ

นอกจากนี้ กรุงศรียังคงมุ่งยกระดับบริการธุรกรรมการเงินให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันลูกค้าให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2568 กรุงศรีจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการด้านดิจิทัลโซลูชัน เพื่อสนับสนุนธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยจะขยายบริการการชำระเงินและการโอนเงินระหว่างประเทศให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการเชื่อมโยงกับเครือข่าย MUFG ซึ่งเป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

“กรุงศรียังคงเน้นย้ำจุดยืนในการเป็น Trade Advisory ที่ปรึกษาด้านธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนลูกค้าในทุกก้าว” คุณนิลวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

9
“COMMART TECHXPRO” มหกรรมสินค้าไอที ส่งท้ายปี 
ประกาศความสำเร็จ โกยยอดขายตามเป้า


บมจ.เออาร์ไอพี ผู้จัดงาน “COMMART TECHXPRO” ประกาศความสำเร็จงานมหกรรมสินค้าไอทีปลายปี ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย มีนักช้อปเนื่องแน่น ตลอด 4 วัน ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.  – 1 ธันวาคม  2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และสินค้าที่ขายดีประกอบด้วย Laptop / โน้ตบุ๊ก  และ คอมพิวเตอร์ประกอบ (ComSet / DIY) ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ให้ความสนใจงานคอมมาร์ตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าจัดงานคอมมาร์ต ต้นปีหน้าต่อไป วันที่ 6-9 มี.ค. 68 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคที่เดิม


นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อไอซีทีและการจัดงาน บมจ. เออาร์ไอพี เผยว่า “งานคอมมาร์ตส่งท้ายปี 2567 มียอดขายเป็นไปตามเป้าไม่ว่าจะด้วยไฮไลท์ของนวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำมาแสดงและมีสินค้าโปรแรงที่ดึงดูดให้นักช้อปได้เลือกซื้อ ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ยกเครดิตให้ผู้ร่วมออกบูธที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นที่สุดแห่งนวัตกรรม และสำหรับสินค้าขายดี ประกอบด้วย Laptop / โน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ประกอบ (ComSet / DIY)ในขณะที่สมาร์ทโฟนก็มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น และ GPU/การ์ดจอ ยังเป็นสินค้าขายดีที่หลายคนตามหารุ่นในดวงใจ ส่วนจอภาพยังเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่คอไอทีซื้อเพื่อใช้งานทั้งการทำงาน ครีเอเตอร์ และสำหรับสินค้ากลุ่ม Creater, Gamer จัดโต๊ะคอมพ์ เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ด้อมไอทีตามหากันในงานคอมมาร์ต ส่วนโซนสมาร์ตโฮมได้รับกระแสตอบรับดี มีคนเข้าเยี่ยมชมสัมผัสประสบการณ์ พร้อมรับโปรพิเศษที่มีเฉพาะในงานคอมมาร์ตสร้างความน่าสนใจให้กับงานเป็นอันมาก ขณะที่ กิจกรรมเทคเที่ยวไทย ได้รับความสนใจและเสียงตอบรับกับ 9 ผลงาน คีย์แคปของคนรุ่นใหม่ที่ได้รับรางวัล


โดยสินค้าขายดียังเป็น Laptop โน้ตบุ๊ก 49%, คอมพิวเตอร์ประกอบ (Com Set DIY) 30%, สมาร์ทโฟน 10%, GPU การ์ดจอ 6%, จอภาพ 5% และในส่วนของแบรนด์สินค้าที่ขายดีในงาน ได้แก่ Acer, AMD, Apple, Asus, Dell, HP, Intel, Lenovo, MSI และ Samsung ร้านค้าปลีกที่ขายดี ได้แก่ Banana , IT CITY, JIB, Speed และ SPVi  โอกาสนี้ในฐานะผู้จัดงานขอบคุณทุกฝ่ายที่เป็นส่วนหนึ่งในพลังที่ทำให้งาน “COMMART TECHXPRO” ประสบความสำเร็จ


เพื่อเป็นการขอบคุณทางผู้จัดงานได้จับรางวัลในกิจกรรม Commart Bonus สิทธิ์ในการลุ้นรางวัล Gadget เก๋ๆ ซึ่งมีการจับสลากผู้โชคดีแบบรายวันไปเรียบร้อยแล้ว สามารถติดตามผลรางวัลได้ที่ www.commartThailand.com, www.facebook/commartThailand










10
สมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ
จัดกิจกรรม "Master of Complication หัตถการความงาม"


             สมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณจัดกิจกรรม"Master of Complication หัตถการความงาม" เผยบทบาทภาระหน้าที่ในการส่งเสริมวิชาการและการประกอบโรคศิลปะด้วยเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ พร้อมเป็นเจ้าภาพร่วมประชุมนานาชาติ “IMCAS asia” ครั้งที่ 6 ในเดือน มิถุนายนปี 2568 นี้


             พญ.นลินี สุทธิพิศาล นายกสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ กล่าวถึงความเป็นมาและวิสัยทัศน์ของสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ ว่า สมาคมเวชสำอางและตจศัลยศาสตร์ เป็นสมาคมที่จดทะเบียนได้รับใบอนุญาตเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 เพื่อส่งเสริมวิชาการและการวิจัยด้านเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ พร้อมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสมาชิกและองค์กรทั้งในและต่างประเทศ เผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสร้างความสามัคคีและจริยธรรมเสมอมา โดยทางสมาคมฯมีการจัดการประชุมเพื่อให้ความรู้แก่แพทย์ผู้มีความสนใจ ด้านการรักษาด้านความงามและตจศัลยศาสตร์มาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 23  รวมถึงการประชุม “Master of Complication” ในวันนี้ที่เป็นการรวบรวมปัญหาและการแก้ไขผลข้างเคียงจากการรักษาหัตถการด้านความงาม เพื่อพัฒนายกระดับมาตรฐานการรักษาการดูแลผลข้างเคียงให้กับคนไข้ในระดับสากล โดยได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัย โรงเรียนแพทย์และภาคเอกชน ได้ร่วมมือกันแบ่งปันประสบการณ์ เพิ่มพูนความรู้ทักษะในหมู่แพทย์ เพื่อความมั่นใจให้กับประชาชนผู้รับบริการทั้งนี้ทางสมาคมยังได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพร่วมประชุมนานาชาติ “IMCAS asia” อันเป็นที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยเราได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพการประชุมอีกครั้งเป็นครั้งที่ 6 ในเดือน มิถุนายนปี 2568 นี้


             ด้าน รศ. พิเศษ พญ.วิไล  ธนสารอักษร กรรมการและประชาสัมพันธ์สมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณกล่าวว่า ปัจจุบันการรักษาด้านความงามเป็นที่สนใจและเข้าถึงประชาชนได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางการแพทย์ด้านความงามในประเทศไทยอย่างก้าวกระโดดจนเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำของโลก แต่อย่างไรก็ตามการรักษาที่มากขึ้นทั้งจำนวนผู้รักษา และความหลากหลายของหัตถการย่อมทำให้เกิดกรณีศึกษาเกี่ยวกับผลข้างเคียงทางการรักษา เช่น ภาวะการอุดตันของเส้นเลือด การสูญเสียการมองเห็น การติดเชื้อหลังการรักษาด้วยสารเติมเต็ม การเกิดภาวะผิวไหม้ แผลเป็น จากการรักษาด้วยเลเซอร์ คลื่นเสียง และคลื่นวิทยุ รวมถึงภาวะหน้าผิดรูป การติดเชื้อ และผลข้างเคียงอื่น ๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นได้ จนอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งทางร่างกาย จิตใจและความพิการ จนถึงอาจอันตรายถึงชีวิตได้ การประชุมครั้งนี้จึงเกิดขึ้นด้วยจุดประสงค์เพื่อการแบ่งปันประสบการณ์การดูแลรักษาภาวะผลข้างเคียงต่าง ๆ จากหัตถการด้านความงาม หลักในการตรวจรักษาและการดูแลผู้ป่วยที่พบผลข้างเคียงตามมาตรฐานสากล จากการแบ่งปันประสบการณ์ในกรณีศึกษาที่น่าสนใจโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมากมายจากหลากหลายสถาบัน


             ด้าน ดร.พญ.อัจจิมา สุวรรณจินดา กรรมการฝ่ายวิชาการ สมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ กล่าวว่า การรักษาด้านผิวพรรณและความงาม เป็นกลุ่มหัตถการที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง และมีการพัฒนาการรักษาใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดทั้งกระแสความนิยมในการรักษาที่เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย รวมถึงความสับสนของผู้บริโภคเกี่ยวกับการรักษาต่าง ๆ ทั้งการใช้สารเติมเต็มฟิลเลอร์ (filler) การใช้ Botulinum toxin อุปกรณ์เลเซอร์ คลื่นเสียง คลื่นวิทยุ รวมถึงตัวยาใหม่ ๆ เช่น biostimulator ที่ใช้ในการกระตุ้นการเสริมสร้างและปรับปรุงคุณภาพผิวรวมไปถึง stem cell ,exosome และการรักษาด้วยยาและอุปกรณ์ที่เป็นนวัตกรรมที่แพทย์และผู้บริโภคควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยา รวมถึงควรได้รับวิธีการรักษาตามการจดทะเบียนเป็นเครื่องสำอาง ยาฉีด ยาทา หรือเครื่องมือแพทย์อย่างถูกต้อง ภายในสถานพยาบาลโดยแพทย์เท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยสูงสุดของผู้รับบริการ หากเกิดผลข้างเคียงทางการรักษา แพทย์ควรมีการเตรียมตัวทั้งทางด้านทักษะ ความรู้  ทั้งในด้านกายวิภาคศาสตร์ รายละเอียดเกี่ยวกับตัวยา ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ความสามารถในการตรวจวินิจฉัยและการให้การรักษาที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการเตรียมพร้อมอุปกรณ์ในสถานพยาบาล เพื่อการดูแลรักษาผลข้างเคียงของคนไข้อย่างทันท่วงทีโดยเฉพาะในภาวะจำเป็นเร่งด่วน




11
โหวตรถโบราณ ชิงรางวัล !
People’s Choice Award 2024


             สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เชิญผู้ชมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ร่วมโหวตรถโบราณ และรถคลาสสิคที่ประทับใจ ภายในบูธของสมาคมฯ พร้อมลุ้นรับของที่ระลึก รถที่ได้รับคะแนนจากผู้ชมงานสูงสุด จะคว้ารางวัล People’s Choice Award 2024 ไปครอง โดยเปิดให้โหวตถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลา 22.00 น. และประกาศผลวันที่ 10 ธันวาคม 2567 เวลา 14.00 น.




รางวัลสำหรับเจ้าของรถ

อันดับ 1 : โล่รางวัล ใบประกาศเกียรติคุณ ฟิล์มกรองแสง Hi-Kool รุ่น Beyond Ceramic และ Gift Voucher จาก บริษัท เอ็ม.จี. เซอร์วิส จำกัด มูลค่า 10,000 บาท

อันดับ 2 : โล่รางวัล ใบประกาศเกียรติคุณ ฟิล์มกรองแสง Hi-Kool รุ่น Ceramic Black Edition และ Gift Voucher จาก บริษัท เอ็ม.จี. เซอร์วิส จำกัด มูลค่า 5,000 บาท

อันดับ 3 : โล่รางวัล ใบประกาศเกียรติคุณ ฟิล์มกรองแสง Hi-Kool รุ่น R-series หรือ Ceramic Bluealfa และ Gift Voucher จาก บริษัท เอ็ม.จี. เซอร์วิส จำกัด มูลค่า 5,000 บาท





             ผู้โหวตรถที่ชนะรางวัล อันดับที่ 1, 2 และ 3 รับรางวัล กระเป๋า Thule น้ำมันหล่อลื่น Idemitsu




             ของรางวัลต่างๆ สนับสนุนโดย บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด บริษัท เอ็ม.จี. เซอร์วิส จำกัด บริษัท เอเนออส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท น้ำมันอพอลลโล (ไทย) จำกัด และบริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด




             เชิญชม Porsche 911 Targa RWB ปี 1977 ที่ได้รับรางวัล People’s Choice Award 2023 และโหวตรถชิงรางวัล People’s Choice Award 2024 ได้ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://peoplechoices.motorexpo.co.th








12
เมย์แบงก์ จัดงาน "ติด BUFF การเงิน TALK SHOW” ฟินฟลูเอนเซอร์ทอล์คโชว์ครั้งแรกในไทย
เปลี่ยนเรื่องการเงินที่ซับซ้อน เป็นเรื่องที่สนุกและเข้าใจง่ายสำหรับทุกคน


             กิจกรรม 'ติด Buff การเงิน Talk Show' ครั้งแรกในรูปแบบฟินฟลูเอนเซอร์ทอล์คโชว์ สานต่อวิสัยทัศน์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียม เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ JumpStart ที่มุ่งให้ความรู้คู่ความบันเทิงในเรื่องการเงิน โดยได้รับเกียรติจากนายจักรกฤษณ์ กิจการรัฐบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจากเพจ Money Buffalo และนายศรัญญู เพียรทำดี จากเพจ Buffalo Gags มาร่วมแบ่งปันความรู้ด้านการเงินและการลงทุนแบบเข้าใจง่าย ณ โรงภาพยนตร์ EARTHLAB ชั้น 9 เซ็นทรัลเวิลด์


             งานนี้จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง พร้อมจำลองบรรยากาศ "ลงทุนแลนด์" ดินแดนแห่งการลงทุนที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ผู้เข้าร่วมจะได้สวมบทบาทเป็นนักลงทุนที่ต้องผจญภัยในโลกของการเงิน เพื่อไขว่คว้าอิสรภาพทางการเงิน โดยต้องผ่านการ "ติด Buff" หรือเพิ่มพูนความรู้ด้านการเงิน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการลงทุนและจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้คำแนะนำจากสองอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง


             กิจกรรม "ติด BUFF การเงิน TALK SHOW” ในครั้งนี้ จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง พร้อมกันนี้ยังมีการจำลองบรรยากาศให้ราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในเกม ซึ่งจำลองให้เป็น “ลงทุนแลนด์” ดินแดนที่เต็มไปด้วยความพิศวง ทุกคนที่เข้ามา จะถูกสาบให้เป็นแมงเม่าสายพันธุ์ประหลาด เพราะไม่ได้บินเข้ากองไฟ แต่บินเข้ากองทุน หรือ หุ้นต่างๆ ความพิเศษของดินแดนแห่งนี้ คือ ภูมิประเทศเต็มไปด้วยดอย แถมบนดอยยังมีอำนาจลึกลับ ทำให้ผู้คนเสพติด หลายคนขึ้นไปแล้วไม่ได้กลับลงมาอีกเลย แต่ไม่ว่าลงทุนแลนด์จะน่าพิศวง หรือ เสี่ยงอันตายเพียงใด ที่นี่กลับไม่เคยขาดผู้กล้าที่จะเดินทางเข้ามา เพราะเป็นดินแดนที่สามารถทำให้ความปรารถนาของทุกคนที่ต้องการมีอิสรภาพทางการเงินเป็นจริงได้ เพียงแต่การจะพิชิตเป้าหมายได้นั้น ผู้เล่น ต้องผ่านการ “ติด Buff” ซึ่งหมายถึงการเพิ่มความรู้ด้านการเงิน เพื่อเพิ่มพลังการลงทุนให้แข็งแกร่งขึ้น เสริมความมั่นใจในการจัดการเงินของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพในแต่ละด่าน โดยมีสองอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เป็นผู้ให้คำแนะนำ


นี่หรือ...เงิน

             ก่อนจะเริ่มลงทุน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าทำไมการลงทุนถึงจำเป็น หลายคนคงคุ้นกับคำว่า "เงินเฟ้อ" - ตัวการสำคัญที่บั่นทอนมูลค่าเงินในกระเป๋าเรา ยิ่งเงินเฟ้อสูง มูลค่าเงินยิ่งลดลง การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อจึงเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดีที่สุด แต่ที่ผ่านมา หลายคนไม่กล้าลงทุนด้วยหลายเหตุผล ทั้งความกลัว ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร มองว่าการเงินเป็นเรื่องซับซ้อน หรือคิดว่าต้องใช้เงินก้อนใหญ่ เพื่อขจัดความกังวลเหล่านี้ เราควรเริ่มจากการวางเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน แม้แต่ละคนจะมีเป้าหมายต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ล้วนต้องการอิสรภาพทางการเงิน นั่นคือการปลอดหนี้ที่เกินกำลัง มีเงินสำรองเพียงพอยามฉุกเฉิน มีค่าใช้จ่ายสำหรับชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องกังวล และมีรายได้จากการลงทุน (Passive Income) ที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตตามที่ต้องการ และสุดท้าย หากคุณมีเงินก้อนหนึ่งและกำลังคิดว่าจะลงทุนอะไรดี คำตอบง่ายๆ คือ ลงทุนในสิ่งที่คุณรู้จัก ถนัด มีทักษะ และเข้าใจความเสี่ยง


รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง

             การลงทุนทุกรูปแบบมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของตลาด การปรับดอกเบี้ย สภาพคล่อง หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน วิธีลดความเสี่ยงที่ดีที่สุดคือการกระจายการลงทุน ดั่งสุภาษิตที่ว่า "อย่าเก็บไข่ไก่ไว้ในตะกร้าเดียว"นักลงทุนควรเลือกกระจายการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ตนรับได้ มือใหม่อาจเริ่มจากการลงทุนความเสี่ยงต่ำ ขณะที่ผู้มีประสบการณ์อาจเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว จึงสามารถเลือกเครื่องมือลงทุนที่เหมาะสม ตั้งแต่ตราสารหนี้ หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองและคริปโต นอกจากนี้ยังสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยมือใหม่อาจเริ่มจากกองทุนตลาดเงินหรือตราสารหนี้ระยะสั้น แล้วค่อยๆ ขยับไปสู่กองทุนที่มีความเสี่ยงและผลตอบแทนสูงขึ้น เช่น กองทุนหุ้น กองทุนต่างประเทศ หรือการลงทุนในหุ้นรายตัว ตามระดับความเสี่ยงที่รับได้


ลงทุนไม่ลงทุย

             หลังจากรู้จักตัวเองและสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้แล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจก่อนจะเข้าสู่โลกการลงทุน คือ พีรามิดทางการเงิน (Financial Pyramid) ซึ่งประกอบด้วย (1)เงินสำหรับใช้จ่ายในสิ่งจำเป็นพื้นฐาน (Basic Needs) และ การจัดการความเสี่ยง (Risk Managements) ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน (2) เงินสำหรับเก็บสะสม เพื่อวางแผนอนาคต เช่น สางแผนการศึกษาให้ลูก วางแผนการเกษียณ (3) เงินสำหรับการลงทุนตามล์สไตล์และความสนใจ ประโยชน์ของพีรามิดทางการเงิน คือ ทำให้ผู้ลงทุนเห็นว่าก่อนจะเริ่มต้นลงทุน ต้องเริ่มจากการวางรากฐานสถานะการเงินอย่างไร เพราะถ้าไม่เริ่มจากการปูรากฐานให้มั่นคง นำเงินที่มีไปลงทุนทั้งหมด ถ้าจังหวะไม่ดี การลงทุนไม่ได้ให้ผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั้งหมด

เมื่อพร้อมแล้ว...ก็ถึงเวลาลุย

             เมื่อติด Buff ผ่านครบทุก Stage ถึงเวลาลงมือลงทุน โดยมือใหม่อาจเริ่มจากสูตร 60:30:10 คือ แบ่ง 60% สำหรับค่าใช้จ่ายประจำวัน 30% สำหรับการลงทุน และ 10% สำหรับเงินออม ซึ่งสามารถปรับสัดส่วนได้ตามสภาพคล่อง ทั้งนี้ "เวลา" เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ดอกเบี้ยทบต้นทำงานได้ดีที่สุด ดังตัวอย่าง การลงทุน 5,000 บาทต่อเดือน ผลตอบแทน 8% ต่อปี หากลงทุน 10 ปี จะมีเงิน 1 ล้านบาท แต่หากลงทุน 30 ปี จะเพิ่มเป็น 7.5 ล้านบาท

             แม้การลงทุนมีความเสี่ยง แต่หากไม่รับความเสี่ยง เงินก็ไม่งอกเงย (No Risk, No Return) ผู้ลงทุนสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ เริ่มตั้งแต่แบบช้าแต่ชัวร์อย่างเงินฝากและกองทุนตลาดเงิน (ผลตอบแทน 0.25-1.5% ต่อปี) ไปจนถึงพันธบัตรและหุ้นกู้ (2-4% ต่อปี) กองทุนรวมและหุ้น (5-10% ต่อปี) หรือสำหรับสายซิ่งที่พร้อมรับความเสี่ยงสูง อาจเลือกลงทุนในหุ้นไทย-ต่างประเทศและตราสารอนุพันธ์ (10%+ ต่อปี) โดยยิ่งความเสี่ยงสูง โอกาสไปถึงเป้าหมายก็ยิ่งเร็วขึ้น

             ทั้งนี้ สำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการศึกษาข้อมูล หรือ ไม่ได้มีความรู้การลงทุนมากนัก แนะนำให้เลือกลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง เปรียบเหมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นก 5 ตัว เพราะ (1) มีผู้เชี่ยวชาญดูแลพอร์ตการลงทุน (2) มีทางเลือกลงทุนหลากหลาย (3) ตอบโจทย์ทุกวัตถุประสงค์การลงทุน สามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุน (4)ใช้เงินลงทุนน้อย หลักร้อยก็ลงทุนได้ (5) ได้รับสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี

             มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงเห็นภาพแล้วว่า การลงทุนสำคัญอย่างไร และทำให้เราจึงควรเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วันนี้ ถ้าไม่แน่ใจว่าควรออกสตาร์ตจากตรงไหน เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการโหลดแอปพลิเคชั่น Maybank Invest (MBi) ที่มีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การจัดการบัญชีง่ายขึ้น และเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย รวมถึงการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีฟินเทคและคำแนะนำทางการเงินมาใช้ นอกจากนี้ แอป MBi ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลการลงทุนที่ตรงตามเป้าหมายและมีเครื่องมือที่สะดวก ช่วยตัดสินใจด้านการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจอีกด้วย

13
MOTOR EXPO 2024
รวมรถใหม่ ละลานตา


            “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” จัดงานภายใต้แนวคิด “จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม…ยานยนต์ล้ำอนาคต-Innovative Spirit…Futuristic Vehicles” โดยเปิดงานเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 มีไฮไลท์รถยนต์เผยโฉมในประเทศไทยครั้งแรกในงานดังนี้


BMW M4 CS ขุมพลังเบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร M TwinPower Turbo 551 แรงม้า


BMW M5 กลับมาสืบสานตำนานแห่งสมรรถนะ 40 ปีเต็ม ด้วยรุ่นล่าสุดในเจเนอเรชั่นที่ 7


BMW X3 น้องใหม่ตระกูล M Performance มีทั้ง M50 XDrive และ XDrive 20D M Sport Pro


BYD Shark 6 รถกระบะพลัก-อิน ไฮบริด วิ่งไฟฟ้าไกลถึง 100 กม. สเปคพวงมาลัยขวา


Chery Fengyun E05 รถต้นแบบซีดานระดับไฮเอนด์ มาพร้อมระบบขับขี่อัจฉริยะระดับสูง


Ford Ranger MS-RT รถกระบะขุมพลัง V6 กำลังสูงสุด 250 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ


Foton eTunland รถกระบะไฟฟ้าขับเคลื่อน 2 ล้อ วิ่งระยะทางสูงสุด 550 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง


Geely EX5 รถเอสยูวีไฟฟ้า 100 % พวงมาลัยขวา วิ่งระยะทางสูงสุด 495 กม. มาตรฐาน NEDC


GWM Tank 700 Hi4-T รถเอสยูวีเรือธง ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าไกล 100 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง มาตรฐาน NEDC


GWM Wey 80 PHEV รถเอมพีวีระดับไฮเอนด์สำหรับครอบครัว หรูหรา สะดวกสบายเหมือนบ้านหลังที่สอง


iCar X25 รถต้นแบบเอสยูวีดีไซจ์นล้ำอนาคต ล้อขนาดใหญ่ ยกสูง เพื่อใช้งานสมบุกสมบัน


Jaecoo J7 PHEV รถเอสยูวี 5 ที่นั่ง ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้า


Kia EV5/EV9 GT-Line AWD รถยนต์ไฟฟ้าผสานเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมห้องโดยสารกว้างขวาง


Leapmotor C10 รถรถเอสยูวีไฟฟ้า 100 % 5 ที่นั่ง วิ่งระยะทางสูงสุด 477 กม. มาตรฐาน NEDC


Lexus LBX Bespoke รถที่ลูกค้าสามารถออกแบบได้เอง ทั้งสีภายนอก ภายใน วัสดุตกแต่ง ฯลฯ


Lotus Eletre Type 79 (Black Gold Edition) สะท้อนความสง่างาม ทรงพลัง ด้วยเอกลักษณ์สีดำทอง


Lotus Emeya Blossom Collection (Limited Edition) รถหรูอันทรงพลัง ผลิตเพียง 88 คันทั่วโลก


Maserati GranTurismo Folgore 110th Edition เครื่องยนต์ไฟฟ้า 100% ผลิตเพียง 110 คันทั่วโลก


Mazda BT-50 ภายนอกใหม่รอบคัน สง่างามตามแนวทาง Kodo design–Soul of Motion


MG IM6 รุ่นพวงมาลัยขวาเป็นครั้งแรกของโลก ชูจุดเด่น The First Ever Intelligent e-SUV


MINI Countryman S ALL4 รถเอสยูวี ขนาดกะทัดรัด สมรรถนะสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ดีไซจ์นสไตล์ MINI


Neta S Shooting Brake รถยนต์สเตชันแวกอน โฉบเฉี่ยว เรียบหรูทันสมัยสไตล์ EREV


Nissan Serena ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว


Omoda C9 รถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดสมรรถนะสูง มีกำลังขับเคลื่อนรวมสูงสุด 618 แรงม้า


Suzuki Jimny Off-Road Edition รถเอสยูวีรุ่นพิเศษ ภายใต้แนวคิด “Born to be Legend”


Toyota GR Corolla รถนำเข้า CBU ญี่ปุ่น เครื่องยนต์ 1.6 Turbo 300 แรงม้า 8AT AWD


Volvo EX90 รถพรีเมียมเอสยูวี 7 ที่นั่ง ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่บุกเบิกยุคใหม่ของความปลอดภัย


Zeekr 001 FR ขับเคลื่อนด้วยพละกำลังสูงถึง 1,300 แรงม้า จาก Silicon Carbide E-Motor 4 ชุด


Zeekr 7X รถเอสยูวีไฟฟ้าสุดพรีเมียม อัดแน่นไปด้วยฟังค์ชันระบบความปลอดภัยขั้นสุด

            นอกจากนั้น ยังมีรถยนต์ที่น่าสนใจ ที่เปิดตัวก่อนหน้า และเข้าร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ดังนี้


Aion V รถเอสยูวีไฟฟ้า 100 % สัมผัส และจองสิทธิ์ก่อนใครในราคาสุดพิเศษในงาน Motor Expo 2024


Audi Q6 e-tron รถเอสยูวีไฟฟ้า100 % ขุมพลัง 322 แรงม้า แบทเตอรี 100 kWh วิ่งไกล 714 กม. มาตรฐาน NEDC♧


Audi Q7 TFSI e ขุมพลังพลัก-อิน ไฮบริด V6 เทอร์โบชาร์จ ขับขี่ไฟฟ้าล้วนไกลสูงสุด 71.1 กม.


BYD Sealion 7 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % พิเศษสุดกับ Early Bird 2024 Motor Expo Campaig


Deepal E07 ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซจ์นล้ำยุค และสมรรถนะที่โดดเด่


GWM Poer Sahar HEV รถกระบะขุมพลังไฮบริดรุ่นแรกในไทย ดีไซจ์นที่โดดเด่นล้ำสมัยลงตัว


Honda HR-V e:HEV รุ่นไมเนอร์เชนจ์ สปอร์ทพรีเมียมทั้งภายนอก และภายใน มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย


Hyundai Palisade รถพรีเมียมเอสยูวี ดีไซจ์นโดดเด่น ตอบโจทย์ในแบบรถครอบครัว


Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE เครื่องยนต์ Maxforce ใหม่ 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวทันเมตร


JY Air รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่จากจีน เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Expo 2024


King Long Dracon กระบะไฟฟ้า มอเตอร์ 120 kW 163 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวทันเมตร


Mazda CX-5 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.0 S, รุ่น 2.0 SP และ ดีเซล เทอร์โบ รุ่น XDL


Mercedes-Benz G450 d เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ระบบ 48V ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น


Mercedes-Benz G580 with EQ Technology รถเอสยูวีไฟฟ้า 100 % มีมอเตอร์ 4 ตัว 587 แรงม้า


Mercedes-Benz V300 รถแวนลักชัวรี 6 ที่นั่ง เหมาะกับการเดินทางที่หรูหราระดับเฟิร์สต์คลาสส์


Mercedes-Maybach EQS 680 SUV รถยนต์ไฟฟ้า 100 % สุดหรู ให้กำลังสูงสุด 658 แรงม้า


Mercedes-Maybach S 580 e รถซีดานระดับลักชัวรี สะท้อนเอกลักษณ์ความสง่างามในแบบ S-Class


MINI Aceman ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% คงเอกลักษณ์ Go-Kart Feeling


Porsche 911 Carrera ดีไซจ์นเฉียบคม เครื่องยนต์บอกเซอร์ ทวินเทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร ทรงพลัง


Porsche Taycan Turbo GT สปอร์ทซีดานพลังงานไฟฟ้า วิ่งไฟฟ้าไกลสูงสุด 555 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง


Toyota Camry รถซีดานขนาดกลาง หรูหรา สมรรถนะเยี่ยม เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 Hybrid 227 แรงม้า


Xpeng X9 รถตู้ไฟฟ้า 100 % แบทเตอรี 101.5 kWh วิ่งได้ไกล 680 กม. มาตรฐาน NEDC


            เชิญชมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี วันนี้-10 ธันวาคม 2567 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล” และ motorexpo.co.th

14
สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยแนะแนวทางแก้ไขปัญหาจากกรณีโครงถักเหล็กถล่ม สู่ข้อเสนอการออกกฎหมายเพื่อควบคุมการก่อสร้างขนาดใหญ่


            จากกรณีโครงถักเหล็กถล่มที่โครงการก่อสร้างพระราม 2 ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เผยว่า ได้ลงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์สาเหตุการวิบัติในทางวิศวกรรม โดยขณะนี้ มีการตั้งสมมุติฐานไว้ 2 แนวทางคือ 1. โครงเหล็กวิบัติที่ตัวโครงเหล็กเอง หรือ 2. ฐานรองรับโครงเหล็กหลุดจากเสา และทำให้โครงเหล็กวิบัติตามมา โดยส่วนตัวให้น้ำหนักไปที่สมมุติฐานข้อที่ 2 นั่นคือ ฐานรองโครงเหล็กหลุดจากเสาก่อน เพราะสามารถอธิบายได้ว่าหลังจากฐานรองรับหลุดแล้ว โครงเหล็กพังถล่มตามลงมาเนื่องจากการกระแทก และการกระชากของชิ้นส่วนที่ห้อยแขวนอยู่ ซึ่งจะอธิบายรูปแบบการวิบัติที่ปรากฏได้ อย่างไรก็ตามทั้งสองข้อข้างต้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้สรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


            ศ.ดร.อมร ให้ความเห็นว่า เหตุการณ์นี้ สะท้อนให้เห็นว่า การก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ ยังเต็มไปด้วยความไม่ปลอดภัย ไม่ว่าต่อคนงานหรือต่อประชาชนที่ต้องใช้ทางสัญจร ปัญหารากเหง้าคือการก่อสร้างโดยใช้โครงเหล็กเลื่อนเป็นงานที่มีความซับซ้อนและต้องใช้วิศวกรรมระดับสูง ที่ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับจะต้องมีความรู้และเข้าใจอย่างแท้จริงถึง ไม่ใช่ปล่อยให้คนงานขึ้นไปทำกันเอง มาตรการที่จำเป็นต้องมีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ควรประกอบด้วย


1. ระยะสั้น ต้องทบทวนมาตรฐานการทำงาน ของโครงการก่อสร้างอื่นทุกโครงการ ที่ใช้โครงเหล็กเลื่อนในการก่อสร้าง ได้แก่ ขั้นตอนการปฏิบัติ รูปแบบการเชื่อมต่อ ความแข็งแรงของโครงเหล็ก ตลอดจนผู้ที่จะไปขึ้นทำงานต้องผ่านการอบรม ทั้งในด้านความปลอดภัยและในด้านการปฏิบัติทางวิศวกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยึดจุดต่อต่างๆ เช่นจุดต่อระหว่างฐานรองกับเสา จุดต่อระหว่างโครงเหล็กกับฐานรอง และอื่นๆ  อีกทั้งต้องเพิ่มความถี่และความเข้มข้นในการตรวจสอบการทำงานด้วย

2. ระยะกลาง-ระยะยาว รัฐควรออกกฎหมายเพื่อควบคุมการก่อสร้างที่ใช้ระบบโครงเหล็กเลื่อน ให้เป็น “การก่อสร้างควบคุม” หรือ “Controlled Construction" โดยควบคุมตั้งแต่วิศวกรที่วางแผนและกำกับการทำงาน หัวหน้าคนงาน ผู้บังคับโครงเหล็กเลื่อน ตลอดจนคนงานที่ขึ้นไปปฏิบัติงาน จะต้องผ่านการอบรมและทดสอบได้รับใบอนุญาต จึงจะขึ้นไปปฏิบัติงานได้ และการขอขึ้นไปปฏิบัติงานแต่ละครั้งต้องจัดให้มีเจ้าพนักงานความปลอดภัยตรวจสอบใบอนุญาตการทำงานเสียก่อน

3. รัฐควรออกระเบียบ ให้ขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาที่ทำงานโครงเหล็กเลื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่มีความรู้หรือไม่ได้ขึ้นทะเบียนมารับงานได้



            นายชูเลิศ จิตเจือจุน อุปนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ปัจจัยรากเหง้าที่เป็นปัญหาพื้นฐานในโครงการก่อสร้างหลายๆแห่ง คือการรับงาน ขายงานต่อกันเป็นทอดๆ จนงบประมาณจำกัด ขั้นตอนและกระบวนการทางวิศวกรรมที่ดี ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูงที่ควรมี จึงโดนตัดออกไป เพื่อให้ลดต้นทุน สุดท้ายการทำงานที่ควรจะคาดหวังกับระบบและขั้นตอนทางวิศวกรรมที่มีความปลอดภัย กลับไปขึ้นอยู่แรงงานแทน ซึ่งหากไม่มีความรู้ความเข้าใจแล้ว ย่อมเป็นบ่อเกิดแห่งหายนะได้เลย

15
แกร่งเกินต้าน! realme C75 มอบฟีเจอร์ทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP69
หนึ่งเดียวในเซกเมนต์ พร้อมเปิดตัว 3 ธันวาคมนี้

เสริมความเชื่อมั่นด้วยการันตีสมาร์ตโฟนที่ผ่านการรับรองในด้านความทนทานรายแรกของอุตสาหกรรม


กรุงเทพฯ – realme แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เผยข้อมูลล่าสุดของมือถือรุ่นใหม่ “realme C75” ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความแข็งแรงที่เหนือชั้นกว่าทุกรุ่น โดยเป็นสมาร์ตโฟนหนึ่งเดียวในเซกเมนต์ที่มาพร้อมกับการกันน้ำและกันฝุ่นในระดับ IP69 และยังเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความทนทานจากสถาบัน TÜV Rheinland อันทรงเกียรติ ตอกย้ำความยืดหยุ่นในการใช้งานที่เหนือกว่ามือถือทุกรุ่นเพื่อให้คุณใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ


realme C75 หนึ่งเดียวในช่วงราคาที่มอบการกันน้ำในระดับ IP69
realme C75 ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ออกแบบมาเพื่อการกันน้ำได้อย่างสูงสุด นับว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นได้รับการกันฝุ่นและกันน้ำเทียบเท่ากับระดับเรือธง โดยมีระดับการป้องกัน IP66, IP68 และ IP69 อย่างเต็มรูปแบบเพื่อมอบการป้องกันรอบด้าน

•   การกันน้ำที่ระดับ IP69 ถือเป็นระดับสูงสุดของการป้องกันฝุ่นและน้ำ สามารถทนต่อการฉีดน้ำที่มีอุณหภูมิสูงและแรงดันสูงจากทั้ง 4 มุมของตัวเครื่อง
•   ความทนทานในการแช่น้ำที่ระดับ IP68 สามารถกันฝุ่นได้เต็มที่และสามารถแช่น้ำได้ในระยะยาว (ลึก 1.5เมตร เป็นเวลา 30นาที)
•   ความทนทานต่อแรงดันน้ำระดับ IP66 มอบการกันฝุ่นได้เต็มที่และทนทานต่อแรงฉีดน้ำที่ทรงพลังจากทุกทิศทาง

นอกจากนี้ ยังเสริมด้วยเทคโนโลยีกันน้ำที่ล้ำสมัย ตั้งแต่ซีลโฟมในตัวและโครงสร้างกันน้ำที่ออกแบบใหม่ไปจนถึงส่วนประกอบการกันน้ำที่ได้รับการอัพเกรด



realme C75 การันตีความทนทานที่เหนือชั้น ด้วยมาตรฐานของสถาบันชั้นนำในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนระดับโลก
realme C75 ผ่านการทดสอบที่เข้มงวดและได้รับการรับรองถึง 3 มาตรฐานชั้นนำ แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการใช้งานอันยอดเยี่ยม

•   ได้รับมาตรฐาน Rugged Smartphone Certificate ของ TÜV Rheinland: C75 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ผ่านมาตรฐานขั้นสูงนี้ ซึ่งต้องถูกทดสอบทั้งการกันน้ำ กันฝุ่น อุณหภูมิแบบสุดขั้ว ความต้านทานการตกหล่น การชนปะทะ และอีกหลายรายการ ซึ่งการันตีถึงความทนทานเป็นเลิศภายใต้สภาวะที่ท้าทายขั้นสุด
•   ผ่านการทดสอบ SGS Military Grade Shock Resistance Test (MIL-STD 810H): ยืนยันความทนทานของ C75 ต่อแรงกระแทกและในสภาวะแวดล้อมที่สุดโหดตามมาตรฐานทางการทหาร

realme C75 สามารถคงประสิทธิภาพการทำงานที่เสถียรและฟังก์ชันที่ยอดเยี่ยมแม้อยู่ภายใต้สภาวะที่เลวร้ายขั้นสุด ทั้งอุณหภูมิสูง ฝุ่น และแรงดันน้ำสูง การนำเสนอมาตรฐานความทนทานในเซกเมนต์ ที่ทุกคนเข้าถึงได้นี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งมอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมของ realme สู่ผู้ใช้งานทั่วโลก

จับตาไว้ให้ดี! พบกับคุณสมบัติความทนทานสุดเอ็กซ์ตรีมของ realme C75 ได้ในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 3 ธันวาคมนี้


ติดตามรายละเอียดรวมถึงข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ จาก realme Thailand ผ่านช่องทาง
Facebook: (https://www.facebook.com/realmeTH)
Instagram: (https://www.instagram.com/realme_thailand)
Tiktok: (https://www.tiktok.com/@realme_thailand)
Twitter: (https://twitter.com/realmeTH)
Youtube: (https://www.youtube.com/@realmeThailandTH)

###

เกี่ยวกับ realme (เรียลมี)

realme บริษัทเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคระดับโลกที่พลิกโฉมตลาดสมาร์ตโฟนด้วยการทำให้เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยนำเสนอสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เทคโนโลยีที่หลากหลายไลฟ์สไตล์ พร้อมสเปค คุณภาพ และการออกแบบที่นำเทรนด์ระดับพรีเมียมให้กับผู้บริโภครุ่นใหม่ realme ก่อตั้งขึ้นโดย Sky Li ในปี 2018 และได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นสมาร์ตโฟน 5 อันดับแรกใน 30 ตลาดทั่วโลกในเวลาเพียง 3 ปี และ realme ได้เข้าสู่ตลาดหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ยุโรป ตะวันออกกลาง ละติน อเมริกา และแอฟริกา และมีฐานผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านราย ในปี 2024 ถือเป็นปีแห่งการรีแบรนด์ realme ด้วยสโลแกนใหม่ “Make it real” ภายใต้จิตวิญญาณที่จะมุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้รุ่นเยาว์มากกว่าเดิม และนำผลประโยชน์ที่แท้จริง ชัดเจน และจับต้องได้มาสู่ชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม www.realme.com

Pages: [1] 2 3 ... 2464