This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
1
news & activity / โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี จับมือ Happy Chemo Club by NUTREPREME ผนึกกำลัง 7 องค์กร
« on: October 08, 2024, 11:27:18 PM »โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี จับมือ Happy Chemo Club by NUTREPREME ผนึกกำลัง 7 องค์กรสุขภาพชั้นนำของไทย ร่วมมือร่วมใจจัดโครงการวันมะเร็งเต้านมโลก “World Breast Cancer Day 2024”
โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ร่วมกับ Happy Chemo Club by NUTREPREME พร้อมผนึกกำลังองค์กรสุขภาพชั้นนำของไทย ได้แก่ สมาคมเวชศาสตร์วิถีชีวิตแห่งประเทศไทย, ชมรมโภชนวิทยามหิดล, บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด, นิตยสารชีวจิต และ บริษัท นิวทรีพรีม จำกัด ร่วมกันจัดกิจกรรมในโครงการวันมะเร็งเต้านมโลก “World Breast Cancer Day 2024” ณ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโรค การรักษา การดูแลสุขภาพกายและใจ วิธีการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้อง การปรับวิถีชีวิตให้เหมาะสม เสริมสร้างความเข้าใจอารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ยอมรับและรับมือกับอารมณ์นั้นได้ และเพื่อให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วย ครอบครัว ตลอดจนผู้ดูแล ให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี รักษาสุขภาพกายและใจเพื่อรับการรักษาโรคตามขั้นตอนการรักษาต่างๆได้อย่างราบรื่น และกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นปกติ หรือถึงแม้จะยังรักษาไม่หายขาดก็สามารถดูแลกายและใจให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ มีความสามารถในการทำงาน และทำประโยชน์เพื่อครอบครัว เพื่อสังคมและประเทศชาติ มีโอกาสประสบความสำเร็จทุกด้านได้ไม่แตกต่างจากคนอื่น
ภายในงานผู้ก่อตั้ง Happy Chemo Club by NUTREPREME พญ.อัญวีณ์ เกียรติอภิพงษ์ ได้ดำเนินรายการเสวนาวิชาการในหัวข้อ “เสริมพลังสตรีไทย ให้ห่างไกลโรคมะเร็งเต้านม” โดย แพทย์หญิง สุรัฐญา ศิริอาชากุล รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี กล่าวว่า ในเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 12 จังหวัด ทางรพ.มีศักยภาพในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วย mammogram/ultrasound โดยในปี 2564-2566 ที่ผ่านมาได้ตรวจได้ปีละกว่า 4,000 ราย และพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่มากกว่า 900 รายต่อปี และยังมีศักยภาพด้านการรักษาด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และทีมแพทย์ยังให้ข้อมูลด้านการรักษาโดยการผ่าตัดว่านอกจากการผ่าตัดส่องกล้องที่ช่วยให้แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว ยังมีเครื่องมือคุณภาพสูง เช่น ICG camera ช่วยในการค้นหาต่อมน้ำเหลืองขณะผ่าตัด, Needle localization ที่ช่วยให้การผ่าตัดก้อนมะเร็งขนาดเล็กที่ไม่สามารถคลำได้ออกมาได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งด้านรังสีรักษายังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากเช่น 3D-CRT, IMRT, VMAT ขณะฉายแสงคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบร้อน มีระบบภาพนำวิถี, และเทคนิค DIBH เพื่อช่วยลดปริมาณรังสีที่หัวใจ
ผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน ยังได้รับความรู้ด้านโภชนาการจาก ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ ประธานชมรมโภชนวิทยามหิดล ไขประเด็นข้อมูลเรื่องอาหารผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับจากโลก social และหัวข้อบรรยายเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็ง โดย รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ นายกสมาคมเวชศาสตร์วิถีชีวิตและสุขภาวะไทย มีทีมพยาบาลสอนท่าออกกำลังกายเพื่อป้องกันข้อไหล่ติดหลังผ่าตัด ในงานนี้บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ สอนการตรวจคลำเต้านมด้วยตัวเอง กิจกรรม Hat from Heart หมวกเพื่อผู้ป่วยที่รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด และยังได้มอบหมวก 200 ใบ และ Balancing Bra และเต้านมเทียมจำนวน 30 ชุด ให้แก่ทางโรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีอีกด้วย
ไม่เพียงแต่การคำนึงถึงสุขภาพกาย กิจกรรมในครั้งนี้ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพจิต โดยทีมงาน Chula CBT นำโดย ภกญ.สุมนมาลย์ หิรัญวัฒนะ ร่วมแบ่งปันวิธีการรู้จักและตามทันอารมณ์ และได้รับความร่วมมือจากนิตยสารชีวจิต โดย คุณวาสนา พลายเล็ก บรรณาธิการบริหาร จัดกิจกรรมปิดท้ายโครงการด้วยศิลปะบำบัด โดย ผศ.โสภา อ่อนโอภาส นักศิลปะบำบัดและนักวิชาการสังคมสงเคราะห์ สร้างความประทับใจที่เต็มไปด้วยความรู้และแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยและผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีแนวคิด “สัญญา” (Promise) ซึ่งผู้จัดทั้ง 7 องค์กรสุขภาพร่วมกันให้คำมั่นในการส่งเสริมความรู้และมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ผู้ป่วยอย่างเต็มศักยภาพ และยังมุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยมะเร็งได้ให้สัญญากับตัวเองว่าจะดูแลสุขภาพกายใจ และมีกำลังใจเพื่อกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ เพื่อครอบครัว สังคมและประเทศชาติต่อไป
2
Sport News & Motor Sport / โปรกอล์ฟไทยหวังลุ้นแชมป์ในบ้านศึก “อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์” สองแมทช์สองสัปดาห์
« on: October 08, 2024, 10:30:46 PM »โปรกอล์ฟไทยหวังลุ้นแชมป์ในบ้านศึก “อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์” สองแมทช์สองสัปดาห์ติดต่อกัน
สดมภ์ แก้วกาญจนา
เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์
สาริศ สุวรรณรัตน์
8 ตุลาคม 2567 - เหล่าโปรกอล์ฟหนุ่มไทยหวังลุ้นแชมป์ในศึกเอเชียนทัวร์ 2 แมทช์ใหญ่ติดต่อกันกับรายการ แบล็ค เมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ และอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งนับเป็นรายการที่ 5 และ 6 ของอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ ที่จัดขึ้นในประเทศไทยปีนี้ เพื่อปูทางเข้าสู่การแข่งขันลิฟกอล์ฟ ลีก ต่อไป (ภาพ: Asian Tour)
กอล์ฟรายการแบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ เป็นทัวร์นาเมนท์ใหม่ของศึกอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ กำหนดจัดขึ้นที่สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ หัวหิน ระหว่างวันที่ 17 - 20 ตุลาคมนี้ ต่อด้วยรายการ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 3 ปีนี้ย้ายไปแข่งขันที่สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคมนี้ โดยมีโปรกอล์ฟชื่อดังระดับโลกและเอเชียนทัวร์ร่วมชิงชัย 144 คน นำโดย พอล เคซีย์ อดีตมือ 3 ของโลกชาวอังกฤษ จากลิฟกอล์ฟลีก, จอห์น แคทลิน และเบน แคมพ์เบลล์ จ่าฝูงและรองจ่าฝูงของตารางคะแนนสะสม อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง
ในส่วนของนักกอล์ฟไทยล่าสุด สดมภ์ แก้วกาญจนา กำลังรั้งอันดับ 11 ในตารางคะแนนสะสม อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง จากผลงานเข้าป้ายอันดับ 4 ในรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ อิงแลนด์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตามด้วย เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ ที่คว้าแชมป์ 3 รายการติดต่อกันในสามทัวร์เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว รั้งอันดับ 24 ของตาราง และสาริศ สุวรรณรัตน์ อดีตแชมป์วอลโว่ ไชนา โอเพ่น ปีที่แล้ว อยู่ในอันดับ 30 จากผลงานอันดับ 14 ร่วมในรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โอมาน ซึ่งเป็นผลงานดีที่สุดของสาริศในฤดูกาลนี้
สดมภ์ แก้วกาญจนา นักกอล์ฟวัย 26 ปี ดีกรีแชมป์เอเชียนทัวร์ 2 รายการ เผยรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลงแข่งขันกอล์ฟ 2 แมทช์ใหญ่ติดต่อกันที่ไทย โดยระบุว่า “การมีทัวร์นานาเมนท์ใหญ่ติดต่อกันที่ไทยในปีนี้เป็นเรื่องน่ายินดีและนับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ลงแข่งขันต่อหน้าแฟนกีฬากอล์ฟชาวไทยในบ้าน รวมถึงครอบครัวของผมที่จะมาให้กำลังใจผมในสนามด้วย และการได้เห็นธงชาติไทยบนลีดเดอร์บอร์ดเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเสมอ และจะดียิ่งขึ้นไปอีกหากนักกอล์ฟไทยสามารถคว้าแชมป์ในบ้านได้ ”
สดมภ์ กล่าวต่ออีกว่า “การแข่งขันในปีนี้จะเข้มข้นสูสียิ่งขึ้นเพราะมีนักกอล์ฟจากลิฟ กอล์ฟ ลีก ร่วมแข่งขันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีและเป็นประสบการณ์ยอดเยี่ยมสำหรับนักกอล์ฟไทยที่จะได้ลงเล่นร่วมกับนักกอล์ฟระดับแถวหน้าของโลก และในระยะยาว การมีโปรกอล์ฟชื่อดังเข้าร่วมแข่งขันในเอเชียนทัวร์จะช่วยพัฒนาและทำให้กีฬากอล์ฟในเอเชียเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มโอกาส เพิ่มเวทีการแข่งขันให้กับนักกอล์ฟเอเชียมากยิ่งขึ้นด้วย”
ด้านเด่นวิทย์ บริบูรณ์ทรัพย์ ที่คว้าแชมป์เอเชียนทัวร์รายการ ซาอุดิ โอเพ่น พรีเซนเต็ดบาย พีเอฟไอ ในปี 2023 เผยว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันที่จะได้ลงแข่งขันรายการใหญ่ติดต่อกันที่ไทยในฤดูกาลนี้ การแข่งขันสองทัวร์นาเมนท์ในบ้านถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผมและนักกอล์ฟไทยคนอื่นๆ พวกเราทุกคนมีโอกาสใช้ความได้เปรียบในเรื่องของความคุ้นเคยกับสนามและสภาพบรรยากาศต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยให้เราทำผลงานได้ดีที่สุด ขณะเดียวกันการลงเล่นต่อหน้าแฟนกอล์ฟชาวไทยในบ้านก็ช่วยเป็นแรงผลักดันที่สำคัญ ผมเฝ้ารอความท้าทายที่กำลังจะมาถึง”
ส่วนสาริศ สุวรรณรัตน์ ที่เคยคว้าแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ มาแล้ว 2 รายการ ในศึกบีเอ็นไอ อินโดนีเซียน มาสเตอร์ส ปี 2022 และวอลโว่ ไชน่า โอเพ่น ปี 2023 กล่าวว่า “อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ในเวทีเอเชียนทัวร์แข็งแกร่งขึ้นทุกปี สกอร์ผ่านตัดตัวสูงขึ้นทุกปี และผู้ที่คว้าแชมป์ก็ทำสกอร์รวมค่อนข้างต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผู้เล่นจากลิฟ กอล์ฟ ลีก รวมถึงนักกอล์ฟจากทุกประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมแข่งขันมากขึ้น ปัจจุบันนักกอล์ฟจากเอเชียนทัวร์ สามารถแข่งขันกับนักกอล์ฟฝีมือดีของโลกได้ ซึ่งเป็นผลดีกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นักกอล์ฟทุกคนล้วนต้องการคว้าแชมป์ แต่จะดีมากหากนักกอล์ฟไทยทำสำเร็จ”
ขณะที่ พชร คงวัดใหม่ ตัวแทนทีมชาติไทยในการแข่งขันกอล์ฟโอลิมปิกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และได้รองแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ เมื่อสองปีก่อน เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามองในปีนี้ เช่นเดียวกับ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ และสุรดิษ ยงค์เจริญชัย สองโปรกอล์ฟฝีมือดีของไทยที่ทำผลงานจบใน 10 อันดับแรกในรายการลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ซึ่งจัดครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ทั้งสองคนได้สิทธิ์ร่วมแข่งขันรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ทั้ง 10 รายการในฤดูกาลนี้
ส่วน โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ เจ้าของแชมป์เอเชียนทัวร์ 7 รายการ และครองมือหนึ่งเอเชียนทัวร์เมื่อปี 2019 เป็นอีกหนึ่งโปรดังความหวังของไทย รวมถึง นิติธร ทิพย์พงษ์ แชมป์อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ สิงคโปร์ ปี 2022
นอกจากนี้ยังมี สุธีพัทธ์ ประทีปเธียรชัย ที่ฟอร์มกำลังมาแรงและเป็นนักกอล์ฟไทยที่กำลังรั้งอันดับดีสุดในตารางคะแนนสะสมเอเชียนทัวร์ หรือเอเชียนทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต อยู่ที่อันดับ 8 จากผลงานคว้าแชมป์รายการหยางเต๋อ ทีพีซี ที่ไต้หวัน ด้วยการออกนำแบบม้วนเดียวจบเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และชลทิตย์ ชื่นบุญงาม อันดับ 17 ของเอเชียนทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต โดยเมื่อปีที่แล้ว ชลทิตย์ ได้รองแชมป์รายการอินเตอร์ชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ พ่ายต่อเวด ออร์มสบี้ จอมเก๋าจากออสเตรเลียอย่างเฉียดฉิวในการดวลเพลย์ออฟหลุมแรกที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟคลับ หัวหิน รวมถึงปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ รองแชมป์เมอร์คิวรีส์ ไต้หวัน มาสเตอร์ส เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
แฟนกอล์ฟสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันรายการ แบล็ค เมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ ได้ทาง https://www.tixr.com/groups/blackmountainchampionship/events/black-mountain-championship-116707 และรายการอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ได้ที่ https://www.tixr.com/groups/int-series-thailand/events/international-series-thailand-116961
ติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ได้ที่เว็บไซต์ www.internationalseries.com
3
news & activity / “บ้านปางยางปรับวิถี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่การคืนผืนป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว”
« on: October 08, 2024, 10:05:29 PM »“บ้านปางยางปรับวิถี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่การคืนผืนป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว”
บ้านปางยาง อ.ปัว จ.น่าน มีชนเผ่าลัวะ 61 ครัวเรือน 279 คน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำย่างของแม่น้ำน่าน ที่หล่อเลี้ยงประชากร พื้นที่ 2 อำเภอ คือ ปัวและท่าวังผา ซึ่งอยู่ห่างไกลทุรกันดาร การเข้าถึงบริการพื้นฐานของภาครัฐยากลำบาก มีอาชีพปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และปลูกข้าวไร่หมุนเวียนแต่มีรายได้น้อย ชาวบ้านมีฐานะยากจน ขาดความรู้และทางเลือกในการประกอบอาชีพ ต้องขยายพื้นที่เพาะปลูกเพื่อให้มีรายได้พอใช้จ่ายในครัวเรือน ในการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกยังคงใช้ไฟเผาช่วยด้วยซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย ใช้แรงงานคนน้อย ประกอบกับใช้สารเคมีมาก เพื่อช่วยในการกำจัดวัชพืชและเศษวัสดุจากการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก ทำให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า
นายเอกรัตน์ จริยา หัวหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางยาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. กล่าวว่า โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางยาง ดำเนินการส่งเสริมอาชีพด้วยความรู้ตามแนวทางโครงการหลวง โดยเน้นส่งเสริมการปลูกพืชที่ใช้พื้นที่น้อย ให้ผลตอบแทนสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดทำแผนที่ดินรายแปลง เพื่อกำหนดขอบเขตที่ดินทำกินไม่ให้รุกเข้าไปในเขตป่าต้นน้ำ เพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้อย่างพอเพียงและมีความมั่นคงด้านอาหาร ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ชุมชนปางยางเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เกิดการปรับระบบการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยร้อยละ 80-95 รายได้อยู่ระหว่าง 100,000-250,000 บาท/ครัวเรือน/ปี และมีความมั่นคงด้านอาหารได้ผลผลิตเฉลี่ย 500-600 กิโลกรัม/ไร่ เพียงพอต่อการบริโภคในครอบครัวตลอดทั้งปี แก้ไขปัญหาการขาดความมั่นคงด้านอาหาร และคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีการรวมกลุ่มรายกิจกรรม 8 กลุ่มย่อย ที่มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ โดยมีผู้นำเกษตรกร 25 คนที่มีศักยภาพในการถ่ายทอดและขยายองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรอื่น ความเชื่อมั่นต่อแนวทางโครงการหลวง ตามที่ สวพส. ส่งเสริมช่วยเหลือเรื่องความมั่นคงอาหารและพัฒนาด้านอาชีพ ทั้งการ การปลูกไม้ผล (อาโวคาโด ทุเรียน) ปลูกพืชในโรงเรือน ยอมปรับการปลูกพืชที่ใช้พื้นที่น้อย แต่ได้ผลตอบแทนสูง ทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น นอกจากนี้ ชุมชนสามารถคืนพื้นที่ทำการเกษตรให้เป็นพื้นที่ป่า จำนวน 241 ไร่ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยไม้ผลยืนต้นกว่า 500 ไร่
นายพจน์ อินปา เกษตรกรผู้นำในโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางยาง อ.ปัว จ.น่าน กล่าวว่า เมื่อก่อนบ้านปางยาง มีการปลูกข้าวไร่เพื่อบริโภคในครัวเรือน โดยมีการทำไร่หมุนเวียน 5 รอบการหมุนเวียน ซึ่ง 1 ครัวเรือนจะใช้พื้นที่อย่างน้อย 10 ไร่ เพื่อปลูกข้าวไร่ให้เพียงพอต่อการบริโภคทั้งปี และรายได้หลักมาจากการประกอบอาชีพภาคเกษตรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การปลูกข้าวโพดในพื้นที่บ้านปางยางนั้นเป็นพื้นที่ลาดชันจึงทำให้ผลผลิตข้าวโพดน้อยเกษตรกรจึงมีการถางป่าเพื่อปลูกข้าวโพดมากขึ้น 1 ครัวเรือนจะใช้พื้นที่ปลูกข้าวโพด 50 ไร่จึงจะเพียงพอต่อรายได้ เนื่องจากปัจจุบันประสบปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำ ต่อมา สวพส. เข้าดำเนินงานในพื้นที่และนำองค์ความรู้โครงการหลวงเข้ามาเปลี่ยนจากการปลูกข้าวไร่ ปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวนาขั้นบันไดจึงทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มมากขึ้นและทำในพื้นที่นาได้ตลอดทั้งปีจึงไม่จำเป็นต้องไปทำไร่หมุนเวียนเพื่อปลูกข้าวไร่อีก และยังมีการส่งเสริมการปลูกอะโวคาโดเพื่อสร้างรายได้ระยะยาว จากการปลูกอาโวคาโดในพื้นที่ 4 ไร่ 256 ต้น มีรายได้ 180,000 บาทต่อปี นอกจากไม้ผลแล้วยังมีรายได้จากการทำพืชในโรงเรือน ปลูกพริกหวาน มะเขือเทศเชอรี่ และผักกาดขาวปลีเพื่อหมุนเวียนได้ตลอดทั้งปี ทำให้มีรายได้จากการทำพืชในโรงเรือน 300,000 บาทต่อปี ซึ่งใช้พื้นที่เพียง 1 ไร่ จึงทำให้ลดการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลดลง
4
news & activity / น้ำแร่ธรรมชาติตราช้างร่วมกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เตรียมเปิดเวที“Movie On The Hill
« on: October 08, 2024, 09:40:19 PM »น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ร่วมกับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เตรียมเปิดเวที
“Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน...รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน
“Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน...รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน
นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) และ นายณรัชฎ์ วัชรเพชร์ ผู้จัดการอาวุโสผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง พร้อมด้วยพันธมิตรชั้นนำ ร่วมพาเปิดประสบการณ์ดูหนัง ชมคอนเสิร์ต ท่ามกลางขุนเขากับบรรยากาศความสนุกสุดฟิน ในงาน “Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน…รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน คอนเสิร์ตที่คัดสรรศิลปินชื่อดัง และกิจกรรมมาต้อนรับเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ จัดที่ไร่ทองสมบูรณ์คลับ เขาใหญ่ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2024 นับถอยหลังสู่ความสนุก เตรียมร่างกายให้พร้อมรับความบันเทิงกับแก๊งค์เพื่อนสุดซี้ และลุ้นเข้าร่วมงานแบบฟรีๆได้ที่ www.facebook.com/MEbyMajorCineAd และ www.facebook.com/ChangWorld
###
จากซ้ายไปขวา
1.นายวิปกรณ์กริช พลเจริญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทองสมบูรณ์ คลับ จำกัด
2.นางสาวนาตยา ถาปนะกุล ผู้จัดการส่วน ฝ่ายการตลาด บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) : ฟาร์มเฮ้าส์
3.นางสาวชุติมณฑน์ สวาสดิ์รัตน์ ตัวแทนแบรนด์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน)
4.นายณรัชฎ์ วัชรเพชร์ ผู้จัดการอาวุโส ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง
5.นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)
6.ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)
7.นาง ประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
8.นางสาวธัญพร เลิศวรรณเอก Product Manager บริษัท ที แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Propoliz Mouth Spray
9.นายณัฐพงศ์ ชาญอภิชัยกิจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
10. Mr. Quefei ผู้อำนวยการฝ่ายขาย (Sales Director) บริษัท ชาชา ฟู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด
5
news & activity / น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง จับมือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ Presents “Movie On The Hill
« on: October 08, 2024, 09:28:24 PM »น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง จับมือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ Presents
“Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน...รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน
เปิดเวทีคอนเสิร์ตท่ามกลางขุนเขาแห่งความสนุก
“Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน...รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน
เปิดเวทีคอนเสิร์ตท่ามกลางขุนเขาแห่งความสนุก
กรุงเทพฯ – “น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร พร้อมพันธมิตรชั้นนำ ชวนแท็กก๊วนเพื่อนสุดซี๊ด ไปดูหนัง พร้อมแดนซ์กระจายไปกับศิลปินชื่อดัง ท่ามกลางบรรยากาศสุดฟินส์ของธรรมชาติ ในงาน “Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน...รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน คอนเสิร์ตที่จะพาคุณและแก๊งค์เพื่อนมาปล่อยจอยผ่านเสียงเพลง จัดเต็มกับกิจกรรมความสนุกสุดฟิน ที่ไร่ทองสมบูรณ์คลับ เขาใหญ่ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2024 เปิดเข้าพื้นที่ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน...รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน ได้จัดกิจกรรมในคอนเซ็ปต์สไตล์แคมปิ้งท่ามกลางขุนเขา ให้ผู้มาร่วมงานได้ ดูหนัง รับประทานอาหารพร้อมเครื่องดื่ม ต่อด้วยการชมคอนเสิร์ต ร่วมเต้นไปกับจังหวะเพลงจากศิลปินที่ชื่นชอบ พร้อมแก็งค์เพื่อนที่รู้ใจท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่มาเติมเต็มคำว่าเพื่อน ไปกับเหล่าศิลปินนักร้องชื่อดัง อาทิ JOEY BOY (โจอี้ บอย), POP + WAN (ป๊อป + ว่าน), PAPER PLANES (เปเปอร์ เพลนส์), THE TOYS (เดอะทอยส์), LAXY LOXY (เลซี ล็อกซี) และ BEN CHALATIT (เบน ชลาทิศ) พร้อมสนุกแบบไม่มีสะดุดกับ DJ EDM ชื่อดังสุดเฟี้ยว บนเวทีคอนเสิร์ต และจอหนัง ท่ามกลางการโอบล้อมด้วยบรรยากาศกลางขุนเขาแห่งธรรมชาติ
คอนเสิร์ต “Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน...รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน ทาง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป และ “น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” ร่วมผนึกพันธมิตร อาทิ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน), บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) : ผลิตภัณฑ์มาม่า, บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) : ฟาร์มเฮ้าส์, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) : AIS, บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด มหาชน : KTC, บริษัท ที แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Propoliz Mouth Spray,บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด : LG, บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด,บริษัท ชาชา ฟู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท ทองสมบูรณ์ คลับ จำกัด คัดสรรความสนุกแบบ 360 องศา ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในงาน ทั้งเกมลุ้นรับของรางวัลพิเศษหลากหลายรูปแบบจากบูธผู้สนับสนุนและกิจกรรมแอดเวนเจอร์ภายในพื้นที่คอนเสิร์ต ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ความสุข ความบันเทิง แบบยกก๊วนเพื่อน
โดยกิจกรรมนี้คาดการว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 10,000 คน เพราะนอกจากจะสร้างความบันเทิงให้ผู้ที่มาเข้าชมแล้ว ยังเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยว สร้างความคึกคักให้ตลาดท่องเที่ยวทั้งในด้านภาคธุรกิจโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ชุมชน และอีกมากมายรวมถึงพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง โดยถือเป็นการต้อนรับเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการอีกด้วย”ง
นับถอยหลังสู่ความสนุก เตรียมร่างกายให้พร้อมรับความบันเทิง แล้วยกขบวนเพื่อนๆมาส่งมอบรอยยิ้มแห่งความสุข ในงาน “Movie On The Hill ครั้งที่ 5” ตอน...รอบ กอง FRIEND กาง เต้น นอน ติดตามรายละเอียดการรับบัตรเข้างานฟรี (โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น) ได้ที่ www.facebook.com/MEbyMajorCineAd และ www.facebook.com/ChangWorld
6
ข่าวบันเทิง / ระเบิดความสนุก 2 ภาครวด กับ “ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน” ที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24
« on: October 08, 2024, 08:47:58 PM »ระเบิดความสนุก 2 ภาครวด กับ “ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน” ที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24
หากใครเป็นแฟนหนังซูเปอร์ฮีโร่ แน่นอนว่าต้องรู้จักสไปเดอร์แมน แห่งจักรวาลมาร์เวล โดยเฉพาะ ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน ที่ฉายภาคแรกในปี 2012 ซึ่งเล่าเรื่องราวการค้นพบพลังพิเศษของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หลังจากถูกแมงมุมกัมมันตรังสีกัด ทำให้เขาได้รับพลังพิเศษและสามารถต่อสู้กับเหล่าวายร้ายเพื่อปกป้องเมืองได้ ภาพยนตร์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชมทั่วโลก จนต้องสร้างภาค 2 ที่มาพร้อมกับเรื่องราวที่เข้มข้นกว่าเดิมและฉากแอคชั่นอันทรงพลัง เตรียมชมภาค 1-2 ในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทาง https://true4u.com/live
เริ่มความสนุกด้วย ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน (2012) ที่จะออกอากาศเวลา 12.30 น. พบกับหนุ่มน้อย ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ที่ถูกพ่อแม่ถอดทิ้งไปตั้งแต่วัยเยาว์ เขาเติบโตมาโดยการดูแลของลุงเบนและป้าเมย์ ปีเตอร์เป็นวัยรุ่นที่พยายามค้นหาอดีตและตัวตนของเขา จนมาพบกระเป๋าใบหนึ่ง ซึ่งมีความลับซ่อนอยู่ ทำให้เขาเข้าใจเหตุผลที่พ่อแม่หายตัวไป และนำพาเขาไปพบกับ ดร.เคิร์ท คอนเนอร์ส (ไรส์ ไอฟานส์) อดีตเพื่อนร่วมงานของพ่อที่กลายเป็นวายร้าย เดอะลิซาร์ด ซึ่งเปลี่ยนชีวิตของปีเตอร์ไปตลอดกาล ต่อด้วยความมันส์ของ ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน 2 (2014) ออกอากาศเวลา 14.55 น. จะเป็นอย่างไร ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ต้องรับมือกับการเป็นสไปเดอร์แมน และการใช้เวลาอยู่กับคนที่เขารัก เกวน สเตซี่ (เอ็มมา สโตน) ในขณะที่วันจบการศึกษาของเขากำลังใกล้เข้ามา ปีเตอร์ยังคงพยายามรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อของเกวนว่าจะอยู่ห่างจากเธอเพื่อความปลอดภัย แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อ อีเล็คโตร (เจมี่ ฟ็อกซ์) วายร้ายใหม่ปรากฏตัว
7
news & activity / SCGD เผยแผนธุรกิจระยะยาว ลุยตลาดอาเซียนเติบโตสูง มั่นใจรายได้ตามเป้า โต 2 เท่า
« on: October 08, 2024, 07:00:40 PM »SCGD เผยแผนธุรกิจระยะยาว ลุยตลาดอาเซียนเติบโตสูง มั่นใจรายได้ตามเป้า โต 2 เท่าในปี 2030
งบฯ ลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท ขยายโรงงานกระเบื้อง สุขภัณฑ์ เพิ่มช่องทางจำหน่าย
พร้อมลดต้นทุน ใช้ออโตเมชั่น พลังงานสะอาด
งบฯ ลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท ขยายโรงงานกระเบื้อง สุขภัณฑ์ เพิ่มช่องทางจำหน่าย
พร้อมลดต้นทุน ใช้ออโตเมชั่น พลังงานสะอาด
(กรุงเทพฯ : 8 ตุลาคม 2567) SCGD เผยแผนรุกธุรกิจระยะยาว เสริมแกร่งยิ่งขึ้น รายได้โต 2 เท่าตามเป้าในปี 2030 ใช้ข้อได้เปรียบด้านวิจัย พัฒนานวัตกรรมสินค้าคุณภาพเยี่ยม ผลิตต้นทุนต่ำ ช่องทางจำหน่ายหลากหลายใน 4 ประเทศหลัก ไทย-เวียดนาม-ฟิลิปปินส์-อินโดฯ ครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ใน ประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ตั้งงบฯ ลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาทรวม Merger and Partnership เร่งเครื่องเพิ่มโรงงานกระเบื้อง สุขภัณฑ์ในเวียดนาม รองรับตลาดภูมิภาคดีมานด์พุ่ง พัฒนา และออกสินค้าใหม่ตามเทรนด์ตลาด เสิร์ฟนวัตกรรมสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง (Complementary) มาแรง โดนใจลูกค้า อาทิ ปูนกาวยาแนว ท็อปเคาน์เตอร์ครัว บานประตูหน้าต่าง พร้อมขับเคลื่อนกลยุทธ์กรีน รักษ์โลกและลดต้นทุน ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพร้อยละ 46 พลังงานแสงอาทิตย์ร้อยละ 15 ในปี 2030 ตั้งเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ปี 2050
นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCG Decor (SCGD) กล่าวว่า “ในระยะยาว เศรษฐกิจอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตสูง คาดการณ์ว่า ธุรกิจวัสดุปิดผิว ธุรกิจสุขภัณฑ์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องโดยรวม โตกว่า 4 % จากคาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP อัตราการเติบโตของประชากร หรือแม้กระทั่งการขยายตัวของเมืองในแต่ละประเทศ ที่จะมีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างมากขึ้น SCGD ผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนจึงเร่งปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้โตต่อเนื่อง เน้นใช้จุดแข็งที่มีฐานการผลิตใน 4 ประเทศหลัก ได้แก่ ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางด้านวิจัย พัฒนานวัตกรรม นำร่องสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added Product) มีดีไซน์สวยงาม คุ้มค่าการใช้งาน อย่างวัสดุปูพื้น SPC LT by COTTO ลายไม้ธรรมชาติ ส่วน ประเทศเวียดนาม เป็นฐานการผลิตสำคัญลำดับถัดไป (Strategic Production Hubs) ของอาเซียน เนื่องจากมีความได้เปรียบเรื่องต้นทุน สามารถแข่งขันราคากับสินค้าจากประเทศจีน รองรับการส่งออกในอนาคต ในขณะที่ ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศอินโดนีเซีย เป็นตลาดที่มีประชากรสูง พร้อมรับการกระจายสินค้าผ่านการขยายช่องทางการจำหน่าย โดยในแต่ละประเทศมีแบรนด์ชั้นนำ ลูกค้าให้การยอมรับ ได้แก่ แบรนด์ COTTO SOSUCO CAMPANA ในไทย แบรนด์ PRIME และ PREMIER ในเวียดนาม แบรนด์ MARIWASA ในฟิลิปปินส์ แบรนด์ KIA ในอินโดนีเซีย
SCGD จัดทัพธุรกิจเพื่อความแข็งแกร่งตลอดมา มั่นใจใน แผนธุรกิจเชิงรุกที่เน้นโตตอบเทรนด์โลก ผลักดันราคาขาย ผ่านการเป็นผู้นำเทรนด์ เสริฟสินค้านวัตกรรมมูลค่าเพิ่มสูง ที่คุ้มค่าตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ เช่น “Smart Flexible by COTTO หรือ LT by COTTO” นวัตกรรมวัสดุปูพื้น SPC ที่ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก ป้องกันปลวก ป้องกันน้ำ 100% ลวดลายสวยงาม สัมผัสเสมือนธรรมชาติ ขณะเดียวกันยังพัฒนากระบวนการผลิตให้ลดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีกระบวนการเผาทำให้ไม่มีการปล่อย CO2 เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เปิดไลน์การผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนขนาดใหญ่ที่ประเทศเวียดนามและไทย เนื่องจากตลาดมีการเติบโตสูง ปลายปี 2024 มีกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนกว่า 14 ล้านตารางเมตร อีกทั้งโครงการลดต้นทุนที่ยังทำอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ และพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อต้นทุนการผลิตที่ลดลง
ส่วนแผนระยะยาว (ปี 2025-2030) เน้นโตอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน และลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่า ตามเป้าที่ตั้งไว้ภายในปี 2030 เตรียมงบประมาณเพื่อโครงการลงทุน (Merger and Partnership) กว่า 7,000 ล้านบาท สำหรับโรงงานผลิตกระเบื้อง สุขภัณฑ์ในประเทศเวียดนาม และขยายสินค้าที่เกี่ยวข้อง (Complementary) ขณะเดียวกันได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุน (CAPEX) กว่า 13,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด พัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รองรับความต้องการของตลาด เช่น การตั้งโรงงานผลิตกระเบื้องทางภาคใต้ของประเทศเวียดนาม เพิ่มสมรรถนะโรงงานกระเบื้องแต่เดิม และเพิ่มสัดส่วนการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนขนาดใหญ่จากร้อยละ 20 ในปี 2024 ของปริมาณการผลิตทั้งหมดเป็นร้อยละ 50 ภายในปี 2030 ติดตั้ง Hot Air Generator การใช้ชีวมวล หรือ Biomass เพื่อมาผลิตลมร้อน แทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิต และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อทดแทนการใช้ไฟฟ้าในการผลิตเพิ่มเติม เพื่อเสริมความสามารถการแข่งขันให้โดดเด่นขึ้น อีกทั้งแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องทั่วอาเซียน ทั้งช่องทางการจำหน่ายของบริษัทฯ หรือ Manufacturing Outlet และการเพิ่มร้านค้าพันธมิตร ปัจจุบัน SCGD มีร้านค้าตัวแทนจำหน่าย (Dealer) กว่า 800 ราย ร้านค้าช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัท เช่น COTTO LiFE คลังเซรามิคในประเทศไทย และร้านในต่างประเทศ ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร (Modern Trade) เช่น ร้าน HomePro, ไทวัสดุ, Dohome, SCG HOME บุญถาวร, Global House ในประเทศไทย ร้าน Wilcon Depot, All home ในฟิลิปปินส์ และร้าน Mitra10, Depo Bangunan ในอินโดนีเซีย มั่นใจสามารถรักษาความเป็นผู้นำแบรนด์สินค้าสุขภัณฑ์และวัสดุปิดผิว และครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่ง รวมทั้งเป็น 1 ใน 3 ผู้นำตลาดกลุ่มสุขภัณฑ์ และสินค้าเกี่ยวเนื่อง (Complementary) ของอาเซียน
“บริษัทฯ มุ่งมั่นรักษาความเป็นผู้นำในสินค้าวัสดุตกแต่งพื้นผิว โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา นักออกแบบมืออาชีพ และนักการตลาดชั้นนำร่วมกันระดมสมองพัฒนานวัตกรรมสินค้า โซลูชัน ตอบเทรนด์โลกเพื่อรุกตลาดใหม่ ๆ อยู่เสมอ ขณะเดียวกันยังเตรียมกลยุทธ์ตั้งรับสินค้านำเข้าด้วยการใช้ความได้เปรียบด้านต้นทุนของฐานการผลิตที่ประเทศเวียดนาม รวมทั้งคัดสรรสินค้านำเข้าคุณภาพดีจากทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์” นายนำพลกล่าว
8
ข่าวบันเทิง / "ครั้งสุดท้าย" นิว-ชนะพล เขียนมาจากชีวิตของตัวเอง
« on: October 08, 2024, 12:14:07 PM »ครั้งสุดท้าย นิว-ชนะพล
เพลงนี้เขียนมาจากชีวิตของตัวผมเองเป็นเพลงแรกที่ผมขึ้นมาเป็นตำแหน่งร้องซึ่งก่อนหน้านี้ผมเล่นเป็นมือกีตาร์กลางคืนและเล่นแบล็คอัพความผิดหวังในอดีตมันฝังอยู่ในใจ ผมเขียนเพลงนี้เพื่ออยากให้เป็นคำตอบของใครหลายๆคน ถ้าการยื้อความรักแล้วทำให้อีกคนต้องเสียใจ อย่ากลับมาเลยดีกว่า ปล่อยให้มันเจ็บแบบนี้แหละ เราเข้าใจ นี้คือใจความของเพลงที่ผมสื่อออกไป
ตัวเพลงในส่วนของดนตรี ผมได้พี่ไก่Alzheimer อดีตมือกลองbaby bull มาอัดในส่วนของกลอง และพี่เอ็มนักร้องปัจจุบันของ Alzheimerได้มาดูเรื่อง Mixing&Mastering เบสได้มือปืนห้องอัดพี่ Bob Maley EQ ผมเองอัดกีตาร์ ห้องที่ใช้อัด Recording at Mempassion Studio , Medee Studio
เพลงนี้ผมตั้งใจทำมากและอยากให้ทุกคนได้ฟังครับ
9
news & activity / “ผู้ใหญ่แบงค์” ล้มแชมป์เก่า นั่ง “นายก อบจ.ระนอง” คนใหม่!!
« on: October 08, 2024, 11:56:36 AM » นับคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.ระนอง ท่ามกลางฝนที่ตกตลอดทั้งวัน ส่งผลจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ไม่เป็นไปตามคาด
วันนี้ (6 ต.ค. 67) เวลา 17.00 น. หน่วยเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้ปิดหีบลงคะแนน และทำการนับคะแนน ภาพรวมผู้มาลงคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.ระนองในวันนี้ค่อนข้างบางตาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเมืองระนอง เนื่องมาจากมีฝนตกเป็นระยะตลอดทั้งวัน
ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน ประธาน กต.อบจ.ระนอง กล่าวว่า ภาพรวมการเลือกตั้งในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยตลอดทั้งวันมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ซึ่งเป็นเหตุให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ จากเดิมคาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ราว 60 % แต่ในครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์ราว 50 % เศษ
การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการทั้งหมด 225 หน่วย หมายเลข 1 นายธนกร บริสุทธิญาณี ได้ 24,830 คะแนน หมายเลข 2 นายสีหราช สรรพกุล ได้ 34,420 คะแนน หมายเลข 3 น.ส.คุณัญญา ส่องสมุทร ได้ 3,095 คะแนน ส่งผลให้นายสีหราช สรรพกุล จากทีมระนองก้าวหน้า ซึ่งมีแรงสนับสนุนจาก นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง คว้าตำแหน่ง นายก อบจ.ระนอง อย่างไม่เป็นทางการ
ทางด้านที่ทำการของทีมระนองก้าวหน้า มีผู้คนเดินทางมาแสดงความยินดีและให้กำลังใจ นายสีหราช สรรพกุล หรือ ผู้ใหญ่แบงค์ โดยเจ้าตัวกล่าวขอบคุณชาวระนอง และให้คำมั่นว่าจะพัฒนา จ.ระนองแก้ไขปัญหา พร้อมขอบคุณทีมระนองก้าวหน้า ขอบคุณหัวหน้าทีม นายบดินทร์ ฉัตรมาลีรัตน์ หรือ นายฮั้งเพ้ง อดีตนายก อบจ.ระนอง 2 สมัยให้การสนับสนุน ขอบคุณ นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย ที่ได้สนับสนุน
ทีมข่าวเดลิมิเร่อร์ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ
#ผู้ใหญ่แบงค์ #ระนองก้าวหน้า #อบจระนอง #ระนอง
วันนี้ (6 ต.ค. 67) เวลา 17.00 น. หน่วยเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้ปิดหีบลงคะแนน และทำการนับคะแนน ภาพรวมผู้มาลงคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.ระนองในวันนี้ค่อนข้างบางตาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเมืองระนอง เนื่องมาจากมีฝนตกเป็นระยะตลอดทั้งวัน
ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน ประธาน กต.อบจ.ระนอง กล่าวว่า ภาพรวมการเลือกตั้งในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยตลอดทั้งวันมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ซึ่งเป็นเหตุให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ จากเดิมคาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ราว 60 % แต่ในครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิ์ราว 50 % เศษ
การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการทั้งหมด 225 หน่วย หมายเลข 1 นายธนกร บริสุทธิญาณี ได้ 24,830 คะแนน หมายเลข 2 นายสีหราช สรรพกุล ได้ 34,420 คะแนน หมายเลข 3 น.ส.คุณัญญา ส่องสมุทร ได้ 3,095 คะแนน ส่งผลให้นายสีหราช สรรพกุล จากทีมระนองก้าวหน้า ซึ่งมีแรงสนับสนุนจาก นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง คว้าตำแหน่ง นายก อบจ.ระนอง อย่างไม่เป็นทางการ
ทางด้านที่ทำการของทีมระนองก้าวหน้า มีผู้คนเดินทางมาแสดงความยินดีและให้กำลังใจ นายสีหราช สรรพกุล หรือ ผู้ใหญ่แบงค์ โดยเจ้าตัวกล่าวขอบคุณชาวระนอง และให้คำมั่นว่าจะพัฒนา จ.ระนองแก้ไขปัญหา พร้อมขอบคุณทีมระนองก้าวหน้า ขอบคุณหัวหน้าทีม นายบดินทร์ ฉัตรมาลีรัตน์ หรือ นายฮั้งเพ้ง อดีตนายก อบจ.ระนอง 2 สมัยให้การสนับสนุน ขอบคุณ นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย ที่ได้สนับสนุน
ทีมข่าวเดลิมิเร่อร์ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ
#ผู้ใหญ่แบงค์ #ระนองก้าวหน้า #อบจระนอง #ระนอง
10
news & activity / รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน เปิดให้บริการศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องเฉพาะทางและผ่าตัด
« on: October 07, 2024, 10:02:48 PM »รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน
เปิดให้บริการศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องเฉพาะทางและผ่าตัดส่องกล้องรักษาโรคอ้วน
เปิดให้บริการศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องเฉพาะทางและผ่าตัดส่องกล้องรักษาโรคอ้วน
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่านเปิดให้บริการศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องเฉพาะทางได้ในหลายโรค ตามสโลแกน “ผ่าตัดปลอดภัย มั่นใจไปกับเรา เพื่อสุขภาพดีที่ยั่งยืน” ทำให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัวสามารถยกระดับและดำเนินการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดซับซ้อนได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มารับการรักษาภาวะโรคอ้วน ที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พศ.2567 ที่ผ่านมา
นพ.กิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน เปิดเผยว่า ด้วยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการก่อตั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน มี 2 ประเด็นสำคัญ โดยสิ่งแรกคือการก่อตั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเป็นโรงพยาบาลชุมชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล และเป็นพื้นที่การเข้าถึงบริการที่ยาก ดังนั้นการตั้งโรงพยาบาลแห่งนี้เพื่อการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ส่วนประเด็นที่ 2 นอกจากเป็นโรงพยาบาลชุมชนแล้ว สิ่งสำคัญคือจะต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพมาตรฐาน
นพ.กิติศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน มีการพัฒนาศักยภาพในการให้บริการ 140 เตียง และมีการเพิ่มจำนวนเตียงมากขึ้น รวมถึงกำลังปรับปรุงก่อสร้างหอผู้ป่วยเพื่อรองรับบริการประชาชนทางตอนเหนือของจังหวัดน่าน รวมถึงอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงและพี่น้องประชาชนจากประเทศลาว ในด้านการบริการทุกวันนี้มีแพทย์เฉพาะทาง ทั้งด้านอายุรกรรม ศัลยกรรมกระดูกและข้อ กุมารเวชกรรม สูตินรีเวช และสาขาย่อยทางการแพทย์ต่าง ๆ และในช่วง 2-3 ปีนี้ ได้นำความรู้ทางเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามา โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีด้านการผ่าตัดส่องกล้องรักษาโรคต่าง ๆ โดยศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้อง(MIS) ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน ในปัจจุบัน สามารถให้บริการทางการแพทย์ด้วยการผ่าตัดส่องกล้องสำเร็จได้ในหลาย ๆ โรค เช่น การผ่าตัดกระเพาะอาหารรักษาโรคอ้วน โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคไส้ติ่งอักเสบ โรคไส้เลื่อนขาหนีบ และการผ่าตัดเกี่ยวกับโรคลำไส้ต่าง ๆ โดยแพทย์เฉพาะทางโดยเฉพาะ
ด้าน นพ.จิรัฎฐ์ โชติรชตอนันต์ นายแพทย์ชำนาญการศัลยกรรมทั่วไป โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน (หมอเปิ๊ด) กล่าวว่า ปัจจุบันรพ.ได้ดำเนินการผ่าตัดผ่านกล้องได้ในหลายโรค เช่นการผ่าตัดผ่านกล้องในการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง หรือโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ผ่าตัดผ่านกล้องในพวกผู้ป่วยโรคมะเร็งตับหรือเนื้องอกที่ตับอ่อน มะเร็งทางเดินน้ำดี แล้วก็พวกมะเร็งท่อน้ำดีต่าง ๆ ล่าสุดที่รักษาในปัจจุบัน คือ การผ่าตัดส่องกล้องรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วนแบบทุพพลภาพ โดยแพทย์ พยาบาลและบุคลากร ทุกคน พร้อมที่จะให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บริการด้วยใจ เพื่อหวังให้ผู้ป่วย และประชาชนที่ต้องการมารับการรักษามีสุขภาพที่ดี โดยผู้ป่วยในละแวกพื้นที่ไม่ต้องเดินทางไปรักษารพ.ไกล ๆ จากที่พักพิง
ด้าน นพ.กฤตภาส กฤตพัฒนพงศ์ นายแพทย์ชำนาญการศัลยกรรม อนุสาขาการผ่าตัดผ่านกล้อง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน (หมอกัญจน์) กล่าวว่า ด้วยสโลแกน “ผ่าตัดปลอดภัย มั่นใจไปกับเรา เพื่อสุขภาพดีที่ยั่งยืน” ทำให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัวสามารถยกระดับและดำเนินการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดซับซ้อนได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มารับการรักษาภาวะโรคอ้วน ที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พศ.2567 ที่ผ่านมา โดยโรคอ้วนนี้ ทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาหลาย ๆ โรค โดยเฉพาะโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรังหรือโรค Ncds เช่นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ เป็นต้น โดยโรคอ้วนเปรียบเสมือนเป็นโรคมะเร็งหรือมีความร้ายแรงเทียบเท่ากับโรคมะเร็งในระยะที่ 1 ซึ่งมักจะยังไม่แสดงอาการ
ส่วนศูนย์ผ่าตัดส่องกล้องโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ได้เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563 โดยการผ่าตัดที่ให้บริการผ่านกล้องได้แก่ 1.ถุงน้ำดี (Cholecystectomy) 2. มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง (Colectomy) 3.ไส้เลื่อนขาหนีบและผนังช่องท้อง (Inguinal and ventral hernia) 4.ไส้ติ่งอักเสบ (Appendectomy) 5. ตับ ทางเดินน้ำดี และตับอ่อน (HBP surgery) 6. ต่อมหมวกไต (Adrenalectomy) 7. กระเพาะอาหาร (Gastrectomy) 8. ผ่าตัดช่องปอดผ่านกล้อง (VAT) 9.วางสายล้างท้อง (Tenckhoff implantation) 10. ใส่สายให้อาหาร (Feeding gastrostomy or jejunostomy) 11.โรคอ้วนทุพพลภาพ (Bariatric surgery) 12.ทำหมันหญิง (Salpingectomy) 13.ผ่าตัดซ่อมเอ็นไหล่และเอ็นเข่า (Arthroscopic) และ14.ส่องกล้องทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
11
Sport News & Motor Sport / “ศิริมงคล” ซิวเข็มขัดแชมป์ WBF เฉือนชนะแต้มนักชกจิงโจ้ 2-1 เสียง ขณะที่คู่เอก
« on: October 07, 2024, 01:07:10 PM »“ศิริมงคล” ซิวเข็มขัดแชมป์ WBF เฉือนชนะแต้มนักชกจิงโจ้ 2-1 เสียง ขณะที่คู่เอก "อเลสซิโอ" ต่อยซ้ายหมัดเดียว เข้าปลายคางทำให้คว้าแชมป์ UBO ไปครองอย่างง่ายดาย
ทีมกำปั้นจอมโหด สังกัด FCC Fight Club Championship Thailand กวาด 5 แชมป์จากการชิงเข็มขัด 7 เส้น ส่วน"เจ้าโอ๋" สิริมงคล สิงห์วังชา คว้าแชมป์โลก WBF ในวัย 47 ปี หลังพิชิตนักชกออสเตรเลียที่มีอายุห่างกันกว่า 20 ปี จัดใหญ่เอาใจแฟนกำปั้นโดย NARIS - FCC - HIGHLAND BOXING PROMOTIONS กับศึก "FCC 7 ดับเบิ้ลอิมแพ็ค" ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี ถนนรามอินทรา
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี ถนนรามอินทรา มิสเตอร์ อเลสซิโอ้ บิชุตติ แห่ง FCC Fight Club Championship จับมือ "สองคู่เขยไทย-ปินส์ " ศุภณัฐ จันทร์แรม และ บริโก้ ซานติก แห่ง NARIS - FCC HIGHLAND BOXING PROMOTIONS โดยมีนายนริส สิงห์วังชา ประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชียหรือ (ABF) และนายกสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย เป็นประธานที่ปรึกษา นำศึก "FCC 7 ดับเบิ้ลอิมแพ็ค" ชิงเข็มขัด 7 เส้นจาก 3 องค์กรมวย (IBO , WBF และ UBO) พร้อม มวยไทย และการแสดงศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย มาให้แฟนกำปั้นชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ชมกัน
โดยผลการแข่งขันมวยในรายการมีดังนี้
คู่ที่ 1. มวยหญิง รุ่นฟลายเวท พิกัด 112 ปอนด์ ชกอุ่นเครื่อง (6 ยก) ฮิน ติง ชาน นักชกหญิงจากฮ่องกงเจ้าของแชมป์ 2 เส้นชนะน็อค เนตรสรา ปุ่นอินเตอร์ นักชกหญิงไทยยกที่ 2
คู่ที่ 2. เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก UBO รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท พิกัด 154 ปอนด์ (10 ยก) ริคาร์โด้ ริซซี่ นักชกจากอิตาลี คว้าแชมป์หลังน็อค อิสราร์ อุสมานี นักชกจากอินเดียยกที่ 2
คู่ที่ 3. เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก UBO รุ่นไลท์เวท พิกัด 140 ปอนด์ (10 ยก) อีเฟ เดริน โคนุก นักชกจากตุรกี ชนะคะแนน ชีวาม นักชกจากอินเดียหลังดวลกันสนุกครบ 10 ยก
คู่ที่ 4. เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก UBO รุ่นเวลเตอร์เวท พิกัด 147 ปอนด์ (10 ยก) โจเฟอร์ มอนทาโน่ นักชกจากฟิลิปปินส์ ชนะน็อค ชีวา ทากราน นักชกจากอินเดียยกที่ 3 คว้าเข็มขัดแชมป์เส้นที่ 3 ให้ FCC
คู่ที่ 5. รุ่นเฟเธอร์เวท พิกัด 126 ปอนด์ อุ่นเครื่อง (6 ยก) อิปราช ข่าน นักชกจากปากีสถาน แพ้คะแนน กิตติภัค ด้วงนุช (ไฮแลนด์ยิม) นักชกไทย
คู่ที่ 6. เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก UBO รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท พิกัด 135 ปอนด์ (10 ยก) อีเฟ่ เดริน โคนุก นักชกจากตุรกี ต้องดวลเดือด 10 ยกก่อนชนะคะแนน ราม ซิงก์ นักชกจากอินเดียเพิ่มเข็มขัดเส้นที่ 4 ให้ทีมงาน FCC
คู่ที่ 7. มวยหญิง เป็นการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก IBO รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท พิกัด115 ปอนด์ (10 ยก) แองเจลิน่า ลูคัส นักชกหญิงจากคาซัคสถาน เดินแลกหมัดกับ อนาฮี โลเปซ กำปั้นสาวอาร์เจนตินา
คู่ที่ 8. การชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก WBF รุ่นเฮฟวี่เวท พิกัด 175 ปอนด์ (12 ยก) แมตต์ ฟลอยด์ นักชกไร้พ่ายชนะรวด 13 นัดชาวออสเตรเลีย แพ้คะแนน "เจ้าโอ๋" ศิริมงคล สิงห์วังชา อดีตแชมป์โลกชาวไทยวัย 47 ปีกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ชนะใจแฟนกำปั้นทั้งสนามหลังยืนซัดกำปั้นกับนักชกออสซี่รุ่นหลานที่อายุน้อยกว่า"เจ้าโอ๋"กว่า 20 ปีครบ 12 ยกคว้าแชมป์โลกเส้นล่าสุดของ WBF รุ่นไลท์เฮฟวี่เวทมาครอง
คู่ที่ 9. คู่เอกเป็นการชกชิงเข็มขัดแชมป์โลก UBO รุ่นเฮฟวี่เวท พิกัด 225 ปอนด์ (10 ยก) กำปั้นจอมเก๋า อเลสซิโอ บิสุตติ นักชกจากอิตาลี แย็ปซ้ายหมัดเดียวส่ง เกอร์กัน คาราดัก นักชกจากตุรกีลงไปกองและไม่สู้ต่อ อเลสซิโอ้ บิสุตติชนะน็อกคยก 1 คว้าแชมป์แบบงงๆและเป็นเข็มขัดเส้นที่ 5 ของทีมงาน FCC Fight Club Championship ในรายการนี้
คู่ที่ 10. มวยไทยหญิง พิกัด 114 ปอนด์ (3 ยก) ระหว่าง แพตตี้ ป.ปุ๋ยบุญพืช ชนะคะแนน ดวงใจพ่อ ปุ่นอินเตอร์
คู่ที่ 11. มวยไทยหญิง พิกัด 110 ปอนด์ (3 ยก) รฝนกน้อย ช.ฉัตรชัย ชนะน็อค ขวัญเมือง ว.มณีวรรณ ยก 3
คู่ที่ 12. มวยไทยหญิง พิกัด 102 ปอนด์ (3 ยก) ระหว่าง เปรี้ยวหวาน เพชรไพรัช สร้อยเงิน ส.ก.อำนาจยิม
คู่ที่ 13. มวยไทยชาย พิกัด 126 ปอนด์ (3 ยก) เพชรชมพู ป.ปุ๋ยบุญพืช นักชกไทยหน้าหวานศิษย์เอก"น้องตุ้ม" ชนะคะแนน บุญทอง เม นักชกจากกัมพูชา
ทั้งหมดคือความสนุกเร้าใจทั้งจากมวยสากล มวยไทย มวยคู่พิเศษและโชว์สุดอลังการที่ผู้ชมได้ชมกันอย่างเต็มอิ่มในมวยนัดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการแข่งขันมวยชิงแชมป์โลก ซึ่งมีชิงเข็มขัด 7 เส้น 3 สถาบัน (IBO , WBF และ UBO) จากศึก "FCC 7 ดับเบิ้ลอิมแพ็ค" นัดปฐมฤกษ์ในนัดประวัติศาสตร์ ของ FCC Fight Club Championship Thailand ที่ร่วมมือกับ Highlands Boxing Promotions
12
news & activity / BEST Express จัดประชุมใหญ่แฟรนไชส์ ประจำปี 2567 เดินหน้า 4 ธุรกิจหลัก
« on: October 06, 2024, 07:37:43 PM »BEST Express จัดประชุมใหญ่แฟรนไชส์ ประจำปี 2567
เดินหน้า 4 ธุรกิจหลัก เสริมแกร่งพัฒนาโลจิสติกส์ในไทย
เดินหน้า 4 ธุรกิจหลัก เสริมแกร่งพัฒนาโลจิสติกส์ในไทย
เบสท์ ประเทศไทย นำโดยคุณจอร์จ ชูว์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และผู้บริหารเครือข่าย BEST Express จัดประชุมใหญ่แฟรนไชส์ ประจำปี 2567 ซึ่งในช่วงเช้ามีพิธีทำบุญตามหลักศาสนาพุทธ โดยคณะผู้บริหารและพนักงาน พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายแฟรนไชส์ ร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 19 รูป ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) นอกจากนี้ เบสท์ ประเทศไทย ยังได้ร่วมบริจาคเงินสมทบช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบผ่านกิจกรรมดังกล่าวอีกด้วย
จากนั้นได้จัดกิจกรรมประชุมใหญ่ของเครือข่ายผู้บริหารแฟรนไชส์ ซึ่งการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสรุปผลการดำเนินงานของแฟรนไชส์ในปีที่ผ่านมา พร้อมอัพเดทความคืบหน้าแผนการพัฒนาธุรกิจ และนำเสนอทิศทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในอนาคต และมุ่งสนับสนุนการเพิ่มโอกาสการลงทุนและพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในงานยังมีการแนะนำธุรกิจหลักของเบสท์ ประเทศไทย ได้แก่ BEST Supply Chain บริการด้านบริหารคลังสินค้าแบบครบวงจร , BEST Software ให้บริการซอร์ฟแวร์โซลูชัน ด้วยการเชื่อมต่อระบบจัดการคำสั่งซื้อ (Qianyi ERP) และระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ และ Freight Forwarding บริการขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างประเทศจากจีนมาไทยแบบ door-to-door ซึ่งทั้ง 4 ธุรกิจหลักนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญช่วยเดินหน้า และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโลจิสติกส์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร
ไฮไลท์สำคัญของงานคือพิธีมอบรางวัลให้กับเครือข่ายแฟรนไชส์สาขา BEST Express ประจำปี 2024 ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมและมีคุณภาพสูง แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รางวัลประเภท BEST OF THE BEST “OB Volume” มอบให้กับสาขาพิษณุโลก 1, สาขาเมืองสงขลา และสาขาเพชรบูรณ์หลัก ส่วนรางวัลประเภท “BEST Performance” ได้แก่ สาขานิมิตใหม่ (มีนบุรี), สาขาโพธาราม, สาขาสงขลา 2 และสาขาเชียงราย 3
การประชุมใหญ่ครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของเบสท์ ประเทศไทย ในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจแฟรนไชส์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างความเชื่อมั่นในเครือข่าย BEST Express ทั่วประเทศ และพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในภาพรวมของเบสท์ ประเทศไทยให้เดินหน้าอย่างมั่งคงและยั่งยืนต่อไป
13
news & activity / ทำถึง ! ต่อยอดความปัง“น้องหมีเนย Butterbear”เตรียมสร้างปรากฏการณ์ ประกาศจัดงาน
« on: October 05, 2024, 07:03:31 PM »ทำถึง ! ต่อยอดความปัง “น้องหมีเนย Butterbear” เตรียมสร้างปรากฏการณ์ ประกาศจัดงานแฟนมีตติ้งสุดคิ้วท์ครั้งแรกในประเทศไทย กับงาน “Butterbear’s 1st Fam Meeting : Adventure Awaits!”
เชิญชวนมัมหมี-พ่อหมีทั่วโลกร่วมเดินทางผจญภัยไปกับน้องเนย พร้อมบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ชวนทุกคนมาร่วมเป็น family เดียวกัน ลุ้นไปกับมิชชั่นสนุกๆ และโชว์เต็ม รูปแบบครั้งแรก! เตรียมพบกับเซอร์ไพรส์มากมายจากเพื่อนน้องเนยที่จะมาร่วมผจญภัยครั้งนี้ ไปด้วยกัน กับโปรเจกต์ไอเดียสุดสร้างสรรค์จาก Butterbear ร่วมกับ 4NOLOGUE
แฟนคลับเตรียมใจละลาย ปักหมุดนัดหมายผจญภัยพร้อมกัน 2 รอบการแสดง ในวันที่ 9-10 พฤศจิกายน 2024 ติดตามรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม ผ่านโซเซียลมีเดียทุกช่องทางของ Butterbear และ 4NOLOGUE
งานนี้ พส มัมหมี-พ่อหมีเตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาร่วมเก็บ โมเมนต์สุดฟิน ผจญภัยความสนุกไปด้วยกัน
#ผจญภัยไปกับเนย 🧸
#Butterbears1stFamMeeting
#AdventureAwaits
#ด้อมน้องเนย
#Butterbear
#4NOLOGUE
14
news & activity / ทำถึง ! น้องฉัตร ควง กำปั้น กวินพนธ์+ เต้ นันทศัย ลุคนี้ดี๊ ถ่ายแบบเแบรนด์ ไฮเนส
« on: October 05, 2024, 06:25:28 PM »ทำถึง ! น้องฉัตร ควง กำปั้น กวินพนธ์+ เต้ นันทศัย ลุคนี้ดี๊ ถ่ายแบบเแบรนด์ ไฮเนส (highness) ฮ็อตไฟลุกตะโกน iconic คอลเลคชั่นใหม่ไทยร่วมสมัย
ปล่อยภาพสุดปัง แซ่บ เท่ กระแทกใจแฟนแฟนแบบรัวรัว
กระแสดีต่อเนื่อง เมื่อ 3 คนดัง “น้องฉัตร - กำปั้น กวินพนธ์ (กำปั้น บาซู) และ เต้ นันทศัย ร่วมเฟรมถ่ายแบบให้กับแบรนด์ ไฮเนส (highness) จุดเด่นจำหน่ายเสื้อผ้าคลุมอาบน้ำ เสื้อเชิ้ต กางเกง นับได้ว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นเนื้อผ้าสุดพรีเมียม การรุกกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อให้มีความชัดเจน ด้านการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการจดจำแก่ลูกค้าได้ง่าย ด้วยคาแรคเตอร์คนดัง
แบรนด์ ไฮเนส ( highness) คว้า 3 คนดังเพื่อโหมการรับรู้ อาทิ คุณฉัตรชัย เพียงอภิชาติ หรือน้องฉัตรCEO และเจ้าของแบรนด์ ฉัตรคอสเมติก @chat_cosmetics ได้รับความนิยมระดับต้นๆ เมืองไทย เรื่องการแต่งหน้าและการผลิตเครื่องสำอางค์จำหน่ายที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้านความเป็นไทย พร้อมแชะร่วมเฟรมสองหนุ่มที่หุ่นฟิตเฟิร์ม ซิกแพคแน่น คือ กำปั้น - กวินพนธ์ พาณิชย์พงส์ (กำปั้น บาซู) นักร้อง-นักแสดง @gp_bazoo ควงคุณเต้- นันทศัย พิศลยบุตร นักแสดง-นักร้อง @taekopman369 ที่มีความเป็นไทยตอบโจทย์แบรนด์อย่างมาก เผยการถ่ายทำเบื้องหลังสนุก มีความเป็นธรรมชาติ แชะภาพแต่ละภาพ สะท้อนเสื้อผ้าสวย ลายผ้ามีเอกลักษณ์ ทีมงานเบื้องหลังมืออาชีพ ทำให้ทุกอย่างลงตัว Photography @poppybeauty_9 Make up @affanmakeup66 Hairstylist @khunyong _hair Stylist @dong_nateephat Stylist asst. @is_lui05 Outfits @pattricboyle ละมุนดีต่อใจเสียเหลือเกิน
แฟนแฟนห้ามพลาดโมเม้นต์พิเศษนี้ สำหรับคอลเลคชั่นใหม่เป็นการดีไซน์ผสมผสานกราฟฟิกทันสมัย ลายพญานาคและดอกไม้ “Naga with Thai Flower” และ “Naga CMYK” เรียกได้ว่าไทยร่วมสมัย ครีเอทตั้งแต่ลวดลายสีสัน รวมไปถึงองค์ประกอบศิลป์ตามสไตล์แบรนด์ให้เหมาะกับลูกค้าในยุคดิจิทัลนี้ สามารถติดตามชมคอลเลคชั่นใหม่แบบจุกจุก @highness.officialth
15
news & activity / สวพส.คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติด้านองค์กรนวัตกรรม“รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 67
« on: October 05, 2024, 05:27:59 PM »สวพส.คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติด้านองค์กรนวัตกรรม “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2567”
(4 ต.ค. 2567) สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) รับรางวัลเชิดชูเกียรติด้านองค์กรนวัตกรรม “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2567” โดยมี ดร.อัจฉรา ภาวศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัย เข้ารับรางวัล จาก ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ รางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดของประเทศไทย ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อประกาศเกียรติคุณ เชิดชูเกียรติแก่บุคคลและองค์กรของไทยที่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีความโดดเด่น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างชัดเจน พร้อมทั้งต้นแบบการพัฒนานวัตกรรมด้านต่าง ๆ สู่สาธารณะชนในวงกว้าง นำไปสู่การผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นชาติแห่งนวัตกรรม
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส.ดำเนินงานพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนบนพื้นที่สูงของประเทศ ที่อยู่ห่างไกลและทุรกันดาร เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ให้เข้าถึงบริการพื้นฐานของรัฐอย่างเสมอภาค และสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารของประเทศ โดยมีการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วยนวัตกรรม ทั้งการสร้างองค์ความรู้จากงานวิจัย วางแผนยุทธศาสตร์ จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่สูงเชิงพื้นที่ของ 30 หน่วยงาน ทำให้การพัฒนาพื้นที่สูงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดผลสัมฤทธิ์ในวงกว้าง ชุมชนบนพื้นที่สูงมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง จากการเกษตรที่ประณีตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติบนพื้นที่สูงให้อุดมสมบูรณ์