Recent Posts

Pages: [1] 2 3 ... 10
1
พร้อมดวลเดือด 8 คู่มวยดุ ฟิตเปรี๊ยะสมบูรณฺสุดขีดป้องกันแชมป์ 3 เส้น 4 สถาบันชิงแชมป์ 2 เส้น 2 สถาบัน ศึก NARIS HIGHLAND SPACEPKUS BOXING ORONOTION


เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ที่ RCA ได้มีการตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนัก เช็คความพร้อมนักชกทั้ง 8 คู่มวยมวยมันส์ ทุกคู่สมบูรณ์สุดขีดพร้อมดวลหมัดในศึก NARIS HIGHLAND SPACEPLUS BOXING PROMOTION โดยมี นาย นริส สิงห์วังชา เป็นประธานที่ปรึกษาและประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF พร้อมด้วย พล.ต.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ และ สองยอดโปรโมเตอร์ชั้นนำ นาย ศุภณัฐ จันทร์แรม, Brico Santig และ แพทย์ประจำสนามนายจิระศักดิ์ บุบผาชาติ ได้ระดม8คู่มวยชั้นนำทั้งไทยและต่างชาติมีการป้องกันแชมป์ 3 เส้น 4 สถาบัน และ ชิงแชมป์ 2 เส้น 2 สถาบัน พร้อมขึ้นชกในวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567 ณ.เวทีมวยชั่วคราว Spaceplus RCA Plaza รัชดา กรุงเทพฯเวลา14.00น.เป็นต้นไป


โดยเริ่มจากการป้องกันแชมป์ 2 สถาบันรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ 10 ยก WBF สหพันธ์มวยโลก และ WIBFสกพันธ์มวยนานาชาติ (หญิง) เจ้าของแชมป์จากประเทศคาซัคสถาน แองเจลีน่า ลูคัส ชกกับผู้ท้าชิงจอมแกร่งจากศรีลังกา มันตาซิง






ชิงแชมป์ว่างรุ่นไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์ 10 ยก WBA Asia ฮิน ติง ชาน จากฮ่องกง พบกับ นักชกสาวไทยจอมฝีมือ วิสุตา สิงห์มนัสศักดิ์

ป้องกันแชมป์สหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF รุ่นมิดเดิลเวท 168 ปอนด์ 10 ยก นักชกดาวรุ่งฟอร์มสดลูกครึ่งไทย - สิงคโปร์ กิตติพงศ์ เจียน เฮา โฮ พบนักชกดาวรุ่งพุ่งแรงจากไทย ธนวัฒน์ มานพชัยยิม

ชิงแชมป์ว่างรุ่นมิดเดิลเวท 160 ปอนด์ 10 ยก WBC Asia วิคเตอร์ นักชกจากออสเตรเลีย พบกับ นักชกดาวรุ่งจากไทย รัฐวุฒิ ทองอร่าม

ชิงแชมป์ครุยเซอร์เวท 220 ปอนด์ 10 ยก GBU สหภาพแห่งมวยโลกเจ้าของแชมป์จากอาเซอร์ไบจาน ทาเยล จาฟารอฟ พบกับ นักชกจอมเก๋าจากอินโดนีเซีย คิงส์ ฟาส






สำหรับคู่ประกอบรายการอีก 3 คู่มวยดาวรุ่ง  อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นเฮฟวี่เวท 220 ปอนด์ เฮอร์แมน อีนี่ เพอร์เซล จากออสเตรเลีย พบกับ ธนภัทร มานพชัยยิม นักชกไทย

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ ลูซีน่า ฮิวตัน จากออสเตรเลีย พบกับ อิสรา วิเศษวงศ์ษา นักชกไทย

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นไลท์เวท 140 ปอนด์ เขียง เวียง โจ จีน พบกับ สุนทร สิงห์มนัสศักดิ์ยิม นักชกไทย

แฟนมวยชาวไทยและต่างชาติติดตามชมได้ในวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567 ณ.เวทีมวยชั่วคราว Spaceplus RCA Plasa รัชดา กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 14.00น.เป็นต้นไป
2
อลิอันซ์ อยุธยา เฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 73 เคียงข้างคนไทย


             บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ฉลองครบรอบ 73 ปี ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตอกย้ำความมั่งคงแข็งแกร่งแบรนด์ประกันระดับโลก นำทีมผู้บริหารระดับสูง พนักงาน และตัวแทนฝ่ายขาย ร่วมทำบุญตักบาตรอาหารแห้ง ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 18 รูป พร้อมนิมนต์พระครูสมุห์สมเกียรติ สุรญาโณ (พระอาจารย์กี้) เจ้าอาวาส วัดสบสวรรค์ ประพรมน้ำมนต์เสริมความสิริมงคลให้แก่บริษัทและพนักงานอีกด้วย




             นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมเพื่อสังคมตลอดวัน อาทิ หน่วยบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ สภากาชาดไทย ธนาคารขยะรีไซเคิล จาก Recycle Day ชุมชนแลกเปลี่ยนสินค้าแฟชั่น จาก Swoop Buddy  จุดรับบริจาคอาหารเข้าธนาคารอาหาร  จัดแพคถุงยังชีพ จากมูลนิธิ SOS ณ สำนักงานใหญ่ อาคารเพลินจิตทาวเวอร์







3
"CHANGAN Automobile" เผยความคืบหน้าโรงงานผลิต จ.ระยอง
ตอกย้ำความมุ่งมั่นในตลาดไทย


(ระยอง ประเทศไทย) - "CHANGAN Automobile" ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ประกาศความสำเร็จ และคืบหน้าโครงสร้างหลักของโรงพ่นสี ณ โรงงานผลิตแห่งใหม่ใน จ.ระยอง แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 8 เมษายน ถือเป็นก้าวสำคัญนับตั้งแต่พิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โครงการนี้ยังคงเป็นไปตามกำหนดการ โดยจะมีการปรับผืนดิน และเทพื้นคอนกรีต ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะปูทางไปสู่ระยะต่อไปในการติดตั้งอุปกรณ์กระบวนการผลิต และท่อจ่ายไฟต่อไป

นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด กรรมการผู้จัดการ และ ประธานบริษัท บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า CHANGAN เปิดเผยว่า โรงงานในจังหวัดระยองของฉางอานใช้เงินลงทุนกว่า 8.8 พันล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 250 ไร่ ถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ครบวงจรแห่งแรกในต่างประเทศของบริษัท



โดยโรงงานแห่งนี้ ได้รับการออกแบบตั้งแต่ต้นจนเป็น "โรงงานสีเขียว" ที่ผสมผสานอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และกระบวนการคาร์บอนต่ำ ซึ่งสะท้อนถึงความทุ่มเทของฉางอานในด้านความยั่งยืน โดยจะติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 6MW ซึ่งจะสามารถให้กำลังไฟได้ถึง 19% ของความต้องการไฟฟ้าทั้งหมดของโรงงาน และจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 5,000 ตันต่อปี

"CHANGAN Automobile เรามีความมุ่งมั่นต่อการทำตลาดในประเทศไทย และมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าฐานการผลิตใหม่ของเราไม่เพียงแต่บรรลุผลสำเร็จ แต่เกินเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเรา ทั้งยังจะไม่เพียงช่วยให้เราลดต้นทุนการดำเนินงาน แต่ยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเราลงอย่างมากอีกด้วย" นายเซิน ซิงหัว กล่าว และกว่าต่อไปว่า



โรงงานระยองมีกำหนดจะเริ่มการผลิตได้ในไตรมาสแรกของปี 2568 โดยมีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 100,000 คันต่อปี การขยายตัวนี้คาดว่าจะสร้างงานจำนวนมาก ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการจ้างงานในท้องถิ่นและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

"ด้วยฐานการผลิตที่ทันสมัยนี้ ฉางอาน ตั้งเป้าที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีหลากหลายมากยิ่งขึ้นแก่ผู้บริโภค และประสบการณ์การเดินทางที่ชาญฉลาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการสร้างอนาคตที่ดีกว่า ร่วมกันเติบโตไปกับฉางอาน รวมถึงการให้บริการอีกด้วย" นายเซิน ซิงหัว กล่าวสรุปในตอนท้าย
4
ฮาจนไหล่สั่น!! สนุกจนน้ำตาเล็ดกับภาพยนตร์ “ขุนสึก” ที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


             วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับหนังล้อเลียนเกรียนแตก ที่หยิบเอาหนังดังมาขายขำดูแล้วเพลินดีไม่มีเครียด กับภาพยนตร์สุดฮา “ขุนสึก” ที่ได้ “เอ๋ เชิญยิ้ม” มารับบท “ไอ้ขุน” และ “อนัญญา เมธาจันทรกูล” มารับบท “แม่ชบา” พร้อมทัพนักแสดงตลกอีกเพี้ยบ




             สมัยอโยธยาที่พม่าได้รุกรานไทย “ไอ้ขุน” (เอ๋ เชิญยิ้ม) ได้รักอยู่กับ “ชบา” (อนัญญา เมธาจันทรกูล) และกำลังบวชเพื่อทดแทนคุณบิดา ด้วยความเป็นห่วงชบา ไอ้ขุนก็เลยขอสึกมาเพื่อปกป้องคนรัก แต่ก็ไม่ทันการณ์ชบาเสียชีวิตซะก่อน เขาได้แต่อธิษฐานว่าจะขอรักและตามติดขอเป็นคู่ครองของชบาทุกชาติไป แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นที่แบบเหลือเชื่อ ไอ้ขุนได้โผล่ขึ้นมาในยุคปัจจุบัน และพบว่าชบายุคอนาคตกลับการเป็นผู้ชายและเป็นนักร้องดังของประเทศ เรื่องราวจะป่วนฮาขนาดไหน ติดตามชมได้ในภาพยนตร์ “ขุนสึก” วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 เวลา 20.45 น.ชมฟรีดูสนุกทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทาง https://true4u.com/live
5
“ภาคเอกชนเขาใหญ่ จับมือ!! ปั้นแคมเปญ ราคาเดียว เที่ยวได้ทั้งปี”




23 เมษายน 2567 เดอะเปียโน รีสอร์ท เขาใหญ่ จัดพิธีลงนามความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ตลอดทั้งปี โดย สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว เขาใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียง


เขาใหญ่ ราคาเดียว ( Khao Yai One Price) โครงการมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ นอกฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งจริงๆ แล้ว เขาใหญ่และพื้นที่โดยรอบ มีกิจกรรม และโปรแกรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย แม้ไม่ใช่ช่วงฤดูหนาว ไม่ว่าจะเป็น ฤดูการเปิดสวนผลไม้ ช่วงเดือน พฤษภาคม กิจกรรมเขาใหญ่คาร์ฟรีเดย์ ช่วงเดือนกันยายน เป็นต้น เราจึงมีความตั้งใจที่จะประชาสัมพันธ์ โปรแกรมท่องเที่ยวต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นที่รู้จัก และ เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น


โครงการนี้เราได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย พิธีลงนามความร่วมมือครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ท่าน ดร.สันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ และ ภาคีเครือข่ายเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา เข้าเป็นสักขีพยาน


ทั้งนี้ โครงการเขาใหญ่ วัน ไพรซ์ ยังมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนด้านการตลาด ให้กับผู้ประกอบการ ได้เข้าถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงออนไลน์ โดยการจัดการโปรแกรมการท่องเที่ยว ไปยังผู้ประกอบการที่เข้าร่วม และ ทำการแนะนำโปรแกรมท่องเที่ยวไปยังนักท่องเที่ยวโดยตรง ทั้งชาวไทย และต่างชาติ ด้วยแพลตฟอร์มการจัดการระบบอัจฉริยะ และทันสมัย พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว แม้ในช่วง Low Season เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยว ตัดสินใจมาเขาใหญ่เพิ่มขึ้น


เรามุ่งหวังที่จะเห็นความยั่งยืนของผู้ประกอบการในพื้นที่ ระยะยาว และมีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในพื้นที่ เป็นพื้นที่ต้นแบบของประเทศไทย ในการทำโปรแกรมท่องเที่ยว ราคาเดียวตลอดปี


อีกทั้ง ความร่วมของผู้ประกอบการในครั้งนี้ เรายังเล็งเห็นโอกาสอันดีในการเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และเป็นเมือง 3 มรดกโลก ริเริ่มการท่องเที่ยวสีเขียว ความหมายคือ การทำธุรกิจแบบ Lite carbon การสร้างขยะจากธุรกิจให้น้อยลง หรือการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น เพื่อต้นแบบ การท่องเที่ยวรักษ์โลก อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ทิ้งภาระให้กับโลก หรือ สังคมภาพรวม


ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็น ความหมายของ เขาใหญ่ วัน ไพรซ์ ซึ่งหมายรรวมถึงการจับมืองกันเป็น 1 เดียว คิด สร้าง และ ทำเรื่องเดียวกันอย่างมีเอกภาพ และ สร้างความยั่งยืนได้ในทุกมิติ และที่สำคัญที่สุดคือการตอกย้ำนโยบายของท่านรัฐมนตรี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ว่า “ท่องเที่ยวทำคนเดียวไม่ได้” จึงอยากขอเชิญชวน นักท่องเที่ยว ร่วมสนับสนุน และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ด้วยกัน พันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ กล่าว


โครงการเขาใหญ่ วัน ไพรซ์ หรือเขาใหญ่ราคาเดียว ในฐานะผู้ยริหารโครงการ เราตั้งใจใช้กลยุทธ์ทางการตลาดท่องเที่ยว และเทคโนโลยีด้านการตลาด รวมถึงระบบจัดการข้อมูลนักท่องเที่ยวอัจฉริยะ มาปรับใช้ให้เหมาะกับ พื้นที่ท่องเที่ยวเขาใหญ่ ที่มีกิจกรรมน่าสนใจ และ แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย ให้เป็นที่รู็จัก และเดินทาง มาท่องเที่ยวได้ทั้งปี


โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจเป็น 4 ประเภท

กลุ่ม Accomodation ธุรกิจโรงแรม ห้องพัก รีสอร์ท และ ที่พักอื่นๆ
กลุ่ม Attraction ธุรกิจแหล่งท่องเที่ยว อาทิ สวนดอกไม้ ฟาร์ม กิจกรรมกลางแจ้ง
กลุ่ม Cafe’ & Restaurant ธุรกิจร้านกาแฟ ร้านอาหาร ของที่ระลึก
กลุ่ม Golf & Sport ธุรกิจสนามกอล์ฟ และ กีฬาอื่นๆ


ใช้กลยุทธทางการตลาด เพื่อสร้างฐานนักท่องเที่ยว รวมถึง จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดช่วงเวลา 7-8 เดือน ที่นักท่องเที่ยวลดลง โดย สร้างฐานเดิม ฐานใหม่ และ ฐานใกล้เคียง ด้วย loyalty Program


Target Audiens 4 กลุ่ม เป้าหมาย 100,000 ราย

กลุ่มนักท่องเที่ยว/บุคคลทั่วไป เดินทางมาเขาใหญ่ประจำ
กลุ่มที่อาจจยังไม่เคยมาเที่ยวเขาใหญ่เลย
กลุ่มผู้ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง รัศมี 200 กิโลเมตร ( เดินทางด้วยรถยนต์ 2-3 ชม. )
กลุ่มนักกอล์ฟ


ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด และ กิจกรรมส่งเสริมการตลาด เป็นเครื่องมือ ในการสร้างแรงจูงใจ และเลือกจุดหมายปลายทาง การท่องเที่ยว ในแต่ละครั้ง จำแนกตามกลุ่มเป้าหมาย ที่วางไว้ รวมถึง การสร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับเขาใหญ่ จนส่งผลทั้งทางตรงแล้วทาง ไปจนถึง ปริมาณนักท่องเที่ยวเฉลี่ย เพิ่มขึ้น 20-40 % ภายในปี 2567-2568 หรือ ไปแตะที่ 1-1.5 ล้านคนต่อปี ได้


ด้านรายได้ โครงการนี้ สามารถสร้างรายได้สะพัดหมุนเวียน ในช่วงเวลาที่กำหนด ได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาท และยังรวมถึง การสร้าง New Demand เพื่อให้ สอดคล้องกับ Supply ในอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวเขาใหญ่ ทั้งระบบ อย่างเป็นรูปธรรม


ด้านความยั่งยืน โครงการนี้ จะส่งผลด้านการรับรู้ และประสบการใหม่ ให้กับการมาเที่ยวเขาใหญ่ มีตัวแปรใหม่สำหรับการตัดสินใจ รวมถึง ขยายฐานนักท่องเที่ยวไปยังทั้ง ไทย และ ต่างประเทศ สอดรับการ Supply Chain ที่เขาใหญ่มีอยู่แล้วทั้งระบบ ส่งผลเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้ ในทุกๆ ปี คล้ายๆ กับหลาย Festival ที่จัดขึ้น และ มีตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทุกปี ภาณุเมศวร์ เศรษฐสิริสุนทร ผู้ก่อตั้งโครงการ / ผู้บริหาร บจ. จีโอดี โซลูชั่น กล่าว











6
เปิดอาณาจักร “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์”
ผู้นำแถวหน้าของโลกธุรกิจ OEM-ODM เครื่องสำอาง และสุขภาพครบวงจร สินค้าแบรนด์ดังกว่า 1,000 แบรนด์ จาก 300 บริษัททั่วโลก มายาวนานกว่า 35 ปี


             เปิดอาณาจักร “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด” ผู้นำแถวหน้าของโลกธุรกิจ OEM-ODM ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม และสุขภาพ B2B ครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 300 บริษัทชั้นนำจากทั่วโลก อาทิเช่น Unilever, Boots, Srichand, IN2IT, DKSH และอื่นๆอีกมากมาย ให้ผลิตสินค้าจำนวนมากกว่า 1,000 แบรนด์ ส่งออกไปยังมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกมายาวนานกว่า 35 ปี โดยล่าสุดทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาพื้นที่โรงงาน และนำเข้าเครื่องจักรที่ทันสมัย รองรับการผลิตที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำบริษัทด้านการผลิตระดับโลก ตั้งเป้าเป็นองค์กรณ์ที่ยั่งยืนโดยมี อัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 หลักในทุกปี


             นางสาวรุ่งระวี กิตติสินชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาเครื่องสำอาง และสุขภาพครบวงจร B2B ครอบคลุมประเภทสินค้า Skin Care, Personal Care, Color Cosmetics, Toiletries, Hair Product, Medical Device, Food Supplement, Household Product ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2532 โดยการร่วมทุนกับ บริษัท ไมลอทท์ คอสเมติค คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทรับผลิตสินค้า OEM TOP 3 ของประเทศญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องสำอางมายาวนานกว่า 85 ปี โดยผสมผสานความรู้ด้านการผลิตที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เข้ากับที่ตั้งทางยุทธศาสตร์การผลิตและแรงงานที่มีราคาถูก มีคุณภาพของประเทศไทย ให้บริการแบบ “One Stop Service” ตั้งแต่กระบวนการนำเสนอ Concept จนผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปพร้อมวางจำหน่ายโดยสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ 51% และกลุ่ม ไมลอทท์ ประเทศญี่ปุ่น 49%


             ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการส่งเสริมและสนับสนุน แบรนด์ด้านความงามและสุขภาพทั่วโลก ที่มีนวัตกรรม มีคุณภาพเหนือกว่า รวมถึงการให้บริการที่รวดเร็ว มี Commitment โดยมุ่งมั่นที่จะเสนอโซลูชั่นให้ตรงความต้องการของลูกค้า ซึ่งการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จและตอบสนองความต้องการของแบรนด์ ต่างๆนั้น ได้จากการผ่านค่านิยมของบริษัท คือ FAITH ขณะเดียวกันเราก็มุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งต่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน สิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยเราให้คำนิยามค่านิยมของบริษัทไว้ดังนี้

FAITH    F คือ Flexible ความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า

A คือ Agile ความรวดเร็วที่สนองตอบตามความต้องการลูกค้าในทุกแผนก

I คือ Integrate Positive Thinking การบูรณาการความคิดในเชิงบวก

T คือ Teamwork การทำงานเป็นทีม

H คือ Honesty ความซื่อสัตย์ทั้งต่อตนเอง ลูกค้า คู่ค้าและสังคม


             ตลอด 35 ปี “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์” ไม่เคยหยุดพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลก โดยล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณกว่า  1,000 ล้านบาท สร้างโกดังสินค้าและต่อเติมอาคาร บนเนื้อที่กว่า 150,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่สูงถึง 10,000 ตัน หรือประมาณมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อเดือนนอกจากนี้ยังนำเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพรวมถึง AI และระบบบริหารจัดการให้ทันสมัย โดยสัดส่วนการผลิตสินค้าของโรงงานในปัจจุบัน คือกลุ่ม Skin Care, Personal Care, Hair product 65%, Make up 15%, Homecare 10-15%, และอื่นๆ 10%


             เนื่องจากในปัจจุบันการแข่งขันธุรกิจเครื่องสำอางเติบโตขึ้นมาก แม้ทั่วโลกจะประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 แต่วงการความงามกลับมีสินค้าใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย สินค้าเกี่ยวกับความงามมีปัจจัยภายนอกเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจะเห็นว่าเครื่องสำอางบางยี่ห้อมีการปรับเปลี่ยนสูตร เปลี่ยนดีไซน์แพคเกจจิ้งอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะสินค้าที่เน้นการขายในช่องทางออนไลน์ บางครั้งปรับเปลี่ยนจนผู้บริโภคตามไม่ทัน ซึ่งตลาดสินค้ากลุ่มนี้ในประเทศต่างๆ ก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ประเทศในโซนยุโรบ อเมริกา ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างจะเน้นไปในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนโซนเอเชียเน้นสินค้าที่ใช้ได้ผลในราคาที่คุ้มค่า มีความหลากหลายของดีไซน์แตกต่างกันออกไป แต่ประเทศที่มีอิทธิผลต่อการเปลี่ยนแปลงของวงการสินค้าความงามมากที่สุดในขณะนี้ คือ ประเทศเกาหลี


             นางสาวรุ่งระวี กล่าวอีกว่าที่ผ่านมา เราเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย และเห็นว่ามีผู้ประกอบการ SME จำนวนมาก ที่ต้องการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองออกมาขาย รวมถึง Global brand ที่ต้องการให้เรานำเสนอสินค้าใหม่ๆ เราจึงผันตัวเองมาลุยธุรกิจ “ODM” เต็มรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่ม “ODM” แบบ One Stop Service เนื่องจากเรามีทีมงานที่มีคุณภาพ ในทุกส่วน เช่น มี R&D เฉพาะในทุกประเภทสินค้า มีเครื่องจักร มีระบบ IT ที่ใช้ในการบริหารจัดการที่ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลก โดยเราสามารถผลิตสินค้าจำนวนน้อยที่สุดหลักพัน ไปจนถึงมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อเดือน


             บริษัทได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นของยอดขายไว้ที่ 2 หลักในทุกๆปี ด้วยการมุ่งทำการตลาดในต่างประเทศมากขึ้น เช่น ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง เป็นต้น บริษัทฯ ได้เพิ่มงบประมาณในการโฆษณาและออกงาน Exhibition ต่างๆ รวมถึงการนำเสนอในงานแสดงสินค้า “Cosmoprof CBE ASEAN 2024” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2567 นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสัดส่วนลูกค้าในปัจจุบัน ภายในประเทศอยู่ที่ 45% และต่างประเทศอยู่ที่ 55% ขณะนี้อยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ Young Generation ภายใต้การนำของคุณ จิรัชยา วามะศิริ บุตรสาวของท่านประธาน มาร่วมเป็นผู้บริหารในการวางแผนต่อยอดธุรกิจออกสู่ต่างประเทศโดยนอกจากมีพันธมิตรญี่ปุ่นแล้ว ยังร่วมหาพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ เช่น เกาหลี กลุ่มประเทศในยุโรป อเมริกา เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการศึกษาวิจัย วัตถุดิบต่างๆ เทรนด์ตลาด เพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศมากขึ้น


             นางสาวรุ่งระวี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเป็นโรงงานรับจ้างผลิต OEM – ODM เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับเทรนด์ ความงามในช่วงนั้นๆ ต้นทุน ราคาวัตถุดิบที่ผันผวนตลอดเวลาตามสถานะการณ์โลก ซึ่งเราต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงคู่แข่งที่เราจะต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย หรือแม้แต่เจ้าของแบรนด์ดังที่มีโรงงานผลิตเองดังนั้น ต้นทุนการผลิตจึงสำคัญมาก ทำให้บริษัทมีกำไรน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา ด้วยการบริหารอย่างระมัดระวัง การมีวินัยทางการเงินที่เคร่งครัด เราจึงค่อยๆเติบโตได้อย่างมั่นคง ทำให้ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเดิมด้วยดีเสมอมา และลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นในทุกปี

             คณะผู้บริหารภายใต้การนำของท่านประธาน นิพนธ์ วามะศิริ ผู้ก่อตั้งบริษัท เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล คิดจริง ทำจริง มีความมุ่งมั่น เป้าหมายคือ องค์กรต้องยั่งยืน ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราต้องสามารถปรับตัวให้ได้ในทุกสถานการณ์ เน้นการบริการให้ครบวงจรให้มากที่สุด สร้างความพึงพอใจตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละ Segment  ด้วยความซื่อสัตย์และดำเนินธุรกิจแบบมีส่วนร่วม เป็นพันธมิตรทั้งกับลูกค้าและคู่ค้า เช่น Supplier ที่มีทั้งในและต่างประเทศ แบบ WIN – WIN เพื่อสิ่งดีๆที่จะมอบให้กับผู้บริโภค ในแต่ละแบรนด์  ในที่สุดผลลัพธ์ก็จะกลับมาสู่ ลูกค้า คู่ค้า บริษัท พนักงาน และธุรกิจที่ยังดำเนินได้ในประเทศไทย

             สำหรับ”หัวใจสำคัญ ที่ทำให้ “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์” ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบันคือ “คน” บริษัทถือว่า “คน” เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด บริษัทมีความภาคภูมิใจที่มีพนักงานที่ดี มีคุณภาพ ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ ร่วมทุกข์ร่วมสุขและรักองค์กร เราเชื่อเสมอว่าการมีทีมงานที่ดี คอยสนับสนุนในทุกๆด้านจึงทำให้เราเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ และต่อๆไปในอนาคต” นางรุ่งระวี กล่าวสรุปในตอนท้าย
7
เปิดอาณาจักร “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์”
ผู้นำแถวหน้าของโลกธุรกิจ OEM-ODM เครื่องสำอาง และสุขภาพครบวงจร สินค้าแบรนด์ดังกว่า 1,000 แบรนด์ จาก 300 บริษัททั่วโลก มายาวนานกว่า 35 ปี


             เปิดอาณาจักร “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด” ผู้นำแถวหน้าของโลกธุรกิจ OEM-ODM ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม และสุขภาพ B2B ครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 300 บริษัทชั้นนำจากทั่วโลก อาทิเช่น Unilever, Boots, Srichand, IN2IT, DKSH และอื่นๆอีกมากมาย ให้ผลิตสินค้าจำนวนมากกว่า 1,000 แบรนด์ ส่งออกไปยังมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกมายาวนานกว่า 35 ปี โดยล่าสุดทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาพื้นที่โรงงาน และนำเข้าเครื่องจักรที่ทันสมัย รองรับการผลิตที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำบริษัทด้านการผลิตระดับโลก ตั้งเป้าเป็นองค์กรณ์ที่ยั่งยืนโดยมี อัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 หลักในทุกปี


             นางสาวรุ่งระวี กิตติสินชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาเครื่องสำอาง และสุขภาพครบวงจร B2B ครอบคลุมประเภทสินค้า Skin Care, Personal Care, Color Cosmetics, Toiletries, Hair Product, Medical Device, Food Supplement, Household Product ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2532 โดยการร่วมทุนกับ บริษัท ไมลอทท์ คอสเมติค คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทรับผลิตสินค้า OEM TOP 3 ของประเทศญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องสำอางมายาวนานกว่า 85 ปี โดยผสมผสานความรู้ด้านการผลิตที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เข้ากับที่ตั้งทางยุทธศาสตร์การผลิตและแรงงานที่มีราคาถูก มีคุณภาพของประเทศไทย ให้บริการแบบ “One Stop Service” ตั้งแต่กระบวนการนำเสนอ Concept จนผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปพร้อมวางจำหน่ายโดยสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ 51% และกลุ่ม ไมลอทท์ ประเทศญี่ปุ่น 49%


             ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการส่งเสริมและสนับสนุน แบรนด์ด้านความงามและสุขภาพทั่วโลก ที่มีนวัตกรรม มีคุณภาพเหนือกว่า รวมถึงการให้บริการที่รวดเร็ว มี Commitment โดยมุ่งมั่นที่จะเสนอโซลูชั่นให้ตรงความต้องการของลูกค้า ซึ่งการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จและตอบสนองความต้องการของแบรนด์ ต่างๆนั้น ได้จากการผ่านค่านิยมของบริษัท คือ FAITH ขณะเดียวกันเราก็มุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งต่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน สิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยเราให้คำนิยามค่านิยมของบริษัทไว้ดังนี้

FAITH    F คือ Flexible ความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า

A คือ Agile ความรวดเร็วที่สนองตอบตามความต้องการลูกค้าในทุกแผนก

I คือ Integrate Positive Thinking การบูรณาการความคิดในเชิงบวก

T คือ Teamwork การทำงานเป็นทีม

H คือ Honesty ความซื่อสัตย์ทั้งต่อตนเอง ลูกค้า คู่ค้าและสังคม


             ตลอด 35 ปี “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์” ไม่เคยหยุดพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลก โดยล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณกว่า  1,000 ล้านบาท สร้างโกดังสินค้าและต่อเติมอาคาร บนเนื้อที่กว่า 150,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่สูงถึง 10,000 ตัน หรือประมาณมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อเดือนนอกจากนี้ยังนำเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพรวมถึง AI และระบบบริหารจัดการให้ทันสมัย โดยสัดส่วนการผลิตสินค้าของโรงงานในปัจจุบัน คือกลุ่ม Skin Care, Personal Care, Hair product 65%, Make up 15%, Homecare 10-15%, และอื่นๆ 10%


             เนื่องจากในปัจจุบันการแข่งขันธุรกิจเครื่องสำอางเติบโตขึ้นมาก แม้ทั่วโลกจะประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 แต่วงการความงามกลับมีสินค้าใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย สินค้าเกี่ยวกับความงามมีปัจจัยภายนอกเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจะเห็นว่าเครื่องสำอางบางยี่ห้อมีการปรับเปลี่ยนสูตร เปลี่ยนดีไซน์แพคเกจจิ้งอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะสินค้าที่เน้นการขายในช่องทางออนไลน์ บางครั้งปรับเปลี่ยนจนผู้บริโภคตามไม่ทัน ซึ่งตลาดสินค้ากลุ่มนี้ในประเทศต่างๆ ก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ประเทศในโซนยุโรบ อเมริกา ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างจะเน้นไปในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนโซนเอเชียเน้นสินค้าที่ใช้ได้ผลในราคาที่คุ้มค่า มีความหลากหลายของดีไซน์แตกต่างกันออกไป แต่ประเทศที่มีอิทธิผลต่อการเปลี่ยนแปลงของวงการสินค้าความงามมากที่สุดในขณะนี้ คือ ประเทศเกาหลี


             นางสาวรุ่งระวี กล่าวอีกว่าที่ผ่านมา เราเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย และเห็นว่ามีผู้ประกอบการ SME จำนวนมาก ที่ต้องการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองออกมาขาย รวมถึง Global brand ที่ต้องการให้เรานำเสนอสินค้าใหม่ๆ เราจึงผันตัวเองมาลุยธุรกิจ “ODM” เต็มรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่ม “ODM” แบบ One Stop Service เนื่องจากเรามีทีมงานที่มีคุณภาพ ในทุกส่วน เช่น มี R&D เฉพาะในทุกประเภทสินค้า มีเครื่องจักร มีระบบ IT ที่ใช้ในการบริหารจัดการที่ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลก โดยเราสามารถผลิตสินค้าจำนวนน้อยที่สุดหลักพัน ไปจนถึงมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อเดือน


             บริษัทได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นของยอดขายไว้ที่ 2 หลักในทุกๆปี ด้วยการมุ่งทำการตลาดในต่างประเทศมากขึ้น เช่น ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง เป็นต้น บริษัทฯ ได้เพิ่มงบประมาณในการโฆษณาและออกงาน Exhibition ต่างๆ รวมถึงการนำเสนอในงานแสดงสินค้า “Cosmoprof CBE ASEAN 2024” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2567 นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสัดส่วนลูกค้าในปัจจุบัน ภายในประเทศอยู่ที่ 45% และต่างประเทศอยู่ที่ 55% ขณะนี้อยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ Young Generation ภายใต้การนำของคุณ จิรัชยา วามะศิริ บุตรสาวของท่านประธาน มาร่วมเป็นผู้บริหารในการวางแผนต่อยอดธุรกิจออกสู่ต่างประเทศโดยนอกจากมีพันธมิตรญี่ปุ่นแล้ว ยังร่วมหาพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ เช่น เกาหลี กลุ่มประเทศในยุโรป อเมริกา เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการศึกษาวิจัย วัตถุดิบต่างๆ เทรนด์ตลาด เพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศมากขึ้น


             นางสาวรุ่งระวี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเป็นโรงงานรับจ้างผลิต OEM – ODM เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับเทรนด์ ความงามในช่วงนั้นๆ ต้นทุน ราคาวัตถุดิบที่ผันผวนตลอดเวลาตามสถานะการณ์โลก ซึ่งเราต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงคู่แข่งที่เราจะต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย หรือแม้แต่เจ้าของแบรนด์ดังที่มีโรงงานผลิตเองดังนั้น ต้นทุนการผลิตจึงสำคัญมาก ทำให้บริษัทมีกำไรน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา ด้วยการบริหารอย่างระมัดระวัง การมีวินัยทางการเงินที่เคร่งครัด เราจึงค่อยๆเติบโตได้อย่างมั่นคง ทำให้ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเดิมด้วยดีเสมอมา และลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นในทุกปี

             คณะผู้บริหารภายใต้การนำของท่านประธาน นิพนธ์ วามะศิริ ผู้ก่อตั้งบริษัท เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล คิดจริง ทำจริง มีความมุ่งมั่น เป้าหมายคือ องค์กรต้องยั่งยืน ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราต้องสามารถปรับตัวให้ได้ในทุกสถานการณ์ เน้นการบริการให้ครบวงจรให้มากที่สุด สร้างความพึงพอใจตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละ Segment  ด้วยความซื่อสัตย์และดำเนินธุรกิจแบบมีส่วนร่วม เป็นพันธมิตรทั้งกับลูกค้าและคู่ค้า เช่น Supplier ที่มีทั้งในและต่างประเทศ แบบ WIN – WIN เพื่อสิ่งดีๆที่จะมอบให้กับผู้บริโภค ในแต่ละแบรนด์  ในที่สุดผลลัพธ์ก็จะกลับมาสู่ ลูกค้า คู่ค้า บริษัท พนักงาน และธุรกิจที่ยังดำเนินได้ในประเทศไทย

             สำหรับ”หัวใจสำคัญ ที่ทำให้ “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์” ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบันคือ “คน” บริษัทถือว่า “คน” เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด บริษัทมีความภาคภูมิใจที่มีพนักงานที่ดี มีคุณภาพ ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ ร่วมทุกข์ร่วมสุขและรักองค์กร เราเชื่อเสมอว่าการมีทีมงานที่ดี คอยสนับสนุนในทุกๆด้านจึงทำให้เราเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ และต่อๆไปในอนาคต” นางรุ่งระวี กล่าวสรุปในตอนท้าย
8
ถิรไทย ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 พร้อมจ่ายปันผล 0.21 บาทต่อหุ้น


ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมด้านพลังงานรายใหญ่ของประเทศ ร่วมเป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 เพื่อสรุปผลดำเนินงานพร้อมประกาศจ่ายปันผล 0.21 บาทต่อหุ้น โดยมี นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว, นายอรรณพ เตกะจรินทร์, นายบุญชัย โสวรรณวนิชกุล, นายไต้ จงอี้ ร่วมประชุมด้วย ณ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้
9
"ไวไว" ร่วมสืบสานงานบุญ
"ดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว ประจำปี 2567"


นางสาวณิชรัตน์ ชำนาญกิจ ผู้อำนวยการส่งเสริมการตลาด (ฝ่ายการตลาด) บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า "ไวไว" นำทีมผู้บริหารและพนักงาน ร่วมงานบุญในงาน "ดอกคูนเสียงแคน และถนนข้าวเหนียว ประจำปี 2567" พร้อมร่วมรดน้ำขอพรผู้สูงอายุในจ.ขอนแก่น เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของพี่น้องชาวขอนแก่น ที่ปฏิบัติต่อเนื่องในทุกปี โดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ ณ ศาลหลักเมืองขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น เมื่อเร็ว ๆ นี้
10
ให้บรรยากาศในบ้านสดชื่นรับสงกรานต์ หลีกหนีความวุ่นวายด้วยกลิ่นหอมจาก Maison Berger Paris มอบทั้งส่วนลดพิเศษและผลิตภัณฑ์สมนาคุณในกลุ่มน้ำหอมบ้าน




             สงกรานต์นี้ สดชื่นดับร้อนด้วยความหอมภายในบ้าน ที่จะกระตุ้นให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอันเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานด้วย เมซอง แบร์เช่ ปารีส (Maison Berger Paris) ผู้นำด้านเครื่องหอมสำหรับบ้านเกรดพรีเมียมจากประเทศฝรั่งเศส เป็นแบรนด์ที่มีกลิ่นน้ำหอมให้เลือกมากที่สุดกว่า 50 กลิ่น กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน และยังปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง มีการพัฒนานวัตกรรมความหอมบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคุณสมบัติของตะเกียงน้ำหอมที่ช่วยฟอกอากาศให้สะอาดสดชื่น


             ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายน 2567 จัดโปรโมชัน Scents Escape ชวนคุณปลีกตัวจากความวุ่นวายรอบตัว พักผ่อนและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่สร้างขึ้นได้ง่าย ๆ ภายในบ้านด้วยตะเกียงน้ำหอมช่วยฟอกอากาศ คลายร้อนเรียกความสดชื่นทุกเวลา ในราคาสุดพิเศษลดจากปกติ 20% อีกทั้งเมื่อซื้อน้ำหอมสำหรับเติมตะเกียง ขนาด 1 ลิตร รับฟรี น้ำหอมขนาด 500 มิลลิลิตร (มูลค่า 1,190 บาท) ซื้อน้ำหอมสำหรับเติมตะเกียง ขนาด 500 มิลลิลิตร หรือน้ำหอมสำหรับเติมก้านกระจายความหอม ขนาด 200 มิลลิลิตร รับฟรี น้ำหอมอีก 1 ขวด (มูลค่า 1,190 – 1,590 บาท) โดยคัดสรรมาในกลุ่มของกลิ่นที่สร้างอารมณ์สดชื่น ผ่อนคลาย ได้แก่ Zest of Verbena, Green Apple, Sandalwood, Lavender Fields, Lolita Lempicka, Ocean Breeze, Cotton Caress, White Cashmere, Summer Rain, Bouquet Liberty

             คุ้มอีกต่อด้วยสิทธิพิเศษ เมื่อซื้อสินค้าครบ 5,000 บาทขึ้นไป รับก้านกระจายความหอม Cube ฟรี 1 ชิ้น สามารถเลือกกลิ่นได้ และเมื่อซื้อสินค้าครบ 8,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์แลกซื้อชุดเซ็ตตะเกียงน้ำหอม Essential ที่มีให้เลือกถึง 3 แบบ ในราคาพิเศษ 850 บาท จากปกติ 2,470 บาท

             เมซอง แบร์เช่ ปารีส (Maison Berger Paris) ดำเนินธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัท อีโมเซีย กรุ๊ป (Emosia Group) พัฒนานวัตกรรมเครื่องหอมบ้านมากว่า 125 ปี และได้รับตราสัญลักษณ์ EPV (Entreprise du Patrimoine Vivant) จากรัฐบาลฝรั่งเศส แสดงถึงผลิตภัณฑ์ทรงคุณค่าภูมิปัญญาของฝรั่งเศส มีความหลากหลายทั้งฟังก์ชันและดีไซน์ ได้แก่ ตะเกียงน้ำหอม น้ำหอมสำหรับเติมตะเกียง ก้านกระจายความหอม เทียนหอม เครื่องกระจายความหอมอัตโนมัติ และคลิปน้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ พบกับผลิตภัณฑ์เครื่องหอมสำหรับบ้าน เมซอง แบร์เช่ ปารีส (Maison Berger Paris) พร้อมโปรโมชันที่น่าสนใจได้ที่ร้าน เมซอง แบร์เช่ ปารีส ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ Facebook:MaisonBergerThailand LINE:@maisonbergerthai IG:maisonbergerthailand www.maisonbergerthailand.com, Lazada, Shopee, SabuySoft ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านความหอมที่พร้อมให้บริการถึง 10 สาย สอบถามรายละเอียด โทร. 02-672-2088

#MaisonBergerParis #MaisonBergerThailand #CarDiffuser #HomeDecor #น้ำหอมสำหรับรถยนต์ #น้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ #HomeFragrance #ตะเกียงน้ำหอม #ก้านกระจายความหอม #เครื่องพ่นกระจายความหอม #เทียนหอม #น้ำหอมสำหรับบ้าน #น้ำหอมสำหรับบ้านสไตล์ฝรั่งเศส #ก้านไม้หอมระเหย #เครื่องหอมคอลเล็กชันเอ็กซ์คลูซีฟ #ไอเดียของขวัญ #ไอเดียของแต่งบ้าน #เครื่องหอมสำหรับบ้าน #บ้านสวยหรูหราด้วยเครื่องหอมจากเมซองแบร์เช่ปารีส #แต่งบ้านให้สวยเหมือนบ้านดารา #บ้านในฝัน #คอนโดหรู
Pages: [1] 2 3 ... 10