Recent Posts

Pages: 1 [2] 3 4 ... 10
11
วิเคราะห์ปัจจัยสาเหตุการพังถล่มของสะพานบัลติมอร์


ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย

จากเหตุสะพานบัลติมอร์ถล่มที่มลรัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกลางดึกของคืนวันอังคารที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ได้วิเคราะห์สาเหตุการพังถล่มของสะพานดังกล่าว โดยอธิบายว่า สะพานบัลติมอร์ เป็นสะพานที่มี 4 ช่องทางจราจร และมีความยาวรวม 2.6 กิโลเมตร ระบบโครงสร้างของสะพานเป็นชนิดสะพานโครงถักเหล็กทะลุ (Through steel Truss Bridge) ชนิดโค้งต่อเนื่อง 3 ช่วง (Continuous arch) รองรับด้วยเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก

ศ.ดร.อมร วิเคราะห์ลำดับเหตุการณ์การพังถล่ม (Failure scenario) ว่าเกิดจากเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ชนปะทะที่เสาตอม่อต้นหลัก (Main Pier) ที่ตั้งอยู่กลางน้ำ ทำให้เสาตอม่อพังทลาย แล้วทำให้ตัวสะพานโครงถักเหล็กพังถล่มตามมาเนื่องจากสูญเสียจุดรองรับ โดยลักษณะของการถล่มเป็นการวิบัติต่อเนื่อง (Progressive collapse) เริ่มต้นจาก เสาตอม่อต้นกลางถูกเรือสินค้าชนจนหัก จากนั้น โครงเหล็กช่วงที่ตั้งอยู่บนเสาร่วงลงมา และเนื่องจากโครงสร้างที่มีลักษณะต่อเนื่อง จึงดึงรั้งให้โครงเหล็กช่วงที่เหลือร่วงตามลงมาด้วยในที่สุด
   
สำหรับปัจจัยที่นำไปสู่การชนของเรือและการวิบัตินั้น ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ 3 ประเด็น ได้แก่

1.   ความผิดพลาดจากคนที่บังคับเรือ ในช่วงกลางคืน อาจจะอยู่ในสภาพเหนื่อยล้า ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการบังคับเส้นทางเดินเรือ
2.   มีความผิดพลาดในระบบทางกล หรือเครื่องยนต์หรือระบบนำทิศทางของเรือ ทำให้ไม่สามารถบังคับทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือได้
3.   ในด้านโครงสร้าง กำลังรับน้ำหนักของเสาตอม่อไม่สามารถต้านทานแรงปะทะที่เกิดจากเรือชนได้ โดยสังเกตได้ว่าเรือสินค้ามีน้ำหนักมาก เมื่อชนปะทะกับเสาตอม่อ จะทำให้เกิดโมเมนตัมและแรงปะทะขนาดมหาศาล ทำให้เสาตอม่อพังทลายได้

ส่วนสาเหตุที่แท้จริง จะเป็นเช่นไรนั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่นที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงที่จะรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ และคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการสรุปสาเหตุที่แท้จริง

ศ.ดร. อมร อธิบายเพิ่มเติมว่า ในการออกแบบโครงสร้างสะพานทางวิศวกรรมนั้น  ตามมาตรฐานสากล หากเป็นการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำหรือทะเล ที่มีเรือสัญจรผ่านไปมา นอกจากจะต้องออกแบบให้รองรับน้ำหนักรถที่วิ่งบนสะพานแล้ว  จะต้องออกแบบให้เสาตอม่อต้านทานแรงปะทะจากเรือชนด้วย หรือมิฉะนั้นแล้ว จะต้องทำโครงสร้างเพื่อป้องกันเสาตอม่อต่างหาก หรือ สร้างเกาะเทียมล้อมรอบเสาตอม่อ เพื่อมิให้เรือเข้ามาปะทะเสาได้โดยตรง

สำหรับการถล่มของสะพานบัลติมอร์ เป็นโศกนาฏกรรมที่ใหญ่หลวงมาก ไม่เฉพาะแต่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ทุกประเทศทั่วโลก ก็ย่อมเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้เหมือนกัน ดังนั้นสำหรับสะพานที่ตั้งอยู่ในลำน้ำที่มีเรือสัญจรผ่านไปมา จึงควรประเมินกำลังรับน้ำหนักของเสาตอม่อสะพานว่าสามารถต้านทานแรงปะทะจากเรือชนได้ขนาดไหน และกำหนดมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุสะพานถล่มลักษณะนี้ในอนาคต
12
ศูนย์การค้าแพลทินัม ชวนช้อปชิม สุดแซ่บ ในงาน “ Zaap Spicy Fest ” ตั้งแต่วันนี้ -  31 มี.ค. 67


ศูนย์การค้าแพลทินัม ชวนช้อปชิม สุดแซ่บ ในงาน Zaap Spicy Fest พบกับความเผ็ดร้อนแสนอร่อยด้วยเมนูรสแซ่บสุดซี๊ดมากกว่า 100 เมนู อาทิ ต้มยำกุ้งหม้อไฟ ทะเลเผาน้ำจิ้มซีฟู๊ด และอาหารนานาชาติมากมาย ปรุงสดพร้อมเสิร์ฟนอกจากนี้ยังมีผลไม้เครื่องดื่มชุ่มฉ่ำดับร้อนให้เลือกสรร และโซนจำหน่ายสินค้าแฟชั่น มากกว่า 70 ร้านค้า ณ ลานกิจกรรมด้านหน้าศูนย์การค้าแพลทินัม ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 67 ติดตามรายละเอียดร้านค้าและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ได้ที่ FB: Platinum Fashion Mall แพลทินัม แฟชั่น มอลล์

















13
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต มอบรางวัล “Allianz Ayudhya Hospital Service Awards”
ยกระดับมาตรฐานการบริการที่เป็นเลิศ


              บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ร่วมกับโรงพยาบาลเครือข่ายอลิอันซ์ อยุธยา แคร์ ทั่วประเทศ ยกระดับบริการทุกด้านสู่ความเป็นเลิศ จัดงานมอบรางวัลเกียรติยศ “Allianz Ayudhya Hospital Service Awards 2023” ปีที่ 14 รางวัลแห่งเกียรติยศการันตีการบริการที่เป็นเลิศ ให้แก่โรงพยาบาลที่ได้รับคะแนนความพึงพอใจจากลูกค้าสูงสุด หวังยกระดับมาตรฐานและคุณภาพการบริการตามกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง


              นางสาวนภา  ตรีรัตนาวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานธุรกิจประกันสุขภาพ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า “บริการทางการแพทย์ของประเทศไทยนับได้ว่ามีคุณภาพและมาตรฐานในอันดับต้นของโลก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างให้ความไว้วางใจในความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์ และนวัตกรรมในโรงพยาบาลของไทยอย่างมาก อลิอันซ์ อยุธยา จึงมุ่งมั่นในการมอบบริการเป็นเลิศ ยกระดับการให้บริการด้านการคุ้มครองสุขภาพ รางวัลเกียรติยศ “Allianz Ayudhya Hospital Service Awards 2023” ในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับทุกโรงพยาบาลในเครือฯ ร่วมสร้างมาตรฐานการดูแลด้านการแพทย์และการบริการให้ลูกค้าพึงพอใจอย่างสูงสุดตามกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง”


มร.โทมัส วิลสัน

              อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ประสบความสำเร็จในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ได้รับคะแนน NPS Score ใช้วัดความพึงพอใจลูกค้าอยู่ในระดับ Loyalty Leader ความสำเร็จนี้ เกิดจากการทำงานของหลายฝ่าย ซึ่งส่วนหนึ่งที่สำคัญ คืองานบริการจากโรงพยาบาลเครือข่าย อลิอันซ์ อยุธยา แคร์ กว่า 500 แห่งทั่วประเทศที่ร่วมมือร่วมใจกันในการพัฒนาบริการเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดของลูกค้า


              สำหรับการประกาศผลรางวัลเกียรติยศ ประจำปี 2023 จะมอบให้กับโรงพยาบาลเครือข่ายอลิอันซ์อยุธยาแคร์ ที่มีผลงานยอดเยี่ยมใน 3 ประเภท โดยในแต่ละประเภทรางวัล บริษัทฯ ได้แบ่งโรงพยาบาลออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม A และกลุ่ม B ตามจำนวนผู้ป่วยใน ตลอดปี 2023 โดยปีนี้ มีโรงพยาบาลที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 6 โรงพยาบาล ดังนี้


1. Allianz Ayudhya Best Medical Excellence Award – รางวัลการบริหารและการบริการทางการแพทย์ยอดเยี่ยม
มอบให้กับโรงพยาบาลที่มีการบริหาร การบริการ และมีความเหมาะสมในทางการแพทย์ยอดเยี่ยม โรงพยาบาลที่มีผลรวมคะแนนการตรวจรักษาและมีความเหมาะสมในการให้บริการทางการแพทย์สูงสุด

โรงพยาบาลที่ได้รับรางวัลได้แก่

§  กลุ่ม A ได้แก่  โรงพยาบาล กรุงเทพ (สำนักงานใหญ่)
§  กลุ่ม B ได้แก่  โรงพยาบาล พญาไท 1


2. Allianz Ayudhya Best Collaboration Award – รางวัลความร่วมมือและการประสานงานทางการแพทย์ยอดเยี่ยม
มอบให้กับโรงพยาบาลที่ให้ความร่วมมือในการประสานงานด้านต่าง ๆ กับ อลิอันซ์ อยุธยา อย่างดีที่สุด ซึ่งรวมถึงการบริการทางการแพทย์ การตรวจรักษาของโรงพยาบาล และความความพึงพอใจ ของลูกค้า

§  กลุ่ม A ได้แก่ โรงพยาบาล ไทยนครินทร์
§  กลุ่ม B ได้แก่ ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


3. Allianz Ayudhya Best Utilization Management Award: รางวัลการบริหารจัดการทรัพยากรทางการแพทย์ยอดเยี่ยม
มอบให้กับ โรงพยาบาลที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพ เหมาะสม คุ้มค่า และสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่ไปใช้บริการ

§  กลุ่ม A ได้แก่ โรงพยาบาล ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์   
§  กลุ่ม B ได้แก่ โรงพยาบาล กรุงเทพขอนแก่น



นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรางวัลพิเศษ อีก 3 รางวัล ได้แก่

1.      Best UR Team รางวัลทีมบริหารจัดการทางการแพทย์ยอดเยี่ยม มอบให้กับ ทีมงานโรงพยาบาลที่ให้ความร่วมมือในการประสานงาน และความมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ด้าน การบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ที่จำเป็น เหมาะสม และคุ้มค่า อย่างดีเยี่ยม

§  กลุ่ม A ได้แก่  โรงพยาบาล สมิติเวช สุขุมวิท   
§  กลุ่ม B ได้แก่ ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


2.   Best Discharge team: รางวัลทีมบริหารจัดการ Hospital Discharge ยอดเยี่ยม มอบให้กับทีมงานโรงพยาบาลที่ให้ความร่วมมือในการประสานงานการกลับบ้านของลูกค้าที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในได้รวดเร็วและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าที่ไปใช้บริการ

§  กลุ่ม A ได้แก่  โรงพยาบาล วิชัยยุทธ
§  กลุ่ม B ได้แก่ โรงพยาบาล กรุงเทพหัวหิน


3.   Best Medical Cooperation team: รางวัลทีมประสานงานความร่วมมือทางการแพทย์ยอดเยี่ยม มอบให้กับทีมงานโรงพยาบาลที่ให้ความร่วมมือการประสานงานด้านการตลาดทั้งการส่งเสริมสุขภาพ และการโปรโมทแคมเปญสุขภาพ เพื่อสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าที่ไปใช้บริการ

§  กลุ่ม A ได้แก่ โรงพยาบาล พญาไท 2
§  กลุ่ม B ได้แก่ โรงพยาบาล ศรีสวรรค์


             โรงพยาบาลที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัล ประกาศนียบัตรประกาศเกียรติคุณ และโอกาสทางธุรกิจกับ อลิอันซ์ อยุธยา และขอขอบคุณโรงพยาบาลในเครือฯ ทั่วประเทศ ที่ร่วมพัฒนาบริการเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าปัจจุบันและในอนาคตไปด้วยกัน
14
สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ จัดประชุมวิชาการสัญจร
พร้อมมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในพื้นที่


              เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย (เสื้อสีเหลือง)มอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬาฯและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้แก่นักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะมุกต์ ในการประชุมวิชาการสัญจร ของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย มีการประชุมวิชาการในหลายหัวข้อ อาทิ เรื่อง Age Gracefully สูงวัยอย่างสง่างาม โดย รศ.นพ.วรพงษ์ สนัสเกียรติ เลขาธิการสมาคมแห่งประเทศไทยและ เรื่อง Hair Loss Make Easy โดย รศ.นพ.รัฐพล ตวงทอง ประธานวิชาการมาคมแทพย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ที่  จ.ตรัง ทั้งนี้สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่เพื่อตอบแทนสังคม โดยให้การรักษาโรคผิวหนังรวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป



15
แฟรนไชส์ขนส่ง BEST Express กับเทคนิคบริหารจัดการที่หลากหลายตอบโจทย์ด้านการบริการตามแต่ละพื้นที่


              การลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ท้าทาย แม้จะมีการแข่งขันสูง แต่ตลาดในไทยนับว่ายังสามารถเติบโตได้อีกมาก ผันแปรไปตามธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจขนส่งจึงนับเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนในปัจจุบัน เบสท์ เอ็กซ์เพรส (BEST Express) เป็นขนส่งพัสดุด่วนเจ้าแรกในไทยที่ดำเนินธุรกิจแบบแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ 100% โดยผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ BEST Express

              สามารถดูแลบริหารจัดการลูกค้าในพื้นที่ดูแลได้อย่างอิสระเต็มที่ ทำให้แฟรนไชส์หลายสาขามีวิธีการบริหารและดำเนินกิจการขนส่งที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ด้วยเคล็ดลับการบริการลูกค้าที่ตรงจุดส่งผลให้ยอดพัสดุของสาขาโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

              คุณวันรัก ศิริพันธ์โนน แฟรนไชส์ BEST Express สาขาชัยภูมิ1 เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ BEST Express จุดเริ่มต้นในขนส่งพัสดุด่วนของคุณวันรัก เริ่มจากการเป็นผู้ขายออนไลน์ทางอีคอมเมิร์ซ และขยายธุรกิจก้าวสู่ผู้ให้บริการด้านการขนส่งพัสดุด่วนที่ทำหน้าที่ทั้งรับและกระจายพัสดุให้กับลูกค้า โดยมีมุมมองว่า “ธุรกิจขนส่งทำให้เราไปต่อได้ ถ้าธุรกิจอีคอมเมิรซ์โต ขนส่งก็จะโตตามไปด้วย จากประสบการณ์ที่เราได้รับจากการค้าขายออนไลน์ ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงการบริการด้านโลจิสติกส์ ประกอบกับเรามีบุคลากร มีรถเป็นของตัวเอง และมีความรู้ในการบริหารจัดการพื้นที่อยู่แล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจลงทุนเป็นแฟรนไชส์ BEST Express เนื่องจากเป็นขนส่งเดียวที่เปิดรับแฟรนไชส์ ให้เรามีสิทธิ์ในการบริหารพื้นที่ตั้งแต่ขารับและกระจายพัสดุ รวมทั้งมีสิทธิ์ในการบริหารพื้นที่โดยมีเบสท์ สำนักงานใหญ่คอยสนับสนุนการดำเนินงานและระบบต่าง ๆ ทำให้มองเห็นรายได้ที่คิดว่ามันน่าจะไปได้ดี”

              การบริหารพื้นที่สาขาชัยภูมิ1 ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากชัยภูมิเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่กว้างและมีหลายอำเภอ โดยบางอำเภออาจมีภูมิศาสตร์ที่ค่อนข้างยากลำบากในการจัดส่งพัสดุเป็นอย่างมาก จุดเด่นในด้านการบริการคือเราจะให้ความสำคัญกับลูกค้าในพื้นที่เป็นอันดับแรก เป็นสิ่งที่ยึดถือเป็นหลักในการบริหารสาขามาโดยตลอด และเน้นบริการหลังการขายเป็นสำคัญ ทำให้ฐานลูกค้าในพื้นที่ชัยภูมิทั้งที่เป็นพัสดุชิ้นเล็ก และพัสดุชิ้นใหญ่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

              แฟรนไชส์ BEST Express สาขานวลจันทร์ นับเป็นอีกหนึ่งสาขาที่ประสบความสำเร็จอย่างสง่างาม ในการร่วมธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนเคียงคู่กับ BEST Express ด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจในการบริหารสาขา คุณชณันวัชร์ ตันติวิศานต์ภพ แฟรนไชส์ BEST Express สาขานวลจันทร์ ได้ตัดสินใจมาลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ BEST Express โดยมองเห็นโอกาสในธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนว่ามีทิศทางที่ดีสามารถเติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ “เนื่องจากสาขานวลจันทร์มีพื้นที่บริการที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้ได้เปรียบในการบริหารจัดการสินค้า โดยในพื้นที่มีลูกค้ารายใหญ่ค่อนข้างมาก อีกทั้งการบริการลูกค้าที่ดีทำให้สาขามีฐานลูกค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยการบริการที่ใส่ใจอย่างสม่ำเสมอทำให้รักษาฐานลูกค้าได้ โดยเฉพาะลูกค้า VIP ที่มียอดพัสดุในแต่ละวันค่อนข้างมาก โดยหลักการทำงานของสาขาหมือนเป็นการบริการแบบจู่โจม สาขายินดีรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ ของลูกค้า และนำมาแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และไม่พบปัญหาซ้ำอีก”

              นอกจากนี้คุณชณันวัชร์ ยังมีวิสัยทัศน์ในการบริหารสาขาเชิงบวก สอดรับกับนโยบายของสำนักงานใหญ่เสมอมา “ทุกนโยบายของสำนักงานใหญ่ คือ โอกาสของแฟรนไชส์ เช่น BEST Express มีบริการขนส่งพัสดุชิ้นใหญ่ ทำให้เรามีโอกาสมากขึ้นในการหาลูกค้าใหม่ ๆ ซึ่งไม่กี่เจ้าในบริษัทขนส่งพัสดุด่วนของเอกชนที่รับพัสดุชิ้นใหญ่ เราเป็นเจ้าใหญ่ที่รับ กลายเป็นจุดแข็งของเรา และตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี เพราะสามารถส่งได้ทั้งชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่ นับว่าเป็นโอกาสดี ๆ ที่สามารถเพิ่มรายได้ให้แฟรนไชส์ได้อย่างยั่งยืน” คุณชณันวัชร์ กล่าวปิดท้าย


              แฟรนไชส์ที่จะประสบความสำเร็จในการลงทุนกับ BEST Express ทั้งสาขาชัยภูมิ1 และสาขานวลจันทร์ อาจมีพื้นที่ในการบริหารสาขาที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารแฟรนไชส์ทั้ง 2 สาขามีคล้ายกัน คือ ทัศนคติในการดำเนินธุรกิจที่มองอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ เป็นโอกาสที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ สำหรับนักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วนกับ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนที่ BEST Express ติดต่อได้ที่ Call center 02-108-8000 หรือ LINE Official Account: @BESTEXPRESSTH หรือคลิก https://lin.ee/jj3oCAb
16
เอาใจสายดาร์กทริลเลอร์ "เกม ล่า ตาย" ลงจอครั้งแรกที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


             ทรูโฟร์ยูชวนคุณผู้ชมไล่ล่าหาตัวฆาตกรในเกมออนไลน์ จะเป็นอย่างไร เมื่อชีวิตถูกเดิมพันไว้กับเกมสยอง เตรียมพบภาพยนตร์ "เกม ล่า ตาย" แนวทริลเลอร์ไซไฟสัญชาติไทย ผลงานการกำกับของ “นิพนธ์ จ้าวเจริญพร” มาพร้อมทัพนักแสดงวัยรุ่น หล่อซื่อ ลี วัศพล กอระกัน อินทัช เหลียวรักวงศ์ อธิชนัน ศรีเสวท ทองภูมิ สิริพิพัฒน์ สุทธิ์รักษ์ ศรีทองกุล จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ และ ภัทร กฤตเมธ ที่จะมาร่วมสร้างความสนุกและลุ้นระทึกกันตลอดทั้งเรื่อง


             เริ่มต้นจาก เมธ (หล่อซื่อ ลี) ชายหนุ่มสู้ชีวิตที่หาเงินมารักษาน้องสาวที่ป่วยหนัก เขาต้องร่วมมือกับเพื่อนเขา พีท(อินทัช เหลียวรักวงศ์) และไปรท์ (วัศพล กอระกัน) เล่นเกมออนไลน์ “ยอดนักสืบ” จนพวกเขาได้เงินรางวัลก้อนโต และแล้วพวกเขาก็พบว่าเกมที่เล่นเป็นคดีฆาตกรรมสุดสะเทือนขวัญที่เคยเกิดขึ้นจริง และฆาตกรก็อยู่ใกล้ตัวเขา ด้วยความโลภไม่มีที่สิ้นสุดของเมธ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบาดหมางกัน เมธก้าวข้ามหัวเพื่อนรัก จน“ความตาย” ค่อยๆคืบคลานมาสู่เมธ ห้ามพลาดชม "เกม ล่า ตาย" ( Bad Social) ในช่วงมูฟวี่พรีเมียร์ วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม เวลา 18.40 น. ชมฟรีดูสนุกทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทาง https://true4u.com/live









17
โรงพยาบาลพระรามเก้า จัดกิจกรรม "วันไตโลก (World Kidney Day 2024)"
รู้ก่อน รักษาทัน ป้องกันไตวาย


นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระรามเก้า และ นายแพทย์วิรุฬห์ มาวิจักขณ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ และผู้อำนวยการสถาบันโรคไตและเปลี่ยนไตพระรามเก้า พร้อมทีมแพทย์จัดกิจกรรม "วันไตโลก" (World Kidney Day 2024) มุ่งรณรงค์เสริมสร้างความรู้เรื่องโรคไตและการดูแลไต ให้ประชาชนตระหนักถึงภัยอันตรายของโรคไต ภายในงานมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุของโรคไต แนวทางการดูแลการรักษา และด้านโภชนาการและการใช้ยา รวมถึงจัดแพ็กเกจโปรแกรมตรวจสุขภาพวันไตโลก โดยมี นายแพทย์น๊อต เตซะวัฒนวรรณา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรศาสตร์โรคไตและผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรศาสตร์โรคไต และศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดเปลี่ยนไต ร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ณ ชั้น 2 อาคาร A โรงพยาบาลพระรามเก้า
18
นิตยสาร BUSINESS+ โดย บมจ.เออาร์ไอพี จับมือ ม.หอการค้าไทย
จัดมอบรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย
THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024




             นิตยสาร BUSINESS+ โดย บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดงานมอบรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024” รางวัลอันเป็นเครื่องหมายแห่งความภาคภูมิใจแด่องค์กรไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศ ที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมและมีความเป็นเลิศในแต่ละด้าน ประจำปี 2567 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Future of AI – Enabled Enterprises โดยปีนี้มีองค์กรได้รับรางวัลทั้งสิ้นรวม 20 รางวัล ประกอบด้วยรางวัลประเภทอุตสาหกรรม 7 รางวัล และรางวัลความเป็นเลิศ 13 รางวัล โดยมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมรับรางวัลอย่างสมเกียรติ ณ  โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ


             นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า “ งานมอบรางวัลในวันนี้นับเป็นปีที่ 12 ที่นิตยสาร BUSINESS+ ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด The Future of AI – Enabled Enterprises  : ก้าวสู่อนาคตขององค์กรด้วยปัญญาประดิษฐ์ ด้วยความชาญฉลาดและความก้าวหน้าของ AI ย่อมจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง และการปฏิวัติการทำงานในด้านต่างๆ มากขึ้น ส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร ทั้งด้านประสิทธิภาพการทำงาน และการลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Generative AI ซึ่งจากการวิจัยของ McKinsey แสดงให้เห็นว่า Generative AI สามารถเปิดใช้งานระบบอัตโนมัติในกิจกรรมทางธุรกิจได้มากถึงร้อยละ 70 ในเกือบทุกสาขาอาชีพระหว่างปัจจุบันถึงปี 2030 ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้นับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกองค์กรจะต้องศึกษาเรียนรู้ และนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ให้มากยิ่งขึ้น ในนามนิตยสาร Business+ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รางวัล THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024 นี้ จะเป็นอีกหนึ่งรางวัลสำคัญในการเสริมสร้างกำลังใจ ให้องค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เสริมสร้างความมุ่งมั่นที่จะยกระดับศักยภาพในการบริหารจัดการธุรกิจให้เจริญงอกงามยั่งยืน อันเป็นรากฐานสำคัญของเศรษกิจไทยต่อไปในอนาคต”


             รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า  “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านธุรกิจของประเทศและระดับอาเซียนที่มุ่งสร้างผู้ประกอบการ ผู้บริหาร และนักบริหารธุรกิจที่มีคุณภาพ มีคุณธรรมจริยธรรม พร้อมรับมือกับความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงของสังคมและเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเรียนการสอนด้านนวัตกรรม  ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI  โดยมหาวิทยาลัยได้เปิดหลักสูตร วิศวกรรมคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์  และวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เน้นเรื่อง Data Analytics and Intelligent System Development เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ ที่จะต้องมุ่งไปสู่โลกแห่ง AI ที่เป็นอนาคต ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก อย่างไรก็ตามปี 2567 นี้ เราเองต้องพบกับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และทุกท่านในที่นี้คือผู้ที่สามารถฝ่าฝันทุกอุปสรรคในปีที่ผ่านมาได้จนเป็นที่ประจักษ์ ผมจึงขอแสดงความยินดีกับทุกองค์กรที่เข้ารับรางวัลในครั้งนี้ รางวัลนี้จะเป็นอีกรางวัลแห่งเกียรติยศและสร้างความภาคภูมิใจในความสำเร็จขององค์กร”




             สำหรับรายชื่อองค์กรที่ได้รับรางวัล “THAILAND TOP COMPANY AWARDS 2024”  ได้แก่

ประเภทอุตสาหกรรม

1.   อุตสาหกรรมการเงิน ได้แก่ บริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด
2.   อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
3.   อุตสาหกรรมประกันชีวิต ได้แก่ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
4.   อุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ได้แก่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)     
5.   อุตสาหกรรมพลังงาน ได้แก่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
6.   อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ได้แก่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
7.   อุตสาหกรรมสำรวจและผลิตทรัพยากรธรรมชาติ และสาธารณูปโภค ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)


ประเภทความเป็นเลิศ

1.   BEST CROSS BORDER BUSINESS SOLUTIONS AWARD ได้แก่ Bank of China (Thai) Public Company Limited
2.   BEST INNOVATIVE TECHNOLOGY AWARD ได้แก่ บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด
3.   DIGITAL BANKING SERVICES OF THE YEAR AWARD ได้แก่ ทีเอ็มบีธนชาต
4.   ESG EXCELLENCE AWARD ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)
5.   FAST-GROWING COMPANY AWARD ได้แก่ MERZ AESTHETICS THAILAND
6.   MOST ADMIRED BRAND AWARD ได้แก่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
7.   MOST POTENTIAL AWARD ได้แก่ บริษัท แพทย์รังสิตเฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
8.   OUTSTANDING AWARD ได้แก่ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน)
9.   TOP BUSINESS PARTNERSHIP AWARD ได้แก่ บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอร์รี่ จำกัด
10.   TOP INNOVATIVE COMPANY AWARD ได้แก่ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)
11.   TOP MANAGEMENT AWARD ได้แก่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)


ประเภท RISING STAR

12.   RISING STAR ได้แก่ บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด
13.   RISING STAR ได้แก่ บริษัท เอ็น.พี. เมดิคอล จำกัด (โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์เนิร์ฟ)
19
“เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” จับมือ “คลีนแอนด์แคร์”
แถลงข่าวงาน “บัตร M Gen x Klean&Kare : ACNE It’s OK เป็นสิวไม่เป็นไร”



         นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณาบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)  พร้อมด้วย พันตรี สมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เอ็น.บี. ลาบอราตอรี่ จำกัด และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจที่นอกเหนือจากโรงพยาบาล 7.2 (Non Hospital) บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) แถลงข่าวงาน  “บัตร M Gen x Klean&Kare : ACNE It’s OK เป็นสิวไม่เป็นไร” เกี่ยวกับความร่วมมือในการส่งมอบความสนุกบันเทิง ผ่อนคลายความเครียดผ่านโปรโมชั่นการชมภาพยนตร์ และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้กับลูกค้าคนรุ่นใหม่ ตลอดจนประเด็นอื่นๆ ในวันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 10.30 – 11.30 น. ณ โรงภาพยนตร์ VIP Theatre 1 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

          สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.majorcineplex.com   www.facebook.com/MajorGroup  รวมถึง www.kleanandkare.co.th/thและ www.facebook.com/KleanandKare/
20
“ดอยตุง” ชวนเที่ยวงาน กาดกลางกรุง 2567


        กลับมาอีกครั้งกับงาน "กาดกลางกรุง ดอยตุง 2567" ครั้งที่ 3 กับงานมหกรรมรวมสินค้า และอาหารจาก “ดอยตุง” แบรนด์ธุรกิจเพื่อสังคม ที่ส่งตรงสินค้าและวัตถุดิบคุณภาพจาก โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย ระหว่าง วันที่ 24-31 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30-20.00 น.  ณ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์

         สำหรับงาน กาดกลางกรุง 2567 จัดขึ้นในในธีม Crafted Sustainability เพลิดเพลินกับบรรยากาศกรีนๆ ใจกลางกรุง ภายในมีไฮไลท์มากมาย อย่างโซนช้อปสินค้าหัตถกรรมงานคราฟต์รักษ์โลก จากผ้าทอมือไทยด้วยเทคนิคการทอที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของดอยตุงและดีไซน์อันโดดเด่น อาทิเช่น เสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋า พร้อมเปิดตัว Collection Spring/Summer 2024 และกระเป๋า Boro Bag ที่มีลวดลายเฉพาะ แต่ละใบจะมีลวดลายไม่ซ้ำกัน (One-of-a-kind)




          นอกจากนี้ภายในงานยังมี เมนูซิกเนเจอร์จาก คาเฟ่ ดอยตุง พิเศษ อย่าง Craft Chocolate  Raspberry เครื่องดื่มเย็นคราฟต์ช็อกโกแลตราสเบอร์รี่ รสชาติสุดเข้มข้น หอมกลิ่นช็อกโกแลตที่หมักด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม สำหรับคอกาแฟต้องลองเมนู Coconut Americano ที่ผสมผสานรสชาติของกาแฟอาราบิก้า 100% กับน้ำช่อดอกมะพร้าว หอมหวาน กลมกล่อม อร่อยสดชื่น และกาแฟดริปหรือแคปซูล รสชาติพิเศษฉบับดอยตุง ทำจากเมล็ดกาแฟคุณภาพใต้ป่าดอยตุง สะดวก ชงง่าย รวดเร็ว ในราคาพิเศษ พร้อมฟินกับ “ไอศกรีมดอยตุง“ รสชาติ และลายใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจาก 3 สัญลักษณ์ในสวนแม่ฟ้าหลวง ประกอบด้วย ไอศกรีมดอกไม้ระบายดอย รสอัญชันน้ำผึ้งมะนาว, ไอศกรีมน้องหมี่ก่า รสนมชมพู และไอศกรีมน้องโต รสชาไทย


          พิเศษสุุดๆ ครั้งแรกจากดอยตุง พร้อมเสิร์ฟหมูดำดอยตุงให้คนกรุงชิม โดยนำมาแปรรูปไส้กรอก 3 รสชาติ ได้แก่ ไส้กรอกคาล์บบราทเวอร์ท, ไส้กรอกคนักเวอร์ธ, ไส้กรอกแฟรงค์เฟอร์เตอร์ นอกจากนี้ยังมีเมนูสุดไฮไลท์อย่าง สปาเกตตี้ไส้กรอกหมูดำ สลัดไส้กรอกหมูดำ ข้าวเหลืองดอกพุธอุ๊บเนื้อไก่ ข้าวซอยน้ำเงี้ยว และข้าวซอยฮ่อไก่

          ทั้งนี้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เชิญชวนผู้ที่สนใจมาเที่ยวชมงานอย่าลืมนำถุงผ้า กระติกน้ำ และภาชนะใส่อาหารมาด้วยเพื่อลดการใช้พลาสติก พร้อมรับส่วนลดพิเศษภายในงานอีกด้วย

วิธีเดินทาง : มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ถนนพระรามที่4)

•   รถไฟฟ้า MRT สถานีลุมพินี ทางออกที่ 3
•   รถยนต์ส่วนตัว ในงานมีที่จอดรถรองรับ

         สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/DoiTungClub LINE @DoiTung_Lifestyle หรือ
โทร. 0-2252-7114


#DoiTung #กาดกลางกรุง #CraftedSustainability







Pages: 1 [2] 3 4 ... 10