This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
1
news & activity / สมาคมประชาสัมพันธ์ไทยเข้าร่วมการประชุมการประชาสัมพันธ์อาเซียน
« on: Today at 12:50:02 AM »สมาคมประชาสัมพันธ์ไทยเข้าร่วมการประชุมการประชาสัมพันธ์อาเซียน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ นายกสมาคมประชาสัมพันธ์ไทย มอบหมายให้ ดร. ณัฐบูรณ์ พรรัตนเจริญ เป็นผู้แทนสมาคมฯ และประเทศไทย เข้าร่วมงาน การประชุมการประชาสัมพันธ์อาเซียนครั้งที่ 4 (The 4th ASEAN International PR Conference) ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
การประชุมในหัวข้อ "การประชาสัมพันธ์และการสื่อสารเพื่ออาเซียนที่ยั่งยืนและเป็นธรรม" จัดขึ้นโดยเครือข่ายประชาสัมพันธ์อาเซียน (ASEAN Public Relations Network - APRN) ร่วมกับเครือข่ายประชาสัมพันธ์เวียดนาม (Vietnam Public Relations Network - VNPR) โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมการท่องเที่ยวโฮจิมินห์ซิตี้ และพันธมิตรทั่วโลก
ดร. ณัฐบูรณ์ ยังได้รับเชิญให้บรรยายในหัวข้อ "การเสริมศักยภาพประชาสัมพันธ์เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ประเทศ - Empower PR to heighten the country image" ให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์ นักการตลาด นักสื่อสาร และนักวิชาการ จากหลากหลายภูมิภาคของโลก ซึ่งเน้นถึงความสำคัญของประชาสัมพันธ์ในการช่วยเหลือประเทศในการสร้างและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในเวทีโลก นอกจากนี้ ดร.ณัฐบูรณ์ ยังได้รับรางวัล PR Excellence Awards - Best PR Practitioner ในสาขาผู้ปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด ระดับทอง อีกด้วย
การประชุมประชาสัมพันธ์อาเซียน เป็นเวทีที่สำคัญสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านประชาสัมพันธ์จากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การประชุมยังได้ครอบคลุมหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง รวมถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในงานประชาสัมพันธ์ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการสร้างและบริหารความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตลอดจนความท้าทายและโอกาสในการทำงานในภูมิทัศน์ประชาสัมพันธ์อาเซียน
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญอื่นๆ ที่มีการตอกย้ำในที่ประชุม คือ ความสำคัญของประชาสัมพันธ์ในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตลอดจนเรื่องความยากจนและความไม่เท่าเทียมในสังคม
2
การเงิน ธนาคาร ประกันภัย / บีเอ็นวาย เมลลอน เผยทิศทางการลงทุนโลก ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ยังมีท่าทีที่แตกต่าง
« on: Today at 12:38:37 AM »บีเอ็นวาย เมลลอน เผยทิศทางการลงทุนโลก
ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ยังมีท่าทีที่แตกต่าง ส่งผลต่อการลงทุนโค้งสุดท้าย ปี 2566
ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ยังมีท่าทีที่แตกต่าง ส่งผลต่อการลงทุนโค้งสุดท้าย ปี 2566
บีเอ็นวาย เมลลอน ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลกและพันธมิตรของเมย์แบงก์ คาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจและกลยุทธ์การลงทุนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ที่มีต่อแนวทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางในประเทศยักษ์ใหญ่ซึ่งมีความคิดเห็นแตกต่างกัน จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเงินเฟ้อ การจ้างงาน การบริโภคภายในประเทศ ตลอดจนคาดการณ์แนวโน้มปัจจัยเสี่ยง สินทรัพย์ และโอกาสการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนได้จับตาดูและเตรียมพร้อมรับมือกับกระแสการลงทุนที่คาดว่าจะกลับมาร้อนแรงขึ้นในหลายประเทศ
• ทีมวิเคราะห์ของทาง BNY Mellon มองว่า การปรับตัวของอัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกยังคงมีความแตกต่างกัน จึงอาจเป็นเหตุให้ธนาคารกลางขนาดใหญ่ดำเนินนโยบายต่างกันในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
• ในสหรัฐอเมริกา BNY Mellon มองอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเริ่มชะลอตัวลง อัตราการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ผสานกับตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ทำให้เกิดมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามนักลงทุนมีแนวโน้มจะประเมินความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานต่ำเกินไป อีกทั้งคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และแสดงจุดยืนด้านนโยบายทางการเงินที่สอดคล้องกันในการประชุม FED เดือนกันยายนนี้
• ด้านยุโรป ทีมวิเคราะห์ของทาง BNY Mellon มองอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงเช่นกัน แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่แนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แผ่วลง ทำให้ยุโรปยังคงเผชิญความท้าทายมากกว่าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว จึงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะใช้นโยบายที่ระมัดระวังมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
• ในทางตรงกันข้าม ญี่ปุ่นและอังกฤษ อัตราเงินเฟ้อยังไม่มีเสถียรภาพ ส่งผลให้ธนาคารกลางของทั้ง 2 ประเทศ มีแนวโน้มดำเนินนโยบายทางการเงินที่รัดกุมขึ้น ซึ่งจะทำให้ทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว โดยปัจจุบันญี่ปุ่นยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย คงอัตราดอกเบี้ยติดลบ ในขณะที่ยุโรปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในระยะท้ายของวัฎจักร
• ในส่วนของญี่ปุ่น คาดว่าธนาคารกลาง (BOJ) มีโอกาสผ่อนผันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสูงขึ้น ตามสถานการณ์ตลาด และจะเข้าแทรกควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเมื่อเห็นควร (yield curve control) ซึ่งจะเป็นผลดีต่อธนาคารในญี่ปุ่นในท้ายที่สุด
• สำหรับจีน BNY Mellon มองว่าการเติบโตที่ชะลอลงของเศรษฐกิจจีน สินค้าคงคลังที่ยังคงเหลือปริมาณมาก จากพฤติกรรมการการจับจ่ายใช้สอยที่ลดลงของประชากรจีน ทำให้เศรษฐกิจเติบโตช้า ซึ่งภาวะการชะลอทางเศรษฐกิจของจีนนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกไปจีน โดยเราเริ่มเห็นการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในยุโรป ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและได้รับผลกระทบน้อยกว่า
ด้านเมย์แบงก์ ประเทศไทย โดย คุณอภิญญา องค์คุณารักษ์ CFA, CAIA กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายงาน Investment Solutions บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มองว่า “การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ยังคงน่าสนใจทั้งในระยะกลางและระยะยาว เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น สังเกตจากผลประกอบการของบริษัทเอกชนในไตรมาสที่สอง ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับตัวเลขภาคแรงงานที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายเริ่มชะลอความร้อนแรง จึงยังคงมองว่าตลาดหุ้นสามารถรับปัจจัยที่ FED น่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างน้อยอีกหนึ่งครั้ง และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงไประดับหนึ่งแล้วจึงมี Downside จากประเด็นนี้ หุ้นกลุ่ม Quality Growth ของสหรัฐ ยังมีความน่าสนใจ ที่สามารถเก็บสะสมได้ระยะยาว”
ในส่วนของญี่ปุ่น คุณอภิญญา เปิดเผยว่า “การลงทุนระยะกลาง-ยาว ในหุ้นญี่ปุ่นมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีการปรับมาตรการ Yield Curve Control (YCC) ให้มีความยืดหยุ่น และยังใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ช่วยสนับสนุนให้ค่าเงินเยนยังอ่อนค่าต่อ และการปรับมาตรการ YCC ให้ยืดหยุ่นนี้ อาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (JBG yield) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มการเงินโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี รวมถึงผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่นยังคงออกมาดีต่อเนื่อง ประกอบกับการประกาศซื้อหุ้นคืนและการจ่ายปันผลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นให้ก้าวต่อไปอย่างแข็งแรงอีกด้วย”
3
กิน - เที่ยว เปรี้ยวซ่า / ต้นตำรับอาหารใต้บนเกาะส่วนตัวสุดหรู เสน่ห์ความอร่อยสไตล์ “ล่องใต้”
« on: October 03, 2023, 10:43:28 PM »ต้นตำรับอาหารใต้บนเกาะส่วนตัวสุดหรู
เสน่ห์ความอร่อยสไตล์ “ล่องใต้”
ณ โรงแรมเคปฟาน เกาะส่วนตัว สมุย
เสน่ห์ความอร่อยสไตล์ “ล่องใต้”
ณ โรงแรมเคปฟาน เกาะส่วนตัว สมุย
“ล่องใต้” ห้องอาหารใต้ชื่อดังตั้งอยู่บนจุดชมวิวสูงสุด ที่โอบล้อมด้วยความงดงามของทะเลอ่าวไทย ณ โรงแรมเคปฟาน เกาะส่วนตัว สมุย ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอาหารใต้ต้นตำรับกับรสชาติที่อร่อยถึงเครื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ภายใต้การดูแลของเชฟ เดวิด ทอมป์สัน ที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีตามฤดูกาล มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารใต้หาทานยากที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ในแบบฉบับล่องใต้ หรือจะเป็นอาหารทะเลสดใหม่ที่นำมาย่างบนเตาร้อนๆ รวมทั้งของหวานนานาชนิด อาทิ หมึกกอและ 480++บาท, ยำมะม่วงเบาเอ็นหอย 550++บาท, ปลาทอดขมิ้นพริกแกง 750++บาท, ผัดมะเขือยาวปลาอินทรี 750++บาท, ผัดฉ่าหอยเชลล์ 850++บาท, ขนมโคน้ำกะทิ 270++บาท และอีกหลากหลายเมนูที่คุณไม่ควรพลาด เปิดให้บริการเฉพาะมื้อค่ำ เวลา 18.00 – 23.00 น. (ปิดวันพุธ)
ห้องอาหาร “ล่องใต้” ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติแต่พอดีและให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งความพยายามให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งห้องอาหาร “ล่องใต้” มีนโยบายชัดเจนในการเลือกใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นเป็นหลักเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งทางไกล และยังเป็นการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ ห้องอาหารล่องใต้ โรงแรมเคปฟาน เกาะส่วนตัว สมุย โทร: 077 602 301-2, อีเมล: reservations@longdtai.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์: www.longdtai.com
####
*กลุ่มโรงแรมในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ สนับสนุนการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งโรงแรมฯ มีนโยบายชัดเจนในการห้ามไม่ให้มีการขาย หูฉลาม รังนก และตับห่าน ในทุกห้องอาหารของโรงแรม
####
โรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไข
โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทางช่องทางการติดต่อสื่อสารของโรงแรมฯ
4
news & activity / เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการลบรอยสักด้วย Program PicoWay Laser ที่ Dr.TATTOF
« on: October 03, 2023, 10:32:07 PM »เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการลบรอยสักด้วย Program PicoWay Laser ที่ Dr.TATTOF
ในปัจจุบันมีเทคนิค หรือวิธีลบรอยสักหลากหลายวิธี เช่น การใช้ครีมลบรอยสัก การผ่าตัดลบรอยสัก การเมคอัพลบรอยสัก และการศัลยกรรมขัดผิวหนัง ซึ่งแต่ละวิธีจะได้ผลลัพธ์ หรือมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไป หากคุณต้องการลบรอยสักที่เจ็บตัวน้อย ปลอดภัยต่อผิว ไม่มีแผลเป็น เเละใช้จำนวนครั้งในการรักษาที่น้อยกว่า ขอแนะนำ การลบรอยสักด้วย Program PicoWay Laser จาก Dr.TATTOF ผู้ใช้เครื่อง PicoWay Laser รายแรกของประเทศไทย การันตีอันดับ 1 ของเอเชียด้านการลบรอยสัก
Program PicoWay Laser Tattoo Removal คือ เทคโนโลยีเลเซอร์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US-FDA) และประเทศไทย (Thai-FDA) ที่มีความทันสมัย และมีประสิทธิภาพ ในการลบรอยสักด้วยเลเซอร์
Program PicoWay Laser เลเซอร์ทำลายเฉพาะเม็ดสี ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เทคโนโลยีระดับ Picosecond ที่มีความสามารถทำให้เม็ดสี และรอยสักแตกละเอียดเป็นอนุภาคเล็ก ๆ ซึ่งเลเซอร์รุ่นเดิมไม่สามารถทำได้ โดยใช้พลังงานเลเซอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ร่างกายจะมีกลไกกำจัดเม็ดสีตามธรรมชาติ ทำให้เห็นผลเร็วกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีเลเซอร์รุ่นก่อน ปลอดภัย เจ็บน้อยกว่า และมีผลลัพธ์ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก 10 - 15%
Program PicoWay Laser ที่ Dr.TATTOF มีทุกหัวความยาวคลื่น ตอบโจทย์ทุกการลบรอยสัก ได้ทุกแบบ ทุกขนาด ทุกสี และไม่ทำให้เกิดแผลเป็น อาทิ PicoWay Zoom 1064 นาโนเมตร หัวคลื่นดูดซับรอยสักสีดำ PicoWay Zoom 532 นาโนเมตร หัวคลื่นดูดซับรอยสักสีแดง สีเหลือง สีส้ม และ PicoWay 785/730 นาโนเมตร หัวคลื่นดูดซับรอยสักสีเขียว สีฟ้า
สำหรับผู้ที่สนใจลบรอยสักสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Dr.TATTOF: Medical Laser Solutions, Inbox: http://m.me/dr.tattof, Line@: http://line.me/ti/p/~@dr.tattof หรือสอบถามโดยตรงได้ที่สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ 090-546-2424, สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว 095-428-9424, สาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา 097-428-2424, สาขาเอท ทองหล่อ 099-614-2424, สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 083-535-2424, สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า 064-679-2424, สาขาเดอะ พรอมานาด 064-756-2424, สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต 064-568-2424, สาขาเซ็นทรัล พระราม2 063-856-2424 และสาขาเมกาบางนา 090-895-2424
5
news & activity / ทิปโก้ น้ำผลไม้ยอดนิยม ฉีกกฏ เดินเกมพลิกพฤติกรรมการดื่มน้ำผลไม้ของคนไทย
« on: October 03, 2023, 10:18:19 PM »ทิปโก้ น้ำผลไม้ยอดนิยม ฉีกกฏ เดินเกมพลิกพฤติกรรมการดื่มน้ำผลไม้ของคนไทยอย่างต่อเนื่อง
ทิปโก้ น้ำผลไม้แท้ 100% บุกเทศกาลกาแฟ Thailand Coffee Hub 2023 ชวนสัมผัสศิลปะแห่งการดื่มน้ำผลไม้รูปแบบใหม่กับทิปโก้ 4-10 ตุลาคมนี้ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้พร้อมดื่ม ภายใต้แบรนด์ “ทิปโก้” สานต่อแคมเปญ TIPCO Art of SIP & SAVOUR เชิญชวนทุกท่านร่วมฉีกกฎในการดื่มน้ำผลไม้แบบเดิมๆ ลิ้มลองรสชาติใหม่ที่มิกซ์แอนด์แมทช์กันได้อย่างลงตัว ในเทศกาลกาแฟที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง “Thailand Coffee Hub 2023” คอมมูนิตี้ที่รวบรวมทั้งเกษตรกร โรงคั่วกาแฟ ผู้ประกอบการร้านกาแฟ บาริสต้า และคอกาแฟ ให้มาเอนจอยกันทุกคัลเจอร์ กับกิจกรรมสนุกๆอัดแน่นตลอดทั้งวันภายในบูธ ทิปโก้ น้ำผลไม้แท้ 100% ซึ่งในครั้งนี้ ทิปโก้ ร่วมกับคุณแน็ต-กษมา กันบุญ คนไทยคนแรก ที่ได้ตำแหน่งแชมป์โลกการชงกาแฟประเภทไซฟอน ปี 2018 ( World Siphonist Championship 2018) และยังคว้ารางวัล 1st runner up Thailand National Brewers Cup Championship 2024 มาร่วมรังสรรค์ 2 เมนูพิเศษ จากทิปโก้น้ำส้มสายน้ำผึ้ง และทิปโก้น้ำทับทิมในเมนู “Sunrise Spirit” และ “Sunset Sensory” ที่จะทำให้การดื่มน้ำผลไม้ของคุณพิเศษไม่ซ้ำใคร พบการโชว์เมนูพิเศษนี้ใน TIPCO Art of SIP & SAVOUR Show On Stage ในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
- นอกจากนี้ ยังขนความสนุก และกิจกรรม Workshop เมนูพิเศษที่รังสรรค์ความสดชื่นจากทิปโก้ น้ำผลไม้แท้ 100% ผสมผสานกับความหอมกรุ่นจากกาแฟ โดยเหล่าบาริสต้าชื่อดังจากทั่วประเทศ
• วันที่ 5-6 ตุลาคม 2566 พบกับ คุณกั้ง ประวิตร ทองเทพ Barista, Roaster &
Co-owner ร้าน Flowers in the window BKK กับเมนู R.R.R (Red Ruby Roses)
• วันที่ 4และ7 ตุลาคม 2566 พบกับ คุณมิค สุธีพัฒน์ พงศ์ฉวี Barista จาก A Cup Coffee by Pro Joe ในเมนู Apple Spiration
• วันที่ 8-10 ตุลาคม 2566 พบกับ คุณหมง ฐิติวุฒิ พุทธิกะ เจ้าของรางวัล 1st Runner Up Manual Espresso Coffee Village 2022, 1st Runner Up Drip Coffee Fill Good Drip Battle 2023, 1st Drip Coffee & Es-Yen Moka Pot Honorable Mention Tak Exotic Coffee Championship 2023, 2nd Runner Up Es-yen Slow Bar Southern Cup Thailand Coffee Hub @Hat Yai กับเมนู Orangeo
- กิจกรรม SIP Taste สัมผัสรสชาติ พร้อมโปรโมชันพิเศษจากทิปโก้ ภายในงานนี้เท่านั้น!!
ร่วมสัมผัสศิลปะแห่งการดื่มน้ำผลไม้รูปแบบใหม่รูปแบบใหม่กับบูธ TIPCO Art of SIP & SAVOUR ในงาน Thailand Coffee Hub 2023 ระหว่างวันที่ 4-10 ตุลาคม 2566 ณ ลานบีคอน 4 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Page: Tipco Health Society และ Line Official: Tipco Society
Hastag: #น้ำผลไม้ทิปโก้ #Tipco #TipcoArtofSIPandSAVOUR #TipcoBarista #letyouenjoyfromsunrisetosunset #MakeYourCoffeeMoreJuicy #ThailandCoffeeHub2023
6
news & activity / All Seasons Place จัดงานHappy Mid-Autumn Festival 2023 ฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร
« on: October 03, 2023, 10:02:34 PM »All Seasons Place จัดงาน Happy Mid-Autumn Festival 2023 ฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์
29 กันยายน 2566, บริษัท ออลซีซั่นส์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จัดกิจกรรมสำหรับเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ “Happy Mid-Autumn Festival 2023” ภายใต้คอนเซปต์ จิบชา ชิมขนม ชมจันทร์ ณ ALL SEASONS PLACE ที่ชั้น 1 ของ ศูนย์การค้ารีเทลเซ็นเตอร์ ออล ซีซั่นส์ เพลส
เพื่อเพิ่มอรรถรสและความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมสนุกภายในงาน ออล ซีซั่นส์ พร็อพเพอร์ตี้ ได้จัดเตรียมงาน Happy Mid-Autumn Festival 2023 สำหรับเฉลิมฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ มีทั้งเกมสนุก ๆ และโซนสำหรับจิบชามะลิ และชิมขนมไหว้พระจันทร์ นอกจากนี้ยังได้เตรียมชุดจีนโบราณแบบดั้งเดิมจากประเทศจีนเป็นพิเศษ เพื่อให้คนไทยได้เปิดประสบการณ์การใส่ชุดจีนโบราณแบบดั้งเดิม และให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปเช็คอินเก็บภาพที่ระลึกกันภายในงาน กิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์นี้ ดึงดูดผู้คนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในอาคารสำนักงาน แขกของโรงแรม Conrad ผู้พักอาศัยในอพาร์ทเมนต์ All Seasons Mansion รวมถึงมี KOL ผู้มีชื่อเสียงทางโซเซียลจีนที่แต่งกายด้วยชุดจีนโบราณ ก็มาร่วมงานนี้ด้วย และงานนี้ได้เชิญทีมเต้นชื่อดัง 1 Track มาแสดงการเต้นด้วยบทเพลงจีนโบราณประยุกต์ ซึ่งภายในงานก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง
คุณหลี่ ฉี (Ms. Li Qi) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ บริษัท ออล ซีซั่นส์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่าเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ เป็นเทศกาลประเพณีที่สำคัญของจีน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการคิดถึงบ้านและการกลับมาอยู่รวมกันของคนในครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในคืนพระจันทร์เต็มดวง อาคารออล ซีซั่นส์ พร็อพเพอร์ตี้ แห่งนี้มีบริษัทข้ามชาติจำนวนมาก รวมถึงมีบริษัทจีนหลายบริษัทด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพนักงานของบริษัทจีนที่เดินทางไปต่างประเทศ และเพื่อนร่วมชาติชาวจีนที่กำลังศึกษาและทำงานในต่างประเทศได้เฉลิมฉลองร่วมกันและได้สัมผัสถึงเทศกาลของจีนและความอบอุ่นของบ้าน สำหรับงานนี้มีชาวจีนโพ้นทะเลและคนไทยที่เดินทางมาร่วมงาน ได้สัมผัสประสบการณ์ความสุขและความสำคัญของการเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ซึ่งทำให้พวกเขาได้เข้าใจวัฒนธรรมจีนมากขึ้น การที่ทุกคนต่างมีความสนใจและเต็มใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน ถือเป็นหนึ่งในความตั้งใจของ บริษัท ออล ซีซั่นส์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่างวัฒนธรรมจีนและไทย
บริษัท ออลซีซันส์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาและบริหารโครงการ ออลซีซั่นส์ เพลส ศูนย์รวมธุรกิจการค้าที่สำคัญบนทำเลใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ศูนย์การค้าชั้นนำ คอนโดมิเนียมหรู โรงแรมระดับห้าดาว และศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร เพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางธุรกิจอย่างลงตัว
7
นวัตกรรมยานยนต์ - รถยนต์ - มอเตอร์ไซต์ - อุปกรณ์เสริม / CARS24 สุดยอดแอปซื้อขายรถมือสองครบวงจร การันตียอดผู้ดาวน์โหลดกว่า 1.2 ล้านคน
« on: October 03, 2023, 09:30:37 PM »CARS24 สุดยอดแอปซื้อขายรถมือสองครบวงจร
การันตียอดผู้ดาวน์โหลดกว่า 1.2 ล้านคน
การันตียอดผู้ดาวน์โหลดกว่า 1.2 ล้านคน
3 ตุลาคม 2566, กรุงเทพมหานคร – CARS24 (คาร์สทเวนตี้โฟร์) ศูนย์รวมรถมือสองออนไลน์ โปรเรื่องรถ ให้คุณซื้อ ขาย เทิร์น ครบจบในที่เดียว มีรถให้เลือกเยอะกว่า 1,000+ คัน เผยปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกว่า 1.2 ล้านราย ตอกย้ำความเป็นที่สุดของแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่มอบประสบการณ์การซื้อขายรถยนต์มือสอง เพื่อให้ทุกคนเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองสภาพดี การันตีคุณภาพ มั่นใจเชื่อถือได้ โปร่งใสทุกขั้นตอน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
จากการเปิดให้บริการ CARS24 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน โดยเราได้เห็นถึงแนวโน้มของคนไทยในการเปิดรับบริการการซื้อขายรถยนต์มือสองในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น จากยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันในปัจจุบันสูงถึง 1.2 ล้านคน โดยมีหลายปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต อย่างเช่น สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่นำไปสู่การเลือกซื้ออย่างชาญฉลาดอย่างการเลือกซื้อรถมือสองสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า จึงเป็นโอกาสให้ผู้บริโภคหลายคนลองเปิดใจใช้บริการ CARS24 ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
สำหรับแอปพลิเคชัน CARS24 จุดเด่นอยู่ที่การใช้งานง่ายและสะดวก ซึ่งได้รับการพัฒนาแอปพลิเคชันมาจากประสบการณ์จริงของลูกค้าในตลาดออฟไลน์ โดยมีฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยให้การซื้อรถยนต์มือสองออนไลน์ทำได้อย่างครบวงจร ซื้อ ขาย เทิร์นจบในแอปฯ เดียว อาทิ
1. ตัวช่วยค้นหารถ ที่สามารถค้นหารถที่มีอยู่กว่า 1,000+ คัน ตามยี่ห้อ สี รุ่น หรือราคาได้ตามที่ต้องการ ทำให้ลูกค้าเลือกดูรถได้อย่างสะดวก
2. 360 องศาทัวร์ ลูกค้าสามารถซูมดูรถที่สนใจได้อย่างเสมือนจริง ทั้งภายในและภายนอก รวมถึงมีรายละเอียดและข้อมูลของรถบอกอย่างชัดเจน
3. จองทดลองขับได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน หลังจากเลือกดูรถจนถูกใจแล้ว สามารถนัดทีมงานให้นำรถเข้าไปส่งที่บ้านหรือที่ทำงานได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถนัดเวลาเข้าไปทดลองขับที่ศูนย์ของ CARS24 ก็สามารถทำได้
4. ฟังก์ชันการคำนวณงบประมาณและตารางผ่อนดาวน์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกรถและทราบงบประมาณได้ง่ายและรวดเร็ว
นอกจากนี้ CARS24 เรามีทีมขายมืออาชีพที่ให้บริการด้านข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์อย่างครบครัน จริงใจ ที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือด้านเอกสารกับลูกค้าทุกคน หากซื้อแล้วเปลี่ยนใจ คืนรถได้ใน 7 วัน* พร้อมเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้ามากขึ้นด้วยการรับประกันถึง 1 ปี อีกทั้งยังมีโปรโมชันที่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อให้ลูกค้าได้ดีลที่ดีและคุ้มค่าที่สุด
ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน CARS24 เพื่อดูรถกว่า 1,000+ คัน ได้ที่ App Store และ Google Play Store ดูรายละเอียดเพิ่มเติมไที่เว็บไซต์ https://cars24-th.app.link/CZKlFJww3Cb หรือติดตามข้อมูลที่เพจเฟซบุ๊กwww.facebook.com/cars24th หรือแอดไลน์ @cars24th
###
เกี่ยวกับ CARS24
CARS24 (คาร์สทเวนตี้โฟร์) ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองออนไลน์ในอินเดีย ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่แรกของภูมิภาคในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดย CARS24 ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก และพร้อมแล้วที่จะพลิกโฉมวงการรถยนต์มือสองออนไลน์ ตั้งแต่ขั้นตอนการค้นหา การซื้อ การขาย และการให้สินเชื่อ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการที่ดีที่สุดในตลาดรถยนต์มือสอง ติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวของ CARS24 ได้ทาง Facebook: https://www.facebook.com/cars24th
Line: https://lin.ee/l6eegRG
Instagram: https://www.instagram.com/cars24th/
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCbYPQsDBdQe_ZeaEIyXLdUA
TikTok: https://www.tiktok.com/@cars24thailand?lang=en
Twitter: https://twitter.com/CARS24TH
8
news & activity / มูลนิธิวีวี แชร์ และ เชฟแคร์ส โปรเจกต์ แบ่งปันอาหารจากฝีมือเชฟระดับแถวหน้า
« on: October 03, 2023, 09:09:19 PM »มูลนิธิวีวี แชร์ และ เชฟแคร์ส โปรเจกต์
แบ่งปันอาหารจากฝีมือเชฟระดับแถวหน้า แก่เด็กและเยาวชนชาติพันธุ์
แบ่งปันอาหารจากฝีมือเชฟระดับแถวหน้า แก่เด็กและเยาวชนชาติพันธุ์
มูลนิธิวีวี แชร์ โดย นางศรินทร เมธีวัชรานนท์ ผู้ก่อตั้ง ร่วมมือกับ บริษัท เชฟแคร์ส โปรเจกต์ จำกัด นำอาหาร Chef Cares อาหารกล่องสำเร็จรูป เมนูเด็ดจากฝีมือเชฟระดับแถวหน้าของเมืองไทย จำนวน 840 กล่อง บริจาคแก่เด็กและเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ บริเวณชายแดนไทย-เมียนมาร์ อ.สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อเติมเต็มความอิ่มท้องและความสุข เมื่อเร็วๆ นี้
นางศรินทร เมธีวัชรานนท์ ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิวีวี แชร์ กล่าวว่า “มูลนิธิมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ยากไร้มาตั้งแต่ปี 2564 ได้ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง ในครั้งนี้ได้ร่วมกับ เชฟแคร์สโปรเจ็กต์ ช่วยสนับสนุนอาหารกล่องสำเร็จรูปคุณภาพดีจากเชฟมืออาชีพ ทำให้เราสามารถขยายการช่วยเหลือไปยังผู้ด้อยโอกาสที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล เพิ่มโอกาสในการรับประทานอาหารและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอาหารอีกด้วย”
ในเป้าหมายต่อไปของมูลนิธิวีวี แชร์ จะใช้วีวีแชร์โมเดลในการนำอาหารส่วนเกินจากวงจรธุรกิจไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ยากไร้ทั้งประเทศภายในระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้นอกจากเป็นการช่วยให้ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าแล้ว ยังเป็นการรักษ์สิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกันด้วย เพราะอาหารเหล่านี้จะถูกทิ้งเป็นขยะอาหาร เกิดเป็นมลภาวะแก่สิ่งแวดล้อม ทั้งที่ยังสามารถรับประทานได้
มูลนิธิวีวี แชร์ เป็นองค์กรที่เป็นตัวกลางให้กับหน่วยงานผู้บริจาคอาหาร และผู้รับบริจาคมาพบกัน ด้วยการนำอาหารส่วนเกินจากการจำหน่ายแต่ยังรับประทานได้ ของห้างซุปเปอร์สโตร์ บรรดาร้านค้าต่างๆ และโรงแรมไปแจกจ่ายแก่ผู้ต้องการอาหารเพื่อยังชีพ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้เปราะบาง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยตลอดระยะเวลาการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีการบริจาคอาหารไปแล้วรวมทั้งสิ้นเป็นน้ำหนักกว่า 154,000 กิโลกรัม เป็นจำนวน 37,656 กล่อง และสามารถสร้างอาหารได้ถึง 340,523 มื้อ ส่งมอบไปยัง 100 ศูนย์สงเคราะห์และชุมชนทั่วประเทศ อาทิ ชุมชนของทุกศาสนา ศูนย์สงเคราะห์ในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงชุมชนประสบภัยน้ำท่วม เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเข้าร่วมบริจาคได้ที่ มูลนิธิ วีวี แชร์ https://www.facebook.com/vvsharefoundation/
9
news & activity / ซีพี แอ็กซ์ตร้า รับโล่พร้อมประกาศนียบัตร ระดับยอดเยี่ยม Platinum และระดับ Gold
« on: October 03, 2023, 08:52:33 PM »ซีพี แอ็กซ์ตร้า รับโล่พร้อมประกาศนียบัตร ระดับยอดเยี่ยม Platinum และระดับ Gold
ตอกย้ำมาตรฐานความยั่งยืนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (GSEE)
ตอกย้ำมาตรฐานความยั่งยืนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (GSEE)
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจค้าส่ง “แม็คโคร” มุ่งมั่นในการรักษาสมดุลระบบนิเวศไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจ ตามเจตนารมณ์ที่จะมุ่งสู่การเป็นธุรกิจค้าส่งรักษ์โลกตลอดห่วงโซ่ โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการในหลายมิติ ทั้งการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) และบริหารจัดการพลังงานภายในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการลดปริมาณขยะฝังกลบให้เป็นศูนย์ สำหรับขยะอาหารส่วนเกิน
ซึ่งล่าสุดดร.อนันต์ วัชรพงษ์วินิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายก่อสร้างและบริหารทรัพยากรอาคาร นำทีมรับโล่รางวัลและประกาศนียบัตรมาตรฐานความยั่งยืนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (GSEE) ประจำปี 2566 ในระดับยอดเยี่ยม Platinum สำหรับสาขาบางพลี และระดับ Gold สาขานครอินทร์ จากนายภาณุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในงาน “TOGETHER WE CAN, Create the Sustainable World with GSEE 2023” จัดโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น
โดยแม็คโคร สาขาบางพลี และสาขานครอินทร์ ผ่านการประเมินมาตรฐาน เป็นสถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม จากความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าและน้ำ ลดปริมาณขยะรวมทั้งการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell Heater) ทั้งนี้เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2573
10
news & activity / ไทยยูเนี่ยน ร่วมสร้างความรู้แบบยั่งยืนในงาน SX 2023 ผ่านกลยุทธ์ SeaChange® 2030
« on: October 03, 2023, 08:37:13 PM »ไทยยูเนี่ยน ร่วมสร้างความรู้แบบยั่งยืนในงาน SX 2023
ผ่านกลยุทธ์ SeaChange® 2030 พร้อมโชว์ 11 พันธกิจ เพื่อโลก เพื่อเรา
ผ่านกลยุทธ์ SeaChange® 2030 พร้อมโชว์ 11 พันธกิจ เพื่อโลก เพื่อเรา
กรุงเทพมหานคร – 3 ตุลาคม 2566 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลชั้นนำของโลก และเป็น 1 ใน 5 ผู้ร่วมก่อตั้งงาน Sustainability Expo ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เปิดบูธจัดนิทรรศการโชว์กลยุทธ์ยั่งยืน SeaChange® 2030 เพื่อสร้าง Decade of Action ในงาน SX 2023 ตั้งแต่วันนี้ – 8 ตุลาคม 2566 ณ โซน Better Me C2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าวว่า “ ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ไทยยูเนี่ยนได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน SX2030 เป็นช่วงเวลาที่ทุกภาคส่วนให้ความสนใจในเรื่องของความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และเป็นทศวรรษแห่งการลงมือทำ หรือ Decade of Action สำหรับไทยยูเนี่ยน ความยั่งยืนคือหัวใจในการดำเนินธุรกิจ โดยในปี 2016 เราได้ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® ซึ่งได้กลายเป็นเสาหลักที่ธุรกิจของไทยยูเนี่ยนทั่วโลกได้ยึดเป็นหลักการความยั่งยืนในการทำงาน สำหรับปีนี้ บริษัทได้ต่อยอดกลยุทธ์ความยั่งยืนตั้งเป้าหมายไปจนถึงปี 2030 ซึ่งการทำงานด้านความยั่งยืนของบริษัทนั้นครอบคลุมทั้งมิติของผู้คนและสิ่งแวดล้อมผ่านการทำงานในพันธกิจ 11 ด้าน เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักและร่วมมือกัน เพราะไทยยูเนี่ยนเชื่อว่าอาหารทะเลที่ยั่งยืนนั้นมีส่วนสำคัญในการดูแลท้องทะเลให้ยั่งยืนเพื่อคนรุ่นต่อๆ ไป”
ภายในงาน ไทยยูเนี่ยนได้นำเสนอนิทรรศการความยั่งยืนภายใต้หัวข้อ SeaChange® 2030 และพันธกิจทั้ง 11 ด้าน ประกอบด้วย เส้นทางสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การประมงอย่างรับผิดชอบ การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างรับผิดชอบ การทำเกษตรกรรมอย่างรับผิดชอบ การฟื้นฟูระบบนิเวศ กระบวนการผลิตที่เป็นเลิศ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน การลดขยะพลาสติกในทะเล สภาพการทำงานที่ปลอดภัยเหมาะสมและเท่าเทียม มีสุขภาพและสารอาหาร และเป็นพลเมืองบรรษัทที่ดี ซึ่งจะช่วยคนที่มาชมงานเข้าใจเรื่องการดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมด้วยท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ และนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟ เยี่ยมชมบูธไทยยูเนี่ยน โดยมีนายอดัม เบรนนัน ผู้อำนวยการกลุ่มด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และนายปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ภูมิภาคเอเชีย และผู้จัดการด้านสิทธิมนุษยชน ให้การต้อนรับและให้รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ยึดเป็นหัวใจสำคัญในการต่อยอด พัฒนา และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยมีกลยุทธ์ยั่งยืน SeaChange® 2030 ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกกับทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลกเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คน และดูแล รักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล หรือ Healthy Living, Healthy Oceans
นอกจากนี้ ยังพลาดไม่ได้กับกิจกรรม Immersive บนจอทัชสกรีนกับภารกิจจับคู่ 11 พันธกิจ SeaChange® 2030 กับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs) พร้อมทั้ง พร้อมติดแฮชแท็ก #ThaiUnionSX2023 #SeaChange2030 #Sustainability ได้ตลอดระยะเวลาจัดงานและรับของรางวัลรักษ์โลกจากไทยยูเนี่ยนไปเลย
ขณะเดียวกันไทยยูเนี่ยนยังร่วมแบ่งปันความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมส่งต่อประสบการณ์ด้านความนวัตกรรมและความยั่งยืนบนเวที SX Talk Stage ของงานถึง 3 ช่วง คือ วันที่ 4 ตุลาคม เวลา 10.00 – 11.00 น. หัวข้อโอกาสและความเท่าเทียม, เวลา 11.00 – 12.00 น. หัวข้อ Future Food การพัฒนาและนวัตกรรมสู่ความมั่นคงทางอาหาร และวันที่ 7 ตุลาคม เวลา 14.00 – 15.30 น. ในหัวข้อ Battling Marine Debris to Preserve Biodiversity
มาร่วมกันเรียนรู้นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน เพื่อร่วมกันเปลี่ยนแปลงท้องทะเลเพื่อเรา เพื่อโลกไปด้วยกัน ในงาน Sustainability Expo 2023 ณ บูธไทยยูเนี่ยน โซน Better Me ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2566
11
news & activity / ไอ.พี. วัน คว้ารางวัล “Best Category Partnership" ด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน
« on: October 03, 2023, 07:55:05 PM »ไอ.พี. วัน คว้ารางวัล “Best Category Partnership" ด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน
นายศราวุธ ตรีเทพจุลยากูล (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสายงานขาย บริษัท ไอ.พี. วัน จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคสัญชาติไทย ภายใต้แบรนด์ยอดนิยม ไฮยีน วิกซอล วิซ ไอวี่ แดนซ์ และโฟกัส รับมอบรางวัลคู่ค้าที่ดีที่สุด (Best Category Partnership) ด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน โดยมี นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายณปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร (ที่ 1 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจค้าปลีก บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้เกียรติมอบรางวัล ภายในงานประชุมคู่ค้า (Supplier Conference) ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ อาคารบิ๊กซี เฮ้าส์ กรุงเทพฯ
12
การเงิน ธนาคาร ประกันภัย / เจนเนอราลี่ จัดแคมเปญพิเศษ “ลุ้นรับจับแจก” ให้ลูกค้าคนสำคัญ
« on: October 03, 2023, 06:45:25 PM »เจนเนอราลี่ จัดแคมเปญพิเศษ “ลุ้นรับจับแจก”
ให้ลูกค้าคนสำคัญ
ให้ลูกค้าคนสำคัญ
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ จัดแคมเปญพิเศษ "GEN365 ลุ้นรับจับแจก" ให้กับลูกค้าคนสำคัญ ร่วมลุ้นรับรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 2 รางวัล ทุกเดือน รวมมูลค่ากว่า 360,000 บาท เพียงร่วมสนุกผ่านแอปพลิเคชัน GEN 365 โดยทุก 100 GEN points สามารถแลกรับ 1 สิทธิ์ร่วมสนุก ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดกิจกรรมนี้ แลกรับสิทธิ์ได้ทุกวันที่ 1-20 ของทุกเดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 66 – 20 ส.ค. 67 ทั้งนี้บริษัทฯ จะจับรางวัลทุกวันที่ 25 ของเดือน และประกาศรายชื่อผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลทุกวันที่ 27 ของเดือน เวลา 16.00 น. ผ่านทางหน้า เว็บไซต์ https://gen365.page.link/luckydraw23
สามารถดูรายละเอียดแคมเปญเพิ่มเติมได้ทางแอปพลิเคชัน GEN 365
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
13
news & activity / NT – AIS ผนึกกำลังครั้งสำคัญ เสริมขีดความสามารถ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz
« on: October 03, 2023, 05:40:19 PM »NT – AIS ผนึกกำลังครั้งสำคัญ เสริมขีดความสามารถ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz
มุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ต่อยอดนวัตกรรมโครงข่ายอัจฉริยะเพื่อคนไทย
มุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ต่อยอดนวัตกรรมโครงข่ายอัจฉริยะเพื่อคนไทย
ภายหลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลผู้ให้บริการโทรคมนาคม ได้อนุญาตให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT สามารถโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 700 MHz จำนวน 5 MHz ให้กับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS นั้น ล่าสุด NT และ AWN ได้ลงนามสัญญาในโครงการเช่าใช้บริการอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz และสัญญาการใช้บริการข้ามโครงข่ายโทรคมนาคมภายในประเทศ (Roaming) เพื่อเดินหน้าเสริมขีดความสามารถในการให้บริการ 4G/5G ของ NT และ AIS
โดยภายใต้สัญญาฯ ดังกล่าว AIS โดย AWN จะจัดทำโครงข่าย 4G/5G บนคลื่นความถี่ 700 MHz จำนวน 13,500 สถานีฐาน ภายในระยะเวลา 2 ปี เพื่อให้ NT ใช้ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 4G/5G แก่ลูกค้าผู้ใช้บริการตลอดอายุใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ 700 MHz ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2579
นับเป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและเอกชน บนแนวคิด Infrastructure Sharing ซึ่งลดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่ซ้ำซ้อน ในภาพรวมของประเทศ และสามารถใช้คลื่นความถี่ที่มีอย่างเต็มประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทย รองรับการเติบโตของผู้ใช้บริการทั้งในปัจจุบันและอนาคต อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพโครงข่าย 5G ของประเทศไทยให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้นตามความตั้งใจของทั้งสององค์กร
พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า “การทำสัญญา Network Sharing ร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง AIS ส่งผลประโยชน์หลายด้านโดย NT สามารถประหยัดงบประมาณการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องในระยะยาวบนคลื่น 700 MHz และเป็นแนวทางที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มโอกาสของ NT ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G ตามแผนธุรกิจ 5G ของ NT ที่ ครม.อนุมัติ
ทั้งนี้ โครงข่ายที่จะจัดสร้างบนคลื่น 700 MHz สามารถรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าในปัจจุบันกว่า 2 ล้านราย และรองรับการขยายตลาดในอนาคตได้ถึง 4 ล้านราย ครอบคลุมบริการสำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปและลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ NT ยังมีข้อตกลงกับ AIS ในการให้บริการข้ามโครงข่ายบนโครงข่ายของ AISได้ในทุกคลื่นความถี่ อันจะส่งผลทำให้ลูกค้า NT ได้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G อย่างมีคุณภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งยังเสริมความแข็งแกร่งของ NT ให้มีขีดความสามารถแข่งขันในตลาดได้ สอดคล้องกับแนวนโยบายภาครัฐที่เน้นให้บูรณาการเพื่อลดความซ้ำซ้อนการลงทุนด้านโครงข่ายสื่อสารของประเทศ”
ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับโอกาสจาก NT ในการเข้าเป็นพันธมิตรร่วมทำงานยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดย AIS พร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนเป้าหมายของ NT ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีระดับสากล และ ทีมงานวิศวกรที่จะดูแลคุณภาพของโครงข่ายอย่างเต็มที่ รวมไปถึงภารกิจของ AIS เองที่มุ่งมั่นส่งมอบบริการ 5G คุณภาพให้แก่ลูกค้าจากคลื่นความถี่ทุกย่าน ตั้งแต่ 700 MHz จากความร่วมมือในครั้งนี้ที่จะทำให้มีปริมาณรวม 2x20 MHz ที่จะสามารถขยายบริการ 5G ให้ครอบคลุมไปยังพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัดและพื้นที่เมืองในเขตอาคารสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมผนึกพลังกับคลื่นความถี่ซึ่งได้รับการจัดสรรมาก่อนหน้านี้ ในย่าน 900 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz รวมเป็น 1460 MHz มากที่สุดในไทย ที่จะทำให้ครอบคลุมการใช้งานลูกค้าและองค์กรธุรกิจทุกรูปแบบ และต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศสู่ความเป็นเครือข่ายอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม”
#####
เกี่ยวกับ NT
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ในฐานะหน่วยงานหลักด้านสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศไทยที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจรมากที่สุด เป็นผู้นำด้านการขับเคลื่อนการสื่อสารและบริการดิจิทัลให้กับประเทศ ด้วยบริการต่างๆ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและดิจิทัล บริการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ โครงข่ายสื่อสารอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาดิจิทัลโซลูชัน ไอโอทีและบิ๊กดาต้า
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการดิจิทัลบนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1460 MHz (นับรวมคลื่นความถี่ที่ร่วมมือกับพันธมิตรรวมถึง NT ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจาก กสทช.) และมีจำนวนผู้ใช้งานล่าสุดกว่า 45.3 ล้านเลขหมาย (ณ มิถุนายน 2566) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre, ธุรกิจลูกค้าองค์กร และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้งหมดนี้เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ที่พร้อมนำศักยภาพเข้าสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th
14
news & activity / ลดโซเดียมห่างไกลโรค NCDs
« on: October 03, 2023, 03:33:48 PM »ลดโซเดียมห่างไกลโรค NCDs
จากการที่เครือข่ายลดบริโภคเค็ม ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดเสวนาเรื่อง“ลดโซเดียมห่างไกลโรค NCDs” ทำให้เราได้พบกับประเด็นปัญหาสำคัญ คือ คนไทยบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็นและมาตรฐานที่กำหนดไว้ 2,000 มิลลิกรัมในแต่ละวัน
รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม กล่าวว่า ด้วยปริมาณโซเดียมมีอยู่ในองค์ประกอบของอาหารแทบทุกอย่างมากน้อยแตกต่างกันไป ยังมีโซเดียมที่เกิดจากการใช้เกลือโซเดียมคลอไรด์ที่ผสมในอาหารหรือใช้ถนอมอาหาร หรือจากโซเดียมแฝงในเครื่องปรุงรสหรือส่วนผสมของอาหาร เช่น ผงฟู (โซเดียมไบคาบอเนต) ในขนมปัง เป็นต้น ดังนั้นประเด็นสำคัญคือการทำอย่างไรให้ประชาชนทุกเพศทุกวัย หันมาสนใจลดการกินโซเดียม(รสชาติเค็ม) เพื่อสุขภาพที่ดีของไตและร่างกาย โดยยังคงความสมดุล ทั้งความชื่นชอบในรสชาติเพื่อสุขภาพที่ดีของไตและร่างกาย สำหรับในมุมมองของภาครัฐนั้น พยายามที่จะออกนโยบายที่เหมาะสมช่วยประชาชน โดยใช้หลักฐานทางวิชาการและข้อมูลการให้บริการรักษาพยาบาลจริงและประสบการณ์ที่เคยได้ดำเนินการนโยบายใกล้เคียงมาเป็นแหล่งอ้างอิง โดยได้รับความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน เช่น กรมสรรพสามิต เป็นต้น
ด้านนายณัฐกร อุเทนสุตที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัจจุบันกรมสรรพสามิตมีทั้ง มาตรการภาษี และ มาตรการที่มิใช่ภาษี เพื่อช่วยปรับลิ้นประชาชน จากการติดรสชาติและการบริโภคที่เกินความจำเป็น กลไกทางภาษีจะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนตื่นรู้และตระหนักสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิต ผลิตสินค้าที่มีโซเดียมลดลงออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ผู้ผลิตอาหารในประเทศจะได้เปรียบในการขายสินค้าในประเทศ ด้วยสินค้านอกประเทศจะถูกนำเข้ามาได้ยากขึ้น เพราะการปรับสูตรให้เฉพาะคนไทยมีข้อจำกัด
ด้าน นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขถือเป็นหน่วยงานหลักที่จำเป็นต้องมีบทบาทในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ด้วยสถานการณ์ของโรค NCDs ในปัจจุบันมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงเป็นอันดับ 1 หรือกว่า 75% และผู้ป่วยแต่ละรายจะต้องเสียงบประมาณในการรักษาสูงกว่าหลายล้านบาททุกปี ดังนั้นมาตรการสำคัญ คือการช่วยปรับลิ้นประชาชนให้ไวต่อการรับรสชาติเค็มมากขึ้น ซึ่งลิ้นเป็นเครื่องตัววัดรสชาติโดยทางธรรมชาติ หากรับรสชาติใดเป็นเวลานาน ก็จะชินกับปริมาณความเข้มข้นของรสชาตินั้น ทำให้ความไวต่อการรับรสชาตินั้นลดลง (ต้องเพิ่มระดับความเข้มมากขึ้น ถึงจะรับรสได้) ดังนั้นหากติดรสชาติเค็มแล้ว จึงมีพฤติกรรมกินเค็มมากขึ้นเรื่อย ๆ ปริมาณโซเดียมสูงขึ้นตามลำดับ) ส่งผลต่อการทำงานของไตแน่นอน ซึ่งจากข้อมูลวิจัยพบว่า เราสามารถปรับลิ้นให้รับรสชาติเค็มให้ไวขึ้น โดยการลดปริมาณโซเดียมลง 10% (จากการปรุงอาหารเองหรือเลือกซื้อจากอาหารปรุงสำเร็จหรือผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ) ที่เคยรับประทานอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนภายใน 21 วัน (หรือ 3 สัปดาห์) การที่ประชาชนจะสามารถควบคุมปริมาณโซเดียมได้จะเกิดจากการรับรู้ปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้ระบุไว้ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงได้มีการออกฉลากโภชนาการมีการระบุปริมาณโซเดียมและสารอาหารอื่น ๆ ที่ชัดเจน รวมทั้งแสดงโลโก้สัญลักษณ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพให้เป็นทางเลือกกับประชาชนด้วย
ด้านนายพล ตัณฑเสถียร เชฟชื่อดังและเจ้าของเพจช่อง YOUTUBE : PHOLFOODMAFIA กล่าวว่าความตระหนักของประชาชนเองควรเปลี่ยนความคิดจากการทานอาหารที่ยึดติดกับรสชาติความอร่อย เปลี่ยนเป็นทานอาหารเพื่อบำรุงร่างกาย ทานอย่างมีสติ บริหารจัดการสารอาหารให้พอดีในแต่ละวัน การบำรุงร่างกายดีกว่าการมาซ่อมแซมร่างกายเมื่อป่วยแล้ว ทางเลือกที่ 1 การทำอาหารกินเองที่บ้าน จะช่วยให้เราทำความเข้าใจส่วนประกอบและปริมาณที่ใช้ในการปรุงอาหาร สามารถคิดหาวัตถุดิบอื่นช่วยหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรุงที่มีปริมาณโซเดียม ที่ได้รสชาติใกล้เคียงกันได้ ยิ่งต้องทำอาหารให้กับกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุยิ่งต้องระวังการกินอาหารเป็นพิเศษ สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการปรับพฤติกรรมเวลาทานอาหารนอกบ้านด้วย ทางเลือกที่ 2 การทานอาหารนอกบ้าน ควรศึกษา (Education) ฉลากโภชนาการ สัญลักษณ์สุขภาพต่าง ๆ ที่ภาครัฐจัดทำไว้ให้ หากเป็นร้านก็ควรหมั่นสังเกตการประกอบอาหารของร้านก่อนสั่งอาหาร หรือแจ้งเลยว่า “ไม่เค็ม” ที่สำคัญ คือ การมีสติรับรู้และพอเพียงต่อความต้องการตนเอง (Balance) ในแต่ละวัน
ในมุมมองธุรกิจการผลิตอาหาร นั้นสำคัญที่ต้นทุนวัตถุดิบ รวมถึงต้นทุนในการถนอมอาหารให้มีอายุยาวนาน ก่อนถึงมือผู้บริโภค ดังนั้นการใช้โซเดียมในอาหารจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก การดูข้อมูลปริมาณโซเดียมก่อนเลือกซื้อและสร้างสมดุลปริมาณสารอาหารในแต่ละวันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ประชาชนควรตระหนักให้มาก หากประชาชนให้ความร่วมมือมีความตระหนักในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็อาจจะบรรลุเป้าหมายในการลดการบริโภคโซเดียมและโรคติดต่อไม่เรื้อรังได้ร้อยละ 25-30 ภายใน 2 ปีนี้
15
กิน - เที่ยว เปรี้ยวซ่า / เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ คว้ารางวัลกินรี แหล่งท่องเทียวเชิงเรียนรู้Thailand Tourism
« on: October 03, 2023, 12:46:52 AM »เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ คว้ารางวัลกินรี แหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 14
มุ่งสร้างการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้แนวใหม่ ตอบโจทย์การเรียนรู้ของทุกเพศ ทุกวัย ครบจบในที่เดียว
มุ่งสร้างการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้แนวใหม่ ตอบโจทย์การเรียนรู้ของทุกเพศ ทุกวัย ครบจบในที่เดียว
บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด หรือ อุทยานเรียนรู้ เพ ลา เพลิน จ.บุรีรัมย์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ คว้ารางวัลดีเด่น Thailand Tourism Awards รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ (Learning & Doing) โดยเข้าร่วมพิธีพระราชทานรางวัลจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี อันเป็นรางวัลเกียรติยศสำหรับชาวอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย ด้านนางสาวธนัชชา ชลายนนาวิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผู้แทนองค์กรเข้ารับพระราชทานรางวัลเผย เพ ลา เพลิน มุ่งเดินหน้าพัฒนาโครงการและกิจกรรมภายในโครงการตามแนวคิด “เที่ยวอย่างมีความสุข สนุกกับการเรียนรู้ ครบจบในที่เดียว” สำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย และให้ความสำคัญกับการบูรณาการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพร่วมด้วย
อุทยานเรียนรู้เพ ลา เพลิน จ.บุรีรัมย์ แหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนขนาดใหญ่และครบองค์ในพื้นที่ภาคอีสานบนพื้นที่กว่า 380 ไร่ ที่สร้างสรรค์การเรียนรู้ผ่านรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในโครงการตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี ได้มีโอกาสรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักคือกลุ่มเยาวชน นักเรียน-นักศึกษา ที่เข้ามาทัศนศึกษาและทำกิจกรรมค่ายวิชาการ โดยอุทยานเรียนรู้เพ ลาเพลิน ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานบุรีรัมย์ รวมถึงปราชญ์ชุมชน ในการพัฒนากิจกรรมด้านท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ อาทิ ด้านพฤษศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย-ท้องถิ่น สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ อีกมากมาย
นางสาวธนัชชา ชลายนนาวิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด เปิดเผยว่า “เนื่องจากอุทยานเรียนรู้เพ ลา เพลิน มีปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเมืองรอง และกว่า 17 ปีก่อนภาคอีสานก็ค่อนข้างขาดแคลนสถานที่ในการทำกิจกรรมนอกห้องเรียนอย่างครบองค์สำหรับกลุ่มเยาวชน รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป และด้วยความตั้งใจของคุณพรทิพย์ อัษฎาธร กรรมการผู้จัดการของ เพ ลา เพลิน ที่ต้องการสร้างพื้นที่แห่งโอกาสนี้ได้เผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆ รวมถึงการรักษาและต่อยอดคุณค่าและภูมิปัญญาของประเทศไทย และการช่วยเหลือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน จึงได้มุ่งมั่นให้ทุกตารางนิ้วในเพ ลา เพลิน เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ทั้งสิ้น ภายใต้แนวคิด “เที่ยวอย่างมีความสุข สนุกกับการเรียนรู้ ครบจบในที่เดียว” การได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 ในสาขาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ จึงเป็นรางวัลอันทรงคุณค่าของทางคณะผู้บริหาร และพนักงานของเพ ลา เพลิน ทุกคน”
“ด้วยแนวคิดหลักในการเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้แล้ว ปัจจุบันนี้ เพ ลา เพลินได้มุ่งเน้นการส่งเสริมและยกระดับสมุนไพรไทย ผ่านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อีกทั้งได้มีการบูรณาการแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเทรนด์ของการท่องเที่ยวในปัจจุบันที่พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มองการท่องเที่ยวเป็นประสบการณ์ในการพัฒนาความคิดและต้องการที่จะสัมผัสกิจกรรมอย่างลงลึก รวมถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบอีกด้วย ในช่วงปลายปีนี้ อุทยานเรียนรู้ เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์พร้อมเครือข่ายผู้สนับสนุนเตรียมจัดกิจกรรมเรียนรู้เรื่องความสร้างสรรค์ และสิ่งแวดล้อมในโครงการ “Rhythm of Arts & Nature ท่วงทำนองแห่งศิลป์และธรรมชาติ” ในการสร้างความสมดุลสู่ความยั่งยืนและ Sustainability Mindset ให้แก่เยาวชน” ธนัชชา กล่าวเสริม
นอกจากพื้นที่บุรีรัมย์แล้ว ในปีนี้ อุทยานการเรียนรู้เพ ลา เพลิน ได้ต่อยอดความมุ่งมั่นในการขยายฐานการสร้างพื้นที่การเรียนรู้แห่งใหม่ขึ้น คือ เพ ลา เพลิน เดอะเจอร์นีย์ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี แหล่งเรียนรู้ที่มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้ด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และธรรมชาติ รวมถึงกิจกรรมสร้างสรรค์มากมายร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงภาคีเครือข่าย และภาคชุมชน อาทิ กิจกรรมท่องเที่ยว Bird Journey ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี รวมถึงกิจกรรมเส้นทางในเชิงสุขภาพ Wellness ศาสตร์ธรรมชาติสร้างสุขภาพสมดุลร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าพื้นที่ รวมไปถึงกิจกรรม Camping Market ตลาดกางเต็นท์ ความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นตลอดเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ เชื่อมโยงผลผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชน และเสน่ห์และภูมิปัญญาในพื้นที่อุทยานมรดกโลกแก่งกระจาน
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง http://www.playlaploen.com/ อุทยานเรียนรู้ เพ ลาเพลิน อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ Facebook: @PlayLaPloen โทร. 044 699 435, 087-798-1039 และ เพ ลา เพลิน เดอะ เจอร์นีย์ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โทร. 098-989-5119 Facebook: @PlayLaPloen.TheJourney