81
news & activity / "เปิดประสบการณ์สุขภาพสุดพิเศษ! True4U ชวนคุณร่วมทริป ‘THE WELLNESS VOYAGE’
« Last post by happy on June 16, 2025, 09:50:54 PM »"เปิดประสบการณ์สุขภาพสุดพิเศษ! True4U ชวนคุณร่วมทริป
‘THE WELLNESS VOYAGE’ กับ ปราชญา เวลเนส"
‘THE WELLNESS VOYAGE’ กับ ปราชญา เวลเนส"

ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ขอเชิญชวนสายสุขภาพและแฟนรายการร่วมออกเดินทางสู่ประสบการณ์แห่งการดูแลตัวเองแบบองค์รวม ในกิจกรรมสุด พิเศษ “True4U แฟนเดย์ กับ ปราชญา เวลเนส” ภายใต้แนวคิด “THE WELLNESS VOYAGE” ที่จะพาคุณไปสัมผัสความสุขจากภายใน ผ่านกิจกรรมที่ผสมผสานความรู้ ความสนุก และความผ่อนคลายไว้อย่างลงตัว



ภายในงาน ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้การทำลูกประคบสมุนไพรด้วยตนเองในเวิร์กชอปแบบฉบับปราชญา พร้อมเปิดประสบการณ์การผ่อนคลายที่ช่วยฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ เติมเต็มความสุขด้วยเมนูสุขภาพแสนอร่อยจาก “เป๋าหยา คาเฟ่” ที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน และสนุกไปกับการแต่งชุดจีนย้อนยุค เดินเล่นในสวนสุขภาพ 5 ธาตุ ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกที่ชวนให้หลงใหล โอกาสดี ๆ แบบนี้รอคุณอยู่ เพียงสแกน QR CODE หรือคลิกลิ้งค์ https://forms.gle/FcN7YdeDAFQwiQ9XA และร่วมตอบคำถาม “บอกเหตุผลที่คุณอยากเข้าร่วมกิจกรรมนี้ พร้อมแชร์เคล็ดลับการดูแลสุขภาพในแบบของคุณ” จากนั้นกดไลก์และแชร์โพสต์กิจกรรมผ่านเฟซบุ๊ก True4U โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ ผู้ที่ตอบคำถามและทำตามกติกาครบถ้วนที่สุด จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมสุดพิเศษนี้ จำนวน 7 รางวัล รางวัลละ 2 ท่าน ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 16 – 19 มิถุนายน 2568 และติดตามประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 20 มิถุนายน 2568 เวลา 12.00 น. ทาง Facebook Fanpage: True4U มาร่วมใช้เวลาวันพิเศษไปกับการดูแลสุขภาพ เติมพลังชีวิต และสร้างความทรงจำดี ๆ ไปพร้อมกันกับทรูโฟร์ยูนะคะ
82
การเงิน ธนาคาร ประกันภัย / อลิอันซ์ อยุธยา โชว์ฟอร์มแกร่งไตรมาสแรก เติบโตทุกช่องทางเหนือตลาด
« Last post by happy on June 16, 2025, 09:27:17 PM »อลิอันซ์ อยุธยา โชว์ฟอร์มแกร่งไตรมาสแรก เติบโตทุกช่องทางเหนือตลาด
ดันเบี้ยประกันรับรวมแตะหมื่นล้าน
ดันเบี้ยประกันรับรวมแตะหมื่นล้าน

บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลการดำเนินธุรกิจไตรมาสแรก ปี 2568 เติบโตแบบพุ่งทะยาน ยืนหนึ่งเหนือการเติบโตของตลาด เบี้ยทะลุเป้าทุกช่องทาง ดันเบี้ยรับรวมแตะหมื่นล้าน มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโต 116% พร้อมเดินหน้าเสริมแกร่งทุกมิติ ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดศักราชปี 2568 ด้วยผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง เติบโตโดดเด่นในทุกช่องทางจัดจำหน่าย ในขณะที่ตลาดรวมมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม (GWP) อยู่ที่ 5.8% อลิอันซ์ อยุธยา สามารถสร้างผลงานการเติบโตได้ถึง 18.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับรวมแตะที่ 10,966 ล้านบาท ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโต 52% อยู่ที่ 2,747 ล้านบาท โดยมาจากช่องทางตัวแทน 1,256 ล้านบาท ช่องทางขายผ่านธนาคาร 1,037 ล้านบาท ช่องทางขายตรง 333 ล้านบาท และ ช่องทางอื่นๆ 121 ล้านบาท
ความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งและการวางกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ตลาดอย่างแท้จริง ทั้งในเรื่องของการเสริมศักยภาพตัวแทน ผ่านกิจกรรมฝึกอบรมต่างๆ อาทิ “The Heroes Franchise Builder” ที่ออกแบบให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์เสมือนจริง เสริมสร้างความรับผิดชอบและทักษะการบริหารทีมอย่างมืออาชีพ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มประกันสุขภาพและผลิตภัณฑ์ยูนิต ลิงค์ (UL) มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30% และ 20% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงความสำเร็จในการวางกลยุทธ์ที่ผสานความคุ้มครองเข้ากับการวางแผนการเงินระยะยาว รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้น ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีผ่านช่องทางธนาคาร ซึ่งถือเป็นแรงส่งสำคัญต่อภาพรวมการเติบโตของบริษัทในไตรมาสนี้
ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก กำไรจากการดำเนินงานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.2 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ปริมาณธุรกิจรวมเพิ่มขึ้น 11.71% แตะ 54.0 พันล้านยูโร โดยกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ในขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนเพื่อความมั่นคง (Solvency II Capitalization) อยู่ที่ 203% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 แสดงถึงมั่นคงในฐานะบริษัทประกันที่สามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง
83
การเงิน ธนาคาร ประกันภัย / เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ สนับสนุนงาน “Generali Presents Khaokho Marathon 2025”
« Last post by happy on June 16, 2025, 08:53:14 PM »เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ สนับสนุนงาน
“Generali Presents Khaokho Marathon 2025” สู่ปีที่ 6
“Generali Presents Khaokho Marathon 2025” สู่ปีที่ 6

เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ สนับสนุนงานวิ่งมาราธอน “เจนเนอราลี่ พรีเซ้นต์ เขาค้อ มาราธอน 2025” ปีที่ 6 (Generali Presents Khaokho Marathon 2025) สานต่อพันธกิจส่งเสริมสุขภาพคนไทยอย่างยั่งยืน มอบประสบการณ์การวิ่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของเขาค้อ เส้นทางที่โอบล้อมด้วยทุ่งกังหันลมและเนินเขาเขียวขจี ให้แก่นักวิ่งและผู้มาร่วมงานกว่า 4,000 คน พร้อมมอบความคุ้มครองประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม เจนเนอราลี่ รวมวงเงินความคุ้มครองกว่า 167 ล้านบาท

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายอาร์ช คอลมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นางสาวช่อฟ้า ยุกตะนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและบริหารงานลูกค้า กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ นำทัพคณะผู้บริหาร ตลอดจนพนักงาน ตัวแทน และพันธมิตร เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนในระยะต่าง ๆ ได้แก่Super Ultra Marathon 50 กิโลเมตร, Super Half Marathon 26 กิโลเมตร และ Super Mini Marathon 13 กิโลเมตร พร้อมกันนี้เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนหลักยังได้มอบประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม วงเงินความคุ้มครองรวม 167,250,000 บาท โดยมีผู้แทนจากบริษัทเอ็มดับบลิว สปอร์ต เป็นตัวแทนรับมอบ

สำหรับกิจกรรมในปีนี้ ไม่เพียงสะท้อนเจตนารมณ์ในการส่งเสริมสุขภาพและกีฬาเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำบทบาทของ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ในฐานะแบรนด์ที่พร้อมเคียงข้างทุกไลฟ์สไตล์ของผู้คน ผ่านความร่วมมืออันแน่นแฟ้นกับชุมชนและพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ จอลลี่ แลนด์ ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์










84
news & activity / RUN เปิดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม 24 ผลงาน ภายใต้ธีม“เศรษฐกิจสร้างสรรค์
« Last post by happy on June 16, 2025, 07:47:56 PM »RUN เปิดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม 24 ผลงาน ภายใต้ธีม “เศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่ออนาคตประเทศไทย” ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568
โชว์ศักยภาพ ด้านนวัตกรรม – ศิลปวัฒนธรรม – ความยั่งยืน พร้อมเวทีเสวนา Soft Power ขับเคลื่อนอนาคตไทย
โชว์ศักยภาพ ด้านนวัตกรรม – ศิลปวัฒนธรรม – ความยั่งยืน พร้อมเวทีเสวนา Soft Power ขับเคลื่อนอนาคตไทย


กรุงเทพฯ – 16 มิถุนายน 2568 เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (RUN) ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดตัวนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้หัวข้อ “เศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่ออนาคตประเทศไทย” (Creative Economy for Thailand Tomorrow) ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568” ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ม.ล.พินิตพันธุ์ บริพัตร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (RUN) เปิดเผยว่า ภายในนิทรรศการมีการจัดแสดงผลงานวิจัยที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อประเทศ ทั้งในมิติวิชาการ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จำนวนทั้งสิ้น 24 ผลงานวิจัย จาก 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ครอบคลุม 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี (9 ผลงาน): นำเสนอการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและการประยุกต์ใช้จริง เช่น นวัตกรรมการสกัดสารจากสมุนไพรอย่างยั่งยืน แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และหุ่นยนต์ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ด้านศิลปวัฒนธรรม (9 ผลงาน): ต่อยอดภูมิปัญญาไทยและ Soft Power เช่น งานออกแบบผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ การพัฒนาโคมล้านนา และการศึกษาเชิงลึกด้านวัฒนธรรมเควียร์ ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (6 ผลงาน): สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) อาทิ การผลิตพลังงานสะอาด การพัฒนาสาหร่ายขนนกเพื่อชุมชน และการจัดการฝุ่น PM 2.5


สำหรับวันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป จะมีจัดกิจกรรมบรรยายพิเศษ หัวข้อ “RUN for Soft Power: Impactful creative economy, high value added by research and innovation” มีการบรรยายพิเศษ 2 หัวข้อย่อย ได้แก่ การบรรยายพิเศษ เรื่อง Premiumization Soft Power Thai ผ่านงานวิจัย โดย คุณนิติพันธุ์ ดารกานนท์ ประธานบริษัท Sonite Innovative Surfaces และรองศาสตราจารย์ ดร.ชาคร ประพรหม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้ดำเนินรายการ รองศาสตราจารย์ ดร ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล การบรรยายพิเศษ เรื่อง Premiumization Muay Thai by Research and Innovation โดย ศาสตราจารย์ ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ (สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ตัวแทนจากบริษัททีวีบูรพา และ ค่ายมวยบัญชาเมฆ ผู้ดำเนินรายการ สพ.ญ. ดร. นิธิรา อนัคกุลและ เสวนา Global Festival ทำให้เจ๋ง ทำให้ปังได้ ต้องมีงานวิจัยขับเคลื่อน? โดย คุณ กราสิก สมิตะสิริ (สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) รองศาสตราจารย์ ดร. ภาวิกา ศรีรัตนบัลล์ (สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) และ รองศาสตราจารย์ ดร. จารุวรรณ แดงบุบผา (มหาวิทยาลัยนเรศวร) ผู้ดำเนินรายการ รองศาสตราจารย์ ดร. ชาลีดา บรมพิชัยชาติกุล



ในทุกวันของการจัดงานยังมีกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ที่บูธ RUN พร้อมรับของรางวัลมากมาย จึงขอเชิญชวนอาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมชมการแสดงนิทรรศการผลงานวิจัย และฟังการบรรยายพิเศษของเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (RUN) ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568” ระหว่างวันที่ 16 – 20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
85
news & activity / สจล.เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ กับ Harbin Institute of Technology (HIT)
« Last post by happy on June 16, 2025, 04:48:45 PM »สจล. เดินหน้ากระชับความร่วมมือทางวิชาการ
กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน
กับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางวิชาการกับ Harbin Institute of Technology (HIT) มหาวิทยาลัยชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี เพื่อหารือขยายความร่วมมือเชิงลึกในสาขาวิศวกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะด้าน Aerospace, Mechatronics, Automation และ Astronautics ซึ่ง HIT ถือเป็นสถาบันชั้นนำของจีนในด้านนี้ พร้อมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิจัย และการพัฒนาโครงการ Joint Degree ในอนาคต

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. ได้นำคณะผู้บริหารจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และวิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สจล. เดินทางเยือน HIT เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือที่ครอบคลุมและลึกซึ้งยิ่งขึ้น จากเดิมที่เริ่มต้นด้วยการจัดประชุมนานาชาติทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotec) ร่วมกัน การหารือครั้งนี้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือในหลายมิติ อาทิ การส่งอาจารย์ไปศึกษาต่อ การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและนักวิจัย รวมถึงการทำความร่วมมือในการส่งนักศึกษาเข้าร่วม Workshop Training และมุ่งหวังจะทำความร่วมมือระดับปริญญาตรีร่วมกัน อีกทั้งความร่วมมือต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ตัวแทน สจล. ยังได้เข้าร่วมประชุมกับ Department of Aerospace Engineering โดยมีคณบดีวิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติของ สจล. เป็นหัวหน้าทีมเจรจาความร่วมมือในการประชุมครั้งนี้

สำหรับภาควิชาวิศวกรรมอวกาศของ HIT เป็นที่ยอมรับในระดับต้นๆ ของประเทศจีน และเป็นมหาวิทยาลัยจีนแห่งแรกที่ส่งยานอวกาศลำดับแรกในจีน หลังจากนั้นทีมงานจาก สจล. ได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การบินและอวกาศของ HIT ด้วย
สำหรับข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของ สจล. สามารถติดตามได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000
86
Sport News & Motor Sport / "เยาวชนไฟแรง" คึกคักศึกยิงปืนรณยุทธอัดลมเบา Police IPSC Action Air 2025
« Last post by happy on June 15, 2025, 10:30:57 PM »"เยาวชนไฟแรง" คึกคักศึกยิงปืนรณยุทธอัดลมเบา Police IPSC Action Air 2025

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568 ณ สนามยิงปืนกองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดการแข่งขันยิงปืนสั้นรณยุทธอัดลมเบา รายการ Police IPSC Action Air 2025 นักกีฬายิงปืนอัดลมเบา วศิน เกิดนานา คว้าที่หนึ่งประเภทสแตนดาร์ด การแข่งขันยิงปืนรณยุทธอัดลมเบา Police IPSC Action Air 2025 อย่างสวยงาม ขณะที่นักกีฬากลุ่มเยาวชนกลุ่ม คึกคักสุดๆด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันรวมกันถึง 52 คน จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 214 คน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 25% ของการแข่งขันยิงปืนรณยุทธอัดลมเบาที่จัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของชมรมกีฬายิงปืนสนามยิงปืน สยป.ตร.(สนามยิงปืนกองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) การใช้ปืนอัดลมเบา (Action Air) ทำให้เยาวชนสามารถฝึกทักษะการยิงปืนรณยุทธอัดลมเบาแบบ IPSC ได้อย่างปลอดภัย โดยมีนักกีฬาจากทั่วประเทศอย่าง นครปฐม, ชลบุรี, สกลนคร, สุราษฎร์ธานี, ขอนแก่น และเชียงใหม่ นักกีฬายิงปืนอัดลมเบาแห่กันมาร่วมสร้างสีสัน พร้อมใช้เป็นบ่อเก็บประสบการณ์ก่อนลุยการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 41 "สุราษฎร์ธานีเกมส์" ที่จะจัดข้นในปี 2569 ต่อไป


สรุปผลการแข่งขันยิงปืนสั้นรณยุทธอัดลมเบา รายการ Police IPSC Action Air 2025 มีดังนี้


รุ่นคลาสสิค ดิวิชั่น
1 ศุภกร ยศกุลวริศ
2 ศิวกร อนันตภูมิไตรภพ
3 ธัญญรัตน์ วงษ์รักษ์วาณิๅๅ


รุ่นโอเพ่น ดิวิชั่น
1 คณภจน์ จำเริญพานิช
2 พิบูลย์ สร้อยศรี
3 ปิยศักดิ์ ศิริสลุง
โปรดักชั่น ดิวิชั่น
1 สาธิต จังรุ่งสกุล
2 นพ กาญจนธรางกูร
3 พรเกียรติ์ สุธะะภราเดช


รุ่นโปรดักชั่น ออพติกส์ ดิวิชั่น
1 ศิรวิทย์ อุไรสินธุ์
2 ณัฐนันท์ วิชิตนันท์
3 ชัชชัย พิลาแดง
สแตนดาร์ด ดิวิชั่น
1 วศิน เกิดนานา
2 นำโชค ใบกุหลาบ
3 ภราดร งามวงศ์วาน






87
news & activity / คำแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดในยุค PM2.5
« Last post by happy on June 14, 2025, 10:28:06 PM »คำแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดในยุค PM2.5
โดย รศ.นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยศาสตร์ ทรวงอกเฉพาะทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องในช่องทรวงอก โรงพยาบาลวชิรพยาบาล

ในปี 2568 นี้ ประเทศไทย ถูกฝุ่นพิษกักไว้ในชั้นบรรยากาศ ไม่สามารถกระจายออกไปได้ ค่าฝุ่นจึงพุ่งสูงจนเกินมาตรฐาน จากการคำนวณเปรียบเทียบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศหรือ PM2.5 กับปริมาณการสูบบุหรี่ พบว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เทียบได้กับการสูบบุหรี่ 1 มวน ซึ่งหากนำค่าฝุ่นแบบค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงในแต่ละวันของปี 2024 มาคำนวณเปรียบเทียบตามเกณฑ์ของ Richard Muller จะพบว่าในปี 2024 ที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯ สูดดมฝุ่นพิษ PM2.5 เทียบเท่าการสูบบุหรี่ ทั้งหมด 1,297.14 มวน ลดลงจากปี 2023 ที่มีจำนวน 1,370.09 มวน ถึง 81.95 มวน หรือคิดเป็น 4.09 ซอง แต่ก็ยังมากกว่าปี 2022 ที่มีจำนวน 1,224.77 มวน และปี 2021 ที่มีจำนวน 1,261.05 มวน

รศ.นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยศาสตร์ ทรวงอกเฉพาะทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องในช่องทรวงอก โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าวว่า สำหรับโรคมะเร็งปอดยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในประเทศไทย จากวารสารทางการแพทย์ได้พบเจอว่า มีผู้ป่วยชาวเอเชียที่ไม่สูบบุหรี่เป็นมะเร็งปอด สัดส่วนถึง 30-60 เปอร์เซ็นต์ โดยแนวทางคัดกรองผู้ที่ไม่สูบบุหรี่เป็นประเด็นที่ซับซ้อน เพราะปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สูบบุหรี่หรือเคยสูบหนักมาก่อน ยกตัวอย่าง จากคณะทำงานบริการป้องกันของสหรัฐอเมริกา (USPSTF) แนะนำให้ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบความเข้มต่ำ (Low-Dose CT หรือ LDCT) ปีละครั้ง สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ผู้มีอายุระหว่าง 50 ถึง 80 ปี 2. มีประวัติการสูบบุหรี่กว่า 20 ปี (เช่น สูบวันละ 1 ซอง เป็นเวลา 20 ปี) และ 3.ยังสูบบุหรี่อยู่หรือเลิกสูบมาไม่เกิน 15 ปี ทั้งนี้ไม่รวมผู้ไม่เคยสูบบุหรี่แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงอื่นตามมะเร็งปอดไม่รวมผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงอื่นก็ตาม

ในส่วนของมะเร็งปอดในกลุ่มผู้ไม่สูบบุหรี่นั้น จากข้อมูลที่ควรรู้ประมาณ 40-60 % ของมะเร็งปอดเกิดในผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ซึ่งมักเกิดจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง, การสัมผัสก๊าซเรดอน, การสัมผัสสารพิษจากงานอาชีพ (เช่น แร่ใยหิน ควันดีเซล), มลพิษทางอากาศ หรือ ครัวเรือน, ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด, การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม (เช่น EGFR, ALK) โดยมะเร็งปอดในผู้ไม่สูบบุหรี่มักเป็นชนิด อะดีโนคาร์ซิโนมา (Adenocarcinoma) ซึ่งมากกว่า 60-70% มักถูกวินิจฉัยในระยะที่ลุกลามแล้ว เพราะไม่มีการตรวจคัดกรองที่เหมาะสมโดยปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองสำหรับผู้ไม่สูบบุหรี่ระดับชาติหรือสากล ที่ แนะนำให้ตรวจ LDCT เป็นการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณทรวงอกด้วยปริมาณรังสีที่ต่ำมาก ใช้เพื่อคัดกรองมะเร็งปอดในระยะเริ่มต้นในผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ทั่วไป โดยผลจากการตรวจ LDCT พบว่า 1. อัตราความเสี่ยงต่อประโยชน์ยังไม่ชัดเจน (ตรวจพบผลลวงบ่อย, ได้รับรังสี) และ 2.ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าช่วยให้รอดชีวิตเพิ่มขึ้นในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ

ส่วนข้อควรระวังและประเมินก่อนตรวจ LDCT นั้น แม้จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปอดในกลุ่มเสี่ยงสูง แต่ก็มีข้อควรพิจารณา เช่น 1. ผลบวกลวง (False Positive) โดยอาจพบก้อนที่ไม่ใช่มะเร็ง ทำให้ต้องตรวจเพิ่มเติมหรือผ่าตัดโดยไม่จำเป็น 2.การได้รับรังสีซ้ำซ้อนและ 3.ความวิตกกังวลจากผลตรวจ โดยมีบางรายอาจมีข้อยกเว้นหรือกรณีพิเศษ อาจมีประโยชน์ต่อการคัดกรองความเสี่ยง ได้แก่ 1.ประวัติครอบครัวที่ชัดเจนว่าเคยเป็นมะเร็งปอด 2.การสัมผัสสารพิษจากสิ่งแวดล้อมหรือจากอาชีพอย่างมีนัยสำคัญและ 3.พันธุกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง กรณีเหล่านี้ควรพูดคุยกับแพทย์ และพิจารณาอย่างรอบคอบร่วมกัน โดยมากจะอยู่ในบริบทของการวิจัยหรือติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงสูง โดยปัจจุบันการใช้ฟิล์มเอกซเรย์ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดหรือการเจาะเลือด ยังไม่ใช่วิธีมาตรฐานที่มีความแม่นยำอีกต่อไป ฉะนั้นใครที่มีความเสี่ยง อย่าลืมไปคัดกรองมะเร็งปอดโดยการทำ LDCT กันนะครับ


หากท่านใดสงสัยต้องการคำปรึกษาสามารถสอบถามผ่านทาง inbox ได้หรือทาง lineofficial account; @lungsurgeryth #ผ่าตัดปอด #ผ่าตัดส่องกล้อง #มะเร็งปอด #ลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดโดยปรึกษาผ่านเพจเฟซบุ๊ก ผ่าตัดปอด รศ.นพ.ศิระ เลาหทัย ได้ที่ Lineid:@lungsurgeryth หรือเว็บไซต์ https://www.siradoctorlung.com
88
news & activity / จัดศึกฟุตบอลเยาวชน ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025
« Last post by happy on June 13, 2025, 04:34:52 PM » “ไฮเซ่นส์” ร่วมกับ “กกท.” จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชน ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025 HISENSE FOOTBALL YOUTH CUP SPONSORSHIP 2025 สานฝันให้น้องๆ เยาวชนที่รักกีฬาฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง ได้พัฒนาตนเอง ก้าวสู่การเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพต่อไปในอนาคต
มิส.คลาร่า ชาง (Clara Chang) ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคอาเซียน (appointed as General Manager of ASEAN Region) บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะประธานจัดงาน ร่วมกับ นางนิตยา เกิดจันทึก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธาน ร่วมแถลงข่าวการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชน ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025 (HISENSE FOOTBALL YOUTH CUP SPONSORSHIP 2025) และ จับสลากแบ่งกลุ่มการแข่งขัน ร่วมด้วย ผู้บริหารจาก กกท., ผู้บริหารพันธมิตรทางธุรกิจ, ตั้ม-ธนบูรณ์ เกษารัตน์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย ตลอดจนผู้มีเกียรติ ร่วมงาน ที่ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย
สำหรับการแข่งขันรายการนี้ ไฮเซ่นส์ (Hisense) แบรนด์ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ในฐานะ ออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ (Official Partner) กับ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 (FIFA Club World Cup 2025) ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมจัดโครงการนี้ ซึ่งเป็น การแข่งขันฟุตบอล 7 คน เยาวชนอายุไม่เกิน 12 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 32 ทีม ชิงถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล และอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์.ใน ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคม 2568 ที่สนามฟุตบอล 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ มุ่งหวังให้เยาวชนไทยได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมด้านสุขภาพทั้งร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่สมบูรณ์ พร้อมจุดประกายฝันก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพต่อไป
ภายในงาน ยังได้รับเกียรติจาก ตั้ม-ธนบูรณ์ เกษารัตน์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่มาร่วมบอกเล่าถึงเส้นทางการฝ่าฟัน กว่าจะได้มาเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ เเละเปิดมุมมองเพื่อสานฝันและจุดประกายให้กับเยาวชนในครั้งนี้
มิส.คลาร่า ชาง (Clara Chang) ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคอาเซียน (appointed as General Manager of ASEAN Region) บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไฮเซ่นส์ Hisense ในฐานะ ออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ (Official Partner) กับ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2025 (FIFA Club World Cup 2025) ให้ความสำคัญกับ อีเอสจี (ESG) คือ การรักษาสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างต้นแบบองค์กรยั่งยืน และแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม จาก กรีน แฟคตอรี่ (Green factory), รีไซเคิล แมททีเรียลส์ (recycle materials), การประหยัดพลังงาน ผ่านสินค้าภาย ใต้ คัสตอมเมอร์ โอเรียนเต็ล เทคโนโลยี (Customer Oriented Technology) และ เอ็กซ์ตรีม ควอลิตี้ (Extreme Quality) และส่งเสริมการสร้างสรรค์สังคม รวมถึงมองการสร้างอนาคตที่ดีผ่านการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน”
“จากวิสัยทัศน์ของเรา ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งสร้างคุณค่า และการเติบโตให้กับธุรกิจ โดยคำนึงถึงการรักษาสมดุลตามแนวคิด อีเอสจี (ESG) ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักบรรษัทภิบาลที่ดี จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมสร้างต้นแบบองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และส่งเสริมเยาวชนในกีฬาฟุตบอล”
“สำหรับ ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025 (HISENSE FOOTBALL YOUTH CUP SPONSORSHIP 2025) เป็นหนึ่งในโครงการ อีเอสจี (ESG) ที่ตั้งใจจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมศักยภาพและความเป็นเลิศของเยาวชนไทยด้านกีฬา และเป็นเวทีสำคัญในการแสดงความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนที่รักในการเล่นกีฬาฟุตบอล ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมแข่งขันฟุตบอล 7 คน ชิงเงินรางวัล อย่างยิ่งใหญ่ การแข่งขันจะมีขึ้น ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคม 2568 โดยในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 จะเป็นการแข่งขันในรอบชิงอันดับที่ 3, แมตช์ VIP (วีไอพี) และปิดท้ายด้วยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ”
มิส.คลาร่า ชาง (Clara Chang) ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคอาเซียน (appointed as General Manager of ASEAN Region) บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไฮเซ่นส์ Hisense ในฐานะ ออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ (Official Partner) กับ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2025 (FIFA Club World Cup 2025) ให้ความสำคัญกับ อีเอสจี (ESG) คือ การรักษาสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างต้นแบบองค์กรยั่งยืน และแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม จาก กรีน แฟคตอรี่ (Green factory), รีไซเคิล แมททีเรียลส์ (recycle materials), การประหยัดพลังงาน ผ่านสินค้าภาย ใต้ คัสตอมเมอร์ โอเรียนเต็ล เทคโนโลยี (Customer Oriented Technology) และ เอ็กซ์ตรีม ควอลิตี้ (Extreme Quality) และส่งเสริมการสร้างสรรค์สังคม รวมถึงมองการสร้างอนาคตที่ดีผ่านการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน”
“จากวิสัยทัศน์ของเรา ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งสร้างคุณค่า และการเติบโตให้กับธุรกิจ โดยคำนึงถึงการรักษาสมดุลตามแนวคิด อีเอสจี (ESG) ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักบรรษัทภิบาลที่ดี จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมสร้างต้นแบบองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และส่งเสริมเยาวชนในกีฬาฟุตบอล”
“สำหรับ ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025 (HISENSE FOOTBALL YOUTH CUP SPONSORSHIP 2025) เป็นหนึ่งในโครงการ อีเอสจี (ESG) ที่ตั้งใจจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมศักยภาพและความเป็นเลิศของเยาวชนไทยด้านกีฬา และเป็นเวทีสำคัญในการแสดงความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนที่รักในการเล่นกีฬาฟุตบอล ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมแข่งขันฟุตบอล 7 คน ชิงเงินรางวัล อย่างยิ่งใหญ่ การแข่งขันจะมีขึ้น ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคม 2568 โดยในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 จะเป็นการแข่งขันในรอบชิงอันดับที่ 3, แมตช์ VIP (วีไอพี) และปิดท้ายด้วยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ”
ด้าน นางนิตยา เกิดจันทึก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า “ในนามของ กกท. ขอชื่นชมและขอบคุณ ไฮเซ่นส์ (Hisense) ในฐานะ ออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ (Official Partner) กับ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 (FIFA Club World Cup 2025) ที่ได้ให้ความสำคัญกับ อีเอสจี (ESG) ทั้งยังส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ด้านกีฬาเสมอมา และล่าสุด คือ ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025 (HISENSE FOOTBALL YOUTH CUP SPONSORSHIP 2025) โครงการจัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน ชิงแชมป์เยาวชน ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่ง กกท. ยินดีให้การสนับสนุน โดยเปิดให้ใช้สนามแข่งขันฟุตบอลที่มีมาตรฐานระดับสากล ตลอดทั้ง 4 วัน พร้อมอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแข่งขันในครั้งนี้ จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และช่วยจุดประกายความฝันให้น้องๆ เยาวชนที่รักกีฬาฟุตบอล ได้พัฒนาตนเอง ก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพต่อไปในอนาคต”
โครงการ ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025 (HISENSE FOOTBALL YOUTH CUP SPONSORSHIP 2025) เป็นการแข่งขัน ประเภทฟุตบอลนักเรียน 7 คน ยุวชนและเยาวชนชาย อายุไม่เกิน 12 ปี โดยได้เปิดรับสมัครทีมเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 32 โรงเรียน จัดการแข่งขันทั้งหมด 4 วัน โดยรอบแรก เป็นการแข่งขันแบบแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม จำนวน 8 กลุ่ม ตั้งแต่รอบ 16 ทีม แข่งแบบแพ้คัดออก เพื่อชิงรางวัลรวมกว่า 300,000 บาท ดังนี้
- รางวัลชนะเลิศการแข่งขัน ได้รับถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมห้องโสตทัศนูปกรณ์จาก บริษัท ไฮเช่นส์ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด (ตามรูปแบบของบริษัทฯ)
- รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 1 ได้รับเงินรางวัล บำรุงทีม 20,000 บาท
- รางวัสรองชนะเลิศลำดับที่ 2 ได้รับเงินรางวัล บำรุงทีม 10,000 บาท
- รางวัลรองขนะเลิศลำดับที่ 3 ได้รับเงินรางวัล บำรุงทีม 5,000 บาท
- รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมMVP ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
- รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
- รางวัลดาวซัลโว ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
- รางวัลท็อปแอสซิส ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
- รางวัลกองเชียร์ยอดเยี่ยม ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท
- รางวัลชนะเลิศการแข่งขัน ได้รับถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมห้องโสตทัศนูปกรณ์จาก บริษัท ไฮเช่นส์ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด (ตามรูปแบบของบริษัทฯ)
- รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 1 ได้รับเงินรางวัล บำรุงทีม 20,000 บาท
- รางวัสรองชนะเลิศลำดับที่ 2 ได้รับเงินรางวัล บำรุงทีม 10,000 บาท
- รางวัลรองขนะเลิศลำดับที่ 3 ได้รับเงินรางวัล บำรุงทีม 5,000 บาท
- รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมMVP ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
- รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
- รางวัลดาวซัลโว ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
- รางวัลท็อปแอสซิส ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท
- รางวัลกองเชียร์ยอดเยี่ยม ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท
89
news & activity / "กลัฟเท็กซ์ ฉลอง 25 ปี ตอกย้ำนวัตกรรมความปลอดภัย พร้อมขยายสู่ความยั่งยืนระดับโลก
« Last post by happy on June 13, 2025, 01:48:50 PM »"กลัฟเท็กซ์ ฉลอง 25 ปี ตอกย้ำนวัตกรรมความปลอดภัย พร้อมขยายสู่ความยั่งยืนระดับโลก ด้วยพันธกิจและความรับผิดชอบต่อสังคม"

บริษัท กลัฟเท็กซ์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) ฉลองครบรอบ 25 ปีแห่งความสำเร็จในธุรกิจความปลอดภัย โดยมี นายเสริมศักดิ์ วงศ์ชัย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยถึงจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2543 จากถุงมือผ้าธรรมดาสู่การเป็นองค์กรชั้นนำด้านนวัตกรรมถุงมือเพื่อความปลอดภัย ที่ยึดมั่นในพันธกิจ “ทำให้คนทำงานอย่างปลอดภัย สะดวก และมีประสิทธิภาพ”

นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการพัฒนา แบรนด์ MICROTEX ซึ่งเป็นถุงมือถักไร้รอยต่อจากเส้นใยพิเศษที่ไม่ทิ้งฝุ่นและเศษด้าย นับเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ผสานนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ กลัฟเท็กซ์เตรียมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต พร้อมลงทุนติดตั้ง Solar Rooftop เปลี่ยนรถบริษัทเป็น EV และเดินหน้าเชิงรุกขยายกลุ่ม Green Products เพื่อต่อยอดแนวคิด Circular Economy อย่างเป็นรูปธรรม

“เรามุ่งมั่นเป็นมากกว่าผู้ผลิต เราคือองค์กรที่ขับเคลื่อนอนาคตของความปลอดภัยและความยั่งยืนในทุกมิติ”นายเสริมศักดิ์ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

นายเสริมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กลัฟเท็กซ์ยังได้ก้าวสู่ระดับโลกด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Ansell (2007), TOWA ญี่ปุ่น (2009) และ DuPont (2011) พร้อมคว้าสิทธิ์ผลิตถุงมือและปลอกแขน Kevlar อย่างเป็นทางการ จนสามารถผลิตถุงมือกันกระแทกรายแรกของโลกให้กับ HexArmor ได้สำเร็จในปี 2017 และยังได้คว้ารางวัล SEM Award ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน รวมถึงรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ในปี 2018 ซึ่งตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านคุณภาพและนวัตกรรม พร้อมขยายโรงงานและออฟฟิศรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

ในมิติของความยั่งยืน กลัฟเท็กซ์ ก็ได้ผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง นางสาวกนกวรรณ วงศ์ชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ที่ได้นำคิด Circular Economy มาปรับใช้ในทุกมิติขององค์กร โดยกล่าวว่า บริษัทได้รับแรงบันดาลใจจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Patagonia และมุ่งมั่นขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2065 ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ พัฒนาทุนมนุษย์ด้วยการอบรมด้าน ESG และ Net Zero ,ปรับโครงสร้างสู่ Green Infrastructure ด้วย Solar Cell และระบบดิจิทัล และสร้างผลิตภัณฑ์รักษ์โลก (Green Products) ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

“กลัฟเท็กซ์ยังเป็นผู้ผลิตถุงมือรายแรกที่ได้รับการติดฉลาก Carbon Footprint Reduction จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) พร้อมผลักดันการรีไซเคิลถุงมือมีตำหนิกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดทั้งต้นทุนและของเสียในระบบ อีกทั้งยังผ่านมาตรฐาน SMETA ซึ่งสะท้อนความรับผิดชอบต่อแรงงาน สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน” นางสาวกนกวรรณ กล่าว

นางสาวกนกวรรณ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 9-11 มิถุนายน ที่ผ่านมา กลัฟเท็กซ์ ได้เข้าร่วมจัดบูธนิทรรศการในงาน Thailand Safe@Work 2025 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งกลัฟเท็กซ์ได้รับรางวัลจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ภายใต้แนวคิด “ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เพื่อสังคมไทยยั่งยืน” โดยมีผู้แทนภาครัฐ เอกชน และแรงงานทั่วประเทศร่วมงาน

นอกจากนี้ กลัฟเท็กซ์ ยังได้ทำพิธีมอบเงินและอุปกรณ์ PPE ประกอบด้วย ชุดกันไฟ 25 ชุด ถุงมือกันกระแทกแบรนด์ Stanley 25 คู่ รวมมูลค่า 250,000 บาท ให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญู โดยอุปกรณ์ต่าง ๆ เราได้มอบตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม เพื่อดูแลในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการเข้าไปช่วยเหลือ การเก็บศพ รวมถึงการส่งมอบให้ครอบครัว ซึ่งเป็นภารกิจที่ต้องทำด้วยความระมัดระวังและรับผิดชอบสูงสุด รวมทั้งเน้นย้ำความสำคัญของอุปกรณ์ป้องกันภัย เช่น ชุดป้องกันตัว ถุงมือ และหน้ากากอนามัย เพื่อให้บุคลากรสามารถป้องกันตัวเองจากเศษเหล็กคม ฝุ่น และอันตรายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


“บริษัทฯ ของเรายึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม และพร้อมสนับสนุนภารกิจกู้ภัยด้วยความเต็มใจ เพื่อให้ทุกภารกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด” นางสาวกนกวรรณ กล่าว
90
news & activity / วธ. น้อมใจ จัดแสดงศิลปวัฒนธรรมทุกแขนงอย่างยิ่งใหญ่ เทิดไท้องค์วิศิษฏศิลปิน
« Last post by happy on June 13, 2025, 01:18:29 PM »วธ. น้อมใจ จัดแสดงศิลปวัฒนธรรมทุกแขนงอย่างยิ่งใหญ่ เทิดไท้องค์วิศิษฏศิลปิน
ในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในฐานะทรงเป็น “วิศิษฏศิลปิน” และ “เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย”
ผนึกกำลังศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน และเครือข่ายทางวัฒนธรรมร่วมจัดแสดง

ในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในฐานะทรงเป็น “วิศิษฏศิลปิน” และ “เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย”
ผนึกกำลังศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน และเครือข่ายทางวัฒนธรรมร่วมจัดแสดง

วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๘ นางมงคลทิพย์ รุ่งงามฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีคณะศิลปินแห่งชาติ คณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะผู้บริหารบริษัท เอ็ม บี เค จํากัด (มหาชน) และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน ณ Avenue A ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์
นางมงคลทิพย์ รุ่งงามฤกษ์ กล่าวว่า พุทธศักราช ๒๕๖๘ นับเป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๗๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๖๘ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในฐานะทรงเป็น “วิศิษฏศิลปิน” และ “เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย” ที่ทรงมีคุณูปการต่อเหล่าศิลปิน และศิลปวัฒนธรรมของชาติ ทรงเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพหลายแขนง เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาปวงพสกนิกรชาวไทยและชาวต่างชาติตลอดมา
นางมงคลทิพย์ รุ่งงามฤกษ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจเพื่อเทิดทูนและธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันอันสูงสุดของปวงชนชาวไทย สร้างความมีส่วนร่วมของเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานทางวัฒนธรรม รวมถึงสร้างจิตสำนึก ความตระหนักถึงคุณค่า อัตลักษณ์ และความเป็นไทย ตลอดจนร่วมกันอนุรักษ์ สืบสาน และต่อยอดศิลปวัฒนธรรมไทยให้ดำรงอยู่สืบไป จึงได้ดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ขึ้น เพื่อเผยแพร่พระราชจริยาวัตรอันงดงาม และพระปรีชาสามารถเป็นเลิศต่องานทางด้านศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อเทิดพระเกียรติของพระองค์ให้ปรากฏเป็นเกียรติภูมิแห่งประเทศ รวมถึงเปิดโอกาสให้หน่วยงานทุกภาคส่วนและประชาชนทุกหมู่เหล่ามีส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสมหามงคลนี้
นางมงคลทิพย์ รุ่งงามฤกษ์ กล่าวอีกว่า การจัดงานในครั้งนี้จะรวบรวมพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพและการทรงงานด้านวรรณศิลป์ ด้านทัศนศิลป์ และด้านศิลปะการแสดง นำเสนอในรูปแบบนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การเสวนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการ รวมถึงการแสดงดนตรีและการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม โดยบูรณาการความร่วมมือจากศิลปินแห่งชาติ ศิลปินพื้นบ้าน และเครือข่ายทางวัฒนธรรมทุกภาคส่วน เพื่อเป็นการเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ให้เป็นที่รับรู้แก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งเป็นแนวทางการนำทุนทางวัฒนธรรม มาสืบสาน รักษาและต่อยอด สร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่า ต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ทั้งนี้ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ดังกล่าว กำหนดจัดขึ้น วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๘ ณ Avenue A ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ :
กิจกรรมไฮไลต์ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การแสดงขับร้องบทเพลง โดย นายวินัย พันธุรักษ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) พุทธศักราช ๒๕๖๒, นางรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) พุทธศักราช ๒๕๖๓, นางสุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) พุทธศักราช ๒๕๖๓, การแสดงชุด “งามตระการทั่วถิ่น ศาสตร์ศิลป์แผ่นดินไทย” โดยคณะคชมุข สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ รางวัลการประกวดดนตรีและการแสดงพื้นบ้าน ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พุทธศักราช ๒๕๖๒, การแสดงดนตรีและวัฒนธรรมพื้นบ้านจากเครือข่ายสมาคมเพลงพื้นบ้านภาคกลางประเทศไทย สมาคมศิลปินพื้นบ้านอีสานใต้ เครือข่ายศิลปินพื้นบ้าน (โนรา) และการแสดงร่วมกัน (Finale’) ร่วมสมัย ชุด “วิศิษฏศิลปินเกริกฟ้า เจ้าฟ้าสิรินธร”
ติดตามรายละเอียดกิจกรรมของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้ทาง Facebook กรมส่งเสริมวัฒนธรรม Facebook ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒-๒๔๗-๐๐๑๓ ต่อ ๔๑๑๓ หรือ ๔๑๑๕
ติดตามรายละเอียดกิจกรรมของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้ทาง Facebook กรมส่งเสริมวัฒนธรรม Facebook ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒-๒๔๗-๐๐๑๓ ต่อ ๔๑๑๓ หรือ ๔๑๑๕