Recent Posts

Pages: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
51
“แชมป์เก่า” วัดทองสัมฤทธิ์ คว้าชัยเปิดศึกลูกหนังเยาวชน ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025




                “ไฮเซ่นส์” ร่วมกับ “กกท.” เปิดศึกดวลแข้งฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชน ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025 HISENSE FOOTBALL YOUTH CUP SPONSORSHIP 2025 สร้างจุดเริ่มต้นในการจุดประกายความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นเวทีแห่งโอกาสให้กับเยาวชนทุกคนได้เติบโต เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคต เป็นศึกฟุตบอล 7 คน เยาวชนอายุไม่เกิน 12 ปี รายการสำคัญของเด็กไทยอีกรายการ ด้าน “แชมป์เก่า” วัดทองสัมฤทธิ์ คว้าชัยชนะด้วยการชนะผ่าน สามเสนนอก






   
               การแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์เยาวชน ไฮเซ่นส์ ฟุตบอล ยูธ คัพ สปอนเซอร์ชิพ 2025 HISENSE FOOTBALL YOUTH CUP SPONSORSHIP 2025 โดยมี มาริสา วิวัฒนะประเสริฐ  ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (Marketing Director of Hisense International Thailand) เป็นประธาน ในพิธีเปิดการแข่งขัน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568 ที่ สนามฟุตบอล 1 การกีฬาแห่งประเทศ







               การแข่งขันรายการนี้ ไฮเซ่นส์ (Hisense) แบรนด์ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ในฐานะ ออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ (Official Partner) กับ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 (FIFA Club World Cup 2025) ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมจัดโครงการนี้ เป็นการแข่งขันฟุตบอล 7 คน เยาวชนอายุไม่เกิน 12 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 32 ทีม ชิงถ้วยเกียรติยศ พร้อมเงินรางวัล และอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์.ใน ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน  ถึง 19 กรกฎาคม 2568 ที่สนามฟุตบอล 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)




               มิส.คลาร่า ชาง (Clara Chang) ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคอาเซียน (appointed as General Manager of ASEAN Region) บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไฮเซ่นส์ Hisense ในฐานะ ออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ (Official Partner) กับ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2025 (FIFA Club World Cup 2025) ให้ความสำคัญกับ การรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างอนาคตที่ดีผ่านการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมสร้างต้นแบบองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และส่งเสริมเยาวชนในกีฬาฟุตบอล”




               มาริสา วิวัฒนะประเสริฐ  ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (Marketing Director of Hisense International Thailand)  กล่าวว่า “ปีนี้ ถือเป็นปีที่สอง ของการดำเนินโครงการนี้อย่างเป็นทางการด้วย วัตถุประสงค์สำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถ เเละเข้าถึงด้านกีฬา เสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม มีวินัย และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ได้ฝันและก้าวไปสู่เส้นทางของนักกีฬามืออาชีพในอนาคต การแข่งขันในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการจุดประกายความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นเวทีแห่งโอกาสให้กับเยาวชนทุกคนได้เติบโต เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศในอนาคต”




               สำหรับผลการแข่งขันวันแรก  รร.วัดทองสัมฤทธิ์ (แชมป์เก่า) ชนะ รร.สามเสนนอก (ประชาราษฎร์อนุกูล) 2-0 (บาย) เนื่องจาก ทีมสามเสนนอกไม่มาแข่งขัน

               ด้าน รร.สุเหร่าลำแขก แพ้ รร.คลองกุ่ม (เสรีไทย อนุสรณ์) 0-1, รร.เปรมประชา (สายหยุด-เกษมสงเคราะห์) แพ้ รร.สุเหร่าหะยีมีนา 1-3, รร.วัดบึงทองหลาง เสมอ รร.ตั้งวิรุฬห์ธรรม 1-1, รร.สุเหร่าจรเข้ขบ (กุลางกูรอุปถัมภ์) ชนะ รร.สังฆประชานุสสรณ์ 3-2, รร.วัดสุทธิสะอาด ชนะ รร.วัดเทพลีลา 3-2
   





 


 


52
THE POWER BAND 2025 รอบโซนนิ่งแสดงสดบุกขอนแก่น เปิดเวทีประชันฝีมือ ปั้นฝันคนดนตรีรุ่นใหม่สู่เส้นทางศิลปินมืออาชีพ


เริ่มแล้ว! เปิดฉากเวทีประกวดวงดนตรีสุดยิ่งใหญ่ระดับประเทศ กับรายการ THE POWER BAND 2025 SEASON 5 การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2568 รอบโซนนิ่งแสดงสด สนามแข่งขันแรก ประเดิมที่จังหวัดขอนแก่น ภายใต้คอนเซปต์ MUSIC CREATES MORE POSSIBILITIES พลังดนตรี เป็นไปได้ ไม่สิ้นสุด ซึ่งจัดขึ้นโดย คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย และวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย 8 ค่ายเพลงชั้นนำ ประกอบด้วย Muzik Move, Smallroom, LOVEiS Entertainment, What The Duck, Warner Music Thailand, XOXO Entertainment, YUPP! Entertainment และ Universal Music Thailand เพื่อผลักดันพลังคนดนตรีรุ่นใหม่ สู่การแจ้งเกิดบนเส้นทางศิลปินมืออาชีพ โดยในปีนี้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นมัธยมศึกษา สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยมฯ (High School Class) และรุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ (Professional Class : Road to Artist) ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ ขอนแก่น




ทั้งนี้ รอบโซนนิ่งแสดงสด สนามที่ 1 จังหวัดขอนแก่น มีผู้เข้าประกวดส่งคลิปออดิชันมาเป็นจำนวนมาก โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกวงดนตรียอดฝีมือที่มีความสามารถโดดเด่น จำนวน 13 วงสุดท้าย ที่ผ่านเข้าสู่รอบโซนนิ่งแสดงสดสนามแรก เพื่อไปประลองฝีมือแสดงสดแบบจัดเต็ม! ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมดนตรีไทย ได้แก่ คุณกฤษติกร พรสาธิต (ติ๊ก วง Playground) ผู้บริหารค่าย Home Run Music, คุณไพสิฐ คำกลั่น Music Director ค่าย Melodic Corner และคุณวิโรจน์ สถาปนาวัตร (J-Pap - วง Infinity) อาจารย์พิเศษสาขาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล โดยวงที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจะได้รับโอกาสในการเข้าร่วม THE POWER BAND MUSIC CAMP เพื่อเรียนรู้เทคนิคทางดนตรีต่าง ๆ จากมิวสิกกูรูระดับประเทศ และสามารถต่อยอดความฝันในการร่วมทำซิงเกิลกับโปรดิวเซอร์มืออาชีพ พร้อมโอกาสในการร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีระดับประเทศ ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท




สำหรับผลการคัดเลือกวงที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ มีจำนวนทั้งสิ้น 7 วง แบ่งเป็น รุ่นมัธยมศึกษา สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยมฯ (High School Class) จำนวน 4 วง ได้แก่ วง FUSION ISLAND โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายมัธยม) กรุงเทพมหานคร, วง SISWEET โรงเรียนศรีสุวิช จ.ชลบุรี, วง MOOMA สังกัดอิสระ จ.นครราชสีมา และวงสกลพัฒน์ โรงเรียนสกลนครพัฒนศึกษา จ.สกลนครรุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ (Professional Class : Road to Artist) มีจำนวน 3 วง ได้แก่ วง Long Black กรุงเทพมหานคร, วง PUPPY LOVE กรุงเทพมหานคร และวง SUNTOY จ.มหาสารคาม






นอกจากนี้ ภายในงานยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินไอดอล  อาทิ อิ้งค์-วรันธร เปานิล, 4EVE, PiXXiE รวมถึง PINGPING PANPAN (ปิ๊งปิ๊ง-ปันปัน) และ KRYPTONYTE 2 ศิลปินที่เคยผ่านเวทีประกวด THE POWER BAND มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจทางดนตรี และความสนุกสนานไปกับจังหวะดนตรีหลากสไตล์






อย่ารอช้า โอกาสมาถึงแล้ว! สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมประกวด สนามแข่งขันที่ 2-4 ได้ที่ www.music.mahidol.ac.th/thepowerband และเฟซบุ๊ก: thepowerband.mahidol  ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 โดยรอบโซนนิ่งแสดงสดครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 ที่จังหวัดเชียงใหม่, วันที่ 2 สิงหาคม 2568 ที่จังหวัดภูเก็ต และวันที่ 6-7 กันยายน 2568 ที่กรุงเทพมหานคร มาร่วมส่งพลังเชียร์กันว่าทีมไหนจะได้แจ้งเกิดบนเวที THE POWER BAND 2025 SEASON 5 การประกวดวงดนตรีสากลประจำปี 2568 ไม่แน่ว่าศิลปินหน้าใหม่คนต่อไปอาจเป็นคุณ

#KingpowerThaipowerพลังคนไทย  #ThePowerBand  #THEPOWEROFPOSSIBILITIES  #THEPOWERBAND2025
53
ประกาศผล “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47”








            สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ผู้จัด “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47” ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ประกาศผลการตัดสินการประกวดประเภทต่างๆ ดังนี้

            ประเภทรถรุ่นบรรพบุรุษ (รถที่ผลิตจนถึงปี 1904) ประเภทรถรุ่นผ่านศึก (คศ.1905-1918) ประเภทรถโบราณ (คศ.1919-1930) และประเภทรถก่อนสงคราม (คศ.1931-1945) ไม่มีรถเข้าประกวด

            ประเภทรถหลังสงคราม (คศ.1946-1960) รางวัลที่ 1 ได้แก่ Alfa Romeo Sprint 750 ปี 1958 ของ Ong Chong Soo

            ประเภทรถคลาสสิค (คศ.1961-1970) รางวัลที่ 1 ได้แก่ Porsche 911S ปี 1967 ของ อภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ

            ประเภทรถคลาสสิคร่วมสมัย (คศ.1971-ปัจจุบัน-30 ปี) รางวัลที่ 1 ได้แก่ Alfa Romeo Giulia Super ปี 1974 ของ Giuseppe Gaviraghi

            นอกจากนี้ ยังมีการประกาศผลประกวด รถจำลอง และรถประดิษฐ์พิเศษ รถดัดแปลง รถแจกวาร์ รถมีนี รถโฟล์คสวาเกน รถอเมริกัน รถเฟียต และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

            สำหรับรางวัลราชินีแห่งความสง่างาม (CONCOURS D'ELEGANCE - กงกูรส์ เดเลอกองศ์) ซึ่งคัดเลือกจากสุภาพสตรีที่มาร่วมงานเลี้ยงประกาศผลคืนวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ได้แก่ มาริษา รุ่งโรจน์

            เชิญชม “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47” ถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ vintagecarclub.or.th และ facebook.com/VintageCarClub
54
ผงปรุงรสชีสและซาวครีม (ชีสโรงหนัง) ตราไทเชฟ เข้มข้นถึงใจ


             ไทเชฟ (ThyChef) ผู้นำด้านผงโรยอาหารและผงชงเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติ แนะนำสินค้าใหม่ล่าสุด ผงปรุงรสชีสและซาวครีม (ชีสโรงหนัง) เอาใจสาวกที่ชื่นชอบชีส มาพร้อมรสชาติที่จัดจ้าน เข้มข้นถึงใจ ด้วยกรรมวิธีทำง่าย ๆ เพียงนำผงปรุงรสไปโรย หรือคลุกเคล้ากับอาหารที่ปรุงสุกแล้ว อาทิ เฟรนช์ฟรายส์ ป็อปคอร์น ไก่ทอด ฯลฯ เท่านี้ก็จะได้อาหารรสชาติใหม่ ที่หอมกลิ่นชีส (โรงหนัง) เน้น ๆ และซาวครีมเข้มข้น อร่อย เหมือนไปซื้อกินที่โรงหนัง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชีสเป็นพิเศษ สามารถทำทานเองที่บ้าน ทำทานในงานสังสรรค์ หรือพ่อค้าแม่ค้าจะนำไปสร้างเมนูใหม่ ๆ ไม่ซ้ำใคร เพื่อเพิ่มจุดขายและกำไรก็ได้

             สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของไทเชฟ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วประเทศ หรือบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อทางออนไลน์กับบริการ “ฟาสต์ ไทเชฟ” สั่งวันนี้ ส่งวันนี้พรุ่งนี้ถึง เร็วทันใจที่ www.thychef.com หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%40thychef หรือทางเว็บไซต์ www.lazada.co.thwww.shopee.co.th FB: ThyChef, ID Line: @thychef สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-968-3723-6
55
"ผ่าตัดกระเพาะแผลเดียวซ่อนในสะดือ" เมื่อการรักษาโรค มาบรรจบกันกับความสวยงาม

โดย นพ.ศิรสิทธิ์ เลาหทัย  ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูง


            ย้อนเวลากลับไปเมื่อ15 ปีก่อน ถ้าใครบอกว่าจะสามารถ “ตัดกระเพาะ” ทั้งใบโดยที่มองไม่เห็นรอยแผลเป็น ศัลยแพทย์หลายคนอาจส่ายหน้า คิดว่าเป็นแค่ความฝันของคนที่งมงายมากเกินไป แต่วันนี้สิ่งนั้นเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย – และกลายเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคอ้วน


            เทคนิคที่ว่าคือ Single-Incision Laparoscopic Sleeve Gastrectomy หรือเรียกสั้น ๆ ว่า SILSG การผ่าตัดกระเพาะแผลเดียวซ่อนในสะดือ เป็นการรวมสองสิ่งที่ยากไว้ด้วยกัน นั่นคือ การผ่าตัดกระเพาะออกเพื่อรักษาโรคอ้วน และการทำทั้งหมดนั้นผ่านรูเล็ก ๆ เพียงรูเดียว

            หลายคนอาจยังกังวลว่า... "แล้วผลลัพธ์ของการผ่าตัดกระเพาะแผลเดียว จะต่างจากการผ่าตัดแบบ 4-5 แผลหรือไม่?" ความจริงแล้ว แม้จะต่างกันที่จำนวนแผล แต่เทคนิคที่ใช้ยังคงเป็นการผ่าตัดแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy) เช่นเดียวกัน กล่าวคือ เป็นการตัดกระเพาะออกประมาณ 80% เพื่อจำกัดปริมาณอาหารที่กิน และลดความอยากอาหารจากการลดการผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิวหรือ Ghrelin ผลลัพธ์ด้านการลดน้ำหนักจึงไม่แตกต่างกัน  โดยน้ำหนักสามารถลดลงได้เฉลี่ย 30-35% ของน้ำหนักตั้งต้นภายในเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นผลลัพธ์ตามมาตรฐานสากลของการผ่าตัดสลีฟ ไม่ว่าจะเลือกผ่าตัดผ่านแผลเดียวหรือหลายแผลก็ตาม


            ในมุมของคนไข้ วิธีนี้อาจจะเหมือนเป็นมายากล เพราะแทบมองไม่เห็นรอยแผล ไม่มีร่องรอยให้ต้องตอบคำถามซ้ำ ๆ ว่า “ไปทำอะไรมา?” แผลถูกซ่อนเอาไว้ที่สะดือจนแทบมองไม่เห็น หลังผ่าตัด ผู้ป่วยลุกเดินได้ไว เจ็บน้อย และกลับบ้านได้ภายในไม่กี่วัน ที่สำคัญคือ รู้สึกมั่นใจมากขึ้นกับภาพลักษณ์ของตัวเอง โดยเฉพาะกับผู้หญิงหรือคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจรูปลักษณ์ ความสวยงาม

            ส่วนในมุมของศัลยแพทย์แล้ว ยิ่งเต็มไปด้วยความท้าทาย ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้เครื่องมือผ่านเพียงรูเดียวเท่านั้น แต่ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการ ตัด เย็บ ล้วนต้องผ่านการวางแผนอย่างแม่นยำ เพื่อให้การผ่าตัดราบรื่นปราศจากภาวะแทรกซ้อน อุปกรณ์ผ่าตัดที่หมุนไปมาภายใต้แรงกดของหน้าท้อง และการบดบังของอวัยวะภายใน ทุกอย่างเบียดเสียดกันในพื้นที่จำกัด และแน่นอนว่าไม่ใช่ศัลยแพทย์ทุกคนจะสามารถผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้ได้อย่างปลอดภัย


มากกว่าความสวยงาม คือสุขภาพที่ยั่งยืน

            แม้ว่าการผ่าตัดด้วยเทคนิคผ่าตัดกระเพาะแผลเดียวซ่อนในสะดือจะให้ผลด้านความสวยงามเป็นพิเศษ แต่เป้าหมายหลักของการรักษาโรคอ้วน ยังคงอยู่ที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งการทานอาหาร และออกกำลังกายเป็นสำคัญ ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดกระเพาะเพื่อรักษาโรคอ้วนควรได้รับการดูแลแบบองค์รวม ทั้งจากแพทย์ นักโภชนาการ และนักกายภาพบำบัด เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน โดยน้ำหนักที่ลดลงไม่เพียงช่วยให้รูปร่างดีขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคร้ายแรงต่าง ๆ เพิ่มโอกาสในการมีชีวิตยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง เทคนิคการผ่าตัดกระเพาะแผลเดียวซ่อนในสะดือ หรือ SILSG จึงเป็นตัวอย่างของการผ่าตัดยุคใหม่ที่ไม่หยุดอยู่แค่การ “รักษาโรค” แต่ยังคำนึงถึง “คุณภาพชีวิต” และ “ความสวยงาม” ของตัวผู้ป่วยอย่างแท้จริง

            อย่างไรก็ตามการผ่าตัดด้วยเทคนิคผ่าตัดกระเพาะแผลเดียวซ่อนในสะดือ โดยการตัดกระเพาะรักษาโรคอ้วนนั้น การผ่าตัดด้วยวิธีนี้ยังสามารถทำการผ่าตัดในส่วนของโรคนิ่วในถุงน้ำดีและโรคไส้ติ่งอักเสบ ได้อีกด้วย ดังนั้นผู้ป่วยหรือผู้สนใจต้องการปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดการผ่าตัดส่องกล้อง หรือต้องการศึกษาเพิ่มเติมหรือสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการผ่าตัดส่องกล้องรักษาโรคอ้วน ได้ที่ เพจ Facebook :  หมอโจอี้ นพ.ศิรสิทธิ์  เลาหทัย ศัลยแพทย์เฉพาะทาง ผ่าตัดส่องกล้อง หรือ Line : @dr.sirasit  หรือ Website : www.doctorsirasit.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ
56
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าบรรเทาทุกข์จากสภาวะอากาศร้อนแก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร
รุดส่งมอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น พร้อมค่าพาหนะ ค่าติดตั้งพัดลม
แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนเพิ่มอีก 5 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 9 แสนบาท





มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าบรรเทาทุกข์จากสภาวะอากาศร้อนแก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร รุดส่งมอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น พร้อมค่าพาหนะ ค่าติดตั้งพัดลม แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนเพิ่มอีก 5 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 9 แสนบาท

ระหว่างวันที่ 13 -19 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย  นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก พร้อมด้วย นายชูเดช เตชะไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการฯ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่มอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น ในโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร ครั้งที่ 2 ให้แก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร ประกอบด้วยจังหวัดสมุทรสาคร เพชรบุรี ระยอง ตราด และสระแก้ว รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน พร้อมมอบค่าพาหนะให้แก่โรงเรียนๆ ละ 2,000 บาท และค่าติดตั้งพัดลมแก่โรงเรียนๆ ละ 3,000 บาท นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้มอบชุดนักเรียน ให้แก่นักเรียนทั้ง 25 โรงเรียน รวม 750 ชุด รวมงบประมาณทั้งสิ้น 987,050 บาท (เก้าแสนแปดหมื่นเจ็ดพันห้าสิบบาทถ้วน) เพื่อลดสภาวะอากาศร้อนภายในโรงเรียน ให้นักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนได้คลายร้อนและมีสมาธิในการเรียนการสอน โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี




โครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ห่วงใยนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลนพัดลม จึงมอบหมายให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ จัดทีมฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เร่งดำเนินการโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร นำร่องเมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โดยมอบชุดพัดลมแก่สถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี รวม 5 จังหวัด  25 โรงเรียน  และได้ขยายพื้นที่บรรเทาทุกข์ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2568 รวมการดำเนินการโครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดารแล้ว 10 จังหวัด 50 โรงเรียน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท






 
ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **





57
เริ่มแล้ว “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47”
อวดโฉมรถสุดวินเทจ ฉลอง 30 ปี ฟิวเจอร์พาร์ค




            สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ จัด “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47” แสดงรถโบราณ ทรงคุณค่ากว่าร้อยคัน พร้อมยกทัพรถคลาสสิค ร่วมฉลอง 30 ปี ฟิวเจอร์พาร์ค วันนี้–22 มิถุนายน 2568


            ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47 จัดภายใต้แนวคิด “ความหวังยุคหลังสงคราม-The Post-War Hope” โดยปีนี้มีผู้ส่งรถโบราณ และรถคลาสสิคเข้าประกวด และจัดแสดงให้ชมกว่า 100 คัน ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์


            การประกวดแบ่งออกเป็น 7 รุ่น ได้แก่ รถรุ่นบรรพบุรุษ รถรุ่นผ่านศึก รถโบราณ รถรุ่นก่อนสงคราม รถรุ่นหลังสงคราม รถคลาสสิค และรถคลาสสิคร่วมสมัย โดยรถเด่น ได้แก่ Mercedes-Benz 300 Cabriolet D ปี 1953 รถเปิดประทุนคันงาม ซึ่งเป็นแบบในโปสเตอร์งานปีนี้


            ยิ่งกว่านั้น ยังมีการประกวด รถจำลอง รถดัดแปลง รถประดิษฐ์พิเศษ รถแจกวาร์ รถมีนี รถโฟล์คสวาเกน รถอเมริกัน และรถเฟียต พร้อมรถคลาสสิคร่วมสมัย อายุ 30 ปี ที่นำมาแสดงเป็นพิเศษร่วมฉลองครบรอบ 30 ปี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์


            ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ เสวนาเกี่ยวกับรถโบราณ การประกวดราชินีแห่งความสง่างาม มินิคอนเสิร์ตจากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำหน่ายสินค้าวินเทจ เช่น รถโบราณจำลอง หนังสือ นิตยสาร ฯลฯ


            กัลยา กมลรัตน์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค กล่าวว่า “ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ จัดพื้นที่แสดงรถโบราณ และรถคลาสสิค กว่า 4,000 ตารางเมตร เพราะเราไม่ได้เป็นเพียงช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์การค้าที่ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน โดยงานประกวดรถโบราณนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของแต่ละเจเนอเรชัน




            นอกจากนี้ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ พร้อมมอบประสบการณ์พิเศษด้วยกิจกรรมสนุกที่ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ได้แก่ Game Jigsaw Challenge / เวิร์คช็อพทำพวงกุญแจรถคลาสสิค – เติมสีสันตามสไตล์ / Rally Scan – ตามหารถไฮไลท์ภายในงาน รับของรางวัลมากมาย อาทิ กระเป๋า Limited Edition 30th Anniversary , กล่องกระดาษทิชชู ฯลฯ




            ชม “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 47” ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ ระหว่างวันที่ 18-22 มิถุนายน 2568 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ vintagecarclub.or.th และ facebook.com/VintageCarClub
58
ยัวซ่าแบตเตอรี่จัดอบรมมอบความรู้ประจำปี 2568


             มร.สึเนะโนริ  โยชิมูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์- รถจักรยานยนต์คุณภาพและมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น นำทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมจัดกิจกรรม “การอบรมมอบความรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ ประจำปี 2568” ให้กับผู้แทนจำหน่ายแบตเตอรี่ยัวซ่า เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ New line up Battery ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยในปัจจุบัน และวิธีการตรวจเช็คแบตเตอรี่ เป็นต้น เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเทวมันตร์ทรา รีสอร์ท จังหวัดกาญจนบุรี







59
ยันม่าร์ฯ คืนกำไรให้กับเกษตรกรไทย จัดหนักแจกส่วนลดซื้อผลิตภัณฑ์ ครั้งที่ 2 มูลค่ารวมกว่า 169 ล้านบาท


บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี.จำกัด (ประเทศไทย) ผู้นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีการเกษตรและผู้ผลิตเครื่องมืออุตสาหกรรมแบบครบวงจร จัดแคมเปญฯ “ยันม่าร์ ลุ้นหนักหลักแสน ลดสนั่น 40% ครั้งที่ 2” คืนกำไรให้เกษตรกรไทย ลุ้นรับส่วนลดในการซื้อผลิตภัณฑ์ยันม่าร์ ทั้งรถแทรกเตอร์และรถเกี่ยวนวดข้าว มูลค่ารวมของรางวัลกว่า 169 ล้านบาท ของรางวัลสำหรับกิจกรรมนี้ ได้แก่

1. รางวัล บัตรกำนัล ยันม่าร์ สำหรับใช้เป็นส่วนลด 40% ซื้อรถแทรกเตอร์ ยันม่าร์ รุ่น EF393T 45 TH Edition มูลค่ารางวัลละ 233,600 บาท จำนวน 79 รางวัล

2. รางวัล บัตรกำนัล ยันม่าร์ สำหรับใช้เป็นส่วนลด 40% ซื้อรถแทรกเตอร์ ยันม่าร์ รุ่น YM351R มูลค่ารางวัลละ 293,200 บาท จำนวน 79 รางวัล

3. รางวัล บัตรกำนัล ยันม่าร์ สำหรับใช้เป็นส่วนลด 40% ซื้อรถแทรกเตอร์ ยันม่าร์ รุ่น YM358R มูลค่ารางวัลละ 332,400 บาท จำนวน 91 รางวัล

4. รางวัล บัตรกำนัล ยันม่าร์ สำหรับใช้เป็นส่วนลด 40% ซื้อรถแทรกเตอร์ ยันม่าร์ รุ่น YM358R-L1 มูลค่ารางวัลละ 356,800 บาท จำนวน 85 รางวัล

5. รางวัล บัตรกำนัล ยันม่าร์ สำหรับใช้เป็นส่วนลด 40% ซื้อรถแทรกเตอร์ ยันม่าร์ รุ่น Yanmar Solis30 45 TH Edition มูลค่ารางวัลละ 175,200 บาท จำนวน 100 รางวัล

6. รางวัล บัตรกำนัล ยันม่าร์ สำหรับใช้เป็นส่วนลด 40% ซื้อรถแทรกเตอร์ ยันม่าร์ รุ่น Yanmar Solis75 45 TH Edition มูลค่ารางวัลละ 411,600 บาท จำนวน 51 รางวัล

7. รางวัล บัตรกำนัล ยันม่าร์ สำหรับใช้เป็นส่วนลด 40% ซื้อรถแทรกเตอร์ ยันม่าร์ รุ่น Yanmar Solis90 มูลค่ารางวัลละ 530,800 บาท จำนวน 40 รางวัล

8. รางวัล บัตรกำนัล ยันม่าร์ สำหรับใช้เป็นส่วนลด 40% ซื้อรถเกี่ยวนวดข้าว ยันม่าร์ รุ่น YH1180 มูลค่ารางวัลละ 711,600 บาท จำนวน 10 รางวัล


สามารถร่วมลุ้นรับสิทธิ์กับแคมเปญฯ “ยันม่าร์ ลุ้นหนักหลักแสน ลดสนั่น 40% ครั้งที่ 2” ได้ง่าย ๆ เพียงลงทะเบียนผ่าน QR Code หรือคลิก https://yanmarthailandfanclub.com/luckydraw ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 14 กรกฎาคม 2568 และตรวจสอบผลผู้โชคดีที่ได้หน้าเฟซบุ๊ค Yanmar Thailand Fanclub’s Facebook page ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 รวมของรางวัลตลอดรายการ จำนวน 535  รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 169,053,200 บาท
60
ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 เตรียมฉาย “ยอดปรมาจารย์ยิปมัน” ผลงานระดับโลกจากผู้กำกับหว่อง กาไว


             วันอาทิตย์นี้ ห้ามพลาด “ยอดปรมาจารย์ยิปมัน” (THE GRANDMASTER) ภาพยนตร์ดราม่า-แอ็กชันสุดเข้มข้นจากฝีมือการกำกับของ “หว่อง กาไว” นำแสดงโดย “โทนี่ เหลียง” ในบท “ยิปมัน” และ “จางซิยี่” ในบท “กงเอ๋อ” ลูกสาวปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ชื่อดัง ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงสะกดใจผู้ชมด้วยฉากต่อสู้ที่งดงามราวบทกวี แต่ยังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตอันทรงพลังของยอดปรมาจารย์กังฟู การันตีคุณภาพด้วยรางวัลและเสียงชื่นชมจากทั้งเวทีระดับนานาชาติและผู้ชมทั่วโลก




             โดยตัวหนังเล่าถึง ชีวิตของ “ยิปมัน” (โทนี่ เหลียง) ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวิชาหมัดหย่งชุน ในช่วงที่ประเทศจีนกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่ ยิปมันต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในวงการศิลปะการต่อสู้และชีวิตส่วนตัว เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเขาได้พบกับ กงเอ๋อ (จางซิยี่) ลูกสาวของปรมาจารย์กง ซึ่งทั้งสองกลายเป็นคู่ปรับและเพื่อนร่วมทางที่ผูกพันกันด้วยศิลปะการต่อสู้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัย ยิปมันต้องเลือกระหว่างการปกป้องวิถีดั้งเดิมหรือปรับตัวเพื่อรักษาศิลปะการต่อสู้ให้คงอยู่ ขณะเดียวกันเขายังต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายจากคู่ต่อสู้ที่ต้องการโค่นเขาลง อย่าพลาดชม “ยอดปรมาจารย์ยิปมัน” ในวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2568 เวลา 14.55 น. ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทาง true4u.com/live
Pages: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10