Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: [1] 2 3 ... 2337
1
ITC ร่วมใจเก็บขยะและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องใน “วันเก็บขยะชายหาดสากล”






กรุงเทพฯ – 21 กันยายน 2566 – บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC สาขาสงขลา นำโดยคุณสมโชค คงรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล พร้อมตัวแทนพนักงานร่วมกิจกรรมเก็บขยะและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันเก็บขยะชายหาดสากล (International Coastal Cleanup Day) ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำทัพพนักงานเก็บขยะบริเวณชายหาดบ่อหูด ตำบลวัดจันทร์ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เพื่อกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของปัญหาขยะทะเล ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำใต้ท้องทะเล รวมถึงเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีในการคัดแยกและทิ้งขยะอย่างถูกวิธีเพื่อลดปัญหาขยะในท้องทะเลและร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลได้อย่างยั่งยืนสืบไปซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 และความมุ่งมั่นที่จะสร้าง "การมีสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์"

ในปีนี้ สามารถเก็บและคัดแยกขยะได้มากกว่า 118 กิโลกรัม โดยส่วนใหญ่เป็นขยะประเภทขวดพลาสติก โฟม ถุงพลาสติก หลอดดูดน้ำ ฯลฯ ซึ่งขยะทั้งหมดที่เก็บได้จะนำส่งให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลวันจันทร์ อำเภอสทิงพระ เพื่อดำเนินการบริหารจัดการต่อไป นอกจากนี้ ITC ยังได้ร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ปูม้าจำนวน 10 ล้านตัว, แม่พันธุ์เต่าและลูกเต่าจำนวน 10 ตัว ลงสู่ท้องทะเลอีกด้วย

2
สสว. มอบรางวัลผู้ให้บริการทางธุรกิจ (BDSP) ดีเด่น
ในเคมเปญ “SME ปังตังได้คืน ก้าวสู่ปีที่ 2”





              นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) เป็นประธานในพิธีมอบโล่รางวัลผู้ให้บริการทางธุรกิจ (BDSP) ดีเด่น” ภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (Business Development Service) ปีงบประมาณ 2566  หรือ “SME ปังตังได้คืน ก้าวสู่ปีที่ 2” แทนคำขอบคุณ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ, นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และนายรักติ ญวนกระโทก รองประธานสมาคมสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ขึ้นรับรางวัล โดยมีทีมผู้บริหารจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตัวแทนหน่วยงานพันธมิตรผู้ให้บริการทางธุรกิจ ผู้ประกอบการ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ ร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก




3
หนิง ปณิตา โล่งอกอดีตสามี จิน จรินทร์ เป็นคนพูดเองเรื่องเลิกรา ลั่นไม่ได้ร้องขออะไร ข้อตกลงฝ่ายชายเป็นคนเสนอ


หลังจากที่ จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ อดีตสามี หนิง ปณิตา ไปออกรายการของพี่ชายคนสนิทอย่าง เป๊ก สัณณ์ชัย เผยถึงเรื่องราวปัญหาครอบครัว บอกว่ารู้สึกผิด เลิกกันแล้วก็ไม่ควรมีคนอื่น อีกทั้งทำให้หนิงทุกข์ และต่อมาหนิงได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาวผ่านทางโซเชียลทันที ล่าสุด หนิง ปณิตา ได้เปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ตอนแรกคิดว่าจบสวยแล้ว แต่เมื่อวานหรือวันก่อนหนิงโพสต์ตู้มขึ้นมาเกิดอะไรขึ้น?
หนิง : ตามที่หนิงโพสต์มันค่อนข้างชัดเจนว่าเรื่องราวที่ผ่านมามันจบแล้ว ทุกคนเข้าใจในแบบที่เราเซตอัพว่ามันจะต้องจบแล้ว มันไม่ควรถูกพูดขึ้นมาอีก หรือว่าสัมภาษณ์ถึงสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาอีก ทั้งๆ ที่เราเองอยู่หน้าสื่อ ทำงานทุกวัน รายการหลายๆ รายการ ต้องการคอนเทนต์จากเรา ต้องการสัมภาษณ์ในหลายๆ เรื่องที่ไม่เคลียร์ หรือแม้กระทั่งรายการเราเองมีลูกค้ามาซื้อสปอนเซอร์ ต้องการให้พี่หนิงประเด็นนี้ๆ ทุกคนก็ช่วยกัน จบแล้วๆ เราจะไม่พูดถึงอะไรแล้ว เพราะมันจบไปแล้ว แล้วมันก็เป็นข้อที่ทางคุณจินเองก็บอกด้วยว่าเราจะไม่มีทางพูดถึงว่าเลิกราหรือหย่าร้าง ให้ทุกคนเข้าใจว่าเราก็มีปัญหาแบบนี้ แต่เราอยู่ด้วยกัน

หนิงไม่เคยพูดคำว่าหย่า?
หนิง : ไม่เคยพูดคำว่าหย่า ไม่เคยพูดคำว่าเลิก ที่ไม่พูดคำนี้ เพราะเป็นการขอร้องจากคุณจินเองที่ไม่ต้องการให้ครอบครัวเขารู้ และที่สำคัญคือรักษาความรู้สึกลูกแบบค่อยเป็น ค่อยไป
จินก็น้องพี่ เป๊กก็พี่ชายพี่?
หนิง : จริงๆ เทปนี้ล่าสุดเลยในรายการคนละเป๊ก เทปนี้เทปแรก เขาติดต่อหนิงด้วยซ้ำ แต่หนิงยังไม่มีคิวให้ที่จะไป แล้วก็มาติดต่อเป็นจิน ซึ่งจินเองบอกกับหนิงว่าจะไปถ่ายรายการพี่เป๊ก หนิงก็รู้มาว่าต้องไปถ่ายรายการ แต่ว่าพอฟังบทสัมภาษณ์อะไรหลายๆ อย่าง ในรายการ ในมุมของหนิง หนิงรู้สึกมันขัดแย้ง

สมมติถ้ากลับไปแก้บทได้ อยากให้โลกรู้อะไร?
หนิง : ตามที่หนิงพิมพ์ไว้ก็ค่อนข้างจะชัดเจนทั้งหมด





จินก็เป็นน้องพี่ ถ้าจินดูอยู่ก็เลี้ยงดูลูกอย่างที่หนิงขอไว้?
หนิง : อย่างที่หนิงบอก พอเรื่องมันไม่จบแล้วมันต้องออกมาพูดอย่างนี้ แต่ ณ วันนี้มันถูกพูดขึ้นในเรื่องราวหลายๆ เรื่อง เดี๋ยวทุกๆ คนจะคิดว่าข้อตกลงคือยังไง เมื่อกี้พี่ใช้คำพูดหนึ่งกับหนิงว่าตามที่หนิงขอ หนิงขอตอบคำถามนี้ว่า หนิงไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยขออะไร ใช้คำว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องและร้องขอด้วยเลยดีกว่าไหม เพราะถ้าหนิงร้องขอ มันจะต้องแบบนี้ 1.2.3.4  แล้วถ้าเขาทำไม่ได้ มันก็เป็นสิ่งที่หนิงเรียกร้อง แต่หนิงไม่เคยเรียกร้อง

แล้วอยากได้อะไรให้ลูก?
หนิง : มันอยู่ในข้อตกลงทั้งหมดที่จินเป็นคนเสนอมา

อยาคตจะเป็นยังไง?
หนิง : ไม่ทราบค่ะ ทราบอย่างเดียวคือที่หนิงทำทุกวันนี้ทั้งหมด ตั้งใจทำงาน ใจเย็นๆ มีสติในทุกๆ วัน อาจจะไม่ได้ดีทุกวัน บางวันอาจจะมีหลุดไปบ้าง เพราะว่าสิ่งที่ต้องโฟกัสรอบข้างเยอะมาก งานหลายเรื่องมากๆ แล้วการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในสภาวะเป็นวัยรุ่น แล้วเจอกับปัญหาในเรื่องอย่างนี้ มันยากมาก แล้วมันเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับหนิง หนิงพยายามทำทุกวันให้มันดีที่สุด แต่ถูกใจใครไหมอันนี้ไม่รู้ แต่จะทำให้ได้ดีที่สุดเพื่อเด็กคนหนึ่งแค่นั้นเองที่หนืงคิดวันนี้ และอีกอันที่หนิงอยากจะบอกกับทุกคนว่าหนิงจะไม่หนีใครอีกแล้ว ทุกคนในคุยแซ่บshow รู้ว่า 1 ปีที่ผ่านมา เวลาที่มันมีประเด็นหรือมีเรื่อง หนิงจะโทรกะทันหันเลยว่าขอไม่ไปทำงานนะ ขอหยุดงานนะ อีเว้นท์อันนี้ขอไม่รับ ขอเลี่ยงนะ อันนี้เจอนักข่าว พี่ๆ วันนี้ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ต้องรีบไปรับลูก แล้วก็วิ่งหนีเข้าใจคำว่าวิ่งหนีนักข่าวไหม แล้วบางทีอยู่ในรายการ เราก็ต้องวิ่งลงบันไดหนีไฟ เพราะมีนักข่าวมารออยู่ข้างล่าง วันนี้หนิงจะไม่หนีใครอีกแล้ว หนิงจะออกมาทำในสิ่งที่หนิงควรทำ ซึ่งวันอาทิตย์นี้หนิงก็มีอีเว้นท์ ถ้าปกติหนิงหนีแล้ว แต่หนิงจะไม่หนีแล้ว รู้สึกโล่งใจที่จินออกมาพูดเอง หนิงจะได้ไม่ต้องเก็บอยู่ในใจ แล้วเวลาใครถามอะไรก็ตอบไม่ได้ พี่พีเคยังไม่รู้เรื่องเลย คนในรายการก็ไม่มีใครรู้เรื่องเลย

หนิงเป็นคุณแม่ที่รักลูกมาก ฝั่งคุณพ่อก็รักลูกมาก แต่มันยังหาตรงกลางเพื่อลูกไม่ได้?
หนิง : สำหรับหนิง หนิงเจอแล้วนะ ส่วนอีกฝั่งหนิงตอบแทนไม่ได้

คนเขาบอกว่าทำให้ดีที่สุดเพื่อลูกก็แล้วกัน?
หนิง : ใช่ หนิงต้องการแค่นั้น





ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ หนิง ปณิตา​
https://youtu.be/V8mok5pe8pc?si=fgc4DUb7bDEXW0GE

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=V8mok5pe8pc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=V8mok5pe8pc</a>


4
“ชาย-มิค” กอดคอเล่าทั้งน้ำตา โมเมนต์ซึ้งในครอบครัว รวมตัวกันในรอบ 5 ปี ชายเผย “วิกกี้” ขอให้บอกตรงๆ หากเป็นเหมือน “พ่อเกรซ”


ขึ้นแท่นนักแสดงตัวท็อปของเมืองไทย “ชาย ชาตโยดม” เปิดความสำเร็จในฐานะนักแสดงตัวพ่อของเมืองไทย ขึ้นจุดสูงสุดของอาชีพ ต้องแลกอะไรบ้าง ควงคู่น้องชาย “มิค บรมวุฒิ” เผยนาทีเซอร์ไพรส์ ทำน้ำตาแตกกลางรัชดาลัยเธียเตอร์ มุมลึกๆ พี่น้องสุดซี้ สามารถแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันได้ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

สามารถแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันได้ จริงมั้ย?
ชาย-มิค : จริง

พี่ชายประสบความสำเร็จจุดสูงสุดทางการแสดง?
ชาย : ยังไปได้อีก

ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยตก แต่ปีนี้พีคหลายอย่าง?
ชาย : ด้วยความบังเอิญด้วยแหละด้วยหลายๆ งานถ่ายพร้อมๆ กันมาเรื่อยๆ พอออกอากาศก็มาพร้อมกันทีเดียว กลายเป็นว่าตอนนี้งานเยอะ มันถ่ายมาเรื่อยๆ เป็นช่วงจังหวะมากกว่า

ไม่ใช่แค่เยอะ ที่สำเร็จเป็นเรื่องที่ทุกคนพูดถึง ไม่ใช่แค่คนดูละคร มีคุณพ่อคุณแม่ปู่ย่า แม้แต่ลูกหลานก็ดูละครพี่ชาย และชื่นชมบทบาทพี่ชาย ตีบทแตก รู้สึกยังไง?
ชาย : ดีใจที่งานที่เราตั้งใจ เราเต็มที่กับงานมาตลอด แต่ไม่ได้ไปทัชใจกับทุกคนทุกบทตลอด แต่เรื่องนี้มีอะไรสักอย่าง องค์ประกอบรวมเข้าถึงจิตใจ ไม่ได้ให้แค่ความบันเทิงอย่างเดียว เข้าถึงจิตใจใครหลายคนด้วย ตอนเล่นมันส์มาก ชอบที่อยู่ในกองแล้วได้ปลดปล่อยเต็มที่ (หัวเราะ)

พี่มิคเม้าธ์สิ มีคนเม้าธ์พี่ชายมั้ยกับการรับบทนี้?
มิค : เม้าธ์ในทางที่ดี เช่นเล่นเหมือน แต่ก่อนหน้าจะมาออนแอร์พร้อมกัน เราคุยกันเยอะ พี่ชายรับหลายเรื่อง แต่ปรากฎว่าจังหวะมากกว่าที่ได้มาออกอากาศพร้อมกัน มันเป็นช่วงพีคที่เหมือนกับว่าหมอหลวงกำลังสนุก ก็ต่อด้วยละครเวที ต่อด้วยมาตาลดา เขาโชคดีมากที่มันผลักขึ้นอย่างเดียว มันคุ้มมากกับช่วงก่อนที่ถ่ายทำเยอะ จังหวะชีวิตคือดีมาก

มีอินติดกลับบ้าน?
ชาย : ชายเป็นอย่างนั้นของชายอยู่แล้ว ต้องให้กี้ (วิกกี้ สุนิสา) มาออกอีกคน เขาจะบอกเลยว่าอยู่ที่บ้านก็เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้เลย เป็นพี่ชายที่เห็นในจอ
มิค : พี่ชายเป็นคนที่มีความเป็นผู้หญิงในตัวสูง
ชาย : กี้จะเป็นคนแมน ชายจะมีความเป็นผู้หญิงสูง เช่นทำกับข้าว เลี้ยงลูก
มิค : ร้องไห้ก็ไปก่อนทุกคน เป็นสไตล์เขา
ชาย : ตั้งแต่เด็ก เวลาเดินจะทิ้งก้น แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติ จนกระทั่งโตแล้วเข้าวงการ ช่วงนายแบบก็โดนทักว่าทำไมเดินทิ้งก้นตลอดเวลา เราก็บอกว่านี่เราเดินปกติ ธรรมชาติที่เดิน จนต้องมาเซ็ตใหม่

ตลอดเวลาที่พี่ชายยังไม่แต่งงาน หลายคนก็สงสัยอยู่แล้วว่าพี่ชายเป็นมั้ย พอมาเล่นเรื่องนี้เหมือนตอกย้ำว่าหรือว่า..?
ชาย : (หัวเราะ) กี้ยังถามอยู่ทุกวันนี้ว่าใช่ใช่มั้ย ถ้าจะบอกอะไรก็บอกตอนนี้ได้เลย เพราะเราสามารถเลี้ยงลูกด้วยกันได้ พี่ชายอยากมีชีวิตในแบบพี่ชายก็ไม่เป็นไร แต่เราเลี้ยงลูกด้วยกัน เวลาทำก็ทำต่อหน้ากี้นั่นแหละ ปัญหาอย่างนึงคือเดินใส่ส้นสูงไม่เป็น พอไปฟิตติ้งมารู้ตัวอีกทีคือเดินไม่ได้เลย ก้าวขาไม่ออก เลยขอรองเท้าส้นสูงเขามาเดินที่บ้าน ก็กี้นั่นแหละที่เป็นโค้ชให้ เดินยังไง แล้วก็สับๆ จนเข้าที่เข้าทาง
มิค : ทุกวันนี้เอาไปคืนหรือยัง
ชาย : ยัง ยังเก็บอยู่ (หัวเราะ)

อาชีพเราทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้แล้ว?
ชาย : เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เคยคิดเลยนะ เด็กๆ หาจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่เจอ โตจนเข้ามหาวิทยาลัย ยังไม่รู้เลยว่าอยากเรียนอะไร อยากไปทางไหน ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเลยว่าเราเรียนอะไรที่พ่อแม่ภูมิใจแล้วกัน พ่อแม่ไปคุยกับเพื่อนๆ ได้อย่างสมมติลูกเป็นหมอก็เท่ดีนะ คิดแค่นั้นจริงๆ เลยนะ สาบาน แล้วเลือกเรียนวิศวะ เพราะคิดว่าถ้าพ่อแม่ไปคุยกับเพื่อน ก็คงจะเท่ แต่พอมาเริ่มทำงานในวงการก็ฝังใจอยู่ตลอดเหมือนกันว่าพ่อแม่จะโอเคมั้ย เขาโอเคกับสิ่งที่เราทำหรือเปล่า เพราะมันนานแล้วนะ เราทำจะ 30 ปีแล้วนะ จนเรื่องนี้แหละ คุณแม่ไลน์มาทุกวันว่าเพื่อนแม่โทรมาหานะ เพื่อนพ่อไลน์มาบอกนะว่าดูละครชายแล้วเก่งจังเลย มันเพิ่งได้สัมผัสความรู้สึกตรงนี้ว่าพ่อแม่ภูมิใจในอาชีพของเรา

เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนรักตัวพ่อเกรซมากๆ ทั้งที่ไม่ใช่ตัวละครที่หลายคนจะได้เล่น อยากถามว่าครั้งแรกที่ตัดสินใจรับ?
ชาย : ไม่ได้คิดอะไรเลย ปกติถ้าพี่จ๋า ยศสินี บ้านอาจิ๋ม มยุรฉัตร โทรมา จะเล่นทันที ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งพี่จ๋าบอกว่าให้ฟังก่อน จะเล่นเป็น LGBTQ+ นะ เราก็โอเค สนุกดี เขาบอกใจเย็นฟังก่อน แต่ว่ามีลูกด้วยนะ เราก็เออ ได้ยังไง ฟังก่อน เป็นเจ้าของแดรกโชว์และเป็นแดรกควีนด้วยนะ เราก็เริ่มเอาใหญ่แล้ว (หัวเราะ) เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าจะสนุก พอได้ทำจริงๆ ก็เต็มที่

พี่มิคเข้าวงการใกล้เคียงกับพี่ชาย?
ชาย : ก็มาคู่กันเลย แรกๆ ชายเริ่มเล่นละคร เริ่มเข้าวงการ มิคก็ไปกองถ่ายด้วยกัน
มิค : ถ่ายโฆษณา

ถามจากใจ เวลาเป็นนักแสดงทำอาชีพเดียวกัน แต่บทบาทไม่เหมือนกัน โดนเปรียบเทียบกับพี่ชาย น้อยใจมั้ย?
มิค : มีเคยโดนเปรียบเทียบเพราะเล่นบทไม่เหมือนกันตั้งแต่แรก พี่ชายเขามีความเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว อย่างละครเรื่องแรกที่เล่นด้วยกัน เป็นเรื่องที่สามในชีวิตมิค พี่ชายเล่นเป็นพี่ คู่ที่หนึ่ง เราเล่นเป็นคู่สอง เรื่องนั้นพี่ชายเล่นกับวิกกี้ พี่เล่นกับจอย ชลธิชา ไม่ได้ทับไลน์กันอยู่แล้ว บทที่มิคได้รับก็เฮฮาซะมากกว่า ไม่ค่อยโดนเปรียบเทียบ จะมาช่วงหลังเสียมากกว่า ที่แข่งกันเล่นบท LGBTQ เพราะว่ามันเคยเป็นบทของเรา แล้วทุกคนมาถามเราว่าเสียใจมั้ยไม่ได้เล่นมาตาลดา เราก็เสียดายนะ เพราะจริงๆ มันเป็นบทของเรา
ชาย : เดี๋ยวๆ
มิค : แต่พอดูเขาเล่นแล้ว ให้เขาเล่นเถอะ เหมาะกับเขากว่าเยอะเลย
ชาย : ละครเรื่องแรกในชีวิตเล่นเป็นเกย์นะ กับพี่หมิว รักเล่ห์เพทุบาย
มิค : ถึงได้บอกว่าคนเพิ่งมาคิดไม่แปลก เพราะเขาเข้าวงการเรื่องแรกก็เล่นเป็นเกย์เลย และไม่แปลกไปอีก เพราะเมียเขายังถามเลยว่าเขาเป็นมั้ย ตั้งแต่เกิดน้อยใจมันอย่างเดียวจนถึงวันนี้ คือความสูง ไม่แบ่งความสูงมาให้กูเลย เคืองเรื่องนี้ (หัวเราะ) ทำไมชายสูงแล้วมิคเตี้ย
ชาย : ทุกคนในครอบครัวไซส์มิคหมดเลย
มิค : ซึ่งพ่อแม่เก่งมาก เก็บมาเลี้ยงได้หน้าตาเหมือนคนในบ้านหมดเลย
ชาย : (หัวเราะ) ฝั่งคุณตาจะสูง ข้ามรุ่นมาได้คนเดียว
มิค : แล้วขโมยนมทุกคนกินตอนเด็กๆ ไง รู้งี้ตอนนั้นนอนขโมยนมเหมือนเขาก็คงดี (หัวเราะ)













ตั้งแต่เข้าวงการไม่เคยมีปมในใจ?
มิค : ไม่มี ถ้าเทียบกับพี่เรา แต่ถ้ากับคนอื่น กล้าพูดว่ามี สมมติบทนี้ ผู้จัดติดต่อมาว่า เหลือมิคกับคนนี้อาจเสียใจ แต่ถ้าบทอย่างเรา ขอให้พี่ตั๊ก บริบูรณ์เล่นได้มั้ย อย่างนี้ไม่โกรธ เพราะรู้เลยมันทำดี แต่ถ้าเปรียบเทียบกับพี่ชาย ไม่เคยโกรธเลย เรายิ่งส่งเสริม แต่อาจใส่ยาพิษในน้ำนิดหน่อยให้ขี้แตกบ้าง (หัวเราะ)
เบนซ์ : พี่น้องเขารักกันมา แต่เวลาเราเดินไปกับพี่มิคเขาจะชอบมาแซว ว่าชายเล่นละครดี ทำไมเธอไม่เล่นละครกับเขาบ้าง เขาอาจไม่รู้สึก แต่เราก็แบบ ทำไมต้องมาว่าพี่มิคด้วย เขาไม่คิดมันก็โอเค แต่เราเป็นห่วงนางว่าเขาโอเคมั้ย
มิค : เวลาพี่ชายทำดีเราก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ภูมิใจความเป็นพี่มิคอยู่แล้ว?
มิค : ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร เหมือนตีกอล์ฟ แข่งขันกับตัวเองดีกว่า อย่าไปแข่งกับคนอื่น เพราะบางทีโอกาสมาไม่พร้อมกัน บทก็อาจไม่เหมาะกับเรา

พี่ชายเคยได้ยินคอมเมนต์แบบนี้มั้ย?
ชาย : ไม่เคยมีคนมาพูดแบบนี้ แต่ถ้าพูดแบบนี้กับชาย ชายรู้สึก เพราะไม่อยากให้ใครมาเปรียบเทียบเหมือนกัน เพราะน้องชายก็สนับสนุนชายเต็มที่ เหมือนทุกคนในครอบครัว ต่างคนต่างสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้ามีคนพูดก็คงไม่ชอบ แต่ยังไม่มีใครพูด
มิค : ถ้ามีคนมาพูดต่อหน้าพี่ชายว่าพี่ชายเล่นดี แต่มิคเล่นไม่ได้เรื่อง เชื่อว่าพี่ชายจะมีคำพูดดีๆ กับคนนั้นที่มาทัก

เรื่องความสูง รู้มั้ยว่าเขาน้อยใจ?
มิค : ไม่รู้ก็บ้า
ชาย : เราก็ทับถมกันเต็มที่ (หัวเราะ)

เคยบอกพี่ชายหรือยัง หลังละครเวทีประสบความสำเร็จ ปลื้มใจกับเขาแค่ไหน?
ชาย :   ตอนขึ้นละครเวทีก็มาเพื่อซัปพอร์ต ไม่ได้มาแค่ครั้งเดียว มาดูละครทีวี 3-4 ครั้ง
มิค : มันจุกมาถึงนี่ วันแรกรอบพรีวิล ไปดู พ่อแม่ไป น้าๆ ไปกันหมด มันจุกตรงคอ พูดอะไรไม่ได้ เพราะร้องไห้แน่ พูดได้คำเดียวพร้อมเบนซ์ว่าโอ้โห รวย หลังจากนั้นก็เดินไปกอดเขา เชื่อว่าพี่ชายรู้อยู่แล้วกับความภาคภูมิใจที่พี่ชายได้ทำ เราให้อะไรเขาไม่ได้หรอก นอกจากกำลังใจ เพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันยิ่งใหญ่ เหมือนข้ามมาอีกสเต็ป คนอาจจะว่ามิคก็ได้ว่าอวยพี่ แต่ตอนที่เขาเล่นฉากที่เขาจะตาย มิคเห็นภาพพี่ชายเป็นฮิว แจ็คแมน เล่นอยู่บนเวที มิคก็แบบเฮ้ย เด็กๆ ทุกคนอยากมีฮีโร่ในบ้าน แล้วมันเป็นพี่เราเอง เราอยากไปกอดเขาเมื่อไหร่ก็ได้ (เสียงสั่นเครือ) มันภูมิใจและรู้ว่าพี่ชายรู้ เราบอกเขาตลอดสู้ๆ นะเว้ย เพราะคนแบบนี้อยากอยู่กับลูก การอยู่กับละครเวทีต้องใช้เวลาทุกวัน หลายเดือน ไอ้นี่ห่างลูกไม่กี่ชม.ก็ร้องไห้อยู่แล้ว ได้แต่ให้กำลังใจว่าสิ่งที่ยูทำ คนในครอบครัวเป็นสิบกว่าคนเขาเห็นนะเว้ย และเขาโคตรภูมิใจในตัวยูเลย

พูดแล้วน้ำตารื้น?
มิค : เสียลุค (น้ำตาไหล)
ชาย : ครอบครัวสำคัญที่สุดเสมอ ตั้งแต่คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย พี่น้อง รวมถึงภรรยา เป็นสิ่งเดียวที่ชายรู้สึกว่าสำคัญที่สุดในชีวิต จังหวะที่เราพยายามเต็มที่ ในจังหวะที่เราเหนื่อย เรากำลังท้อ ตอนอยู่บนเวทีทุกคนอาจไม่รู้ คนอาจมองภาพว่าชายกำลังสนุกกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ แต่บางทีชายแค่รู้สึกเหนื่อยจังเลย สุดท้ายพอมองลงไป เห็นคนที่เรารักและเขาภูมิใจในสิ่งที่เราทำ เราเห็นแค่นั้น (ร้องไห้) ทำไมต้องมาถึงจุดนี้ทุกครั้งเลย
มิค : วันนั้นถึงได้พูดแค่ภูมิใจในตัวเขา พูดมากกว่านั้นไม่ออก
เบนซ์ : บางคนอาจอยากเล่นละคร อยากเป็นนักแสดง แต่พี่ชายคือรักในอาชีพนักแสดง ภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองทำทุกรายละเอียดทุกๆ งานและทุ่มเทมาก โดยเฉพาะละครเวที และละครทุกเรื่องที่เล่น เราสัมผัสได้ พอไปดูแล้วเราเข้าใจเขาเลย เวลาที่อยากอยู่กับลูก อยู่กับงานทั้งหมดเลย พอได้กำลังใจจากทุกคนก็มีความสุข

พี่เอก พี่ชายคนโต ไม่ได้อยู่เมืองไทย ก่อนหน้านี้กลับมาเดือนครึ่ง?
มิค : เขาทำงานที่โน่น ก่อนหน้านี้ไม่ได้กลับมาเลย 5 ปีเต็มๆ เพราะมีโควิด
ชาย : ก่อนโควิดก็ไม่ได้กลับมา

มีประเด็นที่พี่ชายไม่ได้ไปต่างจังหวัดกับครอบครัว?
ชาย : ช่วงที่พี่เอกกลับมาตลอดเกือบ 2 เดือน ชายทำงานทุกวันเลย เจอกันประมาณ 3 ครั้ง พี่เอกลงเครื่องกลับมา ชายซ้อมละครเวทีเสร็จประมาณเที่ยงคืน ถึงได้ตามมาเจอที่บ้าน หลังจากนั้นก็ทิ้งช่วงกันไป
มิค : เราก็ไปต่างจังหวัด พี่ชายไม่ได้ไป ส่งลูกกับกี้มา แล้วมาเจอเลี้ยงฉลองวันเกิดพี่ชายอีกหนึ่งครั้ง ก่อนพี่เอกบินกลับช่วงสั้นๆ ชม.สองชม.
ชาย : ก็เสียดาย มันเป็นช่วงเวลาที่ในใจชายรู้สึกอะไรหลายอย่างมาก โอกาสที่เราจะรวมตัวกัน เป็นความฝันของชาย คุยกันตั้งหลายครั้งแล้ว อยากให้คุณพ่อคุณแม่พาเราไปเที่ยวทั้งครอบครัวที่ต่างจังหวัด แล้วมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ
มิค : ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะพี่เอกไม่ได้กลับมาหลายปี เริ่มมีลูกมีหลาน เป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นไม่เคยได้ไป แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไป พูดแทนทุกคนในบ้านว่าทุกคนคิดถึงพี่ชาย ช่วงที่เขาไม่ได้มา พี่เอกนั่งอยู่บ้านมิค นอนบ้านมิคทุกวัน คุยกันทุกวันว่าเสียดายที่พี่ชายไม่ได้มา ยูไม่ต้องเสียใจ เพราะคุณพ่อ คุณแม่ พี่เอก รู้ว่าสิ่งที่ยูทำยิ่งใหญ่มากกว่าแค่มาเจอกัน ต่อให้ยังไง เจอกัน 3-4 ครั้งก็มีค่ามากพอแล้ว ไม่ใช่ว่ายูไปเที่ยวไม่ว่างมา สิ่งที่ยูกำลังทำ ยูทำเพื่อทุกคนอยู่แล้ว (ร้องไห้)
ชาย : ความรู้สึกของชาย ทุกอย่างที่เราทำอยู่ มันเหมือนจะเทียบเท่าได้อยู่กับครอบครัวได้ยังไง (เสียงสั่นเครือ) แล้วเราไม่มีโอกาส เราไปไม่ได้จริงๆ (ร้องไห้)

ได้คุยอะไรกับพี่เอกบ้างไม่ได้เจอกันนาน?
มิค : ตอนซ้อมละครเวทีเสร็จแล้วไปเจอพี่เอก เป็นยังไงบ้าง
ชาย :   พี่เอกเป็นเหมือนเดิม แค่คิดถึงแหละ เพราะโตมาด้วยกัน พอถึงเวลาแยกกันนาน จนเรารู้สึกว่าเราจะไม่มีโอกาสมาอยู่รวมกันจริงๆ เหรอ เขาอยู่ 2 เดือนถือว่านานมากแล้วนะ เป็นโอกาสน้อยครั้งในชีวิตที่จะได้อยู่รวมกันจริงๆ ยิ่งตอนนี้หลานเต็มบ้านไปหมด มันหาโมเมนต์นี้ยาก
มิค : พี่ชายอยู่เต็มๆ เลยก็ 2 วัน ก็คือนัดถ่ายรูปครอบครัว กับวันที่เลี้ยงวันเกิดพี่ชายล่วงหน้า นั่นเป็นสองครั้งเท่านั้นใน 50 กว่าวัน ที่พี่ชายได้อยู่ด้วยกันเยอะ
ชาย : ถึงพลาดไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน แต่ประสบการณ์ที่ได้อยู่ด้วยกันอยู่รวมกัน นั่งกินข้าวด้วยกัน แค่มองไป เราไม่จำเป็นต้องมานั่งจับกลุ่มคุยกันทุกคน แค่มองไปในมุมต่างๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
มิค : ตอนพี่เอกพี่ชายคุยกัน เหมือนอยากคุยกันแต่เขินๆ
ชาย : พี่เอกก็เงียบ ชายก็เงียบ (หัวเราะ)

พี่มิคพี่เอกทำเซอร์ไพรส์พี่ชายจนร้องไห้?
มิค : พี่เอกกลับมา รอบพิษสวาท เดอะมิวสิคัลหมด แต่โชคดีเขาต่อรอบ พี่ชายก็ถามในกลุ่มว่าอยากมาดูวันไหน พี่เอกบอกไปดูได้เปล่า ก็บอกพี่เอกว่าอยากเซอร์ไพรส์พี่ชายหรือเปล่า เดี๋ยวจัดการให้ อย่าตอบพี่ชาย
ชาย : ถามหลายรอบมาก (หัวเราะ)
มิค : จนวันนึงกี้ไปเจอพี่เอก ทั้งที่เตี๊ยมทุกอย่างเสร็จแล้ว กี้เดินมาหา พี่เอกคะ ตกลงพี่เอกอยากดูวันไหนคะ อยากดูหรือเปล่าคะ แล้วพี่เอกก็เหมือนนึกขึ้นได้ ก็บอกว่าต้องดูคิวอีกทีว่าอยู่บ้านวันไหน เหมือนยั้งทัน เพราะระหว่างนั้น เบื้องหลังถ้ากี้เป็นคนจอง พี่ชายจะรู้ว่าไปวันไหน มิคแอบไปคุยกับทีมงานซื้อตั๋วไว้เสร็จหมดแล้วโดยไม่ให้พี่ชายรู้ว่าจะไปดูวันนี้ กี้ก็ไม่ให้รู้ ดังนั้นวันนั้นเลยแอบไปกัน บ้านภรรยาพี่เอก มิค และพี่เอกไป พอไปถึงพี่เอกถามว่าชายเขาเห็นเราใช่มั้ย มิคก็บอกว่าไม่เห็น เขาจะไม่รู้ว่าเรานั่งอยู่ตรงไหน เขาจะรู้ตอนเราแหกปากตอนจบ นั่งดูไปเรื่อยๆ จนจะจบ พอจบเสร็จเราถึงแหกปากให้พี่ชายเห็นว่าเรามา
ชาย : ชายไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะปกติทุกรอบ ทีมงานจะถามว่าพี่ชาย วันนี้มีแขกมั้ย ถ้ามีแขกจะได้รอเพื่อถ่ายรูป
มิค : ที่น่าสงสารกว่านั้น มิคโทรไปถามพี่แอ้ ว่าพี่ชายรู้มั้ย พี่แอ้บอกว่าไม่รู้น้องมิค เมื่อกี้ถามน้องชายว่าวันนี้มีแขกมั้ย น้องชายยังบอกว่าไม่มีเลย ก็บอกว่าดีพี่ บอกไปเลยว่าไม่มี เดี๋ยวผมจะทำทุกวิถีทางให้พี่ชายรู้เองว่าผมอยู่ในนั้น
ชาย : แล้วทุกรอบ ทุกคนจะออกมายืนเรียงกัน ตบมือโค้ง แล้วจะมีเสียงเฮ้ๆ เราก็คิดว่าใครเนี่ย ไร้มารยาทมาก (หัวเราะ) เขามาดูละครเวทีต้องมีมารยาท ต้องเกรงใจคนอื่นเขาบ้าง หันไปดูอ้าว!
มิค : ก็วี้ดๆ ให้คนทั้งฮอลล์หันมาดูพี่
ชาย : พอเห็นเขานั่งอยู่ก็ตกใจ ไม่คิดเลยว่าใครมา ตกใจตรงที่ พอมองไปพี่เอกมาด้วย พยายามถามอยู่หลายรอบมากว่าจะมาดูมั้ย จะจองตั๋วให้ สุดท้ายก็มาเซอร์ไพรส์
มิค : จะถามทีมงานตลอดว่าใครมาดูพี่เรามั้ย เราอยากให้มีคนไปเพื่อให้เขารู้สึกว่า เขาเล่นเสร็จแล้วมีคนมาหา

ตอนน้ำตาแตกคือตอนไหน?
มิค : เขาเห็นว่าเรามา ก็เชิญให้ขึ้นไปถ่ายรูปด้วยกันบนเวที พี่เอกไม่เคยหน้าใกล้พี่ชายขนาดนี้ ใน 30 ปี
ชาย : ดีใจมาก


ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ชาย - มิค
https://youtu.be/PIpppnxyYo0?si=T4pCE4Pgzj6EQlDC

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=PIpppnxyYo0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=PIpppnxyYo0</a>










5
แหม่ม วิชุดา เปิดใจครั้งแรกหลังโพสต์แซะ หน้าอย่างหลังอย่าง รับเรด้าจับสตอพัง ด้านกิ๊ก มยุริญ แพลนบวช 1 ปีที่พม่า


นางร้ายมากความสามารถ อย่าง แหม่ม วิชุดา ที่วันนี้จะมาเคลียร์ดราม่าครั้งแรก หลังโพสต์ข้อความหน้าอย่าง หลังอย่าง พร้อมชวน กิ๊ก มยุริญ มาเปิดความสนิทขั้นสุด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

คุณไปลงอะไรในสตอรี่?
แหม่ม : เพื่อนเปิดมาเราก็ต้องต่อเพื่อนนิดนึง

คุณนุ๊ก สุทธิดา?
แหม่ม : ใช่ค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าเขาเปิดว่าอะไร หน้าอย่าง หลังอย่าง

อีโมจิเป็นรูปเท้าด้วยนะ?
แหม่ม : อยากมอบให้

หน้าอย่าง หลังอย่าง พี่เจอมาเยอะ แล้วน้องเจอบ้างไหม คืออะไร?
แหม่ม : ก็คนหน้าอย่างหลังอย่างไง แต่สกิวของคนหน้าอย่างหลังอย่างที่พี่เจอ มันไม่ใช่แค่สมมติว่าไม่ใช่แค่เจอแล้วเอาเราไปนินทา แล้วต่อหน้าเรามาทำดี สกิวของเขาคือกุเรื่อง สร้างเรื่องให้เราเป็นคนชั่ว ถ้าสมมติเล่าให้เป็กกี้ฟังก็จะบอกไม่เห็นแรงเลย ก็จะเพิ่มปริมาณความแรงจนเป็กกี้เกลียดพี่ได้ แล้ววีรกรรมมันมีหลาย EP.มาก ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานของคนคนนี้เขาเป็นคนชอบทำให้คนตีกัน โดยที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันเลย ไปคุยกับคนที่หัวอ่อนๆ หน่อย อย่างแบบ หนิงไม่เคยมีเรื่องอะไรกับพี่นะ แต่เคยเจอกันทั่วไป สามารถพูดจนหนิงเกลียดพี่ได้

เพื่ออะไรอะ?
แหม่ม : ไม่รู้ แล้วพี่ก็ไม่รู้เรื่องเลย พี่รู้จักมาเกือบ 10 ปี ไม่รู้เลยว่าตัวเองโดนแบบนั้น คือเรด้าจับสตอมันพัง

แล้วไปเกี่ยวอะไรกับพี่นุ๊ก?
แหม่ม : พี่นุ๊กก็โดน แต่พี่นุ๊กเขาจะเป็นลักษณะอีกแบบ เดี๋ยวให้พี่นุ๊กมาเล่าเองนะ

ของพี่แหม่มเจอยังไงบ้าง?
แหม่ม : ยกตัวอย่างเอาเรื่องที่แรงๆ หน่อยก็ไปกุข่าวว่าพี่เป็นชู้กับเพื่อนสนิทแฟนพี่อย่างนี้ แล้วพี่ก็ทักไปถามว่าพูดอย่างนี้จริงเหรอ เขาบอกว่าเขาไม่ได้ใช้คำว่าเป็นชู้ แต่ว่ามันเป็นการกัดแซวเล่น แต่รายละเอียดขอไม่ลงดีเทลนะคะ เห้ย...ต้องลงดีเทล

คนในวงการบันเทิงไหม?
แหม่ม : ไม่ใช่คนในวงการบันเทิง แต่ชอบใช้ชีวิตอยู่กับคนในวงการบันเทิง ไม่ใช่ผู้จัดการดารา ไม่ใช่คนประสานงาน ไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงเลย

กว่าพี่แหม่มจะรู้ตัว คบเขามากี่ปีแล้ว?
แหม่ม : เกือบ 10 ปี พี่มีความเหม่งๆ นิดนึง สมมติเขาเจอหนิง เขาจะเข้าไปหาหนิง สวัสดีน่ารักแล้วชอบไปคอมเมนต์ในไอจีหนิง sis เลิฟจังเลย แต่คือด่าหนิงให้พี่ฟังยับอย่างนี้ แล้วพี่ก็เอ๊ะ...ทำไมตอนเจอหนิงแล้วเขาดีกับหนิงวะ แล้วเขาเกลียดหนิงได้ขนาดนั้น พี่ก็เริ่ม...กูจะโดนไหมเนี่ย อันนี้แรง มันหลายเรื่อง เรื่องมันเยอะจริงๆ
กิ๊ก : ใช่คนเดิม คนนั้นไหม
แหม่ม : พยัคหน้า

พี่กิ๊กรู้ด้วย?
กิ๊ก : รู้ค่ะ
แหม่ม : เวลามีทีก็ไปคุยกับพี่กิ๊กทำให้เราเย็นลง บางทีเรื่องมันแรง มันไม่ไหว แล้วเขาอะ สมมติพูดให้หนิงเกลียดพี่แล้ว แล้วคิดว่าพี่กับหนิงไม่มีทางคุยกันแน่ แล้ววันนึงทุกคนมาคุยกัน แล้วความแตกรู้ทุกอย่าง แล้วทุกคนที่เขาเอามาด่าเละๆ เนี่ย คือตอนนั้นคนฟังก็หูเบา คนเล่าก็ปากหมา เราก็หูเบาก็ฟัง แล้วเชื่อแบบไม่โอเคกับเป็กกี้เหมือนกันนะ แต่แปลกเวลาเจอเป็กกี้พี่ก็ประมาณนึง ไอนี่เข้าไปกอดเป็กกี้ เอ้า...เดี๋ยวสิให้กูเกลียดอยู่คนเดียวได้ยังไง มึงด่าเขาเละขนาดนี้ กูเกลียดเพราะมึงนะ นึกออกป่ะ แบบนี้เยอะมาก ก็เลยเอะใจ

ได้บอกเขาตรงๆ ไหม?
แหม่ม : บอก เขาก็แกล้งบล็อกไลน์ แต่มันเช็กได้ไงว่าบล็อกหรือไม่บล็อกหรืออีกอันที่แบบชั่วมากคือ สมมติเขาชวนพี่ทำธุรกิจ อยู่ดีๆ ไลน์ออฟฟิเชียลพี่หายไปเลย หาไม่เจอ ลูกค้าสั่งของไม่ได้ พี่ก็ไปเช็กจนรู้มาว่ามีหนึ่งในแอดมินลบไลน์ออฟฟิเชียล ลบบัญชีไปเลย เห้ย..มันพังนะ มันเรื่องธุรกิจ พี่ก็ลงเฟซบุ๊กว่าพี่เช็กได้เรื่องนี้มีผลตามกฎหมายว่าใครเป็นคนทำ ถึงค่อยส่งข้อความมาขอโทษ บอกไม่ได้ตั้งใจทำ แต่พี่มารู้ทีหลังไปพูดกับคนอื่นว่าตั้งใจแกล้ง คือเวลาที่เขาจะติดตัวใคร หรือเขาจะทำให้ใครเชื่อ เขาจะติดตัวจนเราไม่มีโอกาสได้คิดเลย พี่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน คนอื่นเตือนพี่ พี่ไม่ฟังเลย แล้วพี่ไม่เชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบแย่ได้ขนาดนี้ แล้วทุกวันนี้คนที่เขาคบอยู่ก็โดนด่าเละทุกคน แต่เราจะไปเตือนเขา เขาไม่ฟังนะ เพราะเขาแก้ตัวเก่ง

กรณีแบบนี้จัดการยังไงดี?
กิ๊ก : พี่ว่าเราต้องใช้ทางธรรมนำก่อน อย่างน้อยแหม่มเขาจะเห็นระบบกรรมทำงาน สุดท้ายเขาว่าคนอื่น เขามีความสุขกับการเห็นคนอื่นแตกแยก สุดท้ายเขามีความสุขไหม ตัวเขาแน่ๆ ไม่มีความสุข เพราะคนที่อยู่รอบข้าง พอมารู้ก็ไม่มีใครคบเขาจริงไหม ระบบกรรมมันใช้เวลา มันไม่ใช่ทำปุ๊บแล้วมันเห็นทันที แต่เมื่อเขาเปิดช่องให้อกุศลส่งผล คือทำไม่ดีมากๆ ไปยุแยง การทำบาปด้วยวาจามันหนักนะคะ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ  การที่ทำให้คนแตกแยก เพ้อเจ้อ พูดโกหกต่างๆ มันเป็นกรรมทางวาจาที่เป็นกรรมหนัก เพราะมันทำให้คนขาดความรัก ความสามัคคีกัน สิ่งนี้มันจะมีผลกระทบค่อนข้างเร็วแล้วก็รุนแรง แต่มันใช้เวลา
แหม่ม : ชีวิตมันค่อยๆ พังไปเรื่อยๆ จริงนะ เวลาคุยกับพี่กิ๊ก พี่กิ๊กจะไม่พูดว่าแหม่มปล่อยเขาไปเถอะ ปล่อยวาง พี่กิ๊กจะไม่อะไรแบบนี้ พี่กิ๊กจะใช้คำนี้พูด พอฟังแล้วมันปลดล็อก แล้วเรารู้สึกว่าโอเคยังไงวันนึงมันก็ต้องมีแล้วมันเป็นอย่างที่พี่กิ๊กพูดจริงๆ

พี่แหม่มคิดว่า ณ ตอนนี้เขารู่ตัวหรือยังว่าหน้ากากเขากำลังจะถูกฉีกออก?
แหม่ม : ถ้าสมมติว่าถูกฉีกจากกลุ่มนี้เขาก็จะเปลี่ยนกลุ่ม ไปเป็นแบบนี้กับคนอื่นต่อ
กิ๊ก : ถ้าใช่คนนี้พี่ไม่รู้จักเขา แต่พี่ฟังจากที่แหม่มพูด พี่บอกเลยว่าคนคนนี้ปัจจุบันเขาก็ไม่ได้มีความสุข ชีวิตครอบครัวเขาก็ไม่สมบูรณ์









ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขา?
กิ๊ก : พี่มั่นใจว่าคนเราจะอยู่ร่วมกันได้ มันจะต้องมีความรัก มีความจริงใจ มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกัน หากเราทำสิ่งเหล่านี้ผลที่เราได้รับการตอบสนองก็จะมีแต่คนรักเมตตา ปรารถนาดีกับเรา สิ่งที่น้องทำอยู่ หากน้องรู้ว่าเป็นตัวเอง พี่ก็ไม่อยากให้น้องทำต่อไป เพราะพี่บอกเลยว่ากฎแห่งการกระทำ ยุติธรรม เสมอ หนูทำอะไร หนูต้องได้รับผลแบบนั้น แต่หากรู้ว่าไม่ดี เราลด ละ เลิก ตั้งเจตนาที่จะปรับปรุงตัวเองอันนี้เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญและน่ายกย่องมากๆ
แหม่ม : พี่ไม่รู้จะบอกอะไร คือเขาเป็นเกลือเกินแกงมากแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดกับเขา ตอนนี้พี่ปล่อยมากแล้ว ก่อนหน้านี้อยากจะไปหาถึงบ้าน
กิ๊ก : พี่จะบอกแหม่มว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่ถ้าเราให้อโหสิเขาอย่างแท้จริง เราก็จะปล่อยวางจากเขาไปเลย เขาก็จะเป็นคนไม่ดีของเขาต่อไป แต่เราหลุดจากเขามาแล้ว เพราะฉะนั้น โกรธ เกลียดใคร ต้องยิ่งเมตตาเขา ให้อภัยเขา ไม่โกรธเขา ไม่เกลียดเขาคือการให้อภัยตัวเอง ทำให้ตัวเองหลุดจากเขามา เราจะได้ไม่ต้องมาเกิดแล้ววนมาเจอเขาอีก ยิ่งไม่ชอบใคร ยิ่งต้องให้อภัยให้ได้จริงๆ จากใจของเรา

เจอกันครั้งแรก พี่แหม่มคิดว่าพี่กิ๊กไม่ชอบเหรอ?
แหม่ม : เอาจริงๆ พี่ก็ฟังผ่านๆ แต่พี่ธงชอบมาแบบ แหม่ม แหม่มว่าไหม แต่เขาพูดน่ารักนะ แหม่ม แหม่มว่าไหม พี่ว่ากิ๊กเขาไม่ค่อยชอบแหม่ม พี่ว่าแปลกๆ เขาไม่ค่อยคุยกับแหม่มเลยอะ หรือว่าแหม่มยังไงอะ แต่ว่าพูดเป็นตลก ฟังแล้วขำ อะไรอะพี่ธงจริงเหรอ เราก็คิดว่าเขาไม่ชอบเราจริงๆ เพราะเราพูดมาก แล้วทำอะไรคนละขั้วกับเขามากๆ ตอนนั้นพี่กิ๊กคงไม่ได้ไม่ชอบหนูหรอก
กิ๊ก : ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่แหม่มเขามีความเป็นตัวของตัวเอง เขาเป็นคนมีออร่าอะไรบางอย่าง ซึ่งน่าเกรงใจ ไม่ใช่ไม่ดี ดูเป็นคนมั่นใจในตัวเอง พี่ก็เหมือนไม่สนิท พยายามเล็งก่อนว่าเขาชอบอะไร  แหม่มดูยังไม่ได้ชอบธรรมะตอนนั้น ชอบเลี้ยงสัตว์ พี่ก็ไม่ใช่สายเลี้ยงสัตว์ ไม่รู้จะคุยอะไร อยู่ในกองก็คุยกันปกติ แต่ไม่ได้สนิทนะ แล้วเพิ่งรู้มาไม่นานมานี้ว่ามีตัวเสี้ยมก็คือ พี่ธง
แหม่ม : แกไม่คิดอะไร หาเรื่องเฮฮา หาเรื่องขำ คงคิดมั้งถ้าฟังคำนี้มา พี่เป็นคนชอบเคลียร์ เราอาจจะเดินไปคุยกับพี่กิ๊กเอง แต่ตอนนั้นคืองง ไม่เชื่อพี่ธงก็เลยไม่ได้คุย

อยู่ด้วยกัน 19 ปีพี่กิ๊กได้ชวนพี่แหม่มไปปฏิบัติธรรมบ้างไหม?
กิ๊ก : ชวน ทริปนั้นพี่เช่ารถตู้เลยนะ หลายคันมาก คันนึงไปรับ ชาคริต แย้มนาม อีกคันไปรับแหม่ม วิชุดา แล้วคุณพ่อ คุณแม่ไปอยู่ที่หัวหินไปหมดเลยทั้งแก๊ง สุดท้ายเกิดอะไรขึ้น มันเป็นคอร์ส 7 วัน แหม่มอยู่กับพี่คืนนึง เสร็จแล้วบอกว่าพี่กิ๊กๆ แม่แหม่มอยู่ไม่ได้ พ่อก็ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวต้องกลับบ้าน พี่ก็พยายามต่อรอง ถ้าคุณแม่ไม่ไหวงั้นคุณแม่กลับคนเดียวไหม เดี๋ยวพี่เอารถตู้มารับให้คุณพ่อกับแหม่มอยู่ ไม่ได้ๆ ต้องมีคนดูแลแม่ แหม่มก็ต้องกลับ
แหม่ม : คือไปเสี้ยมแม่ แม่ แม่ปวดหลังใช่ไหม ปล่อยไว้แบบนี้มันไม่ดีนะแม่ เดี๋ยวเข้าโรงพยาบาล แม่มึนหัวไหม แม่ไม่โอเค ดูแม่ป่วยๆ แม่กลับบ้านเถอะ แม่ก็บอกว่ากลับก็ได้

ทำไมบิ๊วแม่อย่างนั้น?
แหม่ม : เป็นคนนั่งสมาธิแล้วหลับหัวโขก แล้วแหม่มรู้สึกมันไม่ใช่ทางจริงๆ  อีกสักพักเราคงจะทำได้ แต่ตอนนี้มันคงยังไม่ถึงเวลา แล้วคิดในใจทำไมเข้าไปพี่กิ๊กไม่คุยกับเราเลย เขาไม่มองหน้าเราเลย มองพื้นอย่างเดียว เหมือนไม่พอใจอะไรเราสักอย่าง แต่จริงๆ เขาทำสมาธิอยู่ เราก็คิดหลายอย่าง

อีกอย่างที่ไม่กล้าคุยกับพี่แหม่ม เพราะพี่กิ๊กรู้สึกว่าพี่แหม่มโดนของ?
กิ๊ก : มีช่วงนึงเขาเป็นจริงๆ เขาดูแบบเก็บตัว ดูหงุดหงิด เขามากองเขาไม่คุยกับใครเลย เขาดูขรึม ดูไม่มีความสุข มาๆ เสร็จแล้วก็กลับ ดูแปลกไม่ใช่แหม่ม ซึ่งพี่ไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นแหม่มมีแฟนด้วย เราก็เลยคิดว่าเขาทะเลาะกับแฟนหรือเปล่า ก็ไม่กล้าไปถาม แต่ว่าหลังจากนั้นสักพักใหญ่ๆ จนกระทั่งแหม่มกลับมาเป็นปกติ เขามากระซิบกับพี่ว่า แหม่มโดนของ

จริงเหรอพี่แหม่ม?
แหม่ม : ก็โดนของจริงๆ มีคนทำของใส่ เราไม่อยากลงดีเทลเยอะเดี๋ยวมันไม่ดี เดี๋ยวไปกระทบกับคนอื่น

ผู้ชายเหรอ?
แหม่ม : ใช่ค่ะ เขาอยากให้เรารักเขาไง

ถ้าโดนของอย่างนี้ เราถอนยังไง?
แหม่ม : เรารู้ตัวว่าเราผิดปกติ สมัยก่อนมันจะมีสำนักใหญ่ๆ เป็นที่แก้ของโดยเฉพาะเลย เราก็ไปทำที่นั้น ไปสวดทุกวัน บางคนหายเร็ว บางคนเป็นปี แต่พี่ไปสัก 2 อาทิตย์แล้ววันพระพอดีพี่หลุด หาย

หลังจากถอนของออก เขาก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ทั้งๆ ที่ทำงานกันมา 19 ปี แต่เพิ่งสนิทกันตอนไปทริปเกาหลี ไปมาปีไหน?
แหม่ม : ปีนี้แหละ เพิ่งไปมา คือคนอื่นเขารวมตัวกันหลายทริปแล้ว แต่พี่กิ๊กถ้าเป็นอะไรที่ต่างประเทศนี่ยากมาก เพราะพี่กิ๊กไม่ว่างเลย หรือถ้าปาร์ตี้มีอบายมุขเขาจะไม่ไปเลย แต่ว่ารอบนี้พี่กิ๊กยอมไปกับเรา ไปถึงคือมันสนุก เรารู้เลยพวกเรารักกันมาก มันสนุก แล้วพี่กิ๊กเป็นคนตลก เขาเป็นคนอยู่ด้วยง่าย ต่อให้เขาธรรมะแค่ไหน เขาก็ไม่ยัดเยียด แต่เขาจะมีความสอดแทรกไปให้เรา เราเลยไม่ได้รู้สึกว่าอยู่กับคนเคร่งจนเหนื่อย แต่พอตกดึกหน่อยเขาก็เข้าห้องสวดมนต์

จะจัดทริปให้พี่กิ๊ก พี่กิ๊กจะไปไหน?
กิ๊ก : จะลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ

อย่าบอกว่าพี่กิ๊กจะลาไปบวช?
กิ๊ก : ใช่ๆ จะไปศึกษาที่พม่าสักนิดนึง

รอบนี้กี่วัน?
กิ๊ก : แพลนไว้อยากไปสักปี แต่พี่ต้องบอกก่อนว่ารอบนี้ตั้งใจไว้นะ แต่ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะว่าต้องให้ทางพม่าอนุมัติ ให้เขาเป็นคนทำเรื่องให้พี่ แต่ตั้งใจว่าเต็มที่ 1 ปี


ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ แหม่ม วิชุดา
https://youtu.be/dGPahHfy5S8?si=5FkYDBFXoqV__CZc

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=dGPahHfy5S8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=dGPahHfy5S8</a>








6
เบลล์ นันทิตา เปิดใจครั้งแรก เผยสาเหตุประกาศเลิกสามี ล่าสุดฝ่ายชายบินมาง้อถึงเมืองไทย


เบลล์ นันทิตา ที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรกหลังประกาศยุติความสัมพันธ์กับสามีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น แต่ล่าสุดคุณสามีบินตรงจากอเมริกามาง้อขอคืนดีถึงประเทศไทย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ชมพู่ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เมื่อไม่นานมานี้เบลล์ขอเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์กับสามีลงมา?
เบลล์ : เป็นเพื่อน ใช่ค่ะ

แล้วมีภาพสามีมาตามง้อถึงเมืองไทย?
เบลล์ : คือมันเป็นปัญหาที่สะสมมานานมาก  เบลล์แต่งงานมาทั้งหมด 5 ปี 2 ปีแรกมีความสุขมาก แต่พอหลังจากพิษเศรษฐกิจของโควิด แฟนของเบลล์เป็นนักธุรกิจ เขาค่อนข้างจะจริงจังมาก เสร็จปุ๊บเขาก็เครียด กลัวเสียธุรกิจของตัวเองไป ทีนี้เบลล์ก็อยู่ข้างๆ คอยช่วยตลอด แต่ด้วยความที่เขาเครียดมากจนเกินไป เขาเลยไม่มีตรงกลาง เครียดไปทุกอย่าง แล้วก็เวลากลับมาบ้าน คุยกันเขาไม่รับฟังอะไรเบลล์เลย เสียงของเราไม่มีความหมายอีกต่อไป พอเราจะบอกเธอๆ อย่างนี้สิ เขาบอกไม่ ด้วยความที่เขาเป็นอเมริกัน เขาจะต้องเอาเวของเขาอย่างเดียว ในเมื่อไม่รับฟังเราเลย เราก็ไม่รู้ไปอยู่ตรงไหน เพราะที่นู้นเสาอยู่ตัวคนเดียว  และเรามีเขาคนเดียวที่เป็นที่พึ่ง ทีนี้เบลล์ก็เลยสะสมมาเรื่อยๆ

ก่อนหน้านั้นหวานคือหวานขนาดไหน?
เบลล์ : คือให้เกียรติดูแล เทคแคร์ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามเบลล์บอก เขาก็จะต้องร่วมมือทุกเรื่องความสัมพันธ์ของความรักเราเข้าใจได้ว่าจะต้องทำอะไรร่วมกัน มีการตัดสินใจร่วมกัน ถูกไหม แต่คราวนี่มันกลายเป็นว่าทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของเขาคนเดียว เหมือนเบลล์ไปอยู่ตรงนั้นแบบไม่มีตัวตนเลย

ณ จุดไหนที่เราคิดว่าไม่เอาแล้ว?
เบลล์ : จุดที่เขาใช้คำพูดด่าเราหยาบคายที่สุดเลย จนถึงขั้นที่ลืมไปเลยว่าฉันก็เป็นคนคนหนี่ง ฉัยเป็นภรรยา ฉันแต่งงานมากับเธอเนี่ยกว่าฉันจะมีวันนี้ได้ มันไม่ได้ง่าย

พอจะบอกความหมายของคำด่าคืออะไร?
เบลล์ : เธอเป็นคนไม่ดี ฉันอยู่กับคนที่ไม่ได้ศึกษาสูง แล้วเวลาฉันคุยกับเธอฉันคิดว่าฉันคุยกับเธอไม่รู้เรื่องหรอก เพราะเธอ...เขาใช้คำที่หยาบมาก จนถึงขั้นสูงสุดที่เบลล์รับไม่ได้ เพราะเบลล์เป็นคนรักครอบครัวมาก โดยเฉพาะคุณแม่ เขาพานไปจนถึงคุณแม่ บอกแม่เธอเป็นคนไม่ดี อย่างนู้น อย่างนี้ แล้วเบลล์เลยบอกว่า เห้ย...อันนี้มันมากไปแล้ว

ตอนที่เขาด่าเรามีการโต้ตอบ ทะเลาะกันหนักไหม หรือว่าเราเงียบ?
เบลล์ : เบลล์เป็นสายเงียบมาตลอด ไม่เคยสู้กลับเลย เพราะว่าภาษาอังกฤษเราไม่ได้เก่งมาก แล้วบางทีเราจะพูดกลับไปก็ไม่ทัน เพราะบางทีเขาก็ไม่ฟ้ง พอมันข้ามมาถึงแม่ มันถึงจุดที่เบลล์ว่าโอเคถ้ามาถึงครอบครัวไม่เอาแล้ว

แพ็คกระเป๋าเลย?
เบลล์ : ใช่ แต่ก่อนหน้าน้้นเรามีการคุยกันก่อนที่จะแยกด้วย คือบอกว่าฉันคุยกับเธอไม่ได้แล้ว เราสองคนมาถึงจุดที่ว่าฉันอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว งั้นเราแยกกันสักพักไหม เดี๋ยวฉันจะกลับไปเมืองไทย

ตอนนั้นเขาฟังไหมหรือเขาง้อ?
เบลล์ : อยากจะกลับก็กลับไปสิ อยากทำอะไรก็ทำไปเลยนะ แล้วไม่ต้องกลับมา

ช่วงนั้นร้องไห้บ่อยไหม?
เบลล์ : มากค่ะ ตลอดเวลา 3 ปีร้องไห้สะสมมาตลอด เหมือนมีความพารานอยด์ด้วย เวลาเขากลับมาก็จะสะดุ้ง มันเป็นเหมือนหมวดสวิง

เราเขียนโพสต์ที่ไหน ที่เมืองไทยหรือที่นู้น?
เบลล์ : ที่นู้น เพราะเบลล์แยกกับเขาแล้ว ห่างกันได้ 2 วัน เบลล์ไปอยู่กับเพื่อน เบลล์ก็เลยตัดสินใจ บวกกับไม่รู้ว่าคิดน้อยไปหรือเปล่า  แต่ว่าอารมณ์ของเราตอนนั้น อยู่คนเดียว มันสุดแล้ว เบลล์เลยตัดสินใจโพสต์เลย

ตอนนั้นโพสต์อยากให้เขาเห็นไหม โดยความสะใจนิดนึง?
เบลล์ : ก็มีนิดนึง อยากให้เขารู้ว่าฉันเอาจริงละนะ เพราะเบลล์เป็นคนที่ไม่ได้เริ่มก่อนเลย ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้าไม่สุดจริงจะไม่โพสต์ แต่อันนี้มันเหมือนสุดจริงๆ แล้ว เบลล์ก็เลยโพสต์เลย

ช่วงที่มีปัญหาก็กินเวลาถึง 3 ปี?
เบลล์ : ใช่

ทำไมถึงเก็บไว้ถึง 3 ปี?
เบลล์ : ด้วยความที่เบลล์อดทนรอเพื่อให้ตัวเองได้รับกรีนการ์ด 10 ปี  อันนี้เป็นอีกหนึ่งเหตุผล ในเมื่อเราเสียสละตัวเองมาอยู่อเมริกา คือแต่งงานเข้าไป เราจะต้องไปเราจะต้องได้รับกรีนการ์ด 2 ปีก่อน พอหลังจากนั้นเขาจะเปลี่ยนสถานะของเราให้เป็น 10 ปี เพื่อที่จะรอไปสอบซิติเซ่น เบลล์ก็เลยรอ เพราะถ้าได้กรีนการ์ด 10 ปี ต่อให้เลิกกันไป เราก็ยังสามารถกลับเข้าอเมริกาได้ แล้วตอนนี้ก็ได้เรียบร้อยแล้ว

ไปอยู่นู้นเราปรึกษาใคร หรือต้องโทรกลับมาเมืองไทย?
เบลล์ : ส่วนใหญ่เบลล์จะคุยกับคุณแม่ จะโทรกลับมาเวลาที่คุณแม่ตื่น มีแม่ มีน้องสาว พี่ชายบ้าง คุยกันเฉพาะในครอบครัว

ที่เราโพสต์ไปอยากให้ครอบครัวเห็นด้วยไหม?
เบลล์ : ครอบครัวได้เห็นตอนนั้นพร้อมกันหมดเลย แม่บอกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม จะอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ ไม่ว่าลูกจะตัดสินใจยังไงขอให้เป็นการตัดสินใจที่ลูกคิดว่าลูกมีความสุขที่สุด แม่จะอยู่ข้างๆ ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงก็ช่าง

แม่บอกไหมว่ากลับมาเถอะ?
เบลล์ : ส่วใหญ่อม่จะบอกให้อดทนมากที่สุด แต่พอเขาเห็นเราไม่ไหวจริงๆ แกก็บอกว่ามา กลับมาบ้าน

ตอนที่ย้ายออกมา 2 วันไปอยู่บ้านเพื่อนเขาติดต่อมาไหม?
เบลล์ : เบลล์บล็อกเขาทุกช่องทาง ตัดขาดหมดไม่ต้องเห็นกันอีกเลย เป็นการห่างที่ห่างจริงๆ เพื่อที่จะรู้ใจตัวเอง และอยากให้เขามองเห็นสิ่งที่ผิดพลาดด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างความสัมพันธ์

ทำใจได้เหรอ?
เบลล์ : เบลล์ทำใจมานานแล้ว มันถึงจุดที่ว่าฉันพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตของฉันใหม่ ฉันจะกลับมาเมืองไทยแล้วฉันจะมาร้องเพลงอีกครั้ง คือบอกกับตัวเองอย่างนี้เลย

พอกลับมาเมืองไทย มาเจอหน้าครอบครัว วินาทีแรกรู้สึกยังไง?
เบลล์ : รู้สึกอบอุ่น ดีใจ น้ำตาซึม แต่เบลล์พยายามไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น คือมันผ่านจุดอ่อนแอมาแล้ว ฉันร้องมาถึงจุดที่ฉันพร้อมจะมูฟออนแล้ว

แต่ ณ วันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว?
เบลล์ : เปลี่ยนไปหมดเลย

กลับมาเมืองไทยนานไหม ถึงรู้ว่าเขาอยากจะมาง้อ?
เบลล์ : 2 วัน เบลล์อยู่เมืองไทยได้ 2 วัน เสร็จก็เบลล์นอนอยู่ในบ้าน ทุกคนก็นอนกันปกติเลย ประมาณ 3-4 ทุ่ม ได้ยินเสียงรถมาหน้าบ้าน แล้วมีสุนัก 3-4 ตัวอยู่หน้าบ้าน ถ้าใครแปลกหน้ามามันจะเห่า เราก็เอ๊ะ..ใคร พอเปิดประตูออกไปก็เห็นเขายืนอยู่หน้าบ้านเลย









เขามายังไง?
เบลล์ : นั่งเครื่องมาลง ต่อแอพอตลิ่งค์ไปลงที่อะไรไม่รู้เบลล์จำไม่ได้ รู้แค่ว่าเขาสามรถหาทางไปหมอชิตได้ แล้วนั่งจากหมอชิตมาลง บขส.โคราช

แสดงว่าเขามีข้อมูลของเรา?
เบลล์ : ตอนจีบกันครั้งแรก เขาเคยไปบ้านที่โคราชครั้งนึงก่อนแต่งงาน

พอเราเห็นว่าเป็นสามี คำแรกที่พูดคืออะไร?
เบลล์ : มาที่นี่ทำไม เกิดอะไรขึ้นทำไมถึง มา เขาก็มาถึงปุ๊บจะก้มมากราบเรา เบลล์ก็เลยไม่ๆ แล้วฝนก็ตก เหมือนในหนังเลย แล้วเราก็ดึงเขาเข้ามาบอกแม่สตีฟมาก็เลยพาเขาเข้าไปในบ้าน

ตอนนั้นเห็นดีใจหรือว่าตกใจมากกว่ากัน?
เบลล์ : มันยังมีความที่ฉันไม่อยากเจอเธออยู่ มันเหมือนเราพร้อมที่จะตัดเขาแล้ว

แล้วอะไรที่ทำให้เราไม่พูดคำว่าออหไปเลย?
เบลล์ : เพราะเห็นความพยายามของเขา

แล้วพอเข้ามาเป็นยังไง?
เบลล์ : เขาดูดีใจมาก แต่ความรู้สึกเราไม่พร้อที่จะเจอ

แล้วเขาพูดอะไรกับเรา?
เบลล์ : เขาบอกว่าฉันมาที่นี่ฉันอยากจะขอโทษสิ่งที่ฉันพูดไม่ดีกับแม่ของเธอ แล้วตัวของเธอด้วย แล่วเขาก็ทำการเขียนกระดาษเป็นภาษาไทย เขาคัดทีละคำ เหมือนเขาฝึกเรียนประโยคภาษาไทยคำว่าขอโทษให้เรากับคุณแม่ เขาเขียนประมาณว่าได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับ ที่ผมทำสิ่งไม่ดีกับเบลล์และคุณแม่ ผมหวังว่าคุณแม่จะยกโทษให้ผม และให้โอกาสผมเป็นลูกเขยของคุณอีกครั้ง

เห็นเขาปุ๊บใจอ่อนง่ายไหม หรือเล่นตัวสักนิดก่อน?
เบลล์ : ก็ต้องเล่นตัวนิดนึง แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะเจอ แต่เมื่อมาแล้วเราก็มาดูกันว่าเราจะไปต่อกันยังไง

ตอนเปิดประตู เห็นเขาแล้วเขาจะก้มลงกราบ ฝนตก ในใจติดไหมว่านี่มันชีวิตจริงหรือละคร?
เบลล์ : มีช็อก เห้ย...ทำไมมาถึงตรงนี้ได้เลย มาได้ยังไง ทุกอย่างเป็นเหมือนภาพเบลอเหมือนความฝันำไปเลยไม่คิดว่าเขาจะมาถึงตรงนี้ได้ด้วยตัวเอง

สมมติถ้าวันนั้นเขาไม่ได้มา ณ วันนี้เบลล์จะมาคุยแซ่บในฐานะอะไร?
เบลล์ : เป็นสาวโสดที่จะกลับมาร้องเพลงให้ได้ฟัง

คุณเบลล์คิดว่าคุณสตีฟเห็นสิ่งที่เราโพสต์ไหม?
เบลล์ : เห็นค่ะ เขาบอกพอหลังจากที่เขาเห็นโพสต์ปุ๊บ เขาตัดสินใจจองตั๋วเลย

ทำไมถึงให้อภัยเร็วจัง?
เบลล์ : สิ่งที่สูงสุดของเบลล์ในความรักคือครอบครัว และคุณแม่ เบลล์รู้สึกประทับใจในสิ่งที่เขาทำกับคุณแม่ของเบลล์ เขาได้ไปซื้อพวงมาลัย นั่งขอขมา ก้มลงไปกราบเท้าพ่อกับแม่ เพราะเราเป็นคนไทย เราสามารถเซ้นซิทีฟกับเรื่องนี้มากๆ  พอเห็นเขาทำสิ่งนั้น เห็นความพยายาม เบลล์เลยรู้สึกว่าคนเราสิ่งที่ประเสิร์ฐที่สุดของมนุษย์คือการให้โอกาส ทำไมเราถึงไม่ให้โอกาสกันสักครั้ง เพราะนี่ก็เป็นครั้งแรก แล้วเขาจองตั๋วมาเมืองไทยเขาไม่ได้คาดหวังว่าเราจะอภัยไหม เขาเลยไม่ได้จองมายาว มาแค่สั้นๆ เพื่อที่จะมาทำสิ่งนี้โดยเฉพาะ

ถ้าสมมติวันนั้นเขาไม่ได้มาเมืองไทย ณ วันนี้จะมีแฟนไหมหรือยัง?
เบลล์ : เบลล์คิดว่าต้องพักก่อนสักแป๊บนึง เพราะเหมือนเราอยากกลับมารักตัวเอง

ที่เราโพสต์ไปหรือที่มีการง้องอน ชาวเน็ตบอกว่าเรางี้เง้าเองหรือเปล่า ทำไมเราถีงไม่เข้าใจสามีว่าเขาทำงานหนัก เราอยากจะบอกอะไร?
เบลล์ : ทุกคู่จะมีปัญหาของแต่ละคู่อยู่แล้ว แต่ในจุดของเบลล์มันเป็นปัญหาที่มันสะสมมานาน ถ้าไม่สะสมเบลล์ก็จะไม่ทำ ถามว่างี้เง้าไหม เบลล์คิดว่าเบลล์อาจจะมีงี้เง้าบ้างในบางเรื่อง แต่เบลล์คิดว่าเบลล์ทำดีที่สุดแล้วจริงๆ ในมุมของเบลล์ ถ้าเราไม่ดีจริงเขาคงไม่กลับมาง้อหรอก

ณ วันนี้แฮปปี้แล้ว?
เบลล์ : ค่ะ

ยกระดับความสัมพันธ์เรากลับเท่าเดิมหรือยัง?
เบลล์ : เกือบเท่าเดิม เพราะเขากำลังรอให้เบลล์กลับไปที่อเมริกา แล้วเราจะทำเหมือนเป็นการต่อคำสาบาน

ไม่ว่าจะเป็นการเลิกกัน ง้อกัน คุณเบลล์ได้เข้าไปอ่านไหม โกรธไหมกับคนที่มาว่าเรา?
เบลล์ : ส่วนใหญ่เบลล์จะปล่อยวาง เพราะว่าบางเรื่องมันไม่จริง มีคนบอกว่าเป็นเพราะสามีจัดหนักเกินไปไหม แล้วเรารับไม่ได้อะไรอย่างนี้ เบลล์ดูแล้วเบลล์ก็ขำ

พอเขากลับไปเราติดต่อกันเหมือนเดิม?
เบลล์ : ใช่ค่ะ คือตั้งแต่แต่งงานกันมาไม่เคยเรียกกันว่าที่รัก แต่รอบนี้เขาเรียก ฮันนี่ ดาร์ลิ้ง แล้วเริ่มหันมาโฟกัสในเรื่องความสัมพันธ์มากขึ้น เขาพยายามเปลี่ยน

แสดงว่าการมีปัญหาครั้งนี้มันก็มีจุดดีเหมือนกัน?
เบลล์ : ใช่

ถ้าเขาดูอยู่อยากบอกอะไรเขา?
เบลล์ : เบลล์จะทำให้ดีที่สุด แล้วก็การกลับไปครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เบลล์ก็พยายามประคองความสัมพันธ์ของเราแล้วดูแลมันให้ดีที่สุด และอยากให้เขาเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย

แต่อนาคตมันเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราเตรียมพร้อมกับใจเรายังไง?
เบลล์ : เตรียมด้วย เบลล์ไม่รู้ผู้ชายพอเขาได้เรากลับไป เบลล์ก็คิดเหมือนกันนะว่าเขาอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกก็ได้ แต่เบลล์ก็เตรียมใจไว้แล้วว่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เราสองคนคงจะต้องจบกันแบบดีๆ ให้เข้าใจซึ่งกันและกัน

ถ้าสมมติเป็นแบบนั้นจริงๆ ทางของเบลล์เป็นชีวิตที่อเมริกาหรือที่เมืองไทย?
เบลล์ : คงจะเป็นที่เมืองไทย


ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ เบลล์ นันทิตา
https://youtu.be/-X0Fah8O1XM?si=MO0FUfC7A7-qc8BJ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=-X0Fah8O1XM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=-X0Fah8O1XM</a>






7
“แก้มบุ๋ม” ว่าที่สะใภ้หมื่นล้าน ควง “พ่อเจน-แม่ลี” เผยฤกษ์แต่งครั้งแรก ทำไมถึงหลงลูกเขย สาเหตุไม่เอาสินสอดสักบาท


“แก้มบุ๋ม ปรียาดา” นางร้ายหน้าสวยว่าที่สะใภ้หมื่นล้าน วันนี้ควง “คุณแม่ลี ศริญญา” และ “คุณพ่อเจน ไชยกร” มาเผยฤกษ์แต่งงานที่แรก เปิดสาเหตุพ่อแม่ประกาศชัดไม่เอาเงินสินสอดสักบาท พร้อมอัปเดตเรือนหอมูลค่ากว่า 100 ล้าน ที่ “พีท กันตพร” สร้างให้ว่าที่ภรรยา ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ว่าที่สะใภ้หมื่นล้าน?
แก้มบุ๋ม : ถูกมั้ยแม่ (แม่บอกไม่รู้) นิดนึง (หัวเราะ) ก็ต้องเป็นหนู แล้วจะเป็นใครล่ะ ถ้าไม่ใช่หนู

ได้ฤกษ์แล้ว?
แก้มบุ๋ม : 12 พ.ค. ปีหน้าค่ะ หมั้นและแต่ง 12 พ.ค.

ตอนแรกลังเลอยู่สองวัน?
แก้มบุ๋ม : หนูไม่อยากสองวันไง หนูเหนื่อย (หัวเราะ)

พ่อโอเคมั้ย?
พ่อเจน : ทีแรกก็คุยกันว่าวันที่ 12 ก็ดี 19 ก็ดี เลือกเอาวันใดวันหนึ่ง เช้าหมั้นแล้วก็แต่งเลย ให้ยุ่งวันเดียวจบเลย แต่ลูกสาวบอกเหนื่อย ถ้า 12 ปีหน้ากับ 19 ก็ต้องเอาวันที่ดีที่สุด

แม่เห็นด้วยมั้ย?
แม่ลี : แล้วแต่เขาสองคน เพราะเขาเป็นคนที่เหนื่อย การที่เขาเป็นคนที่เหนื่อย เขาก็ต้องคิดเอง ส่วนแม่ยังไงก็ได้
แก้มบุ๋ม : แม่เตรียมตัวเยอะกว่าเจ้าสาวอีกนะ
แม่ลี :   ใช่ ธรรมชาติอยู่แล้ว สวยกว่าเจ้าสาวมั้ย ไม่รู้เนอะ (หัวเราะ)

ธีมอะไร?
แก้มบุ๋ม : จริงๆ ในสมองหนูไม่เคยคิดไว้เลยค่ะ ว่าต้องแต่งงาน ธีมต้องใส่ชุดเจ้าสาว ต้องยังไง ไม่มีเลย แต่ถ้าให้คิดตอนนี้ ก็ขอเรียบๆ ดอกไม้ไม่เยอะพอ ชุดเจ้าสาวชุดเดียวนี่แหละพอแล้ว เช้าหมั้นกับกลางคืนชุดเดียวกัน ดอกไม้ให้น้อยที่สุดเพราะสงสารดอกไม้ (หัวเราะ) ใช้แค่แป๊บเดียวก็ทิ้ง เอาตังค์มาให้หนูดีกว่า ไม่ต้องจ่ายอย่างนั้นหรอก เครื่องดื่มก็ไม่เน้น ไม่มีใครดื่มสักคน

สถานที่แต่งงาน?
แก้มบุ๋ม : ไม่รู้ ให้พี่พีทคิด

ทำไมชุดแต่งงานต้องจากร้าน บี มาติกา?
แก้มบุ๋ม : เพราะว่าพี่บี มาติกา เป็นคนทำให้รู้จักกัน แล้วพี่บีทำชุดแต่งงาน ร้านชุดแต่งงานอยู่แล้ว ก็คิดว่าเหมาะ อย่างน้อยเป็นความรู้สึก เป็นคุณค่าทางใจ อันนี้เฉพาะชุดเจ้าสาว ส่วนชุดเจ้าบ่าวพี่พีทเขาเตรียมไว้อยู่แล้ว

ดูเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้?
แก้มบุ๋ม : ใช่ คนที่อะไรไม่ได้เป็นพี่พีทมากกว่า เขาเลือกหมด แม้แต่พระต้องดูว่าเป็นแบบไหน ดูฤกษ์ ชุดเขาก็เตรียมไว้หมดแล้ว หนูไม่ต้องคิดอะไรเลย เพราะจะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน เพราะเราไม่มีความต้องการอยากได้อะไรเป็นพิเศษ ถ้าเราอยากได้อะไรเราก็บอกเขา เขาพร้อมเติมให้เราอยู่แล้ว

แขกกี่คน?
แก้มบุ๋ม : น่าจะเป็นพัน ไม่รู้เท่าไหร่ค่ะ

แขกฝั่งเรา พ่อแม่ชวนมากี่คน?
พ่อเจน : กำลังลิสต์รายชื่ออยู่ ยังตอบไม่ได้
แม่ลี : เยอะมาก
แก้มบุ๋ม : แม่นี่น่าจะทั่วประเทศไทย เหนือจดใต้
แม่ลี : เบาๆ ก็ได้ลูก แต่เน้นจังหวัด สามคนต้องเบาๆ ซีน จะแย่งมากก็ไม่ดี ยังไม่โดนลูกห้ามเพราะยังไม่ถึงเวลา

งบไม่อั้น จริงมั้ย?
แก้มบุ๋ม : มั้งคะ
พ่อเจน : น่าจะจริง
แม่ลี : เอาใจทุกคนเนอะ
แก้มบุ๋ม : วันนี้ 18 จะคุยกันจริงๆ วันที่ 24 จะปรึกษากันอีกรอบ เพราะตั้งแต่ขอมายังไม่ได้เจอกันเลย ยังไม่มีบทสรุปที่แน่นอน

ตอนนี้ยังไม่พร้อมเหรอ ต้องผ่านคอร์สเจ้าสาวหรือเปล่า?
แก้มบุ๋ม : ไม่ค่ะ หนูแต่งตอนนี้เลยก็ได้ หน้าผมหนูพร้อมมาก จริงๆ อาจมีแค่น้ำหนักนิดหน่อยที่ค่อยลงไปนิดนึง แต่ถ้าถามหนูอาจไม่ได้เตรียมตัวอะไรเพิ่มเยอะ อาจไม่ได้อัปเลเวลหน้าเพิ่มเหมือนแม่
แม่ลี : โอ้ย ตอนนี้ก็ธรรมชาติแล้วลูก ไม่รู้จะอัดอะไรดี (หัวเราะ)

แม่เตรียมตัวงานแต่งลูกยังไงบ้าง?
แม่ลี : ไม่ต้องเข้าคอร์ส เพราะเราดูแลตัวเองอยู่แล้ว พร้อมไปทุกงาน เราดูแลตัวเอง งานไหนมาไม่ต้องใช้เวลา ทุกวินาที
แก้มบุ๋ม : เริ่ดตลอด

พ่อพร้อมมั้ย?
พ่อเจน : พร้อม เป็นพรุ่งนี้ขึ้นใส่สูทก็ได้เลย

ทำไมพ่อแม่ไม่เรียกสินสอดสักบาท?
พ่อเจน : ให้เขาดูแลลูกสาวต่อจากพ่อแม่ไปอย่างมีความสุข ให้สิ่งที่ดีกับเขา เราก็สบายใจแล้ว อายุเราก็เยอะแล้ว จะเอาเงินไปทำอะไร ให้เขาไปดีกว่า เท่าไหร่ก็ให้เขาหมด

แม่คิดเหมือนกันมั้ย?
แม่ลี : สำหรับแม่ เราเป็นคนชอบหาเงินและสอนลูกด้วย เราเก็บเงินไว้เพื่อเขาทั้งหมด แต่ถ้าวันหนึ่งเขามีคนที่ดูแลได้ดีมากกว่าเรา แล้วเงินที่มันเข้ามาหาเราก็คือของเรา เราก็จะไม่เก็บไว้ พร้อมทั้งของเราด้วย เพราะเราทำมาเพื่อคนที่เรารักก็คือลูก ก็บอกทุกคนนะคะว่าเราสร้างมาแล้ว เราจะไม่เป็นภาระให้เขา เราคือคนที่ต้องให้เขา
แก้มบุ๋ม : ได้ยินแบบนี้ก็ชินค่ะ นี่คือสิ่งที่โอเคแล้ว พอเป็นแบบนี้เรารู้สึกสบายใจ ใช้ชีวิตอะไรก็ได้ที่เราสบายใจ
แม่ลี : ถ้าลูกเหนื่อยแล้วเราไปเอาเงินเขาหมด เขาจะไม่มีแรงในการทำงาน เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตให้การทำงานและเป้าหมายให้มีความสุข ไม่ทำให้คนข้างๆ เดือดร้อน นี่เราไม่ได้เตี๊ยมกันนะ เราพูดแต่ละคำ มาจากตัวของเราและเป็นความจริง ไม่งั้นลูกจะไม่มีแรงทำแบบนี้ เขาทำงานได้ทั้งหมดเขาเก็บแล้วเอาไปใช้ในสิ่งที่เขาชอบ เหมือนเราเวลาเราดูแลใคร เราก็ไม่ชอบอันไหน เราอย่าทำอย่างนั้น เงินทุกคนเสียดายหมด แต่เราไม่เอาเงินใคร

เรือนหอ เห็นว่ามูลค่ามากกว่า 100 ล้าน จริงมั้ย?
แก้มบุ๋ม : หนูว่ามีสิทธิ์ไปถึง ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เราแต่ละคนอยากได้ ก็มีสิทธิ์ เรือนหออยู่พุทธมณฑลสาย 2 ที่ไร่ครึ่ง อยู่ในหมู่บ้านของพี่พีท แต่เป็นอีกที่นึง เราเป็นคนบ้าของเล่นกันมาก อย่างพวกโมเดลต่างๆ จะมีเยอะมาก โดยเฉพาะพี่พีทเองโมเดลใหญ่หรือตัวเท่าคนมีเยอะมาก เขาชอบมาร์เวล นี่ไม่รวมถึงการตกแต่ง นี่แค่โครงบ้านต่างๆ ต้องล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ยังไงให้ดูสวย ให้เหมือนอยู่ในแบบ เขาต้องมีห้องดูหนังของเขา ห้องเล่นเกม หนูก็ต้องมีห้องเก็บของเล่นหนู มีตึกไลฟ์สดสองชั้นอยู่ที่นั่นเลย ครบวงจร แพ็กของได้ในนั้น มีห้องเลี้ยงหมาหนู ห้องพี่เลี้ยงหนู หรือตอนนี้อยากได้โต๊ะสนุ๊กเข้าบ้านอีก ก็หาที่วางโต๊ะสนุ๊กเพิ่ม บ้านต้องมีลิฟต์ เดี๋ยวขนของขึ้นไม่ได้อีก ตอนแรกบอกว่าบ้านเราไม่เอาสระว่ายน้ำดีกว่าเนอะ เดี๋ยวไม่ได้ใช้ เพราะที่บ้านเขามีอยู่แล้ว หนูตอนแรกก็ไม่เอา แต่สักพักบอกว่าพี่พีท ชีวิตหนูไม่เคยมีบ้านมีสระว่ายน้ำเลยนะ ผู้ชายก็บอกว่าโอเค ได้ (หัวเราะ) ก็เล็กๆ ไม่ใหญ่
พ่อเจน : สาเหตุที่บ้านเสร็จไม่ทันเพราะแบบนี้แหละ แก้ไขไปเรื่อย
แก้มบุ๋ม : ห้องคุณพ่อคุณแม่ก็มีด้วยค่ะ แต่ไม่รู้เขาไปนอนหรือเปล่า









พ่อแม่ไปอยู่ด้วยเลยได้มั้ย?
แม่ลี : ไม่ได้หรอกค่ะ
แก้มบุ๋ม : เขาไม่ไปอยู่หรอก พ่อหวงบ้านมาก ส่วนแม่อยู่ไม่ติดบ้าน ฉะนั้นยาก
พ่อเจน : ผมไม่อยากออกไปไหนในรัศมี 3-4 กิโล (หัวเราะ)

แม่ไม่ติดบ้านยังไง?
แก้มบุ๋ม : แม่เขาไม่เคยอยู่บ้านอยู่แล้ว กลางคืนเขาไปหมด ทองหล่อ สุขุมวิท เอกมัย ไปร่อนตั้งแต่เหนือจรดใต้ บางช่วงไปพัทยาก็มี คืนนึงไม่ได้ไปแค่ที่เดียว ไปสองสามที่ และไปไม่เคยเสียเงินเลยสักอย่าง
แม่ลี : อย่าไปบอกเขา เดี๋ยวผับเขาจะว่าเอา

แม่ไปผับเหรอ?
แม่ลี : ไปทุกที่ค่ะ
แก้มบุ๋ม : แล้วไม่เช้าไม่กลับ
แม่ลี : เธอ กลางคืนตามันมองไม่เห็น กลับ 6 โมงรอพระบิณฑบาตเนี่ย (หัวเราะ) บางทีกลับเช้า 6 โมง แม่ไม่ง่วง บางทีก็นั่งเม้าธ์มอย เราเจอคนในที่เที่ยว เด็กตั้งแต่ 19 จนถึงรุ่นเรา เรารู้สึกได้ความรู้เยอะแยะ เราไม่มีภาระต้องเลี้ยงลูกแล้ว เราไม่เคยเที่ยวตั้งแต่เด็ก นั่นคือการเที่ยวที่ไปเช็กดู

แม่ไปเดี่ยวหรือไปหาเพื่อนเอา?
แม่ลี : หาเพื่อนก็ได้ วันไหนเหงาก็โทรทุกที่ ทุกที่ก็เตรียมพร้อมยืนรอเรา เพื่อนเราอายุ 27
แก้มบุ๋ม : เด็กกว่าหนูอีก
แม่ลี : เรียกว่าเธอ คุณเพื่อน มีความสุข แต่งตัวไซส์เท่ากัน แล้วจะไปเที่ยวกับคนอายุเท่ากันทำไมล่ะ เดี๋ยวเขาก็ร้องไห้อยากกลับบ้านแล้ว ข้อเข่าก็ปวดเนอะ นี่ไม่มีปวดเลย

แม่กลับ 6 โมงเช้า พ่อไม่ว่าเหรอ?
พ่อเจน : ไม่ว่าครับ เราเคยคุยกันไว้ว่าตอนสาวๆ เขาไม่ได้เที่ยว ตอนนี้เขาสาวเหลือน้อย (หัวเราะ) ผมแต่งงานตอนเขาอายุ 19 หรือ 20 แต่งงานเสร็จก็อยู่เป็นแม่ศรีเรือนที่บ้าน ช่วยทำมาหากิน จนตอนนี้ทุกคนโต ทำมาหากินได้หมดแล้ว เขาบอกว่าขอมีเพื่อนมีฝูงไปเที่ยวบ้างนะ ผมก็โอเค ตามสบาย อยู่บ้านก็เล่นโทรศัพท์ของผม เคยไปเที่ยวกัน ผมก็ต้องนั่งรอ ดึกๆ ดื่นๆ ก่อนไปบอกเที่ยงคืนกลับ ปรากฏว่าตีสามก็ยัง ผมก็มานอนรอในรถดีกว่า บางทีกลับตีห้า หกโมง ผมก็เลยไม่ไปดีกว่า มีอยู่ครั้งนึงเพื่อนเขาจะขายรีสอร์ตต่างจังหวัด ไปดูเสร็จ บอกว่าห้าทุ่มกลับ ทางมันไกล เขาคุยถึงตีสาม (หัวเราะ)
แก้มบุ๋ม : คุยอะไร
แม่ลี : ถ้าคุยไม่เก่งจะมีแม่ลีวันนี้เหรอ
พ่อเจน : ผมก็หลับใน เหลืออีกไม่ถึงกิโลถึงบ้านแล้ว เสียเงินตรงด่านทับช้างแล้ว หลับไปเฉยๆ รถก็ตะแคงเบียดแบริเออร์ เป็นรถซูเปอร์คาร์ ลงไปทั้งแถบ ผมก็ตกใจตื่น เขาก็ถามว่าทำไมหลับล่ะ โห ไม่น่าถาม (หัวเราะ) แต่คนไม่เป็นไรเลย รถตั้งแต่หัวยันท้ายชนแบริเออร์ เสียค่าซ่อมไป 7 แสน ถ้าหลุดจากแบริเออร์ไปเจอคอสะพาน นั่นแหละจะเละ
แม่ลี : ตอนหลังเลยไม่เอาไปไง
พ่อเจน : ผมไม่ไปดีกว่า ไปเลยคนเดียวจะกลับหรือไม่กลับก็ไปเลย แล้วเมื่อกี้เอารถทิ่มเข้าไปเป็นรถสปอร์ตเกยไปที่เขากั้น
แม่ลี : หูย เสยแค่นั้นดีแล้ว ไม่เสยด้านข้าง

ไปเที่ยวมากลับกี่โมง?
แม่ลี : เยอะเหมือนกัน แล้วตื่นหกโมง แต่ไปงานนึงมาเรียบร้อย คนแฮปปี้ มางานนี้ เย็นก็เที่ยว พรุ่งนี้เช้าก็มีงานอีกแล้ว วันอาทิตย์มีที่เที่ยวเยอะแยะ แถวทองหล่อ เป็นร้านประจำ ฝรั่งเรียกลิลลี่ คนไทยเรียกแม่ลี (หัวเราะ) อาชีพคือเที่ยว สโลแกนคือกลางคืนเที่ยว กลางวันทำงาน ชีวิตมีความสุข อยากหลับตอนไหนก็จอดตรงนั้นเลย ตรงปั๊มน้ำมัน อยากนอนตอนเที่ยงก็จอดตรงนั้นเลย เปิดกระจกนิดนึง จะไม่ตายในรถเด็ดขาด

ต้องมีช่วงนึงที่พ่อเคยโทรตามแม่?
พ่อเจน : เคย ถามว่ากลับหรือยัง เขาบอกกลับแล้ว ถึงไหน ถึงหน้าหมู่บ้านแล้ว รอเป็นชม. หน้าหมู่บ้านก็ยังไม่ถึง บางทีเขาใช้รถเปลือง ใช้คนเดียว 4 คันนะ แล้วแต่วันนี้ไปไหน แล้วแต่ละวันที่กลับมามีแผลมาทุกวัน
แก้มบุ๋ม : ไม่ใช่มีแผลอย่างเดียวค่ะ จอดในบ้านคนอื่นไม่ต้องจอดค่ะ
แม่ลี : เรามีใบขับขี่ตลอดชีพค่ะลูก
แก้มบุ๋ม : ซื้อค่ะ
แม่ลี : อุ้ย ซื้อที่ไหน (หัวเราะ)

สมัยก่อนพ่อโทรตามแม่ แต่ตอนนี้พ่อโทรตามลูก?
พ่อเจน : ผมอาจหัวโบราณนิดนึง ผู้ชายเวลาใกล้บวชเขาจะไม่ให้ลูกออกไปเที่ยวกลัวมีเหตุมีอะไร เหมือนกันลูกสาวใกล้แต่ง ก็ไม่อยากให้เขาออกไปไหน
แก้มบุ๋ม : แต่งตั้งปีหน้ากลางปีค่ะ ปกติหนูไม่ค่อยออกอยู่แล้ว แต่วันนั้นหนูมีออกทำงานได้เจอคนใหม่ๆ หนูขอไปนั่งในวัย 34 แล้วไม่ใช่ร้านเย้วๆ ด้วยนะเป็นร้านเงียบๆ คุยกัน พ่อโทรตามหนูตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่งว่าอยู่ไหน จะไปไหนต่อ ทำอะไร เหมือนหนูอายุ 18 หนูบอกว่าหนูไม่ได้ทำอะไร หนูแค่กินข้าวเฉยๆ เดี๋ยวก็กลับแล้ว แต่ไม่เชื่อ อีกครึ่งชม.โทรมาบอกว่าพ่อเครียดมากนอนไม่หลับเลย กลับมาได้แล้ว หนูก็ถ่ายรูปโต๊ะบอกว่ามันไม่มีอะไร หนูกลับตีสอง
พ่อเจน : งอนไปวันนึง
แก้มบุ๋ม : ขณะที่พี่พีทไม่ได้สนใจเลย เขาบอกว่าโอเค ถึงบ้านแล้วบอกแล้วกัน เขานอนแล้วนะ นอนตั้งแต่เที่ยงคืน

ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้แพลนจะแต่งงานพ่อตามมั้ย?
พ่อเจน : ตามตลอดอยู่แล้ว เริ่มถ่ายละคร เริ่มทำอะไรตามตลอด แต่ก่อนไปเฝ้า ไปนอนรอในรถตลอด
แก้มบุ๋ม : ทุกวันนี้หนูไม่ได้ทำอะไรเลย หนูตื่นเช้าลงมาไลฟ์สดอยู่ข้างล่างแพ็กของกลับขึ้นไปนอนใหม่ ชีวิตวนอยู่แค่นี้ แค่ไปห้างยังไม่ไปเลย

แม่ไม่ไปรอลูกสาวบ้างเหรอ?
แม่ลี :   ตั้งแต่ลูกสาวจำความได้ เหมือนไปเรียนแอ็กติ้งเองเหมือนไปเรียนโฆษณาเอง ก็ปั้นเขา บอกว่าตั้งแต่อนุบาล 1 ถึงปริญญาตรีขอดูแลเขา หลังจากนั้นเป็นชีวิตของหนู แม่จะไม่ดูแลหนูเลย เพราะเราต้องเริ่มให้เขารู้ว่าการมีอาชีพเป็นยังไง เดินแบบเป็นยังไง แอ็กติ้งเป็นยังไง พาเขาไปแคสโฆษณา 100 ครั้ง เขาไม่ได้เลย แต่ก็ยังไป แม่หมดโอกาสทุกอย่าง อันนั้นเรียกว่าเฝ้ามั้ย แล้วตัวเองไม่มีมงกุฎนางสาวไทย วันนึงลูกฉันต้องมีมงกุฎ เดินตามทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีวันนั้น เมื่อลูกมีทุกอย่างครบแล้ว มีชื่อเสียง มีการงาน มีมงกุฎ คุณก็ใช้ชีวิตคุณเลย ไม่มีคำว่าตาม เพราะเราสัญญา คำว่าสัญญาและสัจจะ แม่จะไม่ยุ่งกับหนู หนูคิดเอง เพราะเวลาที่หนูอยู่กับแม่ หนูเบื่อแย่แล้ว ตั้งแต่อายุ 10 กว่า จนวันนึงหนูเป็นแก้มบุ๋มในประเทศไทย ฉะนั้นวันนี้แม่ขอเป็นแม่ลีในประเทศไทย แล้วเราไม่เอาแล้ว ยูทำของยูไปเลย เป็นไง ถามไปนิดเดียว แม่ตอบไปเยอะแยะ (หัวเราะ)

กับลูกเขยเป็นยังไงบ้าง?
แม่ลี : มันหายากนะ ที่คนจะเป็นแพลตฟอร์มพร้อมเข้ามาอยู่ในบ้านเรา เรื่องความรัก เรื่องความมั่นคง เรื่องหลายๆ อย่าง ทุกอย่าง ก็เป็นความโชคดีของเขา ไม่เคยหวงลูก ไม่ว่าลูกรักใคร เพราะความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เราอย่าเข้าไปจุ้นจ้าน รอคำปรึกษาที่เขาจะปรึกษาเรา เวลาเขาเกิดอะไรขึ้น

จริงมั้ยที่คิดว่าคนนี้คือเทวดาส่งมา?
แก้มบุ๋ม : แม่ไปบอกตอนไหน
แม่ลี : ให้แม่พูดสิ เดี๋ยวลืม (หัวเราะ) เราจะสอนลูกเราว่าลูกเราคือเทวดาของแม่ ลูกชายคือเทวดา ลูกสาวคือนางฟ้า ลูกจะทำอะไรก็ได้ในบ้าน แต่อย่าไปทำแบบนี้ข้างนอก คุกจะรอพวกคุณ ถ้าวันนึงมีลูกชายเข้ามาอีกคน เขาก็คือคนที่แม่รัก เหมือนลูกชายแม่ เขาก็คือเทวดาของแม่ อันนี้บอกทุกคน ไม่ได้เป็นคำพูดที่เว่อร์ ฉันมีลูกสาว ลูกสาวฉันก็ต้องดีที่สุด ลูกชายก็ต้องดีที่สุด ฉันจะเลี้ยงพวกเธอทุกอย่าง ทำให้พวกเธอหมดเลย เหมือนเธอเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของฉัน แต่คำพูดว่าเทวดาคือคำพูดเฉพาะของเราในบ้าน

พ่อคิดเหมือนกันมั้ย?
พ่อเจน : ผมมองว่าเขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นคนนึง ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม แล้วมีความจริงใจ ไปไหนเขาทำงาน เขาลงมาหาบุ๋มที่บ้าน แต่ไม่ได้คุยกับบุ๋มนะ เขาเอาคอมพ์ฯ มานั่งทำงาน บุ๋มก็ทำงานของบุ๋มไป แล้วเขาก็กลับบ้าน เขาเป็นคนไม่หยุดนิ่ง ทำงานตลอด

พ่อชอบ?
พ่อเจน : ใช่ ก็อยากฝากให้เขาดูแลต่อไปหลังจากแต่งงาน

เวลาคุยกับว่าที่ลูกเขย จะคุยอะไรกัน?
แก้มบุ๋ม : พ่อเป็นพีอาร์รพ.ค่ะ พีทพ่อฝากหน่อยคนนี้เข้าไปฝากดูหน่อยนะ พีทหมอคนนี้เป็นอย่างนี้ๆ พีทคนนี้ดูแลเป็นแบบนี้ เหมือนเป็นพีอาร์และดูแลความปลอดภัยทุกอย่าง ช่วงนี้มีวัคซีนอะไร มีโปรอะไรมั้ยพีท เดี๋ยวพ่อจะได้ไปบอกแม่ๆ ที่โรงเรียนหลาน
พ่อเจน : (หัวเราะ) เรามองถึงอนาคต ถ้าเขามาเป็นลูกเขยเราในอนาคต ธุรกิจเขาเราก็ต้องส่งเสริม เพื่อนผมที่ไปรักษาหลายๆ รพ. มานี่หมด ใครมีปัญหาโทรมาบอกนะเดี๋ยวจะคุยให้

แม่ล่ะ?
แม่ลี : ชอบคุยกับเขา เพราะเราชอบความงามเหมือนกัน มีอะไรใหม่เข้ามาในร่างกายก็จะคุยว่าแบบนี้ๆ นะ เพราะตัวเองชอบเอาตัวเสริมมาช่วยในร่างกายเรา เราก็เลยคุยกันถูกคอ
แก้มบุ๋ม : แม่ชอบคุยเรื่องนวัตกรรมกับเขา แม่เรียกพี่พีทยังไง
แม่ลี : พี่พีท พี่พีท (เลียนแบบเสียงแก้มบุ๋ม) เหมือนนะ น่ารัก แก่แล้วยังเสียงเด็ก อัดวิตามินเข้าไป เสียงเด็ก ไม่มีนะคะ ลำคอก่อนจะนอนแล้วกรน มีแค่ลูกกะตาดำที่อัดไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวมองไม่เห็น จะไปอายอะไรล่ะคะ ที่เขาไม่อัดเขาเปลืองตังค์ แต่นี่อัดฟรีทุกที่

แหวนที่ใส่ เป็นแหวนที่เขาขอแต่งงาน หรือจะใช้เป็นวงเดียวกับตอนขอหมั้น?
แก้มบุ๋ม : น่าจะใช้วงนี้เลยค่ะ วงนี้เขาทำมาเหมือนวงแรกที่เขาให้ วงแรกเขาให้ 1 กะรัต ตอนคบกันปีแรก เราก็ใส่ติดนิ้วตลอด ไม่ใส่ไม่ได้ เพราะเขาจะถาม ถ้าเราไม่ใส่แฟนคลับเขาก็ถาม ว่าทำไมไม่ใส่แหวน 4.19 กะรัตค่ะ มันมีความหมายคบกัน 4 ปี ปี 2019 จริงๆ เขาอยากได้วันที่ 14 แต่เขาบอกว่าถ้า 14 กะรัตเขาซื้อไม่ไหว เขาต้องขายบ้านแล้ว ก็เลยได้แค่ 4
พ่อเจน : ถ้า 14 ก็คงยกมือไม่ขึ้น
แก้มบุ๋ม : แหวนหลวม ยังไม่ได้ไปแก้เลยนะ (หัวเราะ)
แม่ลี :   บอกเขาไปว่าผอมลงค่ะลูก นิ้วหลวม จะได้ไม่น่าเกลียด

แต่งแล้วมีลูกเลยมั้ย?
แก้มบุ๋ม : ยังค่ะ หนูไม่เคยใช้ชีวิตคู่ ก็ไม่อยากให้มีช่วงเวลาที่ขาดเหมือนแม่ ไม่ได้เที่ยวไม่ได้อะไร ก็อยากใช้ชีวิตคู่สักปีหรืออย่างเร็วสุดคือครึ่งปี แล้วค่อยคิดว่าจะมี เราฝากไข่แล้ว ฝากตอนแรกได้ 8 ฟอง ฝากตั้งแต่อายุ 31 ตั้งแต่เจอพี่พีทเราก็ฝากเลย (หัวเราะ) จริงๆ ต้องฝากอีกรอบนึง

พ่ออยากมีหลานหรือยัง?
พ่อเจน : ใจผมก็อยากให้มี เราก็อายุเยอะแล้ว เขาบอกรออีก 2-3 ปีถ้าเราไม่อยู่ล่ะ
แก้มบุ๋ม : อยู่ค่ะ จะไปไหนเอ่ย
พ่อเจน : อ้าว เผื่อหลับไปเฉยๆ
แม่ลี :   ทุกคนเมื่อมีครอบครัวก็อยากเห็นหลาน แต่ตัวเองทุกอย่างแล้วแต่ลูก เขาพร้อมเมื่อไหร่ก็ให้เขาจัดการ แล้วเราคอยเฝ้ามองอยู่แล้ว มีหรือไม่มีก็คอยดู

ถ้ามีหลานไม่ต้องไปเลี้ยงแล้วได้มั้ย ให้อยู่เลี้ยงหลาน?
แก้มบุ๋ม : คิดหนัก (หัวเราะ)
แม่ลี : ก็บอกทุกคนว่าแวะไปแวะมาได้ (หัวเราะ) ถ้าเกิดเราติดหลานหรืออะไรก็แล้วแต่เราจะหมดเลย เพราะทำอะไรแล้วทำจริง จะมุ่งอยู่ที่นั่น เราต้องทำอะไรอีกเยอะ

อยากบอกอะไรลูกสาว?
พ่อเจน :   พ่อก็ดีใจในการแต่งงานครั้งนี้ ถึงจะอยู่คนละบ้าน แต่ใจเราก็ยังคิดถึงกันตลอดเวลา ถ้าคิดถึงพ่อก็มาหาพ่อ ถ้าพ่อคิดถึงก็ไปหา
แม่ลี :   การมีครอบครัวก็เป็นเรื่องธรรมชาติ จะรักขนาดไหนเขาก็ต้องไปอยู่กับคนที่เขารัก เราเป็นแม่ก็คอยมองทุกอย่าง แล้วให้กำลังใจให้คำปรึกษา ในวันที่เขาต้องการคำปรึกษาจากแม่ เพราะคำจากแม่บริสุทธิ์ที่สุดที่จะคุยกับลูก

แก้มบุ๋มอยากพูดอะไรกับพ่อแม่?
แก้มบุ๋ม : ยังไงก็เหมือนเดิม บางทีอยู่บ้านหนูก็เป็นสีสัน กุ๊กกิ๊กๆ วุ่นวาย ต่อให้หนูย้ายบ้านไป แต่หนูก็กลับมาอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง พ่อไม่ต้องเป็นซึมเศร้า แม่ก็เที่ยวน้อยลง (หัวเราะ)


ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ แม่ลี-พ่อเจน-แก้มบุ๋ม​
https://youtu.be/Nb5Lt-VhhI8?si=x5KD_BbopFtjrCre

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Nb5Lt-VhhI8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Nb5Lt-VhhI8</a>









8
วช.หนุน สทน.และ มน. ส่งออกส้มโอไทยไปอเมริกา พร้อมโชว์ผลสำเร็จในงาน Natural Products Expo East 2023 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)(สทน.) และมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ส่งออกส้มโอไทยไปยังสหรัฐอเมริกาสำเร็จพร้อมทั้งนำส้มโอไปจัดแสดงในงาน Natural Products Expo East 2023 ณ ประเทสหรัฐอเมริกา


เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นายเอนก บำรุงกิจ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ นำทีมนักวิจัยโครงการศึกษาผลของการฉายรังสีต่อคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวมะม่วงมหาชนกและส้มโอเพื่อการส่งออกประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมี ดร.หาญณรงค์ ฉ่ำทรัพย์ จาก สทน. เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วยนักวิจัยร่วม รศ.ดร.พีระศักดิ์ ฉายประสาท นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร และ ดร.สุวิมล เจตะวัฒนะ นักวิจัยจาก สทน. เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อนำส้มโอไทยที่ผ่านกระบวนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวและฉายรังสีตามข้อกำหนดของทางสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมจัดแสดงในงาน Natural Products Expo East 2023


นายเอนก  บำรุงกิจ รองผู้อำนวยการ วช. กล่าวว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้อนุญาตให้ไทยสามารถส่งออกส้มโอสด ด้วยวิธีการฉายรังสี เข้าสู่สหรัฐอเมริกาได้เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564  โดยไม่จำกัดสายพันธุ์ นับเป็นผลไม้สดไทยชนิดที่ 8 ที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้า จากเดิมที่มีมะม่วง มังคุด เงาะ ลำไย ลิ้นจี่ สับปะรด และแก้วมังกร โดยจะต้องได้รับการฉายรังสีก่อนการส่งออก อันเป็นมาตรการป้องกันไม่ให้ไข่แมลงศัตรูพืชที่อาจติดไปฟักเป็นตัวและเกิดการแพร่กระจายของแมลงในประเทศปลายทาง ทีมวิจัยจึงศึกษาการกระจายของรังสีในบรรจุภัณฑ์ส้มโอและปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพหลังการฉายรังสีแกมมา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของทางสหรัฐอเมริกา ผลการทำ dose mapping ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน Animal and Plant Health Inspection Service (APHIS) จากกระทรวงเกษตร ของสหรัฐอเมริกามาร่วมดำเนินการรับรองผล ไปเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกส้มโอผลสดได้




สำหรับงาน Natural Products Expo East นั้น เป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (Fall) ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นงานแสดงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ ผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ จัดขึ้น ณ เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 20 - 23 กันยายน พ.ศ. 2566 มีผู้แสดงสินค้ากว่า 1,500 ราย จากหลายประเทศทั่วโลก มีผู้เข้าร่วมแสดงผลงาน (ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม) กว่า 29,000 ราย เป็นงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพสูงและคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานเพื่อเจรจาธุรกิจจากทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่ต่ำกว่า 50,000 คน โดย วช. และทีมวิจัยจึงนำส้มโอจำนวน 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ทองดี ขาวแตงกวา ขาวใหญ่ และทับทิมสยาม ไปออกบูธเพื่อเปิดตัว นำเสนอ และแนะนำส้มโอไทยให้ผู้บริโภคได้รู้จัก ได้ทดลองชิมรสชาติ พบว่า ผู้บริโภคให้การยอมรับและชื่นชอบรสชาติและสีสันของส้มโอไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้พบและเจรจาการค้ากับภาคเอกชนในหลายประเทศ เป็นการสร้างเครือข่ายกับผู้ขายในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทำให้สามารถเปิดตลาดสหรัฐฯ ได้เพิ่มมากขึ้น




















9
ทิศทางของสถาบัน NEA กับกลยุทธ์ดันผู้ประกอบการไทยพิชิตตลาดโลก ในปี 2567


                สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือสถาบัน NEA ดำเนินงานภายใต้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มุ่งมั่นพัฒนาผู้ประกอบการไทยด้วยการจัดการฝึกอบรมเพิ่มองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ ให้แก่ผู้ประกอบการไทยมาอย่างต่อเนื่องผ่านหลักสูตรที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาและองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการในการทำการค้าระหว่างประเทศ โดยในปี 2566 เราได้มีการดำเนินโครงการและกิจกรรมพัฒนาศักยภาพและยกระดับองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการไทย ทั้งในรูปแบบ Online, Onsite, Hybrid และการเรียนรู้ผ่านระบบ E-Learning หรือที่เราเรียกว่า E-Academy ไปแล้วมากกว่า 50 กิจกรรม ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทุกระดับให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมกับสถาบัน NEA มากกว่า 45,000 ราย

                นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวถึงทิศทางในการดำเนินงานของสถาบัน NEA ในงาน NEA Open House 2023 ว่าในปี 2567 เรายังคงเดินหน้าพัฒนาหลักสูตรของแต่ละโครงการมากกว่า 10 โครงการ ให้มีเนื้อหาที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงพัฒนาโครงการใหม่ๆ เช่น โครงการ Export 5F: Thai Soft Powers to the World และโครงการ Unlock Packaging Design for the Future ที่ตอบสนองแนวโน้มความต้องการของตลาดโลก และ Megatrend ด้านการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์สูงสุดและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศได้จริง

                ในปี 2567 สถาบันฯ ยังจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ผ่านการดูแลอย่างใกล้ชิด ภายใต้แคมเปญ NEA Exclusive Membership Program เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการทำการค้าระหว่างประเทศ ได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้มีโอกาสพบกับคู่ค้าตัวจริงในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น งานแสดงสินค้าในประเทศและต่างประเทศ การเจรจาการค้า (Business Matching) รวมไปถึงการเข้าร่วมแพลตฟอร์มออนไลน์ของกรม (thaitrade.com) และแพลตฟอร์มออนไลน์ของพันธมิตร      (เช่น Alibaba และ Amazon) ในการขยายช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ นางอารดา เฟื่องทอง กล่าว

                สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกับทางสถาบันฯ ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.nea.ditp.go.th และเว็บไซต์​ https://e-academy.ditp.go.th/ รวมถึงติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของสถาบัน NEA ได้ที่ Fanpage Facebook : สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ และ Line : @nea.ditp สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.1169 กด 1 และ 1

10
เมย์แบงก์ ชวนพนักงานคัดแยกขยะ สร้างสังคม Zero Waste


              บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เชิญชวนพนักงานร่วมคัดแยกขยะเพื่อนำวัสดุกลับเข้าสู่กระบวนการคัดแยกอย่างถูกต้อง ภายใต้การดำเนินงานธุรกิจภายใต้หลัก ESG ของเมย์แบงก์ ที่ให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นสร้างความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วมในสังคม โดยได้ร่วมกับ Recycle Day เปลี่ยนขยะให้เป็นประโยชน์ ด้วยการคัดแยกและนำวัสดุที่รีไซเคิลได้กลับเข้าสู่กระบวนการอย่างถูกต้อง โดยตั้งเป้าคัดแยกส่งขยะเพื่อส่งเข้ากระบวนการรีไซเคิลเดือนละประมาณ 40-50 กิโลกรัม เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม Zero Waste อย่างแท้จริง

11
ซีพีแรม คว้ารางวัลเกียรติยศ CSR-DIW to COVID-19 Relief และ CSR -DIW Continuous
การันตีอุตสาหกรรมรับผิดชอบต่อสังคม และชุมชน


                คุณชุมพล ลีละศุภพงษ์ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส พร้อมด้วย ผู้บริหาร บริษัท ซีพีแรม จำกัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เข้ารับรางวัลรางวัลเกียรติยศ โครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน เพื่อเป้าหมายการฟื้นฟูและยกระดับเศรษฐกิจและสังคม (CSR-DIW to COVID-19 Relief) และโครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน (CSR –DIW Continuous) ประจำปี 2566 ในงาน CSR-DIW and Eco Factory Award 2023 จัดโดย กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยได้รับเกียรติจาก คุณจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธานในการมอบรางวัล

                โดย ซีพีแรม ได้รับรางวัลดังนี้ รางวัล CSR-DIW to COVID-19 Relief ได้แก่ บริษัท ซีพีแรม จำกัด สำนักงานใหญ่ บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ขอนแก่น) รางวัล CSR –DIW Continuous ได้แก่ บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ลาดกระบัง)บริษัท ซีพีแรม จำกัด (บ่อเงิน) บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ชลบุรี) บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ขอนแก่น) บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ลำพูน) บริษัท ซีพีแรม จำกัด (สุราษฎร์ธานี)

12
Solar D ลงพื้นที่ร่วมบรรยายในวิชา ARC333 Tropical Design ม.กรุงเทพ
เพื่อเป็นแนวทางการออกแบบสถาปัตยกรรม
พร้อมผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาดอย่างสร้างสรรค์


               โซลาร์ ดี คอร์ปอร์เรชัน (Solar D)  ผู้นำด้านพลังงานแสงอาทิตย์ นวัตกรรมระบบจัดเก็บและจัดการพลังงานไฟฟ้าสุดล้ำหนึ่งเดียวในไทย​ เข้าร่วมบรรยายการสอนวิชา ARC333 Tropical Design ภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาภาควิชาสถาปัตยกรรม จำนวน 30 คน และอาจารย์ 2 ท่าน จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เข้าเยี่ยมชมและเรียนรู้ผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาดของบริษัท Solar D ซึ่งเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อผลักดันให้เกิดการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนนำองค์ความรู้ที่ได้มาพัฒนาและประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมเป็นแนวทางในการออกแบบสถาปัตยกรรมต่อไป


               สำหรับการบรรยายในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจในหัวข้อ​ “การใช้พลังงานสะอาดบ้านและอาคาร ระบบการติดตั้งโซลาร์เซลล์, EV charger และ Tesla Powerwall” โดยเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ระบบการติดตั้งโซลาร์เซลล์, ส่วนประกอบในการติดตั้ง, Roof System Component, Electrical Component, Routing system, Solar Roof Design, ทิศทางในการติดตั้งที่ดีที่สุด, การออกแบบมุมหลังคาและตัวอย่างการติดตั้งจริง รวมถึงยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษ ด้วยการนำอุปกรณ์ในการติดตั้งของจริงมาให้นักศึกษาได้ชมและสัมผัสอย่างใกล้ชิด อีกทั้งบรรยากาศในการบรรยายยังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน โดยอัดแน่นไปด้วยสาระความรู้และรายละเอียดของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Solar D อย่าง Tesla Powerwall อาทิ Tesla Powerwall คืออะไร, ประโยชน์ของ Tesla Powerwall, สามารถติดตั้งได้ทั้ง Indoor-Outdoor หรือไม่? และจำลองการคำนวณค่าไฟฟ้าและพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าว่าควรติดตั้ง Solar Roof และ Powerwall เท่าไหร่ รวมถึงยังมีการให้ข้อมูลเชิงลึกและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับ EV Charger เช่น ประเภทของ Charger, ประเภทของหัวชาร์จ, องค์ประกอบการติดตั้ง และภาพการติดตั้งจริง


               Solar D รู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบคุณนักศึกษาทุกท่าน รวมถึงอาจารย์และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ให้ความร่วมมือและการต้อนรับเป็นอย่างดี ที่ให้เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความรู้ด้านพลังงานสะอาด ผ่านการบรรยายสอนในวิชา ARC333 Tropical Design ที่ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ให้ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมเข้าฟังได้มองเห็นภาพของระบบต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อันนำไปสู่การแนวทางการออกแบบสถาปัตยกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป




               สำหรับผู้ที่สนใจด้านพลังงานแสงอาทิตย์และสิ่งแวดล้อม รวมถึงอยากสร้างอิสรภาพด้านพลังงานให้แก่บ้าน สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Solar D Gallery ชั้น 4 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี หรือค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับ Solar D ได้ที่ https://www.solar-d.co.th/why-solar-d หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook: Solar D, Line: Solar D หรือโทรฯ 02 026 3099

13
แม็คโครยืนหนึ่งแหล่งรวมวัตถุดิบคุณภาพจากทั่วโลก
จับมือหน่วยงานพาณิชย์นานาชาติ รับเทรนด์วัตถุดิบอาหารโตต่อเนื่อง


แม็คโคร​ ผู้นำธุรกิจค้าส่งภายใต้บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) สานต่อการเป็น “อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ด เดสติเนชั่น” ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ประกอบการและลูกค้า ด้วยการเป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารสดคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลก ในราคาที่เอื้อมถึง สอดคล้องกับเทรนด์วัตถุดิบอาหารโตต่อเนื่อง


โดยล่าสุดแม็คโครร่วมกับสถานทูตออสเตรเลีย และสำนักการพาณิชย์และการลงทุนออสเตรเลีย (ออสเทรด) จัดแคมเปญ “Taste of Australia” คัดสรรวัตดุดิบและสินค้าคุณภาพนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย มีให้เลือกมากกว่า 250 รายการ ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง รวมถึงเครื่องปรุงต่างๆ ตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม และลูกค้าทั่วไป โดยมีกิจกรรมไฮไลท์ในงาน คือ การสาธิตอาหารเมนูข้าวซอยเนื้อใบพายออสเตรเลียจากเชฟแจน จอมชญา พงศ์ภัทรเวท นักออกแบบอาหารชื่อดัง (Chef Food Design and Consult) ที่ได้นำวัตถุดิบเนื้อวัว และเนื้อแกะ เกรดพรีเมียมของประเทศออสเตรเลียมาประกอบอาหารเมนูนี้


การจัดงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก​ ดร. แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย​ นายไมเคิล เฮลเลแมน ทูตพาณิชย์อาวุโสและอัครราชทูตที่ปรึกษา (การพาณิชย์) นางสาวเอสเธอร์ ซัน ทูตพาณิชย์และที่ปรึกษา (การพาณิชย์) และนางสาวจันทิมาภรณ์ เมฆธนสาร ผู้จัดการพัฒนาธุรกิจอาวุโส สำนักงานการพาณิชย์และการลงทุนออสเตรเลีย (ออสเทรด) ให้เกียรติเปิดงาน โดยมีนางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) นางเอกธิดา เสรีรัตน์วิภาชัย ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดซื้อสินค้าอาหารสด และนายสมนึก ยอดดำเนิน ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารสินค้าอาหารสดแม็คโคร พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับที่แม็คโคร สาขาสาทร


พบกับสินค้าคุณภาพ และโปรโมชันพิเศษนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 17 ตุลาคม 2566 ที่แม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ Makro PRO แอปพลิเคชัน


โดยที่ผ่านมาในปีนี้ แม็คโครได้ร่วมกับสถานทูตและหน่วยงานพาณิชย์จัดงานเทศกาลอาหารนานาชาติอย่างต่อเนื่อง อาทิ

      ●      งาน Japan in Love ครบทุกรสชาติความอร่อยแบบญี่ปุ่น ที่ขนทัพสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ดัง และเครื่องปรุงรสยอดฮิตกว่า 130 รายการ

      ●      งาน Taste of Korea หลากหลาย ครบครันเพื่อเมนูเกาหลี ด้วยรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบนำเข้าจากแดนกิมจิ ทั้งอาหารสดและอาหารแห้งกว่า 200 รายการ

      ●      งาน Discover a Taste of New Zealand สร้างสรรค์ด้วยใจ สดใหม่จากนิวซีแลนด์ นำเข้าวัตถุดิบยอดนิยมเพื่อสุขภาพจากประเทศนิวซีแลนด์ ชูความโดดเด่นของแอปเปิลหลากหลายสายพันธุ์ กีวี ลูกพลับ ผักแช่แข็งคุณภาพ พร้อมเนื้อแกะชั้นดี และหอยแมลงภู่แบรนด์ดัง

      ●      งาน Tasty USA American Meal American Style ชูสินค้าอาหารสด ผลไม้ และของทานเล่นยอดนิยม กว่า 150 รายการ อาทิ เชอร์รี หอยเชลล์แช่แข็ง เนื้อวัวแช่แข็ง มันฝรั่ง แคลิฟอร์เนียชีส ผลไม้แห้ง และป๊อปคอร์น

#แม็คโคร #Austrade #TasteOfAustralia #สินค้าคุณภาพ #ออสเตรเลีย #ตัวจริงสดจริง















14
รายการ “หนีเที่ยวกัน”
เสาร์ที่ 23 กันยายน 66 เวลา 09.00 น. Workpoint ช่อง 23

“ป๊อด” ยกนิ้วรีสอร์ต&คาเฟ่ทุ่งนาสุดชิค
พลิกมรดกผืนนาเป็นแลนด์มาร์กใหม่!




              ได้ยินชื่อเสียงเรื่องความเก๋ความเจ๋ง งานนี้ไม่ต้องรอให้ทัวร์ลง พิธีกรสุดป๊อป​ ป๊อด-ศุภกร​ ขอลงไปทัวร์เอง พุ่งตัวไปเช็กอิน รีสอร์ต&คาเฟ่บนท้องนา! ที่พลิกมรดกผืนนาธรรมดาๆ ให้เป็นภาพจำใหม่ ด้วยไอเดียกลมกลืน เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา พร้อมพาชมไฮไลต์เด็ดของที่นี่ แลนด์มาร์กอายุ 100 ปี!​ ติดตามใน​ “หนีเที่ยวกัน” วันเสาร์ที่ 23 ก.ย. นี้ 9 โมงเช้า ทาง Workpoint ช่อง 23 ดูย้อนหลังทาง​ YouTube FlukeLee https://www.youtube.com/c/FlukeLee/featured และไปหนีเที่ยวกันแบบจุใจในเฟซบุ๊ก​ https://www.facebook.com/nheetiew/ อินสตาแกรม​ https://www.instagram.com/nheetiewgun.th/ และติ๊กต่อก​ https://www.tiktok.com/@nheetiewgun_th




















15
บุญถาวร จับมือคู่ค้า Builk และ Beaverman จัดงาน Builder Talk
ให้ความรู้ด้านการก่อสร้าง พร้อมนำเสนอสินค้านวัตกรรม


บุญถาวร มอบความใส่ใจให้กับผู้รับเหมา จัดงาน  “คนหลังบ้าน มางานเสวนา” ให้คนหลังบ้านมีโอกาสในการพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานร่วมกัน รับฟังเทคนิค กลยุทธ์การทำงานในสายงานก่อสร้าง เพื่อให้ได้นำไปประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

บุญถาวร​ ผู้นำวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้านที่คนไทยคุ้นเคยมากว่า 40 ปี พร้อมด้วย บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านงานก่อสร้าง บริษัท บีเวอร์แมน จํากัด แพลทฟอร์มค้นหาผู้รับเหมาก่อสร้างครบวงจร และพาร์เนอร์ผู้เชี่ยวชาญในสายงานก่อสร้าง จัดงาน​ “คนหลังบ้าน มางานเสวนา” แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อมอบความใส่ใจให้กับผู้รับเหมา และคนทำงานหลังบ้าน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงใจ พร้อมอัพเดตสินค้าใหม่ และนวัตกรรมต่าง ๆซึ่งบุญถาวรการันตีคุณภาพ ในปัจจุบันที่จะช่วยในการควบคุมต้นทุนให้กับผู้รับเหมา


คุณไพธี สกุลเอี่ยมไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฎิบัติการ บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บุญถาวรในฐานะผู้นำวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้านที่คนไทยคุ้นเคยมายาวนาน ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งคู่ค้า และลูกค้ามาโดยตลอด อีกทั้งลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการยังเป็นลูกค้ากลุ่ม​ “คนหลังบ้าน” ที่ต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อเติมเต็มความต้องการที่เปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยี และสินค้านวัตกรรม เราจึงจัดงาน “คนหลังบ้าน มางานเสวนา” เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการให้ผู้รับเหมา คนในแวดวงก่อสร้างได้เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์การทำงานให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคสูงสุด

สำหรับงาน “คนหลังบ้าน มางานเสวนา” เป็นงานที่ บุญถาวร ร่วมกับคู่ค้า อย่าง Builk , Beaverman ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมา คนในสายงานการก่อสร้าง ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยน แนวทางสำหรับการก่อสร้าง โดยภายในงานมีการเสวนาในหัวข้อ “การบริหารต้นทุน สำหรับงานรับเหมา” ภายใต้แนวคิดที่จะสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานก่อสร้างบ้าน เพื่อที่จะติดอาวุธให้กับผู้รับเหมา และคนหลังบ้าน รวมไปถึงการเพิ่มความรู้เรื่องระบบการจัดการต้นทุนโครงการ อย่างมีประสิทธิภาพ นำโดย​ คุณบุณยวีร์ สุรีย์พงษ์ สายงานพัฒนาธุรกิจ จากบริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป


ในการจัดงานครั้งนี้ มีการร่วมมือออกบูธกับคู่ค้าอย่าง​ บริษัท บีเวอร์แมน จํากัด โดยคุณพงศธร จันทวิมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ร่วมให้ความรู้ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มค้นหาผู้รับเหมาและบริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร มีผู้รับเหมามากกว่า 1,000 ราย ให้บริการออกแบบและสร้างบ้าน ทั้งงานสร้างใหม่ ต่อเติม รีโนเวท แม่นยำด้วยระบบควบคุมงบประมาณและคุณภาพงานทุกส่วนด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพจากทีมงานมืออาชีพ และแลกเปลี่ยนแนวทาง เทคนิค ในการบริหารต้นทุนก่อสร้างด้วยการใช้เทคโนโลยียุคใหม่

เพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับสินค้า กระเบื้อง สุขภัณฑ์ ซึ่งบุญถาวรการันตีคุณภาพ จาก บริษัท เวิร์ล เซรามิค เซ็นเตอร์ จำกัด และ บริษัท บุญถาวรซอสซิ่ง จำกัด พร้อมกันนี้ยังมีแบรนด์ชั้นนำที่เกี่ยวกับงานช่างมาร่วมออกบูธ สร้างสีสัน มอบส่วนลดดีๆ ให้กับผู้ร่วมงานอีกอย่างคึกคัก ทั้งนี้ภายในงานมีผู้รับเหมา และคนทำงานในแวดวงก่อสร้างเข้าร่วมงานจำนวนมาก ณ บุญถาวร Design Village บางนา


ติดตามข้อมูลและข่าวสารต่างๆ ของบุญถาวร ได้ที่เว็บไซต์​ www.boonthavorn.com และ facebook  boonthavorn

#boonthavorn #บุญถาวร #บุญถาวรดอทคอม #LiveOurWay #อยากอยู่อย่างนี้ด้วยกัน #บุญถาวรIdeasComeAlive

Pages: [1] 2 3 ... 2337