enjoyjam.net

news & activity => news & activity => Topic started by: sianbun on December 02, 2009, 10:42:56 AM

Title: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 02, 2009, 10:42:56 AM
"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน 32 ค่ายรถอัดโพรโมชัน กระตุ้นตลาดส่งท้ายปี


 
          เริ่มแล้ว งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" หรือ “The 26th Thailand International Motor Expo 2009” ที่ อิมแพ็ค คาดผู้ชมงาน 1.6 ล้านคน เผยบริษัทรถยนต์ 32 ยี่ห้อ ระดมโพรโมชันเด็ด ดันยอดจองถึง 15,000 คัน ผู้จัดปลื้ม นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปาฐกถาพิเศษในงาน

          นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" เปิดเผยว่า “งานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน” หรือ DRIVING…FOR SUSTAINABILITY เนื่องจากผู้จัดปรารถนาให้ทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจกัน “ขับเคลื่อน” อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปสู่ความสำเร็จอันยั่งยืนในอนาคต ส่วนภาพสัญลักษณ์ที่เห็นจะเป็นภาพแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เปรียบเสมือนความสำเร็จที่รออยู่ ประกอบกับเส้นซึ่งแสดงการขับเคลื่อนไปสู่จุดหมายอย่างมุ่งมั่น”

          รถยนต์ที่เข้าร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” รวม 32 ยี่ห้อ ได้แก่ AUDI, BMW, CHERY, CHEVROLET, CITROEN, DFM, FIAT, FORD, GRAND CARRYBOY, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, KIA, LAND ROVER, MAGNATE, MAZDA, MINI, MITSUBISHI, MITSUOKA, MTM, NISSAN, PEUGEOT, POLARSUN, PROTON, SKODA, SSANGYONG, SUBARU, SUZUKI, TATA, TOYOTA, VOLKSWAGEN, VOLVO

          ในจำนวนนี้มีรถแนวคิด รถเด่นหลายรุ่น ที่นำมาจัดแสดงโดยไม่มีการจำหน่าย อาทิ
          - FORD FIESTA รถเล็กยอดนิยมที่มียอดขายทั่วโลกมากกว่า 12 ล้านคัน
          - CHEVROLET CAMARO รถสปอร์ทคูเป สมรรถนะสูง คู่ปรับ ฟอร์ด มัสแตง
          - HONDA INSIGHT ระบบไฮบริด (Integrated Motor Assist) รูปแบบของ Mild Hybrid
          - HYUNDAI IX-ONIC รถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้งอนุกรมใหม่ บรรจุเข้าสู่สายการผลิตแทนที่ ฮันเด ทัคซัน (TUCSON) เอสยูวีขนาดคอมแพค ที่นับเป็นรถแนวคิดคันที่ 6 ของทีมงาน HYUNDAI DESIGN CENTER ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองรัสเซลส์ไฮม์ (RUSSELSHEIM) เยอรมนี
          - SUZUKI SWIFT SUPER 1600 JWRC รถแข่งแรลลีในรุ่น จูเนียร์ดับเบิลยูอาร์ซี ที่ขยายมิติตัวถัง สวิฟท์ ซูเพอร์ รุ่น 3 ประตู ให้กว้างกว่าเดิม
          - TOYOTA PRIUS รถยนต์พันทาง (HYBRID) ล่าสุดรุ่นที่ 3 รูปลักษณ์ทรงลิ่ม ปราดเปรียวในสไตล์แฮทช์แบค 5 ประตู ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.25 ทันสมัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งภายนอกและภายใน
          และเป็นครั้งแรกที่ค่าย เอ.พี. ฮอนด้า นำ Honda PCX รถจักรยานยนต์ใหญ่สไตล์หรู ขนาดเครื่องยนต์ 125 ซีซี มาร่วมแสดงในงานด้วย

          “สำหรับยอดจองรถภายในงานปีนี้คงเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัว คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 คัน ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งยอดจองอยู่ที่ราว 17,000 คัน อย่างไรก็ตามงานเมื่อปี 2551 ช่วงแรกเราเคยคาดการณ์ว่ายอดจองรถจะอยู่ที่ 15,000 คัน พอมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น เราก็ตัดสินใจปรับลดเป้าหมายลงเหลือ 13,000 คัน แต่เมื่อสรุปยอดรวมวันสุดท้ายกลับทำยอดจองได้ถึง 17,000 คัน จึงหวังว่าสถิติปีนี้จะใกล้เคียงกันหรือมากกว่าปีที่แล้ว” นายขวัญชัย กล่าว

          “ส่วนผู้เข้าชมงาน ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 13 ธันวาคม คาดว่าจะมีจำนวนสูงถึง 1.6 ล้านคน เนื่องจากค่ายรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ได้เตรียมจัดโพรโมชันมากมาย เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ยิ่งไปกว่านั้น ผู้จัดยังร่วมกับเอไอเอส จัดกิจกรรมลุ้นโชค MOTOR EXPO GIFT VOUCHER โดยให้ลูกค้าส่งเอสเอมเอส ชิง Gift Voucher มูลค่ารวม 600,000 บาท พร้อมกิจกรรมพิเศษอื่นๆ เพื่อสร้างสีสันให้งานและคืนกำไรแก่ผู้ชม”

          “ที่พิเศษมากคือ งานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาแสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ และพลังงานไทย” ในวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2552 เวลา 14.00 น. พร้อมเปิดโอกาสให้บริษัทรถยนต์ทุกค่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” นายขวัญชัย กล่าว

          ด้านมาตรการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมงานและลูกค้า ผู้จัดได้รับความร่วมมือจาก อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพิ่มสถานที่จอดรถและจุดจำหน่ายอาหารเพิ่มขึ้น พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่วนของผู้จัดได้พัฒนาระบบวัดระดับและควบคุมคุณภาพเสียงให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนต่อบรรยากาศโดยรวมของงาน

          นอกจากนี้ ประธานจัดงานยังเผยว่า ปีนี้ได้งดกิจกรรม “คืนมหากุศล” (GRAND CHARITY NIGHT) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเกือบตลอดทั้งปีค่อนข้างชะลอตัว และบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ

          อย่างไรก็ตาม ผู้จัดยังคงเดินหน้าโครงการเพื่อสังคมเช่นทุกปีโดยจะมอบรายได้จากค่าบัตรผ่านประตูใน “วันมหากุศล” (2 ธันวาคม) สมทบทุนโครงการลมหายใจไร้มลทิน

          สนใจสอบถามรายละเอียดหรือค้นหาข้อมูลต่างๆ ของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” ได้ที่ www.motorexpo.co.th

กำหนดการสำคัญ :

          วันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2552
          - แถลงข่าวโดยบริษัทรถยนต์ที่เข้าร่วมงาน สำหรับสื่อมวลชน และแขกรับเชิญ
          เวลา 10.00–18.45 น. อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1–3
          - งานเลี้ยงสังสรรค์สื่อมวลชน เวลา 19.00–22.00 น. ห้องจูปีเตอร์ 4 - 7 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          วันพุธที่ 2 ธันวาคม 2552
          พิธีเปิดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” อย่างเป็นทางการ
          โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี
          เวลา: 08.00 –09.15 น. ณ ห้องรอยัล จูบีลี อาคารชาเลนเจอร์

          วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2552
          ปาฐกถาพิเศษโดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
          หัวข้อ : “ทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ และพลังงานไทย”
          เวลา: 14.00-15.30 น. ณ ห้องรอยัล จูบีลี อาคารชาเลนเจอร์

          วันแสดงงาน สำหรับบุคคลทั่วไป
          ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2552
          เวลา: วันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 12.00 - 22.00 น.
          วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 22.00 น.

กิจกรรมภายในอาคาร
          - สนุกสนานกับเกมแข่งรถแบบ Human Racing ที่กำลังเป็นที่นิยม ภายใต้โครงการ "ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล"
          - การแสดงดนตรีไทย นาฏศิลป์ และศิลปวัฒนธรรมไทยประเภทต่างๆ ของนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศ ณ ลานแสดงศิลปวัฒนธรรม
          - ลงทะเบียนทดลองนั่งรถ 4x4 ฟรี! ที่บูธ Spirit of the 4x4 Driving School
          - กิจกรรมของสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย

กิจกรรมภายนอกอาคาร
          - Car Club สาวกคนรักรถประจำคลับทั้งหลายรวมตัวกันนำรถของตนเอง มาสร้างสีสันในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" ณ บริเวณพื้นที่ DROP OFF ของอาคารชาเลนเจอร์
          - Car Stereo Alley & Activities ลานกิจกรรมของคนรักเครื่องเสียง บนพื้นที่ 8,000 ตรม. ผนึกค่ายเครื่องเสียงชั้นนำถึง 4 ค่าย สร้างความบันเทิงให้แก่ผู้ชมงาน ได้แก่ Audio Access / MA Audio / Car Audio & Accessories และ บริษัท แทมเซ่น จำกัด
          - Subaru Russ Swift Stunt Show บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม Stunt Show นำนักขับรถผาดโผนชื่อดังชาวอังกฤษ Russ Swift มาร่วมสร้างความ อึ้ง ทึ่ง เสียว ให้แก่ผู้ชม จัดแสดงวันละ 4 รอบ ณ ลานไดนามิค สแควร์ มีรถรับส่งระหว่าง ชาเลนเจอร์ และสนาม
          - Spirit of the 4x4 Driving School สนามฝึกจำลองสำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ บนเนื้อที่ 10,000 ตรม. ติดวงเวียนทางออกฝั่งแจ้งวัฒนะ หน้าอาคารชาเลนเจอร์ 1

กิจกรรมการประกวดต่างๆ
          - การประกวดถ่ายภาพ Motor Expo–Canon Photo Contest 2009
          - The 10th Motor Expo Design Award 2009 การประกวดผลงานออกแบบยานยนต์ของนักศึกษาและเยาวชน
          - Motor Expo Automotive Innovation Award การแสดงผลงานออกแบบนวัตกรรมยานยนต์ จากความคิดสร้างสรรค์นักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
          - Motor Expo Smart Pretty Vote 2009

โปรโมชันต่างๆ
          - ซื้อรถ ชิงรถ ผู้จองหรือซื้อรถใหม่ในงาน ทุกๆ 100,000 บาท จะได้รับคูปองชิงรางวัล รถยนต์ ฮันเด โซนาตา 2.0 เอสพี มูลค่า 1,095,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
          - ซื้อบัตร ชิงรถ ผู้ซื้อบัตรเข้าชมงาน มูลค่า 80 บาท จะได้รับแบบสอบถาม เพื่อกรอกข้อมูลส่งชิงรางวัลรถตู้โพลาร์ซัน บิซิเนสส์ แอลเอช (FULL OPTION) มูลค่า 699,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
          - SMS ชิงรถ ผู้ชมงาน สามารถร่วมสนุกส่งข้อความ SMS จากโทรศัพท์มือถือ เพื่อลุ้นรับ รถยนต์ มาซดา 2 จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 640,000 บาท
          - ซื้อสินค้า ชิงรางวัล สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าภายในงานทุก 1,000 บาท ยกเว้น รถยนต์ จะได้รับคูปองชิงโชค 1 ใบ ลุ้นรับเบาะนวดอเนกประสงค์ (เครื่องนวดน่อง) รุ่น EH-105 NN มูลค่า 19,900 บาท จำนวน 36 รางวัล รวมมูลค่า 716,400 บาท แจกจริงทุกวัน วันละ 3 รางวัล
          - MOTOR EXPO GIFT VOUCHER ส่ง SMS ลุ้นรับ Voucher นำไปซื้อสินค้าภายในงานฟรี! รวมมูลค่าทั้งสิ้นถึง 600,000 บาท
          - สินเชื่อ MOTOR EXPO สินเชื่อเกียรตินาคิน ให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์ในงานทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ รวมถึงโพรโมชันพิเศษต่างๆ อีกมากมาย พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าด้วยระบบ SUPER FAST SERVICE อนุมัติสินเชื่อภายใน 30 นาที

          ขณะเดียวกันผู้จัดยังอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ชมงาน ด้วยศูนย์กลางบริการข้อมูล “Motor Expo Information Center” ณ ทางเข้างานทั้ง 3 จุด สามารถสอบถามรายละเอียดรถยนต์ที่มาแสดง อาทิ รุ่น ราคา และโพรโมชัน เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น รวมถึงตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของบูธและโซนกิจกรรมต่างๆ ในงาน
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 02, 2009, 11:44:39 AM
เตรียมพบเชฟโรเลต  อาวีโอ ขุมพลังใหม่ 1.6 ลิตร พร้อมแคมเปญพิเศษสุดที่เลือกได้ตามสไตล์คุณ 
- รับข้อเสนอเดียวกับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมเชฟโรเลตทั่วประเทศ





กรุงเทพฯ – เชฟโรเลต เตรียมเปิดตัว อาวีโอ “รถเล็กดีไซน์บิ๊ก” ที่มาพร้อมขุมพลังใหม่ เหนือชั้นกว่าด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร พร้อมอัดแคมเปญต่อเนื่อง ให้ลูกค้ารับข้อเสนอสุดพิเศษเดียวกับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26 ก่อนใคร ด้วยข้อเสนอเลือกได้ ดาวน์น้อย ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี 
 
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมส่ง เชฟโรเลต อาวีโอ รถยนต์ซับคอมแพกต์ซีดาน ที่มาพร้อมกับหัวใจแห่งการขับเคลื่อนใหม่ แรงเหนือชั้นกว่าด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุดถึง 145 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พละกำลังสูงสุด 102 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด โดยเชฟโรเลต จะเปิดตัวอาวีโอ ขุมพลังใหม่นี้ อย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26 นี้ 

นอกจากสมรรถนะที่สูงขึ้นแล้ว เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 ลิตร ยังคงอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ  ไว้อย่างครบครันเช่นเดิม  ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ถุงลมนิรภัย กุญแจ Immobilizer สัญญาณกันขโมย ไฟตัดหมอก (เฉพาะรุ่น) ระบบเครื่องเสียงแบบ 2-Din รองรับ ระบบ CD / MP3 และระบบ Bluetooth กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้า กระจกไฟฟ้า ฯลฯ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 644,000 ถึง 709,000 บาท

 “เชฟโรเลตมั่นใจว่า อาวีโอ ขุมพลังใหม่ขนาด 1.6 ลิตร จะสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าในทุกด้าน ด้วยความกระฉับกระเฉง และพละกำลังที่เหนือกว่า รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยที่เพียบพร้อม นอกจากนี้ เรายังมีแคมเปญพิเศษให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า เพื่อความสะดวกง่ายดายในการจับจองรถเชฟโรเลตอีกด้วย” มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว 


นอกเหนือจากน้องเล็กที่มาพร้อมกับหัวใจที่ใหญ่ขึ้นอย่างอาวีโอ 1.6 ลิตรแล้ว เชฟโรเลต ยังขนทัพรถมาจัดแสดงในงานครั้งนี้อย่างครบครันทุกรุ่นเช่นเดิม เริ่มจากอาวีโอ เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เชฟโรเลต ออพตร้า CNG ทั้งรุ่นเอสเตท และซีดาน เชฟโรเลต โคโลราโด ปิกอัพอเมริกันพันธุ์แกร่ง และเชฟโรเลต แคปติวา เอนกประสงค์   เอสยูวีขนานแท้ที่มีให้เลือกทั้งขุมพลังเบนซิน และดีเซล เทอร์โบ
 

ขณะเดียวกัน จีเอ็ม และเชฟโรเลต ประเทศไทย  ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในงานนี้ คือการนำ “คามาโร” หรือที่แฟนภาพยนตร์ ทราน์สฟอร์เมอร์สรู้จักกันดีในชื่อ “บัมเบิลบี” รถสปอร์ตเทคโนโลยีล้ำยุคแต่ยังคงความคลาสสิกมาจัดแสดงให้คอรถมัสเซิล คาร์ สไตล์อเมริกัน และแฟนภาพยนตร์ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย     


ที่บูธเชฟโรเลต  ยังมีเคาท์เตอร์ เชฟวี่ โอเค ยูสด์ คาร์ สำหรับให้คำปรึกษาเกี่ยวกับรถมือสองคุณภาพเยี่ยมของเชฟโรเลต และเชฟวี่ ไฟแนนซ์ สำหรับการอำนวยความสะดวกด้านการเงินแก่ลูกค้าทุกท่านที่ต้องการจับจองรถภายในงาน 


สำหรับแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าเชฟโรเลตทุกคน  จีเอ็ม และเชฟโรเลต ประเทศไทย  ได้มอบข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปีในแคมเปญ “ข้อเสนอที่คุณเลือกได้” ด้วยเงื่อนไขที่เลือกได้ตามแต่ละความต้องการของลูกค้า ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 36 เดือน เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 25% หรือ ดอกเบี้ย 0.99% ผ่อนนาน 36 เดือน เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 15% พร้อมรับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี สำหรับเชฟโรเลต โคโลราโด  เชฟโรเลต ออพตร้า   

เชฟโรเลต ออพตร้า  เอสเตท และเชฟโรเลต อาวีโอ และพิเศษเฉพาะเชฟโรเลต ออพตร้า CNG เติม CNG ฟรี 1 ปี มูลค่า 10,000 บาท

 แคมเปญพิเศษสุดดังกล่าว  เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคมศกนี้เท่านั้น ผู้สนใจติดต่อสอบถามแคมเปญต่าง  ๆ ของเชฟโรเลต ได้ที่โชว์รูมเชฟโรเลตทั่วประเทศ  หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์  โทร.1734 หรือพบกันที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โปซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม นี้ ที่ ชาเลนเจอร์  ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 03, 2009, 11:36:51 AM
งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 เปิดงานยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี



          นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26” หรือ “The 26th Thailand International Motor Expo 2009” โดยมีนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงานฯ ให้การต้อนรับ ณ ห้องรอยัล จูบีลี อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2552
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:08:38 PM
รองนายก เยี่ยมบู๊ธทีเอสแอล ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป



          จากภาพ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ที่ 2 จากซ้าย) ให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมรถ Porsche 911 Turbo PDK 997 ณ บู๊ธทีเอสแอล ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 โดยมี คุณสุรสิทธิ์ อุดมผลวณิช ประธานกรรมการ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (ในเครือบริษัทเบนซ์แจ้งวัฒนะ) (คนซ้ายสุด) และคุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ให้การต้อนรับ เมื่อเร็วๆ นี้

          เกี่ยวกับ ทีเอสแอล
          บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ในเครือบริษัทเบนซ์แจ้งวัฒนะ) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตกรรมหรูระดับ 5 ดาวจากต่างประเทศ ผู้นำเทคโนโลยีรถไฮบริดพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานสูงครบวงจร SMRT ให้บริการโดยผู้ชำนาญการเฉพาะรถยนต์นำเข้าทุกรุ่น ด้วยประสบการณ์การทำงาน และให้บริการยาวนานกว่า 20 ปี พร้อมอุปกรณ์อันทันสมัยและจุดให้บริการถึง 3 ศูนย์บริการทั่วกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ, สาทรฯ ตัดใหม่, และสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เพื่อตอบสนองความต้องการของสำหรับคนยุคใหม่เช่นคุณอย่างมีระดับ กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.tsl.co.th  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมของทีเอสแอลฯ ทั้ง 3 สาขาได้ที่เบอร์ 02-2699999
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:12:17 PM
DFM ส่งกระบะรุ่นใหม่ล่าสุด LPG-MPI เน้นชูพลังงาน 2 ทางเลือก

 

         งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26, 1 ธันวาคม 2552 - บริษัท ดี เอฟ เอ็ม มินิทรั๊ค (ประเทศไทย) จำกัด ถือฤกษ์ดีเปิดตัว รถกระบะอเนกประสงค์ LPG หัวฉีด MPI รุ่นใหม่ล่าสุด อย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด “ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน” อันเป็นแนวคิดหลักของการจัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ในปีนี้ บริษัท ดี เอฟ เอ็มฯ จึงได้นำเสนอบูธในรูปแบบของ “สถานีบริการน้ำมัน” เพื่อสื่อถึงผลิตภัณฑ์ของ ดี เอฟ เอ็ม ในแต่ละรุ่นซึ่งสามารถเลือกใช้พลังงานทางเลือกได้ 2 ทางเลือก คือทั้งน้ำมันเบนซินหรือก๊าซธรรมชาติ รถกระบะดี เอฟ เอ็ม ถือเป็นยานยนต์ทางเลือกที่ให้ทั้งการประหยัดพลังงานและให้ความคุ้มค่า ซึ่งเหมาะกับเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน

          การนำเสนอรถกระบะรุ่น LPG-MPI ระบบหัวฉีด ในครั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งเจาะกลุ่มผู้ใช้งานทั่วประเทศ ซึ่งกำลังมองหารถ กระบะไว้เพื่อใช้งาน ที่ให้ทั้งความประหยัด คุ้มค่า และคุ้มราคา ด้วยราคาแนะนำเพียง 285,000 บาท จากราคาเต็ม 295,000 บาท นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกผ่อนสบายๆ โดยเริ่มต้นเพียงวันละ 160 บาทเท่านั้น โดยทางบริษัทฯยังได้เตรียมโปรโมชั่นและข้อเสนอทางการเงินอื่นๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของรถกระบะของดี เอฟ เอ็มได้ง่ายขึ้น อาทิ ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อมรับประกันการใช้งาน 3 ปีหรือ 50,000 กม. และของสมนาคุณอื่นๆ อีกมากมายภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009

          รถกระบะรุ่น LPG-MPI เป็นรถกระบะอเนกประสงค์แบบตอนเดียว มีขนาดเครื่องยนต์ทั้ง 1.1L และ 1.3L ถือเป็นกระบะคันแรกของประเทศไทยที่สามารถใช้พลังงานได้ 2 ระบบ มาพร้อมกับชุดระบบก๊าซที่ติดตั้งโดยอุปกรณ์อันได้มาตรฐานนำเข้าจากประเทศอิตาลี รถกระบะทุกคันของดี เอฟ เอ็มยังได้ผ่านการรับรองจากโรงงานผลิตซึ่งผลิตตามมาตรฐานโรงงานและกรมการขนส่งทางบก ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานทุกชิ้นส่วน

          ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 บริษัท ดี เอฟ เอ็มฯ ยังได้จัดแสดงรถยนต์ในรุ่นต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชมตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ซึ่งประกอบด้วยรุ่น DFM Mini Truck 1.1L, DFM Mini Truck 1.3L, DFM Mini Van 1.1L, DFM Mini Van 1.3L โดยแต่ละรุ่นมีให้เลือกทั้งระบบพลังงาน LPG-MPI และระบบพลังงาน CNG และยังมีไฮไลท์สำคัญที่ ไม่ควรพลาดก็คือ การจัดแสดงรถกระบะดัดแปลงเพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพในรูปแบบต่างๆ อาทิ รถขายเบเกอรี่/กาแฟ และรถทำธุรกิจโอท็อปเคลื่อนที่ เป็นต้น อันเป็นการนำเสนอแนวทางการประกอบอาชีพใหม่ๆ ให้แก่ผู้ที่กำลังมองหาอาชีพอิสระในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้

          สำหรับผู้ที่สนใจและกำลังมองหารถกระบะอเนกประสงค์ไว้เพื่อใช้งานในราคาคุ้มค่า เชิญท่านสัมผัสและทดลองขับ กระบะ DFM 2 พลังงานทางเลือก ได้ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมศกนี้
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:13:16 PM
รองนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธเกียรตินาคิน ในงาน Motor Expo 2009



          นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเยี่ยมชมบูธธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ผู้อุปถัมภ์หลักอย่างเป็นทางการ ในพิธีเปิดงาน Motor Expo 2009 โดยมีนายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล (ที่สามจากขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน ให้การต้อนรับ โดยธนาคารได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “ปีแรกผ่อนแค่ครึ่งเดียวกับเกียรตินาคิน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ KK Contact Center โทร. 02 680 3333
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:17:17 PM
ไทยยานยนตร์ประกาศความยิ่งใหญ่สุดๆ อีกครั้งกับรถยนต์ Volkswagen ครบทุกเซ็กเม้นท์ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 อิมแพค เมืองทองธานี



          ไทยยานยนตร์ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ Volkswagen อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ประกาศความยิ่งใหญ่สุดๆ อีกครั้งกับรถยนต์ Volkswagen ครบทุกเซ็กเม้นท์ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ที่ Impact Challenger 1-3 เมืองทองธานี

          นายรณชัย จินวัฒนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด เปิดเผยว่า VolkswagenAG ประเทศเยอรมันได้ให้ความสำคัญอย่างสูงกับตลาดรถยนต์ในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดประเทศไทย ซ่งึในครั้งนี้ได้สนับสนุนสินค้าครบทุกเซ็กเม้นท์ และในราคาที่ไม่มุ่งหวังกำไร เพื่อการกลับมาของรถยนต์นั่ง Volkswagen ในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งและแน่นอนว่าในงาน Motor Expo ครั้งนี้ Volkswagen ยังคงรักษาบุคคลิกเฉพาะตัวไม่ว่าจะเป็นวิธีการนำเสนอโดยใช้จินตนาการแห่งเสียงดนตรีสะท้อนบุคคลิกของยนตรกรรมแต่ละรุ่นและข้อเสนอพิเศษสุดส่งท้ายปีที่พลาดไม่ได้ โดยมุ่งเป้าหมายการขายในงานนี้ไว้ 240 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 120 คันและรถตู้ 120 คันเช่นกัน โดยมีรายละเอียดแต่ละรุ่นดังนี้
 
          - The new Caravelle มาพร้อมกับชุดแต่งสุดหรูสมกับความเป็น The best luxury Van 2 รุ่นคือ
          1. Yacthline..ชุดแต่งโทนขาวและลายไม้อันเป็นเอกลักษณ์ของอัครยานยนต์อย่างแท้จริงพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
          2. Hartmann Design..ครั้งแรกในประเทศไทยที่ทาง Hartmann บรรจงสร้างสรรค์ความแตกต่างที่หรูที่สุดพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันรวมถึงเก้าอี้ VIP ที่ปรับด้วยไฟฟ้า สนนราคาที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น Highline ปกติ 250,000 บาท แต่พิเศษเฉพาะในงานคิดเพิ่มเพียง 100,000 บาท เท่านั้น พร้อมบำรุงรักษาฟรี 3 ปี และประกันนานถึง 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ในจำนวนจำกัด



          - The New Beetle ด้วยรางวัล Design of the Century Award ย่อมเป็นหลักประกันถึงความโดดเด่นเฉพาะตัวของรถเจ้าตำนานรุ่นนี้ ที่พร้อมสรรพด้วยจินตนาการแห่งความสนุกสนาน โดยประกอบด้วยรุ่น1.6 L ราคา 1,780,000 บาท และรุ่น 1.8 Turbo ราคา 2,150,000 บาท
          - Scirocco 2.0 TSI 200 bhp รางวัล Car of the Year Award ดีไซน์สุดเปรี้ยวมาด้วยเครื่องยนต์สุดยอดแห่งเทคโนโลยี 2.0 TSI และระบบขับเคลื่อน DSG ที่มีอยู่เฉพาะในรถหรูซุปเปอร์คาร์เท่านั้น รุ่น Comfortline ราคา 2,460,000 บาท และรุ่น
Highline ราคา 2,680,000 บาท
          - Golf GTI 210 bhp รางวัล World Car of the Year ผู้บัญญัติอักษรสามตัวที่ยิ่งใหญ่ของโลกวงการรถยนต์ GTI สมกับคำว่า “German Cool” นำเสนอด้วยรุ่น Comfortline ราคา 2,480,000 บาท และรุ่น Highline ที่ราคา 2,660,000 บาท
          - Passat CC 2.0 TSI 200 bhp รางวัล Euro Body Award เพรียวงามตระการตาด้วย 4 ประตู คูเป้คันแรกของ Volkswagen แล้วคุณจะเชื่อว่าบุคคลิกรถสปอร์ตมีอยู่ในรถซีดานเช่นกัน มีให้เลือก 2 รุ่นเช่นกัน Comfortline ที่ราคา 2,650,000 บาท
และรุ่น Highline ที่ราคา 2,890,000 บาท
          - Tiguan 2.0 Tdi 140 bhp รางวัล Best SUV Award เครื่องยนต์ทรงพลังด้วยแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 1750 – 2500 รอบต่อนาที ไม่หวั่นในทุกเส้นทางและทุกสภาพพื้นผิวถนนจนได้รับรางวัลรถ SUV ที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยสนนราคา 2,970,000 บาท
          ทั้งนี้สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมและสัมผัสรถยนต์ Volkswagen ทุกรุ่น พร้อมทดสอบสมรรถนะได้ภายในงาน หรือสอบถาม

          ข้อมูลเพิ่มเติมที่ฝ่ายขาย Volkswagen บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ที่หมายเลข 02-219-1919
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:20:35 PM
ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำกัด แรงส่งท้ายปี จัดสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ลุย Motor Expo 2009 นำทีมโดย Bipper


 

          ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำกัด แรงส่งท้ายปี จัดสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ลุย Motor Expo 2009 นำทีมโดย Bipper พร้อมเสริมทัพด้วยรถหรู 207 CC ,308 CC,308 Turbo,308Vti และ 407 France แถมเซอร์ไพรส์ด้วย Big Presenter

          บริษัทยูโรเปียนมอเตอร์คาร์ จำกัด และ บริษัท ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำกัด ตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย นำสุดยอดนวัตกรรมยานยนต์ ร่วมโชว์ในงาน Motor Expo 2009 ชูจุดเด่นด้วยรถครอบครัว Bipper 5 , Bipper Metro พร้อมเสริมทัพด้วยรถหรู 207 CC ,308 CC,308 VTI,308 TURBO, 407 France และ Expert

          นายพลกฤษณ์ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำกัด และ บริษัทยูโรเปียน มอเตอร์คาร์ จำกัด เปิดเผยว่า “สำหรับการเข้าร่วมงาน Motor Expo 2009 ในครั้งนี้ เราได้มีการเตรียมตัวมาอย่างดี อีกทั้งพร้อมที่จะนำเสนอในอีกแง่มุมของทางเปอโยต์ให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยไฮไลท์ของเราในครั้งนี้คือ การนำรถยนต์ประเภทครอบครัว ที่มีชื่อรุ่นว่า Bipper3, 5 และMetro มาเป็นไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ ซึ่งเราเล็งเห็นว่า ปัจจุบันคนในเมืองมีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างชัดเจน และมักใช้เวลาในการเดินทางในท้องถนนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถือว่า Bipper 3,5 และ Metro สามารถตอบสนองตรงจุดนี้ได้เป็นอย่างดี สำหรับความโดดเด่นของ Bipper3,5 และ Metro นั้นประกอบด้วย การดีไซน์ด้วยเส้นสายที่โค้งมนบนฝากระโปงหน้า แนวกันชนหลังที่ลาดต่ำ พร้อมคิ้วกันกระแทก ทำให้ดูแข็งแรงในทุกมุมมอง หน้าต่างที่กว้างขวางในทุกทัศนวิสัย ประตูเลื่อนเพื่อการขึ้นลงที่สะดวกสบายถึง 2 บาน

          ส่วนขนาดของรถนั้น มีขนาดที่กะทัดรัด เหมาะกับการใช้รถในเมืองใหญ่มาก ประกอบด้วยความยาว 3.86 เมตร ความกว้าง 1.82 เมตร เมื่อพับกระจกแล้ว ทำให้สามารถเข้าจอดในที่ต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งในส่วนของห้องโดยสารเราได้คำนึงถึงความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่เป็นอันดับแรก ทำให้ Bipper มีวิสัยทัศน์ที่ดีเยี่ยมพร้อมที่นั่งนุ่มสบาย พร้อมด้วยเสากลาง และแผงหน้าปัดที่ออกแบบถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ ในส่วนของด้านหน้าของคอนโซล จะมีช่องเก็บของเตรียมพร้อมไว้สำหรับผู้โดยสาร
สำหรับทางด้านเครื่องยนต์นั้นโดดเด่นด้วยเครืองยนต์ดีเซลขนาด 1.4 ลิตร 70 แรงม้า ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ HDi  ทำให้การเผาไหม้หมดจดและประหยัดน้ำมันสูงสุดเฉลี่ย 22.2 km/ ลิตร สามารถรีดพลังได้ 70 แรงม้า อีกทั้งยังสามารถควบคุมมลพิษได้ตามมาตรฐานยูโร 4 ซึ่งเหมาะมากๆกับการขับขี่ในเมืองและยิ่งกว่านั้น Bipper ยังใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อยคาร์บอนด์ไดออกไซด์ ออกเพียง 119/กม.

          อีกทั้งในครั้งนี้เรายังได้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย สีของรถในรุ่นนี้ ซึ่งจะมีให้เลือกถึง 6 สีด้วยกัน ประกอบไปด้วย ขาว  บรอนซ์  เขียวมะนาว ฟ้า แดง และ ส้ม ซึ่งน่าจะโดนใจกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างแน่นอน สำหรับราคานั้นจะเริ่มต้นที่ 750,000-980,000 บาท และในสำหรับในครั้งนี้เรายังมีเซอร์ไพรส์ด้วย Big Presenter ของเราซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่เราตั้งใจนำเสนอให้กับกลุ่มเป้าหมายในครั้งนี้

          คุณพลกฤษณ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากไฮไลท์ที่จะเป็นรถรุ่น Bipper แล้ว เรายังได้นำรถที่ได้เปิดตัวไปแล้ว มาร่วมโชว์ในครั้งนี้ด้วยทั้งก็เพื่อทีจะ ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายให้ได้ทุกกลุ่ม โดยในครั้งนี้จะประกอบไปด้วยรถตระกูล Convertible car อันประกอบไปด้วย 207 CC  และล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปคือ 308 CC ซึ่งเป็นรถที่มีดีไซน์สวยหรู และเน้นความสะดวกสบาย และความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร  ที่จะลืมไปไม่ได้คือ 407 Frace ซึ่งจะโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ EW10A เครืองยนต์ 1997 CC  อีกทั้งแรงม้าสูงสุดถึง 140 ต่อรอบ ความจุของทั้งน้ำมัน 66 ลิตร /สำหรับรถเปิดประทุนขนาดเครื่องยนต์ลูกสูบ 207 CC ก็จะออกโชว์เช่นเดียวกับรถรุ่น 308 VTi ด้วยสําหรับรุ่นเครื่องยนต์ 308Turbo ได้ติดตั้งหลังคากระจกขนาดใหญ่ พร้อมกับเครื่องยนต์Turbo 140 แรงม้า และสำหรับรุ่นExpert มีระบบถุงลมปรับขึ้นลงด้านล่างและมีที่โดยสารขนาด 11 ที่นั่งด้วย ซึ่งจากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น เราถือว่าในปีนี้ เราได้สร้างความแตกต่างในตลาดของรถยนต์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะเราได้มีรุ่นของรถยนต์ต่างๆมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีหลากหลายกลุ่ม และเพื่อที่จะรุกเข้าสู่ตลาดของรถยนต์ให้มากขึ้น ในปี 2009 เราได้ขยายตัวแทนจําหน่ายครอบคลุมถึง 5 บลูบ๊อกซ์โชว์รูมที่ สุราษฎร์ธานี  หาดใหญ่ อุดรธานี ภูเก็ต ระยอง และ จะขยายอีก 2 บลูบ๊อกซ์โชว์รูมก่อนมิถุนายน 2553 โดยส่วนที่เหลือจากทั้งหมด 7 โชว์รูมจะเสร็จสิ้นภายในกลางปี 2010 นี้ทั้งนี้เรามั่นใจว่าการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ จะทำให้เปอโยต์ ได้เติบโตก้าวขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งถือว่าเป็นการตอกย้ำในเรื่องของนโยบายของบริษัท ที่ต้องการสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้าให้ได้รับผลประโยชน์อย่างสูงสุด และเราเชื่อว่าเราจะได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นกันจากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ คุณพลกฤษณ์ กล่าวทิ้งท้าย
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:21:15 PM
วอลโว่เปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่นในมอเตอร์เอ็กซ์โป

          วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย เปิดตัวรถเล็ก 3 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการในมอเตอร์เอ็กซ์โป เติมเต็มไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นำทีมโดย S40 ซีดานและ V50 5 ประตู และ C30 2.0 R Design สไตล์เท่ ที่มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบเพาเวอร์ชิฟท์ครั้งแรกในรถคอมแพคเครื่องยนต์เบนซิน พร้อมยกทัพรถยนต์พลังงานทางเลือกโชว์โฉม ตอกย้ำความมุ่งมั่นสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนสนองแนวคิด “ขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน” ของมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 ส่งท้ายปี 2552


          ในภาพ นางฉันทนา วัฒนารมย์ ประธาน บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถเล็กใหม่ 3 รุ่น -- S40 ซีดานและ V50 5 ประตู และ C30 2.0 R Design พร้อมระบบส่งกำลังแบบเพาเวอร์ชิฟท์ครั้งแรกในรถคอมแพคเครื่องยนต์เบนซิน ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 เมื่อเร็วๆ นี้ที่อิมแพค เมืองทองธานี
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:47:11 PM
“อาวีโอ” ควงคู่ “คามาโร” ไฮไลท์บูธเชฟโรเลตในมอเตอร์ เอ็กซ์โป



กรุงเทพฯ  – มร.สตีฟ คาร์ไลส์ (ซ้าย) ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และมร.อันโตนิโอ ซาร่า (ขวา) รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ร่วมถ่ายภาพเคียงคู่กับ เชฟโรเลต อาวีโอ รุ่นใหม่ ปราดเปรียวเหนือชั้นกว่าด้วยเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พร้อมกับเชฟโรเลต คามาโร หรือ “บัมเบิลบี” รถอเมริกันมัสเซิลคาร์จากภาพยนตร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์อาวีโอบ็อท (กลาง) คอยสร้างสีสันภายในบูธของเชฟโรเลต ในงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26 ที่ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:50:45 PM
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เปิดตัวแล้วในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26

 

 

         · ฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นใหม่ล่าสุดได้รับการออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายในให้ดู สะดุดตายิ่งขึ้นพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าเดิม
          · เปิดตัวฮอนด้า ฟรีด รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ทำให้ฮอนด้าตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์ไสตล์ของลูกค้าอย่างครบถ้วน
          · ครั้งแรกที่นำเสนอยนตรกรรมทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์พร้อมกันในบูธฮอนด้า
          · ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ รถจักรยานยนต์ชั้นนำระดับโลกที่ผลิตในประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน ญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา
          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์นั่งรายใหญ่อันดับสองของประเทศแนะนำรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 โดยรุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายในเน้นความหรูหรามีระดับและการใช้งาน
          ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่สะดุดตายิ่งขึ้นทั้งกันชนหน้าและหลัง ฝากระโปรงหน้า ไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ภายในออกแบบใหม่ด้วยมือจับเปิดประตูคู่หน้าด้านในดีไซน์ใหม่ ระบบเครื่องเสียงดีไซน์ใหม่ ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม USB สำหรับไอพ็อดและเครื่องเล่น MP3 ระบบนำทางเนวิเกเตอร์พร้อมเครื่องเล่นดีวีดีและกล้องส่องภาพด้านหลัง พนักเท้าแขนพร้อมเบาะดีไซน์รอยเย็บใหม่ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
 

         มร. อาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) กล่าวว่า “นอกเหนือจากการแนะนำรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เรายังเปิดตัวรถยนต์ฮอนด้า ฟรีด รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ของฮอนด้า รวมทั้งจัดแสดงรถยนต์ของฮอนด้าทุกรุ่นซึ่งจะสร้างความประทับใจในเทคโนโลยี ยนตรกรรมที่ล้ำหน้าแก่ผู้ที่เยี่ยมชมบูธฮอนด้า”
          ผู้ที่เข้าชมบูธของฮอนด้าจะได้พบกับรถยนต์นั่งที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า แจ๊ซ ซีวิค และแอคคอร์ด รถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ฮอนด้า ฟรีด รวมทั้งรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ใหม่ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่
          ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ จะให้การขับขี่ที่สนุกและรูปลักษณ์ที่หรูหราทันสมัยแก่เจ้าของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในวัยทำงานที่มองหารถยนต์สำหรับการใช้งานประจำวัน รถสำหรับครอบครัวและรถยนต์สำหรับคนที่นิยมการท่องเที่ยว
          ฮอนด้าซีอาร์-วี ใหม่ มีรูปลักษณ์สปอร์ตและหรูหราขึ้น ให้การขับขี่ที่เงียบและนุ่มนวลด้วย ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้าและคู่หลังที่กว้างขึ้น ระบบกันสะเทือนปรับปรุงใหม่ จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง พนักพิงแยกปรับอิสระแบบ 40:20:40 สามารถปรับพับขึ้นเพื่อจัดเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้
          ฮอนด้าซีอาร์-วี ใหม่ ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time 4WDTM) ของฮอนด้า ทำให้ฮอนด้าซีอาร์-วี ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าสำหรับการขับขี่ในภาวะปกติ แต่สามารถเปลี่ยนเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติโดยส่งกำลังไปยังล้อหลังมากขึ้นตามสภาวะการขับขี่ที่เปลี่ยนไป
 

         ฮอนด้าซีอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือก 4 รุ่นในเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า (ฮอนด้าซีอาร์-วี 2.0S และ 2.0E) และเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 170 แรงม้า ทุกรุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด พร้อม Grade Logic Control (ฮอนด้าซีอาร์-วี 2.4EL 2WD และ 2.4EL 4WD)
          ทุกรุ่นมีถุงลมคู่หน้า ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก EBD ทำให้สามารถควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น

ฮอนด้า ฟรีด
          ฮอนด้า ฟรีด เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (MUV) ที่มีดีไซน์สะดุดตา รูปทรงกะทัดรัด และภายในกว้างขวาง เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์และกิจกรรมในแต่ละวันของคนรุ่นใหม่นำเทรนด์ ฮอนด้า ฟรีด ใหม่จะปรากฏโฉมบนท้องถนนในเดือนมกราคม ปีหน้า (2553) โดยจะเป็นรถยนต์รุ่นแรกในเซกเมนต์รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ให้ความสะดวกสบายเหนือชั้น พร้อมการใช้งานและความกว้างขวาง



ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์
          ฮอนด้า พีซีเอ๊กซ์” เป็นรถจักรยานยนต์ระดับเวิล์ดคลาสสไตล์ใหม่ของเมืองไทยที่ผสานความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและดีไซน์ไว้มากมาย รวมทั้งคุณสมบัติด้านประหยัดเชื้อเพลิง ระบบ “ไอเดิลลิ่ง สต๊อป (Idling Stop System)” ระบบสัญญาณกันขโมยที่บิลท์อินกับตัวรถ ความเงียบของเครื่องยนต์ระหว่างขับขี่ และความปลอดภัยชั้นเยี่ยม
          ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ จะเป็นรถจักรยานยนต์ ‘เมดอินไทยแลนด์’ จากฮอนด้าซึ่งจะวางตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศในอาเซียน ญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่วางตลาดฮอนด้า พีซีเอ็กซ์
          ลูกค้าสามารถสั่งจองรถยนต์ฮอนด้าได้ในงานมหกรรมยานยนต์ 2009 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2552 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:52:04 PM
มินิ ประเทศไทยเปิดตัว 2 รุ่นพิเศษ "MINI Cooper 50 Mayfair" "MINI Cooper S 50 Camden"


 
          มินิ ประเทศไทยเปิดตัว 2 รุ่นพิเศษ
          MINI Cooper 50 Mayfair
          MINI Cooper S 50 Camden
          พร้อมข้อเสนอพิเศษ Motor Expo 2009 Special:
          - ติดตั้งระบบนำทาง Navigator Nuvi 215w
          - ชุดแต่งจาก John Cooper Works สำหรับ MINI Cooper S

          มินิ ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 คือ (1) MINI Cooper 50 Mayfair ราคา 2,600,000 บาท และ (2) MINI Cooper S 50 Camden ราคา 3,000,000 บาท ซึ่งทั้งสองเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดในวาระฉลองครบรอบ 50 ปี

          คุณ กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในงานมหกรรมยานยนต์ปีนี้ มินิ ประเทศไทยจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับมินิรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นมาจำนวนจำกัดในวาระฉลองครบรอบ 50 ปีของมินิ คอนเซ็ปต์ของมินิรุ่นพิเศษนี้เป็นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นมินิ ที่ได้ผสมผสานทั้งอดีตที่ยิ่งใหญ่และอนาคตที่สดใสไว้ในตัวเอง ภายใต้คอนเซ็ปต์นี้ มินิจึงพัฒนารุ่น Mayfair ให้เป็นตัวแทนของอดีตที่ยิ่งใหญ่ของรถคันเล็กอย่างมินิ และให้รุ่น Camden เป็นตัวแทนจากอนาคต ซึ่งคาร์แรกเตอร์ของอดีตและอนาคตนี้ได้แสดงออกผ่านดีไซน์พิเศษเฉพาะของแต่ละรุ่น ทั้งในเรื่องของสีภายนอก ล้ออัลลอยด์ลายพิเศษ และการตกแต่งภายในด้วย และนอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสองรุ่นนี้แล้ว เรายังจัดแสดงมินิรุ่นต่างๆ ทั้งมินิ แฮ็ทแบค, มินิ คลับแมน และมินิ รุ่นเปิดประทุน อีกทั้งยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่ตัดสินใจซื้อในงานนี้อีกด้วย”

ข้อเสนอพิเศษ Motor Expo 2009 Special
          - ติดตั้งระบบนำทาง Navigator Nuvi 215w
          - ชุดแต่งจาก John Cooper Works สำหรับ MINI Cooper S

          Navigator Nuvi 215w สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อรถมินิทุกรุ่นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 และรับรถภายใน 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552 นี้ จะได้รับระบบนำทาง Navigator Nuvi 215w ที่มาพร้อมกับข้อมูลแผนที่ภาษาไทยและฟังก์ชั่น Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ และชุดติดตั้งสำหรับรถมินิโดยเฉพาะ

          ชุดแต่งจาก John Cooper Works สำหรับ MINI Cooper S พิเศษสำหรับลูกค้า MINI Cooper S (ยกเว้นรุ่น MINI Cooper S 50 Camden) ที่รับรถภายใน 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552 จะได้รับชุดแต่ง John Cooper Works ซึ่งรวมถึง ชุดแอร์โร่ไดนามิกส์คิท สปอยเลอร์หลัง สกู๊ปฝากระโปรงหน้า และครอบกระจกมองข้างคาร์บอน

ไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ใหม่

 
          MINI 50 Mayfair
          หรูหรา ภูมิฐาน สไตล์ผู้ดีอังกฤษ

          MINI 50 Mayfair เป็นการมองผ่านความยิ่งใหญ่ของรถคันเล็กอย่างมินิ โดยการเชื่อมโยงกับความนิยมที่ถึงขีดสุดของมินิในฐานะรถแห่งความภูมิใจของอังกฤษ สำหรับชื่อ ‘Mayfair’ นี้ นอกจากจะเป็นชื่อของย่านกรุงเก่าหรูหราใจกลางมหานครลอนดอนแล้ว ยังเป็นชื่อของหนี่งในมินิ คลาสสิกรุ่นพิเศษของลอนดอน คอลเลคชั่นที่เน้นความสบายและความหรูหราเป็นพิเศษ

          ดีไซน์เนอร์ของมินิจึงให้คาร์แรกเตอร์ของ MINI 50 Mayfair เน้นที่ความหรูหราภูมิฐานในสไตล์ผู้ดีอังกฤษ โดยแสดงออกผ่านการใช้สีภายนอกเป็นสี Hot Chocolate ตัดกับหลังคาสีขาว ล้ออัลลอยด์สีขาวลายพิเศษ Infinity Stream Spoke ขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับสติ๊กเกอร์ฝากระโปรงหน้าสี Toffy light-brown metallic ที่ให้มุมมองสามมิติตัดกับขอบสีขาว ซึ่งเข้ากับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีเดียวกันคือ เบาะหนังแบบ Lounge สี Toffy light-brown ตัดกับกุ้นขอบสีขาวและด้ายเดินตะเข็บสีเขียว Turquoise นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Mayfair เช่น กาบบันได แดชบอร์ด กระจกมองข้าง และพวงมาลัย

          MINI Cooper 50 Mayfair ใช้เครื่องยนต์เบนซินสี่สูบขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ สามารถผลิตกำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบ และอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 9.1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 18.5 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ยเพียง 129 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ EU)

          MINI Cooper S 50 Camden
          โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย สไตล์อนาคต

          MINI 50 Camden เป็นการมองแบรนด์มินิในมุมมองจากอนาคต ก้าวล้ำ นำสมัย สำหรับชื่อ ‘Camden’ นี้ ก็เป็นไปตามธรรมเนียมการตั้งชื่อรุ่นพิเศษของมินิ ซึ่งปฏิบัติมาตั้งแต่มินิ คลาสสิก โดยการใช้ชื่อเขต (Borough) ของลอนดอน โดย Camden เป็นย่านแฟชั่นนำสมัยในใจกลางมหานครลอนดอน

          ดีไซน์เนอร์แสดงออกถึงคาร์แรกเตอร์ที่นำสมัย ล้ำยุค แฝงอารมณ์สปอร์ตของ MINI 50 Camden ผ่านการโทนสีที่ผสมผสานกันระหว่าง สีเงิน สีขาว และสีดำ โดยภายนอกใช้สีพิเศษ White Silver กับหลังคาสีขาว ล้ออัลลอยด์สีขาวลายพิเศษ White Shield ขนาด 17 นิ้ว ไฟหน้าแบบซีนอนรมดำพร้อมกับสติ๊กเกอร์ฝากระโปรงรูปแบบใหม่สีเงินวิ่งจากไฟฟ้าจรดเสากระจกหน้าให้มุมมองที่แปลกใหม่ ซึ่งเข้ากับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีเดียวกันคือ เบาะผ้าสลับหนังแบบ Ray สี Tech White / Carbon Black ด้ายเดินตะเข็บคู่สีเขียว Turquoise และสีขาว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Camden เช่น กาบบันได แดชบอร์ด และกระจกมองข้าง

          นอกจากนี้ MINI 50 Camden ยังได้รับการติดตั้งระบบเครื่องเสียงไฮไฟของ Harman Kardon พร้อมกับระบบ Mission Control ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้าน Interactive In-Car Entertainment

          MINI Cooper S 50 Camden ใช้เครื่องยนต์เบนซินสี่สูบขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbo และระบบฉีดน้ำมัน GDI Gasoline Direct Injection สามารถผลิตกำลังสูงสุด 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตรระหว่าง 1,600-5,000 รอบ ด้วยฟังก์ชั่น Over-boost ของเทอร์โบ มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 7.1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 16.1 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ยเพียง 149 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ EU)

          ราคาจำหน่าย
          (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรม MSI MINI Service Inclusive 3 ปี / 50,000 กิโลเมตร)

          MINI Cooper 50 Mayfair ราคา 2,600,000 บาท
          MINI Cooper S 50 Camden ราคา 3,000,000 บาท

          MSI 3 ปี/ 50,000 กิโลเมตร
          MINI Service Inclusive

          โปรแกรมบริการหลังการขาย MSI MINI Service & Repair Inclusive ซึ่งเป็นการรับดูแล บำรุงรักษาและซ่อมแซมตลอดระยะเวลา 3 ปี/ 50,000 กิโลเมตร ซึ่งจะสร้างความสบายใจให้กับเจ้าของรถมินิทุกท่าน

          โปรแกรม MSI เป็นสิทธิเฉพาะสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มินิผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:52:41 PM
ไทยเฌอรี่ยานยนตร ส่ง CHERY QQ อวดโฉมชุดแต่งสมาร์ทดีไซน์ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009
 
          นายดำรง  ดำรงกุลวัฒน์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเฌอรี่ยานยนตร จำกัด เผยว่า บริษัทเตรียมนำรถยนต์เฌอรี่ เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 หรือ Motor Expo 2009 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 13 ธันวาคม 2552 ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ว่า "สำหรับรถยนต์เฌอรี่รุ่น QQ เครื่องยนต์ 1.1 ลิตร ที่นำมาแสดงในบูธของไทยเฌอรี่ยานยนตร มีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ โดยแต่ละแบบจะได้รับการติดตั้งชุดอุปกรณ์ตกแต่งที่ดีไซน์ให้มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว น่ารัก สีสันสดใส บ่งบอกเอกลักษณ์ที่แสดงความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง อาทิ QQ 1.1 MT และ QQ 1.1 AMT พร้อมชุดแต่ง Sport Line และชุดแต่ง Quiz Line ซึ่งได้ตกแต่งทั้งภายในและภายนอก โดยลูกค้าสามารถเลือกสั่งจองซื้อได้ในราคาที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ที่นำมาแสดงอีก 2 รุ่น คือ Tiggo 2.0 AT และรุ่น Cross 2.0 AT"   

          โดยภายในงานจะเปิดจำหน่ายรถยนต์เฌอรี่รุ่น QQ 1.1 MT พร้อม Airbag คู่/เบาะหนังแท้/ล้อแมกซ์ 14 นิ้ว/วิทยุ CD MP3/สปอยเลอร์หลัง ราคา 389,400 บาท, รุ่น QQ 1.1 MT High Line พร้อม Airbag คู่/เบาะหนังแท้/ล้อแม็กซ์ 14 นิ้ว/วิทยุ CD MP3/ชุดปัดน้ำฝนหลัง/สปอยเลอร์หลัง  ราคา 393,900 บาท, รุ่น QQ 1.1 AMT พร้อม ABS/Airbag คู่/เบาะหนังแท้/ล้อแมกซ์ 14 นิ้ว/วิทยุ CD MP3/สปอยเลอร์  ราคา 429,900 บาท, รุ่น QQ 1.1 AMT High Line พร้อม ABS/Airbagคู่/เบาะหนังแท้/ล้อแม็กซ์14 นิ้ว/วิทยุ CD MP3/ชุดปัดน้ำฝนหลัง/สปอยเลอร์หลัง ราคา 434,400 บาท, รุ่น Tiggo 2.0 AT Tiptronic พร้อม ABS/Airbag คู่/เบาะหนังแท้/ล้อแม็กซ์ 16 นิ้ว/วิทยุ CD MP3/ชุดปัดน้ำฝนหลัง/สปอยเลอร์หลัง ราคา  825,000 บาท และรุ่น Cross 2.0 AT Tiptronic พร้อม ABS/Airbag คู่/เบาะหนังแท้/ล้อแม็กซ์ 16 นิ้ว/วิทยุ CD MP3/ชุดปัดน้ำฝนหลัง  ราคา 915,000 บาท 

          ทั้งนี้ ลูกค้าที่สั่งจองซื้อรถเฌอรี่ในงานนี้ จะได้รับมอบรถยนต์ไปฉลองปีใหม่ได้ ยกเว้น รุ่น B14 "CROSS" MPV 7 ที่นั่ง ที่จะส่งมอบให้ลูกค้าได้ในเดือนมกราคม ปี 2553
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:56:42 PM
มาสด้าผนึกกำลังรถใหม่สายพันธุ์สปอร์ตกระหึ่มงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป

 






 
เตรียมเทคนิคโชว์พิเศษรถมาสด้า2 ใหม่ลอยฟ้าครั้งแรกของประเทศไทย เทียบขั้นงานโชว์รถในต่างประเทศ

          · เตรียมเปิดตัวแนะนำมาสด้า CX-9 ใหม่ สปอร์ตครอสโอเวอร์หรู 7 ที่นั่ง พร้อมด้วยขบวนยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต มาสด้าครบทุกรุ่น

          บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมพื้นที่จัดแสดงรองรับรถสปอร์ตน้องใหม่ที่กำลังมาแรง New Mazda2 พร้อมเปิดตัวรถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่ง New Mazda CX-9 พร้อมยกขบวนยานยนต์พันธุ์สปอร์ตมาครบทุกรุ่น ทั้งมาสด้า3 มาสด้า บีที-50 ใหม่ และมาสด้า MX-5 ใหม่ ที่จะอวดโฉมให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ในงานมหกรรมยานยนต์ 2009 ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี พร้อมพบกับการแสดงสุดยอดเทคโนโลยี "ไลท์เวท" LIGHT WEIGHT TEHCNOLOGY ในการพัฒนารถสปอร์ตของมาสด้า ด้วยการลดน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็นของรถลง เพื่อให้สมรรถนะรถดีขึ้นและช่วยประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยีล้ำหน้านี้ถูกถ่ายทอดให้เข้าใจชัดเจน ด้วยการให้ฝูงนกกะเรียนยกรถมาสด้า2 ใหม่ ขึ้นสู่อากาศลอยเด่นอยู่ภายในบูธมาสด้า การแสดงรถลักษณะนี้มักพบในต่างประเทศ ครั้งนี้มาสด้าอิมพอร์ตการโชว์นี้มาแสดงให้ลูกค้าชาวไทยได้ชมกันทุกวันตลอดงาน และเพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์มาสด้ามาตลอด มาสด้าขอมอบแคมเปญสุดพิเศษรับดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 0.99% หรือผ่อนชำระเพียง 6,666 บาทต่อเดือน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตทุกรุ่นได้ง่ายขึ้น

          สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2552 นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี มาสด้าเตรียมพื้นที่บูธจัดแสดงยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตทุกรุ่นจากมาสด้า โดยเฉพาะรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสรถยนต์นั่งสปอร์ตที่กำลังฮ็อตสุดขีดจากมาสด้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งในปีนี้มีความพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากมาสด้าเตรียมนำเอารถยนต์มาสด้า2 ใหม่ลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมกันนี้ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ท่านจะได้พบกับ "เป้" อารักษ์ อมรศุภศิริ พรีเซ็นเตอร์คนแรกของมาสด้าประเทศไทย พร้อมการแสดงสุดอลังการสไตล์มาสด้า เพื่อสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินตลอดงาน 

         มร. จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความสำเร็จอย่างดียิ่งในการเปิดตัวรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ซึ่งเป็นเซ็กเม้นต์ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก นับว่าเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้า เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ผู้นำที่ฮิตติดตลาด จากความสำเร็จอย่างดียิ่งในการเปิดตัวรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ นับเป็นปรากฎภารณ์ที่สำคัญยิ่งเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงพัฒนาการของมาสด้าตลอดระยะเวลา 58 ปีที่เราดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งคุณภาพของรถยนต์ Mazda2 ได้รับการการันตีด้วยรางวัลกว่า 51 รางวัลทั่วโลก รวมถึงรางวัลอันทรงคุณค่า และเป็นที่น่าภาคภูมิใจที่สุด คือ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก (World Car of the Year 2008) ภายหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ รถมาสด้า2 ใหม่ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างสูงในกลุ่มลูกค้าชาวไทย พิสูจน์ชัดจากตัวเลขยอดจองที่ถล่มทะลายกว่า 2,800 คัน

         นอกจากนี้ มาสด้าเตรียมพร้อมที่จะเผยโฉมรถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู New Mazda CX-9 ถูกออกแบบขึ้นอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ผสมผสานความกลมกลืนระหว่าง ประโยชน์ใช้สอย ความประณีต และความโดดเด่นจากภายนอกสู่ภายในเข้ากันอย่างลงตัว ด้วยรูปลักษณ์สปอร์ตอันปราดเปรียว แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา และอรรถประโยชน์ใช้สอยอย่างเหนือชั้น ยากที่จะหายนตรกรรมอื่นมาเปรียบเทียบได้ แม้ว่าจะเป็นรถ Sports Crossover แบบ 7 ที่นั่ง ที่เน้นเรื่องความหรูหรา แต่ยังคงรักษาไว้ซึ่ง DNA ของความเป็นรถยนต์นั่งสายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้าอย่างเต็มเปี่ยมในทุกรายละเอียด ที่ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของด้วยราคาเพียง 3,690,000 บาท มาพร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. และค่าบำรุงรักษาตามระยะ 3 ปี หรือ 100,000 กม.

          จอห์น กล่าวเพิ่มเติมว่า "มาสด้ายังมีรถยนต์อีกหลายรุ่นให้ท่านได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์นั่งสปอร์ต New Mazda3 ที่ยังคงความร้อนแรงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเติบโตถึง 37% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลก New Mazda MX-5 รถสปอร์ตปิคอัพพลังแรง New Mazda BT-50 ที่มาพร้อมระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DE-S ทั้งแน่นและหนึบ นอกจากนี้ เรายังมอบข้อเสนอสุดพิเศษพลาดไม่ได้เฉพาะงานนี้ สำหรับยนตกรรมสายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้าทุกรุ่น ที่สำคัญ มาสด้ายังคงมุ่งมั่นเสริมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ของเราที่มุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งในด้านการขายและบริการหลังการขาย"
 

         โปรโมชั่นสุดพิเศษที่ให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์จากมาสด้าได้ง่ายขึ้น ด้วยเงื่อนไขพิเศษสุดๆ สำหรับรถปิคอัพมาสด้า บีที-50 ใหม่ รุ่น FSC VCD ฟรีสไตล์แค็บ หรือบานแค็บเปิดได้ เงินดาวน์ต่ำ รับดอกเบี้ย 0.99 เปอร์เซ็นต์ พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้น 1 หรือเริ่มผ่อนชำระเพียงเดือนละ 6,666 บาท และ รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ราคาเริ่มต้นเพียง 777,000 บาท เงินดาวน์ต่ำเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99% พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานานถึง 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร รถสปอร์ตโรดสเตอร์ New Mazda MX-5 ฟรีประกันภัยชั้น1 ฟรีค่าบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร

          นอกจากนี้ ลูกค้าที่ออกรถสปอร์ตซิตี้คาร์ มาสด้า2 ใหม่ และสปอร์ตครอสโอเวอร์หรู 7 ที่นั่ง รับฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับลูกค้า 2,000 ท่านแรกที่จอง และออกรถมาสด้า2 ใหม่ก่อนสิ้นปีนี้ รับฟรี ของที่ระลึกจากภาพยนตร์ทไวไลท์ 2 นิวมูน สั่งนำเข้าจากอเมริกา มูลค่า 500 บาท เช่น นาฬิกาข้อมือ เสื้อ T-Shirt และป้ายห้อยคอลายภาพยนตร์

          ที่สำคัญ ทดลองขับยนตกรรมสายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้าทุกรุ่นในงาน รับฟรีทันที แก้วน้ำ Zoom-Zoom มูลค่า 199 บาท จำนวนจำกัด และสำหรับลูกค้าที่จองรถในงาน รับฟรี กระเป๋าเป้ Zoom-Zoom มูลค่า 999 บาท เมื่อออกรถภายใน 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552 เฉพาะ 1,000 ท่านแรกเท่านั้น
 

         ดังนั้น ลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสการในการเป็นเจ้าของยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจ แบบ ซูม-ซูม ด้วยสมรรถนะเป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในความปลอดภัย อบอุ่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมทดลองขับก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของ และรับข้อเสนอสุดพิเศษจากมาสด้าได้แล้ววันนี้ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั้ง 106 แห่งทั่วประเทศ
รถยนต์ของมาสด้าเป็นที่คุ้นเคยในเมืองไทยมานานกว่า 58 ปี และยังคงดำเนินบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย มาสด้ามุ่งมั่นในการนำอารมณ์สนุกสนานวัยเด็กกลับมาสู่ทุกท่านอีกครั้ง ด้วยการผลิตรถยนต์ภายใต้แนวคิด "ซูม-ซูม" อันเปี่ยมไปด้วยคุณลักษณะแห่งความ "ท้าทาย" "สร้างสรรค์" และ "ร่าเริง" เพื่อให้ทุกการขับขี่ของคุณไม่ใช่เพียงการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง นอกเหนือจากยนตรกรรมอันทรงเอกลักษณ์แล้ว เรายังทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาการบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าของมาสด้าทุกท่านได้รับความพึงพอใจ เพราะเรายึดมั่นว่า รอยยิ้มของท่านคือความภาคภูมิใจของเรา

          เชิญสัมผัสและทดลองขับรถยนต์นั่งสปอร์ตซีดานมาสด้า3 และสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 สปอร์ตปิคอัพ พลังแรง และรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 106 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มาสด้า สปีดไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2661-9880 หรือต่างจังหวัดโทรฟรี ได้ที่หมายเลข 1-800-226-408
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:58:32 PM
ในฐานะ ‘The World’s Most Sustainable Car Company’ บีเอ็มดับเบิลยูชูความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics พร้อมเปิดตัว BMW 320i SE DVD+Navigator และมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26


 
          ในฐานะ ‘The World’s Most Sustainable Car Company’ บีเอ็มดับเบิลยูชูความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics พร้อมเปิดตัว BMW 320i SE DVD+Navigator และมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26

          บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยประกาศเปิดตัวรถยนต์ BMW 320i SE DVD+Navigator (ราคา 2,749,000 บาท) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 พร้อมทั้งจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทั้งหมด 19 รุ่น อีกทั้งยังมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถในงาน

          มร. คาร์ล รูดิเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า “ตามคอนเซ็ปต์ของงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 ‘Driving ... For Sustainability’ หรือ ‘ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน’ ... บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยตอบโจทย์ด้วยการจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นต่างๆ ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการยกย่องให้เป็น The World’s Most Sustainable Car Company จากการจัดอันดับของ Dow Jones Sustainability Index ถึง 5 สมัยซ้อน นอกจากนั้นเรายังเปิดตัวรถยนต์ BMW 320i SE DVD+Navigator ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของบีเอ็มดับเบิลยูอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้เปิดตัวเทคโนโลยีระบบนำทาง BMW Navigation System Professional อย่างพร้อมกันในทุกเซ็กเมนท์ ทั้งในซีรี่ย์ 3, ซีรี่ย์ 5 และซีรี่ย์ 7 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา”

          แคมเปญจ์พิเศษ
          Motor Expo 2009

          โปรแกรมเช่าซื้อ “จ่ายรายเดือนเพียง 1% ของราคารถ” สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นหลัก เช่น BMW 320d, BMW 520d, BMW 730Ld และ BMW Z4 sDrive23i บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียลเซอร์วิส ประเทศไทยมอบเงื่อนไขพิเศษด้วยโปรแกรม “จ่ายรายเดือนเพียง 1% ของราคารถ” สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวอยู่บนเงื่อนไขการเช่าซื้อแบบบอลลูน ด้วยเงินดาวน์ 30% และระยะเวลาผ่อน 60 เดือน

          ตัวอย่างสำหรับโปรแกรมเช่าซื้อ “จ่ายรายเดือนเพียง 1% ของราคารถ”
 
รุ่น ราคาจำหน่าย (บาท) ค่างวดรายเดือน (บาท)
BMW 320d 2,699,000 26,990
BMW 320d SE 2,899,000 28,990
BMW 520d 3,699,000 36,990
BMW 730Ld 7,599,000 75,990
BMW Z4 sDrive23i 4,599,000 45,990

 
          ของขวัญพิเศษ iPhone 3Gs or iPod Nano. สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อรถรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 และรับรถภายใน 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552 นี้ จะได้รับของขวัญพิเศษเป็น iPhone 3Gs ยกเว้นบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 3 สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ย์ 3 จะได้รับของขวัญพิเศษเป็น iPod Nano

          BMW 740Li ราคาพิเศษ 8,999,000 บาท. โอกาสสุดท้ายสำหรับราคาพิเศษของ BMW 740Li ในราคาช่วงแนะนำ 8,999,000 บาท สำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถ BMW 740Li ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 นี้เท่านั้น หลังจากนั้นราคาจะปรับขึ้นเป็น 9,299,000 บาท

          BMW 520d Corporate Edition ราคาพิเศษ 2,999,000 บาท. โอกาสสุดท้ายผู้ที่สนใจ BMW 520d Corporate Edition ซึ่งมีจำนวนจำกัด

          ไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ใหม่

          BMW 320i SE DVD+Navigator ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics เครื่องยนต์นี้สามารถผลิตแรงม้าสูงสุด 156 แรงม้าที่ 6,400 รอบและแรงบิดสูงสุดมากถึง 200 นิวตัน-เมตรที่ 3,600 รอบ พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Steptronic สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 9.8 วินาที และมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ย 191 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ EU)

          BMW 320i SE DVD+Navigator มาพร้อมกับระบบ CIC Car Infotainment Computer ซึ่งรวมถึงระบบ BMW Navigation System Professional ระบบ DVD พร้อมทั้งระบบ Bluetooth และ iPod USB Connector นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ความปลอดภัยและระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ระบบไฟหน้าแบบ Bi-Xenon, ระบบกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ, ระบบพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบควมคุมความเร็ว Cruise Control, ระบบ Comfort Access, ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Control, ม่านบังแดดกระจกหลัง เป็นต้น

          iDrive ศูนย์บัญชาการข้อมูล CIC Car Infotainment Computer สั่งการระบบข้อมูลแผนที่นาวิเกเตอร์ โทรศัพท์ และระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ BMW Navigation System Professional +DVD + Bluetooth + iPod USB Connector

          ระบบข้อมูลแผนที่นาวิเกเตอร์ ระบบบลูธูทเชื่อมโทรศัพท์มือถือ และระบบเอนเตอร์เทนเมนท์สำหรับดูหนังฟังเพลง สามารถควมคุมสั่งการได้อย่างง่ายๆผ่านระบบศูนย์บัญชาการข้อมูล iDrive เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งระบบ iDrive ใหม่นี้ใช้ตรรกะการใช้งานง่าย พร้อม7 ปุ่ม Shortcut เชื่อมตรงเข้าระบบที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น ระบบนาวิเกเตอร์ ระบบโทรศัพท์ และระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถโปรแกรมปุ่ม favorite เพื่อเลือกใช้งานสิ่งที่ตนเองใช้งานบ่อยๆ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ สถานีเพลงที่ชอบ และอื่นๆ

          ระบบ BMW Navigation System Professional เป็นระบบนำทางที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ทำงานบนฮาร์ดดิสก์ขนาด 80 กิ๊กกะไบท์ ประมวลผลได้อย่างรวดเร็วทันใจ ฮาร์ดแวร์ของระบบ BMW Navigation System Professional สามารถรองรับซอฟแวร์แผนที่แบบสามมิติความละเอียดสูง แสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ความละเอียดสูง 1280x480 พิกเซล แสดงแผนที่ได้หลายมุมมอง และสามารถแยกจอแสดงผลเป็นสองส่วนได้

          นอกจากระบบ CIC จะเป็นศูนย์รวมข้อมูลและระบบสั่งการของรถ เช่น ระบบ On-board Computer ระบบการตั้งค่าการทำงานต่างๆ (ยกตัวอย่างเช่น ระบบล็อคประตู ระบบ follow me home ระบบไฟเลี้ยว) ยังรวมถึงระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ผ่านระบบ DVD สำหรับดูหนังฟังเพลง อีกทั้งยังสามารถ ‘rip’ เพลงที่ชอบเก็บในระบบฮาร์ดดิสก์ได้อีกด้วย และผ่านระบบ iPod USB Connector ที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPod และ iPhone ได้

          สำหรับข้อมูลเพื่อเติมเกี่ยวกับแคมเปญจ์ Motor Expo 2009 นี้ (หรือผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆจากบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียลเซอร์วิส ประเทศไทย) สามารถติดต่อได้ที่ BMW Contact Center โทร. 1-800 269-269 (ถ้าโทรออกจากโทรศัพท์มือถือ โทร. 1-401-269-269) หรือติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วประเทศ
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 01:59:23 PM
ครั้งแรกกับสุดยอด Proton Exora สัมผัสประสบการณ์อีกระดับ กับ MPV 7 ที่นั่ง

 

          บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Proton ในประเทศไทย นำเข้ารถยนต์ตัวใหม่ล่าสุด Proton Exora ยานยนต์เหนือระดับ สัมผัสประสบการณ์ความกว้างสบายใหม่กับ MPV 7 ที่นั่ง ซึ่งจะเปิดตัว อย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ต้นเดือนธันวาคมนี้

          Proton Exora จากค่ายโปรตอน นับเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย Exora เป็นผลิตผลของโปรตอนที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาอย่างละเอียดรอบคอบเป็นเวลาหลายปี  โดยได้รวมองค์ประกอบเรื่องพื้นที่ รูปแบบ สมรรถนะและความปลอดภัย  จึงได้รับการออกแบบให้เป็นสุดยอดยานยนต์เหนือระดับ ผสานเทคโนโลยีช่วงล่างจากรถ Lotus ประเทศอังกฤษ

          Exora มีความเหมือนกับโปรตอน Gen 2 และ Neo  คือ ใช้การทดลองและทดสอบกับเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลัง 1.6 ลิตรเหมือนกัน แต่ Exora มีการเพิ่มเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน (CPS : Cam Profile Switching) สำหรับในส่วนของเครื่องยนต์มีการใช้เทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมสองแบบ คือ เทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน (CPS or Cam Profile Switching) และเทคโนโลยีท่อไอดีแปรผัน (Variable Intake Manifold technology) ทำให้กำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่สามารถดำรงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงไว้ได้ เทคโนโลยีการรวมเครื่องยนต์ทั้งสองอย่างที่แตกต่างกันมาอยู่ในชุดเดียวกันนี้ ทำให้ Exora มีความโดดเด่นที่ได้จากการรวมเทคโนโลยีทั้งสอง กล่าวคือ สามารถใช้ช่องของท่อไอดีที่มีขนาดยาว ช่วยทดแทนแรงบิดที่ลดลงอันเกิดจากเพลาลูกเบี้ยวยกตัวสูงขึ้น ในขณะที่ช่องของท่อไอดีที่มีขนาดสั้น ช่วยให้เครื่องยนต์มีพลังขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่สูงขึ้น

          Exora  ได้รับการออกแบบสำหรับการเดินทางไกลของครอบครัว มีการปรับการขับขี่ที่ช่วยให้ผู้ขับมั่นใจและมีความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกลบนท้องถนน ในแง่ของความปลอดภัย ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารที่นั่งส่วนหน้าจะสัมผัสถึงมาตรฐานความปลอดภัยของ Exora จากการมีถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้าพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pre-tensioner seat-belts)  ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นมีเดียมไลน์ (Medium Line) และรุ่นไฮไลน์( High Line) ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบเบรกทั้ง ABS  (Anti-lock Braking System)  และ EBD (Electronic Brake-force Distribution) ที่ช่วยให้รถยนต์ที่ขับขี่มาด้วยความเร็วสูงสามารถหยุดได้อย่างรวดเร็วด้วยความปลอดภัย และที่สำคัญที่สุด คือ ห้องโดยสารมีความแข็งแรงและใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบโครงสร้างป้องกันการชน ซึ่งช่วยให้รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดความปลอดภัยของ ยูโร เอ็นแคป (Euro-Ncap) ระดับ 4 ดาว สำหรับความโดดเด่นของเทคโนโลยีด้านอื่นๆ ได้แก่ การใช้ส่วนประกอบเหล็กกล้าที่เป็นการผสมผสานระหว่างไฮโดรฟอร์ม ( Hydro-formed) และ โครงสร้างเสริมแบบพิเศษด้านหน้า ที่มีความแข็งแกร่งสูง เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ Exora เป็นรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบา แต่เพียบพร้อมด้วยความแข็งแกร่งและปลอดภัย

          สำหรับห้องโดยสารภายใน มีการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ปรับปรุงทั้งในด้านการกันเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งระบบเก็บเสียงที่มีคุณภาพสูงนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถสนทนากันด้วยระดับเสียงปกติ และสามารถรับฟังเพลงหรือชมภาพยนตร์ (เฉพาะรุ่น High Line) ที่ชื่นชอบได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกสบายในการขับขี่ระยะไกล Exora  จึงได้ติดตั้งที่วางเครื่องดื่มถึง 10 จุด เพื่อช่วยให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถวาง และหยิบขวดเครื่องดื่มได้สะดวกสบายมากขึ้น ในส่วนของสัมภาระ Exora  มีพื้นที่กว้าง โดยออกแบบให้เก้าอี้ทั้ง  6  ที่นั่งสามารถปรับพับได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น กลไกการพับพนักที่นั่งนั้นช่วยให้การพับพนักที่นั่งแถวที่สองทำได้ง่ายขึ้น  เปิดช่องกว้างให้ผู้โดยสารเข้าไปยังแถวที่นั่งที่สามได้ ประตูหลังสามารถเปิดได้กว้างถึง 80 องศา  เอื้อต่อการขึ้นลงของผู้โดยสาร นอกจากนี้ Exora จัดให้มีช่องระบบปรับอากาศให้กับทุกแถวที่นั่ง ช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความเย็นสบายทั่วถึงในวันที่มีอากาศร้อนอบอ้าว

          จุดเด่นอีกจุดหนึ่งของ Exora คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แบบ BCM หรือ the Body Control Module  ซึ่งติดตั้งในรถยนต์ยุโรประดับสูง   Exora เป็นรถรุ่นแรกในค่ายโปรตอนที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ BCM พร้อมตัวเลือกและอุปกรณ์ใหม่อื่นๆ มากมายเพื่อเพิ่มการใช้งานและความปลอดภัย BCM  ทำหน้าที่ได้มากกว่า 20 ฟังก์ชั่น  อาทิ  ไฟนำทางเข้าบ้าน การตั้งโปรแกรมการล็อกประตู การควบคุมการทำงานที่ปัดน้ำฝน การทำงานของสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติระหว่างการหยุดโดยฉุกเฉินจากความเร็วที่ 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

          Proton Exora ทุกรุ่น มีสีให้เลือก 4 สี ได้แก่
          -  สีเงิน (Genetic Silver)
          - สีดำ (Tranquility Black)
          - สีขาว (Solid White)
          - สีฟ้า (Gaia Blue)
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:01:32 PM
มาสด้าเปิดศึกชิงผู้นำตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ เผยโฉม CX-9 ใหม่ รถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่ง

    

        บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศพร้อมเดินหน้าลุยตลาดรถอเนกประสงค์เมืองไทย ภายหลังแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มมีทิศทางสดใส เปิดตัวแนะนำรถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่ง New Mazda CX-9 สปอร์ตหรูรา สง่างาม โดดเด่น มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3,700 ซีซี ให้พลังแรงเต็มพิกัด พัฒนาการที่ลงตัวของความหรูหรา ความสปอร์ต และประโยชน์ใช้สอย โดดเด่นในทุกรายละเอียด คงไว้ซึ่ง DNA สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ซูม-ซูม" ด้วยรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน โชว์เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมยานยนต์ล้ำอนาคต พร้อมระบบความปลอดภัยเต็มคัน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบครบครับ เผยเคาะราคาราคาเพียง 3.69 ล้านบาท เปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ที่ชาเลเจอร์ เมืองทองธานี ในระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมศกนี้

          จอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่มาสด้า CX-9 ประสบความสำเร็จอย่างมากในทันทีที่เปิดตัวสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกในปี 2550 และยังเป็นผู้นำในการกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์กลุ่ม SUV อเนกประสงค์ที่นั่ง 3 ตอน ด้วยการออกแบบเพื่อความคล่องตัวรอบด้าน มีสไตล์ และเน้นความปลอดภัยสูงสุด ตลอดจนสมรรถนะการทำงาน รถรุ่นใหม่ซึ่งเป็นรถรุ่นเด่นในคลาส SUV ของมาสด้านี้ สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ลูกค้าและนักวิจารณ์ด้านยานยนต์มาแล้วหลังจากก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของสายการผลิต ในการออกแบบโฉมใหม่ มาสด้า CX-9 ได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้โดดเด่นสะดุดตาทั้งตัวถังและภายในห้องผู้โดยสาร พร้อมออพชั่นต่างๆ เต็มอัตรา ทั้งยังเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นอีกด้วย

          มาสด้า CX-9 ใหม่ ไม่เพียงโดดเด่นแต่เพียงรูปลักษณ์ แต่ยังเป็นรถยนต์ Sports Crossover 7 ที่นั่ง ที่ครบครันไปด้วยประโยชน์ใช้สอย ผนวกเข้าด้วยกันกับความสะดวกสบายในแบบรถยนต์นั่งระดับหรูในแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน วัสดุและการตกแต่งภายในของ มาสด้า CX-9 ใหม่โดดเด่นกว่ายนตรกรรมในระดับเดียวกัน ด้วยคุณภาพและความประณีตในระดับสูงสุดในทุกรายละเอียด เบาะนั่งและแผงประตูหุ้มด้วยหนังแท้คุณภาพสูงเย็บตะเข็บสองชั้นอย่างพิถีพิถัน คอนโซลหน้าและแผงประตูยังตกแต่งด้วยลายไม้ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้ ผสมผสานเข้ากับไฟเรืองแสงสีฟ้าในห้องโดยสารที่สามารถสร้างบรรยากาศอันรื่นรมย์ได้ในทุกช่วงเวลาการขับขี่ แผงหน้าปัดทรงกลม พร้อมกรอบโครเมียมยังให้ทั้งความสปอร์ตและความมีระดับอย่างลงตัว



          หัวใจสำคัญของพลังขับเคลื่อนอันยอดเยี่ยมของมาสด้า CX-9 ใหม่ มาจากเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.7 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน S-VT ที่ให้พลังสูงถึง 273 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 367 นิวตันเมตร โดยแรงบิดกว่า 90% อยู่ในช่วงรอบเครื่องต่ำตั้งแต่ 2,800 รอบถึง 5,800 รอบต่อนาที ผนวกกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะควบคุมด้วยสมองกลประสิทธิภาพสูง ที่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดาด้วยระบบ Manual Mode Activematic ทำให้มาสด้า CX-9 ใหม่มีการตอบสนองที่ฉับไวและให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่องในทุกย่านความเร็วโดยไม่ต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูงเพื่อลดการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ V6 ของมาสด้า CX-9 ใหม่ ยังมีประสิทธิภาพการทำงานที่ราบเรียบ ไร้แรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน เพื่อสุนทรียภาพในการขับขี่ในทุกช่วงความเร็ว

เตรียมพบกันรถสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู New Mazda CX-9 ได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 ในระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2552 หรือที่พรีเมี่ยมโชว์รูมมาสด้าทั่วกรุงเทพฯ ได้แล้ววันนี้
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:07:26 PM
มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ ส่งเลกาซี โฉมใหม่ พร้อมยนตรกรรมสายพันธุ์สปอร์ตครบทุกรุ่น กระตุ้นยอดขายในงาน มอเตอร์ เอ๊กซ์โป 2009

 

 

         บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ซูบารุ จากประเทศญี่ปุ่น เตรียมพื้นที่จัดแสดงรถยนต์แบรนด์ซูบารุทุกรุ่น ภายใต้แนวคิด “Experience Beyond Words” เพื่อรองรับสุดยอดรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ต เครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ (Symmetrical All Wheel Drive; AWD) ที่พร้อมอวดโฉมให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ในงานมหกรรมยานยนต์ 2009 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          โดยในปีนี้ ถือเป็นวาระพิเศษ ที่บริษัทฯ นำสุดยอดสตั๊นท์ ไดร์ฟเวอร์ ระดับโลก “รัสส์ สวิฟท์” มาเปิดการแสดงโชว์ขับผาดโผน เพื่อสร้างความตื่นเต้นและเร้าใจให้กับผู้ชมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย กับกิจกรรม “ซูบารุ – รัสส์ สวิฟท์ สตั๊นท์ ไดร์ฟ โชว์ 2009”
   

        สำหรับสุดยอดยนตรกรรมที่นำมาจัดแสดงภายในบูธรถยนต์ซูบารุ ประกอบไปด้วย ซูบารุ เลกาซี โฉมใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5 รถยนต์รุ่นล่าสุด ที่เพิ่งออกสู่ตลาดโลก โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ชวนตื่นตาและสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์สูบนอนอันลือชื่อที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของซูบารุ มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ นวัตกรรมที่โดดเด่นและถือเป็นสุดยอดเทคโนโลยีของซูบารุ เลกาซี ใหม่ นี้ ไม่เพียงปรากฏให้เห็นเฉพาะการออกแบบรูปลักษณ์และสมรรถนะของเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความสวยงามจากการดีไซน์อันลงตัว พร้อมสรรพด้วยอรรถประโยชน์ใช้สอยเหนือระดับ ทั้งด้านความปลอดภัยในการยึดเกาะถนน และเสริมสร้างความคล่องตัว ตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างเหนือชั้น ให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายด้วยการออกแบบที่เหมาะสม ภายในสปอร์ต หรูหรา ทันสมัย ด้วยวัสดุชั้นเยี่ยมเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความมีระดับ ในทุกการขับขี่ได้อย่างแท้จริง

          ซูบารุ เลกาซี ใหม่ คือ สุดยอดยนตรกรรมที่สมบูรณ์แบบของซูบารุ ที่คุณสามารถสัมผัสถึงความโดดเด่นอย่างแตกต่างได้เพียงแรกเห็น

          นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูบารุ เลกาซี ใหม่ ได้รับการออกแบบด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม ชวนตื่นตา และสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน ด้วยสมรรถนะที่เร้าใจในการขับขี่ ขุมพลังของเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เอกสิทธิ์เฉพาะของรถยนต์ซูบารุ มาพร้อมกับสุดยอดเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Symmetrical All Wheel Drive; AWD ความเป็นนวัตกรรมล้ำหน้าของซูบารุ

          เพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์ และสมรรถนะของเครื่องยนต์ ทำให้ซูบารุ เลกาซี ใหม่ เป็นสุดยอดยนตรกรรมแห่งปี ที่ให้ความสมดุลย์ระหว่างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ Experience Beyond Words และในขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกการขับขี่อีกด้วย
 

         ซูบารุ เลกาซี ใหม่ ที่นำมาโชว์ภายในงาน มหกรรมยานยนต์ 2009 คือ ซูบารุ เลกาซี รุ่น 2.0i แบบซีดาน และ ซูบารุ เลกาซี รุ่น 2.0i แบบแวกอน ทั้งสองรุ่นดีไซน์สปอร์ตเหนือชั้น สร้างความเร้าใจทุกการขับขี่ เสริมความปลอดภัยด้วยระบบโครงสร้างนิรภัยแบบ Ring-Shaped Reinforcement Frame โครงสร้างตัวถังที่สามารถดูดซับและกระจายแรงปะทะให้น้อยลง พร้อมด้วยดิสก์เบรค 4 ล้อ, ระบบเบรค ABS ช่วยป้องกันล้อล็อคและการลื่นไถลจากการเบรคแบบกะทันหัน เสริมระบบกระจายแรงเบรค EBD ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรค และลดระยะเบรคให้สั้นลง มาพร้อมเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 2,000 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และสุดยอดเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ (Symmetrical All Wheel Drive; AWD)

ซูบารุ เลกาซี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ Satin White Pearl (ขาวมุก) , Steel Silver Metallic (บรอนซ์เงินเข้ม) Graphite Grey Metallic (เทาดำ) และ Crystal Black Silica (ดำ) โดยราคาจำหน่ายของซูบารุ เลกาซี แบบซีดาน 1,980,000 บาท และราคาจำหน่ายของซูบารุ เลกาซี แบบแวกอน 2,050,000 บาท

          สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ซูบารุเตรียมพื้นที่บูธจัดแสดงไว้ 448 ตารางเมตร เพื่อรองรับลูกค้าที่ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต สมรรถนะสูงทุกรุ่นจากซูบารุ ซึ่งนอกจากจะมีไฮไลท์ของงานคือ ซูบารุ เลกาซี ใหม่ แล้ว ซูบารุ ยังนำรถยนต์ครบทุกรุ่นมาจัดแสดง อาทิ ซูบารุ อิมเพรสซ่า แบบแฮทซ์แบค, ซูบารุ อิมเพรสซ่า แบบซีดาน และซูบารุ ฟอร์เรสเตอร์ ผู้สนใจสามารถเข้าชม ติดต่อขอทดลองขับและจับจองเป็นเจ้าของยานยนต์สมรรถนะสูงสายพันธุ์สปอร์ต พร้อมรับเงื่อนไขพิเศษ ได้ที่บูธ รถยนต์ซูบารุ ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม ถึง 13 ธันวาคม 2552 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือที่โชว์รูม รถยนต์ซูบารุ โทร. 0-2725-1888

          และนอกจากความน่าสนใจในการเข้าชมยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะสูงจากซูบารุแล้ว ในปีนี้ บริษัทฯ ยังจัดกิจกรรมพิเศษที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน คือ การนำนักขับผาดโผนระดับโลก สัญชาติอังกฤษ “รัสส์ สวิฟท์” มาแสดงโชว์ขับรถแบบสตั๊นท์ ไดร์ฟเวอร์ เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบการขับรถแบบผาดโผนได้ชมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

          “การนำสตั๊นท์ ไดร์ฟเวอร์ ระดับโลกมาเปิดการแสดงเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับตลาดรถเมืองไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังทำให้ลูกค้าได้เข้าถึงแบรนด์ ซูบารุ ในภาพลักษณ์ของรถยนต์สมรรถนะสูง ที่เพียบพร้อมไปด้วยความปลอดภัย เราเชื่อว่ากิจกรรม สตั๊นท์ ไดร์ฟ โชว์ จะสามารถสร้างความสนใจและสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ได้เข้าชมเป็นอย่างดี เพราะหากได้สัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่รถยนต์ซูบารุแล้ว จะรู้สึกถึงความสนุก ท้าทายและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณในทุกการขับขี่ของยานยนต์สมรรถนะสูงจากซูบารุ” นายอภิชัย กล่าว

          “รัสส์ สวิฟท์” เป็นเจ้าของสถิติ เวิล์ด ออฟ เรคคอร์ด ที่ได้รับการบันทึกสถิติโลกลงในกินเนสส์ บุ๊ค มาแล้วถึง 3 สถิติ ประกอบด้วย การทำโดนัท (Doughnut) 10 รอบ ในเวลาเพียง 16.07 วินาที ซึ่งเป็นเวลาน้อยที่สุดในโลก, การเข้าจอดระหว่างรถสองคันโดยการสไลด์รถ หรือที่เรียกว่า พาราเรล พาร์คกิ้ง (Parallel Parking), การกลับรถแบบเจเทิร์น (J-Turn) หรือการถอยหลังแล้วกลับรถ 180 องศา โดยใช้พื้นที่แคบที่สุดเพียง 172 เซนติเมตร

          การแสดงสุดยอดสตั๊นท์โชว์ระดับโลกในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ลานจอดรถ P9 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 4 – 7 ธันวาคม 2552 โดยในวันที่ 4 ธันวาคม เปิดการแสดงเพียงรอบเดียว คือเวลา 16.00 น. เป็นรอบพิเศษสำหรับสื่อมวลชนและบุคคลสำคัญ และวันที่ 5 – 7 ธันวาคม 2552 เปิดแสดงสำหรับบุคคลทั่วไป วันละ 3 รอบ คือ เวลา 14.00 น. , 16.00 น.และ 18.00 น. ท่านที่สนใจเข้าชมสุดยอดการแสดง รัสส์ สวิฟท์ สตั๊นท์โชว์ สามารถติดต่อขอรับบัตรเข้าชมฟรี (จำนวนจำกัด) ได้ที่บูธรถยนต์ซูบารุ B05 ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:08:49 PM
BRG พร้อมโชว์ศักยภาพเต็มสูบ เข้าร่วมงาน Motor Expo 2009 เป็นครั้งแรก!!

    

        BRG รามคำแหงกรุ๊ป ผู้นำเข้ายนตรกรรมชั้นนำสุดหรูจากทั่วโลก พร้อมศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานครบวงจร ดำเนินธุรกิจและสั่งสมประสบการณ์ในด้านรถยนต์มายาวนานกว่า 32 ปี ภายใต้การบริหารงานโดย คุณสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยทายาท 2 สาวสวยต่างบุคลิกรุ่นใหม่ไฟแรง คุณอัจจิมา ศรีรัตนประภาส กรรมการบริหาร และคุณชลลธร ศรีรัตนประภาส กรรมการบริหาร ปัจจุบัน BRG มีโชว์รูม 3 แห่งด้วยกัน คือ โชว์รูมรามคำแหง ,โชว์รูมรัชโยธิน และโชว์รูมเพชรบุรี
          BRG พร้อมโชว์ศักยภาพเต็มสูบ เข้าร่วมงานจัดแสดงโชว์รถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ประจำปี ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 หรืองาน Motor Expo 2009 เป็นครั้งแรก!! โดย BRG ได้จองพื้นที่เพื่อโชว์รถยนต์ในงานกว่า 750 ตร.ม. ด้วยเงินลงทุนกว่า150 ล้านบาท BRG ได้เนรมิตพื้นที่กว่า 750 ตร.ม. ให้เป็นโชว์รูมรถยนต์สุดหรูที่สวยงามตระการตาพร้อมห้องรับรอง VIP LOUNGE สุดเลิศหรู เพื่อรองรับลูกค้าคนสำคัญโดยเฉพาะ พร้อมทั้งขนเหล่ากองทัพรถยนต์สุดหรูหลากหลายรุ่น-หลากหลายยี่ห้อ-หลากหลายสไตล์ จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อมาโชว์ในงาน 20 กว่ารุ่น เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้ยลโฉม ยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ กับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยพร้อมสัมผัสและครอบครองเป็นเจ้าของได้ทันทีภายในงาน พร้อมรับแคมเปญ Special Gift For Special Person พิเศษครั้งเดียวในรอบปี ที่ BRG ตั้งใจมอบให้ลูกค้าคนสำคัญของ BRG เท่านั้น!! รับของขวัญชิ้นพิเศษกับ Campaign Shop ที่ลูกค้าเลือก Shopping ได้ตามใจ พร้อมดอกเบี้ยสุดพิเศษในงาน สนับสนุนโดยลิสซิ่งกสิกรไทย
1. Premium Package
ของขวัญสำหรับคุณผู้ชาย : Package World Cup 2010 ตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศ
แอฟริกาใต้ และที่พัก พร้อมตั๋วเข้าชมศึกฟุตบอลโลกชนิดเกาะติดขอบสนาม , นาฬิกา Tag
Heuer ,นาฬิกา Omega,นาฬิกา Porsche Design
ของขวัญสำหรับคุณผู้หญิง : กระเป๋าสุดหรู Hermes’Bag , กระเป๋า Chanel ,บัตรกำนัลให้เลือก
Shopping กับ Voucher Central

2. Value Package จองเท่าไหร่.....รับส่วนลดไปเท่านั้น

3. Full Option Package ประกันภัยชั้น 1 ฟรี,บัตรเติมน้ำมัน, Maintenance 1 ปี , Warranty 3 ปี
ดอกเบี้ยสุดพิเศษ

พิเศษ!! เฉพาะลูกค้า Benz Vito รับเพชร 2 กะรัต มูลค่า 600,000 บาท, ทองคำ หรือ
ส่วนลดเงินสด 400,000 บาท
กองทัพรถยนต์ภายในงาน
1. กองทัพ MPV
- Estima Kenstyle 2.4 G
- New Stepwagon Spada
- Benz Vito
- Sprinter



2. กองทัพ SUV
- Harrier Kenstyle
- Prado 2010
- Land Cruiser VX 200
- Hummer H3

3.กองทัพ SADAN
- Benz E220 CDI
- Benz E250 CDI
- Benz E250 CGI Sport

4. กองทัพ SPORT
- Porsche Cayman
- Benz E250 CDI Coupe
- SLK 2LOOK
- Civic Type R

5. กองทัพ CITY CAR
- iQ
- Cube
- bB
- Porte Welcab Drive

6.กองทัพ HYBRID
- Insight Hybrid
- Estima Hybrud

7.กองทัพ SUPER CAR
- Porsche 997 TURBO
- Porsche Panamera S
- Porsche 911 (997) 4S

รถไฮไลท์ในงาน
**Porte Welcab Drive**
          BRG เล็งเห็นความสำคัญเปิดตลาดใหม่ เจาะกลุ่มคนพิเศษโดยเฉพาะ นำเข้ารถยนต์ Porte Welcab drive รถเอนกประสงค์สุดหรู สำหรับคนที่เราใส่ใจและต้องการดูแลเป็นพิเศษ กับทางเลือกของการเดินทางแบบใหม่ ที่ใส่ใจต่อสังคม
Porte Welcab Drive รถเอนกประสงค์ 4 ที่นั่งสุดหรูขนาดเล็ก ที่มาพร้อมเครื่องยนต์1,298 cc. 87 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 21 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
เกียร์อัตโนมัติ Super ECT
          จุดเด่นอยู่ที่รถคันนี้สร้างขึ้นมาเพื่อกลุ่มคนพิเศษหรือผู้ที่มีปัญหาในเรื่องการเดิน เพื่อสร้างความมั่นใจ และคุณค่าในการเดินทางที่เหนือกว่า ด้วยตัวของตัวเอง ผู้ขับขี่หรือผู้พิการทางขาสามารถขับรถเอง ขึ้น-ลงจากรถได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกตั้งแต่ประตูสไลด์ไฟฟ้าเปิดกว้างด้วยระบบสมาร์ทคีย์ และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าสำหรับผู้ขับขี่ และเมื่อจอดรถ สามารถนำรถเข็นไฟฟ้าลงจากรถได้ด้วยตัวเอง ควบคุมการทำงานด้วย Joystick จะเดินหน้าหรือถอยหลัง เคลื่อนที่ได้รอบทิศทางไปในทุกที่ที่ต้องการด้วยตัวเองเพียงปลายนิ้วสัมผัส และเมื่อจะกลับขึ้นรถ เพียงกดปุ่มเก้าอี้จะเลื่อนจากพื้นขึ้นไปอยู่ที่พื้นห้องโดยสาร จากนั้นก็จะเลื่อนสไลด์ไปที่ตำแหน่งของผู้ขับขี่ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งเก้าอี้ไฟฟ้าสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานมาเป็นเก้าอี้ Wheel Chair ได้อีกด้วย
Porte Welcab Drive ยนตรกรรมล้ำสมัยเพื่อสังคมที่สร้างโอกาสและความเป็นส่วนตัว ความภูมิใจสำหรับผู้ขับขี่ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใดๆ

**Civic Type R**
          สปอร์ต แฮชต์แบ็ค 3 ประตู เต็มไปด้วยความทันสมัยทุกสัดส่วนกับ Civic Type R เริ่มต้นจากเรือนร่าง และส่วนประกอบที่ออกแบบมาอย่างกลมกลืนตัวถังคงคอนเซ็ปรูปทรง 3 เหลี่ยม ส่วนสปอยเลอร์หลังทรงเก๋ไก๋กลมกลืนไปกับท้ายรถเป็นอย่างดี บ่งบอกความเป็น Type R ด้วยโลโก้ Honda สีแดง ล้อแม็ค 18 นิ้ว
          Civic Type R มาพร้อมเครื่องยนต์ 1,998 cc. ขุมพลัง 201 แรงม้า ที่ 7,800 รอบ/นาที แรงบิด 193 นิวตันเมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที ระบบเกียร์แบบธรรมดา 6 Speed ทำความเร็วสูงสุด
0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 6.6 วินาที
          ภายในก็สอดคล้องกับภายนอกด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย เบาะนั่งเป็นแบบ Bucket Seat หุ้ม Alcantara สีแดงสลับดำ ให้การโอบกระชับอย่างดี พวงมาลัย 3 ก้านแบบสปอร์ตพร้อมหุ้มหนังแท้เฉพาะ Type R แตกต่างด้วยด้ายเย็บ และโลโก้ตรงกลางที่เป็นสีแดง หัวเกียร์แบบสปอร์ต
จอแสดงความเร็วแบบ Multiplex แป้นเหยียบที่เป็นอลูมิเนียมทั้งหมด
          ส่วนระบบช่วงล่างแบบสปอร์ตเฉพาะ Type R พร้อมเหล็กกันโครงหน้า/หลัง และเบรก ABS พร้อมด้วยระบบควบคุมการทรงตัว VSA และนี่คือ สปอร์ต แฮชต์แบ็ค 3 ประตู อีกรุ่นที่ BRG ภูมิใจนำเสนอสำหรับ นักเลงรถหรูที่รักความแรงโดยเฉพาะ



ทางด้านการตลาด
          ทางคุณชลลธร ศรีรัตนประภาส กรรมการบริหาร BRG ได้ตั้งเป้ายอดขายภายในงานไว้ที่ 70 คัน แบ่งเป็น รถญี่ปุ่น 45% รถยุโรป 55% รุ่นรถที่คาดว่าจะได้รับความสนใจมากที่สุดในงาน Porsche Panamera S ,Benz E250 CDI Coupe,Civic Type R , Step Wagon Spada
          ในปี 2553 คาดว่าจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มากกว่า 5 รุ่น และมีโครงการขยายโชว์รูมใหม่บนที่ดินย่านถนนพหลโยธิน เนื้อที่ประมาณ 300 ตารางวา ด้วยเงินลงทุนกว่า 110 ล้านบาท (มูลค่าที่ดิน 75 ล้านบาท และค่าก่อสร้างโดยประมาณ 30 ล้านบาท) จะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2553 เป็นโชว์รูมสำหรับโชว์รถยนต์ Super car และ รถ Sport รุ่นพิเศษ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2553 ไว้ที่ 625 คัน คาดว่าจะเติบโตจากปี 2552 ประมาณ 11 %

คุณชลลธร กล่าวทิ้งท้ายว่า “เพราะความวางใจ ไม่ได้เริ่มต้นแค่การซื้อรถ”
          สำหรับบางสิ่ง..คุณคิดว่านี่คือจุดสิ้นสุด แต่ความจริงแล้วนั่นคือการเริ่มต้นเท่านั้น การซื้อรถก็เช่นเดียวกัน ที่ BRG นี่คือจุดเริ่มต้นของความใส่ใจและความจริงใจที่เรามีให้กับลูกค้า ด้วยหัวใจของการบริการ เพราะความตั้งใจของ BRG ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ยังมีวันต่อๆไป เคียงข้างลูกค้าคนสำคัญ เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งและสามารถดูแลลูกค้าตลอดไป ความซื่อสัตย์และยึดมั่นในความจริงใจของผู้บริหาร BRG คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ BRG เติบโตขึ้นอย่างเต็มศักยภาพ สมกับทุกความวางใจเริ่มต้นที่นี่... BRG
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:13:18 PM
การเปิดตัว รถยนต์เฟียตโฉมใหม่ เฟียต 500

 

          การเปิดตัวรถยนต์เฟียตโฉมใหม่ รุ่น เฟียต 500 ซึ่งตอบสนองทุกวัตถุประสงค์และทุกการขับขี่ เป็นรถยนต์ที่ฉีกแนว ด้วยกลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์และนำเสนอด้วยวิธีการใหม่ๆ เฟียตได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมาและรถยนต์รุ่นนี้ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งยานยนต์สายพันธ์อิตาเลียนและกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เฟียตกำลังขับเคลื่อนสู่โลกแห่งอนาคต
          ไม่ว่าใครก็สามารถปรับโฉมรถยนต์รุ่นนี้ได้ เพราะรูปทรงของรถยนต์คันนี้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ ยนตรกรรมบางรุ่นเป็นผลพวงมาจากความคิดสร้างสรรค์ของชาวอิตาเลียนในช่วงหลังสงคราม อาทิ เฟียต 500 หรือ เวสป้า ซึ่งไม่สามารถวัดกันได้ที่ชื่อ หรือสมรรถนะการขับขี่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยานยนต์เหล่านี้เปรียบเสมือนยานยนต์อันทรงพลังพร้อมด้วยการออกแบบที่ฉีกแนว ตามแนวคิดที่สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานด้านยานยนต์ ด้วยแรงบันดาลใจเหล่านี้จึงรังสรรค์เกิดผลงานชิ้นโบว์แดงที่เป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ และ เฟียต 500 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้านี้ด้วย
          เรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นถึงสองครั้ง เรื่องแรกเป็นเรื่องราวของบรรดาเจ้าของรถยนต์ แฟนคลับและผู้ที่คลั่งไคล้รถยนต์รุ่นนี้เป็นจำนวนมากที่ช่วยกันโจษขานถึงภาพลักษณ์ที่ดี ความน่าเชื่อถือและความประหยัดของรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา เป็นส่วนที่ดีที่สุดที่สื่อถึงอิสระและอารมณ์ เฟียต 500 เชื่อมโยงความทรงจำต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกัน ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนและรักครั้งแรก และยังเป็นภาพในความทรงจำที่ดีที่หลายๆคนอยากจะฟื้นความทรงจำเหล่านั้นให้หวนมาอีกครั้ง
          รถยนต์ เฟียต 500 ออกแบบโดยดันเต กีอาโกซา ได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 และได้ปิดฉากลงในช่วงสงคราม มีผลทำให้การปรับโฉมรถยนต์รุ่นต่างๆของบริษัทสิ้นสุดลงไปด้วย อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอีก 10 ปีถัดมา ช่วงเวลานั้นนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างแบรนด์ของเฟียตในระยะเวลา 100 ปี
          การออกแบบ เฟียต 500 ให้มีความละม้ายคล้ายกับรุ่นเดิม เป็นการกลับมาอีกครั้งอย่างไม่ธรรมดา ต้องขอบคุณรูปลักษณ์ที่มีสไตล์โดดเด่นและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการปลุกกระแสของความเป็นอมตะ และนี่คือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อีกหนึ่งครั้ง
          คำกล่าวที่ว่าการเปิดตัวรถยนต์โฉมใหม่ของ เฟียต 500 นั้นเป็นเพียงแค่เรื่องธรรมดาหรือเป็นการนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่นั้นคงจะไม่ถูกต้องนัก เป้าหมายของเฟียตไม่ใช่แค่การออกแบบรถยนต์ที่คล้ายกับ เฟียต 500 รุ่นเก่า แต่ต้องการออกแบบรถยนต์ที่สามารถกลายเป็น เฟียต 500 ได้ เฟียต 500 โฉมใหม่เป็นการนำกระบวนการด้านนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่ลูกค้ากำลังให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้ เพื่อมากำหนดทิศทางที่ชัดเจนในการวางตำแหน่งสินค้าของเฟียตในอนาคต รถยนต์เฟียต 500 รุ่นใหม่ยังคงรักษาแนวคิดดั้งเดิมในด้านของรูปทรงและการใช้งาน เพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าหลายท่านคาดหวัง และเป็นการย้อนอดีตถึงอารมณ์และความทรงจำที่ไม่มีวันสิ้นสุด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เฟียตก้าวล้ำขอบเขตอันจำกัดของรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน
          สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องกล่าวถึงคือนวัตกรรมใหม่ๆที่สามารถนำมารวมกันอยู่ภายในรถยนต์รุ่นใหม่คันนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอันดับแรกคือนำผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆมาร่วมในการพัฒนาและวางแผนการตลาดของรถยนต์รุ่นนี้ โดยเริ่มจากการหากลุ่มเป้าหมายกว่า 3,000,000 คนให้เสนอแนวความคิดของพวกเขาเข้ามาในโครงการผ่านทางเวที “เฟียต 500 ต้องการคุณ” โครงการนี้เป็นวัฒนธรรมใหม่ระหว่างผู้ผลิตและลูกค้า ซึ่งส่งผลให้เฟียตกลายเป็นองค์กรที่เปิดรับความคิดเห็นและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ใกล้เคียงที่สุด เฟียต 500 เป็นรถยนต์ของลูกค้า ออกแบบโดยลูกค้า คำกล่าวนี้ได้สรุปปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาของโครงการนี้ ซึ่งนำเสนอสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ยังไม่เคยมีบริษัทใดนำเสนอในตลาดรถยนต์กลุ่มนี้มาก่อน เฟียตได้ผ่านมาตรฐานการจำกัดการปล่อยมลพิษของ ยูโร 5 ล่วงหน้าถึง 2 ปีก่อนวันที่กฎหมายกำหนด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเฟียตเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม มากไปกว่านั้น ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ขนาดเล็ก (3.5 เมตร) ที่ได้รับคะแนนระดับ 5 ดาวจากการทดสอบการชนของ EuroNCAP และพร้อมแล้วที่จะเข้าทดสอบระดับ 6 ดาวเมื่อมีการเปิดให้เข้าทดสอบ
 

         รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เพียงแค่โครงสร้างที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้น ยังเป็นเพราะชิ้นส่วนที่นำมาประกอบตัวถังและโครงสร้างภายใน อาทิ ถุงลมนิรภัย 7 ลูก (รถยนต์ขนาดเล็กรุ่นเดียวที่มีถุงลมนิรภัยที่หัวเข่า) และโปรแกรมควบคุมการทรงตัว (ESP) ที่มีในเครื่องยนต์ทุกรุ่น (มาตรฐานในรุ่น 100 แรงม้า 1.4 16v) องค์ประกอบเหล่านี้เป็นสิ่งที่ใหม่มากสำหรับกลุ่มรถยนต์กลุ่มนี้
          เฟียต 500 เป็นรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นแรกที่มีให้เลือกหลากหลาย เฟียต 500 มี 4 รุ่นพร้อมด้วยเครื่องยนต์ 3 แบบ เฉดสีมีให้เลือกมากถึง 12 เฉดและ 6 เฉดสีจะเป็นสีวินเทจที่ทำให้นึกถึงช่วงปี 2493 และ 2503 รวมถึงการเคลือบสีถึง 3 ชั้นด้วยกระบวนการที่ใช้สำหรับการผลิตรถยนต์หรู เบาะนั่งมีให้เลือกถึง 15 แบบซึ่งรวมถึงเบาะหนังระดับหรูอย่างคอนดูราและฟรัว ขอบล้อมีให้เลือกถึง 9 แบบด้วยกัน นอกจากนั้นเฟียตยังออกแบบ สติกเกอร์มาถึง 19 ลาย ซึ่งทำให้ทั้งหมดสามารถตกแต่งลวดลายได้มากกว่า 500,000 สไตล์ (หรือ 549,936 สไตล์) สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับรถยนต์รุ่นนี้คือเครื่องพ่นน้ำหอมไฟฟ้า ซึ่งมีน้ำหอมให้เลือก 3 กลิ่น มากไปกว่านั้นลูกค้าสามารถเลือกสีกุญแจรถได้ ซึ่งจะคล้ายกับตลาดของโทรศัพท์มือถือ ลูกค้าสามารถเลือกสีของกุญแจให้เหมาะกับสีรถยนต์หรือเลือกแบบอื่นๆที่ตนเองชื่นชอบได้ และยังไม่เคยมีรถยนต์ยี่ห้อใดนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์หลากหลายเช่นนี้มาก่อน
          เฟียต 500 สร้างจากแนวคิดที่ครอบคลุมไม่ใช่แนวคิดเฉพาะเจาะจง และเฟียตคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยไม่มีการแบ่งแยก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบแนวคิดง่ายๆไปจนถึงผู้ที่ชื่นชอบนวัตกรรมใหม่ๆ แนวคิดในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของตัวบุคคลได้แสดงผ่านทางการกระบวนการนำเทคโนโลยีด้านอิเล็กโทรนิคมาใช้ในห้องโดยสาร (แบบเสียบสาย) บลูแอนด์มี (Blue&Me) และ ไอพ็อด (iPod) สามารถนำมาใช้ในรถยนต์รุ่นนี้ได้ เพราะมีเต้าเสียบรองรับ นอกจากนั้นยังมีเครื่องนำทางแบบพกพาซึ่งคิดค้นมาเพื่อ เฟียต 500 โดยเฉพาะ ออกแบบโดย แมกเนตี มาเรลลี(Magneti Marelli) ซึ่งสามารถวางบนแผงหน้าปัดได้พอดีและเชื่อมต่อกับฟังก์ชั่นอื่นๆภายในรถยนต์ได้
          เฟียตมอบข้อเสนอหลากหลายให้กับลูกค้า เพราะเฟียต 500 ต้องเป็นรถยนต์สำหรับทุกคน เป็นรถยนต์ของทุกคน ที่ทุกคนเป็นผู้ออกแบบ เฟียต 500 คือรถยนต์เฟียตโฉมใหม่และเฟียตโฉมใหม่นี้เป็นรถยนต์ของทุกคน
          การเปิดตัวเฟียต 500 โฉมใหม่ถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ เป็นการประกาศจุดยืนของเฟียตใน อนาคตที่ต้องการให้ตลาดและสังคมรับรู้ รถยนต์รุ่นใหม่นี้ถือเป็นการกระตุ้นการใช้พลังงานอย่างมีจิตสำนึก เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการค้นหาประสบการณ์ในด้านยานยนต์ที่มุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพและอารมณ์ เน้นความแตกต่างมากกว่าการผลิตจำนวนมาก ซึ่งการลดทอนบางขั้นตอนไม่ได้หมายถึงการตัดขั้นตอนนั้นออกไป เฟียต 500 เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมของแรงบันดาลใจเหล่านี้ และด้วยรถยนต์รุ่นนี้เอง ทำให้เฟียตสามารถยิ้มต้อนรับกับอนาคตได้

รายละเอียดรถยนต์
          เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2550 ซึ่งเป็นเวลา 50 ปี พอดี รถยนต์เฟียต 500 โฉมใหม่ได้เปิดตัวที่ ตูริน และจะมีการจัดทำการตลาดทันทีหลังจากการเปิดตัว รถยนต์รุ่นนี้เกิดขึ้นมาด้วยแนวคิด 3+1 ที่ได้มาจากงานมอเตอร์โชว์ ณ กรุงเจนีวา ในปี 2547 เฟียต 500 โฉมใหม่กลายเป็นรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ที่รักอิสระและชอบรถยนต์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังต้องการรถยนต์ที่ให้ความบันเทิงและเหมาะกับทุกการขับขี่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ราคาไม่แพง มีเสน่ห์และสนุกสนาน รถยนต์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดึงดูดใจ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และกำลังได้รับกระแสความสนใจจากตลาด อย่างไรก็ตาม เฟียตยังคงรักษาประวัติศาสตร์และพันธกิจที่จะผลิตรถยนต์สไตล์ดั้งเดิม ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ที่ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ช่วยประหยัดพลังงานและช่วยให้การขับขี่ดีขึ้น รถยนต์เฟียต 500 ได้พัฒนาคุณภาพในด้านของความนุ่มนวลและความปลอดภัยในการขับขี่ นำเสนอเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆสำหรับตลาดกลุ่มนี้ พร้อมทั้งยังมีนวัตกรรมใหม่ๆสอดแทรกเข้าไปด้วย
          เฟียต มุ่งมั่นในการสรรหาทรัพยากรที่ดีที่สุดและวิธีการที่ดีที่สุด จึงก่อให้เกิดโครงการที่ดีๆขึ้นมา อย่างไรก็ตามโครงการนี้ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับโครงการเฟียต 500 เฟียตตัดสินใจปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่โดยการนำแนวความคิดของความร่วมมือมาเป็นศูนย์กลางของกระบวนการพัฒนา และโครงการนี้เป็นโครงการแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่นำผู้ที่สนใจจากทั่วโลกมาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับรถยนต์ในอนาคตผ่านเวทีบนอินเตอร์เน็ตชื่อ “เฟียต 500 ต้องการคุณ” นักออกแบบและวิศวกรของเฟียต เป็นผู้เก็บรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆและนำมาตั้งเป็นเป้าหมาย เพื่อพัฒนารถยนต์ที่มีสไตล์และใช้อุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังมากที่สุด เฟียต 500 จึงเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อทุกคน โดยพัฒนามาจากแนวความคิดของทุกคน
          ท้ายที่สุด รถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ยืนยันความเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มนี้ของเฟียต ออโตโมบิลได้อย่างชัดเจน เป็นสัญชาตญานของเฟียตที่ย้อนอดีตไปไกลและสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของตลาดกลุ่มนี้ เฟียต 500 เกิดขึ้นมาด้วยเทคนิคพิเศษและการออกแบบสไตล์ดั้งเดิมที่ได้รับการคิดค้นมาหลายทศวรรษ และได้มาจากความชำนาญที่มีเพียงบริษัทที่เป็นผู้นำในตลาดยุโรปมาโดยตลอดเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเฟียตไม่เพียงแต่เอาชนะตลาดรถยนต์ขนาดเล็กด้วยยอดขายแล้วแต่เหนือสิ่งอื่นใดยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าด้วย ลูกค้าไว้วางใจในแบรนด์และประสบการณ์ของนักออกแบบ

รูปทรงเย้ายวนใจบวกสไตล์อันทันสมัย
          เฟียต 500 แบบ 3 ประตูโฉมใหม่ รูปทรงกะทัดรัดออกแบบโดยศูนย์การออกแบบเฟียต ความยาว 355 เซนติเมตร ความกว้าง 163 เซนติเมตร ความสูง 149 เซนติเมตรและฐานล้อกว้าง 230 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กที่ดูนุ่มนวลและสง่างาม สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ขับขี่ได้แม้ในขณะที่ต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัดทุกวัน เพราะเป็นรถยนต์ที่ไม่กินพื้นที่มากและเหมาะสมกับวิถีชีวิตแบบเร่งรีบ
          ด้วยรูปทรงที่มีเสน่ห์ รถยนต์รุ่นนี้จึงเป็นรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเมื่อมองจากด้านข้าง รูปทรงเพรียวกะทัดรัด ส่วนหน้าของรถยนต์เป็นการผสมผสานกันระหว่างเฟียตรุ่นใหม่และรุ่นเก่าเข้าด้วยกัน เอกลักษณ์อันโดดเด่นของรถยนต์รุ่นแรกคือการผสมผสานกันของไฟหน้าทรงกลม ไฟล่างที่ให้แสงสว่างอย่างเต็มที่ กระจังหน้าและส่วนที่เป็นโลโก้ด้วย
          นอกจากนั้น ส่วนหน้าของตัวถังจะลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อเน้นย้ำความแข็งแรง ในขณะที่ด้านหลังจะมีรูปทรงที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย มือจับโครเมี่ยมที่ชวนให้นึกถึง เฟียต 500 รุ่นแรก รูปลักษณ์ภายนอกสื่อถึงสไตล์อันโดนเด่น ที่มาพร้อมด้วยเฉดสีถึง 12 สี (สีเมทาลิก สีธรรมดาและสีมุก) และยังตกแต่งวัสดุภายในได้หลากสไตล์ด้วยวัสดุผ้าและหนัง
          เฟียต 500 เป็นรถยนต์เฟียตรุ่นแรกที่ใช้ชื่อเป็นโลโก้ติดไว้ที่ล้อแมกซ์และวงล้อ รถยนต์รุ่นนี้มีเสน่ห์และคงความดั้งเดิมไว้ ซึ่งมาพร้อมกับวัสดุตกแต่งที่สร้างความประทับใจได้ตั้งแต่แรกเห็น เบาะโดยสารที่กระชับเพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เฟียตใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อมอบความสมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า มากไปกว่านั้นเฟียตรุ่นใหม่ยังคงได้รับกลิ่นอายจากรุ่นแรกแต่นำมาปรับแต่งใหม่ด้วยวัสดุที่ดีเยี่ยม เช่น วัสดุหนังแบบฟรัวที่นำเสนอเป็นรายแรกในตลาดกลุ่มนี้ อุปกรณ์โครเมี่ยม เบาะที่นั่งแบบ 2 เฉดสี แผงหน้าปัดที่เข้ากับสีรถยนต์ รวมถึงที่เก็บของภายในรถยนต์ และเบาะนั่งโดยสารที่นั่งได้ 4 คนแบบสบายๆ

เครื่องยนต์สีเขียว
          รถยนต์รุ่นนี้ ยังยืนยันถึงสมรรถนะอันทรงพลังแต่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เฟียตนำเสนอเกียร์ 5 จังหวะด้วยการเปลี่ยนเกียร์แบบ Dualogic เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญด้วย เครื่องยนต์ทั้งหมดที่ติดตั้งภายในเฟียต 500 ได้รับการพัฒนาและผลิตมาแล้วกว่า 10 ล้านเครื่อง ผ่านมาตรฐาน ยูโร 5 และยังผ่านการควบคุมการปล่อยมลพิษที่มีผลบังคับใช้ในปี 2552 1.3 มัลติเจ็ท ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ลดควันดำ (PDF) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์รุ่นนี้

ความปลอดภัยเหนือระดับ
          เฟียต 500 เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ปลอดภัยมากที่สุดในบรรดารถยนต์ในรุ่นเดียวกันและได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานการควบคุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพรวมเข้ากับอัตราเร่งของเครื่องยนต์และสามารถควบคุมการขับขี่ได้ตลอดเวลา รถยนต์รุ่นใหม่นี้จะช่วยนำพาคุณออกจากสถานการณ์คับขันได้โดยง่าย เฟียต 500 สามารถรองรับถุงลมนิรภัยได้มากถึง 7 แห่งซึ่งถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (2 ลูกใส่ไว้ด้านหน้า 2 ลูกใส่ไว้ด้านหลัง 2 ลูกอยู่ด้านข้างและอีก 1 ลูกใส่ไว้เพื่อปกป้องหัวเข่า) ซึ่งยังไม่เคยมีรถยนต์ในรุ่นเดียวกันทำมาก่อน นอกจากนี้ยังได้มีการนำเทคนิคพิเศษเข้ามาใช้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถยนต์ได้ตลอดเวลา (การป้องกันก่อนเกิดเหตุ) จากระบบเบรกแบบ ABS ที่มาพร้อมกับระบบกระจายแรงเบรก (EDB) กลายมาเป็นการใช้ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP) และระบบป้องกันล้อลื่นไถล (ASR) รวมถึงระบบควบคุมเกียร์บนทางลาด เพื่อช่วยผู้ขับขี่ขณะขับบนทางลาดและระบบเสริมแรงเบรก (HBA) ที่เข้ามาช่วยเมื่อต้องหยุดรถยนต์กะทันหัน
          เฟียต 500 มีองค์ประกอบที่หลากหลายและความนุ่มนวลพร้อมที่จะไปกับคุณทุกเส้นทางด้วยความปลอดภัย นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบกันสะเทือนอิสระแมคเฟอร์สันอยู่ด้านหน้า และระบบกันสะเทือนแบบกึ่งอิสระยึดกับล้อทั้ง 4 พร้อมด้วยคานแบบบิดติดตั้งที่ด้านหลัง แบบทั้ง 2 นี้ได้รับการพัฒนามาจากการออกแบบของ แมกเนติ มาเรลลี (Magneti Marelli) ที่ใช้กับรถยนต์รุ่นอื่นๆของเฟียต อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งใหม่เพื่อให้เข้ากับรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อการควบคุมอันดีเยี่ยมและเพื่อความนุ่มนวลในการขับขี่สูงสุด

500,000 รูปแบบในการสัมผัสกับเฟียต 500 โฉมใหม่
          รถยนต์รุ่นนี้จะมีให้เลือกถึง 4 แบบสำหรับตลาดหลักๆในประเทศแถบยุโรป อาทิ เนคด์ ป็อบ สปอร์ต และเลาจน์ เครื่องยนต์ 1.4 - 100 แรงม้า สำหรับตัวถังรถนั้นมีเฉดสีให้เลือกมากถึง 12 เฉด ลูกค้าสามารถเลือกวงล้อได้ถึง 9 แบบ ซึ่ง 7 ใน 9 แบบนั้นจะเป็นวงล้อแบบอัลลอยด์ พร้อมกับขนาดของขอบยาง 15” และ 16” เมื่อนำอุปกรณ์ตกแต่งและเครื่องเล่นต่างๆที่เฟียตนำเสนอมาทั้งหมดมารวมกัน จะถือได้ว่าเฟียตสามารถผลิตรถยนต์ที่โดนใจและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เพราะลูกค้าสามารถผสมผสานอุปกรณ์ตกแต่งได้มากถึง 500,000 แบบ เช่น ลูกค้าสามารถออกแบบรถยนต์ให้ดูแตกต่างด้วยการเพิ่มลายของสติ๊กเกอร์เข้าไปด้านข้าง บนหลังคาหรือฝาครอบและสามารถเลือกลวดลายได้ 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายธงตารางหมากรุกไปจนถึงธงชาติอิตาลี ลายบาร์โค้ดหรือรถแข่ง และอุปกรณ์ที่เป็นโครเมี่ยม เช่น กระจกมองข้าง ฝาครอบล้อหรือตัวกันกระแทกที่ติดอยู่ตรงกันชนหน้า
          ภายในรถยนต์นั้นมีการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการขับขี่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เครื่องพ่นน้ำหอมแบบใหม่ ที่มีกลิ่นน้ำหอมให้เลือก 3 กลิ่น นอกจากนั้นยังมีที่สำหรับแขวนเสื้อแจ๊คเกตด้วย ภายในรถยนต์ยังมีที่สำหรับวางโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องเล่น ไอพ็อด (iPod) ยูเอสบี และที่ชารจ์ไฟ 12 โวลต์ อีกทั้งคันเร่งอลูมีเนียม และตรงมือเปิดประตู ยังคงเอกลักษณ์ของเฟียต 500 รุ่นดั้งเดิมไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีที่ว่างสำหรับใส่ของ เช่น ที่สำหรับใส่กระเป๋าเดินทางอยู่ตรงประตูหลังเหมาะสำหรับใส่กระเป๋าเดินทางทุกขนาด
          รายการอุปกรณ์ตกแต่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเฟียต 500 ในยุค 2503 ไว้ด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้ทุกคนจดจำรถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ ด้วยความทุ่มเทในโปรแกรมพัฒนารถยนต์เพื่อลูกค้า รถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ตอกย้ำความเป็นรถยนต์อิตาเลียนได้อย่างดี เป็นรถยนต์ที่คุ้มค่า กุญแจรถยนต์รุ่นใหม่มีให้เลือกถึง 9 แบบเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสีที่เข้ากับสติ๊กเกอร์ของตัวรถได้

เครื่องมือพิเศษไม่เหมือนใครเพื่อความนุ่มนวลที่เหนือกว่า
          Fiat 500 นำเสนอความแปลกใหม่หลายประการสำหรับตลาดกลุ่มนี้ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำคุณลักษณะเฉพาะซึ่งสงวนไว้สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ขายในตลาดระดับบนเท่านั้นมาใช้ในรถยนต์รุ่นนี้เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ลูกค้าสามารถเลือก Blue& Me ระดับพื้นฐาน (ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่นแบบแฮนด์ฟรี พร้อมด้วยบลูทูธ อินเตอร์เฟส พร้อมด้วยการใช้คำสั่งด้วยเสียงที่นำสมัย, พอร์ท USB, เครื่องเล่น MP3 และตัวแปลข้อความตัวอักษร) หรือ เวอร์ชั่นล่าสุด (หลังจากเปิดตัวแล้ว): Blue & Me
          Fiat 500 เป็นรุ่นแรกในรถยนต์กลุ่มเดียวกันที่ใช้ ระบบไฮไฟชั้นยอด ซึ่งรู้จักกันในนาม ระบบเสียงอินเตอร์สโคป หรือ Interscope Sound System ระบบเสริมนี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นสำหรับ Fiat 500 และนำมารวมเข้ากับวิทยุพร้อมซีดีและเครื่องเล่น MP3 ความแปลกใหม่ของระบบเสียงอินเตอร์สโคป คือ การใช้วิธีการที่แตกต่างกันสามแบบในเวลาเดียวกันเพื่อประมวลผลสัญญาณ ซึ่งทำขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินจากคุณภาพเสียงที่ไม่เหมือนใครเมื่อขับขี่รถยนต์

          นอกจากระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่เป็นมาตรฐานทั่วไปแล้ว Fiat 500 ยังมีระบบควบคุมสภาพอากาศอันชาญฉลาดซึ่งทำงานร่วมกับหน่วยควบคุมกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะทำการควบคุมอุณหภูมิ การไหลเวียนของอากาศ การจ่ายอากาศ การควบคุมแรงกดอากาศและการทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศโดยอัตโนมัติ อุปกรณ์หลายๆ อย่างในรถยนต์รุ่นใหม่นี้เป็นระบบไฟฟ้าพร้อมด้วยฟังก์ชั่นไฟส่องสว่างกลางวัน (Day Time Running Light), กระจกซันรูฟขนาดใหญ่ (มีทั้งในแบบติดตั้งถาวรหรือแบบเปิดโดยใช้ไฟฟ้า) ซึ่งเน้นความสว่างภายในและเป็นคงความนิยมของหลังคาแบบแคนวาส รูฟ ซึ่งเป็นที่นิยมของรุ่น 500 ในช่วงปี ค.ศ. 1950 และ 1960 และท้ายที่สุด กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic Mirror) ซึ่งช่วยขจัดแสงสะท้อนที่น่ารำคาญใจจากรถยนต์คันหลังได้อีกด้วย
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:14:05 PM
Fiat 500C: เป็นมากกว่า "หน้าต่างสู่ท้องฟ้า"
          เปิดตัวให้โลกได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์ ณ กรุงเจนีวา ปี 2552 นอกจาก Fiat 500C ใหม่จะเป็นการแสดงความเคารพต่อ Fiat 500 รุ่นแรกที่ถือกำเนิดเมื่อปี 2500 และหลังคาผ้าใบของ Fiat 500 แต่ก็ยังให้โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในส่วนของการออกแบบทางด้านเทคนิค เครื่องยนต์และความสบาย ทั้งหมดนี้เป็นไปตามประเพณีของ Fiat ของแท้และดั้งเดิมที่สุดในการให้คนได้เข้าถึงองค์ประกอบและเทคโนโลยีของประเทศอิตาลี ทุกท่านสามารถทดลองขับรถยนต์รุ่นนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมซึ่งเป็นวันเกิดของ Fiat 500 และสองปีเต็มหลังจากการเปิดตัวของรถยนต์รุ่นที่ยกระดับในส่วนของความสบาย ความปลอดภัย เทคโนโลยี และลักษณะทั่วไปได้อย่างแท้จริง ด้วยการใช้วิธีแบบ open-source (เช่น การค่อยๆ พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จโดยมีพื้นฐานอยู่บนข้อมูลที่ได้ลูกค้า) ศูนย์การออกแบบ Centro Stile Fiat สร้างสรรค์เฟียต 500C โดยการทำงานร่วมกันกับกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ของ เฟียต ชินควีเชนโต( CINQUECENTO) – ในเว็บไซต์ชื่อ “เฟียต 500 ต้องการคุณ” – และเสริมสถานะของรถยนต์รุ่นนี้ให้เป็น “รถยนต์ของทุกคน ที่ออกแบบโดยทุกคน’ เริ่มต้นจากรถยนต์ขนาดเล็ก การเปิดตัวหลังคาแบบเปิดประทุน ไม่ได้เปลี่ยนคุณลักษณะเด่นที่ประสบความสำเร็จของรถยนต์รุ่นนี้ อาทิ ที่นั่งอันแสนสบาย 4 ที่นั่ง และความจุของกระโปรงหลังรถ แต่ได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่เพิ่มความสุขและความเบิกบานใจให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วยการเปิดกระโปรงท้ายได้ง่ายยิ่งขึ้นแม้ว่าหลังคาแบบ เปิดประทุนจะเปิดออกก็ตาม ซึ่งต้องขอบคุณระบบอันชาญฉลาดของบานพับแบบสี่เหลี่ยมด้านขนาน

          จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของเวอร์ชั่นเปิดประทุนแบบดั้งเดิมคือความรู้สึกสบายทางเสียงและสภาพอากาศอันสุดยอดของมันเอง ด้วยการวิจัยแอโรไดมามิคหมายความว่ากระแสลมที่ผู้ขับขี่จะรู้สึกเมื่อเปิดหลังคานั้นจะถูกลดลงให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้ได้ความเพลิดเพลินกับการสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ และการมีเพื่อนนั่งรถไปด้วยกัน
          การตัดสินใจที่จะแปลความหมายของการออกแบบแบบดั้งเดิมอีกครั้งในแบบโมเดิร์น ด้วยหลังคาเลื่อนด้วยไฟฟ้า แต่มาพร้อมกับการออกแบบอย่างมีสไตล์โดยยังคงรูปร่างของรถยนต์รุ่นคลาสสิคที่ทำให้รถยนต์ Fiat 500C ดูไม่เป็นสินค้าที่มีจำนวนจำกัดเฉพาะช่วงเวลามากนัก และผู้ขับขี่สามารถมีความสุขกับรถยนต์ Fiat 500C ได้ตลอดทั้งปี โดยสรุปคือ คุณลักษณะทั้งหมดนี้ทำให้ยานยนต์ใหม่นี้เป็นหนึ่งในรถยนต์เปิดประทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในตลาดรถซิตี้คาร์สมัยใหม่
          ด้วยการออกแบบที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของลูกค้า หลังคาแบบเปิดประทุนของ Fiat 500C โดดเด่นด้วยการเคลื่อนไหวอย่างสง่างามที่ควบคุมด้วยไฟฟ้าและลักษณะเฉพาะต่างๆ ที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีพร้อมเก็บรายละเอียดได้อย่างน่าประทับใจ ตั้งแต่กระจกหลังไปจนถึงไฟเบรกตัวที่สามที่ทำมาเพื่อหลังคาแบบเปิดประทุนเท่านั้น มีให้เลือกสามสี (สีงาช้าง สีแดง และสีดำ) หลังคา soft top อันชาญฉลาดนี้เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับการเคลือบสีต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย การสร้างสรรค์แบบพิเศษโดยเฉพาะ ได้แก่ สีแดงรากามัฟฟินประกายมุก สีเทาเทคเฮ้าส์ ซึ่งเป็นสีแบบฉบับสำหรับรถซุเปอร์คาร์แบบสปอร์ต และสีฟ้าโกท-เมทัล
          Fiat 500C ให้ความรู้สึกเฉพาะในส่วนของการตบแต่งภายในด้วยผ้าเนื้อดีคุณภาพสูงและเป็นแบบที่เป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ประกอบด้วยเครื่องหนังของฟรัวและรายการอันยาวเหยียดของมาตรฐานที่เป็นไปตามความต้องการของตลาดและลักษณะต่างๆ ที่เป็นออฟชั่น ตั้งแต่การควบคุมสภาพอากาศแบบอัตโนมัติจนถึงระบบเสียงอินเตอร์สโคป ไฮไฟที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ไปจนถึงคอลเลคชั่นใหม่ที่ประกอบด้วยออปชั่นต่างๆ ให้เลือก

          ด้วยลักษณะของรถยนต์ที่เต็มไปด้วยความเป็นอิสระและการแสดงออกถึงความรู้สึก Fiat 500C ยังคงรักษาขนาดของรถยนต์ให้เหมือนกับรุ่นที่เป็นต้นแบบดั้งเดิม (ยาว 355 ซม. กว้าง 165 ซม. และสูง 149 ซม.) และในรถยนต์รุ่น 100 แรงม้า เครื่องยนต์น้ำมัน 1.4 ลิตร ซึ่งมีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติแบบดูอัลโลจิค คุณภาพทั่วไปของรถรุ่นนี้ยังประกอบด้วยความไว้วางใจได้อย่างยิ่งยวดและความเคารพที่มีให้กับสิ่งแวดล้อม (ทั้งหมดได้รับการรับรองจาก Euro5) เพื่อเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเฟียต ออโตโมบิลส์ ที่มีต่อการคุ้มครองสภาพแวดล้อมและการเดินทางอย่างยั่งยืน

หลังคาผ้าใบนวัตกรรมใหม่สำหรับสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์
          หลังคาผ้าใบของ Fiat 500C เป็นสุดยอดของการออกแบบอย่างแท้จริง ด้วยลักษณะการเคลื่อนไหวซึ่งควบคุมด้วยไฟฟ้าและโซลูชั่นทางด้านเทคนิคที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบหลังคาในสีเดียวกันบนหลังคาผ้าใบ ทำหน้าที่เป็นสปอยเลอร์และที่ติดตั้งของไฟเบรกดวงที่สาม เป็นการสร้างให้มีลักษณะแบบแอโรว์ไดนามิคที่คล้ายคลึงกับเวอร์ชั่นแบบซาลูน และ Cx ของ 0.33 รูปร่างที่ยอดเยี่ยมนี้ทำให้ Fiat 500C เป็นรถยนต์ชั้นนำของรุ่น ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับแต่งโครงร่างของสปอยเลอร์หลังและฝาครอบล้อหลังใหม่ให้เหมาะเจาะที่สุด
          ความสบายของผู้โดยสารเบาะหลังก็ได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษเช่นกัน ซึ่งพิสูจน์โดยความเร็วลมที่ 7 m/s ในขณะที่เปิดหลังคา นอกจากนี้เมื่อดึงหลังคาผ้าใบลงมาจะมีการจัดตำแหน่งของสปอยเลอร์เพื่อให้สามารถมองเห็นไฟเบรกดวงที่สามได้ หลังคาผ้าใบแบบสองชั้นทำให้แน่ใจว่าจะเป็นฉนวนที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันแสงจากภายนอก หลังคาผ้าใบแบบไฟฟ้าอัตโนมัติสามารถควบคุมได้โดยปุ่มที่อยู่ใกล้กับไฟที่ติดอยู่บนเพดานรถยนต์ด้านใน หรือจากรีโมทคอนโทรล นอกจากนี้ หลังคาผ้าใบสามารถทำงานได้ตลอดการเคลื่อนที่ไปในแนวนอน (ไกลเท่ากับสปอยเลอร์) ไม่ว่าจะอยู่ในระดับความเร็วใดก็ตาม การเคลื่อนที่ในแนวดิ่งสามารถทำได้ในระดับความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง(37mph)
          นอกจากนี้หลังคาผ้าใบยังใช้งานได้ง่าย เมื่อต้องการเปิด เพียงแค่กดปุ่มค้างอย่างน้อยครึ่งวินาทีเพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหวซึ่งจากนั้นจะเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติไปจนถึงสปอยเลอร์ (จุดกลางทางสามารถเลือกได้โดยการกดปุ่มอีกครั้งหนึ่ง) กดปุ่มอีกครั้งหนึ่งเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวินาทีเพื่อเปิดหลังคาอย่างเต็มที่ เมื่อใช้รีโมทคอนโทรล หลังคาจะถูกเปิดได้เพียงในระยะที่เท่ากับสปอยเลอร์ การทำตามขั้นตอนเดิมจะเป็นการปิด ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย หลังคาจะหยุดในระยะห่างจากจุดที่เป็นการปิดอย่างสมบูรณ์ประมาณ 25 เซนติเมตร (เพียงกดปุ่มอีกครั้งหนึ่ง การเคลื่อนตัวปิดก็จะสมบูรณ์) เมื่อฝากระโปรงหลังเปิด หลังคาผ้าใบจึงจะสามารถปิดได้ (ฟังก์ชั่นการเปิดหยุดทำงาน) อย่างไรก็ตาม ถ้าหลังคาเปิดอย่างเต็มที่และจำเป็นต้องเปิดกระโปรงหลัง เมื่อกระโปรงหลังถูกเปิด หลังคา ผ้าใบจะเลื่อนมาอยู่ตรงกลางโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการกีดขวางการขนถ่ายสัมภาระ

          ท้ายที่สุด มีออพชั่นแผงบังลมที่สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายด้านหลังที่พักศีรษะเบาะหลัง (ติดอยู่กับที่เก็บสัมภาระ) อุปกรณ์เสริมนี้ผ่านการทดสอบในช่องลม ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับFiat 500C และทำมาจากวัสดุพิเศษที่มีรูพรุน ซึ่งสามารถลดกระแสลมได้อย่างมากสำหรับผู้โดยสารทุกคน ในทุกระดับความเร็ว นอกจากนี้ยังต้องย้ำว่าไม่มีความจำเป็นต้องเอาแผงบังลมออกเพื่อเปิดหรือปิดหลังคาผ้าใบ (เป็นลักษณะพิเศษอีกอย่างสำหรับรถยนต์รุ่นนี้)
         
เครื่องยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
          Fiat 500C ใช้เครื่องยนต์น้ำมันเบนซินแบบ 1.4 ลิตร 100 แรงม้า 16 วาล์ว มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ นับว่ามีความเยี่ยมยอดในเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์อย่างมีชีวิตชีวาและใจกว้าง สมรรถนะที่สูง และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ คุณภาพทั่วไปของรถยนต์รุ่นนี้ยังประกอบด้วยความน่าเชื่อถือและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดนี้สอดคล้องกับมาตรฐานของ ยูโร 5 หน่วยพลังงานของ Fiat 500 ผลิตโดย Fiat Powertrain Technologies (FPT) ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ เฟียตที่รับผิดชอบเรื่องนวัตกรรม การวิจัย การออกแบบ และการผลิตเครื่องยนต์และกระปุกเกียร์สำหรับยานยนต์ทุกชนิด: ตั้งแต่รถยนต์โดยสารไปจนถึงรถยนต์บรรทุก เรือ และเครื่องมือทางการเกษตร มีพนักงานกว่า 20,000 คน โรงงาน 16 แห่ง และศูนย์วิจัย 11 แห่งใน 9 ประเทศ แผนกนี้เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญระดับโลกในการผลิตเกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ (Power Train Manufacturing) ที่ FPT มีช่างเทคนิคที่มีความชำนาญอย่างสูงเฉพาะด้านกว่า 3,000 คน ซึ่งทุ่มเทให้กับการพัฒนาและเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ทางวิศวกรรม การมีสิทธิบัตรมากกว่า 40 สาขาในทุกๆ แห่งเป็นหลักฐานที่แสดงถึงคุณภาพและความมุ่งมั่นต่อพันธะสัญญาที่มี ทำให้ FPT เป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศสำหรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง

          เครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร 16 วาล์ว ให้ความแรงถึง 73.5 kW (100 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 131 Nm (13.4 kgm) ที่ 4,250 รอบต่อนาที ด้วยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ได้สมรรถนะสูงพร้อมประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์นี้ทำให้ Fiat 500C เป็นผู้นำของรุ่น ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 182 กิโลเมตร/ชั่วโมง (113mph) และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 11 วินาทีเท่านั้น การประหยัดเชื้อเพลงก็เป็นที่น่าประทับใจเช่นเดียวกัน: เวอร์ชั่นนี้จะกินน้ำมันเพียง 6.1 ลิตร/100 กิโลเมตรเท่านั้น (ด้วยเกียร์แบบธรรมดา) และสามารถกินน้ำมันลดลงถึง 5.8 ลิตร/100 กิโลเมตรด้วยระบบเปิด-ปิดเครื่องยนต์ และที่เหนือไปกว่านั้น ด้วยเครื่องยนต์ชนิด 100 แรงม้า รถยนต์ขนาดเล็กคันนี้มีสมรรถนะแบบสปอร์ตท่ามกลางการจราจรในเมือง

ผู้นำด้านความปลอดภัย
          ด้วยโครงสร้างที่มาจากเวอร์ชั่นซาลูน (รถรุ่นแรกที่ได้รับการจัดอันดับในระดับห้าดาวจาก Euro NCAP) Fiat 500C ยังคงมีส่วนประกอบด้านความปลอดภัยและคุณลักษณะพิเศษต่างๆ (ทั้งแบบแอ็คทีฟและพาสซีฟ) ซึ่งเหมาะสมที่สุดสำหรับรถยนต์ที่ดีที่สุดของรุ่น
          Fiat 500C นั้นเหนือกว่ารถยนต์ในกลุ่มเดียวกันในด้านความปลอดภัยแบบพาสซีฟ ยกตัวอย่างเช่น ด้วยถุงลมนิรภัยถึงเจ็ดลูกที่นำเสนอเป็นมาตรฐาน (สองลูกด้านหน้า สองลูกด้านหลัง สองลูกด้านข้าง และหนึ่งลูกอยู่ที่หัวเข่า) ระบบเบรกที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพของรถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งประสานการเร่งความเร็วอย่างยอดเยี่ยมรวมเข้าไว้ด้วยกันกับการควบคุมที่เชื่อใจได้อย่างที่สุดทำให้ผู้ขับขี่สามารถออกจากสถานการณ์คับขันได้อย่างง่ายดาย
          นอกจากนี้ Fiat 500C ยังได้นำเอาโซลูชั่นทางด้านเทคนิคที่นำสมัยมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่จะสามารถควบคุมรถยนต์ได้อย่างสมบูรณ์ (ความปลอดภัยแบบแอ็คทีฟ) ตั้งแต่ระบบเบรก ABS ที่มาพร้อมกับระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Distribution: EBD) ไปจนถึงระบบควบคุมการทรงตัว (Electronic Stability Program: ESP) ที่ทันสมัย จากระบบป้องกันล้อลื่นไถล (Anti Slip Regulation: ASR) ไปจนถึงเครื่องมือฮิลโฮลเดอร์ (Hill Holder) ซึ่งช่วยผู้ขับขี่ให้มั่นใจเพิ่มมากขึ้นเมื่อขึ้น-ลงทางลาดชัน และระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮโดรลิก (Hydraulic Brake Assistance: HBA) เพื่อช่วยในการจอดอย่างฉุกเฉิน
          นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รถยนต์รุ่นใหม่มีตัวถังที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับบรรทัดฐานเกี่ยวกับการต้านทานการชนล่าสุด (นี่เป็นรถซุปเปอร์คอมแพ็คคาร์คันแรกที่มาพร้อมกับโครงสร้างป้องกันการชนด้านหน้า ซึ่งออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อปรับปรุงกรณีเกิดการชนด้านหน้าด้วยห้องโดยสารที่แข็งแกร่งเพื่อคุ้มครองผู้ที่นั่งอยู่ภายในและโซนรับการกระแทก (high-absorption zones) จากทางด้านนอก
          เข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ที่นั่งด้านหน้ามีระบบดึงกลับอัตโนมัติแบบคู่และตัวควบคุมแรงกระแทก (ผู้ที่นั่งอยู่ทางด้านหลังมีเข็มขัดนิรภัยสามจุด) ที่นั่งเบาะหน้าและเบาะหลังมาพร้อมกับระบบเบาะนั่งป้องกันการลื่นไภล (anti-submarining) ซึ่งหยุดไม่ให้ผู้สวมใส่ไหลลอดลงไปใต้เข็มขัดนิรภัย และยังมี Isofix สำหรับที่นั่งของเด็กภายในรถได้มีการติดตั้งไว้เป็นมาตรฐานในรุ่นนี้ทั้งหมด
          ท้ายที่สุด Fiat 500C มีลักษณะพิเศษต่างๆ ที่ให้ความสะดวกสบายและมีพลวัตรซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถออกเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นการเดินทางแบบใดก็ตาม ระบบกันสะเทือนที่มาจากการออกแบบของแมกเนตี มาเรลลีทำหน้าที่หลักในเรื่องนี้: ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระจัดทำโดยแม็คเฟอร์สันสตรัทและระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบกึ่งอิสระด้วย คานแบบบิดติดตั้งที่ด้านหลัง นอกจากนี้ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ยังมีลักษณะเป็นเหล็กกันโครงเพื่อรักษาระดับและกันโครงของตัวรถที่ได้มาจาก 500 Abarth เพื่อยกระดับการใช้งานและความสะดวกสบาย



FIAT 500 By Diesel
          Fiat 500 ชอบการเปลี่ยนแปลงและเป็นหนึ่งไม่เหมือนใคร ยกตัวอย่างเช่น ในรุ่น Limited Edition By Diesel ซึ่งสร้างสรรค์โดย Fiat ด้วยความร่วมมือจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ เป็นแบบเฉพาะที่โดดเด่นไม่เหมือนใครแต่ยังคงความสบายแบบลำลองด้วยสัมผัสของความเก๋ไก๋ ซึ่งเป็นยานยนต์แบบเออร์เบอร์น เซอร์ไวเวอล (Urban Survival) ตัวใหม่ของเฟียตซึ่งแสดงออกถึงสปิริตที่เป็นการเหน็บแนมและการไม่มีความเคารพของ Fiat 500
          Fiat 500 โดย Diesel มีสไตล์ที่โดดเด่นสะดุดตาในทันที เริ่มด้วยสีตัวถังที่พิเศษไม่เหมือนใคร (สีเขียว Diesel Green และสีดำ Crossover Black) และองค์ประกอบของตัวถังภายนอก เช่น ด้านข้างและด้านหลังจะมีโลโก้ของ Diesel, ล้ออัลลอยลายพิเศษพร้อม Diesel Logo ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/45R16 คาลิปเปอร์เบรกออกแบบพิเศษสีเหลืองสะดุดตา กระจกหลังคาแบบติดตั้งถาวร สปอยเลอร์หลัง คิ้วตกแต่งรอบคันออกแบบโดย Diesel ทั้งกันชนหน้า กันชนหลัง คิ้วฝากระโปรงท้าย คิ้วกันกระแทกด้านข้าง คิ้วขอบประตู มือเปิดประตู ฝาครอบกระจกมองข้าง เป็นสีไทเทเนียม
          การตกแต่งภายในของ Fiat 500 By Diesel ก็เป็นการออกแบบที่เฉพาะไม่เหมือนใครเช่นกัน ด้วยกรอบคอนโซลหน้าสีไทเทเนียม เรือนไมล์สปอร์ตสีเหลือง พวงมาลัยหุ้มหนังแบบสปอร์ต เดินด้ายสีเหลือง เบาะนั่งพิเศษที่ทำจากผ้าเดนิมเนื้อดีของ Diesel เดินด้ายสีเหลือง ช่องเก็บของข้างเบาะดีไซน์รูปกระเป๋ากางเกงยีนส์ Diesel คิ้วบันไดแสตนเลสดีไซน์เฉพาะรุ่น Diesel
          Fiat 500 By Diesel นำเสนอความสบายขั้นสูงสุด ซึ่งต้องยกความดีให้กับเบาะนั่งคนขับที่สามารถปรับความสูงได้ ระบบ Blue & Me และการควบคุมสภาพอากาศแบบปรับได้ ระบบความบันเทิงเหนือระดับด้วยเครื่องเสียงพร้อมระบบ Hi Fi Interscope Sound System
          Fiat 500 By Diesel รุ่น Limited Edition มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด I.4 I6v I00 HP พร้อมระบบส่งกำลังขับเคลื่อนแบบดูอัลโลจิกอีกด้วย
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:15:46 PM
เปิดตัวรถยนต์ “The 500, the car of the people, by the people” Fiat 500

 

         บริษัท ไทย เพรสทีจ โอโตเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Alfa Romeo และรถยนต์ Fiat จากประเทศอิตาลี แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมเปิดตัวรถยนต์ที่ได้รับฉายาว่า “The 500, the car of the people, by the people” Fiat 500 คือรถยนต์ของประชาชน โดยประชาชน เนื่องจากได้รับการค้นคว้าและพัฒนาจากเสียงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ระดมผ่านเว็บไซด์มากกว่า 3 ล้านความคิดเห็น

          Fiat 500 เป็นหนึ่งในตำนานรถยนต์ที่มีความเป็นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 50 ปี รถยนต์รุ่นนี้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งยานยนต์สายพันธุ์อิตาเลียน และเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ของโลกยานยนต์จนถึงปัจจุบัน Fiat 500 ยังคงเป็นรถยนต์ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้คนจากรุ่นสู่รุ่น และยังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา ไม่แปลกใจเลยที่ยังคงมี Fiat Club ที่คลั่งไคล้รถยนต์รุ่นนี้จวบจนปัจจุบัน
 
         ตำนานรถยนต์ Fiat จะกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในประเทศไทย พร้อมสร้างความประทับใจให้กับทุกท่านอีกครั้ง ด้วยเอกลักษณ์ของรถยนต์ Fiat 500 ในรูปโฉมใหม่ของทั้ง 4 รุ่นที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ณ อาคารชาแลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

Fiat 500 Lounge
          ตกแต่งด้วยโครเมี่ยมอย่างดีบริเวณ คิ้วกันชนหน้า/หลัง คิ้วขอบด้านล่างกระจกประตู ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ขนาดยาง 185/55R15 ภายในสะดุดตาด้วยเรือนไมล์สีขาว รวมถึงหลังคากระจก Sky Dome พร้อมม่านบังแดด
Fiat 500 Lounge Premium
          อีกระดับจาก รุ่น Lounge Premium เพิ่มความสง่างามด้วยคิ้วกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ เบาะหนังแท้พร้อมความอัจฉริยะเบาะผู้โดยสารเลื่อนกลับที่เดิมอัตโนมัติ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่รวมถึง Sensor ถอยหลังแบบ 4 จุด เพื่อความปลอดภัยสูงสุด



Fiat 500 By Diesel
          โดดเด่นด้วยดีไซน์เหนือจินตนาการ สร้างสรรค์ผลงานด้วยความร่วมมือ
          จากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ Diesel มีสไตล์ที่โดดเด่นสะดุดตาเริ่มด้วยสีตัวถังพิเศษ (สีเขียว Diesel Green และสีดำ Crossover Black) พร้อมสัญลักษณ์Diesel ที่ด้านข้างและด้านหลังตัวรถ และที่ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วลายเฉพาะพิเศษยางขนาด 195/45R16 สะดุดตาด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีเหลือง หลังคากระจก Sky Dome พร้อมสปอยเลอร์หลังอย่างลงตัว กระจกบานหลังตัดแสงสีเข้ม และตกแต่งคิ้วรอบคันสีไททาเนียมในแบบของ Diesel ภายในประกอบด้วยเบาะสัญลักษณ์พิเศษ Diesel Denim Fabric เดินด้ายสีเหลืองพร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังเดินด้ายสีเหลือง เรือนไมล์สีเหลืองดีไซน์เฉพาะรุ่น Diesel

Fiat 500 Sport
          เสริมความเป็นสปอร์ตด้วย ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ยาง 185/55R15 สปอยเลอร์หลังคา พร้อมกระจกบานหลังตัดแสงสีเข้ม ดุดันอย่างมีสไตล์ด้วยเรือนไมล์สีดำ มาพร้อมคิ้วบันได Logo 500 แสดงความเป็นเอกลักษณ์ในตัว
Fiat 500 Sport Premium
          เพิ่มความเป็นสปอร์ตอย่างมีสไตล์ ด้วยคิ้วกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ ดึงดูดทุกสายตาด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ขนาดยาง 195/45R16 เบาะหนังแท้ พร้อมความอัจฉริยะเบาะผู้โดยสารเลื่อนกลับที่เดิมอัตโนมัติ รวมถึง Sensor ถอยหลังแบบ 4 จุด เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

Fiat 500C (Convertible)
          เป็นมากกว่า “หน้าต่างสู่ท้องฟ้า” หลังคาเปิดประทุนยังคงเอกลักษณ์ของรถยนต์เฟียตรุ่นเดิม เป็นสุดยอดของการออกแบบอย่างแท้จริง ด้วยลักษณะการเคลื่อนไหวซึ่งควบคุมด้วยไฟฟ้าและโซลูชั่นทางด้านเทคนิคที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ จากการออกแบบตามหลักแอโรว์ไดนามิคทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกเพลิดเพลินกับการสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ สมรรถนะที่สูง และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำคุณภาพของรถยนต์รุ่นนี้ทุกส่วนมีความน่าเชื่อถือและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดนี้สอดคล้องกับมาตรฐานของยูโร 5
          Fiat 500 : You are. We Car. บ่งบอกความเป็นคุณด้วย Fiat 500
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:16:45 PM
ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ ซูเปอร์ ซีเอ็นจี

 

          ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ ซูเปอร์ ซีเอ็นจี
          ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ ซูเปอร์ ซีเอ็นจี จากบริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นรถกระบะตอนเดียวที่รวมคุณสมบัติเด่นและประโยชน์ใช้สอยของรถปิคอัพรุ่นซีนอน ซูเปอร์ ซีเอ็นจี และซีนอน ไจแอนท์ ซึ่งออกสู่ตลาดก่อนหน้านี้เข้าไว้ด้วยกัน โดยติดตั้งเครื่องยนต์ซีเอ็นจี 100% ทั้งระบบมาจากโรงงานผลิต พร้อมกระบะท้ายขนาดใหญ่ พื้นเรียบ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์
          รถรุ่นนี้ได้รับการผลิตในโรงงานที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งดำเนินการโดยพันธมิตรของทาทา มอเตอร์ส คือ บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด โดยทาทาวางแผนที่จะผลิตรถรุ่นซีนอนเครื่องยนต์ซีเอ็นจีมาตั้งแต่เริ่มโครงการผลิตรถรุ่นดังกล่าว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมอบความประหยัดคุ้มค่าแก่ผู้ใช้รถ

          ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ ซูเปอร์ ซีเอ็นจี ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ด้วยมาตรฐานสูงสุดด้านความทนทานปลอดภัย ประหยัดน้ำมันและค่าซ่อมบำรุง เพื่อความมั่นใจสูงสุดของผู้ใช้งาน

          กระบะไจแอนท์
          รถปิคอัพรุ่นนี้มีช่วงล่างแบบยกสูงมาจากโรงงาน พร้อมกระบะท้ายขนาดใหญ่เป็นพิเศษ พื้นเรียบไม่ติดซุ้มล้อ มีขนาดความกว้าง 1,720 ม.ม. ยาว 2,503 ม.ม. สูง 380 ม.ม. ผนังกระบะเปิดได้ทั้ง 3 ด้านเพื่อความสะดวกในการขนถ่ายสินค้าและสัมภาระ

          เครื่องยนต์ซูเปอร์ ซีเอ็นจี
          ทาทา ซีนอน ไจแอนท์ ซูเปอร์ ซีเอ็นจี มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.1 ลิตร DOHC หัวฉีด  มัลติพอยต์ แรงม้าสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 3,750 รอบต่อนาที มีการปรับกำลังอัดในเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับการเผาไหม้ของซีเอ็นจีคือ 12:1 ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทนทาน บำรุงรักษาง่าย และประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด

          ระบบซีเอ็นจีใช้อุปกรณ์จากผู้ผลิตชั้นนำที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานความปลอดภัย ระดับนานาชาติ อาทิ ระบบท่อก๊าซทนความดันสูงจาก Swagelok สหรัฐอเมริกา และอุปกรณ์ปรับแรงดันก๊าซจาก Teleflex แคนาดา และหัวฉัดของ Bosch เยอรมันนีเป็นต้น

          ส่วนการจุดระเบิดควบคุมโดยซอฟต์แวร์ประมวลผลอัจฉริยะ การจ่ายก๊าซจะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาพการใช้งาน และการจ่ายก๊าซจะหยุดลงทันทีเมื่อเกิดการชน เพื่อความปลอดภัย

          รถรุ่นดังกล่าวได้รับการออกแบบติดตั้งถังก๊าซจำนวน 3 ถัง พร้อมยางอะไหล่ไว้ใต้กระบะท้าย ถังก๊าซซีเอ็นจีมีปริมาตรรวม 230 ลิตรน้ำ บรรจุก๊าซซีเอ็นจีได้ 38 กิโลกรัม แล่นได้ระยะทางกว่า 350 กิโลเมตร จากการเติมก๊าซเพียงครั้งเดียว ช่องเติมก๊าซอยู่ด้านข้างตัวรถเพื่อให้สามารถเติมก๊าซได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมมาตรวัดปริมาณและความดันก๊าซที่แสดงค่าอย่างแม่นยำ และสัญญาณไฟเตือนเมื่อก๊าซใกล้หมด
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:18:58 PM
สโกดา โฉมใหม่ครั้งแรกในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009

 


 
          สโกดา (Skoda) ยนตรกรรมจากประเทศสาธารณรัฐเช็ก พร้อมสะกดสายตาทุกคู่ด้วยรูปลักษณ์ใหม่หมดจดทั้งภายนอกและภายในเป็นครั้งแรกในเมืองไทยในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2552 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 1- 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          สโกดา ยนตรกรรมเหนือระดับจากสาธารณรัฐเช็ก มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานยุโรปและเครื่องยนต์สมรรถนะเยี่ยมจากประเทศเยอรมัน จึงเป็นที่ไว้วางใจในด้านวัสดุคุณภาพสูง พร้อมดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย ในราคาสมเหตุผล จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดรถยนต์ทวีปยุโรป อาทิ สาธารณรัฐเช็ก อังกฤษ เป็นต้น สำหรับในประเทศไทย บริษัทที่ได้รับเกียรติเป็นผู้แทนจำหน่ายสโกดาอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียว คือ บริษัท ยูโรเปี้ยน เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด

          คุณกิตติภัฏ เฉลยทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูโรเปี้ยน เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการนำเข้า พร้อมเผยแผนการตลาดว่า “ในปีนี้ บริษัทฯ ภูมิใจนำเสนอสโกดา รถยนต์ใหม่ในเครือ โดยมุ่งหวังให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกทางหนึ่งสำหรับลูกค้าชาวไทย เนื่องจากที่ผ่านมาสโกดามีพัฒนาการอย่างเด่นชัดในทุกๆ ด้าน นอกจากนี้ เรายังเตรียมความพร้อมด้านศูนย์บริการและบริการหลังการขายไว้ ทั่วประเทศเพื่อรองรับตลาดเมืองไทย โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นที่นิยมอย่างรวมเร็ว สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในปี 2010 จะมุ่งเน้นการจัดแสดงรถในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศรวมทั้งเชิญกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมาทดลองขับ (Test drive) เพื่อประสบการณ์เหนือระดับ ซึ่งเรามั่นใจอย่างยิ่งว่าสโกดาจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ชาวไทย”

          สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป บริษัทฯ จะเผยโฉมสโกดาเป็นครั้งแรกเพื่อให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้สัมผัสกับยนตรกรรมมาตรฐานยุโรปนี้อย่างใกล้ชิด โดยจะเปิดตัวรถยนต์ สโกดาโฉมใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นไฮไลท์ ออคตาเวีย (Octavia) ซีดานหรู 4 ประตู ดีไซน์ภูมิฐานตามแบบฉบับยุโรปด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแข็งแกร่งสง่างาม พร้อมภายในโอ่อ่ากว้างขวาง สามารถตอบสนองความต้องการของครอบครัวอย่างแท้จริง สมรรถนะเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1,798 ซีซี ระบบ TSI 160 แรงม้า วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 223 กม./ชม. โดยมีราคาจำหน่ายคันละ 1.99 ล้านบาท ส่วนรุ่น ฟาเบีย (Fabia) รถ Hatchback 5 ประตู โดดเด่นด้วยดีไซน์อันล้ำสมัย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้ อย่างลงตัว พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,598 ซีซี 16 วาล์ว 105 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทริปทรอนิค ความเร็วสูงสุดถึง 185 กม./ชม. ที่ราคาจำหน่าย 1.49 ล้านบาท”

          สโกดา ยนตรกรรมมาตรฐานยุโรปจากประเทศสาธารณรัฐเช็ก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1894 โดยวาคลาฟ ลอริน (VACLAV LAURIN) และวาคลาฟ เคลเมนท์ (VACLAV KLEMENT) สโกดา มีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก และปัจจุบัน เป็นสมาชิกในกลุ่ม โฟล์คสวาเกน – ออดี้ แห่งประเทศเยอรมนี โดยบริษัท ยูโรเปี้ยน เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ได้รับเอกสิทธิ์ในการนำเข้าแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ปัจจุบันมีโชว์รูม Skoda ในกรุงเทพมหานคร 5 แห่ง ได้แก่ หัวหมาก, สาธร, หัวลำโพง, บางกะปิ และสุขุมวิท 101 อีกทั้งให้บริการหลังการขาย ณ โชว์รูมและศูนย์บริการของดี.เอ.ดี.กรุ๊ป และยนตรกิจทั่วประเทศ
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:19:56 PM
พบประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจกับ MTM Skoda รูปลักษณ์ใหม่และ MTM Audi ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009


 
          บริษัท เอ็มทีเอ็ม มอเตอเรน เทคนิค ไมเยอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญแต่งรถชื่อดังระดับโลก อวดโฉมสุดยอดยนตรกรรม เอ็มทีเอ็ม สโกดา (MTM Skoda) และเอ็มทีเอ็ม ออดี้ (MTM Audi) ในงานมอเตอร์ โชว์ 2009 ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2552 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 1- 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          คุณกิตติภัฏ เฉลยทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มทีเอ็ม มอเตอเรน เทคนิค ไมเยอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยเอ็มทีเอ็มได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดีเสมอมา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้รักยานยนต์เหนือระดับอย่างแท้จริงที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงไม่หยุดยั้งที่จะสรรหารถยนต์รุ่นต่างๆ เพื่อนำเสนอความหลากหลายยิ่งขึ้น โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้รับเกียรติเป็นผู้แทนนำเข้าและจัดจำหน่าย เอ็มทีเอ็ม สโกดา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อเอาใจผู้หลงใหลและชื่นชอบในการปรับแต่งเครื่องยนต์โดยเฉพาะ ซึ่งสโกดาเป็นยนตรกรรมยอดนิยมจากสาธารณรัฐเช็ก มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานยุโรปและเครื่องยนต์สมรรถนะเยี่ยมจากประเทศเยอรมัน จึงเป็นที่ไว้วางใจในด้านวัสดุคุณภาพสูง พร้อมดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน โฉบเฉี่ยวทันสมัย สำหรับตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

          ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป จะเผยโฉม เอ็มทีเอ็ม สโกดา รุ่นใหม่เป็นครั้งแรกในเมืองไทย ได้แก่เอ็มทีเอ็ม สโกดา ออคตาเวีย (MTM Skoda Octavia) สีเงิน ภายนอกดูโดดเด่นทุกมุมมอง พร้อมตกแต่งเพิ่มเติมด้วย โมโทรนิค คอมพิวเตอร์ (Motronic Computer) ล้อแมคอัลลอยด์ (Bimoto Rims) ขนาด 19 นิ้ว และสปริงช่วงล่างกันกระเทือน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะอันยอดเยี่ยมขนาด 1,798 ซีซี ระบบ TSI 200 แรงม้า และวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม. ในราคาจำหน่าย 2.3 ล้านบาท ส่วน เอ็มทีเอ็ม สโกดา ฟาเบีย (MTM Skoda Fabia) เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์อัน ล้ำสมัยกับตัวถังสีดำ หลังคาขาว เสริมความงามด้วยอุปกรณ์แต่งรถจากไมโลเทค (Milotec) พร้อมล้อแมคขนาด 17 นิ้ว เครื่องยนต์ขนาด 1,598 ซีซี 16 วาล์ว เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทริปทรอนิค105 แรงม้า วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. ในราคาจำหน่าย 1.69 ล้านบาท

          สำหรับเอ็มทีเอ็ม ออดี้ จะจัดแสดง เอ็มทีเอ็ม ออดี้ คิว 5 (MTM Audi Q5) ซึ่งเป็นรถเอสยูวี (SUV) หรูผสานรูปทรงสปอร์ตปราดเปรียวเข้ากับความสะดวกสบายของลิมูซีน เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยสูงสุดโดยใช้นวัตกรรมล้ำสมัยกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (Quattro) ที่ช่วยการทรงตัวเป็นเลิศ พร้อมระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบควบคุมการลื่นไถล ASR ระบบช่วยเบรก และระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS จนชนะรางวัลด้านความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP และรางวัล Top Safety Pick จากสหรัฐอเมริกา สมรรถนะเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ 1,984 ซีซี เทอร์โบ FSI 270 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 390 นิวตันเมตร เริ่มที่ 1,500 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ เอส ทรอนิค (S-tronic) 7 สปีด ในอัตราเร่งจาก 0 -100 กิโลเมตร ภายใน 6.8 วินาที

          นอกจากนี้ ยังมีสุดยอดรถสปอร์ตเอ็มทีเอ็ม ออดี้ อาร์ 8 (MTM Audi R8) โดนใจคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์ล้ำสมัย ผสานเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ตจากสนามแข่งเลอ มังค์ (Le Mans) อันโด่งดัง พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์กำลังสูงสุดถึง 420 แรงม้า และรอบเครื่องยนต์สูงสุดอยู่ที่ 8,250 รอบต่อนาที มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เพียง 4.6 วินาที ระบบเกียร์อาร์ ทรอนิค 6 สปีด และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 301 กม./ชม. เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทั้งระบบนำทางด้วยสัญญาณดาวเทียม ระบบรับสายโทรศัพท์เคลื่อนที่อัตโนมัติ และเบาะระบบไฟฟ้า ตลอดจนการตกแต่งอย่างมีรสนิยมด้วยล้อแม็กซ์ คิ้วขอบประตูอะลูมิเนียมและท่อไอเสียสลักโลโก้ของเอ็มทีเอ็ม รวมทั้ง เอ็มทีเอ็ม ออดี้ เอ 5 (MTM Audi A5) รถซีดานสไตล์สปอร์ตกับรูปโฉมโฉบเฉี่ยวและหรูหราในสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเอ็มทีเอ็ม ทั้งยังโดดเด่นสะดุดตาด้วยดีไซน์สุดล้ำที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับหนุ่มสาวยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์สุดเร้าใจ ขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาด 1,984 ซีซี 270 แรงม้า

          บริษัท เอ็มทีเอ็ม มอเตอเรน เทคนิค ไมเยอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับเอกสิทธิ์ให้เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายของบริษัท เอ็มทีเอ็ม มอเตอเรน เทคนิค ไมเยอร์ ประเทศเยอรมนี ที่มีสาขาอยู่ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยนำเข้าอุปกรณ์แต่งรถ ชิ้นส่วน อะไหล่ ตลอดจนรถยนต์ที่ผ่านการปรับแต่งจากเอ็มทีเอ็มเข้ามาจำหน่ายในไทย พร้อมทั้งให้บริการแบบครบวงจรในการปรับแต่งและเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ด้วยศูนย์บริการครบวงจรที่ได้รับรองมาตรฐานจากประเทศเยอรมนี ติดต่อโชว์รูมและศูนย์บริการเอ็มทีเอ็ม (ประเทศไทย) โทร. 0 2332 7576-9 (www.mtm-thailand.com)
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:21:44 PM
โพลาร์ซันอวดโฉมรถรุ่นยอดนิยมในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009


 
          บริษัท ยูโร ออโต้ เซอร์วิส จำกัด เปิดโลกแห่งยนตรกรรมเปี่ยมสมรรถนะของโพลาร์ซัน ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2552 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1- 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          คุณอภิวัฒน์ ปรีดายันต์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ยูโร ออโต้ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า “โพลาร์ซัน (Polarsun) เป็นรถตู้เอนกประสงค์คุณภาพจากประเทศจีน โดดเด่นด้วยการผสานเทคโนโลยีอันทรงประสิทธิภาพกับเครื่องยนต์เบนซินสมรรถนะสูงที่สามารถรองรับการติดตั้งระบบพลังงานสำรองของแก๊สเชื้อเพลิงได้อย่างดี การออกแบบภายในของรถมีขนาดกว้างขวางเหมาะสมสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อเป็นพาหนะส่วนตัวและการใช้งานในเชิงพาณิชย์ ในราคาสมเหตุสมผล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมด้านศูนย์บริการและบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ จึงมั่นใจว่า โพลาร์ซันจะตอบโจทย์ความต้องการสำหรับรถทั้งเชิงพาณิชย์และรถอเนกประสงค์ที่เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และจะเป็นรถอีกแบรนด์หนึ่งที่อยู่ในใจลูกค้าชาวไทย”

          “บริษัทฯ มีแผนรุกตลาดรถตู้อเนกประสงค์ในเมืองไทย เนื่องจากเล็งเห็นว่ายังมีศักยภาพในการขยายตัวได้อีกมาก โดยวางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มขนส่งโดยสารเพื่อการพาณิชย์และกลุ่มสหกรณ์รถตู้ขนส่ง 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วน 20 เปอร์เซ็นต์เป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อย นอกจากนี้ ในปี 2010 ทางบริษัทฯ ยังวางแผนนำเข้ารถตู้โดยสารรุ่นใหม่มาจัดจำหน่าย ซึ่งขณะนี้ กำลังอยู่ใน ช่วงศึกษาตลาด” คุณอภิวัฒน์เสริม

          ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โปปีนี้ จะมีการจัดแสดงรถตู้เอนกประสงค์โพลาร์ซันทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น EX 1 ซึ่งนับเป็นรุ่นไฮไลท์ ดีไซน์ภายนอกดูภูมิฐาน ภายในโอ่โถง นั่งสบายกับเบาะปรับเอนได้จำนวน 9 ที่นั่ง เสริมความงามด้วยแผงคอนโซลหน้าลายไม้ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งกระจกไฟฟ้า และที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง ขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ 2,237 ซีซี 104 แรงม้า ที่ 4,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 193 นิวตันเมตร พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ เกียร์ 5 สปีด เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง ในราคาเพียง 699,000 บาท

          นอกจากนี้ ยังมีรุ่น HX 1 ตกแต่งภายในด้วยเบาะจำนวน 9 ที่นั่ง เพื่อประโยชน์ในการขนส่งผู้โดยสาร รวมทั้งกลุ่มองค์กรที่ใช้ขนส่งโดยสารพนักงาน โดยมีราคาจำหน่าย 659,000 บาท และ รุ่น LH 1 จำหน่ายเพียงตัวถังรถ เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าโดยมีราคา 639,000 บาท

          โพลาร์ซันเป็นรถตู้เอนกประสงค์คุณภาพจากประเทศจีน ผลิตโดยบริษัท โพลาร์ซัน มอร์เตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์อันยาวนานกว่า 50 ปี ในการผลิตรถโดยสารและรถอเนกประสงค์ โดยบริษัท ยูโร ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ได้รับเอกสิทธิ์ในการนำเข้า

โพลาร์ซันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ปัจจุบันมีโชว์รูมในกรุงเทพมหานคร 5 แห่ง ได้แก่ หัวหมาก, สาธร, หัวลำโพง, บางกะปิ และสุขุมวิท 101 อีกทั้งจัดให้บริการหลังการขาย ณ โชว์รูมและศูนย์บริการของดี. เอ.ดี. กรุ๊ป และบริษัทยนตรกิจทั่วประเทศ
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:22:55 PM
สัมผัสยนตรกรรมเหนือระดับจากซีตรอง ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009

 

          ซีตรองเปิดประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับกับยนตรกรรมมาตรฐานยุโรปรุ่นเด่นภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2552 ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 1- 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          คุณเต็ม ทรงเจริญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ยูโร ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ซีตรอง (Citroen) อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด นับตั้งแต่เปิดตัว “จัมเปอร์” ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมด้วยยอดจองทะลุเป้า และในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปปีนี้ เราจึงมั่นใจว่าลูกค้าจะให้ความสนใจและรอคอยที่จะชื่นชมรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะและความหรูหรานี้อย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยรถรุ่นยอดนิยมของเรา”

          “ซีตรอง จัมเปอร์” (Citroen Jumper) รถเอนกประสงค์ความกว้าง 11 ที่นั่ง ที่ได้รับการออกแบบให้ตอบสนองหลากหลายไลฟ์สไตล์ทั้งการเป็นรถสำหรับผู้บริหาร รถสำหรับครอบครัว ดารานักแสดง และเซเลบบริตี้ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอก และการตกแต่งภายในที่หรูหราแบบวีไอพี ตลอดจนสามารถประหยัดพลังงานด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบ HDI คอมมอนเรล ซึ่งมีให้เลือกทั้งขนาด 2.2 ลิตร กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.59-2.19 ล้านบาท และขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 160 แรงม้า สนนราคาเบื้องต้นประมาณ 2.39-2.59 ล้านบาท
         
          “ซีตรอง ซี 6” (Citroen C6) รถยนต์ดีไซน์หรู ไร้กาลเวลา ผสานความงามในแบบคูเป้กับความหรูหราในแบบลิมูซีน เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ On-Board Computer สำหรับบันทึกข้อมูลในการขับขี่ และคงความแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3.0i V6 ให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 2.7 HDI V6 ให้กำลังสูงสุด 208 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบทิปโทรนิค รวมทั้งระบบกันสะเทือนช่วงล่างแบบ Hydractive 3 เพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ ในราคาประมาณ 5.39-5.69 ล้านบาท พิเศษสุดสำหรับผู้สั่งจองซีตรอง ซี 6 ภายในงาน รับคูปองเติมน้ำมันฟรีถึง 2 แสนบาท และฟรีดอกเบี้ย 4 ปี

          “ซีตรอง ซี 4” (Citroen C4) รถแฮทช์แบ็ค 5 ประตูในรูปลักษณ์ทันสมัย ดีไซน์โค้งมน กลมกลืน พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์ 2.0 iA ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร/ 4,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติและระบบเบรค ABS และ EBD สร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ ในราคาประมาณ 1.54 ล้านบาท

          ซีตรอง รถหรูจากประเทศฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1919 โดย มร.อองเดร ซีตรองมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซีตรองมีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องนวัตกรรม ยานยนต์ทันสมัย เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง และการออกแบบที่ล้ำสมัย โดยได้รับรางวัล ยกย่องระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย โดยบริษัท ยูโรเปี้ยน ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ได้รับเอกสิทธิ์ในการนำเข้าแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ปัจจุบันมีโชว์รูมซีตรองในกรุงเทพมหานคร 5 แห่ง ได้แก่ หัวหมาก, สาธร, หัวลำโพง, บางกะปิ และสุขุมวิท 101 อีกทั้งจัดให้บริการหลังการขาย ณ โชว์รูมและศูนย์บริการของดี. เอ.ดี. กรุ๊ป และยนตรกิจทั่วประเทศ
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:24:05 PM
ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ ย้ำกระแสรถยนต์อเนกประสงค์ นำ H-1 ทุกแบบมาจำหน่าย พร้อมโชว์ ix-onic รถ SUV ต้นแบบที่ผลิตได้จริง

 
 
          ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ ย้ำกระแสรถยนต์อเนกประสงค์ นำ H-1 ทุกแบบมาจำหน่าย พร้อมโชว์ ix-onic รถ SUV ต้นแบบที่ผลิตได้จริง พร้อมทำตลาดในประเทศไทย

          Hyundai นำเสนอยนตรกรรมคุณภาพสูง เจาะกลุ่มลูกค้าที่เน้นความคุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งรถร่วมแสดงในงาน Motor Expo ครั้งที่ 26 นำโดย Hyundai H-1 รถ MPV สุดหรู และ Hyundai Sonata รถเก๋งขนาดกลางที่ให้ความประหยัดพร้อมสมรรถนะจากเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ส่วนไฮไลท์คือคอนเซ็ปต์คาร์ ix-onic ต้นแบบของ Hyundai ix35 รถ SUV ขนาดกลางที่เพิ่งเปิดตัวในเกาหลีและมีโอกาสแนะนำสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทยปีหน้า

          บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ Hyundai ในประเทศไทย ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์หรือ Motor Expo ครั้งที่ 26 งานแสดงรถและจำหน่ายรถยนต์ยิ่งใหญ่ปลายปีซึ่งจัดโดยบริษัท สื่อสากล จำกัด ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2552 ณ อาคาร Challenger พื้นที่ A05 ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

          ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 นี้ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้นำรถเข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายครบทุกรุ่นพร้อมแคมเปญพิเศษเพื่อเป็นการสมนาคุณแก่ลูกค้าและเพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย นำโดยรถอเนกประสงค์ระดับหรูเจ้าของรางวัล Car of the Year 2008-2009 Hyundai H-1 ทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดาและ H-1 Maesto เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดพร้อมโหมด Sport shift นอกจากนี้ยังมีรุ่น H-1 Maesto SS สีขาวซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษในจำนวนจำกัดเพียง 60 คันโดยแคมเปญพิเศษสำหรับรถ H-1 ทุกรุ่น คือ ราคาเริ่มต้นเพียง 1,050,000 บาท สามารถผ่อนชำระรถกับลิสซิ่งกสิกรไทยในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1.88% นานถึง 48 เดือน พร้อมมอบโทรศัพท์มือถือแบบ Smart Phone ยี่ห้อ Samsung Omnia II มูลค่า 23,900 บาทฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 มกราคม 2553

รถยนต์ Hyundai Sonata 2.4 EXE อีกหนึ่งยนตรกรรมแห่งความคุ้มค่า ด้วยการเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรให้การรับประกันโดยบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด นานถึง 3 ปีหรือ 100,000 กม. นอกจากนี้ยังมีรถกระบะเพื่อการพาณิชย์คือ Hyundai H-100 เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ที่สามารถบรรทุกหนักและวิ่งได้โดยไม่ติดกฎหมายเรื่องเวลา โดยในรุ่น H-100 นี้มอบข้อเสนอผ่อนนาน 72 เดือน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 2.55% โดยมีราคาจำหน่ายสำหรับ Hyundai H-100 คือ 599,000 บาท

          สำหรับรถยนต์ต้นแบบนั้น ปีนี้ทางฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ ได้ทำเอา Hyundai ix-onic (ฮุนได อิค-โซนิค) รถประเภท SUV ที่ทางฮุนไดได้นำไปจัดแสดงในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 79 ที่ผ่านมา โดยรถคันดังกล่าวเป็นรถต้นแบบในรหัส HED-6 ใช้เครื่องยนต์เบนซินเบนซิน GDI พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จ ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Dual Clutch นอกจากให้สมรรถนะที่ดีแล้วยังประหยัดพลังงานด้วยระบบ ISG (Idle Stop & Go) รักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อย CO2 ต่ำเพียง 149 กรัม/กิโลเมตรเท่านั้น ต่อมาได้รับการพัฒนาและผลิตขึ้นจริงเพื่อการจำหน่ายภายใต้ชื่อรุ่น Hyundai Tucson หรือ Hyundai ix35 ซึ่งเปิดตัวในประเทศเกาหลีไปเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีจำหน่ายทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลแรงม้าสูง แต่ให้ความประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งทางฮุนไดมีแผนที่จะนำรถรุ่นใหม่นี้ออกทำตลาดเพื่อเอาใจผู้บริโภคมีระดับที่นิยมความแตกต่างที่ทันสมัยในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย

          เชิญสัมผัสกับรถยนต์ Hyundai สุดยอดยนตรกรรมระดับโลกจากเกาหลีทุกรุ่นได้ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ที่บู๊ธจัดแสดงรถยนต์ Hyundai พื้นที่ A05 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2552
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:25:25 PM
ตซูบิชิ สเปซ แวกอน อีกระดับของยนตรกรรมอเนกประสงค์คันหรู

 

          เร้าใจ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกดีไซน์เฉียบ พร้อมการออกแบบภายใน หรูหรา เน้นความ สะดวกสบาย มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน  รุ่น GT มาพร้อมกระจังหน้าสีดำผสมคิ้วโครเมียมสไตล์สปอร์ต และชุดตกแต่งดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ในขณะที่รุ่น GLS Limited มาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์ล้ำสมัย นอกจากนี้ยังมาพร้อมไฟหน้าแบบ HID และระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ (Auto leveling) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดในขณะฝนตกด้วยชุดปัดน้ำฝนหน้าแบบใหม่ (Flat type) และ กระจกมองข้างช่วยลดการเกาะตัวของหยดน้ำ  การออกแบบห้องโดยสารภายในกว้างขวางหรูหรา สะดวกสบายในทุกพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์ความบันเทิงพร้อมสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น DVD, VCD,CD MP3,WMA รุ่นใหม่ที่ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมชุดอุปกรณ์ต่อพ่วง iPod  จอภาพด้านหน้าแบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 6.5 นิ้ว  จอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 10.2 นิ้ว ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางตลอดเส้นทาง  และให้ความสบายในทุกอิริยาบถด้วยเบาะ 7 ที่นั่งแบบ Space Magic 7 Seats ที่สามารถปรับได้ตามสรีระของผู้ใช้และปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน    สะดวกสบายด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกสวิตช์ควบคุมอิสระหน้า-หลัง ควบคุมทิศทางลมได้ถึง 16 ทิศทาง พร้อมช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งทั้ง 3 แถว ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว

          นุ่มนวล แต่ทรงพลัง กับเครื่องยนต์เบนซิน 2.4-liter MIVEC   รองรับแก๊สโซฮอล์ อี 20 มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ ขนาด 2.4 ลิตร 165 แรงม้า  ที่มาพร้อมนวัตกรรมยานยนต์อันชาญฉลาด MIVEC ระบบวาล์วแปรผันที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดีให้แปรผันสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ และรองรับแก๊สโซฮอล์ อี 20 ตอบสนองนโยบายพลังงานทางเลือก

          ระบบความปลอดภัยเหนือระดับ เพื่อคุณภาพในการขับขี่

          มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยครบครัน ระบบตัวถัง RISE Body ตัวถังนิรภัยเอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ คุ้มครองตั้งแต่หน้าจรดหลัง พร้อมคานเหล็กนิรภัยในประตูลดการยุบตัวเมื่อเกิดการชนจากข้างรถ เสริมความมั่นใจในการขับขี่จากการติดตั้งระบบเบรก ABS 4 แชนแนล 4 เซ็นเซอร์ ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบช่วยเสริมแรงเบรก (BA)  เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ ELR ที่เบาะนั่งคู่หน้า รวมทั้งถุงลมนิรภัยแบบปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าช่วยลดแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยกล้องจับภาพขณะถอยหลัง และสัญญาณกะระยะจอดหน้า-หลัง แบบ 5 จุด เบรกมือแบบแป้นบังคับที่เท้าใช้งานง่าย และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่รถระยะทางไกล นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบกระจกไฟฟ้าแบบอัตโนมัติด้านคนขับพร้อมระบบ Safety พร้อมมั่นใจยิ่งกว่าด้วยระบบสัญญาณกันขโมยและระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม (Immobilizer)

          พิเศษ...!!!   มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน GT รุ่นพิเศษ   2-way Navi Edition  ที่เพิ่มความเร้าใจด้วยรูปลักษณ์ภายนอกดีไซน์
เฉียบ โดดเด่นด้วยตัวถังสีขาวมุก พร้อมภายในสีดำ สไตล์สปอร์ต ที่มาพร้อมกับระบบนำทาง (Navigator) แบบ 2 สถานะ โดยใช้ได้ทั้งแบบเชื่อมต่อเข้ากับหน้าจอมอนิเตอร์ด้านหน้าแบบสัมผัส  (Touch Screen) ขนาด 6.5 นิ้ว สามารถค้นหาสถานที่บนแผนที่ได้มากกว่า 400,000 จุด ทั่วประเทศ พร้อมระบบแสดงภาพแบบ 3 มิติ และระบบนำทางด้วยเสียงภาษาไทย  อีกทั้งยังสามารถถอดใช้เป็นอุปกรณ์ GPS แบบพกพา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางและการใช้งาน นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกด้วยระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย (Bluetooth) รุ่นใหม่ล่าสุดของ Alpine  ที่สามารถสนทนาผ่านระบบเสียงภายในรถยนต์ผ่านไมโครโฟนที่ติดตั้งบนคอพวงมาลัย พร้อมแสดงรายชื่อหมายเลขโทรศัพท์และสถานะบนหน้าจอมอนิเตอร์ด้านหน้า และยังมีฟังก์ชั่นรับสายอัตโนมัติขณะขับขี่ สามารถรองรับการเล่นเพลงจากโทรศัพท์มือถือผ่านระบบ A2DP และ AVRCP เพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยในการขับขี่ ช่วยให้ไม่พลาดการสื่อสารในทุกการเดินทาง   เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการความแตกต่าง และชื่นชอบความสะดวกสบายของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:27:04 PM
ซันยอง สุดยอดยนตรกรรมระดับโลก ภายใต้สโลแกน “Drive Different”
 
          บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 2 - 13 ธันวาคม 2552 โดยในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำสุดยอดยนตรกรรมระดับโลกมานำเสนอในงานนี้ด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ภายใต้สโลแกน “Drive Different” สัมผัสที่แตกต่างในการขับขี่ จากรูปทรงที่โดดเด่นสะดุดตา โดยใช้เทคโนโลยีจากเยอรมัน ที่สูงด้วยคุณภาพ ทนทาน ทันสมัยและมีสมรรถนะสูง

          สำหรับในปีนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำ NEW STAVIC EXCLUSIVE รถยนต์อเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง นำเข้าทั้งคัน สไตล์เยอรมัน ที่มีรูปโฉมโดดเด่นสง่างาม มีเนื้อที่ใช้สอยภายในกว้างขวาง ให้ความโดดเด่นและมีรสนิยมด้วยซันรูฟสองชั้นที่ควบคุมการงานด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส  New Stavic Exclusive MPV สุดหรูตัวใหม่ล่าสุดจากค่ายซันยองเผยโฉมครั้งแรกในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งที่ 26 มาพร้อมกับสมรรถนะและความสะดวกสบายมากมาย  ได้รับการปรับโฉมเพิ่มอุปกรณ์ให้มีความภูมิฐานยิ่งขึ้น ด้วยชุดไฟ Day Light Running แบบ LED ที่โคมไฟคู่หน้า และชุด Lighting Package ที่ให้ความสว่างขาวใสและสวยงามภายในห้องโดยสารที่โอ่อ่า เพิ่มความภูมิฐานยิ่งขึ้นด้วยชุดลายไม้วอลนัทสีเข้มที่วงพวงมาลัย แผงคอนโซลหน้าปัทม์และที่แผงประตูทั้ง 4 บาน นอกจากนี้ Stavic Exclusive ใหม่ยังเพิ่มความเพลิดเพลินแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทางด้วยชุด Multi Media ระดับเดียวกับ Home Theatre Surround 5.1 Channels ด้วยชุดจอหน้าและจอเพดานพร้อมชุด Multi Media ติดตั้งที่พนักพิงศรีษะคู่หน้า ซึ่งผู้โดยสารแต่ละท่านสามารถที่จะเลือกความเพลิดเพลินชมรายการตามสไตล์ของแต่ละคนเป็นการส่วนตัวด้วยชุดหูฟังสเตริโอไร้สายเพิ่มความเพลิดเพลินในทุกการเดินทาง

           New Stavic Exclusive มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งแบบเทอร์โบดีเซลขนาด 2.7 ลิตร และเบ็นซิน
ขนาด 3.2 ลิตร  สำหรับในรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลมีระบบขับเคลื่อนให้เลือกใช้ทั้งในแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหรือแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทุกรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ 5 จังหวะ T-Tronicของเมอร์เซเดสเบ๊นซ์ พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่คล่องแคล่วและสะดวกง่ายดายที่วงพวงมาลัย (Steering Gear Shift)

          นอกจากนี้ บริษัท ยังนำ Stavic รุ่นปัจจุบันมาแสดงด้วยกันอีก 2  แบบ คือรุ่น SL และรุ่น Standard ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2,700 ซี.ซี. 165 แรงม้า Stavic ทุกรุ่น ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ 5 จังหวะ T-Tronic จาก Mercedes Benz พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่คล่องแคล่วและสะดวกง่ายดายที่วงพวงมาลัย (Steering Gear Shift) ให้การทรงตัว และเกาะถนนอย่างดีเยี่ยมด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกสองชั้นและด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่และโดยสาร Stavic ทุกรุ่นมาพร้อมกับชุดไฟ Day Light Running แบบ LED

          Rexton II รถ SUV หรู ขนาด 7 ที่นั่ง นำเข้าทั้งคัน ด้วยมาตรฐานยูโรโฟร์ พร้อมพลังขับเคลื่อนที่มหาศาล จากเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบแบบแปรผัน ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 186 แรงม้าและแรงบิด 402 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ T-Tronic จาก Mercedes Benz พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่คล่องแคล่วและสะดวกง่ายดายที่วงพวงมาลัย (Steering Gear Shift) ให้การยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมด้วยระบบช่วงล่างแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ โดดเด่นและมีรสนิยมด้วยซันรูฟสองชั้นที่ควบคุมการงานด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ภายในตกแต่งด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายง่ายต่อการใช้สอย หรูหราและเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยจอ Multi Media ติดตั้งที่พนักพิงศรีษะคู่หน้า ซึ่งผู้โดยสารแต่ละท่านสามารถที่จะเลือกความเพลิดเพลินชมรายการตามสไตล์ของแต่ละคนเป็นการส่วนตัวด้วยชุดหูฟังสเตริโอไร้สาย

Actyon รถ Sport Utility Coupe ตัวเก่งสายพันธ์แกร่งจากเกาหลีที่ได้รับการออกแบบจากสำนักออกแบบชื่อดัง Ital Design แห่งประเทศอิตาลี ออกแบบด้วยแนวคิดที่ล้ำสมัย มีรูปทรงโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวสวยงาม และมีเอกลักษณ์ โดดเด่นและมีรสนิยมด้วยซันรูฟสองชั้นที่ควบคุมการงานด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2,000 ซี.ซี. ให้พลัง 141 แรงม้า พลังจากเครื่องยนต์เปี่ยมสมรรถนะส่งผ่านไปยังล้อทั้ง 4 ผ่านระบบเกียร์อัจฉริยะรุ่นใหม่ 6 จังหวะ พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่คล่องแคล่วและสะดวกง่ายดายที่วงพวงมาลัย (Steering Gear Shift)  ที่มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part Time ที่จะให้ความคล่องตัวยามขับขี่ในเมืองและเต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะเมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยวทางไกล   ปีนี้มาด้วยมาดใหม่สไตล์โดดเด่นสะดุดตาด้วยชุดแต่ง Sticker ตามแบบที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  เพลิดเพลินและผ่อนคลายตลอดการเดินทางด้วยชุดเครื่องเสียงสเตอริโอเซอร์ราวด์ พร้อมชุดจอที่พนักพิงศรีษะคู่หน้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

          New Kyron โฉมใหม่สุดยอด SUV  ขนาดกลาง 7 ที่นั่งที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่นำสมัย ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2,000 ซี.ซี. ให้พลังขับเคลื่อนสูงถึง 141 แรงม้าและแรงบิดที่ 310 นิวตันเมตร พร้อมชุดเกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ 6 จังหวะ พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่คล่องแคล่วและสะดวกง่ายดายที่วงพวงมาลัย (Steering Gear Shift) ที่ให้ความนุ่มนวลปราดเปรียว และพลังขับเคลื่อนที่เร้าใจสู่ชุดขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ คล่องตัวยามขับขี่ในเมืองและเต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะที่ทรงพลังยามที่ต้องเดินทางไกลในทุก ๆ สภาพถนน  โดดเด่นและมีรสนิยมด้วยซันรูฟสองชั้นที่ควบคุมการงานด้วยระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส เพลิดเพลินและผ่อนคลายตลอดการเดินทางด้วยชุดเครื่องเสียงสเตอริโอเซอร์ราวด์ พร้อมชุดจอที่พนักพิงศรีษะคู่หน้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

          คุณวิรัตน์   ผลประดับ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันยอง ประเทศไทย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ซันยองภายในประเทศไทย กล่าวว่าบริษัทฯ วางแผนทำตลาดรถ SUV ขนาดเล็กเพื่อเพิ่มสัดส่วนการตลาดให้สูงยิ่งขึ้น โดยนำรถต้นแบบ SsangYong C200 เข้ามาแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 ที่ศูนย์การแสดงสินค้า Impact เมืองทองธานี

          SssangYong C200 Concept เป็นรถยนต์คอมแพค เอสยูวีขนาด 5 ที่นั่งที่ซันยอง พัฒนาเพิ่มเติมต่อจากรถยนต์ SUV รุ่นพี่อย่าง Rexton, Kyron และ Actyon ซึ่ง SsangYong C 200 เป็นรถยนต์แบบ  SUV ตระกูลเล็กที่สุดของซันยอง มีขนาดความยาว 4,400 มม.และมีฐานล้อยาวเพียง 2,640 มม.

          SsangYong C200  มีรูปแบบภายนอกที่งดงาม สละสลวย ทันสมัย ด้วยผีมือการออกแบบของ จิออร์เก็ตโต จุยจาโร จากสำนักออกแบบชื่อดังของอิตาลี Ital Design ใช้โครงสร้างตัวรถแบบโมโนค๊อค ซึ่งเป็นอีกพัฒนาการหนึ่งของซันยอง เนื่องจากรถของซันยองทุกรุ่นที่ผ่านมาจะใช้โครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม หรือแบบบอดี้ และแชสซีส์แยกจากกัน

          ขุมพลังของ C200 มีด้วยกัน 2 แบบคือ แบบเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตรและแบบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร 175 แรงม้า และสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ยังมีเครื่องยนต์ไฮบริดดีเซลให้เลือกอีกด้วย C200 ทุกรุ่นใช้ระบบส่งผ่านกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะรุ่นล่าสุดที่ทำงานผสานกับเครื่องยนต์ชุดนี้อย่างดี ให้สมรรถนะและการตอบสนองในการขับขี่ดีเยี่ยม

          เครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ใน C200  เป็นเครื่องยนต์ที่ให้ความประหยัดและสร้างมลพิษน้อยกว่าเดิมถึงกว่า 50 % เหนือกว่ารถคู่แข่งในระดับเดียวกัน อีกทั้งผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่เข้มงวด Euro 5 ซึ่งจะมีกำหนดบังคับใช้ในสหภาพยุโรปราวปี 2012

          บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มนำรถ C200 เข้ามาจำหน่ายเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งหน้าในเดือนธันวาคม 2553
          คุณวิรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า บริษัทมีนโยบายที่จะพัฒนาบริการด้านหลังการขายของซันยองประเทศไทยอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดทั้งในด้านบุคลากรและการจัดเก็บสต๊อกอะไหล่ให้มีเพียงพอ และทันต่อความต้องการของลูกค้า ตลอดจนควบคุมราคาจำหน่ายอะไหล่ซันยองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

          ล่าสุดจากการที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทมีค่าแข็งขึ้น ทำให้ต้นทุนการนำเข้าอะไหล่ของบริษัทฯ ต่ำลง ประกอบกับบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนด้านส่วนลดสำหรับอะไหล่จากซันยองเกาหลีเพิ่มขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการคืนกำไรให้แก่ลูกค้า บริษัทจึงจะทำการปรับราคาจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ซันยองลงอีกกว่า 30% ซึ่งจะมีผลในทันที

          พิเศษสำหรับลูกค้าซันยองที่สั่งจองรถภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 จะได้รับการสมนาคุณด้วยการนำชมความงามและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมเก่าแก่ของประเทศเกาหลี 5 วัน 3 คืน หรือ เลือกรับเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ  ซันยองทุกรุ่นทุกคันมาพร้อมกับการรับประกันการใช้งานเป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงฟรี! เป็นเวลา  3 ปี ซึ่งลูกค้าจะได้รับบริการจากจุดบริการของ Mondial มากกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ อันเป็นที่มั่นใจได้ว่าท่านจะได้รับการบริการที่อบอุ่นอย่างรวดเร็วยามที่ต้องการ
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:28:09 PM
ทีเอสแอล ยกทัพรถใหม่อวดโฉมในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ทุ่มโปรโมชั่น ดาวน์น้อย ผ่อนนาน


 
          ทีเอสแอล ยกทัพรถใหม่อวดโฉมในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ทุ่มโปรโมชั่น ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ตามใจลูกค้าแบบสุดๆ พร้อมรับของที่ระลึกและช็อคโกแลตทีเอสแอล เป็นของกำนัล

          ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น ผู้นำเข้าและจำหน่ายสุดยอดยนตกรรมชั้นนำจากต่างประเทศ (ในเครือเบนซ์แจ้งวัฒนะ) ระดมพลรถเด็ด พาเหรดเข้างานมอเตอร์ เอ็กซ์โป อาทิ เช่น Porsche 911 Turbo PDK (997) (พอร์ช ไนน์วันวัน เทอร์โบ พีดีเค เก้าเก้าเจ็ด) ณ วันนี้เป็นคันแรกและคันเดียวในประเทศไทย Ferrari F430 Scuderia (เฟอรารี่ เอฟสี่สามศูนย์ สคูเดเรีย) Porsche Panamera 4S (พอร์ช พานาเมร่า โฟร์เอส) Mercedes Benz New E-Class (เมอเซเดส เบนซ์ นิว อี-คลาส) และ Honda Stepwagon Spada (ฮอนด้า เสต็ปวากอน สปาด้า) มาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษ “The Exclusive Choices 2009”

          นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช รองประธานกรรมการ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า “ปีนี้ทีเอสแอลเข้าร่วมงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเป็นปีแรก ด้วยพื้นที่ของบูธขนาด 850 ตารางเมตร ตกแต่งภายใต้แนวคิด “The Executive Experience” พื้นที่สำหรับรับรองลูกค้าออกแบบให้เป็น Executive VIP Lounge รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ในส่วนรับรองพิเศษ The Grand Lobby และ The Terraces เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ด้วยงบประมาณรวมกว่า 10 ล้านบาท”

          “ภายในบูธ จะมีรถหรูระดับ 5 ดาว และรถยอดนิยมแห่งปีมากกว่า 20 คัน รวมมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น Porsche 911 Turbo PDK (997) ที่จะเปิดตัวในปี 2010 ซึ่งเรานำมาอวดโฉมให้ลูกค้าชาวไทยได้ชมและสัมผัสก่อนใคร ตามด้วย Ferrari F430 Scuderia รถที่แพงที่สุดในบูธ

          ทีเอสแอล ราคา 24 ล้านบาท พร้อม Porsche Panamera 4S / Mercedes Benz New E-Class และ Honda Stepwagon Spada”

          “สำหรับข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์ เอกซ์โป เราจัดมาอย่างพิเศษสุดๆ ภายใต้ชื่อว่า “The Exclusive Choices 2009” ลูกค้าสามารถเลือกจำนวนเงินที่ต้องการดาวน์ เริ่มต้นต่ำสุดที่ 39,900 บาท หรือ สามารถยืดเวลาผ่อนชำระให้นานขึ้น สูงสุดๆ หรือ สามารถเลือกจำนวนเงินผ่อนสบายๆ ต่อเดือน เริ่มต้นที่ 9,900 บาท เท่านั้น นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมบู๊ธ เรามีทีเอสแอล ช็อกโกแลต ที่ผลิตขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะเป็นของกำนัลให้อีกด้วย”

เกี่ยวกับ ทีเอสแอล
          บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ในเครือบริษัทเบนซ์แจ้งวัฒนะ) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตกรรมหรูระดับ 5 ดาวจากต่างประเทศ ผู้นำเทคโนโลยีรถไฮบริดพร้อมศูนย์บริการมาตรฐานสูงครบวงจร SMRT ให้บริการโดยผู้ชำนาญการเฉพาะรถยนต์นำเข้าทุกรุ่น ด้วยประสบการณ์การทำงาน และให้บริการยาวนานกว่า 20 ปี พร้อมอุปกรณ์อันทันสมัยและจุดให้บริการถึง 3 ศูนย์บริการทั่วกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ, สาทรฯ ตัดใหม่, และสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เพื่อตอบสนองความต้องการของสำหรับคนยุคใหม่เช่นคุณอย่างมีระดับ กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.tsl.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมของทีเอสแอลฯ ทั้ง 3 สาขาได้ที่เบอร์ 02-2699999
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:29:19 PM
‘New Suzuki Swift พลิกดีไซน์เพื่อความต่าง’ ล้ำสไตล์ด้วยรูปลักษณ์ใหม่แบบ Cubical Design เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009


 
          บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์นั่ง ‘New Suzuki Swift พลิกดีไซน์เพื่อความต่าง’ อย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009
          ฉีกรูปลักษณ์ใหม่ล้ำแบบ Cubical Design พร้อมด้วยสมรรถนะที่ให้ทั้งความปราดเปรียว และความคล่องตัว ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างฉับไว ขับสนุกในแบบสวิฟท์

          ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันทันสมัย พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพจากซูซูกิที่ทุกคนมั่นใจ
          เชิญทุกท่านเยี่ยมชมรถยนต์คุณภาพของซูซูกิในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป – สัมผัส ทดลองขับ และเป็นเจ้าของ New Suzuki Swift ก่อนใคร (เริ่มเปิดจองในงาน ตั้งแต่วันแรก เป็นต้นไป) พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมายในงาน
          บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์นั่ง ‘New Suzuki Swift พลิกดีไซน์เพื่อความต่าง’ อย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 (The 26th Thailand International Motor Expo 2009) ซึ่งในวันนี้ ซูซูกิได้เปิดโลกทัศน์ใหม่แห่งการขับขี่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งของประเทศไทย ด้วย New Suzuki Swift รถยนต์ที่ผู้คนในหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป ต่างกล่าวขวัญถึงมานาน เนื่องจาก New Suzuki Swift มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวไม่ซ้ำแบบใคร ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง รูปลักษณ์ใหม่ล้ำแบบ Cubical Design ฉีกสไตล์แตกต่างจากเดิม สร้างความน่าหลงใหล สามารถสะกดสายตาผู้คนมาแล้วทั่วโลก พร้อมด้วยสมรรถนะอันน่าทึ่งที่ให้ทั้งความปราดเปรียว คล่องตัว ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างฉับไว ขับสนุกในแบบสวิฟท์ และยังครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันทันสมัย ซึ่งมาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัย และคุณภาพเหนือความคาดหมายจากซูซูกิที่ทุกคนไว้วางใจมานาน สิ่งที่ผู้ขับขี่จะได้รับคือความตื่นเต้นสนุกสนานในทุกจังหวะและช่วงเวลาของชีวิตในแบบของตัวเอง ในวิถีทางที่เลือกเอง สอดคล้องกับปรัชญา Suzuki…Way of Life! ของซูซูกิทั่วโลก
          บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
          นายทาคายูคิ ซูกิยามา ประธาน บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งถือเป็น 100 ปี แห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมของซูซูกิ (Suzuki 100 Years of Innovations) และซูซูกิจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นวัตกรรมยานยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ โดยซูซูกิจะเดินหน้าต่อไปพร้อมๆ กับสังคมโลกและสังคมไทยอย่างไม่หยุดยั้ง



          “และสิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้ คือ ซูซูกิมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นั่นคือ รถยนต์นั่ง ‘New Suzuki Swift พลิกดีไซน์เพื่อความต่าง’ สู่ตลาดรถยนต์ของไทย เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ของการขับขี่ ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ล้ำ แบบ Cubical Design พร้อมด้วยสมรรถนะปราดเปรียวคล่องตัวในแบบสวิฟท์
          ซูซูกิคาดหวังว่า รถยนต์นั่ง New Suzuki Swift สินค้าคุณภาพใหม่จากซูซูกิ ที่ผลิตขึ้นภายใต้ปรัชญา Suzuki’s Way of Life! จะสามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีความต้องการความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง นั่นเพราะเราแต่ละคนมี Way of Life! ในแบบของตัวเอง ซูซูกิจึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความพึงพอใจเหนือความคาดหมายให้กับผู้บริโภค และได้รับการตอบรับที่ดีเหนือความคาดหมายเช่นกัน” นายซูกิยามากล่าว
          นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้จัดการ แผนกการขาย เปิดเผยว่า “New Suzuki Swift เป็นรถยนต์นั่งที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากยุโรป โดยสร้างขึ้นตามมาตรฐานและคุณภาพของซูซูกิที่ทุกคนเชื่อถือและไว้วางใจ โดยมีการผสานเอา DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคอมแพ็คคาร์เข้ามารวมไว้ด้วยกัน นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการทำงาน ทีมนักออกแบบและวิศวกรของซูซูกิ ได้ผสานความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านยนตรกรรมยุโรป รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญทางด้านยนตรกรรมอีกหลายท่าน เพื่อให้ได้มาซึ่ง New Suzuki Swift ยนตกรรมสำหรับคนยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ หรือ Way of Life! ในแบบของตัวเอง”
          “รถยนต์ New Suzuki Swift เป็นรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมาแล้วทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป เป็นรถยนต์ซึ่งผู้ที่ได้สัมผัสประสบการขับขี่ในแบบสวิฟท์ หรือแม้แต่เพียงได้พบเห็น ต่างชื่นชอบทั้งด้านดีไซน์และสมรรถนะ และในหลายๆ ปีที่ผ่านมา ซูซูกิ สวิฟท์ ได้แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถอันน่าทึ่ง กับภาพของรถยนต์ญี่ปุ่นเพียงแบรนด์เดียวที่โลดแล่นท้าทายรถยนต์แบรนด์ยุโรปในสนามการแข่งขัน เจดับบลิวอาร์ซี (JWRC หรือ Junior World Rally Championship) ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยได้รับชัยชนะในหลายๆ ทัวร์นาเมนท์ และสามารถทำเวลาขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆ ของการแข่งขันเคียงข้างรถยนต์ยุโรป” นายวัลลภกล่าวเสริม
          นายวัลลภกล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมวิศวกรของซูซูกิได้พัฒนารูปแบบโครงสร้างและสมรรถนะของ New Suzuki Swift ให้เหมาะกับทุกสภาพถนน โดยทำการทดสอบอย่างเข้มข้นทั้งภายในและภายนอกห้องทดสอบ มีการทดสอบบนถนนจริงครั้งแล้วครั้งเล่าในภูมิประเทศที่หลากหลายเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่น่าพอใจ และเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สนุกกับการขับขี่ที่แตกต่าง
          ด้านสมรรถนะ ซูซูกิได้ออกแบบเครื่องยนต์ M15A แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เอกสิทธิ์เฉพาะ New Suzuki Swift ซึ่งมีขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 74 กิโลวัตต์ ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 133 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเทคโนโลยี Variable Valve Timing (VVT) ให้กำลังและแรงบิดสูงทุกอัตราเร่ง ตอบสนองทุกการขับขี่ได้อย่างฉับไว พร้อมสมรรถนะอันน่าทึ่งด้วยอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม. ต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 11.7 วินาที ผู้ขับขี่จึงสามารถเร่งแซงได้รวดเร็วทันใจ ให้อิสระภาพการขับขี่และความตื่นเต้นสนุกสนานมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการขับรถในเมือง นอกจากนี้ ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.7 เมตร ทำให้ New Suzuki Swift มีความปราดเปรียวและมีความคล่องตัวสูง ในทุกๆ เส้นทางการขับขี่ ไม่ว่าถนนจะกว้างหรือแคบ จะเป็นตรอกซอกซอย หรือในอาคารที่มีพื้นที่จำกัด ผู้ขับขี่ก็สามารถขับสนุกสุดเหวี่ยงได้ในสไตล์สวิฟท์ และเมื่อผสานกับ Torsion-Beam Rear Suspension ของ New Suzuki Swift ผู้ขับขี่จะสามารถสัมผัสได้ถึงความสมดุลอย่างลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและความรู้สึกสบายขณะขับขี่
          นอกจากนี้ ซูซูกิยังคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างประหยัดและคุ้มค่า รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม โดย ซูซูกิได้ทุ่มเทพัฒนาวิศวกรรมการสร้างเครื่องยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างเครื่องยนต์ในกลุ่ม Compact และ Sub-compact Car อย่างต่อเนื่องตลอดมา เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ของ New Suzuki Swift เพื่อให้ได้เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และผ่านค่ามาตรฐานไอเสียระดับสากล มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ และมีอัตราการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมต่ำ เพื่อโลกสีเขียวของเรา
          นอกจากสมรรถนะในสไตล์สวิฟท์ที่ตอบความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่แล้ว ด้านความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยีความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ซูซูกิให้ความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ชิ้นส่วนต่างๆ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทาน อุปกรณ์ต่างๆ ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ปราณีต ตามมาตรฐานและคุณภาพของซูซูกิที่ทุกคุณไว้ใจและเชื่อถือมาตลอดทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก
บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
          ซูซูกิได้ออกแบบภายในห้องโดยสารให้มีสไตล์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำแบบใคร พวงมาลัย 3 ก้านแบบสปอร์ต ให้ความรู้สึกเร้าใจทุกครั้งที่ได้สัมผัส พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบริเวณพวงมาลัย ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย หรือละสายตาจากทัศนวิสัยเบื้องหน้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดิจิตอล ทันสมัย สะดวกสบาย เหนือความคาดหมายของใครๆ ชุดอุปกรณ์เครื่องเสียง ประกอบด้วยวิทยุและเครื่องเล่นซีดี ออกแบบได้อย่างลงตัว ไร้รอยต่อ กลมกลืนกับดีไซน์ของตัวรถ และยังมีระบบ Keyless Start ระบบกรองอากาศ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย รอคุณเยี่ยมชมและสัมผัสด้วยตัวเองที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป
          ซูซูกิยังมอบการขับขี่ที่สนุก ควบคู่ไปกับความมั่นใจในการขับขี่ โดยเสริมความปลอดภัยด้วยคานกันกระแทกด้านข้าง ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก (ABS) ทั้ง 4 ล้อ และระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) พร้อมระบบช่วยเบรก ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจทุกครั้งเมื่อต้องการหยุดรถอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเพิ่มมาตรการความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS) และระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ช่วยป้องกันการโจรกรรม และที่สำคัญ ซูซูกิยังมอบความอุ่นใจในทุกการเดินทางไปกับ New Suzuki Swift ด้วยบริการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง (24 Hours Road Side Assistance) และบริการสายด่วนตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย (จากหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐาน โทร. 1800-600-900, จากหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โทร. 1401-600-900)
          ซูซูกิได้วางกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด สำหรับ New Suzuki Swift โดยเจาะกลุ่มหนุ่มสาววัยทำงาน ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เลือกและทำอะไรโดยไม่ซ้ำแบบใคร เป็นคนคล่องแคล่วว่องไว ใช้ชีวิตในเมือง ตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเอง กล้าคิดกล้าทำสิ่งต่างๆ ตามสไตล์ของตัวเอง ซึ่งซูซูกิได้วางกลยุทธและแผนการตลาดที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวไว้แล้ว ทั้งด้านตัวสินค้า ราคา ผู้จำหน่าย และการโฆษณาประชาสัมพันธ์
          ด้านตัวสินค้าและราคานั้น ซูซูกิได้เปิดตัว รถยนต์นั่ง New Suzuki Swift เพื่อทำตลาด 2 รุ่น คือ
          รุ่น GA เกียร์อัตโนมัติ ราคา 599,000 บาท
          รุ่น GL เกียร์อัตโนมัติ ราคา 649,000 บาท
          ส่วนด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์นั้น ซูซูกิเน้นทำการสื่อสารตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายและสร้างกระแสจากส่วนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพฯ โดยมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสาร สื่อโฆษณากลางแจ้ง สื่อออนไลน์ และสื่อส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย
          ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ซูซูกิจะได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดรถยนต์นั่งของไทย ทั้งนี้ ซูซูกิได้วางเป้าหมายทางการตลาด คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดในเมืองไทย โดยคาดการณ์ยอดขายไว้ที่ 2,000 คัน ภายในปี 2010
          นายวัลลภ กล่าวท้ายว่า “ขอเชิญทุกท่านสวิฟท์เข้ามาเยี่ยมชมบูธรถยนต์ซูซูกิในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 เชิญมาเปิดโลกทัศน์ใหม่แห่งการขับขี่ สัมผัส New Suzuki Swift ซึ่งมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่สวยงาม ปราดเปรียว ดึงดูดสายตาของใครๆ นอกจากนี้ ทุกๆ ท่านยังสามารถทดลองขับ และร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่อันน่าตื่นเต้นพร้อมสนุกเพลิดเพลินกับสมรรถนะการขับขี่ในแบบซูซูกิสวิฟท์ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษสุด เมื่อสั่งจองในงาน”
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:36:04 PM
ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ เติมเสน่ห์ให้ความแกร่ง...กระบะ 100%

 

          ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ มาพร้อมกระแสฮือฮากับมาดแกร่งแบบกระบะ 100% เติมความเท่ด้วยรูปลักษณ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรนเจอร์ แมกซ์ โชว์ทรัคคันเก่ง ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบชองทีมออกแบบไทยกับทีมดีไซน์ของฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิก และแอฟริกา ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้น และชนะใจผู้ชมงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ในช่วงปลายปี 2551 อย่างท่วมท้น
 
          ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ ในรูปโฉมทันสมัยสไตล์โมเดิร์น ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งการใช้ขับไปทำงานประจำวันในเมืองและการใช้ชีวิตแบบลุยๆ นอกเมือง ทั้งยังคงความแกร่ง บึกบึน ดูทรงพลังมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังรักษาคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และสมรรถนะเยี่ยมจากเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล ที่ให้ทั้งพลังและประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างน่าประทับใจเช่นเดิม

          ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ มาครบไลน์ มีแบบตัวถังให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตอนเดียว โอเพ่นแค็บ หรือสี่ประตู ทั้งรุ่น 4x2 และ 4x4 และแบบยกสูง ไฮ-ไรเดอร์ รวมทั้งยังมีตัวเลือกเท่ๆ อย่างไวลด์แทรค ให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์อีกด้วย
          รูปลักษณ์ภายนอก เพิ่มเสน่ห์ 100% 
          ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ ดีไซน์แกร่ง มีรูปลักษณ์ที่เปี่ยมด้วยความทรงพลังอย่างชัดเจนในทุกรายละเอียด เท่ห์สะดุดตา และสะท้อนถึงความเป็นกระบะแกร่งแห่งอนาคตที่สะดุดตาและโดดเด่นบนถนน ด้วยการตกแต่งภายนอกใหม่ดังนี้
          กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ
          กระจังหน้าลาย 3 แถบใหม่พร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ที่ถอดแบบจากเรนเจอร์ แมกซ์ ให้ความรู้สึกพร้อมลุยในทุกที่
          ไฟหน้าทรงเรียวที่โอบไปด้านข้างโดดเด่นสะกดทุกสายตา
          มือจับประตูใหม่ สวยเท่ จับสะดวก
          สัญลักษณ์เรนเจอร์ด้านข้างตัวรถสไตล์รถอเนกประสงค์ 
          กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ทันสมัย มีสไตล์
          ไฟเลี้ยวแบบ LED บนกระจกมองข้าง ที่นอกจากจะเพิ่มความเท่แล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัย ในยามเลี้ยวและเปลี่ยนเลน เพราะช่วยให้รถคันอื่นบนถนนสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล
          ไฟท้ายแบบใหม่เพิ่มความสปอร์ต เติมความปราดเปรียว
          ไฟตัดหมอกหน้าดีไซน์ใหม่ในรุ่น XLT เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
          ล้อแมกซ์อัลลอยดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องระบายลมด้านข้างที่โป่งล้อ ที่ให้ทั้งประโยชน์ใช้สอยและเพิ่มลุคทันสมัย

          พิเศษสำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรคทั้ง 3 รุ่น คือ รุ่นโอเพ่นแค็บ ยกสูง ไฮ-ไรเดอร์ 2.5 XLT, รุ่นสี่ประตู ยกสูง ไฮ-ไรเดอร์ 2.5 XLT AT และรุ่นสี่ประตู 4x4 3.0 XLT AT ติดตั้งอุปกรณ์พิเศษจากโรงงานอย่างครบครัน

          ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ ขาว "คูลไวท์", บรอนซ์ "ไฮไลท์ซิลเวอร์", น้ำเงิน "วินนิ่งบลู", เทา  "ไททาเนียมเกรย์" และดำ "แบล็คไมก้า"

          ภายในดีไซน์ใหม่ เพิ่มความอินเทรนด์สไตล์สปอร์ต
          ห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ ตกแต่งอย่างมีสไตล์เน้นความทรงพลัง  ในโทนสีเทา-ดำ สไตล์สปอร์ต ไฟเรืองแสงบนหน้าปัดและอุปกรณ์ภายในเป็นโทนสีแดง มองเห็นได้ชัดเจนและให้อารมณ์สปอร์ตดุดัน
          ขอบแผงหน้าปัดด้วยโครเมียมทันสมัยด้วยมาตรวัดทรงกลมแบบ 3 ช่อง รับกับช่องแอร์ทรงกลม ใช้วัสดุคุณภาพสูงให้ความรู้สึกของรถยนต์ระดับหรู ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาตรฐานในทุกรุ่น เช่น เครื่องเล่นซีดี และวิทยุเอเอ็ม-เอฟเอ็ม ที่สามารถเล่นไฟล์เพลง MP3 พร้อมแสดงชื่อเพลงและชื่อศิลปินได้ ระบบปรับอากาศที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้ทิศทางลมที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อน สร้างความเย็นผ่อนคลายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดเส้นทาง และยังเงียบไร้เสียงรบกวน
          เบาะนั่งออกแบบมาให้รับการสรีระของผู้นั่งมากที่สุด ด้านข้างของพนักพิงที่นูนขึ้นกระชับลำตัวและรับแผ่นหลัง  ตัวเบาะที่ยาวขึ้นกระชับตัวรองรับแผ่นหลังผู้นั่งรวมทั้งกระจายน้ำหนักตัวได้ดี   พนักพิงศีรษะใหญ่ช่วยให้นั่งสบายตลอดการเดินทาง พร้อมที่เท้าแขนเพิ่มความสบาย  รวมทั้งเพิ่มออปชั่นเบาะหนังให้เป็นทางเลือกใหม่ในรุ่นโอเพ่นแค็บ 2.5XLTสำหรับลูกค้าที่ต้องการความหรูหรา   ที่วางแก้ว 5 จุด ที่วางขวดน้ำขนาดครึ่งลิตรที่ประตูหน้า คอนโซลกลางแบ่งเป็นสองส่วน ด้านบนสำหรับเก็บของกระจุกกระจิก และด้านล่างสามารถเก็บซีดีได้ถึง 9 แผ่นหรือของที่มีขนาดใหญ่ได้สะดวก ช่องเก็บของด้านหน้ามีความจุถึง 8.1 ลิตร ช่องเก็บของด้านหน้า สามารถดึงออกมาเป็นโต๊ะขนาดเล็กสำหรับวางกล่องอาหาร หรือจัดเก็บใบเสร็จ หรือเอกสารได้สะดวก
          พร้อมลุย 100% เกาะทุกโค้งกับเหล็กกันโคลงหน้า-หลังรายแรกในเมืองไทย และแชสซีส์ขนาดใหญ่ชิ้นเดียวตลอดเส้นหมดห่วงเรื่องบรรทุกหนักช่วงล่างแกร่ง เกาะถนนได้ดีเยี่ยมที่สุดในรถกระบะระดับเดียวกัน 
          ช่วงล่างแกร่ง เกาะถนนได้ดีเยี่ยมที่สุดในรถกระบะระดับเดียวกัน  ด้วยโครงสร้างแชสซีส์ขนาดใหญ่ชิ้นเดียวรูปตัว C ซ้อนกันยาวตลอดเส้น พร้อมคานขวางขั้นบันไดแบบ Ladder Frame   
          ติดตั้งเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นรายแรกของรถกระบะในเมืองไทย บังคับให้ล้อสัมผัสพื้นถนนมากที่สุด 
          ติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อการส่งถ่ายแรงบิดลงสู่ทุกพื้นผิวถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          เกียร์ออโตเมติก 5 สปีด ในรถกระบะรายแรกในประเทศไทย ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและมีอัตราเร่งที่ต่อเนื่องกว่า เนื่องจากมีอัตราทดชิดที่ดีกว่าช่วยให้รอบเครื่องยนต์อยู่ในช่วง Power Band ตลอดเวลา (2,000-3,000 รอบ/นาที) เสื้อเกียร์ทำจากอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียวไร้รอยต่อแบบเดียวกับที่ติดตั้งในรถเอสยูวีขนาดใหญ่ของค่าย เช่น ฟอร์ด เอ็กซ์พลอเรอร์ จึงสามารถรับมือกับแรงบิดมหาศาลของเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล ได้อย่างสบาย หมดห่วงเรื่องความทนทาน
          ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Active-Shift-on-The-Fly ในรุ่น 4x4 AT สามารถเลือกปรับระบบขับเคลื่อนไป-กลับจาก 2 ล้อไป 4 ล้อ ได้ที่ความเร็วสูง (ไม่เกิน 100 กม./ชม.) โดยไม่ต้องหยุดรถ พร้อมติดตั้งเกียร์ทรานสเฟอร์จาก Borg Warner ผู้ผลิตระบบส่งกำลังระดับโลก
          เต็มที่ 100% กับเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล ประหยัดน้ำมันแต่พลังเต็มที่ ให้แรงบิดมหาศาล 330 นิวตัน-เมตร ในรุ่น 2.5 ลิตร และ 380 นิวตัน-เมตร ในรุ่น 3.0 ลิตร ที่รอบต่ำสุดในตลาดรถกระบะเมืองไทย 1,800 รอบต่อนาที ตอบสนองเป็นเยี่ยม ไม่มีอาการรอรอบ ให้กำลังต่อเนื่องตั้งแต่ออกตัว
          เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ทั้งรุ่น 2.5 ลิตร และ 3.0 ลิตร เจ้าเดียวในประเทศไทย
          หนึ่งเดียวในเมืองไทยกับเทคโนโลยีคอมมอนเรลจากต้นตำหรับ BOSCH เยอรมัน ควบคุมด้วย ECU อัจฉริยะ 32 บิท ควบคุมแรงดันการฉีดจ่ายน้ำมันได้อย่างแม่นยำให้น้ำมันทุกหยดคุ้มค่าที่สุด

          มั่นใจ 100% กับอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยครบครัน
          - ติดตั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS 4 ล้อ พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิก EBD (electronic braking distribution system)  สามารถกระจายแรงเบรกไปทั่วทุกล้อ โดยการคำนวณน้ำหนักบรรทุกและความเร็วของรถ และมีจีเซ็นเซอร์ (G-sensor) เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานในทุกรุ่น
          - ถุงลมนิรภัย 4 จุด รายแรกในตลาด  ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติเหมือนรถเก๋งระดับหรู
          - คานเหล็กนิรภัยด้านข้างติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นช่วยปกป้องผู้โดยสารจากการชนด้านข้าง
          - เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบกุญแจนิรภัย (Immobilizer) และระบบป้องกันการโจรกรรม PATS (Passive Anti Theft System) พร้อมกุญแจรีโมท ในรุ่น 4 ประตู
สะดวก 100% กับโอเพ่นแค็บ ต้นตำหรับนวัตกรรมแค็บเปิดได้รายแรกในเมืองไทย ให้การขนสัมภาระขนาดใหญ่เป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด
          - เข้า-ออกง่ายกว่า กับโอเพ่นแค็บ ซึ่งแค็บทั้ง 2 ข้างเปิดได้ในจังหวะเดียว ไม่ว่าสัมภาระจะใหญ่แค่ไหนก็ขนถ่ายสะดวก พร้อมโครงสร้าง Double B Pillar เสาเหล็กนิรภัยภายในโครงสร้างประตูหน้าและบานแค็บหลัง ทำหน้าที่เหมือนเสากลาง  2 ชั้น ช่วยปกป้องการชนจากด้านข้าง
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:39:58 PM
ฟอร์ด โฟกัสใหม่ ด้วยแนวการออกแบบ “เคเนอติกดีไซน์”



      - ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ โฉบเฉี่ยวปราดเปรียวกว่าเดิม ด้วยแนวการออกแบบ “เคเนอติกดีไซน์” (kinetic design)
          - ภายในตกแต่งใหม่ด้วยวัสดุคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่อบอุ่น และนุ่มสบาย
          - อุปกรณ์ต่างๆ ที่หน้าปัดมีไฟเรืองแสงโทนสีแดงอ่อน เพิ่มความสวยแปลกใหม่ภายใน ห้องโดยสาร
          - ฟอร์ด โฟกัสให้ความสะดวกในเรื่องการเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เพราะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถเติมได้ตั้งแต่น้ำมันเบนซินธรรมดา แก๊สโซฮอล์ E10 และ แก๊สโซฮอล์ E20 (ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน 80% และเอทานอล 20%) 
          - อุปกรณ์คุณภาพสูงของโฟกัสใหม่ ตกแต่งด้วยแผงหน้าปัดระดับพรีเมียม ระบบเซ็นเซอร์ช่วยการถอยจอด และกระจกไฟฟ้าอัตโนมัติแบบ One-Touch ทั้ง 4 บาน
          - โฟกัสใหม่ มี 4 รุ่นให้เลือก ได้แก่ แอมเบียนต์ (Ambiente) ฟิเนซ (Finesse) เกีย (Ghia) แบบ 4 ประตูซีดาน และสปอร์ต (Sport) 5 ประตูสุดเท่
          - ในรุ่นเกีย (Ghia) เพิ่มสมรรถนะโดดเด่นน่าประทับใจยิ่งขึ้น โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2 ลิตรให้พลัง 107 กิโลวัตต์

          ฟอร์ด โฟกัสที่ผลิตขึ้นเพื่อลูกค้าในเอเชียใช้เทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังและเครื่องยนต์เดียวกันกับรุ่นที่จำหน่ายในยุโรป  เป้าหมายหลักในการพัฒนาโฟกัสใหม่ทั้งในยุโรปและเอเชียนั้นชัดเจนมาก คือ การทำให้โฟกัสดูเด่นสะดุดตาเช่นเดียวกับสมรรถนะที่โดดเด่น  นอกจากนี้ เรายังได้นำเทคโนโลยีใหม่ที่เคยติดตั้งในรถยนต์นั่งขนาดใหญ่มาใช้ เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งทำให้โฟกัสอยู่เหนือใครในรถยนต์ระดับเดียวกัน”กุนนาร์ เฮอร์มานน์  ผู้อำนวยการกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลาง  ฟอร์ด ยุโรป
          ฟอร์ด โฟกัส ฉลองครบรอบ 10 ปีในพ.ศ. 2551 นี้ ด้วยการเผยโฉมรุ่นใหม่ที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ การตกแต่งภายใน รวมทั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ที่ให้การขับขี่ที่เหนือระดับ และทำให้ฟอร์ด โฟกัสยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางไว้ได้
          ฟอร์ด โฟกัส เปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกาตั้งแต่พ.ศ.2547  มียอดจำหน่ายประมาณห้าแสนคันในภูมิภาคนี้  โดยมีฐานการผลิตที่ประเทศฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ เวียดนาม และจีน
          โฟกัส มีอิทธิพลเป็นอย่างสูงต่อวงการยานยนต์ของโลก นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฟอร์ด โฟกัสเป็นรถยนต์นั่งรุ่นแรกและรุ่นเดียวของโลกที่ได้รับรางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี” ทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือ  รวมทั้งได้รับรางวัลต่างๆ กว่า 80 รางวัลจากยุโรป และอีกกว่า 30 รางวัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
          ฟอร์ด โฟกัสใหม่ที่เปิดตัวในประเทศไทย จะเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงกลางเดือนตุลาคม  โดยจะมีทั้งรุ่น 5 ประตูแฮทแบ็ค และรุ่น 4 ประตู
          ฟอร์ด และการออกแบบ “เคเนอติก” ดีไซน์
          รูปโฉมที่โดดเด่นที่สุดของฟอร์ด โฟกัสใหม่ คือ ด้านหน้าของตัวรถ ที่ถ่ายทอดองค์ประกอบของหลักการออกแบบ “เคเนอติก” (kinetic) ได้อย่างชัดเจน  แทนที่จะปรับเพียงกันชนหน้าหรือกระจังหน้าใหม่เหมือนที่บริษัทต่างๆ นิยมทำกัน ทีมออกแบบของฟอร์ดในเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกาในประเทศออสเตรเลีย กลับใช้วิธีการ “ปรับโฉมรวม” ของฟอร์ด โฟกัสทั้งคัน  โดยอาศัยหลักการออกแบบ “เคเนอติก” เพื่อสร้างรูปโฉมภายนอกใหม่ให้กับฟอร์ด โฟกัส
          องค์ประกอบของการออกแบบด้วยแนวคิด “เคเนอติก” เด่นชัดจากด้านหน้าของตัวรถ เริ่มตั้งแต่ช่องระบายลมทรงสี่เหลี่ยมคางหมูใต้กันชน  กระโปรงหน้าทรงใหม่ที่โค้งมนมากขึ้น กระจังหน้าใหม่ (ติดตราสัญลักษณ์ฟอร์ดขนาดใหญ่เด่นชัดขึ้น) ฟอร์ด โฟกัสใหม่มีความเท่ โดดเด่นด้วยมาดสปอร์ต สะดุดตาเมื่ออยู่บนท้องถนน  เป็นบุคลิกแห่งความมั่นใจและทันสมัยยิ่งกว่าเดิม
          “เราต้องการสร้างความมั่นใจว่า จะยังคงเอกลักษณ์ของฟอร์ด โฟกัส แต่ก็มีความใหม่อย่างชัดเจน  ตัวผมเองชอบรูปลักษณ์ใหม่ของโฟกัสมาก เพราะเฉี่ยว เท่สะดุดตา มีเส้นสายที่ชัดเจนที่สื่อถึงความปราดเปรียวของรถคันนี้” มาร์ติน สมิธ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายออกแบบของฟอร์ดยุโรปกล่าว

          ประสบการณ์แห่งคุณภาพ
          ภายในของฟอร์ด โฟกัสใหม่ ได้รับการปรับปรุงให้นั่งสบายใช้สะดวกมากขึ้น ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม และการออกแบบที่เข้ากับสรีระผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น
          การปรับปรุงใหม่สามารถเห็นและสัมผัสได้อย่างชัดเจน แผงหน้าปัดด้านหน้า และริมขอบประตูด้านบนที่บุด้วยวัสดุที่นุ่มมือ ไม่ว่าจะเป็นสีดำหรือเทาเข้มก็ตัดกันอย่างสวยงามกับสีเบจของผ้าบุเพดานรถ ช่วยให้โทนสีภายในของโฟกัสดูสว่างมากขึ้น   แผงหน้าปัดสีเข้มช่วยลดการสะท้อนเงาจากกระจกหน้า เมื่อแสงแดดจ้า ซึ่งเป็นสถานการณ์ปกติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
          ผู้ขับขี่ฟอร์ด โฟกัสใหม่จะสามารถมองเห็นมาตรวัดรอบเครื่องและความเร็วของรถได้ชัดเจนขึ้น เพราะมีขนาดใหญ่และติดตั้งอยู่ลึกเข้าไปในแผงหน้าปัด โดยแยกมาตรวัดแต่ละอันออกจากกันอย่างชัดเจน  ส่วนด้านบนของหน้าปัดเป็นเข็มวัดอุณหภูมิหม้อน้ำและระดับน้ำมัน  มาตรวัดแต่ละอันจะตั้งอยู่ในเบ้าแบบเฉียงขลิบสีเงินหรู   ระหว่างมาตรวัดขนาดใหญ่ทั้ง 2 อัน จะเป็นจอ LCD ที่แสดงเวลา อุณหภูมิภายนอก
          ระยะทางในแต่ละทริป และเลขไมล์  โดยจอ LCD นี้ยังสามารถเรียกดูระยะทางที่วิ่งได้คำนวณจากปริมาณน้ำมันที่เหลืออยู่ในถึง  ค่าความเร็วเฉลี่ย และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 
          แผงหน้าปัดกลาง กระจกหน้าต่างและสวิตช์ควบคุมกระจกถูกออกแบบให้สอดคล้องกันกับแผงควบคุมระบบปรับอากาศ และระบบระบายอากาศ   โดยแผงหน้าปัดกลางจะเรืองแสงสีแดงอ่อนในช่วงกลางคืน ที่สบายตากว่า
          คอนโซลกลางแบบใหม่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานสะดวกสบายยิ่งขึ้น  เบาะที่นั่งสามารถเลื่อนปรับพนักรองแขนได้ 80 มม. ช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง ช่องใส่เหรียญและช่องใส่บัตรต่าง ๆ
          ฟอร์ด โฟกัสใหม่มีให้เลือก 4 รุ่น โดยโฟกัส แอมเบียนต์ เป็นรุ่นใหม่ที่แนะนำสู่ตลาดเมืองไทย  ตามด้วยรุ่นฟิเนซ (Finesse) รุ่นเกีย (Ghia) ที่หรูแบบคลาสสิก  และรุ่นสปอร์ต
          ฟอร์ด โฟกัสใหม่ เครื่องยนต์ดูราเทค (เบนซิน) 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร  ให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม และแรงบิดน่าประทับใจตั้งแต่รอบเครื่องต่ำ นอกจากนี้  ยังสามารถเติมได้ทั้งน้ำมันเบนซิน 95 และแก็สโซฮอลล์ E10 และ E20 เช่นเดียวกับรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดเมื่อพ.ศ. 2548
          เครื่องยนต์ดูราเทค 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ มีเฉพาะในฟอร์ด โฟกัสรุ่นเกีย 4 ประตู และสปอร์ต 5 ประตู ที่ให้ประสิทธิภาพและสมรรถนะน่าประทับใจ
          ฟอร์ด โฟกัส เกีย และสปอร์ต ยังคงมอบประสบการณ์น่าประทับใจสูงสุดด้วยความสะดวกสบายเหนือระดับ อาทิ ระบบปรับอากาศแยกทั้งด้านหน้าและผู้โดยสารตอนหลัง ที่นั่งคนขับที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 6 ทิศทาง  ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 16 นิ้ว และภายในห้องโดยสารบุด้วยหนังคุณภาพสูง
          ปลอดภัยยิ่งกว่า – ระบบปกป้องความปลอดภัยอัจฉริยะของฟอร์ด
          ความปลอดภัยที่เหนือระดับ  คือ ข้ออีกได้เปรียบของฟอร์ด โฟกัส ซึ่งใช้ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Ford Intelligent Protection System และมีอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานมากมาย ทั้งการป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ และการปกป้องขณะเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงห้องโดยสารที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
          เพื่อยกระดับความปลอดภัยโดยรวม ฟอร์ดได้พัฒนากระจกมองข้างด้านคนขับให้ใหญ่กว่าเดิมเพื่อวิสัยทัศน์ที่ดีขึ้น  สำหรับในรุ่นเกียและสปอร์ต ก็ยังติดตั้งระบบสัญญาณเตือนขณะถอยหลังฟอร์ด โฟกัสใหม่ทุกรุ่นติดตั้งไฟเตือนอุบัติเหตุอัตโนมัติ ซึ่งจะแสดงเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกกะทันหัน
          เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่ ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก (ABS) ระบบกระจายกำลังในการเบรก (EBD) และถุงลมนิรภัย ที่มีตั้งแต่ในรุ่นแอมเบี้ยนต์ ฟิเนซ เกีย และสปอร์ต ซึ่งเป็นอีกความใส่ใจที่แสดงให้เห็นว่าฟอร์ด ห่วงใยลูกค้า และฟอร์ด โฟกัส คุ้มค่าว่าเพียงใด

          ประสบการณ์ประทับใจในการขับขี่
          ฟอร์ด โฟกัสใหม่ยังคงรักษาจุดเด่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพการขับขี่ไว้ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเข้าโค้งที่แม่นยำ ควบคุมได้ดังใจ ด้วยความสมดุลของโครงสร้างตัวถังและระบบช่วงล่างที่เซ็ทมาอย่างดี 
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:40:48 PM
ฟอร์ด โฟกัส ในรายละเอียด
          1. โฟกัสใหม่ – สะท้อนแนวทางการออกแบบ “เคเนอติกดีไซน์” ได้ชัดเจน
          2. โฟกัสใหม่ – ภายในสะดวกสบาย
          3. โฟกัสใหม่ – วิศวกรรมยานยนต์ที่แม่นยำ
          4. โฟกัสใหม่ – ระบบปกป้องความปลอดภัยอัจฉริยะของฟอร์ด
          5. โฟกัสใหม่ – ขับขี่มั่นใจ

          1. โฟกัสใหม่ – สะท้อนแนวทางการออกแบบ “เคเนอติกดีไซน์” ได้ชัดเจน
          “เราตระหนักดีว่า โฟกัสมีคุณสมบัติเด่นมากมายและมีความโดดเด่นในด้านรูปลักษณ์ที่สะท้อนความปราดเปรียวได้อย่างชัดเจน ด้วยแนวทางการออกแบบแบบ “เคเนอติก” จากฝีมือการสร้างสรรค์ของทีมฟอร์ดในยุโรป  ด้านหน้าของฟอร์ด โฟกัสใหม่ เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุด และเราก็ได้เน้นลักษณะกล้ามอันแข็งแกร่งของนักกีฬาด้วยกระจังหน้าใหม่ที่กว้างกว่าเดิม ไฟหน้าทรงยาวดูเฉี่ยวมากขึ้น และฝากระโปรง
          หน้าที่โค้งมน เราเชื่อว่านี่คือโฟกัสรุ่นที่ดีที่สุดที่เราเคยมีมา  รูปลักษณ์ภายนอกสง่างามสอดคล้องกับความปราดเปรียวขับขี่ได้อย่างคล่องตัว” พอล กิบสัน หัวหน้าทีมออกแบบภายนอก ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา  ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี

          รูปลักษณ์ภายนอกปราดเปรียว
          ฟอร์ดได้ใช้แนวคิดการออกแบบ “เคเนอติก” ที่ชัดเจนทันสมัยมากขึ้นในการปรับโฉมฟอร์ด โฟกัสใหม่  การปรับโฉมใหม่แปลงภาพลักษณ์ของโฟกัสใหม่ทั้งตระกูล ให้ดูสปอร์ตปราดเปรียวแข็งแกร่งเปี่ยมด้วยมัดกล้าม สไตล์การออกแบบที่ทันสมัยตอกย้ำความโดดเด่นและชื่อเสียงของโฟกัสในการเป็นรถยนต์ที่ขับสนุก
          รูปลักษณ์ใหม่ที่เห็นได้ชัดเจน คือ ฝากระโปรงใหม่ที่ดูปราดเปรียวเปี่ยมพลัง และช่องลมขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่อยู่ด้านล่างของกันชน และไฟหน้าใหม่ทรงทันสมัยเฉี่ยวกว่าเดิม
          “จุดหลักในการออกแบบด้านหน้าใหม่คือ ช่องระบายลมใต้แนวกันชนหน้า ที่ใหญ่ขึ้น ดึงดูดทุกสายตา  ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟตัดหมอก และแนวโค้งของฝากระโปรงหน้าสวยโดดเด่น   รูปลักษณ์สไตล์ใหม่ของโฟกัสดูทันสมัยและสะดุดตามาก” พอล กิบสันกล่าว
          ในรุ่นเกีย 4 ประตู ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของฟอร์ด โฟกัสใหม่ มีกระจังหน้าด้านล่างรูปสี่เหลี่ยมคางหมูและไฟตัดหมอกขลิบขอบโครเมียมดูหรูหราสง่างาม  ช่วยทำให้การแปลงโฉมครั้งนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น  สำหรับรุ่นสปอร์ต ฟอร์ดได้รักษาบุคลิกปราดเปรียวแข็งแกร่งแบบนักกีฬาด้วยการลดตกแต่งด้วยโครเมียมให้น้อยลง  กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูจึงเป็นสีดำสนิทตลอดทั้งชิ้น เพื่อให้ดูเหมือนยามที่นักกีฬาสู้อย่างเต็มที่ในการแข่งขัน
          ทีมนักออกแบบของฟอร์ดได้เน้นการปรับปรุงรูปทรงและภาพลักษณ์โดยรวมของไฟหน้าใหม่ โดยให้แสงสว่างมากขึ้น ส่วนตัวเรือนที่ติดตั้งไฟหน้าเป็นสีดำช่วยเพิ่มความสว่างของไฟ และทำให้แนวลำแสงของไฟหน้ากระจายไปด้านข้างเพิ่มขึ้นอีก 8 องศา รวมทั้งลดแสงสะท้อนและการกระจายของแสงได้ดี
          ไฟหน้าใช้หลอดฮาโลเจนซึ่งสามารถบำรุงรักษาได้สะดวก  แต่ละรุ่นจะมีกรอบไฟหน้าแตกต่างกัน ได้แก่ สีดำในรุ่นสปอร์ต อลูมิเนียมในรุ่นแอมเบียนต์  ฟิเนส และเกีย
          รูปทรงของตัวถังดูแข็งแกร่งแมนยิ่งขึ้น เป็นผลมาจากการปรับโฉมซุ้มล้อให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทำให้ดูมั่นคง และให้ความมั่นใจเต็มเปี่ยม รูปทรงของตัวถังดูเรียบสะอาดตา
          กระจกหน้าต่างใหญ่ เพื่อวิสัยทัศน์ที่ดีกว่าในการขับขี่ ยามการจราจรคับคั่ง ซึ่งพบได้เสมอในเมืองใหญ่ทั่วเอเชีย   กรอบกระจกมองข้างติดไฟเลี้ยวสำหรับโฟกัสทุกรุ่น ช่วยให้ฟอร์ด โฟกัสมองดูเรียบหรูเมื่อมองจากด้านข้าง
          เมื่อมองจากท้ายรถ ฟอร์ด โฟกัสใหม่  ปรับเปลี่ยนดีไซน์ดีขึ้นหลายจุดเช่นเดียวกับด้านหน้า เมื่อมองครั้งแรก จะสังเกตเห็นไฟท้ายใสทรงยาวที่เป็นเอกลักษณ์ของโฟกัสใหม่ ด้านท้ายกว้างขึ้น อันเป็นผลมาจากการออกแบบปรับเปลี่ยนล้ออัลลอยใหม่สำหรับฟอร์ด โฟกัสใหม่ โดยเฉพาะฐานล้อที่กว้างขึ้น ทำให้โฟกัสใหม่ดูสวยสะดุดตาและดูปราดเปรียวมากขึ้น
          ในด้านของการออกแบบ ด้านท้ายของฟอร์ด โฟกัสใหม่ดูทันสมัยและน่าสนใจมากขึ้น เช่น การออกแบบด้านท้ายใช้เส้นโค้งแนวนอนที่เด่นชัด กระจกหลังกว้างกว่าเดิม   ตราสัญลักษณ์ฟอร์ดติดในตำแหน่งต่ำลงกว่าเดิมและกลมกลืนไปกับโครงฝากระโปรงหลัง
          สปอยเลอร์บนหลังคาใหม่ที่เป็นสีเดียวกับตัวถังในรุ่นสปอร์ต เท่ยิ่งขึ้น  และเติมความสมบูรณ์ด้วยล้ออัลลอย 15 นิ้วและ 16 นิ้ว ที่เข้ากันดีกับบุคลิกใหม่ของฟอร์ด โฟกัสแต่ละรุ่น
“ในการออกแบบฟอร์ด โฟกัสใหม่นี้ เราทำงานร่วมกับทีมฟอร์ดในยุโรปอย่างใกล้ชิด เรารับฟังความต้องการของลูกค้าในเอเชีย และผลก็คือ ฟอร์ด โฟกัสใหม่ ดีไซน์สวยเฉียบที่เราสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อลูกค้าในเอเชียโดยเฉพาะ  ดังนั้นดีไซน์เท่ ทันสมัย ของโฟกัสใหม่ จึงเป็นมากกว่าแค่การปรับปรุงโฉมของรถรุ่นปัจจุบัน” พอล กิบสันกล่าว

          ฟอร์ด โฟกัสรุ่นต่างๆ และอุปกรณ์
          “ฟอร์ด โฟกัสใหม่เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์สวยสง่าและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม จากแนวคิด  “เคเนอติก ดีไซน์" ผสานกับคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่แฝงทั้งสไตล์และประโยชน์ใช้สอย มีรุ่นและสไตล์รถที่หลากหลายเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่ชาญฉลาด เรามั่นใจว่าฟอร์ด โฟกัสใหม่ จะคงความเป็นรถยอดนิยมในตลาดอาเซียน และให้ความสนุกในการขับขี่ทางเรียบซึ่งเป็นนับเป็นจุดเด่นอันหนึ่งของโฟกัส” คอรี่ โฮลเตอร์ ผู้จัดการรถยนต์นั่งขนาดกลาง (ซีคาร์) ฟอร์ด ยุโรป
          ในประเทศไทย ฟอร์ด โฟกัสใหม่ จะเปิดตัว 4 รุ่น คือแอมเบียนต์  ฟิเนซ เกีย และสปอร์ต
          ฟอร์ด โฟกัส แอมเบียนต์ ในรุ่น 4 ประตู แบบซีดาน ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ที่สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้ ติดตั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด กระจกไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 15x 6 นิ้ว พวงมาลัยปรับได้สี่ทิศทาง ระะบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบด้วย ระบบเซ็นทรัลล็อก ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรก ABS EBD พร้อมถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ รวมทั้งกระจกไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Jam-Protection) ทั้ง 4 บาน พร้อมด้วยระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน และไฟหน้าแบบฮาโลเจนที่ให้ความสว่างกว่าเดิมแม้ในขณะฝนตก
          โฟกัสรุ่นแอมเบียนต์ 5 ประตู ติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ Sequential Sport Shift  ทริปคอมพิวเตอร์ สปอยเลอร์หลัง และที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังแบบจังหวะหน่วงเวลา กระจกไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 15x 6 นิ้ว พวงมาลัยปรับได้สี่ทิศทาง ระะบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบด้วย ระบบเซ็นทรัลล็อก ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรก ABS EBD พร้อมถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ รวมทั้งกระจกไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Jam-Protection) ทั้ง 4 บาน พร้อมด้วยระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน และไฟหน้าแบบฮาโลเจนที่ให้ความสว่างกว่าเดิมแม้ในขณะฝนตก
          สำหรับรุ่นฟิเนซ ทั้งแบบซีดานและ 5 ประตู วางเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ที่ให้พลัง 92 กิโลวัตต์ เกียร์อัตโนมัติ ไฟตัดหมอก คอนโซลกลางที่หรูหรา กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวพับด้วยระบบไฟฟ้า เบรก ABS EBD พร้อมถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ และเบาะหนังแท้ รวมทั้งกระจกไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Jam-Protection) ทั้ง 4 บาน พร้อมด้วยระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน และไฟหน้าแบบฮาโลเจนที่ให้ความสว่างกว่าเดิมแม้ในขณะฝนตก

          ส่วนรุ่นเกีย มีแต่รุ่น 4 ประตูเท่านั้น และมีรายละเอียดที่แตกต่างจากรุ่นฟิเนซดังนี้
          มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถพร้อมขอบโครเมียม
          มือจับเปิดประตูด้านในโครเมียม
          เส้นขอบโครเมียมบนกรอบด้านล่างของกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
          คิ้วกันกระแทด้านข้างตกแต่งด้วยโครเมียม
          ระบบปรับอากาศแยกอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
          กระจกส่องหน้าพร้อมไฟในตัวตรงแผ่นบังแดด
          ที่นั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง
          ระบบสัญญาณเตือนขณะถอยหลัง
          ล้ออัลลอยขนาด 16 X 6.5 นิ้ว ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์

          ล้ออัลลอยขนาด 16 X 6.5 นิ้ว วงที่ 5 สำหรับยางอะไหล่
          ตกแต่งภายในด้วยหนังสีเบจ
          พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 4 ก้าน
          เครื่องยนต์เบนซินดูราเทค (E20) ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ Sequential Sport Shift 
          ป้ายบอกชื่อรุ่นเกียตรงเสา C-Pillar และฝากระโปรงท้ายรถ

          ส่วนรุ่นสปอร์ตของโฟกัส เป็นแบบแฮทแบค 5 ประตู มีคุณสมบัติเด่นดังนี้
          ล้ออัลลอยขนาด 16X 7 นิ้ว ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์
          ล้ออัลลอยขนาด 16x7 นิ้ว วงที่ 5 สำหรับยางอะไหล่
          ช่วงล่างแบบรถสปอร์ตสไตล์ยุโรป
          ไฟหน้ารถเดินเส้นขอบดำ
          สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ
          พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน
          ที่นั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง
          ตกแต่งภายในด้วยหนังสีดำให้อารมณ์สปอร์ต

          ด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว แชสซีต่ำแบบรถสปอร์ต ไฟหน้ารถเดินเส้นขอบดำ สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ รูปลักษณ์ภายนอกจึงสื่อถึงความเป็นรถสปอร์ตอย่างเด่นชัด  ส่วนรายละเอียดภายใน ทั้งพวงมาลัยหุ้มหนังแบบ 3 ก้าน เบาะที่นั่งหนังแบบสปอร์ต ตลอดจนคอนโซลกลางที่โดดเด่น สะท้อนภาพความเป็นโฟกัสสปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ

          2. โฟกัสใหม่ – ตกแต่งภายในสะดวกสบาย
          “จุดมุ่งหมายในการออกแบบภายในของโฟกัสใหม่ คือ คงจุดเด่นต่างๆ ไว้  และประสานกับสไตล์รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่เร้าใจ เราต้องการคงห้องโดยสารที่กว้างขวาง  บรรยากาศที่ ดีเยี่ยม และดีไซน์ที่สอดคล้องกับสรีระอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับในเอเชีย เรามุ่งให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุคุณภาพสูง ตั้งแต่การใช้วัสดุที่ผิวสัมผัสนุ่มบริเวณแผงหน้าปัด จนถึงขอบประตูดีไซน์ใหม่ และผ้าบุใหม่  เราเชื่อว่าเราได้มอบห้องโดยสารของโฟกัสใหม่ที่มโดดเด่นยิ่งขึ้นทั้งในด้านสไตล์และคุณสมบัติให้แก่ผู้ใช้รถเอเชีย”
นิโก้ วิดาโกวิช หัวหน้าทีมออกแบบภายใน ฟอร์ด ยุโรป

          รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่ปราดเปรียวของโฟกัสมาพร้อมกับการตกแต่งภายในใหม่ที่สอดรับกัน ซึ่งปรับเปลี่ยนรายละเอียดอย่างชัดเจน พร้อมเพิ่มเติมคุณสมบัติการใช้งานใหม่ ๆ เข้าไป
          การปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบรรยากาศที่เพลิดเพลินน่าอภิรมย์ให้ผู้โดยสาร ในส่วนของคนขับมีหน้าปัดที่มองเห็นมาตรวัดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ใช้ไฟสีแดงอ่อนสำหรับมาตรวัดและปุ่มควบคุมภายในทั้งหมด ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบปรับอากาศแบบแยกโซนใหม่ สอดรับกับสรีระผู้โดยสารและผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น คอนโซลกลางใหม่ ได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์และคุณสมบัติการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น คอนโซลใหม่ ให้บรรยากาศแบบ “ค็อกพิตของนักบิน” สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเบาะที่นั่งที่สามารถเลื่อนปรับพนักแขนได้ 80 มม. ช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง ช่องใส่เหรียญ และช่องใส่บัตรต่าง ๆ
          ฟอร์ดใส่ใจเป็นพิเศษกับคุณภาพของการตกแต่งภายใน  รูธ พอลลี่ หัวหน้าทีมออกแบบด้านสีและการตกแต่งรายละเอียด ฟอร์ด ยุโรป กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการคัดสรรและผสมผสานผิวสัมผัสของวัสดุและสีสัน เราเข้าใจดีว่าผู้ซื้อรถยนต์นั่งขนาดกลางในปัจจุบันมีความคาดหวังความพิเศษกับสิ่งต่างๆ ที่เมื่อก่อนนี้จะมีในรถขนาดใหญ่ระดับหรูเท่านั้น ซึ่งในโฟกัสใหม่นี้ แผงคอนโซลหน้าใช้วัสดุใหม่ที่ให้สัมผัสนุ่มและพื้นผิวเป็นลายเม็ดทราย”
          การตกแต่งพื้นผิวด้วยสีเงิน เน้นแผงอุปกรณ์ตรงกลางให้เด่นสะดุดตา พร้อมเพิ่มปุ่มควบคุมใหม่สำหรับระบบปรับอากาศแบบแยกโซน
          เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเอเชีย ทีมออกแบบภายในได้เพิ่มรายละเอียด เช่น แผงประตูที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้นและมีพื้นที่เก็บของมากขึ้น โดยแผงประตูด้านหน้าสามารถใส่ขวดน้ำซึ่งเหมาะมากสำหรับประเทศในเขตร้อน
          มือจับที่แผงประตูด้านในออกแบบรูปทรงใหม่มีคุณภาพและความคงทนยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วการตกแต่งภายในของโฟกัสใหม่ได้รับการพัฒนาให้สนองความต้องการของผู้บริโภคในเอเชีย
          3. โฟกัสใหม่ – วิศวกรรมยานยนต์ที่แม่นยำ
          ฟอร์ด โฟกัสใหม่ พัฒนาขึ้นด้วยวิศวกรรมยานยนต์ที่แม่นยำ ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความประณีตพิถีพิถันชัดเจนทั้งจากภายใน วิศวกรรมการออกแบบ และการเสริมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มเข้าไป
          นอกจากความปราดเปรียว สมรรถนะในการขับขี่บนทางเรียบแล้ว โฟกัสใหม่ใช้เทคโนโลยีใหม่ และนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้รถยนต์มีความน่าสนใจและน่าครอบครองเป็นเจ้าของยิ่งขึ้น

          ระบบไฟฉุกเฉินใหม่
          ระบบไฟฉุกเฉินใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในโฟกัสใหม่  ระบบไฟฉุกเฉินจะทำงานอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการเหยียบเบรคกระทันหันอย่างแรงในระยะ 6 – 7 เมตรต่อวินาที 2  หรือขณะเบรกทำงาน 60 – 70% จากระยะปกติที่ 10 เมตรต่อวินาที 2 เพื่อเตือนผู้ขับขี่รถยนต์ที่ตามหลังมา  และไฟฉุกเฉินนี้จะดับเองโดยอัตโนมัติ หรือผู้ขับขี่กดปุ่มปิดสัญญาณไฟเองได้เช่นกัน

          เครื่องยนต์ใหม่ของโฟกัส
          ฟอร์ด โฟกัสใหม่ยังคงใช้ตระกูลเครื่องยนต์ดูราเทค โดยเครื่องยนต์มาตรฐานมีขนาดความจุ 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร ที่ให้พลังแรง 92 กิโลวัตต์ และ 107 กิโลวัตต์ ตามลำดับ

          4. ระบบความปลอดภัยของโฟกัสใหม่ – Ford Intelligent Protection System
          ฟอร์ด โฟกัส มีชื่อเสียงมากเรื่องสมรรถนะในการขับขี่บนทางเรียบ ซึ่งจะยังเป็นคุณสมบัติสำคัญของฟอร์ด โฟกัสใหม่ทุกคัน  ด้วยโครงสร้างทางวิศวกรรมยานยนต์ที่ดีเยี่ยม ทำให้ผู้ขับขี่มือใหม่ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย และนักขับมือโปรก็จะสนุกกับการขับขี่ที่เร้าใจ ด้วยระบบแชสซีที่ให้การทรงตัวดี บังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ ควบคุมได้ดังใจ และระบบเบรกยอดเยี่ยม
          นับตั้งแต่พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา ฟอร์ด โฟกัสได้แสดงให้เห็นว่าเป็นรถยนต์นั่งขนาด คอมแพ็คที่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด  มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้ฟอร์ด โฟกัสให้การปกป้องความปลอดภัยของผู้โดยสารได้อย่างมั่นใจ อาทิ ห้องโดยสารที่แข็งแกร่ง ตัวถังที่สามารถยุบตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพกรณีเกิดการชน รวมถึงฟังก์ชั่นระบบปกป้อง ความปลอดภัยอัจฉริยะที่สมชื่อ Ford Intelligent Protection System  จุดมุ่งหมายสำคัญ คือ การมอบความปลอดภัยเหนือระดับในสภาวะการขับขี่บนท้องถนนให้กับผู้โดยสารภายในฟอร์ด โฟกัสทุกคนรูปลักษณ์ภายนอกของโฟกัสที่ดูใหม่ถอดด้าม และโรงสร้างทั้งหมดนั้น ยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม ให้การปกป้องความปลอดภัยในระดับสูงแก่ผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี
          รถยนต์ฟอร์ด โฟกัสยังมีระบบไฟฉุกเฉินใหม่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระบบไฟฉุกเฉินจะทำงานอัตโนมัติทุกครั้งเมื่อมีการเหยียบเบรคกระทันหันในระยะเบรกมากกว่า 6-7 เมตร/วินาที2 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60-70 ของประสิทธิภาพในการเบรก (10 เมตร/วินาที2) เพื่อช่วยเตือนผู้ขับขี่รถยนต์ที่ตามมาด้านหลังในสถานการณ์ฉุกเฉิน และไฟฉุกเฉินนี้จะดับเองโดยอัตโนมัติ หรือผู้ขับขี่กดปุ่มปิดสัญญาณไฟเองได้เช่นกัน
          ระบบความปลอดภัยใหม่นี้ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายจากการชนทางด้านหลังขณะเบรกกะทันหัน  เนื่องจากผู้ขับขี่รถยนต์ที่ขับตามหลังมาจะมองเห็นสัญญาณไฟกระพริบจากท้ายรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส และลดความเร็วลงได้อย่างทันท่วงที

          5. โฟกัสใหม่ – ขับขี่มั่นใจ
          เมื่อฟอร์ด โฟกัสเปิดตัวครั้งแรกในยุโรปในพ.ศ. 2541  ฟอร์ด โฟกัสได้ยกระดับคุณภาพการขับขี่ของรถยนต์ในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางให้สูงขึ้น ด้วยส่วนประกอบที่ล้ำหน้าและลดการเสียดทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งระบบกันสะเทือนอิสระด้านหลังแบบ Control Blade Multi-Link ที่พัฒนาขึ้นอีกระดับ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท  รวมทั้งซับเฟรมส่วนหน้าที่ช่วยเพิ่มสมดุลให้กับให้ฟอร์ด โฟกัสทั้งในเรื่องการขับขี่ การควบคุมรถ ความแม่นยำในการควบคุมพวงมาลัยและความสะดวกสบาย
          ส่วนในการเปิดตัวฟอร์ด โฟกัสเจนเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ในพ.ศ. 2547 ฟอร์ด โฟกัสได้เพิ่มระยะฐานล้อและระยะห่างล้อซ้ายและขวาขึ้นอีก 25 เซนติเมตร และ 40 เซนติเมตรตามลำดับ   รวมทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพของเพลาและสปริงในส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงลูกปืน และเหล็กกันโคลงด้วย ทั้งนี้ การติดตั้งพวงมาลัยพาวเวอร์แบบ Electric-hydraulic power-assisted steering หรือ EHPAS ช่วยให้ฟอร์ด โฟกัสตั้งแต่เจนเนอเรชั่นที่แล้วเปี่ยมด้วยสมรรถนะในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือรถยนต์คันอื่นๆ ในเซ็กเมนต์เดียวกัน ทั้งสะท้อนบุคลิกของแบรนด์และเผยให้เห็นความปรารถนาที่แท้จริงของทีมวิศวกรจากฟอร์ด
          “เราทำการทดสอบฟอร์ด โฟกัสซ้ำแล้วซ้ำอีก และทดสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งใหม่ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อย้ำความมั่นใจในการตัดสินใจของเรา ที่ไม่เปลี่ยนแปลงส่วนสำคัญในส่วนของแชสซีและการจัดวางส่วนประกอบต่างๆ ในฟอร์ด โฟกัส” นอร์เบิร์ต เคสซิง ผู้จัดการฝ่ายสมรรถนะยานยนต์ กล่าว
          ฟอร์ด โฟกัส ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เงียบขึ้น ด้วยการใช้ผนังห้องเครื่องยนต์ที่มีการหุ้มฉนวน เพื่อให้เสียงรบกวนในห้องโดยสารน้อยลง  นอกจากนี้ ยังได้เปลี่ยนพรมใหม่ที่เคลือบสารเพิ่มความทนทานและเก็บเสียงได้ดีขึ้นภายในห้องโดยสาร

          สมรรถนะและปราดเปรียวในการขับขี่ – รถยนต์ในฝันของผู้ใช้รถ
          การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของฟอร์ดในฐานะผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์ ช่วยให้มั่นใจว่า ฟอร์ด โฟกัสเป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นเพื่อผู้ขับขี่อย่างแท้จริง ฟอร์ด โฟกัส ทำให้คุณประทับใจเมื่อขับบนถนน และปฏิกิริยาที่สอดประสานกันระหว่างถนนกับผู้ขับขี่ ช่วยให้ควบคุมการขับขี่ได้ในสภาพถนนทุกรูปแบบ
          การตอบสนองต่อการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและการควบคุมพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำ สอดประสานกับส่วนของโครงสร้างตัวถังที่ช่วยให้สามารถขับขี่ได้อย่างลื่นไหล
          ซับเฟรมชิ้นหน้าที่แข็งแกร่งสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เมื่อผนวกกับระบบกันสะเทือนอิสระด้านหลังคอนโทรลเบลด และเทคโนโลยีการออกแบบแบบ Hydrobush Design ซึ่งใช้กระเปาะที่มีน้ำอยู่ภายในและเชื่อมต่อกับถังน้ำมัน เพื่อช่วยส่งผ่านแรงกระแทกที่เกิดขึ้นขณะขับขี่ ช่วยเพิ่มการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง ทั้งนี้วิศวกรยังได้
          ปรับปรุงชิ้นเหล็กกันโคลงให้มีความทนทานมากขึ้นโดยใช้จุดยึดแบบดับเบิลบอลล์จอยท์ (Double ball joints)
          ระบบแชสซี ประกอบด้วย ระบบกันสะเทือนอิสระหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท โช้กอัพแก๊สและคอยล์สปริง  ส่วนปีกนกตัวล่างจะถูกยึดติดกับซับเฟรมด้วยชุดบูชยาง 2 ตัว ซึ่งวางตัวในแนวนอน และได้รับการปรับแต่งมาเป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวในขณะที่เบรก รวมถึงยังช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
          ซับเฟรมหน้าของฟอร์ด โฟกัสใหม่ช่วยให้การขับขี่มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นในทุกจุดเชื่อมต่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งควบคู่ไปกับการทำงานของเหล็กกันโคลง เพิ่มความสะดวกและความมั่นใจในการควบคุมรถได้อย่างเต็มที่ ฟอร์ด โฟกัสให้ความคล่องแคล่วและคุณภาพในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม พิสูจน์ได้จากการควบคุมตัวรถและการเข้าโค้งได้โดยไม่รู้สึกถึงความกระด้างของช่วงล่าง
          ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบ Electric-hydraulic power-assisted steering (EHPAS) ในฟอร์ด โฟกัสใหม่ ช่วยให้การขับขี่ในช่วงความเร็วต่ำทำได้อย่างเบาแรง ในขณะที่ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำตลอดเส้นทางที่ความเร็วสูง จานเบรกขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมรถที่เป็นเลิศ ช่วยให้เบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงในช่วงเวลาฉุกเฉิน และถนอมผ้าเบรคให้มีอายุใช้งานยาวขึ้น
          โครงสร้างตัวถังรถยนต์ฟอร์ด โฟกัสใหม่ มีบทบาทสำคัญในการให้ประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจ เนื่องจากได้รับการออกแบบมาให้แข็งแกร่งเท่าเทียมกันกับรถรุ่นก่อนหน้านี้
          ผู้ขับขี่จะประทับใจกับสมรรถนะที่สมดุลอย่างยอดเยี่ยม ทั้งความคล่องตัวปราดเปรียวและความสะดวกสบาย การเกาะถนนเป็นเลิศ ตอบสนองทันใจ บังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ แชสซีใหม่ออกแบบให้
          ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมรถ ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายแม้บนพื้นถนนขรุขระ
          ระบบเบรก – สมรรถนะที่มั่นใจได้
          ระบบเบรกในรถยนต์ฟอร์ด โฟกัสใหม่ สามารถสรุปได้ด้วยคำเพียง 3 คำคือ มั่นใจ สัญชาตญาณ และสะดวกสบาย ระบบเบรกของฟอร์ด โฟกัสได้รับการออกแบบและผลิตขึ้น เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่วางใจได้ และลดระยะเบรกลงให้เหลือสั้นที่สุด ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลราบรื่นโดยเฉพาะในช่วงความเร็วต่ำเพื่อให้ขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวกสบาย  แป้นเบรกและแรงเบรกสัมพันธ์กันอย่างสมดุล ให้ความรู้สึกมั่นใจสูงสุดแก่ขับขี่ในทุกช่วงความเร็ว 

          พวงมาลัยในฟอร์ด โฟกัส – แม่นยำทุกช่วงความเร็ว
          เพื่อการบังคับเลี้ยวอย่างแม่นยำในทุกช่วงการขับขี่ ฟอร์ด โฟกัส ติดตั้งพวงมาลัยพาวเวอร์แบบ Electric-hydraulic power-assisted steering หรือ EHPAS
          ระบบ EHPAS ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนปั๊มไฮดรอลิก ทำงานด้วยการตรวจจับความเร็วของตัวรถ และการหมุนพวงมาลัยมาใช้ในการคำนวณเพื่อปรับระดับการทำงานของพวงมาลัยให้เหมาะสม ช่วยลดน้ำหนักการหมุนพวงมาลัยในช่วงความเร็วต่ำ ให้ความคล่องตัวและสะดวกในการจอด และเพิ่มความหนืดของพวงมาลัย ให้มั่นคงขึ้นเมื่อขับด้วยความเร็วสูง มั่นใจในขณะเปลี่ยนทิศทางหรือเลี้ยวโค้ง
          การทำงานของระบบพวงมาลัย EHPAS ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอัตราเร่งของเครื่องยนต์ จึงช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 0.21 ลิตร/ 100 กิโลเมตร หรือน้อยกว่าระบบพวงมาลัยทั่วไปประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ระบบ EHPAS ยังทำหน้าที่ “อ่าน” สภาพแวดล้อมในการขับขี่และตอบสนอง อย่างเหมาะสม ความหนืดของคอพวงมาลัย ความแม่นยำของระบบกันสะเทือน และบุชยางเกียร์ยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมในการบังคับพวงมาลัย
          เฮอร์แมนกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในฟอร์ด โฟกัสใหม่ส่วนใหญ่จะเห็นได้ชัดจากทั้งตัวถังรถภายนอกและรายละเอียดของดีไซน์ภายในห้องโดยสาร  แต่ที่จริงคงพูดได้ว่ามีรายละเอียดอีกมากที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้รถคันนี้เป็นรถยนต์ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นเพื่อการขับขี่และการโดยสาร ผมมั่นใจว่าฟอร์ด โฟกัสใหม่ที่มาพร้อมสไตล์และรูปลักษณ์ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกระดับจะสร้างความประทับใจให้กับทั้งลูกค้าของฟอร์ด และลูกค้าใหม่ๆ ที่จะถูกใจใน “เคเนอติก ดีไซน์” เอกลักษณ์ของฟอร์ด อย่างแน่นอน”
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:42:35 PM
บริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวอร์ค จำกัด เปิดตัวรถยนต์ Audi รุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น พร้อมมอบราคาพิเศษ เพื่อร่วมฉลองโอกาส Audi ครบรอบ 100 ปี




 
          บริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวอร์ค จำกัด เปิดตัวรถยนต์ Audi รุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น พร้อมมอบราคาพิเศษ เพื่อร่วมฉลองโอกาส Audi ครบรอบ 100 ปี ที่งาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26

          เผยโฉมรถสปอร์ตคูเป้รุ่นล่าสุด เจ้าของรางวัลออสการ์ ด้านการดีไซน์ จากเยอรมนี Audi A5 Coupe
          2.0 TFSI ที่มาพร้อมระบบ quattro เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เอกสิทธิ์เฉพาะรถยนต์ Audi ด้วยราคาแนะนำพิเศษ 3,990,000 บาท
          พบรถ Audi A8 2.8 FSI Long-Wheelbase รุ่นพิเศษ ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีสุดทันสมัย อาทิ Audi Space Frame (ตัวถังอลูมิเนียมทั้งคัน) Audi adaptive air suspension เป็นต้น เพื่อฉลอง Audi ครบรอบ 100 ปี ด้วยราคาพิเศษสุด จำนวนจำกัด
          นายกิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวอร์ค จำกัด ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Audi อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า “เนื่องจากเป็นปีที่แบรนด์ Audiได้จัดเฉลิมฉลองความสำเร็จด้านนวัตกรรมยานยนต์ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานถึง 100 ปี ดังนั้น ทาง Audi จึงได้มอบความพิเศษสุดให้กับลูกค้า Audi ทุกท่านในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 โดยในงานนี้ทางบริษัทฯได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจาก AUDI AG เยอรมนีเพื่อเปิดตัวรถยนต์ Audi รุ่นใหม่ถึง 2 รุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลกและจะมาเผยโฉมในประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่งานนี้ คือ Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro รถสปอร์ตคูเป้ ดีไซน์สวยงามสง่า และแตกต่างเหนือรถยนต์คูเป้พรีเมียมยี่ห้ออื่น ด้วย quattro ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา จำหน่ายในราคา 3,990,000 บาท สำหรับอีกรุ่นที่เป็นรถยนต์รุ่นท็อปสุดของ Audi คือ Audi A8 2.8 FSI Long-Wheelbase รุ่นพิเศษฉลอง Audi 100 ปี โดยทางบริษัทฯได้โควต้ามาจำนวนจำกัด ซึ่งจะจำหน่ายในงานนี้ในราคาพิเศษ“
          Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro รถสปอร์ตพรีเมียมคูเป้ 2 ประตู รุ่นใหม่ ดุลยภาพแห่งความสปอร์ตและความงามสง่า ดีไซน์สวยงามหมดจดตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านท้าย ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวทรงพลัง เจ้าของรางวัลชนะเลิศรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมแห่งประเทศเยอรมนีประจำปี 2553 ”Design Oscar” ซึ่งถือเป็นรางวัลออสการ์ด้านดีไซน์ของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ จัดขึ้นโดยสถาบันอันทรงเกียรติของ
          เยอรมนี “The German Design Council” ด้านมิติตัวรถมีความยาว 4,625 มม. ความกว้าง 1,854 มม. และความสูง 1,372 มม. ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบอย่างประณีตหรูหรา ใช้วัสดุอุปกรณ์คุณภาพสูง ให้ความกว้างขวางสะดวกสบาย อุปกรณ์ต่างๆภายในรถได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้อย่างง่ายสบายสำหรับผู้ขับขี่ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกสบายที่ทันสมัย ตั้งแต่ เบาะนั่งหนังแท้ที่ตัดเย็บอย่างประณีต ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบเครื่องเสียงชั้นเยี่ยม พร้อมระบบบลูทูธเพื่อความสะดวกในการใช้งาน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์
          Audi A5 2.0 TFSI quattro เป็นรถคูเป้เพียงยี่ห้อเดียว ที่โดดเด่นและแตกต่างเหนือรถยนต์คูเป้พรีเมี่ยม ยี่ห้ออื่น ด้วย quattro ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Audi จึงทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเหนือกว่าระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อทั่วไป ให้ทั้งความสนุกแรงเร้าใจแบบเกินพิกัด ที่มาพร้อมกับความปลอดภัยสูงสุดและมั่นใจในทุกสภาพถนน สำหรับเครื่องยนต์ เป็นเบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOCH ขนาด 1,984 ซีซี ใช้เทคโนโลยี Fuel Stratified Injection (FSI) พร้อม Turbocharger และ Audi valvelift system ที่ให้ความประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันถึง 15% เครื่องยนต์ตัวนี้ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 4,300 – 6,000 รอบต่อนาที
          ให้แรงบิดสูงสุดถึง 350 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,200 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ S tronic 7 สปีด ทำความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 13.33 กม./ลิตร ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ 5-Link ส่วนระบบช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบ Trapezoidal – link

          สำหรับรถไฮไลต์อีกรุ่นในงานนี้ คือ Audi A8 2.8 FSI Long-Wheelbase รุ่นราคาพิเศษฉลอง Audi 100 ปี รถยนต์ซีดานหรูหราขนาดใหญ่แบบช่วงยาว เหมาะสำหรับผู้บริหารระดับสูงที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่ให้ความปลอดภัยสูงสุด โครงสร้างตัวถังอลูมิเนียม Audi Space Frame (ASF) อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Audiซึ่งให้น้ำหนักเบาแต่ให้ความแข็งแกร่งทนทานมากกว่าเหล็กกล้า แม้ว่า Audi A8 จะเป็นรถยนต์หรูหราขนาดใหญ่ แต่ด้วยจุดเด่นของรถ Audi A8 ที่ใช้โครงสร้างตัวถังเป็นอลูมิเนียม จึงมีน้ำหนักเพียงครึ่งหนึ่งของโครงสร้างตัวถังที่ใช้เหล็กกล้า โดยมีน้ำหนักตัวรถเปล่าเพียง 1,690 กิโลกรัม ซึ่งการลดน้ำหนักลงมีข้อดี 2 ประการ คือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นและให้ประหยัดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น จุดเด่นที่สำคัญอีกประการ คือ เรื่องความเงีบบที่สุดภายในห้องโดยสารเมื่อเทียบกับรถพรีเมียมในระดับเดียวกัน โดยรถ A8 มีค่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทานต่ำที่สุดในคลาสเดียวกัน ซึ่ง Audi เป็นผู้นำในเรื่องค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน คือ มีค่า Cd เพียง 0.27 ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ 5-Link ส่วนระบบช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบ Trapezoidal – link พร้อมระบบ Audi adaptive air suspension จึงให้ความรู้สึกนุ่มนวลตลอดการเดินทาง
          Audi A8 2.8 FSI Long-Wheelbase ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบขนาด 2,773 ซีซี พร้อมเทคโนโลยี FSI (Fuel Stratified Injection) และ Audi valvelift system ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้าที่ 5,500-6,800 รอบต่อ นาที ให้แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,000 รอบต่อนาที ใช้ระบบเกียร์ multitronic พร้อม dynamic control program (DRP) มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 238 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพียง 12.05 กม./ลิตร
          คุณกิตติ กล่าวเสริมว่า “Audi A8 2.8 FSI Long-Wheelbase ซึ่งเป็นรถนำเข้าทั้งคันมีราคาจำหน่ายที่ 7,590,000 บาท และเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปีของ Audi ทางบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ AUDI AG มอบความพิเศษสุดให้กับลูกค้าชาวไทย โดยมอบ Audi A8 2.8 FSI Long-Wheelbase รุ่นราคาพิเศษฉลอง Audi 100 ปีในราคาสุดพิเศษที่ลูกค้า Audi จะต้องพึงพอใจแน่นอน โดยราคาพิเศษสุดนี้มีเฉพาะที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 นี้เท่านั้นครับ นอกจากรถยนต์ Audi รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นแล้ว ภายในงานนี้ยังมีรถยนต์ Audi เกือบครบทุกเซกเมนต์รุ่นอื่นๆมาจัดแสดงอีก คือ Audi A4 1.8 TFSI , Audi A6 2.0 TFSI , Audi TT 2.0 TFSI และ Audi Q5 2.0 TFSI quattro พร้อมรับแคมเปญพิเศษสุดในงานนี้ “
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:47:29 PM
ยานยนต์ระดับโลก "ฟอร์ด เฟียสต้าใหม่" พร้อมอวดโฉมครั้งแรกในอาเซียน พบความตระการตาที่บูธฟอร์ดในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009

          -รถยอดนิยม ฟอร์ด เฟียสต้าใหม่ พร้อมอวดโฉมครั้งแรกในอาเซียนที่งานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ลูกค้าชาวไทยเตรียมสัมผัสกับรถยนต์ขนาดเล็กคันใหม่ที่มอบความสนุกให้ทุกการขับขี่
          - ฟอร์ด เฟียสต้าใหม่ จะมีให้เลือกทั้งรุ่นแฮ็ชแบ็ก 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู โดยทั้ง 2 รุ่นจะเริ่มผลิตในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกในพ.ศ. 2553 ชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ในตลาดอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
          - พบกับรถไฮไลท์ของฟอร์ดทุกรุ่นภายในงาน ตั้งแต่ฟอร์ด โฟกัส ไทเทเนี่ยม ลิมิเต็ด อิดิชั่น, ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เนวี่ ลิมิเต็ด อินดิชั่น พร้อมสีพิเศษใหม่ "ไทเทเนียม เกรย์", ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ไฮไรเดอร์ 4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อรุ่นใหม่ และฟอร์ด เอสเคปใหม่ อี20 สีพิเศษสีขาว "ไดมอนด์ ไวท์" ในรุ่น 4x2 XLS และรุ่น 4x2 XLT

          ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี สร้างประสบการณ์ความตื่นเต้นครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมเปิดตัวรถฟอร์ด เฟียสต้าใหม่ ครั้งแรกในอาเซียน ในงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมนี้ เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกับตัวจริงของรถยนต์ยอดนิยมที่มียอดขายสูงกว่าครึ่งล้านคันในช่วง 12 เดือนแรกที่เริ่มวางจำหน่าย
          รถยนต์ขนาดเล็กสุดเร้าใจ ฟอร์ด เฟียสต้าใหม่ ที่กำลังจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ จะผลิตที่โรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) ของบริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดอาเซียน รวมถึงประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้
          รถฟอร์ด เฟียสต้า รุ่นแฮ็ชแบ็ก 5 ประตู ที่จัดแสดงอยู่บนเวทีภายในบูธฟอร์ด จะทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสใกล้ชิดกับงานออกแบบสุดเร้าใจที่กำลังจะเดินทางมายังภูมิภาคอาเซียน เช่นเดียวกับรุ่นซีดาน 4 ประตู ที่พร้อมวางจำหน่ายเมื่อฟอร์ดเริ่มต้นการผลิตในพ.ศ. 2553
          เฟียสต้าใหม่ จะสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการพัฒนารถยนต์ขนาดเล็กของฟอร์ด นับตั้งแต่เปิดตัวในหลายภูมิภาคทั่วโลก เฟียสต้าได้สร้างมิติใหม่ให้กับงานวิศกรรมรถยนต์ขนาดเล็กที่ผนวกความประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้น การยึดเกาะถนนดีเยี่ยม และงานออกแบบที่เร้าใจเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว 
          รูปทรงแอโรไดนามิกของเฟียสต้า สามารถช่วยลดเสียงรบกวน ความสั่นสะเทือน ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่  รวมทั้งยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น การออกแบบภายใต้แนวคิด "เคเนอติก ดีไซน์" ของฟอร์ด ทำให้เฟียสต้าเป็นรถที่มีรูปโฉมสะดุดตา เน้นความเท่เร้าใจด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ให้อารมณ์สปอร์ต สะท้อนความแข็งแกร่งของรถยนต์ภายใต้แบรนด์ฟอร์ดอย่างแท้จริง ไฟหน้าที่ยาวโอบรอบมายังด้านข้าง ซุ้มโป่งล้อที่โดดเด่น และเส้นด้านข้างของตัวรถที่ตัดขอบด้วยโครเมี่ยม ล้วนเป็นจุดเด่นของรถที่จะมาพร้อมสีสันให้เลือกอย่างหลากหลาย
          เช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอก พื้นผิวภายในห้องโดยสารของเฟียสต้าได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นแสดงให้เห็นถึงความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เส้นสายที่กลมกลืนกับการใช้สีตัดกันอย่างลงตัวให้ความรู้สึกอบอุ่นและชวนให้สัมผัส การออกแบบภายในห้องโดยสารที่โฉบเฉี่ยวของเฟียสต้านั้นเอาใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น แต่ฟอร์ดเชื่อว่าลูกค้าทั่วไปจะได้รับความประทับใจจากรายละเอียดต่างๆ ทั้งด้านความหรูหราและมีรสนิยม โดยไม่ทิ้งรูปลักษณ์ที่สวยงามและประโยชน์ใช้สอยครบครัน
          มาตรวัดและหน้าจอแสดงผลต่างๆ ได้รับการออกแบบมาให้อ่านง่าย พวงมาลัยบังคับได้อย่างแม่นยำและตอบสนองยอดเยี่ยม คอนโซลกลางพร้อมสรรพด้วยปุ่มควบคุมเครื่องเล่นวิทยุ/ซีดี ระบบปรับอากาศ ที่ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ให้ง่ายต่อการใช้งานและสื่อถึงความมีคุณภาพ 
          "การเปิดตัวรถฟอร์ด เฟียสต้า ในอาเซียนจะเป็นบันทึกบทใหม่ในเรื่องราวแห่งความสำเร็จของเฟียสต้าทั่วโลก และเน้นย้ำอย่างต่อเนื่องถึงบทบาทของฟอร์ดในการเป็นผู้นำด้านการออกแบบและพัฒนารถยนต์ขนาดเล็ก" เดวิด อัลเดน ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว "ผู้บริโภคที่ทันสมัยทั้งในประเทศไทยและอาเซียนจะชื่นชอบความแตกต่างและความเร้าใจที่ยากจะปฏิเสธได้ของเฟียสต้า ที่สามารถบ่งบอกตัวตน ความมีเอกลักษณ์ และความมีรสนิยมของพวกเขาได้เป็นอย่างดี" 
          ปัจจุบัน ฟอร์ด เฟียสต้า เป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากผู้บริโภคและสื่อมวลชนในยุโรป โดยได้รับรางวัลจากนิตยสารยานยนต์ชั้นนำมาแล้วมากมาย รวมทั้งนิตยสาร Top Gear, Car, Car & Driver และ       4 Wheels และเมื่อไม่นานมานี้ เฟียสต้ายังได้รับเลือกให้เป็นเจ้าของรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2009 จากทั้งนิตยสาร Auto Express, What Car? และ Sun Motors อีกด้วย
          การเปิดตัวเฟียสต้าใหม่ครั้งแรกในอาเซียนที่ประเทศไทยนี้ จะจัดขึ้นพร้อมๆ กับการเปิดตัวครั้งแรกในทวีปอเมริกาเหนือ ในงาน "ลอสแองเจลิส ออโต้ โชว์" มหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกงานหนึงของสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมนี้
          สำหรับกระบวนทัพของรถฟอร์ดที่จะนำมาจัดแสดงภายในงานในประเทศไทยประกอบด้วย รถฟอร์ด โฟกัสใหม่ รุ่นพิเศษ ไทเทเนี่ยม ลิมิเต็ด เอดิชั่น เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พร้อมชุดแต่งแอร์โร่พาร์ทสุดเท่นำเข้าจากยุโรป
          รถฟอร์ด เอเวอเรสต์ใหม่ เนวี่ เอดิชั่น พร้อมสีพิเศษ "ไทเทเนียม เกรย์"  รถฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่น "ไวลด์แทรค 4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ แบบเกียร์ธรรมดา และรถฟอร์ด เอสเคป อี20 ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้  กับสีพิเศษ สีขาว "ไดมอนด์ ไวท์" ในรุ่น 4x2 XLS และรุ่น 4x2 XLT ซึ่งเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ต่างๆ แบบฟูลออฟชั่นเหมือนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
          นอกจากนี้ ฟอร์ดยังมอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับรถยนต์คุณภาพจากฟอร์ดทุกรุ่นให้อุ่นใจไป 5 ปี ทั้งข้อเสนอฟรีค่าบำรุงรักษานานถึง 5 ปี พร้อมยืดระยะการรับประกันให้เป็น 5 ปี หรือสูงสุด 100,000 ก.ม. (เฉพาะฟอร์ด โฟกัสสูงสุด 105,000 ก.ม.) หรือเลือกรับข้อเสนอพิเศษเฉพาะรุ่น ดังต่อไปนี้

          - ฟอร์ด โฟกัส ทีดีซีไอ พาวเวอร์ชิฟท์ รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 2.59% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรกฟรี
          - ฟอร์ด โฟกัสใหม่ เครื่องยนต์ดูราเทค อี20 ราคาเริ่มต้นที่ 749,000 บาท สามารถผ่อนสบายๆ กับดอกเบี้ย 1.99% พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรกฟรี
          - ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เอสยูวีสำหรับครอบครัวทุกรุ่น  รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 2.39% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรกฟรี
          - ฟอร์ดเอสเคป รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 2.39% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรกฟรี
          - ฟอร์ด เรนเจอร์โฉมใหม่ทุกรุ่น รับข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ยพิเศษ1.99% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรกฟรี
 
          ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
          ฟอร์ด มอเตอร์คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเดียร์บอร์น มลรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา  โดยผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใน 6 ทวีปทั่วโลก มีพนักงานประมาณ 201,000 คน และมีโรงงานประมาณ 90 แห่งทั่วโลก  บริษัทฯ มีรถยนต์แบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่รู้จักมากมาย ได้แก่ ฟอร์ด ลินคอล์น เมอร์คิวรี และวอลโว่  นอกจากนี้ ยังให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด ได้ที่ www.ford.com
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:48:38 PM
เปิดตัว เชฟโรเลต อาวีโอ เหนือกว่าด้วยขุมพลังใหม่ 1.6 ลิตร
 
          อวดโฉม “คามาโร” ทึ่สุดแห่งมัสเซิลคาร์จากทรานส์ฟอร์เมอร์ส
          พร้อมแคมเปญพิเศษสุดสำหรับเชฟโรเลตทุกรุ่น ที่เลือกได้ตามสไตล์คุณ





          เชฟโรเลต เปิดตัว อาวีโอ “รถเล็กดีไซน์บิ๊ก” ที่มาพร้อมขุมพลังใหม่ เหนือกว่าด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ปราดเปรียว คล่องแคล่วกว่าเดิม พร้อมกับโชว์โฉม “คามาโร” อเมริกัน มัสเซิลคาร์ ฮีโร่กู้โลกจากภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส ขณะเดียวกัน ยังอัดแคมเปญต่อเนื่อง ด้วยข้อเสนอเลือกได้ ดาวน์น้อย ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
          บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เจาะตลาดรถยนต์ขนาดเล็กส่งท้ายปี ส่ง เชฟโรเลต อาวีโอ รถซับคอมแพกต์ซีดาน ที่มาพร้อมกับหัวใจแห่งการขับเคลื่อนใหม่ แรงเหนือชั้นกว่าด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุดถึง 145 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พละกำลังสูงสุด 102 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด โดยเชฟโรเลต เปิดตัวอาวีโอ ขุมพลังใหม่นี้อย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26
          นอกจากสมรรถนะที่สูงขึ้นแล้ว เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 ลิตร ยังคงอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ไว้อย่างครบครันเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ถุงลมนิรภัย กุญแจ Immobilizer สัญญาณกันขโมย ไฟตัดหมอก (เฉพาะรุ่น) ระบบเครื่องเสียงแบบ 2-Din (เครื่องเสียงทูดิน คือเครื่องเสียงที่มีฟรอนต์สองชั้น มีความหนาของเครื่องเสียง หน้าจอกว้างมากขึ้น) รองรับระบบ CD / MP3 และระบบ Bluetooth กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้า กระจกไฟฟ้า ฯลฯ

          สำหรับราคาของอาวีโอ 1.6 ลิตรนั้น ทางเชฟโรเลต ปรับสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย เริ่มจาก
          เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 ลิตร LSX 644,000 บาท
          เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 ลิตร LT 674,000 บาท
          เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 ลิตร SS 689,000 บาท
          เชฟโรเลต อาวีโอ 1.6 ลิตร LUX 709,000 บาท
          มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวด้วยความมั่นใจว่า เชฟโรเลต อาวีโอ ขุมพลังใหม่ขนาด 1.6 ลิตร จะสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า ด้วยความปราดเปรียว คล่องแคล่วที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และพื้นที่ในห้องโดยสารที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน “พละกำลังที่เพิ่มขึ้น จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ ทั้งการใช้งานในเมือง และการเดินทางนอกเมือง เราพัฒนาอาวีโอ เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
          นอกเหนือจากน้องเล็กที่มาพร้อมกับหัวใจที่ใหญ่ขึ้นอย่างอาวีโอ 1.6 ลิตรแล้ว เชฟโรเลต ยังขนทัพรถมาจัดแสดงในงานครั้งนี้อย่างครบครันทุกรุ่นเช่นเดิม เริ่มจากอาวีโอ เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เชฟโรเลต ออพตร้า CNG ทั้งรุ่นเอสเตท และซีดาน เชฟโรเลต โคโลราโด ปิกอัพอเมริกันพันธุ์แกร่ง และเชฟโรเลต แคปติวา รถเอนกประสงค์
          เอสยูวีขนานแท้ที่มีให้เลือกทั้งขุมพลังเบนซิน และดีเซล เทอร์โบอีกด้วย
          ขณะเดียวกัน จีเอ็ม และเชฟโรเลต ประเทศไทย ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในงานนี้ คือการนำ “คามาโร” หรือที่แฟนภาพยนตร์ทราน์สฟอร์เมอร์สรู้จักกันดีในชื่อ “บัมเบิลบี” รถสปอร์ตเทคโนโลยีล้ำยุคแต่ยังคงความคลาสสิกมาจัดแสดงให้คอรถมัสเซิล คาร์ สไตล์อเมริกัน และแฟนภาพยนตร์ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
          ที่บูธเชฟโรเลต ยังมีเคาท์เตอร์ เชฟวี่ โอเค ยูสด์ คาร์ สำหรับให้คำปรึกษาเกี่ยวกับรถมือสองคุณภาพเยี่ยมของเชฟโรเลต และเชฟวี่ ไฟแนนซ์ สำหรับการอำนวยความสะดวกด้านการเงินแก่ลูกค้าทุกท่านที่ต้องการจับจองรถภายในงานอีกด้วย
          สำหรับแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าเชฟโรเลตทุกคน จีเอ็ม และเชฟโรเลต ประเทศไทย ได้มอบข้อเสนอพิเศษสุดแห่งปีในแคมเปญ “ข้อเสนอที่คุณเลือกได้” ด้วยเงื่อนไขที่เลือกได้ตามแต่ละความต้องการของลูกค้า ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 36 เดือน เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 25% หรือ ดอกเบี้ย 0.99% ผ่อนนาน 36 เดือน เมื่อดาวน์เริ่มต้นที่ 15% พร้อมรับฟรี ประกันภัยชั้นหนีึ่ง 1 ปี สำหรับเชฟโรเลต โคโลราโด เชฟโรเลต ออพตร้า
          เชฟโรเลต ออพตร้า เอสเตท และเชฟโรเลต อาวีโอ และพิเศษเฉพาะเชฟโรเลต ออพตร้า CNG เติม CNG ฟรี 1 ปี มูลค่า 10,000 บาท
          นอกจากการแสดงรถยนต์แล้ว ที่บูธเชฟโรเลตปีนี้ยังมีการแสดง Transformers ที่สื่อถึงความก้าวล้ำและเดินทางไปพร้อมกันระหว่างลูกค้า และบริษัทฯ ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของการดำเนินงานของเชฟโรเลต ร่วมสัมผัสความหลากหลายทางยนตรกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจจากเชฟโรเลต พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษดังกล่าวได้ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26 ณ ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคมนี้
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:49:37 PM
นิสสัน เปิดตัว เอ็กซ์เทรล ใหม่ และมุมพิเศษ อีโค คาร์ เพื่อสร้างสีสัน ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 (ครั้งที่ 26)



          บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์เอนกประสงค์ “ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ( All-New X-Trail) ณ งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009 ซึ่งเป็นรถ นิสสัน ตระกูล เอ็กซ์เทรลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงรับประกันด้วยยอดขายสูงสุดอันดับ 1 เป็นเวลาเจ็ดปีติดต่อกันในประเทศญี่ปุ่น
          นิสสัน ยังได้สร้างสีสันด้วยมุม “ อีโค คาร์ ” ที่โชว์ ภาพสเก็ตซ์รถและคุณสมบัติต่างๆของรถยนต์ ให้แก่ผู้สนใจและเข้าชมงานได้รับทราบถึงรายละเอียดหลักๆของรถอีโค คาร์ และเทคโนโลยีต่างๆ เป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจของ นิสสัน ที่จะผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำมันและลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
          นอกจากนี้ ผู้เข้าเยี่ยมชมในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป จะได้พบกับยานยนต์คุณภาพของนิสสันเต็มรูปแบบประกอบด้วย นิสสัน 370Z, นาวาร่า, เทียน่า ใหม่, เอ็กซ์เทรล ใหม่, ทีด้า และทีด้า ลาติโอ, เออร์แวน ซึ่งมาพร้อมแคมเปญที่เร้าใจ

          เอ็กซ์เทรล โฉมใหม่
          รถยนต์ เอ็กซ์เทรล โฉมใหม่นี้เป็นรถอเนกประสงค์ (Sports Utility Vehicle - SUV) ที่จะจำหน่ายต้นปี 2553 โดยเป็นรถที่ได้รับการออกแบบมาให้เป็นรถ SUV อเนกประสงค์ที่แข็งแกร่งทนทานสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือนอกเมือง
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิดสารพัดประโยชน์ ทำให้เป็นรถอเนกประสงค์ที่ ครบถ้วนด้วยพื้นที่ใช้สอยภายในจากการออกแบบที่แยบยล ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เอ็กซ์เทรล ขับเคลื่อนด้วยพลังเครื่องยนต์ขนาด 2.0L (MR20DE) พร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ Xtronic CVT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าแบบเดียวกับที่ใช้ในนิสสัน เทียน่าใหม่ ลูกค้าจะได้รับความเพลิดเพลินจากการขับขี่ควบคู่ไปกับการประหยัดเชื้อเพลิง

          เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ
          ลักษณะเด่นของ เอ็กซ์เทรล รุ่นใหม่ประกอบด้วยระบบส่งกำลังแปรผันอัจฉริยะ XTRONIC (Continuously Variable Transmission (CVT-M6) ซึ่งมีโหมดการเปลี่ยนระบบส่งกำลังพิเศษแบบ 6 สปีด ที่มาพร้อมกับการควบคุม    การทำงานด้วยระบบที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงใหม่ เรียกว่า Adaptive Shift Control (ASC) ที่จะปรับให้สอดคล้องกับรูปแบบการขับขี่ส่วนบุคคลของผู้ขับขี่ และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ใช้พลังงานอย่างเหมาะสมและประหยัดเชื้อเพลิง
ออกแบบเป็นรถ SUV เอนกประสงค์ อย่างแท้จริง
          รถยนต์นิสสัน เอ็กซ์เทรล โฉมใหม่ยังคงมีชื่อเดิมอยู่ ซึ่งเป็นชื่อที่บ่งบอกสายพันธุ์ SUV ที่มีสมรรถนะที่โดดเด่นและเป็นเลิศเท่านั้น นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ยังคงยึดแนวคิดการออกแบบเช่นเดียวกับรุ่นแรกที่เน้นความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจุดสำคัญที่ทำให้รถเอ็กซ์เทรลตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้ทุกรูปแบบ
รูปลักษณ์ของ เอ็กซ์เทรล ใหม่ถูกทำให้แข็งแกร่งแน่นหนาเพื่อความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้นและลด NVH นอกจากนี้ ได้มีการนำเอาการคำนวณเชิงตัวเลขสำหรับกลศาสตร์ของไหล (Computational Fluid Dynamics: CFD) มาใช้เพื่อวิเคราะห์และออกแบบตัวถังของ X-TRAIL ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ส่งผลให้มีสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นและประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น

          สุดยอดการใช้งาน
          ห้องโดยสารของ เอ็กซ์เทรล ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใหญ่สี่คนสามารถเดินทางทุกรูปแบบได้อย่างสะดวกสบาย ห้องโดยสารภายในได้รับการแต่งใหม่เพื่อใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นที่วางแนวมาจากแผงหน้าปัดรถยนต์ จนถึงขอบประตูที่เหมาะเจาะลงตัวทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องที่กว้างขวาง เบาะนุ่มแบบใหม่ และที่พักแขนช่วยเพิ่มความรู้สึกสบายอย่างแท้จริง
          พื้นที่วางสัมภาระด้านหลังของ เอ็กซ์เทรล กว้างขวางกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งต้องยกความดีให้กับโช๊คหลังที่ได้รับการปรับตำแหน่งให้เอื้อประโยชน์ในการใช้สอยพื้นที่มากขึ้น โดยที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุ 603 ลิตร (ตามมาตรฐาน VDA) พื้นที่เก็บสัมภาระมีแผ่นรองพื้นห้องสัมภาระแบบล้างทำความสะอาดได้และมีลักษณะเป็นลอนเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของลื่นไหล มีช่องเก็บของพร้อมแผ่นกั้นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ซึ่งอยู่ใต้บอร์ดเก็บสัมภาระ ทำให้มีที่เก็บของพร้อมฝาปิด
เอ็กซ์เทรล ใหม่ นี้มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีแดง, สีดำ, สีเทา เมเทลลิค และ สีเงิน เป็นรถ อเนกประสงค์ ที่ประสบความสำเร็จโดยมียอดขายได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 เป็นเวลาเจ็ดปีติดต่อกัน สำหรับราคารถอเนกประสงค์ เอ็กซ์เทรลใหม่ (2.0 ลิตร) คือ 1,065,000 บาท

          นิสสัน เทียน่า สปอร์ต ซีรีส์
          นิสสัน เทียน่า สปอร์ต ซีรีส์ เติมเต็มความต้องการด้วยรูปโฉมภายในและภายนอกแบบใหม่ที่เป็นแนวสปอร์ตแต่ยังคงความหรูหรา สง่างามอยู่ เทียน่า สปอร์ต ซีรีส์ เป็นจุดเริ่มต้นของการให้อะไหล่และแบบตามสั่งเพื่อให้     ผู้ชื่นชอบรถยนต์นิสสันตื่นเต้นและประทับใจ 

          แอโรว์บอดี้คิต แบบใหม่
          เมื่อความหรูหรามาผสานกับความเป็นสปอร์ตที่ลงตัว นิสสันได้นำเอาเทียน่าแบบมาตรฐานมาปรับสไตล์ด้วย     แอโรว์บอดี้คิตรุ่นใหม่ล่าสุด แต่ยังคงรูปร่างที่เรียบหรูมีสไตล์ดังเดิมได้ นี่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพแบบแอโรว์ไดนามิคและความมั่นคงในการขับขี่แบบไฮ-สปีดให้มากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้รักการขับขี่แบบสปอร์ต อะไหล่ต่างๆ ประกอบด้วย กระจังหน้าโฉมใหม่อารมณ์สปอร์ตปราดเปรียวทุกมุมมอง สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์หลัง

          รูปลักษณ์ภายในแบบใหม่
          นิสสัน เทียน่า ได้รับการออกแบบมาภายใต้คอนเซปต์ความหรูหราและการผ่อนคลายแบบทันสมัย ชัดเจนด้วยแนวเส้นตัวถังรถที่สง่างามและส่วนโค้งทั่วทั้งคัน เป็นการรวมเอาความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้บุกเบิกแนวคิด "Modern Living" หรือห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ นิสสัน เทียน่า ค่อยๆ พัฒนาปรับปรุง   การออกแบบภายในเพื่อเน้นที่ความผ่อนคลายของผู้โดยสาร
          ภายในห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยอรรถประโยชน์เพื่อการใช้งานได้ตามความต้องการ นิสสัน เทียน่า สปอร์ตซีรีส์ใหม่มาพร้อมกับเบาะนั่งผู้ขับที่มีนวัตกรรมหน่วยความจำ (Memory Seat) ม่านถุงลมนิรภัยใหม่ ซันรูฟและสีภายในสีดำใหม่ ช่วยเน้นย้ำนิยามของความประณีตของรถยนต์ซีดานคันหรู ได้อย่างไม่มีที่ติ
          นิสสันเทียน่า สปอร์ต ซีรีส์ รุ่นใหม่ มีทั้งเครื่องยนต์ขนาด 2.0L และ 2.5L พร้อมระบบนำร่อง (Navigator) และ 2 สีคลาสสิค คือ สีดำและขาวมุกเท่านั้น

          ทีด้า นิสโม (S-tune)
          ภายใต้แนวคิด “ Engineered for Enthusiastic Driving ” ทีด้า นิสโม มีการปรับแต่งด้วยจูนเนอร์ แอโรว์คิท พาร์ท ภายใต้แบรนด์นิสโม ซึ่งเหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับทีด้ารุ่น 1.6G และ 1.8G เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์จากประสบการณ์ด้านการขับขี่จากบริษัทนิสสัน มอเตอร์สปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แห่งประเทศญี่ปุ่น
          - อะไหล่คุณภาพสูงเพื่อช่วยให้นิสสันทีด้า มีรูปลักษณ์แบบสปอร์ตและช่วยตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าสำหรับแอโรว์คิท พาร์ท คุณภาพเยี่ยม
          - แอโรว์คิท พาร์ท 5 อย่าง ประกอบด้วย สเกิร์ตด้านหน้า สเกิร์ตด้านซ้ายและขวา สเกิร์ตด้านหลัง สปอยเลอร์ด้านหลัง สติกเกอร์ NISMO ด้านข้าง และสติกเกอร์ (S-tune)
          - มีจำหน่ายเพียง 200 คันเท่านั้น

          นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น
          นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น มาพร้อมกับคุณลักษณะที่ล้ำหน้า ทำให้นาวาร่า คาลิเบอร์ ออโตเมติก รุ่นใหม่ เป็นรถปิคอัพที่มีความโดดเด่นอย่างแท้จริงด้วยสมรรถนะที่ “เหนือกว่า” ในทุกๆ ด้าน
          -  การผสมผสานของการออกแบบที่พิเศษไม่เหมือนใคร คุณลักษณะเฉพาะที่หลากหลาย พร้อมด้วยคุณค่า ที่โดดเด่น นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น สีขาวมุก มีเพียงจำนวนจำกัดเท่านั้น
          -  นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น มาพร้อมกับโรลบาร์รูปแบบใหม่ไม่เหมือนใคร พื้นปูกระบะท้าย กันชนหน้า และแอลอีดี คิค เพลท

          นาวาร่า คาลิเบอร์ ดีวีดี เวอร์ชั่น
          นาวาร่า คาลิเบอร์ ดีวีดี เวอร์ชั่น มาพร้อมกับเครื่องเล่นดีวีดี แบรนด์เคนวูด เป็นระบบสัมผัสหน้าจอหรือทัชสกรีนที่ทันสมัย
          -  นาวาร่า คาลิเบอร์ ดีวีดี เวอร์ชั่น มาพร้อมกับแอลอีดี คิค เพลท และ กันชนหน้า

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ
          ฝ่ายประชาสัมพันธ์
          บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
          โทร. 02-257-4200 ต่อ 511 – 514
          โทรสาร 02-257-4209
          www.nissanpress .in.th
 
          ราคาและแคมเปญรถยนต์นิสสันสำหรับงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009
          นิสสัน นาวาร่า คาลิเบอร์ ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น ( สีขาวมุก )
          (*ราคาขายนี้ ได้รวมค่าสีขาวมุก 7,000 บาทแล้ว)
          คาลิเบอร์ D/C LE 5AT                                                  801,000 บาท
          คาลิเบอร์ D/C 6MT                                                     727,000 บาท
          คาลิเบอร์ K/C 6MT                                                     651,000 บาท

          นิสสัน นาวาร่า คาลิเบอร์ ดีวีดี เวอร์ชั่น ( เฉพาะรุ่นสีดำและสีขาวมุก )
          (*ราคานี้ยังไม่รวมค่าสีขาวมุก 7,000 บาท)
          คาลิเบอร์ D/C LE 5AT                                                  801,000 บาท
          คาลิเบอร์ D/C 6MT                                                     727,000 บาท
          คาลิเบอร์ K/C 6MT                                                     651,000 บาท

          นิสสัน ทีด้า นิสโม ( สีขาวมุก )
          (*ราคาขายนี้ ได้รวมค่าสีขาวมุก 8,000 บาทแล้ว)
          ทีด้า นิสโม 1.8 G                                                      845,500 บาท
          ทีด้า นิสโม 1.6 G                                                      808,500 บาท

          นิสสัน เทียน่า สปอร์ต ซีรีส์  (เฉพาะรุ่นสีดำและสีขาวมุก)
          (*ราคานี้ยังไม่รวมค่าสีขาวมุก 12,000 บาท)
          เทียน่า 2.0 สปอร์ต ซีรีส์                                               1,326,000 บาท
          เทียน่า 2.5 ซันรูฟ/เนวิเกเตอร์ สปอร์ต ซีรีส์                                1,666,000 บาท
          นิสสันเอ็กซ์เทรลใหม่                                                   1,065,000 บาท         

          ราคาและแคมเปญรถยนต์นิสสันสำหรับงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2009
          นิสสัน นาวาร่า ซิงเกิ้ล แคป
          - ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และประกันภัยซ่อมห้าง
          - พื้นปูกระบะท้าย (Bed liner)

          นิสสัน นาวาร่า คิง แคป และดับเบิ้ล แคป
          - แคมเปญพิเศษให้เลือกระหว่าง
          (1) อัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษ 0.99%* (เงินดาวน์ 20% ผ่อนชำระ 48 เดือน) หรือ
          (2) ผ่อนชำระเริ่มต้นเดือนละ 6,868 บาท* (เงินดาวน์ 25% ด้วยดอกเบี้ย 1.99% เป็นเวลาทั้งสิ้น 72 เดือน)
          - ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง (ประกันภัยซ่อมห้าง)
          * อัตราสำหรับลูกค้าของนิสสัน ลีสซิ่ง ประเทศไทย เท่านั้น

          นิสสัน ฟรอนเทียร์ คอมมอนเรล
          - ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และประกันภัยซ่อมห้าง
          - คูปองน้ำมันมูลค่า 13,000 บาท

          นิสสัน ทีด้า และทีด้า ลาติโอ (ไมเนอร์ เช้นจ์)
          - แคมเปญพิเศษ 1.99%* (เงินดาวน์ 20% ผ่อนชำระ 48 เดือน)
          - ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง (ประกันภัยซ่อมห้าง)
          * อัตราสำหรับลูกค้าของนิสสัน ลีสซิ่ง ประเทศไทย เท่านั้น

          นิสสันเทียน่าใหม่
          - แคมเปญพิเศษ 2.49%* (เงินดาวน์ 20% ผ่อนชำระ 48 เดือน)
          - ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง (ประกันภัยซ่อมห้าง)
          * อัตราสำหรับลูกค้าของนิสสัน ลีสซิ่ง ประเทศไทย เท่านั้น

          161 อาคารนันทวัน ชั้น15 ถนนราชดำริ
          แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
          โทร. +66 (0) 2257 4200 ต่อ. 511-514 
          โทรสาร. +66 (0) 2257 4209
          www.nissanpress.co.th

          บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:50:35 PM
บริติช...ประกาศยกระดับบริการหลังการขาย “ลูกค้าต้องมาที่ 1”
 
         

“บริติช” ประกาศรุกตลาด “แลนด์โรเวอร์” เต็มพิกัด เตรียมขยายโชว์รูม และศูนย์บริการตามหัวเมืองหลักทั่วไทยภายใน ปี 2553 ทุ่มทุนมหาศาล รุกบริการหลังการขายรองรับความต้องการของลูกค้าสูงสุด ฉลองการเป็นตัวแทนจำหน่ายด้วยการมอบข้อเสนอพิเศษสุด ฟรีแลนเดอร์ 2 ด้วยเงินดาวน์ 30% พร้อมดอกเบี้ย 0% นานถึง 4 ปี ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26

          นายทากรรณ์ เอ. ยีลเดียร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริติช มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท ฯ ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แลนด์โรเวอร์ในประเทศไทย ในขณะนี้ ทางบริษัทฯ ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 40 ล้านบาท สำหรับการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งแรก ณ อาคารเคี่ยนหงวน เพื่อรองรับการบริการของลูกค้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในช่วงเริ่มแรก นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังเตรียมแผนที่จะขยายโชว์รูม และศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีกตามหัวเมืองหลักๆ ของประเทศไทย เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน ภายในปี 2553 รองรับกลุ่มลูกค้าในเขตต่างจังหวัด

          สำหรับ ในส่วนงานด้านบริการหลังการขายนั้น ถือเป็นอีกนโยบายหนึ่งที่สำคัญมากที่บริษัทฯ จะมุ่งเน้นพัฒนาอย่างสูงสุด เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยได้ลงทุนในเรื่องของการบริการหลังการขายอย่างเต็มที่ ในส่วนของบุคลากรได้จัดส่งทีมช่างไปฝึกอบรมจากบริษัทแม่ รวมถึงยังมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่คอยควบคุมการให้บริการด้วยเครื่องมืออันทันสมัย

          นอกจากนั้นบริษัท ฯ ยังได้มีการลงทุนในส่วนของสต็อกอะไหล่ โดยเฉพาะอะไหล่หมุนเร็วที่เตรียมพร้อมให้บริการอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องของอะไหล่ที่บางครั้งต้องรอสั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ ทำให้ลูกค้าต้องรอเป็นเวลานาน “รถยนต์แลนด์โรเวอร์” ที่นำเข้ามาจำหน่ายทุกรุ่น รับประกัน 5 ปี หรือ 3 แสนกิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงด้วยการให้บริการโมบายเซอร์วิส แก่ลูกค้าแลนด์โรเวอร์ ในทั่วทุกภูมิภาค เพราะนั่นถือเป็นการบริการถึงกลุ่มลูกค้าในทุกซอกทุกมุมของประเทศ เนื่องจากการเดินทางเราไม่สามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ ว่าจะเกิดสถานะการณ์ใดบ้าง ความมั่นใจในเรื่องของการบริการจึงถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกค้าของแลนด์โรเวอร์ทุกคน”นายทากรรณ์ กล่าว

          นายทากรรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อฉลองการเป็นตัวแทนจำหน่ายใหม่ของแลนด์โรเวอร์ ทางบริษัทฯขอขอบคุณลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ โดยมอบสิทธิพิเศษ LANDROVER CARD เพื่อเป็นการขอบคุณที่ให้ความมั่นใจและเชื่อใจในผลิตภัณฑ์และบริการของแลนด์โรเวอร์เสมอมา บัตรเดียวที่รวบรวมสิทธิประโยชน์และบริการชั้นเลิศทั้งในส่วนของ การท่องเที่ยว กีฬา สันทนาการ ช็อปปิ้ง สปา ร้านอาหาร จนถึงงานศิลปวัฒนธรรมพิเศษๆ ที่จะจัดขึ้น นอกจากนั้นในช่วงงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” แลนด์โรเวอร์ ขอมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าด้วยข้อเสนอพิเศษสุดสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของ ฟรีแลนเดอร์ 2 ด้วย เงื่อนไข เงินดาวน์ 30% พร้อมดอกเบี้ย 0% ผ่อนนานถึง 4 ปี
“แผนรุกตลาดด้านบริการหลังการขาย ของแลนด์โรเวอร์ ถือเป็นความพยายามในการยกระดับแบรนด์ ซึ่งจะทำให้แบรนด์เข้าสู่ผู้บริโภค
ที่เป็นกลุ่มนิชมาร์เก็ตได้ง่ายขึ้น และบริษัทฯ คาดว่ากลยุทธ์ด้านบริการหลังการขายจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อร
ถยนต์กับแลนด์โรเวอร์ โดยคาดว่าในปีแรกของการทำตลาดจะมียอดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 80 คัน” นายทากรรณ์ กล่าวตอนท้าย
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:51:31 PM
7 สุดยอดรถเด่นในงาน "MOTOR EXPO 2009"

          FORD FIESTA
          ฟอร์ด ฟิเอสตา  5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อน ล้อหน้า เป็นรถเล็กยอดนิยมกว่า 30 โดยมียอดขายทั่วโลกมากกว่า 12 ล้านคัน  ส่วนรุ่นปัจจุบันเป็นรถรุ่นที่ 7 เริ่มจำหน่ายในยุโรปเมื่อปีที่ผ่านมา และเป็นรถที่ฟอร์ดเตรียมเปิดตัวในประเทศไทย
 

          P 708         
          พี 708 เป็นการ “รีดีไซจ์น” ใหม่ ของ พี 538 ซูเพอร์คาร์ อิตาลี  ตำนาน ซูเพอร์คาร์ โลก เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ในแบบฉบับปี 2009 โดยแมคเนท ออโตโมทีฟ กรุฟ (MAGNATE AUTOMOTIVE GROUP LIMITED) วางโครงสร้างของรถรุ่นนี้ให้เป็นแบบ โมโนคอค และตัวถัง คาร์บอนไฟเบอร์ เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ 7.0 ลิตร กำลังสูงสุด 505 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 56.3 กก.-ม.



          CHEVROLET CAMARO
          เชฟโรเลต์ คามาโร รถสปอร์ทคูเป สมรรถนะสูง คู่ปรับ ฟอร์ด มัสแตง (FORD MUSTANG) ของค่าย ฟอร์ด มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ 2 ขนาด ทั้งแบบฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 6 สูบ  3.6 ลิตร 304 แรงม้า และเครื่องยนต์ วี 8 สูบ โอเวอร์เฮดวาล์ว 6.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 426 แรงม้า ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ 400 แรงม้า ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
 



          HONDA INSIGHT
          ฮอนดา อินไซจ์ท์ ใช้ระบบไฮบริด IMA หรือ INTEGRATED MOTOR ASSIST เป็นรูปแบบของ MILD HYBRID ซึ่งมีเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.3 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 88 แรงม้า เป็นขุมกำลังหลัก และเสริมแรงขับเคลื่อน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 13.6 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง หรือซีวีที พร้อมเจนเนอเรเตอร์ชาร์จไฟ เมื่อถอนคันเร่ง
 



          HYUNDAI IX-ONIC
          ฮันเด ไอเอกซ์-โอนิค เป็นรถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถกิจกรรมกลางแจ้งอนุกรมใหม่ ซึ่งค่ายนี้จะบรรจุเข้าสู่สายการผลิตแทนที่ ฮันเด ทัคซัน (TUCSON) เอสยูวีขนาดคอมแพค มิติ 4,400/1,850/1,650 มม. มีกระจกบานท้ายซึ่งแปลกไปจากรถประเภทเดียวกันทั่วๆ ไป คือ ทำจากพลาสติคกำลังสูงแทนที่จะเป็นกระจกนิรภัย ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงความจุ 1.6 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 175 แรงม้า นับเป็นรถแนวคิดคันที่ 6 ของทีมงาน HYUNDAI DESIGN CENTER ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองรัสเซลส์ไฮม์ (RUSSELSHEIM) ในเยอรมนี
 

          SUZUKI SWIFT SUPER 1600 JWRC
          สวิฟท์ ซูเพอร์ 1600 เจดับเบิลยูอาร์ซี รถแข่งแรลลีในรุ่นจูเนียร์ดับเบิลยูอาร์ซี ที่ขยายมิติตัวถัง สวิฟท์ ซูเพอร์ รุ่น 3 ประตู ให้กว้างขึ้นเป็น 3,695/1,780/1,500 มม. น้ำหนัก 950 กก. ส่วนเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 1.6 ลิตร ปรับแต่งเพิ่มกำลังจาก 125 แรงม้า มาเป็น 218 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 19.0 กก.-ม.



          TOYOTA PRIUS
          โตโยตา ปรีอุส รถยนต์พันทาง (HYBRID) ล่าสุด ถือเป็นรุ่นที่ 3 ยังคงรูปลักษณ์ทรงลิ่ม ปราดเปรียวในสไตล์แฮทช์แบค 5 ประตู ลู่ลม ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.25 ทันสมัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งภายนอก และภายใน
 

          ขุมกำลังมาจากทั้งเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้า แบบแรกเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลัง 99 แรงม้า แรงบิด 14.5 กก.-ม. ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลัง 80 แรงม้า แรงบิดถึง 21.1 กก.-ม. เมื่อจับคู่ทำงานด้วยกันในระบบขับเคลื่อนพันทาง จะมีพละกำลังอยู่ที่ 134 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.8 วินาที บริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ย 35 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่องควบคุมด้วยอีเลคทรอนิค หรือ ECVT

          ระบบขับเคลื่อนพันทางแบบอนุกรม/คู่ขนาน ที่ความเร็วต่ำ จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นเครื่องยนต์สันดาปภายใน จึงจะเริ่มทำงานตามมา ชาร์จไฟทั้งเวลาที่เครื่องยนต์สันดาปทำงาน และเวลาเบรค มี 3 โหมดขับเคลื่อน ได้แก่ EV-DRIVE ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว ด้วยความเร็วต่ำในระยะทางไม่เกิน 1.5 กม.  POWER คันเร่งจะตอบสนองไวขึ้น เพื่อการขับขี่ที่เน้นความเร็ว  และ ECO เน้นการขับแบบประหยัดให้ได้ระยะการเดินทางมากที่สุด
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 06, 2009, 02:52:05 PM
อีซูซุโชว์ยอดยนตรกรรมแห่งความคุ้มค่า ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26

 

          มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ให้การต้อนรับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยี่ยมชมบูธอีซูซุ ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 โดยได้คัดสรรสุดยอดยนตรกรรมแห่งความคุ้มค่า สุดยอดยนตรกรรมนำทางรวย...อีซูซุดีแมคซ์ และอีซูซุมิว-เซเว่น รุ่น “ซูเปอร์ แพลททินั่ม” ที่มาพร้อมกับระบบเพื่อนนำทางอัจฉริยะ “ไอ-จินนี่” ขานรับกระแสแห่งการฉลองใหญ่ยอดขายประวัติศาสตร์ “อีซูซุ ดีแมคซ์” ครบ 1 ล้านคันในประเทศไทย ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 13, 2009, 03:04:17 PM
ประกาศผล Motor Expo Design Award 2009 สุดยอดโมเดล “ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน”


 
          บุญชัย บุญนพพรกุล คว้ารางวัลชนะเลิศจากการประกวด “The 10th Motor Expo Design Award 2009” ที่จัดขึ้นในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน” โชว์ไอเดียออกแบบยนตรกรรมล้ำหน้า ด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

          นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานกรรมการจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” เปิดเผยว่า โครงการประกวดออกแบบยานยนต์ ครั้งที่ 10 หรือ The 10th Motor Expo Design Award 2009 สื่อสากล ได้ร่วมกับ ภาควิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ภาควิชาศิลปะอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง และภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดขึ้นโดยรับการสนับสนุนจากธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทเน็ควอซ์ก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาด้านการออกแบบยานยนต์ได้แสดงผลงานความคิดสร้างสรรค์ต่อสาธารณชนเป็นประจำทุกปี

          สำหรับการตัดสินผู้ชนะเลิศในปีนี้ ผู้จัดงานได้ใช้คะแนนโหวตของผู้เข้าชมงานตั้งแต่วันที่ 1-6 ธันวาคม 2552 เป็นเกณฑ์การตัดสิน โดยผู้ได้รับรางวัล ได้แก่

          รางวัลที่ 1 นายบุญชัย บุญนพพรกุล ได้รับโล่ห์เกียรติยศ และทุนการศึกษา 40,000 บาท
          รางวัลที่ 2 นายกิตติคุณ ชิตะปัญญา ได้รับโล่ห์เกียรติยศ และทุนการศึกษา 25,000 บาท
          รางวัลที่ 3 นายวรุตม์ ลีละสิริ ได้รับโล่ห์เกียรติยศ และทุนการศึกษา 10,000 บาท
          รางวัลชมเชย 2 รางวัล ได้แก่นายธนารัตน์ เดชอุดมทรัพ และนายชาญวิทย์ สรรพานิช
          ได้รับโล่ห์เกียรติยศ พร้อมทุนการศึกษา 3,000 บาท

          “ในปีนี้นักศึกษาให้ความสนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในรอบแรกเป็นจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมการได้คัดเลือกผลงานที่ดีที่สุด 5 ชิ้น เพื่อมอบทุนสนับสนุนจำนวน 10,000 บาท ให้ไปจัดทำโมเดลขนาด 1:5 มาประกวดในรอบสุดท้าย ที่น่าสนใจคือ คณะกรรมการฯ ได้เห็นการพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น ประกอบกับสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในภาคการผลิตยานยนต์ โดยหุ่นจำลองรวมทั้ง ผลงานออกแบบของผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบแรก ได้นำมาจัดแสดงในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้วย” นายขวัญชัย กล่าว

          นายขวัญชัย เผยต่อไปว่า ในปีหน้านอกจากการประกวดออกแบบยานยนต์แล้ว บริษัท สื่อสากล จำกัด จะร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จัดการประกวดนวัตกรรมยานยนต์ (MOTOR EXPO AUTOMOTIVE INNOVATION AWARD) เพื่อเพิ่มกิจกรรมใหม่ๆ ให้กับงาน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้สถาบันการศึกษาจากทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมกับงานมอเตอร์เอกซ์โป โดยเชื่อมั่นว่าแนวคิดสร้างสรรค์ด้านนวัตกรรมจากนักศึกษาจะเป็นการพื้นฐานพัฒนาวงการยานยนต์ไทยในอนาคต
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 14, 2009, 12:01:47 PM
ยอดจองรถยนต์ใน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” พุ่งทะลุ 25,000 คันเป็นครั้งแรก ค่ายรถเฮ ฉลองใหญ่กลางงาน
 
          นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" เปิดเผยว่า งานปีนี้ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน” โดยได้รับความร่วมมือจากค่ายรถยนต์เข้าร่วมแสดงถึง 32 ยี่ห้อ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มียอดจองรถยนต์ในงานถึง 25,220 คัน สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มจัดงานมา ขณะที่ยอดผู้ชมงานตลอด 12 วันก็ล้นหลามถึง 1.59 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 11.5%

          สาเหตุที่ทำให้งานในปีนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชม และมีบรรยากาศการซื้อขายที่คึกคัก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ค่ายรถก็พยายามสร้างยอดเพื่อปิดตัวเลขขายปลายปี ชดเชยยอดที่หายไปในช่วงต้นปี โดยอาศัยแคมเปญส่งเสริมการขายต่างๆ

          นอกจากนี้ในงานยังได้รับความร่วมมือจากธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์หลายค่าย มอบข้อเสนอดาวน์ต่ำพร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ เริ่มต้นตั้งแต่ 0.99% จนถึงสูงสุดเพียง 1.99% เพราะเป็นช่วงที่ธุรกิจเช่าซื้อก็ต้องการขยายฐานลูกค้าด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

          สำหรับค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุดในงาน ได้แก่ โตโยตา 7,230 คัน, อันดับสอง ได้แก่ ฮอนดา ยอดจอง 4,239 คัน, อันดับสาม ได้แก่ อีซูซุ ยอดจอง 2,539 คัน, อันดับสี่ มาสดา ยอดจอง 2,277 คัน, อันดับห้า มิตซูบิชิ ยอดจอง 1,518 คัน และ อันดับที่หก โปรตอน ยอดจอง 1,388 คัน

          ส่วนของเงินหมุนเวียนภายในงาน ซึ่งรวมทั้งเม็ดเงินที่ผู้บริโภคจองซื้อรถภายในงาน และเงินที่ผู้บริโภคใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์เกี่ยวเนื่องและรถยนต์มือสอง คาดว่าจะอยูในราว 29,000 ล้านบาท เป็นอย่างต่ำ

          ในด้าน เกียรตินาคิน ผู้ให้บริการด้านสินเชื่อภายในงาน ที่มีเจ้าหน้าที่สินเชื่อคอยบริการแนะนำให้คำปรึกษา มอบเงื่อนไขพิเศษให้กับลูกค้า ซึ่งร่วมสนับสนุนงานเป็นที่ 3 สามารถปล่อยสินเชื่อในงานได้ราว 1,500 คัน วงเงิน 1,200 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ถึง 20%
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 29, 2009, 11:00:37 AM
นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธมิตซูบิชิ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป



          มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ ฯพณฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะ ในโอกาสเยี่ยมชมบูธรถยนต์มิตซูบิชิ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ซึ่งจัดขึ้น ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอล์ เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้ โดยในปีนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้นำรถรุ่นต่างๆ ร่วมโชว์อย่างคับคั่ง ทั้ง “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและกำลังได้รับความสนใจจากลูกค้า รวมไปถึง มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และ มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน นอกจากนี้ยังมีการแนะนำ 2 รุ่นพิเศษทั้ง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นพิเศษสีขาวมุก (White Pearl) และ สเปซ แวกอน รุ่นพิเศษ 2-way Navi Edition ติดตั้งระบบนำทาง (Navigator) และระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย (Bluetooth) พร้อมสีพิเศษสีขาวมุก เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าอีกด้วย
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 30, 2009, 09:26:22 AM
 รมต. พลังงาน เยี่ยมชมบูธมิตซูบิชิ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 





          มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ นพ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะ ในโอกาสเยี่ยมชมบูธรถยนต์มิตซูบิชิ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 โดยได้แสดงความชื่นชมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่สนับสนุนนโยบายด้านพลังงานทดแทนของรัฐบาลจากการแนะนำ “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” ซึ่งใช้น้ำมันเบนซินได้หลากหลายตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงแก๊สโซฮอล์ E85 และ “แลนเซอร์ 1.6 ลิตร CNG“ ซึ่งรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 (E20) และแก๊สซีเอ็นจี (CNG) โดยมี ขวัญชัย ปภัสร์พงศ์ ประธานจัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ร่วมเยี่ยมชม ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอล์ เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 30, 2009, 09:28:35 AM
ทาทาปลื้มยอดจองรถในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป

  

         ทาทา มอเตอร์ส เผยความสำเร็จในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26 ด้วยยอดจองกว่า 300 คัน พร้อมการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้เข้าชมงานที่ให้ความสนใจอย่างมากกับรถปิคอัพรุ่นต่างๆของทาทา รวมทั้งนวัตกรรมยานยนต์เพื่อประชาชน “ทาทา นาโน” ที่นำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในเดือนพฤศจิกายน ทาทามียอดจำหน่ายรถยนต์จำนวน 305 คัน โดยยอดจำหน่ายช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2552 มีจำนวน 1,198 คัน เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 400 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปี 2551

          นายอาจิต เวนคาทารามัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โปที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมที่ผ่านมาก็นับเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องอีกครั้งหนึ่งของทาทา มอเตอร์ส ซึ่งแม้จะมีสินค้าหลักเพียงอย่างเดียวคือรถปิคอัพแต่ก็มียอดจองถึง 339 คันในช่วง 12 วันของการจัดงาน“

          ในจำนวนนี้ กว่า 200 คันเป็นการจองรถรุ่นซีนอน ไจแอนท์ ซูเปอร์ ซีเอ็นจี ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในงานนี้ แสดงให้เห็นว่าคนไทยหันมาให้ความสนใจรถยนต์ของทาทามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในส่วนของภาคธุรกิจ และผู้ใช้รถทั่วไป ซึ่งบริษัทฯ เป็นรายแรกในเมืองไทยที่แนะนำรถปิคอัพเครื่องยนต์ซีเอ็นจี 100% แท้ทั้งระบบจากโรงงานผลิต ซึ่งให้ทั้งความทนทาน บำรุงรักษาง่าย และประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริง

          “นอกจากนี้ การจัดแสดงรถรุ่นนาโนก็ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น โดยผู้ชมจำนวนมากได้เข้ามาสอบถามถึงราคาและกำหนดการออกจำหน่ายในประเทศไทย อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้จัดทำแบบสอบถามเกี่ยวกับทัศนคติของผู้เข้าชมงานที่มีต่อทาทา นาโน ซึ่งก็ได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ และแสดงให้เห็นว่าสาธารณชนต่างให้ความสนใจและอยากรู้จักรถรุ่นนี้ให้มากขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯ กำลังพิจารณาเกี่ยวกับการพัฒนาต่อยอดรถรุ่นดังกล่าวในอนาคตต่อไป”
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on December 30, 2009, 09:29:30 AM
เชฟโรเลตกวาดยอดจองทั่วประเทศเฉียด 1,200 คันในช่วงมอเตอร์ เอ็กซ์โป







          แคปติวา เอสยูวี เอนกประสงค์ล้ำสมัย ได้รับความนิยมสูงสุดในงานนี้

          กรุงเทพฯ – ปิดฉากงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ไปอย่างสวยหรู เชฟโรเลต กวาดยอดจองจากทั่วประเทศเฉียด 1,200 คัน นำโดย “เชฟโรเลต   

          แคปติวา” เอสยูวี เอนกประสงค์ล้ำสมัย 350 คัน ขณะที่ “เชฟโรเลต อาวีโอ” รถเล็กดีไซน์บิ๊ก มียอดจอง 314 คัน สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 และ 1.4 ลิตร ขณะที่ทัพยานยนต์ CNG ซึ่งเชฟโรเลตเป็นผู้บุกเบิกตลาด ไม่ว่าจะเป็น ออพตร้า CNG และ ออพตร้า เอสเตท CNG รวมถึง โคโลราโด CNG กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง ยังคงมียอดขายน่าพอใจรวมแล้ว 526 คัน

          บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินแผนการตลาดได้ตามเป้าหมาย เปิดเผยยอดจองรถยนต์ทั่วประเทศในช่วงงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2-13 ธันวาคม ที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากคอรถยนต์ที่มั่นใจในแบรนด์เชฟโรเลต โดยมียอดจองจำนวนทั้งหมด 1,192 คัน จากทั่วประเทศ

          สำหรับยอดจองภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ แบ่งเป็น  “เชฟโรเลต แคปติวา” เอสยูวี เอนกประสงค์ล้ำสมัย  ได้รับความนิยมสูงสุดในงานนี้ โดยมียอดจอง 38 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย เชฟโรเลต ออพตร้า ออพตร้า CNG  ออพตร้า เอสเตท และออพตร้า เอสเตท CNG มียอดจอง 24 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่น้องใหม่ “เชฟโรเลต อาวีโอ” รถเล็กดีไซน์บิ๊ก ซึ่งมาพร้อมขุมพลังใหม่เหนือกว่าด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานนี้ มียอดจอง 12 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร มียอดจอง 14 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทัพยานยนต์ “เชฟโรเลต โคโลราโด” ปิกอัพสายพันธุ์แกร่ง ยังคงมียอดขายที่น่าพอใจ 12 เปอร์เซ็นต์

          มร. อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เชฟโรเลต มีความยินดีกับเสียงตอบรับ และความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้ามาโดยตลอด สำหรับยอดจองของ เชฟโรเลต แคปติวา เอสยูวี และเชฟโรเลต อาวีโอ ขุมพลังใหม่เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของเรา และยังคงมีความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลายกับรถเอสยูวี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แคปติวา เป็นรถเอนกประสงค์ ที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคาแม้จะเปิดตัวไปแล้วสองปีก็ตาม แต่ก็ยังได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง”

          “สำหรับทัพยานยนต์ CNG ซึ่งเชฟโรเลตเป็นผู้บุกเบิกตลาด ก็ยังคงมียอดขายน่าพอใจเช่นกัน ซึ่งรวมแล้วสูงถึง 44 เปอร์เซ็นต์ ปัจจัยหนึ่งน่าจะมาจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงไม่แน่นอน ก็อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผู้คนหันมาใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก เพราะมีราคาสมเหตุสมผลและยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากอีกด้วย” มร.อันโตนิโอ ซาร่า กล่าวเสริม

          สำหรับยอดจองรถจากโชว์รูมของเชฟโรเลตทั่วประเทศ ในช่วงเวลาเดียวกัน  แบ่งเป็น กระบะพันธุ์แกร่ง เชฟโรเลต โคโลราโด  มียอดจอง 41 เปอร์เซ็นต์  เชฟโรเลต อาวีโอ 27 เปอร์เซ็นต์ เชฟโรเลต ออพตร้า ออพตร้า CNG ออพตร้า เอสเตท และเอสเตท CNG คิดเป็น 18 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เชฟโรเลต แคปติวา มียอดจอง 14 เปอร์เซ็นต์

          นอกจากนั้น ภายในวันเปิดงาน ทางเชฟโรเลตได้รับเกียรติจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลต พร้อมถ่ายภาพคู่กับเชฟโรเลต อาวีโอ รุ่น SS ที่มาพร้อมกับชุดแต่งสไตล์สปอร์ต เหนือชั้นกว่าด้วยเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร หลังให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 26 โดยมีนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริษัท สื่อสากล จำกัด ในฐานะประธานผู้จัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป และ มร.สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด ให้การต้อนรับ ณ ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on January 23, 2010, 02:07:57 PM
พริทที “ซันยอง” คว้าแชมป์ Smart Pretty Vote 2009



          พริทที “ซันยอง” คว้าแชมป์ Smart Pretty Vote 2009 จากงาน Motor Expo 2009

          นายอัครเรศ เตชะบูรณะเทพาภรณ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท สื่อสากล จำกัด หัวหน้าโครงการประกวด “Motor Expo Smart Pretty Vote 2009” เปิดเผยว่า กิจกรรมประกวดดังกล่าวจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากค่ายรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อ ส่งพริททีมาประชันโฉม เพื่อเรียกคะแนนนิยมจากผู้ชมงานที่มีจำนวนเกือบ 1.6 ล้านคน ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชมงานที่ร่วมกิจกรรมยังมีสิทธิ์ลุ้น “โหวทพริททีชิงทอง” โดยจะมีการประกาศรายชื่อผู้โชคดีรับปีใหม่ในเดือนมกราคมนี้

          “พริททีที่เข้าประกวด “Motor Expo Smart Pretty Vote 2009” มาจากการคัดเลือกของบริษัทรถยนต์ที่ร่วมแสดงในงานค่ายละ 1 คน โดยเป็นพริททีที่ปฏิบัติหน้าที่จริงระหว่างงานไม่ต่ำกว่า 12 วัน ซึ่งของรางวัลในปีนี้ จะตัดสินจากคูปองโหวทที่ได้จากการซื้อ และแลกบัตรเข้าชมงาน ของผู้เข้าชมงาน ตั้งแต่ วันที่ 1 -13 ธันวาคม 2552” นายอัครเรศ กล่าว

          สำหรับพริททีสาวสวยที่ได้รับคะแนนโหวทสูงที่สุด อันดับที่ 1 เป็นของนางสาวศิริพร สุภาศิริ (โนต) จากบริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด (คะแนนโหวท 16.3%) ได้รับรางวัลทองคำหนัก 5 บาท อันดับ 2 นางสาวเอกนรี ศรีแก้วทุม (เล็ก) พริททีจากบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (คะแนนโหวท 10.9%) รับรางวัลทองคำหนัก 2 บาท และอันดับที่ 3 นางสาวทิพากร ศักดิ์ถนอมศรี (ต้นอ้อ) จากบริษัท รามคำแหงกรุ๊ป จำกัด หรือ BRG (คะแนนโหวท 7.9%) รับรางวัลทองคำหนัก 1 บาท
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on January 23, 2010, 02:10:35 PM
MOTOR EXPO 2010 หนุนผู้ผลิต รัฐ และผู้บริโภค ร่วมแนวคิด “น้ำหนึ่งใจเดียว...สร้างสรรค์ยานยนต์รักโลก”
 
          เผยแนวคิดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" ผนึกกำลังสามฝ่ายในอุตสาหกรรม
          ยานยนต์สยบปัญหาสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนทัศนคติผู้บริโภคเลือกใช้ยานยนต์รักโลก
         
          นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานคณะกรรมการจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" หรือ The 27th Thailand International Motor Expo 2010 เปิดเผยว่า“ ใน  อุตสาหกรรมยานยนต์มีผู้เกี่ยวข้องสำคัญ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ผู้ผลิต รัฐ และผู้บริโภค ที่ผ่านมาผู้ผลิต    รถยนต์ล้วนพัฒนาและออกแบบรถรุ่นใหม่ๆ ซึ่งมุ่งสนองต่อความต้องการที่หลากหลายและไม่สิ้นสุดของ   ผู้บริโภคด้วยการพยายามเอาชนะกันด้านความเร็วกว่า แรงกว่า และความหรูหราสะดวกสบายเป็นหลัก” 
         
          สิ่งที่ได้ปรากฏตามมาจากพฤติกรรมการบริโภคเหล่านี้ คือ ผลกระทบต่อโลก อาทิ เกิดภาวะโลกร้อน ภัยธรรมชาติ และความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศในหลายประเทศทั่วโลก นับเป็นสัญญาณเตือนว่า ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์ต้องหยุดทำร้ายโลก

          นายขวัญชัย กล่าวอีกว่า “หนทางสู่ความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างแท้จริง แบ่งเป็น 3 ปัจจัยหลัก เริ่มจากผู้บริโภคที่ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติโดยเลือกใช้เฉพาะยานยนต์ที่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพสูง แต่ประหยัดเชื้อเพลิง ปล่อยมลพิษต่ำ และไม่สิ้นเปลืองทรัพยากร ด้านผู้ผลิตจะต้องเร่งสร้างสรรค์ “ยานยนต์รักโลก” ออกมาทดแทนยานยนต์รุ่นเก่า ให้เท่าทันกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค”

          “ปัจจัยสุดท้าย คือ ภาครัฐ ซึ่งควรเข้ามามีบทบาทสำคัญด้านการส่งเสริมการผลิตยานยนต์รักโลก อาทิ การให้สิทธิประโยชน์การลงทุน การกำหนดอัตราโครงสร้างภาษีที่เหมาะสม และเงื่อนไขการผลิตที่เป็นไปได้ สนับสนุนทางด้านการเงินแก่ผู้ใช้ยานยนต์มลพิษต่ำ พร้อมทั้งแสวงหาตลาดใหม่ ๆ ให้ผู้ผลิต เป็นต้น”

          “สื่อสากลในฐานะของสื่อกลางของทั้ง 3 ฝ่ายทั้งผู้ผลิต ภาครัฐ และผู้บริโภคปรารถนาที่จะเห็นความร่วมมือรักษาสภาพแวดล้อมให้คงอยู่ตลอดไป ด้วยเหตุนี้จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” ให้เป็นเวทีใหญ่ในการแสดงออกถึงพลังจากทุกฝ่ายภายใต้แนวคิด “น้ำหนึ่งใจเดียว...สร้างสรรค์ยานยนต์รักโลก” (UNIFY…CREATE EARTH-LOVING VEHICLES)

          นอกจากนี้ บริษัท สื่อสากล จำกัด ยังได้จัดให้มีพิธีมอบรางวัลเกียรติยศให้แก่บริษัทรถยนต์ที่ร่วมแสดงในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" ด้วย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
          1. บริษัทที่ออกแบบและตกแต่งบูธได้งดงามที่สุดในงาน  ได้แก่ 
              บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
              ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ MINI
              โดยมี Desire Design Co., Ltd. เป็นผู้ออกแบบ และตกแต่งบูธ
          2. รถยนต์ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับคำขวัญประจำงาน “ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน” ที่สุด ได้แก่
              บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
              ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ ยี่ห้อ TATA รุ่น NANO
          3. บริษัทที่สามารถนำคำขวัญ “ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน” มาแสดงออกเป็นรูปธรรมได้ดีที่สุด
              ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
              ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ ยี่ห้อ BMW
              โดยมีบริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด เป็นผู้ออกแบบ และตกแต่งบูธ
          4. บริษัทที่สามารถควบคุมการใช้เสียงในบูธได้ตามมาตรฐานของงานมากที่สุด ได้แก่
              บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
               ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ HONDA
               โดยมี บริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด เป็นผู้ออกแบบระบบเสียง
          5. บริษัทที่นำรถต้นแบบมาแสดงในงาน ได้แก่
             บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด    บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด
          สำหรับรางวัล “MOTOR EXPO SMART PRETTY VOTE 2009” ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากผู้ชมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” มี 3 ท่าน
          รางวัลชนะเลิศ  ได้แก่ นางสาวศิริพร สุภาศิริ (โนต) พริททีจากบริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด
          อันดับที่ 2 ได้แก่ นางสาวเอกนรี ศรีแก้วทุม (เล็ก) พริททีจากบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด อันดับที่ 3 ได้แก่ นางสาวทิพากร ศักดิ์ถนอมศรี (ต้นอ้อ) จากบริษัท รามคำแหงกรุ๊ป จำกัด หรือ BRG
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on January 23, 2010, 02:11:06 PM
ข้อมูลที่น่าสนใจจากงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26"
 
          งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26"  ซึ่งจัดโดย บริษัท สื่อสากล จำกัด  ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี  ระหว่างวันที่  2 - 13 ธันวาคม 2552  นั้น  นับว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูง  โดยมีสถิติที่น่าสนใจต่อไปนี้เป็นเครื่องยืนยัน
          1.          ยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทรถยนต์ที่เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 32 ยี่ห้อ 25,220 คัน สูงกว่าตัวเลขที่ตั้งเป้าไว้ที่ 15,000 คัน อยู่ 10,220 คัน หรือ 68.1% เพิ่มขึ้นจากงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 25" ซึ่งมียอดจำหน่าย 14,690 คัน อยู่ 10,530 คัน หรือ 71.7% และจากการสำรวจพบว่า ราคาเฉลี่ยของรถที่จำหน่ายในงานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยคันละ 942,544 บาท จากเมื่อปีก่อน ที่มีราคาเฉลี่ยคันละ 890,000 บาท ทำให้ยอดเงินสะพัดจากการจำหน่ายรถใหม่ในงานเพิ่มขึ้นกว่าที่ประมาณการเดิมประมาณ 10,000 ล้าน เป็นประมาณ 25,000 ล้านบาท

          2.           รถขายดีที่สุดในงาน 10 อันดับแรก ได้แก่
          2.1           โตโยตา         7,230           คัน
          2.2           ฮอนดา          4,239           คัน
          2.3           อีซูซุ            2,539           คัน
          2.4           มาซดา          2,277           คัน
          2.5           มิตซูบิชิ          1,518           คัน
          2.6           ปโรตอน         1,388           คัน
          2.7           นิสสัน           1,209           คัน
          2.8           เชฟโรเลต         766           คัน
          2.9           ฮุนได             459           คัน  และ
          2.10          บีเอมดับเบิลยู       415           คัน

          3.  จำนวนผู้เข้าชมงาน  1,594,369 คน  เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา  4.9%  (ผู้เข้าชมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 25"  จำนวน  1,519,179 คน)
          4.  ยอดเงินสะพัดภายในงานทั้งสิ้น (รวมรถใหม่ รถมือสอง รถเพื่อการพานิชย์ อุปกรณ์รถยนต์ เครื่องเสียงติดรถยนต์ ฯลฯ) ประมาณ  29,000  ล้านบาท
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on January 23, 2010, 02:11:36 PM
รายชื่อบริษัทที่ได้รับรางวัล จากงานมหกรรมยานยนต์
 
          1. พิธีมอบรางวัล บริษัทที่ออกแบบและตกแต่งบูธได้งดงามที่สุดในงาน 

          โล่เกียรติยศ  และเชคส่วนลดในการจองพื้นที่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27”  มูลค่า 100,000 บาท แด่
          บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
          ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ MINI
 
          โล่เกียรติยศแด่
          Desire Design Co., Ltd.
          ผู้ออกแบบ และตกแต่งบูธของ
          บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
          ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ MINI
          ที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้เข้าชมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26"
          ให้เป็นบูธที่งดงามที่สุด

 
          2.  พิธีมอบรางวัล รถยนต์ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องที่สุดกับคำขวัญประจำงาน “ขับเคลื่อน...สู่ความ
          ยั่งยืน”

          โล่เกียรติยศ และเชคส่วนลดในการจองพื้นที่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27”  มูลค่า 200,000 บาท แด่
          บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดผู้แทนจำหน่ายรถยนต์
          ยี่ห้อ TATA   รุ่น NANO
 
          3. พิธีมอบรางวัล บริษัทที่สามารถนำคำขวัญ “ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน” มาแสดงออกเป็น
          รูปธรรมได้ดีที่สุด

          โล่เกียรติยศ และเชคส่วนลดในการจองพื้นที่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27”  มูลค่า 300,000 บาท
          แด่
          บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
          ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์
          ยี่ห้อ BMW

          และ

          โล่เกียรติยศแด่
          บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด
          ผู้ออกแบบและตกแต่งบูธของ
          บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
          ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ BMW
          ที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้เข้าชมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26"
          ให้เป็นบูธที่สามารถนำคำขวัญ "ขับเคลื่อน...สู่ความยั่งยืน"
          มาแสดงออกเป็นรูปธรรมได้ดีที่สุด

          4. พิธีมอบรางวัล บริษัทที่สามารถควบคุมการใช้เสียงในบูธได้ตามมาตรฐานของงานมากที่สุด

          โล่เกียรติยศแด่
          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
          ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ HONDA
          ที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นบริษัทที่สามารถควบคุมการใช้เสียงในบูธได้ตามมาตรฐานของงาน
          "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มากที่สุด

          และ

          โล่เกียรติยศแด่
          บริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด
          ผู้ออกแบบระบบเสียงของ
          บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
          ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ HONDA
          ที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นบริษัทที่สามารถควบคุมการใช้เสียงในบูธได้ตามมาตรฐานของงาน
          "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มากที่สุด

 
          5.  พิธีมอบรางวัล บริษัทที่นำรถต้นแบบมาแสดงในงาน 

          โดยมอบโล่เกียรติยศ  แด่
          บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ HYUNDAI
          ที่มีส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานงานแสดงยานยนต์ในประเทศไทย
          ด้วยการนำรถยนต์ต้นแบบรุ่น  IX-ONIC  มาแสดงในงาน
          “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26”

          โดยมอบโล่เกียรติยศ  แด่
          บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ SSANGYONG
          ที่มีส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานงานแสดงยานยนต์ในประเทศไทย
          ด้วยการนำรถยนต์ต้นแบบรุ่น C200 มาแสดงในงาน
          “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26”
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on January 23, 2010, 02:13:11 PM
โครงการ "ลมหายใจไร้มลทิน" ประกาศผลยอดเยาวชน ชนะการประกวดภายใต้แนวคิด “จะคิด ทำ สอน อย่างไร เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต"
 


          โครงการ "ลมหายใจไร้มลทิน" ประกาศผลยอดเยาวชน ชนะการประกวดภายใต้แนวคิด “จะคิด ทำ สอน อย่างไร เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต รับทุนการศึกษามูลค่ากว่าสามแสนบาท

          โครงการ “ลมหายใจไร้มลทิน” กิจกรรมเพื่อสังคมของงานมอเตอร์ เอกซ์โป ก้าวสู่ปีที่ 4 ของการปลูกฝังเด็กไทยให้ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต จัดพิธีประกาศผลและมอบรางวัลแก่เยาวชนผู้ชนะการประกวด ประจำปี 2552 ใน 5 ประเภทรางวัล ได้แก่ การเขียนเรียงความ การร้องเพลง การคัดลายมือ วาดภาพศิลปะ และกิจกรรมรณรงค์ความซื่อสัตย์ ภายใต้แนวคิด “จะคิด ทำ สอน อย่างไร เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต”

          นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และ ประธานคณะกรรมการจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” และรองประธานกรรมการโครงการ “ลมหายใจไร้มลทิน” เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีแทนเยาวชนที่ได้รับรางวัลทุนการศึกษาจากการประกวดภายใต้โครงการลมหายใจไร้มลทิน ซึ่งจัดขึ้นครบปีที่ 3 เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการหล่อหลอมให้เยาวชนตระหนักถึงการประพฤติตนบนความซื่อสัตย์สุจริต พร้อมส่งเสริมให้เยาวชนแสดงความสามารถอย่างสร้างสรรค์

          สำหรับการจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” ที่ผ่านมา บริษัทได้นำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมงานในวันแรก (2 ธันวาคม 2552) ซึ่งจัดให้เป็น “วันมหากุศล” รวมมูลค่า 800,000 บาท เพื่อสมทบทุนโครงการ“ลมหายใจไร้มลทิน” ให้สามารถดำเนินโครงการฯ ต่อเนื่องสู่ปีที่ 4

          “ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องที่ต้องบ่มเพาะในระยะยาวจึงจะเห็นผล ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สู่โรงเรียนระดับประถมศึกษา ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยได้รับความร่วมมือจากคณาจารย์เป็นอย่างดี อาทิ การจัดนิทรรศการในโรงเรียน การทำสมุดบัญชีความซื่อสัตย์สุจริต การแสดงจินตลีลาประกอบเพลงลมหายใจฯ เป็นต้น ทำให้ในปีนี้วางแผนที่จะขยายผลสู่ระดับมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างจังหวัด” นายขวัญชัย กล่าว

          ด้านนางสาวชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการโครงการลมหายใจไร้มลทิน กล่าวว่า โครงการลมหายใจไร้มลทินได้จัดต่อเนื่องมาครบปีที่ 3 แล้ว และในปี 2553 จะก้าวสู่ปีที่ 4 ของการส่งเสริมความซื่อสัตย์สุจริตให้เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งการประกาศผลครั้งนี้ ถือว่าน้องๆ ล้วนมีความสามารถที่ผ่านการคัดเลือกจากผลงานเข้าประกวดประเภทรางวัลต่างๆ หลายร้อยชิ้น

          “ปีนี้ทีมงานได้จัดกิจกรรมเคลื่อนที่สู่โรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานครประมาณ 20 เครือข่าย กว่า 100 โรงเรียน เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการให้กับเยาวชนรวมกว่า 3,000 คน นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ โดยสิ่งที่สะท้อนกลับมา คือ ผลงานที่น้องๆ ส่งเข้าประกวดสื่อความหมายความซื่อสัตย์สุจริตที่ชัดเจนขึ้น และเป็นรูปธรรมสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน แสดงถึงความเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของโครงการ นอกจากนี้ผู้ชนะการประกวด 2 ปีก่อนยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะ “พี่ลี้ยง” ที่เข้ามาทำกิจกรรมร่วมกับน้องรุ่นหลังที่ร่วมกิจกรรมส่งผลให้โครงการสามารถขยายเครือข่ายได้กว้างขวางขึ้น” นางสาวชไมพร กล่าว

          ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ให้โรงเรียนทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนเด็กๆ เข้าประกวด โครงการลมหายใจ   ไร้มลทินปีที่ 4 ที่จะเปิดรับสมัครเร็วๆนี้ หากสนใจรายละเอียดโครงการ ซีดีเพลงที่ใช้ขับร้องในการประกวด สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์มาที่ www.lomhaijai.org, www.opp.go.th, www.oppy.opp.go.th และhttp://lomhaijaimotorexpo.hi5.com หรือ โทร. 0-2641-8444 ต่อ 215
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on January 23, 2010, 02:14:12 PM
ทาทา รับมอบรางวัลเกียรติยศ “ขับเคลื่อน…สู่ความยั่งยืน”

 

          สมพงษ์ ผลจิตจรูญ (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป-การตลาด บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด รับมอบรางวัลเกียรติยศ จาก ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท สื่อสากล จำกัด ในโอกาสที่ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส ได้นำรถยนต์ ทาทา รุ่น นาโน มาจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากผู้เข้าชม ให้เป็นรถยนต์ที่สอดคล้องกับคำขวัญ “ขับเคลื่อน…สู่ความยั่งยืน” ที่สุด ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on January 25, 2010, 03:57:02 PM
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” แจกรางวัล 3 สาวสวย เจ้าของแชมป์ “Motor Expo Smart Pretty Vote 2009”



 
          นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ (คนที่ 2 จากซ้าย) ผอ.กองสารสนเทศ บริษัท สื่อสากล จำกัดมอบรางวัลให้แก่พริททีสาวสวยที่ได้รับคะแนนโหวทสูงสุดจากงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 หรือ “The 26th Thailand International Motor Expo 2009” โดยรางวัลที่ 1 ได้แก่ นางสาวศิริพร สุภาศิริ (โนต) จากบริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด (คะแนนโหวท 16.3%) ได้รับรางวัลทองคำหนัก 5 บาท รางวัลที่ 2 ได้แก่ นางสาวเอกนรี ศรีแก้วทุม (เล็ก) พริททีจากบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (คะแนนโหวท 10.9%) รับรางวัลทองคำหนัก 2 บาท และรางวัลที่ 3 นางสาวทิพากร ศักดิ์ถนอมศรี จากบริษัท รามคำแหงกรุ๊ป จำกัด หรือ BRG (คะแนนโหวท 7.9%) รับรางวัลทองคำหนัก 1 บาท
Title: Re: "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" มั่นใจดึงผู้ชมงานแน่น 1.6 ล้านคน
Post by: sianbun on March 05, 2010, 11:31:06 AM
Motor Expo 2009 แจกจริงรถ 3 คัน มูลค่ากว่า 2.4 ล้านบาท!



          นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ (ที่ 7 จากขวา) ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด มอบรางวัลรถยนต์ 3 คัน ให้แก่ผู้โชคดีจากงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26” หรือ “The 26th Thailand International Motor Expo 2009” โดยผู้โชคดี รายการ "ซื้อรถ ชิงรถ" รับรถยนต์ Hyundai Sonata 2.0 SP มูลค่า 1,095,000 บาท ได้แก่ คุณรังสิมา วารีสุข ผู้โชคดี รายการ "ซื้อบัตร ชิงรถ" รับรถตู้ Polarsun Business LH (FULL OPTION) มูลค่า 699,000 บาท ได้แก่ คุณนพมาศ ต่วนใจ และผู้โชคดี รายการ “SMS ชิงรถ" รับรถยนต์ Mazda 2 มูลค่า 640,000 บาท ได้แก่ คุณกำพล กำมหาวงษ์ รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 2,434,000 บาท

Motor Expo 2009 Thumping Giveaway of 3 Cars Worth Over 2.4 Million Baht!
 
          From the picture, Mr. Kwanchai Paphatphong (7th from right), President and CEO of Inter-Media Consultant Co., Ltd., gave away 3 cars to the lucky winners from “THE 26th THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2009”. The enviable winner of “Buy a Car Win a Car” was Khun Rangsima Vareesuk who collected a Hyundai Sonata 2.0 SP worth 1,095,000 Baht. The lucky winner of “Buy a Ticket Win a Car” who took delivery of a Polarsun Business LH (Full Options) was Khun Nopamas Tuenjai. And the happy winner of “SMS to Win a Car” receiving a Mazda 2 priced at 640,000 Baht was Khun Kamphol Kammahawongs. Values of the 3 prizes added up to 2,434,000 Baht.