Recent Posts

Pages: [1] 2 3 ... 10
1
บมจ. เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป
ร่วมกับ สภากาชาดไทย ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิต


              บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สภากาชาดไทย ขอเชิญทุกท่านร่วมทำความดี บริจาคโลหิต ในโครงการ “เดอะ แพลทินัม ให้โลหิต ให้ชีวิต ให้ประจำ” ให้กับสภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศที่รอคอยโลหิตในการผ่าตัดและรักษาโรคภัยไข้เจ็บซึ่งเกิดจากกรณีต่างๆ โดยสามารถร่วมบริจาคโลหิตได้ในวันที่ 5 กันยายน 2567 เวลา 09.00 – 14.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 ด้านหน้าอาคาร ศูนย์การค้า แพลทินัม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.0-2121-8000

2
สบพ.จัดการประชุมวิชาการด้านการบินระดับชาติ ครั้งที่ 4 (4th Aviation National Symposium)




             นางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน เป็นประธานเปิดโครงการงานประชุมวิชาการด้านการบินระดับชาติ ครั้งที่ 4 (4th Aviation National Symposium) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สบพ.  เพื่อนำเสนอผลงานวิชาการผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับด้านอุตสาหกรรมการบิน โดยมีนักวิชาการ/นักวิจัย ส่งผลงานเข้าร่วม จำนวน 10 ผลงาน และมีหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดงาน จำนวน 9 หน่วยงาน ในวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ณ อาคารศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบิน สบพ. กรุงเทพฯ


             นางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย กล่าวว่า สถาบันการบินพลเรือน ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นสถาบันผลิตบุคลากรทางด้านวิชาชีพการบินแห่งแรกของประเทศไทย ดังวิสัยทัศน์ที่ว่า“เป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศในวิชาชีพด้านการบินโดยมีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินของชาติและภูมิภาคอาเซียน” ทั้งนี้ สบพ. ได้ตระหนักถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลกในมิติต่างๆ  (Mega Trend) ที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการบิน อาทิ ด้านการเมือง (Political) ด้านเศรษฐกิจ (Economic) ด้านสังคมและวัฒนธรรม (Social & Culture) ด้านเทคโนโลยี (Technological) ด้านกฎหมายและนโยบาย (Legal & Policy) และด้านสิ่งแวดล้อม (Ecological) ซึ่งการวิจัยเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำหลักวิชาการมาใช้ในกระบวนการหาความรู้ หรือความจริงใหม่ที่มีระบบแบบแผนและเชื่อถือได้ ซึ่งคุณค่าที่ได้จากกระบวนการวิจัยนี้มีประโยชน์มากมาย ทั้งค้นพบวิทยาการใหม่ ๆ เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ทั้งทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติ รวมทั้งนำมาแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง


             สบพ. ได้เห็นถึงประโยชน์จากการวิจัย จึงได้ดำเนินกิจกรรมโครงการประชุมวิชาการอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานวิจัยด้านการบินและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้ รวมทั้งผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้นำเสนอผลงานทางวิชาการสู่สาธารณชน และสร้างความร่วมมือทางด้านการวิจัยระหว่างมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและเอกชน อันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการใหม่ อันเป็นเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม และส่งเสริมให้ธุรกิจด้านการบินของประเทศมีความเข้มแข็ง และมีการพัฒนาต่อเนื่องอย่างยั่งยืน




             สำหรับกิจกรรมในวันนี้มีผู้สนใจในการส่งผลงานวิชาการและงานวิจัย จำนวน 10 ผลงาน ประกอบด้วย การนำเสนอในห้อง จำนวน 5 ผลงาน และการนำเสนอด้วยโปสเตอร์ จำนวน 5 ผลงาน ทั้งนี้ ผลงานดังกล่าว อยู่ในสาขาวิชาที่ทางคณะทำงานได้กำหนดไว้ทั้ง 8 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านธุรกิจการบิน (2) ด้านการท่องเที่ยว (3) ด้านการศึกษา กระบวนการจัดการเรียนรู้(4) ด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี (5) ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (6) ด้านวิศวกรรมการบิน (7) ด้านโลจิสติกส์การบิน การเรียนการสอน และ (8) ด้านอื่นๆ นอกจากนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กรมท่าอากาศยาน สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)




             สบพ. เป็นหน่วยงานที่ผลิตบุคลากรด้านการบินมาตลอดระยะ 64 ปี และเป็นหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานด้านการบินในการผลิตหลักสูตรตามมาตรฐานที่กำหนด อาทิ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ในโครงการ ICAO TRAINAIR PLUS ระดับ Platinum ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ประเทศในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค รวมทั้งได้รับการรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ด้านสถาบันการฝึกอบรมด้านการบิน (Approved Training Organization) และได้รับความเห็นชอบหลักสูตรระดับอุดมศึกษา จากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ทั้งนี้ สบพ. ยังคงทำหน้าที่ในการผลิตหลักสูตรใหม่ ๆ รวมทั้งผลิตบุคลากรด้านการบินให้ได้มาตรฐาน ให้มีความพร้อมในการทำงานตามที่สถานประกอบการต้องการ และเป็นศูนย์กลางงานวิชาการด้านการบินของประเทศ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป





3
บุญถาวรรัชดา ฉลอง 40 ปีแห่งความสำเร็จ ชวนอัปเดตเทรนด์บ้านใหม่ พร้อมช้อปสินค้าคุณภาพดีจากทั่วโลก!


บุญถาวร รัชดา รีโนเวทใหม่ ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ปักหมุดแหล่งรวมสินค้า อุปกรณ์แต่งบ้าน ที่ครบครัน ทันสมัย ใหญ่ที่สุดในย่านรัชดา เพิ่มโซนใหม่  รวบรวมสินค้านวัตกรรมเพื่อบ้านจากทุกมุมโลกมาให้ช้อปง่ายในที่เดียว พร้อมฉลองครบรอบ 40 ปี  ส่วนลดพิเศษสูงสุดกว่า 90% กับ 40 แบรนด์ดัง

บุญถาวร ตอกย้ำความเป็นผู้นำวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้าน ที่ครองใจลูกค้าโซนรัชดาและใกล้เคียงมากว่า 40 ปี เนรมิตพื้นที่โชว์รูมทั้งหมดกว่า 12,700 ตร. ม. แปลงโฉมเป็นศูนย์รวมสินค้าเพื่อบ้าน อุปกรณ์แต่งบ้าน ที่ครบครัน ทันสมัย และตอบโจทย์ในทุกมิติความต้องการเพื่อบ้าน มอบประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม เสริมด้วยสินค้านวัตกรรมเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น อาทิ โซนกระเบื้องที่ใหญ่ที่สุด พร้อมแบรนด์ชั้นนำกว่า 16 แบรนด์ โซนห้องน้ำที่ตอบโจทย์ด้วยแบรนด์สุขภัณฑ์ชั้นนำ ปักหมุดแหล่งรวมชุดสุขภัณฑ์อัตโนมัติมากที่สุด  หลากหลายที่สุด และสินค้าสุขภัณฑ์อัจฉริยะ โซนห้องครัวที่เต็มไปด้วยห้องตัวอย่างหลากหลายสไตล์ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ภายในบ้าน ไฟส่องสว่าง และเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง ครอบคลุมสินค้าทั้งแบรนด์ไทย และนำเข้าจากหลากหลายประเทศทั่วโลก

โซนกระเบื้อง (Tile Gallery) ศูนย์รวมกระเบื้องแบรนด์ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ Porcelanosa แบรนด์กระเบื้องสเปนคุณภาพอันดับ1 ของโลก ด้วยสไตล์ Comtemporary เรียบหรู ที่เป็นเอกลักษณ์ และคุณภาพของกระเบื้องที่ผลิตจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด เช่น กระเบื้องผนัง ขนาด 60150 cm ที่มีลวดลายทำให้ Porcelanosa เป็นที่ยอมรับในแวดวงนักออกแบบระดับโลก หรือ แบรนด์ B-Italia กระเบื้องเทรนใหม่ล่าสุด จากอิตาลี โดดเด่นด้วยดีไซน์ เน้นการตกแต่ง และสนุกกับการ Mix and Match ได้หลากหลายแนว หรือ โซนกระเบื้อง Big Format ที่รวบรวมกระเบื้อง แผ่นใหญ่ เยอะที่สุด รวมถึงสต้อคพร้อมส่ง ตั้งแต่ 80160 ไปจนถึง 160*320 ซึ่งสามารถทำได้หลากหลาย application ไม่ว่าจะเป็น Counter Top ครัว, กรุหน้าบานเฟอร์นิเจอร์ หรือบุผนังปูพื้น ตกแต่งเพื่อสร้างความหรูหรา ไร้รอยต่อ ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับ lifestyle คนรุ่นใหม่ และ แบรนด์ที่กำลังเป็นกระแสและมีคนกล่าวถึงมากที่สุด อย่าง แบรนด์ Gelato ก็มาพร้อม New Collection ที่สร้างความฮือฮา ในเรื่อง สีสันสดใส shape ที่หลากหลาย ในงานสถาปนิกมาแล้ว ทั้ง Macaron Collection, Havana, Clay และ Memphis เชิญสัมผัสโลกแห่งกระเบื้องจากทั่วทุกมุมโลก ที่ตอบโจทย์ในทุกสไตล์ที่เป็นคุณได้ ที่ บุญถาวร ดีไซน์ วิลเลจ รัชดา



พิเศษกับโซนใหม่! โซน Surface&Covering พื้นที่แสดงสินค้ากลุ่มใหม่ของบุญถาวร โซนนี้เป็นการนำเสนอวัสดุปิดผิวและตกแต่ง ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและแรงบันดาลใจในการออกแบบ ประกอบไปด้วย MCM  หรือ Modified Clay Materials นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน มีคุณสมบัติบางเบา ติดตั้งง่าย ตกแต่งได้อย่างอิสระ มาตรฐานการลามไฟ ระดับ Class A ปราศจากสารระเหย ที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ (TVOC) ช่วยลดอุณหภูมิ ระบาย ถ่ายเทอากาศได้ดี ตกแต่งได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร และยังมี Co-extrusion board  ติดตั้งง่าย จบงานไว ประหยัดจริง วัสดุปิดผิวตกแต่งที่ผลิตโดยการอัดรีดหลายชั้น ( Co-extrusion board ) ซึ่งทำให้วัสดุนี้มีคุณสมบัติหลายประการรวมกันในแผ่นเดียว ดีไซน์ลวดลาย สวยงามและหลากหลาย ติดตั้งง่ายและจบงานไว กันปลวก กันน้ำทนความชื้น ไม่ลามไฟ ปลอดภัย ไร้สารพิษ ไร้กลิ่น ทำความสะอาดง่าย สามารถเยี่ยมชมพื้นที่โชว์สินค้า ค้นพบไอเดียในการตกแต่งบ้าน ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพและการออกแบบที่ตอบสนองทุกความต้องการของคุณ ด้วยแบรนด์ TEXTURE

โซนห้องน้ำ และสุขภัณฑ์ (Bath and Bath)  ศูนย์รวมสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก อาทิ แบรนด์ cotto American Standard kohler Hafele และ grohe  บุญถาวรจัดเต็มมอบประสบการณ์ใหม่ในการเลือกซื้อสินค้ากับโซนห้องน้ำที่ปรับใหม่ทั้งโซน จัดมาให้ครบทุกความต้องการ ฟังก์ชั่นการทำงานหลากหลายสไตล์ มาตรฐานระดับโลกพร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยสุขภัณฑ์นวัตกรรมสุดล้ำจากหลายแบรนด์ชั้นนำ ปักหมุดแหล่งรวมชุดสุขภัณฑ์อัตโนมัติมากที่สุด  หลากหลายที่สุด คุ้มค่า คุ้มราคา รวมถึงสุขภัณฑ์เทคโนโลยีสุดล้ำอย่างแบรนด์ Bath & Bath สุขภัณฑ์อัจฉริยะ E-va 5 Series ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ จัดเต็มทุกฟังก์ชั่น นอกจากนี้ยังมีการเปิดช้อป Hansgrohe ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสุขภัณฑ์สัญชาติเยอรมัน อุปกรณ์ห้องน้ำระดับพรีเมียม สร้างประสบการณ์การอาบน้ำหรูหรา เหนือระดับ รวมไปถึงการบริการให้คำปรึกษา แนะนำการออกแบบ โดยทีม ROOM STYLIST จาก EVERYROOM โดยสาขารัชดาตอบโจทย์ห้องน้ำที่ลูกค้าใช้จริง ในรูปแบบไร้การสัมผัส โดยลูกค้าสามารถลองสัมผัสกับประสบการณ์จริง  ทั้งในส่วนของสุขภัณฑ์แบบ Touch less และสุขภัณฑ์อัตโนมัติ ทุกโซนภายในสาขาเรา



โซนห้องครัว (Kitchen Studio) มีสินค้าหลากหลาย ครบครัน ตอบโจทย์ทั้งรูปแบบการใช้สอยของงานครัวไทย และครัวฝรั่ง อัดแน่นด้วยแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ครัว และครัวชั้นนำต่างๆ อาทิ Absolute Kitchen , ครัวปูน 360 , Kitchen Express , Smart Kitchen ครอบคลุมทั้งชุดครัวที่ได้รับความนิยม และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวอีกหลายรายการ เพื่อตกแต่งทั้ง Build-in เรียบหรู ครัวสำเร็จรูปสวยเก๋ ครัวประยุกต์สีสนสดใส เพื่อให้เข้ากับ Lifestyle พร้อมด้วยทีมดีไซเนอร์มืออาชีพ ที่พร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบให้กับลูกค้า ได้เห็นภาพเสมือนจริงผ่าน 3d design ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ พร้อมด้วยพื้นที่จัดแสดงห้องครัวและชุดครัวหลายรูปแบบ ให้ได้เลือกทั้งซื้อสินค้า พร้อมช้อปไอเดียแต่งบ้านไปพร้อมๆ กัน


สัมผัสกับโฉมใหม่ของ โซน Anyhome ที่มีอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในหลากหลายสไตล์เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งหมด 5 โซน  AnyHardware กับอุปกรณ์ตกแต่งซ่อมแซมบ้านต่างๆ เครื่องทำน้ำร้อน น้ำอุ่น ปั๊มน้ำ Digital Door Lock จากแบรนด์ชั้นนำ  AnyPower เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Hitachi ,Toshiba ,Sumsung  Anybath สุขภัณฑ์อ่างล้างหน้าและเฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำในสไตล์ที่ทันสมัย อาทิ Bath and Bath , Gelato Bath ,Hefele , Cotto , American Standard ,Rasland  Anyliving เฟอร์นิเจอร์สไตล์มินิมอลจากแบรนด์ Moove และ Any Kitchen พบกับชุดครัวทันสมัยและอุปกรณ์ทำอาหารอเนกประสงค์ที่มีสไตล์มินิมอล อีกทั้งเพลิดเพลินกับสินใหม่ได้ตลอดทั้งปี ตอบโจทย์ทุกกลุ่มสินค้าที่เลือกสรรมาอย่างมีคุณภาพ


โซน Lighting ศูนย์รวมอุปกรณ์ส่องสว่าง โคมไฟ ที่ใหญ่ที่สุด ครบจบทุกสไตล์ เอาใจสายแต่งบ้าน อาทิ โคมไฟ modern luxury classic minimal ที่มีให้เลือกกว่า 5,000 รายการ รวมไปถึงดาวน์ไลท์รูปแบบใหม่ Click Series by Maxlight Selected ที่สามารถ Customize เองได้ตามต้องการ กับและยังมีพนักงานผู้เชียวชาญคอยแนะนำสินค้าให้เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย

โซน Lifestyle Furniture ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์คุณภาพจากทั่วทุกมุมโลก ผสานความเรียบง่าย หรูหรา คลาสสิค และแรงบันดาลใจจากนักออกแบบชั้นนำระดับโลก เพื่อสะท้อนรสนิยมและสไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่าง ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งาน และมอบความสุขให้สมาชิกในบ้าน อาทิ Natuzzi Editions, the name of comfort since 1959 แบรนด์โซฟาหนังแท้พรีเมียมสัญชาติอิตาเลียน, KUKA home ท็อปแบรนด์โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์อันดับ 1 จากประเทศจีน,  Camerich เฟอร์นิเจอร์สไตล์อิตาเลียนโมเดิร์น คุณภาพสูง, American Elite ลักซ์ชัวรี่เฟอร์นิเจอร์สไตล์อเมริกัน และเปิดตัว แบรนด์น้องใหม่ LIV casa แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ ที่ตัดทอนความพอดี เหลือไว้เพียงคุณค่าแห่งรสนิยมเหนือระดับ สู่สัมผัสหรูหราที่ลงตัว

บุญถาวรรัชดา ฉลองครบรอบ 40 ปี จัดโปรโมชั่นและกิจกรรมพิเศษภายในงานมากมายตลอด 3 วันเต็ม ทั้งสินค้าราคาพิเศษ 40 ปี 40 แบรนด์ดัง สมาชิกบุญถาวรแฟมิลี่ แลกคะแนน X3* Top Spender ภายในงาน แจกทองรวม 4เส้น สมัครสมาชิกใหม่ รับส่วนลด 200* บาท ช้อปในแผนก Anyhome  รับส่วนลด 200* บาท กิจกรรมประมูลสินค้าเริ่มต้น 40 บาท ช้อปฟิน อิ่มฟรี ด้วยคูปองอาหารและเครื่องดื่ม Food truck  กิจกรรมเปิดตัวสินค้าใหม่จากแบรนด์ TOTO เปิดช้อป Hansgrohe สินค้าห้องน้ำคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เปิดช้อปกระเบื้องนำเข้า Porcelanosa และ B-Italia มาช้อปสินค้าแต่งบ้านได้ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. – 1 ก.ย. 67 เวลา 8.00-20.00 น. เฉพาะบุญถาวร รัชดาเท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ : https://www.boonthavorn.com  และ https://www.facebook.com/boonthavorn


boonthavorn #บุญถาวร #บุญถาวรดอทคอม #IdeasComeAlive #บุญถาวร40ปี #บุญถาวรรัชดา #บุญถาวรFlagshipStore  #KitchenStudio # EVERYROOM #ห้องครัว # Surface # ROOMSTYLIST #สินค้าแลกซื้อ #แต่งบ้าน # Anyhome #บุญถาวรแฟมิลี่
4
พลาดไม่ได้สำหรับนักชิม! งาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2”
ชิมของอร่อย ช้อปของดีของเด่นแห่งภาคตะวันออก




              นักชิมห้ามพลาดงานนี้ “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” โดยจังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว อิ่มอร่อยกับอาหารชวนชิม ทั้งเมนูท้องถิ่น Street Food อาหารดั้งเดิมของหลากชนชาติ พบกับสินค้าของดีและผลิตภัณฑ์ชุมชนของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 พร้อมเวทีการแสดงที่นำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามและอุดมไปด้วยเอกลักษณ์ ระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณลานสแควร์ ซี (ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร


              นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวในพิธีเปิดงานว่า กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งทางบกและทางทะเล มีสภาพภูมิอากาศและทำเลที่ตั้งเหมาะสม และมีหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่ยังคงความสวยงามตามธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่โดดเด่น รวมถึงการท่องเที่ยวชุมชน  นอกจากนั้นยังมีความโดดเด่นในด้านรสชาติอาหารที่มีความเป็นเอกลักษณ์


              ด้วยนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ Gastronomy Tourism เป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สามารถสร้างประสบการณ์ทางการท่องเที่ยว และมีความสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวในอนาคต โดยเป็นสินค้าและบริการที่มีโอกาสและศักยภาพสูง อันนำมาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศผ่านการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและวิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ โดยการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารร่วมกับการพัฒนากรรมวิธีการผลิตของภาคเกษตร มุ่งเน้นประสบการณ์สัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอาหารเพื่อสุขภาพ


              กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 นับว่ามีความสมบูรณ์ทั้งทางกายภาพ วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความหลากหลายของเชื้อชาติ เมนูพื้นถิ่นที่ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น วัฒนธรรมชุมชนที่น่าสนใจ สิ่งเหล่านี้จึงถือเป็นต้นทุนที่ยอดเยี่ยม และสามารถสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหารได้ โดยเฉพาะทางด้านอาหารที่มีทั้งความหลากหลายของวัตถุดิบ รสชาติที่สะท้อนบุคลิกของผู้คน  เชื้อชาติ วัฒนธรรมประเพณี และการอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านอาหาร  มีความต่างในความเหมือน มีความจัดจ้านแต่กลมกล่อม มีการเติมความใส่ใจผู้บริโภค และไมตรีแห่งการต้อนรับ


              จังหวัดจันทบุรี จึงกำหนดจัดงาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ซึ่งมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยว รวมถึงประชาสัมพันธ์สินค้าของดีของจังหวัดและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลทำให้เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ร้านค้า ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก




              ภายในงานแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ ให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสและค้นหา ประกอบด้วย คูหาจำหน่ายอาหาร ของดี ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ที่มีความหลากหลาย เช่น ทุเรียนทอด มังคุดกวน แกงหมูหน่อกระวาน แกงหมูชะมวง ไอศกรีมมะม่วง ไอศกรีมทุเรียน จากจ.จันทบุรี บ๊ะจ่างนางงาม เมนูจากท้องทะเลตราด เมนูฤดูกาลอาหารทะเลจากเกาะช้าง กะปิพื้นบ้านเกาะช้าง ไอศกรีมกระทิมะพร้าวน้ำหอม จากจ.ตราด กุ้งจ่อม ปลาจ่อมหอยดอง ข้าวแต๋นน้ำมะยงชิด กุยช่าย จ๊อปูลูกยักษ์ น้ำพริกต่าง ๆ จากจ.นครนายก หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ทอดมันปลากราย-ปลาหมึก กล้วยม้วน กล้วยตาก หมี่คลุกไก่ฉีก ไส้กรอกสมุนไพรเพื่อสุขภาพ จากจ.ปราจีนบุรี ข้าวเกรียบทอดรสเห็ดหอม ข้าวตังหน้าตั้ง-เมี่ยงลาว ขนมตาล หม้อแกง ฝอยทอง กล้วยตาก ขนมไข่ ข้าวหลามกระบอกยาว ขนมต้มใบเตย จากจ.สระแก้ว




              คูหาจำหน่ายสินค้าท่องเที่ยวชุมชนของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ที่นำเสนอให้เห็นถึงเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าชมงานต้องการเดินทางไปเยี่ยมเยือนสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น น้ำมันนวดไพรจันท์ สมุนไพรน้ำมันต้นก่อหลวง สมุนไพรน้ำมันขุนเทพโอสถ เป็นต้น




              ส่วนเวทีการแสดงที่นำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามและอุดมไปด้วยเอกลักษณ์ โดยจัดการแสดงเป็นรอบสลับสับเปลี่ยนกับการแสดงดนตรี และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ตลอดทั้งวัน ทุกวันที่มีการจัดงาน




              งาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณลานสแควร์ ซี (ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
5
พลาดไม่ได้สำหรับนักชิม! งาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2”
ชิมของอร่อย ช้อปของดีของเด่นแห่งภาคตะวันออก




              นักชิมห้ามพลาดงานนี้ “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” โดยจังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว อิ่มอร่อยกับอาหารชวนชิม ทั้งเมนูท้องถิ่น Street Food อาหารดั้งเดิมของหลากชนชาติ พบกับสินค้าของดีและผลิตภัณฑ์ชุมชนของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 พร้อมเวทีการแสดงที่นำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามและอุดมไปด้วยเอกลักษณ์ ระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณลานสแควร์ ซี (ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร


              นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวในพิธีเปิดงานว่า กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งทางบกและทางทะเล มีสภาพภูมิอากาศและทำเลที่ตั้งเหมาะสม และมีหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่ยังคงความสวยงามตามธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่โดดเด่น รวมถึงการท่องเที่ยวชุมชน  นอกจากนั้นยังมีความโดดเด่นในด้านรสชาติอาหารที่มีความเป็นเอกลักษณ์


              ด้วยนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ Gastronomy Tourism เป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สามารถสร้างประสบการณ์ทางการท่องเที่ยว และมีความสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวในอนาคต โดยเป็นสินค้าและบริการที่มีโอกาสและศักยภาพสูง อันนำมาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศผ่านการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและวิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ โดยการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารร่วมกับการพัฒนากรรมวิธีการผลิตของภาคเกษตร มุ่งเน้นประสบการณ์สัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอาหารเพื่อสุขภาพ


              กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 นับว่ามีความสมบูรณ์ทั้งทางกายภาพ วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความหลากหลายของเชื้อชาติ เมนูพื้นถิ่นที่ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น วัฒนธรรมชุมชนที่น่าสนใจ สิ่งเหล่านี้จึงถือเป็นต้นทุนที่ยอดเยี่ยม และสามารถสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหารได้ โดยเฉพาะทางด้านอาหารที่มีทั้งความหลากหลายของวัตถุดิบ รสชาติที่สะท้อนบุคลิกของผู้คน  เชื้อชาติ วัฒนธรรมประเพณี และการอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านอาหาร  มีความต่างในความเหมือน มีความจัดจ้านแต่กลมกล่อม มีการเติมความใส่ใจผู้บริโภค และไมตรีแห่งการต้อนรับ


              จังหวัดจันทบุรี จึงกำหนดจัดงาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ซึ่งมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยว รวมถึงประชาสัมพันธ์สินค้าของดีของจังหวัดและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลทำให้เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ร้านค้า ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก




              ภายในงานแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ ให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสและค้นหา ประกอบด้วย คูหาจำหน่ายอาหาร ของดี ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ที่มีความหลากหลาย เช่น ทุเรียนทอด มังคุดกวน แกงหมูหน่อกระวาน แกงหมูชะมวง ไอศกรีมมะม่วง ไอศกรีมทุเรียน จากจ.จันทบุรี บ๊ะจ่างนางงาม เมนูจากท้องทะเลตราด เมนูฤดูกาลอาหารทะเลจากเกาะช้าง กะปิพื้นบ้านเกาะช้าง ไอศกรีมกระทิมะพร้าวน้ำหอม จากจ.ตราด กุ้งจ่อม ปลาจ่อมหอยดอง ข้าวแต๋นน้ำมะยงชิด กุยช่าย จ๊อปูลูกยักษ์ น้ำพริกต่าง ๆ จากจ.นครนายก หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ทอดมันปลากราย-ปลาหมึก กล้วยม้วน กล้วยตาก หมี่คลุกไก่ฉีก ไส้กรอกสมุนไพรเพื่อสุขภาพ จากจ.ปราจีนบุรี ข้าวเกรียบทอดรสเห็ดหอม ข้าวตังหน้าตั้ง-เมี่ยงลาว ขนมตาล หม้อแกง ฝอยทอง กล้วยตาก ขนมไข่ ข้าวหลามกระบอกยาว ขนมต้มใบเตย จากจ.สระแก้ว



              คูหาจำหน่ายสินค้าท่องเที่ยวชุมชนของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ที่นำเสนอให้เห็นถึงเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าชมงานต้องการเดินทางไปเยี่ยมเยือนสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น น้ำมันนวดไพรจันท์ สมุนไพรน้ำมันต้นก่อหลวง สมุนไพรน้ำมันขุนเทพโอสถ เป็นต้น

              ส่วนเวทีการแสดงที่นำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามและอุดมไปด้วยเอกลักษณ์ โดยจัดการแสดงเป็นรอบสลับสับเปลี่ยนกับการแสดงดนตรี และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ตลอดทั้งวัน ทุกวันที่มีการจัดงาน

              งาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณลานสแควร์ ซี (ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
6
พลาดไม่ได้สำหรับนักชิม! งาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2”
ชิมของอร่อย ช้อปของดีของเด่นแห่งภาคตะวันออก




              นักชิมห้ามพลาดงานนี้ “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” โดยจังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว อิ่มอร่อยกับอาหารชวนชิม ทั้งเมนูท้องถิ่น Street Food อาหารดั้งเดิมของหลากชนชาติ พบกับสินค้าของดีและผลิตภัณฑ์ชุมชนของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 พร้อมเวทีการแสดงที่นำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามและอุดมไปด้วยเอกลักษณ์ ระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณลานสแควร์ ซี (ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร


              นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวในพิธีเปิดงานว่า กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งทางบกและทางทะเล มีสภาพภูมิอากาศและทำเลที่ตั้งเหมาะสม และมีหมู่เกาะน้อยใหญ่ที่ยังคงความสวยงามตามธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่โดดเด่น รวมถึงการท่องเที่ยวชุมชน  นอกจากนั้นยังมีความโดดเด่นในด้านรสชาติอาหารที่มีความเป็นเอกลักษณ์


              ด้วยนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ Gastronomy Tourism เป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สามารถสร้างประสบการณ์ทางการท่องเที่ยว และมีความสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการของตลาดนักท่องเที่ยวในอนาคต โดยเป็นสินค้าและบริการที่มีโอกาสและศักยภาพสูง อันนำมาสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศผ่านการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและวิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ โดยการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารร่วมกับการพัฒนากรรมวิธีการผลิตของภาคเกษตร มุ่งเน้นประสบการณ์สัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอาหารเพื่อสุขภาพ


              กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 นับว่ามีความสมบูรณ์ทั้งทางกายภาพ วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความหลากหลายของเชื้อชาติ เมนูพื้นถิ่นที่ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น วัฒนธรรมชุมชนที่น่าสนใจ สิ่งเหล่านี้จึงถือเป็นต้นทุนที่ยอดเยี่ยม และสามารถสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหารได้ โดยเฉพาะทางด้านอาหารที่มีทั้งความหลากหลายของวัตถุดิบ รสชาติที่สะท้อนบุคลิกของผู้คน  เชื้อชาติ วัฒนธรรมประเพณี และการอนุรักษ์ภูมิปัญญาด้านอาหาร  มีความต่างในความเหมือน มีความจัดจ้านแต่กลมกล่อม มีการเติมความใส่ใจผู้บริโภค และไมตรีแห่งการต้อนรับ


              จังหวัดจันทบุรี จึงกำหนดจัดงาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ซึ่งมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สนับสนุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยว รวมถึงประชาสัมพันธ์สินค้าของดีของจังหวัดและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลทำให้เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต และผู้ประกอบการ ร้านค้า ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก




              คูหาจำหน่ายสินค้าท่องเที่ยวชุมชนของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ที่นำเสนอให้เห็นถึงเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าชมงานต้องการเดินทางไปเยี่ยมเยือนสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น น้ำมันนวดไพรจันท์ สมุนไพรน้ำมันต้นก่อหลวง สมุนไพรน้ำมันขุนเทพโอสถ เป็นต้น

              ส่วนเวทีการแสดงที่นำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามและอุดมไปด้วยเอกลักษณ์ โดยจัดการแสดงเป็นรอบสลับสับเปลี่ยนกับการแสดงดนตรี และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ตลอดทั้งวัน ทุกวันที่มีการจัดงาน

              งาน “มหัศจรรย์สีสันอาหารกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณลานสแควร์ ซี (ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
7
อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล ติดทำเนียบ หุ้น ESG100 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3


               นายโทมัส วิลสัน (ซ้าย) กรรมการผู้อำนวยการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (AYUD) รับมอบประกาศนียบัตร ESG100 Company ในฐานะบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ประจำปี 2567 จาก ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ขวา) ประธานสถาบันไทยพัฒน์ ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ


               บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (AYUD) บริษัทเพื่อการลงทุนในธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจประกันภัย โดยเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในกลุ่มอลิอันซ์ ผู้ประกอบธุรกิจบริการทางการเงินชั้นนำจากประเทศเยอรมนี ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ.2567 โดยสถาบันไทยพัฒน์

               นายโทมัส วิลสัน กรรมการผู้อำนวยการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (AYUD) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2567 ด้วยการคัดเลือกจาก 920 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต (Insurance) และบริษัทได้เข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน (พ.ศ.2565-2567)

               กลุ่มบริษัทและบริษัทร่วม ยึดถือเรื่องความยั่งยืนเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญ ด้วยวิสัยทัศน์ “เราใส่ใจในวันพรุ่งนี้” (We Care for Tomorrow) โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อทำให้วิสัยทัศน์นี้เกิดขึ้นได้จริงและสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้น กลุ่มบริษัทและบริษัทร่วม จึงผลักดันนโยบาย ESG สู่การปฏิบัติจริง มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส มุ่งเน้นการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ “วันพรุ่งนี้” ของทุกคนมั่นคงและยั่งยืน

               ทั้งนี้ การจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน

               สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่สิบในปีนี้

               ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป
8
สจล. จัดทำโครงการปรับปรุงอาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติลานอุทยาน
พระจอมเกล้าและภูมิทัศน์โดยรอบ


              เนื่องในวโรกาสครบรอบ 65 ปี ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างล้นพ้น จึงได้มีความประสงค์ปรับปรุงอาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติ ลานอุทยานพระจอมเกล้า และภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อพัฒนา “อาคารหอพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช" ให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ การวิจัย และนวัตกรรมที่ทันสมัยตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษา บุคลากร และสังคม ตลอดจนเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของสถาบันให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยปรับปรุงภูมิทัศน์  ประกอบด้วย 4 กิจกรรม ดังนี้


•   สร้างหอพระและองค์พระนิรันตราย เพื่อประดิษฐานพระนิรันตราย ขนาดหน้าตัก 41.09 นิ้ว เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านพระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ในฐานะพระพุทธรูปสำคัญของประเทศไทย ในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อธำรงรักษาถึงประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และคงความสำคัญต่อสถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป ณ อาคารเรือนไทย
•   หอเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 4 ปรับปรุงเพื่อให้การศึกษา วิจัย ส่งเสริม และให้บริการทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และครุศาสตร์อุตสาหกรรม รวมทั้งทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ประกอบด้วย พระนาม “พระจอมเกล้า” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระบรมราชลัญจกร “พระมหามงกุฎ” ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบัน นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นมหามงคลยิ่งในกาลต่อมาจวบจนถึงปัจจุบัน
•   หอประวัติ สจล. ปรับปรุงพื้นที่อาคารฝั่งขวา ซึ่งแต่เดิมคือพื้นที่จัดแสดงประวัติของสถาบัน ให้มีความทันสมัยทั้งด้านเนื้อหาผลงานด้านนวัตกรรม วิชาการ และผู้สร้างชื่อเสียงให้แก่สถาบัน โดยใช้เทคนิคมัลติมีเดียในการนำเสนอให้ทันสมัย เพื่อให้เป็นพื้นที่รวบรวมเกียรติประวัติและผลงานอันทรงคุณค่าของสถาบันให้เป็นที่เรียนรู้ ของนักศึกษา บุคลากร ศิษย์เก่า และผู้สนใจ เพื่อระลึก และสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมต่าง ๆ สู่สังคมตามวิสัยทัศน์ The World Master of Innovation
•   ลานนวัตกรรมดาราศาสตร์ ทำการปรับพื้นลานอุทยานพระจอมเกล้า เป็นแผนที่ฟ้า ตามมาตรฐานของสมาคมดาราศาสตร์ไทย และแผนที่ฟ้าตามหลักสากล และกำหนดตำแหน่งดาวให้ตรงกับวันที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงคำนวณการเกิด “สุริยุปราคาเต็มดวง” ได้ล่วงหน้าถึง 2 ปี โดยทรงเชิญ เซอร์ แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์ มาเป็นประจักษ์พยาน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 บริเวณ หว้ากอ ประจวบคีรีขันธ์  และให้เป็นพื้นที่กิจกรรมต่างๆ รวมทั้งเป็น Landmark ที่สวยงาม สามารถมองเห็นจากเครื่องบินที่บินมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย



              ทั้งนี้ อาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติและลานอุทยานพระจอมเกล้าเป็นดั่งสถานที่สำคัญประจำสถาบันในการจัดกิจกรรมสำคัญต่างๆ รวมถึงประการสำคัญเพื่อธำรงไว้ซึ่งความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ตลอดจนการมีห้องจัดแสดงประวัติการก่อตั้งสถาบันฯ และผลงานที่โดดเด่นจากคณาจารย์ นักศึกษา ทั้งด้านงานวิจัย วิชาการ นวัตกรรม งานบริการสังคม

              ขอเชิญผู้สนใจร่วมสมทบทุนในการพัฒนาอาคารตามโครงการปรับปรุงดังกล่าวได้ที่ช่องทางรับบริจาค ชื่อที่บัญชี  : “โครงการปรับปรุงอาคารนวัตกรรมเฉลิมพระเกียรติลานอุทยานพระจอมเกล้า และภูมิทัศน์โดยรอบ”

ธนาคารกรุงไทย สาขาเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง เลขที่บัญชี : 693-0-66026-4

ผู้บริจาคจะได้รับคืนภาษี 200% และได้รับพระนิรันตราย(จำลอง)

หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่คุณกรองแก้ว สกุลตศรี  โทรศัพท์ 02-329-8282, 084-328-1656

อีเมล์
krongkaew.sa@kmitl.ac.th
9
ไซไฟเซนส์เอเชีย บริษัทในเครือเอสซีจี จับมือ สมาร์ททีทีซี ผลักดันโซลูชัน IoT
ผ่านมาตรฐานของการไฟฟ้า ต่อยอดความเป็น Smart City


เมื่อสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท ไซไฟเซนส์ เอเชีย จำกัด นำโดย นายพิษณุ พลอยศรี Chief Executive Officer ร่วมกับ บริษัท สมาร์ททีทีซี จำกัด (มหาชน) นำโดย นายกฤตธี บุญสงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนามิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อรองรับการสื่อสารแบบไร้สาย ZETA Protocol รวมถึงรองรับมาตรฐานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความร่วมมือระหว่างธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ในนามบริษัท ZiFiSense Asia กับ Smart TTC ครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือภายใต้แนวคิดการพัฒนาประเทศเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี 5.0 โดยเริ่มต้นด้วยการนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคในชีวิตประจำวัน มีเป้าหมายที่จะให้ผู้บริโภคทุกคนสามารถตรวจสอบค่าไฟในครัวเรือน หรือ ในธุรกิจของตนเองได้ทันที (อย่าง Real Time) ทุกที่และทุกเวลา เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการใช้ไฟฟ้าให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด


นายพิษณุ พลอยศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซไฟเซนส์เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “วันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการยกระดับการ ตรวจสอบ( monitor) ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ด้วยเทคโนโลยีการส่งสัญญาณของ ZETA ที่เป็น LPWAN 2.0 ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องการรับ/ส่งข้อมูลปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ (การสื่อสารแบบ Real-time ดังกล่าวนั้น) ทั้งยังช่วยพัฒนาเสถียรภาพของระบบการส่งจ่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า ทำให้การไฟฟ้าสามารถทราบได้ว่าบริเวณไหนเกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที โดยตัว ZETA ถือว่าเป็นเทคโนโลยี LPWAN ที่ส่งสัญญาณได้ไกลที่สุดในปัจจุบัน (อีกทั้งยังรองรับการขยายสัญญาณผ่าน Repeater ซึ่ง Mesh LPWAN ที่เป็นระบบส่งสัญญาณเชื่อมต่อในระยะทางไกลแต่ใช้พลังงานต่ำ) นี้ยังเป็นระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มงานดูแลระบบอาคาร และโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย เนื่องจากจุดเด่นในเรื่องของระยะทางในการส่งสัญญาณที่ไกล และสามารถขยายสัญญาณบริเวณจุดอับสัญญาณได้ ส่งผลให้ต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆที่มีอยู่ในตลาด ทางไซไฟเซนส์เอเชียเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสนำเทคโนโลยี ZETA เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาธุรกิจของคนไทย”


นายกฤตธี บุญสงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ททีทีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทางสมาร์ททีทีซี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับไซไฟเซนส์เอเชียในการพัฒนาระบบมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อรองรับการสื่อสารแบบ ZETA Protocol โดยทางบริษัทเองก็มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าขององค์กรให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตยุคใหม่ Thailand 4.0 ในยุค Smart Life โดยมุ่งเน้นคุณภาพ เที่ยงตรงเป็นธรรม ต่อผู้ใช้และผู้จ่ายไฟ ซึ่งทางบริษัทฯเองก็เล็งเห็นถึงคุณสมบัติของ ZETA ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนา Value Chain ในระบบไฟฟ้าของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากการพัฒนาระบบนี้ ก็คือคนไทยทุกคน”

###

เกี่ยวกับธุรกิจไซไฟเซนซ์ เอเชีย

บริษัทไซไฟเซนส์ เอเชีย จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเอสซีจีและไซไฟเซนส์ประเทศจีน จัดตั้งขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการนำโซลูชัน IoT มาพัฒนาและปรับใช้ในเรื่องระบบบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะ รวมถึงการบำรุงรักษาเครื่องจักรเชิงพยากรณ์ในวงการอุตสาหกรรม ผ่านเทคโนโลยี LPWAN 2.0 ของ ZETA โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมายผลักดันโซลูชัน ให้เติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
10
สถาปัตยฯ สจล. ลาดกระบัง เปิดเวทีระดับโลกร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ด้านงานออกแบบ Design for a Better World  ในงาน AAD Global Forum


              คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร (สจล.) จัดงานเสวนา AAD Global Forum: Design for a Better World เวทีที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ นักออกแบบที่มีชื่อเสียง นักคิดที่ทรงอิทธิพล วิทยากรคนสำคัญ อาทิ Professor Dr.Don Norman นวัตกรผู้บุกเบิกพัฒนาการออกแบบที่เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง Human Centered Design, Associate Professor Jeffrey Shumaker นวัตกรผู้ริเริ่มออกแบบเมืองโดยให้ความสำคัญกับการวางผังเมืองที่คำนึงถึงผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก, Mr.Shigeru Ban นวัตกรผู้พัฒนาการใช้วัสดุกระดาษรีไซเคิลในงานสถาปัตยกรรมสำหรับการบรรเทาภัยพิบัติและส่งเสริมความยั่งยืน


              ร่วมด้วย ม.ล.วรุตม์ วรวรรณ สถาปนิกแห่งวิน วรวรรณ (VVA) เชี่ยวชาญในโครงการที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์และความรับผิดชอบต่อสังคม การใช้วัสดุในท้องถิ่น ได้รับการยอมรับในระดับสากล, คุณสนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ ศิลปินที่สนใจพื้นที่ประติมากรรม และผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Sanitas มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ดร.ณรงค์วิทย์ อารีมิตร Executive Director บริษัท สถาปนิก 49 จํากัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมอาคาร Building Environment Design เน้นการวิจัยพัฒนา และสร้างนวัตกรรมการออกแบบอาคารเพื่อความยั่งยืน และ Pre-Record


              โดย คุณนิธิ สถาปิตานนท์ สถาปนิกร่วมสมัยยุคบุกเบิกระดับตำนานของประเทศไทย หนึ่งในกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนสถาปัตยกรรมร่วมสมัยของประเทศไทยมาเกือบครึ่งศตวรรษ ได้ร่วมกันถ่ายทอดความรู้เชิงลึก จากหัวข้ออภิปรายในงาน อาทิ การออกแบบกับการปรับปรุงคุณภาพชีวิต, การออกแบบกับการรักษาโลก, การออกแบบเป็นกลไกสู่โลกที่ดีกว่า ซึ่งแต่ละช่วงของการอภิปรายมุ่งเน้นหลักปฏิบัติด้านการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับมนุษยชาติเป็นศูนย์กลางของความยั่งยืน หัวใจสำคัญของการพัฒนาระดับโลก โดยการออกแบบเป็นกลไกสำคัญ แสดงให้เห็นถึงที่มาที่ไปของผลกระทบทางวิชาชีพ การทำงานด้านการออกแบบได้อย่างบูรณาการ เพื่อให้ได้งานที่ตอบโจทย์และสร้างสรรค์ที่เข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนได้






              ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ร่วมเปิดงาน AAD Global Forum: Design for a Better World พร้อมด้วย ผศ.ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สจล. คณะผู้บริหาร และผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก จัดขึ้น ณ อาคารหอประชุม ศ.ประสม รังสิโรจน สจล. เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567

          ติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficialและเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th และติดตามรายละเอียดหลักสูตรที่เปิดสอนได้ที่ https://curriculum.kmitl.ac.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000
Pages: [1] 2 3 ... 10