This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
1
ข่าวบันเทิง / “บุพเพสันนิวาส ๒” มาแล้ว! ภาพยนตร์รักย้อนยุคสุดฮิต ลงจอทรูโฟร์ยู 13 ก.ค.นี้
« on: Today at 07:05:42 PM »“บุพเพสันนิวาส ๒” มาแล้ว! ภาพยนตร์รักย้อนยุคสุดฮิต ลงจอทรูโฟร์ยู 13 ก.ค.นี้

ย้อนเวลาสู่ยุครัตนโกสินทร์กับภาพยนตร์รักข้ามภพ “บุพเพสันนิวาส ๒ -LOVE DESTINY: THE MOVIE” นำแสดงโดย โป๊ป ธนวรรธน์ และ เบลล่า ราณี ร่วมด้วย พาริส และ นน ชานน หนังผสมความโรแมนติก ฮา และดราม่าเข้ากับประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นกระแสแรงตั้งแต่วันแรก ด้วยรายได้ทะลุ 300 ล้านมาแล้ว ใครที่เคยหลงรัก “บุพเพสันนิวาส” เวอร์ชั่นละคร บอกเลยว่า กลับมาชมอีกครั้งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ก็จะอินฟินยิ่งกว่าเดิมแน่นอน



เมื่อ “ขุนสมบัติบดี” หรือ “ภพ” (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นายช่างใหญ่แห่งกรมพระคลัง ได้พบกับ “เกสร” (ราณี แคมเปน) หญิงสาวผู้สง่างามที่ดูเหมือนมีสายใยบางอย่างเชื่อมโยงกันข้ามภพ เรื่องราวยิ่งเข้มข้นเมื่อ “เมธัส หันตระกูล” (พาริส อินทรโกมาลย์สุต) หนุ่มยุคปัจจุบันทะลุมิติมาพร้อมปืนโบราณ และต้องหาทางกลับโลกเดิม แต่กลับต้องร่วมมือกับ “เสด็จในกรม” (ชานน สันตินธรกุล) ขุนนางหนุ่มผู้ทรงอิทธิพล และ “พี่ปี่” (ปวีณ์นุช แพ่งนคร) บ่าวคนสนิทของเกสร ที่รู้มากกว่าที่ใครคิค ภารกิจข้ามภพครั้งนี้เต็มไปด้วยความรัก ความลับ และการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนชะตาประเทศ ทั้งฮา ทั้งซึ้ง ครบรสในเรื่องเดียว ดูเลย “บุพเพสันนิวาส ๒” วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคมนี้ เวลา 18.40 น. ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และ true4u.com/live
2
ข่าวบันเทิง / Shopee ผนึก HYBE + TAJOY ENTERTAINMENT คว้าวง ENHYPEN เขย่าหัวใจแฟนคลับชาวไทย
« on: Today at 06:27:17 PM »Shopee ผนึก HYBE + TAJOY ENTERTAINMENT คว้าวง ENHYPEN เขย่าหัวใจแฟนคลับชาวไทย จัดเต็มความสนุกในงาน Shopee x ENHYPEN 'DESIRE : UNLEASH' FANSIGN & CAFE EVENT 2025

Shopee - HYBE และ TAJOY ENTERTAINMENT” 3 พาร์ทเนอร์ เดินเครื่องจัดความสนุก ฟินไปกับศิลปิน K-POP วง ENHYPEN (เอนไฮเพน) จัดกิจกรรม FANSIGN และ FAN CAFE ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมภาพบรรยากาศสุดประทับใจกับ “Shopee x ENHYPEN 'DESIRE : UNLEASH' FANSIGN & CAFE EVENT 2025” ตัดริบบิ้นฉลองคลอดอัลบั้ม ENHYPEN 6th Mini Album ‘DESIRE : UNLEASH’ แฟนคลับแฮปปี้ใกล้ชิดกับ 7 หนุ่มเมมเบอร์ ฮอตไม่พักแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
ระเบิดไอเดียความร่วมมือสุดยิ่งใหญ่จาก 3 พาร์ทเนอร์ ได้แก่ Shopee อีคอมเมิร์ซเบอร์ 1 ครองใจผู้ใช้งานชาวไทย , HYBE ค่ายเพลง K-POP ระดับโลก และ TAJOY ENTERTAINMENT จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “Shopee x ENHYPEN 'DESIRE : UNLEASH' FANSIGN & CAFE EVENT” ในปี 2025 ซึ่งมีแนวคิด เสิร์ฟกิจกรรมเพื่อความใกล้ชิดระหว่างแฟนคลับและศิลปินแชร์โมเม้นต์ประสบการณ์ดีดีร่วมกันเป็นภาพที่อบอุ่นน่าประทับใจ

กิจกรรม FANSIGN EVENT ชวนแฟนคลับร่วมกิจกรรมสนุกด้วยกติกาการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมบนแอป Shopee และซื้ออัลบั้ม ENHYPEN ‘DESIRE : UNLEASH (MAKE Ver./YOU Ver./MINE Ver.) ผ่านทาง Korea Town Official by Shopee บน Shopee Mall รับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีได้สิทธิ์ FANSIGN และสิทธิ์ร่วมงานรวม 1,728 ท่าน ใจเต้นไปกับความละมุนของสมาชิกทั้ง 7 หนุ่มเมมเบอร์ของวง ENHYPEN (เอนไฮเพน) ได้แก่ JUNGWON (จองวอน), HEESEUNG (ฮีซึง), JAY (เจย์), JAKE (เจค), SUNGHOON (ซองฮุน), SUNOO (ซอนอู) และ NI-KI (นิกิ)
เต็มอิ่มกับกิจกรรมแฟนไซน์ และกิจกรรมบนเวที เรียกเสียงกรี๊ดสนั่น ทั้ง PHOTO TIME, Q&A คำถามจากแฟนคลับ, เล่นเกมส์สตรอว์เบอรี่ 8 จังหวะ เกมส์ยอตฮิตของเกาหลีใต้ สร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะแบบจุกจุกตลอดการจัดกิจกรรมที่จัดขึ้น ณ centralwOrld Pulse ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

CAFE EVENT สุด exclusive ด้วยกติกาการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมบนแอป Shopee และซื้ออัลบั้ม ENHYPEN ‘DESIRE : UNLEASH (ENGENE Ver.) รับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีได้สิทธิ์ กิจกรรมครั้งนี้คัดผู้ที่ได้รับสิทธิ์ร่วมงาน 70 ท่าน เริ่มต้นความสดใส เปิดบ้าน BUTTERY WORLD น้องเนย (Butterbear) ในฐานะเจ้าบ้านต้อนรับสุดอบอุ่นแก่ ENGENE (เอนจีน) + 7 หนุ่มเมมเบอร์จากวง ENHYPEN (เอนไฮเพน) ดีไซน์ความสนุกของกิจกรรมเพื่อให้แฟนคลับแฮปปี้กับธีมกิจกรรม CAFE EVENT ฟินด้วยเครื่องดื่ม+ ขนมแสนอร่อย รับจากมือ 7 หนุ่มเมมเบอร์ พร้อมลุ้นเป็นผู้โชคดีรับรูปโพลารอยด์พร้อมลายเซ็นต์ ความสนุกอบอวล ณ BUTTERY WORLD ชั้น 5 สยามพารากอนที่ผ่านมา
#ShopeexEnhypenFansignandCafe
#ShopeeTH #ENHYPEN #DESIRE_UNLEASH
3
news & activity / กระทรวงอุตฯ ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน-ประชาชน ตะลุยปั้นเชฟไฟแรง 1.7 หมื่นคน
« on: Today at 12:41:58 PM »กระทรวงอุตฯ ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ-เอกชน-ประชาชน ตะลุยปั้นเชฟไฟแรง 1.7 หมื่นคน
พร้อมต่อยอดสร้างเชฟมืออาชีพสู่ครัวโลก คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,500 ล้านบาท
พร้อมต่อยอดสร้างเชฟมืออาชีพสู่ครัวโลก คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,500 ล้านบาท


กรุงเทพฯ 8 กรกฎาคม 2568 - กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ แสดงพลังความร่วมมือสุดยิ่งใหญ่ จัดกิจกรรม “THAI MASTER CHEF POWER : พลังเชฟไทย สร้างชาติ” เดินหน้าปั้นเชฟไทยสร้างอาชีพต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตั้งเป้าพัฒนาทักษะประชาชน 17,000 คน สู่เชฟชุมชน ผ่าน 2 หลักสูตร ได้แก่ Master Chef Program 50 ตำรับ และ Master Chef Program Plus 70 ตำรับ หวังสร้างรายได้ สร้างอาชีพ และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ พร้อมผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทยอวดสายตาเวทีโลก โดยคาดว่าสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท อันจะเป็นพลังใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การใช้อาหารเป็น “Soft Power” ไม่ใช่เพียงแนวคิด หากแต่เป็น “ยุทธศาสตร์ชาติ” ที่ต้องขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นปฏิรูปอุตสาหกรรมไทย ด้วยการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง พัฒนาระบบนิเวศในการดำเนินธุรกิจ และส่งเสริมการประกอบกิจการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญาและทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อยกระดับสินค้า ทั้งด้านมาตรฐานและดีไซน์ให้ทันสมัย โดดเด่น แตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งสอดรับกับการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล


กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) บูรณาการความร่วมมือ 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เร่งเดินหน้า “โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟ อาหารไทย (Master Thai Chef)” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเป็นกลไกในการกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ และทักษะที่ได้รับการรับรอง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างอาชีพใหม่ให้กับประชาชน แต่จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายเชฟไทยที่มีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เติบโตยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบาย OFOS (One Family One Soft Power) การยกระดับรายได้ให้ประชาชนของรัฐบาลผ่านการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพอย่างมีมาตรฐาน รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างสรรค์และสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอาหารของโลก อันจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,500 ล้านบาท

นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ดีพร้อมได้ตระหนักถึงบทบาทของอุตสาหกรรมอาหารไทย ในฐานะ Soft Power ที่ทรงพลังของประเทศ ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านการส่งออก การท่องเที่ยว การสร้างอาชีพในระดับชุมชน และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศ โดยมุ่งพัฒนาเชฟชุมชนให้เป็นผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุตสาหกรรมอาหารเชิงสร้างสรรค์ ไม่เพียงเน้นการฝึกอาชีพ แต่ครอบคลุมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ บรรจุภัณฑ์ และการตลาด พร้อมเชื่อมโยงเชฟกับ SME ท้องถิ่น เกษตรกรผู้ปลูกวัตถุดิบ ผู้ผลิตเครื่องปรุง และร้านอาหาร ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ที่นี่มีแต่ให้” เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นระบบผ่าน “โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย (Master Thai Chef)” เพื่อสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และยกระดับทักษะให้ประชาชนสามารถเป็นเชฟมืออาชีพในระดับชุมชน โดยในปี 2568 ดีพร้อมได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติทั้ง 13 สาขาเขต ขยายพื้นที่เป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพให้ประชาชน จำนวน 17,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร ได้แก่ 1. หลักสูตร Master Chef Program 50 ตำรับ จำนวน 12,000 คน และ 2. Master Chef Program Plus 70 ตำรับ จำนวน 5,000 คน โดยจะพัฒนาขึ้นมาใหม่จาก 7 กลุ่มอาหาร ประกอบด้วย อาหารไทยต้นตำรับเพื่อการประกอบอาชีพ อาหารไทยสร้างสรรค์เพื่อสุขภาพ ขนมหวานไทยประยุกต์สำหรับตลาดสากล อาหารไทย Street Food ฟิวชั่นอาหารไทยกับรสชาติสากล อาหารเจ และอาหารชาววัง ซึ่งออกแบบให้สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เข้ารับการอบรมทำให้สามารถต่อยอดสู่อาชีพ เกิดการสร้างรายได้ และสร้างแบรนด์ท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การยกระดับเชฟชุมชนให้เป็น Soft Power ระดับประเทศและการยอมรับอาหารไทยในเวทีสากลต่อไป


“ดีพร้อม” เชื่อมั่นว่า พลังของความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคประชาชน และเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ จะผลักดันให้ชุมชนสร้างเชฟคุณภาพที่สามารถยกระดับวิถีชีวิตของตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคง สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดในชีวิตจริง วันนี้ทักษะอาหารไทยไม่ใช่เพียงแค่ฝีมือในครัวแต่คือพลังในการสร้างเศรษฐกิจของชาติ เป็นพลังใหม่ของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ทั้งนี้ ในปี 2567 ดีพร้อม ได้นำร่อง Master Thai Chef โดยมีผู้ผ่านการอบรม จำนวน 1,304 ราย เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 356 ล้านบาท สามารถประกอบอาชีพได้จริงในพื้นที่ของตนเอง อันนำไปสู่การลงทุนต่อเนื่องในระดับชุมชนและเกิดผลสัมฤทธิ์เชิงรูปธรรม”


โดยล่าสุด ดีพร้อม ได้จัดกิจกรรม “THAI MASTER CHEF POWER : พลังเชฟไทย สร้างชาติ” เพื่อเป็นการคิกออฟ “โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย (Master Thai Chef)” และประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวในวงกว้าง รวมถึงแสดงผลการดำเนินงานและสื่อสารพลังความร่วมมือกับหน่วยงานร่วม MOU ได้แก่ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ทั้งมีการจัดแสดงนิทรรศการ “รูป รส กลิ่น สี ครบทุกสัมผัส” แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ และการสาธิตเมนูอาหารไทยสร้างสรรค์โดยเชฟรุ่นใหม่ เพื่อยืนยันว่า Soft Power ของไทยนั้นสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างแท้จริง

นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานฯ มีภารกิจในการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมและพึ่งพาตนเองของหมู่บ้านและชุมชนเมืองด้วยการเรียนรู้และพัฒนาความคิดริเริ่ม ตลอดจนเสริมศักยภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในหมู่บ้านและชุมชนเมือง มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถของคนในหมู่บ้านและชุมชนให้สามารถพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ซึ่งสำนักงานกองทุนหมู่บ้านฯ มีเครือข่าย ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้ง 13 สาขาเขต เชื่อมโยงกับชุมชนในระดับหมู่บ้านอย่างใกล้ชิด และจะเป็นส่วนที่สำคัญในการขับเคลื่อนการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสำนักงานฯ พร้อมขับเคลื่อนโครงการฯ ผ่านความร่วมมือในหลายมิติ ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ ผ่านกิจกรรมสื่อสารเชิงรุกในพื้นที่ การรับสมัครผู้เข้าร่วมอบรม โดยอาศัยการเชื่อมโยงจากผู้นำชุมชน กรรมการกองทุน และกลุ่มอาชีพ ตลอดจน การหาลูกค้าเป้าหมาย ที่สนใจเข้าร่วมโครงการอย่างตรงจุดผ่านกลไกและฐานข้อมูลสมาชิกของแต่ละเขต โดยจะได้จัดให้มี “กิจกรรมสร้างการรับรู้ และทำความเข้าใจโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” ณ สถานที่ตั้งของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านฯ หรือสถานที่ที่เหมาะสมในพื้นที่รับผิดชอบของทั้ง 13 สาขาเขต ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าถึงโอกาสในการพัฒนาทักษะ เกิดแรงจูงใจในการเข้าร่วมอบรมและสร้างอาชีพใหม่อย่างจริงจัง รวมทั้งผลักดันให้เกิดการสร้างเชฟอาหารไทยมืออาชีพให้ครอบคลุม 17,000 คน ทั่วประเทศ


“ความร่วมมือในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและชุมชนที่ผนึกกำลังกัน เพื่อสร้างโอกาสที่ดีของการพัฒนาทักษะอาชีพโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทุนมนุษย์ด้วยการสนับสนุนและเชื่อมโยงการขับเคลื่อนโครงการให้เข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง”




4
Sport News & Motor Sport / “แดนไท” มาแรงรอบสุดท้าย จบรองแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โมร็อกโก
« on: July 07, 2025, 10:54:26 PM »“แดนไท” มาแรงรอบสุดท้าย จบรองแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โมร็อกโก

สกอตต์ วินเซนต์
7 กรกฎาคม 2568 – แดนไท บุญมา ระเบิดฟอร์มร้อนแรงรอบสุดท้ายหวด 7 เบอร์ดี้ แบบไร้โบกี้ จบด้วยสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 282 พุ่งขึ้นมารั้งรองแชมป์ศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โมร็อกโก ที่สนามรอยัล กอล์ฟ ดาร์ เอส ซาลัม พาร์ 73 ประเทศโมร็อกโก เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่โทรฟีแชมป์ตกเป็นของ สกอตต์ วินเซนต์ โปรจอมแกร่งจากซิมบับเว ที่คว้าแชมป์ไปด้วยสกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 278 (ภาพ: Asian Tour)

สกอตต์ วินเซนต์
เอเชียน ทัวร์ จัดศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โมร็อกโก ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 64 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่สี่จาก 10 รายการของอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ 2025 แข่งขัน ณ สนามรอยัล กอล์ฟ ดาร์ เอส ซาลัม ระยะ 7,630 หลา พาร์ 73 ในกรุงราบัต ประเทศโมร็อกโก ระหว่างวันที่ 3-6 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีนักกอล์ฟไทยผ่านตัดตัว 13 คน
รอบสุดท้ายของการชิงชัยปรากฎว่า แดนไท บุญมา ซึ่งออกสตาร์ทด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 216 ตามหลัง สกอตต์ วินเซนต์ ผู้นำจากซิมบับเว ถึง 8 สโตรค ระเบิดฟอร์มร้อนแรงหวดวันเดียว 7 อันเดอร์พาร์ 66 จากการทำ 7 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียแม้โบกี้เดียว พุ่งจากอันดับ 24 ร่วม ขึ้นมาจบรองแชมป์ด้วยสกอร์รวม10 อันเดอร์พาร์ 282 รับเงินรางวัลไป 220,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7 ล้านบาท

แดนไท บุญมา
แดนไท เจ้าของสองแชมป์เอเชียน ทัวร์ เผยหลังเกมว่า “วันนี้เล่นได้ดีมาก ทำแฟร์เวย์ กรีน และพัตต์ได้ ผมว่าเป็นเพราะโมเมนตัมที่ดีจากการทำเบอร์ดี้ได้เร็วที่หลุมสอง ซึ่งเป็นหลุมพาร์สามที่ค่อนข้างยาก จากนั้นเกมก็ลื่นไหล แม้จะมีผิดพลาดบ้างแต่ก็แก้ไขได้ พอใจกับผลงานในสัปดาห์นี้มาก”

ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ
ขณะที่ สกอตต์ วินเซนต์ ผู้นำรอบสองและสาม รักษาฟอร์มดีต่อเนื่องหวดเพิ่มอีก 3 อันเดอร์พาร์ 70 จาก 5 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ รวมสี่วันมี 14 อันเดอร์พาร์ 278 คว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เป็นรายการที่สองให้กับตัวเอง รวมถึงเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 11.5 ล้านบาท พร้อมขยับขึ้นรั้งตำแหน่งผู้นำอันดับคะแนนสะสมเอเชียน ทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต และอันดับสองในตารางของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ฤดูกาลปัจจุบัน
วินเซนต์ โปรวัย 33 ปี ซึ่งคว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี 2022 กล่าวว่า “เกมค่อนข้างยากและสูสี ซึ่งผมเล่นได้ดีตลอดทั้งสัปดาห์นี้และอยู่ในตำแหน่งที่ดี แม้ออกสตาร์ทในฐานะผู้นำ แต่ก็พยายามไม่มองสกอร์บอร์ด จึงไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ การคว้าแชมป์รายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะผมจะได้ลุ้นอันดับตัวเองภายในสิ้นปี เพื่อโอกาสในการเล่นลิฟ กอล์ฟ ในปีหน้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของผม”

เศรษฐี ประคองเวช
ทางด้าน เศรษฐี ประคองเวช ซึ่งทำผลงานได้ลุ้นหลังจบรอบสามมีสกอร์รวมไล่จี้ผู้นำเพียงสโตรคเดียว รอบสุดท้ายพลาดตีเกิน 3 โอเวอร์พาร์ 76 หล่นไปอยู่อันดับ 7 ด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอ์พาร์ 285 รับเงินรางวัลไป 57,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท ขณะที่ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ หวดโฮลอินวันได้ที่หลุม 9 รวมกับอีก 1 เบอร์ดี้ เสียไป 2 โบกี้ จบ 18 หลุมเข้ามา 1 อันดอร์พาร์ 72 รั้งอันดับ 22 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 289
ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour
5
news & activity / สจล. จับมือ มหาวิทยาลัยโอซาก้า ขับเคลื่อนนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์
« on: July 07, 2025, 08:59:42 PM »สจล. จับมือ มหาวิทยาลัยโอซาก้า ขับเคลื่อนนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ เดินหน้าสู่ Smart Cities
และการพัฒนาสุขภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
และการพัฒนาสุขภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) และมหาวิทยาลัยโอซาก้า (Osaka University) มุ่งมั่นที่จะพัฒนาความร่วมมือในระยะยาว ครอบคลุมหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ การวิจัยร่วม (Joint Research) เพื่อการสร้างสรรค์งานวิจัยที่เป็นนวัตกรรมและมีประโยชน์ต่อสังคมร่วมกัน, การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากร เพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในระดับนานาชาติ และเป็นการเปิดโลกทัศน์และเสริมสร้างศักยภาพของทั้งนักศึกษาและคณาจารย์, การพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัลเพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการพัฒนาในอนาคต ตั้งแต่การสร้างเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) ไปจนถึงการส่งเสริม สุขภาพที่ยั่งยืน (Sustainable Health)
ความร่วมมือในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจับมือกันของ 2 มหาวิทยาลัย แต่เป็นการสร้าง "สะพานแห่งวิทยาศาสตร์สู่สังคม" ที่จะเปลี่ยน "พลังแห่งวิสัยทัศน์" ให้กลายเป็น "ผลลัพธ์จริง" ที่จับต้องได้ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและสังคมโลกไปข้างหน้า

สจล.เดินหน้ายกระดับความร่วมมือระดับนานาชาติ ภายใต้การนำโดย ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสจล. นำคณะผู้บริหารระดับสูงเดินทางเยือน มหาวิทยาลัยโอซาก้า (University of Osaka) มหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของญี่ปุ่น
เพื่อสานต่อและเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างสองสถาบัน
มหาวิทยาลัยโอซาก้า ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน Top 100 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก (QS Ranking) มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านการวิจัยขั้นแนวหน้าในสาขาวิทยาศาสตร์ แพทยศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ ในขณะที่ สจล. คือผู้นำด้านเทคโนโลยีของประเทศไทย ด้วยจุดแข็งจากการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและเครือข่ายความร่วมมือเชิงลึกกับภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงผลงานวิจัยที่สามารถต่อยอดเป็นนวัตกรรมเชิงพาณิชย์และเพื่อสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็น จุดเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์ ที่สำคัญยิ่ง โดยจะหลอมรวม "องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ระดับโลก" จากมหาวิทยาลัยโอซาก้า เข้ากับ "ระบบนิเวศนวัตกรรม" ที่แข็งแกร่งของสจล. เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการที่มี ผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนและสังคม อย่างแท้จริงและยั่งยืน
ทั้งนี้ สจล. ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งล่าสุด ติดอันดับ 1 ของประเทศไทย ด้านวิศวกรรมเครื่องกลและอากาศยาน จากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ Research.com สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสถาบันในการพัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก ตามวิสัยทัศน์ “The World Master of Innovation”

ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวของ สจล. ได้ทาง Facebook: https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์: https://www.kmitl.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000
6
news & activity / Maison Berger Paris มอบที่สุดแห่งโปรโมชั่น Mid-Year ลดแรงเกินต้าน!
« on: July 07, 2025, 08:39:17 PM »Maison Berger Paris มอบที่สุดแห่งโปรโมชั่น Mid-Year ลดแรงเกินต้าน!
ตะเกียงน้ำหอมดีไซน์หรู ลดสูงสุดกว่า 50% ในราคาที่คุณต้องหลงรัก
ตะเกียงน้ำหอมดีไซน์หรู ลดสูงสุดกว่า 50% ในราคาที่คุณต้องหลงรัก

Maison Berger Paris แบรนด์เครื่องหอมสำหรับบ้านระดับตำนานจากฝรั่งเศส ขอเชิญชวนเหล่าคนรักบ้านและหลงใหลในความหอม สัมผัสปรากฏการณ์ความคุ้มค่ากับ โปรโมชั่น Mid-Year สุดร้อนแรงแห่งปี ที่จัดหนักด้วยตะเกียงน้ำหอมหลากหลายดีไซน์ พร้อมน้ำหอมขนาด 500 มิลลิลิตร ในราคาพิเศษ ลดสูงสุดกว่า 50%
เพราะเรารู้ว่า...กลิ่นหอมที่ดี สามารถเปลี่ยนทุกวันให้เป็นโมเมนต์พิเศษได้ Maison Berger Paris จึงคัดสรรไอเทมแต่งบ้านที่ทั้งหรูหรา สะท้อนรสนิยม และให้คุณได้สัมผัสกลิ่นหอมสะอาดบริสุทธิ์ได้อย่างมั่นใจ ด้วยนวัตกรรมตะเกียงน้ำหอมสิทธิบัตรเฉพาะจากฝรั่งเศส
พบกับ 5 คอลเลคชันไอคอนิก ในราคาพิเศษเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น!
• Pure Lolita Lempicka Set – เพียง 1,850 บาท มนต์เสน่ห์แห่งเทพนิยายที่จับใจ กับดีไซน์ละมุนในโทนม่วงอมชมพู ที่จะสะกดทุกสายตา
• Geode Collection Set – เพียง 2,350 บาท ลวดลายสามเหลี่ยมดีไซน์หรู ผลงานจาก Armand Delsol ให้กลิ่นหอมสะท้อนความสง่างามเหนือกาลเวลา
• Alpha Collection Set – เพียง 2,550 บาท แรงบันดาลใจจากเสาโบราณของเทพปกรณัมกรีก ผสานความสง่าด้วยดีไซน์เฉียบคมและสีเข้มขรึม
• Evanescence Collection Set – เพียง 2,750 บาท การตีความศิลปะการเป่าแก้วแบบร่วมสมัย โดยดีไซเนอร์เบลเยียม Serge Rusak ที่ทั้งลึกลับ หรูหรา และโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
• Maison Berger Paris by Starck Set – เพียง 5,550 บาท ผลงาน Collaboration สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ Philippe Starck ดีไซน์เรียบโก้แบบเหนือระดับ พร้อมฝาโลหะลายออร์แกนิกสุดโดดเด่น
โปรโมชั่นพิเศษเริ่มแล้ววันนี้ – 31 กรกฎาคม 2025 ที่ร้าน Maison Berger Paris ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
📲 Facebook: MaisonBergerThailand
💬 LINE: @maisonbergerthai
🌐 www.maisonbergerthailand.com
🛒 Lazada / Shopee / ShopSabuy / Tiktok
📞 โทร. 02-672-2088
7
news & activity / ไทเชฟขอแนะนำ "วุ้นมะพร้าวมินิในน้ำเชื่อม" เนรมิตได้สารพัดเมนูใหม่
« on: July 07, 2025, 07:46:53 PM »ไทเชฟขอแนะนำ "วุ้นมะพร้าวมินิในน้ำเชื่อม" เนรมิตได้สารพัดเมนูใหม่

ไทเชฟ (ThyChef) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม แนะนำ "วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อมขนาดมินิ" เติมเต็มความอร่อยให้กับทุกเมนูโปรดด้วยขนาด Mini 5x5 mm. ทำให้ง่ายต่อการใช้หลอดดูดและทานได้ทันที เพิ่มความสะดวกสบาย สัมผัสความหอมหวานกับ 3 รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ กลิ่นออริจินัล กลิ่นเมล่อน และกลิ่นสตรอเบอร์รี เพิ่มความหลากหลายและมิติใหม่ให้กับเมนูของหวานไม่ว่าจะเป็นการนำไปท็อปปิ้ง ไอศกรีม, น้ำแข็งใส, เครื่องดื่มเย็น หรือแม้กระทั่งปั่นรวมกับเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบเพื่อเพิ่มมิติของเนื้อสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังอร่อยลงตัวเมื่อทานเป็นขนมหวานเดี่ยว ๆ ช่วยเพิ่มความหลากหลายและสนุกกับการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ได้อย่างไม่จำกัด
นอกจากนี้วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อมของไทเชฟ ยังสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างกำไรให้กับธุรกิจร้านไอศกรีมและร้านน้ำแข็งใส พร้อมยกระดับเมนูและดึงดูดลูกค้าด้วยรสชาติที่โดดเด่น และขนาดที่ใช้งานง่าย สำหรับผู้ที่สนใจวุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม สามารถหาซื้อได้ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อทางออนไลน์กับบริการ “ฟาสต์ ไทเชฟ” สั่งวันนี้ ส่งวันนี้พรุ่งนี้ถึง เร็วทันใจที่ www.thychef.com หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%40vul8664q หรือทาง Lazada : https://www.lazada.co.th/shop/ thychef, Shopee : https://s.shopee.co.th/ 7zslrSS489, FB: ThyChef, ID Line: @thychef รวมถึงสอบถามข้อมูลการทำธุรกิจและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-968-3723-6
8
ข่าวบันเทิง / “มิวนิค-โจ้-หญิง รฐา”ปะทะเดือด“กระสือสยาม SISTERS”แอ็กชันระทึกขวัญสุดเข้ม ช่อง24
« on: July 07, 2025, 06:56:27 PM »“มิวนิค-โจ้-หญิง รฐา” ปะทะเดือด “กระสือสยาม SISTERS” แอ็กชั่นระทึกขวัญสุดเข้ม ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24

“กระสือสยาม SISTERS” ภาพยนตร์แนวแอคชั่น ไซไฟ สยองขวัญ จากผู้กำกับระดับตำนาน ปรัชญา ปิ่นแก้ว ถ่ายทอดเรื่องราวของสาววัยรุ่นที่ค้นพบว่าตัวเองต้องคำสาปสายเลือดกระสือ และเผชิญหน้ากับความลับที่อาจพลิกชีวิตอย่างไม่ทันตั้งตัว นำแสดงโดย มิวนิค นันท์นภัส, หญิง รฐา, โจ้ พลอยยุคล, ต๊อก ศุภกร และทีมนักแสดงคุณภาพ หนังโดดเด่นด้วยภาพเหนือจินตนาการ ดราม่าเข้มข้น และการปะทะอารมณ์สุดทรงพลัง



“โมรา” (มิวนิค นันท์นภัส) สาวน้อยวัย 16 ปีเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเธอมีอะไรบางอย่างไม่ปกติ ไม่ใช่แค่ฮอร์โมนวัยรุ่น แต่เป็นพลังลึกลับที่กำลังตื่นขึ้น ในขณะเดียวกัน “ราตรี” (หญิง รฐา) นางพญากระสือผู้คร่ำหวอดในโลกมนุษย์ กำลังตามล่าโมราเพื่อชำระแค้นที่ฝังลึกกับตระกูลของเธอ “วีณา” (โจ้ พลอยยุคล) พี่สาวผู้เสียสละ ต้องลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องน้องสาวจากเงื้อมมือของเหล่ากระสือ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เมื่อความรักในครอบครัวต้องเผชิญหน้ากับคำสาปจากอดีต การต่อสู้ระหว่างสายเลือดและความแค้นจึงเริ่มต้นขึ้น ภาพยนตร์แฟนตาซี-ดราม่าเรื่องนี้อัดแน่นด้วยฉากแอ็กชั่นสุดมันส์ ดราม่าเข้มข้น และภาพเหนือจินตนาการที่ทั้งสวยและหลอน ติดตามชม “กระสือสยาม SISTERS” ได้ทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และ true4u.com/live วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.40 น.
9
เกมส์ & เกมส์ออนไลน์ / "คิดซ์ แอนด คิทซ์" ตอกย้ำเบอร์ ์1 การ์ดเกมไทย ผนึกกำลัง "บันได" ส่ง "GUNDAM CARD
« on: July 07, 2025, 04:37:19 PM »"คิดซ์ แอนด คิทซ์" ตอกย้ำเบอร์ ์1 การ์ดเกมไทย ผนึกกำลัง "บันได" ส่ง "GUNDAM CARD GAME" ชิงส่วนแบ่งตลาด พร้อมโกยยอดขาย 2 แสนซองในปีแรก คาด รายได้บริษัทฯ ยังโตต่อเนื่อง 10% ปี68

บริษัท คิดซ์แอนด์คิทซ์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายและผลิต Card Game ลิขสิทธิ์แท้จำกญี่ปุ่น ร่วมกับ บริษัท บันได จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) เจ้าของลิขสิทธิ์การ์ดเกมยอดฮิต แบรนด์ “BANDAI CARD GAMES” ตอกย้ำเบอร์ 1 ตลาดการ์ดเกม เดินหน้าเปิดเกมรุก เปิดตัว "GUNDAM CARD GAME" ปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของแฟนกันดั้มและคอการ์ดเกมเมืองไทย ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 2 แสนซองในปีแรกคาดรายได้รวมบริษัทฯ ยังโตต่อเนื่องกว่ำ 10% ในปี 68

นายวีระศักดิ์ กิจเลิศไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิดซ์แอนด์คิทซ์ จำกัด เปิดเผยว่า งาน "GUNDAM CARD GAME" เป็นกำรเปิดตัว "GUNDAM CARD GAME" ให้แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ก่อนจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 นี้ ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการ์ตูนหุ่นยนต์รบยอดฮิตอย่าง “กันดั้ม” แฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มาสู่การ์ดเกมเชิงกลยุทธ์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถจัดชุดการ์ดเกมของตัวเองไปต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นได้ตามใจชอบ ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนๆ ที่เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม ทั้งแฟนการ์ดเกมมือเก๋า และแฟน Gundam และ Gunpla ที่ให้ความสนใจในการเล่นการ์ดเกมเพิ่มขึ้น “GUNDAM CARD GAME เป็นการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จสูงของแบรนด์ BANDAI ทั้ง “Card Game” และ “Gunpla” เข้าด้วยกัน ซึ่งมาพร้อมจุดเด่นที่สามารถรองรับผู้เล่นหลายคน (Multiplayer) และโหมดการเล่นที่หลากหลาย โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคมนี้ เริ่มจากชุดสตาร์ทเตอร์เริ่มต้น และชุดบูสเตอร์หลักแบบกล่องในระยะถัดไป โดยจะมี Gunpla หรือ กันดั้มพลาสติกโมเดล อยู่ในสินค้าบางซีรีส์อีกด้วย

สามารถหาซื้อผ่านร้านจำหน่ายการ์ดเกมพันธมิตรไม่น้อยกว่า 100 ร้าน และเครือข่ายร้านหนังสือชั้นนำอีกกว่า 200 ร้าน ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การตลาดดิจิทัล, โซเชียลมีเดีย, KOLs และ Influencers รวมถึงการสร้างเครือข่ายผู้เล่นที่เข้มแข็งด้วยการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง และการแข่งขันระดับ Championship ไปถึงระดับ World Championship ในช่วงต้นปี 2569 ซึ่งคาดว่า GUNDAM CARD GAME จะได้รับความนิยมในระดับใกล้เคียงกับ One Piece Card Game ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนซอง และมีฐานผู้เล่นที่ร่วมแข่งขันไม่น้อยกว่ำ 1,000 คนในปีแรก” นายวีระศักดิ์ กล่าว

นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า GUNDAM CARD GAME จะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดการ์ดเกมของบริษัทฯ ซึ่งเป็นเพียงแห่งเดียวที่ทำการตลาดการ์ดเกมแบบครบวงจร ด้วยสินค้ำลิขสิทธิ์การ์ดเกมที่มีชื่อเสียงมากมายจากหลากหลายแบรนด์ดัง ทั้ง Bandai, Bushiroad, EPOCH และ Topps ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดการ์ดเกมที่มีอัตราการแข่งขันและมีมูลค่าการตลาดสูง โดยพบว่าในปี 2567 ตลาดการ์ดเกมในประเทศไทย มีมูลค่ารวมสูงถึง 800-900 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2568 นี้ บริษัทฯ จะยังคงเติบโตเพิ่มกว่า 10% จากการนำ GUNDAM CARD GAME เข้าสู่ตลาด รวมไปถึงการ์ดเกมอื่นๆ ที่จะทยอยเปิดตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้

“พวกเรา Kidz and Kitz รู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำ Gundam Card Game มาสู่มือของทุกท่าน ในฐานะผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ Gundam Card Game ไม่ใช่แค่การ์ดเกมธรรมดา แต่เป็นการ์ดที่รวบรวมแก่นแท้ของการต่อสู้อันยิ่งใหญ่และเรื่องราวที่เข้มข้นของจักรวาล Gundam มาไว้ในรูปแบบของการ์ดเกม จึงอยากให้ทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่ในจักรวาล Gundam ที่ไม่เคยมีมาก่อน และหวังว่า Gundam Card Game จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ทุกคนรักและสนุกสนานไปกับมันได้อย่างยังยืน แล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ Gundam Card Game ในประเทศไทยไปพร้อมกัน” นายวีระศักดิ์ กล่าวปิดท้าย

สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบ Gundam Card Game และผู้เล่นการ์ดเกมทุกท่าน สามารถติดตามความเคลื่อนไหว ได้ที่ https://www.facebook.com/thaicarddassclub
10
news & activity / โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ ให้การต้อนรับทีมนักฟุตบอลหญิงจากติมอร์-เลสเต
« on: July 06, 2025, 10:22:11 PM »โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่
ให้การต้อนรับทีมนักฟุตบอลหญิงจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต
ให้การต้อนรับทีมนักฟุตบอลหญิงจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต

เศรษฐพงศ์ วรรธนะกุล (คนที่ 4 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ ให้การต้อนรับ อาเดรียโน่ คาซิมิโร (คนที่ 3 จากซ้าย) โคชผู้ฝึกสอน และทีมนักฟุตบอลหญิงจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ในระหว่างฝึกซ้อมการแข่งขัน AFC Women’s Asian Cup 2026 Qualifiers และให้เกียรติเข้าพัก ณ โรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่
11
Sport News & Motor Sport / *Battle of Bangkok: Alessio ‘The Hammer’ Bisutti Headlines UBO Heavyweight World
« on: July 05, 2025, 10:35:11 AM »*Battle of Bangkok: Alessio ‘The Hammer’ Bisutti Headlines UBO Heavyweight World Championship in Thailand*

BANGKOK, THAILAND — The Thai capital is set to ignite with intensity as world-class boxing returns in the much-anticipated Battle of Bangkok, happening on August 30 at 2 PM at Siam World Stadium. Headlining the event is Alessio “The Hammer” Bisutti, who will be fighting for his first UBO Heavyweight World Championship title. Bisutti’s journey to this stage is nothing short of unbelievable — rising from humble beginnings to becoming a multi-title holder across several major boxing organizations. His relentless drive, raw power, and unshakable focus have earned him global respect, and now, he’s ready to make history in Bangkok.

A decorated champion with titles under the WBO, WBA, WBC, IBF, UBO, ABF, and PAT, Bisutti is no stranger to the ring or the roar of the crowd. With an impressive 13 wins — 12 of them by knockout — and 8 championships captured in just 13 fights, the Italian heavyweight promises to deliver a spectacle fans won't forget.
Hosted by Fight Club Championship (FCC) Thailand, in collaboration with Highland Boxing and Dream Boxing Gottwald, the event is poised to bring global attention to Thailand’s growing role in the international boxing scene. With the backing of streaming giant DAZN, the championship bout will be broadcast live in over 200 countries, with fans also able to tune in on Facebook and YouTube.

“Battle of Bangkok” isn’t just a fight — it’s a celebration of combat sports at its finest, showcasing elite talent, international collaboration, and the electrifying spirit of championship boxing.
Whether you’re ringside in Bangkok or watching from home, prepare for a night of adrenaline, pride, and legacy., Bisutti is no stranger to the ring or the roar of the crowd. With an impressive 13 wins — 12 of them by knockout — and 8 championships captured in just 13 fights, the Italian heavyweight promises to deliver a spectacle fans won't forget.
#####
*Battle of Bangkok: Alessio ‘The Hammer’ Bisutti พาดหัว Ubo Heavyweight World Championship ในประเทศไทย*

กรุงเทพฯ, ไทย-เมืองหลวงของไทยถูกตั้งค่าให้ติดไฟด้วยความเข้มข้นเนื่องจากผลตอบแทนการชกมวยระดับโลกในการต่อสู้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมากในกรุงเทพฯซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคมเวลา 14.00 น. ที่สยามเวิลด์สเตเดียม การจัดงานเป็นเหตุการณ์คือ Alessio“ The Hammer” Bisutti ผู้ซึ่งจะต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์โลก UBO Heavyweight ครั้งแรกของเขา การเดินทางของ Bisutti ไปยังขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรที่ไม่น่าเชื่อ-เพิ่มขึ้นจากจุดเริ่มต้นที่ต่ำต้อยไปสู่การเป็นผู้ถือหลายชื่อในองค์กรมวยสำคัญหลายแห่ง การขับเคลื่อนอย่างไม่หยุดยั้งพลังดิบและโฟกัสที่ไม่สั่นคลอนทำให้เขาได้รับความเคารพทั่วโลกและตอนนี้เขาพร้อมที่จะสร้างประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯ

แชมป์ที่ได้รับการตกแต่งด้วยชื่อภายใต้ WBO, WBA, WBC, IBF, UBO, ABF และ Pat, Bisutti ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับแหวนหรือคำรามของฝูงชน ด้วยการชนะ 13 ครั้งที่น่าประทับใจ - 12 คนโดยการพิศวง - และ 8 การแข่งขันที่ถูกจับในการต่อสู้เพียง 13 ครั้งเฮฟวี่เวทของอิตาลีสัญญาว่าจะส่งมอบแฟน ๆ ที่น่าสนใจจะไม่ลืม
จัดขึ้นโดย Fight Club Championship (FCC) ประเทศไทยโดยร่วมมือกับ Highland Boxing และ Dream Boxing Gottwald งานนี้พร้อมที่จะนำความสนใจไปทั่วโลกมาสู่บทบาทที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทยในฉากมวยนานาชาติ ด้วยการสนับสนุนการสตรีมยักษ์ Dazn การแข่งขันชิงแชมป์จะออกอากาศสดในกว่า 200 ประเทศโดยแฟน ๆ สามารถปรับแต่งบน Facebook และ YouTube ได้

“ Battle of Bangkok” ไม่ใช่แค่การต่อสู้ - เป็นการเฉลิมฉลองกีฬาการต่อสู้ที่ดีที่สุดแสดงความสามารถยอดเยี่ยมการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศและจิตวิญญาณที่น่าตื่นเต้นของการชกมวยการแข่งขันชิงแชมป์
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในกรุงเทพฯหรือดูจากที่บ้านเตรียมตัวสำหรับค่ำคืนแห่งอะดรีนาลีนความภาคภูมิใจและมรดก Bisutti ไม่ใช่คนแปลกหน้าในวงแหวนหรือคำรามของฝูงชน ด้วยการชนะ 13 ครั้งที่น่าประทับใจ - 12 คนโดยการพิศวง - และ 8 การแข่งขันที่ถูกจับในการต่อสู้เพียง 13 ครั้งเฮฟวี่เวทของอิตาลีสัญญาว่าจะส่งมอบแฟน ๆ ที่น่าสนใจจะไม่ลืม
12
news & activity / LINE เปิดตัว “LINE GIFT” เปลี่ยนบทสนทนาให้มีความหมายกว่าเคย
« on: July 03, 2025, 10:18:46 PM »LINE เปิดตัว “LINE GIFT” เปลี่ยนบทสนทนาให้มีความหมายกว่าเคย
สร้างเทรนด์ใหม่แห่งการให้ของขวัญผ่านแชท
สร้างเทรนด์ใหม่แห่งการให้ของขวัญผ่านแชท

LINE ประเทศไทย เปิดตัวบริการใหม่ “LINE GIFT” ต่อยอดบทสนทนาบนแชท สู่การสร้างวัฒนธรรม e-Gifting ที่เข้าถึงได้ในชีวิตประจำวัน เปลี่ยนทุกข้อความให้กลายเป็นโมเมนต์แห่งการให้ สะท้อนความรู้สึกจริงใจในรูปแบบทันสมัยและใช้งานง่าย ภายใต้แนวคิด “ทุกความรู้สึก ชัดกว่าเคย” ที่เชื่อว่าความรู้สึกบางอย่างไม่สามารถสื่อได้ด้วยข้อความเพียงอย่างเดียว LINE GIFT จึงกลายเป็นตัวช่วยใหม่ให้ผู้ใช้สามารถส่งต่อความรู้สึกจริงใจได้อย่างชัดเจนและลึกซึ้ง นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายบทบาทของ LINE จากแอปพลิเคชันแชท สู่ Life Platform ที่ไม่เพียงเชื่อมต่อผู้คนด้วยข้อความ แต่ยังสร้างคุณค่าใหม่ให้กับความสัมพันธ์ของผู้ใช้ทุกกลุ่ม
LINE GIFT เกิดจากความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ชาวไทย ที่ให้ความสำคัญกับการส่งต่อความรู้สึกในชีวิตประจำวันมากกว่าการรอคอยโอกาสพิเศษ การให้ของขวัญจึงกลายเป็นรูปแบบใหม่ของการสื่อสารที่สะท้อนความห่วงใย ขอบคุณ หรือให้กำลังใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานอายุ 26–35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย มีบทบาทในหลายความสัมพันธ์ และมีความคุ้นชินกับวัฒนธรรมการให้ที่ผูกโยงอยู่ในวิถีชีวิตไทยอย่างแนบแน่น อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจดีในการให้มักสะดุดลงจากข้อจำกัดที่ไม่ควรมีในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นความลังเลในการเลือกของขวัญ ความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน ความเกรงใจในการขอที่อยู่ หรือข้อจำกัดด้านระยะทาง LINE GIFT จึงถูกออกแบบมาเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ และเติมความหมายใหม่ให้กับการให้ในโลกออนไลน์ ด้วยประสบการณ์ที่เรียบง่าย รู้ใจ และสอดคล้องกับการใช้งาน LINE ในชีวิตประจำวันของคนไทย
จิรัฏฐ์ วรรธนกรินธ์ หัวหน้าธุรกิจ LINE GIFT กล่าวว่า "จากการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้งาน เราพบว่าคนไทยให้ความสำคัญกับการให้ของขวัญเพื่อสร้างความรู้สึกดีๆ โดยเกือบ 90% ของการให้ของขวัญเกิดขึ้นจาก 'โมเมนต์เล็กๆ' ในชีวิตประจำวัน เพราะคนไทยต้องการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ไม่ว่าจะเป็นการขอบคุณ ส่งความคิดถึง หรือให้กำลังใจ แนวคิด 'ทุกความรู้สึก ชัดกว่าเคย' จึงเป็นการตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของคนไทย ที่บางครั้งรู้สึกว่าข้อความเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะสื่อสารความรู้สึกลึกซึ้งที่อยากส่งต่อ ในยุคที่ LINE เป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารในชีวิตประจำวันของคนไทย เราเชื่อมั่นว่า LINE GIFT จะช่วยยกระดับวิธีการส่งต่อความรู้สึกให้มีความหมายมากขึ้น สนับสนุนให้ผู้ใช้งานกล้าแสดงออกถึงความรู้สึกผ่านของขวัญได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเปลี่ยนบทสนทนาในแชทให้กลายเป็นช่องทางที่ส่งต่อความหมายได้อย่างแท้จริง”

LINE GIFT พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกของขวัญจากแบรนด์ชั้นนำที่คุ้นเคย ครอบคลุมตั้งแต่แบรนด์อาหารและเครื่องดื่ม ไปจนถึงแบรนด์ไลฟ์สไตล์ อาทิ Starbucks, Central Department Store, Robinson, TOPS, ศูนย์การค้าชั้นนำเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป, Dairy Queen, Swensen’s, Burger King, Bonchon, After You, Loft, Let’s Relax, LINE MAN และอีกมากมาย พร้อมส่งผ่านแชท LINE ได้ทันทีด้วยการแนบ e-Voucher หรือเลือกให้จัดส่งของขวัญถึงบ้านโดยไม่ต้องรู้ที่อยู่ของผู้รับ เสริมความใส่ใจด้วยการ์ดหรือข้อความส่วนตัว ใช้ฟีเจอร์ “Wishlist” เพื่อให้ผู้รับระบุสิ่งที่อยากได้ล่วงหน้า และ “Scheduled Send” เพื่อให้ผู้ส่งไม่พลาดทุกโอกาสสำคัญ เช่น วันเกิดหรือวันครบรอบ LINE GIFT จึงไม่ใช่แค่การให้ของ แต่คือการยกระดับบทสนทนาให้เต็มไปด้วยความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน ง่ายพอ ๆ กับการพิมพ์แชท แต่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
การเปิดตัว LINE GIFT สะท้อนวิสัยทัศน์ของ LINE ประเทศไทย ในการยกระดับแพลตฟอร์มจากพื้นที่สนทนา สู่การเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่ในโอกาสพิเศษ แต่ในทุกจังหวะที่ความรู้สึกดีควรถูกส่งต่อได้ทันที LINE มุ่งขับเคลื่อนวัฒนธรรมการให้รูปแบบใหม่ ที่ไม่ต้องรอวันเกิด ไม่ต้องรอเทศกาล แต่ให้ได้ทุกครั้งที่อยากแสดงความใส่ใจ ผ่านประสบการณ์ที่เรียบง่าย เข้าถึงง่าย และกลมกลืนไปกับพฤติกรรมการใช้งานที่มีอยู่แล้ว การให้ในยุคดิจิทัลจึงไม่ใช่แค่เรื่องของของขวัญ แต่กลายเป็นเครื่องมือช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ในทุกวัน ทุกคน และทุกช่วงเวลา

เริ่มส่งต่อความรู้สึกผ่าน LINE GIFT ได้ง่ายๆ เพียงเปิดห้องแชท กดเครื่องหมายบวก (+) แล้วเลือก "LINE GIFT" จากเมนู เลือกของขวัญที่ต้องการ เพิ่มข้อความหรือการ์ดส่วนตัว แล้วกดส่งให้เพื่อนหรือคนสำคัญได้ทันที เปลี่ยนทุกบทสนทนาธรรมดาให้กลายเป็นโมเมนต์พิเศษที่เต็มไปด้วยความหมาย เพราะ "ทุกความรู้สึก ชัดกว่าเคย" ด้วย LINE GIFT
#ทุกความรู้สึกชัดกว่าเคย
#LINEGIF
ติดตามรายละเอียดวิธีการใช้ได้ที่ https://lin.ee/A8sGzth
LINE GIFT Official Account @linegiftth
LINE GIFT Facebook Page https://www.facebook.com/LINEGIFTTH
13
เทคโนโลยีใหม่ๆ - Smart Phone - PC - IT / เริ่มแล้ว!! มหกรรมสินค้าไอทีกลางปี “COMMART UNLIMIT" โปรน็อนสต๊อป ช้อปไม่จำกัด"
« on: July 03, 2025, 07:11:47 PM »เริ่มแล้ว!! มหกรรมสินค้าไอทีกลางปี
“COMMART UNLIMIT" โปรน็อนสต๊อป ช้อปไม่จำกัด"
3-6 กรกฎาคม 2568 ณ ไบเทคบางนา
“COMMART UNLIMIT" โปรน็อนสต๊อป ช้อปไม่จำกัด"
3-6 กรกฎาคม 2568 ณ ไบเทคบางนา

เริ่มแล้ว!! มหกรรมสินค้าไอทีคอมมาร์ต รอบกลางปี 2568 มาในคอนเซ็ปต์ “COMMART UNLIMIT โปรน็อนสต๊อป ช้อปไม่จำกัด" จัดเต็มครบทุกแบรนด์สินค้าไอทีชั้นนำ ACE, Ajazz, AMD, ASUS, AppleSheep, Ascenti, Banana, E-Quip , Bewell, Ergotrend, Epson, iStudio by SPVI, Studio7, IT City, J.I.B, MSI, Secretlab, SPEED Computer, Honeywell และเครดิตบูโร พร้อมเสิร์ฟโปรโมชั่น คูปองส่วนลดแทนเงินสด และลุ้นรางวัล Big Bonus เมื่อช้อปครบทุก 3,000 บาทที่หน้างานได้ทุกวัน ห้ามพลาด 3-6 กรกฎาคม ณ EH 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ที่เดิม

นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า “สำหรับงาน COMMART UNLIMIT ครั้งนี้ เชื่อว่าจะได้เห็นสินค้าจากเทคโนโลยี AI ที่หลากหลายและจำนวนมากยิ่งขึ้น จากหลากหลายแบรนด์สินค้า ที่พร้อมนำมาแสดงและขายภายในงาน ตอกย้ำความเป็นมหกรรมสินค้าไอที ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ที่รวบรวมเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ เกดเจด และอุปกรณ์ต่อพ่วงจากแบรนด์ต่าง ๆ ไว้มากที่สุดที่จะทำให้ผู้ที่สนใจได้สัมผัสสินค้าใหม่ก่อนใครได้ภายในงานเดียว [/size

รอบนี้เราจะได้ชมนวัตกรรมใหม่ จากทาง JIB นำสุดยอดนวัตกรรมใหม่ ‘หุ่นยนต์จีวัน’ จาก ยูนิทรี ที่สุดของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ที่สามารถเคลื่อนไหว และตอบสนองได้อย่างชาญฉลาด ด้วยนวัตกรรม AI และโซนสตรีมเกมสุดล้ำมาเอาใจชาวไอทีแบบครบครัน บูธ IT CITY จัดโปร ซื้อ Notebook ทั้งส่วนลดและของแถม และ ขนสุดยอดสมาร์ตโฟน ทั้ง Samsung Galaxy S25 Ultra, Samsung Galaxy S24 Ultra, Xiaomi 15 Ultra และ Redmi Note 14 Pro+ ลดสูงสุดถึง 12,000 บาท ด้านบูธ BaNANA จัดโปรเก่าแลกใหม่เพียงนำมือถือหรือโน้ตบุ๊คเครื่องเก่าที่ไม่ได้ใช้ มา Trade เพื่อประเมินราคารับเป็นส่วนลดเครื่องใหม่ บูธ Speed ก็มาพร้อมโปร COMSET สเปคหัวแถว ที่คอไอทีไม่ควรพลาด ด้าน AMD มีโปร “เก่าแลกใหม่” เทรดอินโน้ตบุ๊ก รับส่วนลดสูงสุด 20,000 บา

นอกจากนี้ยังมีโปรน็อนสต๊อป ช้อปไม่จำกัด อีกมากมาย อาทิ Nintendo Switch 2 รุ่นใหม่ล่าสุด อุปกรณ์เสริม PlayStation และ Xbox อุปกรณ์ Gaming Gear ราคาสุดพิเศษจากบูธ ACE GAMER, โต๊ะไฟฟ้า ซีเคร็ทแลป แม็กนัส โปร และเก้าอี้เกมมิ่งรุ่น ไททัน อีโว ใหม่ล่าสุด จากคอลเล็กชั่น กันดั้ม และ รุ่นไฮเอนด์ที่คอลแลปกับแบรนด์รถซูเปอร์คาร์ อย่าง แมคลาเรน ลดทันทีสูงสุด 10,000 บาท สินค้าตัวโชว์เริ่มต้นเพียง 2,000 บาท ที่บูธ D13 และนี่เป็นเพียงโปรโมชั่นบางส่วนเท่านั้น ยังมีสินค้าและโปรโมชั่นอีกมากมายที่รอทุกท่านอยู่ที่งานคอมมาร์ต 3-6 ก.ค. 68 ไบเทคบางนา”

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อไอซีทีและการจัดงาน บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า งาน COMMART UNLIMIT มีโปรโมชั่นสุดคุ้ม โดยร่วมกับพันธมิตรได้เตรียมข้อเสนอ เฉพาะช้อปสินค้าในงานเท่านั้น รวมถึงกิจกรรมพิเศษไว้มากมาย ทั้งก่อนและระหว่างงาน ประกอบด้วย

• คอมมาร์ต Big Bonus ช้อปครบทุก 3,000 ได้ลุ้นโชค 2 ต่อ ต่อที่ 1 ลุ้นโชคหน้างานทุกวัน Big Bonus ของรางวัลสุดปัง จับแจกตลอด 4 วัน ต่อที่ 2 อัปโหลดใบเสร็จผ่าน LINE COMMART ได้ลุ้น ของรางวัลเพิ่ม
• คอมมาร์ต วัดดวง ร่วมสนุกหมุนวงล้อ ลุ้นคูปองส่วนลดสูงสุด 10,000.- (แค่สมัครสมาชิกที่บูทคอมมาร์ต)
• คอมมาร์ต on Top ช้อปครบ 50,000.- รับคูปองลดเพิ่ม 500.- (เฉพาะวันพฤหัสบดี-ศุกร์)
• คอมมาร์ต ช่วยจ่ายค่าจอดรถ เพียงซื้อสินค้าในงานคอมมาร์ตครบ 30,000.- แลกสิทธิ์จอดฟรี ได้ 3 ชั่วโมง


งาน COMMART UNLIMIT จัดโดย บมจ.เออาร์ไอพี พร้อมด้วยพันธมิตรธุรกิจคับคั่ง อาทิ ACE, ASUS, AMD, AppleSheep, Ascenti, Banana, Bewell, Ergotrend, E-Quip, Epson, iStudio by SPVI, Studio7, IT City, J.I.B, Lenovo, MSI, Secretlab, SPEED Computer , Honeywell และ เครดิตบูโร ร่วมด้วย Media Partner ได้แก่ techhub, Beartai, Business+, CeeMeAgain, ChargeSPOT, eLeader, ExtremeIT, iT24Hrs., Notebookspec, Overclockzone และ ชอบโปร เข้าชมงานฟรี! เดินทางสะดวกด้วย รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา 3-6 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. – 21.00 น. ณ EH 98 - 99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา


ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและกิจกรรม หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.commartThailand.com, www.facebook.com/commartThailand , และ LINE: @Commart
14
news & activity / พม. พัฒนา “App DepFund” สร้างโอกาส “คนพิการและผู้ดูแล” เข้าถึงบริการเงินกู้ยืม
« on: July 03, 2025, 05:44:48 PM »พม. พัฒนา “App DepFund” สร้างโอกาส “คนพิการและผู้ดูแล” เข้าถึงบริการเงินกู้ยืมง่ายขึ้น
หนุนคนพิการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
หนุนคนพิการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พัฒนานวัตกรรมดิจิทัลให้คนพิการ บริหารจัดการเงินกู้ยืมกองทุนฯ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทันต่อการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ผ่าน “แอปพลิเคชัน DepFund” ตอบโจทย์การเข้าถึงสิทธิด้านการกู้ยืมเงินสำหรับคนพิการในการประกอบอาชีพได้ง่ายยิ่งขึ้น และรองรับความต้องการของคนพิการที่จะใช้บริการกู้ยืมเงินกองทุนฯ จำนวนกว่า 2.2 ล้านคน เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการ จะช่วยให้คนพิการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

(3 กรกฎาคม 2568) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และคณะผู้บริหาร ร่วมเปิดตัว “แอปพลิเคชันกู้ยืมเงินคนพิการ หรือ DepFund” เพื่อให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพโดยไม่มีดอกเบี้ย ทั้งยังเข้าถึงการบริการของภาครัฐได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สมาคมคนพิการ คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานกว่า 200 คน ภายในงานมีการออกบูธแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการที่ประสบความสำเร็จจากการกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเพื่อประกอบอาชีพหรือขยายกิจการ จำนวน 5 ร้านค้า ณ ลานชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวภายหลังการเปิดตัว “แอปพลิเคชันกู้ยืมเงินคนพิการ หรือ App DepFund” ว่า กระทรวง พม. มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เข้าถึงสิทธิของตนอย่างเท่าเทียม โดยงานด้านคนพิการเป็นภารกิจหนึ่งในการขับเคลื่อนการทำงานด้านการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้อยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม โดยปัจจุบัน มีคนพิการในประเทศไทยจำนวน 2,242,693 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.39 ของประชากรไทยทั้งประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2568) ซึ่งในจำนวนนี้ มีคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการใช้บริการการกู้ยืมเงินเพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพหรือขยายกิจการ ของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ภายใต้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวนกว่า 300,019 ราย รวมเป็นจำนวนเงิน 11,284,049,918 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568) การสร้างอาชีพให้คนพิการมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะช่วยเพิ่มกำลังซื้อในตลาด เพิ่มรายได้ให้กับคนพิการ และลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและส่งเสริมให้คนพิการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ

สำหรับการพัฒนานวัตกรรมระบบดิจิทัล “แอปพลิเคชัน DepFund” ภายใต้แนวคิด “เพื่อให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ สามารถเข้าถึงบริการของภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว” เป็นอีกระบบหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนงานด้านคนพิการให้เข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ ที่คนพิการพึงได้รับด้วยความสะดวก รวดเร็ว และทันต่อวิวัฒนาการของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ซึ่งแอปพลิเคชัน DepFund จะช่วยในการบริหารจัดการเงินกู้สำหรับคนพิการ ให้เข้าถึงระบบบริการดิจิทัลด้านเงินกู้ได้อย่างครอบคลุม สะดวก และรวดเร็วขึ้น

“ในปัจจุบันวิวัฒนาการของดิจิทัลถือเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น การพัฒนาและนำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้เพื่อสนับสนุนและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการ จะช่วยให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการได้อย่างไร้รอยต่อ จึงเป็นสิทธิและสวัสดิการหนึ่งที่คนพิการพึงได้รับอย่างเท่าเทียมกับคนในสังคม และการพัฒนา“แอปพลิเคชัน DepFund” ช่วยให้คนพิการมีเงินตั้งต้นประกอบอาชีพได้ทันที ไม่ต้องพึ่งเงินกู้นอกระบบ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้คนพิการเกิดความสะดวกในการกู้ยืมเงินกองทุนฯ โดยไม่ต้องเดินทางมารับบริการต่อหน้าเจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง ทำให้ลดภาระค่าใช้จ่าย ลดปัญหาการเดินทาง ส่งผลให้คนพิการสามารถทำงานหารายได้ ได้อย่างเต็มกำลังมากขึ้น ทำให้คนพิการมีศักยภาพ มีความเข้มแข็ง สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการนำพาประเทศไทยให้เดินไปข้างหน้าอย่างมีเสถียรภาพต่อไป” นายวราวุธ กล่าว

ด้าน นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ระบุว่า กองทุนส่งเสริมและพัฒนา คุณภาพชีวิตคนพิการ โดยกองกองทุนและส่งเสริมความเสมอภาคคนพิการ ได้พัฒนา “แอปพลิเคชัน DepFund” ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพโดยไม่มีดอกเบี้ย
ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กองทุนฯ มีการปล่อยเงินกู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพ
หรือขยายกิจการ ให้คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ จำนวน 14,792 ราย คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 757,121,796 บาท (ข้อมูล ณ 30 กันยายน 2567) ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กองทุนฯ ตั้งเป้าหมายจำนวนคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการใช้บริการกู้ยืมเงินกองทุนฯ จำนวน 15,000 ราย จำนวนเงินกู้ 1,000 ล้านบาท และปัจจุบัน มีคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ กู้ยืมเงินกองทุนฯ จำนวน 6,632 ราย คิดเป็นเงินจำนวน 339,850,285 บาท (ข้อมูล ณ 28 พฤษภาคม 2568) ดังนั้น การพัฒนา “แอปพลิเคชัน DepFund” จะเป็นอีกช่องทางเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการเข้าถึงบริการกู้ยืมเงินกองทุนฯ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น อันส่งผลให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการมีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูตนเองได้อย่างเท่าเทียมกับคนในสังคม

“แอปพลิเคชัน DepFund ที่พัฒนาขึ้น จะช่วยบริหารจัดการการกู้ยืมเงินกองทุนฯ ผ่านระบบดิจิทัล อำนวยความสะดวกให้คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการในการยื่นกู้ยืมเงินกองทุนฯ ตรวจสอบผลการอนุมัติ ยอดคงเหลือ ประวัติการชำระเงิน ทั้งยังสามารถชำระหนี้ที่กู้ยืมผ่าน QR Code ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ สามารถเข้าถึงการบริการของภาครัฐได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android สามารถเข้าใช้งานผ่าน DIGITAL ID” นายโชคชัย กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้บริการคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการกู้ยืมเงินเพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพหรือขยายกิจการ ผ่อนชำระคืนภายในไม่เกิน 5 ปี โดยไม่มีดอกเบี้ย สำหรับการกู้ยืมเงินกองทุนฯ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. การกู้รายบุคคล รายละไม่เกิน 60,000 – 120,000 บาท และ 2. การกู้รายกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการที่สนใจกู้ยืมเงินเพื่อเป็นทุนสำหรับประกอบอาชีพหรือขยายกิจการ สามารถยื่นคำร้องได้ทาง https://efund.dep.go.th/
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและบริการด้านต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนพิการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการอย่างมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ มีความเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม พึ่งพาตนเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ในสังคมต่อไป
15
news & activity / กรมประชาสัมพันธ์โชว์ซอฟต์พาวเวอร์ผ่าน Playful Thainess ดึงดูดต่างชาติในลอนดอน
« on: July 02, 2025, 10:10:43 PM »กรมประชาสัมพันธ์โชว์ซอฟต์พาวเวอร์ผ่าน Playful Thainess
ดึงดูดต่างชาติในลอนดอนกว่า 70,000 คน
ดึงดูดต่างชาติในลอนดอนกว่า 70,000 คน

กรมประชาสัมพันธ์โชว์ศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ “Playful Thainess” ความสนุกแบบไทยไทยในระดับโลก ดึงดูดชาวต่างชาติกว่า 70,000 คนในงาน Thailand Showcase 2025 พร้อมเดินหน้าความร่วมมือ BBC และผลักดันโครงการ “Thainess Beyond Borders”

งาน Thailand Showcase 2025 ณ ลูอิส คิวบิตต์ สแควร์ กรุงลอนดอน ปิดฉากลงอย่างงดงาม ท่ามกลางความประทับใจของผู้เข้าร่วมกว่า 70,000 คนตลอด 3 วัน โดยกรมประชาสัมพันธ์ในฐานะภาคีหลักของการจัดงาน ได้นำเสนอ “Playful Thainess – สนุกแบบไทยไทย” นิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟที่นำซอฟต์ พาวเวอร์ของไทยมาถ่ายทอดในรูปแบบทันสมัย เข้าถึงง่าย และสร้างสรรค์

ภายในนิทรรศการ ผู้เข้าชมได้สัมผัสเสน่ห์ของความเป็นไทยผ่านกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทดลองเป็นผู้ประกาศข่าวในสตูดิโอจำลองของ NBT World, ร่วมเล่นเกม Home Sweet Home ที่นำตำนานและวัฒนธรรมไทยมาสร้างเป็นเกมสยองขวัญแนวอินเตอร์, ถ่ายภาพในชุดไทยด้วย AI Photo Booth และลงมือทำของที่ระลึกจากงานหัตถกรรมพื้นบ้านในกิจกรรม Thai Craft DIY ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ตรงและความประทับใจในอัตลักษณ์ไทยอย่างลึกซึ้ง

นางสุดฤทัย เลิศเกษม อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า นิทรรศการ “Playful Thainess” ถือเป็นการสื่อสารซอฟต์พาวเวอร์ไทยผ่านภาษาที่โลกเข้าใจ โดยใช้นวัตกรรม วัฒนธรรม และนโยบายเป็นเครื่องมือเข้าถึงผู้คนทั่วโลกอย่างมีพลัง พร้อมสร้างภาพจำใหม่ของไทยในบริบทสร้างสรรค์ ทันสมัย และน่าเชื่อถือ

ในโอกาสเดียวกันนี้ กรมประชาสัมพันธ์ยังได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรระดับนานาชาติ โดยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะผู้แทน กปส. ได้เข้าพบหารือกับ Mr. Jon Zilkha ผู้บริหารสูงสุดของ BBC News World Service และ Mr. Khalid Abdalla หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ BBC เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านเนื้อหาภาษาอังกฤษ ซึ่งรวมถึงการนำรายการข่าวของ BBC ไปเผยแพร่ทาง Radio Thailand World Service FM 88.0 MHz, การแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างกัน และการเชิญ BBC เข้าร่วมงาน Media Showcase ของสถาบันพัฒนากิจการวิทยุ - โทรทัศน์แห่งเอเชีย -แปซิฟิก (Asia-Pacific Institute for Broadcasting Development: AIBD)ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนสิงหาคมนี้ ณ จังหวัดภูเก็ต

อีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่ดำเนินควบคู่กัน คือการหารือเพื่อขับเคลื่อนโครงการ “Thainess Beyond Borders” เครือข่ายเยาวชนไทยในต่างประเทศ โดยร่วมกับสำนักงานผู้ดูแลนักเรียนในสหราชอาณาจักร (สนร.), สำนักงาน ก.พ. และสามัคคีสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนให้นักเรียนไทยในต่างแดนร่วมสร้างสรรค์สื่อที่สะท้อนมุมมองต่อความเป็นไทยในมิติใหม่ โดยเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร และเตรียมขยายไปยังสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เยอรมนี และ ฝรั่งเศส

ภารกิจของกรมประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้สะท้อนบทบาทเชิงรุกของประเทศไทยในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ผ่านสื่อสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และพลังของคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้เชิงบวกต่อประเทศไทยในระดับโลกอย่างยั่งยืน พร้อมปูทางสู่โอกาสทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความร่วมมือระหว่างประเทศในอนาคต


