Recent Posts

Pages: 1 ... 8 9 [10]
91
ยิ่งให้...ยิ่งได้
โครงการของ เอช เซม ส่งมอบสิ่งดีๆ ให้สังคมไทย

             โครงการ ยิ่งให้...ยิ่งได้ โดย เอช เซม มอเตอร์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ด้วยความปลื้มใจ ที่ได้ส่งมอบความปรารถนาดีให้กับสังคมไทยมาโดยตลอด และยังคงส่งมอบความรัก ความห่วงใยผ่าน “การให้” ในรูปแบบต่างๆ ประเดิมเปิดปีมะโรงนี้ด้วยการมอบรถกอล์ฟไฟฟ้าให้แก่วัด 3 วัด ในจังหวัดอยุธยาและลพบุรี จำนวน 3 คัน มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท

             นายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด กล่าวถึง กิจกรรมในปีนี้ว่า “ผมได้แรงบันดาลใจมาจากการเห็นการทำงานของพระภิกษุสงฆ์ในด้านต่างๆ เป็นแรงจูงใจให้ผมตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัวและสะดวกสบายขึ้น”

             ดังนั้น ในไตรมาสแรกปีนี้ โครงการ “ยิ่งให้...ยิ่งได้” ของเอช เซม มอเตอร์ ได้มอบรถกอล์ฟไฟฟ้าให้แก่ 2 วัดในอยุธยา และ 1 โรงเรียนที่ลพบุรี โดยเข้ากราบสักการะและถวายรถกอล์ฟไฟฟ้า ขนาด 8 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน พร้อมน้ำดื่ม 60 แพ็ค แด่หลวงพ่อแม้น อาจารสัมปันโน หรือ พระครูสมบูรณ์จริยธรรม วัดหน้าต่างนอก อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


             ต่อมาได้กราบนมัสการและถวายรถกอล์ฟไฟฟ้า ขนาด 8 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน แด่พระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ผู้อำนวยการโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้ในกิจการของโรงเรียน โดยในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคุณนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมถวายด้วย


             และล่าสุดได้เข้ากราบนมัสการและถวายรถกอล์ฟไฟฟ้า ขนาด 5 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน พร้อมน้ำดื่ม 60 แพ็ค แด่พระครูปลัดสุวัฒนเถรคุณ (พระอาจารย์แก้ว) รองเจ้าคณะอำเภอภาชี เจ้าอาวาสวัดตะโก และได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คุณนิวัฒน์ รุ่งสาคร ร่วมถ่ายภาพ


             สำหรับกิจกรรมในไตรมาสสองนั้น คณะทำงานของโครงการ “ยิ่งให้...ยิ่งได้” กำลังหาข้อมูลเพื่อดำเนินการส่งมอบความรู้สึกดีๆ ความขอบคุณ และกำลังใจ ให้กับสังคมไทยและผู้คนรอบข้างต่อไป

###

เกี่ยวกับ โครงการ “ยิ่งให้ ... ยิ่งได้” (Give More Gain More)

เกิดจากแนวคิดและรูปแบบการทำงานของผู้บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด ที่จะมอบความรู้สึกดีๆ ความขอบคุณ และเป็นกำลังใจ ส่งคืนให้กับสังคมไทยและผู้คนรอบข้างในรูปแบบต่างๆ ภายใต้ความเชื่อมั่นและศรัทธาที่ว่าการให้โดยไม่รู้สึกหวงย่อมจะได้รับสิ่งคืนกลับมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอย่างแน่นอน  โดยคำกล่าวที่ว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้” นั้น เป็นโอวาทธรรมของพระธรรมสิงหบุราจารย์ หลวงพ่อจรัล ฐิตธัมโม แห่งวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเมื่อได้นำมาพิจารณาแล้ว มีความสอดรับกับการดำเนินกิจการของบริษัทฯ จึงได้นำโอวาทธรรมดังกล่าว มาตั้งเป็นชื่อโครงการเพื่อเป็นสิริมงคลและย้ำเตือนในการดำเนินธุรกิจต่อไป ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถ โทรสายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ 062-276-5005

หรือ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ FB:
https://www.facebook.com/HSEMMotor.CSR

###

ความหมายของสัญลักษณ์

"มือที่ประสานกัน"

เปรียบเสมือนการให้และการรับ ซึ่งผู้ให้กับผู้รับสามารถที่จะเป็นคนๆ เดียวกันได้ เพราะการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนย่อมได้รับสิ่งกลับคืนในรูปแบบใดแบบหนึ่งอย่างแน่นอน

"วงกลมที่ห้อมล้อมโลโก้บริษัทฯ"

เปรียบเสมือนสายใยเชื่อมโยงการให้และการรับ โดยมี บริษัท เอช เซม มอเตอร์ เป็นผู้เชื่อมสายใยนี้

"สีฟ้า-เขียว"

เปรียบเสมือนพื้นฟ้า พื้นน้ำ พื้นดินบนความเขียวชอุุ่ม ซึ่งเป็นสีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และธรรมชาติคือผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่
92
สจล.เปิดตัวโครงการ EV-Car Sharing : KMITL E-Bike Sharing Project

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Kq8z_w7kKQk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Kq8z_w7kKQk</a>


             คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมกับบริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านการเช่ายานพาหนะไฟฟ้า ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันนั้น ได้จัดโครงการ EV-Car Sharing : KMITL E-Bike Sharing Project เสริมสร้างการเรียนรู้ของนักศึกษาในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่


             ผศ. ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า  สำหรับโครงการ EV-Car Sharing : KMITL E-Bike Sharing Project โดยมุ่งเน้นสนับสนุนให้นักศึกษา และบุคลากร หันมาใช้บริการรถไฟฟ้าภายในสถาบัน เพื่อเป้าหมาย Net Zero Carbon ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการศึกษาข้อมูลจากโครงการที่คณะสามารถนํามาต่อยอดพิจารณาจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่เส้นทางสัญจรหลักที่นักศึกษา บุคลากรใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


             นายอธิเมธ จรัสสุขสวัสดิ์ เจ้าหน้าบริหารคู่ค้าฝ่ายยานยนต์อาวุโส กล่าวว่า ทางสถาบันฯ ให้ความร่วมมือบริษัทเป็นอย่างดีในการมาตั้งสถานีเพื่อดำเนินโครงการและมองว่าโครงการนี้เป็นทางเลือกที่ดี ในการเดินทางด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ของนักศึกษาในการใช้เทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ และเป็นมิตรกับสิ่งวแดล้อม ในราคาที่เข้าถึงได้


             โอกาสนี้ ได้เปิดตัวโครงการ EV-Car Sharing : KMITL E-Bike Sharing Project  ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างบริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านการเช่ายานพาหนะไฟฟ้า กับ คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ และได้มีทดสอบรถและให้บริการ ณ บริเวณที่จอดรถหลังโรงอาหารชั่วคราว เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา





93
Hons เปิดตัวสินค้าสินค้าภายในห้องน้ำ
ดีไซน์สุดล้ำสมัย ด้วย Collection Mountain Grey เน้นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่


นายวุฒิรัฎฐ์ ลีนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีน่า พี.แอล. โฮม จำกัด ผู้ผลิตนวัตกรรมเรื่องบ้านและผู้ผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำ ภายใต้แบรนด์ Hons เปิดตัวสินค้าใช้งานในห้องน้ำภายใต้คอนเซ็ปต์ Beyond Bathroom Solution ดีไซน์สุดล้ำสมัย ด้วย Collection Mountain Grey ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและผ่อนคลายไปพร้อมๆ กัน ที่สำคัญใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการใช้งานระยะยาว พร้อมผนึก โฮมโปร และ เมกาโฮม เป็นช่องทางขายหลัก เร่งตั้งเป้าขยายการตลาดด้วยนวัตกรรมและดีไซน์ที่หรูหราตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยมี นางสาวอริศรา จรรยหาญ, นางสาวทิชา มีซี, นางสาวพัตรฐนิชา โฉมศรี ร่วมงานแถลงข่าว ณ โฮมโปร สาขาเลียบด่วนรามอินทรา
94
LYN เปิดตัวคอลเลกชั่นพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 2024 สุดร้อนแรง






LYN (ลิน) ต้อนรับ Summer 2024 ด้วยพาเหรดไอเทมกระเป๋า รองเท้า และแอคเซสเซอรี่ประจำฤดูกาลกับแคมเปญล่าสุดที่หยิบองค์ประกอบอันจัดจ้าน ตั้งแต่สีสัน บรรยากาศ ไปจนถึงพืชพรรณต่างๆ ของเขตร้อนมาผสมผสานเข้ากับการดีไซน์กระเป๋าและเครื่องประดับสุดไอคอนิค พร้อมนำเสนอความโมเดิร์นเอ็กโซติก ทว่าหรูหรามีระดับ ตอบโจทย์คาแรคเตอร์ทรงเสน่ห์ของผู้หญิงลิน ลายพิมพ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพืชพรรณธรรมชาติ ในเขตร้อน เทคนิคการสานกระเป๋าแฮนด์เมด และสีสันฉูดฉาด ช่วยเพิ่มความจัดจ้านสุดขีดให้กับทุกไอเทม




เติมดีกรีความร้อนแรงให้กับลุคแฟชั่นรับซัมเมอร์นี้ ด้วย Ady Shoulder Bag กระเป๋าสะพายไหล่บุลายพร้อมเท็กซ์เจอร์นุ่มนิ่มน่าสัมผัส มีกลิ่นอายเฟมินีน มาพร้อมกับกระเป๋า Wanda Top Shoulder และ Tote มีจุดเด่นที่เป็นหูจับ ดีเทลผูกที่ให้ฟีลสาวหวานช่วงฮอลิเดย์ จับคู่กับ Breza Zip Card Wallet และ Alana Short Wallet กระเป๋าสตางค์สีคัลเลอร์ฟูลราวกับทุ่งดอกเฮลิโคเนีย หรือกระเป๋า Camora โดดเด่นด้วยเทคนิคสานกระเป๋าให้ฟีลลิ่งหน้าร้อนสุดผ่อนคลายพร้อมสีสันพาสเทลสดใส  ออกแบบมาให้เลือกหลายรูปทรง รวมถึงกระเป๋า Camora Small Basket มาพร้อมฟีเจอร์สายกระเป๋าโค้งมนสอดรับกับไหล่ของผู้หญิงทุกรูปร่าง ช่องใส่สัมภาระขนาดพอดีและสายกระเป๋ายาวถอดปรับได้สามารถนำมาสไตล์ลิ่งเป็นกระเป๋า ครอสบอดี้หรือกระเป๋าสะพายไหล่ รวมไปถึงกระเป๋ารุ่น Senola ที่มาพร้อมลายพิมพ์แพทเทิร์นทรอปิคอล ดึงดูดสายตา ทั้งกระเป๋า Tote ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ยังมีกระเป๋าสตางค์ นำมามิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับเดรสยาวโทนสีสว่างสำหรับลุคปาร์ตี้ริมหาดหรือสไตล์ลิ่งเข้ากับบิกินี่สีสดใส ซึ่งจะช่วยให้วันพักผ่อนของสาวลินมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น








ดื่มด่ำกับไลน์อัพไอเท็มล่าสุดที่ได้แรงบันดาลใจจากแสงแดดร้อนระอุและบรรยากาศพักผ่อนสุดแกลมมาประกอบในงานดีไซน์อย่างลงตัว สู่คอลเลกชั่น Summer 2024 ได้แล้ววันนี้ที่ LYN ทุกสาขาและออนไลน์ที่ LYNACCS.COM

อัปเดตเทรนด์แฟชั่นใหม่ล่าสุดของ “LYN” เพิ่มเติมได้ที่
Instagram: @lynaccs_thailand
Facebook: @LynaccsThailand
LINE Official Account: @lynaccs
TikTok: lynthailand (@lynthailand_official)
95
ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น ต่อยอดตำนานเจ้าแห่งเส้นบะหมี่ สู่ สตรีทฟู้ดมหาชน
รุกทรานส์ฟอร์มธุรกิจ สร้างมาตรฐานสากล เดินหน้าเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด


             ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น ผู้นำสตรีทฟู้ดแฟรนไชส์ครบวงจรอันดับ 1 ของไทย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ มุ่งสู่เป้าหมาย "ครัวของทุกบ้าน อาหารของทุกคน หนึ่งในใจทุกเวลา" พลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่ครอบคลุมทั้ง ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ยกระดับมาตรฐานแฟรนไชส์ พัฒนาสินค้าใหม่ และขยายความร่วมมือกับพันธมิตร มั่นใจสร้างยอดขายเพิ่ม เติบโตได้ยั่งยืน พร้อมอวดผลงานล่าสุดกำไรเติบโต 121% ขึ้นแท่นสตรีทฟู้ดที่หนึ่งในใจคนไทยตลอดไป


             นายพันธ์รบ กำลา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า กว่า 30 ปี แห่งการเติบโตของ ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยวจากร้านรถเข็นริมทางเพียงร้านเดียว กลายมาเป็นแบรนด์ร้านบะหมี่ริมทางที่มีสาขาทั่วประเทศและเป็นที่หนึ่งในใจของคนไทย ความสำเร็จนี้เกิดจากหัวใจของเราที่รักในการบริการ มุ่งมั่นในการส่งมอบอาหารอร่อย คุณภาพสูงให้กับลูกค้า วันนี้เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างมาก ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาที่เราจะต้องยกระดับธุรกิจและองค์กรให้สอดรับและเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง จึงเปิดโอกาสให้ผู้บริหารมืออาชีพรุ่นใหม่ เข้ามาเติมไฟให้กับธุรกิจ เดินหน้าสู่การทรานส์ฟอร์มภายใต้ชื่อ “ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น” ส่งมอบอาหารและบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และพร้อมขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตต่ออย่างมั่นคงและยั่งยืน


             ปัจจุบัน ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น มีแบรนด์สตรีทฟู้ดในเครือ รวม 7 แบรนด์ ได้แก่ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ชายสี่พลัส ชายใหญ่ข้าวมันไก่ พันปีบะหมี่เป็ดย่าง อาลีหมี่ฮาลาล ไก่หมุนคุณพัน ลูกชิ้นทอดโอ้มายก๊อด รวมทุกแบรนด์กว่า 4,500 สาขา และยังมีอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทานภายใต้แบรนด์ชายสี่โกลด์ พร้อมด้วยเครื่องปรุงเพื่อจำหน่ายอีกกว่า 200 รายการ ทุกแบรนด์สินค้าในเครือต่างได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพที่สดใหม่ วัตถุดิบส่งตรงจากศูนย์การผลิตและกระจายสินค้าทั้งหมด 7 แห่งทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และราคาที่เข้าถึงได้จากทั้งผู้ขายและผู้บริโภค ทำให้ชายสี่เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รักของคนไทย


             ด้าน นายอนุชิต สรรพอาษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพสร้างการเติบโต โดยหลังจากผ่านวิกฤต COVID19 ที่ผ่านมา เรากลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 เป็นปีที่เราสร้างยอดขายได้สูงสุดในประวัติกาล โดยมีรายได้รวม 1,085 ล้านบาท และยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2566 เช่นกัน


             ล่าสุดในปี 2565-2566 บริษัทฯ ได้เริ่มสู่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การบริหารต้นทุนอย่างชาญฉลาด รวมถึงการปรับโครงสร้างการบริหารงาน โดยให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากทั้งหมดที่ได้ลงมือทำ เราสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 1.1 พันล้านบาท และการเติบโตของกำไรได้มากกว่า 100% สะท้อนถึงศักยภาพในการปรับปรุงรากฐานขององค์กรให้แข็งแกร่งทั้งทางด้านการเงิน และการปฏิบัติการเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเรากำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ผ่านการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลยุทธ์ ที่มุ่งสนับสนุนให้ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เติบโตได้อย่างยั่งยืน


(1)   พัฒนามาตรฐานแฟรนไชส์ ผ่านการปรับปรุงระบบการบริหารแฟรนไชส์และการบริการทั้งหมดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ โดยใช้ประโยชน์จากศูนย์การผลิตและจัดส่งที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยในการเข้าถึงคู่ค้าและควบคุมคุณภาพแฟรนไชส์


(2)   พัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมตามความต้องการของตลาด โดยให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้โดยง่าย ทั้งร้านอร่อยริมทาง ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนอกจากแบรนด์สตรีทฟู้ดทั้ง 7 แบรนด์แล้ว เรายังมีสินค้าพร้อมทานที่จำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ


(3)   พัฒนาพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจร่วมกัน ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความชำนาญเฉพาะทางเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ ในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน รวมถึงการการเข้าซื้อกิจการต่างๆที่มีศักยภาพ โดยล่าสุดได้มีการเข้าซื้อกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังเมืองกรุงเก่า “เสือร้องไห้” และแบรนด์เบเกอรี่ที่เป็นที่นิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยว “บริกซ์” โดยในการเข้าซื้อกิจการได้ใช้รูปแบบที่จะยังคงสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อให้เจ้าของแบรนด์ยังได้ใช้ความเชี่ยวชาญของตนในการบริหารและพัฒนาแบรนด์ต่อได้ อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Cabalen Group กลุ่มธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ของประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อส่งมอบตำนานความอร่อยสู่สากล




             “บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการรีแบรนด์ ปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัย สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ขึ้นเป็นผู้นำร่วมขับเคลื่อนองค์กร ผ่านโปรแกรมพัฒนาบุคคลสู่ความสำเร็จ พร้อมจัดสวัสดิการพนักงานให้ทัดเทียมองค์กรชั้นนำ ชายสี่ฯ เชื่อมั่นว่าการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ผ่านกลยุทธ์หลักนี้ จะส่งเสริมและยกระดับให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์แถวหน้าในธุรกิจอาหารของไทยและเติบโตได้ไร้ขีดจำกัด” นายอนุชิต กล่าวสรุป

#ChaixiCorporation
#สตรีทฟู้ดมหาชนของทุกคน
96
DITP ลุยจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024
ยกทัพผู้ประกอบการอาหารกว่า 40 ประเทศ ร่วมแสดงสินค้า 28 พ.ค. – 1 มิ.ย. 67


              กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ หอการค้าไทย และ โคโลญเมสเซ่ ประเทศเยอรมนี เดินหน้าเตรียมจัดงานแสดงสินค้าอาหารครั้งยิ่งใหญ่ THAIFEX - ANUGA ASIA 2024 ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 บนพื้นที่กว่า 130,000 ตร.ม. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี คงคอนเซปต์ Beyond Food Experience ที่เป็นมากกว่างานแสดงสินค้าอาหารทั่วไป พบสินค้าที่สร้างความแตกต่าง สร้างโอกาสทางการค้าที่เหนือกว่า พร้อมค้นหาแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ จากผู้ประกอบการไทยและอีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลก


              นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า THAIFEX - ANUGA ASIA เป็นงานที่มีชื่อเสียงในวงการอาหารและเครื่องดื่มของโลก นอกจากนี้ยังเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในภูมิภาคเอเชีย จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ ประเทศเยอรมนี ซึ่งทั้ง 3 ฝ่าย มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้งานนี้เป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่อยู่ในวงการอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก


              “THAIFEX - ANUGA ASIA จัดปีละครั้ง ปีนี้จะมีผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศจากกว่า 40 ประเทศ มาร่วมแสดงสินค้ารวมกว่า 3,000 คูหา โดยงานจะจัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Beyond Food Experience ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายว่า นอกจากจะมีการเจรจาธุรกิจทางด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ครบวงจรแล้ว งานนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมงานได้มาค้นหาสินค้าอาหารที่จะสร้างความแตกต่าง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ รวมทั้งได้มาศึกษาเทรนด์อาหารในอนาคต เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ และค้นหาข้อมูลความรู้ แรงบันดาลใจ ขอคำปรึกษา เพื่อสร้างธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ งานนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งที่เป็นเจ้าของกิจการ ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายการตลาด ผู้ที่เริ่มทำธุรกิจ รวมถึงสตาร์ตอัป และผู้สนใจทั่วไป” นายภูสิต กล่าว




              ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2024 ได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โทร.1169 หรือ www.ditp.go.th และลงทะเบียนเข้าชมงานได้ที่ www.thaifex-anuga.com เจรจาธุรกิจวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00-18.00 น. จำหน่ายปลีกวันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 5-12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
97
"ไวไว" ส่งต่อความสุข ในงาน
"NONT TANONT BIRTHDAY SPORT PARTY 2024"


นายธนปกรณ์ วูวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด(บริหารผลิตภัณฑ์) บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "ไวไว" ร่วมออกบุธในงาน "NONT TANONT BIRTHDAY SPORT PARTY 2024" โดยเจ้าของวันเกิด 'นนท์ ธนนท์' พร้อมด้วย 'บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว' ร่วมส่งต่อพลังบุญอันยิ่งใหญ่ มอบผลิตภัณฑ์ มูลค่า 10,000 บาท ให้กับมูลนิธิกระจกเงา โดยมี 'คุณวีราภรณ์ ประสพรัตนสุข' หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรมูลนิธิกระจกเงา เป็นผู้รับมอบ ซึ่งภายในงานยังมีการเสริมทัพด้วย 'บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว' ที่อาสาพารสชาติในตำนาน มาเติมเต็มความอร่อย พร้อมแถมท็อปปิ้งฟรี 1 อย่างให้เลือกตามใจชอบ งานนี้แฟนคลับจัดเต็มทั้งความอร่อย และความมันส์ ทั้งเกมส์การแข่งขัน และกองเชียร์ที่มาสร้างสีสันภายในงาน ณ MCC Hall เดอะมอลล์บางกะปิ เมื่อเร็วๆ นี้

98
ฮากรามค้าง!! หนังล้อเลียนเกรียนแตก “จันชรา” ที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


             “จันชรา” หนังล้อเลียนที่หยิบเอาหนังดังยอดฮิต จากวลีที่คุ้นเคย “จันเอาน้ำแข็งมาถูหลังให้ฉันสิ” มาแปลงเป็นฉบับใหม่ จนเกิดความน่าขันแกมน่าหยิก นำแสดงโดยตลกชื่อดัง หน่อย เชิญยิ้ม นุ้ย เชิญยิ้ม แอนนา ชวนชื่น โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม และโจอี้ เชิญยิ้ม มาร่วมสร้างความบันเทิงครบรส บอกเลยว่างานนี้ ต้องมีขำกรามค้างไปกับพล็อตเรื่องเด็ดคลายเครียดกันเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมงเต็ม




             จัน (หน่อย เชิญยิ้ม) ผู้เฒ่าคนหนึ่งที่เข้ามาอยู่ในศูนย์ฟื่นฟูสุขภาพจิตบ้านปากกัด ซึ่งมีผู้สูงอายุหลายประเภทมาพักอาศัยและใช้ชีวิตปั้นปลายอย่างสงบที่นี่ ในอดีตจันเคยเป็นเสือเก่า แต่พออายุมากขึ้นก็ถอดเขี้ยวเล็บ จนกลายเป็นชายแก่ที่ไร้พิษสง บางครั้งจันจะเล่าเรื่องในอดีตให้เพื่อนฟัง ถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของตนว่าทำไมเขาต้องกลายมาเป็นจอมโจรร้าย แต่เรื่องกลับดันมาโป๊ะตรงที่ว่าเหล่าเหยื่อของจันที่เคยถูกปล้น ฆ่า และข่มขืน ต่างมาพักอาศัยที่บ้านพักคนชราแห่งนี้เหมือนกัน แล้วพวกเขาจะแก้แค้นจันหรือไม่ ต้องไปดูกันต่อในภาพยนตร์ “จันชรา” วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2567 เวลา 20.45 น.ชมฟรีดูสนุกทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทาง https://true4u.com/live
99
วิเคราะห์สาเหตุโครงสร้างถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวไต้หวัน


ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย

              จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.4 แมกนิจูด เกิดขึ้นนอกชายฝั่งตะวันออก ห่างออกไปทางทิศใต้ของเมืองหัวเหลียนประมาณ 20 กิโลเมตร ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย อธิบายว่า ตามข้อมูลจากหน่วยงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (USGS) สาเหตุของแผ่นดินไหวเกิดจากรอยเลื่อนย้อน (Reverse faulting) เกิดขึ้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย และแผ่นทะเลฟิลิปปินส์ ที่ระดับความลึก 34.8 กม. อยู่ในบริเวณวงแหวนไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่มีการเกิดแผ่นดินไหวชุกชุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


              การเกิดรอยเลื่อนย้อนดังกล่าวทำให้เกิดการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งของแผ่นเปลือกโลก จึงทำให้เกิดสึนามิซัดเขาหาชายฝั่งตามมา ขณะนี้ตรวจพบคลื่นสึนามิสูงประมาณ 30 ซม. ซึ่งยังไม่เป็นอันตรายมาก อย่างไรก็ตามแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจัดเป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ และมีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 25 ปี แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลถึงกรุงไทเป และในประเทศจีนด้วย และยังมีอาฟเตอร์ช็อกที่มีขนาดมากกว่า 5 แมกนิจูดเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มในบางพื้นที่อีกด้วย


              สำหรับข้อสังเกตการณ์ถล่มของอาคารหลายหลัง ในเมืองหัวเหลียน ศ.ดร.อมร พิมานมาศ อธิบายว่ามีโครงสร้างอาคารพังถล่มหลายหลัง โดยพบรูปแบบบการพังถล่มที่เกิดขึ้นในชั้นล่างของอาคาร ซึ่งทางวิศวกรรมเรียกว่าการวิบัติแบบชั้นอ่อน (Soft storey) โดยเสาชั้นล่างของอาคารจะถูกทำลาย ทำให้อาคารส่วนที่เหลือล้มเอียงทำมุม 45 องศากับพื้นดิน และอาคารที่พังทลายลักษณะนี้ น่าจะเป็นอาคารเก่าที่ยังไม่ได้รับการเสริมกำลัง

              อาคารที่มีความเสี่ยง “ชั้นอ่อน” จะมีลักษณะที่ชั้นล่างเปิดโล่ง มักเป็นอาคารพาณิชย์ ที่เปิดโล่งชั้นล่างทางด้านหน้า 1 ด้านเพื่อใช้ทำการค้า ส่วนด้านที่เหลือมีการก่อผนัง จึงทำให้เสาชั้นล่างด้านที่เปิดโล่งเป็นเสาอ่อนแอ จึงพังทลายและทำให้อาคารล้มเอียงลงมา ดังที่เกิดขึ้น

              แผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นที่ไต้หวัน ไม่ได้ส่งผลกระทบมาที่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยก็ยังมีความเสี่ยงแผ่นดินไหวระดับปานกลาง ในหลายพื้นที่ เช่น ภาคเหนือ ภาคตะวันตก ตลอดจนถึงกรุงเทพมหานคร ดังนั้น ประเทศไทยจึงควรเตรียมพร้อมรับมือแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการเสริมความแข็งแรงให้แก่อาคารเก่า ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น การพอกขยายเสาให้ใหญ่ขึ้น หรือการติดตั้งค้ำยันทแยง (Bracing) ซึ่งเป็นวิธีการที่ลดความเสี่ยงการวิบัติจากชั้นอ่อนได้
100
เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา DIGITAL SOUNDCHECK by “New ISUZU V-CROSS 4x4”


               กรุงเทพฯ – นายวิชา พูลวรลักษณ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) และ นายวิชัย สินอนันตพัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมตัว เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา DIGITAL SOUNDCHECK by “New ISUZU V-CROSS 4x4 รุ่น UNLOCK THE  UNDISCOVERED THAILAND” ครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ IMAX with Laser พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน), และนางสาวสรรวรส พุทธเจริญลาภ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดรถเล็ก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด  ร่วมเปิดประสบการณ์ในคอนเซ็ปต์การผจญภัยในป่า โดยมี แน็ก - ชาลี ไตรรัตน์ และ อุล - ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา ร่วมแสดงความยินดีพร้อมรับชมภาพยนตร์ ณ ชั้น ที่ชั้น 5 พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

จากซ้ายไปขวา


1.แน็ก - ชาลี ไตรรัตน์ นักแสดง ยูทูบเบอร์

2.นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)

3.นายวิชา พูลวรลักษณ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)

4.นายวิชัย สินอนันตพัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

5.นายสรรวรส พุทธเจริญลาภ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดรถเล็ก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

6.นางสาวอร รักติปกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์และนโยบายอุตสาหกรรม บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

7.อุล - ภาคภูมิ จงมั่นวัฒนา พิธีกร


Pages: 1 ... 8 9 [10]