Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 2397
31
สมศักดิ์ศรี AKA CHAMPION คนแรกของประเทศไทย
เอ็กซ์กินจุ สร้างสถิติกินจุกว่า 90 ถาด คว้าเงินรางวัล 100,000 บาท
กับแคมเปญสุดเดือด AKA Champion "ปิ้งจุก สุขทั่วไทย"


              กว่า 1 เดือนเต็มที่เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของแคมเปญการตลาดสุดเดือดของแบรนด์ AKA กับ AKA CHAMPION “ปิ้งจุก สุขทั่วไทย” ซึ่งเป็นการรวมตัวของ สายกินจุ คนกินดุ แบบจุก ๆ สไตล์อากะ กว่า 300 คนทั่วประเทศ ที่ยกขบวนมาร่วมแข่งกินและสร้างสีสันให้แคมเปญสนุกยิ่งขึ้น นอกจากการสร้าง Brand Awareness ได้อย่างทั่วถึงแล้ว ยังเพิ่มยอดขายทั่วประเทศได้กว่า 14% และกวาดมูลค่า Earn Media หลังจบแคมเปญได้ถึง 40ล้านบาท


              โดยล่าสุดแคมเปญก็ได้แชมป์ AKA CHAMPION คว้าสุดยอดนักกินจุ คนแรกของประเทศไทย พร้อมรับเงินแสน และถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะ รวมถึงรางวัลกินฟรี Premium Buffet ตลอดปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตลอดแคมเปญในรอบคัดเลือกทั้ง 5 ภาค ได้รับเกียรติจกากนักกินตัวท็อปของประเทศ อาทิ แน็ท ณัฐธนนท์ (NAT VS FOOD), ชัย กษิดิ์เดช (ชัย EATER CHAI), โป้ง ชูพัฒน์ (โป้ง The Fadd), เต้ย ยุทธนา (เต้ย นักกินแหลก), ก้อย จงจิตร (เจ้ก้อย โซ้ยแหลก), ย้ง อนุเทพ (นักกล้ามหมื่นแคล) และอีกหลายท่านที่มาร่วมแข่งสร้างสีสันภายในงาน


              ทั้งนี้การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ณ ร้านอากะ สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 กรุงเทพฯ มีนักกินจุตัวแทน  จาก 5 ภาค จำนวน 15 คน ร่วมการแข่งขันกันอย่างดุเดือด สู้กันแบบถาดต่อถาดไม่มีใครยอมใคร พร้อมกับเสียงเชียร์จากแฟน ๆ นักกินจุ ที่เดินทางมาร่วมลุ้นผลการแข่งขันจำนวนมาก โดยสุดยอดนักกินจากภาคกลาง เอ็กซ์กินจุ วรชัย วิจิตรวงศ์เจริญ คว้าแชมป์รับ 100,000 บาท สร้างสถิติกินจุ 90 ถาด ภายในเวลา 60 นาที เป็นสุดยอดนักกินจุ AKA Champion ประจำปี 2567 คนแรกของประเทศไทย ได้อย่างสมศักดิ์ศรี และรางวัลสุดยอด “ตัวจี๊ด” ได้แก่ “IRON AKA” นักกินจุผู้ที่นำโปรดักส์ภายในร้านมาตกแต่งเป็นชุดเข้าแข่งขันได้อย่างสร้างสรรค์ ด้านการมอบรางวัลได้รับเกียรติจาก คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ คุณกมล กุลศิริชัยวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการแบรนด์ อากะ มอบรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน พร้อมด้วย คุณพิมพ์ภัทรา จันทร์หิรัญ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เซ็นทรัล พระราม 9 มาร่วมแสดงความยินดีกับแชมป์อากะคนแรกของประเทศไทยด้วย


              เอ็กซ์กินจุ วรชัย วิจิตรวงศ์เจริญ AKA Champion ประจำปี 2567 คนแรกของประเทศไทย เผยว่า “สนุกและตื่นเต้นมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะช่วง 10 นาทีสุดท้าย เสียงเชียร์จากทุกคนทำให้ผมสนุกและอยากกินไปเรื่อย ๆ จนนาทีสุดท้าย ตอนแรกผมจะกินแค่พออิ่ม แต่เสียงเชียร์บอกให้ผมย่างอีก กินอีก โดยที่ไม่ได้โฟกัสผู้เข้าแข่งขันท่านอื่น ๆ เลย ทำให้ผมสนุกมาก ๆ และอยากขอขอบคุณร้านอากะที่มีแคมเปญดี ๆ แบบนี้ ให้เซียนบุฟเฟต์ทั่วประเทศได้มีโอกาสมารวมตัวกัน สร้างสถิติของตัวเองอีกครั้งครับ”




              คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แบรนด์ AKA เป็นอีกแบรนด์ในเครือ เซ็น กรุ๊ป ที่มีการขยายสาขาใหม่ถึง 15 สาขา ภายในปี 2566 ที่ผ่านมา มุ่งเน้นการขยายไปสู่พื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง พร้อมกับการตั้งเป้าเพื่อให้ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยแคมเปญนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพและความสำเร็จของแบรนด์ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีตามเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้งยังเป็นเครื่องการันตีว่าแบรนด์ AKA เป็นหนึ่งในตัวเลือกร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างอันดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึง สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณแฟนอากะที่ให้ความสนใจมาร่วมการแข่งขันจำนวนมาก รวมถึงชาวต่างชาติที่มาร่วมแข่งขันในครั้งนี้ด้วย”




              ฝากติดตามได้ที่ช่องทาง Facebook และ Instagram : AKA Japanese Restaurant”
#AKACHAMPION #อากะปิ้งจุกสุขทั่วไทย #AKAYAKINIKU

32
“วอนโดนเตะ” หนังแอคชั่นคอมเมดี้สัญชาติไทย-เกาหลี ดูสนุกที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


            ทรูโฟร์ยูเตรียมฉายความสนุกให้ได้ชมกันอีกแล้ว กับภาพยนตร์ลูกครึ่งไทย-เกาหลี "วอนโดนเตะ" แนวแอคชันคอมเมดี้ ผลงานของ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ผู้กำกับมือทองที่ได้ผสานศิลปะการต่อสู้มวยไทยและเทควันโดเข้าด้วยกันจนกลายเป็นภาพยนตร์แอคชั่นระดับโลก นำแสดงโดย ตลกซุปตาร์ "หม่ำ จ๊กมก" และราชินีนักบู๊ "จีจ้า ญาณิน" แท็คทีมนักแสดงแดนกิมจิชื่อดัง ร่วมสร้างสีสันความบันเทิง บู๊ครบรสมันส์สนั่นจอ ที่ไม่ควรพลาดชมทางทีวีหมายเลข 24






            เริ่มจากครอบครัวของ มูน (โจแจฮุน) อดีตนักเทควันโดทีมชาติเข้าไปเห็นและขัดขวางแผนการลักลอบขโมยกริชโบราณ สมบัติอันล้ำค่าที่แก็งค์ของ “ซอคดู” (อีกวันฮุน) กลุ่มโจรต้องการแย่งชิงมาครอบครองเพื่อเป็นสมบัติของตนเอง ครอบครัวของมูนถูกไล่ล่าหมายปองปลิดชีวิต มูนตัดสินใจพาลูกทั้ง 3 คนหลบหนีโดยนำไปฝากไว้ที่บ้านป่าของ “หม่ำ” (หม่ำ จ๊กมก) เพื่อนสนิทชาวไทยที่ทำอาชีพเป็นผู้ดูแลสวนสัตว์ และทำให้เขาได้รู้จักกับ “หว่าหวา” (จีจ้า ญาณิน) หญิงสาวผู้เก่งกาจด้านการต่อสู้มวยไทย พวกเขาจึงผนึกกำลังร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัวและคนรัก จนนำมาสู่มิตรภาพอันน่าประทับใจ ห้ามพลาดชม ภาพยนตร์ "วอนโดนเตะ" วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 18.40 น. ชมฟรีดูสนุกทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทาง https://true4u.com/live

33
“ไทยแลนด์ ยัง มิวซิเชี่ยนส์ อวอร์ด” พื้นที่ดนตรีสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่




               ด้วยความรักในเรื่องของดนตรีเป็นทุนตั้งแต่เด็ก จึงทำให้ผู้บริหารหนุ่มอย่าง แทน-จุลยุทธ โล่โชตินันท์ จึงมุ่งมั่นที่จะใช้ดนตรีเพื่อเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือสังคม โดยรวบรวมนักดนตรีจิตอาสาเข้าร่วมวง บางกอกแชริตี้ ออเคสตร้า (Bangkok Charity Orchestra) ที่เขาก่อตั้งขึ้น ซึ่งถือเป็นวงออเคสตร้าวงแรกของเมืองไทยที่มีจุดประสงค์ในการทำงานเพื่อการกุศลร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเจ้าตัวยังรับหน้าที่เป็นวาทยกรหรือคอนดักเตอร์ประจำวงด้วยตนเองอีกด้วย




               หลังจบโททางด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ จุลยุทธ ทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนชื่อดังของประเทศอังกฤษอยู่ถึง 4 ปี ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น จุลยุทธ ยังได้หมั่นฝึกซ้อมเล่นดนตรี ทั้ง ไวโอลิน และ เปียโน จนได้มีโอกาสร่วมเล่นคอนเสิร์ตกับวงของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เป็นประจำ ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นคอนดักเตอร์ (วาทยกร) ได้ในที่สุด

               หลังจากนั้น จุลยุทธ ได้ตัดสินใจกลับมาทำงานในเมืองไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษาบริษัท แคปโค นอกจากจะทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มร้อยแล้ว เขายังแบ่งเวลาว่างมาทำงานด้านดนตรีที่รักเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย โดยทำหน้าที่เป็นคอนดักเตอร์ ก่อนที่จะได้ริเริ่มก่อตั้งวง บางกอก แชริตี้ ออเคสตร้า ขึ้น ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะทำการแสดงเพื่อการกุศล จากวงออเคสตร้าเล็กๆ ตอนนี้ BCO มีสมาชิกมากกว่า 7-800 คน ที่มาจากหลายวงการ หมุนเวียนมาร่วมทำการแสดงกับเรา ก่อนที่ล่าสุด จุลยุทธ ยังจะได้ตัดสินใจจัดการประกวด ไทยแลนด์ ยัง มิวซิเชี่ยนส์ อวอร์ด 2024 (Thailand Young Musicians Award 2024) ขึ้น เพื่อหวังให้เป็นเวทีสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่สนใจในดนตรีคลาสสิค ร่วมสมัย และดนตรีไทย





               “ไทยแลนด์ ยัง มิวซิเชี่ยนส์ อวอร์ด 2024 เราจัดขึ้นเป็นปีแรก โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 10 ท่าน ทำการคัดเลือกผู้ที่ส่งผลงานเข้ามาประกวดจำนวนกว่า 400 คน จนเหลือ 25 คน ซึ่งเราอยากจะให้เยาวชนเหล่านี้ได้มีโอกาสแจ้งเกิด และได้มีเวทีในการแสดงออก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต”

               “สำหรับเยาวชนคนรุ่นที่จะเข้าศึกษาด้านนี้ ก็อยากจะให้ทุกคนได้ลองเปิดใจในทุกๆ ด้าน อย่าเพิ่งตั้งข้อจำกัดในการศึกษาดนตรีในทุกแนว ทุกประเภทก่อน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสที่จะทำให้เราได้รู้ว่าชอบอะไรจริง ถ้าเราไม่ลอง ก็จะไม่รู้ว่า เราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ซึ่งในอนาคตผมก็ยังตั้งใจที่จะจัดการประกวดต่อไป เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ ที่อาจจะมีโอกาสได้เข้าร่วมวงออเคสตร้า หรือก้าวขึ้นไปในเวทีระดับนานาชาติต่อไปในอนาคตในปีนี้ถือว่า มาตรฐานค่อนข้างน่าพอใจ ซึ่งในปีหน้า เราก็คาดหวังว่า จะมีความหลากหลายในแนวดนตรีมากยิ่งขึ้น”




               ไทยแลนด์ ยัง มิวซิเชี่ยนส์ อวอร์ด 2024 เป็นการประกวดขับร้อง และดนตรี ที่เปิดกว้างสำหรับดนตรีคลาสสิค ร่วมสมัย และดนตรีไทย เพื่อเฟ้นหาศิลปินและนักดนตรีเยาวชนระดับประเทศ โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของวงการดนตรีระดับประเทศ ถึง 10 ท่าน ประกอบด้วย 1. ผศ.ดร.นัทธี เชียงชะนา 2. ดร.พรพรรณ บันเทิงหรรษา 3. มิสเซรีน เดลาโบม (Ms. Serine de Labaume) 4. ผศ.ดร.ทัศนา นาควัชระ 5. อ.โน้ต-วีรฉัตร เปรมานนท์ 6. อ.มาททิโอ ดิ เกรกอริโอ (Mr. Matteo Di Gregorio) 7. ผศ.ดร.สมชัย ตระการรุ่ง 8. อ.ดาเรศ รักษาราษฎร์ 9. อ.ธรรศตะวัน ไขแสง 10. อ.เดบบี้ ทูลอค (Debbie Tulloch)

               การประกวด ไทยแลนด์ ยัง มิวซิเชี่ยนส์ อวอร์ด 2024 (Thailand Young Musicians Award 2024) ได้จัดขึ้น ณ โรงละคร อักษรา เพื่อเปิดโอกาสให้ Top 25 Thailand Young Musicians Award ได้ขึ้นแสดงเดี่ยว เพื่อโชว์ความสามารถ พร้อมทั้งยังมีการมอบรางวัลให้กับ Top 10 Thailand Best Music Teachers อีกด้วย

 
               สำหรับ Top 25 Thailand Young Musicians Award ประกอบด้วย เปียโน : 1. กมลภูมิ อนุตรเศรษฐ์ 2. ธตรัฐ วณิชย์กอบจินดา 3. พาทิศณัฐฆ์ กัมมารพัฒน์ 4. ภพณัช กุลมาตย์ 5. ภาพิชชา เวชมงคลกร 6. ภัสชา เลี้ยววัฒนา 7. ดริณดา จูฑะพล 8. ณิชมน ศิริพล 9. ณปภัช บุญธนนิตย์ 10. ณัฐชนก ชลคุป




               พอร์ช-พาทิศณัฐฆ์ กัมมารพัฒน์ อายุ 10 ขวบ จาก รร.นานาชาติ รีเจนท์ นักเปียโนวัยเยาว์ เผยว่า “ผมเคยผ่านการประกวดมาหลายเวที ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยมีความถนัดในเครื่องดนตรีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เปียโน หรือการขับร้องเพลงคลาสสิค เป็นเพราะมีใจรักในการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก โดยจะใช้เวลาในการฝึกซ้อมประมาณ วันละ 1-2 ชม. เป็นอย่างต่ำ โดยเตรียมตัวลงประกวดทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติอยู่ ซึ่งในอนาคตผมก็ตั้งใจอยากที่จะพัฒนาตนเองขึ้นไปเป็นนักดนตรีระดับประเทศให้ได้สำเร็จ”

               ร้องเพลง : 11. ภัคธดา เอกภพโยธิน 12. พาทิศณัฐฆ์ กัมมารพัฒน์  กีตาร์คลาสสิค : 13. ชยันตี สรรพกิจไพศาล 14. ติณณ์  ไชยสถิตวานิช 15. เมฆา สุวีรานนท์ 16. รุจิภัค เอกภพโยธิน เครื่องสาย : 17. จิรัชญา ตั้งสันติกุล 18. ณพิชญา แซ่จิว กลอง : 19. ชยุตพงศ์ วาระโว 20. ศศะณัณญ์ สุหัตถาพร 21. สฤชน์ สุธรรมรักษ์ เครื่องเป่า :  22. จตุรพร สินสิทธิประเสริฐ  ดนตรีไทย : 23. วิเศษปิยา เตชะเจริญวิกุล 24. ดร เดชะรินทร์ ,ดล เดชะรินทร์




               ทางด้าน น้องชัญญา-จิรัชญา ตั้งสันติกุล อายุ 10 ขวบ จาก รร.สาธิตประสานมิตร นักดนตรีไวโอลิน เล่าว่า “หนูเริ่มเล่นไวโอลิน มาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เหตุเพราะชื่นชอบในเสียงของเครื่องดนตรีชนิดเป็นอย่างมาก หนูใช้เวลาฝึกซ้อมเป็นประจำทุกวัน วันละ 2-3 ชม. ไม่เคยรู้สึกเบื่อหรือท้อ เพราะว่าชื่นชอบมากๆ ค่ะ หนูตั้งใจว่าจะอยากจะเล่นต่อไปจนก้าวขึ้นเป็นนักดนตรีอาชีพระดับนานาชาติในอนาคต แต่ถ้าเลือกได้ หนูอยากจะลองฝึกเล่น ฮาร์ป กับ กลองชุด เพราะคิดว่าน่าจะเล่นได้ง่ายกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆ”




               ด้าน น้องออกัส-ณพิชญา แซ่จิว อายุ 13 ปี จาก รร.มาแตร์เดอีวิทยาลัย นักดนตรี ฮาร์ป (พิณฝรั่ง) เล่าว่า “หนูมีความชื่นชอบเครื่องดนตรีชนิดนี้มาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.1 เพราะว่าดูการ์ตูนดิสนีย์มาตลอด แล้วมีตัวละครตัวหนึ่งที่เล่น ฮาร์ป ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นเครื่องดนตรีอะไร รู้แต่เพียงว่าเสียงเพราะดี ก่อนจะไปศึกษาว่าเป็นเครื่องดนตรีอะไร จึงไปปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ว่าหนูอยากจะเล่น ทางบ้านก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี หนูลงแข่งขันมาหลายปี และได้มาหลายรางวัล ที่ภูมิใจมากที่สุด ก็คือเพิ่งได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่น จากกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ฮาร์ป อาจจะเป็นเครื่องดนตรีที่หาต้นแบบในการฝึกซ้อมได้ยาก แต่ถ้าเรามีใจรักและหมั่นตั้งใจจริง ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเหมือนเช่นเครื่องดนตรีประเภทอื่นๆ ได้เช่นกัน”




               ขณะที่ พู่กัน-สฤชน์ สุธรรมรักษ์ จาก รร.รุ่งอรุณ ชั้น ป.5 มือกลองรุ่นเยาว์ เล่าว่า “จุดเริ่มต้นของผมที่ชื่นชอบกลองชุด เป็นเพราะว่า เมื่อตอนอายุ 4 ขวบ ได้ไปเที่ยวงานวันเด็ก แล้วเห็นรุ่นพี่ตีกลอง ก็เลยชื่นชอบ จึงให้ครอบครัวพาไปเรียนมาตั้งแต่นั้น จนได้เข้าประกวดเวทีต่างๆ เรื่อยมา ล่าสุดก็เพิ่งได้รางวัลที่ 1 ในการประกวดรายการ “ลอนดอน ยัง มิวซิเชี่ยนส์” ผมก็คงจะตั้งใจฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ จนสุดความสามารถ ซึ่งตอนนี้ ผมก็มีวงดนตรีกับเพื่อนๆ อยู่แล้ว ชื่อวง โพลาริส เคยไปเล่นที่สยามมาแล้ว แนวดนตรีส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวสนุกสนานเป็นหลักครับ”

               Top 10 Thailand Best Music Teachers ประกอบด้วย 1. เสกข์ ทองสุวรรณ 2. ไอริณ ปรีชาญวินิจ 3. กามเทพ ธีรเลิศรัตน์ 4. ศศิชา พิริยะธนากร 5. อรวรา ไชยสมคุณ 6. สุระพันธ์ คงบำรุง 7. อุมาพร ทองนุช 8. สุคนธรส ไทยยืนวงษ์ 9. กมลชนก ไหลงาม 10. เปียโน อะคาเดมี่ ออฟ แบงคอก(Piano Academy of Bangkok)

               ไทยแลนด์ ยัง มิวซิเชี่ยนส์ อวอร์ด 2024 (Thailand Young Musicians Award 2024) อาจจะยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งงานสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่สนใจในดนตรีคลาสสิค ร่วมสมัย และดนตรีไทย ที่ได้มีพื้นที่ในการแสดงออกได้อย่างเต็มที่ และสามารถสร้างความสุขให้กับทุกคนได้อีกด้วย









34
“เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์” จัดงาน "Generali Agency Annual Awards 2023"
ฉลองความสำเร็จ ให้กับสุดยอดตัวแทน


               เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต จัดงาน "Generali Agency Annual Awards 2023" ในธีม Lion Pride to The Future มอบรางวัลให้กับตัวแทนจำหน่ายที่มีผลงานยอดเยี่ยมประจำปี 2023 พร้อมร่วมเชิดชูเกียรติให้กับผู้ที่ติดคุณวุฒิในระดับ MDRT รางวัลสุดยอดตัวแทนจำหน่ายแห่งปีที่มีผลงานดีเด่นต่อเนื่อง




               กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายอาร์ช คอลมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมมอบรางวัล Generali Agency Annual Awards 2023 ให้กับตัวแทนจำหน่ายที่มีผลงานยอดเยี่ยมแห่งปี อาทิ ด้านการเติบโตทางเบี้ยธุรกิจใหม่ การสร้างตัวแทนใหม่ รวมถึงพิธีการเชิดชูเกียรติผู้ติดคุณวุฒิ MDRT ที่เป็นคุณวุฒิระดับสากล โดยมี นายสมศักดิ์ อรรถเสรีพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทน บมจ. เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) ประกาศเป้าหมายในการดำเนินงานด้านตัวแทนจำหน่ายปี ภายใต้กลยุทธ์ “Lifetime Partner 24: Driving Growth”




               พร้อมย้ำแนวคิดการพัฒนาตัวแทนจำหน่าย “Agency Transformation” เพื่อรับการปรับตัวในทุกมิติสร้างความแข็งแกร่งและเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับช่องทางตัวแทน พร้อมมุ่งมั่นให้ตัวแทนรุ่นใหม่ได้เติบโตอย่างมีศักยภาพ






               โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ อาทิ นายชวลิต ทองรมย์ Chief Special Unit นางสาวช่อฟ้า ยุกตะนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและบริหารลูกค้า และ นางสาวสายฝน คงจิตต์งาม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและสนับสนุนองค์กร มร.แอนดรูว์ ซามาราตุงกา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เข้าร่วมแสดงความยินดี ก่อนปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจาก Instinct เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ ห้องแกรนด์บอลรูม

35
มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย สานโอกาส สร้างรอยยิ้ม
ผ่านการมอบทุนการศึกษา ประจำปี 2566
แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ใน 4 ภูมิภาค ทั่วประเทศไทย





               มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย มุ่งมั่นสานต่อพันธกิจเพื่อ “สานโอกาส สร้างรอยยิ้ม” ผ่านกิจกรรมการมอบทุนการศึกษา ประจำปี 2566 แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาใน 4 ภูมิภาค ทั่วประเทศไทย รวมทั้งสิ้นจำนวน 701 ทุน มูลค่ากว่า 11.52 ล้านบาท มุ่งหวังสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่เรียนดี และประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้รับโอกาสในการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป







        มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2535 ตลอดระยะเวลากว่า 32 ปี ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นในการส่งเสริมสังคมอย่างยั่งยืนผ่าน 3 แนวทาง ดังนี้

•   ส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน ในทุกระดับชั้น ครอบคลุมหลากหลายสาขาวิชา

•   พัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน และคนพิการ รวมถึงส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

•   ส่งเสริมการดำเนินการขององค์กรสาธารณกุศลต่างๆ เพื่อสาธารณประโยชน์







               การมอบทุนในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทางมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ซึ่งมูลนิธิฯ ตระหนักดีว่าการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญ ในการพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถที่จะนำไปสู่การสร้างอนาคตที่ดีให้แก่เยาวชน อันจะเป็นบุคลากรสำคัญในการนำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้า จึงได้ดำเนินกิจกรรมมอบทุนการศึกษา และยกระดับคุณภาพชีวิตแก่เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องมากว่า 32 ปี รวมทั้งสิ้นกว่า 19,000 ทุน รวมเป็นมูลค่า 189,594,100 บาท โดยในปี 2566 มูลนิธิฯ ได้สนับสนุนทุนตามรายละเอียดดังนี้

ทุนสนับสนุนด้านการศึกษา 4 ภาค

•   ภาคเหนือ : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จำนวน 278 ทุน  มูลค่า 3.13 ล้านบาท

               โครงการเยาวชนไทยวันพรุ่งนี้

               โครงการทุนการศึกษาเยาวชนภาคเหนือ

•   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 159 ทุน มูลค่า 3.60 ล้านบาท

               ทุนการศึกษานักเรียน นักศึกษาขาดแคลนทุนทรัพย์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

               ทุนการศึกษานักเรียนพยาบาล ภายใต้โครงการตำรวจตระเวนชายแดน

•   ภาคตะวันออก : มหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน  54 ทุน    มูลค่า 1.51 ล้านบาท

               ทุนการศึกษานิสิตขาดแคลนทุนทรัพย์ ในภาคตะวันออก

•   ภาคใต้ : มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต    จำนวน 130 ทุน    มูลค่า 1.68 ล้านบาท
   
               ทุนการศึกษานักศึกษาขาดแคลนทุนทรัพย์ ในภาคใต้

•   ทุนอาชีวศึกษา 4 ภาค จำนวน 80 ทุน มูลค่า 1.60 ล้านบาท

               ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

              ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)







               มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย มุ่งเน้นการช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้เยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเหมาะสม และเท่าเทียม รวมถึงช่วยให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล ได้มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเติบโตด้วยความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นรากฐานที่แข็งแรงในการพัฒนาประเทศ อันจะนำไปสู่การยกระดับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยขับเคลื่อนสังคมไทยให้เข้าใกล้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ต่อไปในอนาคต

“โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”














36

ครบแล้ว 12 ทีมสุดท้ายศึก “Thai Fun Cup 2024 แชมป์ชนแชมป์”
ลุยรอบชิงชนะเลิศ 30-31 มีนาคม 2567 ที่ฉะเชิงเทรา
ณ สนามสโมสรฟุตบอลฉะเชิงเทรา ไฮ-เทค





               โฉมหน้า 12 ทีมสุดท้าย กับตั๋วเข้าสู่รอบประเทศรายการฟุตบอล 7 คน “Thai Fun Cup 2024 แชมป์ชนแชมป์” ในรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 30-31 มีนาคม 2567 ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ณ สนามสโมสรฟุตบอลฉะเชิงเทรา ไฮ-เทค ผู้ชมสามารถเข้าร่วมกิจกรรมและลุ้นรับรางวัลมากมายทั้งในและนอกสนาม พร้อมกระทบไหล่นักเตะดังที่ร่วมแข่งขันมากมาย เช่น ดั๊กบาส คาร์โดโซ่

               เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยสำหรับรายการฟุตบอล “Thai Fun Cup 2024 แชมป์ชนแชมป์” รอบคัดเลือกทั้งหมด 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ที่ได้จัดการแข่งขันรอบคัดเลือกในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง เดือนกุมภาพันธ์ 2567 จัดที่พัทยา จังหวัดชลบุรี วันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สนาม 889 Football Club Pattaya ภาคใต้ จัดที่ภูเก็ต สนามเชิงทะเล วันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567  ภาคเหนือจัดที่จังหวัดลำปาง วันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2564 ณ สนามกีฬาหนองกระทิง (ลำปาง FC) และล่าสุดภาคอีสาน ที่จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 9-10 มีนาคม  2567 ณ สนาม UBRU Happiness Stadium จังหวัดอุบลราชธานี

               สำหรับ 12 ทีมที่สามารถทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นตัวแทนแต่ละภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง 1.ทีมห้างเยาวราชบ้านเขว้า X น้องเชลซี  2.ทีมซ้อหนิง X POP รองพีทสั่งลุย  3.ทีมกรรณิการ์ L&H ภาคใต้ 1.ทีมจิณณพัต  2.ทีมเจริญชัยฟู๊ดส์ 3.ทีมมหานคร เอฟซี ภาคเหนือ 1.ทีมประภาคาร  2.ทีม PB DS FC 3.ทีมสุรรินทร์ และภาคอีสาน 1.ทีมไทยถาวรรุ่งโรจน์ 2.ทีม INN THE BEST 3.สองเกลอฟาร์ม

               โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ จัดขึ้นในวันที่ 30-31 มีนาคม 2567 ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ณ สนามสโมสรฟุตบอลฉะเชิงเทรา ไฮ-เทค โดยรางวัลใหญ่ของทีมแชมป์ คือ มอบทัวร์นาเม้นท์พาไปชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกถึงประเทศอังกฤษในนามแขก VIP ของสโมสรนิวคาสเซิลยูไนเต็ด รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งทางผู้จัดการแข่งขันได้สนับสนุนเงินรางวัล ชุดทีม ที่พัก และค่าเดินทางอื่น ๆ ให้กับทุก ๆ ทีม เพื่อยกระดับ ส่งเสริม พัฒนาการเล่นฟุตบอลในประเทศ ซึ่งถือเป็นเวทีสูงสุดและเป็นมิติใหม่ของรายการฟุตบอลเดินสาย

               นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลสำหรับผู้ชมทั้งในและนอกสนาม กับรางวัลใหญ่ 1. มอเตอร์ไซค์ Handa wave110i จำนวน 2 คัน 2. ทีวี SAMSUNG 55″ UHD 4K 10 เครื่อง 3. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 4 คัน 4. พัดลม HATARI 20 ตัว 5. หม้อทอดไร้น้ำมัน 20 เครื่อง ด้วยกติกาง่าย ๆ เพียงแค่เข้าไปกรอกข้อมูลเพื่อรับหมายเลขลุ้นรางวัลที่ลิ้งค์ https://register.funcupthai.com/index.php (ไม่ใช่เว็บพนัน) กรอกข้อมูลตามจริงยืนยัน OTP เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ติดต่อกลับได้หากได้รับรางวัล

               รวมถึงวันแข่งขันรอบชิงชนะเลิศขอเชิญชวนแฟน ๆ รายการมาร่วมสนุกกิจกรรมแชร์โพสต์ https://shorturl.asia/EsRr7  เป็นสาธารณะ ลุ้นรับเสื้อ Thai Fun Cup เท่ๆ ไปใส่เชียร์จำนวน 300 รางวัล กติกาง่าย ๆ เพียง 1. แชร์ LIVE สด Fun Cup 2024 แชมป์ชนแชมป์ รอบสุดท้าย วันที่ 30-31 มีนาคมนี้ ครบทุกคู่ (ต้องแชร์ระหว่างเกมสดห้ามลบ + สาธารณะ) 2. แคปภาพทุกคู่เป็นหลักฐาน ส่งทาง ไลน์ @FUNCUP 3. ลงทะเบียน funcup ชื่อ และเบอร์โทรเพื่อติดต่อในการรับรางวัลที่นี่ https://register.funcupthai.com/index.php

               สามารถติดตามความคลื่อนไหวของรายการแข่งขันทั้งหมดได้ที่ https://www.facebook.com/THAIFUNCUP  และ www.funcupthai.com   รวมถึงรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง GoalDaddy https://www.goaldaddyth.com และช่องทางเฟสบุ๊คเพจ www.facebook.com/THAIFUNCUP   โดย GoalDaddy นั้นเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงที่สุดสำหรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลและกีฬาโดยเฉพาะ มีข้อมูลกีฬาที่ครอบคลุม การวิเคราะห์แนวโน้มและแนวโน้มของคะแนนกีฬา ทำหน้าที่เป็นสวรรค์ที่แท้จริงสำหรับคอกีฬา ผู้ที่ต้องการความบันเทิงและอิ่มเอมใจด้วยการนำเสนอเนื้อหาวิดีโอชั้นยอด ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคุณภาพ ซึ่งผู้รับชมถ่ายทอดสดในช่องทางนี้จะมีสิทธิ์ลุ้นของสมนาคุณมากมาย อาทิ รถมอเตอร์ไซต์ ทีวี รถสกุ๊ดเตอร์ ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายรายการ สำหรับผู้รับชมในสนามจริงนอกจากจะมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่กล่าวมาแล้วยังสามารถรับของชำร่วยต่าง ๆ อาทิ หมวก เสื้อ ฯลฯ ที่ทางรายการเตรียมมอบให้อีกด้วย รวมถึงทัวร์นาเม้นท์นี้รับหน้าที่ถ่ายทอดสดโดยทีมงานเทิร์นโปร มีเดีย (Turnpro Media) และบรรยายเกมส์การแข่งขันโดยทีมงานคนขายเสียง ทีมงานคุณภาพประสบการณ์ยาวนาน

#FUNCup2024Thailand #แชมป์ชนแชมป์ #บอลเดินสาย #Liveyourdream #Dreamcup #FUNCup2024 #Funcup #Thaifuncup #DareToDream #DareToFUN



37
ยู สาทร กรุงเทพฯ ยินดีต้อนรับ คุณ อันเดรีย วิกตอเรีย อากีเลรา ปาเรเดส
และผู้จัดการกองประกวด มิส ซุปปราเนชั่นแนล 2023





Khun Jason Macleod General Manager of U Sathorn Bangkok, warmly welcomed Ms. Andrea Victoria Aguilera Paredes from Ecuador, Miss Supranational 2023, upon her recent arrival at U Sathorn Bangkok on March 12 - 14 2024, and enjoyed during period stay with us

คุณ เจสัน แมคคลาวด์ ผู้จัดการทั่วไป และในนามของโรงแรม ยู สาทร กรุงเทพฯ ยินดีต้อนรับ คุณ อันเดรีย วิกตอเรีย อากีเลรา ปาเรเดส และผู้จัดการกองประกวด มิส ซุปปราเนชั่นแนล 2023  เข้าพักระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2567

#missupranational2023
#misssupranational
#usathornbangkok








38
"MOTOR EXPO" เผยโฉมแจกจริง ผู้โชคดีรับ รถยนต์ 3 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน


          “IMC สื่อสากล” ผู้จัดงาน “มหกรรมยานยนต์” มอบรางวัลรถยนต์ 3 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน แก่ผู้โชคดีที่ร่วมกิจกรรมชิงรางวัลจากงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ดังนี้


           ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน มอบรางวัลรายการ “ซื้อรถ...ชิงรถ” NEW MG HS PHEV D มูลค่า 1,299,000 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ พรพิมล ภู่ศิริ จังหวัดปทุมธานี


          ประไพศรี ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านบัญชี การเงิน และธุรการ มอบรางวัลรายการ “ซื้อบัตร...ชิงรถ” NETA V มูลค่า 760,000 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ จอมขวัญ ยงยุทธ จังหวัดสมุทรสาคร


          ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป มอบรางวัลรายการ “ซื้อสินค้า...ชิงรถ” MITSUBISHI ATTRAGE 1.2 ACTIVE CVT A/T มูลค่า 529,000 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ ว่าที่ ร.ต. กัมพล ดวงรัศมี จังหวัดปทุมธานี


          วราทิพย์ คำนึงคุณ กรรมการผู้จัดการ และ อัญมณี เศรษฐนันท์ กรรมการบริหาร บริษัท มอเตอร์ไซเคิล เอ็กซ์โป จำกัด มอบรางวัลรายการ “ซื้อมอเตอร์ไซค์...ชิงบิกไบค์” HONDA รุ่น XL750 TRANSALP 2023 มูลค่า 394,000 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ ศุภโชค หรูวานิชย์ กรุงเทพฯ


          ชไมพร ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการตลาดสัมพันธ์ มอบรางวัลรายการ “ชมงานผ่าน MOTOR EXPO APP ชิงรางวัล" ALPHA VOLANTIS รุ่น HORIZON300 มูลค่า 129,900 บาท ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ ธิดารัตน์ คนคล่อง จังหวัดพะเยา



          พบกับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41” ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2567 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ motorexpo.co.th  และทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”




39
เคาน์เตอร์เซอร์วิส รับรางวัลสุดยอดผู้นำ TQA Leadership Excellence Award 2023




               นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติมาเป็นประธานมอบรางวัล พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ และนายสุวรรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดีกับความสำเร็จบนเส้นทางสุดยอดผู้นำองค์กร TQA Leadership Excellence Award 2023 แก่นายวีรเดช อัครผลพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ในพิธีมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ประจำปี 2566 โดยสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ4pt] เพื่อเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่เคยได้รับรางวัล TQA หรือ TQC Plus ที่ทำคุณประโยชน์อย่างยิ่ง ในการส่งเสริมองค์กรไทยให้มีความสามารถทัดเทียมนานาประเทศ และให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ความรู้ในฐานะต้นแบบองค์กรที่เป็นเลิศ ช่วยยกระดับมาตรฐานองค์กรไทย สู่ความเป็นเลิศในการบริหารจัดการระดับโลก




               อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ที่ได้คว้ารางวัลระดับนานาชาติ Global Performance Excellence Award 2023 ซึ่งปีนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีเกณฑ์รางวัลมา 28 ปี ที่องค์กรจากประเทศไทยได้รับรางวัลความเป็นเลิศในด้านการบริหารจัดการสูงสุดระดับ World Class คัดเลือกจากองค์กรที่เคยได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award) รวมกว่า 20 ประเทศ จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดย Asia Pacific Quality Organization เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา




               นายวีรเดช อัครผลพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า ผมมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้องค์กรพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล ทั้งนี้ถือเป็นหน้าที่สำคัญในฐานะต้นแบบบริษัทที่เคยได้รับรางวัล Thailand Quality Award 2021รวมถึงรางวัลนานชาติระดับ World Class จาก Global Performance Excellence Award 2023  ในการร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดแก่หลายๆ องค์กร สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการผลักดันให้ภาคธุรกิจมีส่วนช่วยสนับสนุนชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม อีกทั้งส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน





40
“วราวุธ“ ชวนคนไทยร่วมเป็นเครือข่ายนักบริบาลผู้สูงอายุ
สร้างอาชีพสร้างรายได้ - แก้ปัญหาโครงสร้างประชากร



วันที่ 13 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานแถลงข่าวเปิด “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน” เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ และพัฒนาศักยภาพผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน พร้อมสร้างกลไกการดูแลผู้สูงอายุครอบคลุมทุกมิติในระดับพื้นที่ โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาสตราจารย์ ดร. นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม. พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุและผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ


นายวราวุธ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตของโครงสร้างประชากร โดยสัดส่วนประชากรวัยสูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกับอัตราการเกิดใหม่ของประชากรวัยเด็กและประชากรวัยแรงงานที่มีจำนวนลดลง โดยในปี 2566 พบว่า ประเทศไทย เข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีจำนวนผู้สูงอายุมากถึง 13 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20.08 ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่เด็กเกิดใหม่มีเพียง 5.18 แสนคน ส่งผลกระทบต่ออนาคตของประเทศในการเผชิญกับปัญหาภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ รวมถึงปัญหาผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง ขาดผู้ดูแล

ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการสร้างระบบ กลไก และโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลและคุ้มครองผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่น โดยเป้าหมายสำคัญมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขที่บ้านของตนเอง (Ageing in Place) ซึ่งครอบครัวเป็นกลไกสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงชุมชนท้องถิ่น อาทิ รพ.สต. อปท. อาสาสมัคร ชมรมผู้สูงอายุ เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนและการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผ่านกระบวนการปฏิบัติงานของผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในการทำหน้าที่ช่วยเหลือ ดูแล คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุครอบคลุมในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ


นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2567 กระทรวง พม. ได้ดำเนินการโครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน จำนวน 19 พื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ลพบุรี สิงห์บุรี สกลนคร อุบลราชธานี สงขลา และปัตตานี มีผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 35 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิ จำนวน 240 ชั่วโมง โดยมุ่งหวังให้ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุกลุ่มนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการปกป้องคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นของตนเอง จำนวนทั้งสิ้น 73,642 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุทั้งหมดในพื้นที่นำร่อง

และในปี 2568 ได้มีแผนขยายผลโครงการฯ จำนวน 3,886 พื้นที่ ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ และจะมีการสร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 7,772 คน ซึ่งจะมีผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลและคุ้มครองทางสังคมจำนวนทั้งสิ้น 6,174,854 คน โดยระยะยาว 4 ปี ตั้งเป้าผลักดันให้เกิดระบบการคุ้มครองผู้สูงอายุด้วยผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุครอบคลุมให้ทั่วทุกพื้นที่ จำนวน 75,032 พื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 150,064 คน ซึ่งจะมีผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลและคุ้มครอง จำนวนทั้งสิ้น 15,900,000 คน


นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) มีความยินดีที่จะเปิดตัวโครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน ซึ่งวันนี้เราได้รับความร่วมมือจากพี่น้องทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน และใต้ เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ในการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราทำงานในหลายจังหวัด ในการที่จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปในแต่ละชุมชนเพื่อดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งทุกวันนี้ประเทศไทยของเราเป็นสังคมสูงอายุเต็มรูปแบบเรียบร้อยแล้ว และในอนาคตปริมาณผู้สูงอายุในประเทศไทยก็จะเพิ่มมากขึ้นทุกปี ดังนั้นการที่ทุกฝ่ายจะต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายและจิตใจ มิติทางด้านสังคม ด้านที่พักอาศัย รวมไปถึงเรื่องเทคโนโลยีต่างๆให้กับผู้สูงอายุ เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเราในวันนี้ ได้รับการฝึกอบรมและจะนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ไปขยายต่อในการดูแลผู้สูงอายุ

ซึ่งทั้งหมดที่เราทำในวันนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการที่จะแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่กระทรวง พม. ได้ทำ Workshop ไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมิติการดูแลผู้สูงอายุนั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แบ่งเบาภาระของคนรุ่นใหม่ ที่มีความกังวลว่าคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้สูงอายุในครอบครัวนั้น ใครจะเป็นผู้ดูแล และถ้าหากว่าจะต้องเลือกระหว่างการมีบุตรและการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวนั้น คนรุ่นใหม่ในวันนี้เลือกที่จะดูแลผู้สูงอายุก่อน ดังนั้น การที่กระทรวง พม. ได้เริ่มโครงการนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่แบ่งเบาภาระและสร้างความมั่นใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการที่จะมีครอบครัวและมีบุตรต่อไปในอนาคต และเป็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่ประเทศไทยกำลังจะประเชิญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้


ด้านสถานการณ์ผู้สูงอายุในไทย ขณะนี้เรามีผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 13 ล้านคน คาดว่าอีกประมาณ 4-5 ปี จากนี้ไป ประเทศไทยจะมีแนวโน้มผู้สูงอายุเพิ่มเป็นประมาณ 15-17 ล้านคน แต่ไม่เกิน 10 ปี นี้เราจะมีผู้สูงอายุเกือบ 20 ล้านคน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงอายุขั้นสุดยอดเหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่น และการที่เราเป็นสังคมผู้สูงอายุขั้นสุดยอดนั้น จะก่อสร้างภาระให้กับคนวัยทำงานอย่างมหาศาล เพราะว่าอัตราส่วนในการแบกรับผู้สูงอายุจะกลายเป็นคนทำงานเพียงแค่สองคนต่อผู้สูงอายุหนึ่งคนเท่านั้น ดังนั้น การดูแลให้ผู้สูงอายุให้มีสุขภาพทั้งกายและใจที่สมบูรณ์และแข็งแรง ก็จะเป็นการแบ่งเบาภาระทางด้านงบประมาณ ด้านสาธารณสุข และบุคลากรทางสาธารณสุข และในทางเดียวกันนั้นก็ยังสามารถเพิ่มผลผลิต สร้างศักยภาพให้ผู้สูงอายุนั้นเป็นกลไกสำคัญในการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับรากหญ้าขึ้นมา


สำหรับเจ้าหน้าที่ตอนนี้จุดเริ่มต้นโครงการ มีอยู่ 36 คน กระจายกันอยู่ทั่วแต่ละจังหวัดในประเทศไทย แต่ยังไม่ครบทุกจังหวัด เนื่องจากเพิ่งเป็นการเริ่มต้นโครงการ แต่เป้าหมายของเรานั้นจะต้องมีให้ครบทั้ง 76 จังหวัด ให้ครบทุกอำเภอ และแต่ละอำเภอนั้นอย่างต่ำก็จะมีเจ้าหน้าที่ 2,000-4,000 คน ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ของเรานั้นจะเพิ่มปริมาณขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปีหน้านั้น อาจจะมีถึง 6,000 คน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ต้องประมาณกว่า 10,000 คน ที่จะต้องดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ของเราก็มีหน้าที่ในการเข้าไปตรวจเยี่ยมให้ความรู้และขยายผลต่อไป



นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. จะมีเจ้าหน้าที่ พมจ. ในทุกจังหวัด ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ในการดูแลคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุ และที่สำคัญโครงการนี้ จะเป็นกลไกสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่ตนได้พูดไว้ สำหรับประชาชนที่สนใจเข้ามาเป็นเครือข่ายนักบริบาลผู้สูงอายุ สามารถติดต่อได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) โดยมีค่าตอบแทนอยู่ที่ 10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเราอยากจะแสดงให้เห็นว่าการดูแลผู้สูงอายุนั้นสามารถทำเป็นอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้ แต่จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรม 240 ชั่วโมง จะมีการสอนทั้ง 5 มิติ เมื่อมีภาคทฤษฎีแล้ว ต้องมีภาคปฏิบัติด้วยเช่นกัน
 
#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #แถลงข่าว #บริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน #การดูแลผู้สูงอายุ

41
‘Asahi Beyond Expected’ อีเวนท์สุดยิ่งใหญ่
ร่วมเปิดประสบการณ์เหนือระดับ
ผ่าน Virtual Dining Experience และ Immersive Concert
ให้ทุกคนได้เปิดโลกดื่มด่ำ สัมผัสความเหนือชั้นไปพร้อมกัน!





          Asahi Beyond Expected ถือเป็นแคมเปญใหญ่ในปี 2567 ที่ได้จัดขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วย ‘Virtual Dining Experience’ การรังสรรค์เมนูอาหารสุดล้ำโดยเชฟแพม พิชญา สุนทรญาณกิจ เจ้าของร้าน โพทง ร้านอาหาร Fine Dining และ เชฟมาซาโตะ Masato Shimizu เจ้าของร้าน Sushi Masato โอมากาเสะซูชิที่ใครก็ถวิลหา ซึ่งทั้งคู่เป็นสุดยอดเชฟดีกรี Michelin Star ที่จะมาออกแบบเมนูสุด Premium และ Exclusive ในสไตล์ Chef’s Table ที่เป็นการผสมผสานความเป็น Thai x Japanese Fusion Food นับเป็น Perfect Pairing ซึ่งเป็นการเติมเต็มอรรถรสในการรับประทานอาหาร โดยทั้งคู่ได้ครีเอท “Special 4 Courses Thai X Japanese Fusion Menu” ซึ่งจะพาทุกท่าน ไปผจญภัยร่วมกัน จากกลิ่นอายบรรยากาศของชายหาด ดําดิ่งลึกลงไปสู่ใจกลางมหาสมุทร










          เริ่มจากคอร์สที่ 1 “Welcome to Oceanic” 1st Course by Chef Masato กับเมนู “Seaside Prelude Trio” (Toro Sushi / Ankimonaka / Hotaru Ika) โดย “เชฟ มาซาโตะ”

          คอร์สที่ 2 “The Secret of The Sea” 2nd Course by Chef Masato & Chef Pam กับเมนู “Sashimi Symphony with Seaweed Serenade” โดย “เชฟ มาซาโตะ และ เชฟแพม”

          คอร์สที่ 3 “The Abalone Kingdom” 3rd Course by Chef Pam กับเมนู “Chawanmushi Elegance With Abalone Gems” โดย “เชฟแพม”

          คอร์สที่ 4 “Aquatic Paradise” 4th Course by Chef Pam & Chef Masato กับเมนู “Umami Depths of Patagonian Toothfish” โดย “เชฟ มาซาโตะ และ เชฟแพม”

          สําหรับเมนูอาหารคอร์สสุดท้ายนี้ เป็นการรังสรรค์ผลงานร่วมกันของ เชฟแพม และ เชฟมาซาโตะ ซึ่งเป็นบทสรุปของการเดินทางสู่ใจกลางมหาสมุทร ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบ ปลาน้ำลึก Patagonian Toothfish ชูรสด้วยซอสสูตรพิเศษ นั่นก็คือ น้ำซอสอูมามิ ที่ได้มาจากการกลั่น ของวัตถุดิบทะเลมาเป็นหัวใจของเมนูนี้










          Asahi Beyond Expected จึงถือเป็นงานที่สร้างความว้าวและเปิดประสบการณ์ใหม่ในวงการ ไม่เพียงแต่การทานอาหารจากฝีมือเชฟชื่อดังระดับประเทศแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับ Digital Art ที่ถูกครีเอทมาเฉพาะเมนูที่เสิร์ฟภายในงาน เชื่อว่าจะสร้างความแปลกใหม่ให้ทุกคน ทั้งในรูป รส กลิ่น สี เสียง และสัมผัสอย่างแน่นอน

          นอกจากนั้นภายในงานยังทวีคูณประสบการณ์เหนือระดับไปอีกขั้นกับ Immersive Concert ที่มั่นใจได้เลยว่าจะเป็นการเปิดประสบการณ์สุดตื่นตา ยกระดับการชมคอนเสิร์ตจริงไปกับศิลปินที่ทุกคนรักอย่างคุณ Ink Waruntorn และ Atom ชนกันต์ ที่มาพร้อม AR สุดล้ำภายในงานที่จะเพิ่มสุนทรียภาพของการชมคอนเสิร์ตให้สนุกมากขึ้น พร้อมมาสร้างประสบการณ์เหนือระดับสุดล้ำกว่าใครที่เคยมีมา เกินความคาดหมายตามชื่องาน Asahi Beyond Expected

#AsahiBeyondExpected #AsahiSuperDry





















42
แสงชัยแอร์ควอลิตี้ 
ส่งบลูแอร์ ผู้นำนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศ จากสวีเดน 
ปกป้องทุกลมหายใจจาก PM 2.5 





          ท่ามกลางฝุ่นหนาที่ปกคลุมกรุงเทพมหานคร เมืองที่เผชิญกับ PM2.5 ขั้นวิกฤต ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ระดับ PM2.5 ในหลายพื้นที่ของไทย อยู่ในระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อีกทั้งคุณภาพอากาศของไทยยังติดอันดับ 7 ของเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในเอเชีย และลำดับที่ 57 ของประเทศที่มีคุณภาพอากาศแย่จาก 131 ประเทศทั่วโลก

          ส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น  โดยเฉพาะ บลูแอร์ (Blueair)  ผู้นำนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศจากสวีเดนที่มีทีมวิจัยและพัฒนาเครื่องฟอกอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นเจ้าเดียว ที่มุ่งมั่นพัฒนาแต่เครื่องฟอกอากาศเท่านั้น ไม่ผลิตสินค้าอื่น เพื่อส่งมอบเครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค มีจำหน่ายในต่างประเทศกว่า  60 ประเทศทั่วโลก  และยังเป็นผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศลำดับแรกๆ ที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) โดยมีบริษัท แสงชัยแอร์ควอลิตี้ จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และมีทีมเซอร์วิสดูแลหลังการขายถึงบ้าน เพื่อความมั่นใจว่า “คุณและครอบครัว”” สามารถสูดอากาศที่สะอาดปราศจากมลพิษ โดยเครื่องฟอกอากาศ บลูแอร์ (Blueair) ที่ได้รับความนิยม  มี 2 ซีรีส์ คือ 

           หนึ่ง ซีรีส์ HealthProtect: เครื่องฟอกอากาศที่ครอบคลุมพื้นที่สูงสุด 149 ตร.ม. สามารถกำจัดอนุภาคได้ที่ 0.1 ไมครอน ประสิทธิภาพที่ 99.97% ครอบคลุมทั้ง PM0.1, PM2.5, PM10 และ VOC มาพร้อมเทคโนโลยี “GermShield” ช่วยป้องกันไวรัสและแบคทีเรียได้ตลอด 24 ชม. ติดตั้งเซ็นเซอร์อัจฉริยะ เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ความชื้น และอุณหภูมิ ออกแบบช่องปล่อยอากาศบริสุทธิ์แบบ 360 องศา (SpiralAir) ช่วยประหยัดไฟและทำงานอย่างเงียบสงบไม่มีเสียงรบกวน

           สอง ซีรีส์ใหม่ล่าสุด Blue Max: เครื่องฟอกอากาศที่ครอบคลุมพื้นที่สูงสุด 141 ตร.ม. สามารถกำจัดอนุภาคได้ที่ 0.1 ไมครอน ประสิทธิภาพที่ 99.97% ปกป้องคุณจากฝุ่น PM0.1, PM2.5 และ PM10 ฟอกอากาศเร็วสูงสุด 12.5 นาทีต่อรอบ พร้อม “ผ้าพรีฟิลเตอร์” ช่วยดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ ยืดอายุการใช้งานไส้กรองอากาศ และถอดซักทำความสะอาดได้ ติดตั้งเซ็นเซอร์อัจฉริยะ เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ มี Real Track ช่วยคำนวณอายุการใช้งานไส้กรองได้อย่างแม่นยำ พร้อมไฟ LED บอกระดับคุณภาพอากาศได้ 5 สี ดูแลรักษาและเปลี่ยนไส้กรองอากาศง่าย ทำงานอย่างเงียบและดีไซน์สวยงาม




          เครื่องฟอกอากาศ บลูแอร์ (Blueair) ยังมีให้เลือกหลายรุ่น ที่ผ่านการออกแบบผสานเทคโนโลยีสุดล้ำให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม กลมกลืนกับทุกสไตล์การตกแต่งบ้าน คอนโด ที่ทำงาน ฯลฯ
 
          นอกจากจากนี้  เครื่องฟอกอากาศ บลูแอร์ (Blueair) ยังพร้อมดูแลและให้บริการหลังการขายถึงบ้าน โดยทีม “Blueair Service” รวมถึงบริการ call center แจ้งเตือนระยะเวลาการเปลี่ยนไส้กรอง

          สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ได้ที่ Line official: @blueair และ https://www.facebook.com/Blueairthailand มีวางจำหน่ายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, พาวเวอร์บาย, สยาม พารากอน, ดิ เอ็มโพเรียม, เดอะ มอลล์ และบุญถาวร รวมถึงช็อปออนไลน์ได้ที่ Shopee และ Lazada: Blueair Official Store สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-446-5666








43
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ร่วมกับ อิออน ส่งมอบความบันเทิงสุดเอกซ์คลูซีฟ
ด้วยส่วนลด 50% ผ่าน “โรงภาพยนตร์ AEON Theatre & Lounge” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9





กรุงเทพฯ – นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณาบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จับมือพันธมิตร นายวิรัช สิทธิวราภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน)เปิดต้อนรับลูกค้าคนสำคัญ พร้อมส่งมอบประสบการณ์พิเศษเหนือระดับสุดพรีเมียมผ่าน “โรงภาพยนตร์ AEON Theatre & Lounge” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ด้วยส่วนลดทันที 50% ในการชมภาพยนตร์สำหรับที่นั่งประเภทคู่ และ Movie Set Bucket, Supersize  สิทธิ์เข้าใช้บริการ AEON Lounge ที่พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความครบครันระหว่างรอชมภาพยนตร์ และรับ Welcome Set 1 ชุดฟรีทันที เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตอิออน ณ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์

สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ www.majorcineplex.com  และ Application : Majorcineplex รวมถึงรับสิทธิประโยชน์อีกมากมายสำหรับลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตอิออนได้ที่ www.aeon.co.th , AEON Mobile App., AEON LINE Official & FB AEON Thana Sinsap








44
ร่วมสนุกกับกิจกรรม “Who score contest?”
ใครเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตู ระหว่างเชลซี และนิวคาสเซิล
ลุ้นเสื้อนิวคาสเซิลแท้จากประเทศอังกฤษ คืนวันที่ 12 มี.ค.นี้ เวลา 03.00 น.





               ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2023/24 คู่สุดท้าย ประจำสัปดาห์ที่ 28 คู่มันเดย์ไนท์ ระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมอันดับ 11 มี 36 แต้ม เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือน "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 10 ที่มี 40 แต้ม จะเป็นอย่างไร ฝั่งเชลซี ต้องการชัยชนะเพื่อเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับทีม ขณะที่นิวคาสเซิลมีสิทธิ์ลุ้นไปเล่นบอลถ้วยยุโรปถ้าได้ 3 คะแนนนี้ ทั้ง 2 ทีมมีโอกาสพอ ๆ กัน ทีมใดมีโอกาสคว้า 3 แต้มมาดูกัน...

เรามาดูผลงานทั้ง 2 ทีม จากการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
 
1.   เชลซี ชนะ นิวคาสเซิล จุดโทษ 4-2 หลังเสมอ 90 นาที 1-1 (คาราบาว คัพ) 19/12/23
2.   เชลซี พ่าย นิวคาสเซิล 1-4 (พรีเมียร์ลีก) 25/11/23
3.   เชลซี เสมอ นิวคาสเซิล 1-1 (กระชับมิตร) 27/07/23
4.   เชลซี เสมอ นิวคาสเซิล 1-1 (พรีเมียร์ลีก) 28/05/23
5.   เชลซี พ่าย นิวคาสเซิล 0-1 (พรีเมียร์ลีก) 12/11/22

               สำหรับนิวคาสเซิล มีผลงานในเกมลีกนัดล่าสุด เปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0 และฟอร์มการเล่น 5 เกมหลังสุดในลีก กำชัยชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้ 1 ในเกมนี้ยังไม่มี คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาที่ยังเจ็บน่องลงไม่ได้

               ส่วนทีมเชลซี ยังรั้งอันดับกลาง ๆ ในตารางฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ผลงานในเกมลีกนัดล่าสุด บุกไปเสมอ เบรนท์ฟอร์ด 2-2 ส่วนฟอร์มการเล่น 5 เกมหลังในลีก ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 2 สำหรับเกมนี้จะไม่มี เบน ชิลเวลล์ และ ลีวาย โคลวิลล์ 2 ผังแนวรับยังบาดเจ็บไม่สามารถลงได้

              การแข่งขันในนัดนี้ FUN88 พันธมิตรที่ดีของสโมสรนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ขอชวนร่วมสนุกกับกิจกรรม แจกฟรี! เสื้อนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ของแท้ส่งตรงจากอังกฤษ เพียงตอบคำถามว่าในการแข่งขันคู่นี้ นักเตะคนใดจะเป็นผู้ยิงประตูคนแรก? พร้อมแชร์โพสต์นี้เป็นสาธารณะ https://shorturl.asia/eYmus แอดไลน์ @147gqhxz และตอบคำถามในไลน์ ประกาศผู้โชคดีวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 สามารถรับชมถ่ายทอดสดการแข่งขันได้ทาง https://www.goaldaddyth.com ดูรายละเอียดการร่วมสนุกและติดตามข่าวสารกีฬาลีกดังได้ที่ FUN Sports Thailand https://www.facebook.com/FunSportsThailand

#FUN88 #FunSportsThailand #FUNxพรีเมียร์ลีก #FUNxNewcastle #FUNxSpurs #ฝันของคุณเป็นจริงได้ที่นี่ #LiveYourDream #กล้าฝันกล้าสนุก #FUNกล้าเดินตามฝัน #ความสนุกไร้ขีดจำกัด #yourdreamcometruehere #DaretoDreamDaretoFun #เชียร์นิวคาสเซิลความสนุกไร้ขีดจำกัด #สาลิกาดง #ทายผลบอล #goaldaddy #ดูบอลสด #นิวคาสเซิล #Newcastle #FUN88Asia #Fun88newsThai


45
วช. ยกย่อง ผู้คิดค้นองค์ความรู้ใหม่ด้านคลินิกเพื่อรักษาและป้องกันการติดเชื้อ HIV ในเด็กและเยาวชน“ ศ.พญ.ธันยวีร์ ภูธนกิจ” เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปี 67

วันที่ 8 มีนาคม 2567 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดงาน NRCT Talk : นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2567 ครั้งที่ 3 เปิดตัวนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2567 ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงธันยวีร์ ภูธนกิจ แห่ง ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้คิดริเริ่มศึกษาองค์ความรู้ใหม่ด้านคลินิกเกี่ยวกับการดูแล รักษา และป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ในเด็กและเยาวชน โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงานฯ


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง กล่าวว่า วช. จัดกิจกรรม “NRCT Talk นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 ครั้งที่ 3” เพื่อเชิดชูเกียรตินักวิจัยไทยที่มีผลงานโดดเด่น สร้างคุณูปการให้กับวงวิชาการและประเทศชาติ รวมทั้งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการสร้างแรงจูงใจของนักประดิษฐ์ และนักวิจัย ในอันที่จะพัฒนานวัตกรรมทางความคิดและภูมิปัญญาที่เป็นประโยชน์ สร้างความก้าวหน้าในศาสตร์แขนงต่าง ๆ โดยในปีนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ทรงเปิดงาน "วันนักประดิษฐ์" ประจำปี 2567 และพระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ เข้าเฝ้ารับพระราชทานเกียรติบัตรรางวัลการวิจัยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ซึ่ง ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงธันยวีร์ ภูธนกิจ แห่ง ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็น 1 ในนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2567 ที่ได้รับพระราชทานรางวัลการวิจัยแห่งชาติในครั้งนี้

ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงธันยวีร์ ภูธนกิจ ได้อุทิศตนเพื่องานวิจัยอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาองค์ความรู้ และพัฒนาระบบเครือข่ายหน่วยวิจัยทางคลินิกให้มีความเข้มแข็งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งงานวิจัยมุ่งเน้นทางคลินิกด้านการรักษาและป้องกันการติดเชื้อ HIV ในเด็ก และสตรีมีครรภ์ โดยได้ศึกษาวิจัยการใช้ยาต้านไวรัส HIV สำหรับเด็กที่อยู่กับเชื้อ HIV เพื่อลดการเจ็บป่วยด้วยภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และอัตราการเสียชีวิต ทำให้เด็กสามารถอยู่ร่วมกับเชื้อ HIV และสามารถเติบโตเข้าสู่วัยทำงานได้

ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงธันยวีร์ ภูธนกิจ กล่าวว่า งานวิจัยทางคลินิกที่ได้ดำเนินการ เป็นงานวิจัยที่เน้นถึงเรื่องการป้องกันการรับเชื้อ HIV ในเด็ก และเยาวชน ในอดีตหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่กับเชื้อ HIV บุตรที่เกิดจะมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับเชื้อ HIV ร้อยละ 30 แต่ปัจจุบันการให้ยาต้านไวรัสกับหญิงตั้งครรภ์ทำให้บุตรมีโอกาสรับเชื้อ HIV ลดลงเหลือแค่ร้อยละ 1 นอกจากนี้ เด็กและเยาวชนผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV เมื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้องด้วยยาต้านไวรัส มีสุขภาพที่ดีและชีวิตที่ยืนยาว สามารถเติบโตไปโรงเรียน ไปทำงานและมีครอบครัวได้ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมจะช่วยกันได้ คือการทำความเข้าใจ ลดการเลือกปฏิบัติและตีตราผู้ที่ติดเชื้อ HIV เพื่อให้ผู้ติดเชื้อ HIV มีชีวิตที่อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยเป้าหมาย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนวนโยบาย “ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา” โดยมุ่งเน้นการลดผู้รับเชื้อ HIV รายใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 9,200 คน ต่อปี ให้ลดเหลือต่ำกว่า 1,000 คน ต่อปี ภายในปี 2573

การนำความรู้จากงานวิจัยพื้นฐานด้านไวรัสวิทยา ภูมิคุ้มกันวิทยา เภสัชวิทยา และระบาดวิทยามาต่อยอดทำงานวิจัย นำยาต้านไวรัสสูตรต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการรักษาเด็กอยู่ร่วมกับเอชไอวีในประเทศไทย โดยมีแรงบันดาลใจจากการร่วมงานวิจัยกับเครือข่ายนักวิจัยใน สหรัฐอเมริกา และ กลุ่มประเทศแถบยุโรป ที่มีการวิจัยพัฒนาที่ก้าวหน้า รวมทั้งได้ทำวิจัยร่วมกับองค์การเภสัชกรรม โดยการใช้ยาต้านไวรัสที่ผลิตได้เองในประเทศไทย ทำให้เด็กอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี สามารถเข้าถึงยาได้ทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนาสูตรยาต้านไวรัส จากที่ต้องรับประทานวันละหลายครั้ง หลายเม็ด จนในปัจจุบันเป็นยาต้านไวรัสเม็ดรวม รับประทานวันละครั้ง ทำให้สามารถใช้ได้ง่าย ประสิทธิภาพดี สามารถใช้ได้กับเด็กในไทยและประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น

องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัย ได้รับการผลักดันไปสู่การกำหนดแนวทางการรักษาและป้องกันการติดเชื้อ HIV ในเด็กและสตรีมีครรภ์ สำหรับใช้ในการดูแลรักษาที่เกิดประโยชน์ต่อเด็กและสตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อ HIV สามารถลดการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันเครือข่ายวิจัย HIV เด็กในประเทศไทยและกัมพูชา รวมถึงเครือข่ายวิจัยเรื่อง HIV ในเด็กและเยาวชน ในเอเชีย

สำหรับกิจกรรม “NRCT Talk : นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567” ในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีให้นักวิจัยได้นำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมผ่านสื่อมวลชน ตลอดจนการผลิตและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัย ผลงานประดิษฐ์คิดค้น กิจกรรม ภารกิจ และผลการดำเนินงาน ของ วช. เพื่อให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลงานและกิจกรรมของ วช. ไปสู่ชุมชนและสาธารณชนเพื่อให้ได้ทราบและนำไปสู่การใช้ประโยชน์ต่อไป

Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 2397