Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - sianbun

Pages: 1 ... 226 227 [228] 229 230
3406
งานเที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง ที่สยามพารากอน

วันที่ 20-22 มีนาคม 2552
ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 2 โซน Lifestyle Hall

          กองตลาดภาคกลาง ททท. จัดงาน "เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง" ในวันที่ วันที่ 20-22 มีนาคม 2552 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 2 โซน Lifestyle Hall เพื่อสร้างกระแสให้ภาคกลางเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลาย มุ่งสร้างการรับรู้ของประชาชนต่อจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวในภาคกลาง ซึ่งมีครบทุกรูปแบบ และอยู่ใกล้กันสามารถไปเที่ยวได้บ่อยครั้งตามที่ต้องการในราคาประหยัด
พื้นที่จัดงานแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
     กลุ่มที่ 1 ได้แก่ สีสันตะวันออก มนต์เสน่ห์ทะเลวัง เที่ยวท่องล่องแม่กลอง
     กลุ่มที่ 2  ได้แก่ เที่ยวเมืองเก่าเล่าประวัติศาสตร์ เที่ยวท่องล่องเจ้าพระยา และกรุงเทพฯสุขหรรษา
     กลุ่มที่ 3  แดนสวรรค์ตะวันตก   ผจญภัยหัวใจสีเขียว   และชายแดนเบื้องบูรพา

          พิธีเปิดงานจัดขึ้นในวันที่ 20 มีนาคม 2552 เวลา 14.00-17.00 น. โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมฟังศิลปินดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการ อาทิ เจี๊ยบ โสภิตนภา น็อต วรฤทธิ์  และอิม อชิตะ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์น่าประทับใจจากการท่องเที่ยวในภาคกลาง เลือกจองที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวในภาคกลางและภาคตะวันออก ในราคาพิเศษ   โดยมีผู้ประกอบการในภาคกลางและตะวันออกเข้าร่วมออกบูธ ประมาณ 40 ราย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ TAT Call Center 1672

ททท. เปิดตัว “เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง”
ภายใต้แคมเปญ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก”
มุ่งเชิญชวนคนไทยหันมาเที่ยวใกล้ๆ อย่างหลากหลายในภาคกลาง

ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์และไลฟ์สไตล์ แกลลอรี่ 1 ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ –       การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่องด้วยโครงการ       “เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง” ซึ่งอยู่ภายใต้แคมเปญใหญ่ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก”  โดยเป็นโครงการที่มุ่งสนับสนุนและแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่กระจายอยู่ในทุกจังหวัดของภาคกลางเพื่อ สร้างให้ภาคกลางเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกภาคหนึ่งของประเทศไทย โดยภายในงานมีศิลปินดาราและเซเลบริตี้จากหลายวงการมาร่วมสร้างกระแสการท่องเที่ยวในภาคกลาง พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดในประเทศ เปิดเผยว่า “แคมเปญ “เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง” มุ่งกระตุ้นกระแสการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง และเพื่อสร้าง       ภาคกลางให้กลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโดดเด่น สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างคุณค่าให้ประชาชนตระหนักถึงประโยชน์ของการท่องเที่ยวในภาคกลางที่มี       แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอยู่ใกล้ๆ กัน การเดินทางสะดวก และมีสถานที่ท่องเที่ยวครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา น้ำตก วัดวาอาราม ตลาด งานศิลปะ วิถีชีวิตพื้นบ้าน และอีกมากมาย สามารถไปเที่ยวได้บ่อยๆ ในราคาประหยัด”     

สำหรับโครงการนี้  ททท. มีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มโอกาสทางการท่องเที่ยวให้กับการท่องเที่ยวภายในประเทศและเป็นการกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบันให้เกิดรายได้หมุนเวียน และเกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน ตามวัตถุประสงค์หลักของแคมเปญ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” ที่เปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่เมื่อปลายปี 2551  ที่ผ่านมาอีกด้วย

ภาคกลางประกอบด้วย 26 จังหวัดที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ แต่ละจังหวัดอยู่ใกล้ๆ กัน จึงสะดวกในการเดินทาง ทั้ง 26 จังหวัดในภาคกลาง ประกอบด้วย เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม นครนายก ปราจีนบุรี ตราด ลพบุรี สระบุรี อยุธยา อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี สมุทรปราการ นนทบุรี สระแก้ว กรุงเทพฯ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี ซึ่งทั้ง 26 จังหวัดนี้ได้รับการจัดแบ่งออกมาเป็น 9 กลุ่ม ตามความโดดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

1.   มนต์เสน่ห์ทะเลวัง ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
2.   แดนสวรรค์ตะวันตก ประกอบด้วย จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม
3.   ผจญภัยหัวใจสีเขียว ประกอบด้วย จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ตราด ลพบุรี และสระบุรี
4.   เที่ยวท่องล่องเจ้าพระยา ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สมุทรปราการ และนนทบุรี
5.   ชายแดนเบื้องบูรพา ประกอบด้วย จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว
6.   กรุงเทพฯสุขหรรษา ประกอบด้วย จังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา
7.   เที่ยวท่องล่องแม่กลอง ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
8.   เที่ยวเมืองเก่าเล่าประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี
9.   สีสันตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

งานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง” ยังได้รับเกียรติจากศิลปินดาราและเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการ อาทิ เจี๊ยบ - โสภิตนภา ชุ่มภาณี, หญิงแม้น - ม.ร.ว. แม้นนฤมาส ยุคล, น็อต - วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์, อิม - อชิตะ ธนาศาสตนันท์, ปานวาด นิรันดร์กุล, ดีเจปาล์ม - ฐิตวินน์ คำเจริญ, วลัยลักษณ์ มุสิกโปฎก (ก้อย - แซทเทอร์เดย์ เซโกะ), อนุสรณ์ มณีเทศ (โย่ง – อาร์มแชร์) และธีรชัย วิมลชัยฤกษ์ (โทนี่ รากแก่น) เป็นต้น ที่จะมาร่วมสร้างสีสันภายในงาน และจะมีผู้มีชื่อเสียงจากหลากหลายอาชีพร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปกับ กับสื่อมวลชนตลอดช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนกันยายน นอกจากนี้ ยังมีงานส่งเสริมการขาย (Consumer Fair) จากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 40 ราย เพื่อเป็นการช่วยสร้างกระแสและกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคกลางให้คึกคักยิ่งขึ้น

3407
ไปรษณีย์ไทยจับมือศูนย์หนังสือจุฬาฯช่วยคลายร้อน ปรุงเมนู “อิ่มสมอง อิ่มท้อง” ฉลองปิดเทอมใหญ่
 
             ไปรษณีย์ไทยผสานมือศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดงาน “อิ่มสมอง อิ่มท้อง ฉลอง Summer Sale” ช่วงปิดเทอม ชวนทุกคนมากินให้กระหน่ำ ช้อปให้กระจายคลายร้อน ยกขบวนหนังสือน่าอ่านกว่า 3 แสนรายการพาเหรดลดราคาสูงสุดถึง 70% พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนู “อร่อยทั่วไทย” สั่งได้ที่ไปรษณีย์ 3 วันเต็ม 20 - 22 มี.ค.นี้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สยามแสควร์

          นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) สายงานตลาดและพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า ในภาวะที่คนไทยจำนวนมากกำลังร้อนกาย ร้อนใจ กับทั้งกับภูมิอากาศหน้าร้อน และวิกฤตเศรษฐกิจ ปณท จึงอาสาคลายร้อนโดยร่วมมือกับศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงานดังกล่าวขึ้น โดยนำเอาเมนูจากบริการ “อร่อยทั่วไทย” สั่งได้ที่ไปรษณีย์จากทั่วทุกภาคมาพร้อมเสิร์ฟไม่ว่าจะเป็น แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม ต้นตำรับจากร้านวนัสนันท์ เชียงใหม่ เค้กขุกมิ่ง ตรัง โรตีกรอบ ปัตตานี เป็นต้น มาให้ได้ “อิ่มท้อง” กันถ้วนหน้า

          “นอกจากนี้ ปณท ยังนำแสตมป์น่าสะสมหลากหลายชุด สินค้าไปรษณีย์ มาให้เลือกชมเลือกซื้อกัน บริการถ่ายภาพแสตมป์ส่วนตัวสุดฮิป ซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและใช้ได้จริง รวมทั้งไปรษณียบัตรที่ระลึกเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ไทย-ลาว สำหรับผู้ที่พลาดการเป็นเจ้าของเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จะนำมาจำหน่ายในงานนี้งานเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นผู้รักการสะสมจึงพลาดไม่ได้เด็ดขาด” นาวสาวอานุสรากล่าว

          นางสาวอุไรวรรณ กรวิทยาศิลป ผู้จัดการศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ช่วงการจัดงานเป็นช่วงปิดภาคเรียน ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จึงมุ่งที่จะส่งเสริมให้เยาวชนนักเรียนนักศึกษารู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการการอ่าน จึงจับมือกับไปรษณีย์ไทยจัดกิจกรรมครั้งนี้ โดยศูนย์หนังสือจุฬาฯ ได้คัดสรรหนังสือน่าอ่าน คือหนังสือ “คำพ่อสอน” ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังสือดีเปี่ยมด้วยคุณค่าที่คนไทยทุกคนควรมีและควรอ่าน นำมาลดราคาพิเศษสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีหนังสือดี ๆอีกมากมายจากสำนักพิมพ์ทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 3 แสนรายการ มาลดราคาพิเศษสูงสุดถึง 70 % ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ทุกคน “อิ่มสมอง” แบบสบายกระเป๋าได้อย่างแน่นอน

          อนึ่ง ภายในงาน “อิ่มสมอง อิ่มท้อง ฉลอง Summer Sale” ยังมอบโปรโมชั่นพิเศษ อิ่ม 1 ช้อปสินค้าไปรษณีย์ครบ 200 บาท ซื้อหนังสือราคาพิเศษ คือ “หนังสือคำพ่อสอน” ราคา 109 บาท เหลือ 87 บาท “หนังสือพฤติกรรมน่ารัก” ราคา 130 บาท เหลือ 99 บาท “หนังสือชุดนิทานบ้านป้ากุล 3 เล่ม” ราคา 195 บาท เหลือ 156 บาท อิ่ม 2 ช้อปสินค้าที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ครบ 500 บาท รับส่วนลดทำแสตมป์ส่วนตัวสุดเก๋ที่บูธไปรษณีย์ไทย ราคา 90 บาทเท่านั้น สอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายสื่อสารการตลาด โทร. 0 2831 3515-6 หรือ Call Center ศูนย์หนังสือจุฬาฯ โทร. 0 2255 4433

3408
โครงการ IRPUS เปิดรับข้อเสนอโครงงาน ประจำปี 2552 ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง เดือนมิถุนายน ของทุกปี



    สำนักงานโครงการ IRPUS เปิดรับข้อเสนอโครงงาน IPUS1, IPUS2, IPUS3 และ RPUS ประจำปี 2552 โดยมีกำหนดการ ดังนี้
          - รอบที่ 1 วันที่ 1 มกราคม       ถึง  15  เมษายน    2552
        - รอบที่ 2 วันที่ 1 พฤษภาคม   ถึง  15  มิถุนายน   2552   
 
          อาจารย์และนักศึกษาท่านใดที่สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานโครงการ IRPUS โทร.02-409-6040 หรือสามารถดาวน์โหลดเอกสารคู่มือการขอรับทุนโครงการ ที่เว็บไซต์ www.irpus.or.th/download.php  ชมวีดีโอสาธิตการส่งข้อเสนอโครงการ www.irpus.or.th/video.php

นิทรรศการIRPUS52 http://www.irpus.or.th/exhibition52/

3409
ซาบีน่าบุกตลาดชุดชั้นในเด็กเต็มพิกัดรุกเปิดตัว ‘ซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี’ ดันยอด 60 ล้านบาท



ซาบีน่า บุกตลาดชุดชั้นในเด็ก พาคุณหนูลุยโลกใต้ทะเลกับลวดลายบนคอลเลคชั่นใหม่ “ซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี”     จับกลุ่มสาวแรกรุ่นอายุ 6-12 ปี   มุ่งหน้าสานต่อ โครงการ ซาบีนี่ แคมป์ บาย ซาบีน่า รุ่น 3 ตอน “Under the Sea           รหัสลับ...พิทักษ์โลกใต้ทะเล” ตามหาทูตน้อยนักอนุรักษ์ หวังปลูกฝังให้เด็กรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศวิทยา     ใต้ท้องทะเล คาดช่วยดันเป้ายอดขายชุดชั้นในซาบีนี่ทั้งปีได้ 130 ล้านบาท

   นายอมรเทพ อสีปัญญา  ผู้อำนวยการสายงานขาย และการตลาดในประเทศ บริษัทซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในสตรี ภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดชุดชั้นในเด็ก                      ภายใต้แบรนด์ ซาบีนี่ (Sabinie) ในปีนี้ว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ภายใต้ชื่อ “ซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี”                       (Sabinie Under The Sea) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ  กับบริษัท สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล กรุงเทพ จำกัด               ที่จะมุ่งสนับสนุนในเรื่องการเรียนรู้ ชีวิตโลกใต้ทะเล พร้อมทั้งปลูกฝังและสร้างจิตสำนึก ให้มีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล ให้กับเยาวชน อีกทั้งยังสานต่อแรงบันดาลใจ ออกแบบชุดชั้นในเป็นลวดลายหนูน้อยซาบีนี่         มาพร้อมกับเหล่าผองเพื่อนสัตว์น้ำในโลกแห่งท้องทะเล โดยคอลเลคชั่นดังกล่าวจะจับกลุ่มเด็กผู้หญิงที่มีอายุ      ระหว่าง 6-12 ปี วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม ผ่านช่องทางจำหน่ายในแผนกชุดชั้นในตามห้างสรรพสินค้า        และดิสเคาน์สโตร์ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงซาบีน่า ช้อปทั้ง 7 สาขาอีกด้วย

   ทั้งนี้ ชุดชั้นในคอลเลคชั่น “ซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี” ประกอบด้วยชุดชั้นในสำหรับเด็ก ที่เป็นเสื้อกล้าม    แบบครึ่งตัว - เต็มตัว กางเกงขาสั้น วางจำหน่ายในราคา 230 - 300 บาท และกางเกงในบรรจุแพ็ค จำนวน 3 ชิ้น         วางจำหน่ายในราคา  290  บาท

   ส่วนแผนทำตลาดนั้น บริษัทฯ จะทำกิจกรรมและประชาสัมพันธ์เพื่อสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้า          เอาใจคุณหนูๆ โดยสานต่อโครงการ Sabinie Camp ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 โดยตั้งชื่อกิจกรรมอย่างน่ารัก และ      สอดคล้องกับคอลเลคชั่นล่าสุด คือ Sabinie Camp by Sabina รุ่น 3 ตอน “Under the Sea รหัสลับ...พิทักษ์โลกใต้ทะเล” เปิดโอกาสให้คุณหนูๆ ที่มีอายุระหว่าง 6 - 12 ปี โหวตทะเลที่ชื่นชอบและอยากไปท่องเที่ยวมากที่สุด รวมถึงสัตว์ทะเลที่อยากพบมากที่สุด เพื่อคัดเลือกทูตน้อยผู้โชคดี จำนวน 50 คน โดยสามารถรับใบสมัคร เพื่อลงคะแนนโหวตได้ที่ เคาน์เตอร์ซาบีน่า ณ ห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ หรือ ดาวน์โหลดได้ที่ www.sabina.co.th  และส่งใบสมัคร           พร้อมรูปถ่ายตัวเอง มาที่ ฝ่ายโครงการ Sabinie Camp เลขที่ 932 ถนนประชาชื่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 หรือทาง Email Address: sabiniecamp@gmail.com ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2552 สามารถสอบถาม   รายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Sabina Call Center 02 422 9430
 
   ทั้งนี้ บริษัทฯ จะประกาศผลฑูตน้อยที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 50 คน ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2552 ที่จะได้เข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าว เพื่อได้ร่วมเป็นหนึ่ง ในการเรียนรู้ตะลุยโลกใต้ทะเล และค้นหาความมหัศจรรย์ของธรรมชาติทางทะเล กับหนูน้อย Sabinie ในวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2552 ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะทำให้เด็กๆ   ได้เรียนรู้ และมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติทางทะเล โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

   นอกจากนี้ ยังมีการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย สำหรับผู้ที่สมัคร 100 คนแรก จะได้รับ                        Sabinie Gift Voucher ใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าชุดชั้นในซาบีนี่ และหากลูกค้าซื้อสินค้าชุดชั้นในซาบีนี่          คอลเลคชั่น อันเดอร์ เดอะ ซี ครบตั้งแต่ 800 บาท หรือสมาชิกซาบีน่า ซื้อครบเพียง 400 บาท รับฟรีซาบีนี่ ไดอารี่ 1 เล่ม ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม ถึง 31 พฤษภาคม 2552 พร้อมกันนี้ ยังได้ทำโปรโมชั่นต่อเนื่อง ร่วมกับสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ให้กับลูกค้าที่ซื้อชุดชั้นในซาบีนี่ อันเดอร์ เดอะ ซี ตั้งแต่ 800 บาทขึ้นไป รับบัตรส่วนลดในการเข้าชม                      สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล แบบครอบครัว 1 ชุด หรือบัตรลด 100 บาท จำนวน 4 ใบ 1 ชุด รวมมูลค่าส่วนลดต่อชุด 400 บาท ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนจนถึง 31 กรกฎาคมนี้อีกด้วย

   “แผนการทำตลาดชุดชั้นในซาบีนี่ในครั้งนี้ เราได้ตระหนักถึงกลุ่มเยาวชนที่จะเป็นพลังสำคัญในการช่วยกันดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม จึงต้องการปลูกฝังค่านิยมในเรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ เพื่อในอนาคตตจะได้ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลไม่ให้ถูกทำลายจนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาของสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในทะเล”          นายอมรเทพ กล่าว

   สำหรับเป้าหมายยอดขายชุดชั้นในสำหรับเด็ก “ซาบีนี่” คอลเลคชั่น “อันเดอร์ เดอะ ซี” นั้น บริษัทฯ คาดว่า จะสามารถทำได้ 60 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายชุดชั้นในภายใต้แบรนด์ซาบีนี่ในปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 130 ล้านบาท       ให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ ขณะที่คาดว่ายอดขายรวมของบริษัทฯ ในปีนี้จะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท

3410
แป้งเย็นโพรเทคส์ เชิญร่วมกิจกรรม “ค้นหา คูลแมน กับ โพรเทคส์ คูล ดิโอ”



แป้งเย็นโพรเทคส์ คูล ดิโอ ขอเชิญชวนหนุ่มไทยร่วมพิสูจน์ความแกร่งกับภารกิจพิชิตความเย็นกับกิจกรรม “ค้นหา คูลแมน กับ โพรเทคส์ คูล ดิโอ” โดยมี คุณป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิจใจ มาร่วมเฟ้นหาคูลแมน ในวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2552 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ลานเอนกประสงค์ สวนจตุจักร ใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1-800-800-900

3411
เอ.อาร์.เปิดงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2009



บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ร่วมกับ บริษัทพันธมิตรธุรกิจไอทีชั้นนำ เปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดต้อนรับปี’52 “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2009” อย่างเป็นทางการ โดยมีนายพิชัย รัตตกุล และนายแจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ ประธานบริษัท กลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช จำกัด ให้การต้อนรับ พร้อมนำสื่อมวลชนชมบริเวณงาน ซึ่งงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 มีนาคม 2552 เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

3412
 “ร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติ”




   เมื่อเร็วๆ นี้ (18 มีนาคม 2552) 4 องค์กรหลักได้แก่ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ(สกศ.), สำนักงานอุทยานการเรียนรู้(TK Park), มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก นิตยสาร Mother & Care ร่วมกันจัดงานแถลงข่าวงาน “ร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติ” ณ อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) โดยมี ดร.สายสุรี จุติกุล อดีตรองประธานกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ และที่ปรึกษาด้านปฐมวัยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานในพิธี

          ภายในงานยังมีการสัมมนาในหัวข้อ การอ่านสร้างชาติ โดยท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต และดร.สายสุรี จุติกุล ดำเนินรายการโดยคุณไชยวัฒน์ อนุตระกูลชัย
          นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก ครอบครัววัชรคุณ คุณชนกวนันท์(ตุ๊ก) คุณเชษฐวุฒิ(บ๊วย) และด.ญ. แพรวพิชชา (น้องแพรว) มาโชว์การเล่านิทานด้วยบรรยากาศน่ารักๆ ต่อด้วยโชว์การเล่านิทานโดย ด.ญ. พชรมน อินสตุล(น้องไอเดีย) และ ด.ญ. ศศิกานต์ บวรรุ่งสิริสกุล (น้องนุ่น) ทั้ง 2 เป็นผู้ชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประเภทเดี่ยว 4-6 ปี และเดี่ยว 6-9 ปี ในโครงการลับสมองประลองปัญญาสรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน

          โดยโครงการ “ร้อยกิจกรรมวันหนังสือเด็กแห่งชาติ” จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน 2552 ณ อุทยานการเรียนรู้ (TK Park)

3413
บลจ.ไอเอ็นจีปลื้มกระแสตอบรับกองทุนเปิด ‘ไทย ไลฟ์ไซเคิล’ ย้ำดูแล “ความเสี่ยง” ผู้ลงทุนเน้นตราสารหนี้ภาครัฐ-หุ้นคุณภาพ

บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มกระแสตอบรับกองทุนเปิด “ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล” หลังเดินหน้าให้ข้อมูลผู้ลงทุน พบได้รับความสนใจคึกคัก ชี้นักลงทุนแสวงหาช่องทางการลงทุนรับวัยเกษียณ ยันนโยบายดูแล “ความเสี่ยง” สามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี ย้ำเลือกลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่มีความมั่นคงสูง ขณะที่ตราสารทุนจะเฟ้นเฉพาะหุ้นคุณภาพ พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพทั้ง 3 กองทุน ไม่ว่าจะเป็นไทย ไลฟ์ ไซเคิล 2015, 2020 หรือ 2025 มั่นใจเปิดขาย IPO 19-26 มี.ค.นี้ฉลุยแน่ เผยจองขั้นต่ำแค่ 10,000 บาท

            นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ในซีรีย์ส “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ ไซเคิล” (ING Thai Lifecycle Fund) ซึ่งประกอบด้วย 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 โดยใช้ปีที่ผู้ลงทุนต้องการเกษียณอายุเป็นตัวกำหนดเป้าหมายการลงทุนนั้น ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสอบถามข้อมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อพบปะกับผู้ลงทุน ซึ่งกระแสตอบรับที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มาจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินเพื่อรองรับวัยเกษียณ ขณะที่นโยบายหลักของกองทุนในซีรียส์ “ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล” ที่เน้นดูแลความเสี่ยงจากการลงทุนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี

            “ขณะนี้เราต้องยอมรับว่า ผู้ลงทุนให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะถดถอย ซึ่งนโยบายของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล สามารถตอบโจทย์ได้ เพราะกองทุน   ดังกล่าวเป็นกองทุนแบบผสม โดยส่วนของตราสารหนี้จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเงินคลัง รวมถึง พันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นตราสารมีความมั่นคงสูง ขณะที่การเลือกลงทุนในตราสารทุน ซึ่งจะเป็นส่วนที่สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนนั้น เราจะลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพดีด้วยกระบวนการลงทุนของกลุ่มไอเอ็นจีที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นในประเทศเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารหนี้ หุ้นและเงินสดโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องจังหวะของการลงทุนและการเลือกลงทุนในแต่ละสินทรัพย์อีกด้วย” นายจุมพลกล่าว

สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2025 จะมีอายุโครงการ 16 ปี 8 เดือน แต่มีสภาพคล่องด้วยการเปิดให้ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 40-45 ปี และคาดว่าอยากจะเกษียณอายุในวัยประมาณ 60 ปี คือ ในปี 2023-2028 ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ยังอยู่ในวัยทำงานที่แสวงหาทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงาน และความ   มั่งคั่งให้กับตนเอง การแสวงหาผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับการยอมรับความเสี่ยงจึงยังมีได้มาก ดังนั้น สัดส่วนการลงทุนจะเน้นการลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 55% แต่ในปีใกล้สิ้นอายุของกองทุน ตราสารในพอร์ตการลงทุนจะมีการเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้นจนกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งหมดในวันสิ้นอายุกองทุน เพื่อลดความเสี่ยงในตลอดช่วงอายุการลงทุน

ขณะที่กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2020 จะมีอายุโครงการ 11 ปี 8 เดือน เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีอายุ 45-50 ปี โดยคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณ 60 ปี ในปี 2018-2023 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสม่ำเสมอของรายได้และ รับความเสี่ยงได้น้อยลง ดังนั้น จึงให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยจะลงทุนในตราสารทุนในช่วงปีแรกไม่เกินกว่า 45%

            ส่วนกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล 2015 อายุโครงการ 6 ปี 8 เดือน เป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีอายุ 50-55 ปี ซึ่งคาดว่าจะเกษียณที่อายุประมาณในปี 2013-2023 ดังนั้น การจัดสรรการลงทุนจะเน้นความปลอดภัยมากกว่าผลตอบแทนที่สูง เพื่อเตรียมเงินทุนไว้รองรับการใช้จ่ายในยามเกษียณแล้ว โดยในช่วงปีแรกจะลงทุนในตราสารทุนไม่เกินกว่า 30% และจะกลายเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นในที่สุด

“กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไลฟ์ไซเคิล” ทั้ง 3 กองทุน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมกัน ระหว่างวันที่ 19-26 มีนาคม 2552 โดยกำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด โทร.0-2688-7777 หรือ www.ingfunds.co.th รวมทั้งที่ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซิตี้แบงก์ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น (HSBC) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี

ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน)                           บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

บริษัทหลักทรัพย์ ซิมีโก้ จำกัด (มหาชน)                         บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)                       บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)

ธนาคาร ดอยซ์แบงก์                                               บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)   

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)      บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน)

บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด                             บริษัทหลักทรัพย์ ไอวี โกลบอล จำกัด (มหาชน)

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด                            บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน)   

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)      บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)     

บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด                                     บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด

บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด                          บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)       บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด                                บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน)

3414
วอลล์ คอร์นเนตโต ทุ่ม 200 ล้านผนึกกำลังพันธมิตร วัน-ทู-คอล! และเอเชียซอฟท์ ส่งแคมเปญดิจิเทนเมนท์เอาใจวัยทีนรับปิดเทอมนี้ แจกซิมคอร์นเนตโต  ลิมิเต็ด เอดิชั่น ฟรีค่าโทรคูณสอง และแข่งขันแดนซ์ออนไลน์ออดิชั่น 





จากความสำเร็จอย่างท่วมท้นหลังเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์วงบีโอวาย ไอศกรีมวอลล์ คอร์นเนตโต ทุ่มอีก 200 ล้าน เปิดตัวกิจกรรมดิจิเทนเม้นท์ โดยได้ผนึกกำลังกับ    วัน-ทู-คอล! และเกมแดนซ์ออนไลน์ ออดิชั่น เพื่อมอบกิจกรรมความสนุกแบบคูณสองตลอดช่วง      ปิดเทอมนี้ 

มร. เจอโรม ชาราโชน รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและไอศกรีม บริษัท        ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “เพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์วัยรุ่น พ.ศ.นี้ วอลล์ คอร์นเนตโต ได้รวบรวมความสนุกในแคมเปญดิจิเทนเมนท์เพื่อมอบประสบการณ์มันๆ ให้แก่วัยรุ่นรับปิดเทอมด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายถึง 3 รูปแบบ ด้วยการแจกคอร์นเนตโต ซิม พร้อมมอบค่าโทรฟรีคุ้มสุดๆ แบบคูณสอง และยังมีกิจกรรมการแข่งขันเกมส์เต้นออนไลน์ ผ่านรหัสใต้ฝาของวอลล์ คอร์นเนตโต” 

กิจกรรมสนุกๆ เริ่มต้นด้วยการแจกซิมคอร์นเนตโต  ลิมิเต็ด เอดิชั่น จำนวน 500,000 ซิม ที่มาพร้อมค่าโทรฟรี และคอนเท้นท์วงบี-โอ-วาย ผ่านทางฝาของคอร์นเนตโต รอยัล ที่มีคำว่า ฟลิป แอนด์ วิน กว่า 18 ล้านฝา ที่รถสามล้อวอลล์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 – 31 มีนาคมนี้

ต่อจากนั้น ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม วอลล์ คอร์นเนตโต ฝาคอร์นเนตโตทุกฝาสามารถใช้เติมเงิน วัน-ทู-คอล! ได้ฟรีทันที 5 บาท และเมื่อเติมเงินครบ 5 ฝา จะได้รับค่าโทรเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยมีมูลค่ารวมสูงสุดถึง 50 บาท 

ความสนุกรูปแบบที่สาม วอลล์ คอร์นเนตโตยังได้ร่วมกับเกมแดนซ์ออนไลน์ “ออดิชั่น” เอาใจคอเกมส์ออนไลน์วัยทีน โดยสามารถใช้รหัสใต้ฝาวอลล์ คอร์นเนตโต รอยัล ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมแข่งขันกิจกรรม “คอร์นเนตโต โชว์สเต็ป ชิงเทพออดิชั่น” เพื่อชิงความเป็นสุดยอดนักเต้นเท้าไฟในเกมส์ออดิชั่น ซีซั่น 2 เกมส์ออนไลน์สุดฮิตอันดับหนึ่งในประเทศไทย เพื่อชิงรางวัลใหญ่พาไปเที่ยวเกาหลีและของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย   

นายอเนก อนันต์วัฒนพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลุ่มลูกค้าพรีเพด เอไอเอส กล่าวว่า “จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจากแคมเปญ “คอร์นเนตโต โทรฟรี (ได้อีก)” ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้า เป็นอย่างดี ปีนี้ วัน-ทู-คอล! จึงมีความยินดีที่ได้ร่วมกับ ยูนิลีเวอร์ พันธมิตรทางธุรกิจที่ดีของเรามาโดยตลอดอีกครั้ง ด้วยการออกแคมเปญใหม่ “คอร์นเนตโต โทรฟรีคูณ 2” เพื่อมอบสิทธิพิเศษ และความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้า วัน-ทู-คอล! และวอลล์ คอร์นเนตโต”

นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เกมส์ออดิชั่นแดนซ์ เป็นเกมส์ที่ฮิตติดอันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยมีผู้เล่นในขณะนี้มากกว่า 10 ล้านไอดี เราจึงมีความยินดีที่ได้ร่วมพันธมิตรกับไอศกรีมวอลล์ จัดการแข่งขันออนไลน์ครั้งนี้ขึ้น ซึ่งเปิดโอกาสให้แฟนเกมส์ออดิชั่นแดนซ์ได้ ร่วมการแข่งขันเพื่อแสดงความสามารถเพื่อชิงที่สุดของเทพออดิชั่นเพียง 6 คนที่จะได้เดินทางไปเที่ยวเกาหลี ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศฮิตที่วัยรุ่นใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวมากที่สุด”     

แคมเปญวอลล์ คอนเนตโต ดิจิเทนเมนท์ เริ่มระเบิดความสนุกทั่วประเทศตั้งแต่ 25 มีนาคมนี้ ไปจนถึง สิ้นเดือนพฤษภาคม โดยสามารถติดตามรายละเอียดแคมเปญได้ตั้งแต่วันนี้ ที่เว็บไซต์ www.CornettoClub.com 

เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย

พันธกิจของยูนิลีเวอร์ คือ การเติมพลังให้แก่ชีวิต เราตอบสนองความต้องการทางด้านโภชนาการ สุขอนามัย และการดูแลเอาใจใส่ชีวิตส่วนตัวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผู้คนรู้สึกดี มีลักษณะชวนมอง และแต่งเติมชีวิตให้มีความสุขมากยิ่งขึ้นทุกวัน ทุกๆ วันมีผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 160 ล้านคน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ ยูนิลีเวอร์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยมากว่า 75 ปี ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย ได้แก่ผงซักฟอกบรีส โอโม ซันไลต์ คอมฟอร์ท ลักส์ วาสลีน ซิตร้า ซันซิล คลีนิค เคลียร์ พอนด์ส โดฟ แอกซ์ เรโซนา ใกล้ชิด คนอร์ วอลล์ ลิปตัน เบส์ทฟู้ดส์ และและ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง (อาวิยองซ์) ยูนิลีเวอร์มุ่งมั่นที่จะสนองความต้องการของผู้บริโภคและชุมชนที่เราอยู่อาศัยทำธุรกิจ และใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน  บริษัทฯ มีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 2000 คนทั้งในประเทศไทย มีรายได้จากยอดขายปี 2551 ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท  สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยได้ที่  www.unilever.co.th

3415
UPLUZ What Students like การแสดงความสามารถของนักศึกษา ในคอนเซ็ปต์ 8 Smarts In U




วีรภัทร มะลิวงษ์ (ที่ 3 จากขวา) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รีฟิลล์ โปรดักชั่นส์ จำกัด เจ้าของ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา นิตยสารยูพลัส (UPLUZ) พร้อมด้วย มาฬิศร์ กรรณสูต เชยโสภณ (ที่ 2 จากซ้าย) บรรณาธิการบริหาร นิตยสารยูพลัส พื้นที่สำหรับคนวัยเรียน จัดงาน UPLUZ What Students like เพื่อเปิดตัวนิตยสารยูพลัสฉบับพิเศษช่วงปิดเทอมบนแผงหนังสือ โดยวางแผงเล่มแรกในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมกับแนะนำกิจกรรมภายใต้คอนเซ็ปต์ UPLUZ What Students like โดยมี อภิชาต พุฒพันธ์ กรรมการผู้จัดการ AP Group Organizer ณัฐกาญจน์ เสนเนียม กรรมการผู้จัดการ TA Media Agency และ นาวาอากาศตรี พิชญาณ อะสีติรัตน์ ร่วมงาน เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ลานชั้น 1 ฟอรั่มโซน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด

3416
กลุ่มพันธมิตรศูนย์ข้อมูลในเอเชียผนึกกำลังอย่างแข็งแกร่ง ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลชั้นนำ 4 รายนำเสนอบริการครบวงจรข้ามพรมแดน



     นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค ศูนย์ข้อมูลชั้นนำ 4 รายที่อิสระไม่ขึ้นกับบริษัทสื่อสารรายใดรายหนึ่ง(Carrier Neutral Data Centers) ซึ่งได้แก่ ทีซีซี เทคโนโลยี (TCCT) ของไทย, 1-Net Singapore, AIMS Asia Group ของมาเลเซีย และ CMC Telecom ของเวียดนาม ลงนามอย่างเป็นทางการในสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มสมาชิก Asia Data Center Alliance (ADCA) กลุ่มสมาชิกดังกล่าวจะผสานรวมความแข็งแกร่งของสมาชิกแต่ละราย และขยายขีดความสามารถในการให้บริการในระดับภูมิภาค ด้วยบริการศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งทางด้านธุรกิจและเทคโนโลยีให้แก่องค์กรชั้นนำต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคม หน่วยงานภาครัฐเอกชน และสถาบันการเงิน

          บนพื้นที่บริการกว่า 500,000 ตารางฟุต ทางกลุ่มสมาชิกได้สร้างศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาคที่เหนือชั้น โดยคาดว่าจะมียอดรายได้ต่อปีกว่า 2,700 ล้านบาท (75 ล้านดอลลาร์) ภายในปี 2553 ภายใต้แนวคิดเรื่องบริการวัน สต๊อป ช้อป หรือจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One-Stop-Shop) ลูกค้าที่ติดต่อศูนย์ข้อมูลรายใดรายหนึ่งในกลุ่มสมาชิก จะสามารถเข้าใช้บริการที่เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล และได้รับประโยชน์จากการถ่ายโอนข้อมูลและสื่อดิจิตอลข้ามพรมแดนอย่างราบรื่น นอกจากนี้ กลุ่มฯยังสามารถอำนวยความสะดวกในการปกป้องข้อมูลโดยผ่านศูนย์สำรองเพื่อกู้คืนระบบด้วยแนวทางรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดในระดับนานาชาติ

          สอดคล้องกับข้อตกลงในบันทึกความเข้าใจเมื่อเดือนมิถุนายน 2008 กลุ่ม ADCA มุ่งมั่นที่จะยึดถือแนวทางในการดำเนินการตามมาตรฐาน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการขายร่วมกัน พันธมิตรด้านเทคนิคจะมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ทางกลุ่มฯ ในการดำเนินโครงการศูนย์ข้อมูลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Data Center) เพื่อประหยัดพลังงานและปกป้องสิ่งแวดล้อม

          ADCA ได้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านการตลาดและเทคนิค เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนบริการต่างๆ ที่จัดหาให้แก่ลูกค้าในแต่ละประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่ม โดยสมาชิกแต่ละรายจะทำหน้าที่ติดต่อประสานงานให้ลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จโดยรวมถึงบริการศูนย์ข้อมูลที่ถูกโฮสต์ไว้ในประเทศสมาชิก นอกจากนี้นโยบายและแนวทางต่างๆที่กล่าวข้างต้นจะมีผลบังคับใช้กับการรับสมาชิกใหม่เข้าสู่กลุ่มฯในอนาคตด้วยเช่นกัน

          นายโฆษิต สุขสิงห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ซี.เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ”โครงการความร่วมมือ ADCA สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้ออกใบอนุญาตให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศและการเชื่อมโยงโครงข่ายภายในประเทศ ประเภทที่ 2 (International Internet Gateway and Domestic Exchange License Type II) ให้แก่ TCCT ใบอนุญาตนี้ ประกอบกับความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านทางกลุ่ม ADCA จะช่วยขยายขอบเขตการให้บริการในปัจจุบัน เช่น การเชื่อมโยงโครงข่ายอินเทอร์เน็ตภายในประเทศ และการเชื่อมโยงโครงข่ายไอพีระหว่างประเทศ/บริการวงจรเช่า และ IP VPN สำหรับองค์กรชั้นนำ”

          ”1-Net Singapore ภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตร ADCA ร่วมกับผู้ให้บริการชั้นนำในภูมิภาคนี้ เราเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้เราขยายการให้บริการแก่ลูกค้า พร้อมทั้งนำเสนอโซลูชั่นศูนย์ข้อมูลอย่างครบวงจรในระดับภูมิภาคบนแพลตฟอร์มที่ทางกลุ่มพันธมิตรใช้งานร่วมกันเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าในระดับภูมิภาค เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผสานรวมความแข็งแกร่งของเราและพันธมิตรแต่ละรายเข้าด้วยกันและขยายขีดความสามารถในการให้บริการศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาคที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ สำหรับในอนาคต เราคาดว่าผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายอื่นๆ ในเอเชียจะเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรของเรา” นายเยา เตา เคียน (Yow Tau Keon) กรรมการผู้จัดการของ 1-Net Singapore กล่าว

          ”AIMS รู้สึกตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มฯก้าวมาสู่จุดที่สำคัญในตลาดศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค การที่ผู้ให้บริการอิสระถึง 4 รายผนึกกำลังร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและเกื้อหนุนศักยภาพในระดับภูมิภาคและสามารถรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของคอนเท็นต์และบริการข้ามพรมแดน เราคาดว่าจะได้พบเจอช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นดังกล่าว” นายโล ยุน เวง (Loh Yuen Weng) รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ AIMS Asia Group กล่าว

          ”การลงนามในข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือของกลุ่มฯ ทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า ด้วยการใช้บริการแบบครบวงจรจากกลุ่มฯ แทนการลงทุนด้วยตนเองเหมาะกับช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านการเงินเช่นนี้” ดร. ฟาม อา เชียน (Pham Anh Chien) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ CMC Telecom กล่าว

          เกี่ยวกับ TCC Technology
          T.C.C. Technology Co., Ltd. (TCCT) เป็นบริษัทผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลชั้นนำในประเทศไทยที่อิสระไม่ขึ้นกับบริษัทสื่อสารรายใดรายหนึ่ง ทางบริษัทมีบริการระบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบโฮสติ้งที่ออกแบบมาเพื่อสนองความต้องการขององค์กรที่มีแนวโน้มใช้บริการในเรื่องระบบสารสนเทศจากภายนอกองค์กรมากขึ้น ปัจจุบัน บริษัท TCCT ดูแลศูนย์ข้อมูลระดับโลกอยู่สองแห่ง แห่งแรกอยู่ที่ ตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯย่านสาทร และศูนย์ข้อมูลอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่บางนาซึ่งอยู่ทางตะวันออกใกล้กับสนามบินนานาชาติของกรุงเทพฯ

          TCCT ตระหนักดีถึงความต้องการของบริษัทต่างๆ ในการปรับปรุงการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาด รวมทั้งกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ด้วยเหตุนี้ TCCT จึงได้พัฒนาแนวทางให้สอดคล้องกับแบบฉบับการปฏิบัติที่ดีเลิศ สำหรับการจัดการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Service Management - ITSM) ปั จจุบัน TCCT ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลได้แก่ ISO9001:2000 และ ISO 27001:2005 (ในด้านความปลอดภัยของข้อมูล) และ TCCTเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองจาก SAP Adaptive Solution Provider (การรับรองตามมาตรฐาน SAP Hosting) ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า TCCT มีขั้นตอนที่จำเป็นอย่างครบถ้วนรวมทั้งรับรองได้ว่าบริการที่มีอยู่สามารถดำเนินงานอย่างถูกต้องเหมาะสมภายใต้สภาพแวดล้อมที่อยู่ภายในการควบคุมเป็นอย่างดี

          ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.tcc-technology.com
          เกี่ยวกับ 1-Net Singapore
          1-Net Singapore เป็นบริษัทผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีข้อมูลและสื่อสารชั้นนำ
          1-Net เป็นผู้บุกเบิกการให้บริการระบบสื่อสารบรอดแบนด์ในสิงคโปร์และปัจจุบันมีบริการศูนย์ข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพสูง โดยสามารถให้บริการเชื่อมต่อภายในประเทศและระหว่างประเทศ มีบริการแบบเบ็ดเสร็จ มีระบบรักษาความปลอดภัยและบริการให้คำปรึกษาแบบเบ็ดเสร็จ รวมทั้งมีบริการด้านสื่ออีกด้วย ด้วยบริการที่มีเสถียรภาพและความปลอดภัย และด้วยประวัติการทำงานที่เป็นเลิศ 1-Net จึงเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระดับท้องถิ่นเพียงไม่กี่รายที่จัดการบริการแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้าอย่างพร้อมสรรพ

          1-Net เป็นบริษัทในเครือของ MediaCorp Pte Ltd ซึ่งเป็นบริษัทด้านสื่อชั้นนำของสิงคโปร์ โดยมีสื่อในเครือแบบครบวงจรอาทิ โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ภาพยนตร์ และสื่อข้อมูลดิจิตอล
          ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.1-net.com.sg

          เกี่ยวกับ The AIMS Asia Group
          AIMS Asia Group เป็นบริษัทผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลระดับภูมิภาค ซึ่งเน้นไปที่การสร้างและบริการศูนย์ข้อมูลชั้นยอดทั่วทั้งเอเชีย โดยเปิดดำเนินงานในมาเลเซีย สิงคโปร์ AIMS เป็นบริษัทในเครือของ The Megawisra Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่เน้นในด้านการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมหลายประเภท

          ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.aims.com.my
          เกี่ยวกับ CMC Telecom
          CMC Telecommunication Services Corporation (CMC Telecom) เป็นหนึ่งในสมาชิกของ CMC Group ซึ่งเป็นบริษัทไอซีทีหนึ่งในสองบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม บริษัท CMC Telecom ให้บริการที่คุณภาพสูงสุดเกี่ยวกับบริการข้อมูล บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบสื่อสาร บริการมูลค่าเพิ่ม และบริการดูแลลูกค้าเป็นต้น ปัจจุบัน CMC Telecom มีศูนย์ข้อมูล ระดับโลกอยู่ที่เมืองไซดอง ซึ่งห่างจากเมืองฮานอยประมาณ 10 กิโลเมตร คาดว่า CMC Telecom จะกลายเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่ไม่ขึ้นกับบริษัทสื่อสารรายใดโดยเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามภายในสิ้นปี 2009 โดยครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 6000 ตารางเมตร
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.cmctelecom.net

3417
สลิมอัพ เซ็นเตอร์ ปฏิบัติการ ค้นหาสาวต้นแบบยุคใหม่ “Hi Idol 5 Women ”










สลิมอัพ เซ็นเตอร์ ผู้นำด้านสถาบันลดน้ำหนัก และกระชับสัดส่วนครบวงจรอันดับ 1 ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), บริษัท เคลล็อกส์ (ประเทศไทย) จำกัด, สถาบันเดอะสกินด็อกเตอร์ และนิตยสารเที่ยวรอบโลก จัดแคมเปญพิเศษ “Hi Idol 5 Women ” เพื่อเฟ้นหาสาวทันสมัย รูปร่างดี มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก และมีความสามารถ มาเป็นผู้หญิงต้นแบบประจำปี 2009 และก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง พร้อมรับรางวัลมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

          โดยแคมเปญฯ ดังกล่าว ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ ลานลิฟท์แก้ว เซ็นทรัล เวิลด์ โซน เซ็นทรัล คอร์ท ซึ่งงานนี้มีแขกผู้มีเกียรติและเหล่าคนดังมาร่วมงานมากมาย อาทิ จอห์น รัตนเวโรจน์, แอ้ม ศิระประภา ฯลฯ รวมถึงกองทัพสื่อมวลชนที่ขนกันมาทำข่าวอย่างคับคั่ง สำหรับบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยสีสันของความสนุกสนาน จากการแสดงบนเวที เริ่มจากโชว์ชุดพิเศษ จาก 4 สาว มากความสามารถ ต่อด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “Hi Idol 5 Women ” อย่างเป็นทางการ โดยตัวแทนจาก 5 บริษัทฯ ชั้นนำ ขึ้นกล่าววัตถุประสงค์ของการจัดงาน และก็มาถึงไฮไลท์พิเศษของงาน ซึ่งได้รับเกียรติจาก คุณม้า-อรนภา กฤษฎี กูรูด้านความงาม และคุณเก๋-ชลดา เมฆราตรี พิธีกรและนางแบบชื่อดัง มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวของสาวยุคใหม่ และเทคนิคในการปฏิบัติตัวของสาวไอดอล ยุค 2009 พร้อมปิดม่านการแถลงข่าวอย่างอบอุ่น ด้วยการถ่ายภาพที่ระลึกบนเวที เรียกว่างานนี้ได้เคล็ดลับดีๆ ในการดูแลสุขภาพ เป็นของแถมกลับบ้านไปเตรียมตัวเป็นสาวยุคใหม่กันเพียบ

          Hi Idol 5 Women เปิดรับสมัครผู้หญิงทั่วปะเทศที่มีอายุ ตั้งแต่ 24 -32 ปี โดยส่งประวัติส่วนตัวพร้อมรูปถ่ายขนาดเต็มตัว และครึ่งตัว มาที่ 87 อาคารเอ็มไทย ออลซีซั่นเพลส ชั้น 10 ห้อง 1005 ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. 1330 (วงเล็บมุมซอง Hi Idol 5 Women) ตั้งแต่วันนี้ – 15 เมษายน 2552 หรือสมัครผ่านทาง www.slimupcenter.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2620-0288

3418
บริหารเงินออมอย่างชาญฉลาด “LH BANK Wealth Buddy” ให้ดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่ม 1.00%

  ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และ บ ริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด จับมือสวนกระแสดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ ถือฤกษ์ดีวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ เปิดตัวโครงการ “LH BANK Wealth Buddy” ฝากประจำ 6 หรือ 12 เดือน พร้อมสมัครทำประกันชีวิต รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเพิ่ม 1.00% เมื่อครบกำหนด เชื่อมั่นลูกค้าให้การตอบรับตามเป้า เงินฝาก 500 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน

          นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า “ในสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปัจจุบัน อยู่ในทิศทางขาลง และอาจคงอยู่ในระดับเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อลูกค้าที่ต้องการได้รับผลตอบแทนที่แน่นอนจากดอกเบี้ยและไม่มีความเสี่ยงใดๆ อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าได้รับคำแนะนำวิธีการบริหารเงินออมที่เหมาะสม ลูกค้าจะมีทางเลือกที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน”

          นางศศิธร กล่าวต่อว่า “ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการออม LH Bank และ เมืองไทยประกันชีวิต จึงเดินหน้าสานต่อวิสัยทัศน์ และเป้าหมายในการสร้างความมั่งคั่งทางการเงินและความอุ่นใจให้กับลูกค้า โดยจัดทำโครงการ LH Bank Wealth Buddy ซึ่งลูกค้าที่เปิดบัญชีเงินฝากประจำ 6 หรือ 12 เดือน พร้อมสมัครทำประกันชีวิต LH Bank Life 612 ตามเงื่อนไขของโครงการ จะมีสิทธิได้รับอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม 1.00% จากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำโดยปกติ”

          นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า “ถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคารและบริษัทประกันชีวิตจัดทำโครงการร่วมกันเช่นนี้ และลูกค้าเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยได้รับทั้งอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่เพิ่มขึ้นและได้รับความอุ่นใจจากแผนประกันชีวิต จึงเชื่อมั่นว่า จะได้รับกระแสตอบรับจากตลาดโดยรวม”

          นายสาระ กล่าวต่อว่า “โครงการ LH Bank Life 612 หรือ แบบประกันเมืองไทยเพิ่มทรัพย์ 12/6 เป็นกรมธรรม์ที่สามารถตอบสนองความจำเป็นด้านความคุ้มครอง โดยระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันเพียงแค่ 6 ปี แต่ให้ความคุ้มครองนานถึง 12 ปี และยังมีเงินจ่ายคืนให้ทุกๆ 2 ปี ระหว่างสัญญา”

          ความโดดเด่นของแบบประกันคือ ความคุ้มครองที่นานถึง 12 ปี แต่ชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 6 ปี และมีเงินจ่ายคืนทุกๆ 2 ปี รวมรับผลประโยชน์ตลอดสัญญา 150% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา อายุที่รับประกันภัยคือตั้งแต่ 1 – 60 ปี การรับผลประโยชน์คือ

          1. กรณีมีชีวิตอยู่
          รับเงินจ่ายคืนทุกๆ 2 ปี
          ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2, 4, 6, 8, 10 ปีละ 6% (รวม 30%)
          รับเงินครบสัญญา 120% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 12
          รวมรับผลประโยชน์ตลอดสัญญา 150% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา

          2. กรณีเสียชีวิต
          ปีที่ 1 – 4 รับผลประโยชน์ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา
          ปีที่ 5 – 12 รับผลประโยชน์ 150% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา
          สนใจโครงการ “LH BANK Wealth Buddy” ติดต่อ LH Bank ทุกสาขาทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึง 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-359-0000

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
          ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
          ส่วนโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สำนักกรรมการผู้จัดการ
          คุณศจิกา เจนคิด (แหม่ม)
          โทรศัพท์. 02-359-0283 , 081-208-6306
          แฟกซ์. 02-677-7223 E-mail : sajikaj@lhbank.co.th

3419
ซาบีน่า ร่วมกับ Happy DTAC ออกบัตรเติมเงิน 100 บาท พร้อมโปรโมชั่น



โปรโมชั่นส่งความสุข :
คุณอมรเทพ อสีปัญญา  ผู้อำนวยการสายงานขายและการตลาดในประเทศ (ขวาสุด)  บริษัท ซาบีน่า  จำกัด (มหาชน) และคุณภาณุพันธ์ สงวนพรรค ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาธุรกิจ    บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค)  (ซ้ายสุด) ร่วมเปิดโปรโมชั่นใหม่ ออกบัตรเติมเงิน Happy 100 บาท ภายใต้ concept ทำอย่างนี้ชุดชั้นในแฮบปี้แน่ๆ ในลวดลายชุดชั้นในน่ารักๆ   สุดเก๋ ให้เก็บสะสม ทั้งหมด 4 แบบ  พร้อมจัดโปรโมชั่นต้อนรับหน้าร้อน เพียงนำบัตรเติมเงิน              ใช้เป็นส่วนลดสูงสุดถึง 200 บาท เมื่อซื้อสินค้า SABINA ครบ 800 บาท  เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค – 31 พ.ค. นี้เท่านั้น

3420
เซ็นเตอร์พ้อทย์@เซ็นทรัลเวิลด์” เปิดตัวเป็นทางการยิ่งใหญ่ ชูแม่เหล็กเรียกกลุ่มเป้าหมาย 20,000 คนต่อวัน



   “เซ็นเตอร์พ้อทย์@เซ็นทรัลเวิลด์” เปิดตัวเป็นทางการยิ่งใหญ่   หลังเปิดพื้นที่มา 5 เดือน มีร้านเช่าพื้นที่เกือบเต็มแล้ว 80 %  เดินหน้า มุ่งเป็นศูนย์รวมวัยรุ่นคนรุ่นใหม่  ไม่หวั่นพิษเศรษฐกิจทุ่ม 150 ล. พัฒนาพื้นที่กว่า10,000ต.ร.ม. ที่ถูกเนรมิตให้เป็น Teensett  Venue แห่งใหม่ในไทยและเอเชีย  ชูแม่เหล็กล้ำสมัยเรียกกลุ่มเป้าหมายเข้าห้าง20,000 คนต่อวัน  แผนระยะยาวเช่าพ.ท. 10ปีคาดใช้เงินลงทุนอีกกว่า 1,200 ล้านบาท  ส่วนปี52 มุ่งสร้างให้คนรู้จัก ขยายงานอีเว้นท์ที่โตถึง100%

          พรนริศ   ชวนไชยสิทธิ์   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท  อินฟินิตี้  มอลล์  จำกัด  เปิดเผยถึงแผนการบริหารพื้นที่ “ เซ็นเตอร์พ้อยท์@เซ็นทรัลเวิลด์” บนชั้น 7-8  ของเซ็ลทรัลเวิลด์   ที่ได้เช่าพื้นที่ระยะยาว 10  ว่า  หลังจากที่เปิดพื้นที่กว่า 5 เดือนแล้ว ได้รับการตอบรับอย่างดี   มีร้านเข้าเช่าพื้นที่แล้ว 80% หรือประมาณ 50 ร้านค้า ส่วนเป้าหมายปีนี้จะมุ่งสร้างความรู้จักในกลุ่มเป้าหมาย  มากกว่าผลักดันยอดรายได้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี

“อย่างไรก็ตามถึงเศรษฐกิจจะย้ำแย่ และน่าหนักใจแต่ก็ไม่ ถือว่าเลวร้ายมากนัก เมื่อเทียบกับช่วงที่ปี2540  ที่ได้ก่อตั้งเซ็นเตอร์พ้อยท์เดิมที่สยามสแควร์ ที่ภาวะเศรษฐแย่เหมือนสิ้นลมหายใจ  และเราก็เริ่มต้นจากศูนย์ด้วยโอกาสของช่องว่างการตลาด  และด้วยศักยภาพของทีมงานและผมกับน้องชายเป็นนักกิจกรรมตั้งแต่สมัยเรียน   จึงริเริ่มการเข้ามาทำกิจกรรมการตลาดในกลุ่มวัยรุ่น  จัดอีเว้นท์กิจกรรมตลาดกับบริษัทสินค้าต่างๆ   โดยรายได้หลักมาจากการให้เช่าพื้นที่และจัดกิจกรรม   ในขณะนั้นลงทุนเริ่มแรกแค่ 13- 15 ล้านบาท  สร้างฐานตลาดใหม่ๆในกลุ่มวัยรุ่น  แบ่งเซ็กเม้นต์กลุ่มย่อยๆมากมาย  ทั้ง กลุ่ม อินดี้    เด็กแนว  ฯ”

          การกลับมาครั้งใหม่ในนาม “ เซ็นเตอร์พ้อยท์@ เซ็นทรัลเวิล์ด” นับว่ามีความแตกต่างจากเดิมอย่างมาก  อันดับแรกคือทางกายภาพ  โลเกชั่นสถานที่   จากเดิมที่อยู่กลางแจ้ง มาอยู่ในห้องแอร์ พื้นที่ใหญ่ขึ้นมากว่า 10 เท่า  จากเดิม 1,300 ต.ร.ม  มาเป็น 10,000 ต.ร.ม. บนชั้น7-8 เซ็นทรัลเวิล์ด การลงทุนก็เพิ่มมากขึ้นถึง 150 ล้านบาท ในระยะเริ่มต้น 

          การทำตลาดและและการจัดกิจกรรมต่างๆจะต้องมีความแตกต่างชัดเจน    มีการลงทุนเพิ่มเป็นเท่าตัวทั้งค่าเช่าพื้นที่  และทุ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์สถานที่  ดังนั้นกิจกรรมทางการตลาดจะต้องวางแผนเป็นระบบมากขึ้น     และมีการจัดกิจกรรมที่เป็นแม่เหล็กดึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด  แต่ก็มีกลิ่นอายของเซ็นเตอร์พ้อยท์ที่ครองใจวัยรุ่นอยู่   อาทิ  ได้จัดเปิดตลาดอินดี้   ขายสินค้าทำมือของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา   ทุกวันศุกร์ด้านล่างในพื้นที่ว่างของเซ็นทรัลเวิลด์   โดยนักเรียน  นักศึกษาไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่    ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างดี   มีผู้มาซื้อสินค้ามากกว่า  20,000 คน  ถือเป็นพื้นที่หน้าต่างที่จะดึงคนสู่เซ็นเตอร์พ้อยท์@เซ็นทรัลเวิล์ด อีกทางหนึ่ง

          “ต้องบอกว่ายิ่งใหญ่ตระการตา สำหรับคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เปิดในครั้งนี้   โดยโครงการนี้ใช้งบลงทุนเบื้อต้น 150ล้าน  ถูกเนรมิตให้เป็น Teensetter Venue  แห่งใหม่ของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย  และทุ่มงบอีก 1,200 ล้าน ในการบริหารจัดการพื้นที่ ตลอดเวลา  10 ปี  เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว สำหรับวัยรุ่นในเอเชีย  ภายในปี 2553  จะขยายฐานลูกค้าเดิมจากกลุ่มวัยรุ่น 12-21ปี  เป็นกลุ่มเริ่มทำงาน 21-35 ปี”

          ภายในเซ็นเตอร์พ้อยท์@ เซ็นทรัลเวิล์ด  มีพื้นที่หลัก 2 ส่วน คือส่วนTechnotainment นำเสนอเทคโนโลยีรูปแบบบันเทิง และUrban Life Entertainment  ไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองโดยพื้นที่ส่วนใหญ่จะให้เช่า  ซึ่งขณะนี้มีร้านเข้าเช่าพื้นที่แล้ว 80% ประมาณ 50 ร้านค้า 

          นอกจากนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่สดใสกว่าเดิม  โดยสื่อถึงเซ็นเตอร์พ้อยท์แห่งใหม่ ด้วยมิติใหม่ที่เพิ่มความสนุกสนานมากขึ้น  สีส้มที่บ่งบอกความเป็นตัวตน  วัฒนธรรมสุดฮิปของกลุ่มวัยรุ่น  และสัญลักษณ์วงกลมที่สื่อถือความเป็น Unity และ Unique ของเหล่าวัยรุ่น

          ทั้งนี้เรามีแม่เหล็กใหม่ๆที่ดึงกลุ่มเป้าหมาย อาทิ  เซ็นเตอร์พ้อยท์เพลเฮ้า   โรงละครที่ทันสมัยที่สุดรองรับคน 576 ที่นั่ง พร้อมด้วยระบบแสงสีเสีง ที่รองรับมินิคอนเสิร์ต  ละครเวที การประชุมสัมมนา  รวมถึงการแสดงมายากลทั้งไทยและเทศ ถือเป็นพื้นที่พระเอกหลัก

          และพื้นที่โดดเด่นอีกที่หนึ่งคือ ไซบีเรีย  หรือเซ็นเตอร์พ้อยท์ ดิจิตอล เพลกราวน์ บาย  เว็บ  เป็นพื้นที่เล่นเกมและการแข่งขันออนไลน์ 3 ชั้น ที่ทันสมัยที่สุดแห่งแรกของไทย รองรับผู้เล่นพร้อมกันกว่า 100 คน หรือชมการแข่งขันเวิล์ดแชมเปี้ยนชิป   กับจอขนาดใหญ่สุด และยังสามารถจัดอีเว้นท์ต่างๆได้อีกด้วย 

            มินิแลนด์  เป็นโซนมิติใหม่ของเกมส์ Arcade  ถ่ายรูปได้พร้อมจอ  ทัชสกรีนแอลซีดี และไวด์สกรีนแอลซีดีขนาดใหญ่   หลากหลายรูปแบบเกมส์อิตที่รองรับระบบอินเตอร์เน็ตแห่งแรกในประเทศไทย    นอกจากนี้ยังมีโซน   มิวสิค พาเลซ  สไตล์โมเดิร์นถูกใจคนรักเสียงเพลง และร่วมสนุกกับการประกวด  คาราโอเกะ  คอนเทสต์ที่นี้    และยังมีความน่าสนใจอีกหลากหลายจากร้านผู้เช่าพื้นที่กว่า 50 ร้าน   และลานกิจกรรมที่จัดไว้ให้กับวัยรุ่นโดยเฉพาะ

          ส่วนเป้าหมายในปีนี้เราต้องการเพียงต้องการให้คนรู้จัก โฉมใหม่ของเซ็นเตอร์พ้อยท์@เซ็นทรัลเวิล์ด  เป็นเรื่องหลัก   ส่วนเป้ารายได้ในปีแรกๆจะมาจากค่าเช่าพื้นที่  75%และจัดอีเว้นท์ 25%เกือบ 300 อีเว้นท์ต่อปี      คาดว่าจะมีลูกค้าเข้าใช้บริการต่อวัน 5,000 คน  และจะขยายเพิ่มในปีถัดไป ตั้งเป้าคนเข้าถึง 20,000 คนต่อวัน
 
          ด้านนายชยะบูรณ์   ชวนไชยสิทธิ์   กรรมการผู้จัดการ   บริษัท เซ็นเตอร์พ้อยท์  เอ็นเตอร์เทนเม้นท์  จำกัด  เปิดเผยว่า ในปีนี้จะมุ่งสร้าง เซ็นเตอร์พ้อยท์@ เซ็นทรัลเวิลด์ ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย  ทั้งนี้ใช้งบประมาณในการประชาสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมการตลาด20-50 ล้านบาท  และมุ่งงานอีเว้นท์เป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่องทางเดียวที่เห็นรายได้เด่นชัด   โดยในปีนี้มีอัตราการเติบโตถึง 100 %   ซึ่งทางบริษัทได้รองรับการตลาดส่วนนี้โดยการแตกบริษัทเพื่อรับงานด้าน อีเว้นท์โดยเฉพาะ  รองรับการขยายงานด้านกิจกรรมต่างๆของเซ็นเตอร์พ้อยท์@ เซ็นทรัลเวิลด์ 

          ในขณะเดียวกัน ยังมีการจัดระเบียบฐานข้อมูลสมาชิกกลุ่มเป้าหมาย ของเซ็นเตอร์พ้อยท์@ เซ็นทรัลเวิลด์  ที่ในขณะนี้มีมากกว่า 1,000 คน  และขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคต   เพื่อนำฐานข้อมูลเหล่านี้   มาจัดระบบเพื่อเป็นประโยชน์ในการคิดงานกิจกรรมที่สร้างสรรค์ต่างๆและยังเป็นฐานตลาดให้กับกลุ่มลูกค้า บริษัทสินค้าวัยรุ่นอีกด้วย

Pages: 1 ... 226 227 [228] 229 230