Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 639 640 [641] 642 643 ... 2404
9601
รายงานข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศ ณ วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564 เวลา 8.00 น.


📍 กรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 2 - 25  ug/m3
📍 ภาคกลาง มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 38 ug/m3
📍 ภาคเหนือ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 31 ug/m3
📍 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 16 ug/m3
📍 ภาคใต้ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 2 - 36 ug/m3
📍 ภาพรวมทั้งประเทศ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 38 ug/m3

อย่าลืมสวมอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง
#DustBoy #pm2_5

ที่มา : รายงานค่าฝุ่น PM2.5 (ug/m3) จากจุดติดตั้งเครื่องวัดฝุ่น DustBoy

ศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://pm2_5.nrct.go.th

9602
"ก้อง-สมเกียรติ" ฟอร์มเวิลด์คลาส! ผงาดท็อปไฟว์โมโตทู ออสเตรีย


"ก้อง" สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 22 ปี จากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ฟอร์มระดับเวิลด์คลาสร้อนแรงต่อเนื่อง ควบรถแข่งคู่ใจหมายเลข 35 สตาร์ทกริดที่ 7 ทะยานคว้าอันดับ 5 ในศึก โมโตทู สนาม 11 ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ สร้างผลงานดีที่สุดในชีวิตได้อีกครั้ง หลังจบเรซสุดมันส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่น โมโตทู 2021 สนาม 11 ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่เรดบูลริง ประเทศออสเตรีย ระยะทางต่อรอบ 4.3 กิโลเมตร ชิงชัยทั้งสิ้น 25 รอบสนาม

สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยหนึ่งเดียวในเวทีจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่น โมโตทู จากโครงการ ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 7 หลังจากพัฒนาการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนพารถแข่งหมายเลข 35 จากสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมรักษาอันดับ 7 ไว้ได้หลังผ่านรอบแรก ก่อนจะขยับมาเป็นอันดับ 5 ได้สำเร็จในรอบที่ 7

ผ่านครึ่งทางการแข่งขัน สมเกียรติ รั้งอันดับ 6 โดนไล่ตามบี้ชิงท็อปไฟว์กับ เชเลสติโน วิเอ็ตติ นักบิดอิตาเลียน อย่างสุดมันส์ อย่างไรก็ดี ในรอบสุดท้ายนักบิดไทยไล่บดอย่างหนัก ก่อนคว้าอันดับ 5 มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในชีวิตกับการแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ด้วยเวลาตามหลังผู้ชนะอย่าง ราอูล เฟร์นันเดซ นักบิดสแปนิชเพียง 8.850 วินาที




จากผลงานสุดร้อนแรง สมเกียรติ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 15 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 35 คะแนน ก่อนจะเดินทางสู่การแข่งขันสนามถัดไปในวันที่ 27-29 สิงหาคมนี้ ในรายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ ที่สนามซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร โดยแฟนชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ทาง เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : fb.com/aphondaracingth

#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #MotoGP #MotorSport #SC35 #Moto2 #RaceToTheDream #HondaThailand #IdemitsuHondaTeamAsia

9603
คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา เป็นตัวแทนมอบเงินบริจาค จำนวน 50,000 บาท​ เพื่อสมทบทุนจัดทำกล่องรอดตาย​ร่วมภารกิจข้าวแสนกล่อง เครือข่าย Food For Fighters


15 ส.ค.64  ณ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ (สนจ.) คุณกนิษฐ์ สารสิน อนุกรรมาธิการการอุตสาหกรรม ในคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา เป็นตัวแทนมอบเงินบริจาค จำนวน 50,000 บาท ให้คุณมกร พงษ์ธนพฤกษ์ เลขาธิการ สนจ. และ ดร.อดิทัต วะสีนนท์ ประธานฝ่ายต่างประเทศ สนจ. เพื่อสมทบทุนจัดทำกล่องรอดตายพร้อมระบบติดตามบริจาคให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รักษาตัวที่บ้านระหว่างรอเตียง และมอบกล้วยหอมทอง 50 ลัง จำนวน 5,000 ลูก ร่วมภารกิจข้าวแสนกล่อง เครือข่าย Food For Fighters โดยมีคุณจีรภัทร พิมานทิพย์ คุณมนู ตระกูลวัฒนกิจ คุณเกรียงชัย บุญโพธิอภิชาติ และคุณกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ร่วมงานด้วย 🙏🏻 สนจ.ขอกราบขอบพระคุณธารน้ำใจจากผู้มีจิตศรัทธามา ณ โอกาส






สนจ.ขอเชิญนิสิตเก่าจุฬาฯ และผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคยา เวชภัณฑ์ และร่วมสมทบทุนจัดทำกล่องรอดตาย กล่องละ 500 บาท โดยบริจาคเงินผ่านมูลนิธิส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปไทย บัญชี ธ.กสิกรไทย เลขที่ 017-2-88191-2​ (ส่งหลักฐานการบริจาคเพื่อขอลดหย่อนภาษีมาที่ LINE ID : @donatesurvivalbox) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณแมค โทร 096-991-6363 และคุณโอม 093-698-9336

#ChulaAlumni #กล่องรอดตาย
#COVID19 #EngineLife #TheSharpener


https://www.facebook.com/300769576798/posts/10158697457276799/

9604
อว. เผยความก้าวหน้าการวิจัยวัคซีนโควิด 19 โดยนักวิจัยไทย ความหวังของประเทศ


การวิจัยและพัฒนาวัคซีนโดยทีมแพทย์และนักวิจัยไทย ถือเป็นอีกความหวังของประเทศในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค เผยวัคซีนโควิด-19 4 ชนิด เริ่มนำมาทดสอบในคนระยะแรกแล้ว


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่า จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบทางสาธารณสุขและเศรษฐกิจของโลกและประเทศเป็นอย่างมาก วัคซีนที่ได้รับการอนุญาตและมีการฉีดให้แก่ประชาชน ต้องเป็นวัคซีนที่ผ่านการทดสอบในสัตว์ทดลองและมนุษย์ จนมีความปลอดภัยสูงที่สุด และส่งผลข้างเคียงน้อยที่สุด ซึ่งปัจจุบัน คนไทยให้ความสนใจและฝากความหวังไว้กับการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพของนักวิจัยไทยเป็นอย่างมาก


วัคซีน ChulaCov19 ซึ่งเป็นการพัฒนาวัคซีน mRNA เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 SARS-Cov-2 โดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ผลิตโดยสร้างชิ้นส่วนขนาดจิ๋วจากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา (โดยไม่มีการใช้ตัวเชื้อแต่อย่างใด) ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมขนาดจิ๋วนี้เข้าไป จะทำการสร้างเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนปุ่มหนามของไวรัสขึ้น (spike protein) และกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันไวเตรียมต่อสู้กับไวรัสเมื่อไปสัมผัสเชื้อ เมื่อวัคซีน mRNA ทำหน้าที่ให้ร่างกายสร้างโปรตีนเรียบร้อยแล้ว ภายในไม่กี่วัน mRNA นี้จะถูกสลายไปโดยไม่มีการสะสมในร่างกายแต่อย่างใด ภายหลังประสบความสำเร็จจากการทดลองในลิงและหนู พบว่าช่วยยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่กระแสเลือดและสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับสูง จึงได้ผลิตและทดสอบทางคลินิกระยะที่ 1 ให้กับอาสาสมัครคนไทย เพื่อหาปริมาณวัคซีน ChulaCov 19 ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และกำลังเข้าสู่การทดสอบระยะที่ 2 ในเดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป วัคซีนสามารถเก็บในอุณหภูมิตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียส ได้นาน 3 เดือน และเก็บในอุณหภูมิห้อง 25 องศาเซลเซียส ได้นาน 2 สัปดาห์ อีกทั้ง วัคซีนชนิด mRNA สามารถผลิตได้เร็ว ไม่ต้องรอเพาะเลี้ยงเชื้อ สังเคราะห์ในหลอดทดลอง ไม่เกิน 4 สัปดาห์ ไม่ต้องใช้โรงงานขนาดใหญ่ และสามารถปรับแต่งวัคซีนต้นแบบตามพันธุกรรมของเชื้อกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัท Bionet Bionet Asia เพื่อผลิตได้ทันที


โดยวัคซีน ChulaCov19 สามารถป้องกันโรคโควิด-19 และลดจำนวนเชื้อได้อย่างมากในหนูทดลอง โดยใช้หนูทดลองชนิดพิเศษที่ออกแบบให้สามารถเกิดโรคโควิด-19 ได้ เมื่อหนูได้รับวัคซีน  ChulaCov19 ครบสองเข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ และรับเชื้อโคโรนาไวรัสเข้าทางจมูก สามารถป้องกันหนูไม่ให้ป่วยเป็นโรคและยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่กระแสเลือดได้ รวมทั้งสามารถลดจำนวนเชื้อในจมูกและในปอดลงไปอย่างน้อย 10,000,000 เท่า ส่วนหนูที่ไม่ได้รับวัคซีนจะเกิดอาการแบบโควิด-19 ภายใน  3 -5 วันและทุกตัวมีเชื้อสูงในกระแสเลือดในจมูกและปอด โดยการวิจัยและพัฒนาวัคซีนนี้ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ทุนศตวรรษที่สอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเงินบริจาคจากสมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาฯ กองทุนบริจาควิจัยวัคซีน สภากาชาดไทย


ด้าน วัคซีนใบยา โดยการพัฒนาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างนวัตกรรมการใช้เซลล์ใบยาสูบในกระบวนการสร้างวัคซีน ชี้ให้เห็นว่า จากการทดลองวัคซีนในหนู สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีมาก และมีความปลอดภัย จึงวางแผนการพัฒนาวัคซีนเป็น 2 Generation คือ การขยายผลทดลองในมนุษย์ในระยะที่ 1 ในเดือนกันยายน 2564 เพื่อหาขนาดของวัคซีนที่เหมาะสมในการกระตุ้นภูมิ รวมถึงมีความปลอดภัย เพื่อนำข้อมูลไปใช้กับวัคซีน Generation ที่สอง คือ การปรับสูตรให้สามารถครอบคลุมสายพันธุ์ต่าง ๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น โดยได้เตรียมทดสอบในมนุษย์ ระยะที่ 1 และ 2 ในเดือนธันวาคม 2564 ต่อไป


เช่นเดียวกับ องค์การเภสัชกรรม และมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้พัฒนาวัคซีน DNV-HXP-S ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายโดยเทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก ที่ผลวิจัยพบว่า มีความปลอดภัยและกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีในสัตว์ทดลอง ถือเป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้เริ่มการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 ขณะนี้ได้ทดสอบในระยะที่ 2 เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา คาดว่าปลายปีนี้จะได้ทราบผล และจะทดสอบในระยะที่ 3 ต่อไป โดยการพัฒนาในครั้งนี้ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จึงไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานใหม่ และได้รับความร่วมมือในระดับนานาชาติ จาก องค์กร PATH และ ผู้ผลิตทั้งเวียดนามและบราซิล จึงมีความปลอดภัยสูง

ด้านภาคเอกชน บริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จากัด ผู้สร้างนวัตกรรมวัคซีนโควิด-19 ชนิดดีเอ็น เผยว่า  ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติกับสานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 ภายในเดือนตุลาคม 2564 นี้ และคาดว่าจะเริ่มทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 2 และ 3 ภายในปี 2564 ในขณะเดียวกันได้มีการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 ที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว กับอาสาสมัคร 150 คน แบบขนานกันไป บริษัทฯ ยืนยันว่ามีความพร้อมในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ทั้งชนิดดีเอ็นเอและเอ็มอาร์เอ็นเอ หากเป็นวัคซีนชนิดดีเอ็นเอ ที่บริษัทศึกษาวิจัยเอง จะสามารถผลิตได้ในระดับอุตสาหกรรมได้เร็ว

จากความก้าวหน้าการวิจัยวัคซีนดังกล่าว ได้ดำเนินการวิจัยโดยหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ ในการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด-19 เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อช่วยลดปัญหาทางด้านสาธารณสุขของประเทศได้อย่างทันท่วงที โดยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จ และสามารถสร้างความมั่นคงให้กับประเทศไทยได้ในระดับสากล เนื่องจากการวิจัยและพัฒนามีความก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง

9605
“Golden Time” รุดกระจายความห่วงใย “Skymed Care” กับทุกฝ่ายในที่ชุมนุม


“Golden Time” กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ภายใต้โครงการ SkyMed NewGen มอบความห่วงใยผ่าน “Skymed Care” นำหน้ากากอนามัย องค์จตุคามรามเทพ รุ่นร่มฉัตร 80 และอาหาร มอบให้ผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้สื่อข่าว ในการชุมนุม Car Mob ทั่วกรุงเทพฯ หวังทุกฝ่ายแคล้วคลาดปลอดภัย สมความปรารถนากัน


นายพิชชากร รัตนธารากุล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ Golden Time กล่าวว่า นาวาอากาศเอก(พิเศษ)คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด และ ประธานคณะปวงชนชาวไทยเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พอทราบข่าวเกี่ยวกับการชุมนุม Car Mob ของ 4 กลุ่มทั่วกรุงเทพฯ ที่จะเกิดขึ้น จึงสั่งให้ตนและชุดเฉพาะกิจ Golden Time นำหน้ากากอนามัย องค์จตุคามรามเทพ รุ่นร่มฉัตร 80 และอาหาร กระจายแจกจ่ายให้ผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมถึงผู้สื่อข่าวที่มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ และประชาชนโดยรอบ นอกจากนี้ยังสั่งทำสติ๊กเกอร์ “SKYMED CARE” แจกจ่ายทุกคนเพื่อแสดงความห่วงใยอีกทั้งให้ทุกคนดูแลตัวเองและปลอดภัยด้วย


“หลังจากที่ท่านผู้การฯ ได้ทราบข่าวจะมีการชุมนุมทั่วประเทศ แต่เนื่องจากการประกาศของทางรัฐเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ทางทีม Golden Time ไม่สามารถเดินทางไปจังหวัดอื่นได้จึงตัดสินใจนำมาแจกเฉพาะในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น ถึงอย่างไรก็ตามทางผู้การฯ ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยทุกคนที่อยู่ต่างจังหวัดด้วยซึ่งจะพยายามหาวิธีการส่งความห่วงใยไปให้ทั่วถึงทั่วประเทศอย่างแน่นอน”


“อย่างไรก็ตาม ผู้การฯ เข้าใจพร้อมกับเห็นใจทุกฝ่าย แล้วไม่อยากเห็นความรุนแรงในประเทศเพราะทุกคนคือคนไทยด้วยกัน ทั้งนี้หากเลี่ยงไม่ได้อยากให้ทุกคนแคล้วคลาดปลอดภัย และหากยังมีการชุมนุมกันอีกทางผู้การฯ ได้กำชับให้ทีมฯ นำหน้ากากอนามัย องค์จตุคามรามเทพ รุ่นร่มฉัตร 80 และอาหาร มาแจกจ่ายให้ทุกฝ่ายทุกครั้ง” นายพิชชากรกล่าวทิ้งท้าย


#SkyMed #SkyCrop #SkyMedNewGen #เมืองเศรษฐกิจพอเพียง #SkyTime #หน้ากากอนามัย #แมส #Covid19 #โควิด19 #ผู้การ #ชุมนุม #จตุคาม #ทหาร #ตำรวจ #ชุดเฉพาะกิจ #ม็อบ #รัฐบาล #ประท้วง #ห่วงใย #GoldenTime #CarMob #จตุคาม #ม็อบ #เยาวชน #SkymedCare #ร่มฉัตร














9606
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2564


🇹🇭🇹🇭ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 21,882 ราย
รวมผู้ติดเชื้อสะสม 907,157 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 18,499 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง  245 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น  6 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้  3,132 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 205,288 ราย) เสียชีวิตรวม 7,552 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 209 ราย) รักษาหายป่วยแล้ว 688,662 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 21,106 ราย)รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 210,943 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ)
21,631 ราย มีรายละเอียดดังนี้

จากกรุงเทพฯ(4,215) ปริมณฑล (4,905) จังหวัดอื่น ๆ (12,511)

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 6 รายและเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่นราธิวาส(2)  กรุงเทพฯ(1) ชลบุรี(2) และ ตาก(1) มีรายละเอียดดังนี้

- จากประเทศเมียนมา 1 ราย
- จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 2 ราย
- จากประเทศไต้หวัน 2 ราย



🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้

- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 207.5  ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.3 ล้านราย
(คิดเป็นร้อยละ 2.10 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ)
ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 186  ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.64)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่  71,135  ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 637,439 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 32.1 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36,127 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 31.3 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.4
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 35  และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 56 ของโลก



🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้

- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 351,605  ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,588 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 13,078 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,384,353 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 20,670  ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 84,860 ราย
มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,666 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 9,894  ราย
โดยกำลังรักษาอยู่ 5,645  ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่  9,716  ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 5,437 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

9607
ผุด​ “THA SHOP” ศูนย์รวมสินค้ามุสลิม แห่งแรกในไทย
หวังพยุงเศรษฐกิจไทย พาธุรกิจ SMEs ก้าวผ่านวิกฤตพิษโควิด-19


ย้อนกลับไปในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2546 คณะรัฐมนตรีเห็นว่าคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินงานสร้างความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลมานาน จึงมีมติสนับสนุนจัดตั้ง “ห้องปฏิบัติการและศูนย์ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล” ขึ้น ต่อมาสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมติให้เป็น “ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล” ภายใต้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2546 จึงนับเป็นวันคล้ายวันเกิดของ จนถึงวันนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 18 ปี แห่งการก่อตั้ง “ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อรำลึก ภายใต้โครงการ “กิจกรรมครบรอบ 18 ปี ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล; 18th Anniversary of HSC 2021” ขึ้น


รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ด้วยช่วงเวลาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดหนักอีกครั้ง ดังนั้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 18 ปี แห่งการก่อตั้ง “ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ในปีนี้จึงปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเน้นจัดในรูปแบบออนไลน์ ประกอบไปด้วยกิจกรรมดังต่อไปนี้


กิจกรรมที่ 1 ​การจัดกิจกรรมจิตอาสาในการช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการแจกถุงยังชีพ จำนวน 3,250 ชุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2564


กิจกรรมที่ 2 ​การเข้าร่วมแสดงความยินดีและอวยพรออนไลน์ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19


กิจกรรมที่ 3 ​งานพิธีเปิด “ร้านธาช็อป” (THA SHOP) ศูนย์จำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อมุสลิม (Muslim Friendly Shop) ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดร้านอย่างเป็นทางการ และภายในงานยังจัดให้มี งานเสวนา THA ACADEMY ในหัวข้อ “ศัยกยภาพฮาลาล SMEs กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในยุคโควิด-19” วิทยากรโดยรศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และคุณพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ Co-Founder of Tough & Tumble ซึ่งการจัดเสวนาครั้งนี้คาดหวังในการสร้างการเรียนรู้แก่สังคมยุคใหม่ สร้างการรับรู้แก่ชุมชน สถานประกอบการ ในการบ่มเพาะวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตรการเรียนการสอนออนไลน์ในสาขา วิทยาศาสตร์ฮาลาล ประวัติศาสตร์อิสลาม ดาราศาสตร์ รวมไปถึงศาสตร์และวิธีการดำเนินงานด้านธุรกิจในปัจจุบัน


“ร้านธาช็อป” (THA SHOP) ศูนย์จำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อมุสลิม (Muslim Friendly Shop) บริหารจัดการโดย บริษัท ฮาลคิว จำกัด ภายใต้การสนับสนุนของ ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (BIHAP) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชน สร้างแหล่งบริการให้คำปรึกษาในการผลิตอาหาร เครื่องสำอาง คลังสินค้า และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นจุดกระจายสินค้าให้กับประชาชนที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและฮาลาล เป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์มากขึ้น

โดยผู้ที่กำลังมองหาสินค้าฮาลาล สามารถช้อปได้แล้ววันนี้ที่ ร้านธาช็อป” (THA SHOP) ร้านตั้งอยู่ในทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ ณ โครงการสวนหลวงสแควร์ (ซอยจุฬาลงกรณ์ 12) และสะดวกสบายเข้ากับยุคโควิด-19 ช้อป่านช่องทางออนไลน์ ทั้งแพลตฟอร์ม Facebook : www.facebook.com/Thashopbkk และ Shopee : shopee.co.th/tha_shop1 รศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย

9608
ระวัง 4 โรคต้อทำร้ายดวงตา


              โรคต้อทางตามีหลากหลายชนิด 4 โรคต้อที่พบบ่อยๆที่เรารู้จักคุ้นเคย คือต้อลม ต้อเนื้อ ต้อกระจก และต้อหิน ซึ่งมีอาการแตกต่างกันในแต่ละชื่อโรค โรคต้อบางชนิดถ้าปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาอาจอันตรายถึงขั้นทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ เราควรรู้เท่าทันโรคต้อทั้ง 4 เพื่อรับมือและสามารถรักษาดวงตาของเราให้ปลอดภัย


              พญ.ธารินี เสงี่ยมพรพาณิชย์ จักษุแพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตาโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า โรคต้อหรือตาต้อที่เกิดขึ้นกับดวงตานั้นเกิดจากหลากหลายสาเหตุ อาการและความรุนแรงจะแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ ระคายเคืองตา ไปถึงตามัว หรือทำให้ตาบอดได้ ต้อต่าง ๆ ในตาที่คุ้นชินกันดีมี 4 ชนิด คือ

              1.ต้อลม (Pinguecula) ลักษณะจะเป็นเนื้อนูนที่เยื่อบุตาด้านข้างกระจกตาหรือตาดำ จะอยู่เฉพาะที่เยื่อบุตาขาว (Conjunctiva) ส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณหัวตาด้านในบริเวณใกล้จมูก แต่สามารถเกิดที่หางตาและหัวตาพร้อมกันได้ เมื่อเยื่อบุตานูนขึ้น จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองตามากขึ้น สาเหตุมาจากรังสียูวี เช่น จากแสงแดด และเมื่อโดนลมหรือฝุ่นจะทำให้เคืองตามากขึ้นได้จากการอักเสบหรือผิวตาแห้งง่าย พบได้ในทุกเพศทุกวัยพบได้มากในประเทศเขตร้อน เพราะสัมพันธ์กับการเจอแดด โดยส่วนใหญ่อายุที่พบจะมากกว่า 30 ปีขึ้นไป อาการที่เกิดขึ้นคือ  เคืองตา แสบตา คันตา ตาแดงอักเสบ การรักษาต้อลมขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค หากต้อมีขนาดเล็ก จะไม่รู้สึกระคายเคืองนัก การรักษาในระยะนี้แพทย์จะแนะนำให้เน้นการป้องกัน เพื่อไม่ให้เป็นมากขึ้น โดยปกป้องดวงตาจากรังสีอัลตราไวโอเลตอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมแว่นกันแดดอย่างสม่ำเสมอเมื่อมีกิจกรรมนอกอาคาร เพื่อไม่ให้ต้อเติบโตลุกลาม ถ้ามีอาการระคายเคืองหากเกิดการอักเสบแดง แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง ลดอาการอักเสบ

              2.ต้อเนื้อ (Pterygium) มีลักษณะเป็นเนื้อสามเหลี่ยม โดยมีหัวอยู่ที่กระจกตา เนื้อเยื่อเหมือนเยื่อบุตาซึ่งมีเส้นเลือดวิ่งเข้าไปเกาะอยู่บนกระจกตาดำ จะแดงมากน้อยขึ้นอยู่กับมีปริมาณเส้นเลือดบริเวณต้อเนื้อและการอักเสบ ต้อเนื้อส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณหัวตาด้านในใกล้จมูก แต่สามารถเกิดที่หางตาและหัวตาพร้อมกันได้เช่นเดียวกัน ต้อเนื้อจะเกิดจากการถูกแสงอัลตราไวโอเลต (UV) อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน และมักพบในคนที่อาศัยในเขตอากาศร้อน ใช้ชีวิตประจำวันกลางแจ้ง หรือโดนแสงแดดในบริมาณมาก ถ้าต้อเนื้อมีการลุกลามเข้าไปบนกระจกตา และมีขนาดใหญ่ อักเสบเรื้อรัง รวมถึงมีการมองเห็นที่แย่ลงเพราะต้อไปกดกระจกตา แพทย์อาจแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัดลอกต้อเนื้อ เพื่อเอาเนื้อเยื่อต้อเนื้อออกจากเยื่อตาและผิวกระจกตา ถึงจะผ่าตัดออกแล้วแต่ก็มีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นอีก โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยและผู้ที่ยังคงได้รับรังสี UV อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดต้อเนื้อซ้ำแพทย์มักผ่าตัดด้วยวิธีปลูกถ่ายเนื้อเยื่อใหม่โดยใช้เยื่อบุตาขาวของผู้ป่วยเองหรือเยื่อหุ้มรกที่เตรียมพิเศษ ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในปัจจุบันโดยอาจใช้วิธีเย็บเนื้อเยื่อหรือใช้ Fibrin Glue การป้องกันจะเหมือนต้อลม คือ ควรหลีกเลี่ยงแดดจ้า โดยเฉพาะช่วยสายถึงบ่ายต้น ๆ หากทำกิจกรรมกลางแจ้งควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้ง และพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีลม ฝุ่น ควัน ที่ส่งผลทำให้กระตุ้นการอักเสบระคายเคืองมากขึ้นได้




              3.ต้อกระจก (Cataract) การเสื่อมของเลนส์ตาตามอายุทำให้เลนส์แก้วตาขุ่นลง มักพบในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่เกิดจากสาเหตุอื่นได้เช่นกัน เช่น เป็นตั้งแต่กำเนิด หรือจากอุบัติเหตุกับดวงตา หรือการได้รับยากลุ่มสเตียรอยด์ เป็นต้น ทุกคนมีโอกาสเป็นต้อกระจกตามวัยเพราะความเสื่อมของร่างกาย อาจเป็นเร็วช้าต่างกัน อาการที่พบ คือ มองเห็นเหมือนมีฝ้าหรือหมอกบัง เห็นสีเพี้ยน ภาพซ้อน ตามัวในช่วงกลางคืนมากกว่ากลางวัน เมื่ออยู่กลางแดดตาจะสู้แสงไม่ได้ ยังไม่มีการรักษาด้วยการกินยาหรือหยอดตา เมื่อสายตามัวลงจะมีผลต่อการใช้ชีวิตควรได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ปัจจุบันวิธีที่เป็นมาตรฐานที่นิยมคือ วิธีสลายต้อกระจกด้วยเครื่องสลายต้อและใส่เลนส์แก้วตาเทียม (Phacoemulsification with Intraocular Lens) โดยส่วนใหญ่ใช้เพียงแค่ยาชาเฉพาะที่ ผ่าตัดเร็ว แผลมีขนาดเล็ก กลับมามองเห็นได้เร็ว ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล เลนส์แก้วตาเทียมที่ใส่ทดแทนเมื่อนำต้อกระจกออกแล้ว ในปัจจุบันมีให้เลือกหลายชนิดตามความต้องการของคนไข้ มีทั้งเลนส์ที่ชัดระยะเดียว มองไกลได้ชัดเจนมากขึ้น หรือเลนส์ชัดหลายระยะ ใส่แว่นน้อยลง กลับมาใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น  หรือถ้าคนไข้มีสายตาเอียงสามารถแก้สายตาเอียงไปพร้อมกันได้จากการเลือกเลนส์ให้เหมาะสม การป้องกัน แนะนำให้ใส่แว่นกันแดดทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้งเพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต ไม่ให้ดวงตาถูกกระแทก เลี่ยงการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์โดยไม่จำเป็น และเมื่ออายุมากขึ้นควรตรวจตาปีละครั้งเพราะส่วนใหญ่การเกิดต้อกระจกสัมพันธ์กับความเสื่อมตามวัย

              4.ต้อหิน (Glaucoma) โรคที่มีความเสื่อมของเส้นประสาทและขั้วประสาทตาทำให้สูญเสียการมองเห็น ลานสายตาแคบลง มักพบความดันในลูกตาสูงซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้โรคแย่ลง ส่งผลทำลายเส้นประสาทตาและขั้วประสาทตา ทำให้เกิดการสูญเสียลานสายตาอย่างถาวรได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคนี้ เพราะกลุ่มใหญ่ๆของต้อหินไม่มีอาการบอกล่วงหน้า แต่ถ้าเป็นต้อหินมุมปิดเฉียบพลันอาจมีอาการปวดตา ตาแดง ต้อหินบางชนิดความดันลูกตาไม่สูง แต่ต้องคุมความดันตาให้อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดความเสื่อมมากขึ้น ถ้าหากไม่ทำการรักษาจะทำให้ลานสายตาค่อย ๆ แคบลงจนตาบอดได้ในที่สุด สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุแต่ที่พบมากคืออายุ 40 ปีขึ้นไป ต้อหินที่พบมีทั้งต้อหินเฉียบพลันที่มีอาการปวดตาในทันทีทันใดและเห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟ และต้อหินเรื้อรังที่ไม่มีอาการใด ๆ ต้องตรวจตาและวัดความดันลูกตาถึงสามารถรู้ได้ การรักษาแม้ไม่ได้ช่วยให้หายขาด แต่ช่วยควบคุมไม่ให้อาการแย่ลง ส่วนใหญ่รักษาเพื่อควบคุมความดันลูกตาตาให้เหมาะสม โดยมีทั้งการใช้ยาหยอดตา ยารับประทาน การใช้เลเซอร์รักษาตามชนิดต้อหิน และการผ่าตัดที่ใช้เมื่อรักษาด้วยยาและเลเซอร์ไม่ได้ผล โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของจักษุแพทย์เพื่อคุมความดันลูกตาให้อยู่ในเกณฑ์ดี ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจเช็กสายตาเป็นประจำทุกปี

              การได้รับการตรวจเช็กดวงตากับจักษุแพทย์เป็นประจำทุกปีเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากจะช่วยประเมินสุขภาพดวงตาได้อย่างละเอียดแล้ว หากตรวจพบว่าดวงตามีปัญหาโรคต้อสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่จะร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่​ ศูนย์จักษุ รพ.กรุงเทพ​ โทร.1719  หรือ แอดไลน์ @bangkokhospital

9609
มีญ่า มิลค์ โกท มิลค์ (MIA Milk Goat Milk) ร่วมรณรงค์บอกรักแม่


มีญ่า มิลค์ โกท มิลค์ (MIA Milk Goat Milk ) ร่วมรณรงค์ เชิญชวนทุกท่านบอกรักแม่ตลอดเดือนสิงหาคม ด้วย​ “เครื่องดื่มนมแพะมีญ่า มิลค์ รสออริจินัล” เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญให้กับคุณแม่ที่รักสุขภาพอุดมไปด้วยสารอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมสร้างภูมิต้านทาน เป็นแหล่งของโปรตีนวิตามินบี 2 และแคลเซียมตามธรรมชาติ มีกรดไขมันขนาดเล็กช่วยให้ย่อยง่าย ดื่มง่าย หอม หวาน ให้นมแพะมีญ่า มิลค์ เป็นทางเลือกที่มีประโยชน์และมีคุณค่าสำหรับวันดีๆที่มีให้แม่ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Golden Place สาขาสะพานสูง สาขาพระรามเก้า สาขาถนนสุโขทัย สาขาศูนย์ราชการ สาขาศิริราช 2 สนใจสอบถามที่ 02-732-6070 086-351-7729 MIA Milk Goat Milk

“Delicious and Nutritious a Healthy Recipe for anyone, anytime”

9610
มจธ.พัฒนา แบคทีเรีย “ย่อยขนไก่” สายพันธุ์ทนร้อน
คำตอบใหม่เพื่อผู้เลี้ยงไก่ขนาดกลางและขนาดเล็ก


มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)


นักวิจัย มจธ. พัฒนา แบคทีเรีย “ทนร้อน” ที่มาช่วยลดขั้นตอนในการย่อย “ขนไก่” อันเป็นของเหลือทิ้งในอุตสาหกรรมแปรรูปไก่เนื้อปีละหลายพันตัน

              ในแต่ละปี อุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อของประเทศไทยได้ทำให้เกิด​ “ขยะขนไก่” จากกระบวนการแปรรูปในปริมาณมหาศาล (ไก่โตเต็มวัย 1 ตัว จะมีขนไก่มากถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัว) ซึ่งแม้ว่าในขนไก่จะประกอบด้วยโปรตีนประมาณ 85%  ที่หากสกัดออกมาได้จะสามารถนำไปสร้างมูลค่าได้มหาศาล ตั้งแต่ผสมในอาหารสัตว์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและยาที่มีมูลค่าสูง แต่ปัญหาคือ โปรตีนในขนไก่เป็นโปรตีนประเภทเคราติน (Keratin) ที่โครงสร้างแข็งแรงมากและยังใช้ประโยชน์ไม่ได้ ต้องใช้ “เอนไซม์เคราติเนส” (Keratinase) มาย่อยโครงสร้างโปรตีนนี้เสียก่อน




              “ในการสกัดเคราตินจากขนไก่ จะมี 2 ขั้นตอนหลัก เริ่มจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ผลิตเอนไซม์เคราติเนสได้ในปริมาณสูง (เกือบทั้งหมดนำเข้าจากต่างประเทศ) มาหมักขนไก่ในถังขนาดใหญ่ อุณหภูมิประมาณ 70 องศาเซสเซียส เพื่อย่อยเคราตินให้เป็นกรดอะมิโนชนิดต่างๆ เสียก่อน  ก่อนที่เข้าสู่กระบวนการนึ่งด้วยความร้อนประมาณ 120 องศาเซลเซียสเพื่อให้ขนไก่คลายตัว และปล่อยกรดอะมิโนเหล่านี้แยกตัวออกมาจากเซลล์ในที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน และมีต้นทุนพลังงานและอุปกรณ์ที่ค่อนข้างสูง” ผศ. ดร.นุจริน จงรุจา อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึงข้อจำกัดที่ผ่านมาของกระบวนการสกัดโปรตีนจากขนไก่


ผศ. ดร.นุจริน จงรุจา

              นั่นจึงเป็นที่มาของโครงการวิจัย​ “ตัวเร่งปฏิกิริยาชีวภาพเคราติเนสทนร้อนที่ได้จากดีเอ็นเอลูกผสม” ที่เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2563  โดยได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  มีวัตถุประสงค์สำคัญคือ การหาแบคทีเรียที่มีประสิทธิภาพสูงในการผลิตเอนไซม์เคราติเนส ที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส




              “เป็นไปแทบไม่ได้ที่เราจะไปเจอจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ในธรรมชาติ เราจึงใช้ความเชี่ยวชาญทาง Bio Technology เพื่อนำยีนส่วนที่คาดเดาว่าน่าจะทนร้อน ไปใส่ในแบคทีเรียที่ใช้ผลิตเอนไซม์ตัวนี้   เริ่มจากการการออกแบบและวิเคราะห์แบคทีเรียต้นแบบด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ว่าตัวใดมีความเป็นไปได้มากที่สุด จากนั้นก็เป็นการทำวิศวกรรมเอนไซม์ เพื่อตัดต่อยีนตัวนี้ลงไปในตัวแบคทีเรีย ณ ตำแหน่งที่กำหนดไว้ และด้วยเทคนิคนี้ทำให้เราได้แบคทีเรียที่สามารถย่อยเคราตินในขนไก่ ที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียสในที่สุด” ผศ.ดร. นุจริน ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวถึงแนวทางและข้อค้นพบการทำวิจัย


              จากความสำเร็จครั้งนั้น ได้มีการการจดสิทธิบัตรการค้นพบ งานวิจัยนี้ได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง รองชนะเลิศ อันดับ 2 ระดับอุดมศึกษา กลุ่มเกษตรและอาหาร การประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม Thailand New Gen Inventors Award I - New Gen Award 2020 รวมถึงทางผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเลี้ยงไก่เนื้อรายใหญ่ที่เข้าร่วมในโครงการนี้ตั้งแต่ต้น มีการนำกรดอะมิโนที่ได้ไปศึกษาต่อและพบว่ามีกลุ่มสารอะมิโนที่อาจสามารถทำเป็นสารตั้งต้นของผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงได้  ซึ่งทั้งหมดนี้อาจนับเป็นความสำเร็จของงานวิจัยชิ้นนี้แล้ว แต่สำหรับ ผศ.ดร.นุจริน และทีมวิจัย ยังมองเห็นโอกาสที่มากกว่า


              “ความโดดเด่นของงานนี้ คือการทำให้เกิดกระบวนการผลิตที่มีความซับซ้อนน้อยลง ดังนั้นอุตสาหกรรมเลี้ยงไก่ขนาดเล็กหรือกลุ่มผู้เลี้ยงไก่รายย่อย หรือระดับ SMEs รวมถึงโรงเชือดไก่ ที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้การฝังกลบหรือการเผาขนไก่ แทนการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สารกำจัดขนไก่จาก ตปท. หากนำเทคนิคการกำจัดขนไก่ด้วยแบคทีเรียของเราไปใช้ นอกจากจะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นจากการฝังกลบหรือเผาขนไก่ที่เป็นปัญหากับชุมชนรอบข้างในหลายพื้นที่แล้ว ยังสามารถนำสารที่สกัดได้ซึ่งมีโปรตีนกลุ่มที่มีประโยชน์ไปต่อยอดทำประโยชน์และใช้งานอื่นๆ ได้อีกด้วย”

              ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงเป็นที่มาของ งานวิจัย​ การสำรวจตลาดเอนไซม์เคราติเนสทนความร้อนสูงเพื่อการกำจัดขนสัตว์ปีกจากอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ปีกอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม​ ที่ได้รับทุนอุดหนุนการทำกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2564 จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ การศึกษาความเป็นไปได้ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการย่อยขนไก่ด้วยแบคทีเรียที่ค้นพบให้กับผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ขนาดกลางและขนาดย่อม หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงไก่

              “เนื่องจากกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ขนาดกลางและขนาดเล็กมองว่าเรื่องเอนไซม์เป็นเรื่องไกลตัว ทีมคณะวิจัยจึงจึงอยากเข้าไปสร้างความเข้าใจให้เกษตรกรเห็นถึงประโยชน์ จุดเด่นของการใช้กระบวนการสกัดโปรตีนจากขนไก่ด้วยเอนไซม์ เพื่อทราบข้อมูลว่าเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน จะมีสนใจมากน้อยแค่ไหน เพื่อเป็นข้อมูลเชิงเศรษฐศาสตร์ประกอบการศึกษาวิจัย ถึงจะขยายกำลังการผลิตจากระดับห้องทดลอง สู่ระดับการผลิตจริงในระยะต่อไป” หัวหน้าโครงการวิจัยกล่าวสรุป

9611
“ก้อง-สมเกียรติ” ซิวกริดที่ 7 เดินหน้าล่าท็อปไฟว์ โมโตทู


“คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" หนึ่งเดียวของไทยในจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรุ่น โมโตทู ได้ออกตัวจากกริดที่ 7 เดินหน้าล่าท็อปไฟว์วันอาทิตย์นี้ ที่เรดบูลริง ประเทศออสเตรีย


ศึกโมโตจีพี และโมโตทู รายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคมนี้ ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 เริ่มจากรุ่นโมโตทู 17:20 น. ต่อด้วยรุ่นใหญ่อย่าง โมโตจีพี 19:00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยแฟนชาวไทยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนักบิดฮอนด้าได้ทาง เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : fb.com/aphondaracingth

#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #MotoGP #MotorSport #SC35 #Moto2 #RaceToTheDream #HondaThailand #IdemitsuHondaTeamAsia

9612
"ก๊องส์-ธัชกร" ดาวรุ่งไทยกระหึ่ม! "โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ" ผงาดโพเดี้ยมครั้งที่ 3


"ก๊องส์" ธัชกร บัวศรี ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 20 ปี จากโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" สร้างผลงานกระหึ่มเวทีดาวรุ่งชิงแชมป์โลก ควบรถแข่งหมายเลข 5 ผงาดคว้าอันดับ 3 ในศึก เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2021 สนาม 6 เรซแรก ที่ เรดบูลริง ได้ฉลองบนโพเดี้ยมในเกมระดับโลกเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2021 ดวลความเร็วสนามที่ 6 ของปีในสุดสัปดาห์นี้ที่เรดบูลริง ประเทศออสเตรีย ซึ่งถูกบรรจุเป็นซัพพอร์ตเรซของการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์


ล่าสุดผ่านการแข่งขันเรซแรก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยนักบิดไทยอย่าง ธัชกร ยังคงทำผลงานโดดเด่นคว้ากริดสตาร์ทอันดับ 5 มาครอง ในเกมที่ต้องดวลกับสุดยอดดาวรุ่งจากทั่วโลกกว่า 25 คน ชิงชัยกันทั้งสิ้น 17 รอบสนาม

ธัชกร ออกตัวได้ดีขยับขึ้นเป็นผู้นำได้ในรอบที่ 3 ทว่ากลับโดนเบียดร่วงลงไปถึงอันดับ 7 ก่อนจะหาจังหวะขึ้นมารั้งอันดับ 3 ได้อีกครั้ง จากนั้นสามารถไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ในช่วง 10 รอบสุดท้าย แต่ภายใต้การขับเคี่ยวสุดเข้มข้น นักบิดไทย พลาดสะดุด 2 ครั้งที่โค้ง 3 และ โค้ง 6 ทำให้ร่วงลงไปถึงอันดับ 5




อย่างไรก็ดี ธัชกร ที่เตรียมตัวมาอย่างหนัก สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาขึ้นโพเดี้ยมได้สำเร็จ ด้วยการบิดเข้าป้ายในอันดับ 3 ด้วยเวลา 28 นาที 30.800 วินาที ตามหลัง ดาวิด อลองโซ ผู้ชนะเพียง 4.161 วินาทีเท่านั้น ส่งผลให้นักบิดไทยได้พาธงชาติไทยขึ้นฉลองบนโพเดี้ยมเป็นครั้งที่ 3 ในฤดูกาลนี้ ขยับขึ้นรั้งอันดับ 8 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 93 คะแนน

ทั้งนี้ ธัชกร มีคิวลงแข่งขันเรซที่ 2 ของ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ สนาม 6 ในวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคมนี้ เวลา 21:30 น. ตามเวลาประเทศไทย ชมสดทางออนไลน์ :https://www.redbull.com/int-en/rookiescup/races/red-bull-ring-red-bull-rookies-cup-2021 พร้อมติดตามข่าวสารของนักบิดฮอนด้าได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : https://www.facebook.com/APHondaRacingTH

#WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #RaceToTheDream #TB33 #CEVMoto3 #RedBullMotoGPRookiesCup #MotorSport #HondaRacingThailand

9613
รายงานข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศ ณ วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2564 เวลา 8.00 น.


📍 กรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 2 - 25  ug/m3
📍 ภาคกลาง มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 39 ug/m3
📍 ภาคเหนือ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 37 ug/m3
📍 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 31 ug/m3
📍 ภาคใต้ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 2 - 26 ug/m3
📍 ภาพรวมทั้งประเทศ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 39 ug/m3

อย่าลืมสวมอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง
#DustBoy #pm2_5

ที่มา : รายงานค่าฝุ่น PM2.5 (ug/m3) จากจุดติดตั้งเครื่องวัดฝุ่น DustBoy

ศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://pm2_5.nrct.go.th

9614
“โปรเม” นำร่วมหลังจบรอบสาม ลุ้นคว้าแชมป์สมัยที่สอง
ศึกทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2021


เครดิตภาพโดย ทรัสต์ กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2021

15 สิงหาคม 2564 – “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล เจ้าของแชมป์ปี 2018 มีลุ้นคว้าแชมป์สมัยที่สอง หลังทำอีเวนพาร์ในรอบสาม ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำร่วมกับ ชาร์ลีย์ ฮัลล์ จากอังกฤษ และ รีแอนน์ โอทูล จากสหรัฐฯ ที่สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 207 ขณะที่ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล จบวันที่สามเก็บเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 4 ร่วม มีลุ้นแย่งแชมป์ทำสกอร์ไล่บี้กลุ่มผู้นำเพียง 1 สโตรก ในการแข่งขันวันที่สาม รายการทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2021




ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2021 เป็นรายการกอล์ฟทัวร์นาเมนต์ร่วมระหว่างเลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ และ แอลพีจีเอ ทัวร์ โดยมีทรัสต์กอล์ฟ บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีจากประเทศไทยลงนามให้การสนับสนุนหลักการแข่งขันเป็นปีแรก ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 46.5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 12 -15 สิงหาคม 2564 ณ สนามดัมบาร์นีลิงก์ ระยะ 6,584 หลา พาร์ 72 ในเมืองเลเวน สกอตแลนด์ โดยมีนักกอล์ฟไทยแข่งขัน 11 คน ผ่านการตัดตัว 6 คน




“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟมือ 21 ของโลก ซึ่งออกสตาร์ทรอบสามจากตำแหน่งผู้นำ ลุ้นคว้าแชมป์สมัยที่สอง แม้ผลงานแกว่งเมื่อเริ่มวัน Moving Day ทว่ายังกลับมารักษาตำแหน่งผู้นำได้จากการทำ 3 เบอร์ดี้ เสีย 1 โบกี้ที่ 9 หลุมแรก จากนั้นใน 9 หลุมหลัง “โปรเม” เสียดับเบิ้ลโบกี้ที่หลุม 10 แต่มาแก้ตัวได้อย่างน่าประทับใจจากการเก็บเบอร์ดี้ที่หลุม 12 และหลุม 15 ก่อนจะมาเสีย 2 โบกี้ใน 2 หลุมสุดท้าย จบวันที่สกอร์ อีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 207 ยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้นำร่วมกับ ชาร์ลีย์ ฮัลล์ โปรสาวอังกฤษ และ รีแอนน์ โอทูล จากสหรัฐอเมริกา
             
โปรสาวเจ้าของแชมป์เมเจอร์  2 สมัย อธิบายถึงฟอร์มการเล่นในรอบสามว่า “วันนี้เมมัวแต่คิดว่าไม่อยากพลาด ต้องตีให้ดี จนอาจลืมว่าเราต้องตั้งใจและให้ความสำคัญเฉพาะกับสิ่งที่เราควบคุมได้เท่านั้น โดยเฉพาะการเล่นลิงก์คอร์สซึ่งลมแรงมากและเราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น เมื่อเมคิดว่าต้องตีช็อตนี้ให้ดี แต่ถ้าเราทำไม่ได้ตามที่หวัง ก็แค่ต้องกลับมาเริ่มใหม่ พยายามทำให้ดีที่สุด และไม่คิดถึงผลลัพธ์มากเกินไปค่ะ”



“โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล ที่ออกรอบวันที่สามจากอันดับ 2 ร่วม ช่วง 9 หลุมแรกเก็บ 3 เบอร์ดี้รวด โดยไม่เสียโบกี้ แต่ 9 หลุมหลัง ทำ 2 เบอร์ดี้ เสีย 3 โบกี้ จบวันเก็บเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ 208 อยู่อันดับ 4 ร่วมกับแอชลีห์ บูไฮ จากแอฟริกาใต้ ซึ่งโปรจีนยังมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์เพราะตามหลังกลุ่มผู้นำเพียง 1 สโตรกเท่านั้น

โปรสาววัย 18 ปีชาวไทยให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่สามารถกลับมาอยู่กลุ่มลุ้นแชมป์และตื่นเต้นกับความท้าทายในวันสุดท้ายว่า “จีนรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายมาก ๆ ค่ะ ถ้าพรุ่งนี้จีนสามารถทำได้ คงจะยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้าไม่ มันก็ยังเป็นสัปดาห์ที่ดีของเราอยู่ จีนพยายามพัฒนาตนเองในทุก ๆ วัน เพราะเราอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม เป็นนักกอล์ฟที่ดีกว่าเดิม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์สำหรับจีน ขอให้ทุกคนรอลุ้นการแข่งขันวันพรุ่งนี้กันค่ะ”



“โปรจูเนียร์” จัสมิน สุวัณณะปุระ วัย 28 ปี รอบสามเก็บ 5 เบอร์ดี้ เสีย 4 โบกี้ จบวันทำสกอร์เพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 12 อยู่อันดับ 12 ร่วม เจ้าของแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 2 รายการที่สนุกกับความท้าทายและการวางแผนการเล่นลิงก์คอร์สให้สัมภาษณ์ว่า “ในการเล่นแต่ละหลุม เราต้องเล่นด้วยเหล็กที่แตกต่างกัน เช่นวันนี้ใช้ไดร์เวอร์ พรุ่งนี้อาจต้องใช้หัวไม้ 3 หรือวันนี้อาจต้องเปลี่ยนเป็นหัวไม้ 5 การเล่นที่ลิงก์คอร์สทำให้ต้องคิดและวางแผนในทุกช็อต ซึ่งมันเป็นอะไรที่สนุกมากค่ะ เพราะต้องเปลี่ยนแผนการเล่นในทุก ๆ วัน”




“โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เจ้าของแชมป์ ไอเอสพีเอส ฮานดะ เวิลด์ อินวิเตชันแนล 2021 รอบสามเก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 213 อยู่อันดับ 15 ร่วม ตามหลังเอรียา ผู้นำร่วม 6 สโตรก

โปรสาววัย 22 ปีซึ่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายในสัปดาห์นี้กล่าวว่า “เราไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นลิงก์คอร์สบ่อยนักเพราะที่ประเทศไทยไม่มีสนามแบบนี้ ถือเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ การได้มาแข่งขันที่นี่ทำให้ได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสนามลิงก์ การได้มาเล่นในสนามที่เราไม่ได้มีโอกาสเล่นบ่อย ๆ จึงเป็นอะไรที่สนุกมากสำหรับเมียวค่ะ”



“โปรพริม” พริมา ธรรมมารักษ์ นักกอล์ฟที่ได้รับเชิญจากทรัสต์กอล์ฟเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ซึ่งสามารถผ่านการตัดตัวเป็นรายการที่ 6 ของแอลพีจีเอ ทัวร์ เริ่มต้นวันที่สามด้วยการทำ 2 เบอร์ดี้ติดต่อกัน ก่อนจบวันที่สกอร์ อีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 214 อยู่อันดับ 25 ร่วม

โปรสาววัย 29 ปี รู้สึกประทับใจที่ได้ใช้เวลากับเพื่อน ๆ ซึ่งไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก ให้สัมภาษณ์ว่า “พริมมีความสุขมากค่ะที่ได้มีโอกาสเจอเพื่อน ๆ นักกอล์ฟไทยทุกคนที่อเมริกา โดยเฉพาะเอรียากับพริม เราออกรอบเวลาใกล้เคียงกัน ดังนั้นเราเลยได้ทานข้าวเช้าด้วยกันตลอดสามวันที่ผ่านมา ไม่แน่พรุ่งนี้คงได้เจอกันอีก โดยปกติพริมจะเล่นอยู่ในซีเมทรา ทัวร์ ของสหรัฐฯ ทำให้ไม่ค่อยได้มีโอกาสเจอเพื่อน ๆ บ่อยนัก ดังนั้นพริมจึงรู้สึกดีใจมากที่ได้มาแข่งขันในรายการนี้ ไม่เพียงแค่นักกอล์ฟที่พริมสนิทด้วย แต่ยังรวมถึงนักกอล์ฟทุกคนจากประเทศไทยและจากเลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ เหมือนกับว่าทุกคนได้มาเจอกันอีกครั้งที่นี่เลยค่ะ”



ปิดท้ายที่ “โปรแพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ วัย 21 ปี มืออันดับ 13 ของโลก เก็บ 4 เบอร์ดี้ แต่เสีย 1 ดับเบิ้ลโบกี้ และ 2 โบกี้ ทำให้จบวันสกอร์ อีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม อีเวนพาร์ 216 อยู่อันดับ 37 ร่วม


###

เกี่ยวกับ ทรัสต์กอล์ฟ

ในฐานะบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศไทย ทรัสต์กอล์ฟส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนานักกอล์ฟอาชีพชาวไทยรุ่นต่อไป ด้วยการใช้เทคโนโลยี ตลอดจนการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับทั้งร่างกายและจิตใจ ดร.ปริญ สิงหนาท ผู้ก่อตั้ง ทรัสต์กอล์ฟ ได้คิดค้นโปรแกรมการฝึกซ้อมที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมและพัฒนาทักษะของนักกอล์ฟไทยรุ่นใหม่ให้ก้าวสู่ระดับอาชีพในอนาคต

ทรัสต์กอล์ฟให้การสนับสนุนทุกมิติของการแข่งขัน ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนเยาวชน นักกีฬากอล์ฟและแคดดี้ โดยมีแผนการสำคัญคือการเปิดมหาวิทยาลัยทรัสต์แห่งแรกในประเทศไทยเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาที่กว้างขึ้นให้แก่นักกอล์ฟไทย และมีจุดมุ่งหมายที่จะขยายโอกาสนี้ให้ครอบคลุมทั่วโลก  เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นเสมือนหัวใจสำคัญในปรัชญาของทรัสต์ กอล์ฟ การรับเป็นผู้สนับสนุนรายการวีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น จึงถือเป็นโอกาสให้ ดร.ปริญ สิงหนาท สามารถนำเสนอปรัชญาและวิสัยทัศน์ของทรัสต์ กอล์ฟ ออกสู่ระดับโลก พร้อมมอบโอกาสให้นักเรียนของทรัสต์ กอล์ฟ มีส่วนร่วมในรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ระดับสากล ผ่านการจับมือเป็นพันธมิตรซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้นักเรียนระดับสูงของศูนย์ได้ลงแข่งในสนามแข่งขันชื่อดังในรายการรายการทรัสต์ กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น


สกอตแลนด์ แหล่งกำเนิดกีฬากอล์ฟ

สกอตแลนด์มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะแหล่งกำเนิดกีฬากอล์ฟ โดยเป็นต้นกำเนิดเกมกีฬาชนิดนี้และยังคงเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของกีฬากอล์ฟจวบจนปัจจุบัน ทั้งยังถือเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกอล์ฟสมัยใหม่อันน่าตื่นตาตื่นใจบนมาตรฐานระดับโลก รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำที่พร้อมต้อนรับนักกอล์ฟนับแสนคนในแต่ละปีและพร้อมสำหรับการเป็นสถานที่จัดทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกหลายรายการ

อุตสาหกรรมกอล์ฟในสกอตแลนด์มีมูลค่าต่อเศรษฐกิจของสกอตแลนด์มากกว่า 1 พันล้านปอนด์ในแต่ละปี โดยส่วนใหญ่มาจากการจัดอีเวนต์แข่งขันและการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ

ด้วยการจัดงานต่าง ๆ ขององค์การ VisitScotland, Scottish Development International และ Scottish Golf ทำให้รัฐบาล สกอตแลนด์ทำข้อตกลงให้การสนับสนุนการแข่งขันภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจและการเติบโตทางธุรกิจของประเทศ กระตุ้นการมีส่วนร่วมในเกมกีฬา และช่วยพัฒนานักกอล์ฟดาวรุ่งชาวสก็อตรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ในโปรแกรม Clubgolf สำหรับนักกอล์ฟเยาวชน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรัฐบาลสกอตแลนด์และพันธมิตรได้ที่
www.scotland.org
| www.visitscotland.com | www.scotent.co.uk | www.sdi.co.uk | www.scottishgolf.org | www.clubgolfscotland.com


เกี่ยวกับ สนามกอล์ฟดัมบาร์นีลิงก์

Leven, Fife, Scotland Golf Course | Dumbarnie Links

เกี่ยวกับ ไอเอ็มจี

ไอเอ็มจี คือผู้นำระดับโลกด้านการจัดงานแข่งขันกีฬา อีเวนต์ งานสื่อ และแฟชั่น บริษัทยังเป็นผู้แทนและผู้จัดการของนักกีฬาและนายแบบนางแบบชื่อก้องโลก รวมถึงเป็นผู้จัดเวทีการแสดงสดและรายการความบันเทิงของแบรนด์ชื่อดังมาแล้วมากมายเป็นประจำทุกปี ถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตอิสระและผู้สนับสนุนสื่อกีฬารายใหญ่ที่สุดของโลก ไอเอ็มจียังมีความเชี่ยวชาญในด้านการฝึกฝนกีฬา การพัฒนาลีกการแข่งขัน และการตลาด สื่อ และการจดทะเบียนของแบรนด์ องค์กรด้านกีฬา และสถาบันของมหาวิทยาลัย ปัจจุบัน ไอเอ็มจีถือเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเอนเดฟเวอร์ บริษัทด้านความบันเทิง กีฬา และคอนเทนต์ระดับโลก

เกี่ยวกับ แอลพีจีเอ

สมาคมกอล์ฟอาชีพสตรี (แอลพีจีเอ) คือองค์กรกอล์ฟอาชีพสตรีระดับชั้นนำของโลก ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1950 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เดย์โทนาบีช ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 2,300 คนจาก 30 ประเทศ ด้วยวิสัยทัศน์ในการสร้างแรงบันดาลใจ เสริมพลัง ให้ความรู้ และมอบความบันเทิงด้วยการนำเสนอสุดยอดนักกอล์ฟหญิงโดยจัดการแข่งขันเกิดขึ้นทั่วโลก ในขณะที่ Symetra Tour ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์คัดเลือกนักกีฬาอย่างเป็นทางการของแอลพีจีเอได้สร้างเส้นทางให้แก่นักกีฬาที่มีความสามารถไปสู่เวทีระดับโลก นอกจากนี้ LPGA Teaching and Club Professionals ยังช่วยพัฒนาวงการกีฬากอล์ฟผ่านการสอน การฝึกซ้อม และการบริหารจัดการ

แอลพีจีเอแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการพัฒนาวงการผ่านมูลนิธิแอลพีจีเอ โดยองค์กรการกุศลนี้มุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพและสนับสนุนเด็กหญิงและสตรีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 ผ่านการจัดกิจกรรมด้านการพัฒนา มนุษยธรรม และสังคมกอล์ฟ ซึ่งรวมถึง LPGA*USGA Girls Golf, LPGA Women’s Network, และสมาคมกอล์ฟสมัครเล่นแอลพีจีเอ (LPGA Amateur Golf Association)

ผู้สนใจสามารถติดตามแอลพีจีเอได้ทางโทรทัศน์ กอล์ฟชาแนล และผ่านเว็บไซต์ www.LPGA.com สามารถเข้าร่วมสนทนากับเราได้ทาง www.facebook.com/lpga, www.twitter.com/lpga และ www.youtube.com/lpgavideo และอินสตาแกรม @lpga_tour


เกี่ยวกับ เลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์

เลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ (Ladies European Tour: LET) คือทัวร์นาเมนต์กอล์ฟหญิงระดับอาชีพชั้นนำของยุโรป ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1978 โดยมีชื่อเดิมว่า WPGA ด้วยจำนวนสมาชิกนักกอล์ฟ 324 คนจาก 38 ประเทศ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้แฟน ๆ ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์มากกว่า 20 รายการใน 5 ทวีป ทำให้เลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ เชื่อมโยงผู้คนและแบรนด์สินค้าผ่านการมีประสบการณ์ร่วมกัน และยังช่วยส่งเสริมความบันเทิงจากการแข่งขันกีฬาระดับโลกผ่านการจัดอีเวนต์ที่โดดเด่นซึ่งสามารถดึงดูดสื่อมวลชนต่างประเทศและสถานีโทรทัศน์ได้อย่างมหาศาล โดยในการจัดงานแต่ละครั้ง ไม่ได้มีเพียงการแข่งขันดวลวงสวิง หากเป็นวันที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานแบบครบวงจร โดยมีทั้งกิจกรรมความบันเทิงที่สนุกสนานและบรรยากาศของงานเทศกาลท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามน่าประทับใจ นักกอล์ฟสมาชิกของเลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ สร้างความน่าหลงใหลและความตื่นตาตื่นใจด้วยทักษะการเล่นที่ยอดเยี่ยม หากมิใช่แค่เดินทางมาแข่งขันเท่านั้น หากยังช่วยสร้างมรดกตกทอดผ่านการเชื่อมโยงชุมชนเข้ากับการพัฒนากีฬากอล์ฟของภูมิภาคนั้น ๆ โดยมีคณะกรรมการบริการทำหน้าที่ดูแลทัวร์นาเมนต์ ร่วมกับสมาพันธ์นักกีฬาซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจถึงการเติบโตและการพัฒนาที่ต่อเนื่องทั้งสำหรับผู้เล่น ผู้ชม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

9615
สบส.เปิดสถิติออกกำลังกายช่วงโควิด 19 “เดินเร็ว” สุดฮิตวัยทำงาน

                กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดสถิติพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในกลุ่มวัยทำงาน ให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 เผยประเภทของการออกกำลังกายยอดนิยมอันดับแรก คือ เดินเร็วร้อยละ 43.6 เป็นการออกกำลังกายยอดฮิตและประชาชนมักจะใช้เวลาออกกำลังกายต่อเนื่องประมาณ 30 นาที


                นพ.ธเรศ  กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า​ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ เรื่องพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โดยการสำรวจความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ ในกลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 15 - 59 ปี เรื่อง พฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ดำเนินการใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2564 (เป็นช่วงเริ่มต้นผ่อนคลายมาตรการ การควบคุมโรคโควิด 19) ผลการสำรวจ พบว่าวัยทำงานนิยมออกกำลังกายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ เดินเร็ว โดยกลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหนึ่ง คือ 43.6 %  ที่ยังคงออกกำลังกายประเภทนี้แม้ในสถานการณ์โรคโควิด 19 ยังคงแพร่ระบาด อันดับที่สอง คือ วิ่งเหยาะ 27.9%  อันดับที่สาม คือ ปั่นจักรยาน 19.9 %  ซึ่งจะเห็นได้ว่าการเดินเร็วเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสำหรับคนทำงาน

                นพ.ธเรศ กล่าวว่า ในช่วงที่ต้องทำงานที่บ้าน (Work From Home) การออกกําลังกายเป็นกลไกที่สําคัญในการเสริมสุขภาพทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกัน โดยการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ต้องใช้วิธีค่อยทำค่อยไป ให้ทุกส่วนของร่างกายได้ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและใช้แรงกล้ามเนื้อ จะทำให้มีสุขภาพดี รู้สึกผ่อนคลายไม่เครียด ควรทำสม่ำเสมอ ให้ได้  3 - 5 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องนาน ครั้งละ 20 - 60 นาที  จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของระบบหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อ การออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทําให้เกิดความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกายในด้านการป้องกันโรค คือ ช่วยลดความเสี่ยง และปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สําคัญ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง ความอ้วนและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ฯลฯ การเดินเป็นวิธีรักษาสุขภาพที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่สิ้นเปลือง เป็นอิสระและไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ทุกเพศทุกวัยสามารถทำได้และปลอดภัย เป็นวิธีการออกกำลังกายที่ไม่ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าจนเกินไป เกิดแรงกระแทกที่ข้อเท้าต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักมาก สิ่งสำคัญในการเดินออกกำลังกาย คือ ท่าเดิน ไม่ควรก้าวยาวจนเกินไป ควรก้าวสั้นๆ แต่ถี่ แกว่งแขนตามธรรมชาติ สวมรองเท้า ที่เหมาะแก่การเดิน ควรเป็นรองเท้าที่มีพื้นกันแรงกระแทกและรองรับอย่างมั่นคง ก่อนและหลังการเดิน ควรอบอุ่นร่างกายและยืดกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการออกกำลังกาย


                ด้านนางสาวมะลิ ไพฑูรย์เนรมิต ผู้อำนวยการกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า​ การออกกำลังกายในวัยทำงานนี้นับว่ามีความจำเป็นมาก เพราะร่างกายต้องได้รับการรักษาและฟื้นฟูในส่วนที่สึกหรอไปจากการทำงาน การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งหรือการนั่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ และสมอง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ประชาชนควรเลือกออกกำลังกายที่ไม่เสี่ยง ต่อการติดเชื้อ และควรทำอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ สามารถใช้พื้นที่บริเวณบ้านออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ เมื่อนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน ควรลุกขึ้นยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกๆ 1 ชั่วโมง อาจจะใช้แอพพลิเคชั่นเปิดคลิปออกกำลังกายที่บ้าน โยคะ หรือการทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน รวมทั้งกินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ปรุงสุกด้วยความร้อน ลดหวาน มัน เค็ม หลีกเลี่ยง การกินอาหารร่วมกัน งดการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ทั้งภายในและภายนอกบ้าน และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ  7 - 9 ชั่วโมง

                สามารถติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อของกองสุขศึกษา ผ่านช่องทาง Facebook และเว็บไซต์กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ​ http://www.hed.go.th

Pages: 1 ... 639 640 [641] 642 643 ... 2404