Show Posts
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
34711
news & activity / MOTOR EXPO มอบรถ 3 คัน มูลค่ากว่า 2.7 ล้านบาท!
« on: February 26, 2011, 02:48:52 PM »MOTOR EXPO มอบรถ 3 คัน มูลค่ากว่า 2.7 ล้านบาท!
บริษัท สื่อสากล จำกัด มอบรางวัลรถยนต์ 3 คัน แก่ ผู้โชคดีจากงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” หรือ “The 27th Thailand International Motor Expo 2010”
ผู้โชคดี รายการ "ซื้อรถ ชิงรถ" รับรถยนต์ KIA SOUL มูลค่า 1,298,000 บาท ได้แก่ นางพิมพิกา ไวท์
ผู้โชคดี รายการ "ซื้อบัตร ชิงรถ" รับรถตู้ FOTON รุ่น VIEW มูลค่า 739,000 บาท ได้แก่ นางสาวจุฬาลักษณ์ บางโรย
และผู้โชคดี รายการ “SMS ชิงรถ" รับรถยนต์ FORD FIESTA HATCHBACK 5 DOOR 1.6 SPORT POWERSHIFT มูลค่า 699,000 บาท ได้แก่ ด.ช.ณัฐพงษ์ แอแป รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 2,736,000 บาท
34712
ข่าวบันเทิง / SFทำหวาน ควงคู่ Chang ออกเดท จัดกิจกรรมออกเดทยกแก๊ง กับกิจกรรมLOVE IS ALL AROUND
« on: February 25, 2011, 03:51:28 PM »
SF ทำหวาน ควงคู่ Chang ออกเดท จัดกิจกรรม
ออกเดท ยกแก๊ง กับกิจกรรม LOVE IS ALL AROUND
SF Cinema city - SF Strike Bowl โดย คุณสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ร่วมกับ Chang Light โดย คุณกรเพชร พสวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ จัดกิจกรรมสุดเก๋ออกเดทยกแก๊งกับเหล่าบรรดาคู่รักแฟนคลับช้างไลท์ ที่ส่งเข้าร่วมกิจกรรม Love is All around โดยคู่รักที่ได้ผ่านการคัดเลือกมาจากหน้าแฟนเพจของเฟสบุคช้างไลท์ 25 คู่ จะได้ร่วมแข่งขันโยนโบวลิ่งและชมภาพยนตร์ร่วมกับ คู่รักมาราธอนของวงการ อั๋น-ศราวุธ นวแสงอรุณ และ เจนนี่ - เจนนิเฟอร์ โปลิตานนท์ แถมท้ายด้วยการแสดงมินิคอนเสิร์ตและชมภาพยนตร์สุดแสนโรแมนติค Love & Others Drug นำแสดงโดย เจค จิวเลนฮาล และ แอน แฮทธาเวย์ ที่เรียกได้ว่าเติมรักให้ทุกคู่รักได้อย่างเต็มอิ่มเอม
ออกเดท ยกแก๊ง กับกิจกรรม LOVE IS ALL AROUND
SF Cinema city - SF Strike Bowl โดย คุณสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ร่วมกับ Chang Light โดย คุณกรเพชร พสวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ จัดกิจกรรมสุดเก๋ออกเดทยกแก๊งกับเหล่าบรรดาคู่รักแฟนคลับช้างไลท์ ที่ส่งเข้าร่วมกิจกรรม Love is All around โดยคู่รักที่ได้ผ่านการคัดเลือกมาจากหน้าแฟนเพจของเฟสบุคช้างไลท์ 25 คู่ จะได้ร่วมแข่งขันโยนโบวลิ่งและชมภาพยนตร์ร่วมกับ คู่รักมาราธอนของวงการ อั๋น-ศราวุธ นวแสงอรุณ และ เจนนี่ - เจนนิเฟอร์ โปลิตานนท์ แถมท้ายด้วยการแสดงมินิคอนเสิร์ตและชมภาพยนตร์สุดแสนโรแมนติค Love & Others Drug นำแสดงโดย เจค จิวเลนฮาล และ แอน แฮทธาเวย์ ที่เรียกได้ว่าเติมรักให้ทุกคู่รักได้อย่างเต็มอิ่มเอม
34713
ข่าวภาพยนตร์ / SEASON OF THE WITCH 03/03/2011
« on: February 24, 2011, 12:59:27 PM »
SEASON OF THE WITCH 03/03/2011
เรื่องย่อ
นิโคลัส เคจ นักแสดงชายเจ้าของรางวัลออสการ์ (National Treasure, Ghost Rider) และรอน เพิร์ลแมน (Hellboy, Hellboy II, Sons of Anarchy) รับบทนำในภาพยนตร์แอ็กชั่นผจญภัยเหนือธรรมชาติที่ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับนักรบสงครามครูเสดผู้กล้าหาญกับเพื่อนสนิทของเขา ที่เดินทางกลับบ้านหลังต้องไปสู้รบอย่างเหี้ยมโหดมานานหลายทศวรรษ เพียงเพื่อจะพบว่าโลกของพวกเขาถูกทำลายลงด้วยโรคระบาด บรรดาพระแห่งคริสตจักร ต่างเชื่อว่าเด็กสาวคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด คือผู้ต้องรับผิดชอบต่อเหตุหายนะครั้งนี้ จึงได้สั่งการให้ชายทั้งสองพาเด็กสาวแสนประหลาดผู้นี้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์อันห่างไกลที่ซึ่งเหล่าพระจะทำพิธีกรรมโบราณเพื่อขจัดดินแดนต้องคำสาปจากหญิงสาว พวกเขาออกเดินทางที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เจ็บปวด ซึ่งจะเป็นตัวทดสอบความแข็งแกร่งและความกล้าหาญของพวกเขา เมื่อพวกเขาค้นพบความลับดำมืดของหญิงสาว และพบว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับพลังที่ทรงอำนาจที่จะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของโลกทั้งหมด
หลายปีที่ต้องทำสงครามอันโหดร้ายในนามของพระเจ้า ทำให้บีห์เมน (เคจ) รู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อการรบราฆ่าฟันนองเลือด รวมถึงหมดความภักดีต่อคริสตจักร บีห์เมนและเฟลสัน สหายร่วมศึก (เพิร์ลแมน) ที่ต่างกำลังตั้งตารอที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ ต้องเกิดความสับสนเมื่อพบว่าดินแดนบ้านเกิดของเขาแทบกลายเป็นเมืองร้าง โดยหารู้ไม่ว่าทั่วทั้งยุโรปกำลังถูกกาฬโรคเล่นงานจนผู้คนล้มตายมากมาย
ขณะกำลังหาอาหารและของใช้อยู่ที่พระราชวังที่มาร์เบิร์ก สองอัศวินถูกจับและถูกนำตัวไปพบพระคาร์ดินัล (คริสโตเฟอร์ ลี) เพื่อให้อธิบายถึงการกลับมาจากแดนตะวันออกก่อนกำหนดของพวกเขา พระคาร์ดินัลที่กำลังจะตายขู่ว่าจะจับทั้งคู่ขังคุกในข้อหาหนีทัพ ถ้าพวกเขาไม่ยอมตกลงที่จะปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย คุกใต้ดินของพระคาร์ดินัลคือที่คุมขังหญิงสาวนางหนึ่ง (แคลร์ ฟอย) ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดที่นำกาฬโรคมาพร้อมกับเธอ พวกเขาสามารถไถ่โทษให้กับตัวเองได้ด้วยการพาหญิงสาวผู้นี้เดินทางไปยังวัดอันห่างไกลที่ซึ่งเธอจะถูกพิจารณาคดี
เมื่อเห็นหญิงสาวถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย และตัวเธอเองก็ดูไร้ซึ่งพิษภัยและอำนาจใดๆ ที่ดูขัดกับข้อกล่าวหาของเหล่าพระ เป็นสิ่งที่ดลใจบีห์เมน เขาเชื่อว่าเธอเป็นเพียงแพะรับบาป และกลัวว่าเธอจะโดนตัดสินลงโทษโดยไม่ได้พิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม บีห์เมนจึงตกลงใจที่จะพาเธอออกเดินทางไปในครั้งนี้
นอกจากเฟลสัน เพื่อนผู้ซื่อสัตย์ภักดีของเขาแล้ว บีห์เมนยังมีเพื่อนร่วมทางเป็นจอมต้มตุ๋น (สตีเฟ่น แกรห์ม) ที่รู้จักเส้นทางนอกเมืองเป็นอย่างดี, ชายหนุ่มที่ฝันอยากจะเป็นอัศวิน (โรเบิร์ต ชีแฮน), อัศวินผู้ขมขื่นที่ต้องสูญเสียครอบครัวให้กับกาฬโรค (อุลริช ธอมเซ่น) และพระผู้ใสซื่อ (สตีเฟ่น แคมป์เบลล์ มัวร์)
การเดินทางทั้งยาวไกลและลำบากตรากตรำ และยิ่งท้าทายมากขึ้นเมื่อพวกเขาเผชิญเหตุการณ์ที่ก่อความรำคาญ และทำให้คนกลุ่มนี้ต้องเดินทางผ่านดินแดนที่ไม่มีแผนที่นำทาง ต้องข้ามหุบผาลึก และบุกตลุยดงป่าที่เต็มไปด้วยหมาป่า สมาชิกร่วมทางต้องเผชิญกับเหตุร้ายไปทีละคน และอัศวินจากสงครามครูเสดพบว่าตัวเองต้องเผชิญหน้ากับคู่ปรับที่น่ากลัวที่สุด
Season of the Witch นำแสดงโดย นิโคลัส เคจ (National Treasure, Ghost Rider), รอน เพิร์ลแมน (Hellboy, “Sons of Anarchy”), สตีเฟ่น แคมป์เบลล์ มัวร์ (The Bank Job, History Boys ) ,แคลร์ ฟอย (“Going Postal,” “Little Dorrit”), สตีเฟ่น แกรห์ม (“Boardwalk Empire,” Public Enemies), อุลริช ธอมเซ่น (Centurion, The International), โรเบิร์ต ชีแฮน (Cherrybomb) และ คริสโตเฟอร์ ลี (The Lord of the Rings, Alice in Wonderland)
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย โดมินิค ซีน่า (Gone in Sixty Seconds, Swordfish) จากบทภาพยนตร์โดย บรากี้ ชัท (“Threshhold”) ผู้อำนวยการสร้าง ได้แก่ ชาร์ลส์ โรเว่น (The Dark Knight, Get Smart) และอเล็กซ์ การ์ตเนอร์ (Get Smart, The Upside of Anger) ผู้กำกับภาพ ได้แก่ อาเมอร์ โมกรี่ (Fast & Furious, Vantage Point) ผู้ลำดับภาพ ได้แก่ มาร์ก เฮลฟริช (X-Men: The Last Stand, Rush Hour 1, 2 & 3) และแดน ซิมเมอร์แมน (Predators, Max Payne) โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ ได้แก่ อูลี่ ฮานิสช์ (The International, Perfume: The Story of a Murderer) ดนตรีประกอบเป็นฝีมือการประพันธ์ของ แอ็ทลี โอวาร์สสัน ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ได้แก่ คาร์โล พ็อกจิโอลี่ (Miracle at St. Anna, Cold Mountain) ทีมผู้อำนวยการสร้างบริหาร ได้แก่ ไรอัน คาวานัฟ (Robin Hood, The Fighter), อลัน จี แกลเซอร์ (The International, Get Smart), สตีฟ อเล็กซานเดอร์ (Swimming with Sharks), ทอม คาร์นาวสกี้ (The Illusionist, Max Payne) และทัคเกอร์ ทูลี่ย์ (McGruber, Dear John)
34714
news & activity / กาญจนบุรีคึกคัก เปิดแสดงละครแสงเสียงเฉลิมพระเกียรติ สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึก
« on: February 21, 2011, 01:14:40 PM »
กาญจนบุรีคึกคัก เปิดการแสดงละครแสงเสียงเฉลิมพระเกียรติ
สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า อย่างยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการแสดงละครแสงเสียงเทิดพระเกียรติปฐมบรมราชจักรีวงศ์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เรื่อง “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” ที่อุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพ บ้านโป่งปัด ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่จัดการแสดงละครแสงเสียงบนพื้นที่กว่า ๑๐๐ ไร่ บนสมรภูมิรบจริงกลางหุบเขาทุ่งลาดหญ้า ถ่ายทอดเรื่องราวจากมหาวีรกรรมของกองทัพไทย อันเป็นการรบที่ข้าศึกพ่ายแพ้ยับเยินที่สุดในประวัติศาสตร์ จัดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาประกอบระบบเสียงรอบทิศทางเหมือนอยู่ในสนามรบจริง ด้วยงบประมาณการจัดสร้างถึง ๖๐ ล้านบาท โดย ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นที่ปรึกษา
การแสดงละครแสงเสียงเรื่อง “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” จัดโดยกระทรวงกลาโหม กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ ๑ ร่วมกับกระทรวงพลังงาน และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี เผยแพร่พระเกียรติคุณผ่านเรื่องราวของสงครามเก้าทัพ ที่ทรงปกป้องรักษาเอกราชของชาติไทยให้ประชาชนได้รับรู้และภาคภูมิใจ อันนำมาซึ่งความตระหนักถึงความรักชาติ รู้รักสามัคคี และหวงแหนแผ่นดิน พร้อมทั้งเพื่อน้อมรำลึกถึงการครบรอบ “วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” ในวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ของทุกปี
นอกจากนี้ยังเป็นการสะท้อนถึงความผูกพัน เทิดทูน และจงรักภักดีที่ประชาชนชาวไทยมีต่อพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองและดูแลพสกนิกรให้ร่มเย็นเป็นสุขตลอดมากว่า ๗๐๐ ปี ทั้งยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และกรมพระราชวังบวรมหา สุรสิงหนาท รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ในการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ และปกป้องผืนแผ่นดินนี้ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวีรกรรมอันกล้าหาญ และความเสียสละของทุกพระองค์ ในสงครามเก้าทัพที่เสี่ยงต่อการเสียดินแดนอย่างยิ่งนี้
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของการริเริ่มจัดการแสดงในครั้งนี้ว่า “กาญจนบุรีเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เป็นเมืองหน้าด่าน เป็นพื้นที่สำคัญในการต่อต้านฝ่ายตรงข้าม โดยในการศึกสงครามทุกครั้ง ในทุกยุคทุกสมัย พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์จะทรงบัญชาการและร่วมรบกับแม่ทัพนายกองและบรรพบุรุษของเรา ด้วยความ กล้าหาญ เข้มแข็ง สามัคคี และเสียสละตลอดมา
สงครามครั้งสำคัญในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ก็คือสงครามเก้าทัพ ที่ประเทศเพื่อนบ้านโจมตีเราตลอดแนวตะวันตก ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ด้วยกำลังไพร่พลที่มากกว่าเรา ๒ เท่า ในขณะที่เพิ่งสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ได้เพียง ๓ ปี โดยทัพหลวงของฝ่ายตรงข้ามมุ่งมาที่นี่ การชนะสงครามที่ทุ่งลาดหญ้านี้ ทำให้ประเทศไทยยังคงดำรงเอกราชอยู่ได้ ไม่เช่นนั้นก็อาจถูกลบไปจากแผนที่โลกแล้ว จึงเป็นสงครามครั้งสำคัญที่ควรระลึกถึง และนำเสนอให้คนไทยรุ่นลูกรุ่นหลานร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนบุญคุณของบรรพบุรุษของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ประเทศชาติบ้านเมืองต้องการความสามัคคีเช่นในขณะนี้
การแสดงดังกล่าวซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการจัดแสดงละครประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่ที่สุดจะช่วยส่งเสริมให้อุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจมากขึ้น และเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรีด้วย”
ทั้งนี้ ภายในบริเวณการแสดงยังได้จัดนิทรรศการพื้นบ้าน นิทรรศการเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของดีของเด่นที่มีชื่อเสียงจากทุกแหล่งในจังหวัดกาญจนบุรี อาทิ มะละกอฮาวาย ผลไม้อบแห้งที่ผลิตเพื่อการส่งออก ชาใบหม่อน วุ้นเส้นท่าเรือ เค้กฝอยทอง ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรนานาชนิด ตลอดจนเครื่องดนตรีไทยที่มีทั้งของจริงให้สั่งจอง และของที่ระลึก ฯลฯ ทั้งยังรวมของอร่อยที่ขึ้นชื่อมาให้ลิ้มรส เช่น ไก่กระทอก ซึ่งมีเฉพาะเมืองกาญจน์เท่านั้น ทองม้วนสด ทองม้วนกรอบ ทอดมันปลากราย เป็นต้น
การแสดงละครแสงเสียงเฉลิมพระเกียรติ “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” มีการเตรียมงานพิถีพิถันเพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ชมตื่นตากับความยิ่งใหญ่ โดยมีนักแสดงชั้นนำ อาทิ ต้น-จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ โน้ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ เมฆ-วินัย ไกรบุตร หนึ่ง- ชลัฏ ณ สงขลา เป็นต้น พร้อมด้วยนักแสดงประกอบกว่า ๖๐๐ ชีวิต มีฉากรบด้วยกำลังคน ม้าศึก และปืนใหญ่ที่สมจริง
ผู้สนับสนุนหลักของการแสดงละครแสงเสียง “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” ได้แก่ กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยมีผู้สนับสนุนรอง คือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท อินดิ-เพนเดนท์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป และ บริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด
ละครแสงเสียงเรื่อง “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” ความยาว ๙๐ นาที จะจัดการแสดงถึงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ศกนี้ วันละ ๑ รอบ เวลา ๑๙.๓๐ – ๒๑.๐๐ น. พร้อมให้บริการหูฟังแปลภาษาอังกฤษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ วันละ ๑๐๐ ชุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย บัตรราคา ๑๙๙ และ ๔๙๙ บาท มีจำหน่ายที่สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี โทร. (๐๓๔) ๕๑๕ ๒๐๘ (๐๓๔) ๕๑๑ ๗๗๘ (๐๓๔) ๕๑๒ ๓๙๙ และ (๐๓๔) ๖๒๒ ๗๙๑ ทุกวัน ในเวลาทำการ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๑๘๙๙ และสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี รายได้จะนำไปพัฒนาปรับปรุงอุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ทัพ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตและทรงคุณค่าแก่อนุชนรุ่นหลัง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศต่อไป
สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า อย่างยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการแสดงละครแสงเสียงเทิดพระเกียรติปฐมบรมราชจักรีวงศ์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เรื่อง “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” ที่อุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพ บ้านโป่งปัด ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่จัดการแสดงละครแสงเสียงบนพื้นที่กว่า ๑๐๐ ไร่ บนสมรภูมิรบจริงกลางหุบเขาทุ่งลาดหญ้า ถ่ายทอดเรื่องราวจากมหาวีรกรรมของกองทัพไทย อันเป็นการรบที่ข้าศึกพ่ายแพ้ยับเยินที่สุดในประวัติศาสตร์ จัดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาประกอบระบบเสียงรอบทิศทางเหมือนอยู่ในสนามรบจริง ด้วยงบประมาณการจัดสร้างถึง ๖๐ ล้านบาท โดย ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นที่ปรึกษา
การแสดงละครแสงเสียงเรื่อง “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” จัดโดยกระทรวงกลาโหม กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ ๑ ร่วมกับกระทรวงพลังงาน และจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี เผยแพร่พระเกียรติคุณผ่านเรื่องราวของสงครามเก้าทัพ ที่ทรงปกป้องรักษาเอกราชของชาติไทยให้ประชาชนได้รับรู้และภาคภูมิใจ อันนำมาซึ่งความตระหนักถึงความรักชาติ รู้รักสามัคคี และหวงแหนแผ่นดิน พร้อมทั้งเพื่อน้อมรำลึกถึงการครบรอบ “วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” ในวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ของทุกปี
นอกจากนี้ยังเป็นการสะท้อนถึงความผูกพัน เทิดทูน และจงรักภักดีที่ประชาชนชาวไทยมีต่อพระมหากษัตริย์ที่ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองและดูแลพสกนิกรให้ร่มเย็นเป็นสุขตลอดมากว่า ๗๐๐ ปี ทั้งยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และกรมพระราชวังบวรมหา สุรสิงหนาท รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ในการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ และปกป้องผืนแผ่นดินนี้ด้วยพระปรีชาสามารถ พระวีรกรรมอันกล้าหาญ และความเสียสละของทุกพระองค์ ในสงครามเก้าทัพที่เสี่ยงต่อการเสียดินแดนอย่างยิ่งนี้
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของการริเริ่มจัดการแสดงในครั้งนี้ว่า “กาญจนบุรีเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เป็นเมืองหน้าด่าน เป็นพื้นที่สำคัญในการต่อต้านฝ่ายตรงข้าม โดยในการศึกสงครามทุกครั้ง ในทุกยุคทุกสมัย พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์จะทรงบัญชาการและร่วมรบกับแม่ทัพนายกองและบรรพบุรุษของเรา ด้วยความ กล้าหาญ เข้มแข็ง สามัคคี และเสียสละตลอดมา
สงครามครั้งสำคัญในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ก็คือสงครามเก้าทัพ ที่ประเทศเพื่อนบ้านโจมตีเราตลอดแนวตะวันตก ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ด้วยกำลังไพร่พลที่มากกว่าเรา ๒ เท่า ในขณะที่เพิ่งสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ได้เพียง ๓ ปี โดยทัพหลวงของฝ่ายตรงข้ามมุ่งมาที่นี่ การชนะสงครามที่ทุ่งลาดหญ้านี้ ทำให้ประเทศไทยยังคงดำรงเอกราชอยู่ได้ ไม่เช่นนั้นก็อาจถูกลบไปจากแผนที่โลกแล้ว จึงเป็นสงครามครั้งสำคัญที่ควรระลึกถึง และนำเสนอให้คนไทยรุ่นลูกรุ่นหลานร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนบุญคุณของบรรพบุรุษของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ประเทศชาติบ้านเมืองต้องการความสามัคคีเช่นในขณะนี้
การแสดงดังกล่าวซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการจัดแสดงละครประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่ที่สุดจะช่วยส่งเสริมให้อุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจมากขึ้น และเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรีด้วย”
ทั้งนี้ ภายในบริเวณการแสดงยังได้จัดนิทรรศการพื้นบ้าน นิทรรศการเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของดีของเด่นที่มีชื่อเสียงจากทุกแหล่งในจังหวัดกาญจนบุรี อาทิ มะละกอฮาวาย ผลไม้อบแห้งที่ผลิตเพื่อการส่งออก ชาใบหม่อน วุ้นเส้นท่าเรือ เค้กฝอยทอง ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรนานาชนิด ตลอดจนเครื่องดนตรีไทยที่มีทั้งของจริงให้สั่งจอง และของที่ระลึก ฯลฯ ทั้งยังรวมของอร่อยที่ขึ้นชื่อมาให้ลิ้มรส เช่น ไก่กระทอก ซึ่งมีเฉพาะเมืองกาญจน์เท่านั้น ทองม้วนสด ทองม้วนกรอบ ทอดมันปลากราย เป็นต้น
การแสดงละครแสงเสียงเฉลิมพระเกียรติ “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” มีการเตรียมงานพิถีพิถันเพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ชมตื่นตากับความยิ่งใหญ่ โดยมีนักแสดงชั้นนำ อาทิ ต้น-จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ โน้ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ เมฆ-วินัย ไกรบุตร หนึ่ง- ชลัฏ ณ สงขลา เป็นต้น พร้อมด้วยนักแสดงประกอบกว่า ๖๐๐ ชีวิต มีฉากรบด้วยกำลังคน ม้าศึก และปืนใหญ่ที่สมจริง
ผู้สนับสนุนหลักของการแสดงละครแสงเสียง “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” ได้แก่ กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยมีผู้สนับสนุนรอง คือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท อินดิ-เพนเดนท์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป และ บริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด
ละครแสงเสียงเรื่อง “สงครามเก้าทัพ ตอน วันชนะศึกทุ่งลาดหญ้า” ความยาว ๙๐ นาที จะจัดการแสดงถึงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ศกนี้ วันละ ๑ รอบ เวลา ๑๙.๓๐ – ๒๑.๐๐ น. พร้อมให้บริการหูฟังแปลภาษาอังกฤษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ วันละ ๑๐๐ ชุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย บัตรราคา ๑๙๙ และ ๔๙๙ บาท มีจำหน่ายที่สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี โทร. (๐๓๔) ๕๑๕ ๒๐๘ (๐๓๔) ๕๑๑ ๗๗๘ (๐๓๔) ๕๑๒ ๓๙๙ และ (๐๓๔) ๖๒๒ ๗๙๑ ทุกวัน ในเวลาทำการ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๑๘๙๙ และสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี รายได้จะนำไปพัฒนาปรับปรุงอุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ทัพ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตและทรงคุณค่าแก่อนุชนรุ่นหลัง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศต่อไป
34715
news & activity / เปิดงานร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “รื่นรมย์รัตนโกสินทร์”
« on: February 21, 2011, 12:17:25 PM »
เปิดงานร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “รื่นรมย์รัตนโกสินทร์”
คุณวีนา โปรานานนท์ หัวหน้าฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ที่ 3 จากซ้าย ) คุณเสริมคุณ คุณาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต (ที่ 4 จากซ้าย) ร่วมเปิดกิจกรรม ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “รื่นรมย์รัตนโกสินทร์” ร่วมด้วยดารานักแสดงให้เกียรติร่วมเปิดงานวันแรก ด้วยบรรยากาศย้อนยุค หวนคืน สู่กลิ่นอายของอดีตเมืองบางกอก เปิดให้ชมฟรีตั้งแต่วันนี้ จนถึง ๖ มีนาคม ๒๕๕๔ ที่ห้องนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถ. ราชดำเนินกลาง และที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ กับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ อาทิ ละครร้องเรื่อง “วิวาหพระสมุท” ฉายหนังกลางแปลง และตลาดย้อนยุค
“ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์” จัดนิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจเป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๕๓ จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่ห้องนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ติดตามรายละเอียดได้จาก www.rattanakosin-heritage.com, www.nitasrattanakosin.com, facebook/ ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์
คุณวีนา โปรานานนท์ หัวหน้าฝ่ายโครงการพิเศษ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ที่ 3 จากซ้าย ) คุณเสริมคุณ คุณาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต (ที่ 4 จากซ้าย) ร่วมเปิดกิจกรรม ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “รื่นรมย์รัตนโกสินทร์” ร่วมด้วยดารานักแสดงให้เกียรติร่วมเปิดงานวันแรก ด้วยบรรยากาศย้อนยุค หวนคืน สู่กลิ่นอายของอดีตเมืองบางกอก เปิดให้ชมฟรีตั้งแต่วันนี้ จนถึง ๖ มีนาคม ๒๕๕๔ ที่ห้องนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถ. ราชดำเนินกลาง และที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ กับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ อาทิ ละครร้องเรื่อง “วิวาหพระสมุท” ฉายหนังกลางแปลง และตลาดย้อนยุค
“ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์” จัดนิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจเป็นประจำทุกเดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๕๓ จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่ห้องนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ติดตามรายละเอียดได้จาก www.rattanakosin-heritage.com, www.nitasrattanakosin.com, facebook/ ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์
34716
news & activity / โครงการ "ลมหายใจไร้มลทิน" ส่งเสริมความสามารถจิตรกรน้อยวาดภาพสะท้อนสังคม
« on: February 18, 2011, 03:41:20 PM »โครงการ "ลมหายใจไร้มลทิน"
ส่งเสริมความสามารถจิตรกรน้อยวาดภาพสะท้อนสังคม
หัวข้อ “ความรัก ความสามัคคี ความดี และความงาม”
ส่งเสริมความสามารถจิตรกรน้อยวาดภาพสะท้อนสังคม
หัวข้อ “ความรัก ความสามัคคี ความดี และความงาม”
การประกวดวาดภาพสะท้อนความซื่อสัตย์สุจริต ในโครงการ “ลมหายใจไร้มลทิน” ประจำปี 2553 หัวข้อ “ความรัก ความสามัคคี ความดี และความงาม” ประกาศผลและมอบรางวัล ทุนการศึกษาแก่เยาวชนคนเก่งแล้ว โดยเป็นปีแรกที่เปิดโอกาสให้นักเรียนระดับอนุบาลส่งผลงานร่วมประกวด ซึ่งได้กระแสตอบรับดีมาก
นางสาว ชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการโครงการลมหายใจไร้มลทิน กล่าวว่า ปีนี้โครงการดำเนินมาถึงปีที่ 5 แล้ว ซึ่งการสร้างสรรค์ผลงานสะท้อนภาวะสังคมและความซื่อสัตย์สุจริตผ่านภาพวาดจากน้องๆ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของโครงการที่แสดงให้เห็นว่า เยาวชนไทยมีความเข้าใจความหมายของคำว่า “ความซื่อสัตย์สุจริต” มากขึ้น โดยปี 2553 ได้จัดการประกวดหัวข้อ “ความรัก ความสามัคคี ความดี และความงาม” พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับอนุบาลได้แต่งเติมสีสันจินตนาการที่ใสสะอาดร่วมประกวดครั้งนี้ด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากผลงานถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจอย่างยิ่ง เด็กแต่ละคนมีมุมมองเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ที่แตกต่างกันออกไป
การประกวดแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งมีผลการประกวดดังนี้
รางวัลชนะเลิศระดับอนุบาล ได้แก่ ด.ช.ธนพล แคนหนอง ชั้นอนุบาล 2 จากโรงเรียนบ้านไทยสามัคคี จังหวัดสระแก้ว กับ ผลงานที่สื่อให้เห็นมุมมองที่ปรารถนาให้สังคมเปรียบเสมือนหมู่บ้านแห่งความสุข ที่ผู้คนในหมู่บ้านรู้รักสามัคคี รู้หน้าที่ของตน ประกอบอาชีพสุจริต มีความซื่อสัตย์ และมีน้ำใจไมตรีให้แก่กัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวหล่อหลอมคนในสังคมให้เกิดความรักชาติ ความ สามัคคีและความซื่อสัตย์สุจริตต่อไป
รางวัลผู้ชนะเลิศระดับประถมศึกษา ได้แก่ ด.ญ.สุทธิดา วาจาสิทธิเมฆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง (งามศิริวิทยาคาร) จังหวัดกรุงเทพฯ กับผลงานที่สะท้อนภาพการร่วมแรงร่วมใจ สามัคคีของคนในสังคม สร้างสรรค์ธรรมชาติอันดีให้แก่ประเทศและโลก เปรียบเสมือนคนในสังคมทุกวันนี้หากเกิดความสามัคคี ร่วมมือกันทำสิ่งที่ดี ย่อมจะนำพาสังคมและประเทศชาติไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและเป็นสุขได้
34717
news & activity / CPS CHAPSสร้างสีสันต้นปี จับสองหนุ่ม ตูน VS เป้ ร่วมถ่ายแฟชั่นถ่ายทอดโปรเจคพิเศษ
« on: February 18, 2011, 03:26:30 PM »
CPS CHAPS สร้างสีสันต้นปี จับสองหนุ่ม ตูน VS เป้ ร่วมถ่ายแฟชั่นถ่ายทอดโปรเจคพิเศษ
กับคอลเลคชั่นซัมเมอร์ "New Skinny Rock Mode"
พร้อมชมแฟชั่นจากนางแบบชื่อดัง กับเทรนด์ New Skinny
แบรนด์เสื้อผ้าคุณภาพ CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์) เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Skinny Rock Mode” โดยจับสองหนุ่มสุดฮอต ตูน บอดี้สแลม และ เป้ อารักษ์ มาร่วมทำงานคู่กันเป็นครั้งแรก และร่วมถ่ายทอดโปรเจคพิเศษ กับเทรนด์ New Skinny ที่มาแรงสุดๆ ในปีนี้ โดยได้จัดงานเปิดตัวที่ลาน พาร์ค พารากอน งานนี้ตูนพร้อมวงบอดี้สแลม จัดเต็มกับโชว์พิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ส่วนเป้ อารักษ์ก็ไม่น้อยหน้า มากับโชว์โซโลกีต้าร์สุดมันส์กันแบบสดๆ พร้อมการเดินแฟชั่นโชว์ของเหล่านางแบบชื่อดังมากมาย แต่ที่เรียกเสียงกรี๊ดได้ถล่มทลายที่สุด เห็นจะไม่พ้นช่วงสุดท้าย ที่ 2 หนุ่ม ถอดเสื้อโชว์กันแบบจะจะเพื่อร่วมประมูล พร้อมนำรายได้มอบให้แก่วัดพระบาทน้ำพุ และมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
คุณจันทร์จิรา หงศ์ลดารมภ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส การตลาดและการขาย แบรนด์ CPS CHAPS กล่าวว่า “สำหรับคอลเลคชั่นใหม่นี้ ประกอบด้วยกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ และขาเดฟ ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รวมถึงเสื้อลายสก๊อต, เสื้อโทนสีเขียว ลายพรางทหาร และแจ็คเก็ตยีนส์ โดยคอลเลคชั่นนี้เราเน้นเรื่องเทคนิคมากขึ้น อาทิ การทำให้กางเกงดูเก่าและสวยโดยการฟอก เคลือบสีสนิม น้ำมันเครื่อง รวมถึงเทคนิค Second Hand Washed ที่ทำให้เกิดรอย ซึ่งเทคนิคนี้ใช้มือในการทำให้ขาดทั้งหมด ทำให้ลุคของยีนส์ออกมาดูเท่ห์และเซอร์ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มลูกเล่นการทำขาบิด ปลายขาเล็ก ทำให้ใส่สบายเวลางอเข่า ไม่ว่าจะลุกเดินหรือนั่ง ส่วนเสื้อที่ใช้จะเป็นลายสก็อต และเสื้อยีนส์ที่ทำให้ยับ สวมใส่ง่าย เหมาะกับอากาศในเมืองไทย ทำให้ผู้สวมใส่เสื้อผ้าของเรา ใส่แล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ในเรื่องของการตัดเย็บแน่นอนเรามี cutting line ที่ดี ใส่แล้วทรงสวยพอดีตัว สำหรับเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปีนี้คือ แนวทหาร (Military Rock) ที่มาในโทนสีน้ำตาล กากี และเขียวขี้ม้า ส่วนแอ็คเซสเซอร์รี่ ปีนี้ใส่น้อยชิ้นก็พอ แต่เราจะไปเน้นในเรื่องของรองเท้าซึ่งเราทำมาให้สามารถ Mix & Match กับชุดได้หลากหลายสไตล์ โดยคอลเลคชั่นนี้เราได้ ตูน บอดี้สแลม และเป้ อารักษ์ มาร่วมถ่ายทอดคอลเลคชั่นใหม่ ก็รู้สึกดีใจมากเลยค่ะที่เราได้สองซุปเปอร์สตาร์มาร่วมงานกันในครั้งนี้ สาเหตุที่ CPS CHAPS ตัดสินใจเลือกสองหนุ่มคู่นี้ เพราะทั้งตูนและเป้ ต่างก็เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน และที่สำคัญทั้งตูนและเป้เองก็มีสไตล์แต่งตัวที่ชัดเจน และเป็นสไตล์เดียวกันกับ CPS CHAPS ซึ่งการทำงานของทั้งสองคนเข้าขากันเป็นอย่างดี
โดยการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในวันพฤหัสที่ 10 กพ. นี้ ที่ พาร์ค พารากอน ทั้งตูนและเป้ ได้มาร่วมประมูลเสื้อที่ใส่ในงาน โดยทั้งสองนำรายได้จากการประมูลมอบให้กับการกุศล ซึ่งตูนนำเงินร่วมสมทบทุนเข้าวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เมื่อตอนจัดงานครบรอบ 30 ปี CPS CHAPS ที่เราได้ไปมอบเงินให้วัดแห่งนี้ ทางด้านเป้ จะมอบเงินจากการประมูลเสื้อครั้งนี้เข้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่เป้ตั้งใจและกำลังจะไปทำบุญให้สถานที่นี้อยู่แล้วจึงถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้เงินจากการประมูลในครั้งนี้ไปร่วมสมทบทำบุญต่อด้วย”
ทางด้านตูน บอดี้สแลม (อาทิวราห์ คงมาลัย ) เผยถึงการทำงานครั้งนี้ว่า “จริงๆ เมื่อซีซั่นที่แล้วผมเพิ่งได้ร่วมงานกับ CPS CHAPS เองครับ ผมสนุกและดีใจมากๆ ที่ได้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองผ่านทางคอลเลคชั่นที่ผมร่วมทำ co-designed ซึ่งเป็นกางเกงยีนส์ในสไตล์ที่พบชอบและใส่เป็นประจำ ต้องขอบคุณที่ทาง CPS CHAPS เห็นว่าผมทำได้ และเลือกผมมาร่วมงานอีก กับการถ่ายแบบคอลเลคชั่นใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กางเกง ก็เป็นสไตล์ผมเลยครับ อย่างกางเกงยีนส์ทรงเดฟ มีการใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ อย่างการเอาไปทำให้เก่า ก็ได้ลุคดูสมบุกสมบันดีครับ ซึ่งปกติไม่ว่าจะขึ้นคอนเสิร์ตหรือวันสบายๆ ผมก็ใส่เสื้อผ้าแนวนี้อยู่แล้ว รู้สึกมั่นใจมากครับ ส่วนการมาร่วมงานกับเป้ ก็สนุกมาก ปกติเราเคยเจอกันตามงานต่างๆ มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกัน ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก สนุกดีครับ ช่วงระหว่างถ่ายแฟชั่น ส่วนใหญ่เราก็คุยกันในเรื่องของงานดนตรีและกีตาร์เพราะผมเอากีตาร์ของตัวเองมาใช้ในการถ่ายแฟชั่นคอลเลคชั่นนี้ด้วย เป้ก็ชอบเราเป็นนักดนตรีเหมือนกันก็เลยคุยกันถูกคอครับ”
ส่วน หนุ่มเป้ เสลอ (อารักษ์ อมรศุภศิริ ) เผยถึง นักดนตรีรุ่นพี่ว่า “ตอนแรกที่ทาง CPS CHAPS ติดต่อมาให้ถ่ายแบบคู่กับพี่ตูน ผมตอบตกลงเลยครับ เพราะผมชื่นชอบในฝีมือการเล่นดนตรี ของพี่ตูนมานานมากแล้ว พี่ตูนถือว่าเป็นสุดยอดวงดนตรี แนวร๊อค เป็นตำนานหน้าหนึ่งของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ผมอายุอ่อนกว่าพี่ตูนประมาณ 5 ปีครับ ช่วงที่ถ่ายแบบก็พูดคุยกัน เรื่องทั่วๆ ไปครับ และเรื่องสุขภาพของพี่เขา รวมถึงเรื่องกีตาร์ด้วยครับ พี่เขาเอากีตาร์ส่วนตัว มาร่วมถ่ายแฟชั่นด้วยครับ สวยๆ ทั้งนั้นเลย พี่เค้าใจดีมากครับ ให้ผมเลือกใช้ถ่ายแบบได้ทุกตัวเลยครับ สำหรับการทำงานกับ CPS CHAPS เป็นครั้งแรกเช่นกันครับ เพิ่งมาลองใส่ โอ้โฮ !! เหมาะกับผมมากเลยครับ เป็นการกางเกงยีนส์ทรงเดฟ ที่เป็นผ้ายีนส์ยืดหน่อยๆ ใส่แล้วไม่อึดอัด ทรงก็สวย ส่วนเสื้อชอบมากเลย หามานานแล้วครับ เสื้อยีนส์ที่เป็นผ้าบาง ไม่หนาจนเกินไป เหมาะกับอากาศบ้านเรามากๆ ที่สำคัญชอบลูกเล่นต่างๆ เช่น ทรงกระเป๋าหรือการทำให้ยับ ดูเท่ห์ดีครับ ถ้าอยากเห็นเบื้องหลังการทำงานของผมและพี่ตูน ในการถ่ายคอลเลคชั่นใหม่ให้กับ CPS CHAPS สามารถเข้าไปชมได้ใน Facebook ที่ CPS CHAPS Official หรือเว็บไซต์ www.cpsclothing.com"
มาร่วมเดฟไปกับ CPS CHAPS ได้แล้ววันนี้กับคอลเลคชั่น “New Skinny Rock Mode'' ที่ร้าน CPS CHAPS ทุกสาขา
กับคอลเลคชั่นซัมเมอร์ "New Skinny Rock Mode"
พร้อมชมแฟชั่นจากนางแบบชื่อดัง กับเทรนด์ New Skinny
แบรนด์เสื้อผ้าคุณภาพ CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์) เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Skinny Rock Mode” โดยจับสองหนุ่มสุดฮอต ตูน บอดี้สแลม และ เป้ อารักษ์ มาร่วมทำงานคู่กันเป็นครั้งแรก และร่วมถ่ายทอดโปรเจคพิเศษ กับเทรนด์ New Skinny ที่มาแรงสุดๆ ในปีนี้ โดยได้จัดงานเปิดตัวที่ลาน พาร์ค พารากอน งานนี้ตูนพร้อมวงบอดี้สแลม จัดเต็มกับโชว์พิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ส่วนเป้ อารักษ์ก็ไม่น้อยหน้า มากับโชว์โซโลกีต้าร์สุดมันส์กันแบบสดๆ พร้อมการเดินแฟชั่นโชว์ของเหล่านางแบบชื่อดังมากมาย แต่ที่เรียกเสียงกรี๊ดได้ถล่มทลายที่สุด เห็นจะไม่พ้นช่วงสุดท้าย ที่ 2 หนุ่ม ถอดเสื้อโชว์กันแบบจะจะเพื่อร่วมประมูล พร้อมนำรายได้มอบให้แก่วัดพระบาทน้ำพุ และมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์
คุณจันทร์จิรา หงศ์ลดารมภ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส การตลาดและการขาย แบรนด์ CPS CHAPS กล่าวว่า “สำหรับคอลเลคชั่นใหม่นี้ ประกอบด้วยกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ และขาเดฟ ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รวมถึงเสื้อลายสก๊อต, เสื้อโทนสีเขียว ลายพรางทหาร และแจ็คเก็ตยีนส์ โดยคอลเลคชั่นนี้เราเน้นเรื่องเทคนิคมากขึ้น อาทิ การทำให้กางเกงดูเก่าและสวยโดยการฟอก เคลือบสีสนิม น้ำมันเครื่อง รวมถึงเทคนิค Second Hand Washed ที่ทำให้เกิดรอย ซึ่งเทคนิคนี้ใช้มือในการทำให้ขาดทั้งหมด ทำให้ลุคของยีนส์ออกมาดูเท่ห์และเซอร์ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มลูกเล่นการทำขาบิด ปลายขาเล็ก ทำให้ใส่สบายเวลางอเข่า ไม่ว่าจะลุกเดินหรือนั่ง ส่วนเสื้อที่ใช้จะเป็นลายสก็อต และเสื้อยีนส์ที่ทำให้ยับ สวมใส่ง่าย เหมาะกับอากาศในเมืองไทย ทำให้ผู้สวมใส่เสื้อผ้าของเรา ใส่แล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ในเรื่องของการตัดเย็บแน่นอนเรามี cutting line ที่ดี ใส่แล้วทรงสวยพอดีตัว สำหรับเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปีนี้คือ แนวทหาร (Military Rock) ที่มาในโทนสีน้ำตาล กากี และเขียวขี้ม้า ส่วนแอ็คเซสเซอร์รี่ ปีนี้ใส่น้อยชิ้นก็พอ แต่เราจะไปเน้นในเรื่องของรองเท้าซึ่งเราทำมาให้สามารถ Mix & Match กับชุดได้หลากหลายสไตล์ โดยคอลเลคชั่นนี้เราได้ ตูน บอดี้สแลม และเป้ อารักษ์ มาร่วมถ่ายทอดคอลเลคชั่นใหม่ ก็รู้สึกดีใจมากเลยค่ะที่เราได้สองซุปเปอร์สตาร์มาร่วมงานกันในครั้งนี้ สาเหตุที่ CPS CHAPS ตัดสินใจเลือกสองหนุ่มคู่นี้ เพราะทั้งตูนและเป้ ต่างก็เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน และที่สำคัญทั้งตูนและเป้เองก็มีสไตล์แต่งตัวที่ชัดเจน และเป็นสไตล์เดียวกันกับ CPS CHAPS ซึ่งการทำงานของทั้งสองคนเข้าขากันเป็นอย่างดี
โดยการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในวันพฤหัสที่ 10 กพ. นี้ ที่ พาร์ค พารากอน ทั้งตูนและเป้ ได้มาร่วมประมูลเสื้อที่ใส่ในงาน โดยทั้งสองนำรายได้จากการประมูลมอบให้กับการกุศล ซึ่งตูนนำเงินร่วมสมทบทุนเข้าวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เมื่อตอนจัดงานครบรอบ 30 ปี CPS CHAPS ที่เราได้ไปมอบเงินให้วัดแห่งนี้ ทางด้านเป้ จะมอบเงินจากการประมูลเสื้อครั้งนี้เข้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่เป้ตั้งใจและกำลังจะไปทำบุญให้สถานที่นี้อยู่แล้วจึงถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้เงินจากการประมูลในครั้งนี้ไปร่วมสมทบทำบุญต่อด้วย”
ทางด้านตูน บอดี้สแลม (อาทิวราห์ คงมาลัย ) เผยถึงการทำงานครั้งนี้ว่า “จริงๆ เมื่อซีซั่นที่แล้วผมเพิ่งได้ร่วมงานกับ CPS CHAPS เองครับ ผมสนุกและดีใจมากๆ ที่ได้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองผ่านทางคอลเลคชั่นที่ผมร่วมทำ co-designed ซึ่งเป็นกางเกงยีนส์ในสไตล์ที่พบชอบและใส่เป็นประจำ ต้องขอบคุณที่ทาง CPS CHAPS เห็นว่าผมทำได้ และเลือกผมมาร่วมงานอีก กับการถ่ายแบบคอลเลคชั่นใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กางเกง ก็เป็นสไตล์ผมเลยครับ อย่างกางเกงยีนส์ทรงเดฟ มีการใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ อย่างการเอาไปทำให้เก่า ก็ได้ลุคดูสมบุกสมบันดีครับ ซึ่งปกติไม่ว่าจะขึ้นคอนเสิร์ตหรือวันสบายๆ ผมก็ใส่เสื้อผ้าแนวนี้อยู่แล้ว รู้สึกมั่นใจมากครับ ส่วนการมาร่วมงานกับเป้ ก็สนุกมาก ปกติเราเคยเจอกันตามงานต่างๆ มาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกัน ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก สนุกดีครับ ช่วงระหว่างถ่ายแฟชั่น ส่วนใหญ่เราก็คุยกันในเรื่องของงานดนตรีและกีตาร์เพราะผมเอากีตาร์ของตัวเองมาใช้ในการถ่ายแฟชั่นคอลเลคชั่นนี้ด้วย เป้ก็ชอบเราเป็นนักดนตรีเหมือนกันก็เลยคุยกันถูกคอครับ”
ส่วน หนุ่มเป้ เสลอ (อารักษ์ อมรศุภศิริ ) เผยถึง นักดนตรีรุ่นพี่ว่า “ตอนแรกที่ทาง CPS CHAPS ติดต่อมาให้ถ่ายแบบคู่กับพี่ตูน ผมตอบตกลงเลยครับ เพราะผมชื่นชอบในฝีมือการเล่นดนตรี ของพี่ตูนมานานมากแล้ว พี่ตูนถือว่าเป็นสุดยอดวงดนตรี แนวร๊อค เป็นตำนานหน้าหนึ่งของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ผมอายุอ่อนกว่าพี่ตูนประมาณ 5 ปีครับ ช่วงที่ถ่ายแบบก็พูดคุยกัน เรื่องทั่วๆ ไปครับ และเรื่องสุขภาพของพี่เขา รวมถึงเรื่องกีตาร์ด้วยครับ พี่เขาเอากีตาร์ส่วนตัว มาร่วมถ่ายแฟชั่นด้วยครับ สวยๆ ทั้งนั้นเลย พี่เค้าใจดีมากครับ ให้ผมเลือกใช้ถ่ายแบบได้ทุกตัวเลยครับ สำหรับการทำงานกับ CPS CHAPS เป็นครั้งแรกเช่นกันครับ เพิ่งมาลองใส่ โอ้โฮ !! เหมาะกับผมมากเลยครับ เป็นการกางเกงยีนส์ทรงเดฟ ที่เป็นผ้ายีนส์ยืดหน่อยๆ ใส่แล้วไม่อึดอัด ทรงก็สวย ส่วนเสื้อชอบมากเลย หามานานแล้วครับ เสื้อยีนส์ที่เป็นผ้าบาง ไม่หนาจนเกินไป เหมาะกับอากาศบ้านเรามากๆ ที่สำคัญชอบลูกเล่นต่างๆ เช่น ทรงกระเป๋าหรือการทำให้ยับ ดูเท่ห์ดีครับ ถ้าอยากเห็นเบื้องหลังการทำงานของผมและพี่ตูน ในการถ่ายคอลเลคชั่นใหม่ให้กับ CPS CHAPS สามารถเข้าไปชมได้ใน Facebook ที่ CPS CHAPS Official หรือเว็บไซต์ www.cpsclothing.com"
มาร่วมเดฟไปกับ CPS CHAPS ได้แล้ววันนี้กับคอลเลคชั่น “New Skinny Rock Mode'' ที่ร้าน CPS CHAPS ทุกสาขา
34718
news & activity / CPS CHAPSเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ดึงตูน-เป้ ปะทะกันครั้งแรก พร้อมอวดโฉมแฟชั่นเท่ห์
« on: February 18, 2011, 03:21:59 PM »CPS CHAPS เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ ดึงตูน-เป้ ปะทะกันครั้งแรก
พร้อมอวดโฉมแฟชั่นเท่ห์ๆ สุดอินกับยีนส์ทรงสกินนี่จากนางแบบชื่อดัง
พร้อมอวดโฉมแฟชั่นเท่ห์ๆ สุดอินกับยีนส์ทรงสกินนี่จากนางแบบชื่อดัง
ทำเอาลาน พาร์ค พารากอน แทบแตก เมื่อแบรด์เสื้อผ้าชื่อดัง CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์) จัดหนัก!!! นำสองหนุ่มสุดฮอตแห่งปี ตูน บอดี้สแลม และ เป้ อารักษ์ มาร่วมถ่ายแฟชั่นคู่กัน พร้อมเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดซึ่งเป็นโปรเจคพิเศษ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Skinny Rock Mode” เอาใจคนรุ่นใหม่กับกางเกงทรงสกินนี่ ที่มาแรงสุดๆ ในปีนี้ โดยทั้งคู่มาร่วมทำงานคู่กันเป็นครั้งแรก ภายในงานพบกับโชว์พิเศษจากเป้-อารักษ์ และตูนพร้อมวงบอดี้สแลมที่เตรียมมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะพร้อมการเดินแฟชั่นโชว์ของเหล่าดารา นางแบบชื่อดังมากมาย
เริ่มต้นงาน โดยคุณจันทร์จิรา หงศ์ลดารมภ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสการตลาดและการขาย แบรนด์ CPS CHAPS กล่าวเปิดงาน พร้อมพูดถึงคอลเลคชั่นใหม่ ที่ประกอบด้วยกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ และขาเดฟ พร้อมกับเสื้อลายสก๊อต, เสื้อสีเขียว ลายพรางทหารและแจ็คเก็ตยีนส์ โดยคอลเลคชั่นนี้เน้นเทคนิคการทำให้กางเกงดูเก่า, การฟอก เคลือบสีสนิม น้ำมันเครื่อง รวมถึงเทคนิค Second Hand Washed ที่ทำให้ลุคของยีนส์ออกมาดูเท่ห์และเซอร์
โดยไฮไลท์ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาผู้ที่อยู่บริเวณงานต้องยกให้กับ สองซุป’ตาร์ เริ่มที่ เป้-อารักษ์ กับโชว์โซโลกีต้าร์สุดมันกันแบบสดๆ พร้อมโชว์พิเศษจากตูนและวงบอดี้สแลม ที่จัดเต็ม และแฟชั่นโชว์จากนางแบบชื่อดัง อาทิ จิ๊ด แสงทอง, แอม สุทธิกานต์, วุ้นเส้น วิริฒิพา , เม้าท์ซี่ เบญวรรรณ ,ออร์แกน , เพชร นรา เอื้อทวีกุล , สิ พิชญ์สินี ตันวิบูลย์ งานนี้ได้ สาวได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ เป็นพิธีกรในงาน พร้อมร่วมพูดคุยกับหนุ่มตูนและเป้ ถึงการโคจรมาร่วมถ่ายแฟชั่นคู่กันเป็นครั้งแรก ปิดท้ายด้วยการประมูลเสื้อและกางเกงที่ ใส่ในงานของ 2 หนุ่มซึ่งยอมถอดเสื้อโชว์บนเวที งานนี้มีเหล่าบรรดา แฟนคลับ สาวน้อย สาวใหญ่ แย่งกันประมูล โดยตูนนำเงินที่ได้จากการประมูลร่วมสมทบทุนเข้าวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ทางด้านเป้ นำเงินไปมอบให้มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ งานนี้มีเหล่าเซเลบริตี้มากมายมาร่วมแสดงความยินดี จบงานอย่างชื่นมื่น อิ่มตา อิ่มใจกันเลยทีเดียว
มาร่วมเดฟไปกับ CPS CHAPS ได้แล้ววันนี้กับคอลเลคชั่น “New Skinny Rock Mode'' ที่ร้าน CPS CHAPS ทุกสาขา
34719
ข่าวภาพยนตร์ / ‘โจ๊ก’ เปิดซิง ‘เล้ง’ เซ็กซี่ครั้งแรกในชีวิต
« on: February 18, 2011, 02:23:54 PM »
‘โจ๊ก’ เปิดซิง ‘เล้ง’
เซ็กซี่ครั้งแรกในชีวิต
เซ็กซี่ครั้งแรกในชีวิต
ได้เล่นหนังเรื่องแรกก็หินเอาเรื่องเหมือนกัน นางเอกน้องใหม่แกะกล่อง “ เล้ง – พรวิภา วัชรการุณย์” จากเรื่อง ‘ชิป…. ( The Microchip )’ ที่ต้องมาประกบหนุ่มเซอร์
“ โจ๊ก – อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ” ถึงจะออกตัวว่าเป็นหนังคอมมาดี้-แอ็คชั่น แต่ในฉากสำคัญของเรื่อง ‘เล้ง’ ต้องทุ่มสุดตัวแอบเซ็กซี่อยู่ไม่น้อย
“ ฉากในบ่อนก็แอบเซ็กซี่นิดนึง ( ยิ้ม ) ฉากนี้ถ่ายนานมา ถ่ายถึงเช้าเลย เพราะเป็นเรื่องของคิว และการปล่อยสปิงเกอร์ แล้วยังมีแอ็คชั่นด้วย ต้องให้ได้ภาพสวยๆ มีซีนอารมณ์อีก ต้องใส่อารมณ์มากๆ เพราะแฟนเราในเรื่อง คือ พี่โจ๊ก กำลังจะตาย ในจังหวะนั้นเราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยคนรักของเรา โชคดีที่พี่เค้าเป็นกันเอง มีการคุยเล่นกัน เราค่อนข้างเป็นน้องใหม่ ไม่ค่อยรู้อะไรมาก พี่เค้าก็สอน ในฉากนี้ถามว่าเซ็กซี่มั้ย ก็คิดว่านิดนึง แต่ตามเนื้องเรื่องมันก็สมเหตุสมผล การแต่งตัว บุคลิก การเดินของเล้งอาจจะดูเซ็กซี่ แต่ตัวตนจริงๆ ไม่เลย ออกแนวโก๊ะๆ มากกว่า
“ ในฉากนี้ที่ดูเซ็กซี่อาจเป็นเพราะเราต้องเปียกน้ำเลยทำให้ดูเซ็กซี่หน่อยๆ เป็นการสื่ออารมณ์ทางสายตามากกว่า รักกัน ห่วงใยกัน มีดึงมือกันนิดๆหน่อย ถามว่าเลิฟซีนเล่นได้มั้ยก็พอเล่นได้แต่แอบเขินนิดหน่อยค่ะ” เล้ง กล่าวทิ้งท้าย
เตรียมพบหนังน้ำดีได้ใน ‘ชิป….. ( The Microchip )’ 24 กุมภาพันธ์นี้ ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
34720
ข่าวภาพยนตร์ / ฟิล์มเฟรมโปรดักชั่นส์ /เรื่องย่อ/ชิป/หาย "The Microchip"24 ก.พ. 54
« on: February 17, 2011, 02:50:10 PM »
34721
ตัวอย่างหนัง (movie trailer) / เบื้องหลัง "ชิป / หาย" The Microchip (Official Behind the Scene)
« on: February 17, 2011, 02:39:26 PM »34722
Enjoyjam Club / บทสรุปส่งท้ายมีทติ้งครั้งที่8
« on: February 16, 2011, 02:45:11 PM »
จบไปอีกครั้งสำหรับมีทติ้งติ้งครั้งที่ 8 คิดไปคิดมาไม่น่าเชื่อเลยว่าจะจัดมาถึง 8 ครั้งแล้ว
ก่อนอื่นขอขอบคุณผู้มีส่วนในงานครั้งนี้ก่อน ผู้ที่ช่วยในการนำhandbillมาให้ผมไว้แจกสมาชิก
ขอบคุณ คุณต้อม,คุณpuwong,คุณพิบูล,คุณเล็ก,dadeeda,mashi,คุณอ้อมสำหรับhandbillต่างประเทศ,na,ขอบคุณครับ
ขอบคุณตากล้องpooklook,dangjung
ขอบคุณผู้ช่วยถือhandbillมางานทั้งOaTTO,theswan
ขอบคุณผู้สนับสนุนของแจกและของประมูล พี่เตียง,reesan 2,dangjung,mashi
ขอบคุณSAGA STUDIO,เชลล์ดอน,เอ็มวีดี สำหรับของรางวัล ขอบคุณมากๆครับ
ทุกครั้งที่จัดมีทติ้งถึงแม้สถานที่เราต้องจำกัดจำนวนคน แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานลดความสนุกไปด้วยเลย
ทุกคนต้องได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านไปบ้างไม่มากก็น้อย
ยิ่งช่วงประมูล สู้กันจนกลัวว่าจะทะเลาะกันด้วยซ้ำ
แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ต้องขอปรบมือให้
ส่วนเงินที่ได้จากการประมูลครั้งนี้ก็จะเป็นค่าเช่าห้องและค่าใช้จ่ายของเว็บครับ
ถ้ามีเหลือสิ้นปีเราจะนำไปช่วยการกุศลต่อไป
ไว้โอกาสหน้าเรามาเจอกันอีก ในมีทติ้งครั้งที่ 9
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
34723
ข่าวภาพยนตร์ / “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” สร้างเรือสำเภาจีนโบราณลำเดียวในโลกให้ฉาก “ยุทธนาวี”
« on: February 13, 2011, 04:22:13 PM »
“ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” สร้างเรือสำเภาจีนโบราณลำเดียวในโลก
ให้ฉาก “ยุทธนาวี” ยิ่งใหญ่สุดอลังการ พร้อมฉาย 31 มี.ค.นี้
ท่านมุ้ย - ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”เปิดเผยว่า “สำหรับภาค 3 – ยุทธนาวี มีกำหนดฉายในวันที่ 31 มีนาคมนี้แน่นอน ทุกโรงภาพยนตร์ โดยมีฉากสำคัญคือยุทธนาวี ซึ่งวงการภาพยนตร์ไทยไม่เคยมีฉากรบทางเรือที่สมจริงและยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในลักษณะนี้มาก่อน เป็นฉากที่พระยาจีนจันตุพยายามแล่นเรือสำเภาหนีการไล่ล่าของสมเด็จ พระนเรศวรมหาราช หลังถูกจับได้ว่าเป็นสายลับให้เขมร มีการสร้างเรือสำเภาจีนโบราณที่สามารถใช้งานได้จริงเป็นลำเดียวในโลก ออกแบบโดย อ. กนก ขาวมาลา แห่งพิพิธภัณฑ์เรือไทย และ น.ท. ประสาร ขวัญโพชา ร.น. กรมอู่ทหารเรือ เป็นทีมออกแบบโครงสร้าง โดยหลังจากถ่ายทำเสร็จแล้วก็เตรียมให้ประชาชนได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดที่กองถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งเปิดให้เข้าชมเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป”
เรือสำเภาจีนโบราณลำนี้ยาว 35 เมตร กว้างประมาณ 8 เมตร ความสูง 2 ชั้น 5 เมตร ใช้ฝีพาย 72 คน ประจำ 36 ช่องพาย ผู้ออกแบบใช้เวลาค้นคว้าข้อมูลจากพงศาวดารไทยและบันทึกประวัติศาสตร์ของต่างชาติที่เข้ามาในสมัยอยุธยานับร้อยเล่ม ตั้งแต่ปี 2551 โดยท่านมุ้ยกำกับดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำกับผู้ออกแบบและทีมสร้างอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ใช้เวลาในการสร้างและตกแต่งถึง 6 เดือน ด้วยงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท โครงสร้างเป็นเหล็กและใช้ไม้ประกอบและตกแต่งทั้งลำ มีอายุการใช้งานกว่า 30 ปี โดยสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเรือสำเภาแบบตะวันตกได้เพื่อนำไปใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยได้ต่อไปในอนาคต
ติดตามชมความอลังการของฉากยุทธนาวี และเรื่องราวที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย ในภาพยนตร์จตุรภาคเรื่องยิ่งใหญ่แห่งสยามประเทศ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 : ยุทธนาวี” พร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 31 มีนาคมนี้
ให้ฉาก “ยุทธนาวี” ยิ่งใหญ่สุดอลังการ พร้อมฉาย 31 มี.ค.นี้
ท่านมุ้ย - ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”เปิดเผยว่า “สำหรับภาค 3 – ยุทธนาวี มีกำหนดฉายในวันที่ 31 มีนาคมนี้แน่นอน ทุกโรงภาพยนตร์ โดยมีฉากสำคัญคือยุทธนาวี ซึ่งวงการภาพยนตร์ไทยไม่เคยมีฉากรบทางเรือที่สมจริงและยิ่งใหญ่อลังการที่สุดในลักษณะนี้มาก่อน เป็นฉากที่พระยาจีนจันตุพยายามแล่นเรือสำเภาหนีการไล่ล่าของสมเด็จ พระนเรศวรมหาราช หลังถูกจับได้ว่าเป็นสายลับให้เขมร มีการสร้างเรือสำเภาจีนโบราณที่สามารถใช้งานได้จริงเป็นลำเดียวในโลก ออกแบบโดย อ. กนก ขาวมาลา แห่งพิพิธภัณฑ์เรือไทย และ น.ท. ประสาร ขวัญโพชา ร.น. กรมอู่ทหารเรือ เป็นทีมออกแบบโครงสร้าง โดยหลังจากถ่ายทำเสร็จแล้วก็เตรียมให้ประชาชนได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดที่กองถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งเปิดให้เข้าชมเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป”
เรือสำเภาจีนโบราณลำนี้ยาว 35 เมตร กว้างประมาณ 8 เมตร ความสูง 2 ชั้น 5 เมตร ใช้ฝีพาย 72 คน ประจำ 36 ช่องพาย ผู้ออกแบบใช้เวลาค้นคว้าข้อมูลจากพงศาวดารไทยและบันทึกประวัติศาสตร์ของต่างชาติที่เข้ามาในสมัยอยุธยานับร้อยเล่ม ตั้งแต่ปี 2551 โดยท่านมุ้ยกำกับดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำกับผู้ออกแบบและทีมสร้างอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ใช้เวลาในการสร้างและตกแต่งถึง 6 เดือน ด้วยงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท โครงสร้างเป็นเหล็กและใช้ไม้ประกอบและตกแต่งทั้งลำ มีอายุการใช้งานกว่า 30 ปี โดยสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเรือสำเภาแบบตะวันตกได้เพื่อนำไปใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยได้ต่อไปในอนาคต
ติดตามชมความอลังการของฉากยุทธนาวี และเรื่องราวที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย ในภาพยนตร์จตุรภาคเรื่องยิ่งใหญ่แห่งสยามประเทศ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 : ยุทธนาวี” พร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 31 มีนาคมนี้
34724
ข่าวภาพยนตร์ / “โม–มนชนก” หวั่นฟีดแบคแรง ถ่ายทอดอารมณ์รักมันใหญ่มาก..เอ่ยปากก่อนขอเป็นแฟน“เก้า"
« on: February 13, 2011, 04:17:03 PM »
“โม–มนชนก” หวั่นฟีดแบคแรง
ถ่ายทอดอารมณ์รักมันใหญ่มาก..เอ่ยปากก่อนขอเป็นแฟน“เก้า"!!!
เล่นหนังด้วยกันเรื่องแรกนอกจากจะเจอฟีดแบคกระแสข่าวคู่กุ๊กกิ๊กแล้ว สาวหน้าใส “โม- มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ” ยังแอบหวั่นใจกับฟีดแบคที่จะออกมาตอนหนังเข้าฉายอีกระลอก ด้วยเหตุรับบทฝ่ายหญิงเอ่ยปากขอเป็นแฟนก่อน แต่สุดท้ายดันทำเอา “หนุ่มเก้า-จิรายุ” ถึงขั้น “น้ำตาแตก” กับประโยคตัดพ้อที่ออกมาจากปาก ว่า” ตอนเป็นเพื่อนคุยได้ทุกเรื่อง แต่ตอนเป็นแฟนคุยไม่ได้ แล้วมึงมาขอกูเป็นแฟนทำไม (วะ)” ในภาพยนตร์ “เลิฟจุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก” ผลงานแนว “โรแมนติก คอมเมอดี้ บิ๊กเลิฟ” เรื่องล่าสุดจากค่ายคุณภาพไฟแรง M๓๙ (เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์)กำกับการแสดงโดย สองผู้กำกับเลือดใหม่ “ เค-ไชยณรงค์ แต้มพงษ์” และ “ฉิก-สกล เตียเจริญ” พร้อมเข้าฉายใน วันที่ 3 มีนาคม นี้
ซึ่งเรื่องนี้ “โม” รับบทเป็น “เอื้อ” เพื่อนรักของหยก ( เก้า) ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกว่า “โม รับบทเอื้อ มีเพื่อนสนิทคือ หยก (เก้า จิรายุ) สนิทกันมากแบบเล่นหัว เตะต่อยกันได้เลย คาแรคเตอร์ของเอื้อค่อนข้างคล้ายกับโมมาก ออกแนวเป็นทอมๆหน่อย พูดโผงผาง แล้ว โม เองมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายค่อนข้างเยอะ กับเพื่อนกันก็คือเตะต่อยกันได้จริงๆ บท เอื้อ มันคล้ายตัวเอง ก็เหมือนมันจะง่ายนะ แต่จริงๆกลับยากมาก เพราะเราต้องแยกให้ออก ....ว่าเราเล่นเป็นเอื้อนะตอนนั้น....เราไม่ใช่ โม กับงานหนังเรื่องแรก โม รู้สึกตื่นเต้น และ ท้าทายมาก แต่โม โชคดีที่ พี่เค พี่ฉิก (ผกก.ทั้งสองคน) ให้โมกับ เก้า เข้าเวิร์คช้อปกันก่อนจะเริ่มถ่ายหนัง ก็เลยได้ทำความรู้จัก สนิทกันก่อนที่จะเริ่มงานกันจริง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินไปมากกว่าเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก ความยากของการแสดงในเรื่องนี้จะอยู่ที่พัฒนาการความรู้สึกของตัวละคร ที่อยู่ดีๆวันนึง เอื้อ มีความรู้สึกต่างไปคือว่าอยู่ๆ ก็....หึงเพื่อน แล้วก็กล้ามากกก เอื้อ ไปขอ หยกเป็นแฟนเอาเฉยๆ เป็นผู้หญิงที่เอ่ยปากก่อนด้วย(มันแรงตรงนี้- โม-หัวเราะ ) - พอขยับฐานะจากเพื่อนมาเป็นแฟนเนี้ย มันแหม่งๆทำอะไรก็ดูขัดๆ แล้วเราก็รู้สึกว่าเฮ้ย ! ทำไมมันไม่สนุกเหมือนตอนเป็นเพื่อน ทำไมมีอะไรกันก็พูดไม่ได้ บ้าบอไม่ได้เหมือนตอนเป็นเพื่อนกันเลย สุดท้ายทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางไปที่บิ๊กเมาเท่น ในคอนเสิร์ตของพาราด๊อกซ์ เพื่อจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร โม ก็อยากให้ไปติดตามชมกันค่ะ”
เรื่องรักเล็กๆ ที่ทำให้เป็นเรื่องที่ใหญ่เอามากๆ จนเป็นข่าวฮอตของ ทั้งคู่ ถ้าอยากรู้ว่า โมกับเก้าเล่นเข้าทางกันขนาดไหน ไปร่วมลุ้นได้ใน
ถ่ายทอดอารมณ์รักมันใหญ่มาก..เอ่ยปากก่อนขอเป็นแฟน“เก้า"!!!
เล่นหนังด้วยกันเรื่องแรกนอกจากจะเจอฟีดแบคกระแสข่าวคู่กุ๊กกิ๊กแล้ว สาวหน้าใส “โม- มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ” ยังแอบหวั่นใจกับฟีดแบคที่จะออกมาตอนหนังเข้าฉายอีกระลอก ด้วยเหตุรับบทฝ่ายหญิงเอ่ยปากขอเป็นแฟนก่อน แต่สุดท้ายดันทำเอา “หนุ่มเก้า-จิรายุ” ถึงขั้น “น้ำตาแตก” กับประโยคตัดพ้อที่ออกมาจากปาก ว่า” ตอนเป็นเพื่อนคุยได้ทุกเรื่อง แต่ตอนเป็นแฟนคุยไม่ได้ แล้วมึงมาขอกูเป็นแฟนทำไม (วะ)” ในภาพยนตร์ “เลิฟจุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก” ผลงานแนว “โรแมนติก คอมเมอดี้ บิ๊กเลิฟ” เรื่องล่าสุดจากค่ายคุณภาพไฟแรง M๓๙ (เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์)กำกับการแสดงโดย สองผู้กำกับเลือดใหม่ “ เค-ไชยณรงค์ แต้มพงษ์” และ “ฉิก-สกล เตียเจริญ” พร้อมเข้าฉายใน วันที่ 3 มีนาคม นี้
ซึ่งเรื่องนี้ “โม” รับบทเป็น “เอื้อ” เพื่อนรักของหยก ( เก้า) ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกว่า “โม รับบทเอื้อ มีเพื่อนสนิทคือ หยก (เก้า จิรายุ) สนิทกันมากแบบเล่นหัว เตะต่อยกันได้เลย คาแรคเตอร์ของเอื้อค่อนข้างคล้ายกับโมมาก ออกแนวเป็นทอมๆหน่อย พูดโผงผาง แล้ว โม เองมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายค่อนข้างเยอะ กับเพื่อนกันก็คือเตะต่อยกันได้จริงๆ บท เอื้อ มันคล้ายตัวเอง ก็เหมือนมันจะง่ายนะ แต่จริงๆกลับยากมาก เพราะเราต้องแยกให้ออก ....ว่าเราเล่นเป็นเอื้อนะตอนนั้น....เราไม่ใช่ โม กับงานหนังเรื่องแรก โม รู้สึกตื่นเต้น และ ท้าทายมาก แต่โม โชคดีที่ พี่เค พี่ฉิก (ผกก.ทั้งสองคน) ให้โมกับ เก้า เข้าเวิร์คช้อปกันก่อนจะเริ่มถ่ายหนัง ก็เลยได้ทำความรู้จัก สนิทกันก่อนที่จะเริ่มงานกันจริง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินไปมากกว่าเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก ความยากของการแสดงในเรื่องนี้จะอยู่ที่พัฒนาการความรู้สึกของตัวละคร ที่อยู่ดีๆวันนึง เอื้อ มีความรู้สึกต่างไปคือว่าอยู่ๆ ก็....หึงเพื่อน แล้วก็กล้ามากกก เอื้อ ไปขอ หยกเป็นแฟนเอาเฉยๆ เป็นผู้หญิงที่เอ่ยปากก่อนด้วย(มันแรงตรงนี้- โม-หัวเราะ ) - พอขยับฐานะจากเพื่อนมาเป็นแฟนเนี้ย มันแหม่งๆทำอะไรก็ดูขัดๆ แล้วเราก็รู้สึกว่าเฮ้ย ! ทำไมมันไม่สนุกเหมือนตอนเป็นเพื่อน ทำไมมีอะไรกันก็พูดไม่ได้ บ้าบอไม่ได้เหมือนตอนเป็นเพื่อนกันเลย สุดท้ายทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางไปที่บิ๊กเมาเท่น ในคอนเสิร์ตของพาราด๊อกซ์ เพื่อจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร โม ก็อยากให้ไปติดตามชมกันค่ะ”
เรื่องรักเล็กๆ ที่ทำให้เป็นเรื่องที่ใหญ่เอามากๆ จนเป็นข่าวฮอตของ ทั้งคู่ ถ้าอยากรู้ว่า โมกับเก้าเล่นเข้าทางกันขนาดไหน ไปร่วมลุ้นได้ใน
“เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก"
3 มีนาคม 2554
3 มีนาคม 2554
34725
news & activity / ร่วมย้อนรำลึกวิถีชีวิตชาวบางกอก..เสน่ห์เมื่อวันวานใน..ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์
« on: February 13, 2011, 03:54:58 PM »
ร่วมย้อนรำลึกวิถีชีวิตชาวบางกอก...เสน่ห์เมื่อวันวาน
ใน...ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “รื่นรมย์รัตนโกสินทร์”
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดนิทรรศการและกิจกรรมหมุนเวียน ร้อยนิทรรศน์ ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “รื่นรมย์รัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ – ๖ มีนาคม ศกนี้ ที่อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง เพื่อบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต การกิน การเที่ยว และกิจกรรมเพื่อความบันเทิงในสมัยก่อน ความสนุกสนานของชาวบางกอกเมื่อวันวาน นำเสนอบรรยากาศร้านค้าในย่านชุมชนเก่าที่ยังคงความมีเสน่ห์แบบชุมชนรื่นรมย์ สัมผัสความบันเทิงไทยในอดีต ด้วยละครวิทยุ หนังกลางแปลง และโรงภาพยนตร์ ใน เพลินบันเทิงบางกอก ด้วยเทคนิคการนำเสนอที่ทันสมัยให้ร่วมย้อนเติมความสุขได้อย่างเต็มอิ่ม อาทิ เทคนิค Virtual Try On เทคนิค Hologram และเทคนิค Touch Screen พร้อมจัดกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ทั้ง ละครร้องเรื่อง “วิวาห์พระสมุทร” ฉายหนังกลางแปลง และตลาดย้อนยุค บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๗ กุมภาพันธ์นี้ โดยไม่เสียค่าเข้าชม สอบถามรายละเอียด โทร.๐๘ ๐๙๑๓ ๓๖๐๐ หรือ www.rattanakosin-heritage.com
“ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์” จะจัดนิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจเป็นประจำทุกเดือน จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่ห้องนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ติดตามรายละเอียดได้จาก www.rattanakosin-heritage.com, www.nitasrattanakosin.com, facebook/ ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์
ใน...ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “รื่นรมย์รัตนโกสินทร์”
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดนิทรรศการและกิจกรรมหมุนเวียน ร้อยนิทรรศน์ ยลรัตนโกสินทร์ ชุด “รื่นรมย์รัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ – ๖ มีนาคม ศกนี้ ที่อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง เพื่อบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิต การกิน การเที่ยว และกิจกรรมเพื่อความบันเทิงในสมัยก่อน ความสนุกสนานของชาวบางกอกเมื่อวันวาน นำเสนอบรรยากาศร้านค้าในย่านชุมชนเก่าที่ยังคงความมีเสน่ห์แบบชุมชนรื่นรมย์ สัมผัสความบันเทิงไทยในอดีต ด้วยละครวิทยุ หนังกลางแปลง และโรงภาพยนตร์ ใน เพลินบันเทิงบางกอก ด้วยเทคนิคการนำเสนอที่ทันสมัยให้ร่วมย้อนเติมความสุขได้อย่างเต็มอิ่ม อาทิ เทคนิค Virtual Try On เทคนิค Hologram และเทคนิค Touch Screen พร้อมจัดกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ทั้ง ละครร้องเรื่อง “วิวาห์พระสมุทร” ฉายหนังกลางแปลง และตลาดย้อนยุค บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๗ กุมภาพันธ์นี้ โดยไม่เสียค่าเข้าชม สอบถามรายละเอียด โทร.๐๘ ๐๙๑๓ ๓๖๐๐ หรือ www.rattanakosin-heritage.com
“ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์” จะจัดนิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจเป็นประจำทุกเดือน จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่ห้องนิทรรศการหมุนเวียน อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ติดตามรายละเอียดได้จาก www.rattanakosin-heritage.com, www.nitasrattanakosin.com, facebook/ ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์