Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - happy

Pages: 1 [2] 3 4 ... 2289
16
เมซอง แบร์เช่ ปารีส เปิดตัว 'Mist Diffuser' นวัตกรรมใหม่แห่งโลกความหอม


               เมซอง แบร์เช่ ปารีส (Maison Berger Paris) ผู้นำด้านเครื่องหอมสำหรับบ้านเกรดพรีเมียมจากฝรั่งเศส ภูมิใจนำเสนอนวัตกรรมล่าสุด 'Mist Diffuser' เครื่องกระจายความหอมอัตโนมัติที่จะยกระดับประสบการณ์ความหอมภายในบ้านของคุณ ที่เป็นเอกลักษณ์ และแตกต่าง ไม่เหมือนใคร


               Mist Diffuser โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์ล่าสุด ที่กระจายความหอมแบบหมอกเย็นละเอียด อ่อนโยน และชุ่มชื้น สร้างบรรยากาศผ่อนคลายได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมฟีเจอร์พิเศษมากมาย อาทิ แสงไฟปรับระดับได้ สร้างบรรยากาศอบอุ่นดั่งแสงเทียน โหมดการกระจายกลิ่นแบบต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่อง ควบคุมการทำงานด้วยรีโมทคอนโทรล มาพร้อมดีไซน์หรูหราให้เลือกมากมาย รวมไปถึงดีไซน์จากนักออกแบบระดับโลก อาทิ Lolita Lempicka และ PHILLIP STARCK


               "Mist Diffuser คือคำตอบสำหรับทุกความต้องการด้านความหอมภายในบ้าน" คุณนนทกานต์ ทัพพะรังสี อึง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบอร์เจอร์ โพรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "Mist Diffuser ตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยนวัตกรรมเฉพาะของแบรนด์ เติมเต็มครบทุกรูปแบบความหอม ด้วยงานสะสมระดับมาสเตอร์พีซของดีไซเนอร์ระดับโลก และยังสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่มีกลิ่นน้ำหอมให้เลือกมากที่สุดกว่า 50 กลิ่น พร้อมคุณสมบัติกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน ช่วยฟอกอากาศให้สะอาดสดชื่น ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง เติมเต็มความสุขทุกการพักผ่อนในบ้าน เราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์นี้จะมอบประสบการณ์ความหอมที่เหนือชั้นให้กับบ้านของคุณอย่างแน่นอน"


               Mist Diffuser สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้าน และต้องการสร้างบรรยากาศให้บ้านได้ดีเยี่ยม มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย

•   ดีไซน์สวยหรูเหมาะกับการตกแต่งบ้าน
•   น้ำหอมพร้อมใช้ในขวดรีฟิลขนาด 475 มล. ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง ตอบโจทย์การใช้งานที่ง่ายและปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการผสมน้ำหอมเอง
•   ทันสมัย ใช้งานง่าย เปิดใช้งานได้ทันที และตั้งโปรแกรมได้ (30, 60 หรือ 120 นาที) สามารถเลือกกระจายกลิ่นได้หลากหลายระดับ
•มีฟีเจอร์มากมาย เช่น มีแสงไฟสร้างบรรยากาศ มีรีโมทคอนโทลควบคุมการทำงาน
•   มีน้ำหอม ให้เลือกมากมายกว่า 18 กลิ่น ทั้งกลุน้ำหอมขายดีที่คุณชื่นชอบ และกลุ่ม Aroma ที่เลือกใช้น้ำมันหอมระเหยคุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติทางกลิ่นบำบัด



               สัมผัสประสบการณ์ความหอมรูปแบบใหม่กับ Mist Diffuser จาก เมซอง แบร์เช่ ปารีส ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน เมซอง แบร์เช่ ปารีส ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการ

•   LINE: @maisonbergerthai
•   Faebook: MaisonBergerThailand
•       Instagram: @maisonbergerthailand
•   เว็บไซต์: www.maisonbergerthailand.com
Lazada, Shopee, ShopSabuy, Tiktok

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-672-2088

#MaisonBergerParis #MaisonBergerThailand #CarDiffuser #HomeDecor #น้ำหอมสำหรับรถยนต์ #น้ำหอมปรับอากาศในรถยนต์ #HomeFragrance #ตะเกียงน้ำหอม #ก้านกระจายความหอม #เครื่องพ่นกระจายความหอม #เทียนหอม #น้ำหอมสำหรับบ้าน #น้ำหอมสำหรับบ้านสไตล์ฝรั่งเศส #ก้านไม้หอมระเหย #เครื่องหอมคอลเล็กชันเอ็กซ์คลูซีฟ #ไอเดียของขวัญ #ไอเดียของแต่งบ้าน #เครื่องหอมสำหรับบ้าน #บ้านสวยหรูหราด้วยเครื่องหอมจากเมซองแบร์เช่ปารีส #แต่งบ้านให้สวยเหมือนบ้านดารา #บ้านในฝัน #คอนโดหรู

17
พิธีมอบรางวัลศิษย์เก่าเกียรติยศ สจล. ประจำปี 2567


เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาสถาบัน ครบรอบ 64 ปี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดพิธีมอบรางวัลศิษย์เก่าเกียรติยศ KMITL Honor Alumni Award 2024 ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มรางวัล ประกอบด้วย รางวัลศิษย์เก่าเกียรติยศให้แก่ผู้ที่มีผลงานโดดเด่น ประสบความสําเร็จในการบริหาร สร้างคุณค่าของนวัตกรรมจนเป็นที่รู้จักในสังคม ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก, รางวัลศิษย์เก่าทรงคุณค่า มอบให้แก่ศิษย์เก่าผู้มีความสามารถโดดเด่น ทั้งในด้านวิชาการ การทำคุณประโยชน์ต่อสังคม มุ่งมั่นและอุทิศตนเป็นแบบอย่างอันดีงาม และรางวัลผู้สนับสนุนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มอบให้แก่บุคคลหรือองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาของสถาบัน ทั้งด้านวิชาการ การวิจัย การศึกษา หรือการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของสถาบัน เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ณ หอประชุมใหญ่ สจล. โดยมีผู้ที่ได้รับมอบรางวัล ดังนี้

นายวริศ  วรรณวิธู  Developer Relations  Line Company (Thailand)  ศิษย์เก่า คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (คนที่ 1 จากซ้าย)

ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล อาจารย์คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สจล.และศิษย์เก่า คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สจล. (คนที่ 2 จากซ้าย )

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. (คนที่ 3 จากซ้าย) เป็นผู้มอบรางวัลและกล่าวถึงทิศทางของสถาบันผ่าน 5 Global Index ที่มาพร้อมด้วย Green , Digital , Smart University ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 65 อย่างภาคภูมิใจด้วย The World Master of Innovation

รศ.วรวรรณ  โรจนไพบูลย์  อาจารย์คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สจล.และศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สจล. (คนที่ 4 จากซ้าย)

ดร.ภากร ปีตธวัชชัยช กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. (คนที่ 5 จากซ้าย)

คุณรัฐพล ชื่นสมจิตต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสและศิษย์เก่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. (คนที่ 6 จากซ้าย)


ติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficialและเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th และติดตามรายละเอียดหลักสูตรที่เปิดสอนได้ที่ https://curriculum.kmitl.ac.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000

18
ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ชวนดู “ปล้นนะยะ” ผลงานของ“เมฆ วินัย” กับบทบาทสาวสองที่ไม่ธรรมดา


           "ปล้นนะยะ" เป็นหนึ่งในผลงานของ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” พระเอกร้อยล้านผู้ล่วงลับในคาแรคเตอร์ที่เราไม่ค่อยคุ้นตากันนัก ยากที่จะเห็นเมฆรับบทสาวสองที่แต่งหญิงแบบเว่อร์วังขั้นสุด ใส่ส้นสูงออกปล้นธนาคาร ตีบทแตกกระจุยจนสร้างความสนุกสุดฮาและได้รับคำชมอย่างล้นหลาม

           พบกับเรื่องราวของกะเทย 4 คน 4 สไตล์ (วินัย ไกรบุตร จาตุรงค์ มกจ๊ก ธงธง มกจ๊ก โก๊ะตี๋ อารามบอย) ที่ตัดสินใจร่วมมือกันปล้นเงินจากธนาคารหน้าปากซอย โดยหวังว่าเงินที่ได้จากการปล้นจะสามารถเติมเต็มให้ชีวิตของพวกเธอสมบูรณ์ได้ แต่แผนการปล้นของนั้นกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะโจรวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งกลับบุกมาปล้นธนาคารเดียวกันพร้อม ๆ กัน การต่อสู้แย่งเงินที่ปล้นจึงเกิดขึ้น จากผลงานการกำกับ "พชร์ อานนท์" ผู้บุกเบิกหนัง LGBTQ ให้กับวงการบันเทิงไทย จัดเต็มความฮาและความสนุกสุดขีด ห้ามพลาดชมภาพยนตร์ตลก "ปล้นนะยะ" วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคมนี้เวลา 18.40 น.ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และ https://true4u.com/live

19
“ วิ วิมลลักษณ์” ควงแขน “รตา”  ตัวแทนผู้หญิงยุคใหม่ ติดแกรมความสวยละมุน ชวนรู้จักศัลยกรรมตาสองชั้นเทคนิค Milli Eyes by EMMA #EMMACLINIC (เอมม่า คลินิก) เผยเหมาะกับคนไทย/คนเอเชีย ชี้ปี2024 เทรนด์ผู้ชายสัดส่วนเพิ่มขึ้นสนใรับบุคลิกภาพในทุกช่วงอายุ




              กรุงเทพมหานคร : EMMA CLINIC (เอมม่า คลินิก) เปิดดำเนินธุรกิจศัลยกรรมและความงาม ก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 หัตถการกลุ่มศัลยกรรมตาสองชั้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้รับความสนใจอย่างมาก จึงเล็งเห็นความสำคัญกับการออกแบบชั้นตาโดยจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างรอบดวงตา เพื่อคิดค้นพัฒนาเทคนิคการทำศัลยกรรมตาสองชั้น ที่เรียกว่า “เทคนิค Milli Eyes by EMMA”


              ทั้งนี้ความพิเศษของเทคนิคนี้คือ การออกแบบชั้นตาที่มีความละเอียดในทุก มิลลิเมตรของเส้นรอยพับตา ขนาดของเเผลผ่าตัดตาสองชั้นที่สวย ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น เส้นชั้นตาที่โค้งสวยดูเป็นสไตล์ธรรมชาติ รวมถึงขนาดของชั้นตาที่ได้จะมีองศาพอเหมาะกับใบหน้าของคนไทยและคนเอเชีย ปัจจุบันการศัลยกรรมตาสองชั้นเพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพ ลดวัย แก้ปัญหาหนังตาตก แก้ปัญหาถุงใต้ตาและกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง


              EMMA CLINIC คว้า 2 สาวคนดังในแวดงวงบันเทิงเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในยุค 5 G คุณวิ- วิมลลักษณ์ จงรัตนเมธี” นักแสดงและเซเลบริตี้ และ รตา ชินกระจ่างกิจ นักร้องและอดีตไอดอลหญิงชั้นนำประเทศไทย  ร่วมแชร์มุมมองการศัลยกรรมตาสองชั้น เตรียมข้อมูลดีดีก่อนการตัดสินใจศัลยกรรมตาสองชั้น


              รตา ชินกระจ่างกิจ นักร้องและอดีตไอดอลหญิงชั้นนำของประเทศไทย  เปิดเผยว่า “ สำหรับมุมมองการทำศัลยกรรมเสริมตาสองชั้น สำหรับตนเอง ยุคนี้เปิดกว้างมากขึ้น สามารถส่งเสริมความสวย สร้างความมั่นใจด้านบุคลิกภาพ และลดอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน กลุ่มเป้าหมายทั้งผู้หญิง-ผู้ชาย สามารถเริ่มการศัลยกรรมการเสริมตาสองชั้นได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ข้อมูลอ้างอิงจากจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ของ EMMA CLINIC (เอมม่า คลินิก) การศัลยกรรมเสริมตาสองชั้น เหมาะสมกับกลุ่มคนที่ตาชั้นเดียวต้องการมีตาสองชั้น ,คนที่ชั้นตาไม่เท่ากัน, คนที่ตาสองชั้นหลบใน,คนที่หนังตาตก และตาดูง่วงกล้ามเนื้อตาอ่อนเเรง ด้วยเทคนิค Milli Eyes by EMMA เป็นการดีไซน์เพื่อตอบโจทย์สาวๆ หนุ่มคนไทยและเอเชีย สำหรับมุมมองตนเองทางเลือกศัลยกรรมตาสองชั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งเป็นแนวทางส่งเสริมบุคลิกภาพการเข้าสังคมและการทำงาน ต้องยอมรับว่ายุคนี้พัฒนาการเทคโนโลยีการผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้นทันสมัย การพักฟื้นใช้เวลาน้อยลง ฉะนั้นการศึกษาหาข้อมูลก่อนทำศัลยกรรมและการเข้าปรึกษาจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมเสริมตาสองชั้นสำคัญมาก เพื่อวินิจฉัยสร้างความเข้าใจก่อนศัลยกรรม ความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาลรวมถึงบริการหลังการผ่าตัดศัลยกรรมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ละเลยความใส่ใจไม่ได้ เป็นบริการที่ลูกค้ายุคนี้โฟกัส”


              ด้านวิ-วิมลลักษณ์ จงรัตนาเมธี นักแสดง/เซเลบริตี้ กล่าวเสริมว่า “ การดูแลบุคลิกภาพศัลยกรรมเป็นทางเลือกของผู้หญิง-ผู้ชายในปัจจุบัน เปิดกว้างและยอมรับมากขึ้น สำหรับตนเองสนใจปัญหาเรื่องกล้ามเนื้ออ่อนแรงบริเวณรอบดวงตา สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุมากขึ้น โดยได้รับคำปรึกษาจากจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างรอบดวงตา EMMA CLINIC (เอมม่า คลินิก) สาเหตุมาจาก อายุมากขึ้น การใช้คอนแทกเลนส์ ติดขนตา ขยี้ตาหรือแม้กระทั่งการผ่าตัดเกี่ยวกับตา ซึ่งเทคนิค Milli Eyes by EMMA ก็เป็นหนึ่งทางเลือกในการศัลยกรรมเจาะทุกวัย ขณะนี้ในกลุ่มผู้ชายก็หันมาให้ความสนใจการศัลยกรรมเสริมตาสองชั้นและกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอีกด้วย


              นอกจากนี้หัตถการตาที่เข้ามาปรึกษาแพทย์ฯ แบ่งสัดส่วนความสนใจอันดับ1. ศัลยกรรมตาสองชั้นและอันดับ 2. กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เมื่อรู้ข้อมูลเหล่านี้และเข้าพบปรึกษาจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างรอบดวงตาทำให้ตนเองมั่นใจและวางแผนการทำ #สวยได้ในแบบที่เป็นคุณ”


              มุมมองคนรุ่นใหม่และมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตาสองชั้น นางสาวกันต์กนิษฐ์ ศิรินรกุล กล่าวปิดท้ายว่า “สำหรับตนเองได้ศัลยกรรมตาสองชั้นจาก EMMA CLINIC รู้สึกประทับใจบริการหลังการผ่าตัดศัลยกรรมเรียกว่า EMMA CARE (เอมม่าแคร์) ใส่ใจทุกรายละเอียดเข้าใจลูกค้าติดตามผลต่อเนื่อง ปัญหาของตนเป็นคนไทย ตาชั้นเดียวหรือแม้กระทั่งตาสองชั้นหลบใน ทำให้แต่งหน้ากรีดอายไลน์ยาก ใบหน้าแลดูไม่สดใส เสียบุคลิกภาพ ต้องติดสติ๊กเกอร์ในอนาคตอาจเสี่ยงผิวตาแพ้จนติดเชื้อหรือบางกรณีบางท่านติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นก็จะทำให้เกิดชั้นตาที่ดูไม่ธรรมชาติ วิธีที่ตอบโจทย์จึงเลือกแพทย์ผู้ชำนาญการศัลยกรรมตาสองชั้นและสถานพยาบาลหรือคลินิกที่น่าเชื่อถือ แน่นอน #เอมม่าคลนิก มีเทคนิคกรีดสั้น, เทคนิคกรีดยาว,เทคนิคจัดเรียงไขมันชั้นตา,เลาะไขมันชั้นตา และเทคนิคเปิดหัวตา การวินิจฉัยการศัลยกรรมตาสองชั้นมาจากความเหมาะสมในแต่บุคคลทุกอย่างต้องปรึกษาจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างรอบดวงตาคะ”

              อย่างไรก็ตาม EMMA CLINIC (เอมม่า คลิกนิก) เปิดรองรับศัลยกรรมตาสองชั้น ตาตก ตกแต่งถุงใต้ตา และกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงใน 3 สาขา อาทิ สาขาพระราม 2 , สาขาอโศก และสาขาชลบุรี สามารถติดต่อนัดปรึกษาและศึกษาข้อมูลผ่านการตัดสินใจศัลยกรรม ผ่านโซเซียลมีเดีย #EMMACLINIC #เอมม่าคลินิก #emmaclinic FB :ตาสองชั้น by Emma Clinic Double Eyelid Surgery IG: emmaclinic_eyes TIKTOK : emmacliniceyes และ

20
เอสซีจี รวมพลังทุกภาคส่วน ร่วมเร่งเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ จัดงาน ESG Symposium 2024
ภายใต้แนวคิด ยิ่ง “เร่งเปลี่ยน” ยิ่ง “เพิ่มโอกาส” วันที่ 30 กันยายนนี้


องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization: WMO) คาดการณ์ว่า มีโอกาสถึง 66% ที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี 2027  ซึ่งภาวะโลกเดือดนี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบนิเวศเสื่อมโทรม เกิดการขาดแคลนทรัพยากร เช่น พลังงาน น้ำ อาหารที่อยู่อาศัย และปัญหาด้านสุขภาพ  ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน  เอสซีจีจึงร่วมกับทุกภาคส่วนจัดงาน ESG Symposium 2024 ภายใต้แนวคิด ยิ่ง “เร่งเปลี่ยน” ยิ่ง “เพิ่มโอกาส”  เพื่อร่วมกันหาทางออก และลงมือแก้วิกฤติโลกเดือดด้วยการเร่งเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ไฮไลท์ภายในงาน ประกอบไปด้วยการเสวนา (Panel Discussion) โดยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและต่างประเทศที่ร่วมแบ่งปันแนวคิด ประสบการณ์ให้นำไปปรับใช้ได้จริง อาทิ การใช้เทคโนโลยีเพื่อประหยัดพลังงาน และนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ (Energy Transition) การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนให้คุ้มค่าสูงสุด (Circular Economy) การสนับสนุนช่วยเหลือทรัพยากรโดยเฉพาะเงินทุน ความรู้ เทคโนโลยีให้ SMEs ภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้มีความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Just Transition)  การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Technology for Decarbonization) และการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ทั้งระบบอย่างยั่งยืน (Sustainable Packaging Value Chain) นอกจากนั้น ยังมีนิทรรศการที่จำลองการใช้ชีวิตในเมืองคาร์บอนต่ำ (Low Carbon City) เรื่องสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ (Saraburi Sandbox) เมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย


ร่วมเร่งแก้วิกฤติโลกเดือดไปด้วยกัน  โดย “เร่งเปลี่ยน” ที่ตัวเราไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต รวมไปทั้งการดำเนินงานในทุกภาคส่วน เพื่อ   

•   สร้างชีวิตดี เพิ่มโอกาสชีวิตที่ดี สะดวก คุ้มค่า
•   สร้างโอกาสธุรกิจ Green Growth เติบโตระยะยาว
•   สร้างโลก Green จากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน


งาน ESG Symposium 2024 จัดขึ้นในวันที่ 30 กันยายน 2567 เวลา 11.00 น. – 16.30 น. ณ SX แกรนด์ เพลนารีฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถลงทะเบียนร่วมงานได้ https://bit.ly/4fRRvCe (200 ที่นั่งเท่านั้น) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.scg.com/esg/highlight/esgsymposium2024/

21
บุก!! ป.ป.ช. สอบ 'มนพร' แสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จหรือไม่?
ฝากนายกฯอิ๊งค์ หากฝืนตั้ง เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงเหมือนกรณีตั้ง "พิชิต ชื่นบาน"





               เมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 เวลา 13.39 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ยื่นหนังสือขอให้ประธานคณะกรรมการป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นางมนพร เจริญศรี รมว.คมนาคม และในฐานะ สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ว่ามีการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง? โดยยังมีกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม 2 แห่ง ไม่มีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงการถือครองที่ดินในจังหวัดนครพนมและกรุงเทพฯอีก 14 แปลง ซึ่งได้ยื่นเอกสารทั้งหมดต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินย้อนหลังทั้งในฐานะเป็น สส.และในฐานะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย เนื่องจาก รัฐมนตรีช่วยฯ รายนี้ดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง เป็นนายก อบจ.นครพนม 2 สมัย และเป็น สส. นครพนมในปี 2562 และปี 2566

               นายสมคิด กล่าวว่า นักการเมืองท่านหนึ่งที่ดำรงตำแหน่งในกระทรวงคมนาคม ได้ยื่นรายงานต่อ ป.ป.ช.ว่า มีเงินติดบัญชี 6,819 บาท แต่จากการตรวจสอบย้อนหลังในปี 2562 และ 2566 พบว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครพนม ก็ยังมีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดยยังมีกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม 2 แห่ง ไม่มีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงการถือครองที่ดินในจังหวัดนครพนมและกรุงเทพฯอีก 14 แปลง ซึ่งได้ยื่นเอกสารทั้งหมดต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินย้อนหลังทั้งในฐานะเป็นสส.และในฐานะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย  เนื่องจาก รัฐมนตรีช่วยฯ รายนี้ดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง เป็นนายกอบจ. นครพนม 2 สมัย และเป็นสสนครพนมในปี 2562 และปี 2566




               พร้อมกันนี้ก็ฝากไปยังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างสรรหาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ หากยังมีบุคคลนี้ร่วมในครม. ก็จะทำให้ล่อแหลมถูกยื่นยื่นตรวจสอบจริยธรรม เป็นปัญหาข้อกฎหมายต่อไป ส่วนในวันที่ 22 ส.ค. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบ ซึ่งยังคงมีนักการเมืองอีกประมาณ 2-3 ราย ที่มีลักษณะเช่นเดียวกันที่จะถูกยื่นให้ตรวจสอบการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน...

               “ตามเอกสารที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เธอมีที่ดินครอบครอง 14 แปลง แม้จะแจ้งต่อสาธารณชนว่าจดทะเบียนหย่ากับสามีแล้ว แต่โดยข้อเท็จจริงยังคงใช้นามสกุลสามีโดยเปิดเผย แม้ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนั้นแม้หย่าแล้วถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน และยังอยู่บ้านเดียวกัน ดังนั้นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในขณะดำรงตำแหน่งนาย กอบจ. นครพนม สส.นครพนม ก็ต้องแสดงทรัพย์สินด้วย รวมทั้งกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม ที่ดินและทรัพย์สินอื่นๆ” นายสมคิด กล่าว

               เมื่อถามว่าการที่มายื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ในวันนี้ไม่ได้เป็นการสกัดกั้นไม่ให้รมช.คมนาคมคนดังกล่าวให้เข้ารับตำแหน่งในครม.ชุดใหม่ใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ใช่การสกัดกั้น แต่เป็นการยื่นตามปกติ เพื่อตรวจพบหลักฐานข้อมูล ซึ่งอาจจะไม่ใช่รมช.คมนาคมรายนี้เพียงรายเดียว อาจจะมีรายอื่นด้วยที่มีลักษณะยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ซึ่งตนกำลังรวบรวมข้อมูลแต่ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ มีมากกว่า 3 ราย โดยมีบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในโผครม.ชุดใหม่ และบุคคลมีอักษรย่อ “พ” ด้วย

               นายสมคิด กล่าวต่ออีกว่า  ตนมีเอกสารหลักฐานชัดเจน เพราะตนมายื่นจะต้องรับผิดชอบ หากยื่นเรื่องเท็จก็เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 อยู่แล้ว ตนยืนตามสิทธิในรัฐธรรมนูญมาตรา  285 พี่ให้สิทธิ์บุคคลในการยื่นตรวจสอบหน่วยงานของรัฐ บุคคลของรัฐโดยสุจริตและเปิดเผย ย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายอาญา มาตรา 239 เพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้

#มนพร #พรรคเพื่อไทย #คมนาคม #จริยธรรมร้ายแรง









22
“ลี มิน วู” พร้อมป้องกันแชมป์ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น 2024 “ภูมิ” เตรียมลงแก้มืออีกครั้ง


เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น 2024


ลี มิน วู


ลี มิน วู

26 สิงหาคม 2567 – ลี มิน วู แชมป์เก่าจากออสเตรเลีย พร้อมกลับมาป้องกันแชมป์เอเชียนทัวร์รายการ “เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น” ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ สนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 10 -13 ตุลาคมนี้  ด้าน ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ โปรกอล์ฟแถวหน้าของไทยเตรียมแก้มือหลังทำแต้มไล่จี้ลุ้นแชมป์เมื่อปีที่แล้ว

ทั้งนี้ในการแข่งขันเอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น เมื่อปีที่แล้ว ลี มิน วู ทำผงานได้อย่างโดดเด่น ผงาดคว้าแชมป์ไปครองโดยเอาชนะ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ นักกอล์ฟชาวไทยไปสองสโตรก และถือเป็นการได้แชมป์ครั้งแรกในรอบ 2 ปี ของเขา พร้อมทำสถิติสกอร์รวมต่ำสุดของทัวร์นาเมนท์ไว้ที่ 30 อันเดอร์พาร์ ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าถือเป็นไฮไลต์สำคัญของฤดูกาลที่ผ่านมา และหวังจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งในปีนี้

ลี มิน วู กล่าวถึงการแข่งขันในปีนี้ว่า “ผมรู้สึกยินดีและตื่นเต้นที่จะได้กลับมาแข่งขันรายการเอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น อีกครั้ง เมื่อปีที่แล้วถือเป็นประสบการณ์ที่พิเศษ และการคว้าแชมป์ด้วยการทำสถิติสกอร์รวมต่ำสุดของทัวร์นาเมนท์ คือไฮไลต์สำคัญสำหรับผมในฤดูกาลที่ผ่านมา ผมมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมมากกับสนามและได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากแฟนกีฬากอล์ฟเช่นกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะมีสัปดาห์ที่แสนวิเศษอีกครั้งในปีนี้และป้องกันแชมป์ที่มาเก๊าได้สำเร็จ”


สำหรับปีนี้ถือเป็นวันครบรอบที่สำคัญของทั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของการก่อตั้ง และเขตบริหารพิเศษมาเก๊า (SAR) ซึ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีนับตั้งแต่การรวมประเทศ ทั้งนี้เอสเจเอ็ม รีสอร์ท เอส.เอ. ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักเป็นปีที่สอง และเป็นผู้จัดการแข่งขันร่วมกับไอเอ็มจี สานต่อความสำเร็จจากปีที่แล้ว ซึ่งมีส่วนสำคัญในการยกระดับการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น เป็นทัวร์นาเมนท์สำคัญในปฏิทินของเอเชียนทัวร์ รวมถึงการยกระดับมาเก๊าสู่การเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดการแข่งขันกีฬาและการพักผ่อนระดับโลก

เดซี่ โฮ กรรมการผู้จัดการ เอสเจเอ็ม เผยว่า  “เอสเจเอ็ม รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลัก และร่วมจัดการแข่งขันเป็นปีที่สองติดต่อกัน การท่องเที่ยวเชิงกีฬาเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากและยังเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์ช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเพื่อสัมผัสกับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นเอสเจเอ็มยังคงใช้การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกโดยการผสมผสานภายใต้ยุทธศาสตร์การทำงานร่วมกันระหว่าง ‘Tourism + Sports’ เพื่อสร้างระบบนิเวศท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่โดดเด่น และยกระดับอุตสาหกรรมกีฬาในเมาเก๊า  รวมทั้งมุ่งมั่นทุ่มเทกับการจัดการแข่งขันในปีนี้ เพื่อให้เป็นทัวร์นาเมนท์ที่ดีที่สุด”

โดยนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกปี 1998 การแข่งขันกอล์ฟรายการ มาเก๊า โอเพ่น จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่สนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ดึงดูดผู้เล่นชั้นนำของโลกร่วมชิงชัยอย่างต่อเนื่องรวมถึงดีกรีแชมป์เมเจอร์อย่าง เออร์นี่ เอลส์, นิก ฟัลโด้, จอห์น เดลี่ และวีเจย์ ซิงห์ พร้อมกับดาวดังระดับโลกอย่าง มิเกล อังเคล จิมิเนซ, แบรนดอน เกรซ, เอียน โพลเตอร์, ลี เวสต์วูด และธงชัย ใจดี กลายเป็นหนึ่งในรายการที่มีชื่อเสียงระดับแถวหน้าของเอเชีย และการแข่งขันครั้งที่ 21 ในปีนี้จะยังคงได้รับความสนใจจากโปรกอล์ฟระดับชั้นนำของโลกเช่นเคย


หลุยส์ โกเมส รักษาการประธานสำนักงานกีฬาของรัฐบาลมาเก๊า เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดงานว่า “ปีนี้เป็นการครบรอบ 75 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และครบรอบ 25 ปีที่มาเก๊ากลับคืนสู่ฮ่องกง การจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและความมีชีวิตชีวาของมาเก๊า ส่งเสริมการก่อสร้าง 'เมืองแห่งกีฬา' และสนับสนุนกลยุทธ์การพัฒนาเศรษฐกิจที่หลากหลายอย่างเหมาะสมของมาเก๊า ตลอดจนทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนและความร่วมมือ ซึ่งทำให้การเตรียมการของงานนี้เป็นไปอย่างราบรื่น"

โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและประธานบริหารของเอเชียนทัวร์ กล่าวเสริมว่า “การแข่งขันกอล์ฟรายการเอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น เป็นทัวร์นาเมนท์ใหญ่ของเอเชียนทัวร์ ทั้งในด้านความแกร่งของนักกอล์ฟที่เข้าร่วมชิงชัยและสนามที่ยอดเยี่ยม เราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจาก เอสเจเอ็ม, สมาคมกอล์ฟมาเก๊า และไอเอ็มจี ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้การแข่งขันรายการนี้ประสบความสำเร็จและเป็นทัวร์นาเมนท์ที่ทรงเกียรติ “

ขณะที่ จอห์นนี่ เซนน่า เฟอร์นันเดส ประธานสมาคมกอล์ฟมาเก๊า เผยว่า “เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น เป็นรายการที่ได้รับความชื่นชอบจากทั้งนักกอล์ฟและแฟนกีฬา ประวัติศาสตร์อันยาวนานของสนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ บ่งบอกถึงคุณภาพและศักดิ์ศรีของการแข่งขันรายการนี้ได้เป็นอย่างดี เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อประเพณีและเฉลิมฉลองการครบรอบ 25 ปีของเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น อีกครั้ง”


ทางด้าน แกรนท์ สแลค รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายกอล์ฟของไอเอ็มจี กล่าวปิดท้ายว่า   “การแข่งขันกอล์ฟเอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น เป็นรายการชั้นนำของเอเชียนทัวร์ ไอเอ็มจีจะยังคงทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเอสเจเอ็ม, สำนักงานกีฬาเขตบริหารพิเศษมาเก๊า, สมาคมกอล์ฟมาเก๊า และเอเชียนทัวร์ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสให้กับผู้เล่นและผู้ชม เราตื่นเต้นที่จะได้รับต้อนรับนักกอล์ฟมือดีระดับโลกกลับสู่แข่งขันที่มาเก๊าอีกครั้ง"

สามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวของการแข่งขันกอล์ฟเอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น 2024 เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
www.sjmmacaoopen.com

23
"ครูฝน"จัดมวยรำลึกถึงพ่อ "อภิเดช ศิษย์หิรัญ" 1 ก.ย.นี้


             งานรำลึกถึงอภิเดช ศิษย์หิรัญ งานนี้จัดขึ้นด้วยความกตัญญูของลูกศิษย์ชาวญี่ปุ่นMr.Hideki Suzukiที่มีต่อครูที่เคยสอนมวยไทยให้ จึงได้มีการประสานและปรึกษากันกับบุตรสาวของครูอภิเดชนางภคพร ทรงมณีหรือครูฝน การจัดงานในครั้งนี้เป็นการรำลึกถึงครบรอบการจากไปเป็นปีที่ 11 ของยอดมวย 2 รูปแบบทั้งในแบบมวยไทยและมวยสากลการจัดงานจะมีขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2567 ซึ่งตรงกับวันเกิดของ อภิเดช ศิษย์หิรัญ อดีตยอดมวยไทยและสากล การจัดงานครั้งนี้ได้มีการประสานเรื่องสถานที่กับทางวัดปากบ่ออ่อนนุช 35 โดยได้รับเกียรติจากพ่อพระแห่งวงการมวยนายนริส สิงห์วังชาประธานที่ปรึกษาสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย(ABF.) พร้อมด้วย ท่าน ผอ.ประเสริฐ นาคพิมพ์ โรงเรียนมูลนิธิวัดปากบ่อ , พลเอก ยุวนัฎ สุริยกุล ณ.อยุธยา, คุณรักษ์ เกรียงไกรประธานกรรมการบริษัทมุระตะ กิวกิวเต้ , ครูสร ศักดิ์วารุณ และ ป๋าโด๋ พิบูล หมื่นทอ


             การจัดงานรำลึกถึงคุณพ่อ อภิเดช ศิษย์หิรัญ ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านผอ. ประเสริฐนาคพิมพ์ โรงเรียนมูลนิธิวัดปากบ่อ  ในเรื่องการใช้สถานที่ซึ่งในวันงานจะมีมวยไทยทั้งหมด 33 คู่ โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงดังนี้

ช่วงแรกมวยจะเริ่มเวลา 10:00 น แล้วพักเบรคช่วง 11:00 น เพื่อทำบุญถวายอาหารเพลและเครื่องสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนบุญให้กับอภิเดช ศิษย์หิรัญและอดีตยอดมวยที่ล่วงลับไปแล้วนั่น หลังจากนั้นจะมีการทำการแข่งขันชิงเข็มขัดแชมป์ยอดมวยหญิงแห่งประเทศไทยระหว่าง



คู่ที่ 1.มินตรา น.อนุวัฒน์พบกับไอ ทานากะจากประเทศญี่ปุ่น

คู่ที่ 2.มวยหญิงการชิงเข็มขัดอภิเดช ศิษย์หิรัญ รุ่น 50 กิโลกรัมระหว่าง มาซากิ ซาโต้เจ้าของเข็มขัดจะมาป้องกันแชมป์กับร็อบบี้ ส.สะพานสูง

คู่ที่ 3.การป้องกันแชมป์เข็มขัดอภิเดช ศิษย์หิรัญรุ่น 45 กิโลกรัมชายระหว่างเพชรตะวัน ศิษย์ป๋าโด๋ พบกับ เด่นเหนือ ศูนย์กีฬาคลองเตย



             นอกจากนี้ยังมีคู่มวยประกอบรายการจากต่างประเทศอีกด้วยมี ญี่ปุ่น , จอร์แดน และ พม่า ซึ่งการจัดการแข่งขันในครั่งเพื่อศึกรำลึกถึงคุณพ่อ "อภิเดช ศิษย์หิรัญ" และ สำหรับในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก ท่านนริส สิงห์วังชาประธานที่ปรึกษาสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย (ABF.) , พลเอก ยุวนัฎ สุริยกุล ณ.อยุธยส , คุณรักษ์ เกรียงไกรประธานกรรมการบริษัทมุระตะ กิวกิวเต้ , ท่านผอ. ประเสริฐนาคพิมพ์ โรงเรียนมูลนิธิวัดปากบ่อ , ครูสร ศักดิ์วารุณ , ป๋าโด๋ พิบูล หมื่นทอง ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้เพื่อรำลึกถึงยอดมวยที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติและเพื่อให้นักกีฬารุ่นหลัง ๆ ได้รู้จักถึงพัฒนาการมวยไทยให้เป็นกีฬาศิลปะการต่อสู้ให้ดีเราต้องฝึกฝนความแข็งแกร่ง ของร่างกายกว่าจะได้มาเป็นยอดมวยตัวจริง และ ภายในยังมีการจัดนิทรรศการในครั้งอีกด้วย


             การจัดมวยในครั้งนี้เปิดให้ผู้มีใจรักในมวยไทยและประชาชนทั้วไปให้เข้าชมฟรีไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น จัดงานโดย "ครูฝน" ลูกสาว "อภิเดช ศิษย์หิรัญ" อดีตยอดมวยไทย ฉายา จอมเตะแห่งบางนกแขวก สมุทรสงคราม และ อดีตแชมป์มวยสากลภาคตะวันออกไกล จึงขอเรียนเชิญผู้ที่อยู่ใกล้บริเวณวัดปากบ่อหรือผู้ที่มีใจรักในตัวของ "อภิเดช" จึงขอเชิญมาร่วมงานในครั้งนี้

24
“ยัวซ่าแบตเตอรี่” สนับสนุนกีฬามวยไทยใน “ศึกเพชรยินดี”


             คุณสุขแท้ เรืองวัฒนะโชติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบรางวัลแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ และมอบพวงมาลัยเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬามวยไทยในรายการ “ศึกเพชรยินดี” มีผู้เข้าชมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่ชื่นชอบกีฬามวยไทยเข้าร่วมชมอย่างคับคั่ง เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ สนามมวยราชดำเนิน กรุงเทพฯ


             ทั้งนี้ รายการ “ศึกเพชรยินดี” ยังได้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่องทรูโฟร์ยู ดูฟรี True4U (ช่อง 24) ทุกวันพฤหัสบดี เริ่ม 18:00 – 20:00 น. อีกด้วย

25
สวพส. ขับเคลื่อนภูมิปัญญาหัตถกรรม ผลักดัน Soft Power
เครื่องมือที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งในเชิงวัฒนธรรม


              สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ดำเนินงานส่งเสริมหัตถกรรมชนเผ่าบนพื้นที่สูงภูมิปัญญาที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและความสวยงาม สืบสานส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เกิดอาชีพ เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่คนในชุมชน โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ผลงานหัตถกรรมให้มีมูลค่าเพิ่ม ขับเคลื่อน Soft Power เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งในเชิงวัฒนธรรม จนนำไปสู่การสร้างรายได้เชิงเศรษฐกิจตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในหลายกลุ่ม


              นายวิรัตน์  ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง กล่าวว่า คนบนพื้นที่สูงมีรายได้หลักจากภาคการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้สินและความยากจน ผลจากการดำเนินงานส่งเสริมอาชีพนอกภาคเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนางานหัตถกรรม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชนเผ่า โดยในระยะที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรใน 23 ชุมชน จำนวน 19,439,477 บาท สร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนบนพื้นที่สูงได้อย่างเพียงพอ ช่วยแก้ปัญหาความยากจน เสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน


              นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่าที่มีเอกลักษณ์ สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Soft Power) ของรัฐบาล โดยผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากภูมิปัญญาชนเผ่า ถือเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้ ในการสร้างสรรค์งานและการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม ร่วมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เยาวชนรุ่นใหม่นำเข้ามาเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าให้แก่คนทั่วไปผ่านทางการสื่อสารแบบออนไลน์ต่าง ๆ


              ผลจากการดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจน ในการขยายองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมของ สวพส. ทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนบนพื้นที่สูงให้อยู่ดีมีสุข เกิดชุมชนต้นแบบสร้างมูลค่าเพิ่มภูมิปัญญาชนเผ่า “Soft Power” จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มหัตถกรรมย้อมสีธรรมชาติบ้านปางแดงใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้รับพระราชทานลายผ้า "ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ“ จากพระเมตตาของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผ่านกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบในการปักลายบนผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ให้สร้างสรรค์งานหัตถกรรม สืบสาน อนุรักษ์อัตลักษณ์และวัฒนธรรมชนเผ่า ทำให้เยาวชนรุ่นใหม่ปรับเปลี่ยนแนวความคิดที่จะย้ายกลับถิ่นฐาน


              จึงเป็นก้าวสำคัญที่ตอบโจทย์ว่า เมื่อคนรุ่นใหม่กลับบ้านแล้วจะทำอะไร เพราะคนเหล่านี้เรียกว่าเป็นคนสองวัฒนธรรมคือ รู้จักข้างนอกและข้างใน และเป็นคนขับเคลื่อนหลักในชุมชน อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุในชุมชนจะกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญที่มีความรู้ ความชำนาญจากภูมิปัญญาดั้งเดิม ก่อให้เกิดความผูกพันของสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะผู้หญิง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ


              ชุมชนบ้านปางแดงในเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำงานหัตถกรรมที่เป็นอาชีพนอกภาคการเกษตรเพื่อสร้างรายได้ให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ และสร้างสินค้าที่เป็นอัตลักษณ์ สวพส. ยังมีการดำเนินงานขยายผลไปยังพี้นที่อื่นๆ เช่น กลุ่มผ้าทอกะเหรี่ยงทีคีอมก๋อย “TeeKee Omkoi” ของกลุ่มหัตถกรรมบ้านห้วยปูหลวง ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่แฮหลวง ในการย้อมสีธรรมชาติที่เป็นอัตลักษณ์ตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้นๆ และกลุ่มแม่บ้าน/ผู้สูงอายุบ้านแม่สายนาเลา ในพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงโหล่งขอด ร่วมกับโครงการวิจัยและพัฒนาการเพาะปลูกและแปรรูปเฮมพ์ โดยนำเส้นด้ายเฮมพ์ผสมกับฝ้ายที่ปั่นแบบอุตสาหกรรมและนำมาให้กลุ่มทดลองทอเป็นผืนผ้าด้วยกี่เอว และได้ต่อยอดจากการย้อมสีธรรมชาติ ไปยังการอนุรักษ์ป่าที่มีไม้ที่ใช้ในการย้อม รวมถึงการพัฒนากระบวนการย้อมสีธรรมชาติที่ช่วยลดการเกิดมลพิษ ตลอดจนประสานงานด้านการตลาด เพื่อหาช่องทางตลาดสินค้าหัตถกรรมและส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าออนไลน์และออฟไลน์ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น


              นายวิรัตน์  ปราบทุกข์ กล่าวทิ้งท้ายว่า งานหัตถกรรมชนเผ่าซึ่งทำจากวัสดุทางธรรมชาติ ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม ระบบนิเวศน์ของชุมชน และการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้ชุมชนเกิดความหวงแหนและตระหนักถึงความสำคัญของป่าที่เป็นวัตถุดิบสำคัญช่วยต่อยอดสู่ภูมิปัญญาดั้งเดิมและสืบทอดให้คงอยู่ต่อไป










26
อลิอันซ์ อยุธยา เปิดบ้านต้อนรับ เทนนิส พาณิภัค เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2024


              อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิก เปิดบ้านต้อนรับ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด เหรียญทองโอลิมปิก 2024 นำโดย นางสาวภาริสา ฉายากุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารภาพลักษณ์องค์กรและสื่อสารองค์กร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต พร้อมด้วยตัวแทนพนักงาน ร่วมแสดงความยินดี พร้อมมอบของที่ระลึก เพื่อเป็นกำลังใจและขอบคุณในการทุ่มเทฝึกซ้อมทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมจนสามารถคว้าชัยชนะกลับมาได้สำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่ผ่านมา

              อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิก ขอขอบคุณความมุ่งมั่นและความสามารถของนักกีฬาไทยทุกท่านที่ได้แสดงศักยภาพและความตั้งใจในการแข่งขัน เราเชื่อมั่นว่าทุกความสำเร็จสามารถแรงบันดาลใจและจุดประกายความฝันให้กับคนรุ่นใหม่ต่อไป

27
ศูนย์การค้าแพลทินัม มอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวด
“Platinum Shop ให้แพรว Match ให้ PROUD Contest”


นางสุฐิตา  ภิรมย์ภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มอบเงินรางวัลในกิจกรรมการประกวด “Platinum Shop ให้แพรว Match ให้ PROUD Contest” รวมมูลค่า 80,000 บาท ให้แก่ผู้ชนะเลิศ ได้แก่ นายรัฐนันท์ อุทธชาติ, รองชนะเลิศอันดับ 1 นางสาวบุศรา ชัยชนะ ,รองชนะเลิศอันดับ 2 นางสาวญานิกา วงษ์แก้ว และ รางวัล Popular Vote นางสาวจิดาภา  เข็มเพ็ชร ณ บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าแพลทินัม เมื่อเร็วๆ นี้ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการแต่งกายและกล้าแสดงออกได้มีเวทีและโอกาสแสดงผลงานสร้างสรรค์คลิปวีดีโอเกี่ยวกับการ Mix and Match เสื้อผ้าให้ออกมาในลุคที่พราวที่สุดฉายความโดดเด่นจัดเต็มในแบบของตัวเองในช่องทาง Tiktok ได้น่าสนใจที่สุด ติดตามชมผลงาน ได้ใน FB: Platinum Fashion Mall แพลทินัม แฟชั่น มอลล

บรรยายบุคคลในภาพจากซ้ายไปขวา
1. นางสาวญานิกา วงษ์แก้ว ผู้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 จากช่อง Kayyanika
2. นายรัฐนันท์ อุทธชาติ ผู้รับรางวัลชนะเลิศ จากช่อง Tiger.killerrr 
3. นางสุฐิตา  ภิรมย์ภักดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
4. นางสาวบุศรา ชัยชนะ ผู้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากช่อง Liw.wil 
5. นางสาวจิดาภา  เข็มเพ็ชร ผู้รับรางวัล Popular Vote จากช่อง Yoyax_korya

28
ศุภมาส” ตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว.” วอร์รูมติดตามสถานการณ์น้ำ ช่วยประชาชนที่รับผลกระทบจากอุทกภัย  ระดมกองทัพโดรนสำรวจและลำเลียงสิ่งของไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก พร้อมเรือไวไฟ (WiFi) ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต บ้านสำเร็จรูป ที่นอนยางพาราถุงยังชีพที่มีอาหารนวัตกรรมพร้อมทานโดยไม่ต้องอุ่น พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำผ่านทุกช่องทาง


เมื่อวันที่ 26 ส.ค. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) แถลงข่าวการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว.” โดยมี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. และผู้บริหารกระทรวง อว. เข้าร่วม ที่ห้องประชุมชั้น 4 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวง อว. ถ.พระรามที่ 6 กรุงเทพฯ


น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้กระทรวง อว. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว. ขึ้นมา ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ห้อง 7B ชั้น 7 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. เป็นวอร์รูมในการวางแผน ประสานงานกับภาคส่วนต่างๆ และสั่งการไปยังหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. ในการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งของที่จำเป็นไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด เพื่อช่วยสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการรองรับเหตุ แก้ไขปัญหา บรรเทาผลกระทบและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด โดยเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พร้อมมอบหมายให้มหาวิทยาลัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการประจำจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือประชาชน เป็นที่พักพิงชั่วคราว และเป็นศูนย์กระจายสิ่งของที่จำเป็น รวมถึงเป็นหน่วยประสานงานในพื้นที่ ได้แก่ จ.เชียงราย โดย มรภ.เชียงราย จ.แพร่ โดย ม.แม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน โดย มทร.ล้านนา น่าน จ.พะเยา โดย ม.พะเยา จ.สุโขทัย โดย มรภ.พิบูลสงคราม โทร จ.ระนอง โดย วิทยาลัยชุมชนระนอง จ.ภูเก็ต โดย มรภ.ภูเก็ต จ.ยะลา โดย มรภ.ยะลา จ.นครศรีธรรมราช โดย ม.วลัยลักษณ์ และ จ.สงขลา โดย ม.สงขลานครินทร์


รมว.อว. กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานในกระทรวง อว. สนับสนุนการแก้ไขปัญหาน้ําท่วม รองรับสถานการณ์ใน 3 ระยะ ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ คือ 1. “การเฝ้าระวังน้ำท่วม” กระทรวง อว. มีระบบการติดตามสถานการณ์น้ำ เฝ้าระวัง แจ้งเตือน และวางแผนอพยพได้อย่างทันท่วงที จากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศน้ำ หรือ สสน. ที่เป็นหน่วยรวบรวม เชื่อมโยง บูรณาการและวิเคราะห์ข้อมูลน้ำและภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อน้ำ 435 รายการ และมีรถโมบายเคลื่อนที่เพื่อติดตามสถานกาณ์น้ำในพื้นที่ โดยศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว. จะนำเสนอข้อมูลใน 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย ข้อมูลติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำปัจจุบันแบบเรียลไทม์เช่น เส้นทางพายุ ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลฝนตกในพื้นที่ เป็นต้น ข้อมูลคาดการณ์สถานการณ์น้ำ แบบจำลองชี้เป้าพื้นที่เสี่ยง ข้อมูลจากเทคโนโลยีสำรวจสำหรับวิเคราะห์ เพื่อวางแผน ตัดสินใจแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ระบบเว็บไซด์และโมบายแอพพลิเคชั่นสำหรับติดตามสถานการณ์น้ำ เช่น เว็บไซด์คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ เป็นข้อมูลภาพรวมประเทศ เว็บไซด์ศูนย์ข้อมูลน้ำจังหวัด เป็นข้อมูลแยกรายจังหวัด และแอพพลิเคชั่น ThaiWater สำหรับประชาชนทั่วไป ใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า จะสนับสนุนข้อมูลมายังศูนย์ปฏิบัติฯแห่งนี้ใน 2 ชุดข้อมูลที่สำคัญ ประกอบด้วย การติดตามสถานการณ์ด้วยดาวเทียม พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นประจำทุกวัน สถานการณ์ความเสี่ยงน้ำท่วม จากสถิติพื้นที่น้ำท่วมย้อนหลัง 10 ปี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีการแจ้งผ่านเพจของกระทรวง อว. ทุกวัน ในเวลา 13.00 น.


น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า 2. “การให้ความช่วยเหลือระหว่างเกิดภัยน้ำท่วม” ซึ่งนอกจากจะเปิดพื้นที่ของมหาวิทยาลัยให้เป็นศูนย์บรรเทาและพักพิงให้ผู้ได้รับผลกระทบแล้ว ยังระดมกองทัพโดรนกว่า 30 ลำ ทั้งในส่วนของกระทรวง อว. และเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนจากอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมาปฏิบัติภารกิจในการสำรวจและลำเลียงสิ่งของไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก นอกจากนี้ ยังมีเรือไวไฟ (WiFi) ที่จะเข้าไปให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ รวมถึงยังมีบ้านสำเร็จรูป ที่นอนยางพารา เครื่องกรองน้ำไส้กรองนาโนแบบเคลื่อนที่ และถุงยังชีพที่มีอาหารนวัตกรรมพร้อมทานโดยไม่ต้องอุ่น ยาและของใช้ที่จำเป็นไปมอบให้ผู้ประสบภัยอีกด้วย ซึ่งเครื่องมือ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เหล่านี้ หน่วยงานในพื้นที่หรือภาคประชาชนสามารถประสานขอมายังศูนย์ปฏิบัติการทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ได้ และในวันนี้จะมีการจัดส่งโดรนขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการขนส่งของไปยังพื้นที่จังหวัดสุโขทัยจำนวน 3 ลำ โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ 3. “ฟื้นฟูหลังน้ำลด” กระทรวง อว. จะจัดตั้งหน่วยบริการเคลื่อนที่ซ่อมและบริการเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือเกษตร ขณะที่ ยังนำนักศึกษาจิตอาสาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือประชาชน เช่น การให้บริการซ่อมแซมบ้านเรือน พาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์การเกษตร หลังสถานการณ์คลี่คลาย รวมถึงนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวง อว. ลงไปรักษา บำบัด ฟื้นฟู ทั้งร่างกายและจิตใจ


น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวง อว. ยังมีแพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูล ทั้งการแจ้งเหตุสถานการณ์ในพื้นที่ การขอความช่วยเหลือและการรับบริจาค พร้อมจะดูแลนักศึกษาและบุคลากรของกระทรวง อว. ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนและจะได้ให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ต่อไป ที่สำคัญ ตนได้สั่งการให้ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. ลงพื้นที่ในพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ไปทำงานกับ อว.ส่วนหน้า จ.สุโขทัย ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่กำลังจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในลำดับต่อไป


“ดิฉันในฐานะ รมว.อว. และบุคลากรของ อว. มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยครั้งนี้ ขอยืนยันว่าการช่วยเหลือจะไปถึงมือประชาชนอย่างแน่นอน โดยการระดมทั้งกำลังคน เทคโนโลยีพร้อมใช้ เพื่อส่งให้ถึงมือประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ เพราะกระทรวง อว. รับรู้ถึงทุกข์สุขของประชาชน เป็น “อว.เพื่อประชาชน“ และนี่คือศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่จะกระจายความช่วยเหลือไปถึงประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด“ น.ส.ศุภมาส กล่าว






29
SCGC คว้า 25 รางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ปี 67 จาก กนอ. 
ยกระดับโรงงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน


ระยอง – 19 สิงหาคม 2567 : 11 บริษัทในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC เข้ารับรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ประจำปี 2567 จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จำนวน 25 รางวัล ได้แก่ รางวัลธงขาว-ดาวทอง 11 รางวัล และรางวัลธงขาว-ดาวเขียว 14 รางวัล โดยพิจารณาจากผลการตรวจประเมินโรงงานในมิติต่าง ๆ ตามมาตรฐานสากล 13 ด้าน อาทิ ศักยภาพการบริหารจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย การรับผิดชอบต่อสังคม การมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบกำกับดูแลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย โดยมี นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบรางวัล


ทั้งนี้ บริษัทในกลุ่มธุรกิจ SCGC ที่ได้รับรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ธงขาว-ดาวทอง) ประจำปี 2567 ระดับดีเยี่ยม ได้แก่ บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด บริษัท แกรนด์สยามคอมโพสิต จำกัด บริษัท ไทยเอ็มเอฟซี จำกัด บริษัท ไทยเอ็มเอ็มเอ จำกัด และบริษัท ระยอง เทอร์มินอล จำกัด


และบริษัทในกลุ่มธุรกิจ SCGC ที่ได้รับรางวัลธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ธงขาว-ดาวเขียว) ประจำปี 2567 ระดับดี ได้แก่ บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซีจี ไอโค พอลิเมอร์ จำกัด บริษัท แกรนด์สยามคอมโพสิต จำกัด บริษัท ไทยเอ็มเอ็ฟซี จำกัด บริษัท ไทยเอ็มเอ็มเอ จำกัด บริษัท ระยอง เทอร์มินอล จำกัด บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด และบริษัท ทีพีซี เพสต์ เรซิน จำกัด


สำหรับโครงการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) มีเกณฑ์การพิจารณาตามมาตรฐานสากล 13 ด้าน ได้แก่ 1) การจัดการพื้นที่สีเขียว 2) ระบบระบายน้ำ 3) การส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นและเศรษฐกิจชุมชน 4) การจัดการน้ำ 5) การจัดการกากอุตสาหกรรมและลดปริมาณของเสีย 6) การจัดการคุณภาพอากาศ 7) การจัดการไอระเหยของสารเคมี (เฉพาะโรงงานที่มีสาร VOC) 8) ความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน 9) การจัดการอุบัติเหตุและอุบัติภัย 10) ข้อร้องเรียนที่มีต่อโรงงานฯ 11) คุณภาพชีวิตและสังคมของพนักงานในโรงงาน 12) คุณภาพชีวิตและสังคมของชุมชนโดยรอบ และ 13) การบริหารจัดการโรงงาน โดย กนอ. ได้แต่งตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย กนอ. ผู้แทนชุมชน ส่วนราชการในพื้นที่ สื่อมวลชนท้องถิ่น เพื่อดำเนินการตรวจประเมินโรงงาน ตามแผนลดและขจัดมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรมในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมพื้นที่มาบตาพุด และนำผลการตรวจประเมินโรงงานมาประเมินศักยภาพการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และการรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ในช่วงระยะเวลา 1 ปีก่อนหน้า (ปี 2566) เพื่อมอบรางวัลให้กับโรงงานที่ผ่านเกณฑ์ในระดับดี (ธงขาว-ดาวเขียว) และระดับดีเยี่ยม (ธงขาว-ดาวทอง) สำหรับโรงงานที่ผ่านเกณฑ์ในระดับดีต่อเนื่อง 6 ปี ขึ้นไป

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.scgchemicals.com

30
“อาฒยา” ขยับรั้งที่ 6 ร่วม ตามผู้นำสี่แต้มกอล์ฟ “เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น” รอบสาม


ชิน จีไย


โปรจีน-อาฒยา ฐิติกุลp


เอรียา จุฑานุกาล

24 สิงหาคม 2567 – อาฒยา ฐิติกุล หวดเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 จบรอบสามพุ่งขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 213 ในการแข่งขันกอล์ฟรายการ “เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น” ที่สนามเซนต์แอนดรูวส์ โอลด์คอร์ส ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตำแหน่งจ่าฝูงเปลี่ยนมือเป็นของ ชิน จีไย โปรสาวจากเกาหลีใต้ ที่เร่งเครื่องหวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 แซงขึ้นนำด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 209 ลุ้นแชมป์เป็นสมัยที่สาม (ภาพ: BGB Images)

กอล์ฟ “เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น” เมเจอร์หญิงรายการที่ 5 สุดท้ายของปี ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 323 ล้านบาท แข่งขันที่สนามเซนต์แอนดรูวส์ โอลด์คอร์ส ประเทศสกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 22-25 สิงหาคมนี้ มีนักกอล์ฟชั้นนำจากทั่วโลกลงชิงชัย 144 คน โดยเป็นผู้เล่นชาวไทย 10 คน แต่ผ่านตัดตัวมาได้ 6 คน ได้แก่ อาฒยา ฐิติกุล, ปภังกร ธวัชธนกิจ, เอรียา จุฑานุกาล, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, วิชาณี มีชัย และ อาภิชญา ยุบล           

วันที่สามของการแข่งขัน โปรจีน-อาฒยา ฐิติกุล หวดเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 จากการทำ 5 เบอร์ดี้ เสีย 3 โบกี้ สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ 213 พุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 6 ร่วม ตามหลัง ชิน จีไย โปรมือ 30 ของโลกจากเกาหลีใต้ 4 สโตรค โดยรอบนี้ จีไย เร่งเครื่องหวด 7 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ จบ 18 หลุมเข้ามา 5 อันเดอร์พาร์ 67 แซงขึ้นมานำเดี่ยวด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 209


ชิน จีไย เจ้าของแชมป์สองสมัยในปี 2008 และ 2012 เผยหลังแซงขึ้นนำว่า “นี่เป็นครั้งที่สามที่ฉันมาเล่นที่เซนต์แอนดรูวส์ วันนี้ลมแรงมาก แต่ฉันมีประสบการณ์ค่อนข้างมากในการเล่นสนามลิงค์ และกระแสลมก็ไม่ได้เลวร้ายกับฉันมาก ทำให้ยังคงทำผลงานได้ดี แม้จะเสียสองโบกี้วันนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะฉันว่าการที่ทุกคนทำ 1-2 โบกี้ที่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก วันนี้ก็จะกลับไปพักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ ซึ่งในฐานะผู้เล่นฉันก็จะโฟกัสในสิ่งที่กำลังทำในขณะนั้น”

ด้าน อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาวมือ 17 ของโลก พูดถึงเกมวันนี้ว่า “วันนี้ออกสตาร์ทดี แต่พอหลังๆ ค่อนข้างยาก ระยะอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ลมก็แรง รู้สึกว่ารอบหลุมหลังยากกว่ารอบหลุมแรก แฟร์เวย์แคบกว่า และช็อตเข้ากรีนก็ยากกว่า เล่นมาสามวันค่อนข้างพอใจกับการเลือกเหล็กและการเล่นกับลมของตัวเอง และชอบบรรยากาศในการเล่นที่สนามนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็นโฮมออฟกอล์ฟ รู้สึกอบอุ่น พรุ่งนี้ก็จะเล่นไปเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสทำได้ก็จะทำ เพราะการเล่นกับลมขนาดนี้ถ้าจะทำสกอร์ให้ต่ำมากก็ต้องเล่นให้ได้สมบูรณ์แบบตลอดวัน ซึ่งสไตล์การเล่นสนามลิงค์คือต้องอดทน สัปดาห์นี้ยิ่งเล่นก็ยิ่งดีขึ้น พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกดีเหมือนกันเพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยชอบสนามแบบลิงค์เลย เพราะรู้สึกว่ายาก และต้องคอมมิทเยอะ”         

ขณะที่ ลิเลีย วู มือสองของโลกจากสหรัฐฯ มีโอกาสลุ้นแชมป์สมัยที่สอง หลังเก็บเพิ่มอีก 1 อันเดอร์พาร์ 71 รวมสามวันมี 6 อันเดอร์พาร์ 210 รั้งอันดับสองไล่จี้ ชิน จีไย เพียงสโตรคเดียว ส่วนเนลลี่ คอร์ด้า มือหนึ่งของโลกชาวอเมริกัน ซึ่งออกสตาร์ทในตำแหน่งผู้นำจากรอบสอง พลาดตีเกินไป 3 โอเวอร์พาร์ 75 สกอร์รวมเหลือ 5 อันเดอร์พาร์ 211 หล่นไปอยู่อันดับ 3


ส่วนผลงานนักกอล์ฟสาวไทยอีก 5 คน เอรียา จุฑานุกาล อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2016 เก็บได้อีก 1 อันเดอร์พาร์ 71 สกอร์รวมสามวัน 1 อันเดอร์พาร์ 215 เท่ากับ ปภังกร ธวัชธนกิจ ที่ตีเข้ามา 1 โอเวอร์พาร์ 73 ทั้งคู่รั้งอันดับ 16 ร่วม, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เร่งเครื่องหวด 4 อันเดอร์พาร์ 68 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 19 ร่วมด้วยสกอร์รวมอีเวนพาร์ 216, อาภิชญา ยุบล ทำอีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม 4 โอเวอร์พาร์ 220 อยู่อันดับ 58 ร่วม และวิชาณี มีชัย ตีเกินอีก 5 โอเวอร์พาร์ 77 สามวันเกิน 6 โอเวอร์พาร์ 222 รั้งอันดับ 75 ร่วม
           
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของการแข่งขันเอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ได้ที่เว็บไซต์
www.aigwomensopen.com

Pages: 1 [2] 3 4 ... 2289