Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 531 532 [533] 534 535 ... 2404
7981
แชฟฟ์เลอร์ เอเชียแปซิฟิก แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ นางสาวเอง พู-เจวียน ดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล


นางสาวเอง พู-เจวียน รองประธานอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท แชฟฟ์เลอร์  ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

               แชฟฟ์เลอร์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภาคธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมระดับโลก ประกาศแต่งตั้งผู้บริหารใหม่ นางสาวเอง พู-เจวียน เป็นรองประธานอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกลยุทธ์ด้านความแตกต่างและหลากหลาย รวมถึงการมีส่วนร่วมของพนักงานแชฟฟ์เลอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในระยะยาว

ผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลง

               นางสาวเอง พู-เจวียน​ จะเข้ารับตำแหน่งรองประธานอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท แชฟฟ์เลอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รับหน้าที่ดูแลพนักงานกว่า 6,000 คน รวมทั้งจัดหาทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อรองรับความเป็นเลิศในการดำเนินงาน และขับเคลื่อนกลยุทธ์ของฝ่ายทรัพยากรบุคคลโดยรวมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยประจำการอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ สำนักงานใหญ่ของแชฟฟ์เลอร์ เอเชียแปซิฟิก

               ทั้งนี้ นางสาวเอง พู-เจวียน มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า 25 ปี ด้านทรัพยากรบุคคลระดับภูมิภาคในหลายภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ การบิน พลังงาน น้ำมัน และก๊าซ และยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลประจำภูมิภาคของ Baker Hughes บริษัทเทคโนโลยีพลังงานที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้นำในการปรับโครงสร้างองค์กร และการผนวกรวมธุรกิจระหว่าง GE Oil & Gas กับ Baker Hughes เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจขององค์กร อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารทรัพยากรบุคคลระดับภูมิภาคของ GE Power รับผิดชอบด้าน “เครือข่ายสตรีและอาสาสมัครเพื่อสังคม” และมีบทบาทอย่างมากในการใช้กลยุทธ์ด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาความสามารถและการเติบโตทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ขององค์กร อีกด้วย

               ด้านนายดาเมช อโรร่า ประธานบริหารของแชฟฟ์เลอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่นางสาวเอง พู-เจวียนจะเข้ามาเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมผู้บริหารของเรา ทั้งนี้ แชฟฟ์เลอร์เน้นให้ความสำคัญด้านการพัฒนาความสามารถในระดับภูมิภาคมาโดยตลอด ดังนั้นด้วยความเชี่ยวชาญ ความเป็นผู้นำด้านทรัพยากรบุคคล และประสบการณ์ของนางสาวเอง พู-เจวียนจะนำมาซึ่งข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในองค์กร เพื่อให้พนักงานของแชฟฟ์เลอร์ทุกคนมีส่วนร่วมกับองค์กรได้อย่างเต็มศักยภาพ”

ความหลากหลายเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จ

               บริษัท แชฟฟ์เลอร์ พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของพนักงานในระดับภูมิภาคในระยะยาว โดยเปิดตัวสภาความหลากหลายและความเท่าเทียม หรือ Diversity & Inclusion (D&I) เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อจัดเตรียมโครงสร้างองค์กรที่จำเป็นในการจัดการด้านความหลากหลายในระยะยาว และล่าสุดภายในงานประกาศรางวัล HR Excellence Awards 2021 บริษัทแชฟฟ์เลอร์ได้รับรางวัลเหรียญเงินสำหรับความเป็นเลิศในการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Excellence in Employee Engagement) และได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายในหมวดหมู่ของผู้บริหารที่ให้ความสำคัญกับพนักงานมากที่สุด (Most People-focused CEO) รางวัลที่แชฟฟ์เลอร์ได้รับมานั้นเป็นบทพิสูจน์ถึงความพยายามในการพัฒนาผู้ที่มีความสามารถ และการมีส่วนร่วมของพนักงานแชฟฟ์เลอร์ทุกคน ดังนั้นการที่แชฟฟ์เลอร์ได้ผู้บริหารที่มีความสามารถอย่างนางสาวเอง พู-เจวียน เข้ามาเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารของแชฟฟ์เลอร์ เอเชียแปซิฟิก จึงเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์ด้านความแตกต่างและความหลากหลายของแชฟฟ์เลอร์ได้เป็นอย่างดี

               นางสาวเอง พู-เจวียน รองประธานอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท แชฟฟ์เลอร์  ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า “การสนับสนุนด้านความแตกต่างและความสามารถที่หลากหลายควบคู่ไปกับความยั่งยืนในระยะยาวของแชฟฟ์เลอร์นั้นเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จอย่างต่อเนื่องขององค์กร  ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาทางธุรกิจของแชฟฟ์เลอร์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่จะช่วยให้พนักงานแชฟฟ์เลอร์สามารถเป็นผู้นำด้านความเป็นเลิศและบรรลุความก้าวหน้าในการทำงานร่วมกันได้”

               นางสาวเอง พู-เจวียน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ (คณิตศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และได้รับประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลจากสถาบันการจัดการของสิงคโปร์ (Singapore Institute of Management) และปริญญาโทด้าน Human Capital Specialization จาก Nanyang Business School (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง)

แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป – We pioneer motion

               ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภาคธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรมระดับโลก แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับภาคอุตสาหกรรมและยานยนต์มามากกว่า 70 ปี ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัย ในด้านการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมดิจิตอล 4.0 และพลังงานหมุนเวียน  ทำให้แชฟฟ์เลอร์เป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือในด้านการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการด้านอุตสาหกรรมและยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ชาญฉลาด และยั่งยืน เราผลิตชิ้นส่วนและระบบที่มีความแม่นยำสูงสำหรับระบบขับเคลื่อน (drive train) และระบบช่วงล่าง (แชสซี) รวมถึง ตลับลูกปืนหลายชนิด เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท แชฟฟ์เลอร์ กรุ๊ป  มียอดขายประมาณ 1.26 หมื่นล้านยูโรในปี พ.ศ. 2563 โดยเป็นหนึ่งในบริษัทครอบครัวที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยจำนวนพนักงานมากถึง 83,300 อีกทั้งจากข้อมูลของ DPMA (สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าเยอรมนี) แชฟฟ์เลอร์เป็นบริษัทที่มีการพัฒนานวัตกรรมมากสุดเป็นอันดับสอง โดยมีการยื่นขอจดสิทธิบัตรไปมากกว่า 1,900  รายการในปี พ.ศ. 2563

7982
เสียงสะท้อนของผู้ประกอบการไทยพร้อมเหตุผลที่เลือกใช้สแกนเนีย


                35 ปี สแกนเนีย สยาม ในการทำตลาดประเทศไทย ผู้ประกอบการมั่นใจกับรถบรรทุกและรถโดยสารคุณภาพเยี่ยม ที่ตอบโจทย์ด้านผลกำไรให้ธุรกิจขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมบริการหลังการขาย ที่ให้ผู้ประกอบการแข่งขันในตลาดแบบไม่มีสะดุด (No room For Downtime) และในโอกาสพิเศษที่ สแกนเนีย สยาม ฉลองครบรอบ 35 ปีในประเทศไทย จึงได้มีการออกรถรุ่นพิเศษ “Yak Edition” เพื่อตอกย้ำแนวทางการขนส่งอย่างยั่งยืนในวันนี้ สู่อนาคตธุรกิจที่เหนือกว่า (Sustainable Transport – Now and Beyond) โดยรุ่นพิเศษนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า วันนี้เรามารับรู้หลากหลายเสียงสะท้อนของผู้ประกอบการที่เลือกซื้อ รถรุ่นพิเศษ “Yak Edition” และใช้รถบรรทุกสแกนเนียในการทำธุรกิจ


                นายนัธทวัฒน์ วัดแผ่นลำ ผู้จัดการด้านการขนส่ง บริษัท ศ.ชวโรจน์ 888  จำกัด กล่าวว่า​ บริษัททำธุรกิจในการขนส่งน้ำมันจากภาคใต้ไปสู่จังหวัดในภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำให้ต้องเลือกรถบรรทุกที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของขุมพลังและสมรรถนะของรถ รวมถึงระบบความปลอดภัยในการขนส่งและจากประสบการณ์ในการใช้งานรถสแกนเนียกว่า 10 ปี ทำให้มั่นใจที่จะเลือกรถสแกนเนีย เพราะประทับใจในทัศนวิสัย ความนุ่มสบายที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ที่สร้างความมั่นใจในทุกเส้นทาง อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันมากกว่าแบรนด์อื่น ๆ ที่เคยใช้ นอกจากนี้บริการหลังการขายยังมีระบบการแจ้งเตือนและนัดเข้าทำการบำรุงรักษา ลดเวลาในการรอเพิ่มเวลาในการทำงาน


                “สำหรับรถรุ่นพิเศษ Yak Edition ที่ทางบริษัทฯ จัดซื้อไป 2 คัน ผมมีโอกาสได้ใช้ในงานขนส่งยิ่งสร้างความประทับใจอีก เพราะมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive  Cruise Control) ที่ช่วยรักษาความเร็ว และระยะห่างรถคันหน้า ทำงานร่วมกับระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Advance Emergency Break) ได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง ผมได้ทดสอบแล้วมากับตัว มันใช้งานได้ดีจริงๆ นอกจากปลอดภัยแล้ว ยังทำให้สามารถขับไกลได้โดยไม่เหนื่อยล้า และห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย สำหรับนักขับที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถนานๆ รถก็จะผ่อนคลาย เพราะสำหรับนักขับ รถก็เหมือนบ้านที่เดินทางไปด้วยกันทุกที่” นายนัธทวัฒน์ กล่าว


                นายสมเอก น้อยสมจิตร กรรมการผู้จัดการหจก.สักทอง ทรานสปอร์ต กล่าวว่า​ สำหรับเขานั้นคนขับถือเป็นหัวใจหลักในธุรกิจขนส่ง การเลือกรถบรรทุกที่เพิ่มความสะดวกสบายให้คนขับจึงถือเป็นหัวใจสำคัญหลักในการทำธุรกิจด้านการขนส่งด้วยเช่นกัน โดยตลอดการให้บริการธุรกิจขนส่งมากว่า 10 ปี ทางบริษัทให้ความสำคัญในการเลือกรถที่มีความแข็งแกร่ง สมรรถนะที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน มีระบบความปลอดภัยในการขนส่ง รวมทั้งความสะดวกสบายในการขับเพื่อลดความเหนื่อยล้าให้กับผู้ขับ นี่คือสาเหตุที่ทำให้เลือกสแกนเนียในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ภาพลักษณ์ของสแกนเนียยังช่วยสร้างความไว้ใจความเชื่อมั่น ทำให้ลูกค้าของบริษัทฯ เกิดความไว้วางใจ และมีความเชื่อมั่นว่าสินค้าจะได้รับความปลอดภัย สามารถนำส่งสินค้าได้ตามเป้าหมาย ตรงเวลาที่กำหนดไว้ เนื่องจากสินค้าที่บริษัทขนส่งเป็นประจำส่วนใหญ่เป็นวัตถุอันตราย เช่น ใเบอร์มิวรี่ คาร์บอน หรือสินค้าปนเปื้อน และสินค้าทั่วไป และส่วนใหญ่ขนส่งจากเส้นทางสายใต้ กรุงเทพฯ หาดใหญ่ -สงขลา จนถึงสัตหีบ ระยอง ระยะทางไป-กลับประมาณ 1,800 กว่ากิโลเมตร ซึ่งจะเกิดความผิดพลาดไม่ได้ ต้องส่งสินค้าให้ลูกค้าให้ปลอดภัย และตรงเวลาทุกครั้ง

                “อีกความประทับใจของผมคือ บริการหลังการขาย เพราะสำหรับผมหากบริการหลังการขายไม่ดี มันไม่ตอบโจทย์ ทำให้เสียเวลาในการทำงานได้ ผมใช้บริการทีมงานที่ศูนย์บริการหาดใหญ่ ทำงานดี รวดเร็ว พร้อมทุกเวลาในการให้คำปรึกษาทุกเมื่อ ช่วยลดเรื่อง DOWN TIME เป็นเรื่องที่ดีมาก ของเราเข้าครั้งหนึ่งก็วิ่งต่อได้ยาวหลายหมื่นกิโลเมตร นอกจากนี้ Yak Edition ที่เลือกซื้อ ยังได้เงื่อนไขพิเศษ โดยฟรีค่าซ่อม 3 ปี* และฟรีค่าบำรุงรักษา 5 ปี* มีผลกับการตัดสินใจซื้อ เพราะไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายอีกด้วย”

                ด้านนายพรนรินทร์ ทรงราศรี กรรมการผู้จัดการบริษัทเอสเค ทรัค แอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด กล่าวว่า โดยปกติบริษัทฯ จะให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อนำส่งให้กับโรงงานของลูกค้าในโซนตะวันออกเป็นหลัก โดยรถบรรทุกจะวิ่งจะอยู่ในช่วงระยะสั้นถึงระยะกลาง ประมาณ 300 กิโลเมตรต่อเที่ยว ซึ่งสิ่งที่ถูกใจในรถของสแกนเนีย คือ ความประหยัด ในด้านของการขับขี่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล ระบบช่วงล่างที่ให้ความรู้สึกนิ่มสบายกว่าแบรนด์อื่น และใน Yak Edition มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) ที่ปัจจุบันมีนำเสนอที่สแกนเนียเท่านั้น เรื่องของรอบการบำรุงรักษารถ มีการติดตามจากศูนย์บริการเป็นระยะ นอกจากนั้นอะไหล่ตัวไหนขาดก็สามารถสั่งได้ทันที


                “รถสแกนเนียรุ่น Yak Edition ผมมองว่าลวดลายของยักษ์เป็นเสมือนยักษ์ท้าวเวสสุวรรณ ที่เป็นตัวแทนของความมั่งคั่งเรื่องการเงิน และปกป้องคุ้มครองให้ความรู้สึกปลอดภัย เสมือนมีสิ่งที่คอยปกป้องคุ้มครองรถอยู่ตลอดเวลา และในรถรุ่น Yak Edition นี้เป็นรถที่มีฟังก์ชันความสะดวกสบายต่าง ๆ ครบถ้วน ภายในหรูหราเหมือนกับรถสปอร์ตส่วนบุคคลชั้นนำเลยครับ”

                “นอกจากนี้ยังประทับใจในระบบบริการทางการเงินโดย สแกนเนีย สยาม ลีสซิ่ง ซึ่งมีบริการดีกว่าหลายบริษัทที่เคยผ่านมา ช่วยให้ผู้ประกอบการอย่างเราเป็นเจ้าของรถสแกนเนียได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขกับสแกนเนียมากที่สุดครับ” กรรมการผู้จัดการบริษัทเอสเค ทรัคแอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด กล่าวทิ้งท้าย

สนใจติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้ท่านและสอบถามข้อมูลรถเพิ่มเติมที่ www.scania.com/th/th/home/products-and-services/trucks/trucks_showroom.html

* หมายเหตุ 3 ปี หรือ 360,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน

* หมายเหตุ 5 ปี หรือ 600,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน


                สำหรับลูกค้าที่สนใจรถสแกนเนีย สามารถโทรศัพท์สอบถามสแกนเนียได้ที่ 02-017-9200 โดยสแกนเนีย ยังคงมุ่งมั่นเพื่อให้รถของลูกค้าพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มผลกำไรในธุรกิจขนส่งอย่างสูงสุด เพื่อขับเคลื่อนสู่ระบบขนส่งที่ยั่งยืน​ “เพราะธุรกิจคุณ สำคัญที่สุด”

สนใจติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้ท่านและสอบถามข้อมูลรถเพิ่มเติมที่www.scania.com/th/th/home/products-and-services/trucks/trucks_showroom.html

7983
วช.- มทร.พระนคร เดินหน้า“ระบบ Smart Guide” ที่สมุทรสงคราม ขานรับนโยบายท่องเที่ยวเมืองรอง


สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ลงพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม สนับสนุน การพัฒนาเทคโนโลยี “ระบบไกด์อัจฉริยะ”(Smart Guide) ในเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยนักวิจัย จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน แบบ Smart tourism และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง ในยุค New Normal


วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2564) ที่วิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยทีมนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร นำโดย ดร.นิตินันท์ ศรีสุวรรณ และคณะ ลงพื้นที่ต่อยอดผลผลิตงานวิจัย จากโครงการการพัฒนาเทคโนโลยีระบบไกด์อัจฉริยะในเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหาร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสงคราม ชูเอกลักษณ์ด้านอาหารในแต่ละท้องถิ่นของจังหวัด พลิกฟื้นชุมชน และจังหวัด หลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยใช้วิจัยและนวัตกรรมอย่างยั่งยืน


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า วช.ในฐานะหน่วยงานบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม มุ่งสนับสนุนและขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์ประเด็นสำคัญและเร่งด่วนของประเทศ ทั้งในมิติวิชาการ นโยบาย ชุมชนสังคม และพาณิชย์ สำหรับแผนงานวิจัย“การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง” ที่ วช.ให้การสนับสนุนแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั้ง 9 แห่ง เป็นการเชื่อมการใช้ประโยชน์ และหนุนเสริมการขยายผลงานวิจัยสู่การพัฒนาชุมชนการท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรอง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ที่เข้ามามีผลกระทบ ทำให้ทราบว่า งานวิจัยและนวัตกรรม สามารถเข้ามาสนับสนุนและตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรและประชาชนได้เป็นอย่างดี นับเป็นการยกระดับและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง


โครงการวิจัยนี้ต่อยอดมาจากโครงการในปีแรก (การพัฒนาสื่อดิจิทัล 3 ประเภท อาทิ แอปพลิเคชัน Go Samutsongkhram) โดยมีแนวคิดการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และสื่อดิจิทัล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ตามแผนงานการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง โดยตระหนักว่า จังหวัดสมุทรสงครามมีผลผลิตทางการเกษตร และอาหารที่มีชื่อเสียงโดดเด่นหลายอย่าง สามารถนำมาพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแนวคิด “การท่องเที่ยวเชิงอาหาร” ได้ ซึ่งครอบคลุมกับเศรษฐกิจอื่น ๆ อาทิ การเกษตร การประมง และการบริโภคสินค้าจังหวัด นักวิจัยได้ออกแบบเส้นทางอาหารที่น่าสนใจ พร้อมชุดข้อมูลอาหาร ถ่ายทอดเป็นเรื่องเล่า (Story telling) ช่วยเพิ่มมูลค่าอาหาร ประกอบด้วย 3 เส้นทาง คือ เส้นทางพืชผลทางการเกษตรแลชุมชนเกษตรท่องเที่ยว ที่ปรากฏผลิตผล อาทิ มะพร้าว ส้มโอ ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม และใบชะครามจากนาเกลือ เส้นทางปลาทูและอาหารทะเลชายฝั่งของดีเมืองแม่กลอง อาทิ กะปิคลองโคน หอยหลอด และสุดท้าย คือ เส้นทางขนมหวานเมืองสมุทร ที่ดึงจุดเด่นและเรื่องเล่าของขนมหวานที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งทั้งสามเส้นทางล้วนสอดแทรกเอกลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงครามไว้ทั้งสิ้น


ดร.นิตินันท์ ศรีสุวรรณ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการท่องเที่ยว คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ในฐานะหัวหน้าโครงการ เผยว่า จากการวิจัยและออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวแล้ว จึงได้ผลิตผลจากการวิจัย คือ ระบบเทคโนโลยีไกด์อัจฉริยะ และระบบ AR ชุดข้อมูลอาหารท่องเที่ยว ที่เป็นรูปธรรรม สามารถตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนและเกษตรกร ในการใช้เทคโนโลยีประกอบอาชีพในยุคดิจิทัล และช่วงการระบาดโรคโควิด-19 ที่ต้องลดการสัมผัส และเว้นระยะห่างทางสังคม โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มชุมชน เกษตรกร หน่วยงานระดับจังหวัด ได้แก่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม หน่วยงานระดับท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบล ธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร รวมทั้งนักท่องเที่ยว ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชุมชนสามารถต่อยอด เพื่อสร้างรายได้ทางอื่นได้อีก เช่น การจำหน่ายสินค้าออนไลน์ การสร้างสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐ ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีไปสนับสนุนโครงการ/นโยบาย เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้การท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนภายหลังการเปิดประเทศจากสถานการณ์โควิด-19


“ในอนาคต ต้องการถ่ายทอดองค์ความรู้และขยายผลการท่องเที่ยวชุมชนสร้างสรรค์ และเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มมากขึ้น ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในเขตภาคกลางตอนล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีเอกลักษณ์แบบผสมผสาน ขณะนี้ระบบไกด์อัจฉริยะอยู่ในช่วงพัฒนาด้านเทคนิคให้สมบูรณ์พร้อมใช้ ส่วนชุดข้อมูลอาหารท่องเที่ยว ได้รวบรวมข้อมูลสำเร็จไปแล้วกว่า ร้อยละ 90 แม้จะวันหนึ่งโควิด-19จะหมดไปแล้ว แต่นวัตกรรมเหล่านี้ยังคงอยู่ และพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับวิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ สามารถเป็นต้นแบบของความเข้มแข็งในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวิถีเกษตรได้” ดร.นิตินันท์ กล่าวเสริม


เทคโนโลยีระบบไกด์อัจฉริยะ ภายใต้ชื่อ “Samut Food smart guide by Rmutp” ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเส้นทางการท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสงคราม สามารถรับฟังคำบรรยายด้วยระบบเสียงและภาพ แบบ 3D ประกอบกับการใช้ ระบบ AR (Augmented Reality) เทคโนโลยีภาพเสมือนจริง ให้นักท่องเที่ยวสแกนผ่าน QR Code บนป้ายที่ติดตั้งตามจุดเส้นทางต่าง ๆ ให้สามารถเข้าถึงชุดข้อมูลอาหารที่มีชื่อเสียง ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนอีกจำนวนมากได้
























7984
“เพื่อนเธอ” เพลงอบอุ่นหัวใจใน POTATOxFRIENDS




              ปล่อยเพลงออกมารัวๆ ให้ได้ฟังกันอย่างหัวมัน สำหรับวงร็อค​ POTATO​ กับอัลบั้มที่ 8​POTATOxFRIENDS​ ที่ไม่มีแผ่วปล่อยเพลงออกมารวดเดียว 10 เพลง​ ทำนองที่มีเธอ, ยังมีฉัน, คนตัวเล็ก, หมดความหมาย, อีกไม่ช้า, ทำเป็นเล่น, สิ่งไม่มีชีวิต, พูดไม่ได้, เพื่อนเธอ​ และ​ ไม่มีคำจำกัดความ​ ทำเอาแฟนเพลงเต็มอิ่มกับความมันแบบสนุกฉุดไม่อยู่กันเลยทีเดียว






              ล่าสุดเพลง​ เพื่อนเธอ เพลงนี้เป็นหัวใจสำคัญของอัลบั้มนี้เลย ดนตรีมีความละมุน ไม่ได้มีความร็อคจัดจ้านเหมือนเพลงอื่นๆ เป็นเพลงสบายๆ เนื้อหาพูดถึงการมีเพื่อนที่ดี คอยอยู่เคียงข้าง คอยปลอบใจกัน บางครั้งแค่ได้อยู่ใกล้ๆ โดยไม่ต้องพูดอะไรก็รับรู้ได้ว่าคือการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน






              ทุกเพลงในอัลบั้มของ​ POTATOxFRIENDS บอกเลยว่าสุดจัดปลัดบอก โดนใจคอร็อคหัวมันแบบสุดๆ ยิ่งได้ชมไลฟ์สตรีมมิ่ง รวมทุกเพลงของ POTATO​ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพแล้ว ยิ่งทำให้แฟนเพลงคิดถึงเวทีคอนเสิร์ตเต็มๆ ที่อยากจะได้เจอตัวเป็นๆ ของวง POTATO​ แล้วล่ะ คิดว่าคงอีกไม่นานเกินรอ ปักหมุดรอฟังข่าวดีกันได้เลย

#เพื่อนเธอ
#POTATO
#ปั๊บ โปเตโต้
#POTATOxFRIENDS

7985
“พั้นช์ วรกาญจน์” เพลงช้ามาแรง...ปล่อยเพลงไหนก็โดน!!




              เป็นศิลปินหญิงที่ต้องบอกเลยว่า ปล่อยเพลงไหนมาก็โดนใจแฟนเพลงตลอด พั้นช์ วรกาญจน์ โรจนวัชร ร้องเพลงไหนก็เพราะ เพลงแนวอกหักช้ำรักต้องพั้นช์เท่านั้น หลายคนมักจะชื่นชอบการร้องเพลงของผู้หญิงตาแดงๆ คนนี้ เพราะร้องเพลงได้ซึ้งกินใจจนแจ้งเกิดในเพลงช้ามาหลายต่อหลายเพลงแล้ว




              ทุกเพลงของสาวพั้นช์นั้นล้วนแต่มาแรง ไม่ว่าจะเป็นเพลง​ ไม่เคยอยู่ในสายตา เพลงประกอบละครรักสุดฤทธิ์​ ไม่ถือสาแต่ว่ารู้สึก, วางมือบนบ่าน้ำตาก็ไหล, ยิ่งกว่าเสียใจ, เก็บความห่วงใยไว้ใช้กับคนที่เธอรัก, แปลว่ายังหายใจ, ฟ้าลวงฟ้าลืม, ยังไงก็คงไม่มีวันนั้น เพลงประกอบละครเรื่องรุ้งร้าว​ ลืมไม่ลง คงไม่ลืม, อย่าปล่อยให้ฉันฝันไปคนเดียว​ เพลงประกอบละครท่านชายในสายหมอก เพลงตาแดงแดง ที่ร้องคู่รุ่นพี่พลพล พลกองเส็ง เพลงนี้จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ เพราะเป็นอีกเพลงที่เรียกว่าแจ้งเกิดสาวตาแดงๆ คนนี้เลยก็ว่าได้ ล่าสุดกับเพลง​ เก็บซ่อน​ ที่ยอดวิวพุ่งทะลุ 100 ล้านวิวไปไม่นานมานี้ เจ้าตัวรีบไปวิ่งแก้บนยกใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเพลง​ สัมผัส​ ที่ปล่อยให้แฟนเพลงได้ฟังฟินๆ กันอย่างต่อเนื่อง






              ล่าสุดแว่วว่าเจ้าตัวเตรียมเพลงใหม่ไว้ให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงกันแล้ว แต่จะเป็นเพลงช้าหรือเพลงเร็ว ยอดวิวจะทะลุพดานอีกป่าวมาลุ้นกัน

#พั้นช์ วรกาญจน์#ช้ำแล้วช้ำเล่า#khaosanentertainment

7986
ดีอีเอส - ดีป้า ลุยเมกะโปรเจกต์ HACKaTHAILAND - New Normal : Digital Possibilities
เสริมทักษะดิจิทัลประชาชน รวมพลคนรุ่นใหม่ ‘เปลี่ยน’ ประเทศไทย
เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย


               18 พฤศจิกายน 2564, กรุงเทพมหานคร - ดีอีเอส​ และ​ ดีป้า​ ร่วมจัดงานแถลงข่าว ประกาศความร่วมมือพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เดินหน้าเมกะโปรเจกต์ประเทศไทยในชื่อ​ HACKaTHAILAND​ ภายใต้แนวคิด New Normal : Digital Possibilities โดยหวังเป็นส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 คลี่คลาย ด้วยการส่งเสริมและยกระดับทักษะดิจิทัลแก่ประชาชน รุกจัดนิทรรศการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมเปิดเวที Hackathon ระดมความคิด เฟ้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาระดับชาติจากคนดิจิทัลรุ่นใหม่ ก่อนนำผลงานต่อยอดใช้จริง เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล คาดสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจมากกว่า 500 ล้านบาท


               นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ถือเป็นปัจจัยเร่งให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกมิติ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวันของภาคประชาชนที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ดังนั้นกระทรวงดิจิทัลฯ จึงต้องเร่งพัฒนาทักษะและเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านดิจิทัลแก่ ‘คน’ ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ โดย​ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เล็งเห็นความสำคัญในการยกระดับทักษะและองค์ความรู้ด้านดิจิทัลแก่ประชาชน จึงได้ดำเนินโครงการ​ HACKaTHAILAND​ ที่จัดภายใต้แนวคิด New Normal : Digital Possibilities อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่จะสร้างการรับรู้แก่ภาคเศรษฐกิจและสังคมให้ได้เห็นว่า​ “ดิจิทัลสร้างให้ทุกโอกาสเกิดขึ้นได้” พร้อมมุ่งส่งเสริมสนับสนุนประชาชนทุกกลุ่มให้สามารถเข้าถึงความรู้และยกระดับทักษะดิจิทัลที่สำคัญ ก่อนนำพาประเทศเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม


               ด้าน​ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า​ กล่าวว่า โครงการ​ HACKaTHAILAND เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า พร้อมด้วยพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างความตระหนักถึงความสำคัญควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ด้านดิจิทัล (Digital Literacy) แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นบัณฑิตจบใหม่ ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ นักพัฒนาและสร้างสรรค์ที่ต้องการยกระดับทักษะอาชีพ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลที่สนใจ รองรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) หลังโควิด-19 คลี่คลาย


               ผศ.ดร.ณัฐพล​ กล่าวต่อว่า โครงการ​ HACKaTHAILAND​ ประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลักที่สอดประสานกัน ได้แก่​ HACKaTHAILAND Learning Platform​ กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับผู้สนใจโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เรียนจบรับใบประกาศนียบัตรรับรอง ซึ่งสามารถเริ่มเรียนได้ตั้งแต่วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2564) เป็นต้นไป จากนั้นผู้ที่สำเร็จการศึกษาจะได้โอกาสในการรวมทีมเข้าร่วมกิจกรรม​ HACKaTHAILAND Competition & Beyond HACKaTHAILAND​ การแข่งขัน Hackathon ระยะเวลา 168 ชั่วโมง เพื่อเฟ้นหา 10 สุดยอดทีมร่วมแก้ไขปัญหาที่ถือเป็นโจทย์ใหญ่ระดับประเทศ ก่อนนำผลงานต่อยอดใช้จริงกับหน่วยงานต่าง ๆ ต่อเนื่อง 1 เดือนภายหลังจบการแข่งขัน


               ในส่วนของภาคประชาชน ผู้ประกอบการ รวมถึงนักลงทุนจะได้สัมผัสประสบการณ์และรับความรู้ด้านดิจิทัลผ่านกิจกรรม​ HACKaTHAILAND Hybrid Exhibition นิทรรศการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลแห่งอนาคต ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลจากบริษัทเทคดิจิทัลชั้นนำ และดิจิทัลสตาร์ทอัพ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ กิจกรรมยกระดับทักษะเชิงปฏิบัติการ กิจกรรมเพิ่มโอกาสในการหางาน (Job Fest) การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) การแข่งขันโดรน การแสดงของน้อง ๆ GEN Z ฯลฯ ซึ่ง​ HACKaTHAILAND Hybrid Exhibition​ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึง 13 มีนาคม 2565 บนพื้นที่รวม 6,000 ตารางเมตรของ เลเจนด์ สยาม และสวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี


               “HACKaTHAILAND​ จะช่วยเสริมสร้างความพร้อมให้กับประชาชน รองรับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล (Digital Transformation) เป็นส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 คลี่คลาย ด้วยการส่งเสริมและยกระดับทักษะและองค์ความรู้ด้านดิจิทัลแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN Digital Hub) ซึ่ง​ ดีป้า​ ประเมินว่า​ HACKaTHAILAND​ จะสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจได้มากกว่า 500 ล้านบาท มีผู้สนใจร่วมกิจกรรม​ HACKaTHAILAND Learning Platform จำนวน 5,000 คน ประชาชนเข้าชมนิทรรศการในกิจกรรม​ HACKaTHAILAND Hybrid Exhibition​ ผ่านระบบออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดระยะเวลา 21 วันของการจัดงานมากกว่า 100,000 คน และผลงานของ 10 สุดยอดทีมจากกิจกรรม​ HACKaTHAILAND Competition & Beyond HACKaTHAILAND​ จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า​ กล่าว


               พร้อมกันนี้ ในงานแถลงข่าวยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ​ การทำเกษตรแนวใหม่ จาก​ นายชาคริต แย้มนาม นักแสดงชื่อดัง และร่วมเสวนาพิเศษในหัวข้อ​ เปิดหลักสูตร HACKaTHAILAND Online Learning กับ​ นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า และผู้แทนจาก สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย สมาคมไทยไอโอที สมัชชาผู้ใช้โดรนแห่งประเทศไทย สมาคมเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย และ บริษัท ซีเจเวิร์ค จำกัด




               ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการ​ HACKaTHAILAND​ ได้ที่ www.hackathailand.com เฟซบุ๊ก : HACKaTHAILAND และ Line OA : depaThailand

7987
มิวเซียมสยาม ขอพาไปพบกับตรรกะแห่งความหวัง ชวนเรียนรู้สังคมไทยและปรากฏการณ์หวย
ในนิทรรศการหมุนเวียนประจำปี “หวยแหลก แตกประเด็นคนเล่นหวย”


               มิวเซียมสยาม​ จัดนิทรรศการสุดพิเศษประจำปี “หวยแหลก แตกประเด็นคนเล่นหวย” โดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) ชวนคนไทยไปเรียนรู้สังคมไทย ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ปรากฏการณ์หวยระดับประเทศที่เชื่อมโยงคนไทย โดยนิทรรศการจะบอกเล่าเรื่องราวกำเนิดความเป็นมาของหวย ลอตเตอรื่ สลากกินแบ่งรัฐบาล โครงสร้างการตลาดของหวย การกำหนดกลไกทางการตลาดของกลุ่มยี่ปั๊ว ชีวิตคนขายเร่ และวิถีชีวิตตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์ที่สอดแทรกสาระความรู้ ไปพร้อมกับความสนุก และกิจกรรมในรูปแบบ PLAY + LEARN มาร่วมเปิดประตูดวงไปด้วยกัน ตั้งแต่วันนี้  - 27 กุมภาพันธ์ 2565 ณ มิวเซียมสยาม MRT สนามไชย ทางออก 1


               นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) กล่าวว่า “ในทุกปีมิวเซียมสยามจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งเป็นนิทรรศการระยะเวลา 3-5 เดือน อย่างที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น นิทรรศการ “ล่อง รอย ราชดำเนิน: นิทรรศการผสานวัย” นิทรรศการ “พระนคร on the Move”: “สามยอด-วังบูรพา-พาหุรัด” เป็นต้น ภายใต้แนวคิดการจัดนิทรรศการเพื่อจุดประกายและสร้างเสียงสะท้อนแก่สังคม ปลูกฝังวัฒนธรรมการเรียนรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์ การหยิบยกเรื่องราวประวัติศาสตร์สังคม วิถีชีวิตความเป็นไทย รวมถึงกระแสสังคมในประเด็นต่างๆ มาพัฒนาเนื้อหาและนำเสนอผ่านรูปแบบ นิทรรศการที่มุ่งเน้นการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชม ผ่านสื่อที่หลากหลาย ที่จะสามารถส่งเสริมให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ และเข้าใจในประเด็นดังกล่าวมากยิ่งขึ้น ตลอดจนจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ให้ผู้เข้าชมได้สนุกและพัฒนาความคิด หรือได้เกิดแรงกระเพื่อมเชิงบวกทางสังคมต่อประเด็นนั้นๆ




               สำหรับปี 2564 นี้ มิวเซียมสยาม ได้เลือกประเด็นการจัดแสดง นิทรรศการหมุนเวียนเรื่อง “หวยแหลก แตกประเด็นคนเล่นหวย” เพื่อต้องการให้คนไทยได้เรียนรู้สังคมผ่านเรื่องราวของหวยและวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับหวย โดยเนื้อในนิทรรศการแบ่งเป็น 4 ประเด็น ได้แก่ การเกิดขึ้นของหวย ลอตเตอรี่  พ่อค้าคนกลางใน การจัดจำหน่าย  พ่อค้าเร่ขายหวย และกลุ่มคนซื้อ เพื่อให้เราเห็นถึงมุมมองและโครงสร้างต่าง ๆ โดยการจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้ ทางทีมพัฒนาก็ได้จัดในรูปแบบการวางเนื้อหาเป็นลำดับเพื่อให้ผู้ชมสามารถเรียนรู้สังคมไทยผ่านหวยเป็นเรื่องร้อยเรียงกัน อาทิ การเกิดขึ้นของหวย โครงสร้างการตลาดของหวย การกำหนดกลไกทางการตลาด ชีวิตคนขายเร่ และประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ที่ขาดไม่ได้กับอีกประเด็นคือ เราจะเห็นถึงความเชื่อมโยงในเรื่องราวความเชื่อในศาสตร์ต่างๆ ของผู้ซื้อหวย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเชื่อทางศาสนา เทวดา ผี หรือสิ่งเหนือธรรมชาติมากมายตามความเชื่อของแต่ละคน เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในสังคมไทยตั้งแต่อดีตที่มาจนถึงปัจจุบัน การแสดงในแต่ละโซนจะมีกิมมิคและเทคนิคเพื่อเสริมการเรียนในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ หรือ Discovery Museum โดยการจัดแสดงนิทรรศการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและกองประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหาร กองบัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศที่ได้ร่วมสนับสนุนวัตถุจัดแสดงและเนื้อหาต่างๆ ที่ทำให้นิทรรศการนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมประกอบนิทรรศการให้ได้ร่วมสนุกไปด้วยกันอีกมากมายทั้งกิจกรรมเชิงพื้นที่และกิจกรรมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น workshop งานเสวนา และได้ร่วมมือกับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู จัดกิจกรรม “ส่งต่อความหวัง” โดยจะเชิญชวนให้บริจาคสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไม่ใช่แล้วส่งมอบให้กับทางหน่วยงานเพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมประดิษฐ์สิ่งของเพื่อเสริมสร้างทักษะและรายได้ให้แก่เด็กพิเศษอีกด้วย






               สำหรับช่วงเวลาการจัดแสดงนิทรรศการฯ สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ - 27 กุมภาพันธ์ 2565 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ณ โถงชั้น 1 อาคารนิทรรศการมิวเซียมสยาม (MRT สนามไชย ทางออก 1)






               ทั้งนี้ มิวเซียมสยามมีการจัดการดูแลและให้ความสำคัญกับผู้ที่มาเข้าชมนิทรรศการฯ ด้วยมาตรการด้านสุขอนามัยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ทางเข้าชมนิทรรศการฯ มีจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ ไปจนถึงการทำความสะอาด ฉีดพ่นฆ่าเชื้อบริเวณในพื้นที่และจำกัดการเข้าชม 20 ท่าน/รอบ สอบถามข้อมูลและติดตามข่าวสารกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่​ www.facebook.com/museumsiamfan และ www.museumsiam.org หรือโทร 02-225-2777

7988
แคมเปญ “COLOURS BY EUROPE. TASTES OF EXCELLENCE.”
นำเสนอแคมเปญกระตุ้นการค้าปลีก (Retail Activation) ครั้งแรกในประเทศไทย

สหภาพยุโรป (EU) ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล พร้อมเปิดตัวกิจกรรมการค้าปลีกและโปรโมชันสี่งาน เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนมกราคม 2565


กรุงเทพฯ ประเทศไทย - แคมเปญ “Colours by Europe. Tastes of Excellence.” นำเสนอกิจกรรมกระตุ้นการค้าปลีก (Retail Activation) ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์  สาขา เซ็นทรัล เวิลด์ โดยได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี แคมเปญกระตุ้นการค้าปลีกนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรป และ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อต้อนรับบรรดานักชิมให้มาลิ้มรสผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อการเกษตรอันหลากหลายจากสหภาพยุโรป (EU)


การจัดแคมเปญกระตุ้นการค้าปลีกและโปรโมชันสี่งานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมคุณภาพ ความปลอดภัย ความถูกต้องและความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของสหภาพยุโรป ตั้งแต่เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม ผักและผลไม้ ไปจนถึงพาสต้า ซีเรียล น้ำมัน ขนมหวาน ไวน์ เบียร์ สุรา และอื่น ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย แคมเปญกระตุ้นการค้าปลีกทั้งสี่งานในครั้งนี้ จะขึ้นครั้งละสองสัปดาห์ โดยจะมีขึ้นตลอดเดือนตุลาคม 2564 ไปจนถึงเดือนมกราคม 2565 โดยจะมีการโปรโมทผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำข่าวประชาสัมพันธ์ การสื่อสารร่วมกับ KOL การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย และการจัดกิจกรรมในร้าน


“ความร่วมมือด้านการค้าปลีกกับเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของเราในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากสหภาพยุโรปเป็นจำนวนมาก นี่จึงเป็นโอกาสอันน่าตื่นเต้นสำหรับเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ส่งออกของสหภาพยุโรปในการแสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในขณะที่เชื่อมโยงผู้บริโภคชาวไทยกับสินค้าใหม่ ๆ ที่พวกเขาสามารถค้นพบและเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งแคมเปญ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทางการเกษตรหลากสีสันจากสหภาพยุโรปมาสู่ผู้บริโภคในประเทศไทย” ฯพณฯ นายเดวิด เดลี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย กล่าว


“สหภาพยุโรปเป็นที่ทราบกันดีในเรื่องของอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในแคมเปญ “Colours by Europe. Tastes of Excellence.” เรามุ่งมั่นที่จะจัดหาและส่งเสริมอาหารและการทำอาหารคุณภาพสูงจากทั่วทุกมุมโลกมาโดยตลอด เราตั้งตาคอยที่จะต้อนรับเหล่านักช้อปของเราให้มาสัมผัสอาหารสหภาพยุโรปโดยยึดมั่นตามหลักคุณธรรมประการสำคัญในซูเปอร์มาร์เก็ตของเรา” คุณ สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล กล่าว


“แคมเปญกระตุ้นการค้าปลีกนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ซื้อของเรามีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับแนวคิดของ "Farm to Fork" ของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับระบบอาหารที่รับประกันมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวดและการควบคุมคุณภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ผ่านห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดตั้งแต่ฟาร์มถึงโต๊ะอาหารและรับรองความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจในเวลาเดียวกัน แต่ละผลิตภัณฑ์มีฉลากกำกับอยู่ ดังนั้นผู้ซื้อจึงสามารถติดตามส่วนผสมและข้อมูลทางโภชนาการย้อนกลับไปยังต้นทางได้ทุกที่ในสหภาพยุโรปได้” คุณ สเตฟาน คูม กล่าว




นักช้อปสามารถเยี่ยมชมบูธงานกิจกรรมค้าปลีกครั้งที่สองได้ที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขา เซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 23 พฤศจิกายน งานครั้งที่สามจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ถึง วันที่ 21 ธันวาคม ที่ เซ็นทรัล บางนา ส่วนงานครั้งที่สี่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ถึง 18 มกราคม ที่ เซ็นทรัล ชิดลม นอกจากนี้เรายังจะนำเสนอแคมเปญผ่านฟู้ดทรัคของเราด้วย ฟู้ดทรัคเป็นวิธีใหม่ในการนำอาหารยุโรปสุดพิเศษส่งตรงไปถึงมือคุณ แคมเปญฟู้ดทรัคจะตั้งอยู่ในจุดสำคัญทั้งในและรอบกรุงเทพฯ นอกจากบูธและฟู้ดทรัลที่กล่าวไปข้างต้น นักช้อปสามารถเยี่ยมชมช่องทางอีคอมเมิร์ซของแคมเปญเพื่อสัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เด่นของสหภาพยุโรปและโปรโมชันสุดพิเศษตลอดระยะเวลาของแคมเปญได้ที่​ LINK แอปพลิเคชัน Grab และบริการ Personal Shopper บน LINE @TopsThailand




ติดตามเราและเข้าร่วมแคมเปญของเรา! รับชมวิดีโอเปิดตัวการค้าปลีกของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารสหภาพยุโรปและกิจกรรมการค้าปลีกของเราไปกับ มาร์วิน ทวีผล นักแสดงชื่อดัง นักชิมและกูรูสายกินในชื่อ “Marwin eating guru” ที่​ (LINK)

ติดตามข่าวสารของกิจกรรม ได้ที่ Facebook, Instagram และ Website
ร่วมสำรวจโลกแห่งสีสันและอร่อยล้ำไปกับผลิตภัณฑ์อาหารทางการเกษตรต่างๆ จากสหภาพยุโรป
เหล่านักชิมได้รับเชิญให้ติดตามแคมเปญของเราได้ในบัญชีโซเชียลมีเดียต่างๆ

#coloursbyEurope #tastesofexcellence #euagrifood #EnjoyItsFromEurope
#ชีวิตต้องมีสีสัน #สีสันแห่งรสชาติ

7989
Sea (ประเทศไทย) เผยความสำเร็จโครงการ DOTs
บ่มเพาะผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ พร้อมผลักดันการเติบโตธุรกิจ SME ไทยอย่างยั่งยืน
ทีม Five More Minutes คว้ารางวัลชนะเลิศ ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจโดดเด่น ส่งเสริมร้านค้าได้จริง


กรุงเทพฯ, พฤศจิกายน 2564 - ในที่สุด โครงการ Digital Opportunities for Talents (DOTs) ประจำปี 2564 ภายใต้โจทย์ “SME Solution Lab” ซึ่งจัดขึ้นโดย Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (SeaMoney) ก็ได้ดำเนินมาถึงโค้งสุดท้าย ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการราว 1,000 คน ได้ถูกคัดเลือกจนเหลือเพียงผู้เข้าร่วมโครงการ 50 คน (25 ทีม) ก่อนจะเข้าร่วมเวิร์กช็อปและแข่งขันอย่างเข้มข้นจนเหลือ 4 ทีมสุดท้าย ที่ได้เข้าร่วมงานประกาศผลรางวัลรอบสุดท้าย (Final Presentation) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้จากผลลัพธ์ความสำเร็จจากประสบการณ์การลงมือทำจริงตลอดระยะเวลา 2 เดือน และร่วมคว้าเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท โดยทีม Five More Minutes นายธรรมปพล มะโนวรรณ และ นางสาวณัชชา เวชพานิช เป็นผู้ที่คว้ารางวัลชนะเลิศไปได้ด้วยแผนธุรกิจสำหรับร้าน FLET tumbler นวัตกรรมแก้วน้ำพร้อมแท่งเก็บความเย็นรักษ์โลก


นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการแข่งขันอย่างเข้มข้นเกือบ 2 เดือน ผู้เข้าแข่งขันได้พัฒนาทักษะและแสดงออกถึงศักยภาพ พร้อมเติบโตเป็นผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ในอนาคต ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้เข้าแข่งขันได้ทำงานร่วมกับเจ้าของร้านค้า SME ในการพัฒนากลุยทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาจริงสำหรับร้านค้าที่ได้รับมอบหมาย โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก Sea (ประเทศไทย) และช้อปปี้คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ด้านร้านค้าก็ได้แนวคิดใหม่ ๆ ในการเติบโตทางธุรกิจ Sea (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดโครงการฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้มีทักษะสำคัญของผู้ประกอบการดิจิทัล เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพในอนาคต พร้อมกันนี้ ยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการที่เผชิญกับอุปสรรคในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายของ Sea (ประเทศไทย) ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและยกระดับการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยด้วยเทคโนโลยี พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Digital Nation ด้วยการพัฒนา Digital Talent โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป ”


ตลอดระยะเวลาโครงการฯ ผู้เข้าแข่งขันได้รับการบ่มเพาะทักษะและองค์ความรู้ที่สำคัญในการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล ผ่านกิจกรรมจัดหลักสูตรอบรม หรือ Bootcamp ที่ทางโครงการจัดสรรวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา มาถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อปูพื้นฐานทักษะธุรกิจดิจิทัล เรียนรู้หลักการบริหาร การตลาด การสร้างแบรนด์ และเทคนิคการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ บนช้อปปี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้เข้าแข่งขัน พร้อมที่จะร่วมกันพัฒนาแนวทางการสร้างการเติบโต ให้ SME ไทยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ก่อนเข้าสู่ช่วงการแข่งขัน วางแผนกลยุทธ์ และลงมือทำจริงร่วมกับผู้ประกอบการ 25 รายที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ โดยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมงาน Sea (ประเทศไทย) พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญ หรือ Mentor จาก ช้อปปี้ ในส่วนของร้านค้าที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการก็ได้รับโควตาสนับสนุนพิเศษ ในการเข้าร่วมแคมเปญ Flash sale รวมถึง Shopee Ads credit รวมมูลค่ากว่า 10,000 บาทต่อทีม เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันและร้านค้าได้ทดลองทำการตลาดและพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดระยะเวลาภายในโครงการ และสืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาทางโครงการฯ จำเป็นที่จะต้องจัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ แต่ทั้งนี้ทางโครงการฯ ก็ได้ปิดช่องว่าง โดยพยายามจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องที่มุ่งเน้นผลักดันให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ (Sharing and Networking) และ ระหว่างผู้เข้าแข่งขันตลอดระยะเวลาในโครงการฯ


เร็ว ๆ นี้ โครงการฯ ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยด้วยความสำเร็จผ่านงานประกาศผลรางวัลรอบสุดท้าย (Final Presentation) ผ่านช่องทางออนไลน์ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขัน 4 ทีมสุดท้ายได้แสดงศักยภาพผ่านการนำเสนอแผนการดำเนินงานพร้อมส่งต่อความรู้สู่สังคมวงกว้าง รวมทั้งแบ่งปันเรื่องราวแรงบันดาลใจในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา SME ไทยให้เติบโตในยุคดิจิทัล ผ่านประสบการณ์การจริงที่ได้ร่วมดำเนินงานกับผู้ประกอบการตลอดระยะเวลาโครงการฯ ในการตัดสินผลการแข่งขันรอบสุดท้าย โครงการ DOTs ได้รับเกียรติจาก ดร. ศรุต วานิชพันธ์ Director of Sea (Thailand), คุณฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa),คุณวชิระ แก้วกอ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ ดร. ศรพล ดุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ร่วมเป็นคณะกรรมการทรงคุณวุฒิตัดสินผลงานในรอบ 4 ทีมสุดท้ายนี้อีกด้วย


นายธรรมปพล มะโนวรรณ และ นางสาวณัชชา เวชพานิช จากทีม Five More Minutes ได้คว้ารางวัลชนะเลิศพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 80,000 บาท  โดยผลการดำเนินงานที่ทีม Five More Minutes ได้นำเสนอ แสดงให้เห็นว่า ทีมผู้เข้าแข่งขันได้นำความรู้และทักษะดิจิทัลที่ได้เก็บเกี่ยวตลอดโครงการฯ มาประยุกต์ใช้ในแผนการดำเนินงานเพื่อช่วยให้ FLET tumbler ร้านค้า SME ไทย สามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจบนช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช ได้อย่างแท้จริง โดยเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าก่อนร่วมโครงการถึง 4 เท่า เทียบกับก่อนช่วงเข้าร่วมโครงการ และยอดผู้ติดตามที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 คน ภายใน 7 สัปดาห์ นอกจากนั้นยังสามารถหากลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักกลุ่มใหม่ที่มีโอกาสซื้อของจากร้านค้า FLET นั่นก็คือ กลุ่มลูกค้ารักษ์โลกได้อีกด้วย

นางสาวณัชชา เวชพานิช ตัวแทนทีมผู้ชนะเลิศได้กล่าวถึงความประทับใจต่อโครงการฯ ว่า “รู้สึกดีใจที่ได้เลือกเข้ามาร่วมโครงการนี้ เพราะได้รับประสบการณ์ที่ดีเยอะมาก ทั้งความรู้ที่ทางทีมงานหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยติวเข้มข้นให้ แถมยังเจอร้านที่มี Mindset ดีมากๆ อยากจะลองทำการตลาดแบบไหน อยากลองทำอะไรใหม่ๆ พี่ๆ ร้านค้าสนับสนุนเต็มที่จนสุดท้ายก็ได้ผลลัพธ์ที่ทั้งเราและร้านค้าต่างก็พอใจทั้งคู่ ได้เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมๆ กัน”



นอกจากทีมชนะเลิศ ทีมอื่นๆ ที่เข้ารอบ Final Presentation ยังทำผลงานได้โดดเด่นและช่วยกระตุ้นการเติบโตของร้านค้าที่ได้รับมอบหมายได้จริง ไม่ว่าจะเป็นทีม Chip N’ Dale consulting กับร้าน Sanfun Sunday คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 มูลค่า 50,000 บาท ทีม Work Hard หาทำ Harder กับร้าน Hangry Monster คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 มูลค่า 30,000 บาท และทีม Double up กับร้าน Soapsoul คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 มูลค่า 10,000 บาท

ไม่เพียงเท่านี้ ทีมผู้แข่งขันอีกมากมายยังทำงานร่วมกับร้านค้าและทำผลงานได้เป็นที่น่าประทับใจ เราจึงมอบรางวัล Top Performance ให้กับอีก 4 ทีมที่สร้างการเติบโตของยอดขายได้สูงสุดภายใน 7 สัปดาห์ และมอบรางวัล Top Learner ให้กับอีก 4 ทีมที่เรียนรู้เร็วและทำผลงานได้ดีในช่วงเวิร์กช็อปและช่วงการลงมือสร้างกลยุทธ์ไปพร้อมกับร้านค้า โดยมอบรางวัลให้ทีมละ 5,000 บาท

ในโอกาสนี้ นายเติมศักดิ์ ลิ้มศิริรัตนกุล ผู้ประกอบการไทยจากร้าน FLET tumbler ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกจากโครงการและได้ร่วมดำเนินการกับทีมผู้ชนะตลอดโครงการได้กล่าวเสริมว่า “ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ DOTs การที่มีน้อง ๆ เข้ามาช่วยพัฒนาร้านค้าเหมือนกับการที่เพิ่มความหลากหลายของไอเดียและวิธีการทำตลาดใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ ทำให้สามารถเห็นโอกาสทางการขายเพิ่มในกลุ่มตลาดใหม่ ๆ รวมถึงวิธีการใช้โฆษณาและสื่อทางการขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โฟกัสการสื่อสารข้อมูลของแบรนด์ให้กับลูกค้าได้ตัดสินใจง่ายมากขึ้น”



ทั้งนี้ Sea (ประเทศไทย) ได้ร่วมงานกับ Tact Social Consulting ซึ่งเป็น Social Enterprise ที่เชื่อในการนำพลังของคนรุ่นใหม่ไปแก้ไขปัญหาสังคม ช่วยดำเนินการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมแข่งขันได้ร่วมพัฒนาธุรกิจ SME ทั้งหมด 25 ร้าน แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มแรกไม่เคยมีหน้าร้านบนอีคอมเมิร์ซ และได้เริ่มสร้างหน้าร้านออนไลน์และสร้างยอดขาย พร้อมเรียนรู้การขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นครั้งแรก กลุ่มที่ 2 มีหน้าร้านอีคอมเมิร์ซแต่ยังไม่เคยลงทุนด้านการตลาดก็ได้เรียนรู้วิธีการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์จนเห็นผล และกลุ่มสุดท้ายได้พัฒนาจากร้านค้าทั่วไป เป็นร้านค้าแนะนำบนแพลตฟอร์มช้อปปี้  นอกจากนี้ ร้านค้าทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการฯก็มียอดขายโดยเฉลี่ยบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ต่อวันเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 3.1 เท่า และยอดสั่งซื้อโดยเฉลี่ยเติบโตถึง 2.7 เท่า มีผู้เข้าชมร้านค้าโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 2.2 เท่าบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ และสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้มูลค่าโดยรวม 2.6 ล้านบาท ตลอดในช่วงเวลา 7 สัปดาห์ภายใต้โครงการฯ

ด้านผู้เข้าแข่งขันทั้ง 25 ทีมก็จะได้รับโอกาสพิเศษในการเข้าร่วมสัมภาษณ์งานกับบริษัทในเครือ Sea (ประเทศไทย) นอกจากนี้ Sea (ประเทศไทย) ยังมีแผนร่วมต่อยอดด้วยการสร้างเครือข่ายผู้ร่วมโครงการ DOTs รุ่นที่ 1 พร้อมเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเพื่อต่อยอดและสนับสนุนผู้ประกอบการในระยะยาว และร่วมเป็นต้นแบบในการผลักดัน SME ไทยในยุคดิจิทัลต่อไปในอนาคต



ผู้สนใจสนับสนุน 25 ร้านค้าในโครงการ DOTs สามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากร้านค้าทั้ง 25 ร้าน ภายใต้แคมเปญพิเศษ ซึ่ง Sea (ประเทศไทย) ให้การสนับสนุน พร้อมแจกคูปองส่วนลดพิเศษ 15% อีกด้วย ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 ธันวาคม 2564 ได้ที่​ https://shopee.co.th/m/DOTs-SMEsolutionlab

สำหรับผู้ประกอบการหรือคนรุ่นใหม่ ที่สนใจสมัครเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ DOTs : Digital Opportunities for Talents ในปี 2565 สามารถกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารได้ที่​ https://forms.gle/nWJ5LYqyMdbeKBe57

ติดตามข้อมูลข่าวสาร โครงการ Digital Opportunities for Talents (DOTs) ได้ที่

Website: www.dots.in.th
Facebook: www.facebook.com/dots.thailand
Instagram: www.instagram.com/dots.thailand
สามารถรับชมงานประกาศผลรางวัลย้อนหลังได้ที่:
https://www.facebook.com/events/28622702670115

###

เกี่ยวกับ Sea Limited

Sea Limited (NYSE: SE) เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มสำหรับผู้บริโภค ถูกก่อตั้งที่ประเทศสิงคโปร์ในปี 2552 มีพันธกิจของบริษัท คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและพัฒนาการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยด้วยเทคโนโลยี โดย Sea Limited ดำเนินธุรกิจหลัก 3 ด้าน ประกอบด้วย ดิจิทัลเอนเตอร์เทนเมนท์ (Digital Entertainment) อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) ดิจิทัลเพย์เมนต์และบริการการเงินดิจิทัล (Digital Payments and Financial Services) ได้แก่ การีนา (Garena) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและให้บริการเกมออนไลน์ชั้นนำระดับโลก ช้อปปี้ (Shopee) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน และซีมันนี่ (SeaMoney) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลเพย์เมนต์และการเงินดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สามารถติดตามข่าวสาร Sea Limited ในประเทศไทย ได้ที่ https://www.seathailand.com/

7990
นพ. พิสิฐ ตันติวัฒนากุล IBaby คลินิกผู้มีปัญหาการมีบุตรยากแนวหน้าของประเทศไทย ตัวช่วยของคนอยากมีลูก เน้นความปลอดภัยและแม่นยำ


                การมีลูกยากเป็นปัญหาที่หลายครอบครัวกำลังมีความกังวลใจกันอยู่เป็นอย่างมาก รวมถึงการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในขณะตั้งครรภ์ ก็เป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันนี้ที่หลายบ้านยังต้องเผชิญ วันนี้เราพามาคุยกับนายแพทย์ พิสิฐ ตันติวัฒนากุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรักษาผู้มีบุตรยากจาก iBaby Fertility & Genetic Center​ คลินิกรักษาผู้มีบุตรยากแบบครบวงจรอันดับต้นๆ ของประเทศไทย และยังโด่งดังไปไกลทั่วโลก มีชาวต่างชาติจำนวนมากตั้งใจบินตรงมาพบคุณหมอที่นี่ ซึ่งวันนี้เรามีโอกาสได้มาพูดคุยกับ คุณหมอ พิสิฐ ตันติวัฒนากุล รวมถึงทำความรู้จัก iBaby Fertility & Genetic Center เพื่อคลายข้อสงสัยและเป็นแนวทางให้กับหลายๆครอบครัวที่กำลังประสบปัญหาการมีบุตร


                เริ่มต้นด้วยจุดเด่นที่สุดของ iBaby คลินิกผู้มีปัญหาการมีบุตรยาก ที่สามารถแก้ปัญหาให้ได้อย่างตรงจุดและมีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จสูง มีหลายท่านที่อาจจะไปลองมาแล้วหลายที่ แต่ยังไม่ได้ผลตามที่ตั้งใจไว้ หรือเป็นเคสที่ค่อนข้างยาก แต่สุดท้ายก็สามารถมีลูกตามใจหวังที่เราเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะเป็นลูกค้าจากต่างประเทศที่ตั้งใจบินตรงมาปรึกษา สุดท้ายก็มาสมหวังที่ iBaby นอกจากนี้ปัจจัยที่ทำให้ iBaby โดดเด่นในแง่ของประสิทธิภาพการแก้ปัญหา คือ ห้องแล็บมาตรฐานสากลพร้อมทีมปฏิบัติการที่จบจากสถาบันชั้นนำระดับโลก มีความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อสุจิ ตัวอ่อน พันธุกรรม FISH, NGS, Single gene รวมถึงมีทีมปรึกษาทางด้าน genetics เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกันกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีที่นี่เทียบเท่าและพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้วและพันธุกรรมในมาตรฐานระดับโลก ยกตัวอย่างเช่น การตรวจนับจำนวนสเปิร์ม ที่ไม่ได้ใช้เพียงกล้องจุลทรรศน์เพื่อนับเท่านั้น แต่มีระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถนับจำนวนและดูความเคลื่อนไหวของสเปิร์มและแปลค่าเบื้องต้นออกมาได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที ตลอดจนสามารถทำงานติดตามผลกับทีมแล็บได้อย่างใกล้ชิด เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและหาทางออกได้อย่างดีที่สุด และลดการเกิดความเสี่ยงในการตกหล่น หรือสลับกันของผลตรวจ จากการต้องส่งตัวอย่างออกไปตรวจยังห้องแล็บนอกคลินิกอีกด้วย

                มากไปกว่านั้น คุณหมอ พิสิฐ เล่าเสริมว่า “บรรยากาศเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการที่จะเป็นจุดเริ่มต้นดี ๆ ของชีวิตน้อย ๆ หนึ่งชีวิต คลินิก iBaby จึงออกแบบมาให้มีสถานที่สะอาด กว้างขวาง ไม่แออัด มีความปลอดภัย เป็นส่วนตัว อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ซึ่งเป็นจุดเล็กๆ ที่ไม่มองข้ามเรื่องความสบายใจ ไม่ให้เกิดภาวะตึงเครียดของผู้มารับบริการ ซึ่งจะส่งผลต่อกระบวนการเริ่มต้น แก้ปัญหาให้กับผู้มีบุตรยาก”


                สำหรับคนที่กังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลถึงคนที่กำลังตั้งครรภ์หรือไม่ ถ้าตอบกันตามหลักวิทยาศาสตร์และผลการวิจัยที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ ยังไม่พบว่าผู้ที่กำลังตั้งครรภ์จะมีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไป หรือจะมีอาการร้ายแรงกว่าบุคคลทั่วไปเมื่อรับเชื้อ ดังนั้นสามารถสรุปได้สั้น ๆ ว่า ความเสี่ยงรวมถึงอาการหากได้รับเชื้อของผู้ตั้งครรภ์มีความรุนแรงมากน้อยพอ ๆ กับบุคคลทั่วไป ตอนนี้ยังไม่พบเคสการติดต่อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ผ่านทางรก และไม่พบเชื้อในน้ำนมจากตัวอย่างที่สุ่มตรวจ แต่โควิด-19 ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ อีกทั้งยังมีการอัปเดตผลการวิจัยอยู่ตลอดเวลา

                อย่างไรก็ตาม iBaby ได้รับเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นที่รู้จักและไว้ใจจากคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Iso 9001:2015, UK NEQAS: Reproductive science, GHA: Covid guideline, Gen QA: Genomic Quality Assessment จึงเป็นที่ไว้วางใจ และเชื่อใจได้สำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มชาวจีน ที่ประสบความสำเร็จจากการบอกต่อแบบปากต่อปาก คนจีนที่มารับการดูแลจากที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นเคสที่ค่อนข้างยาก และเมื่อลูกค้าชาวจีนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทาง iBaby จึงเตรียมทีมเจ้าหน้าที่ที่สามารถพูดภาษาจีนได้เป็นอย่างดีมาดูแล และอธิบายเป็นภาษาจีนอย่างละเอียดตลอดช่วงการรักษา ทำให้ชาวจีนประทับใจในบริการ และนำไปบอกต่อตาม social media ต่าง ๆ iBaby เลยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้มีบุตรยากของชาวจีนไปโดยปริยาย ปัจจุบันนี้น่าจะมีครอบครัวชาวจีนกว่า 10,000 ที่ประสบความสำเร็จในการมีบุตรกับ iBaby


                นายแพทย์ พิสิฐ ตันติวัฒนากุล กล่าวทิ้งท้ายว่า “หากมองเป็นวิทยาศาสตร์แบบง่ายๆ การมีบุตรที่สมบูรณ์ต้องเกิดจากอสุจิจากเพศชายที่แข็งแรง และไข่จากเพศหญิงที่สมบูรณ์ ดังนั้น คู่ที่ต้องการมีบุตร ควรตรวจร่างกาย ตรวจเม็ดเลือด พาหะธาลัสซีเมีย กรุ๊ปเลือด โรคติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับการมีบุตร ถ้าพบความผิดปกติอาจจะต้องทำการแก้ไขก่อนการปล่อยให้มีบุตร หรือระหว่างการตั้งครรภ์ก็สามารถทราบความเสี่ยงของโรคของทารกในครรภ์เพื่อตรวจวินิจฉัยต่อไป ปัจจุบันมีการตรวจเพื่อการทราบโอกาสการมีบุตรของฝ่ายชายโดยการตรวจอสุจิเรื่องจำนวน การเคลื่อนไหวและรูปร่าง หรือตรวจอัลตราซาวด์ในฝ่ายหญิง เพื่อดูภาวะซีสต์หรือเนื้องอกที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการมีบุตร แม้กระทั่งการเจาะเลือดตรวจ AMH ก็สามารถทราบจำนวนไข่พื้นฐานได้ ซึ่งปัจจุบันไม่จำเป็นต้องลองปล่อยให้มีบุตรไปก่อนแล้วค่อยมารักษา ถ้าเราทราบแนวโน้มที่จะมีบุตรยากก็สามารถทำการรักษาได้เลยหลังแต่งงาน”


                ผู้ที่มีปัญหาการมีบุตรยาก หรืออยากทำเด็กหลอดแก้ว สามารถดูข้อมูลเบื้องต้นได้ทาง https://ibabyfertility.com และสามารถทำการนัดหมายเข้ามาปรึกษาคุณหมอได้ที่คลินิก iBaby ที่ ชั้น 11  อาคารแอทธินี ทาวเวอร์ ติดกับโรงแรมแอทธินี ถนนวิทยุ

7991
BEST Express ปันน้ำใจช่วยโควิด ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้


                นายกัมปนาท อนุตรภิญโญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ และผู้บริหารแฟรนไชส์ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) สาขาสาทร พร้อมด้วย นางสาวศิรินทิพย์ จริยคุณ ผู้จัดการแผนกการตลาด บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และคณะ เดินหน้าสานต่อโครงการ “BESTปันสุขเพื่อสังคม” ร่วมมอบสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ทางช่อง 3 โดยมีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เป็นผู้รับมอบเครื่องผลิตออกซิเจน หน้ากากอนามัย ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเด็กและผู้ใหญ่ นมพร้อมดื่ม UHT และผ้าห่ม รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท เพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่ได้ทำอย่างต่อเนื่องของ BEST Express ณ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ พระราม 4 กรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

7992
REAL ASSET จัดโปรแรงที่สุดแห่งปี
END YEAR SALE พร้อมปิดทุกดีล!!


                REAL ASSET จัด Big Campaign แห่งปี  "END YEAR SALE โปรแรงสุด พร้อมปิดทุกดีล !! “   กับ 8 โครงการบนทำเลศักยภาพ ทองหล่อ ห้วยขวาง บางนา วงแหวน ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ได้แก่ โครงการ LAVIQ Sukhumvit  57 , THE STAGE Mindscape Ratchada – Huai Khwang , วิรัณยา วงแหวน - อ่อนนุช , เพล็กซ์ อ่อนนุช - วงแหวน , เซนส์ บางนา - สุวรรณภูมิ , เซนส์ สายไหม 56 , สตอรี่ส์ บางนา – สุวรรณภูมิ และ  สตอรี่ส์ รังสิต – วงแหวน ราคาสุดพิเศษที่พลาดไม่ได้จริงๆ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.79-19.9 ล้านบาท พร้อมรับโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย* อาทิ iPhone 13 Pro Max , Voucher ที่พักโรงแรม Intercontinental Huahin และ ส่วนลดสูงสุดกว่า 2 ล้านบาท วันนี้ – 15 ธันวาคมนี้เท่านั้น สนใจลงทะเบียนได้ที่  https://www.realasset.co.th//campaign/end-year-sale  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1232

                สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วรินทร์ธร อนันตศิลากุล (โบว์) General Manager : Corporate Communication โทร 0624455459

###

รายละเอียดแต่ละโครงการเพิ่มเติม

LAVIQ Sukhumvit  57 ( เริ่ม 8.99 – 19.9 ลบ.*)

คอนโดพร้อมเข้าอยู่ ระดับ Super luxury ส่วนตัวเพียง 235 ยูนิต บนทำเลใจกลางสุขุมวิท เพียง 100 เมตรจาก BTS Thonglor Skywalk พร้อมที่จอดรถ 100% ที่ให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน และยูนิตพิเศษ  Duplex Corner (เฉลี่ยตารางเมตรละ 20X,XXX) พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษ ฟรีค่าส่วนกลาง 3 ปี

THE STAGE Mindscape Ratchada – Huai Khwang ( เริ่ม 2.9 ลบ.*)

คอนโดใหม่ ใกล้ MRTห้วยขวาง เพียง 250 เมตร เพียง 4 สถานีถึงใจกลางสุขุมวิท  แปลนห้องหน้ากว้าง ระเบียงใหญ่ พร้อม Multi-function Space  ส่วนกลางจัดเต็มรองรับ 24 ชม. เช่น City Gym, Co-passion Space, Multi Scape, Mind Oasis, Private Studio เป็นต้น  จองเพียง 5,000 บาท ผ่อนเบา เริ่ม 5,900 บาท ต่อเดือน 3 ปีเต็ม (เฉลี่ยตารางเมตรละ 100,000 ต้นๆ เท่านั้น)

วิรัณยา วงแหวน - อ่อนนุช ( เริ่ม 7.59 ลบ.*)

บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน ส่วนกลางกว่า 3 ไร่ บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่  เพียง 15 นาทีถึงใจกลางพระราม 9 พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 2,000,000 บาท

เซนส์ สายไหม 56 ( เริ่ม 5.89 ลบ.*)

บ้านหลังใหญ่ 4 ห้องนอน  Hub of living   ใกล้กับ BTS สถานี คูคต และสนามบินดอนเมือง

เซนส์ บางนา - สุวรรณภูมิ  ( เริ่ม 4.79 ลบ.*)

บ้านเดี่ยว สไตล์โมเดิร์นสแกนดิเนเวียน 4 ห้องนอน ส่วนกลางสวยเหมือนอยู่ต่างประเทศ 365วัน​ 15 นาที ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ  พร้อมส่วนลดสูงสุด 800,000 บาท

เพล็กซ์ อ่อนนุช - วงแหวน  ( เริ่ม 4.39 ลบ.*)

ทาวน์โฮม 3 ชั้น ฟังก์ชั่นบ้านเดี่ยว ทำเลศักยภาพ ถนนใหญ่ 4 เลน ใกล้ MEGA Bangna เชื่อมต่อพระราม 9 เพียง 15 นาที  พร้อมโปรฯ ฟรีเฟอร์นิเจอร์และแอร์ทั้งหลัง

สตอรี่ส์ บางนา - สุวรรณภูมิ  ( เริ่ม  2.79 ลบ.*)

ทาวน์โฮม 2 ชั้น สวยสง่า สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก คลับเฮ้าส์หรู พร้อมฟิตเนส สระว่ายน้ำ
Wellness Park ที่จะทำให้คุณสุขภาพดีทุกๆวัน  15 นาที ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ  เริ่มผ่อนเบาๆ เพียง 4,500 บาทต่อเดือน


สตอรี่ส์ รังสิต - วงแหวน ( เริ่ม 1.79 ลบ.*)

ทาวน์โฮม 2 ชั้น  สวยสง่าสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ทำเลศักยภาพที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต เป็นส่วนตัวห่างไกลจากความแออัดวุ่นวาย เชื่อมโยงทุกเส้นทางให้การเดินทางเป็นเรื่องง่ายสะดวกสบาย  ผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,500 บาทต่อเดือน

7993
สุดยิ่งใหญ่แห่งเอเชีย เวที Siam Series Awards 2021
ประกาศสุดยอดรางวัลซีรีส์ อวอร์ด ครั้งที่ 1 เชื่อมสายสัมพันธ์ไทย-จีน

ใน 4 ประเภท รางวัล ได้แก่
·        รางวัลซีรีส์สาขายอดนิยม ได้แก่ เรื่อง ด้ายแดง, แปลรักฉันด้วยใจเธอ, นิทานพันดาว
·        รางวัลซีรีส์ ละครสร้างสรรค์สาขายอดเยี่ยม ได้แก่ เรื่อง นักเรียนพลังกิฟต์ 2 (The Gifted Graduation
·        รางวัลขวัญใจ ThailandHeadlines & ManGu ได้แก่ เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ
·        รางวัลซีรีส์จีนออนไลน์ยอดนิยมในประเทศไทย ได้แก่ เรื่อง นางโจร, ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน และ ข้านี่แหละองค์หญิงสาม



               เวที Siam Series Awards 2021 นับเป็นงานประกาศรางวัลสุดยอดรางวัลซีรีส์  อวอร์ด ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 1 เชื่อมสายสัมพันธ์ไทย – จีน โดยปีนี้มีการปรับรูปแบบงานประกาศรางวัลทั้งหมด 7 วันด้วยกัน เพื่อเชิดชูผู้สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพใน 4 ประเภทรางวัล ประกอบด้วย รางวัลซีรีส์สาขายอดนิยม, รางวัลซีรีส์ละครสร้างสรรค์สาขายอดเยี่ยม, รางวัลขวัญใจ ThailandHeadlines & ManGu, รางวัลซีรีส์จีนออนไลน์ยอดนิยมในประเทศไทย ซึ่งผลการตัดสินได้ประกาศออกมาแล้ว โดยได้รับความสนใจจากบรรดาเหล่าดารานักแสดง ผู้กำกับ ละครหรือซีรีส์ไทย ทุกท่าน ที่ร่วมช่วยกันผลักดันและพัฒนาวงการละครหรือซีรีส์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล และในโอกาสนี้ สำนักข่าว Thailand Headlines ภายใต้บริษัท ไทยเจียระไนกรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านสื่อออนไลน์ภาษาจีน และผู้เชี่ยวชาญการทำการ ตลาดจีน ขอร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลในทุกสาขาประเภท


               นางสาวหลุ่ย แซ่กั๊ว ประธานกรรมการบริหารใหญ่ บริษัท ไทยเจียระไน กรุ๊ป จำกัด หนึ่งในบุคคลสำคัญด้านสื่อไทย-จีน กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาละครไทยได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังก้าวไกลไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย จนถึงปัจจุบันนี้ละครไทยได้สร้างรายได้ให้ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจท่องเที่ยวหรือถ่ายทอดด้านประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทย และด้านสังคมและประวัติศาสตร์ไทย สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงทำให้คนจีนรู้จักและเข้าใจคนไทย ประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าละครหรือซีรีส์ไทยได้ก้าวออกนอกกรอบขีดจำกัดที่เคยมีมา


               การจัดงานมอบรางวัลในครั้งนี้ทางสำนักข่าว Thailand Headlines (สื่อจีนต่างประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุด 3 อันดับแรกของโลก) และบริษัท ไทยเจียระไน กรุ๊ป จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน มีความภาคภูมิใจที่มีส่วนร่วมในการสร้างรายได้ให้แก่ภาคเศรษฐกิจด้านท่องเที่ยว การโฆษณาการตลาดของประเทศให้เฟื่องฟูมากยิ่งขึ้นต่อไป โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการผลิตละครหรือซีรีส์ไทย ทั้งทีมงานกำกับและถ่ายทำ ทีมดารานักแสดง ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังทุกท่าน เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-จีน ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

               สำหรับผลประกาศรางวัลสยามซีรีส์อวอร์ด ครั้งที่ 1


               1.     สาขายอดนิยม

               รางวัลซีรีส์/ละครสุดฮอต ได้แก่ เรื่องด้ายแดง, แปลรักฉันด้วยใจเธอ, นิทานพันดาว

               รางวัลคู่ขวัญจอแก้ว​ ได้แก่ คุณฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ (โอห์ม) และ คุณณธัช ศิริพงษ์ธร (ฟลุ้ค) จากเรื่อง ด้ายแดง, คุณพุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล (บิวกิ้น) และ คุณกฤษฏ์ อำนวยเดชกร (พีพี) จากเรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ, คุณวชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ (ออกัส) และ คุณธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ (น้ำฟ้า) จากเรื่อง แม่ครัวคนใหม่

               รางวัลนักแสดงชายยอดนิยม ได้แก่ คุณกรภัทร์ เกิดพันธุ์ (นนน) จากเรื่อง นักเรียนพลังกิฟต์ 2 (The Gifted Graduation)

               รางวัลนักแสดงหญิงยอดนิยม ได้แก่ คุณธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ (น้ำฟ้า) จากเรื่อง แม่ครัวคนใหม่

               รางวัลนักแสดงนำชายยอดนิยม​ ได้แก่ คุณพิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ (เอิร์ท) จากเรื่อง นิทานพันดาว

               รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดนิยม ได้แก่ คุณอรเณศ ดีคาบาเลส (ริชชี่) จากเรื่อง ซ่อนเงารัก

               รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดนิยม ได้แก่ คุณวชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์ (ชิม่อน) จากเรื่อง นักเรียนพลังกิฟต์ 2 (The Gifted Graduation)

               รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดนิยม ได้แก่ คุณภาลฎา ฐิตะวชิระ (สไมล์) จากเรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ

               รางวัลฉากซีรีส์/ละครสุดประทับใจ ได้แก่ ฉากใต้ทะเล เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ

               รางวัลเพลงประกอบซีรีส์/ละคร ยอดนิยม ได้แก่ เพลง กีดกัน จากเรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ

               รางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดนิยม ได้แก่ คุณพรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ (เนเน่) จากเรื่อง ลองของซีรีส์, คุณปองพล ปัญญามิตร (ขุนพล) จากเรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ, คุณวนรัตน์ รัศมีรัตน์ (วอร์) จากเรื่อง กลรักรุ่นพี่


               2.    สาขายอดเยี่ยม

               รางวัลซีรีส์/ละครสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม​ ได้แก่ เรื่อง นักเรียนพลังกิฟต์ 2 (The Gifted Graduation)

               รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ได้แก่ คุณอำไพพร จิตต์ไม่งง (แอ้ว) จากเรื่อง อกเกือบหักแอบรักคุณสามี

               รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม ได้แก่ คุณธนภัทร กาวิละ (ฟิล์ม) จากเรื่อง รักแลกภพ

               รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ คุณเพลินพิชญา โกมลารชุน (จูเน่) จากเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง (ละครโทรทัศน์)

               รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ได้แก่ คุณปริญ สุภารัตน์ (หมาก) จากเรื่อง อกเกือบหักแอบรักคุณสามี

               รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม​ ได้แก่ คุณราณี แคมเปน (เบลล่า) จากเรื่อง ร้อยเล่ห์มารยา

               รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ได้แก่ คุณหลุยส์ สก๊อตต์ (หลุยส์) จากเรื่อง ร้อยเล่ห์มารยา

               รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ คุณณิชชา โชคประจักษ์ชัด (วาววา) จากเรื่อง ร้อยเล่ห์มารยา

               รางวัลซีรีส์/ละครส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมไทยยอดเยี่ยม ได้แก่  เรื่อง รักแลกภพ


               รางวัลนักแสดง/ศิลปินเชื่อมสัมพันธ์ไทย - จีน​ ได้แก่ คุณเกวลิน บุญศรัทธา (ซันนี่)


               3.     สาขาขวัญใจ ThailandHeadlines & ManGu


               รางวัลซีรีส์/ละครขวัญใจ ThailandHeadlines & ManGu ได้แก่  เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ

               รางวัลนักแสดงชายขวัญใจ ThailandHeadlines & ManGu ได้แก่  คุณณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ (ภณ) จากเรื่อง พราวมุก

               รางวัลนักแสดงหญิงขวัญใจ ThailandHeadlines & ManGu ได้แก่  คุณนลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ (บัว) จากเรื่อง พราวมุก

               รางวัลคู่จิ้นขวัญใจ ThailandHeadlines & ManGu ได้แก่  คุณภัทรเดช สงวนความดี (ไมค์) และ คุณมุกดา นรินทร์รักษ์ (มุกดา) จากเรื่อง คู่แค้นแสนรัก 2021

               4.     สาขาซีรีส์จีนออนไลน์ยอดนิยม


               รางวัลซีรีส์จีนออนไลน์ยอดนิยม ได้แก่ เรื่อง นางโจร, เรื่อง ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน, เรื่อง ข้านี่แหละ องค์หญิงสาม


               บริษัท ไทย เจียระไน กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2009 เริ่มต้นจากการทำสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสารแจกฟรีภาษาจีน @ManGu โดยตีพิมพ์ฉบับแรกเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2012 เป็นนิตยสารภาษาจีนรายปักษ์เล่มแรกในไทยนำเสนอข้อมูลแนวไลฟ์สไตล์ที่พักผ่อนแหล่งท่องเที่ยวในไทยเพื่อเป็นช่องทางให้ชาวจีนสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับไทยและเข้าถึงไทยได้มากยิ่งขึ้น จากนั้นในปี 2013 ได้ก่อตั้งสำนักข่าวภาษาจีน Thailand Headlines ซึ่งเป็นสำนักข่าวออนไลน์เจ้าแรกในไทยที่นำเสนอข่าวสารในไทยอย่างครอบคลุมและหลากหลาย และยังเป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือชาวจีนที่ประสบปัญหาในไทยอยู่บ่อยครั้ง

               ไทยเจียระไน กรุ๊ป ผู้นำด้านสื่อออนไลน์ภาษาจีน ผู้เชี่ยวชาญการทำการตลาดจีน ที่ปรึกษาธุรกิจ ให้แก่แบรนด์ไทยที่ต้องการไปจีน และองค์กรจีนในไทยที่ครบทุกมิติ  อีกทั้งยังเป็นเจ้าของสื่อและคอนเทนต์ภาษาจีน ที่ชาวจีนนิยม เช่น สำนักข่าวThailand Headlines, นิตยสาร @ManGu, คู่มือท่องเที่ยวไทย Thailand Information Guide, รายการวาไรตี้และสัมภาษณ์คนดัง Thailand Coming, และ Black Gold Entertainment สื่อบันเทิงน้องใหม่ผู้บริหาร KOLs และบ่มเพาะ Net Idols ทั้งหมดนี้ มีเนื้อหาครอบคลุมทุกเรื่องในไทยที่ชาวจีนสนใจ ไทยเจียระไนกรุ๊ปได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐและเอกชนให้เป็นตัวกลางเชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจไทย-จีน ในพิธีการความร่วมมือต่างๆ เช่น งาน Person of the Year หรือ Oscar Thai ซึ่งเป็นพิธีมอบรางวัลให้แก่บุคคลดีเด่นในวงการต่าง ๆ  จัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อ โปรโมทสินค้าสู่นักท่องเที่ยวชาวจีน

7994
“มิน-อนันดา” นำทีมนักแสดง-ผู้กำกับ เปิดรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ “ไสหัวไปนายส่วนเกิน”
กระแสตอบรับท่วมท้นภาพยนตร์เรียกกำลังใจแห่งปี




               16 พฤศจิกายน 2564 - ผ่านพ้นไปแล้วอย่างคึกคัก สำหรับงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง​ “ไสหัวไป นายส่วนเกิน” ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงภาพยนตร์ สยามภาวลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์


               ซึ่งบรรยากาศรอบปฐมทัศน์ภายในโรงภาพยนตร์คับคั่งไปด้วยนักแสดง ทีมงาน สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน เปิดงานด้วยการที่พระนางของเรื่องอย่าง อนันดา เอเวอริงแฮม “มิน” พีชญา วัฒนามนตรี พร้อมด้วยผู้กำกับและคนเขียนบท สมเกียรติ วิทุรานิช​ มาพูดคุยถึงการถ่ายทำและความประทับใจในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยได้ “ดีเจอ๋อง” เขมรัชต์ สุนทรนนท์ มาเป็นพิธีกรภายในงาน


               โดย มิน พีชญา นางเอกของเรื่องกล่าวว่า ใช้เวลานาน ในการรับแสดงเรื่องนี้ “ใช้เวลาเท่าที่อ่านบทจบ รู้สึกว่าเรื่องนี้เรื่องราวมันมีความพิเศษค่อนข้างมาก อ่านตอนแรกร้องไห้ พอตกลงเล่นมาอ่านบทที่ อ.สมเกียรติปรับมาอีกพร้อมทีมก็ร้องไห้อีก มินเชื่อว่าเรื่องราวในหนังเรื่องนี้มีพลังใจที่จะช่วยให้คนที่ได้ดูขับเคลื่อนชีวิตให้ข้ามอุปสรรคที่ต้องเจอไปได้”


               ส่วน อนันดา ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ที่กลับมาในมาดคุณหมอแสนอบอุ่น ในภาพยนตร์ “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” ทั้งที่ผ่านมาไม่ได้รับงานแสดงมานาน “เพราะผมรู้สึกเหมือนกับมินคือบทดีมาก แปลกแล้วก็แตกต่างจากหนังหลายๆ เรื่องที่เราเคยได้ดูกัน ผมคิดว่า เป็นหนังที่เต็มไปด้วยพลังเป็นหนังที่โดนทุกคนที่มีหัวใจอย่างแน่นอน”


               ในขณะที่ผู้กำกับกล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มินและอนันดามาแสดงนำว่า “รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้นักแสดงทั้ง 2 คนมาถ่ายทอดเรื่องราวนี้ จริงๆ ผมก็ลังเลว่าเขาจะตอบรับไหม แต่พอเขารับแล้วได้มาร่วมงานก็รู้เลยว่านี่คือนักแสดงที่เหมาะกับบทบาทนี้ที่สุด มินคือพร้อมที่จะเล่น พร้อมที่จะร่วมมือ เราก็บอกเขาไว้ก่อนว่าบทมินเยอะมาก แต่เขาก็ทำได้ดีมากเช่นกัน ฉลาดและหัวไว เรียนรู้อะไรเร็วมา เรียกว่าต้องมีพลัง เพราะเป็นตัวดำเนินเรื่องและเป็นกุญแจสำคัญของเรื่อง แม้บางฉากจะไม่มีบทพูด แต่ก็มีคำในใจ ต้องเล่นออกทางสีหน้า แอคชั่นและแววตา ซึ่งเขาถ่ายทอดได้ดีเยี่ยม”




               ก่อนที่พิธีกรจะเขิญเหล่านักแสดงแก้งเพื่อนซี้อย่าง “หมอเจี๊ยบ” ลลนา ก้องธรนินทร์ “เมโกะ” ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย “ไต้ฝุ่น” กนกฉัตร มรรยาทอ่อน ฯลฯ มาร่วมพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับคาแรกเตอร์ในภาพยนตร์ที่ได้รับ รวมถึงฉากประทับใจที่ทุกคนไม่ลืมคงเป็นฉากที่ทุกคนหัวโล้น  ต่อด้วยการเชิญ ดา เอ็นโดรฟิน มาพูดถึงความรู้สึกที่ได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ “เวลาสุดท้าย” ซึ่งตอนนี้ยอดวิวทะลุ 1 ล้านวิวไปแล้ว โดยนักร้องสาวกล่าวถึงเพลงและความอินในเรื่องราวของหนังเพราะมีแฟนคลับที่เป็นคนไข้มะเร็งอยู่ด้วย ซึ่งนักร้องสาวก็ขอบคุณ ที่ทีมงานให้โอกาสมาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ครั้งนี้


               อนันดา ยังฝากถึงคนดูภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ผมเชื่อว่าองค์ประกอบของหนังเรื่องนี้ที่คุณสัมผัส ที่คุณอิน ที่คุณใกล้ชิด จะเยียวยาความรู้สึกท้อแท้หรือเหนื่อยล้าได้ ไม่ว่าครอบครัว เพื่อน ความรัก ก็จะสร้างพลังใจได้อย่างดี อยากให้เปิดใจแล้วไปชมกันนะครับ”


               ต่อด้วยการมอบเงินรางวัลให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากแคมเปญ “ไสหัวใจนายสานฝัน” ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ภาพยนตร์ “ไสหัวไปนายส่วนเกิน ร่วมกับ Thisshop ชวนแชร์ความฝันที่ต้องสะดุดเพราะสถานการณ์ Covid 19 ในช่องทาง Social พร้อมใส่ #ใส่หัวใจสานฝัน ByThisshop ซึ่งทาง​ Thisshop ร่วมเป็นสปอนเซอร์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ โดยมีทั้งหมด 3 โครงการ ซึ่งโครงการแรกได้มอบไปแล้ว 1 รางวัล เหลืออีก 2 โครงการ โดยได้ คุณจอห์นสัน อู๋ กรรมการบริหาร​ Thisshop ขึ้นมอบรางวัลจำนวนรางวัลละ  2 หมื่นบาท ให้กับ ผู้โชคดีที่รวมสนุกอีก 2 ท่าน


               ปิดท้ายงานรอบสื่อมวลชนครั้งนี้ด้วยการเรียนเชิญ คุณเฉลิมพล สิริโชติวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัทเบนเล่ย์ ฟิล์ม จำกัด เป็นตัวแทน ขึ้นมอบเงินบริจาคให้สถาบันมะเร็งแห่งชาติ จำนวน 100,000 บาท ส่งท้ายด้วยการถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ก่อนจะไปดูภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์เรื่อง  “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” จะเข้าฉาย 18 พฤศจิกายนนี้  ในโรงภาพยนตร์

ดูตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่​ https://www.facebook.com/goawaymr.tumor












7995
Jirisan (จีรีซาน)” ออริจินัลซีรีส์เกาหลีจาก iQiyi (อ้ายฉีอี้)
พีคไม่หยุด สุดกระชากอารมณ์ กับสองตอนใหม่
ลุ้นทั้งไฟป่า พร้อมฮาไปกับลีลาเท้าไฟของนักแสดง แบบไม่มีใครยอมใคร




               “Jirisan (จีรีซาน)” ออริจินัลซีรีส์เกาหลีจาก iQiyi (อ้ายฉีอี้) ที่เพิ่งคว้าสถิติเรตติ้งสูงสุดในประวัติศาสตร์ ของซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ของ TVN ด้วยเนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยปมปริศนา ชวนให้ผู้ชมลุ้นหาคำตอบ กระชากอารมณ์ให้ผู้ชมต้องอึ้งแบบต่อเนื่อง จากการออกอากาศสองตอนล่าสุดที่ผ่านมา กับฉากงานเลี้ยงสังสรรค์ของเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์อุทยาน ที่นักแสดงแถวหน้าร่วมกันโชว์ลีลาเท้าไฟ ในคอสตูมหลุดโลกสีสันจัดจ้าน ก่อนกระชากอารมณ์ผู้ชมด้วยเหตุการณ์ไฟป่า ที่เกือบคร่าชีวิตเจ้าหน้าที่




               เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กับเรื่องราวปริศนาที่ผู้ชมต่างลุ้นและคอยติดตามชมเพื่อหาคำตอบ กับซีรีส์ฟอร์มยักษ์ อย่าง “Jirisan (จีรีซาน)” ตอนที่ 7 และ 8 ที่เพิ่งออกอากาศล่าสุดในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กับฉากสุดเซอร์ไพรส์ เมื่อเหล่าเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์อุทยานมารวมตัวกันในงานเลี้ยงสังสรรค์ พร้อมสลัดภาพลักษณ์มืออาชีพทิ้ง และโหวกเหวกโวยวายกันเต็มที่เหมือนอยู่ในคอนเสิร์ต “จอนจีฮยอน” โชว์เสียงร้องในการแสดงสุดพิเศษ ส่วน “จูจีฮุน” ก็ไม่ยอมน้อยหน้า แต่งองค์ทรงเครื่องเต้นสะบัดในชุดสีสันสุดจัดจ้าน ร่วมด้วยนักแสดงร่วมอย่าง ซองดงอิล, โอจองเซ และ โจฮันชอล ที่พร้อมใจกันโชว์ลีลาแดนซ์แบบไม่มีใครยอมใคร




               ก่อนจะกระชากอารมณ์ผู้ชม ที่เหล่าเจ้าหน้าที่ต้องต่อสู้กับไฟป่าครั้งใหญ่ พร้อมรีบรุดไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่เปลวเพลิงที่ลุกลามอย่างรวดเร็วทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย ขณะเดียวกัน ฆาตกรตัวจริงก็ปรากฎตัวขึ้นและสะกดรอยตามเจ้าหน้าที่ เพื่อหวังคร่าชีวิตคนที่ถูกหมายหัวเอาไว้ ชวนให้ผู้ชมสงสัยว่า มันคือภัยธรรมชาติ หรือการวางเพลิงกันแน่? เปลวเพลิงครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวที่เคยเกิดขึ้นในอดีต รวมถึงอาชญากรรม การวางยา และการวางระเบิดหรือไม่?




               นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวลึกลับเหนือธรรมชาติ ในเส้นเรื่องของปี 2020 ที่เผยให้เห็น “จูจีฮุน” ที่กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่บนภูเขาจีรีซาน และสามารถจับต้องได้เพียงวัตถุจากภูเขาเท่านั้น เขาจึงต้องสื่อสารผ่านก้อนหินและกิ่งไม้ ที่มีเพียงเขาและ “จอนจีฮยอน” เท่านั้นที่รู้ โดยมี ”โก มิน-ซี” ผู้รับบทเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานมือใหม่ ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างจูจีฮุนและจอนจีฮยอนในดินแดนแห่งนี้ ขณะที่ลัดเลาะไปยังที่ต่างๆ ตามคำบอกของ “จอนจีฮยอน” ”โก มิน-ซี” ก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่ลึกลับคนหนึ่งบนภูเขา เขาคนนี้จะใช่คนร้ายหรือไม่ ร่วมลุ้นและค้นหาคำตอบได้ใน “Jirisan (จีรีซาน)” ออริจินัลซีรีส์เกาหลีจาก iQiyi (อ้ายฉีอี้) นำแสดงโดย จอนจีฮยอน และจูจีฮุน สร้างสรรค์โดยผู้กำกับ อีอึนบก (Descendants of the Sun, Goblin) และมือเขียนบท คิมอึนฮี (Signal, Kingdom)) บนแอปพลิเคชัน iQiyi (อ้ายฉีอี้) และเว็บไซต์ iQ.com ดูฟรีซับไทย ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 19.00 น.




               พิเศษสำหรับสมาชิก VIP กับสิทธิพิเศษแบบจัดเต็ม รับชมเนื้อหาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ, รับชมคอนเทนต์ได้ก่อนใคร, สามารถดูได้พร้อมกัน 2 จอ, ดาวน์โหลดเพื่อดูแบบออฟไลน์แบบไม่มีโฆษณาคั่น ด้วยภาพคมชัดระดับ Full HD และเสียงระบบ Dolby เสมือนดูในโรงภาพยนตร์ สามารถกดซื้อสมาชิก VIP โปรโมชั่นพิเศษได้บนแอปพลิเคชัน iQiyi (อ้ายฉีอี้) และเว็บไซต์ iQ.com

               ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตได้ใน App Store และ Google Play - กดดาวน์โหลดฟรี https://i.qy.net/f34caJ-b7

               อัปเดตและติดตามความเคลื่อนไหวสาระบันเทิงยอดนิยมแห่งเอเชียได้ทาง Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/iQiyi​Thailand​ ; IG:@iQIYIThailand; Twitter: @iQIYIThailand; YouTube: iQIYI Thailand

Pages: 1 ... 531 532 [533] 534 535 ... 2404