Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 618 619 [620] 621 622 ... 2403
9286
“เกาะรัก กลหัวใจ” พาฟิน..
โซเชียลกระหึ่มเที่ยวทิพย์ !


               โซเชียลกระเพื่อมยิ่งกว่าคลื่นซัด  ชาวเอฟซีละคร “เกาะรัก กลหัวใจ”  ทางช่อง 7HD ของค่าย ดาราวิดีโอ กระหน่ำคอมเม้นท์กันรัวๆ ที่ละครพาเที่ยวทิพย์ มโนฟินไปกับบรรยากาศและโลเคชั่นสวยๆ บนเกาะ แล้วยังเพลินไปกับเนื้อเรื่องใหม่แกะกล่อง..โนรีเมค..แบบฟูลเทิร์นเพลินตาเพลินใจ ได้สัมผัสธรรมชาติ หาดทราย ทะเล สายลม และท้องฟ้าสีคราม ดูแล้วสบายใจ ไม่ต้องคิดอะไรกันเยอะ โดยเฉพาะช่วงที่เครียดกับภาวะโควิด-19


               แม้คู่พระนางจะถูกติงเบาๆ ว่า เคมีไม่เข้ากัน!! พลังดึงดูดยังไม่แรง!" แต่เอฟซีสายละครตัวจริง บอกว่า..ก็โอเคอยู่นะ เพราะ “ไอยคุปต์” (บลิว-วรพล) และ​ "ฟากฟ้า"(เนย-ปภาดา) เล่นบทที่ชวนให้หัวเราะ ฮาไปกับมุข แถมยังลุ้นรักอีก ส่วนคู่รอง​ "นาวิน" (โอ๊ต-รัฐธีร์) กับ​ "ดารัล"(เจนนี่-ชยิสรา) นี่ก็หวานแร๊งส์! เคมีพร้อมจิ้น




               ชั่วโมงนี้ ละคร “เกาะรัก กลหัวใจ” กำลังเข้าใกล้จุดพีค ฟินจิกหมอนรัวๆ นอนดูแบบลุ้นๆ กับเรื่องราวที่กำลังเข้มข้น รวมถึงการส่งพลังของผู้กำกับฯ ที่จะทำให้เหล่านักแสดงฟอร์มสดระเบิดอารมณ์ส่งท้าย




               แฟนละคร​ "เกาะรัก กลลวง" อย่าพลาดชมความเข้มข้นแบบถึงใจถึงอารมณ์ ทั้งโหด มัน ฮา น้ำตาท่วมเกาะในละคร “เกาะรัก กลหัวใจ” ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 HDกด 35 ใครอยากเที่ยวทิพย์ต้องห้ามพลาด

9287
NANKANG MT-1 ยางตัวพีค..ที่รักทางลุย


บริษัท ต.สยามคอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้า และ จัดจำหน่ายยาง Nankang Tire เปิดตัวยางรถกระบะ และ SUV สำหรับขาลุยรุ่นใหม่ล่าสุด Nankang MT-1  ด้วยดีไซน์บล็อกดอกยาง ที่แข็งแกร่ง และดุดัน สำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว และผจญภัย ตามเส้นทางที่ทรหดและท้าทาย


ลุยได้ทุกเส้นทางด้วย ร่องดอกยางที่มีพื้นที่มากกว่า 50% บนหน้ายางช่วยเพิ่มแรงกรุยบนพื้นผิวขรุขระและดินโคลนเป็นเยี่ยม พร้อมด้วยเส้นสันนูนในร่องดอกยางที่ช่วยสลัดดินโคลนและก้อนกรวดออกจากร่องดอกยาง ช่วยเพิ่มความดุดัน และประสิทธิภาพแรงกรุย ได้อย่างดี โดยเริ่มมีจำหน่ายทั้งหมด 4 ขนาด ราคาเริ่มต้นเส้นละ 4,400 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ ร้าน GRIP ทุกสาขา และ ตัวแทนจำหน่ายยาง นันกัง ทั่วประเทศ


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nankangtire.in.th  หรือ Facebook : NankangTireThailand


สามารถชม Presentation ยาง Nankang MT-1 ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=BPIx1eXkXgs

9288
จัดกิจกรรมสร้างสื่อความรู้ในการฟื้นฟูการทำงานของปอดและระบบหายใจแก่ผู้ป่วย Post-Covid-19


              สมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค สถาบันบำราศนราดูร สถาบันโรคทรวงอกและสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ตระหนักถึงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Covid -19” ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต โดยผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วบางส่วน จะเป็นผู้ป่วยที่การฟื้นฟูสมรรถภาพปอดทำได้ช้าเพราะปัจจัย ด้านอายุหรือการมีโรคร่วม ซึ่งการออกกำลังเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพปอดจึงมีความจำเป็นที่จะช่วยเหลือผู้ป่วย เพื่อเพิ่มความสามารถในการหายใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเพื่อช่วยในการขับเสมหะ (ถ้ามี) และเพื่อป้องกันการเกิดภาวะปอดแฟบ อันจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของปอดให้ดีและเร็วยิ่งขึ้น จึงได้จัดทำโครงการสร้างสื่อความรู้ในการฟื้นฟูการทำงานของปอดและระบบหายใจแก่ผู้ป่วย Post-Covid-19  เพื่อเผยแพร่เป็นความรู้ให้กับประชาชนและผู้ป่วย Post-Covid รวมถึงสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ใช้สำหรับการเป็นสื่อการสอนแก่ผู้ป่วย

              ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชนและผู้สนใจ เข้าร่วมรับชมการจัดกิจกรรมโครงการสร้างสื่อความรู้ในการฟื้นฟูการทำงานของปอดและระบบหายใจแก่ผู้ป่วย Post-Covid-19 ในวันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2564  เวลา 14.00 – 15.15 น.ผ่านระบบ ZOOM (สแกนผ่าน Line ID :  และ รับชม Facebook Live  ผ่านเพจ “ภูมิแพ้ก็แพ้เรา”

9289
รายการ “หนีเที่ยวกัน”
เสาร์ที่ 4 กันยายน 2564 เวลา 08.30 น. Workpoint ช่อง 23


“ฟลุค&ลี&อชิ” เปิดวาร์ปจุดเช็คอินในตำนาน
สุดฟินส่องโมเมนต์น่ารักพ่อลูก




                 ประเดิมทริปสุดฟินด้วยดินเนอร์ที่ Cape Town แอฟริกาใต้ ฟลุค-เกริกพล, ลี-นาตาลี และ​ อชิ-อชิรวัตติ์ พากินครบจบในร้านเดียว ทั้งสไตล์ เวียดนาม ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลี ที่หนุ่มน้อยอชิให้นิยามว่ากินแล้ว “แก้มขึ้น” ต่อด้วยเช็คอินมุมยอดฮิตที่ Cape of Good Hope จุดชมวิวดีงามในตำนานที่ต้องมาให้ได้ งานนี้ยังมีโมเมนต์อบอุ่นน่ารักของ 2 พ่อลูกที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ หนีเที่ยวทิพย์ ใน “หนีเที่ยวกัน” วันเสาร์ที่ 4 ก.ย. นี้ เวลา 08.30 น. ทาง Workpoint ช่อง 23 ดูย้อนหลังได้ทาง YouTube Flukelee https://bit.ly/3micSn7 และไปหนีเที่ยวกันแบบจุใจ ที่เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/nheetiew/ และอินสตาแกรม @nheetiewgun.th
























9290
ช้อปปี้ – วีซ่า เปิดตัวโครงการ
‘Shopee x Visa: Sellers Grow Beyond’ โตไกลไปด้วยกัน

ดันธุรกิจ SMEs ไทยโตไกลบนโลกอีคอมเมิร์ซ รับกระแสเศรษฐกิจดิจิทัล


กรุงเทพฯ, 2 กันยายน 2564 - ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ผนึก วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก เปิดตัวโครงการ ‘Shopee x Visa: Sellers Grow Beyond’ โตไกลไปด้วยกัน ต่อจิ๊กซอว์แผนความร่วมมือ 5 ปีระหว่างสององค์กรที่จะผลักดันอีคอมเมิร์ซในเอเชีย-แปซิฟิค เดินหน้าปลด ล็อคศักยภาพอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ ด้วยองค์ความรู้ และเครื่องมือ ทางการตลาดที่ครบวงจร พร้อมผลักดันผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมี ประสิทธิภาพและยั่งยืนไปพร้อมกับกระแสเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

โครงการนี้จะเปิดให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยเข้าร่วมโครงการเข้าถึงทรัพยากรที่จะเป็นในการเปิดร้าน และการทำให้การค้าขายออนไลน์เป็นเรื่องง่าย อาทิ ส่วนลดในการ การฝึกอบรมจาก Shopee University และการเปิดรับการชำระเงินในรูปแบดิจิทัล ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564 ที่​ https://shopee.co.th/m/visa-sellers-grow-beyond[1]

นางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ ประเทศไทย กล่าวว่า “ช้อปปี้ ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไต้หวัน เรามีพันธกิจสำคัญที่จะยกระดับ คุณภาพชีวิตของผู้คน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ที่เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยความเข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินธุรกิจท่ามกลางความท้าทาย ช้อปปี้จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรคนสำคัญอย่าง วีซ่า ตามแผนกลยุทธ์ 5 ปี ในโครงการ ‘Shopee x Visa: Sellers Grow Beyond’ โตไกลไปด้วยกัน เพื่อให้ความช่วยเหลือเหล่าผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงโอกาส องค์ความรู้ เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ ตลอดจนทรัพยากรที่จำเป็น ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในการเริ่มต้นที่มหกรรมช้อปปิ้งสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคกับแคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day เพื่อปลดล็อคศักยภาพในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ไปพร้อมกับเศรษฐิกจดิจิทัลของประเทศและอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด”


นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การแพร่ระบาดในครั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อและขายสินค้าของคนในประเทศไทยและทั่วโลก เทรนด์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนคือการเปลี่ยนผ่านสู่การค้าในรูปแบบดิจิทัล จากการศึกษาล่าสุดเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของวีซ่า​ (Visa Consumer Payment Attitudes Study) ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยซื้อสินค้าออนไลน์บนสมาร์ทโฟนทุก ๆ สองวัน หรือเฉลี่ย 14 ครั้งในหนึ่งเดือน และนี่เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เรารู้สึกดีใจที่ได้ร่วมกับช้อปปี้ในการให้กำเนิดโครงการ ‘Seller Grow Beyond’ โดยเป็นหนึ่งในโครงการจากแผนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะเวลาห้าปีระหว่างวีซ่าและช้อปปี้อีก โดยโครงการนี้จะช่วยให้ผู้ขายออนไลน์เข้าถึงเครื่องมือ และทรัพยากรใหม่ๆ ที่จำเป็นในการทำการค้าในรูปแบบดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงาน และท้ายที่สุดเข้าใจและใช้ประโยชน์จากเทรนด์การค้าปัจจุบันที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในหลากหลายเจเนอเรชั่นและเซ็กเมนท์ต่างอยู่บนโลกออนไลน์”

โครงการ ‘Shopee x Visa: Sellers Grow Beyond’ โตไกลไปด้วยกัน ถูกริเริ่มขึ้นเพื่อลดความยุ่งยากในการเริ่มธุรกิจบนแพลตฟอร์มช้อปปี้สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ด้วยการเปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทรัพยากรที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจบนโลกอีคอมเมิร์ซได้อย่างครบวงจรและสะดวกสบาย โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ประกอบด้วย

        ○        Incentive Package: เพื่อช่วยให้การเริ่มธุรกิจออนไลน์ของผู้ประกอบการรายย่อยบนแพลตฟอร์มช้อปปี้เป็นไปได้อย่างคล่องตัวและดึงดูดความสนใจจากนักช้อปได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะได้การสนับสนุนจากช้อปปี้ในรูปแบบของโค้ดส่วนลด 30% ไม่มีขั้นต่ำ สูงสุด  50 บาทต่อคำสั่งซื้อ[2] สำหรับการจัดโปรโมชันฉลองเปิดร้าน

        ○        Payment System: นอกจากนี้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการยังสามารถเปิดรับช่องทางการชำระเงินด้วยบัตรเครติด/เดบิต ได้อย่างง่ายดายและปราศจากค่าธรรมเนียมแรกเข้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินแบบไร้เงินสดซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน โดยร้านค้าสามารถเลือกเข้าร่วมรายการผ่อนชำระเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายได้อีกด้วย

        ○        Workshop & Knowledge: เนื่องจากองค์ความรู้เป็นทรัพยากรที่จำเป็นในการยกระดับขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ และสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในโลกอีคอมเมิร์ซ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจึงจะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการขายสินค้า รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์มช้อปปี้จาก Shopee University รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อป ที่จะจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้ และถ่ายเทคนิคการขายสินค้าออนไลน์ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับร้านค้าสำหรับมหกรรมอีคอมเมิร์ซในช่วงปลายปี


ความร่วมมือระหว่าง วีซ่า และ ช้อปปี้ เป็นการดำเนินงานภายใต้แผนความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ 5 ปี ที่มีจุดมุ่งหมายในการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยและในภูมิภาคนี้ โดยเมื่อปีก่อนทั้งสองพันธมิตรได้ริเริ่มแคมเปญเพื่อส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่คุ้มค่า สะดวกสบาย และปลอดภัยให้แก่เหล่าผู้ใช้งานทุกคน ผ่านการนำเสนอทางเลือกในการชำระเงินวีซ่า ที่รวดเร็ว ง่าย และปลอดภัย ให้แก่ผู้ใช้งานช้อปปี้ทุกคน รวมไปถึงการส่งมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือระดับผ่านการเปิดตัวบัตรเครดิต ‘กสิกรไทย-ช้อปปี้ วีซ่า แพลทินัม การ์ด เชื่อมมิติทุกการช้อป’ ในปีที่ผ่านมา

[1]เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

[2] เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด


####

เกี่ยวกับ Shopee (ช้อปปี้)

Shopee เป็นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2558 ใน 7 ตลาดทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อเชื่อมต่อผู้ซื้อ ผู้ขาย และภาคธุรกิจ

Shopee ส่งมอบความสะดวกสบาย ปลอดภัย และสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ใช้งานหลายล้านคนให้มีความเพลิดเพลิน กับการเข้าใช้งานบนแพลตฟอร์มของเราในทุก ๆวัน ด้วยการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย พร้อมด้วยระบบการชำระเงิน และการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ รวมถึงการสร้างความบันเทิงผ่านหลากหลายฟีเจอร์ ที่คัดสรรมาเพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งาน ในแต่ละตลาด โดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน Shopee เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาค ด้วยมีความมุ่งมั่น ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและแบรนด์สินค้าต่าง ๆ สามารถบรรลุเป้าหมายและประสบผลสำเร็จได้ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

Shopee อยู่ในกลุ่มของ บริษัท Sea (NYSE:SE) ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเพื่อผู้ใช้งานในระดับโลก นอกเหนือจาก Shopee แล้ว Sea ยังมีธุรกิจหลักครอบคลุมทั้งในส่วนดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้ชื่อ การีนา และ บริการด้านการเงิน แบบดิจิทัล ภายใต้ชื่อ ซีมันนี่ Sea มีพันธกิจที่จะมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และ ผู้ประกอบการรายย่อยให้ดียิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำหน้า


เกี่ยวกับวีซ่า

Visa Inc. (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือ ข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยมากที่สุด ช่วยให้ผู้บริโภค ธุรกิจต่าง ๆ สถาบันการเงิน และ หน่วยงานรัฐมากกว่า 200 ประเทศ สามารถดำเนินการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อถือได้  VisaNet (วีซ่าเน็ต) ซึ่งเป็นเครือข่ายประมวลผลระดับโลกที่ทันสมัยของเราให้บริการการชำระเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ทั่วโลก และมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมมากกว่า 65,000 รายการต่อวินาที ด้วยการป้องกันการฉ้อโกง และให้ความมั่นใจ ในการชำระเงินกับผู้ค้า วีซ่าไม่ใช่ธนาคารและออกบัตรให้บริการ ขยายสินเชื่อ หรือกำหนดอัตราและค่าธรรมเนียมสำหรับลูกค้า ด้วยนวัตกรรมของบริษัทที่ช่วยให้ลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงินสามารถมอบทางเลือกการให้บริการกับลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ การชำระด้วยเดบิต การชำระล่วงหน้าด้วยระบบพรีเพด หรือชำระภายหลังด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่างๆ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์วีซ่า Visa blog และ @VisaNews

9291
สุดปัง! โฉมหน้าผู้ชนะการแข่งขัน T-POP Cover Dance Contest By SKYLIZE แต่ละทีมกินกันไม่ลงจริงๆ!


              ประกาศผลรางวัลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขัน “T-POP Cover Dance Contest By SKYLIZE” การประกวดเต้น Cover ที่จัดขึ้นโดยวง “SKYLIZE” ที่ประกอบไปด้วย บอสบอส พิธิวัธ รังษีนรบุตร, ป่า อรัณย์ธรรม ธิราชเกื้อกูล, ป๊อป ทัตพล แซ่โง้ว, หลุยส์ ณรงค์ฤทธิ์ สุขะเสวต, ปอนด์ ปิยะวัฒน์ วิจิตรภัทร และทอย นรินธร เอื้อวุฒิธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กโคฟเวอร์แดนซ์หรือคนที่มีความฝันในการเป็นศิลปินได้แสดงความสามารถ โดยไม่จำกัดเพศ และอายุ และต้องใช้เพลง “T-POP” ในการ Cover เท่านั้น ซึ่งหลังรับสมัครไปก็มีเหล่านักเต้นที่มีความสามารถมากมายทั่วประเทศ แห่กันส่งคลิปเข้ามาร่วมประกวดเพื่อชิงเงินรางวัลกันจำนวนมาก และแต่ละทีมก็มีความโดดเด่น ทำให้คะแนนสูสีกันมากๆ จนเหล่ากรรมการอย่างวง “SKYLIZE” ต้องใช้เวลาคัดเลือกกันถึง2รอบ เพราะคะแนนออกมาเท่ากัน แต่สุดท้ายก็ได้ทีมที่ตอบโจทย์และตรงตามกติกาที่วางไว้มากที่สุด นั่นก็คือ


ทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีม G-RUN ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท

ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม Girls Issue ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม Girls Issue

ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม Cheeze Issue ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท

รางวัลพิเศษยอด Like TikTok ได้แก่ ทีม Saiso ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท


                โดยลีดเดอร์ของวง “SKYLIZE” อย่าง บอสบอส พิธิวัธ ก็ได้เปิดเผยถึงผู้ชนะแต่ละทีมว่า “อย่างทีม G-RUN และทีม Girl Issue ผลคะแนน 2 ทีมนี้ออกมาเท่ากันในตอนแรก จนต้องทำการรื้อคะแนน และตัดสินกันใหม่ครับ เพราะแต่ละทีมมีจุดเด่นที่ต่างกัน แต่ด้านทีมที่ชนะอย่าง G-RUN กลับตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ได้มากกว่า ถึงแม้ว่าโปรดักชั่นจะไม่ได้ดีเท่าทีมอื่น แต่เราวัดจาก Performance การเต้นและอินเนอร์ที่เข้าถึงอารมณ์ของทุกคนในทีม และทีมนี้กลับทำออกมาได้ดีมากๆ อารมณ์เหมือนเป็นคอนเสิร์ตเลยครับ ส่วนทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 ก็มีความโดดเด่นในเรื่องเสื้อผ้า มีลูกเล่น มีความคิดสร้างสรรค์ดี แต่การถ่ายถอดอารมณ์ของสมาชิกในทีมมีบางจุดที่ยังไม่เต็มที่ เลยทำให้คะแนนถูกตัดไปในบางส่วน ด้านทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 อย่างทีม Cheeze Issue พวกเราชอบตรงพวกเขาเป็นผู้ชายแต่เลือกใช้เพลงผู้หญิงในการแข่งขัน ภาพรวมของPerformance ออกมาดีมากๆ แต่คาแรคเตอร์แต่ละคนยังไม่ค่อยชัด ในส่วนที่ชอบที่สุดของทีมนี้ น่าจะเป็นโลเคชั่นปั้มน้ำมันที่ทางทีมผู้เข้าแข่งขันใช้ ทางทีมงานและSKYLIZE ชอบกันมากๆครับ เพราะมันดูมีสีสันมาก”




                และสุดท้ายหนุ่มบอสบอสได้ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า “พวกเรา SKYLIZE ถือว่ายังเป็นศิลปินหน้าใหม่ในวงการ ถ้าตัดสินแล้วมีผิดพลาดตรงไหน เราขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แต่พวกเราตั้งใจตัดสินและใช้เวลาตัดสินกันนานมากจริงๆ เพราะแต่ละทีมมี Performance ที่ดีสูสีกันมากๆ พวกเราก็เสียดายบางทีมจริงๆ เหมือนกันครับ และอยากให้ติดตามผลงานของพวกเรา SKYLIZE ที่กำลังจะปล่อยเพลงออกมาเร็วนี้ๆ ด้วยนะครับ ยังไงฝากทุกคนเป็นกำลังใจด้วยนะครับ”




ลิ้งค์ทีมชนะเลิศ G-RUN :: https://youtu.be/RtQ3bzvemxs

ลิ้งค์ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 1 Girls Issue :: https://youtu.be/F-Sts1hUCtg

ลิ้งค์ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 2 Cheeze Issue :: https://youtu.be/k5HdYlMckpw

ลิ้งค์รางวัลพิเศษยอด Like TikTok Saiso :: https://vt.tiktok.com/ZSJ3xt8dn/

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ SKYLIZE Official
#SKYLIZE #SKYLIZEtpopcontest2021 #KSGANG #Combatdance

▼SKYLIZE Official Facebook : https://www.facebook.com/Skylize.offi   
▼SKYLIZE Official Instagram: https://instagram.com/skylize.officia
▼SKYLIZE Official Twitter : https://twitter.com/skylizeofficial
▼SKYLIZE Official Tiktok : https://www.tiktok.com/@skylize.official
▼SKYLIZE Official Open Chat : https://bit.ly/3r9ELw5

9292
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน 2564


🇹🇭🇹🇭ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 14,956 ราย
รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,234,487 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 12,361 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 356 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น  17 ราย
- ผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐสะสม 4,958 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้  2,222 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจาก
การตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 250,579 ราย)
เสียชีวิตรวม 12,103 ราย(วันนี้มีรายงาน
ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 262 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 1,058,704 ราย
(มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 17,936 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 163,680 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ)
14,583 ราย มีรายละเอียดดังนี้
จากกรุงเทพฯ(3,322) ปริมณฑล (2,752) จังหวัดอื่น ๆ (8,509)

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทาง
มาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 17 ราย
และเข้า Quarantine โดยเข้ารับ
 การรักษาที่เชียงราย(1) ตราด(1) จันทบุรี(1) กรุงทพฯ(1) ภูเก็ต (2) นราธิวาส(2) และ อยู่ระหว่างประสาน รพ.(9)
มีรายละเอียดดังนี้

- จากประเทศลาว 1 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 11 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 2 ราย
- จากประเทศญี่ปุ่น 1 ราย
- จากประเทศอิสราเอล 1 ราย
- จากประเทศสหราชอาณาจักร 1 ราย



🌐 สถานการณ์โลกในวันนี้

- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 219.2  ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.5 ล้านราย
(คิดเป็นร้อยละ 2.07 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ)
ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 196  ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.41)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่  184,420  ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 659,927 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 32.8 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45,971 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 32 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.4
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 29  และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 45 ของโลก



🌐 สถานการณ์อาเซียนในวันนี้

- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 402,640  ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,109 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 15,490 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,765,016 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 18,762  ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 93,510 ราย
มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,916 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 15,289  ราย
โดยกำลังรักษาอยู่ 9,857  ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่  11,434  ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 11,868 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค
และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรม
การแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม

9293
iQiyi (อ้ายฉีอี้) แถลงข่าวเปิดตัวออริจินัลซีรีส์ไต้หวัน
เรื่องใหม่ “โซนอันตราย” (Danger Zone) เริ่มฉาย 3 กันยายนนี้

เผยสุดยอดบทบาทการแสดงของ Vic Chou และความสนิทสนมของ Christopher LeeและBerant Zhu
“โซนอันตราย” (Danger Zone) ซีรีส์ทุ่มทุนสร้างกับเรื่องราวอาชญากรรมต้องห้ามสุดระทึก


               ไต้หวัน, 1 กันยายน 2564 – iQiyi (อ้ายฉีอี้) แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ชั้นนำ จัดงานแถลงข่าวใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เปิดตัวออริจินัลซีรี่ย์ไต้หวันเรื่อง Danger Zone โดยมีผู้กำกับภาพยนตร์ David Chuang และ Chen Kuan Chung พร้อมด้วยนักแสดงนำ Vic Chou, Sandrine Pinna, Wu Hsing-kuo , Christopher Lee, Berant Zhu และ Tseng Jing-hua  นอกจากนี้ ภายในงานนี้ พวกเขาได้ชมตัวอย่างความยาว 12 นาทีของ Danger Zone และสัมภาษณ์พูดคุยกับเหล่านักแสดงในเรื่อง




               iQiyi (อ้ายฉีอี้) เปิดตัว “โซนอันตราย” (Danger Zone) ออริจินัลซีรีย์ไต้หวัน เรื่องแรกที่ว่าด้วยเรื่องราวในเรือนจำ ซึ่งในงานแถลงข่าว มีทีมนักแสดงและผู้กำกับมาร่วมพูดคุยในงาน




               ในงานแถลงข่าว Vic Chou และ Christopher Lee กล่าวทักทายผู้ชมเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี ภาษามาเลย์ ภาษาอินโด และภาษาท้องถิ่นอื่นๆ ระหว่างการถามตอบ ทีมนักแสดงได้เล่าถึงประสบการณ์เบื้องหลังการถ่ายทำ และตอบคำถามจิปาถะเกี่ยวกับซีรีย์เรื่องนี้อย่างสนุกสนาน Vic Chou ยอมรับว่าบทบาทที่เขาได้รับนั้นแตกต่างจากตัวจริงโดยสิ้นเชิง โดยหน้ากล้องเขาต้องทำตัวเคร่งขรึมเกือบตลอดเวลา ในขณะที่หลังกล้องเขาเป็นคนอบอุ่นและชอบแหย่คนอื่น นอกจากนี้ Christopher Lee และ Berant Zhu ผู้รับบทตำรวจในเรื่อง ยังสนิทสนมกันเหมือนพี่น้องในระหว่างถ่ายทำด้วย Berant Zhu กล่าวว่า “ถึง Christopher Lee จะตะโกนใส่ผมตลอดทั้งเรื่อง แต่ผมก็ยังชอบเขามาก เราเป็นคู่หูที่ดีที่สุด” Christopher Lee เองก็แสดงความเอ็นดูต่อ Berant Zhu ว่า “เขาติดผมแจเลย”




               ในตัวอย่างซีรี่ย์ Vic Chou  แสดงเป็นอาชญากรเลือดเย็นได้อย่างสมบทบาท เขาบอกว่า “ถึงผมจะเป็นส่วนหนึ่งของซีรีย์ แต่ก็ยังสนุกกับการดูตัวอย่างนะครับ ผมตั้งตารอดูเรื่องนี้พร้อมกับทุกคน” Pinna, Lee และนักแสดงคนอื่นๆ ก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเองในการถ่ายทำ Danger Zone Christopher Lee และ Berant Zhu ต้องเข้าฉากขับรถไล่ล่าและกระโดดสะพาน Pinna เองก็ต้องตัดผมสั้นเพื่องานนี้ และต้องเข้าฉากกับ Wu Hsing-kuo  นักแสดงอุปรากรจีนชื่อดัง ส่วน Tseng Jing-hua  ก็พลิกบาทบาทจากคนดีมาเป็นเด็กรวยนิสัยเสีย เนื้อหาเรื่องนี้ถ่ายทอดเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ, การพบศพทารก และศพผู้หญิงถูกตัดหัว ถือเป็นสิ่งที่แหวกแนวแตกต่างจากซีรี่ส์อื่นๆ






               สามารถติดตามชม “โซนอันตราย” (Danger Zone) ออริจินัลซีรีส์ไต้หวัน พร้อมซับไทย เริ่มวันที่ 3 กันยายนเป็นต้นไป บนแอปพลิเคชันของ iQiyi (อ้ายฉีอี้) และเว็บไซต์ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น




               สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก VIP สามารถรับชม แบบไม่มีโฆษณาคั่น ด้วยภาพคมชัดระดับ Full HD และเสียงระบบ Dolby เสมือนดูในโรงภาพยนตร์  โปรโมชั่นเดือนแรกจ่ายเพียง 15 บาท เท่านั้น




               ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน  ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตได้ใน App Store และ Google Play - กดดาวน์โหลดฟรี https://i.qy.net/f34caJ-b7






               อัปเดตและติดตามความเคลื่อนไหวสาระบันเทิงยอดนิยมแห่งเอเชียได้ทาง Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/iQIYIThailand; IG:@iQIYIThailand; Twitter: @iQIYIThailand; YouTube: iQIYI Thailand 

เกี่ยวกับ “โซนอันตราย” (Danger Zone)


·       กำหนดฉาย: 3 กันยายน เวลา 19 .00 น.
·       แอปพลิเคชันของ iQiyi (อ้ายฉีอี้) และเว็บไซต์ iQ.com
·       พื้นที่ฉาย: 191 ประเทศทั่วโลกบน
·       ผู้กำกับการแสดง: จวงฉวนเว่ย และเฉินกวนฉง
·       นักแสดง: Vic Chou, Sandrine Pinna, Wu Hsing-kuo, Christopher Lee, Berant Zhu และ Tseng Jing-hua
·       ประเภท: ระทึกขวัญ, อาชญากรรม, แอ๊คชั่น, สืบสวนสอบสวน
·       จำนวนตอน: 24
·       เรื่องย่อ: นักจิตวิทยา เหลียงหยางตง (รับบทโดย Vic Chou) ถูกจำคุกด้วยข้อหาใช้ความรุนแรง เขาทำดีลลับกับสารวัตรตันฉงฮุ่ย (รับบทโดย Christopher Le) และตำรวจใหม่เหรินเฟย (รับบทโดย Berant Zhu) เพื่อพลิกคดี แต่การตัดสินใจครั้งนี้นำมาซึ่งหายนะและเหตุการณ์ลึกลับมากมาย

9294
NT ได้รางวัลรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2564




                 นายวิษณุ เครืองาม​ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการศูนย์ราชการสะดวก ประกาศรายชื่อหน่วยงานที่ได้การรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2564  ให้แก่หน่วยงานที่ผ่านการรับรอง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงการให้บริการแก่ประชาชนของหน่วยงานรัฐด้วยความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และมีมาตรฐานในการพัฒนาหรือยกระดับการให้บริการประชาชนตามมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก โดย บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้รางวัลรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2564 รวมทั้งสิ้น 69 ศูนย์บริการ โดยเป็นรางวัล ระดับก้าวหน้า จำนวน 4 แห่ง ได้แก่  ศูนย์บริการลูกค้า สาขากาฬสินธุ์ 1 สาขาศูนย์ราชการขอนแก่น สาขาเลย1 และ สาขาอุดรธานี 1และรางวัล ระดับพื้นฐาน จำนวน 65 แห่ง  ดังนี้

สาขาสุรวงศ์ สาขาทุ่งมหาเมฆ สาขาจตุรัสจามจุรี 1 สาขาอินทามระ สาขาหัวหมาก สาขารามอินทรา สาขาชัยพฤกษ์ สาขาบางพลี สาขาแจ้งวัฒนะ สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สาขาปทุมธานี สาขาสายไหม สาขาบางแค สาขาบางกรวย สาขาท่าพระ สาขาหนองแขม สาขาราษฎร์บูรณะ สาขาเอกชัย สาขาธนบุรี 1 สาขาลาดพร้าว สาขางามวงศ์วาน สาขาเพชรบูรณ์ สาขาขอนแก่น 1 สาขาอุบลราชธานี 1 สาขาตระการพืชผล สาขาศรีสะเกษ 1 สาขาเลิงนกทา สาขาอำนาจเจริญ 1 สาขาบึงพลาญชัย สาขาหนองคาย 1 สาขาหนองบัวลำภู สาขาสกลนคร 1 สาขามุกดาหาร 1 สาขาบึงกาฬ สาขานครพนม 1 สาขาธาตุพนม สาขาเซ็นทรัลพลาซาเชียงใหม่แอร์พอร์ท สาขาสี่แยกสนามบิน สาขาศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ สาขาพรอมเมนาดา เชียงใหม่ สาขาเมืองสมุทร สาขาปาย 1 สาขาเชียงคำ สาขาปิยวรรณ สาขาอุตรดิตถ์ 1 สาขากำแพงเพชร 1 สาขาแพร่ 1 สาขาน่าน สาขาพระนครศรีอยุธยา 1 สาขาสุพรรณบุรี 1 สาขา NT SHOP สุพรรณบุรี สาขาสระบุรี 1 สาขาสุขอนันต์ ปาร์ค สาขาลพบุรี 1 สาขาสิงห์บุรี 1 สาขาชัยนาท 1 สาขาบ้านโป่ง 1 สาขาเพชรบุรี 1 สาขาประจวบคีรีขันธ์ 1 สาขานครปฐม1 สาขาสมุทรสาคร 1 สาขากาญจนบุรี 1 สาขายะลา 1 สาขาฉลอง และสาขาถลาง​ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญในการให้บริการลูกค้าผ่านศูนย์บริการลูกค้า  โดย NT มุ่งมั่นพัฒนายกระดับศูนย์บริการลูกค้าให้ได้รับมาตรฐานทั้งด้านกายภาพ และคุณภาพ มีความทันสมัย ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังในบริการของ NT ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมให้บริการด้วยไม่ตรจิต ให้ความใส่ใจบริการทุกระดับด้วยความประทับใจ  NT จึงนำเกณฑ์มาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก หรือ GECC (Government Easy Contact Center) มาเป็นแนวปฎิบัติเพื่อให้บริการได้อย่าง สะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงง่าย

9295
ดูแลดวงตาอย่างไรให้ห่างไกล COVID-19

                ตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบ เป็นอีกอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อติดเชื้อ COVID-19 เกิดจากการสัมผัสกับสารคัดหลั่งต่าง ๆ จากทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม ทำให้มีเชื้อโรคกระจายมายังเยื่อบุตา ซึ่งการรักษาทำได้โดยการประคับประคองตามอาการ การดูแลดวงตาในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย


                พญ.ธารินี เสงี่ยมพรพาณิชย์ จักษุแพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตาโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า​ COVID-19 ทำให้เกิดอาการทางตาได้ จากข้อมูลล่าสุดราวกลางปี 2021​ พบว่ามีรายงานอาการทางตาตั้งแต่ 2-32% ของผู้ป่วย โดยพบอาการเยื่อบุตาอักเสบได้บ่อยในผู้ป่วยเด็กมากกว่าในกลุ่มผู้ใหญ่ แต่ส่วนใหญ่มีอาการที่ไม่รุนแรง มักเป็นเพียงเยื่อบุตาอักเสบคล้ายกับจากไวรัสชนิดอื่น ๆ รักษาโดยการให้ยาลดอาการและประคับประคองก็จะดีขึ้น ในต่างประเทศมีบางรายงานพบผู้ป่วยที่มีการอักเสบที่ชั้นเหนือตาขาวอักเสบ ความผิดปกติที่จอตาและเส้นประสาทตาอักเสบ แต่เป็นจำนวนน้อยมากๆเมื่อเทียบส่วนใหญ่ที่มีเพียงอาการตาแดงจากเยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งไม่มีผลรุนแรงในระยะยาว


                การดูแลรักษาดวงตาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ไม่ควรใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสดวงตา เพราะจะทำให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบได้ ควรล้างมือบ่อยๆ เนื่องจากไวรัสสามารถติดต่อผ่านทางเดินหายใจ ทางปาก และทางตาได้ การใส่แว่นสายตาแทนการใส่คอนแทคเลนส์ก็สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนดวงตาได้อีกทางหนึ่ง แต่การใส่แว่นสายตาแบบปกติ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 ได้ ควรมีเครื่องป้องกันอื่นร่วมด้วย ควรใช้แว่นตาหรือหน้ากากพลาสติกเพื่อป้องการโดนสารคัดหลั่งต่าง ๆ เข้าสู่ดวงตา ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ควรเลือกให้กระชับ มีความใส คุณภาพดี ทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน วัสดุที่ใช้ในการทำแว่นป้องกันหรือ Face Shield มีให้เลือกหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็น Polycarbonate แบบที่ใช้ในแว่นนิรภัย แต่อาจมีความหนาแตกต่างกันออกไป ควรพิจารณาอย่างละเอียดและเลือกใช้งานให้เหมาะสม


                สำหรับผู้ที่ต้องใส่คอนแทคเลนส์ในช่วงนี้ ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่าผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 มากกว่าผู้ที่ใส่แว่นตา โดยคนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงสามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้ตามปกติ แต่ควรดูแลการใส่อย่างถูกสุขลักษณะเพื่อป้องกันการติดต่อของโรคที่ติดต่อได้จากการใส่คอนแทคเลนส์ ก่อนใส่คอนแทคเลนส์ต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่อย่างน้อย 20 วินาทีและเช็ดมือให้แห้งด้วยกระดาษเช็ดมือที่สะอาดอีกครั้ง ทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ให้ถูกวิธี และหากป่วยเป็นไข้ มีน้ำมูก ไอ จาม ไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์ ในน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์กลุ่ม Hydrogen Peroxide-Based Systems ชึ่งไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทยนัก สามารถใช้ฆ่าเชื้อไวรัสที่ก่อโรค COVID-19 ได้ แต่จะต้องระมัดระวังในการใช้ โดยห้ามใช้น้ำยากับดวงตาโดยตรง เนื่องจาก Hydrogen Peroxide จะทำให้เกิดการระคายเคืองตามมา จะต้องแช่ในตลับชนิดพิเศษให้ครบชั่วโมงตามคำแนะนำจึงสามารถนำคอนแทคเลนส์มาใช้ได้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด สำหรับน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์กลุ่ม Multipurpose Solution ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย และการทำความสะอาดโดย Ultrasonic Cleaners  ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ถึงความสามารถในการฆ่าเชื้อไวรัส COVID-19 แนะนำให้ดูแลรักษาความสะอาดในการใส่คอนแทคเลนส์อย่างเคร่งครัด  ทั้งนี้การใช้ยารักษามาลาเรีย Chloroquine, Hydroxychloroquine ที่มีรายงานการนำมารักษา COVID-19 ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีผลกับจุดรับภาพแบบรุนแรง โดยรายงานเบื้องต้นพบว่า การใช้ยานี้ในผู้ป่วยแม้จะให้ในปริมาณมากกว่าปกติแต่ในช่วงเวลาไม่นาน เพียง 1 – 2 สัปดาห์ ยังไม่มีความเสี่ยง แต่ต้องติดตามผลในระยะยาว แต่ในปัจจุบันใช้น้อยลงเนื่องจากแนวทางการรักษา COVID-19 เปลี่ยนไปตามการศึกษาใหม่ๆ


                ในช่วง COVID-19 หลายคนมักเกิดความกังวลใจในการเข้ารับบริการ ซึ่งโรงพยาบาลกรุงเทพมีมาตรการในการตรวจคัดกรอง เตรียมการป้องกันในทุกรายละเอียดอย่างรัดกุม ผู้ป่วยและบุคลากรมีการใส่ชุดและอุปกรณ์ป้องกันเพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างเหมาะสม ณ ปัจจุบันบุุคลากรทางการแพทย์ในรพ.กรุงเทพได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ครบ 100% พร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคเครื่องมือที่สัมผัสผู้ป่วยทุกอุปกรณ์ผ่านขบวนการทำให้ปลอดเชื้อตามมาตรฐาน ทุกขั้นตอนการรักษาจะใช้เวลาน้อยที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงและความกังวลใจที่อาจเกิดขึ้น ผู้ป่วยจึงมั่นใจได้ในทุกการเข้ารับบริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่​ ศูนย์จักษุ รพ.กรุงเทพโทร.1719  หรือ แอดไลน์ @bangkokhospital

9296
เสียวตู้ รุกตลาดในไทย เตรียมเปิดตัว Du Smart Buds หูฟังไร้สายอัจฉริยะ
พร้อมจับมือ ช้อปปี้ มอบโปรโมชันสุดพิเศษในแคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day


               กรุงเทพฯ, 2 กันยายน 2564 - ไป่ตู้ (Baidu) ผู้ผลิตและสร้างสรรค์นวัตกรรมอันดับ 1 ในประเทศจีน เป็นผู้นำในด้านซอฟต์แวร์และผู้พัฒนานวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ล่าสุดได้เปิดตัวแบรนด์​ เสียวตู้ (Xiaodu) เพื่อชิงส่วนแบ่งทางตลาดของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยี อาทิ อุปกรณ์ IoT, AI รวมถึงผลิตภัณฑ์ในด้านไลฟ์สไตล์อื่นๆ


               แบรนด์เสียวตู้มีเป้าหมายในการขยายตลาดให้ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) มากยิ่งขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่าผู้บริโภคมีความสนใจสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันได้ และในอนาคตตลาดสินค้าเทคโนโลยีสำหรับกลุ่มไลฟ์สไตล์ ยังมีโอกาสเติบโตและเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าของแบรนด์จะเน้นสินค้าเทคโนโลยี IoT, AI และไลฟ์สไตล์ มีความหลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น หูฟังไร้สายอัจฉริยะ, ลำโพงอัจฉริยะ (Smart AI Speaker / Smart Touch Screen AI Speaker), ทีวีอัจฉริยะ (Smart TV), แท็บเล็ตอัจฉริยะ และ อุปกรณ์เกี่ยวกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น Smart Router, อุปกรณ์ IoT ต่างๆ ที่หลากหลาย ตลอดจนสินค้าเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งสินค้าทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Xiaodu ให้ใช้งานด้วยระบบ Ecosystem ได้


นายเกริกชัย ตั้งตระกูลธรรม​  นายไทยทนุ เหมือนแก้วจินดา

               นายเกริกชัย ตั้งตระกูลธรรม ประธานกรรมการผู้จัดการ และ นายไทยทนุ เหมือนแก้วจินดา กรรมการผู้จัดการบริษัท มาร์เก็ตติ้ง 1688 จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท ท๋นบู้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ร่วมมือกับแบรนด์เสียวตู้ เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยี IoT และไลฟ์สไตล์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ซึ่งทางกลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่าย แต่เพียงผู้เดียว (Sole Distributor) และได้มีการจัดตั้งศูนย์บริการ Xiaodu Care เพื่อดูแล แก้ไขปัญหา ให้คำแนะนำ สำหรับผู้ใช้งานสินค้าแบรนด์เสียวตู้ในประเทศไทย


               ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดตัวสินค้าเทคโนโลยีจากเสียวตู้ และต้อนรับผู้ใช้งานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ แบรนด์เสียวตู้ จึงร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ช้อปปี้ (Shopee) ส่งมอบสินค้าราคาพิเศษในแคมเปญ Shopee 9.9 Super Shopping Day เปิดตัวสินค้าแรกของแบรนด์เสียวตู้ Du Smart Buds หูฟังไร้สายอัจฉริยะ True Wireless หูฟังรูปแบบอินเอียร์ เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีบลูทูธ 5.0 พร้อมรองรับระบบจดบันทึกด้วยเสียงพูด อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ผ่านร้านค้าทางการในช้อปปี้ Xiaodu Thailand​ (https://shopee.co.th/xiaoduthailand) พิเศษกับโปรโมชันเปิดตัว ในราคาเริ่มต้นเพียง 889 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 – 9 กันยายนนี้เท่านั้น

               ติดตามข้อมูลข่าวสาร กิจกรรมที่น่าสนใจ และรายละเอียดสินค้าของแบรนด์เสียวตู้เพิ่มเติมได้ทาง​ https://web.facebook.com/xiaoduthailand/

9297
Bellotta Marvo และ ChangeTer ยกขบวนสี่ขาพาเฮง จัดหนัก แจกทองและของรางวัลมากมาย ทุกเดือน มูลค่ากว่า 1,300,000 บาท


ถึงเวลาลูกๆ สี่ขาเปย์หนักตอบแทนเจ้านายที่รักบ้าง กับขบวนการอาหารแมว Bellotta (เบลลอตต้า) อาหารน้องหมา Marvo (มาร์โว) และ ขนมแมวเลีย ChangeTer (เชนจ์เตอร์) ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ยกทัพจัดแคมเปญ “Bellotta สี่ขาพาเฮง จัดหนักแจกทอง” และของรางวัลมากมายทุกเดือน มูลค่ารวมกว่า 1,300,000 บาท


ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมชิงโชคกับกองทัพของรางวัลมากมายได้ เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Bellotta, Marvo หรือ ChangeTer จากร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยมียอดซื้อรวมกันแล้วมีมูลค่าครบทุก 349 บาท รับสิทธิ์ 1 สิทธิ์ จากนั้นแอดไลน์ @Bellotta_th โดยการสแกน QR Code หรือเพิ่มเพื่อนผ่านช่องค้นหา Line ID ถ่ายรูปใบเสร็จ และกรอกรายละเอียด เพียงเท่านี้ก็ได้ร่วมลุ้นรางวัลสูงสุด เป็นทองคำแท่งหนัก 5 บาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ สร้อยคอทองคำ รถมอเตอร์ไซต์ สมาร์ททีวี ไอโฟน ไอแพด สกู๊ตเตอร์ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น-ถูบ้านอัตโนมัติ นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ จักรยานพับได้ เป็นต้น ตั้งแต่ 1 กันยายน ถึง 30 พฤศจิกายน 2564 ข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ก Bellotta , Marvo และ ChangeTer

9298
ยูนิไทย (Unithai) มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ภายใต้โครงการ “Unithai ร่วมมือ ร่วมใจ ปันน้ำใจ สู้ภัย COVID-19” แก่โรงพยาบาลบางเสาธง จ.สมุทรปราการ


เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงทวีความรุนแรงและส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มบริษัทยูนิไทย ได้ริเริ่มโครงการ “Unithai ร่วมมือ ร่วมใจ ปันน้ำใจ สู้ภัย COVID-19” สนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลน ตามพันธกิจหลักของกลุ่มบริษัทยูนิไทย คือ “การพัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปไปกับการพัฒนาความเจริญด้านชุมชน และสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า ชุมชน และผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย”

บริษัท ยูไนเต็ด ไทย โลจิสติคส์ จำกัด และ บริษัท ยูไนเต็ด ไทย คลังสินค้า จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัทยูนิไทย ใ นำโดย คุณไพรัตน์ ทิวากรพรรณราย​ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทยูนิไทย พร้อมด้วย พนักงานยูนิไทยโลจิสติคส์ และยูนิไทยคลังสินค้า  ได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี​ แพทย์หญิงภัคศรัณยธร ธนนันท์นภัส ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางเสาธง นางกองเพชร อิ่มใจ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล และ​ นายกานท์ หลักแหลม​ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานทั่วไป เป็นตัวแทนรับมอบ อุปกรณ์การแพทย์ที่มอบให้โรงพยาบาลบางเสาธง ได้แก่ เครื่องให้อากาศผสมออกซิเจนอัตราการไหลสูง, ชุด Auto-Fill Humidification, Heated breathing tube และ Nasal Cannula สำหรับเครื่อง High Flow Heated Respiratory เพื่อนำไปใช้งานและเป็นการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วย COVID-19

9299
2read แอปฯที่มีมากกว่าการอ่าน พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาสังคม
เปิดแนวทางฝ่าวิกฤตการเงิน งาน และธุรกิจ


คุณป้อม ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา

               2readแอปพลิเคชั่นที่มีมากกว่าการอ่าน นำโดยCEOมากประสบการณ์ คุณป้อม ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา รวมทีม Infulencerนักคิด นักเขียน วิทยากร และบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ทั้งจากสายอาชีพต่างๆ และจากวงการธุรกิจ การเงินการลงทุน มาสร้างคอนเทนต์ให้ความรู้บนแอป 2read โดยหวังให้ 2read เป็นแอปที่ช่วยพัฒนาสังคม ส่งเสริมให้คนเรียนรู้ตลอดชีวิต


               ล่าสุด 2read ได้จัดงานร่วมช่วยคนไทยสู้โควิด-19 กับสัมมนาออนไลน์ฟรี 2read GetThrough2GeTherรวม 11 หัวข้อ จาก 12 วิทยากร แนะวิธีฝ่าวิกฤติทั้งด้านธุรกิจ งาน เงิน และสุขภาพจิตในระหว่างวันที่ 20-29สิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้กระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม มีคนลงทะเบียนเข้าเรียนในแต่ละหัวข้อกว่า 1,000 คน และเนื้อหาในการสัมมนา สามารถนำไปปรับใช้ได้ในเหตุการณ์ปัจจุบันได้ทันที


               2readคือ แอปพลิเคชั่นที่รวบรวมทั้งความรู้ และทั้งความสุข จากตัวจริง เสียงจริง ทั้งด้านการเงินการลงทุน, การทำธุรกิจ และการพัฒนาตนเอง โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างประโยชน์ และสนับสนุนการพัฒนาทักษะของคนในสังคมให้ทันยุคสมัยและทันต่อสถานการณ์ต่างๆอยู่เสมอในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


               2read ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2020โดยเป็นแบรนด์ในเครือ 2morrow Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจให้ความรู้ มีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและก่อตั้งมานานกว่า 16 ปี นั่นคือ stock2morrowทำให้ 2read มีเครือข่ายนักเขียน และวิทยากรจำนวนมาก 2read เปิดตัวปีแรก ด้วยคอนเทนต์ในรูปแบบ “อ่าน” แต่ตั้งเป้าสู่รูปแบบคอนเทนต์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้ง อ่าน ฟังVDO และคลาสเรียน โดยเป้าหมายที่สำคัญ คือ 2read ต้องการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ที่ทำให้คนสนุกกับการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ ทำให้คนอยากที่จะ challengeตัวเอง และอยากที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นในทุกๆวัน




               หมวดหมู่เนื้อหาใน 2read จะเน้นที่ด้านการพัฒนาตัวเอง ธุรกิจ การเงิน การลงทุน และไลฟ์สไตล์ โดยเพิ่มสีสันด้วยนิยายและการ์ตูน เพื่อช่วยคลายเครียด ปัจจุบันแอป 2readมีคอนเทนต์กว่า 500 คอนเทนต์ และกำลังเดินหน้าเพิ่มคอนเทนต์ในหมวดอัพสกิลเต็มกำลังซึ่งเฟส 2 ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ คือ หนังสือเสียงจากเทคโนโลยี AIที่พัฒนาให้มีความเหมือนเสียงของมนุษย์มากขึ้นจนคนที่ได้ฟังแทบจะไม่รู้ว่าเป็นเสียงของAI ซึ่งจะช่วยให้ฟังง่าย ฟังสบายขึ้น ตอบโจทย์คนที่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ หรือไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่ชอบพัฒนาตัวเอง




               แอปพลิเคชั่น 2read ดาวน์โหลดได้ทั้งใน App Store และ Play Store  : https://bit.ly/3bQtbiV และใครที่อยากฟังสัมมนาออนไลน์2read GetThrough2GeTherย้อนหลัง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ:2readหรือ​ www.facebook.com/2read.digital

9300
ไทยยูเนี่ยนประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทในเครือ สงขลาแคนนิ่ง เป็น ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น รองรับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

กรุงเทพฯ – 2 กันยายน 2564 – บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อรองรับการพัฒนาและขยายกิจการในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง โดยการเปลี่ยนชื่อบริษัทจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจภายใต้ ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น  เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตของไทยยูเนี่ยน โดยจะเห็นได้จากผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2  ที่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนได้ใช้เวลาอยู่บ้านกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น”


นอกจากนี้ โรงงานสงขลาแคนนิ่ง เดิมหรือ ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง สำหรับส่วนของสายการผลิตอาหารอื่นๆ ที่นอกเหนือจากอาหารสัตว์เลี้ยง จะย้ายการผลิตไปยังโรงงานอื่นๆ ของไทยยูเนี่ยน


“และเพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคตของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ไทยยูเนี่ยนได้มีการปรับแผนงานใหม่ที่นำนวัตกรรมเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์ของเรา โดย Global PetCare Innovation (GPCI) และ Global Innovation Center (GIC) หรือศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยน จะมีภารกิจสำคัญคือพัฒนานวัตกรรมและตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา โดยมีเป้าหมายในการสร้างสุขภาพที่ดีและอายุขัยที่ยืนยาวให้กับสัตว์เลี้ยง” นายธีรพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 126,275 ล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่หกติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และได้รับอีกหลากหลายรางวัลสำหรับการเป็นผู้นำในการทำงานด้านความยั่งยืน

Pages: 1 ... 618 619 [620] 621 622 ... 2403