Recent Posts

Pages: 1 ... 8 9 [10]
91
ท่าเรือยูนิไทย (Unithai Container Terminal) จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศชายฝั่งทะเล และชุมชนโดยรอบท่าเรือยูนิไทย ณ สถานตากอากาศบางปู


             ท่าเรือยูนิไทย (Unithai Container Terminal) นำโดย คุณวศะ จันทร์แสงสุก ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป  นำทีมงานท่าเรือยูนิไทย และพนักงานกลุ่มบริษัทยูนิไทย ร่วมทำกิจกรรม  “ไปปลูกป่าชายเลนกันนะ” ณ สถานตากอากาศบางปู เพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศชายฝั่งทะเล และชุมชนโดยรอบท่าเรือยูนิไทย โดยตัวแทนจากท่าเรือยูนิไทย, บริษัท ยูไนเต็ด ไทย ชิปปิ้ง จำกัด (สำนักงานใหญ่), บริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด, บริษัท ซียูอีแอล จำกัด กรุงเทพฯ และแหลมฉบัง เข้าร่วมกว่า 40 คน กิจกรรมก่อนการปลูกป่าชายเลน ได้มีการอบรมและบรรยายให้ความรู้เรื่องของป่าชายเลน, ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล และการปลูกป่าชายเลนอย่างถูกวิธี จากนั้นจิตอาสาชาวยูนิไทยได้ออกไปปลูกป่าบริเวณแนวป่าชายเลน การปลูกป่าชายเลนในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสร้างแนวป่าชายเลนให้เป็นแนวกันคลื่นไม่ให้คลื่นซัดเข้ามายังชายฝั่งโดยตรงลดแรงกัดเซาะของคลื่นกับชายฝั่ง และเป็นแหล่งอนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำวัยเยาว์ที่เข้ามาอาศัยหลบภัยและเติบโตจนพร้อมออกไปใช้ชีวิตในทะเลแล้ว ยังช่วยให้ชุมชนในบริเวณใกล้เคียงได้มีอาชีพที่ยั่งยืนอีกด้วย สิ่งสำคัญคือการปลูกป่าชายเลนยังช่วยโลกด้วยการดูดซับ และกักเก็บคาร์บอนบริเวณชายฝั่งทะเลจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต่อการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ







92
“เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ผนึก “คลีนแอนด์แคร์”
พร้อมที่จะเข้าใจและอยู่เคียงข้างคนเป็นสิว ในแคมเปญ ดูแลผิวฮีลใจด้วย
“บัตร M Gen x Klean&Kare : ACNE It’s OK เป็นสิวไม่เป็นไร”


กรุงเทพฯ – บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร จับมึอกับ คลีนแอนแคร์ ร่วมแสดงจุดยืนที่เข้าใจและพร้อมอยู่เคียงข้างคนเป็นสิวทุกคนพร้อมต่อยอดความสนุก ควบคู่การดูแลสุขภาพผิว ผ่านแคมเปญ ACNE It’s OK เป็นสิวไม่เป็นไร ดูแลผิวฮีลใจด้วย “บัตร M Gen x Klean&Kare : ACNE It’s OK เป็นสิวไม่เป็นไร” ด้วยผลิตภัณฑ์กลุ่ม Skincare น้องใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Klean&Kare เพื่อให้ลูกค้าคนรุ่นใหม่หมดกังวลเกี่ยวกับเรื่องสิว พร้อมหันมาใส่ใจดูแลจากภายในจิตใจให้ผ่อนคลาย รวมไปถึงดูแลอย่างถูกวิธี ให้กลับมาเป็นคุณคนใหม่ที่สดใส และออกมาสนุกไปด้วยกัน


นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บัตร M Generation หรือเรียกสั้นๆว่า บัตร M Gen เป็นบัตรเดียวที่ให้สะสมคะแนนทุกความบันเทิงได้ครบวงจร กับ 8 แบรนด์ความบันเทิงในกลุ่มบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, อีจีวี, เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์, พาราไดซ์ ซีนีเพล็กซ์, พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เมกา ซีนีเพล็กซ์ และหาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์ รวมกว่า 165 สาขาทั่วประเทศ โดยทุกๆ 50 บาท จะได้รับคะแนนสะสม 1 แต้ม เมื่อซื้อบัตรชมภาพยนตร์, ป๊อปคอร์น, น้ำอัดลม หรือสินค้าอื่นๆ ผ่านจุดจำหน่ายที่โรงภาพยนตร์ หรือซื้อผ่านทาง Major Application โดยแต้ม M Gen Point สามารถนำมาแลกรับ บัตรชมภาพยนตร์, ป๊อปคอร์น, น้ำอัดลม หรือของที่ระลึกจากภาพยนตร์ ได้ง่ายๆ ผ่านจุดจำหน่ายของโรงภาพยนตร์ หรือที่ M Generation Application นอกจากนี้ยังมีของขวัญพิเศษสำหรับสมาชิก จะได้รับสิทธิ์ชมภาพยนตร์ฟรี ในสัปดาห์เกิด หรือสิทธิ์ร่วมกิจกรรมชมภาพยนตร์รอบพิเศษก่อนใคร รวมถึงรางวัลพิเศษอื่นๆอีกมากมาย ในวันพิเศษ อาทิ วันเด็ก, วันวาเลนไทน์, วันขึ้นปีใหม่ เป็นต้น


สมาชิกบัตร M Generation เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ และเป็นทางเลือกในการผ่อนคลายความเครียด และมีปัญหาผิวในเรื่องสิวเช่นกัน เพราะ“ความเครียด” เป็นอีกปัจจัยสำคัญทำให้สิวขึ้นได้ง่าย เพราะร่างกายเสียสมดุล ก่อให้เกิด สิว ขึ้นได้ง่าย ทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป  และคลีนแอนด์แคร์ จึงขออาสามาดูแลลูกค้าที่ไม่ได้เพียงแค่จะมาช่วย “ดูแลผิว” แต่พร้อมจะช่วยรักษาจิตใจ ในแคมเปญ “บัตร M Gen x Klean&Kare : ACNE It’s OK เป็นสิวไม่เป็นไร” ผ่านผลิตภัณฑ์น้องใหม่ล่าสุดจากคลีนแอนด์แคร์ ในกลุ่ม Skincare ที่สามารถดูแลผิวได้ทุกวัน”

พันตรี สมิทธิ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เอ็น.บี. ลาบอราตอรี่ จำกัด และ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจที่นอกเหนือจากโรงพยาบาล 7.2 (Non Hospital) บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) : (BDMS) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทางคลีนแอนด์แคร์ ได้ดำเนินการเปิดตัวสินค้ากลุ่ม Skincare ที่ต่อยอดมาจากการที่ทางบริษัท ฯ ทำการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคพบว่าผลิตภัณฑ์ Klean&Kare ถูกนำมาใช้ในขั้นตอนของการทำความสะอาดผิวเพิ่มขึ้น ทางแบรนด์ Klean&Kare จึงต้องการใส่ใจดูแลผู้บริโภคให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่มีปัญหาสิว ที่อาจจะยังไม่ทราบว่าเวลาที่เป็นสิวควรปฏิบัติอย่างไร โดยการดูแลผิว ที่มีปัญหาเรื่องสิวอย่างถูกวิธี ด้วยการ "เช็ด แต้ม ทา" เริ่มจากคลีนบริเวณผิวทุกวัน แคร์อย่างถูกวิธี ด้วยผลิตภัณฑ์Klean&Kare นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับภาวะเครียดด้วย หากต้องการผ่อนคลาย การชมภาพยนตร์ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยม คลีนแอนด์แคร์จึงจับมือกับทาง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เพราะต้องการให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ได้รับความสุข สนุกสนาน พร้อมสร้างความมั่นใจ ให้มองสิวกลายเป็นเรื่องธรรมดา แม้เป็นสิวก็ไม่เป็นไร เพราะมีผลิตภัณฑ์คุณภาพเป็นตัวช่วยเพื่อให้ได้ออกมาสนุกกับภาพยนตร์และกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย”

สิทธิประโยชน์จากแคมเปญ “บัตร M Gen x Klean&Kare : ACNE It’s OK เป็นสิวไม่เป็นไร” ที่จะได้รับ

•   ลูกค้าเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ที่ชำระเงินค่าตั๋วชมภาพยนตร์เรื่องใดก็ได้ ผ่านบัตร MGEN Regular รับฟรีผลิตภัณฑ์ Klean&Kare ที่ จุดบริการ Box Office Major Cineplex
•   ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์ Klean&Kare ในกลุ่ม Skincare รับบัตร M GEN หน้าบัตร Klean&Kare ฟรีทันที

โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ Klean&Kare ในกลุ่ม Skincare มีช่องมีทางการจัดจำหน่ายที่ Save Drug, Watsons และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศรวมถึงช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada  และ Bedee แอปพลิเคชันเป็นต้น

พร้อมสามารถรับชม TVC ชุดใหม่ ACNE It’s OK เป็นสิวไม่เป็นไร ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.majorcineplex.com www.facebook.com/MajorGroup รวมถึง www.kleanandkare.co.th/th/ และwww.facebook.com/KleanandKare/
93
คิง เพาเวอร์ สร้างปรากฏการณ์ใหญ่! จัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ”
เนรมิตย่านรางน้ำสู่เดสติเนชั่นนักท่องเที่ยวทั่วโลก


คิง เพาเวอร์ สร้างปรากฎการณ์ใหญ่! เนรมิตย่านรางน้ำสู่เดสติเนชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก จัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ ม่วน-หนุก-สุข-คัก ร่วมสืบสานประเพณีไทยกับขบวนแห่สงกรานต์ 4 ภาค พร้อมจัดเต็มกับอภิมหาความวาไรตี้จากกองทัพศิลปินตลอด 6 วัน สาดสนุกกับเทศกาลดนตรีกลางสายน้ำ ครั้งแรกกับที่สุดแห่งเทศกาลดนตรี ณ ใจกลางเมือง “RANGNAM WATER STREET BY SUPERFLUID” ที่จะมาสร้างสีสันรับซัมเมอร์นี้ เพื่อตอกย้ำจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลก พลาดไม่ได้วันที่ 11-16 เมษายน 2567 ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ


วันนี้ (4 เมษายน 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เกียรติเป็นประธานงานแถลงข่าว “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” พร้อมด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, และนายธนพจน์ ภาคสุวรรณ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติร่วมงานแถลงข่าว พร้อมด้วย นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ และใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ


นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ในวาระก้าวสู่ปีที่ 35 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สร้างปรากฏการณ์ใหญ่ ด้วยการจับมือกับกรุงเทพมหานคร, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และชุมชนย่านรางน้ำ จัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับย่านรางน้ำสู่การเป็น “FESTIVALISATION” ให้เป็นถนนสายหลักในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสร้างสรรค์ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการพัฒนาธุรกิจชุมชนที่รายล้อมในย่านรางน้ำ ก้าวสู่เดสติเนชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกในทุกเทศกาล


โดยงานสงกรานต์ในปีนี้ นำเสนอภายใต้แนวคิด “ม่วน หนุก สุข คัก” ภายในงานได้จำลองบรรยากาศสงกรานต์ทั่วไทยมาไว้ในที่เดียว ตั้งแต่วันที่ 11-16 เมษายน 2567 ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พลาดไม่ได้กับอภิมหาความวาไรตี้สุดยิ่งใหญ่ ม่วนกับอภิมหาขบวนสงกรานต์ ที่จะแห่ฉ่ำกับกองทัพศิลปินชื่อดังทุกวัน กับกองทัพดาราศิลปินกว่า 40 คน ตลอด 6 วัน นำโดย ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์, พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร, โบว์-เมลดา สุศรี, อิงฟ้า-วราหะ, เจฟ-วรกมล ซาเตอร์, เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ และ โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล และขบวนนางงาม นำโดย อแมนด้า ออบดัม, มารีญา พูลเลิศลาภ, น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์, แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส, แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์, โยชิ-รินรดา ธุระพันธ์ และเฟิร์ส-ภัทราพร หวัง เป็นต้น


หนุกกับอภิมหาความบันเทิง กับการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินทั่วฟ้าเมืองไทย อาทิ นนท์-ธนนท์ จำเริญ, โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน, วง PROXIE, จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย การแสดงจากคณะลิเกเทพบุตรสุดที่รัก คลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์ และ The Golden Song เป็นต้น




สุขกับอภิมหาความอร่อย กับร้านอาหารชื่อดังของไทยและของอร่อยในย่านรางน้ำกว่า 40 ร้าน อาทิ ป้าแป๊ดลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์, ติดลม หมูทอดปลาร้า, ยำแหนมข้าวกรอบ เจ๊อ้อม, มาดามไส้อั่ว, Chaffeine, ข้าวขาหมูตรอกซุง, เฮ้งเพียวเฉาก๊วยบางรัก, ลอดช่องวัดเจษฯ ซอย 6 มหาชัย, ผัดไทยยายศรี, ปลาจับหลัก, เสน่ห์ข้าวซอย, เสน่ห์ข้าวปุกงาโมจิน้ำผึ้ง, ป้าบุ๋ม บ้าบิ่น มะพร้าวน้ำหอม, น้ำวุ้นใบเตย ซอยมังกร, โก๋อินเตอร์, เมี่ยงกลีบบัว, เจ๊เบียร์ทะเลทอด, เกี๊ยวซ่าทอดโง่โง่, ข้าวมันไก่เจ๊อิม, ไททัน ลูกชิ้นหมูแช่กะทิ, ขนมไทยอุ้ม & นภา, โดนัท พี่ปราณี และ จีบโรจน์โคตร หร่อย ฯลฯ




คักกับอภิมหาโปรฯสุดคุ้ม สมาชิกฯ มีไฟลต์บินลดสูงสุด 25% หรือไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้กับสินค้าป้ายฟ้า ช้อปรับกลับบ้านได้ทันที หรือยังไม่เป็นสมาชิกฯ สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ NAVY ฟรี พร้อมรับคูปองส่วนลด 1,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1-16 เมษายน 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต




พิเศษเฉพาะ 11-16 เมษายน 2567 แจกฟรี Gift Voucher 200 บาท และกางเกงช้างหรือผ้าขาวม้า 1 ชิ้น(จำนวนจำกัด) คุ้มสุด ๆ สมาชิกฯ รับสิทธิ์เป็น 30 คนพิเศษร่วมกิจกรรมถ่ายรูปและรับดริ้งค์สุดพิเศษจากศิลปิน (จำกัด 1 สิทธิ์/ท่าน/วัน) ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้า นอกจากนี้ยังตอกย้ำย่านรางน้ำเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่สำหรับเทศกาลสงกรานต์ กับการเนรมิตถนนรางน้ำเป็นถนนสายน้ำในวันที่ 13 – 15 เมษายน กับเทศกาลดนตรีสุดชุ่มฉ่ำผ่านสายน้ำ “RANGNAM WATER STREET BY SUPERFLUID” ภายใต้แนวคิด “สีสันที่ไม่มีวันสิ้นสุด” เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งความ ม่วน หนุก สุข คัก ที่มาพร้อม LINE UP ศิลปิน T-POP และดีเจชื่อดังที่จะมาสาดความมันส์รับซัมเมอร์นี้ไปด้วยกัน




พลาดไม่ได้! อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ ยกขบวนความสนุกของสงกรานต์ทั่วไทยไว้ในงานเดียว ในวันที่ 11-16 เมษายน 2567 เวลา 10.00-21.00 น. และ “RANGNAM WATER STREET BY SUPERFLUID” ในวันที่ 13-15 เมษายน 2567 เวลา 16.30-21.00 น. ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ









94
ข้อระวังการรื้อย้ายตู้คอนเทนเนอร์

จากเหตุการณ์รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ไหลถอยหลังลงมาชนอาคารพาณิชย์ ที่ ซ.สวนผักกาด เมื่อวันที่ 5 เม.ย. จนทำให้เสาอาคารหักเสียหาย และอาคารอาจถล่มได้หากการรื้อถอนตู้คอนเทนเนอร์ไม่ถูกวิธี


ศ.ดร. อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย นายชูเลิศ จิตเจือจุน และ นายวัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์ กรรมการบริหารสมาคมฯ ได้ร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ และได้อธิบายว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีส่วนคล้ายกับเหตุเรือชนเสาสะพานในสหรัฐอเมริกา จนสะพานพังถล่งลงมา

ในกรณีนี้ เป็นรถบรรทุกไหลมาชนเสาอาคารหลังริม แต่เนื่องจากอาคารพาณิชย์สร้างต่อเนื่องหลายคูหา มีเสาหลายต้น เสาที่เสียหายเป็นของอาคารหลังริม น่าจะประมาณ 1-2 ต้น แต่ก็มีตู้คอนเทนเนอร์ มารองรับคานชั้นหนึ่งแทนเสาไว้แทน โครงสร้างทั้งหมดจึงยังตั้งอยู่ได้





ศ.ดร.อมร พิมานมาศ อธิบายเพิ่มเติมว่า การรื้อถอนตู้คอนเทนเนอร์ออก จะต้องวิเคราะห์และพิจารณาปัจจัยเหล่านี้

1. ก่อนจะรื้อถอน จะต้องทำการค้ำยันโครงสร้างเดิมไว้ก่อน

2. การค้ำยันโครงสร้าง ต้องคำนวณน้ำหนักอาคารทั้งหมด และต้องใช้ค้ำยันที่มีขนาด จำนวนขา และกำลังรับน้ำหนักที่เพียงพอรองรับน้ำหนักได้โดยมีค่าความปลอดภัยไม่น้อยกว่า 2

3. ควรต้องปรึกษาวิศวกรในการวางตำแหน่งที่จะค้ำยัน และฐานรองรับค้ำยันต้องแข็งแรง ควรค้ำยันกับพื้นปูนหรือโครงสร้างที่มีความแข็งแรง

4. ควรตรวจวัดการเอียงตัวของอาคาร ขณะที่ทำการรื้อถอน

5. สำรวจความเสียหายทางโครงสร้างของอาคารหลังที่อยู่ติดกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รอยร้าว และการเสียรูป

6. การทำงานรื้อถอนควรอยู่ภายใต้การกำกับของวิศวกรระดับสามัญวิศวกร ขึ้นไป
95
มหกรรมสินค้าแบรนด์เนมแท้ลดกระหน่ำ 90% สินค้าในงานกว่า 5,000 ชิ้น
ตั้งแต่วันนี้ – 9 เมษายน 67 ที่ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์)


Moppet Brandname ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมมือสองของแท้100% จัดใหญ่ จัดเต็มมาให้เลือกช้อป


- สินค้าแบรนด์เนมมือสองของแท้จากแบรนด์ดัง มีให้เลือกมากมาย เติมของทุกชั่วโมง
- รับส่วนลดเพิ่มไปเลยทันที 200 บาท ต่อใบ เมื่อจ่ายเงินสดหรือโอน สิทธิพิเศษเฉพาะภายในงานเท่านั้น



มีเพื่อนชวนเพื่อนมาช้อปสู้ร้อนไปพร้อมกันได้ที่ศูนย์การค้าเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ชั้น M
ช่องทางการติดต่อ line :
https://lin.ee/drkhLT8

#MOPPETSUMMERSALE2024#MOPPETBRANDNAME #Themarketbangkok
ติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ FB:TheMarketBangkok






















96
ไทเชฟ ลุยตลาดจีนในงาน FINE FOOD SHANGHAI / HOTELEX 2024


              ไทเชฟ (ThyChef) ผู้นำด้านผงโรยอาหารและผงชงเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติ จัดทัพขบวนสินค้าออกบูธในงาน FINE FOOD SHANGHAI / HOTELEX 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มทุกรูปแบบ ทั้งจากท้องถิ่นและนานาชาติ ตลอดจนโซลูชันด้านการบรรจุ และเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารต่าง ๆ โดยไทเชฟได้นำสินค้ามากมายไปจัดแสดงที่งาน อาทิ ผงปรุงรสต้มยำ รสชีส รสปาปริก้า ทั้งแบบซองและแบบกระป๋อง เครื่องดื่มผงสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ฟรีซดราย รวมถึงมีสินค้าสำหรับให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองชิมฟรี ซึ่งการออกบูธในครั้งนี้ถือเป็นเวทีทางธุรกิจที่สำคัญ สำหรับผู้ส่งออกจากทั่วทุกมุมโลกในการเข้าถึงตลาดจีนที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จัดแสดงที่ Booth No. NHA - 204 ณ National Exhibition and Convention Center (Shanghai) สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 27 - 30 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมา






              สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของไทเชฟได้ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วประเทศ หรือบิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อทางออนไลน์กับบริการ “ฟาสต์ ไทเชฟ” สั่งวันนี้ ส่งวันนี้พรุ่งนี้ถึง เร็วทันใจ ที่ www.thychef.com หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%40thychef หรือทางเว็บไซต์ www.lazada.co.thwww.shopee.co.th FB: ThyChef, ID Line: @thychef สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-968-3723-6
97
สงกรานต์นี้ พม. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สสส. และภาคี ชวนสังคมร่วมรณรงค์
“สงกรานต์ปลอดภัย สังคมไทยเคารพสิทธิ” ลดการคุกคามทางเพศ และการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ


วันนี้ (3 เม.ย. 67) เวลา 10.00 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล, สสส., มูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว, สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, สมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์ปลอดภัย สังคมไทยเคารพสิทธิ” ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีการปล่อยขบวนรถสามล้อรณรงค์ ที่วิ่งในเขตพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์และบริเวณใกล้เคียง การแสดงละครสะท้อนปัญหาการไม่เคารพสิทธิในช่วงเทศกาลสงกรานต์  และและเสวนาในหัวข้อ “การสร้างความปลอดภัยต่อสังคมในช่วงสงกรานต์” อีกด้วย


นายอนุกูลฯ กล่าวว่า ตามที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ที่สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติจึงได้เสนอหลักการจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567” ซึ่ง ครม. มีมติเห็นชอบให้จัดกิจกรรมสงกรานต์ 21 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 – 21 เมษายน 2567 ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าว และโดยที่ทราบกันทั่วไปว่า เทศกาลสงกรานต์ของไทยเป็นเทศกาลที่เน้นความสนุกสนาน และส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาลก็มักจะมีการสังสรรค์ด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงตามมา โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนน และการทะเลาะวิวาท แต่ยังมีอีกหนึ่งปัญหาความรุนแรงที่เรามักจะมองข้าม หรือไม่คิดว่าสิ่งนั้นเป็นปัญหา นั่นคือ ปัญหาการคุกคามทางเพศ พม. และภาคีเครือข่าย จึงได้จัดการรณรงค์ครั้งนี้ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนักถึงปัญหาการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ ที่ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใดก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และผิดกฎหมาย สร้างความเข้าใจในเรื่องการเคารพ ให้เกียรติ ในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย ความยินยอมพร้อมใจของผู้อื่น ไม่ฉวยโอกาสลวนลาม หรือคุกคามทางเพศ และไม่ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพื่อให้ทุกคนในสังคมไม่ว่าจะเด็ก สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศ ต่างก็มีความปลอดภัยในทุกพื้นที่ ได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกัน ช่วยกันสร้างกระแสให้สังคมร่วมกันผลักดัน ร่วมกันเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบกับปัญหาความรุนแรงและปัญหาการคุกคามทางเพศ และปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชนให้เห็นถึงโทษของแอลกอฮอล์ การลดผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในมิติต่าง ๆ


“กิจกรรมการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย สังคมไทยเคารพสิทธิ” จะไม่จบลงเฉพาะในการจัดงานในวันนี้เท่านั้น โดย พม. และภาคีเครือข่าย ได้สนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์และแนวคิดการรณรงค์ฯ ไปยังเครือข่ายและหน่วยงานระดับจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อให้ช่วงเวลาของเทศกาลสงกรานต์ในทุกพื้นที่ ที่นอกจากจะสืบสานประเพณีอันดีงามแล้ว ยังเป็นเทศกาลแห่งความสุข สนุกสนาน และในช่วงเวลานี้ยังเป็นวันผู้สูงอายุกับวันครอบครัว ซึ่งเราจะใช้ช่วงเวลานี้ไปรดน้ำขอพรจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และผู้ที่เคารพนับถือ เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ไทยที่มีความสุข มีความปลอดภัย ปราศจากแอลกอฮอล์ และขอชวนเชิญทุกท่านให้ร่วมตระหนักไปด้วยกันว่า ในทุก ๆ วัน ไม่เฉพาะเทศกาลนี้เท่านั้น สังคมไทยต้องปลอดภัยจากการคุกคาม ทุกพื้นที่ต้องปลอดภัยสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย เป็นสังคมที่ให้ความเคารพในสิทธิ ซึ่งกันและกัน” นายอนุกูลฯ กล่าวทิ้งท้าย


นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ข้อมูลว่า ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) รายงานสถานการณ์สงกรานต์ ปี 2566 พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 264 คน ลดลง 14 คน จากปี 2565 ที่มีผู้เสียชีวิต 278 คน ส่วนการดื่มแล้วขับที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตลดจาก 16.5% ในปี 2565 เหลือ 10.6% ในปี 2566 สอดคล้องกับจำนวนผู้เสียชีวิตคาที่ลดลงจาก 56.8% ในปี 2565 เหลือ 53.4% ในปี 2566 ส่วนใหญ่มาจากการขับรถเร็วที่มีการชนรุนแรงจนทำให้เสียชีวิตในทันที นอกจากนี้ข้อมูลการจากการเก็บข้อมูลของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ในช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมาพบปัญหาส่วนใหญ่ คือ ถูกประแป้งที่ใบหน้าหรือร่างกาย ถูกแซว/ผิวปากหรือใช้สายตาจ้องมองทำให้อึดอัด เคยถูกฉวยโอกาสลวนลาม เกิดอุบัติเหตุ ถูกก่อกวนจากคนเมาหรือถูกบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และทะเลาะกันในครอบครัว


“สงกรานต์ปีนี้ สสส. จึงเน้นย้ำเรื่องการจัดพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า ป้องกันลดอุบัติเหตุ ความรุนแรง มีสติ มีขอบเขตและการเคารพสิทธิ ปัจจุบันมีพื้นที่เข้าร่วมกว่า 100 พื้นที่ ถนนตระกูลข้าวปลอดเหล้ากว่า 60 แห่ง โดยขอฝากทุกคนว่า “ดื่มไม่ขับ ดื่มเหล้า เมาถึงสมอง” เพราะร่างกายเรามีร่างเดียว เปลี่ยนไม่ได้ ต้องดูแลให้ดีเพื่อให้ใช้ได้ยาวนาน จนถึงวัยชรา จึงอยากเชิญชวนให้ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดการทำลายสมอง” นางสาวรุ่งอรุณฯ กล่าว


ดร.ณัฐพล แย้มฉิม ประธานสวนดุสิตโพล เปิดเผยข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนต่อเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 26-29 มีนาคม 2567 โดยสำรวจจากประชาชนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำนวน 4,011 คน พบว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ร้อยละ 66.09 ไม่เล่นน้ำสงกรานต์ เพราะต้องการพักผ่อน อากาศร้อน มีร้อยละ 14.19 ที่ไม่เล่นเพราะกลัวถูกลวนลาม (บางส่วนเคยถูกลวนลาม) กลุ่มที่เคยเล่นสงกราน์ส่วนใหญ่เคยเจอสถานการณ์ถูกประแป้งที่ใบหน้า ร้อยละ 57.79 ถูกฉวยโอกาสแต๊ะอั๋ง/ลวนลาม ร้อยละ 32.43 และเด็กกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี เคยถูกประแป้งที่ใบหน้ามากที่สุด ร้อยละ 76.77

โดยพฤติกรรมการฉวยโอกาสแตะอั๋ง/ลวนลามที่พบมากที่สุด คือ ถูกจับมือ/แขน/เบียดเสียด ร้อยละ 61.45 ถูกสัมผัสลูบไล้ร่างกาย ร้อยละ 37.19 ถูกจับแก้ม ร้อยละ 34.47 ใช้สายตาจ้องมอง แทะโลม ทําให้รู้สึกอึดอัด ไม่ปลอดภัย ร้อยละ 22.45 ถูกแซว/ล้อเลียนส่อไปในเรื่องเพศ ร้อยละ 21.54 และถูกสัมผัส/ล้วงอวัยวะอื่นๆ ที่เกินเลย ร้อยละ 16.55 และกลุ่มตัวอย่าง “รับรู้” ว่าการถูกลวนลาม/คุกคามทางเพศถือว่าเป็นการกระทําความผิดตามกฎหมายอาญา ร้อยละ 92.10 และเมื่อถามว่า ปี 2567 นี้จะออกไปเล่นน้ำสงกรานต์หรือไม่ พบว่า ร้อยละ 48.49 รอดูสถานการณ์/การจัดงาน/กิจกรรม ใกล้ ๆ ก่อน และไม่ออกแน่นอน ร้อยละ 37.70 สิ่งที่กังวลหรือห่วงใยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คือ ภัยอันตราย/อุบัติเหตุมากที่สุด ร้อยละ 85.06 การจราจรติดขัด ร้อยละ 52.03 น้ำไม่สะอาดและโรคที่มากับน้ำ ร้อยละ 47.12 สภาพอากาศร้อนและโรคที่มากับความร้อน ร้อยละ 43.72 การดื่มสุรา/น้ำกระท่อมทำให้ขาดสติ แล้วเกิดการทะเลาะวิวาท ร้อยละ 40.22 และการล่วงละเมิดทางเพศ ร้อยละ 34.13

ในส่วนของข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการลวนลามและการคุกคามทางเพศในเทศกาลสงกรานต์ อาทิ ให้ระมัดระวังตนเองขณะที่เล่นน้ำสงกรานต์ ร้อยละ 24.33 มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพิ่มบทลงโทษให้ชัดเจน และมีความรุนแรงมากขึ้น กับผู้ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ร้อยละ 15.97 เพิ่มเจ้าหน้าที่คอยดูแลและควบคุมสถานการณ์ตามจุดต่าง ๆ อย่างเข้มงวดและทั่วถึงทุกพื้นที่ รวมถึงให้ภาคประชาชนช่วยสอดส่องดูแล ร้อยละ 11.04 รณรงค์สร้างจิตสำนึกที่ดีในการเล่นน้ำสงกรานต์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น เช่น ไม่เล่นสาดน้ำรุนแรง ทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกัน ประแป้งอย่างสุภาพ ร้อยละ 10.00 หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่นและเสี่ยงที่จะถูกลวนลาม ร้อยละ 8.06 จัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์แบบขนบธรรมเนียมประเพณีไทยดั้งเดิม เพื่อสืบสานวัฒนธรรมที่ดีไว้อย่างต่อเนื่องทุกปี เช่น จัดเทศกาลสงกรานต์ตามแบบฉบับของชุมชนต่าง ๆ เพื่อสืบสานประเพณีเดิมไม่ให้สูญหายไป และให้คนรุ่นใหม่รักษาและสืบสานประเพณีสงกรานต์แบบดั้งเดิม ร้อยละ 7.01
98
เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต จับมือ ธ.เกียรตินาคินภัทร
ออกประกันสะสมทรัพย์การันตีเงินคืนทุกปีสูงสุด 5%


              "เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต ไทยแลนด์" ร่วมกับ “ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)” ออกประกันสะสมทรัพย์แบบมีเงินปันผล KKPGEN WEALTH PLUS 15/5 (PAR) ให้ผลประโยชน์สูงทั้งคุ้มครองชีวิต สะสมเงินออมในรูปแบบการประกันชีวิต และวางแผนภาษี

              ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เคเคพีเจน เวลท์ 15/5 พลัส (แบบมีเงินปันผล) “KKPGEN WEALTH PLUS 15/5 (PAR)” เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิต 15 ปี โดยชำระเบี้ยประกันภัยระยะสั้นเพียง 5 ปี และสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการออม ด้วยผลประโยชน์เป็นเงินคืนในอัตราที่แน่นอนทุกปี ตลอดจนผลตอบแทนจากเงินปันผลที่บริษัทประกันภัยจัดสรรนำไปลงทุน

•     การันตีรับเงินคืนระหว่างสัญญาต่อเนื่องทุกปีสูงสุด 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
•   โอกาสในการรับเงินปันผลทุกปี
•   เมื่ออยู่ครบสัญญารับเงินคืน 505% ของจำนวนเงินประกันภัย
•   รวมผลประโยชน์ตลอดสัญญา (ไม่รวมเงินปันผล) 552.5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
•   เสียชีวิตระหว่างสัญญารับความคุ้มครองสูงสุด 550% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย


              สมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 75 ปี จำนวนเงินเอาประกันภัยเริ่มต้นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป โดยเบี้ยประกันภัยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท

              พิเศษ! ซื้อประกัน KKPGEN WEALTH PLUS 15/5 (PAR) ตรงตามเงื่อนไขที่ บมจ. เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) กำหนด รับสิทธิ์ HONG KONG EXCLUSIVE TRIP สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารเกียรตินาคินทุกสาขา หรือดูรายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://link.kkpfg.com/BV5jF หรือ โทร. 0 2 165 5555 พิจารณารับประกันภัย โดย บมจ. เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) ธนาคารเป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต  ทั้งนี้ ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

###

เกี่ยวกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่ประกอบด้วยธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด โดยธนาคารมีวิสัยทัศน์ในการนำทรัพยากรสู่ลูกค้าอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเปี่ยมประสิทธิภาพด้วยบริการที่เหนือความคาดหมาย ทั้งนี้ ธุรกิจของธนาคารครอบคลุมสินเชื่อบรรษัท สินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคล ตลอดจนเชื่อมโยงกับธุรกิจด้านตลาดทุน ที่ประกอบด้วยธุรกิจวานิชธนกิจ (Investment Banking) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (Wealth Management) ธุรกิจการลงทุน (Direct Investment) และธุรกิจจัดการกองทุน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kkpfg.com
99
“มูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์” รับรางวัล “รัตโนบล” ประจำปี 2566
โดยมีเภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทยร่วมแสดงความยินดี


              ธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ (คนที่ 4 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ เป็นตัวแทนรับมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีจาก ภก. ธีระ ฉกาจนโรดม (คนที่ 3 จากซ้าย) นายกเภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย เนื่องในโอกาสที่ มูลนิธิอาจารย์เกษม ปังศรีวงศ์ ได้รับรางวัล  “รัตโนบล” 2566 จากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีคณะจากเภสัชกรรมสมาคมฯ ร่วมแสดงความยินดี อาทิ ภก. วิชา สุขุมาวาสี (คนที่ 5 จากซ้าย) อุปนายกสมาคมฯ, ภก. นิพนธ์ ศิริพิชัยพรหม (คนที่ 6 จากซ้าย) อุปนายกสมาคมฯ, ภก.รศ.ดร. กัมปนาท หวลบุตตา (คนที่ 2 จากซ้าย) เลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วย ผศ.ภญ.ดร.รุ่งเพ็ชร สกุลบำรุงศิลป์ (คนที่ 1 จากซ้าย) ประธานสมาพันธ์เภสัชกรรมสมาคมแห่งเอเชีย (FAPA-CP) ณ อาคาร B.L.H. ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ
100
ยิ่งให้...ยิ่งได้
โครงการของ เอช เซม ส่งมอบสิ่งดีๆ ให้สังคมไทย

             โครงการ ยิ่งให้...ยิ่งได้ โดย เอช เซม มอเตอร์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ด้วยความปลื้มใจ ที่ได้ส่งมอบความปรารถนาดีให้กับสังคมไทยมาโดยตลอด และยังคงส่งมอบความรัก ความห่วงใยผ่าน “การให้” ในรูปแบบต่างๆ ประเดิมเปิดปีมะโรงนี้ด้วยการมอบรถกอล์ฟไฟฟ้าให้แก่วัด 3 วัด ในจังหวัดอยุธยาและลพบุรี จำนวน 3 คัน มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท

             นายวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด กล่าวถึง กิจกรรมในปีนี้ว่า “ผมได้แรงบันดาลใจมาจากการเห็นการทำงานของพระภิกษุสงฆ์ในด้านต่างๆ เป็นแรงจูงใจให้ผมตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้การทำงานมีความคล่องตัวและสะดวกสบายขึ้น”

             ดังนั้น ในไตรมาสแรกปีนี้ โครงการ “ยิ่งให้...ยิ่งได้” ของเอช เซม มอเตอร์ ได้มอบรถกอล์ฟไฟฟ้าให้แก่ 2 วัดในอยุธยา และ 1 โรงเรียนที่ลพบุรี โดยเข้ากราบสักการะและถวายรถกอล์ฟไฟฟ้า ขนาด 8 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน พร้อมน้ำดื่ม 60 แพ็ค แด่หลวงพ่อแม้น อาจารสัมปันโน หรือ พระครูสมบูรณ์จริยธรรม วัดหน้าต่างนอก อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


             ต่อมาได้กราบนมัสการและถวายรถกอล์ฟไฟฟ้า ขนาด 8 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน แด่พระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ผู้อำนวยการโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้ในกิจการของโรงเรียน โดยในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคุณนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมถวายด้วย


             และล่าสุดได้เข้ากราบนมัสการและถวายรถกอล์ฟไฟฟ้า ขนาด 5 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน พร้อมน้ำดื่ม 60 แพ็ค แด่พระครูปลัดสุวัฒนเถรคุณ (พระอาจารย์แก้ว) รองเจ้าคณะอำเภอภาชี เจ้าอาวาสวัดตะโก และได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คุณนิวัฒน์ รุ่งสาคร ร่วมถ่ายภาพ


             สำหรับกิจกรรมในไตรมาสสองนั้น คณะทำงานของโครงการ “ยิ่งให้...ยิ่งได้” กำลังหาข้อมูลเพื่อดำเนินการส่งมอบความรู้สึกดีๆ ความขอบคุณ และกำลังใจ ให้กับสังคมไทยและผู้คนรอบข้างต่อไป

###

เกี่ยวกับ โครงการ “ยิ่งให้ ... ยิ่งได้” (Give More Gain More)

เกิดจากแนวคิดและรูปแบบการทำงานของผู้บริหาร บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด ที่จะมอบความรู้สึกดีๆ ความขอบคุณ และเป็นกำลังใจ ส่งคืนให้กับสังคมไทยและผู้คนรอบข้างในรูปแบบต่างๆ ภายใต้ความเชื่อมั่นและศรัทธาที่ว่าการให้โดยไม่รู้สึกหวงย่อมจะได้รับสิ่งคืนกลับมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอย่างแน่นอน  โดยคำกล่าวที่ว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้” นั้น เป็นโอวาทธรรมของพระธรรมสิงหบุราจารย์ หลวงพ่อจรัล ฐิตธัมโม แห่งวัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเมื่อได้นำมาพิจารณาแล้ว มีความสอดรับกับการดำเนินกิจการของบริษัทฯ จึงได้นำโอวาทธรรมดังกล่าว มาตั้งเป็นชื่อโครงการเพื่อเป็นสิริมงคลและย้ำเตือนในการดำเนินธุรกิจต่อไป ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถ โทรสายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ 062-276-5005

หรือ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ FB:
https://www.facebook.com/HSEMMotor.CSR

###

ความหมายของสัญลักษณ์

"มือที่ประสานกัน"

เปรียบเสมือนการให้และการรับ ซึ่งผู้ให้กับผู้รับสามารถที่จะเป็นคนๆ เดียวกันได้ เพราะการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนย่อมได้รับสิ่งกลับคืนในรูปแบบใดแบบหนึ่งอย่างแน่นอน

"วงกลมที่ห้อมล้อมโลโก้บริษัทฯ"

เปรียบเสมือนสายใยเชื่อมโยงการให้และการรับ โดยมี บริษัท เอช เซม มอเตอร์ เป็นผู้เชื่อมสายใยนี้

"สีฟ้า-เขียว"

เปรียบเสมือนพื้นฟ้า พื้นน้ำ พื้นดินบนความเขียวชอุุ่ม ซึ่งเป็นสีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และธรรมชาติคือผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่
Pages: 1 ... 8 9 [10]