Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 845 846 [847] 848 849 ... 2403
12691
“เจจูวิต้า” โชว์จุดยืนของแบรนด์
ผนึกกำลังร่วมกับผู้ประกอบการเสริมศักยภาพธุรกิจ


                 ชลธิดา สถาวรวิจิตร (คนที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) จัดงานสัมมนาผลิตภัณฑ์เจจูวิต้า (Jejuvita) ร่วมกับผู้ประกอบ Traditional Trade เพื่อเผยแผนกลยุทธ์การตลาดปี 2564 มุ่งเน้นแผนการตลาดด้านออนไลน์มากยิ่งขึ้น และโชว์จุดยืนตามสโลแกนของแบรนด์​ “Beauty is Yummy เพราะความสวยคือความอร่อย” สินค้าดีต้องมาพร้อมกับความอร่อยซึ่งเป็นจุดแข็งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค โดยมี เก้า-สุภัสสรา ธนชาต (คนที่ 3 จากซ้าย) พรีเซนเตอร์แบรนด์เจจูวิต้ามาร่วมอวดหุ่นสวยและร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้​ ณ โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน เมื่อเร็วๆ นี้

12692
พิซซ่า ฮัท จับมือเลย์ ชูกลยุทธ์ Brand Collaboration
มุ่งเพิ่มคุณค่าแบรนด์ พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่




กรุงเทพมหานคร, 22 ตุลาคม 2563 - สั่นสะเทือนวงการพิซซ่าและขนมขบเคี้ยวในคราวเดียว เมื่อพิซซ่า ฮัท 1150 แบรนด์พิซซ่าระดับโลกซึ่งบริหารโดยบริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด ร่วมกับเบอร์หนึ่งแห่งวงการมันฝรั่งทอดกรอบของเมืองไทยอย่างเลย์ (Lay’s) ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด Brand Collaboration ร่วมกันเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในแคมเปญ “Pizza Hut x Lay’s” กรอบฟินกับพิซซ่าขอบใหม่ “3 ชีสกรอบ ขอบเลย์ หน้าฮอกไกโดชีส ซูเปอร์ ฮาวายเอี้ยน” และเลย์ รสชีสพิซซ่า และรสซีฟู้ดชีสพิซซ่า ที่ได้แรงบันดาลใจจากพิซซ่ายอดนิยมอย่างหน้าฮอกไกโดชีส​ ถือเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กันและกัน ทั้งการพัฒนาสินค้าในรสชาติใหม่ เมนูใหม่ การเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และการสร้างความเชื่อถือให้กับแบรนด์ตัวเองมากขึ้น

คุณอุษณา มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า “เราเลือก Lay’s เป็น Partner Brand เนื่องจากเลย์เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและครองส่วนแบ่งทางการตลาดมันฝรั่งทอดกรอบในไทยเป็นอันดับหนึ่งมาโดยตลอด ที่สำคัญ เลย์มี Brand Essence ตรงกับแบรนด์พิซซ่า ฮัท ในเรื่องการสร้างสีสันและความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การที่พิซซ่า ฮัท จับมือกับเลย์และนำกลยุทธ์ Brand Collaboration มาใช้ จึงเป็นการเสริมภาพลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ให้ชัดเจนและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับแคมเปญ “Pizza Hut x Lay’s” ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ความอร่อยเซอร์ไพรส์คูณสองจากพิซซ่า ฮัท ขอบใหม่ “3 ชีสกรอบ ขอบเลย์” เต็มอิ่มด้วยชีสถึง 3 ชั้น โรยแน่นด้วยมันฝรั่งทอดกรอบของเลย์ ฟินแบบเวอร์ๆ อร่อยกันตั้งแต่ขอบยันหน้า ส่วนเลย์มาพร้อมมันฝรั่งทอดกรอบรสใหม่ “รสชีสพิซซ่า” “รสซีฟู้ดชีสพิซซ่า” และ “เลย์เพลย์ รสชีสพิซซ่า” ที่ได้แรงบันดาลใจจากรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของฮอกไกโดชีสที่หอมมันเข้มข้นจากพิซซ่า ฮัท ให้ผู้บริโภคยิ่งทานยิ่งฟิน เราคาดหวังว่าแคมเปญ “Pizza Hut x Lays” ซึ่งพ่วงด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มให้กับแฟนพิซซ่า ฮัท และแฟนเลย์ จะช่วยให้พิซซ่า ฮัท เข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มมิลเลนเนียลในวงกว้างขึ้น ตลอดจนดันยอดขายให้สูงขึ้นด้วย”

คุณนาเดียร์ โอเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหารประเทศไทย บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “เลย์ ในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดขนมขบเคี้ยว ไม่เคยหยุดยั้งที่จะพัฒนานวัตกรรมและสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และในปีนี้เลย์ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการขนมขบเคี้ยว ครั้งแรกของเลย์ในการ collaborate กับแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำ โดยร่วมมือกับพิซซ่า ฮัท แบรนด์พิซซ่าระดับโลก เปิดตัวเลย์รสชาติใหม่ที่ได้แรงบัลดาลใจจากเมนูสุดฮิต พิซซ่าฮอกไกโดชีสของพิซซ่าฮัท เพื่อสร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภควัยรุ่นและกลุ่มคนรักชีสอีกด้วย โดย “Lay’s x Pizza Hut” มีด้วยกันสองรสชาติคือ​ “เลย์รสชีสพิซซ่า” ความกรุบกรอบเต็มพิกัดจากเลย์ที่มาพร้อมความหอมของชีสแบบเต็มๆ ตั้งแต่คำแรกที่ได้ชิม วางขายแล้วที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และ “เลย์รสซีฟู้ดชีสพิซซ่า” ที่นำเอาความหอมจากชีสคลุกเคล้าด้วยรสซีฟู้ดสูตรพิเศษให้ได้รสชาติกลมกล่อมถูกปากคนไทย วางขายแล้วเฉพาะที่เซเว่น อิเลฟเว่นทั่วประเทศ และสามารถติดตามความพิเศษของหนังโฆษณาของ “Lay’s x Pizza Hut” ได้ในช่องทางดิจิทัล โดยเราได้นักแสดงวัยรุ่นชื่อดังอย่างสกาย ต้าเหนิง พีพี และบิวกิ้น มาเป็นตัวแทนในการนำเสนอรสชาติใหม่นี้ ซึ่งเรามั่นใจว่าการ collaborate นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งแฟนๆ ของเลย์และพิซซ่า ฮัท ติดตามความสนุกและตื่นเต้นจากเลย์ได้อีกเร็วๆ นี้


เพื่อสร้างความฟินเวอร์ ผู้ที่ทานมันฝรั่งทอดกรอบ​ “รสชีสพิซซ่า” “รสซีฟู้ดชีสพิซซ่า” และ “เลย์เพลย์ รสชีสพิซซ่า” จากเลย์ สามารถนำส่วนลดมุมซองมาฟินสุดขอบกับพิซซ่า “3 ชีสกรอบ ขอบเลย์” จัดเต็มชีส 3 ชั้น ได้แก่ มอซซาเรลลาชีส เชดดาชีส และชีสพาวเดอร์ และท็อปปิ้งพิเศษฮอกไกโดชีส ซูเปอร์ ฮาวายเอี้ยน พร้อมโปรโมชั่นเด็ดสุดคุ้ม ซื้อ 1 แถมซีฟู้ดพิซซ่า ฟรีอีก 1 ถาด ในราคาเพียง 499 บาท และมีสิทธิ์ซื้อชุดคอมโบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Hut X Lay’s ในราคาเพียง 555 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2563 – 27 มกราคม 2564 ณ ร้านพิซซ่า ฮัท ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งรับประทานที่ร้าน ซื้อกลับบ้าน หรือบริการเดลิเวอรีส่งตรงถึงบ้าน โทร. 1150 และสั่งผ่านออนไลน์​ www.pizzahut.co.thสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Pizzahutthailand

“สำหรับการเปิดตัวเมนูใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเป็นไปตามทิศทางการดำเนินธุรกิจและ Brand Positioning ของพิซซ่า ฮัท ที่ว่า “รวมตัวกันอย่างมีรสชาติ” (Make Gathering Always Meticulously Delicious) ที่ประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2562 เพื่อยึดตำแหน่งแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้าพิซซ่าในประเทศไทย โดยเติมเต็มสีสันด้วยเมนูแปลกใหม่ให้กับทุกช่วงเวลาของชีวิต” คุณอุษณา กล่าวเสริม

####

(ในภาพ) : บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด ซึ่งบริหารร้านพิซซ่า ฮัท 1150  นำโดยคุณอุษณา มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ที่ 3 จากซ้าย) และคุณวุฒิชัย รัตนสุมาวงศ์ ผู้จัดการทั่่วไป (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วย คุณนาเดีย โอเมอร์ (ที่ 3 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหารประเทศไทย และคุณธีระ ธิติชน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย เอเชีย-แปซิฟิก (ที่ 2 จากขวา) บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายมันฝรั่งทอดกรอบ เลย์ ร่วมกันเปิดตัวแคมเปญสุดเซอร์ไพรส์ “Pizza Hut x Lay’s” ที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสความกรอบฟินของพิซซ่าขอบใหม่ “3 ชีสกรอบ ขอบเลย์” จัดเต็มชีส 3 ชั้น อัดแน่นด้วยท็อปปิ้งพิเศษ ฮอกไกโดชีส ซูเปอร์ ฮาวายเอี้ยน และมันฝรั่งทอดกรอบเลย์รสใหม่ “รสชีสพิซซ่า” และ “รสซีฟู้ดชีสพิซซ่า” มาพร้อมโปรโมชั่นเด็ดสุดคุ้ม ทั้งส่วนลดมุมซองเลย์ โปรโมชั่นพิซซ่า ฮัท ซื้อ 1 แถม 1 และชุดคอมโบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Hut X Lay’s 555  ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2563 – 27 มกราคม 2564 ณ ร้านพิซซ่า ฮัท ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งรับประทานที่ร้าน ซื้อกลับบ้าน หรือบริการเดลิเวอรีส่งตรงถึงบ้าน โทร. 1150 และสั่งผ่านออนไลน์​ www.pizzahut.co.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Pizzahutthailand



เกี่ยวกับ พีเอช แคปปิตอล

บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด เป็นบริษัท ร่วมทุนระหว่างบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีเอ็ม แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริหารงานโดยตระกูลมหากิจศิริ ที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ ในการบริหารธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมาอย่างยาวนาน เป็นพันธมิตรกับแบรนด์ระดับโลกอย่างเนสท์เล่ มากว่า 40 ปี รวมถึงได้รับความไว้วางใจให้บริหารแบรนด์อาหารระดับโลก อาทิ มาการอง Pierre Hermé (ปิแอร์ แอร์เม่) และ Maison de la Truffe  (เมซอง เดอ ลา ทรูฟ) จากฝรั่งเศส และ ร้านโดนัท Krispy Kreme

บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ในกิจการพิซซ่า ฮัท ในประเทศไทยจาก บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และได้รับแต่งตั้งให้เป็นแฟรนไชส์ซี ประกอบธุรกิจบริหารร้านพิซซ่า ฮัท ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560




PIZZA HUT AND LAY’S ADOPT BRAND COLLABORATION STRATEGY
TO REACH OUT NEW CUSTOMERS AS WELL AS ENHANCE BRAND VALUE




BANGKOK, 22 October 2020 – Really shaking up the world of Pizza and Snack businesses! When Pizza Hut 1150 by PH Capital Company Limited and Lay’s, Thailand’s best-selling potato chips, have partnered together for the first time in Thailand to adopt brand collaboration strategy and to launch a “Pizza Hut x Lay’s” campaign. The co-branded food creation Pizza Hut x Lay’s includes an extraordinary pizza menu from Pizza Hut called “Lay’s Crunchy Triple Crust” which perfectly matching of all time favorite Hokkaido Cheese Super Hawaiian Pizza with  triple cheese filled crust, plus fully crusted Lay’s potato chips, and two limited edition of potato chip flavors from Lay’s – “Cheese Pizza” and “Seafood Cheese”. The strategic partnership is beneficial to both Pizza Hut and Lay’s as both brands can gain their brand values, reach new customers and increase brand creditability among consumers.

Ms. Ausana Mahagitsiri, Chief Executive Officer of PH Capital, franchisee of Pizza Hut brand in Thailand, said,​ “We are incredibly proud of this brand partnership because Lay’s is an international
well-known brand and has the largest market share in potato chip segment in Thailand. In addition, Lay’s also has a similar brand essence as Pizza Hut in term of never-stop creating innovative products and new experience for consumers. Thus, the brand collaboration strategy will help strengthen brand reputation and credibility of both Pizza Hut and Lay’s. We believe that our “Pizza Hut x Lay’s” campaign will make all Pizza Hut and Lay’s fans surprised and excited with double delicious taste once they try our Pizza Hut’s “Lay’s Crunchy Triple Crust” or Lay’s new flavors – “Cheese Pizza”,  “Seafood Cheese Pizza” and “Lay’s Playz Cheese Pizza”. The “Pizza Hut x Lay’s” campaign coming with truly special promotional offer for Pizza Hut and Lay’s fans will not only boost greater awareness of Pizza Hut brand among new customer groups, especially teenagers, working-aged group and Millennials but also increase our sales volume.”


Ms. Nadia Omer, Marketing Director, Thailand Foods of Pepsi-Cola (Thai) Trading Co., Ltd., said, “Lay’s as Thailand’s best-selling potato chips continues to develop innovative and new products in response to consumer needs. This year, Lay’s creates an excitement in snack market by co-branding for the first time with a world’s leading fast food brand like Pizza Hut. Lay’s and Pizza Hut join hands to launch of new flavors inspired by the most favorite Hokkaido Cheese Pizza Hut in order to bring new experience to teenagers and the cheese-lover groups. Lay’s x Pizza Hut comprises new flavors: “Cheese Pizza”, offering flat cut chips with flavorful taste of cheeses, available at convenience stores, super markets and department stores nationwide and “Seafood Cheese Pizza”, adding cheese flavor with special seafood formula to create delicious taste for Thais, available only at 7-11 convenience stores nationwide. Lay’s TV commercials for Lay’s x Pizza Hut, featuring Sky, Tanueng, PP, Billkin, pop stars, plan to be broadcasted via digital channels soon. We are confident that the brand collaboration will receive a warm welcome from Lay’s and Pizza Hut’s fans. Let’s enjoy and fun with Lay’s soon.”


Happier than ever for those who buy any of Lay’s  new recipes: “Cheese Pizza”, “Seafood Cheese” and Lay’s Playz Cheese Pizza” can enjoy a special discount and one-buy-one promotional program from Pizza Hut. Just cut the discount coupon on Lay’s packaging and inform Pizza Hut’s staff when order one “Lay’s Crunchy Triple Crust” – Hokkaido Cheese Super Hawiian, fully with three layers of cheeses (Mozzarella Cheese, Chedda Cheese and Cheese Powder), customer will get another one – Seafood Pizza for free at only 499 baht, and have a chance to buy Hut x Lay’s Combo set at only 555 baht. The Pizza Hut x Lay’s campaign starts from 22 October 2020 until 27 January 2021 at Pizza Hut stores nationwide, take-away, delivery 1150, order via www.pizzahut.co.th. Please follow Facebook: Pizzahutthailand for more information. 

“Pizza Hut will continue to introduce new menus in line with its brand positioning of “Make Gathering Always Meticulously Delicious” which was announced last year. Pizza Hut aims to become the most loved brand for Thai consumers by filling their happiness with “WoW” delicious menus for every moment of their lives” Ms. Ausana added.


###

Photo shows: PH Capital Co., Ltd. operating Pizza Hut 1150 in Thailand, led by Ms. Ausana Mahagitsiri, (3rd from the left), Chief Executive Officer, and Mr. Wuthichai Ratanasumawongs, (2nd from the left), General Manager, along with execitves from Pepsi-Cola (Thai) Trading Co., Ltd., Ms. Nadia Omer (3rd from the right), Marketing Director - Thailand Foods, and Mr. Teera Thitichon, (2nd from the right) APAC Sales Director, have joined hands to rolled out a striking “Pizza Hut x Lay’s” campaign. Customers wil enjoy the co-brand innovative recipes including “Lay’s Crunchy Triple Crust” by Pizza Hut and Lay’s new flavors of “Cheese Pizza” and “Seafood Cheese Pizza”. The “Pizza Hut x Lay’s” campaign and a buy one get one campaign start from 22 October 2020 to 27 January 2021 at Pizza Hut outlets nationwide, takeaway and delivery1150 or order via www.pizzahut.co.th. For more information, please visit Facebook: Pizzahutthailand.



About PH Capital

PH Capital is a joint-venture firm established by Thoresen Thai Agencies Public Company Limited and PM Capital, a company runs by the Mahagitsiri family that has extensive expertise and experience in management of food and beverages businesses, maintains more than four decades of partnership with Nestlé, a global brand, manages global food brands, including (without limitation) the French brands Macaron, Pierre Herméand Maison de la Traffe, and Krispy Kreme Doughnut stores.

PH Capital Co., Ltd., entered into the Asset Sale and Purchase Agreement (“APA”) to acquire the Pizza Hut business in Thailand from Yum Restaurants International (Thailand) Co., Ltd. (“YUM”). The company has commenced the operation of Pizza Hut in Thailand from June 1, 2017 onwards.

12693
รพ.ธนบุรี จัดแพ็คเกจคัดกรองความเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูก

                 โรงพยาบาลธนบุรี​ จัดแพ็คเกจคัดกรองความเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูก​ ชวนสาวๆ ทุกคนเข้ารับการตรวจภายในเพื่อป้องกันโรคร้ายที่มักพบได้บ่อยในผู้หญิง โดยไม่ต้องรอให้มีความผิดปกติเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยมาพบแพทย์ ซึ่งการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นทางเลือกในการป้องกันอย่างหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษา โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ส่วนผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ควรเริ่มตรวจเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป โดยมีรายการตรวจ ดังนี้


                 แพ็คเกจที่ 1​ ตรวจมะเร็งปากมดลูกโดยวิธี Thinprep หรือ SurePath และตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องคลอด ในราคา 2,650 บาท

                 แพ็คเกจที่ 2​ ตรวจมะเร็งปากมดลูกโดยวิธี Thinprep หรือ SurePath , ตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องคลอด และตรวจเต้านม ในราคา 5,800 บาท

                 แพ็คเกจนี้สามารถรับบริการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป​ ...มารู้จักมะเร็งปากมดลูกก่อนที่มะเร็งจะรู้จักเรา... สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สูติ-นรีเวช โรงพยาบาลธนบุรี โทร. 1645 ต่อ 7970 หรือ​ https://www.thonburihospital.com/ และ  www.facebook.com/thonburihospitalclub

12694
RELIC กลับมาเยี่ยมผี​ 22​ ตุลาคมนี้


RELIC กลับมาเยี่ยมผี นี้คือหนังสยองที่มีส่วนผสมระหว่าง Hereditary และ The Babadook ดูลึกลับ แบบเน้นการปั่นประสาทคนดู ความหลอน ความสะพรึงกลัว มีให้เป็นบางฉาก อาจเล่นไม่เยอะ เเต่ฉากทุกฉากตรึงคนดูได้เลย ซีนการเล่นอารมณ์ความกดดัน ความเครียด ความเสียใจและการบีบคั้นทำออก มาได้ดีตลอดเรื่อง ทั้งการเล่าเรื่องตัวละครที่มีโรคสมองเสื่อม ความกลัวของการสืบทอดทางพันธุกรรม ทำให้เกิดความรุนเเรง พร้อมความหลอนของผีคนในบ้านอีก ทำให้หนังเรื่องนี้มีความน่าติดตามว่าจะจบยังไง และอีกอย่างที่ชอบมากๆ การสร้างบรรยากาศชวนหลอน ดูแล้วอึดอัด สะพรึงกลัว เด่นในการคอมโพสฉาก ทั้งการจัดเเสง เน้นสีขาวที่ดูแล้วปวดตา สีดำที่มืดลึกลับ ดูตัดกันทำให้ดูหลอนมากขึ้น การถ่ายทำ คัทติ้ง มุมกล้องต่างๆ ที่ทำแต่ละชอตออกมาได้หลอน ชอบฉากที่ลงบันได ที่มันไม่มีวันถึงชั้นล่างดูน่ากลัวดี อาจไม่ใช่หนังสยองขวัญสายแมสขายตุ้งแช่ สูตรสำเร็จ แต่เป็นหนังสยองขวัญที่มีจังหวะ มีอารมณ์ มีบรรยากาศ มีบทที่มีชั้นเชิง แตกต่างจากหนังสยองขวัญทั่วไป เรื่องนี้ตอบโจทย์ คุณได้เลยครับ !!!

12695
พม. ร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ จัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย 2563 สานต่อพระราชปณิธาน “การให้” ที่ไม่มีวันสิ้นสุด


               วันนี้ (21 ต.ค. 63) เวลา 13.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ โปรดให้ พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เสด็จแทนพระองค์ ทรงประทานโล่ประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น เนื่องในวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2563 จำนวนทั้งสิ้น 247 ราย โดยมี นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และพลตรีหญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กราบทูลรายงาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร




               นางพัชรี กล่าวว่า วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย เนื่องจากพระองค์ทรงอุทิศพระวรกายและเวลาเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมิได้ทรงเห็นแก่ความเหนื่อยยาก และสมควรนำมาเป็นแบบอย่างในการประพฤติตนและการปฏิบัติงานเพื่อสังคมส่วนรวม ซึ่งในปี 2542 องค์การวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้เฉลิมพระเกียรติยกย่องให้ทรงเป็น “บุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ : การพัฒนามนุษย์ สังคมและสิ่งแวดล้อม” ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ร่วมกันจัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทยเป็นประจำทุกปี เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อีกทั้งเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระราชกรณียกิจด้านการจัดสวัสดิการสังคม สังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาสังคม ตลอดจนเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและเป็นแบบอย่างแก่อาสาสมัครและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคม




               นางพัชรี กล่าวต่อไปว่า งานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2563 จัดขึ้นเป็นปีที่ 28 นับตั้งแต่ปี 2544 โดยมีอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่นที่ได้รับรางวัล รวมทั้งสิ้น 4,085 ราย ประกอบด้วย อาสาสมัครดีเด่น จำนวน 3,850 คน และองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น จำนวน 235 องค์การ สำหรับ ปี 2563 มีการประทานโล่เกียรติคุณแก่อาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น จำนวนทั้งสิ้น 247 ราย ได้แก่ 1) อาสาสมัครดีเด่น จำนวน 226 คน เป็นผู้ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องการพัฒนาสังคม และการจัดสวัสดิการสังคม ทั้งในด้านการให้คำปรึกษาปัญหาทางสังคม และประสานการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน โดยทำงานในทุกมิติ ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟูคุณภาพชีวิต อาทิ 1.1) นางทองเปาว์ นาคะสันต์ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดปทุมธานี 1.2) นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ อาสาสมัครมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ 1.3) นางเทพี ไวประดับ อาสาสมัครดีเด่นจากจังหวัดสิงห์บุรี และ 1.4) นางสาวรัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์ อาสาสมัครช่วยเหลือเด็ก เยาวชน และสตรีที่มีความเดือดร้อน เป็นต้น และ 2) องค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น จำนวน 21 องค์การ เป็นองค์การที่มีการจัดกิจกรรมทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาสังคม การพัฒนาสังคม การจัดสวัสดิการสังคม และเป็นที่ยอมรับจากสาธารณชน อีกทั้งยังมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และสามารถเป็นแบบอย่างให้แก่หน่วยงานต่างๆได้ ประกอบไปด้วย หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน และองค์กรภาคธุรกิจ อาทิ 2.1) บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด (กะทิชาวเกาะ) 2.2) บริษัท ไทยบิทูเมน จำกัด 2.3) นิคมสร้างตนเองท้ายเหมือง จังหวัดพังงา 2.4) เหล่ากาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี และ 2.5) กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลสมอทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ นิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จนครินทราบรมราชชนนี นิทรรศการอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น และบูธของศูนย์อาสาสมัครแห่งชาติ




               นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง พม. ขอแสดงความยินดีและยกย่องเชิดชูเกียรติอาสาสมัครดีเด่น และองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น นับเป็นแบบอย่างของสังคมที่แสดงให้เห็นถึงความวิริยะ อุตสาหะ และความเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ด้วยความมุ่งมั่นในการตอบแทนคุณแผ่นดินและสานต่อพระราชปณิธาน “การให้” ที่ไม่มีวันสิ้นสุด

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=nU52gaxu2W0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=nU52gaxu2W0</a>






















​[/center]

12696
หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) จัดงาน JAPAN JOB FAIR 2020
ครั้งแรกกับงาน Job Fair แบบ Hybrid
กับรูปแบบสัมภาษณ์งานออฟไลน์ภายในงาน
และออนไลน์ครั้งแรกบนระบบ ZOOM รองรับผู้สมัครกว่า100 ตำแหน่ง


หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) จัดงานมหกรรมจัดหางานของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ครั้งที่ 9 หรือ JAPAN JOB FAIR 2020 เปิดโอกาสให้ผู้สมัครงานพบกับตำแหน่งงานกว่า 100 ตำแหน่งจากบริษัทญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ด้วยการหางานรูปแบบใหม่ Hybrid ออฟไลน์และออนไลน์ผ่านโปรแกรม ZOOM  ง่าย สะดวก และรวดเร็ว


นายนาโอกิ ซาคาโมโตะ เลขาธิการหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ กล่าวว่า “ปัจจุบันเป็นครั้งที่ 9 ของการจัดงาน Japan Job Fair โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่กำลังหางานหรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงาน รวมทั้งนักศึกษาจบใหม่ได้มีโอกาสพูดคุย และสามารถสมัครงานกับบริษัทญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในประเทศไทย ในทุกประเภทธุรกิจ ทั้งด้านอุตสาหกรรม การผลิตหรือบริการ ฯลฯ เปิดรับสมัครงานในทุกสาขา ทั้งที่ใช้และไม่ใช้ภาษาญี่ปุ่น กับตำแหน่งงานที่รองรับผู้สมัครในหลากหลายสายงาน โดยเราตั้งเป้าที่จะมีส่วนช่วยในการสนับสนุนให้บริษัทได้พบกับผู้สมัครที่มีคุณสมบัติ ความสามารถและทักษะการทำงานที่พร้อมจะร่วมประสบความสำเร็จไปกับบริษัทญี่ปุ่นที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย”




โดยปีนี้เป็นปีแรกที่ Japan Job Fair 2020 ได้มีรูปแบบการหางานแบบใหม่ ทำให้ผู้สมัครหางานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมผ่าน 2 ช่องทาง ทั้งสมัครในงานกิจกรรม และช่องทางออนไลน์สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาเข้าร่วมงานได้ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใด ก็สามารถส่งเรซูเม่สมัครงานผ่านทางเว็บไซต์ Japan Job Fair กับบริษัทญี่ปุ่นได้ รวมไปถึงการนัดสัมภาษณ์งานผ่านโปรแกรม ZOOM ที่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว และสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ยังต้องคำนึงในเรื่องของ Social Distancing อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสให้กับผู้สมัครที่มีจำนวนมากได้มีโอกาสแสดงศักยภาพเพื่อประโยชน์สูงสุดกับทั้งผู้สมัครและผู้ประกอบการ มีบริษัทญี่ปุ่นที่มาออกบูธในงาน Japan Job Fair 2020 มากกว่า 20 บริษัท อาทิเช่น  Asian Honda Motor Co., Ltd. , Mitsubishi Motors (Thailand) Co., Ltd. , Canon Hi-Tech (Thailand) Ltd. , MinebeaMitsumi Group (Thailand) , KRUNGSRI GROUP รวมตำแหน่งงานมากกว่า 100 ตำแหน่ง ทั้งที่ใช้และไม่ใช้ภาษาญี่ปุ่น อาทิเช่น เจ้าหน้าที่บัญชี พนักงานแผนกทรัพยากรมนุษย์ โปรแกรมเมอร์ วิศวกร นักพัฒนาไอที พนักงานขาย การตลาด ล่าม และตำแหน่งที่น่าสนใจอื่นๆ


สำหรับผู้ที่สนใจสมัครสามารถดูรายละเอียดและรายชื่อบริษัทญี่ปุ่นที่เข้าร่วมงานเพิ่มเติมได้ทาง​ https://jobfair.jcc.or.th/ และลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้ที่ https://bit.ly/3bLGL7X โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30-31 ตุลาคม 2563 10.30-18.30 น. ณ บีซีซี ฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ชั้น 5

12697
Yindii เปิดตัวแอพพลิเคชันบนมือถือพร้อมให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงการบริการจัดส่งอาหารเพื่อรับมือกับภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น


กรุงเทพฯ, เมื่อเร็วๆ นี้ — Yindii บริษัทไทยน้องใหม่ได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อชาวกรุงเทพฯที่ชอบลิ้มรสอาหารชั้นดีและต้องการมองหาดีลดีๆจากร้านต่างๆ เช่น  ตลาด ร้านค้า รวมไปถึง คาเฟ่ที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งลูกค้านั้นสามารถจับจองงอาหารส่วนที่เกินจากการขายในวันนั้น ได้ในรูปแบบ “flash sale” จากทางร้าน Yindii มาช่วยต่อสู้กับปัญหาขยะของโลกที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันยังช่วยร้านค้าต่างๆสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แทนที่จะเสียไป


แอปพลิเคชั่น Yindii เป็นแพลตฟอร์มที่ส่งตรงถึงผู้บริโภค โดยทางร้านค้าสามารถที่จะเข้ามามอบข้อเสนอราคาพิเศษได้อย่างทันใจ หรือที่รู้จักกันว่า “แฮปปี้เอาเว่อร์” ได้ตลอด ด้วยการมอบส่วนลดมากถึง 50 - 70% และ ผู้บริโภคของ Yindii สามารถสั่งจองถุงYindiiได้ล่วงหน้าก่อนถึงเวลารับที่ร้านหรือจัดส่งถึงบ้าน ด้วยการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ ถุง Yindii นั้น มาในรูปแบบเสมือนกล่องของขวัญสุดพิเศษ นอกเหนือจากการประหยัดเงินและการลดขยะโลกแล้วนั้น ผู้บริโภคของYindiiยังได้ค้นพบร้านอาหารใหม่ๆ ในระแวกใกล้เคียง ซึ่งมาพร้อมกับส่วนลดที่ถูกที่สุด


ทุกปี ร้อยละ 33 ของอาหารที่ผลิตออกมาในโลกเรากลายเป็นขยะ ซึ่งจะมีน้ำหนักเป็นพันล้านตันที่ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ และยังนับได้เป็นจำนวนร้อยละ 8 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกหรือเป็นปริมาณ 4 เท่าของมลภาวะที่ถูกปล่อยจากธุรกิจการบิน ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง การแก้ปัญหาด้านขยะอาหารนั้นเป็นปัญหาท้าทายที่ไม่สิ้นสุด จากทั้งด้านการขนส่ง ด้านอายุของผลิตภัณต์ และการขาดจัดหาตลาดที่เหมาะสม และนี่คือสิ่งที่เรากำลังแก้ไข - โดยการใช้ระบบง่ายๆที่เชื่อมต่อผู้คนและร้านอาหารเข้าด้วยกัน” หลุยส์ อัลบาน บาทาด ดูเปร ผู้ก่อตั้งและผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี กล่าว


“อาหารทั้งหมดที่หาได้ในแอป Yindiiนั้นทั้งอร่อยและยังคงคุณภาพดี ส่งตรงมาจากร้านระดับพรีเมี่ยม ที่ทิ้งไว้ถึงพรุ่งนี้ไม่ได้ ลองคิดถึงขนมปังอบหรือเค้กในร้านกาแฟ หรือ อาหารสดใหม่ในร้านอาหาร พวกเรา ในฐานะนักต่อสู้ สามารถช่วยให้เข้าถึงอาหารเหล่านั้นที่ยังคงคุณภาพที่ดี และราคาที่ไม่แพงอีกด้วยครับ” เขากล่าวเพิ่มเติม

สำหรับผู้ใช้ 100คนแรกที่ดาวน์โหลดแอป Yindii นั้นจะได้รับการจัดส่งอาหารฟรี (ถึงระยะทาง5กิโลเมตร)จากร้านใดก็ได้เพียงแค่ใส่รหัส SAVETHEPLANET

คุณสามารถดาวน์โหลดได้จากทั้ง App store สำหรับ iOS และบน Google Play Store สำหรับ Android ในแอป Yindii คุณสามารถสั่งอาหารจากร้านเช่น Sofitel Sukhumvit, Veganerie, Ohana Poke, Broccoli Revolution, Delifrance, Sunshine Market, Banana Warrior และอีกมากมาย

#####

เกียวกับYindii

หนึ่งในสามของผลิตภัณต์อาหารบนโลกเราถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดายในทุกๆปี Yindiiจึงถูกก่อตั้งมาด้วยภารกิจง่ายๆ เป้าหมายเดียวคือให้อาหารชั้นดีได้ถูกลิ้มรส ไม่ถูกทิ้งไป Yindii คือแอปพลิเคชั่นแรกของไทยที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อผู้บริโภคกับผลิตภัณต์ต่างๆ ที่มาพร้อมส่วนลดสุดพิเศษ ถ้าคุณอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยินดีและอยากร่วมกับกิจกรรมของเรานั้น กดไปที่ https://www.yindii.co, หรือ ดาวน์โหลดแอปได้จาก Google Play หรือ App Store.

12698
แม็คโคร มอบวัสดุทางการแพทย์ ส่งกำลังใจ รพ.แม่สอด ต่อสู้ภัยโควิด-19


บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)โดย​ ทีมพนักงานแม็คโคร สาขาแม่สอด​ เป็นตัวแทนส่งมอบวัสดุทางการแพทย์  สิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังรุนแรงในประเทศเมียนมา ทำให้พื้นที่ชายแดนจุดเชื่อมต่อ ต้องการอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการป้องกันเป็นจำนวนมาก  โดยแม็คโครนำ ถุงซิปใส กล่องโฟมเก็บความเย็น  กระบอกฉีดน้ำ เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ ไปมอบให้แก่โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก  เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ และส่งมอบกำลังใจให้แพทย์ พยาบาลในการต่อสู่กับโควิด-19 โดยมี​ นางขนิษฐา ก่อสัมพันธ์กุล พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หัวหน้าคลินิกหมอครอบครัว พร้อมคณะเจ้าหน้าที่​ เป็นผู้รับมอบ  ณ  โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก

12699
“ธงชัย ใจดี” หวังเป็นแรงบันดาลใจให้นักกอล์ฟรุ่นหลัง

21 ตุลาคม 2563 – ธงชัย ใจดี โปรกอล์ฟระดับตำนานของไทย ถือเป็นต้นแบบของบรรดานักกอล์ฟรุ่นหลังในเรื่องของวินัยและความมุ่งมั่นบนเส้นทางสายอาชีพ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่ากว่าจะประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว


                “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟชาวไทยคนแรกและเป็นผู้เล่นจากเอเชียคนที่ 7 ที่คว้าแชมป์ระดับยูโรเปี้ยน ทัวร์ ได้จากรายการ มาเลเซียน โอเพ่น ในปี 2004 โดยก่อนหน้านั้นเขาครองแชมป์ของเอเชียน ทัวร์ มาแล้วถึง 5 รายการ ซึ่งการชนะแมทช์โคแซงชั่นระหว่างยูโรเปี้ยน ทัวร์ และเอเชียน ทัวร์ ที่สนามเซาจาน่า กอล์ฟ คลับ ประเทศมาเลเซีย ในครั้งนั้น ทำให้เขากลายเป็นที่สนใจในวงการกอล์ฟระดับโลกเป็นครั้งแรก และเป็นประตูสู่สังเวียนกอล์ฟในระดับที่สูงขึ้น

                ธงชัย เผยถึงความรู้สึกเมื่อสามารถคว้าชัยชนะในครั้งนั้นว่า “ผมรู้สึกภูมิใจมากที่ชนะ นักกอล์ฟทุกคนต้องการสัมผัสประสบการณ์นี้ เพราะถ้าคุณชนะ ชีวิตคุณจะเปลี่ยน ซึ่งมันเปลี่ยนชีวิตของผม นั่นเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม หลังจากเป็นแชมป์รายการนั้นผมก็เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะนักกอล์ฟจากเอเชียนทัวร์ และมีโอกาสลงเล่นในยุโรป ไม่ใช่แค่ในเอเชีย ทำให้ผมต้องพัฒนาตัวเองและทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะการแข่งขันมีความยากขึ้น”


                จากนั้นในปีต่อมาเขาป้องกันตำแหน่งแชมป์ มาเลเซียน โอเพ่น ได้สำเร็จ ทว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะประสบความสำเร็จในระดับเอเชียและยุโรป ซึ่งธงชัยยอมรับว่าสภาพอากาศในยุโรปเป็นอุปสรรคสำคัญที่เขาต้องเอาชนะและใช้เวลาปรับตัว 2-3 ปี

                ทั้งนี้ ธงชัย ใช้เวลาถึง 8 ปี นับตั้งแต่ชนะรายการของยูโรเปี้ยน ทัวร์ ครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย จึงประสบความสำเร็จในยุโรปอีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์รายการ ไอเอสพี ฮานดะ เวลส์ โอเพ่น ในปี 2012 และสร้างชื่อเสียงต่อเนื่องเมื่อคว้าชัยชนะในรายการ นอร์เดีย มาสเตอร์ส ที่สวีเดน ในปี 2014 ตามด้วยแชมป์รายการ ปอร์เช ยูโรเปี้ยน โอเพ่น ที่เยอรมนี ในปี 2015 และแชมป์ โอเพ่น เดอ ฟรองซ์ ที่ฝรั่งเศส ในปี 2016


                ธงชัย โปรวัย 51 ปี จากจังหวัดลพบุรี มักจะให้เครดิตกับภูมิหลังสมัยที่เขาเป็นทหารพลร่ม ซึ่งมีส่วนในความความสำเร็จบนเส้นทางสายอาชีพกอล์ฟนี้ เขายอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาในช่วงแรกของการเริ่มต้นอาชีพนี้ เขากล่าวว่า “ผมเคยอยู่ในกองทัพและนั่นช่วยผมได้มาก สอนให้ผมมีความอดทน มีวินัย และเข้มแข็ง ในฐานะทหารผมต้องฝึกหนักมาก ดังนั้นผมจึงนำมาปรับใช้กับการฝึกซ้อมกอล์ฟของผม จนทำให้ผมประสบความสำเร็จ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะยึดกีฬากอล์ฟเป็นอาชีพได้ เพราะผมเริ่มต้นจากการเป็นเพียงนักกอล์ฟธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งในสมัยนั้นการเล่นกอล์ฟอาชีพเป็นเรื่องที่ยาก”

                ความกังวลในช่วงแรกของเขาในขณะนั้น ตอนนี้กลายเป็นเพียงความทรงจำในอดีตไปแล้วสำหรับนักกอล์ฟทำเงินรางวัลสะสมเอเชียน ทัวร์ ออร์เดอร์ออฟเมอริต 3 สมัย เจ้าของแชมป์เอเชียน ทัวร์ 13 รายการ และแชมป์ยูโรเปี้ยน ทัวร์ 8 รายการ

                “ผมอยากเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลัง ในอนาคตผมอยากเห็นนักกอล์ฟรุ่นใหม่ของไทยและเอเชียทำผลงานได้ดีกว่า ธงชัย ใจดี ผมอยากให้พวกเขาเห็นว่าผมเริ่มต้นจากศูนย์ แต่สามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้” ธงชัย กล่าวทิ้งท้าย

                ติดตามข่าวสารของเอเชียน ทัวร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.asiantour.com และเฟซบุค Asian Tour

12700
ชวนค้นหาความทรงจำผ่านเลนส์
ในนิทรรศการ “ล่อง รอยราชดำเนิน”

               ถนนราชดำเนิน...เป็นหนึ่งในถนนสายสำคัญของประเทศไทย ที่มีเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวข้องกับทั้งประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของผู้คนหลากหลาย มากมาย และด้วยมีผู้คนต่างวัยมากมายที่เคยมาสัมผัสกับถนนสายนี้ เคยมีประสบการณ์ร่วมกับถนนสายนี้ จึงทำให้มีเรื่องเล่าที่ต่างมุมออกไปมากมาย บางเรื่องราวเป็นมุมมองที่ใครหลายคนอาจจะไม่เคยพบเห็น หรือบ้างก็คาดไม่ถึง

               ในโอกาสที่ถนนสายนี้มีอายุครบ 121 ปี ในปี 2563​ มิวเซียมสยาม​ ​จึงได้จัดทำนิทรรศการหมุนเวียน​ “ล่อง รอยราชดำเนิน : นิทรรศการประสานวัย” ขึ้นบอกเล่าประวัติศาสตร์สังคมไทยผ่านถนนราชดำเนิน ด้วยนิทรรศการรูปแบบใหม่ผ่านการมองราชดำเนินจากประสบการณ์ ความเข้าใจ และความทรงจำของผู้คนต่างวัย


               ฐานิส สุดโต บรรณาธิการภาพของสำนักข่าวออนไลน์ The Standard​ ประสบการณ์ที่ได้สัมผัส “ราชดำเนิน” ผ่านบทบาทการทำงานในฐานะช่างภาพข่าวของเขา ว่าการทำงานทำให้เขามีโอกาสได้สัมผัสและบันทึกเรื่องราวของถนนราชดำเนินไว้หลากหลายแง่มุมในต่างวาระ จนกลายเป็นภาพบันทึกความทรงจำอันมีค่าให้กับตัวเอง และผู้คนอีกมากมายที่เคยมาสัมผัสกับถนนสายนี้ในห้วงเวลาเดียวกัน

               “สมัยเรียนผมต้องมาถ่ายภาพไฟที่ถนนราชดำเนินในช่วงวันที่ 5 ธันวา พอมาทำงานเป็นช่างภาพข่าวก็ต้องมาที่นี่เพราะมีเหตุการณ์ทางการเมือง หรือเหตุการณ์งานพระราชพิธีต่างๆ เช่น พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพของในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิ-วัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และงานพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช เป็นต้น ซึ่งเราจะได้เห็นโมเม้นต์ของแต่ละช่วงที่ต่างๆ กัน หากเป็นงานพระราชพิธีจะมีความยิ่งใหญ่ในตัวของงานเอง ประกอบด้วยผู้คนที่มาร่วมงานก็จะมีหลากหลายอารมณ์ เช่น ตอนงานพระราชพิธีของรัชกาลที่ 9 ทุกคนก็จะแบบ...โอ้โห! ตากฝนตากแดดกันเป็นเดือนๆ เลย แต่ถ้าเป็นงานการเมืองจะมีความเกรี้ยวกราดในอารมณ์จนมันเกิดความรุนแรงขึ้นมา”


               ภาพความทรงจำบนถนนราชดำเนินของฐานิสแม้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากเนื้องานที่ต้องทำ แต่ก็ทำให้เขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ หรือประวัติศาสตร์ที่สำคัญบนถนนราชดำเนิน ณ ช่วงเวลานั้นๆ ไปโดยปริยาย ซึ่งบางเหตุการณ์ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีโอกาสที่จะเห็นกันได้ง่ายดายนัก กรณีการจัดนำรถแข่งฟอร์มูล่าร์ วัน มาโลดแล่นอยู่บนถนนราชดำเนิน

               นอกจากภาพบรรยากาศความเป็น “ราชดำเนิน” ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสายตาของช่างภาพมืออาชีพอย่างฐานิสแล้ว “การเดิน” ไปตามถนนสายหลักแล้วแวะเข้าไปตามซอกซอยต่างๆ ของถนนราชดำเนิน ยังจะทำให้ได้เห็นภาพราชดำเนินในอีกมุมหนึ่งที่ซุกซ่อนเรื่องราวและบรรยากาศที่น่าทึ่งของวิถีชีวิตชุมชนไว้มากมาย และสิ่งนี้เองที่จะทำให้เราได้เห็นราชดำเนินในอีกมุมหนึ่งที่เป็นมากกว่าถนน

               ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายในท่ามกลางความคุ้นเคยของผู้คนบนถนนราชดำเนิน ที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าบางเรื่องราวก็ไม่ได้เป็นเรื่องประทับใจ หรือเป็นภาพความทรงจำที่งดงามนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกเรื่องราวกลับล้วนช่วยเติมเต็ม “คุณค่า” ให้กับถนนสายนี้ได้ทั้งสิ้น

               “ผมมาเดินที่นี่เกือบสามสิบปีแล้วนะ ก็เปลี่ยนไปเยอะ ทั้งสนามหลวง ทั้งตึกอาคารโดยรอบ อาคารบนถนน มันถูกปรับเปลี่ยนไปตามยุค ผมไม่สามารถที่จะบอกได้เลยว่าต่อไปมันจะกลายเป็นอะไร เพราะมันก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามเวลา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ จะยอมรับหรือไม่ยอมรับเท่านั้นเอง แต่สุดท้ายเราก็ต้องอยู่ร่วมกับมัน” ฐานิสกล่าว


               ด้านช่างภาพอิสระและศิลปินนักร้องอย่าง​ “รุจ – ศุภรุจ เตชะตานนท์” ได้เล่าเรื่องราวของราชดำเนินผ่านเลนส์ ด้วยมุมมองและวิธีการนำเสนอที่แตกต่างออกไป โดยนักร้องหนุ่มเล่าถึงราชดำเนินว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการถ่ายภาพบรรยากาศที่แสดงความเป็นกรุงเทพมหานครอย่างชัดเจน “ราชดำเนิน” จึงไม่ใช่เป็นแค่ถนน แต่ยังเป็นเสมือนสนามของการถ่ายภาพในความทรงจำให้กับบรรดาช่างภาพ ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพแทบทุกคนด้วย

               “สมมุติว่าเราหลับตาแล้วนึกถึงการถ่ายภาพกรุงเทพฯ ผมว่าช่างภาพทุกคนต้องเคยมาถ่ายรูปในโซนของเมืองเก่า เพราะมีสถาปัตยกรรม หรือโครงสร้างของสิ่งก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นวัด พระราชวัง หรือบ้านเก่าๆ ถนนเก่าๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนชอบถ่ายภาพหรือช่างภาพ ยังไงก็พลาดไม่ได้ที่จะมา แต่ปัญหาข้อเดียวที่จะเจอคือ คนเยอะ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมาก ทำให้มุมที่เราอยากจะถ่ายภาพ ก็ต้องยืนรอ บางทีต้องรอจังหวะแสงสวย ซึ่งต้องใช้เวลา”


               การมองถนนราชดำเนินและบอกเล่าเรื่องราวความทรงผ่านเลนส์ของรุจ ในฐานะช่างภาพอิสระที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแลนด์สเคปและภาพถ่ายเชิงท่องเที่ยว ทำให้การนำเสนอเรื่องราวและบรรยากาศของราชดำเนินผ่านภาพถ่ายของเขาเป็นภาพในเชิงบวก ซึ่งได้กลายมาเป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม เกิดความรู้สึกต้องการมาสัมผัสและรู้จักกับราชดำเนินในมุมมองเดียวกับเขาบ้าง และการเป็นคนหนุ่มในแบบที่เขานิยามตัวเองว่าเป็นวัยรุ่นตอนปลายที่เชื่อมกลางระหว่างคนสองวัยที่แตกต่างกันในปัจจุบัน ทำให้รุจเชื่อว่าภาพถ่ายของเขาจะสามารถเล่าเรื่องความทรงจำของราชดำเนิน โดยนำเสนอให้คนต่างรุ่นต่างวัยได้ผสานความเข้าใจกันได้ไม่ยากนัก

               “การที่เราได้มีโอกาสมาเดินดู หรือมาศึกษาข้อมูลในนิทรรศการครั้งนี้ มันน่าสนุกมาก ยิ่งถ้ามีน้องๆ เจน Z เข้ามาดูเขาอาจจะเข้าใจมากขึ้น และจะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วประวัติศาสตร์ของเรานั้นมีเรื่องราวน่าสนุกเยอะ และพอดูนิทรรศการเสร็จ ก็สามารถจะออกไปดูของจริงข้างนอกได้เลย ทำให้รู้สึกอินไปกับราชดำเนินได้มากกว่าการดูนิทรรศการทั่วไป” รุจกล่าวทิ้งท้าย

               พบกับเรื่องราวความทรงจำของราชดำเนินที่มิวเซียมสยามสร้างสรรค์ขึ้นในมุมมองที่แตกต่างจากผู้คนหลากหลาย ในรูปแบบนิทรรศการที่ทันสมัย เอาใจคนทุกรุ่น ชวนให้เดินชมได้อย่างเพลิดเพลิน และการชมนิทรรศการฯ ยิ่งได้อรรถรสมากขึ้นเพราะตอนนี้มิวเซียมสยามนำไปจัดแสดงในพื้นที่จริงบนถนนราชดำเนิน ณ หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งเปิดให้เข้าชมได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2563 เวลา 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์) และสามารถติดตามข่าวสารและการลงทะเบียนเข้าชมนิทรรศการได้ที่​ www.facebook.com/museumsiamfan

12701
K.S. Group นำเสนอโอกาสทางธุรกิจยุคโควิดให้แก่ตัวแทนจำหน่าย
ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านกล่อง คัดสรรถุงมือคุณภาพดีจากแห่งผู้ผลิตจำหน่ายทั่วโลก


               บริษัท K.S. International Management จำกัด ภายใต้ K.S. Group ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการร่วมเป็น Partner ทางการตลาดกับพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ที่มีคุณภาพหลายแบรนด์ดังจากประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย จัดอบรมให้ความรู้แก่ตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับเรื่องการจำหน่ายสินค้า รวมถึงให้ความรู้ทางด้านขั้นตอนเอกสารต่าง ๆ ตั้งเป้ายอดจำหน่าย 1,000 ล้านกล่อง โดยสนับสนุนโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับตัวแทน K.S. Group


               คุณบุญญรัตน์ กุลศิริ กรรมการบริหาร K.S. Group​ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันสถานการณ์ของโควิด – 19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบโดยตรง เราถือโอกาสในวิกฤตนี้​นำเสนอผลิตภัณฑ์ของทาง K.S. Group ว่ามีอะไรบ้างในช่วงนี้  โดยเฉพาะเรื่องของสุขอนามัย อาทิ ถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์  ซึ่งผู้ที่เข้ามาฟังส่วนมากจะเป็นตัวแทนของ K.S. Group ทั้งเก่าและใหม่ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจขั้นตอนการจำหน่ายถุงมือ รวมถึงขั้นตอนการปิดการขายว่าทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ และจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นผู้ซื้อ ผู้ขายตัวจริง

             “ธุรกิจของ K.S. Group ภายใต้นิยามการดำเนินธุรกิจของผู้นำ คือ Intermedia Quality of Life & Environment สื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม มากว่า 20 ปี  นั้น เพื่อต้องการเป็นสื่อกลางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ ความงาม และ สุขอนามัยแบบองค์รวม ที่มีผลทางด้านการป้องกัน และส่งเสริมภูมิคุ้มกันสุขภาพร่างกายในสถานการณ์โควิด -19  ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทในเครือ K.S. Group โดย บริษัท K.S. International Management จำกัด ขอเป็นสื่อกลางในการจัดจำหน่ายถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ โดยมีการสั่งตรงจากโรงงานผู้ผลิต ถึงผู้ซื้อปลายทางยังต่างประเทศ ผ่านตัวแทนจำหน่าย K.S. Group ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจใหม่สวนกระแสเศรษฐกิจโควิด-19 ในขณะนี้ ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ มองว่าเทรนด์ของสินค้าประเภทนี้ยังไปได้อีกยาวไกลมาก ด้วยความที่ว่าประเทศไทยเป็นแหล่งการผลิตถุงมือยางอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศมาเลเซีย ทำให้มีผู้ซื้อมากมายจากทั่วโลกติดต่อเข้ามาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะโซนยุโรป และ อเมริกา เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นโอกาสของ K.S. Group ที่จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจนี้ไปได้อีกยาวไกล


             สำหรับผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง และ ถุงมือทางการแพทย์ - ไนไตร นั้น บริษัท K.S.International Management จำกัด มีที่ปรึกษากิติมศักดิ์ คือ​ Mr.Nived Shashikant Kuvalekar, The first Asian to Qualify as an Engineer from the world’s first Rubber Technology Institute based on London UK ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านถุงมือยางทุกชนิด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจากทั่วทุกมุมโลก ว่าทางบริษัทฯ มีที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ​ ในการคัดเลือกถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ที่มีคุณภาพที่ดีเยี่ยมจากหลายแบรนด์ดังจากประเทศเวียดนาม ประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย อีกทั้ง ในอนาคตทาง K.S. Group กำลังจะร่วมมือกับกลุ่มบริษัทของเกาหลีผลิตสินค้าทางด้านสุขอนามัยออกจำหน่ายในประเทศ และส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ของ K.S. Group ซึ่งจะผลิตออกมากจำหน่าย ในเร็วๆ นี้

               คุณบุญญรัตน์ กุลศิริ กรรมการบริหารของ K.S. Group​ ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ความต้องการของสินค้าทางด้านสุขอนามัย อาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ ทั่วโลกยังเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ตามสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังเพิ่มความทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ จึงถือพลิกวิกฤตนี้เป็นโอกาสอันดีของ K.S. Group ที่จะดำเนินธุรกิจด้านนี้ต่อไป โดยตั้งเป้าทางการตลาดของถุงมือยาง ถุงมือทางการแพทย์ - ไนไตร ในปีนี้ไว้ 1,000 ล้านกล่อง  โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่ 90% เป็นผู้ซื้อจากโซนอเมริกา ส่วนที่เหลือ 10% เป็นโซนยุโรปและอื่นๆ ทั่วโลก


               “ทั้งนี้บริษัทในเครือ​ K.S. Group​ ​ยังดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออแกนิคทางด้านความงาม ด้านสุขอนามัยแบบองค์รวมจากภายในสู่ภายนอก และผลิตภัณฑ์ทางด้านสิ่งแวดล้อมมากว่า 20 ปี ภายใต้นิยมการดำเนินธุรกิจ​ “สื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม” ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท รวมถึงมีบริษัทพันธมิตรเข้ามาร่วมสร้างเครือข่ายผู้บริโภคผ่านตัวแทนจำหน่าย K.S. Group หากท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทในเครือ K.S. Group

               รวมถึงสนใจเข้ามาร่วมเป็นตัวแทนจำหน่าย กับทางเรา สามารถ ติดต่อได้ที่ K.S. Call Center 02 949 9885 ในวัน และ เวลาทำการ จันทร์ – ศุกร์ หรือส่งผ่านอีเมลล์​ ksm2010bkk@gmail.com ขอเชิญเข้ามาร่วมเป็นสื่อกลางแห่งคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม กับเราซิคะ” คุณบุญญรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

12702
ฉลอง 20 ปี Gourmet & Cuisine จัดงาน“Gourmet Foodie Fest ครั้งที่ 4” ยกทัพร้านอร่อย​ บุกเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์


               นิตยสาร Gourmet & Cuisine ผู้นำคอนเทนต์ด้านไลฟ์สไตล์การกิน-เที่ยวเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 20 ปี สร้างปรากฏการณ์เทศกาลอาหารอร่อย จัดงาน​ “Gourmet Foodie Fest ครั้งที่ 4” ขนทัพกว่า 60 ร้านดัง จัดเต็มทั้งอาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม พร้อมกองทัพเมนูซีฟู้ดสุดพรีเมี่ยมมาให้เลือกช้อป ชิม ชิล กันในที่เดียว ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 โซน Outdoor เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์




                ภริตา วิริยะรังสฤษฎ์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Gourmet & Cuisine เปิดเผยว่าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่นิตยสาร Gourmet & Cuisine ครบรอบ 20 ปี พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 จึงกำหนดจัดงาน​ “Gourmet Foodie Fest #4” ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Treasure of Nature ปรุงสำเร็จจากธรรมชาติ” ซึ่งงานในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่อยากชูความสดใหม่ของวัตถุดิบจากธรรมชาติที่นำมารังสรรค์เป็นเมนูพร้อมเสิร์ฟภายในงาน เพราะวิถีการรับประทานอาหารในปัจจุบันนอกจากรสชาติอาหารที่อร่อยแล้วยังคำนึงถึงที่มาของแหล่งวัตถุดิบ ความสะอาด สดใหม่  ปลอดภัย และเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน รวมถึงการส่งเสริมให้มีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารสำหรับคนในวิถีชีวิตใหม่ยุค​ “นิวนอร์มอล” อีกด้วย






               งาน “Gourmet Foodie Fest #4” ยกขบวนเมนูอาหารซีฟู้ดชั้นเลิศคุณภาพเยี่ยมจาก​ “อลาสก้า (Alaska)” ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่เป็นอาหารทะเลที่ได้จากแหล่งธรรมชาติ และคำนึงถึงความยั่งยืนด้านระบบนิเวศ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาทำเป็นเมนูปรุงสำเร็จให้ชาวกรุงเทพฯ โซนตะวันออกได้สัมผัสและลิ้มลองความอร่อยกัน และสามารถเลือกเมนูอร่อยติดไม้ติดมือกลับบ้านไปรับประทานในราคาที่เข้าถึงได้






               ภายในงานพบกับร้านดังกว่า 60 ร้านที่คัดสรรมาให้ได้เลือกลิ้มลอง อาทิ​ ร้านจากโรงแรมอครา กรุงเทพฯ​ มาพร้อมเมนูสุดพิเศษ เช่น​ แซลมอนตอร์ติญา แซลมอนเนื้อนุ่มหอมเครื่องเทศบนแป้งตอร์ติญาสไตล์ทาโก้ เบอร์เกอร์ปลาโซล​ ขนมปังเบอร์เกอร์ทำจากผักโขม​เพิ่มคุณค่าทางอาหาร ด้านโรงแรมวิสต้า พัทยา​ นำเสนอเมนู​ พล่าปลากะพง​ เนื้อปลากะพงย่างเสิร์ฟพร้อมน้ำพล่าสูตรพิเศษ หอมกลิ่นสมุนไพรไทย และปลาพอลล็อคเสิร์ฟกับซอลซัลซา​ส่วน​ ร้าน Good Thingz Happen กับเมนูซิกเนเจอร์ยอดฮิต เช่น แซลมอนเบอร์เกอร์ ข้าวหน้าปลาโซลผัดซอสเห็ด ข้าวดงบุริแซลมอน สลัดแซลมอนย่างจี๊ดจ๊าด​ ร้าน Please Frozen & Grill บาร์บีคิวกุ้งโฉมใหม่ในรูปแบบ Frozen ที่คงความสดเหมือนได้กินกุ้งสดๆ​ ร้าน Kin to Go กับอาหารญี่ปุ่นหลากหลายเมนูคัดสรรคุณภาพมาอย่างดี ส่วนเครื่องดื่มต้องร้าน PAAK เครื่องดื่มสุดเฮลท์ตี้หลายรสชาติที่มีส่วนผสมจากผัก ทั้งสมูทตี้ น้ำสกัดเย็น และค็อกเทล ดื่มแล้วเย็นชื่นใจ


เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร


เค้กแครอต


ข้าวตังหน้าตั้งเผ่าทอง

               ส่วนร้านอร่อยของเหล่าเซเลบคนดังก็มีทีเด็ดไม่แพ้กัน อาทิ​ เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร​ เจ้าของร้านรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว​ “ฤดู” (Le Du) ร้าน Baan และร้าน Mayrai เมนูอาหารไทยสูตรต้นตำรับพร้อมกับ เมนูผัดไทยรสจัดจ้าน ส่วนใครเป็นสายหวานต้องมา​ ร้าน Pao's Kitchen ของพี่เป้า-นุชนันท์ โอสถานนท์​ กรรมการ The Great Thai Bake Off ยอดนักขนมอบ มากับของหวานหลากหลายเมนู เช่น เค้กแครอต เค้กตาล รสสัมผัสละมุน กลิ่นหอมกรุ่นจากวัตถุดิบธรรมชาติ​ ร้านเผ่าทองของอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ กับเมนูข้าวตังหน้าตั้งเผ่าทองกรุบกรอบสูตรผู้ดีแปดสาแหรกเก้าไม้คาน อัดแน่นด้วยเนื้อหมูและกุ้งสับ รสเปรี้ยวอมหวาน​ น้ำปลาหวานขุ่นแม่เอกกี้​ น้ำปลาหวานสุดเฮลท์ตี้ที่เนื้อกุ้งเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีร้านอร่อยเด็ดอีกมากมายให้ได้มาลิ้มรสกันที่งาน



เชฟปอนด์


รูปเชฟจักรพันธุ์ คนที่3 จากโรงเเรมวิสต้า พัทยา เเละเชฟเเบงค์ คนที่ 5 โรงเเรมอครา


               อีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดที่ห้ามพลาด! ในช่วง​ Cooking Show​ จากเชฟชื่อดัง อาทิ เชฟปอนด์-สหดล ตันตราพิมพ์ เชฟหนุ่มหล่อหน้าใสฝีมือดีเจ้าของร้าน I am Curry ฉันคือ(แกง)กะหรี่ ที่นอกจากจะร่วมออกบูทที่งานแล้วยังมารังสรรค์ความอร่อยจากอลาสก้าซีฟู้ดกับเมนูข้าว(แกง)กะหรี่ปลาทอดให้ได้ชิมกันก่อนใครในวันพุธที่ 28 ตุลาคม 2563 เวลา 14.00 น.​ นอกจากนี้ยังมี​ “เชฟจักรพันธุ์” จากโรงแรมวิสต้า พัทยา ในเมนู “สเต๊กปลาแซลมอนเสิร์ฟพร้อมซอสมะกอกดำและเส้นเฟตตูชินีเพสโต้ซอส” ในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2563เวลา 14.00-14.40 น. และเมนูต้มข่าปลาโซล ในวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16.00-17.00 น. ส่วน​“เชฟแบงค์” จากโรงแรมอครา กรุงเทพฯ มาโชว์ฝีมือในเมนู “Seared Pacific Ocean Perch with Ocean Sauce” ในวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.00-13.40 น.






               ส่งท้ายด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะในงาน เพียงชำระเงินผ่าน QR Code SCB เมื่อซื้อครบจำนวน 200 บาทขึ้นไป ลุ้นรับของที่ระลึกสุดเก๋ที่บูท​Gourmet & Cuisine (จำนวนจำกัดวันละ 100 รางวัลเท่านั้น)








               ร่วมสัมผัสความอร่อยแบบจัดเต็ม! ได้ที่งาน​ Gourmet Foodie Fest #4 ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 โซน Outdoor เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์​ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gourmetandcuisine.com และ FB : gourmetandcuisine 
#GourmetFoodieFest4 #GourmetFoodieFest2020 #gourmetandcuisine

12703
มาคาเลียส เผย 8 ปัจจัย “ต้องมี”
เลือกที่พักในยุคโควิด


               มาคาเลียส ออนไลน์ทราเวลแพลตฟอร์ม (Online Travel Platform) แหล่งรวมและจำหน่ายวอเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย เผยผลสำรวจกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน อายุ 25-45 ปี กว่า 50,000 ราย ที่มาใช้บริการตลอดช่วงวิกฤติโควิด-19 พบ 8 ปัจจัยหลัก “ต้องมี” เพราะมีอิทธิพลผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อวอเชอร์ที่พักสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนในยุคโควิด-19 โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความส่วนตัวเป็นลำดับแรก


               นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “จากการทำการสำรวจความพึงพอใจของกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการผ่านเว็บไซต์ประมาณกว่า 50,000 คน และกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการผ่านอีเว้นท์ออนกราวด์ (On-Ground Event) อีกกว่า 2,000 คน ในช่วงเกิดวิกฤติโควิด-19 ตั้งแต่เดือน เมษายน-กันยายน 2563 พบว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นิยมซื้อวอเชอร์ที่พักเพื่อการท่องเที่ยวแบบล่วงหน้า เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 25-45 ปี ชอบเดินทางกับกลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อนเป็นส่วนใหญ่




               โดยหลักเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อบริการที่พักจะดูจากความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว รวมถึงการเปรียบเทียบราคากับความคุ้มค่าของแพคเกจที่ได้รับ นอกจากนี้ยังพบอีก 8 ปัจจัยที่มีผลต่อของการตัดสินใจซื้อที่เปลี่ยนไปจากอดีต และเป็นสิ่ง “ต้องมี” ของสถานที่พัก ได้แก่​ “มาตรการด้านสุขอนามัย” เป็นปัจจัยแรกที่นักท่องเที่ยวถามถึงว่าสถานที่พักแห่งนั้นมีมาตรการด้านสุขอนามัยเป็นอย่างไร เช่น จำนวนความหนาแน่นของผู้เข้าพัก จำนวนห้องพักที่เปิดให้บริการ การดูแลพื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น เพื่อพิจารณาประกอบการตัดสินใจซื้อบริการ ปัจจัยต่อมาคือ​ “ชิดติดธรรมชาติ” สถานที่พักต้องอยู่ติดทะเล หรืออยู่ท่ามกลางภูเขา น้ำตก ป่าไม้ เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวคนเมืองส่วนใหญ่ในช่วงนี้ต้องการความเป็นธรรมชาติเพื่อบำบัดความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน






               “สระว่ายน้ำขนาดใหญ่” เนื่องจากมาตรการด้านสุขอนามัยที่จำกัดจำนวนคนลงเล่นสระว่ายน้ำ ดังนั้นผู้บริโภคจึงนิยมเลือกที่พักในสถานที่ที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แสดงถึงความปลอดภัยในการลงเล่นน้ำ“อ่างอาบน้ำ” ถือเป็นฟังก์ชั่นจำเป็นของที่พัก เพื่อเพิ่มความสุขและความเป็นส่วนตัวให้กับตนเอง อีกปัจจัยที่สำคัญคือ​ “อาหาร” ที่เป็นมือพิเศษนอกเหนือจากอาหารเช้า เช่น บุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดมื้อค่ำ หรือมีพื้นที่ทำอาหาร มีเตาปิ้งย่างบาบีคิว ต้องมีรวมอยู่ในแพคเกจเพราะว่า ในยุคของโควิดการเดินทางออกไปรับประทานอาหารข้างนอกที่พักถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเตรียมตัว เพราะจำนวนที่นั่งของร้านอาหารมีจำนวนลดลงตามหลักการเว้นระยะห่าง นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกรับประทานในโรงแรมที่พักหรือทำอาหารรับประทานกันเอง






               สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นครอบครัว นอกจากเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัยแล้ว สิ่งที่คำนึงต่อมาคือ​ “คิดส์คลับ” มีการทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่พ่อแม่ให้ความไว้วางใจมากที่สุดที่จะให้ลูกน้อยของตนไปเล่นสนุกได้อย่างปลอดภัย และที่ขาดไม่ได้คือ​ “แลนด์มาร์ค” ที่พักต้องมีแลนด์มาร์คที่สวยงามสำหรับถ่ายภาพเพื่อแชร์ลงโซเชียล ปัจจัยสุดท้าย​ “ที่พักของน้องๆ สี่ขา” สถานที่พักต้องมีที่รองรับสุนัขและแมว เนื่องจากการสำรวจครั้งนี้พบกว่า 10% ของนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวร่วมกับสัตว์เลี้ยง

               นางสาวณีรนุช​ กล่าวต่อว่า “ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวในยุคโควิด-19 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งทางด้านมาตรการด้านสุขอนามัยและปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการ อีกทั้งเพื่อสร้างการตลาดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการได้มากขึ้น นอกเหนือจากการปรับลดราคา”

12704
บรรยายพิเศษอุตสาหกรรมอาหาร




                นายสมเจตน์ ปัญจวัฒนางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์ ฟูดส์ จำกัด ได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์เกี่ยวกับการทำธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร ภายใต้บริษัท โฟร์ ฟูดส์ และแบรนด์ไทเชฟ เพื่อเป็นแนวทางความรู้และแรงจูงใจในการทำธุรกิจ ในฐานะศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคณะอาจารย์และนักศึกษาจำนวนมาก ณ ตึกคณะวิทย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรุงเทพฯ


12705
ปฏิทินข่าว
Digital Guide ปลดล็อคขีดจำกัดการใช้เทคโนโลยี


              TK Park​ ชวนทุกคนมาปลดล็อคขีดจำกัดการใช้เทคโนโลยีกับกิจกรรม Digital Guide: เรียนรู้การทำภาพ Gif ด้วยไลน์ Line​ กิจกรรมที่เป็นเสมือนคู่มือส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับโปรแกรมที่ทันสมัยบนโลกออนไลน์ สำหรับคนทุกเพศทุกวัยที่ต้องการพัฒนาการใช้ชีวิตให้ทันยุคทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น

              ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ทางเฟสบุ๊กเพจ TKpark อุทยานการเรียนรู้ โดยกิจกรรมดำเนินในรูปแบบออนไลน์ จัดอบรมในวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 14.00 – 15.00 น. (กลุ่มปิด)

              *สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสมัครเข้ากลุ่มเพื่อพูดคุยและสอบถามวิทยากรก่อนเรียน ได้ที่


Pages: 1 ... 845 846 [847] 848 849 ... 2403