Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - FB

Pages: 1 ... 558 559 [560] 561 562 ... 573
8386
มาแล้วทีเซอร์โปสเตอร์และตัวอย่างแรก Ghost Rider: Spirit of Vengeance







          ปล่อยกันมาให้ได้ชมกันแล้ว และตัวอย่างแรก Ghost Rider: Spirit of Vengeance หนังใหม่ของ Warner Bros . ที่พอได้เห็นภาพตัวอย่างที่ปล่อยออกมาถึงกับถูกอกถูกใจใครหลายๆคน นอกจากตัวอย่างที่ปล่อยออกมาเรียกน้ำย่อยแล้ว ยังมีภาพทีเซอร์โปสเตอร์ที่ปล่อยตามออกมาให้เห็นอีก ซึ่งภายในเผยให้เห็นถึงองค์ประกอบหลักๆ 3 อย่าง ได้แก่ เปลวไฟ โซ่ และชุดหนังสีดำ

          และในภาคนี้ได้ผู้กำกับมือดี Brian Taylor และ Mark Neveldine ที่ได้เคยฝากฝีมือไว้แล้วจากภาพยนตร์เรื่อง Crank รวมทั้ง Crank High Voltage อีกด้วย ซึ่งเขาทั้งคู่รับรองว่าภาคนี้จะเข้มข้นและมันส์ยิ่งกว่า Ghost Rider ปี 2007 อย่างแน่นอน แค่ชื่อGhost Rider ก็บอกถึงความเป็นมาแล้วว่าจะต้องโยงใยเกี่ยวกับปีศาจในรูปแบบผีหัวกะโหลกที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไซด์ซึ่งลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง และในภาคนี้นักแสดงนำ Nicolas Cage จากภาคก่อนจะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน และ Ghost Rider จะต้องถูกปรับโฉมใหม่ทั้งหมดให้ดูเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ยิ่งขึ้น โดยผู้กำกับทั้งสองต้องการให้คาแร็คเตอร์ในภาคนี้มีลักษณะเป็นหัวกะโหลกสีดำพร้อมกับเปลวเพลิงที่ต้องมีควันพวยพุ่งเป็นสีดำเหมือนกันอีกด้วย เพื่อทำให้เกิดความรู้สึกถึงการระเบิดจากไฟที่แผดเผาพร้อมกับความร้อนระอุที่เกิดขึ้น Neveldine ต้องการให้เหล่าแฟนๆรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านที่ออกมาในภาคนี้ Ghost Rider: Spirit of Vengeance

          Ghost Rider: Spirit of Vengeance เข้าฉายในไทย 16 กุมภาพันธ์ 2012 นำแสดงโดย Nicolas Cage, Ciarán Hinds , Violante Placido และ Idris Elba กำกับโดย Mark Neveldine และ Brian Taylor

          ดูตัวอย่าง
          http://trailers.apple.com/trailers/sony_pictures/ghostriderspiritofvengeance/

8387
บทสัมภาษณ์ “พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” ปล่อยของอีกครั้งในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “อุโมงค์ผาเมือง”

           
 
บทบาท-คาแร็คเตอร์
          เรื่องนี้รับบทเป็น “สัปเหร่อ” ครับ จริงๆ แล้วสัปเหร่อเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในอุโมงค์ผาเมืองเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร ผ่านโลกมาเยอะมาก รับรู้นิสัยใจคอของมนุษย์ทั้งคนเป็นและคนตาย เพราะฉะนั้นเขาสามารถที่จะอ่านคนออกได้ค่อนข้างเยอะ เปรียบเทียบความเป็นอยู่ของแต่ละคน การใช้ชีวิตของแต่ละคนกับตัวเองได้ละเอียด คือสัปเหร่อเป็นคนที่ใช้ชีวิตในวิถีที่เรียกว่ากลางๆ ไม่สุดโต่ง ไม่มากไม่น้อย ทุกอย่างทำในลักษณะที่เป็นคนจริงๆ คือ ดีก็ดีชั่วก็ชั่ว ไม่ต้องตัดสิน ไม่ต้องอะไรกัน ใช้ชีวิตอยู่รอดกันไป สำหรับตัวละครตัวนี้ ไม่ว่าใครไม่เปรียบเทียบไม่ทะเลาะวิวาทไม่ต่อยตี ไม่โกหกตัวเอง ดีเขาก็ทำดี มันจะชั่วก็ต้องชั่ว เพราะฉะนั้นบางครั้งเขาสามารถที่จะหยิบผ้าออกจากร่างกายของเด็กที่มีสิทธิ์ที่จะตายได้ และเอาผ้าผืนนั้นไปขายโดยที่ไม่รู้สึกว่าผิดเลย เพราะว่าเด็กก็ต้องตายอยู่แล้ว เด็กที่ถูกเอามาทิ้งที่อุโมงผีผาเมืองเป็นอย่างนี้ทุกวัน วันละคนสองคน สิ่งเดียวที่มันช่วยได้คือ เอาผ้าห่มไปขายเพื่อยังชีพของตัวเอง แต่การช่วยชีวิตเด็กมันก็คงจะไม่ไหว เป็นคนที่ยอมรับความจริงกับตัวเอง ผ่านชีวิตมาเยอะก็เลยสามารถวิเคราะห์คนอื่นได้ ใครพูดจริงใครพูดโกหก

มีวิธีการสร้างคาแร็คเตอร์นี้อย่างไรบ้าง
          ก็มีการคุยกันเยอะกับอาจารย์คือหม่อมน้อยเนี่ยนะครับว่าจะสร้างคาแร็คเตอร์ขนาดไหน ก็เป็นคนที่หน้าตาอัปลักษณ์ ต้องแต่งเอฟเฟกต์ที่ตัวทำหน้าทำตา แล้วผมก็ต้องทำเสียงให้แหบนิดหนึ่ง พิการขาเป๋ข้างหนึ่งไม่พอ เอามือหงอย ค่อนข้างที่จะเยอะนิดหนึ่งสำหรับตัวละครตัวนี้ สังเกตดีๆ ก็จะมีอาการสันนิบาต กระตุกบริเวณใบหน้าอยู่ตลอดเวลาในขณะที่พูด ก็เป็นอะไรที่ถูกสร้างขึ้นมา พูดไปกล้ามเนื้อที่ใบหน้าก็กระตุกไป เวลาเดินก็ขาหงอย ใช้แขนได้ข้างเดียวเพราะว่าแขนหงอยไปข้างหนึ่ง ใช้เวลาฝึกซ้อมค่อนข้างเยอะ ก็ต้องมีการค่อยๆ ปรับค่อยๆ เติม ส่วนกล้ามเนื้อกระตุกไปโผล่เอาตอนแสดง ก็ดีน่ารักดีสนุกดี เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่น่ารักเลยล่ะ

การซ้อมก่อนการแสดงจริงมีส่วนช่วยมากน้อยแค่ไหน
          แน่นอนอยู่แล้วนะครับว่า สิ่งที่สำคัญของการแสดงไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือภาพยนตร์หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้ก้าวไปสู่ตัวละครได้ 100% ในวินาทีที่เราเดินเข้าไปในฉากแรก นั่นหมายความว่าขั้นตอนการคิด สร้างดีไซน์ บุคลิกลักษณะตัวละครถูกกำหนดขึ้นมาก่อน แต่ของอาจารย์นี่จะลงรายละเอียดลึกไปถึงการตีความในแต่ละฉากด้วย โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านให้ความสำคัญกับบทพูดอย่างสูงสุด ผมจำได้สมัยที่เล่นละครเวทีเล่นเป็นโจร ท่านเขียนไว้เลยว่ากรุณาพูดให้ตรงทุกคำพูด เพราะทุกประโยคทุกคำพูดมีความหมายในตัวของมันเองทั้งนั้น คือโน้ตที่หม่อมคึกฤทธิ์ท่านเขียนไว้เลยตอนนั้น ซึ่งเราเอาบทประพันธ์ของท่านมาในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เหมือนกัน เพราะความหมายของแต่ละคำมีความหมายทุกอย่าง มันมีนัยในแต่ละประโยค แม้กระทั่งคำพูดของ “ลมพัดวูบหนึ่ง” ในตัวโจรที่พูดก็เห็นอะไรได้ตั้งเยอะแยะ สิ่งที่ตัวสัปเหร่อพูดถึง มนุษย์เราคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่เป็นโตของชาติบ้างล่ะ จากปรัชญาที่เป็นจริงในสังคม แต่คนที่มีความสุขคือคนที่ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องเด่นต้องดังหรือต้องรวย ไม่มีอะไรและไม่ต้องหลอกตัวเอง ผมว่าตรงนั้นเขามีความสุขที่สุด เขารวยเขาก็บอกว่าเขารวย ไม่ต้องหลอกตัวเอง

คาแร็คเตอร์เรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นเลย ต้องมีการเมคอัพ มีความลำบากในการแสดงหรือไม่
          ผมว่ามันเสริมการแสดงมากกว่าอุปสรรคนะ เพราะว่าเมื่อเรามีรูปร่างที่มันเป็นไปตามต้องการในภาพยนตร์นะครับ ความไม่น่าเชื่อถือของตัวละครตัวนี้ก็ต้องเกิดขึ้นก่อน เพราะว่าความต้องการของตัวละครตัวนี้ คนที่ผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ ความน่าเกลียด ไม่เป็นที่ยอมรับ ความไม่น่าเชื่อถือ ความน่ากลัว ทุกอย่างมันจะค่อยๆ ถูกลดน้อยลง กลายเป็นว่าตัวละครตัวนี้เป็นมนุษย์มากที่สุด เป็นคนมากที่สุด และชั่วน้อยที่สุด เลวน้อยที่สุด ผมว่าตรงนี้สิ่งที่เอฟเฟ็คต์ต่างๆ เกี่ยวกับหน้าตาหรือความพิการต่างๆ มันทำให้ตัวละครตัวนี้มีความน่าเชื่อถือ แต่เรื่องราวต่างๆ ที่ถูกเล่าผ่านตัวละครตัวนี้ จะค่อยๆ สร้างพัฒนาความน่าเชื่อถือความเข้าใจ ความเป็นมนุษย์ผ่านตัวละครตัวนี้ เพราะฉะนั้นก็เหมือนกับสอนให้รู้ว่าเราอย่ามองเพียงแค่รูปลักษณ์ของคนที่อยู่รอบข้างเรา ผมว่าต้องมองให้ลึกให้เข้าใจว่าอะไรที่มันซ่อนอยู่ในตัวเขา มันคือความดี มันคือความชั่ว อย่ามองเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก มันมีอะไรที่ซ่อนอยู่

การดำเนินเรื่องของตัวสัปเหร่อ
          สัปเหร่อเรียนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคดีนี้ไปพร้อมกับคนดู และวิเคราะห์ทำความเข้าใจผ่านตัวละครตัวนี้ได้มากที่สุด พระคือผู้ที่ไม่ได้รู้อะไรเลย ซึ่งพระเรียนรู้ธรรมะจากคนที่เรียกว่าสัปเหร่อ พระผู้ที่สอนธรรมะเนี่ยกลับต้องเรียนรู้จากคนที่เป็นสัปเหร่อ เพราะฉะนั้นตัวละครตัวนี้ถูกสร้างให้มีความไม่น่าเชื่อถือในตอนแรก หลังจากนั้นก็ค่อยๆ สร้างการยอมรับให้กับคนดู ถ้าเป็นตัวละครเหมือนกันก็คือเป็นการสร้างการยอมรับให้กับพระ ในความเป็นจริงของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ความน่าเชื่อถือกับคนดู สร้างแรงจูงใจให้กับคนดู รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นไปพร้อมกับคนดู
          โดยในตัวอุโมงค์ก็เป็นบ้านของตัวสัปเหร่ออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในความแปลกของตัวละครแทบจะไม่มี แต่ในความแปลกของคนตัดฝืนซึ่งมีน้อยกว่าพระ เพราะในขณะที่มีเสียงร้องของสัปเหร่อที่โหยหวน คนตัดฝืนมันรู้และตกใจ นี่คือธรรมแรกที่สอน คือเรื่องของจิตเรื่องของสมาธิ หลังจากนั้นทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่เกิดในถ้ำแห่งนี้ เหมือนเกิดขึ้นในบ้าน มีคนเข้ามาในบ้านของสัปเหร่อ เนื่องจากมาสร้างความรำคาญเพราะนอนอยู่ คนจะหลับจะนอนก็มาพูดให้หนวกหู นั่นก็คือจุดเริ่มต้น แต่มันกลับไปฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น กับตัวละครสองตัวนั้น ได้เรียนรู้ธรรมะ และได้สอนธรรมะให้กับพระองค์หนึ่งซึ่งกำลังที่จะละด้วย

การร่วมงานกับมาริโอ้และหม่ำ จ๊กม๊ก
          นักแสดงอาชีพไม่ต้องพูดถึงนะครับ อย่างทั้งสองท่านนี้ก็เคยเล่นหนังด้วยกันมาแล้ว หม่ำนี่ก็จริง ๆเจอกันบ่อยมาก ส่วนมากจะเป็นเรื่องรายการ แต่เรื่องของการแสดงน่าจะเป็นเรื่องแรกที่ทำงานด้วยกัน นักแสดงทั้งสองท่านส่งเสริมฉากให้มันสมบูรณ์ขึ้น ส่งเสริมความเชื่อของตัวละคร สร้างพลังงานให้กับฉากในแต่ละฉาก เป็นนักแสดงอาชีพที่สนุกมากครับ
          หม่ำนี่ถือว่าเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ไปเลย ทำได้ดี ลบความเป็นหม่ำออกไปได้ไปอย่างหมดจด เล่นเป็นคนตัดฟืนออกมาได้อย่างสวยงาม ซึ่งทำให้ฉากแต่ละฉากที่ได้แสดงร่วมกันมันสมบูรณ์ และพลังงานในแต่ละฉาก ผมเชื่อว่าสามารถสะกดคนดูได้อยู่ทุกครั้งที่ออกมา

จากตอนเล่นละครเวทีพี่อ๊อฟแสดงเป็นอีกตัวละครหนึ่ง
          ตอนเล่นละครเวทีเล่นเป็นโจรครับ โดยในขณะที่เราเล่น เราก็จะแอบสังเกตตัวละครสัปเหร่อ เพราะพาร์ทของอุโมงค์ฯ มันมี 2 พาร์ท ของชายป่าที่เป็นเรื่องเล่าของ 3 คน ซามูไร, โจร, ผู้หญิง ในขณะที่ตรงอุโมงค์ประตูผี มันจะมี พระ, คนตัดฟืน, สัปเหร่อ ในขณะที่ตอนซ้อมกัน ฝั่งนี้เล่นเราจะแอบสังเกตดูตัวของสัปเหร่ออยู่ มันได้เรียนรู้ได้ทำความเข้าใจ บางครั้งมันก็วิ่งตาม บางครั้งก็วิ่งนำ เป็นตัวละครที่สนุกมากๆ จริงๆ ตัวละครทั้งหมดในเรื่องผมว่าน่าสนใจหมดนะ และมีคุณค่าในการส่งเสริมตัวภาพยนตร์ให้สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นตัวของแม่มาริโอ้ที่คุณชุดาภาเป็นผู้แสดง แม่ของแม่หญิงก็คือ ท็อป ดารณีนุช และน้องนิวที่เล่นเป็นพี่ของมาริโอ้ ตัวของเจ้าหลวงหรือใครก็ตาม ผมว่าทุกตัวละครได้สร้างความสมบูรณ์ให้กับภาพยนตร์อย่างสมบูรณ์แบบ เราทิ้งตัวละครตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้ ทุกตัวมีความสำคัญหมด ผลรวมก็คือส่งเสริมภาพยนตร์ให้มีความสมบูรณ์ครับ

การมาร่วมงานกับอาจารย์ตัวเองกดดันหรือไม่
          ไม่เลยครับ เพราะจริงๆ แล้ววผมค่อนข้างที่จะไปเข้าคลาสกับหม่อมบ่อยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันก็เหมือนกับการทำคลาสหนึ่งอัน ที่ผ่านเรื่องเทคโนโลยีของกล้อง แต่ปกติเราก็จะซ้อมอยู่เหมือนเป็นอะไรก็ได้ ผมค่อนข้างจะเข้าไปคุยกับหม่อมบ่อยของเรื่องไดเร็กชั่น หรืออีกอาชีพหนึ่งของผู้กำกับจะต้องเข้าเรียนรู้วิธีที่จะให้เขาแสดง มันไม่ใช่วิธีแสดงแล้วจากที่ตัวเองไปเรียนกับหม่อม แต่เป็นเพื่อให้เป็นเขาแสดงให้ได้ เพื่อให้เขากระทำออกมาให้ได้ ได้กระทำสิ่งที่เราต้องการออกมาให้ได้ มันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อาจารย์เขาสอนให้ เราต้องไปเรียนรู้เราต้องไปปรับความเข้าใจ

ความน่าสนใจโดยรวมของอุโมงค์ผาเมือง
          จากที่ผมได้ดูแล้ว สิ่งที่ผมประทับใจมากๆ ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของหม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ คือความเป็นพุทธบูชา หม่อมพยายามให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพุทธบูชา เป็นธรรมะที่สอนให้กับคน เป็นภาพยนตร์ที่แปลกและใหม่จากละครเวที จากภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่เราเคยดู นั่นคือการสร้างภาพยนตร์ไทยหนึ่งเรื่องวัตถุประสงค์ก็เพื่อพุทธบูชา เป็นความรู้สึกที่ผมชอบมากๆ ผมว่านี่ก็เพียงพอที่จะทำให้เราควักเงินในกระเป๋ามาดูหนังดีๆ หนึ่งเรื่องได้ ซึ่งผมก็ภาวนาทุกครั้งว่าเมื่อหนังแปลกๆ ใหม่ๆ แบบนี้ออกมาก็ขอให้รายได้เยอะๆ เพราะเราจะได้มีแรงที่จะทำหนังที่มันแปลกและจะได้มีผลไปถึงคนดูที่จะเลือกดูอะไรที่มันแตกต่างที่ไม่ได้มีอยู่ทั่วๆ ไปที่เขาเรียกว่าเป็นแมส แต่ว่าการเป็นตัวเลือกมันก็เป็นอะไรที่น่าค้นคว้าและน่าค้นหาอย่างหนึ่งครับ

8388
“ย้ง-ทรงยศ” ผู้กำกับหนัง Top Secret วัยรุ่นพันล้าน ชวนวัยรุ่นแข่งขันสร้างธุรกิจพันล้าน กับโครงการ “วัยรุ่นปั้นล้าน The Premium Project”



          นอกจากจะสร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นด้วยหนังเรื่องใหม่ Top Secret วัยรุ่นพันล้าน ค่าย จีทีเอช ที่จะเข้าฉายเดือน ต.ค. นี้แล้ว ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับชื่อดังฝากชวนน้องๆที่มีอายุ 15-22 ปี มาร่วมแข่งขันสร้างธุรกิจพันล้านด้วยตัวเอง กับ โครงการ “วัยรุ่นปั้นล้าน The Premium Project” โดยเปิดโอกาสให้รวมตัวกันเป็นทีมเพื่อโชว์ไอเดียสร้างสรรค์ในการผลิตของขวัญ/ของที่ระลึกจากภาพยนตร์ เพื่อชิงเงินรางวัล 100,000 บาท ติดตามรายละเอียดการร่วมแข่งขันได้ที่ www.gth.co.th และ www.myplaychannel.com

8389
“จีทีเอช” เตรียมส่งหนัง “Top secret วัยรุ่นพันล้าน” ของผู้กำกับ “ย้ง-ทรงยศ” เข้าฉาย ตุลาคม นี้



          ค่ายหนังอารมณ์ดี “จีทีเอช” เตรียมส่งหนังแรงบันดาลใจวัยรุ่น “Top Secret วัยรุ่นพันล้าน” ของผู้กำกับมากฝีมือ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกที่ย้งไม่ได้นำเสนอโปรเจ็คด้วยตัวเอง แต่เป็นโปรเจ็คดีๆ ที่เก้ง-จิระ มะลิกุล และวรรณฤดี พงศ์สิทธิศักดิ์ อยากให้ทำ

          ย้ง-ทรงยศ เผยว่า “Top secret วัยรุ่นพันล้าน เป็นหนังเรื่องแรกของผม ที่ไม่ได้ทำหนังเกี่ยวกับเรื่องราวที่ผมสนใจตั้งแต่ต้น เพราะทุกผลงานที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นแฟนฉัน, เด็กหอ หรือ ปิดเทอมใหญ่ฯ ทุกเรื่องล้วนเป็นประสบการณ์ชีวิตผสมจินตนาการของผมเอง แต่เรื่องนี้แตกต่างออกไป วันหนึ่งพี่เก้ง-จิระ มะลิกุล และวรรณฤดี โทรมาบอกว่ามีหนังเรื่องใหม่อยากให้ผมทำ ผมดีใจแต่ก็แอบหวั่นใจว่าผมจะทำได้หรือเปล่า แต่ผมเชื่อมั่นในพี่เก้ง ว่ามันต้องเป็นงานที่น่าสนใจ พอได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ ต๊อบ คนที่ทำเถ้าแก่น้อย ผมก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น แม้ว่าจะเกรงๆ บ้างที่ทำหนังอ้างอิงเรื่องราวชีวิตคนอื่น เราจะเข้าใจตัวตนเค้าได้มากแค่ไหน แต่ยิ่งพอได้มีโอกาสคุยกับ ต๊อบ จริงๆ เค้าเป็นคนค่อนข้างเปิดมาก และที่สำคัญในวันที่ต๊อบประสบความสำเร็จเค้ายังเป็นวัยรุ่น ผมอินกับวัยนี้ ผมคิดว่าผมเข้าใจในสิ่งที่เค้าทำ โดยเฉพาะพาร์ทการทำธุรกิจ เพราะปีที่ผ่านมา ผมออกมาเปิดบริษัทโปรดักชั่นของตัวเอง มันเป็นหนังแบบที่ผมไม่เคยทำ ซึ่งท้าทายผมมาก รู้สึกขอบคุณพี่เก้ง และวรรณที่เอาหนังเรื่องนี้มาให้ผม”

          “ผมว่าความน่าสนใจที่สุดของชีวิตต๊อบ คือ เค้าไม่ได้เจอเหตุการณ์พิเศษ มันอยู่ที่ความคิดและทัศนคติ ถ้าคุณไปดูหนังเรื่องนี้ จะเห็นว่าในเหตุการณ์ธรรมดา ๆเหตุการณ์หนึ่ง เราจะตัดสินใจทำอย่างหนึ่ง แต่ต๊อบคิดไม่เหมือนเรา และสิ่งนั้นนำพาให้เค้ากลายเป็นวัยรุ่นพันล้าน พี่เก้งเคยพูดว่า อยากสร้างหนังที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่น เพียงแต่ว่า หนังดนตรี กีฬา มีเยอะแล้ว เราอยากเล่าเรื่องอื่นบ้าง เรื่องที่บันดาลใจให้เราลุกขึ้นมามุ่งมั่นทำในสิ่งที่เราเชื่อ อยากให้ทุกคนลองติดตามชมกันครับ เพราะนักแสดงทุกคน พีช-พชร จิราธิวัฒน์, อาเปี๊ยก โปสเตอร์ และน้องมุกไหม-วลันลักษณ์ คุ้มสุวรรณ ฯลฯ ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์นะครับ”

          “Top Secret วัยรุ่นพันล้าน” หนังแรงบันดาลใจวัยรุ่น เข้าฉาย ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

8390
วงดนตรี Take That สุดเซอร์ไพรส์ ได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ THE THREE MUSKETEERS 3D : สามทหารเสือดาบทะลุจอ

           
 
           วงดนตรี Take That สุดเซอร์ไพรส์ ได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์
          THE THREE MUSKETEERS 3D : สามทหารเสือดาบทะลุจอ
          กับ เพลง When we were young เตรียมความมันส์ เท่ห์ ก่อนหนังฉายจริง
 
           ห่างหายจากแฟนเพลงไปนานสำหรับวงดนตรีชื่อดังจากอังกฤษ อย่าง Take That ที่เพิ่งได้ ร็อบบี้ วิลเลี่ยม กลับมาร่วมวงอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลงานอัลบั้มชุดที่ 7 และเมื่อได้กลับมารวมวงกันอย่างเต็มรูปแบบ ครบสมาชิกอีกครั้ง ทาง Take That ก็มีข่าวดีสุดเซอร์ไพรส์ เมื่อ พอล ดับบลิว แอนเดอร์สัน ผู้กำกับภาพยนตร์ The Three Musketeers 3D : สามทหารเสือดาบทะลุจอ ได้ชักชวนให้วง Take That มาทำเพลงประกอบ เป็นเพลงธีมหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเพลงดังกล่าวได้แก่เพลง When We Were Young ทั้งนี้สมาชิกวง Take That ทั้ง แกรี่, โฮเวิร์ด, เจสัน, มาร์ค และ ร็อบบี้ เผยว่า ตอนแต่งเพลงนี้ขึ้นมาก็ได้รับแรงบันดาลใจจากการดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งผู้กำกับ พอล ดับบลิว แอนเดอร์สัน ได้เชิญพวกเขามาดูเป็นการส่วนตัวที่บ้านพักในแอลเอ โดย แกรี่ บาร์โรว์ เล่าว่า "หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยสีสันและความสนุก และความท้าทายของเราก็คือการเขียนเพลงให้เข้ากับอารมณ์ของหนัง พวกเราตัดสินใจกลับไปใช้เครื่องดนตรีแนวอะคูสติก เช่น กีตาร์โปร่ง เครื่องเป่า และเปียโน เพื่อทำให้เพลงมีกลิ่นอายของการผจญภัยในอดีต" ทางด้าน ร็อบบี้ วิลเลี่ยม ที่หยุดงานเดี่ยวเพื่อมาออกอัลบั้มกับวงที่เคยสร้างชื่อให้เขา ก็พูดถึงเนื้อหาของเพลงว่า "มันเป็นเหมือนการหวนคิดถึงชีวิตในอดีต สมัยที่ทุกคนยังเป็นวัยรุ่นและออกท่องโลกด้วยหัวใจที่เป็นอิสระ การใช้ชีวิตแบบมุ่งไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ ผมอยากให้คนที่ฟังเพลงรู้สึกถึงความมหัศจรรย์แบบนั้น เพราะโดยส่วนตัวแล้วสามทหารเสือทำให้ผมนึกถึงตัวเองและเพื่อนๆในวง ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมานานหลายสิบปี"
 
           หลังจากผจญภัยผ่านเสียงเพลงกันแล้ว เตรียมมาผจญภัยอย่างสุดมันส์....เท่ห์ ไปกับ ภาพยนตร์ The Three Musketeers 3D : สามทหารเสือดาบทะลุจอ ได้ วันที่ 29 กันยายนนี้ ทั้งในระบบฟิล์มธรรมดา และ ตระการตายิ่งขึ้นด้วยระบบดิจิตอลสามมิติสุดล้ำ และเมื่อเป็นผลงานของ พอล ดับบลิว แอนเดอร์สัน จาก ภาพยนตร์ Resident evil : ผีชีวะ ผู้กำกับที่มีเอกลักษณ์การทำหนังสุดมันส์ เท่ห์ถึงใจ นี่จึงเป็นการฉีกภาพสามทหารเสือแบบเดิมๆ ที่ทุกคนเคยเห็น กลายเป็นสามทหารเสือโฉมใหม่ ที่เจ๋งยิ่งกว่าเดิม นำแสดงโดย มิล่า โจโววิช / ออแลนโด บลูม / โลแกน เลอร์แมน และ คริสตอฟ วอลซ์
 
คลิคชม MV เพลง When we were young ได้

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=X_2bgYAD9mU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=X_2bgYAD9mU</a>

          หนึ่งดาบพิทักษ์บัลลังก์ ปฏิวัติความมันส์แห่งสามทหารเสือ
          29 กันยายน นี้ ในระบบฟิล์มธรรมดา และ ดิจิตอลสามมิติ

8391
การถูกไล่ล่าอย่างเลี่ยงไม่ได้ อีกหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ Final Destination 5 - โกงตายสุดขีด





          ในภาพยนตร์เรื่อง Final Destination 5 เราได้เห็นความตายตามล่ากลุ่มเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอีกครั้ง แต่มีจุดพลิกผันที่หมุนเวียนความสนใจไปที่ความลำบากใจของตัวละครที่ต้องเผชิญ เมื่อพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติอันไร้ความปราณี

          เอ็มม่า เบล (Frozen) ผู้ร่วมแสดงกับดี’อกอสโต้เห็นด้วยว่าข้อสังเกตุภาคนี้สถานการณ์ควบคุมอารมณ์ของภาพยนตร์อย่างแท้จริง “จุดที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Final Destination มีความโดดเด่น คือมันไม่ใช่ภาพยนตร์เขย่าขวัญ ทั่วไป” เธอกล่าว “ใช่ ตัวละครต่างถูกไล่ล่าอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่มันไม่มีคนตามฆ่าที่มีตัวตน ไม่มีคนไล่ตามเราพร้อมมีด ผู้ล่าคือตัวของความตายเอง มันเป็นเรื่องของนามธรรมและนั่นคือสิ่งที่ทำให้ไม่มีทางหลบหนีเลย ในหนังของเราเหล่าตัวละครต่างเกี่ยวข้องกับการดิ้นรนทางความรู้สึก เหมือนการต่อสู้เพื่อการมีชีวิตรอด และนั่นทำให้เรื่องราวมีเนื้อหาที่โดดเด่นยิ่งขึ้น” 
 
          เบลมีบุคลิกที่ดูบอบบาง สวยแบบอ่อนโยน ซึ่งนั่นช่วยให้การตายของตัวละครของเธอในซีรี่ส์ทางทีวีเรื่อง The Walking Dead เป็นการแสดงหนึ่งซึ่งเป็นที่จดจำของการแสดงมากที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่สร้างความเจ็บปวดทั้งกายและใจเธอมาก เมื่อเธอต้องถูกพี่สาวแท้ๆ ของเธอฆ่า เพื่อกันเธอจากการเข้าไปเป็นพวกของซอมบี้ เพียงช่วงเวลาไม่นานที่ผู้สร้างภาพยนตร์นำบทมาให้เธอ พวกเขารู้ว่าเธอเหมาะสมกับตัวละครของมอลลี่ ซึ่งเป็นคนรักของ แซม ตัวละครของดี 'อกอสโต้ “เธอเป็นคนน่าทึ่ง” เพอร์รี่กล่าว “เมื่อเราผ่านขั้นตอนของการคัดเลือกนักแสดงและมีชื่อเธอปรากฏขึ้นมา เรากระโดดเข้าใส่เลย เอ็มม่ามีแววตาที่น่าเหลือเชื่อ เธอถ่ายทอดทุกฉากได้โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรเลย”

          ผู้รอดชีวิตอีกคนหนึ่งจากอุบัติเหตุคือ ปีเตอร์ รับบทแสดงโดย ไมเลส ฟิสเชอร์ (ภาพยนตร์ทางทีวีเรื่อง Mad Men, Gossip Girl) ที่มีจุดพลิกผันจากการเป็นเพื่อนรักของพระเอกไปเป็นคู่อริ เพอร์รี่อธิบายว่า “มีจุดพลิกผันที่สนุกและมีหลายอย่างรอเราอยู่ แต่ผมว่าที่น่าสนุกที่สุดคือเราหยิบตัวละครขึ้นมาและเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของเขาเมื่อสิ่งที่อยู่รอบตัวเขาได้พังทลายไป เมื่อเขาค้นหาวิธีโกงเพื่อเอาชีวิตรอด การพลิกเป็นคู่อริในองก์ที่สามอย่างเด่นชัดเป็นสิ่งที่เราไม่เคยพบมา”
 
          ฟิสเชอร์เป็นแฟนของหนังซีรี่ส์ Final Destination มาอย่างยาวนาน “ข้อสนับสนุนในหนังต้นฉบับที่เข้าใจกันว่าเราโกงความตายไม่ได้เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ” เขากล่าว “การพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไล่ตามเราในรูปแบบที่เยือกเย็นและไร้เมตตา ซึ่งเป็นพลังอำนาจที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนของมันคือประสบการณ์ที่พิเศษที่สุด นี่คือข้อจำกัดของมนุษย์ไม่ใช่หรอ? ไม่มีใครหนีความตายได้”
www.finaldestination5-thai.com

          มาเผชิญหน้ากับความตายได้ใน
          “Final Destination 5 - โกงตายสุดขีด”
          18 สิงหาคมนี้ ระทึกทะลุจอในระบบ 3 มิติ

8392
ทีมนักแสดง

          เจสัน โมมัว (รับบทเป็น โคแนน)
           โมมัว ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นแอ็คชั่นสตาร์แห่งทศวรรษใหม่ โดยนอกจากเขาจะถูกคัดเลือกให้เขามารับบทเป็น โคแนน ใน Conan the Barbarian ฉบับปี 2011 เขาก็ยังรับบทเป็น คาร์ล โดรโก้ ในซีรี่ย์ HBO ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้เรื่อง Game of Thrones ซึ่งดัดแปลงมาจากวรรณกรรมแฟนตาซีชุด A Song of Ice and Fire ของ จอร์จ อาร์ อาร์ มาร์ติน ซึ่งเป็นเรื่องราวการต่อสู้ช่วงชิงบัลลังค์ในอาณาจักรสมัยก่อน
          ก่อนหน้านี้ โมมัว ได้รับความนิยมจากแฟนๆจากการรับบทเป็น โรแนน เด็กซ์ ในซีรี่ย์แอ็คชั่น-ไซไฟสุดฮิตเรื่อง Stargate: Atlantis รวมถึงการเป็นตัวละครประจำในซีรี่ย์ดังอย่าง North Shore โดยความสามารถหลายด้านของเขา โมมัว ก็ยังเขียนบท กำกับ และนำแสดงในหนังสั้นอย่าง Brown Bag Diaries: Ridin’ the Blinds in B Minor ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีในเทศกาลหนังทั่วโลก
เจสัน โมมัว เกิดในเมืองโฮโนลูลู เกาะฮาวาย เป็นลูกครึ่งฮาวายและไอริช เขาเข้าวงการด้วยการเป็นนายแบบ ในปี 1999 ก็ได้เป็นผู้ชายแห่งปีของเกาะฮาวาย ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในฮอลลิวู้ดเพื่อเป็นนักแสดงเต็มตัว ทางด้านครอบครัวเขาได้แต่งงานกับ ลิซ่า โบเน็ต นักแสดงหญิงชื่อดัง โดยทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ โลล่า โมมัว ที่เกิดในปี 2007

          ราเชล นิโคลส์ (รับบทเป็น ทามาร่า)
          นักแสดงที่เริ่มเป็นที่รู้จักจากการแสดงในหนังซัมเมอร์สองปีล่าสุด โดยเธอมีผลงานอย่าง Star Trek นำแสดงโดย คริส ไพน์ และ แซ็คคารี ควินโต ในบท กาเรีย มนุษย์จากต่างดาวที่เป็นคู่รักของกัปตันเคิร์ก และใน G.I. Joe: Rise of the Cobra นำแสดงโดย แชนนิ่ง เททั่ม และ โจเซฟ กอร์ดอน เลวิทท์ ที่เธอรับบทเป็น สการ์เล็ต หนึ่งในสมาชิกทีมจีไอโจ
          นิโคลส์ เคยมีผลงานในหนังโรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง Sisterhood of the Traveling Pants 2 ที่นำแสดงโดย อเมริกา เฟอร์เรร่า และ เบล็ค ไลฟ์ลี่ และยังแสดงใน Charlie Wilson’s War ที่นำแสดงโดย ทอม แฮงค์ และ จูเลีย โรเบิร์ตส โดย เธอมีผลงานแจ้งเกิดมาจากซีรี่ย์สุดฮิต Alias ที่เธอรับบทเป็น ราเชล กิ๊บสัน สมาชิกของหน่วยพิเศษและเป็นเพื่อนร่วมงานกับ ซิดนี่ย์ บริสโตว์ ที่รับบทโดย เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์
          นิโคลส์ มาจากเมืองเล็กๆในรัฐนิวอิงแลนด์ เธอเป็นที่สนใจจากแมวมองและก้าวเข้ามาในวงการด้วยการเป็นนางแบบให้กับแบรนด์ดังอย่าง Guess, L’Oreal, Abercrombie & Fitch และ Nicole Miller ก่อนที่จะก้าวเข้าสู้เส้นทางการแสดงครั้งแรกในซีรี่ย์สุดฮิตอย่าง Sex and the City และก็มีผลงานการแสดงต่อมาเรื่อยๆอย่างเช่น Autumn In New York กับ ริชาร์ด เกียร์ และ Dumb and Dumberer: When Harry Met Lloyd ภาคต่อของ Dumb and Dumber

          สตีเฟ่น แลง (รับบทเป็น คฮาลาร์ ซิมส์)
          ปี 2009 ถือว่าเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของ สตีเฟ่น แลง ไม่ว่าจะเป็นการที่เขารับบทเป็น พันเอก ไมล์ ควอริชท์ ในหนังที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลอย่าง Avatar และทำให้เขาเข้าชิงรางวัล Saturn Award, MTV Movie Award และ Teen Choice Award รวมถึงบท เจ้าหน้าที่ชาร์ล วินสเตล ที่ได้รับการยกย่องอย่างจากนักวิจารณ์ใน Public Enemies ของผู้กำกับ ไมเคิล มานน์ และบทใน The Men Who Stare at Goats ที่นำแสดงโดย จอร์จ คลูนี่ย์ และ ยวน แม็คเกรเกอร์
          ผลงานในปี 2010 ของคือซีรี่ย์แอ็คชั่น-ไซไฟ Terra Nova ที่อำนวยการสร้างโดย เจมส์ คาเมเรอน รวมถึงหนังดราม่าอย่าง Christina ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Buffalo-Niagara Film Festival และ White Irish Drinkers ที่เปิดฉายใน Toronto International Film Festival และได้รับรางวับขวัญใจคนดูใน Woodstock Film Festival
ผลงานของ แลง ที่ผ่านมาก็ยังมี Gods and Generals หนังสงครามกลางเมืองที่ภาคก่อนหน้าอย่าง, Last Exit to Brooklyn, Tombstone, Manhunter ของผู้กำกับ ไมเคิล มานน์ โดย แลง เกิดจากการแสดงละครเวทีชื่อดังไม่ว่าจะเป็น A Few Good Men เวอร์ชั่นละครเวทีของ แอรอน ซอร์กิ้น และ Finishing the Picture ของ อาเธอร์ มิลเลอร์

          โรส แม็คโกเว่น (รับบทเป็น มาริค)
          ทุกคนอาจจำ โรส แม็คโกเว่น ได้จากการที่เธอรับบทเป็น โคโยตี้แข้งปืนกล ใน Planet Terror โปรเจ็คหนัง Grindhouse ของสองสุดยอดผู้กำกับ เควนติน ทารันติโน่ และ โรเบิร์ต รอดดริเกวซ ซึ่งตัวเธอก็ยังมีบทบาทในหนังร่วมโปรเจ็คอย่าง Death Proof อีกด้วย
แม็คโกเว่น เป็นที่รู้จักของกลุ่มแฟนๆซีรี่ย์ จากการรับบทเป็นหนึ่งในสามแม่มดสาวร่วมกับ อลิซซ่า มิลาโน่ และ ฮอลลี่ มารี คอมป์ ในซีรี่ย์ Charmed ตั้งแต่ปี 2001 จนกระทั่งจบซีรี่ย์ในปี 2006 โดยเธอก็ยังมีผลงานทางจอเงินที่โด่งดังมากมาย เช่น Scream ภาคแรกของผู้กำกับ เวส คราเว่น, Jawbreaker หนังตลกร้ายที่เธอรับบทเป็นหญิงแสบ, The Black Dahlia แสดงคู่กับ ฮิลารี่ย์ สแวงค์ และ สการ์เล็ต โจแฮนสัน รวมถึงมินิซีรี่ย์ Elvis ร่วมกับ โจนาธาน รีส เมเยอร์
          แม็คโกเว่น แจ้งเกิดจากหนังอินดี้สุดอื้อฉาวของ เกร็ก อารากิ ที่เลือกเธอรับบทเป็น เอมี่ บลู ในเรื่อง The Doom Generation โดยรับบทเป็นเด็กมีปัญหา ซึ่งทำให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม0kd Independent Spirit Awards ในปี 1996 โดยนักแสดงคนนี้เกิดและเติบโตในประเทศอิตาลี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในลอสแองเจลิสเพื่อโอกาสในการเป็นนักแสดง

          รอน เพิร์ลแมน (รับบทเป็น โคริน)
          ผลงาน >>> Hellboy I-II, Blade II, Season of the Witch, Alien: Resurrection

          ซาอิด ทักฮามาวี (รับบทเป็น อีลา-ชาน)
          ผลงาน >>> G.I. Joe: The Rise of Cobra, Vantage Point, Three Kings, Traitor

ทีมผู้สร้าง

          มาร์คัส ไนสเปล (ผู้กำกับ)
          ไนสเปล ถือว่าเป็นผู้กำกับมือหนึ่งในโลกโฆษณาและมิวสิควิดีโอ โดยได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย โดยเขาสร้างชื่อจากผลงานการกำกับเรื่องที่สาม นั้นคือการนำ Friday The 13th มารีเมค และก็สร้างสถิติด้วยการเป็นหนังสยองขวัญที่เปิดตัวสูงสุดตลอดกาล
          ผลงานก่อนหน้านี้ของ ไนสเปล ก็คือหนังแอ็คชั่นไวกิ้งเรื่อง Pathfinders นำแสดงโดย คาร์ล เออร์บัน ซึ่งก็ถือเป็นรากฐานในการสร้างโลกของ โคแนน โดยในปี 2003 ไนสเปล ก็ได้ก้าวเข้าสู่การกำกับหนังเป็นครั้งแรกในเรื่อง The Texas Chainsaw Massacre ฉบับรีเมค ซึ่งทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 100 ล้านเหรียญ และกลายเป็นหนังที่ทำกำไรสูงสุดแห่งปี
          ก่อนหน้าที่ ไนสเปล จะเข้ามากำกับหนัง เขาถือเป็นผู้กำกับที่ทำงานร่วมกับศิลปินเพลงชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Spice Girls, Simply Red, Bush, No Doubt, George Michael, Janet Jackson, Elton John, Billy Joel, Aretha Franklin, Cher, Mariah Carey, k.d. Lang, Bette Midler, LL Cool J, Bryan Adams และ Gloria Estefan ผลงานเอ็มวีของเขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล MTV Awards ถึง 12 ครั้ง และก็ได้รับรางวัลมาถึง 4 ครั้ง

          อาวิ เลอร์เนอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง)
          ผลงาน >>> The Expendables, Rambo, 16 Blocks

          โทมัส ดีน ดอนเนลลี่ (ผู้เขียนบท)
          ผลงาน >>> Sahara, A Sound of Thunder

          โทมัส ครอส (ผู้กำกับภาพ)
          ผลงาน >>> Showtime, Fear

          คริส ออกัส (ผู้ออกแบบงานสร้าง)
          ผลงาน >>> Underworld: Evolution, I Robot

          เดวิด ลิช (ผู้กำกับฉากแอ็คชั่น)
          ผลงาน >>> 300, TRON: Legacy และ The Bourne Ultimatum

          นูน ออร์แซ็ตติ (ผู้ควบคุมฉากสตันท์)
          ผลงาน >>> The Expendables, Rambo

          สก็อตต์ วีลเลอร์ และ ฌอน สมิธ (เมคอัพเอฟเฟ็ค)
          ผลงาน >>> 300, Star Trek, Big Fish

          เวนดี้ พาร์ทริช (ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย)
          ผลงาน >>> Underworld, Hellboy I-II

8393
ตั้ว-ศรัณยู ทุ่มสุดตัวดึง ตรี-อาร์ นำทีมคนโขนลงรัวชัตเตอร์ถ่ายแฟชั่นสุดหรู

 

          ใกล้ถึงเวลาลงโรงเข้าฉายแล้ว สำหรับภาพยนตร์ คนโขน ผลงานจากผู้กำกับที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมายาวนานอย่าง ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ภาพยนตร์ที่ผูกเรื่องราวของศิลปะชั้นสูงกับตัณหาและมายาแห่งนาฎกรรมไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน วันนี้เลยถือโอกาสดีที่ได้มาแนะนำศิลปะชั้นสูงอย่างโขน ผ่านแฟชั่นเซ็ตหรูสุดอลังการกับนิตยสารเปรียว เราตามไปดูกันดีกว่าว่าจะสวยเริ่ดหรูกันมากขนาดไหน

           ว่าแล้วผู้กำกับของเราพาเหล่านักแสดงหน้าใหม่แต่ฝีมือไม่ใหม่ ตรี-นันทรัตน์ ชาวราษฎร์ และอาร์-อภิญญา รุ่งพิทักษ์มานะ คู่พระนางที่มีศิลปะไทยอยู่ในสายเลือด มาประเดิมแฟชั่นเซ็ตสไตล์โขน โดยเริ่มต้นกันตั้งแต่แต่งหน้าทำผมกันซะก่อน ใครที่คิดว่าจะแต่งหน้าทำผมกันปกติให้ลืมไปได้เลย เพราะนี้เป็นศิลปะชั้นสูง ดังนั้นการแต่งหน้าทำผมจึงต้องประณีตบรรจงเป็นพิเศษโดยใช้เวลาไปมากกว่า 2 ชั่วโมง แล้วไหนจะแต่งองค์ทรงเครื่องกันอีก โดยมีหนุ่มอาร์ที่เป็นตัวพระ สาวตรีที่เป็นนางสีดาแล้ว ยังมีหนุ่มนัท-ขจรพงศ์ พรพิสุทธิ์ นักแสดงหน้าใหม่อีกคนร่วมเป็นตัวลิง เรียกได้ว่างานนี้เป็นเซ็ทใหญ่กันเลยทีเดียว จนทีมงาน ช่างภาพ ช่างไฟก็รอจนแทบจะเคลิ้มหลับ แต่พอเสร็จก็ไม่ทำให้ผิดหวังแม้แต่น้อย เพราะสวยงามอลังการชนิดที่เรียกว่าหาดูกันไม่ได้บ่อยๆ จากนั้นช่างภาพของเราก็รัวชัตเตอร์กันใหญ่ ส่วนนักแสดงของเราก็งัดท่าทางร่ายรำขึ้นมาโชว์ พร้อมปิดท้ายด้วยช็อตสุดท้ายในมาดเท่ๆ ของผู้กำกับที่อยู่ท่ามกลางเหล่าตัวละครต่างๆ พระ นาง ลิง ยักษ์ งานนี้ผู้กำกับไม่ยอมน้อยหน้านักแสดงแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าจัดเต็มกันทุกหน่วยเลยทีเดียว

          “ปกติอาร์จะใส่ชุดแบบนี้เวลาขึ้นแสดงเท่านั้นครับ นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกสำหรับการถ่ายแฟชั่นและเป็นครั้งแรกสำหรับใส่ชุดโขนถ่ายแฟชั่นอีกด้วย ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีครับ เพราะปกติเวลาเห็นภาพแฟชั่นก็จะเป็นชุดสวยงามทั่วไป แต่พอมาเป็นชุดโขนก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้คนทั่วไปได้สัมผัสถึงศิลปะไทยๆ แบบนี้มากขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าเข้าไม่ถึงหรือเป็นอะไรที่ยากจะเข้าถึง คิดว่าแฟชั่นเซ็ทนี้คงทำให้คนทั่วไปหันมาสนใจศิลปะแขนงนี้มากขึ้นครับ ยังไงก็ฝากทุกคนช่วยกันติดตามได้ในนิตยสารเปรียว ฉบับเดือนกันยายนนี้นะครับ”

          “ตรีเคยถ่ายแบบมาบ้างคะก่อนหน้านี้ แต่อันนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ใส่ชุดตัวนางถ่ายแบบ อยากให้คนที่ได้เห็นแฟชั่นเซ็ทนี้สนใจในศิลปะไทยๆ อย่างโขนและสามารถสัมผัสถึงได้ จริงๆแล้วโขนไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวคนไทย ยิ่งในหนังเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าคนที่เล่นโขนและคลุกคลีอยู่กับโขนก็เป็นคนปกติทั่วไป มีรัก โลภ โกรธ หลง แล้วในหนังก็จะมีเรื่องแบบรักสามเส้าเข้ามาด้วย เป็นการดำเนินชีวิตของคนทั่วไปแต่มีแบ็คกราวด์เรื่องราวที่อยู่ในแวดวงคนโขนค่ะ ตรีก็หวังอยากให้คนมาดูเยอะๆ เพราะมันเป็นศิลปะวัฒนธรรมไทยของเราด้วยที่ตรีอยากให้อนุรักษ์ไว้ รวมถึงทีมนักแสดง เรื่องราวโดยรวมก็น่าสนใจมากๆ ค่ะ อยากให้มาชมกันค่ะ”

          ทั้งผู้กำกับและนักแสดงทุ่มกันสุดตัวขนาดนี้แล้วคนดูมีหรอจะพลาดได้ ยังไงก็อย่าลืมติดตามภาพแฟชั่นสุดอลังการได้ใน เปรียว ฉบับเดือนกันยายน และภาพยนตร์คนโขน 25 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

8394
MOVIE GUIDE: "30 กำลังแจ๋ว"

"30 กำลังแจ๋ว" 3 พฤศจิกายนนี้
 
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=L6CjHEBNteg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=L6CjHEBNteg</a>
 

8395
อูม่า เธอร์แมน ครองบท “หญิงกินหญ้าอ่อน” อีกครั้ง ในโรแมนติค-คอมเมดี้สีสันจัดจ้าน Ceremony

           เป็นอีกครั้งหนึ่งแล้ว ที่ดาราสาวรุ่นใหญ่มากฝีมืออย่าง อูม่า เธอร์แมน (Kill Bill) จะต้องมารับบท สาวใหญ่ที่มีความสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มรุ่นน้อง ใน Ceremony หลังจากที่เคยเล่นลักษณะเดียวกันนี้ ในหนังคุณภาพเยี่ยมเรื่อง Prime เมื่อหลายปีก่อน

          แต่อย่างไรก็ตาม อูม่า เธอร์แมน ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ว่า ใช่ว่าเธอจะต้องการให้ตัวเองติดอยู่กับบทแบบนี้ แต่เพราะเธออ่านบทหนังเรื่อง Ceremony แล้วเธอชอบมันจริงๆ จนอดไม่ได้ที่จะขวนขวายคว้าบทนำในหนังเรื่องนี้มาเป็นของตัวให้ได้

          ใน Ceremony อูม่า เธอร์แมน ต้องมารับบท โซอี้ สาววัยเหยียบสี่สิบ ที่เคยมีความสัมพันธ์กับหนุ่มน้อยรุ่นกระทง (รับบทโดย ไมเคิล อังการาโน่) แต่เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงที่เธอ กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับผู้กำกับหนุ่มใหญ่ที่มีวัยใกล้เคียงกัน (รับบทโดย ลี เพซ) และเธออาจจะต้องเลือกว่า เธอจะอยู่กับรักที่สดใส หรือรักที่เหมาะสม

          “มันเป็นบทที่ตลกมากบทหนึ่งที่ฉันเคยเล่นมา” อูม่า เธอร์แมนกล่าว “มันเหมือนคุณมาดูหนังตลกเบาสมอง แต่เนื้อหาที่คุณได้รับกลับไปนั้น มันชวนให้คุณได้ฉุกคิดเรื่อง ความรัก มากทีเดียว”

          ผู้กำกับ แม็กซ์ วิงคเลอร์ อายุเพียง 20 ปลายๆ เท่านั้น บอกเหตุผลที่เขาตัดสินใจเลือก อูม่า เธอร์แมนมารับบทนางเอกของเรื่องว่า “เธอดูเป็นดอกฟ้าที่ไกลเกินเอื้อม แต่เวลาที่คุณได้คลุกคลีกับเธอ เธอจะกลายเป็นผู้หญิงน่ารัก อบอุ่นและชวนหลงไหลเอามากๆ”

          เธอร์แมนยังเสริมอีกด้วยว่า “การถ่ายหนังเรื่องนี้ มันเหมือนมาการเที่ยวพักผ่อนในบ้านพักตากอากาศริมชายทะเล ฉากหลังๆ เป็นงานเลี้ยงก่อนพิธีแต่งงาน ซึ่งทั้งกองถ่ายมีแต่ความชื่นมื่น นักแสดงทุกคนเล่นได้อย่างกลมกลืนและเข้าขากันมาก มันชัดเจนจนฉันเชื่อว่าผู้ชมก็น่าจะสัมผัสความรื่นรมย์นั้นได้”

          Ceremony ตระเตรียมเสียงหัวเราะและความอบอุ่นให้กับแฟนๆ หนังรักแล้ว โดยจะเข้าฉายในเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป เฉพาะที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ รัชโยธิน, เอสเอฟ เวิลด์ ซินีม่า และโรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอ

8396
ทีมผู้สร้าง

          โอลิเวียร์ เมกาตัน (ผู้กำกับ)
          โอลิเวียร์ เมกาตัน เป็นศิลปินวาดภาพก่อนที่เขาจะผันตัวมาเป็นผู้กำกับ โดยเขาไม่มีพื้นฐานการทำหนังมาก่อน แต่อาศัยความรักและความหลงไหลในหนังแอ็คชั่นในการถ่ายนัง เขาทำหนังสั้นถึง 15 เรื่องก่อนที่จะกำกับหนังเรื่องแรกที่ชื่อ Exit ซึ่งเขาก็เจอแจ็คพ็อตเมื่อ ลุค เบซอง ได้ดูหนังและตัดสินใจที่จะซื้อสิทธิ์เพื่อฉายต่างประเทศ
          หลังจากนั้น โอลิเวียร์ ก็ได้ทำหนังอีกเรื่องชื่อ Red Siren ก่อนที่จะได้รับมอบหมายให้กำกับฉากแอ็คชั่นเรื่อง Hitman ซึ่งสร้างจากเกมชื่อดัง ก่อนที่ เบซอง จะเห็นว่าเขาพร้อมแล้ว และมอบหน้าที่ให้เขากำกับ Transporter 3 ซึ่งถือเป็นภาคล่าสุดของแฟรนไชส์หนังแอ็คชั่นชื่อดัง
          ภาพยนตร์เรื่อง Colombiana ถือเป็นหนังใหญ่เรื่องที่ 2 ของ โอลิเวียร์ โดยเขาพูดถึงการทำงานในเรื่องนี้ว่า "สไตล์ของหนังเรื่องนี้มีความใกล้เคียงกับผมมากที่สุด และผมก็ยังอยากพัฒนาตัวเองต่อไปอีก Colombiana เล่าเรื่องที่ซับซ้อนและกินใจของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมันหายากมากในโลกของหนังแอ็คชั่น"

ลุค เบซอง (ผู้อำนวยการสร้าง/เขียนบทร่วม)

          ลุค เบซอง เป็นผู้กำกับที่มีอิทธิพลต่อการทำหนังกับผู้กำกับรุ่นใหม่ โดยหนัง 2 เรื่องที่เขากำกับถือว่าขึ้นหิ้งหนังคลาสสิกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับสาวนักฆ่าที่ไร้เดียงสาต่อโลกอย่าง La Femme Nikita (นิกิต้า ผู้หญิงมากกว่าหนึ่ง) ซึ่งฮอลลิวู้ดนำมารีเมคในชื่อ Point of No Return นำแสดงโดย บริดเจ็ท ฟอนด้า และเป็นแรงบันดาลให้กับซีรี่ย์สุดฮิตอย่าง Alias และนักฆ่าอาชีพอย่าง Leon: The Professional (นักฆ่าลีออง) ที่นำแสดงโดย ฌอง รีโน, นาตาลี พอร์ตแมน และ แกรี่ โอลด์แมน
          ลุค เบซอง ยังเคยกำกับหนังฮอลลิวู้ดในผลงานแอ็คชั่น-ไซไฟสุดมันเรื่อง The Fifth Element (รหัส 5 คนอึดทะลุโลก) นำแสดงโดย บรูซ วิลลิส และ มิล่า โจโววิช ซึ่งนักแสดงคนนี้ก็เคยแต่งงานและร่วมงานกับ เบซอง มาแล้วใน The Messenger: The Story of Joan of Arc หนังที่สร้างจากเรื่องจริงของ โจน ออฟ อาร์ค
          นอกจากกำกับหนังแล้ว ลุค เบซอง ยังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหนังมากกว่า 100 เรื่อง ทั้งเขียนบทและอำนวยการสร้างในสตูดิโอของเขาที่ชื่อ EUROPA CORP โดยมีผลงานแอ็คชั่นมันสะใจมากมาย เช่น Taken, The Transporter ทั้งสามภาค, Taxi ทั้งสี่ภาค, B13 ทั้งสองภาค และ From Paris With Love (คู่ระห่ำ ฝรั่งแสบ) ซึ่งนำแสดงโดย จอห์น ทราโวลต้า และ โจนาธาน รีส เมเยอร์
เบซอง พึ่งมีผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดที่เข้าฉายปีที่แล้วเรื่อง Adele Blanc-Sec (พลังอะเดล ข้ามขอบฟ้า โค่น 5 อภิมหาภัย) หนังแอ็คชั่น-ผจญภัย-แฟนตาซีที่ทำรายได้ดีไปทั่วโลก และเขากำลังจะมีหนังดราม่าชื่อ The Lady นำแสดงโดย มิเชล โหยว ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงของ อองซาน ซูจี นักต่อสู้ทางการเมืองของพม่า

อเลน ฟิกลาส (ผู้ออกแบบฉากแอ็คชั่น)
          ผลงาน >>> The Bourne Identity, Babylon A.D., Largo Winch

มิเชล จูเลียน (ผู้กำกับฉากแอ็คชั่น)
          ผลงาน >>> Transporter 1-3, Taken, Rush Hour 3, From Paris with Love

โรเมน ลาโครบาส (ผู้กำกับภาพ)
          ผลงาน >>> Transporter 3, Special Correspondents, His Majesty Minor

8397
ตัวละครสำคัญใน Colombiana

โซอี้ ซัลดาน่า เป็น คาตาลีย่า
           โอลิเวียร์ เมกาตัน - ผมพยายามหานักแสดงหญิงที่สามารถแบกหนังไว้ได้ทั้งเรื่อง และในความคิดของผม โซอี้ ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เรายังไม่เห็นว่าเธอมีศักยภาพในหนังแอ็คชั่นแค่ไหน ถึงแม้เธอจะเป็นนักแสดงนำใน Avatar แต่เราก็ไม่ได้เห็นเธอในตัวตนจริง เรายังไม่รู้ว่าเธอทำงานหนักแค่ไหนเพื่อที่จะทำให้ตัวละครมีชีวิต ดังนั้น Colombiana จึงเป็นหนังที่เปิดโอกาสให้เราเห็นแบบเต็มตา เป็นหนังที่แสดงให้ทั้งโลกเห็นว่า โซอี้ เป็นนักแสดงที่เก่งและทำงานหนักแค่ไหน เธอทุ่มเททั้งกายและใจสำหรับฉากแอ็คชั่นและการสร้างอารมณ์ร่วม
          โซอี้ ซัลดาน่า - ชีวิตของ คาตาลีย่า ต้องล้มลุกคลุกตลานตลอดเวลา แต่เธอก็สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้ทุกครั้ง สำหรับเธอแล้วมันคือสัญชาตญาณของการเอาตัวรอด เพราะเธอไม่ต้องการที่จะล้มโดยไม่ได้สู้ และก็ยังเป็นเรื่องของจุดมุ่งหมาย เพราะเธอไม่สามารถปล่อยวางเรื่องในอดีตได้ เธอทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อที่จะล้างแค้น

ไมเคิล วาร์แทน (แดนนี่)
          ไมเคิล วาร์แทน - แดนนี่ เป็นศิลปินวาดภาพ เขาเป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป เมื่อ คาตาลีย่า เดินทางเข้ามาในชีวิต เขาก็ตกหลุมรักทันที แดนนี่ หลงเสน่ห์เพราะความลึกลับในตัวเธอ โดยผมทำงานร่วมกับ โอลิเวียร์ เพื่อค้นหาแรงขับเคลื่อนระหว่างตัวละครของผมกับ โซอี้ หารายละเอียดปลีกย่อยที่จะทำให้ แดนนี่ มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้คนดูรู้สึกผูกพันธ์และคิดว่า คาตาลีย่า ยังมีคนที่เธอสามารถระบายความทุกข์ได้

จอร์ดี้ มอลล่า เป็น มาร์โค
          จอร์ดี้ มอลล่า - มาร์โค ไม่ใช่ผู้ชายแบบที่คุณเห็นก็รู้ใจ แต่เพราะการที่ดูไม่เป็นพิษเป็นภัยนี่แหละที่ทำให้เขาอันตรายที่สุด เขายืนอยู่ตรงกลางระหว่าง ดอน หลุยส์ และ คาตาลีย่า ระหว่างหัวหน้าและเหยื่อของเขา เขาเกลียดในทำงานให้กับ ดอน หลุยส์ ในทางกลับกันเขาก็นับถือศัตรูอย่าง คาตาลีย่า เพราะเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเธอ เพราะเขาก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเธอในอดีต

คลิฟฟ์ เคอร์ติส เป็น เอมิลิโอ
          โอลิเวียร์ เมกาตัน - เอมิลิโอ เป็นเหมือนพ่อคนที่สองของ คาตาลิย่า เขาเลี้ยงดูเธอเพราะเธอมีความผูกพันธ์ทางสายเลือด นี่คือประเด็นที่ทำให้หนังมีหัวจิตหัวใจมากกว่าหนังแอ็คชั่นทั่วไป การถ่ายทำในร้านหนังสือระหว่าง โซอี้ และ คลิฟฟ์ เป็นฉากที่ผมชอบที่สุด และก็ยังเป็นฉากที่สะเทือนใจที่สุด โดยในฉากนั้น คาตาลีย่า และ เอมิลิโอ ทะเลาะกันอย่างรุนแรง โดยที่ไม่รู้ว่านั้นคือครั้งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้พบหน้ากัน

เลนนี่ เจมส์ เป็น เจ้าหน้าที่ เจมส์ รอส
          เลนนี่ เจมส์ - รอส เป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ไล่ล่าฆาตกรปริศนามากว่า 4 ปี เขาถูกครอบงำจากการสืบสวนคดี และก็เป็นคดีเดียวที่เขาทำอยู่ในตอนนี้ รอส เป็นตัวละครที่มีความชัดเจนที่สุดในเรื่อง เขาไม่ใช่เอฟบีไอทั่วไป เช่นเดียวกับ คาตาลีย่า ก็ไม่ใช่นักฆ่าทั่วไป เราจะได้เห็นเขามากกว่าผู้ชายที่ผดุงความยุติธรรม
 
ประวัตินักแสดง

          โซอี้ ซัลดาน่า (รับบทเป็น คาตาลีย่า)
          โซอี้ ซัลดาน่า คือนักแสดงสาวที่ได้รับการยอมรับที่สุดคนหนึ่งในฮอลลีวู้ด เธอสร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะนักแสดงหญิงที่มีฝีมือการแสดงอันหลากหลาย และเป็นที่ยอมรับในการเลือกแสดงในหนังบล็อคบัสเตอร์ โดยผลงานของ ซัลดาน่า ที่ทุกคนจดจำได้ก็คือหนังแอ็คชั่น/ไซไฟ Star Trek ในบท ผู้หมวดอูฮูร่า และ Avatar หนังที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน ที่เธอรับบทเป็น เนียทีรี่ ลูกสาวหัวหน้าเผ่านาวี
          ซัลดาน่า เริ่มมีชื่อเสียงจากหนังแอ็คชั่น/ผจญภัย Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl ในปี 2003 ร่วมกับ จอห์นนี่ เด็ปป์, ออแลนโด้ บลูม และ เคียร่า ไนท์ลี่ย์ โดยรับบทเป็นโจรสลัดสาวที่ถูก แจ็ค สแปร์โรว์ ขโมยเรือ และในปี 2004 เรื่อง Terminal ของผู้กำกับ สตีเว่น สปีลเบิร์ก โดยเธอรับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐแสดงคู่กับ ทอม แฮงค์ และ แคทธาลีน ซีต้า โจนส์
          ผลงานเรื่องอื่นๆของเธอก็ยังมี Center Stage หนังเต้นบัลเล่ต์เรื่องเยี่ยม, Vantage Point หนังทริลเลอร์นำแสดงโดย เดนนิส เคว็ด, Guess Who หนังโรแมนติก-คอมเมดี้ที่แสดงคู่กับ แอชตัน คุชเชอร์, Crossroads ที่แสดงคู่กับ บริทนี่ย์ สเปียร์ และ Drumline หนังวัยรุ่นที่เธอแสดงคู่กับ นิค แคนนอน
          โซอี ซัลดาน่า เป็นนักแสดงอเมริกันเชื่อสายโดมินิกันที่เกิดในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เธอเดินทางกลับไปใช้ชีวิตวัยเด็กที่ประเทศโดมินิกัน ก่อนจะลาออกจากโรงเรียนและย้ายกลับสหรัฐเพื่อความฝันในการเป็นนักแสดง โดยเริ่มต้นเส้นทางจากการเป็นนางแบบ ก่อนที่จะกลายเป็นนักแสดงแถวหน้าของฮอลลิวู้ดในปัจจุบัน

ไมเคิล วาร์แทน (รับบทเป็น แดนนี่)
          ไมเคิล วาร์แทน เป็นนักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายฝรั่งเศส เขามีผลงานการแสดงทั้งในภาพยนตร์และซีรี่ย์ โดยเป็นที่รู้จักจากบท ไมเคิล วอห์น ในซีรี่ย์แนวแอ็คชั่น/ดราม่าเรื่อง Alias ประกบกับ เจนนิเฟอร์ การ์เยอร์ รวมถึงบทบาทในซีรี่ย์คุณภาพเรื่องอื่น ไม่ว่าจะเป็น Ally McBeal และ Friends
          ผลงานทางโลกภาพยนตร์ เขาสร้างชื่อจากหนังดราม่าอย่าง The Myth of Fingerprints ในปี 1997 ก่อนที่จะกลายเป็นขวัญใจของสาวๆในบทคุณครูหนุ่มที่ ดรูว แบร์รี่มอร์ แอบรักในหนังฮิต Never Been Kissed ซึ่งก็ทำให้เขาได้รับบทในหนังโรแมนติก-คอมเมดี้มากมาย เช่น Next Best Thing และ It Had to Be You
          ผลงานเรื่องอื่นๆของ วาร์แทน ก็ยังมี Monster-in-Law หนังโรแมนติก-คอมเมดี้ที่เขาแสดงคู่กับ เจนนิเฟอร์ โลเปซ, One Hour Photo หนังคุณภาพที่นำแสดงโดย โรบิน วิลเลี่ยมส์ และ Rogue หนังแอ็คชั่น/สัตว์ประหลาดที่เขาแสดงคู่กับ ราดาห์ มิทเชลล์ และ แซม เวอร์ธิงตัน

คลิฟฟ์ เคอร์ติส (รับบทเป็น เอมิลิโอ)
          ผลงาน >>> Sunshine, Die Hard 4, Training Day

จอร์ดี้ มอลล่า (รับบทเป็น มาร์โค)
          ผลงาน >>> Knight and Day, Elizabeth: The Golden Age, Bad Boys II

เลนนี่ เจมส์ (รับบทเป็น เจ้าหน้าที่รอส)
          ผลงาน >>> The Next Three Days, Snatch, Sahara, 24 Hour Party People

แคลลัม บลู (รับบทเป็น ริชาร์ด)
          ผลงาน >>> ซีรี่ย์ Smallville, ซีรี่ย์ Dead Like Me, The Princess Diaries 2: Royal Engagement

8398
เมื่อแอ็คชั่นและดราม่าถูกผสานเป็นหนึ่ง

          คาตาลีย่า คือนักฆ่ามืออาชีพ เหยื่อ 23 รายล้วนเกิดจากน้ำมือของเธอ แต่การฆ่านั้นก็ต้องเกิดขึ้นอย่างสมเหตุสมผล ผู้กำกับ โอลิเวียร์ เมกาตัน เล่าว่า "สิ่งที่สำคัญคือ คาตาลีย่า จะต้องรู้สึกร่วมไปกับทุกการฆ่า แน่นอนที่การใส่ฉากผู้ชายถูกฉลามที่ตัวเองเลี้ยงเอาไว้กินเป็นเรื่องสนุก แต่ผมกับ โซอี้ ก็พยายามถ่ายทอดอารมณ์ของเธอ เพื่อทำให้คนดูมีความรู้สึกร่วมไปด้วย"
          การสร้างความสมดุลระหว่างการฆ่าและความรู้สึกผิดถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่เชื่อมโยงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อและแม่ของเธอ โอลิเวียร์ เล่าต่อว่า "ผมไม่ได้ตัดเข้าฉากย้อนอดีตไปช่วงเด็กของ คาตาลีย่า เพื่อให้คนดูทราบถึงประวัติของเธอ แต่ผมพยายามพัฒนาเรื่องราวของตัวละครนี้ให้สมบูรณ์ เพื่อที่เมื่อเราได้เห็น คาตาลีย่า ตอนโต เราก็จะเชื่อมถึงเธอได้ทันที" โดยทั้ง โซอี้ และ อาแมนด้า สเตนเบิร์ค ที่รับบทเป็น คาตาลีย่า วัยเด็ก ก็ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างตัวละครที่สมบูรณ์แบบ
          ในชีวิตของ คาตาลีย่า มีผู้ชายเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่เธอรู้สึกผูกพันธ์ นั้นคือลุงของเธอ เอมิลิโอ และแฟนหนุ่ม แดนนี่ โดย เอมิลิโอ เป็นครอบครัวคนเดียว และฉากของพวกเขาก็สร้างอารมณ์ร่วมได้มากที่สุด โอลิเวียร์ เผยว่า "ผมต้องการให้ เอมิลิโอ เป็นตัวละครที่น่าจดจำ เมื่อเขาเฝ้ามองดู คาตาลีย่า เติบโต ทำในสิ่งที่เธอต้องการ จนในที่สุด เอมิลิโอ ก็พบว่า คาตาลีย่า มีวางแผนที่จะคิดบัญชีแค้น ซึ่งสิ่งนี้เองก็ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเขาและเธอ"
          ความสัมพันธ์ของ คาตาลีย่า กับแฟนก็ถือเป็นที่สิ่งสำคัญ โดย ไมเคิล วาร์แทน ที่รับบทเป็น แดนนี่ เล่าถึงตัวละครของเขาว่า "ความรักทำให้ คาตาลีย่า เข้าไปสู่โลกที่เธอไม่คุ้นเคย แดนนี่ ไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับตัวตนของ คาตาลีย่า เพราะว่าเธอไม่เคยพูดถึงชีวิตของตัวเอง แต่เธอก็เริ่มรู้สึกผูกพันธ์กับ แดนนี่ มากกว่าที่ตั้งใจไว้ และมันก็เป็นเรื่องลำบากใจมากขึ้นในการใช้ชีวิตทั้งสองด้าน ที่ถูกแบ่งระหว่างการแก้แค้นและความรัก"


การต่อสู้สไตล์ เจสัน บอร์น

          Colombiana เป็นหนังแอ็คชั่นที่เต็มไปด้วยการไล่ล่า ทั้งทางเท้า ทางรถ การไล่ล่าด้วยอาวุธสงคราม และระเบิดจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากที่เกิดขึ้นในรังของ ดอน หลุยส์ โดยผู้กำกับ โอลิเวียร์ เล่าว่า "ฉากสุดท้ายจะเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายของทุกคน มันเริ่มต้นด้วย คาตาลีย่า ใช้เครื่องยิงจรวดถล่มใส่ฐานที่มั่นของศัตรู โดยทั้งเรื่องเราเห็นว่าเธอใช้อาวุธสงครามมากมายหลายชนิด ผมจึงคิดว่าเธอน่าจะต้องมีการต่อสู้มือเปล่าด้วย การต่อสู้ในสไตล์ เจสัน บอร์น ที่ทำให้ทุกคนต้องตื่นเต้นมาแล้ว"
          ผู้กำกับและ อเลน ฟิลาส ได้ทุ่มเทเพื่อสร้างฉากต่อสู้มือเปล่าระหว่าง คาตาลีย่า และ มาร์โค ภายในห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งก็กลายเป็นว่าทั้งคู่ใช้อุปกรณ์ทุกอย่างภายในห้องน้ำเป็นอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดตัว ฝาส้วม หรือแม้กระทั่งแปรงสีฟัน โอลิเวียร์ อธิบายว่า "ผมปล่อยให้ อเลน จินตนาการฉากต่อสู้ที่ไร้ขอบเขต เหมือนกับที่เขาทำใน The Borne Identity เมื่อ เจสัน บอร์น ใช้เพียงแค่ปากกาสังหารคู่ต่อสู้ ผมอยากได้ฉากต่อสู้ที่รุนแรงและสมจริง มากกว่าที่จะเป็นฉากต่อสู้ที่ได้รับการออกแบบตายตัว"
           โซอี้ ต้องฝึกซ้อมกับ อเลน เป็นระยะเวลา 2 เดือนก่อนเริ่มการถ่ายทำ และผลที่ได้รับก็คือฉากการต่อสู้กว่า 98% คือเธอที่แสดงด้วยตัวเอง ซึ่งก็แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของ โซอี้ โดย จอร์ดี้ มอลล่า ผู้รับบทเป็น มาร์โค พูดถึงนักแสดงสาวที่ต้องต่อสู้กับเขาในฉากสำคัญว่า "โซอี้ ฝึกซ้อมกับทีมสตันท์อย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งเธอก็ทำได้ดีเพราะเธอเคยมีประสบการณ์ในหนังแอ็คชั่นมาแล้ว ผมต้องคอยบอกเธอว่าให้ออมมือกับผมหน่อย แต่สุดท้ายแล้วเธอก็อัดผมจริงๆหลายครั้ง ผมหวังว่าตัวเองคงทำให้เธอเจ็บได้บ้างนะ (หัวเราะ)"
 
เบื้องหลังการถ่ายทำ

          หนังเปิดกล้องตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ปี 2010 โดยถ่ายทำกันใน 5 เมืองใหญ่อย่าง ปารีส ชิคาโก้ นิวออร์ลีนส์ ไมอามี่ และ เม็กซิโก ซิตี้ โดยผู้กำกับ โอลิเวียร์ ต้องทำงานร่วมกับทีมงานจาก 5 เมือง โดยมีทีมงานหลักที่ทำงานด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบเพียง 15 คน ผู้กำกับ โอลิเวียร์ เล่าถึงการทำงานว่า "ในฮอลลิวู้ดทีมงานถ่ายทำก็มักจะใหญ่เป็นปกติ ซึ่งมันก็ทำให้การทำงานง่ายขึ้น แต่จุดอ่อนก็คือพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วเหมือนเรา"
          โอลิเวียร์ เล่าต่อว่า "เมื่อใดที่เกิดปัญหา พวกเราก็จะต้องแปลงร่างเป็นแม็คกายเวอร์เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ผมพยายามดึงศักยภาพจากทีมงานทุกคนให้เต็มที่ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ท้าทายในการโน้มน้าวใจทีมงาน บางทีคุณอาจทำงานกับเขาเพียงแค่ไม่กี่วันหรืออาทิตย์ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี"
          การถ่ายทำของ โอลิเวียร์ ก็ถือเป็นเรื่องซับซ้อนอย่างคาดไม่ถึง บางครั้งเขาถ่ายทำฉากเดียวกันในหลายเมือง อย่างเช่นฉากในสถานีตำรวจ ที่ คาตาลีย่า เข้าไปสังหารตัวละครที่ชื่อ นิซโซ่ โดย คาตาลีย่า ถูกจับหน้าสถานีตำรวจในเม็กซิโก ซิตี้ จากนั้นก็ถูกจับเข้าห้องขังและโรงพักในปารีส และเมื่อ คาตาลีย่า ขึ้นบนดาดฟ้าก็เป็นเมืองนิวออร์ลีนส์ นั้นหมายถึงฉากเดียวเขาต้องใช้ถึงสามเมืองเพื่อถ่ายทำ
          โอลิเวียร์ กล่าวสรุปถึงสิ่งที่สำคัญในการทำงานว่า “ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่พวกเราวางแผน ไม่มีสิ่งไหนเราสามารถปล่อยผ่านไปได้ คุณต้องสามารถผสมผสานทุกสิ่งที่เราถ่ายทำ จากนั้นก็ประกอบมันขึ้นมาใหม่ทั้งหมด คุณต้องแสดงความต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการออกแบบงานสร้าง เครื่องแต่งกาย มันเป็นงานที่บ้าจริงๆ แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่สุด"

8399
จุดเริ่มต้น

          โอลิเวียร์ เมกาตัน ผู้กำกับ Transporter 3 เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างว่า "ตั้งแต่รู้จักกัน ลุค เบซอง พูดกับผมมาตลอดว่าต้องการทำภาคต่อของ Leon: The Professional ซึ่งมันก็ผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว ถึงแม้ว่ามันไม่สามารถกลายเป็นจริง แต่เขาก็ยังะมีไอเดียของหนังแอ็คชั่นที่มีนักฆ่าหญิงเป็นตัวดำเนินเรื่อง ในที่สุดมันก็ถูกพัฒนากลายเป็น Colombiana"
          ลุค เบซอง ติดต่อไปหา โอลิเวียร์ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 ด้วยบทภาพยนตร์ที่เขาร่วมเขียนกับ โรเบิร์ต มาร์ค คาเมน ผู้เขียนบท Taken และ The Fifth Element โดย Colombiana คือเรื่องของ คาตาลีย่า ผู้หญิงที่สั่งสมความแค้นมาตั้งแต่ได้เห็นพ่อแม่ถูกฆาตกรรมต่อหน้า โดย เอมิลิโอ ลุงของเธอก็เป็นคนฝึกให้เธอเป็นนักฆ่าสุดอันตราย คาตาลีย่า มีเพียงเป้าหมายเดียว นั้นคือตามหาและสังหารคนที่ทำลายครอบครัวของเธอ
          โอลิเวียร์ พูดถึงแนวทางในการสร้างว่า "สำหรับผมแล้ว ผมต้องการทำหนังแนว เจสัน บอร์น เวอร์ชั่นผู้หญิงมานานแล้ว ผมต้องการทำหนังที่มีความดุดัน จริงจัง เข้มข้น และแตกต่างจาก Transporter 3 ดังนั้น Colombiana จึงเป็นโปรเจ็คที่เหมาะสมที่สุด มันเป็นหนังที่อยู่ในโลกใบเดียวกับ Nikita และ Leon: The Professional"
          ตั้งแต่แรกที่ โอลิเวียร์ เริ่มหานักแสดงที่จะเข้ามารับบทเป็น คาตาลีย่า เขาก็นึกถึง โซอี้ ซัลดาน่า เป็นอันดับแรก ซึ่งเธอก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนที่สุด "โซอี้ ไม่เพียงแต่สวย แต่เธอยังฉลาด มีหัวใจ และเปราะบางแบบมนุษย์ เธอจะแสดงพลังเมื่อเจอกับอุปสรรค โซอี้ มีไอเดียมากมายตอนที่เข้ามาพูดคุยกับเรา เธอเป็นคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการจากเธอเช่นกัน"
          โซอี้ ซัลดาน่า เผยว่าเธอเข้าใจตัวละครทันทีที่ได้อ่านบท "คาตาลีย่า เป็นคนโดดเดี่ยว เธอไม่เคยใช้ชีวิตแบบคนปกติ เธอใช้ชีวิตเหมือนช่วงไว้ทุกข์มาตลอดชีวิต เธอทำตัวเองให้ห่างเหินจากสังคม เธอมีความตั้งใจและจุดมุ่งหมายที่แน่ชัด และเธอก็ตื่นตัวตลอดเวลา ความรุนแรงและความเจ็บปวดที่ คาตาลีย่า ประสบทำให้ฉันแทบไม่อยากนึกถึง ฉันต้องทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะแสดงเป็น คาตาลีย่า"
          โซอี้ เล่าต่อว่า "เธอเป็นตัวละครที่มีสองด้าน ในขณะที่เธอมีความสามารถ เฉียบขาดและอันตราย แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เปราะบาง โดดเดี่ยว และเหน็ดเหนื่อยกับแรงอาฆาต ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งเสริมสร้างพลังและกัดกินเธอ ฉันต้องพยายามที่จะแสดงผู้ชมเห็นถึงทั้งสองด้าน ทั้งเรื่องสภาพร่างกายและจิตใจ เธอต้องเป็นผู้หญิงที่ทั้งฆ่าและร้องไห้ได้ด้วย"
          โซอี้ ทำงานร่วมกับ โอลิเวียร์ เพื่อถ่ายทอดตัวตนของ คาตาลีย่า และยังต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่กับการรับบทเป็นนักฆ่า โดยทำงานร่วมกับผู้กำกับฉากแอ็คชั่น อเลน ฟิลาส เธอใช้เวลาศึกษาสารคดีที่เกี่ยวกับการล่าสัตว์ เพราะ คาตาลีย่า มีลักษณะคล้ายสัตว์ป่าที่ไล่ตามเหยื่อก่อนที่จะลงมือ โซอี้ ยังต้องฝึกใช้ปืนจริง และยังต้องสามารถถอดและประกอบปืนได้


          โซอี้ พูดถึงสไตล์การต่อสู้ของ คาตาลีย่า ว่า "เธอไม่ได้ฝึกแบบทหารหรือตำรวจ เธอถูกฝึกโดย เอมิลิโอ ลุงของเธอ ที่เป็นพวกแก๊งค์สเตอร์ เธอพัฒนาความสัมพันธ์กับปืนของตัวเอง ฝึกฝนใช้มันตามแนวทางของตัวเอง เธอไม่ได้มองมันเป็นอาวุธสังหารแต่เป็นเพื่อนสนิทที่สุด และเพื่อนคนนั้นก็จะมีประโยชน์ที่สุด เมื่อเธอเผชิญหน้ากับสถานการณ์คับขัน"

ศัตรูจากโลกอาชญากรรมและโลกกฏหมาย

          ลุค เบซอง และ โรเบิร์ต มาร์ค คาเมน พยายามคิดถึงสถานการณ์ที่จะทำให้ คาตาลีย่า ต้องตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่พยายามไล่ล่าเพื่อกำจัดเธอ และกลุ่มคนที่พยายามหาตัวเพื่อให้เธอชดใช้ในอาชญากรรมที่ก่อไว้
          ดอน หลุยส์ และ มาร์โค คือเจ้าพ่อค้ายาและลูกน้องคนสนิท พวกเขาเป็นตัวการที่สังหารพ่อแม่ของ คาตาลีย่า โดยผู้กำกับ โอลิเวียร์ เล่าว่า "ดอน หลุยส์ เป็นเจ้าพ่อหลงยุค เขาสูบซิการ์ ดื่มคอนยัค และชอบดูละครโอเปร่า ผมอยากให้เขาเป็นเหมือนกับผู้ร้ายในหนังยุค 70 ดอน หลุยส์ เป็นผู้ร้าย แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่อันตรายที่สุด แต่เป็นลูกน้อง มาร์โค ที่มีความโหดเหี้ยม เขาทำเรื่องสกปรกให้กับ ดอน หลุยส์ และเป็นโรคจิตขนานแท้ ถึงแม้ว่าภายนอกเขาจะดูไม่เหมือนก็ตาม"
          โอลิเวียร์ เล่าต่อว่า "ตั้งแต่ฉากแรก จอร์ดี้ มอลล่า ที่รับบทเป็น มาร์โค แสดงออกอย่างนุ่มนวลและสงบนิ่ง เขาเผชิญหน้ากับเด็กหญิง คาตาลีย่า หลังจากที่เขาฆ่าพ่อแม่ของเธอมาหมาดๆ แต่แล้วเขาก็เผยให้เห็นถึงสัญชาตญาณที่แท้จริง เมื่อเธอหลบหนีไปได้ จากนั้นคุณก็จะไม่อยากให้เขาถือปืนอีกครั้ง เพราะเขาคือตัวอันตรายที่สุด"
          ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เจมส์ รอส ก็ตามล่าตัว คาตาลีย่า มานานกว่า 4 ปี แต่เขาเป็นผู้ร้ายหรือไม่นั้น โอลิเวียร์ อธิบายว่า "รอส และ คาตาลีย่า มีความคล้ายคลึงกัน ทั้งคู่มีชีวิตที่ไม่ปกติ พวกเขาโดดเดี่ยว พวกเขาคือนักล่า เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากัน การตอบสนองของ รอส ก็ทำให้เขาเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจเหมือนกัน"
          นี่คือสิ่งที่น่าสนใจ เมื่อ รอส รู้ว่าฆาตกรปริศนาที่เขากำลังตามล่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ผู้ชายแต่กลับเป็นผู้หญิง เลนนี่ เจมส์ นักแสดงที่รับบทเป็น รอส เล่าว่า "รอส เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานไม่เคยพลาด เขามีชื่อเสียงในเรื่องการเก็บรายละเอียด แต่การค้นพบว่าตัวเองคิดผิดมาตั้งแต่ต้น ทำให้สิ่งที่เขายึดมั่นต้องสั่นคลอนเหมือนกัน"

8400
MOVIE: "Colombiana" ระห่ำเกินตาย







          ประเภท Action
          กำหนดฉาย 1 กันยายน 2011
          คำโปรย Revenge is Beautiful
          บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
          อำนวยการสร้าง/เขียนบท ลุค เบซอง (Leon, Taken, La Femme Nikita, Transporter I-III)
          กำกับ โอลิเวียร์ เมกาตัน (Transporter 3, Exit)
          นำแสดง โซอี้ ซัลดาน่า (Avatar, Star Trek, The Losers)
          ไมเคิล วาร์แทน (ซีรี่ย์ Alias, Monster-in-Law, Never Been Kissed)
          คลิฟฟ์ เคอร์ติส (Sunshine, Die Hard 4, Training Day)
          แคลลัม บลู (ซีรี่ย์ Smallville, ซีรี่ย์ Dead Like Me)

เนื้อเรื่อง

          การันตีความมันส์สะใจโดย ลุค เบซอง ผู้ให้กำเนิด “นิกิต้า” และ “นักฆ่าลีออง” และผู้เขียนบท Taken และเป็นผู้สร้าง “มิล่า โจโววิช” ให้ดังระเบิดจาก The Fifth Element ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับนักฆ่าสาวคนใหม่จากอเมริกาใต้ รับบทโดย โซอี้ ซัลดาน่า จาก Avatar โดยร่วมมือกับผู้รับผิดชอบฉากสตันท์จาก The Bourne Ultimatum, 300 และ Iron Man 2 ที่จะมาปลดปล่อยฉากแอ็คชั่นโครตระห่ำแห่งปี

          ขอต้อนรับสู่โบโกตา เมืองหลวงของประเทศโคลัมเบีย และจุดศูนย์กลางของธุรกิจยาเสพติด เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเด็กผู้หญิงวัย 10 ขวบ ต้องเห็นสมาชิกในครอบครัวถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม จากใบสั่งของ ดอน หลุยส์ เจ้าพ่อค้ายาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ด้วยความช่วยเหลือของลุง เอมิลิโอ (คลิฟฟ์ เคอร์ติส) เธอสามารถหลบหนีมาถึงชิคาโก้

          เวลาผ่านไปจนเด็กเติบโตขึ้นเป็นสาวแกร่ง คาตาลีย่า (โซอี้ ซัลดาน่า) ถึงแม้ว่า เอมิลิโอ จะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เธอวนเวียนอยู่ในโลกใต้ดิน แต่ คาตาลีย่า ก็ฝึกฝนตัวเองและหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักฆ่าภายใต้การดูแลของลุง ในขณะเดียวกันจุดมุ่งหมายเดียวของเธอก็คือ ตามล่าหาตัว ดอน หลุยส์ เพื่อที่จะได้ล้างแค้นให้กับครอบครัว

Pages: 1 ... 558 559 [560] 561 562 ... 573