This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
1
news & activity / เอ็กโก กรุ๊ป เติบโตต่อเนื่องกำไรปี 56 กว่า 7 พันล้านบาท เดินหน้าขยายการลงทุนปี57
« on: March 07, 2014, 02:12:12 PM »
เอ็กโก กรุ๊ป เติบโตต่อเนื่องกำไรปี 56 กว่า 7 พันล้านบาท เดินหน้าขยายการลงทุนปี 57สู่เอเชียแปซิฟิก
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ปเปิดเผยผลการดำเนินงานตลอดปี 2556เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้พร้อมเผยกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจปี 2557 เน้นขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมุ่งแสวงหาโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องแล้ว เพื่อรับรู้รายได้ทันที รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนในโครงการ Greenfield เพื่อเสริมสร้างรายได้ในระยะยาวมุ่งเป้ารักษาระดับรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อย่างน้อยร้อยละ 10
นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ปประกาศผลการดำเนินงานประจำปี2556 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ว่าดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยบริษัทฯ มีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (Deferred Tax)และค่าตัดจำหน่ายส่วนที่ตีราคาสินทรัพย์เพิ่มของเคซอน (Amortisation of fair value uplift of Quezon)จำนวน 7,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 จำนวน 1,545 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.50 และมีสินทรัพย์รวมจำนวน 130,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,548 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.61
สำหรับการดำเนินงานทางธุรกิจในปี2556เอ็กโก กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศหลายแห่งและยังขยายการลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการรุกเข้าสู่ประเทศออสเตรเลียได้เป็นผลสำเร็จ โดยผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์“บึงสามพัน” จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 4ที่ดำเนินการโดยบริษัทจี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด (จีพีเอส) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์“ลพบุรี โซลาร์ ส่วนขยาย”จังหวัดลพบุรีที่ดำเนินการโดยบริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ จำกัด (เอ็นอีดี)โรงไฟฟ้าพลังงานลม “เทพพนา” จังหวัดชัยภูมิ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้โครงการ “โซลาร์โก” ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้า “ไทรใหญ่ 1” “ไทรใหญ่ 2” “ไทรเพชร1” “ไทรเพชร2” “ไทรเพชร3” จังหวัดนครปฐม และ “ไทรเขียว” จังหวัดสุพรรณบุรีรวมปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้นของทุกโครงการประมาณ41เมกะวัตต์
นอกจากนั้น ยังมีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายในประเทศ จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าขนอมหน่วยที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขาย 930 เมกะวัตต์ ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม”จังหวัดชัยภูมิ ปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 81เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างสำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในต่างประเทศ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม”รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขาย113 เมกะวัตต์ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว
ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน20 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4,518เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 8 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ1,613 เมกะวัตต์
เปิดแผนธุรกิจปี 57เล็งลงทุนในโครงการที่รับรู้รายได้ทันที และGreenfield
นายสหัส เปิดเผยว่า“ในปี 2557 เอ็กโก กรุ๊ปยังคงมุ่งรักษาระดับรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อย่างน้อยร้อยละ10โดยเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าเป็นหลัก ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะเป็นธุรกิจที่เราเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มายาวนาน”
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจบริษัทได้วางแผนการดำเนินธุรกิจไว้2ระยะ คือ แผนการลงทุนระยะสั้นมุ่งแสวงหาโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องแล้วเพื่อช่วยให้บริษัทรับรู้รายได้ทันทีหรือในระยะเวลาอันสั้น และแผนการลงทุนระยะยาวมุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในโครงการ Greenfield เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาวหากเป็นการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทจะใช้ประโยชน์จากโครงการที่มีอยู่แล้วเป็นฐาน เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในอนาคต
ในขณะเดียวกัน บริษัทยังให้ความสำคัญในด้านการบริหารสินทรัพย์ซึ่งเป็นโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว โดยมีแผนการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เดินเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทที่เข้าไปร่วมลงทุนเพื่อให้มั่นใจว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากโครงการเหล่านี้เป็นไปตามที่ได้ประมาณการไว้
“นอกจากการสร้างความเติบโตทางธุรกิจแล้ว เอ็กโก กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อยที่สุดในการผลิตไฟฟ้า ตลอดจนลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล รวมทั้งใส่ใจต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมทั้งนี้ ในปี 2556 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่มุ่งเป็นบริษัทไทยชั้นนำ ที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” นายสหัสกล่าวสรุป
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ปเปิดเผยผลการดำเนินงานตลอดปี 2556เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้พร้อมเผยกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจปี 2557 เน้นขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมุ่งแสวงหาโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องแล้ว เพื่อรับรู้รายได้ทันที รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนในโครงการ Greenfield เพื่อเสริมสร้างรายได้ในระยะยาวมุ่งเป้ารักษาระดับรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อย่างน้อยร้อยละ 10
นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ปประกาศผลการดำเนินงานประจำปี2556 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ว่าดีกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยบริษัทฯ มีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (Deferred Tax)และค่าตัดจำหน่ายส่วนที่ตีราคาสินทรัพย์เพิ่มของเคซอน (Amortisation of fair value uplift of Quezon)จำนวน 7,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 จำนวน 1,545 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.50 และมีสินทรัพย์รวมจำนวน 130,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20,548 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.61
สำหรับการดำเนินงานทางธุรกิจในปี2556เอ็กโก กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศหลายแห่งและยังขยายการลงทุนสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการรุกเข้าสู่ประเทศออสเตรเลียได้เป็นผลสำเร็จ โดยผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์“บึงสามพัน” จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าแห่งที่ 4ที่ดำเนินการโดยบริษัทจี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด (จีพีเอส) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์“ลพบุรี โซลาร์ ส่วนขยาย”จังหวัดลพบุรีที่ดำเนินการโดยบริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ จำกัด (เอ็นอีดี)โรงไฟฟ้าพลังงานลม “เทพพนา” จังหวัดชัยภูมิ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้โครงการ “โซลาร์โก” ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้า “ไทรใหญ่ 1” “ไทรใหญ่ 2” “ไทรเพชร1” “ไทรเพชร2” “ไทรเพชร3” จังหวัดนครปฐม และ “ไทรเขียว” จังหวัดสุพรรณบุรีรวมปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้นของทุกโครงการประมาณ41เมกะวัตต์
นอกจากนั้น ยังมีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายในประเทศ จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าขนอมหน่วยที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขาย 930 เมกะวัตต์ ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วและโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม”จังหวัดชัยภูมิ ปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 81เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างสำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในต่างประเทศ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม”รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย มีปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขาย113 เมกะวัตต์ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว
ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน20 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4,518เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 8 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ1,613 เมกะวัตต์
เปิดแผนธุรกิจปี 57เล็งลงทุนในโครงการที่รับรู้รายได้ทันที และGreenfield
นายสหัส เปิดเผยว่า“ในปี 2557 เอ็กโก กรุ๊ปยังคงมุ่งรักษาระดับรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อย่างน้อยร้อยละ10โดยเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าเป็นหลัก ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพราะเป็นธุรกิจที่เราเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มายาวนาน”
สำหรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจบริษัทได้วางแผนการดำเนินธุรกิจไว้2ระยะ คือ แผนการลงทุนระยะสั้นมุ่งแสวงหาโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องแล้วเพื่อช่วยให้บริษัทรับรู้รายได้ทันทีหรือในระยะเวลาอันสั้น และแผนการลงทุนระยะยาวมุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในโครงการ Greenfield เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาวหากเป็นการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทจะใช้ประโยชน์จากโครงการที่มีอยู่แล้วเป็นฐาน เพื่อขยายโอกาสการลงทุนในอนาคต
ในขณะเดียวกัน บริษัทยังให้ความสำคัญในด้านการบริหารสินทรัพย์ซึ่งเป็นโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว โดยมีแผนการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เดินเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทที่เข้าไปร่วมลงทุนเพื่อให้มั่นใจว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากโครงการเหล่านี้เป็นไปตามที่ได้ประมาณการไว้
“นอกจากการสร้างความเติบโตทางธุรกิจแล้ว เอ็กโก กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อยที่สุดในการผลิตไฟฟ้า ตลอดจนลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล รวมทั้งใส่ใจต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมทั้งนี้ ในปี 2556 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่มุ่งเป็นบริษัทไทยชั้นนำ ที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” นายสหัสกล่าวสรุป
2
news & activity / “ปลื้ม-ทับทิม VRZO” ฉลองแต่งงานครบ 1 ปี เผยเคล็ดลับปฏิวัติความรักยุคใหม่
« on: March 07, 2014, 01:52:02 PM »
“ดูเร็กซ์” ปฏิวัตินิยามความรักรูปแบบใหม่ เปลี่ยนรักยุคใหม่ให้กลายเป็นรักแท้ตลอดไปใน “Durex Lovolution Party Chapter 1 : We are so in love”“ปลื้ม – ทับทิม VRZO” ระดมความมันส์ในบรรยากาศอาฟเตอร์ปาร์ตี้วันแต่งงานสุดเหวี่ยง
“ดูเร็กซ์” (DUREX) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยและความสุขทางเพศระดับโลก จับมือ ปลื้ม สุรบถ – ทับทิม มัลลิกา หลีกภัย แห่ง VRZO คู่รักขวัญใจคนรุ่นใหม่ในโอกาสฉลองครบรอบแต่งงาน 1 ปี เปิดประสบการณ์ปฏิวัตินิยามความรักรูปแบบใหม่ “Durex Presents Lovolution Party Chapter 1 : We are so in love” เปลี่ยนความรักยุคใหม่ให้กลายเป็นรักแท้ตลอดไป ในบรรยากาศอาฟเตอร์ปาร์ตี้วันแต่งงานที่มันส์สุดเหวี่ยง โดยมี (จากซ้ายไปขวา) กาย รัชชานนท์, ดีเจ เพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย, มร.เควิน ฮาร์ชอว์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดอาวุโส, ธิปพงศ์ จิตสุขสำราญ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์อาวุโส, ทับทิม มัลลิกา, ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย และ ดีเจ ภูมิ ตั้งสง่า ร่วมงาน ณ โอนิคซ์ สลิม อาร์ซีเอ
ร่วมพิสูจน์ความรักยุคใหม่ที่ไม่ฉาบฉวยอีกต่อไปในปาร์ตี้ “Durex Lovolution Party Chapter 1 : We are so in love” และติดตามความเคลื่อนไหวของดูเร็กซ์ได้ที่ Facebook.com/DurexThailand
“ดูเร็กซ์” (DUREX) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยและความสุขทางเพศระดับโลก จับมือ ปลื้ม สุรบถ – ทับทิม มัลลิกา หลีกภัย แห่ง VRZO คู่รักขวัญใจคนรุ่นใหม่ในโอกาสฉลองครบรอบแต่งงาน 1 ปี เปิดประสบการณ์ปฏิวัตินิยามความรักรูปแบบใหม่ “Durex Presents Lovolution Party Chapter 1 : We are so in love” เปลี่ยนความรักยุคใหม่ให้กลายเป็นรักแท้ตลอดไป ในบรรยากาศอาฟเตอร์ปาร์ตี้วันแต่งงานที่มันส์สุดเหวี่ยง โดยมี (จากซ้ายไปขวา) กาย รัชชานนท์, ดีเจ เพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย, มร.เควิน ฮาร์ชอว์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดอาวุโส, ธิปพงศ์ จิตสุขสำราญ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์อาวุโส, ทับทิม มัลลิกา, ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย และ ดีเจ ภูมิ ตั้งสง่า ร่วมงาน ณ โอนิคซ์ สลิม อาร์ซีเอ
ร่วมพิสูจน์ความรักยุคใหม่ที่ไม่ฉาบฉวยอีกต่อไปในปาร์ตี้ “Durex Lovolution Party Chapter 1 : We are so in love” และติดตามความเคลื่อนไหวของดูเร็กซ์ได้ที่ Facebook.com/DurexThailand
3
news & activity / “แบล็คแคนยอน” เปิดสาขาใหม่ “สนามมวยลุมพินี รามอินทรา”
« on: March 07, 2014, 01:51:33 PM »
“แบล็คแคนยอน” เปิดสาขาใหม่ “สนามมวยลุมพินี รามอินทรา”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก (ที่ 2 จากซ้าย) ให้เกียรติเยี่ยมชม ร้าน “แบล็คแคนยอน” สาขาใหม่ ณ สนามมวยลุมพินี รามอินทรา เพื่อให้บริการกาแฟและอาหารอร่อยระดับแชมป์ โดยมี นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ เมื่อเร็วๆ นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก (ที่ 2 จากซ้าย) ให้เกียรติเยี่ยมชม ร้าน “แบล็คแคนยอน” สาขาใหม่ ณ สนามมวยลุมพินี รามอินทรา เพื่อให้บริการกาแฟและอาหารอร่อยระดับแชมป์ โดยมี นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ เมื่อเร็วๆ นี้
4
news & activity / กอสสิบ แกลเลอรี่ @สีลมแกลเลอเรีย ขอเชิญชมนิทรรศการเครื่องเคลือบดินเผาร่วมสมัย
« on: June 20, 2010, 10:17:11 AM »
กอสสิบ แกลเลอรี่ @สีลมแกลเลอเรีย ขอเชิญชมนิทรรศการเครื่องเคลือบดินเผาร่วมสมัย ‘Positive+ Grace ’ โดย ศิลปินชาวญี่ปุ่นที่หลงใหลในความงดงามของเมืองไทย คาซูมิ คาทากิริ
หากไม่ใช่ความงดงามของนานาบุปชาติของไทย
ผลงานประติมากรรมชุดนี้ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
คาซูมิ คาทากิริ
การมองทุกสิ่งในแง่ดีนั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ คาซูมิ สร้างสรรค์งผลงานชุดนี้ขึ้นมา
และเมื่อนำมาผสมผสานกับความสวยงาม ผลลัพธ์คือผลงานศิลปะที่งดงามไม่รู้ลืม
สิริภา โชติช่วง
ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นจะมีอิทธิพลต่อตัวศิลปินตั้งแต่สมัยเยาว์วัย แต่ด้วยความสวยงามของธรรมชาติและดอกไม้นานาพันธุ์ในเมืองไทย ถือว่าเป็นจุดสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเครื่องเคลือบดินเผา ‘Positive+ Grace’ ของ คาซูมิ คาทากิริ เป็นอย่างมาก แม้ว่าเธอได้ถูกเลี้ยงดูมาในสังคมและวัฒนธรรมแบบชาวญี่ปุ่นก็ตาม ปัจจุบันนี้ เธอและสามีได้ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพมหานครมากว่า 10 ปีแล้ว ที่ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของเธอ และเธอได้กล่าวถึงผลงานชุดนี้ว่า “หากคอลเลคชั่นชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากประเทศญี่ปุ่น ดิฉันเชื่อว่ามันจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างแน่นอน” ในประเทศญี่ปุ่นการเจริญเติบโตของพรรณไม้นั้นจะแตกต่างกันตามฤดูกาล อาทิ เทศกาล Cheery Blossoms หรือเทศกาลดอกซากุระบานที่มีชื่อเสียง จะสามารถชมความงดงามได้เพียงแค่ 2 อาทิตย์ในเดือนเมษายนของทุก ๆ ปีเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกับพรรณไม้ในเมืองไทยที่มีการออกดอกให้เห็นได้ตลอดปี พร้อมยังคงความสวยงามและแข็งแรงต่อภูมิอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงผันผวนตลอดเวลา
คาซูมิ ได้ใช้เวลากว่า 4 ปี สร้างสรรค์ผลงานชุด ‘Positive+ Grace’ ซึ่งก่อนหน้านั้น เธอได้เพียรพยามสร้างงานที่สื่อถึงเอกลักษณ์เฉพาะของเธอขึ้นมา แต่ก็ได้เผชิญกับอุปสรรคนานัปการ จนบางครั้ง คาซูมิ รู้สึกท้อ แต่ความรู้สึกนั้นไม่ได้ทำให้เธอหยุดแสวงหาความฝัน จนเมื่อเธอได้สังเกตเห็นกระถางต้นไม้ในสวนที่ส่งผลให้เธอกลับมาสู้อีกครั้ง และผลักดันให้เกิดงานเซรามิคที่งดงามชุดนี้ขึ้นมา
“ตั้งแต่ที่ดิฉันและสามีได้ย้ายมาอยู่ในประเทศไทย เมื่อประมาณช่วงปลายปี 90 เราโชคดีที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางความสวยงามของดอกไม้นานาชนิด พร้อมกับการได้สังเกตถึงการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของพรรณไม้ไทยมาโดยตลอด ไม่ว่ามันจะโดนเหยียบย่ำหรือตัดทิ้งโดยบังเอิญก็ตาม พรรณไม้ไทยเหล่านี้ ยังสามารกลับมาเจริญติบโตแข็งแกร่งและผลิดอกที่งดงามกว่าเดิมได้”
ด้วยความงดงามของพรรณไม้ไทย ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้ คาซูมิ ได้คิดสร้างสรรค์คอลเลคชั่นชุดนี้ขึ้นมา สามารถพูดได้ว่าผลงานชุดนี้ได้ฉายถึงความเป็นตัวของตัวเอง และแสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอมากขึ้น“บ่อยครั้งที่ดิฉันได้เปรียบเทียบชีวิตตัวเองดั่งต้นไม้ ดิฉันมีความสนใจและชื่นชอบงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ถนนสู่ความสำเร็จนั้นก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ดิฉันได้ลองศึกษางานศิลปะมาหลายแขนง อาทิ งานออกแบบ งานจิตรกรรมและงานวาดภาพประกอบ แต่งานเหล่านี้ก็ไม่ได้รับความพึงพอใจเท่ากับงานปั้นเซรามิค ถึงอย่างไรก็ตาม ดิฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าจะยึดการทำเซรามิคเป็นอาชีพ เนื่องจากได้เริ่มศึกษาเมื่ออายุมากแล้ว แต่หลังจากที่ได้เรียนรู้ถึงศิลปะงานปั้น รวมถึงการมีแนวคิดการสร้างสรรค์งานในแบบที่สวยงามด้วยสองมือของตัวเอง ทำให้ดิฉันรู้ว่าได้เดินทางมาถูกทางแล้ว”
คาซูมิ ไม่ต้องการปั้นแค่ถ้วยชามเหมือนคนทั่วไป แต่เธอปรารถนาที่จะใช้เวลาที่มีค่าของเธอสร้างงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและสวยงามอย่างแท้จริง เธอได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงตลอดหลายปี ค้นคว้าพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อให้ได้ผลงานที่แปลก โดดเด่น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเอกลักษณ์ จากประสบการณ์การทำงานถึง 20 ปี ที่เธอลองผิดลองถูกและเรียนรู้จากความล้มเหลวและความสำเร็จ ทำให้วันนี้เธอได้มีผลงานที่งดงามและเป็นแบบฉบับเฉพาะตัว
สำหรับคอลเลคชั่นชุด ‘Positive+ Grace’ นี้ คาซูมิ คาทากิริ ได้นำเอาความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์จากศิลปะการปั้นเครื่องเคลือบดินเผามาพัฒนา เพื่อให้ได้เทคนิคการเคลือบและสีสันที่งดงามแปลกใหม่ และได้เฉกสีที่โดดเด่น คาซูมิ ไม่นิยมใช้สีสังเคราะห์หรือวัสถุดิบที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่เธอได้คิดค้นสูตรผสมสีของตัวเธอเองขึ้นมา โดยนำเอาวัสถุดิบที่เป็นแร่ธรรมชาติ (อาทิ แร่เหล็ก และแร่คริสตัลควอตซ์) มาผสมผสานให้เข้ากัน เมื่อได้สีสันที่ต้องการแล้ว คาซูมิ จะนำสีเหล่านั้นมาวาดบนชิ้นเซรามิคอย่างละเอียดอ่อนและพิถีพิถันอย่างมาก เปรียบเสมือนว่าชิ้นเซรามิคนั้นคือผืนผ้าใบ ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์อย่างสูง “หลังจากที่ได้ทำงานศิลปะเซรามิคมากว่า 20 ปี ดิฉันฝันที่จะสร้างผลงานที่ดิฉันต้องการมาโดยตลอด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่าน ที่ได้มีโอกาสชมนิทรรศการนี้ จะเห็นถึงพลังบวก ความงาม และความแข็งแกร่งที่ได้สะท้อนออกมาจากผลงานในแต่ละชิ้น” คาซูมิ กล่าวตบท้าย
การจัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะชุด ‘Positive+ Grace’ ในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงผลงานครั้งที่ 6 ในประเทศไทย ของ คาซูมิ คาทากิ และการแสดงครั้งแรกในรอบสี่ปีที่ผ่านมา โดยศิลปินได้นำผลงานชิ้นเด่น ๆ มาจัดแสดงให้ชมถึง 25 ชิ้นด้วยกัน โดยจะเปิดให้ชมฟรี ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ กอสสิบ แกลเลอรี่ @สีลม แกลเลอเรีย (สถานีรถไฟฟ้า สุรศักดิ์) ผลงานชุด ‘Positive+ Grace’ นี้ เป็นงานประติมากรรมที่มีความงดงามอีกแขนงหนึ่งของไทย
‘Positive+ Grace’ สามารถเรียกได้ว่าเป็นประติมากรรมเครื่องเคลือบดินเผาร่วมสมัยที่งดงามมากที่สุดเท่าที่เคยจัดแสดงในประเทศไทย โดยสามารถเลือกซื้อหรือเก็บสะสมได้ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสิริภา (ป๊อป) โชติช่วง โทร. (02) 237 5568 และ (089) 450 4549 หรือ คุณชลธิชา (ปู) ชูชาติ โทร. (081) 440 3896 ท่านสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ www.gossipgallerybkk72.com อีเมล์ gossipgallery@gmail.com กอสสิบ แกลเลอรี่ @สีลม แกลเลอเรีย เปิดบริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 10.00-19.00 น.วันอาทิตย์กรุณาโทรนัดล่วงหน้า
หากไม่ใช่ความงดงามของนานาบุปชาติของไทย
ผลงานประติมากรรมชุดนี้ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
คาซูมิ คาทากิริ
การมองทุกสิ่งในแง่ดีนั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ คาซูมิ สร้างสรรค์งผลงานชุดนี้ขึ้นมา
และเมื่อนำมาผสมผสานกับความสวยงาม ผลลัพธ์คือผลงานศิลปะที่งดงามไม่รู้ลืม
สิริภา โชติช่วง
ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นจะมีอิทธิพลต่อตัวศิลปินตั้งแต่สมัยเยาว์วัย แต่ด้วยความสวยงามของธรรมชาติและดอกไม้นานาพันธุ์ในเมืองไทย ถือว่าเป็นจุดสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเครื่องเคลือบดินเผา ‘Positive+ Grace’ ของ คาซูมิ คาทากิริ เป็นอย่างมาก แม้ว่าเธอได้ถูกเลี้ยงดูมาในสังคมและวัฒนธรรมแบบชาวญี่ปุ่นก็ตาม ปัจจุบันนี้ เธอและสามีได้ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพมหานครมากว่า 10 ปีแล้ว ที่ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของเธอ และเธอได้กล่าวถึงผลงานชุดนี้ว่า “หากคอลเลคชั่นชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากประเทศญี่ปุ่น ดิฉันเชื่อว่ามันจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างแน่นอน” ในประเทศญี่ปุ่นการเจริญเติบโตของพรรณไม้นั้นจะแตกต่างกันตามฤดูกาล อาทิ เทศกาล Cheery Blossoms หรือเทศกาลดอกซากุระบานที่มีชื่อเสียง จะสามารถชมความงดงามได้เพียงแค่ 2 อาทิตย์ในเดือนเมษายนของทุก ๆ ปีเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกับพรรณไม้ในเมืองไทยที่มีการออกดอกให้เห็นได้ตลอดปี พร้อมยังคงความสวยงามและแข็งแรงต่อภูมิอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงผันผวนตลอดเวลา
คาซูมิ ได้ใช้เวลากว่า 4 ปี สร้างสรรค์ผลงานชุด ‘Positive+ Grace’ ซึ่งก่อนหน้านั้น เธอได้เพียรพยามสร้างงานที่สื่อถึงเอกลักษณ์เฉพาะของเธอขึ้นมา แต่ก็ได้เผชิญกับอุปสรรคนานัปการ จนบางครั้ง คาซูมิ รู้สึกท้อ แต่ความรู้สึกนั้นไม่ได้ทำให้เธอหยุดแสวงหาความฝัน จนเมื่อเธอได้สังเกตเห็นกระถางต้นไม้ในสวนที่ส่งผลให้เธอกลับมาสู้อีกครั้ง และผลักดันให้เกิดงานเซรามิคที่งดงามชุดนี้ขึ้นมา
“ตั้งแต่ที่ดิฉันและสามีได้ย้ายมาอยู่ในประเทศไทย เมื่อประมาณช่วงปลายปี 90 เราโชคดีที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางความสวยงามของดอกไม้นานาชนิด พร้อมกับการได้สังเกตถึงการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของพรรณไม้ไทยมาโดยตลอด ไม่ว่ามันจะโดนเหยียบย่ำหรือตัดทิ้งโดยบังเอิญก็ตาม พรรณไม้ไทยเหล่านี้ ยังสามารกลับมาเจริญติบโตแข็งแกร่งและผลิดอกที่งดงามกว่าเดิมได้”
ด้วยความงดงามของพรรณไม้ไทย ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้ คาซูมิ ได้คิดสร้างสรรค์คอลเลคชั่นชุดนี้ขึ้นมา สามารถพูดได้ว่าผลงานชุดนี้ได้ฉายถึงความเป็นตัวของตัวเอง และแสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเธอมากขึ้น“บ่อยครั้งที่ดิฉันได้เปรียบเทียบชีวิตตัวเองดั่งต้นไม้ ดิฉันมีความสนใจและชื่นชอบงานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ถนนสู่ความสำเร็จนั้นก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ดิฉันได้ลองศึกษางานศิลปะมาหลายแขนง อาทิ งานออกแบบ งานจิตรกรรมและงานวาดภาพประกอบ แต่งานเหล่านี้ก็ไม่ได้รับความพึงพอใจเท่ากับงานปั้นเซรามิค ถึงอย่างไรก็ตาม ดิฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าจะยึดการทำเซรามิคเป็นอาชีพ เนื่องจากได้เริ่มศึกษาเมื่ออายุมากแล้ว แต่หลังจากที่ได้เรียนรู้ถึงศิลปะงานปั้น รวมถึงการมีแนวคิดการสร้างสรรค์งานในแบบที่สวยงามด้วยสองมือของตัวเอง ทำให้ดิฉันรู้ว่าได้เดินทางมาถูกทางแล้ว”
คาซูมิ ไม่ต้องการปั้นแค่ถ้วยชามเหมือนคนทั่วไป แต่เธอปรารถนาที่จะใช้เวลาที่มีค่าของเธอสร้างงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและสวยงามอย่างแท้จริง เธอได้ใช้เวลาหลายชั่วโมงตลอดหลายปี ค้นคว้าพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อให้ได้ผลงานที่แปลก โดดเด่น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเอกลักษณ์ จากประสบการณ์การทำงานถึง 20 ปี ที่เธอลองผิดลองถูกและเรียนรู้จากความล้มเหลวและความสำเร็จ ทำให้วันนี้เธอได้มีผลงานที่งดงามและเป็นแบบฉบับเฉพาะตัว
สำหรับคอลเลคชั่นชุด ‘Positive+ Grace’ นี้ คาซูมิ คาทากิริ ได้นำเอาความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์จากศิลปะการปั้นเครื่องเคลือบดินเผามาพัฒนา เพื่อให้ได้เทคนิคการเคลือบและสีสันที่งดงามแปลกใหม่ และได้เฉกสีที่โดดเด่น คาซูมิ ไม่นิยมใช้สีสังเคราะห์หรือวัสถุดิบที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่เธอได้คิดค้นสูตรผสมสีของตัวเธอเองขึ้นมา โดยนำเอาวัสถุดิบที่เป็นแร่ธรรมชาติ (อาทิ แร่เหล็ก และแร่คริสตัลควอตซ์) มาผสมผสานให้เข้ากัน เมื่อได้สีสันที่ต้องการแล้ว คาซูมิ จะนำสีเหล่านั้นมาวาดบนชิ้นเซรามิคอย่างละเอียดอ่อนและพิถีพิถันอย่างมาก เปรียบเสมือนว่าชิ้นเซรามิคนั้นคือผืนผ้าใบ ซึ่งวิธีนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์อย่างสูง “หลังจากที่ได้ทำงานศิลปะเซรามิคมากว่า 20 ปี ดิฉันฝันที่จะสร้างผลงานที่ดิฉันต้องการมาโดยตลอด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่าน ที่ได้มีโอกาสชมนิทรรศการนี้ จะเห็นถึงพลังบวก ความงาม และความแข็งแกร่งที่ได้สะท้อนออกมาจากผลงานในแต่ละชิ้น” คาซูมิ กล่าวตบท้าย
การจัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะชุด ‘Positive+ Grace’ ในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงผลงานครั้งที่ 6 ในประเทศไทย ของ คาซูมิ คาทากิ และการแสดงครั้งแรกในรอบสี่ปีที่ผ่านมา โดยศิลปินได้นำผลงานชิ้นเด่น ๆ มาจัดแสดงให้ชมถึง 25 ชิ้นด้วยกัน โดยจะเปิดให้ชมฟรี ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ กอสสิบ แกลเลอรี่ @สีลม แกลเลอเรีย (สถานีรถไฟฟ้า สุรศักดิ์) ผลงานชุด ‘Positive+ Grace’ นี้ เป็นงานประติมากรรมที่มีความงดงามอีกแขนงหนึ่งของไทย
‘Positive+ Grace’ สามารถเรียกได้ว่าเป็นประติมากรรมเครื่องเคลือบดินเผาร่วมสมัยที่งดงามมากที่สุดเท่าที่เคยจัดแสดงในประเทศไทย โดยสามารถเลือกซื้อหรือเก็บสะสมได้ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสิริภา (ป๊อป) โชติช่วง โทร. (02) 237 5568 และ (089) 450 4549 หรือ คุณชลธิชา (ปู) ชูชาติ โทร. (081) 440 3896 ท่านสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ www.gossipgallerybkk72.com อีเมล์ gossipgallery@gmail.com กอสสิบ แกลเลอรี่ @สีลม แกลเลอเรีย เปิดบริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 10.00-19.00 น.วันอาทิตย์กรุณาโทรนัดล่วงหน้า
5
news & activity / เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซัมซุง ไวรัส ดอกเตอร์
« on: June 20, 2010, 10:09:53 AM »
เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซัมซุง ไวรัส ดอกเตอร์
ซัมซุงเปิดตัวเครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซัมซุง ไวรัส ดอกเตอร์ เทคโนโลยีการฟอกอากาศด้วยประจุไออน ที่ผ่านการรับรองจาก ศจ.ซาง ฮุย โซ นักวิจัยผู้คิดค้นวัคซีน ไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ใหม่ และเป็นนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัม ประเทศเกาหลีใต้ และองค์การอนามัยโลก ว่าสามารถกำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ใหม่ได้ถึง 99.99% ทำงานด้วยการยิงประจุไมโครพลาสมาโดยไม่ทิ้ง OH-Radical ซึ่งเป็นอันตรายต่อมนุษย์ไว้ในอากาศ สามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆในอากาศ เช่น ไข้หวัดนก ซาร์ส เชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ แล้วสลายให้เป็นน้ำจึงปลอดภัยต่อผู้ใช้ ครอบคลุมพื้นที่ 10 ตารางเมตร
เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซัมซุงไวรัส ดอกเตอร์ ได้รับการรับรองประสิทธิภาพจากสถาบันด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์จากทั่วโลกกว่า 10 แห่ง ทั้งใน สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และได้รับความไว้วางใจให้ติดตั้งในสนามบินนานาชาติในหลายประเทศ เช่น ดูไบ เกาหลีใต้ และ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของประเทศไทย ในส่วน Passport Control ทั้งขาเข้าและขาออก ห้องรับรองพิเศษ และคลินิกแพทย์สุวรรณภูมิ รวมถึงในโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก
เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซัมซุง ไวรัส ดอกเตอร์ วางจำหน่ายแล้ว ในราคา 6,900 บาท ที่เพาว์เวอร์บาย เพาว์เวอร์มอลล์ โฮมโปร และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
ซัมซุงเปิดตัวเครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซัมซุง ไวรัส ดอกเตอร์ เทคโนโลยีการฟอกอากาศด้วยประจุไออน ที่ผ่านการรับรองจาก ศจ.ซาง ฮุย โซ นักวิจัยผู้คิดค้นวัคซีน ไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ใหม่ และเป็นนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัม ประเทศเกาหลีใต้ และองค์การอนามัยโลก ว่าสามารถกำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 สายพันธุ์ใหม่ได้ถึง 99.99% ทำงานด้วยการยิงประจุไมโครพลาสมาโดยไม่ทิ้ง OH-Radical ซึ่งเป็นอันตรายต่อมนุษย์ไว้ในอากาศ สามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆในอากาศ เช่น ไข้หวัดนก ซาร์ส เชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ แล้วสลายให้เป็นน้ำจึงปลอดภัยต่อผู้ใช้ ครอบคลุมพื้นที่ 10 ตารางเมตร
เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซัมซุงไวรัส ดอกเตอร์ ได้รับการรับรองประสิทธิภาพจากสถาบันด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์จากทั่วโลกกว่า 10 แห่ง ทั้งใน สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และได้รับความไว้วางใจให้ติดตั้งในสนามบินนานาชาติในหลายประเทศ เช่น ดูไบ เกาหลีใต้ และ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของประเทศไทย ในส่วน Passport Control ทั้งขาเข้าและขาออก ห้องรับรองพิเศษ และคลินิกแพทย์สุวรรณภูมิ รวมถึงในโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก
เครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซัมซุง ไวรัส ดอกเตอร์ วางจำหน่ายแล้ว ในราคา 6,900 บาท ที่เพาว์เวอร์บาย เพาว์เวอร์มอลล์ โฮมโปร และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
6
news & activity / ททท.มอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด Scrapbook บนเว็บไซต์ท่องเที่ยวสุดฮิป
« on: June 20, 2010, 10:08:56 AM »
ททท.มอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด Scrapbook บนเว็บไซต์ท่องเที่ยวสุดฮิป มุ่งกระตุ้นกระแสการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการ “เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง - ใหม่กว่านี้มีที่ไหน”
เมื่อเร็วๆ นี้ - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผลรางวัล “โครงการประกวด Scrapbook” จากเว็บไซต์ท่องเที่ยวสุดฮิป www.เที่ยวภาคกลาง.com ณ งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2553 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็คเมืองทองธานี หนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง” ตอน “ใหม่กว่านี้มีที่ไหน” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในภาคกลาง ผ่านการสร้างสรรค์ Scrapbook ในแบบฉบับของตัวเอง บนเว็บไซต์ของ ททท. เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในภาคกลาง เนื่องจากเป็นภาคที่มีความหลากหลายทั้งสภาพภูมิศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และ วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น อีกทั้งยังมีระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพ โดยภายในงานได้รับได้รับเกียรติจาก คุณชัยสงค์ ชูฤทธิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดการแข่งขัน ซึ่งผู้ชนะอันดับที่ 1 ได้แก่นายพัชรพล รักประทานพร ได้รับรางวัลบัตรที่พักจาก Chez-Pipli อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี มูลค่า 12,000 บาท และ ผู้ชนะอันดับ 2 นายดนัย วงศ์วัฒนชัย ได้รับบัตรที่พักจาก The Hen อ. หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 11,900 บาทเป็นรางวัลการแข่งขันในครั้งนี้
เมื่อเร็วๆ นี้ - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผลรางวัล “โครงการประกวด Scrapbook” จากเว็บไซต์ท่องเที่ยวสุดฮิป www.เที่ยวภาคกลาง.com ณ งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2553 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็คเมืองทองธานี หนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง” ตอน “ใหม่กว่านี้มีที่ไหน” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในภาคกลาง ผ่านการสร้างสรรค์ Scrapbook ในแบบฉบับของตัวเอง บนเว็บไซต์ของ ททท. เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในภาคกลาง เนื่องจากเป็นภาคที่มีความหลากหลายทั้งสภาพภูมิศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และ วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น อีกทั้งยังมีระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพ โดยภายในงานได้รับได้รับเกียรติจาก คุณชัยสงค์ ชูฤทธิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวดการแข่งขัน ซึ่งผู้ชนะอันดับที่ 1 ได้แก่นายพัชรพล รักประทานพร ได้รับรางวัลบัตรที่พักจาก Chez-Pipli อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี มูลค่า 12,000 บาท และ ผู้ชนะอันดับ 2 นายดนัย วงศ์วัฒนชัย ได้รับบัตรที่พักจาก The Hen อ. หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 11,900 บาทเป็นรางวัลการแข่งขันในครั้งนี้
7
news & activity / เปลี่ยนสีผมให้สวยเด้ง! ด้วย 12 โทนสีแฟชั่นใหม่จาก Caring Elegance Hair Color
« on: June 20, 2010, 09:27:48 AM »
เปลี่ยนสีผมให้สวยเด้ง! ด้วย 12 โทนสีแฟชั่นใหม่จาก Caring Elegance Hair Color Cream
แคริ่ง ผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ที่แชมป์ผมโลกเลือกใช้ ขอเชิญสาวสวยที่อยากจะเปลี่ยนลุคส์ให้ทันสมัย เพิ่มเสน่ห์ให้โดดเด่น โฉบเฉี่ยวกับหลากหลายเฉดสีผม ขอแนะนำ แคริ่ง เอลีแกนซ์ ครีมเปลี่ยนสีผม (Caring Elegance Hair Color Cream) ครีมเปลี่ยนสีผมที่แชมป์ผมโลกเลือกใช้ พร้อมเพิ่มสีสันใหม่ 12 โทนสีแฟชั่น เพื่อให้คุณได้สร้างสรรค์สีผมที่สวยเปล่งประกายสดใส เงางาม ตามสไตล์คุณ พร้อมมั่นใจในคุณภาพที่อุดมไปด้วยสูตรบำรุงและปกป้อง ในรูปแบบของเนื้อครีมที่อ่อนละมุน เคลือบเข้มข้นอุดมไปด้วยคุณค่าจาก 'โฟลีควอเนีย' ปกป้องเส้นผมไม่ให้แห้งเสียหลังการเปลี่ยนสีผม และความพิเศษของปฎิกิริยาการซึมซาบของโครงสร้างสีที่เข้มข้น ที่ซึมซาบเข้าสู่เส้นผม และได้ผลลัพธ์ คือสีผมสม่ำเสมอ ตั้งแต่โคนจรดปลายผม แลดูเป็นธรรมชาติ พร้อมเพิ่มประกายให้สีผมด้วย "มิเนรอล ออยล์" เคลือบสีผมให้เม็ดสีติดทนนาน ให้ผมของคุณเงางามเป็นประกาย เปลี่ยนสีผมให้สวยเด้ง โดดเด่นด้วย 12 โทนสีแฟชั่น จากครีมเปลี่ยนสีผม แคริ่ง เอลีแกนซ์ได้แล้ววันนี้ตามร้านเสริมสวยและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร.02-892-0525-34 หรือ คุณวรานันท 089-951-4500
แคริ่ง ผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ที่แชมป์ผมโลกเลือกใช้ ขอเชิญสาวสวยที่อยากจะเปลี่ยนลุคส์ให้ทันสมัย เพิ่มเสน่ห์ให้โดดเด่น โฉบเฉี่ยวกับหลากหลายเฉดสีผม ขอแนะนำ แคริ่ง เอลีแกนซ์ ครีมเปลี่ยนสีผม (Caring Elegance Hair Color Cream) ครีมเปลี่ยนสีผมที่แชมป์ผมโลกเลือกใช้ พร้อมเพิ่มสีสันใหม่ 12 โทนสีแฟชั่น เพื่อให้คุณได้สร้างสรรค์สีผมที่สวยเปล่งประกายสดใส เงางาม ตามสไตล์คุณ พร้อมมั่นใจในคุณภาพที่อุดมไปด้วยสูตรบำรุงและปกป้อง ในรูปแบบของเนื้อครีมที่อ่อนละมุน เคลือบเข้มข้นอุดมไปด้วยคุณค่าจาก 'โฟลีควอเนีย' ปกป้องเส้นผมไม่ให้แห้งเสียหลังการเปลี่ยนสีผม และความพิเศษของปฎิกิริยาการซึมซาบของโครงสร้างสีที่เข้มข้น ที่ซึมซาบเข้าสู่เส้นผม และได้ผลลัพธ์ คือสีผมสม่ำเสมอ ตั้งแต่โคนจรดปลายผม แลดูเป็นธรรมชาติ พร้อมเพิ่มประกายให้สีผมด้วย "มิเนรอล ออยล์" เคลือบสีผมให้เม็ดสีติดทนนาน ให้ผมของคุณเงางามเป็นประกาย เปลี่ยนสีผมให้สวยเด้ง โดดเด่นด้วย 12 โทนสีแฟชั่น จากครีมเปลี่ยนสีผม แคริ่ง เอลีแกนซ์ได้แล้ววันนี้ตามร้านเสริมสวยและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร.02-892-0525-34 หรือ คุณวรานันท 089-951-4500
8
news & activity / โนโวเทลสุวรรณภูมิร่วมสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟ “สิงห์ คอร์ปอเรท ชาเลนท์ 2010”
« on: June 20, 2010, 09:27:13 AM »
โนโวเทลสุวรรณภูมิร่วมสนับสนุนการแข่งขันกอล์ฟ “สิงห์ คอร์ปอเรท ชาเลนท์ 2010”
มร. ทรีสตอง โบ เดอ โรมินี (นั่งขวาสุด) ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ ร่วมงานแถลงข่าว “การแข่งขันกอล์ฟรายการ สิงห์ คอร์ปอเรท ชาเลนจ์ 2010” ซึ่งปีนี้เป็นปีที่สองที่โรงแรมฯร่วมเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานโดยเป็นเจ้าภาพงานกาล่าดินเนอร์รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 2 พ.ย. 53 นี้ ณ สนามกอล์ฟเมืองแก้ว
ในภาพ:- มร. ไมค์ วาร์นี่ (นั่ง 2 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป สนามกอล์ฟเมืองแก้วและสนามกอล์มฟเชียงใหม่ ไฮแลนด์ กอล์ฟแอนด์สปา รีสอร์ท ดร. ณัฐ อินทรปาณ (นั่ง 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ คุณเอี่ยมศรี บุญหชัยรัตน์ (นั่ง ซ้ายสุด) กรรมการอำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป และผู้ร่วมให้การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ
มร. ทรีสตอง โบ เดอ โรมินี (นั่งขวาสุด) ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ ร่วมงานแถลงข่าว “การแข่งขันกอล์ฟรายการ สิงห์ คอร์ปอเรท ชาเลนจ์ 2010” ซึ่งปีนี้เป็นปีที่สองที่โรงแรมฯร่วมเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานโดยเป็นเจ้าภาพงานกาล่าดินเนอร์รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 2 พ.ย. 53 นี้ ณ สนามกอล์ฟเมืองแก้ว
ในภาพ:- มร. ไมค์ วาร์นี่ (นั่ง 2 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป สนามกอล์ฟเมืองแก้วและสนามกอล์มฟเชียงใหม่ ไฮแลนด์ กอล์ฟแอนด์สปา รีสอร์ท ดร. ณัฐ อินทรปาณ (นั่ง 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ คุณเอี่ยมศรี บุญหชัยรัตน์ (นั่ง ซ้ายสุด) กรรมการอำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป และผู้ร่วมให้การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ
9
news & activity / นักศึกษาทันตแพทย์ เยี่ยมชม นวัตกรรมทันตกรรม อัศวานันท์
« on: June 20, 2010, 09:26:49 AM »
นักศึกษาทันตแพทย์ เยี่ยมชม นวัตกรรมทันตกรรม อัศวานันท์
ทพ.สุนทร อัศวานันท์ ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ ให้การต้อนรับ คณะนักศึกษาทันตแพทย์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 6 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ที่เข้าเยี่ยมชมคลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ เพื่อชมระบบการทำงานในองค์กร เทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ และนวัตกรรมที่ทันสมัยในงานด้านทันต กรรม ณ คลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ ปากซอยทองหล่อ เมื่อเร็ว ๆ นี้
ทพ.สุนทร อัศวานันท์ ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ ให้การต้อนรับ คณะนักศึกษาทันตแพทย์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 6 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ที่เข้าเยี่ยมชมคลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ เพื่อชมระบบการทำงานในองค์กร เทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ และนวัตกรรมที่ทันสมัยในงานด้านทันต กรรม ณ คลินิกทันตกรรมอัศวานันท์ ปากซอยทองหล่อ เมื่อเร็ว ๆ นี้
10
ข่าวภาพยนตร์ / หนัง “ลุงบุญมีระลึกชาติ” ผลงานสร้างชื่อคว้ารางวัลระดับโลกที่คนไทยภาคภูมิใจ
« on: June 20, 2010, 09:19:06 AM »
หนัง “ลุงบุญมีระลึกชาติ” ผลงานสร้างชื่อคว้ารางวัลระดับโลกที่คนไทยภาคภูมิใจ ได้ฤกษ์เข้าโรงฉายแล้วเริ่ม 24 มิ.ย. ที่เดียวที่ SFX Cinema เท่านั้น
ได้ฤกษ์เข้าโรงฉายแล้ว กับผลงานของคนไทยที่สร้างชื่อในระดับโลกไปสดๆ ร้อนๆ จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ครั้งที่ 63 เรื่อง “ลุงบุญมีระลึกชาติ” หรือ “Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives” ของผู้กำกับ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล หรือ "เจ้ย" ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยแนวอินดี้ชื่อดังที่คว้ารางวัล "ปาล์ม ดิ' ออร์" (Palm d’or) หรือปาล์มทองคำ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของเทศกาลฯ มาครอบครองได้สำเร็จ ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลสูงสุดจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ซึ่งมีความสำคัญที่สุดในระดับโลกได้ โดยเนื้อหาของภาพยนตร์เป็นส่วนเติมเต็มสุดท้ายของผลงานชุด "ดึกดำบรรพ์" (Primitive) เน้นเรื่องราวที่ค่อนข้างเหนือความเป็นจริง การนั่งสมาธิ สะกดจิต และการระลึกชาติ สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนไทยในแง่ของความความตายจากมุมมองใหม่แบบ “ตะวันออก” โดยสร้างจากสภาพสังคมจริง เสมือนกระจกสะท้อนวัฒนธรรมและสังคมในบ้านเรา และแน่นอนที่สุดภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถสร้างอรรถรสความบันเทิงให้กับคนดูในอีกรูปแบบที่แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ นับว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ภาพยนตร์ โดยไม่ยึดติดในกรอบเดิมๆ
ทั้งนี้ เอส เอฟ เป็นโรงภาพยนตร์แห่งเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้จัดฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ที่มีกระแสของผู้ชมต่างรอคอยมากที่สุดในขณะนี้ โดยเอาใจเหล่าบรรดาคอหนังในเมืองไทย จัดฉายเรื่อง “ลุงบุญมีระลึกชาติ” หรือ “Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives” “แบบเอ็กซ์คลูซีฟมูฟวี่” เฉพาะที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า ชั้น 6 ศูนย์การค้าเอ็มโพเรี่ยม ซึ่งได้จัดเตรียมรอบฉายไว้ให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับในวันจันทร์ – วันศุกร์ จัดฉายในรอบเวลา 19.00 น. ส่วนในวันเสาร์ – อาทิตย์ จะมีรอบฉาย 2 รอบ คือเวลา 14.00 น. และ 19.00 น. จำหน่ายบัตรในราคา 140 บาท พิเศษ!! นักเรียน – นักศึกษา จำหน่ายบัตรในราคา 90 บาท *(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของที่นั่ง และวันที่ชมภาพยนตร์)* เริ่มตั้งแต่ 24 มิถุนายนเป็นต้นไป นับเป็นโอกาสดีๆ ที่คอหนังในเมืองไทย จะได้ร่วมชมภาพยนตร์คุณภาพ และร่วมภาคภูมิใจไปพร้อมๆ กัน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SF Call Center 02-268 8888 และ www.sfcinemacity.com พร้อมติดตามข่าวสารภาพยนตร์ดีๆ ได้ที่ We love SF http://www.facebook.com/weloveSF
เรื่องย่อหนังเรื่อง “ลุงบุญมีระลึกชาติ”
ลุงบุญมี พำนักอาศัยอยู่ที่จังหวัดเลย เขาทำสวนมะขามซึ่งรายล้อมด้วยภูเขา ลุงบุญมีป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานาน เขาจึงรู้จักร่างกายของตัวเองว่าเขากำลังจะตายภายใน 48 ชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงโทรเรียกให้ญาติห่าง ๆ ของเขาคือ เจนจิรา มารับเขาจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปตายที่บ้านสวน
เจนจิรามาจากกรุงเทพพร้อมกับศักดิ์ดา ซึ่งเป็นเพื่อนของเธอที่แสดงภาพยนตร์มาด้วยกัน ที่นั่นพวกเขาได้เจอกับวิญญาณของฮวย ซึ่งเป็นภรรยาที่เสียชีวิตไปนานแล้วของลุงบุญมี เธอปรากฏร่างขึ้นเพื่อมาดูแลสามีที่ป่วย ไม่เพียงแต่ภรรยาที่กลับมาเท่านั้น บุญส่ง ลูกชายของลุงบุญมีที่หายสาบสูญไปหลายปีก็กลับมาที่บ้านด้วย เขาออกมาจากป่าในร่างของมนุษย์ลิง ลูกชายของเขามีเมียเป็นสัตว์ประหลาดที่รู้จักกันในตำนานพื้นถิ่นว่า ‘ลิงผี’ และอาศัยอยู่ด้วยกันในป่ามานาน ระหว่างอาหารมื้อเย็นลุงบุญมีเล่าให้ฟังถึงความมหัศจรรย์ของการนั่งสมาธิ ซึ่งทำให้เขาระลึกชาติได้ เขาใช้เวลายามค่ำคืนเล่าเรื่องต่างๆในอดีตชาติให้แขกผู้มาเยือนฟัง และในคืนที่สองเมื่อเขาเล่าเรื่องจบลง
ลุงบุญมีก็ตัดสินใจเดินทางไปยังสถานที่ที่ภรรยาของเขาพูดถึงคือบนภูเขาสูงลิบ ทุกคนออกเดินทางเข้าไปในป่ากลางดึก ป่าที่เต็มไปด้วยสรรพสัตว์และวิญญาณ และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงถ้ำบนยอดเขา ลุงบุญมีจำได้ว่าถ้ำนี้เป็นที่ที่เขาเกิดในชาติแรกที่เขาสามารถระลึกได้ จากนั้นเขาก็เสียชีวิต
เจนจิราและศักดิ์ดานำศพลุงบุญมีมาทำพิธีในเมือง เรื่องราวของลุงบุญมีได้ปิดฉากลงพร้อมกับความทรงจำที่ถูกถ่ายทอดแก่ชายหญิงสองวัยผู้ซึ่งกำลังจะมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ
ได้ฤกษ์เข้าโรงฉายแล้ว กับผลงานของคนไทยที่สร้างชื่อในระดับโลกไปสดๆ ร้อนๆ จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ครั้งที่ 63 เรื่อง “ลุงบุญมีระลึกชาติ” หรือ “Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives” ของผู้กำกับ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล หรือ "เจ้ย" ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยแนวอินดี้ชื่อดังที่คว้ารางวัล "ปาล์ม ดิ' ออร์" (Palm d’or) หรือปาล์มทองคำ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของเทศกาลฯ มาครอบครองได้สำเร็จ ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลสูงสุดจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ซึ่งมีความสำคัญที่สุดในระดับโลกได้ โดยเนื้อหาของภาพยนตร์เป็นส่วนเติมเต็มสุดท้ายของผลงานชุด "ดึกดำบรรพ์" (Primitive) เน้นเรื่องราวที่ค่อนข้างเหนือความเป็นจริง การนั่งสมาธิ สะกดจิต และการระลึกชาติ สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนไทยในแง่ของความความตายจากมุมมองใหม่แบบ “ตะวันออก” โดยสร้างจากสภาพสังคมจริง เสมือนกระจกสะท้อนวัฒนธรรมและสังคมในบ้านเรา และแน่นอนที่สุดภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถสร้างอรรถรสความบันเทิงให้กับคนดูในอีกรูปแบบที่แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ นับว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ภาพยนตร์ โดยไม่ยึดติดในกรอบเดิมๆ
ทั้งนี้ เอส เอฟ เป็นโรงภาพยนตร์แห่งเดียวที่ได้รับความไว้วางใจให้จัดฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ที่มีกระแสของผู้ชมต่างรอคอยมากที่สุดในขณะนี้ โดยเอาใจเหล่าบรรดาคอหนังในเมืองไทย จัดฉายเรื่อง “ลุงบุญมีระลึกชาติ” หรือ “Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives” “แบบเอ็กซ์คลูซีฟมูฟวี่” เฉพาะที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า ชั้น 6 ศูนย์การค้าเอ็มโพเรี่ยม ซึ่งได้จัดเตรียมรอบฉายไว้ให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับในวันจันทร์ – วันศุกร์ จัดฉายในรอบเวลา 19.00 น. ส่วนในวันเสาร์ – อาทิตย์ จะมีรอบฉาย 2 รอบ คือเวลา 14.00 น. และ 19.00 น. จำหน่ายบัตรในราคา 140 บาท พิเศษ!! นักเรียน – นักศึกษา จำหน่ายบัตรในราคา 90 บาท *(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของที่นั่ง และวันที่ชมภาพยนตร์)* เริ่มตั้งแต่ 24 มิถุนายนเป็นต้นไป นับเป็นโอกาสดีๆ ที่คอหนังในเมืองไทย จะได้ร่วมชมภาพยนตร์คุณภาพ และร่วมภาคภูมิใจไปพร้อมๆ กัน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SF Call Center 02-268 8888 และ www.sfcinemacity.com พร้อมติดตามข่าวสารภาพยนตร์ดีๆ ได้ที่ We love SF http://www.facebook.com/weloveSF
เรื่องย่อหนังเรื่อง “ลุงบุญมีระลึกชาติ”
ลุงบุญมี พำนักอาศัยอยู่ที่จังหวัดเลย เขาทำสวนมะขามซึ่งรายล้อมด้วยภูเขา ลุงบุญมีป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานาน เขาจึงรู้จักร่างกายของตัวเองว่าเขากำลังจะตายภายใน 48 ชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงโทรเรียกให้ญาติห่าง ๆ ของเขาคือ เจนจิรา มารับเขาจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปตายที่บ้านสวน
เจนจิรามาจากกรุงเทพพร้อมกับศักดิ์ดา ซึ่งเป็นเพื่อนของเธอที่แสดงภาพยนตร์มาด้วยกัน ที่นั่นพวกเขาได้เจอกับวิญญาณของฮวย ซึ่งเป็นภรรยาที่เสียชีวิตไปนานแล้วของลุงบุญมี เธอปรากฏร่างขึ้นเพื่อมาดูแลสามีที่ป่วย ไม่เพียงแต่ภรรยาที่กลับมาเท่านั้น บุญส่ง ลูกชายของลุงบุญมีที่หายสาบสูญไปหลายปีก็กลับมาที่บ้านด้วย เขาออกมาจากป่าในร่างของมนุษย์ลิง ลูกชายของเขามีเมียเป็นสัตว์ประหลาดที่รู้จักกันในตำนานพื้นถิ่นว่า ‘ลิงผี’ และอาศัยอยู่ด้วยกันในป่ามานาน ระหว่างอาหารมื้อเย็นลุงบุญมีเล่าให้ฟังถึงความมหัศจรรย์ของการนั่งสมาธิ ซึ่งทำให้เขาระลึกชาติได้ เขาใช้เวลายามค่ำคืนเล่าเรื่องต่างๆในอดีตชาติให้แขกผู้มาเยือนฟัง และในคืนที่สองเมื่อเขาเล่าเรื่องจบลง
ลุงบุญมีก็ตัดสินใจเดินทางไปยังสถานที่ที่ภรรยาของเขาพูดถึงคือบนภูเขาสูงลิบ ทุกคนออกเดินทางเข้าไปในป่ากลางดึก ป่าที่เต็มไปด้วยสรรพสัตว์และวิญญาณ และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงถ้ำบนยอดเขา ลุงบุญมีจำได้ว่าถ้ำนี้เป็นที่ที่เขาเกิดในชาติแรกที่เขาสามารถระลึกได้ จากนั้นเขาก็เสียชีวิต
เจนจิราและศักดิ์ดานำศพลุงบุญมีมาทำพิธีในเมือง เรื่องราวของลุงบุญมีได้ปิดฉากลงพร้อมกับความทรงจำที่ถูกถ่ายทอดแก่ชายหญิงสองวัยผู้ซึ่งกำลังจะมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ
11
กิจกรรม ช่อง 3 / เว็บไซต์ My 3 Space.com มาแรง เพิ่มช่องทางสื่อสาร บน iPhone App
« on: June 17, 2010, 03:14:25 PM »
เว็บไซต์ My 3 Space.com มาแรง เพิ่มช่องทางสื่อสาร บน iPhone App
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่ต้นปี สำหรับเว็บไซต์มาแรงอย่าง My 3 Space.com ชุมชนออนไลน์สำหรับแฟนช่อง 3 โดยเฉพาะ โดยมีบอสหนุ่มไฟแรงแห่งวิก 3 “วรวรรธน์ มาลีนนท์” นั่งแท่นบริหารงาน จนขณะนี้กลายเป็นเว็บไซต์ที่มาแรงที่สุด และล่าสุดก็ได้เพิ่มช่องทางใหม่เกาะกระแสอินเทรนด์ด้วยการเปิดตัว iPhone App ซึ่งจะเชื่อมโยงผู้ใช้ iPhone ให้เข้าถึงข้อมูลการอัพเดทของเว็บไซต์ My 3 Space App โดยตรงทีเดียว
หลังจากเปิดตัว My 3 Space.com อย่างเป็นทางการไปแล้ว ก็ได้รับความนิยมจากเหล่าสมาชิกโลกออนไลน์ ซึ่งสามารถพกช่อง 3 ติดตัวไปได้ทุกที่ และยังสามารถสนองตอบความต้องการของแฟนๆ ละคร ดารา พิธีกร ผู้ประกาศข่าว และยังเป็นแหล่งรวมพบปะพูดคุยใกล้ชิดกับดาราที่ชื่นชอบ และยังเป็นการลดช่องว่างและเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบเว็บแนวใหม่สไตล์ Social Network Web หรือสังคมออนไลน์ จนได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยช่อง 3 ยังเล็งเห็นว่าควรขยายช่องทางการเข้าถึงข้อมูลเว็บไซต์ MY 3 space.com ผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ โดยเริ่มจาก Apple iPhone ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือส่วนใหญ่ จากรายงานสถิติของเว็บไซต์ และ ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และความบันเทิงของช่อง 3 เนื่องจาก App เป็นลักษณะที่เรียกว่า Native App หรือ Application ที่ทำงานโดยไม่ต้องผ่าน Browser ของ iPhone ทำให้การทำงานมีความรวดเร็วสูงกว่าระบบ Web App อย่างห่างไกลกันมาก และในทางเทคนิคแล้ว Native App จะมีความซับซ้อนในการผลิตมากกว่าหลายเท่าตัว จึงทำให้ My 3 Space App เป็น Native App ตัวแรกของวงการโทรทัศน์ไทยทีเดียว โดย My3Space iPhone App นั้นมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับเว็บไซต์ My3Space.com โดยตรง ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้งานติดตามข้อมูลข่าวสารได้ดังนี้
- Feed ความเคลื่อนไหวของสมาชิกและอัพเดทภาพรวมของเว็บไซต์
- รับชมถ่ายทอดสด (Live TV) แบบ Real Time
- เลือกชมโปรไฟล์และข้อความอัพเดทของดารา,พิธีกรและผู้ประกาศข่าว
- เลือกชมโปรไฟล์ของสมาชิกที่มาใหม่
- เลือกชมรายการทีวีช่อง 3 ย้อนหลังโดยเลือกตามรายการที่ต้องการชม
- เลือกชมรูปภาพที่ถูกโพสเข้ามาใหม่ของสมาชิก
- เลือกชมบล็อกที่ถูกโพสเข้ามาใหม่และบล็อกยอดนิยมของสมาชิก
- ทำงานได้ทั้งบน iPhone และ iPod Touch
สำหรับผู้ใช้ ผู้ใช้ iPhone สามารถดาวน์โหลด My3Space iPhone App ได้โดยตรงจาก App Store ฟรีบนiPhone ของท่าน หรือดาวน์โหลดจาก iTunes App Store บนเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม iTunes
My3Space App นั้นยังไม่หยุดยั้งในการพัฒนาความสามารถ โดยในเวอร์ชั่นต่อไป จะสามารถล็อกอินด้วยชื่อผู้ใช้ของสมาชิกได้ทันที และสามารถคอมเม้น,ถ่าย-โพสรูป,อัพเดท ผ่านทาง iPhone ได้ทันที และที่สำคัญคือรองรับการทำงานบน iPad ที่กำลังจะนำมาถึงเมืองไทยในไม่ช้านี้ ใครมี iPhone หรือ iPod Touch ก็อย่าให้ตกเทรนด์ ดาวน์โหลดมาใช้งานได้เลยวันนี้
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่ต้นปี สำหรับเว็บไซต์มาแรงอย่าง My 3 Space.com ชุมชนออนไลน์สำหรับแฟนช่อง 3 โดยเฉพาะ โดยมีบอสหนุ่มไฟแรงแห่งวิก 3 “วรวรรธน์ มาลีนนท์” นั่งแท่นบริหารงาน จนขณะนี้กลายเป็นเว็บไซต์ที่มาแรงที่สุด และล่าสุดก็ได้เพิ่มช่องทางใหม่เกาะกระแสอินเทรนด์ด้วยการเปิดตัว iPhone App ซึ่งจะเชื่อมโยงผู้ใช้ iPhone ให้เข้าถึงข้อมูลการอัพเดทของเว็บไซต์ My 3 Space App โดยตรงทีเดียว
หลังจากเปิดตัว My 3 Space.com อย่างเป็นทางการไปแล้ว ก็ได้รับความนิยมจากเหล่าสมาชิกโลกออนไลน์ ซึ่งสามารถพกช่อง 3 ติดตัวไปได้ทุกที่ และยังสามารถสนองตอบความต้องการของแฟนๆ ละคร ดารา พิธีกร ผู้ประกาศข่าว และยังเป็นแหล่งรวมพบปะพูดคุยใกล้ชิดกับดาราที่ชื่นชอบ และยังเป็นการลดช่องว่างและเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบเว็บแนวใหม่สไตล์ Social Network Web หรือสังคมออนไลน์ จนได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยช่อง 3 ยังเล็งเห็นว่าควรขยายช่องทางการเข้าถึงข้อมูลเว็บไซต์ MY 3 space.com ผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ โดยเริ่มจาก Apple iPhone ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือส่วนใหญ่ จากรายงานสถิติของเว็บไซต์ และ ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และความบันเทิงของช่อง 3 เนื่องจาก App เป็นลักษณะที่เรียกว่า Native App หรือ Application ที่ทำงานโดยไม่ต้องผ่าน Browser ของ iPhone ทำให้การทำงานมีความรวดเร็วสูงกว่าระบบ Web App อย่างห่างไกลกันมาก และในทางเทคนิคแล้ว Native App จะมีความซับซ้อนในการผลิตมากกว่าหลายเท่าตัว จึงทำให้ My 3 Space App เป็น Native App ตัวแรกของวงการโทรทัศน์ไทยทีเดียว โดย My3Space iPhone App นั้นมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับเว็บไซต์ My3Space.com โดยตรง ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้งานติดตามข้อมูลข่าวสารได้ดังนี้
- Feed ความเคลื่อนไหวของสมาชิกและอัพเดทภาพรวมของเว็บไซต์
- รับชมถ่ายทอดสด (Live TV) แบบ Real Time
- เลือกชมโปรไฟล์และข้อความอัพเดทของดารา,พิธีกรและผู้ประกาศข่าว
- เลือกชมโปรไฟล์ของสมาชิกที่มาใหม่
- เลือกชมรายการทีวีช่อง 3 ย้อนหลังโดยเลือกตามรายการที่ต้องการชม
- เลือกชมรูปภาพที่ถูกโพสเข้ามาใหม่ของสมาชิก
- เลือกชมบล็อกที่ถูกโพสเข้ามาใหม่และบล็อกยอดนิยมของสมาชิก
- ทำงานได้ทั้งบน iPhone และ iPod Touch
สำหรับผู้ใช้ ผู้ใช้ iPhone สามารถดาวน์โหลด My3Space iPhone App ได้โดยตรงจาก App Store ฟรีบนiPhone ของท่าน หรือดาวน์โหลดจาก iTunes App Store บนเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม iTunes
My3Space App นั้นยังไม่หยุดยั้งในการพัฒนาความสามารถ โดยในเวอร์ชั่นต่อไป จะสามารถล็อกอินด้วยชื่อผู้ใช้ของสมาชิกได้ทันที และสามารถคอมเม้น,ถ่าย-โพสรูป,อัพเดท ผ่านทาง iPhone ได้ทันที และที่สำคัญคือรองรับการทำงานบน iPad ที่กำลังจะนำมาถึงเมืองไทยในไม่ช้านี้ ใครมี iPhone หรือ iPod Touch ก็อย่าให้ตกเทรนด์ ดาวน์โหลดมาใช้งานได้เลยวันนี้
12
news & activity / รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต เชิญชวนประชาชนร่วมงาน เทศกาลสุขภาพครั้งที่ 9
« on: June 17, 2010, 03:03:43 PM »
รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต เชิญชวนประชาชนร่วมงาน เทศกาลสุขภาพครั้งที่ 9
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต เชิญชวนประชาชนผู้รักสุขภาพ ร่วมงาน “ เทศกาลสุขภาพครั้งที่ 9 ” ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2553 นี้ โดยภายในงานจัดให้มีกิจกรรมด้านสุขภาพบริการประชาชนมากมาย อาทิ โปรแกรมตรวจสุขภาพในราคาพิเศษ, นิทรรศการย่อย, การบรรยายให้ความรู้จากนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด ยังได้นำเครื่องเอกซ์เรย์ ตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก เพื่อกระดูกที่แข็งแรง จากผลิตภัณฑ์โซลูแคล (แคลเซียมผสมคอลลาเจน) ไปให้บริการตรวจฟรีตลอดงาน ทั้งนี้ ผู้สนใจ สามารถเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2926-9454, 0-2926-9832
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต เชิญชวนประชาชนผู้รักสุขภาพ ร่วมงาน “ เทศกาลสุขภาพครั้งที่ 9 ” ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2553 นี้ โดยภายในงานจัดให้มีกิจกรรมด้านสุขภาพบริการประชาชนมากมาย อาทิ โปรแกรมตรวจสุขภาพในราคาพิเศษ, นิทรรศการย่อย, การบรรยายให้ความรู้จากนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด ยังได้นำเครื่องเอกซ์เรย์ ตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก เพื่อกระดูกที่แข็งแรง จากผลิตภัณฑ์โซลูแคล (แคลเซียมผสมคอลลาเจน) ไปให้บริการตรวจฟรีตลอดงาน ทั้งนี้ ผู้สนใจ สามารถเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2926-9454, 0-2926-9832
13
news & activity / “พราว เอ็กซ์ ทู” จัดกิจกรรม “Xclusive Living In X2 Gen”
« on: June 17, 2010, 03:02:05 PM »
“พราว เอ็กซ์ ทู” จัดกิจกรรม “Xclusive Living In X2 Gen” ศิลปินดารามากมายร่วมมอบโปรโมชั่นพิเศษมูลค่ากว่า 300,000 บาท
นายอดิศร วิเวกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด (คนที่สามจากซ้าย) จัดกิจกรรมพิเศษ “Xclusive Living In X2 Gen” เปิดตัวโครงการ “พราว เอ็กซ์ ทู” คอนโดมิเนียมใหม่สุดฮ็อต ที่สะท้อนการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในสไตล์โมเดิร์นมินิมอลลิส พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษมูลค่ากว่า 300,000 บาท รวมถึงมอบรางวัลสร้อยคอทองคำรวม 15 บาท ให้กับลูกค้าที่จองซื้อห้องชุดภายในงานนี้ โดยได้รับเกียรติจากนักแสดงชื่อดัง อาทิ คุณสมาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์ (คนที่ 2 จากซ้าย) หรือคุณเชฟ จากละครหวานใจนายจอมหยิ่ง และคุณจอย สุนันท์ษา จิรมณีกุล (คนแรกจากซ้าย) มาร่วมกิจกรรมโชว์เขย่าค็อกเทลสูตรพิเศษ และแต่งหน้าคัพเค้กแสนอร่อย พร้อมร่วมแสดงความยินดีในวันงาน ณ สำนักงานขายโครงการพราว เอ็กซ์ทู ซ.แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 19 เมื่อเร็วๆ นี้ สนใจข้อมูลโครงการเพิ่มเติม โทร.02-583-2626
นายอดิศร วิเวกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด (คนที่สามจากซ้าย) จัดกิจกรรมพิเศษ “Xclusive Living In X2 Gen” เปิดตัวโครงการ “พราว เอ็กซ์ ทู” คอนโดมิเนียมใหม่สุดฮ็อต ที่สะท้อนการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในสไตล์โมเดิร์นมินิมอลลิส พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษมูลค่ากว่า 300,000 บาท รวมถึงมอบรางวัลสร้อยคอทองคำรวม 15 บาท ให้กับลูกค้าที่จองซื้อห้องชุดภายในงานนี้ โดยได้รับเกียรติจากนักแสดงชื่อดัง อาทิ คุณสมาร์ท กฤษฎา พรเวโรจน์ (คนที่ 2 จากซ้าย) หรือคุณเชฟ จากละครหวานใจนายจอมหยิ่ง และคุณจอย สุนันท์ษา จิรมณีกุล (คนแรกจากซ้าย) มาร่วมกิจกรรมโชว์เขย่าค็อกเทลสูตรพิเศษ และแต่งหน้าคัพเค้กแสนอร่อย พร้อมร่วมแสดงความยินดีในวันงาน ณ สำนักงานขายโครงการพราว เอ็กซ์ทู ซ.แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 19 เมื่อเร็วๆ นี้ สนใจข้อมูลโครงการเพิ่มเติม โทร.02-583-2626
14
news & activity / ทรูชวนเติมเต็มคลังความรู้ดิจิทัล ร่วมอัพโหลดคลิปวิดีโอสุดฮิต พิชิตของรางวัลโดนใจ
« on: June 17, 2010, 02:59:15 PM »
ทรูชวนเติมเต็มคลังความรู้ดิจิทัล ร่วมอัพโหลดคลิปวิดีโอสุดฮิต พิชิตของรางวัลโดนใจ ผ่านเว็บไซต์ www.trueplookpanya.com
กลุ่มทรู ชวนสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ร่วมเพิ่มพูนข้อมูล สาระความรู้ในคลังความรู้ดิจิทัล www.trueplookpanya.com เพื่อประโยชน์ของเยาวชนไทยทั่วประเทศกับกิจกรรม ”อัพโหลดคลิปวิดีโอสุดฮิต พิชิตของรางวัลโดนใจ” เพียงส่งคลิปวีดีโอแบ่งปัน ประสบการณ์ความรู้มาที่เว็บไซต์ www.trueplookpanya.com พร้อมลุ้นรับของรางวัลเน็ตบุ๊ค เป็นประจำทุกเดือน หรือร่วมโหวตคลิปวิดีโอยอดเยี่ยมลุ้นรับรางวัลโทรศัพท์มือถือทุกเดือน ตั้งแต่กรกฎาคม ถึงธันวาคมนี้ พร้อมรับสิทธิลุ้นรางวัลใหญ่ โทรศัพท์มือถือ iPhone 3GS สำหรับสมาชิกที่อัพโหลดคลิปวิดีโอร่วมแบ่งปันมากที่สุด และอีก 1 รางวัลสำหรับสมาชิกที่ร่วมโหวตสูงสุด ติดตามรายละเอียดที่เว็บไชต์ www.trueplookpanya.com
นางเนตรชนก วิภาตะศิลปิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานทรูปลูกปัญญาดอทคอม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอม www.trueplookpanya.com เป็นคลังความรู้ดิจิทัล ที่กลุ่มทรูตั้งใจพัฒนาให้เยาวชนรุ่นใหม่ทั่วประเทศได้เปิดโลกการเรียนรู้ ด้วยเนื้อหา สาระ ครอบคลุมทุกความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ทั้งเป็นเครือข่ายสังคมการศึกษาที่มีการแบ่งปันข้อมูลในรูปแบบมัลติมีเดียหลากหลาย โดยมีสมาชิกอัพโหลดคลิปวิดีโอความรู้ต่างๆ เข้ามาแล้วกว่า 20,000 คลิป และยังต้องการความรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพิเศษช่วงนี้จัดกิจกรรม ”อัพโหลดคลิปวิดีโอสุดฮิต พิชิตของรางวัลโดนใจ” ชวนแบ่งปันความรู้อัพโหลด คลิปวิดีโอแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ที่มีเนื้อหา ครอบคลุมทั้ง 8 กลุ่มสาระวิชา คือ วิชาภาษาไทย, วิชาคณิตศาสตร์, วิชาวิทยาศาสตร์, วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา, วิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์, วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี และวิชาภาษาต่างประเทศ รวมทั้งกิจกรรมนอกห้องเรียน สำหรับเยาวชนตั้งแต่ระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งคลิปวิดีโอที่ส่งเข้ามาจะต้องจัดทำขึ้นเองไม่ลอกเลียนแบบหรือละเมิดลิขสิทธิ์งานของผู้อื่น สำหรับสมาชิกเจ้าของคลิปวิดีโอที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดแต่ละเดือนจะได้รับรางวัล Netbook 1 รางวัล และสมาชิกที่ร่วมโหวตจะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลโทรศัพท์มือถือ 1 รางวัล โดย 1 โหวตเท่ากับ 1 สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่ 15 มิถุนายน – ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ สมาชิกที่ร่วมสนุกยังได้สิทธิร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่โทรศัพท์มือถือ iPhone 3GS ในเดือนธันวาคม ซึ่งจะมอบให้กับผู้ที่อัพโหลดคลิปวิดีโอเข้ามามากที่สุด 1 เครื่อง และผู้ที่มีจำนวนโหวตสูงสุด 1 เครื่อง ยิ่งอัพโหลดมาก ยิ่งโหวตมากก็จะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมากขึ้น ซึ่งสมาชิกแต่ละท่านสามารถโหวตได้ไม่จำกัดจำนวนคลิป โดยแต่ละคลิปวิดีโอสามารถโหวตได้เพียง 1 ครั้งภายใน 4 ชั่วโมงเท่านั้น
“ขอเชิญชวนร่วมเปิดโลกทัศน์และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ให้ผู้เข้าเว็บไซต์เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ เพื่อสร้างสรรค์ แลกเปลี่ยน และแบ่งปันเนื้อหาการเรียนรู้ร่วมกันตลอดเวลา โดยมั่นใจว่าเว็บไซต์ trueplookpanya.com อีกรูปแบบหนึ่งของการศึกษานอกห้องเรียน จะมีส่วนยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เยาวชนไทยทั่วประเทศสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ต่างๆ ได้อย่างทัดเทียมกัน “ นางเนตรชนก กล่าวสรุป
กลุ่มทรู ชวนสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ร่วมเพิ่มพูนข้อมูล สาระความรู้ในคลังความรู้ดิจิทัล www.trueplookpanya.com เพื่อประโยชน์ของเยาวชนไทยทั่วประเทศกับกิจกรรม ”อัพโหลดคลิปวิดีโอสุดฮิต พิชิตของรางวัลโดนใจ” เพียงส่งคลิปวีดีโอแบ่งปัน ประสบการณ์ความรู้มาที่เว็บไซต์ www.trueplookpanya.com พร้อมลุ้นรับของรางวัลเน็ตบุ๊ค เป็นประจำทุกเดือน หรือร่วมโหวตคลิปวิดีโอยอดเยี่ยมลุ้นรับรางวัลโทรศัพท์มือถือทุกเดือน ตั้งแต่กรกฎาคม ถึงธันวาคมนี้ พร้อมรับสิทธิลุ้นรางวัลใหญ่ โทรศัพท์มือถือ iPhone 3GS สำหรับสมาชิกที่อัพโหลดคลิปวิดีโอร่วมแบ่งปันมากที่สุด และอีก 1 รางวัลสำหรับสมาชิกที่ร่วมโหวตสูงสุด ติดตามรายละเอียดที่เว็บไชต์ www.trueplookpanya.com
นางเนตรชนก วิภาตะศิลปิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานทรูปลูกปัญญาดอทคอม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอม www.trueplookpanya.com เป็นคลังความรู้ดิจิทัล ที่กลุ่มทรูตั้งใจพัฒนาให้เยาวชนรุ่นใหม่ทั่วประเทศได้เปิดโลกการเรียนรู้ ด้วยเนื้อหา สาระ ครอบคลุมทุกความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ทั้งเป็นเครือข่ายสังคมการศึกษาที่มีการแบ่งปันข้อมูลในรูปแบบมัลติมีเดียหลากหลาย โดยมีสมาชิกอัพโหลดคลิปวิดีโอความรู้ต่างๆ เข้ามาแล้วกว่า 20,000 คลิป และยังต้องการความรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพิเศษช่วงนี้จัดกิจกรรม ”อัพโหลดคลิปวิดีโอสุดฮิต พิชิตของรางวัลโดนใจ” ชวนแบ่งปันความรู้อัพโหลด คลิปวิดีโอแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ที่มีเนื้อหา ครอบคลุมทั้ง 8 กลุ่มสาระวิชา คือ วิชาภาษาไทย, วิชาคณิตศาสตร์, วิชาวิทยาศาสตร์, วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา, วิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์, วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี และวิชาภาษาต่างประเทศ รวมทั้งกิจกรรมนอกห้องเรียน สำหรับเยาวชนตั้งแต่ระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งคลิปวิดีโอที่ส่งเข้ามาจะต้องจัดทำขึ้นเองไม่ลอกเลียนแบบหรือละเมิดลิขสิทธิ์งานของผู้อื่น สำหรับสมาชิกเจ้าของคลิปวิดีโอที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดแต่ละเดือนจะได้รับรางวัล Netbook 1 รางวัล และสมาชิกที่ร่วมโหวตจะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลโทรศัพท์มือถือ 1 รางวัล โดย 1 โหวตเท่ากับ 1 สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่ 15 มิถุนายน – ธันวาคมนี้
นอกจากนี้ สมาชิกที่ร่วมสนุกยังได้สิทธิร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่โทรศัพท์มือถือ iPhone 3GS ในเดือนธันวาคม ซึ่งจะมอบให้กับผู้ที่อัพโหลดคลิปวิดีโอเข้ามามากที่สุด 1 เครื่อง และผู้ที่มีจำนวนโหวตสูงสุด 1 เครื่อง ยิ่งอัพโหลดมาก ยิ่งโหวตมากก็จะมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมากขึ้น ซึ่งสมาชิกแต่ละท่านสามารถโหวตได้ไม่จำกัดจำนวนคลิป โดยแต่ละคลิปวิดีโอสามารถโหวตได้เพียง 1 ครั้งภายใน 4 ชั่วโมงเท่านั้น
“ขอเชิญชวนร่วมเปิดโลกทัศน์และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ให้ผู้เข้าเว็บไซต์เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ เพื่อสร้างสรรค์ แลกเปลี่ยน และแบ่งปันเนื้อหาการเรียนรู้ร่วมกันตลอดเวลา โดยมั่นใจว่าเว็บไซต์ trueplookpanya.com อีกรูปแบบหนึ่งของการศึกษานอกห้องเรียน จะมีส่วนยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เยาวชนไทยทั่วประเทศสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ต่างๆ ได้อย่างทัดเทียมกัน “ นางเนตรชนก กล่าวสรุป
15
news & activity / TMIใจป้ำแจกปันผล5สตางค์
« on: June 17, 2010, 02:58:28 PM »
TMIใจป้ำแจกปันผล5สตางค์
บอร์ดธีระมงคล อุตสาหกรรม ไฟเขียวนำกำไรสะสมงวดปี 52 เกือบ 24 ล้านบาท เตรียมแจกปันผลผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมทั้งหมด 16 ล้านบาท คาดกำหนดจ่ายปลายเดือนกรกฎาคมนี้
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด(มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมบริษัท ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2553 มีมติอนุมัติให้บริษัทจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงาน งวดปี 2552 (1 ม.ค.-31 ธ.ค.52) ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นจำนวน 320 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 16 ล้านบาท โดยในปี 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23.63 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา และลงมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ต่อไปโดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date) เพื่อพิจารณามติดังกล่าวในวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม 2553 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทรัลเพลส จ.สมุทรสาคร ทั้งนี้จะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 30 กรกฎาคม 2553
นายสมภพ ศักดิ์ พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า อัตราการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วนการจ่ายประมาณ 68% ของกำไรสุทธิประจำปี 2552 ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานของปีที่แล้ว ประกอบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2553 มีผลประกอบการกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมีการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอต่อการขยายการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต
บอร์ดธีระมงคล อุตสาหกรรม ไฟเขียวนำกำไรสะสมงวดปี 52 เกือบ 24 ล้านบาท เตรียมแจกปันผลผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมทั้งหมด 16 ล้านบาท คาดกำหนดจ่ายปลายเดือนกรกฎาคมนี้
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด(มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมบริษัท ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2553 มีมติอนุมัติให้บริษัทจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงาน งวดปี 2552 (1 ม.ค.-31 ธ.ค.52) ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นจำนวน 320 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 16 ล้านบาท โดยในปี 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิ 23.63 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา และลงมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ต่อไปโดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date) เพื่อพิจารณามติดังกล่าวในวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม 2553 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทรัลเพลส จ.สมุทรสาคร ทั้งนี้จะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 30 กรกฎาคม 2553
นายสมภพ ศักดิ์ พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า อัตราการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วนการจ่ายประมาณ 68% ของกำไรสุทธิประจำปี 2552 ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานของปีที่แล้ว ประกอบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2553 มีผลประกอบการกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมีการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอต่อการขยายการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต