Recent Posts

Pages: 1 ... 8 9 [10]
91
แอ็กซอลตา เปิดตัวผลิตภัณฑ์แห่งนวัตกรรม ซูเปอร์พาวเวอร์ เคลียร์ “โครแมกซ์ 3060S”
เคลียร์ 2K ประสิทธิภาพสูงสุด เงาวับ แห้งเร็วพร้อมประหยัดพลังงาน


              บริษัท แอ็กซอลตา โค้ทติ้ง  ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำสีพ่นรถยนต์ระดับโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “โครแมกซ์ 3060S” เคลียร์โค้ทเคลือบเงาแบบ 2K ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งให้ทั้งความเงางามที่ดีเยี่ยม และผลิตผลในการทำงานสูง แม้สภาวะอุณหภูมิและความชื้นสูง ระยะการแห้งตัวเร็วเป็นพิเศษ เลือกได้ด้วยการแบบไม่อบ หรืออบแบบสั้น ๆ 15นาที ช่วยให้ประหยัดเวลาและประหยัดพลังงาน สามารถพ่นทับหน้าได้ทั้งสีจริงระบบน้ำและระบบโซลเว้นท์ การใช้งานคู่กับตัวเร่งได้หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน รวมถึงการทำงานพ่นซ่อมแบบเฉพาะจุด พ่นทั้งบานและรอบคัน


              แอ็กซอลตา มุ่งมั่นในการตอบโจทย์ความต้องการของช่างสีรถมืออาชีพอย่างแท้จริง เทคโนโลยีใหม่จาก โครแมกซ์ 3060S นี้ ใช้งานง่าย มาพร้อมความหลากหลาย ช่วยให้ช่างมืออาชีพพลิกฟื้นรถยนต์ให้เหมือนสีรถที่พ่นใหม่ในพริบตา สามารถเพิ่มปริมาณงานพ่นด้วยคุณสมบัติของการแห้งตัวเร็วเป็นพิเศษ มีให้เลือกทั้งอบ 15 นาทีที่ 60°C, อบ 30 นาทีที่ 40°C หรือทิ้งให้แห้งโดยไม่อบ 1.5 - 2 ชั่วโมง อีกทั้งพ่นทับสีจริงได้บนสีพ่นซ่อมรถยนต์ทั่วไปและสีพ่นรถยนต์สูตรน้ำ เหมาะทั้งงานพ่นซ่อมรถแบบเฉพาะจุด พ่นทั้งบานหรือพ่นซ่อมแบบทั้งคัน ใช้ร่วมกับตัวเร่งและทินเนอร์ของ โครแมกซ์ ทั่วไปที่มีใช้อยู่แล้วได้ ให้ผลลัพธ์ที่มั่นใจด้วยการพ่น 2 เที่ยว โดยทิ้งช่วงเที่ยวพ่นเพียงสั้น ๆ เท่านั้น




              ผู้ที่สนใจกรุณาติดต่อตัวแทนจำหน่าย หรือศูนย์ซ่อมรถที่ท่านสะดวก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 734 5001 หรือ https://www.cromax.com/th/










###

เกี่ยวกับ แอ็กซอลตา

แอ็กซอลตา เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ในธุรกิจสีเคลือบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมแห่งสีสัน สูตรสีที่สวยงามคงทน พร้อมด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อยานพาหนะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ สีเพื่องานพ่นซ่อม อุปกรณ์ ส่วนประกอบที่เป็นไฟฟ้า อาคาร ท่อส่งน้ำ สีของแอ็กซอลตาทนทานต่อการกัดกร่อน เพิ่มประสิทธิภาพ ให้สีติดทนนาน ด้วยประสบการณ์กว่า 150 ปี ในอุตสาหกรรมสีเคลือบ ตอบสนองกลุ่มลูกค้ากว่า 100,000 คน ดำเนินธุรกิจใน 140 ประเทศทั่วโลก แอ็กซอลตาพร้อมตอบสนองลูกค้าด้วยการนำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ดีที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมที่ axalta.co.th
92
สุดมันส์!! จ็อฟเฟอร์ มอนทาโน นักชกฟิลิปปินส์โชว์ฟอร์มดุไล่ถลุงน็อคผหาดคว้าแชมป์ WBO ORIENTAL รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ที่ว่างมาครองสุดสวย ศึก NRIS HIGHLAND THE BOX BOXING PROMOTIONS


เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ที่เวทีมวยชั่วคราว WSS ตะวันนา บางกะปิ กรุงเทพฯ มีการจัดการแข่งขันชกมวยชิงแชมป์โลก ในศึก NARIS HIGHLAND THE BOX BOXING PROMOTIONS โดยมี นายนริส สิงห์วังชา ประธานที่ปรึกษาและประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF พร้อมด้วย พล ต.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ การประกบคู่มวยโดยสองยอดโปรโมเตอร์ไทย-ฟิลิปปินส์ นายศุภณัฐ จันทร์แรม และ บริโก้ แซนติ๊ก และแพทย์ประจำสนามแข่งขัน นายจิระศักดิ์ บุปผาชาติ


โดยคู่เอกของรายการเป็นการชิงที่ว่าง WBO ORIENTAL รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ที่ว่างกำหนด 10 ยก นักชกจอมเก๋าอันตรายจากฟิลิปปินส์ จอฟเฟอร์ มอนทาโน พบกับนักชกไทยฟอร์มสดซ้ายอันตราย อัฉริยะ เสถียรมวยไทยยิม เริ่มยกแรก มอนทาโน อาศัยความสูงใหญ่เดินเข้าหาออกหมัดซ้ายได้รุนแรง ด้าน อัฉริยะ แม้เสียเปรียบรูปร่าง รอสวนจังหวะสองฮุคขวาเข้าลำตัวแต่ไม่หนักพอ มาถึงต้นยก 2 มอนทาโน ได้จังหวะซ้ายตรงเข้าปลายคาง อัฉริยะ เต็มๆ ถึงกับร่วงให้กรรมการ แสวง ทวีคูณ นับถึง 8 ชกต่อได้ มอนทาโน ไม่ปล่อยโอกาสเข้าถลุงลำตัวและใบหน้าเต็มๆ อัฉริยะ ถึงกับร่วงทั้งยืนปล่อยกรรมการนับถึง 10 ในยกที่สองนี้เองทำให้ จอฟเฟอร์ มอนทาโน คว้าแชมปฺ์ WBO ORIENTALรุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ ที่ว่างมาครองอย่างสุดสวย




ด้านคู่ชิงแชมปฺ์สหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF Continental รุ่นครุยเซอร์เวท 200 ปอรด์ ขึ้นไปกำหนด10 ยก ระหว่างนักชกจากอาร์เซอร์ใบจันทร์ ทาเยฟ จาฟารอฟ กับนักชกจากอินโดนีเซีย อเล็กซานเดอร์ บาจาวา เกมส์จบลงเร็วเกินคาดแค่ยกที่1 เมื่อ จาฟารอฟ อาศัยความใหญ่สด ต่อยตัดลำตัวรุนแรงถึงกับทิังตัวลงไปนอนอย่าง่ายดายด้วยเวลา1.45 นาที ทำให้ ทาเยฟ จาฟารอฟ คว้าแชมป์มาครองอย่างสมใจ




อีกคู่ชิงแชมป์ WBC Asia  Silver รุ่นเฟเธอร์เวท 126 ปอนด์ที่ว่าง 10 ยก ระหว่าง ไทเคิล อันตูยาน จากรัสเซีย ชนะทีเคโอ ยก 1 จักรกฤษ รัชกุล คว้าแชมป์มาครอง

คู่ประกอบรายการอุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท 154 ปอนด์ มาดิ ซาบาสบัก อิหร่านชนะทีเคโอยก 2 บำเหน็จ รุ่งเรืองยิม






อุ่นเครื่อง 8 ยก รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ มวยหญิง เสาวลักษณ์ สิงห์มนัสศักดิ์ยิม ชนะคะแนน โรทีเซีย คัมพาน่า จากฝรั่งเศส

อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์เฟเธอร์เวท 130 ปอนด์ การ์เซล ลีเซีย อิหร่าน ชนะทีเคโอยก 3 รัศมี มานพชัยยิม

อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ เจสซี่เบล ปากาดัว ฟิลิปปินส์ชนะคะแนน ภาณุมาศ พรหมทา มวยหญิง









อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท 175 ปอนด์ อัสทเวส ฮาโรยัน แอลมาเนีย ชนะทีเคโอยก 1รุ่งโรจน์ มานพชัยยิม

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นไลท์เวท 135 ปอนด์ ซาง ยอน คิม  เกาหลีชนะแตก ยก1มาโนช คำพุต

อุ่นเครื่อง 8 ยก รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท 115 ปอนด์ มวยหญิง แองเจลีน่า ลูคัส คาซุกสถาน ขนะคะแนนธรรณวรัตน์ แสงเย็นจิต

อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นไลท์เวท 135 ปอนด์ ชาง ยอน คิม ชนะแตกยก 1 มาโนช คำพุต

ปิดท้ายด้วย อุ่นเครื่อง 8 ยก โตขิฮิโก อีล่า ญี่ปุ่น ชนะทีเคโอยก 2 ฟังกี้ โรฮิ


ส่วนไฟต์ต่อไป "บริโก้ แซนติ๊ก" จะมอบความสนุกตื่นเต้น เร้าใจให้แฟนมวยทั้งชาวไทยและต่างชาติรับชมอีกครั้ง โปรดติดตามข่าวสารความคืบหน้าต่อไป
93
วิเคราะห์และถอดบทเรียนปัญหาเครนถล่มซ้ำซาก


จากเหตุการณ์เครนถล่มที่จังหวัดระยองเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 ราย ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย ระบุ ว่าขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่เหตุการณ์เครนถล่มครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต ถือได้ว่าเป็นปัญหาซ้ำซากที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้หมดไปได้

จากเหตุการณ์เครนที่ถล่มในครั้งนี้ ศ.ดร.อมร ตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นปั้นจั่นชนิดหอสูง หรือ Tower crane เพราะดูจากภาพแล้วมีความสูงหลายสิบเมตรจากระดับพื้นดิน ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง ความแข็งแรงของปั้นจั่นหอสูงประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับ 1. กำลังรับน้ำหนักของโครงเหล็กถัก 2. เสถียรภาพหรือการทรงตัวและ 3. ฐานรองรับ

แนวทางการวิเคราะห์สาเหตุการถล่ม คงต้องเริ่มจากวางกรอบประเด็นการวิเคราะห์ไว้ 6 ปัจจัย ได้แก่

1.   ขั้นตอนการติดตั้ง การรื้อถอน การประกอบหรือการเพิ่มความสูงของเครน ไม่ถูกวิธี หรือไม่เป็นไปตามคำแนะนำของผู้ผลิต
2.   การใช้งานไม่ถูกต้อง เช่น ยกของเกินพิกัดน้ำหนักบรรทุก
3.   ขาดการตรวจสอบก่อนใช้งาน
4.   วัสดุเสื่อมสภาพ หรือ การยึดระหว่างชิ้นส่วนต่างๆของเครน หรือ การยึดระหว่างเครนกับโครงสร้าง ไม่ครบถ้วน
5.   ปัจจัยด้านธรรมชาติ เช่น ลม พายุ
6.   ผู้ปฏิบัติงานประสบการณ์ หรือขาดความรู้ และไม่มีผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน


ทั้งนี้ จากสถิติในอดีต พบว่าสาเหตุของเครนถล่มมักจะเกิดขึ้นในระหว่างการประกอบติดตั้ง หรือเพิ่มความสูงถึง 42 % และเกิดจากการใช้งานไม่ถูกต้อง 27% สำหรับกรณีที่ระยองนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ ต้องรวบรวมข้อมูลรายละเอียดเพื่อประกอบการวิเคราะห์สาเหตุต่อไป

เนื่องจากปั้นจั่นหอสูงจัดเป็นทั้งโครงสร้าง และ เครื่องจักร ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปั้นจั่น หลายฉบับได้แก่ พ.ร.บ.วิศวกร 2542 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่นและหม้อน้ำ ปี 2564 แต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุซ้ำซากอีก

ในกฎหมายเหล่านี้ ได้มีการกำหนดมาตรการและบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายในการใช้งานเครนอย่างปลอดภัย ได้แก่ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย วิศวกรเครื่องกลที่ตรวจสอบเครน วิศวกรโยธาควบคุมงานก่อสร้าง ตลอดถึงจนเจ้าของงาน และในส่วนของการใช้งานเครน กฎหมายก็ยังกำหนดให้ต้องมี ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณ ผู้ยึดเกาะวัสดุ และผู้ควบคุมการใช้ปั่นจั่น

ศ.ดร.อมร กล่าวต่อว่า กฎหมายต่างๆที่ออกมานั้น ถือได้ว่ามีความครอบคลุมอยู่แล้ว แต่ปัญหาใหญ่คือการบังคับใช้และการตรวจสอบ แม้ว่าเราจะมีกฎหมายที่ดีและครอบคลุมเพียงใด แต่หากละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักทางวิศวกรรมที่มีอยู่ ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ทั้งนี้ มาตรการที่ภาครัฐควรพิจารณาคือ ต้องเพิ่มแนวทางการตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ให้เคร่งครัดและกำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างจริงจังต่อไป
94
โอมาซ และ เอส เอฟ เปิดตัว CINEMA OF HAPPINESS
อวดโฉมใหม่ “เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว”
พิเศษกับโรงภาพยนตร์ “THE BED CINEMA BY OMAZZ”
ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์บันเทิง




เสริมความยิ่งใหญ่ โอมาซ (Omazz®) แบรนด์เครื่องนอนระดับโลก จับมือ บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อวดโฉมใหม่ “โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีนีม่า สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว”  ภายใต้คอนเซ็ปต์ CINEMA OF HAPPINESS มอบความสุขให้ทุกไลฟ์สไตล์ เปิดโรงภาพยนตร์ “THE BED CINEMA BY OMAZZ” แห่งใหม่พร้อมต้อนรับทุกคนแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!


คุณทีปกร โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอมาซซ์ โฮลดิ้ง จำกัด เผยว่า “ตั้งแต่การเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ THE BED CINEMA by Omazz® ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีนีม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และที่สาขา เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา เราได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ซึ่งนอกจากกลุ่มลูกค้าของ Omazz® เองแล้ว เรายังพบว่ามีกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งนักศึกษา และวัยทำงาน เข้าไปใช้บริการโรงภาพยนตร์ THE BED CINEMA by Omazz® เป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงกับจุดประสงค์ของเราที่ต้องการส่งมอบประสบการณ์และสัมผัสการพักผ่อนที่ดีที่สุดจาก Omazz® ไปถึงผู้บริโภคทุกคน


สำหรับโรงภาพยนตร์ THE BED CINEMA by Omazz® สาขาใหม่ที่ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีนีม่า เซ็นทรัล ลาดพร้าว ทางโอมาซได้นำเตียงนอนไฟฟ้ารุ่น Adjusto™ รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้บริการ พร้อมเครื่องนอนคุณภาพดีที่สุดอย่าง Omazz Tencel® และผ้ารองกันเปื้อนกันน้ำและไรฝุ่น Omazz® Fresca ทุกที่นั่ง นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้บริการเลาจน์รับรองพิเศษที่ถูกออกแบบให้เหมือนกับได้พักผ่อนในห้องนั่งเล่นซึ่งถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นพิเศษจาก ‘ไลบรารี่ คาซ่า (Library Casa)’ ที่ได้รับการเลือกสรรค์โดย Designer จาก Shiang Hai มาพร้อมป๊อปคอร์นและเครื่องดื่ม ให้บริการก่อนรอบฉายภาพยนตร์ 30 นาที และสามารถนำเข้าไปรับประทานได้ตลอดการชมภาพยนตร์ ด้วยค่าบริการเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท เราเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ชมภาพยนตร์ที่ท่านจะได้รับจาก THE BED CINEMA by Omazz® จะเป็นมากกว่าความสุขจากความบันเทิง แต่ยังรวมถึงความสุขจากประสบการณ์การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบและเอาใจใส่สิ่งแวดล้อม เหมือนปรัชญาของแบรนด์โอมาซที่ว่า ‘Peace is true happiness.’ อีกด้วยครับ” คุณทีปกรกล่าว


คุณสุวิทย์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เอส เอฟ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโรงภาพยนตร์เพื่อตอบโจทย์คนทุกกลุ่มที่ทุกไลฟ์สไตล์ โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราได้ทยอยรีโนเวทสาขาต่างๆ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในการชมภาพยนตร์ให้กับลูกค้า สำหรับโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีนีม่า สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ถือเป็นหนึ่งในสาขาสำคัญที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ศักยภาพ และมีผู้ใช้บริการสูงเป็นอันดับต้นๆ ของ เอส เอฟ ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา เอส เอฟ จึงได้ปรับโฉมโรงภาพยตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีนีม่า สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว  ครั้งใหญ่ ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และภายใน 10 โรงภาพยนตร์ รวมกว่า 2,000 ที่นั่ง โดยตั้งเป้าให้เป็น CINEMA OF HAPPINESS หรือโรงภาพยนตร์แห่งความสุขของทุกคน ด้วยโรงภาพยนตร์พิเศษและประเภทที่นั่งที่ดีที่สุดของ เอส เอฟ  ไม่ว่าจะเป็น โรงภาพยนตร์ Zigma Cinestadium presented by C2 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีด้านภาพและเสียงที่ดีที่สุดของไทยในขณะนี้ รวมไปถึงระยะห่างระหว่างที่นั่งแบบ Super Stadium Seat ที่กว้างและสบายกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไป, ที่นั่งประเภท First Class เบาะหนังปรับเอนไฟฟ้า ที่กว้างเป็นพิเศษ พร้อมบริการอาหารและเครื่องดื่มในเลาจน์ก่อนรอบฉาย 1 ชั่วโมง และบริการเสิร์ฟป๊อปคอร์น-เครื่องดื่ม ภายในโรงภาพยนตร์ตลอดรอบฉาย


และไฮไลท์สำคัญกับการร่วมมือกันสร้างปรากฏการณ์สุดพิเศษอีกครั้งของเอส เอฟ และ โอมาซ (Omazz®) กับ โรงภาพยนตร์ ‘THE BED CINEMA by Omazz®’  ที่เรายกเตียงนวดปรับระดับไฟฟ้า Adjusto™  เข้ามาไว้ในโรงภาพยนตร์ โดยหลังจากประสบความสำเร็จมาแล้ว 2 แห่ง เราได้นำประสบการณ์มาพัฒนา THE BED CINEMA by Omazz® ที่ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีนีม่า สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ให้มีความพิเศษยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการออกแบบทั้งด้านนอกและภายในโรงภาพยนตร์ รวมถึงเลาจน์รับรองที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น”


CINEMA OF HAPPINESS โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีนีม่า สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว โฉมใหม่ เปิดให้บริการแล้ววันนี้ พร้อมเชิญสัมผัสประสบการณ์ “ALL THE BEST, AT THE BED CINEMA BY OMAZZ ที่สุดของประสบการณ์ชมภาพยนตร์บนที่สุดของที่นอน” กับ “THE BED CINEMA by Omazz®” แห่งใหม่ล่าสุด โดยสามารถตรวจสอบรอบฉาย-ซื้อบัตรชมภาพยนตร์ได้ผ่านแอปพลิเคชั่น SF Cinema และ www.sfcinema.com พร้อมทั้งสามารถติดตามข่าวสารและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านโซเชียลมีเดีย SF Cinema หรือ #SFcinema











95
Bose-Backed สมาร์ทวอทช์แบรนด์ Noise เปิดตัวในไทยบน Shopee และ Lazada

ด้วยแรงหนุนกลยุทธ์การลงทุนจากบริษัทเครื่องเสียงยักษ์ใหญ่อย่าง Bose Noise ตอบสนองความต้องการอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะของผู้บริโภคในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นด้วยการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ที่ขายดีที่สุด


Noise แบรนด์สมาร์ทวอทช์ชั้นนำระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจาก Bose ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเสียงชื่อดัง ได้ประกาศเปิดตัวในประเทศไทย การทำงานร่วมกันของ Bose และ Noise จะเปลี่ยนภูมิทัศน์อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะทั่วโลก ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนภารกิจของ Noise ในการช่วยให้ผู้คนสามารถบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อสิ่งที่ดี ในขณะเดียวกันก็ทำให้สามารถขยายขอบเขตการดำเนินงานทั่วโลกได้ การขยายธุรกิจครั้งนี้ตอกย้ำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและความทุ่มเทของแบรนด์ในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคในระดับโลก


แบรนด์ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังชั้นนำอย่าง ช้อปปี้ง และ ลาซาด้า เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่สู่ตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้สะดวก

Shopee official store https://shopee.co.th/gonoise
Lazada official store https://www.lazada.co.th/shop/noise-smartwatch


ปัจจุบัน Noise เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่ติดตามข้อมูลของ IDC Worldwide Wearable Device Tracker และเป็นแบรนด์อินเดียแบรนด์แรกที่สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้เล่นสมาร์ทวอทช์ 3 อันดับแรกของโลกจากข้อมูลของ Canalys ซึ่ง Noise ยังเป็นผู้นำสมาร์ทวอทช์ในด้านการพัฒนาสมาร์ทวอทช์ที่ใหญ่ที่สุดเเละตลาดสมาร์ทวอทช์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียในช่วงสามปีที่ผ่านมา

นวัตกรรมที่เน้นการออกแบบ เทคโนโลยีล้ำสมัย และปรัชญาการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากผู้บริโภค สิ่งเหล่านี้จะเป็นรากฐานสำหรับแบรนด์ Noise ในการเข้าสู่ตลาดมากขึ้น


Gaurav Khatri ผู้ร่วมก่อตั้ง Noise แสดงความกระตือรือร้นเกี่ยวกับการขยายแบรนด์เข้ามาในประเทศไทย โดยกล่าวว่า "ในฐานะหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่เราเชื่อว่าจะตอบรับความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งอนาคต เรามุ่งหวังที่จะยกระดับไลฟ์สไตล์และกำหนดมาตรฐานใหม่ในตลาดออนไลน์นี้ด้วยสินค้าเเนะนำที่ขายดีที่สุดของเรา การขยายตัวนี้ไม่ได้เป็นเพียงบทใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในการเดินทางของเราเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้บริโภคทั่วโลกโดยเริ่มจากประเทศไทย ยุคใหม่แห่งความเป็นเลิศและการเติบโต”

Noise ได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย 5 รุ่น ได้แก่ Noise ColorFit Loop, NoiseFit Twist, NoiseFit Endeavour, Noise ColorFit Pro 4 Alpha และ Noise ColorFit Pro 5 ซึ่งมอบความหลากหลายที่ครอบคลุมเพื่อประสบการณ์การสวมใส่ที่อัปเกรด ข้อเสนอของแบรนด์มีเป้าหมายเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะของผู้ใช้ โดยให้ทางเลือกที่หลากหลายในการอัปเกรดตัวเลือกไลฟ์สไตล์เพื่อปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของพวกเขา


Noise ColorFit Loop สร้างขึ้นด้วยการออกแบบตัวเครื่องอันทันสมัยและกระจกโค้ง 2.5D ในขณะที่ NoiseFit Twist จะแสดงหน้าจอ TFT ทรงกลมที่ชัดเจนควบคู่ไปกับเทคโนโลยี TruSync™ เพื่อการโทรผ่าน Bluetooth ที่ราบรื่น ด้วยเทคโนโลยี SOS และการออกแบบที่ทนทาน NoiseFit Endeavour มีประโยชน์สำหรับวัยรุ่นยุคใหม่ที่ต้องเดินทาง ในทางกลับกัน Noise ColorFit Pro 4 Alpha มีการควบคุมด้วยท่าทางและอัตราการรีเฟรชที่สูง 60 Hz เพื่อภาพที่คมชัด สุดท้ายนี้ Noise ColorFit Pro 5 ซึ่งเป็นสินค้าเเนะนำของแบรนด์ มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาที่ปรับแต่งได้ เทคโนโลยี SOS และการรองรับอิโมจิสำหรับการแสดงอารมณ์ของลูกค้า สมาร์ทวอทช์มาพร้อมกับ Noise Health Suite™ ในตัวเพื่อช่วยให้ผู้ใช้อัปเกรดไลฟ์สไตล์โดยการตรวจสอบตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่สำคัญ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ รูปแบบการนอนหลับ และระดับความเครียด และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อประสบการณ์ด้านสุขภาพที่ครอบคลุม

สินค้าจะวางจำหน่ายทางออนไลน์ที่แพลตฟอร์มชั้นนำ เช่น ช้อปปี้ และลาซาด้า และช่องทางออฟไลน์


Shopee official store https://shopee.co.th/gonoise
Lazada official store https://www.lazada.co.th/shop/noise-smartwatch

###

เกี่ยวกับ นอยส์

Noise ก่อตั้งขึ้นโดยมีภารกิจในการสร้างประชาธิปไตยให้กับไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมต่อกันสำหรับตลาดโลก ด้วยความที่ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางเป็นแกนหลัก Noise จึงได้คิดค้นนวัตกรรมด้านเสียง เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ และเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อชั้นนำและล้ำหน้าในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมที่ถือเป็นนวัตกรรมแรกของอุตสาหกรรมมากมายที่มอบให้กับเครดิตของเรา บริษัทได้ก้าวไปสู่อนาคตด้วยความรู้สึกที่เพิ่มมากขึ้นในการสร้างสรรค์ร่วมกันและนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ Noiseทำให้อุปกรณ์เสริมเทคโนโลยีส่วนบุคคลใหม่ล่าสุดมีจำหน่ายและราคาไม่แพงสำหรับผู้บริโภควัยหนุ่มสาว
96
จัดใหญ่ จัดเต็ม! ฟรีคอนเสิร์ตใหญ่เล่นน้ำกลางเมือง 
“FWD Music Live Fest 3 #TimeToPlaySongkran” โดย FWD ประกันชีวิต





            ฉลองวันไหลสงกรานต์ครั้งแรกที่กรุงเทพฯ เตรียมขนทัพศิลปินวัยรุ่นตัวท็อป สร้างความสุข ระเบิดความมันส์ และเปิดเวทีให้น้องๆ School Bands ปล่อยพลังโชว์ความสามารถทางดนตรี

          FWD ประกันชีวิต จัดฟรีคอนเสิร์ตใหญ่พร้อมสถานที่ให้เล่นน้ำกลางเมือง “FWD Music Live Fest 3 #TimeToPlaySongkran” ฉลองวันไหลสงกรานต์ครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ควบคู่กับการสร้างการรับรู้แบรนด์ ผ่านการใช้กลยุทธ์ Brand Experience สร้างการจดจำแบรนด์ ผ่านประสาทสัมผัสและการมีประสบการณ์ร่วม เพื่อให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจและไลฟ์สไตล์ของผู้คน มุ่งเจาะกลุ่ม Young Gen เตรียมขนทัพศิลปินเบอร์ต้นของประเทศ Palmy TATTOO Color,  POLYCAT , SARAH SALORA, ร่วมด้วยศิลปิน วัยรุ่นตัวท็อป  อาทิ Rooftop, Slapkiss, Chili Fish Cigarettes Summer George, Sauce, LYKN, Perses, Atlas, URBOY TJ และ Tillybird  AGAIN, BAMM, NaNon, 4EVE, PSYCHIC FEVER, Proxie สร้างความสุข ระเบิดความมันส์ และเปิดเวทีให้น้องๆ School Bands ปล่อยพลังโชว์ความสามารถทางดนตรีพร้อมชวนทุกคนร่วมเล่นน้ำ เติมความสุข สนุกกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ กับกิจกรรมตลอด 3 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 19-21 เมษายน 2567 นี้ ณ  ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์




          นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“FWD ประกันชีวิต”) กล่าวว่า “FWD ประกันชีวิต ประสบความสำเร็จกับการจัดงานฟรีคอนเสิร์ตทั้ง 2 ครั้ง เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม และตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 6,500 คนจากทั้งสองงานที่จัดไป โดยเรายังคงเดินหน้าสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์ผ่านการใช้กลยุทธ์ Brand Experience โดยใช้ Music Experience เป็นสื่อกลางในการคอนเนคกลุ่ม Young Gen ที่ชื่นชอบดนตรีได้มารวมตัวกัน  นอกจากนี้ เราได้ทำการสำรวจผู้บริโภค จากการวัดผลโดย Blackbox Research บริษัทชั้นนำด้านงานวิจัยและสำรวจข้อมูลทางการตลาดจากประเทศสิงคโปร์ พบว่า เราสามารถผลักดัน Brand Performance ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยผลสำรวจด้าน Brand Awareness เพิ่มขึ้น 5% จากการจัดฟรีคอนเสิร์ตครั้งที่ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน”




          “FWD Music Live Fest 3 #TimeToPlaySongkran” มีแนวคิดการจัดงานที่ถูกพัฒนาต่อยอดจาก Brand Campaign ในปีนี้คือ ชีวิตคิดแล้วต้องใช้ โดย FWD ประกันชีวิต อยากให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตให้เต็มที่ โดยเฉพาะความสนุกระดับประเทศที่เป็นสีสันของหน้าร้อนในประเทศไทยกับเทศกาลมหาสงกรานต์ 2567 ซึ่งถือว่าเป็นการจัดงานวันไหลครั้งแรกในกรุงเทพฯ โดยการจัดงานครั้งนี้ยังคงคอนเซ็ปท์ในรูปแบบของฟรีคอนเสิร์ตใหญ่กลางเมืองที่จัดต่อเนื่อง 3 วันเต็ม และเพิ่มเติมด้วยการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วม Celebrate living ด้วยกันมากขึ้น ควบคู่ไปกับการรับรู้ สัมผัส และมีประสบการณ์กับแบรนด์ FWD ประกันชีวิต นอกจากนี้ FWD ประกันชีวิต ยังเปิดโอกาสสร้างพื้นที่เปิดเวทีให้น้องๆ School Bands ได้แสดงความสามารถด้านดนตรีบนพื้นที่เดียวกับศิลปินชั้นนำ อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งจุด Check-in ของการเล่นสงกรานต์ที่ทุกคนไม่ควรพลาด” นางสาว        ปวริศา กล่าว

          กิจกรรม “FWD Music Live Fest 3 #TimeToPlaySongkran” จัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-21 เมษายน 2567 บริเวณลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ลงทะเบียนรับสิทธิ์หน้างาน เริ่มตั้งแต่เวลา 13:01 น. และคอนเสิร์ตเริ่มเวลา 14:00 น.เป็นต้นไป จำนวนจำกัด 800 ท่าน / วัน (ลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้างานวันต่อวันเท่านั้น) เปิดให้เข้าพื้นที่ร่วมงานได้ตั้งแต่เวลา 12:00 น.




          ภายในงานพบกับ DJ P-U ดีเจชื่อดังจาก EFM94 ที่จะมาร่วมเปิดแผ่นสร้างสีสันตลอด 3 วันเต็ม และเตรียมพบกับศิลปินนักร้องชื่อดัง ได้แก่

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2567   พบกับ    AGAIN, BAMM, NaNon, 4EVE, PSYCHIC FEVER, Proxie และ Palmy

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2567   พบกับ   Cigarettes Summer George, SARAH SALORA, Rooftop, Slapkiss, TATTOO Color และ POLYCAT

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2567 พบกับ  Chili Fish Sauce, LYKN, Perses, Atlas, URBOY TJ และ Tillybird

              “เราหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมของเราจะมีความสุข ความสนุก และได้รับประสบการณ์ที่ดีตามที่ทุกคนอยากออกไปใช้ชีวิต เพราะชีวิตคิดแล้วต้องใช้” นางสาวปวริศา กล่าวทิ้งท้าย




ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

          กลุ่มบริษัทเอฟดับบลิวดี เป็นธุรกิจประกันชีวิตในภูมิภาคเอเชีย มีลูกค้ามากกว่า 13  ล้านคนใน 10 ประเทศ รวมถึงในประเทศที่มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดด ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 พร้อมความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต ด้วยแนวคิดที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ เข้าใจง่าย และสร้างประสบการณ์เกี่ยวกับการประกันชีวิตที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.fwd.co.th หรือ www.facebook.com/FWDThailand

          Omne by FWD แอปพลิเคชันใหม่ ที่ช่วยให้การประกันเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ พร้อมฟีเจอร์ดีๆ อีกมากมาย ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ช่วยให้คุณสร้างนิสัยเล็กๆ สะสมความสำเร็จในทุกวัน สร้างความสำเร็จให้ทวีคูณ ไม่ว่าจะเป็นฟังเพลงปลุกพลัง เล่นเกมส์สร้างแรงบันดาลใจ ผ่อนคลายกับทุกท่วงทำนอง หรือวาดภาพผ่อนคลายอารมณ์ ให้คุณสร้างวันของคุณในแบบของคุณได้ด้วยแอปพลิเคชัน Omne พร้อมให้บริการในทุกประเทศของกลุ่มบริษัทเอฟดับบลิวดี ดาวน์โหลดฟรีผ่าน App Store และ Google Play ได้แล้ววันนี้ 


Omne by FWD
Every day, Your way.
97
กว่า 40 ปี แห่งความมุ่งมั่น เพื่อเอาชนะโรคมะเร็ง
ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
ส่งมอบการบริบาลครอบคลุมทุกมิติ





          โรคมะเร็ง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ในปี 2565 มีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 20 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 9.7 ล้านคน โดยคาดการณ์ว่าในปี 2593 จะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่มากกว่า 35 ล้านคน และจากสถิติโรคมะเร็งของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ในปี 2565 พบว่า แต่ละปีมีคนไทยป่วยเป็นมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 คน (หรือเฉลี่ย 400 คนต่อวัน) และเสียชีวิตประมาณ 83,000 คน

          โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ มีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะโรคมะเร็ง โดยไม่เพียงแต่ที่จะวินิจฉัย และให้การรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ (Effectiveness)  อย่างแม่นยำ (Precision medicine) และอย่างเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะหาวิธีการคัดกรองทางพันธุกรรมผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง (Advance genomic testing for cancer screening) การจัดการกับความเสี่ยง เพื่อป้องกัน และ/หรือการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง (Cancer risk reduction) ที่อาจจะเกิดขึ้น และการดูแลแบบประคับประคองแบบทุกมิติ (Comprehensive Palliative care) ในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ด้วยวิวัฒนาการด้านการแพทย์ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา และสหสาขาวิชาชีพ




          ภญ.ดร.อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ปัญหาโรคมะเร็งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะความเจ็บป่วย และคุณภาพชีวิตของประชากรทั้งในระดับประเทศและระดับโลก  โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในฐานะโรงพยาบาลเอกชนที่ให้การรักษาในระดับจตุตถภูมิ (Quaternary Care) พร้อมที่จะผลักดันและยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง และการคัดกรอง จัดการความเสี่ยง และการป้องกันโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ




          เรามีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากและโรคซับซ้อนได้อย่างครอบคลุม รวมถึงโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่จำเป็นต้องมีทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ (multidisciplinary team) ที่มีประสบการณ์ และมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาในทุกๆมิติให้ดียิ่งขึ้น โดยศูนย์มะเร็งฮอไรซัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลไทยโรงพยาบาลเดียวที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น Best Specialized Hospitals APAC 2023 ด้าน oncology  เป็นอีกทางเลือกและเป็นความหวังของผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัวที่จะได้รับการบริบาลทางสุขภาพเฉพาะโรคมะเร็ง




          นพ. ณรงค์ศักดิ์ เกียรติขจรธาดา หัวหน้าศูนย์มะเร็งฮอไรซันบำรุงราษฎร์, แพทย์ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยา และโลหิตวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ศูนย์มะเร็งฮอไรซันบำรุงราษฎร์ มีเป้าหมายในการให้การบริบาลรักษาโรคมะเร็งอย่างครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การดูแลเชิงป้องกัน การวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็ง รวมทั้งการเฝ้าติดตามป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ  โดยให้การดูแลรักษาที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง มุ่งเน้นการดูแลแบบเฉพาะบุคคล เพื่อรักษาโรคและอาการที่ซับซ้อน ที่แตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย




          โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีแพทย์ทั้งหมด รวม 1,400 คน เป็นแพทย์ประจำ เกือบ 400 คน มีแพทย์หลากหลายสหสาขาและแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง ครบทุก Sub Specialty ซึ่งทำให้เราสามารถจัดทีมแพทย์ที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งแต่ละรายได้ การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้น ทุกจุดทุกขั้นตอนมีความสำคัญ เราต้องป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในจุดต่างๆ ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ตลอดจนการเฝ้าติดตามผลการรักษา ซึ่งการที่เรามีทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน ทำให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดและนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีได้




          นพ. รุจาพงศ์ สุขบท รองประธานอาวุโสปฏิบัติการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน เป็นอีกหนึ่งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellence) ของบำรุงราษฎร์ ที่เราจะยกระดับการรักษาให้เป็นสถาบัน (Institute) ในปี 2567 นี้ โดยศูนย์มะเร็งฮอไรซัน ได้ให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งกว่า 12,500 คนต่อปี และมีผู้ป่วยใหม่กว่า 1,000 คนต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพของทีมแพทย์




          ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้การดูแลรักษาโรคมะเร็งที่ศูนย์มะเร็งฮอไรซันบำรุงราษฎร์แตกต่างจากที่อื่น คือ

1.   การดูแลรักษาด้วยประสบการณ์เฉพาะทางด้านโรคมะเร็งมากว่า 40 ปี
2.   การดูแลครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ป้องกัน วินิจฉัย และรักษาในทุก stage ของโรคมะเร็ง และออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
3.   การดูแลรักษาโรคมะเร็งแบบสหสาขาวิชาชีพ มีการประชุม Multidisciplinary Tumor Board และ Comprehensive Palliative Care
4.   การประยุกต์และผสมผสานปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีก้าวหน้า เช่น NGS มาร่วมในการวินิจฉัย และออกแบบการรักษาภาวะมะเร็งอย่างสมบูรณ์แบบ ให้มีความถูกต้องและแม่นยำ ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดี
5.   ความมุ่งมั่นที่จะไปสู่การคัดกรอง การวินิจฉัย และการรักษาที่แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ของการดูแลโรคมะเร็ง ด้วยการบูรณาการวิวัฒนาการทางการแพทย์พันธุศาสตร์




          นพ. ธนาวัฒน์ จิรกุลาภรณ์ แพทย์ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีการประชุม Multidisciplinary Tumor board หรือการประชุมของทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง เช่น อายุรแพทย์ด้านโรคมะเร็ง ศัลยแพทย์ด้านโรคมะเร็ง พยาธิแพทย์ รังสีแพทย์ผู้ชำนาญด้านโรคมะเร็ง เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการและเภสัชกร เพื่อหาวิธีการรักษาร่วมกัน

          โดยมีทีมผู้ชำนาญการทางด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถแปลผลการตรวจได้อย่างแม่นยำ เช่น แพทย์เฉพาะทางด้านเวชพันธุศาสตร์และนักพันธุศาสตร์, พยาธิแพทย์ผู้มีความชำนาญชั้นสูงด้านการตรวจชิ้นเนื้ออย่างละเอียดเพื่อวินิจฉัยเซลล์มะเร็งอย่างแม่นยำ, ทีมสหสาขาวิชาชีพเฉพาะทางทุกสาขาที่เกี่ยวข้องในการให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและร่วมจัดโปรแกรมการตรวจที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ยังมีการทบทวนและศึกษาแนวทางการรักษาใหม่ๆ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้จากระดับนานาชาติ (update guideline) ให้กับบุคลากรของศูนย์อย่างสม่ำเสมอ




          นพ. หฤษฎ์ สุวรรณรัศมี แพทย์ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อธิบายว่า การรักษามะเร็งในอดีต เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็ง จึงเริ่มทำการรักษาตามระยะอาการของโรค ซึ่งมักเป็นการรักษาด้วยวิธีฉายแสง เคมีบำบัด และการผ่าตัด ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ทั้งยังให้ผลข้างเคียงจากการรักษาค่อนข้างมาก เพราะเป็นการรักษาที่ทำให้เซลล์ปกติต้องถูกทำลายไปพร้อมกันกับเซลล์มะเร็ง แต่ปัจจุบัน มีการตรวจรักษามะเร็งแบบ Precision approach ซึ่งเป็นวิธีตรวจความผิดปกติระดับชีวโมเลกุล เพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีรักษามะเร็งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยในทุกระยะ โดยแพทย์จะทำการตรวจชิ้นเนื้อปัจจุบันของผู้ป่วย ก่อนจะนำมาวิเคราะห์หาความผิดปกติในระดับชีวโมเลกุล และเลือกใช้ยารักษาที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยแบบเฉพาะบุคคล ทำให้ผลข้างเคียงจากการรักษาลดลง ต่างจากการรักษามะเร็งด้วยวิธีเคมีบำบัด ทั้งยังเป็นการตรวจมะเร็งที่สะดวก ไม่ใช้เวลานานมาก เมื่อผู้ป่วยได้รับการตรวจมะเร็งแบบ Precision Cancer Medicine เพื่อหาความผิดปกติที่จำเพาะกับมะเร็ง จะช่วยให้แพทย์เลือกยาที่ช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงจากการรักษาได้มากขึ้น ลดระยะเวลาการฟื้นตัวของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ




          นพ. อภิชาต พานิชชีวลักษณ์ แพทย์ชำนาญการด้านรังสีรักษา และมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อธิบายว่ารังสีรักษาเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรคมะเร็ง โดยใช้รังสีพลังงานสูงฉายไปตำแหน่งของเซลล์มะเร็งเพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็งนั้น โดยเรามุ่งหวังให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรค หรือ  ลดอาการหรือความทรมาน เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ เป้าหมายของการใช้รังสีรักษา คือ การรักษาที่แม่นยำ ถูกต้อง,  ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงน้อยที่สุด หรือไม่มีผลข้างเคียง และ ลดระยะเวลาในการเข้ารับการรักษาด้วยรังสี เช่น การฉายรังสีโรคมะเร็งเต้านมในปัจจุบันใช้เวลาสั้นมากขึ้นจากเดิม 6 สัปดาห์เหลือเพียงแค่ 4 สัปดาห์ และในแต่ละครั้งของการใช้รังสีใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ในขณะที่การฉายรังสีในมะเร็งต่อมลูกหมาก ลดเวลาการรักษา จาก 8 สัปดาห์ เหลือ 3 สัปดาห์ เป็นต้น




          นพ. บวร วีระสืบพงศ์ แพทย์ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า ศูนย์มะเร็งฮอไรซันมีผลลัพธ์การรักษาที่ดีมาก เรามีอัตราการรอดชีวิตสูงเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานในสหรัฐอเมริกา ยกตัวอย่าง ผลลัพธ์การรักษาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม 450 คน จากสถิติในปี 2564-2565 พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ระยะ 1-3 มีอัตราการรอดชีวิตใน 1 ปี หลังได้รับการรักษา ถึง 100% ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 99%, 97% และ 94% (ตามลำดับระยะ 1-3) ในขณะที่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ระยะที่ 4 มีอัตราการรอดชีวิตใน 1 ปี สูงถึง 90% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 61%




          นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของยารักษามะเร็งที่ให้ในกลุ่มของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีข้อบ่งชี้ในการให้ยาก่อนการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นยาเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า หรือภูมิคุ้มกันบำบัด จากนั้นเอาชิ้นเนื้อจากการผ่าตัดไปตรวจหาเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่ พบว่าอัตราที่เซลล์มะเร็งจะถูกทำลายไปหมดจากการให้ยาก่อนผ่าตัด สำหรับผู้ป่วยที่รักษาที่ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน มีค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลที่สหรัฐอเมริกา ในทุกประเภทของมะเร็งเต้านม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน มีการเลือกใช้ยาที่มีประสิทธิภาพสูง และเหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งผลลัพธ์เหล่านี้ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของทีมแพทย์ในการวางแผนการรักษาอย่างละเอียดและแม่นยำ




          พญ. สุธิดา สุวรรณเวโช แพทย์ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยา และ Palliative Care โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า การดูแลแบบประคับประคอง สำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย (Palliative Cancer Care)  เป็นการดูแลที่มุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว ช่วยลดความทุกข์ทรมานทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ โดยจะคำนึงถึงความต้องการและความปรารถนาของผู้ป่วยและครอบครัวร่วมด้วยเสมอ โดยศูนย์มะเร็งฮอไรซันมีทีม Palliative Tumor Board ประกอบด้วยทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลแบบประคับประคองที่จะคอยติดตามประเมินอาการและให้การดูแลในทุกมิติอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมมือกับบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำดนตรีบำบัดเข้ามาดูแลผู้ป่วยเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น

          นอกจากการที่เราไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในโลกปัจจุบัน คือการหาพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและในระดับสากล เพื่อพัฒนาการรักษาและส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน พร้อมสร้างเครือข่ายด้านการแพทย์ที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน นพ. รุจาพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โทร. 1378






98
นักชกฟิลิปปินสฺ์ ป้องกันแชมป์ 2 เส้น 2 สถาบัน ABF สหพันธ์มวยแห่งเอเชีย และ WBA Asia สมาคมมวยโลกเอเชีย ไว้ได้อย่างสวยหรู ศึก NARIS HIGHLAND SPACEPLUS BOXING PROMOTIONS




            เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่เวทีมวยชั่วคราว RCA Plaza รัชดา กรุงเทพฯ ได้มีการจัดการแข่งขันชกมวยในศึก NARIS HIGHLAND SPACEPLUS BOXING PROMOTIONS จัดโดยสองยอดโปรโมเตอร์ ไทย-ฟิลิปปินส์ นายศุภณัฐ จันทร์แรม และ บริโก้ แซนดิ๊ก โดยได้รับเกียรติจากพ่อพระวงการมวย นายนริส สิงห์วังชา เป็นประธานกิตติมศักดิ์ พล.ต.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ พร้อมแพทย์ประจำสนาม นายจิระศักดิ์ บุปผาชาติ




            โดยไฮไลน์ของรายการเป็นการกันแชมป์สหพันธ์มวยแห่งเอเชีย ABF รุ่น เวลเตอร์เวท 147 กก 10 ยกเจ้าของแชมป์ฟิลิปปินส์อันตราย อาดอร์ ทอเรส กับผู้ ้ท้าชิงจอมเก๋าชาวไทย วันพิชิต ศรีพะนา เกมส์การชก วันพิชิตเดินเข้าตัดลำตัว ด้าน อาดอร์ ทอเรส คอยดักจังหวะสองเน้นๆ ลำตัวทำเอา วันพิชิต ถึงกับออกอาการ นักชกฟิลิปปินส์ได้ทีเดินรุกไล่ตัดลำตัว วันพิชิต ถึงกับตั้งรับฝ่ายเดียวไม่ยอมตอบโต้จนกรรมการยุติการชกทำให้ อาร์ดอ ทอเรส เป็นฝ่ายชนะทีเคโอ ในยก 4 ไว้ได้อย่างสวยหรู


            ด้านอีกนักชกฟิลิปปินส์เช่นกัน อาร์วินจอห์น ปาซิโอเนส ป้องกันแชมฺป์สมาคมมวยโลก เอเชีย WBA Asia รุ่นไลท์ฟลายเวท 108 ปอนด์ 12 ยก กับผู้ท้าชิงชาวไทย วันชัย เนียงหันสา นักชกดาวรุ่งฟอร์มสด เกมส์การชกจบไวอย่างง่ายดายเมื่อ  อาร์วินจอห์น ใช้ความเก๋าบดสดเกิน ไล่ตัดลำตัวเน้นๆ ซ้ายขวาสลับกันถึงกับ วันชัย ทนไม่ไหวทิ้งตัวลงไปนอนกลางเวทีกรรมการนับ10 ทำให้ อาวินจอห์น เป็นฝ่ายชนะทีเคโอ ในยก 1 ไปแบบง่ายดายป้องกันแชมป์ไว้ได้สุดสวย


            ส่วนผลคู่อื่นๆ ป้องกันแชมป์สภามวยโลก เอเชีย WBC Asia ไลทฺฟลายเวท 108 ปอนด์ (มวยหญิง) เจ้าของแชมป์ นักชกสาวจอมแกร่งจากฮ่องกง ฮิน ติง ชาน กับผู้ท้าชิงชาวไทย กัญญรัตน์ หนูน้อย เกมส์การชก ฮิน ติง ชาน เดินตะบันหมัดเข้าใส่ กัญญรัตน์ แผ่วลง เรียกว่า ฮิน ติง ชาน เหนือชั้นกว่ากันเยอะทำให้ นักชกฮ่องกง เป็นฝ่ายชนะทีเคโอ ในยก4 ป้องกันแชมป์ไว้ได้


            ด้านคู่มวยยักษ์ ชิงแชมป์ว่างสภามวยโลก ออสเตรเลีย WBC ออสเตรเลีย รุ่นครุยเซอร์เวท พิกัด 200 ปอนด์ขึ้นไป 8 ยก ระหว่างซัม อับดุลลาฮิม จากออสเตรเลีย พบ นักชกชาวไทย ปัญญา ชมภูพวง เกมส์ทั้งคู่ต่างก็ยืนปักหลักกันแบบมึงทีกูทีไม่ยอม แต่ท้ายๆ เกมส์นักชกไทยแม้จะเสียเปรียบก็สู้สุดฤทธิสุดท้ายแพ้ทีเคโอ ในยก 5 ทำให้ ซัม อับดุลลาฮิม ได้เป็นคนใหม่ทันที


            ส่วนคู่ประกอบรายการอุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวท 168 กก.ขึ้นไป ยอง จี ยิน ชนะคะแนน วันอวน ลิน นักชกจีนด้วยกัน

อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นเฮฟวี่เวท 230 ปอนด์ขึ้นไป ยี ซี่ เจียง จีน ขนะทีเคโอ ยก 1 ประกอบ ไชยมาน

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ แบรด มอร์แกน ออสเตรเลัฝียออสเตรเลีย ชนะทีเคโอ ยก 2 ศุภชัย ภูบาย

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นมิดเดิลเวท 160 ปอนด์ วิคเตอรฺ นัหเบ้ ออสเตรเลีย ชนะทีเคโอ ยก 1 ตะวัน สาแก้ว

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเฟเธอร์เวท 126 ปอนดฺ์ เจเมียน ฮาดิสัน อเมริกา ชนะคะแนน ศรรามโสภากุล


อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเฟเธร์เวท 126 ปอนดฺ์ ฮัน ลีฉี จีน ชนะทีเคโอ ยก 5 ธนัญชัย คำอ่อน นักชกไทย

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นฃุปเปอร์เฟเธอร์เวท 130 ปอนด์ กิตติภักดิ์ แดงนุช ชนะคะแนน ไดร์ พัสรัม เวียดนาม

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นรุ่นซุปเปอร์ไลเวท 140 ปอนด์ ชิน เจียง โช จีนชนะทีเคโอ ยก 1 พีรพัฒน์ ตุบา

อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์ไลท์เวท140 ปอนด์ ยอง ยี หยี ชนะทีเคโอยก1 อนึ่ง การ์ดสี
   
อุ่นเครี่อง 6 ยก รุ่นแบนตั้มเวท 118 ปอนด์ หวง เลียบ ลี จีนชนะทีเคโอ ยก 1 จินวัฒน์ เหรียญเพชร และ คู่สุดท้ายอุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเฟเธอร์เวท 126 ปอนด์ เจีย เมียง ลี จีน แพ้คะแนน ฉวน ไชย งู จีน


            ราชันกำปั้นจะกลับมาตะบันหน้ากันอีกในวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567 นี้ ศึก "NARIS HIGHLAND SPACEPLUS BOXING PROMOTIONS" ใครจะอยู่หรือใครจะไปโปรดติดตามชมกันต่อไป
99
Smart AI Claim โดย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย คว้ารางวัล BUSINESS+ PRODUCT  INNOVATION AWARDS 2024




              อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย โดย นางเกษวนา อินทราวุธ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการธุรกิจ ประกันวินาศภัย รับรางวัล BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2024 รางวัลสุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี  2567 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการกลุ่มประกันชีวิตและประกันภัย จากบริการรับแจ้งเคลมออนไลน์ Smart AI Claim สำหรับลูกค้าประกันภัยรถยนต์ ผ่านการใช้ AI ในการถ่ายภาพและประมวลผลการส่งเคลมบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา เปิดเคลมได้ภายใน 3 นาที ตอบโจทย์ชีวิตลูกค้ายุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว

              โดยนิตยสาร Business+ ในเครือบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด(มหาชน) ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล มอบให้แก่องค์กรที่คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ - Innovation the products with Intelligence Technology" โดยมี นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติแสดงความยินดี ณ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล ราขประสงค์ เมื่อเร็วๆนี้
100
สายฮา!! ต้องดู “ดอกฟ้า หมาแจ๊ส” หนังตลกรักวายป่วงที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


                “ดอกฟ้า หมาแจ๊ส” หนังรักตลกเบาสมองที่ได้ตัวพ่อวงการตลก “แจ๊ส ชวนชื่น” ประกบคู่ “ใบเตย อาร์สยาม” พร้อมด้วยนักแสดงตัวจี๊ดที่ไม่เป็นสองเรื่องความฮา บี้ เดอะสกา โจ๊ก โซคูล และโรเบิร์ต สายควัน จัดเต็มปล่อยมุขเด็ดไม่ยั้ง อยากหายเครียดคลายความเหงาดูเลยวันเสาร์ที่ 30 มีนาคมนี้ เวลา 18.40 น. ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24




                เปิดเรื่องมาด้วย “หมา”(แจ๊ส ชวนชื่น) เด็กหนุ่มจากเกาะสีชังออกเดินทางค้นหาตัวเอง ณ เมืองแห่งแสงสี กรุงเทพมหานคร โดยเป้าหมายสูงสุดของเขา คือการได้เป็นนักเขียนชื่อดัง แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ เพราะหน้าตาไม่ดีพอ เขาทำดีได้แค่เป็นเด็กเสิร์ฟในผับเท่านั้น จนเขาได้รับโอกาสพิเศษในการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อให้หน้าตาหล่ออินเทรนด์สไตล์โอปป้าเกาหลี ทว่าผลรับที่ออกมาไม่เป็นดั่งที่ใจหวัง แต่ชาวเน็ตกลับชื่นชอบแห่กดไลค์ จนยอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นทวีคูณ จนวันหนึงหมาได้ข่าวว่า “เฟื่องฟ้า” (ใบเตย อาร์สยาม) อดีตรักวัยเรียนคนเดียวของเขาเสียชีวิต  หมาจึงอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขความผิดพลาด โดยมี ลุงโมก (โรเบิร์ต สายควัน) เป็นผู้ชี้ทางย้อนอดีต เรื่องสุดอลหม่านจึงเกิดขึ้น
Pages: 1 ... 8 9 [10]