Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: [1] 2 3 ... 2455
1
𝗙𝗖𝗖 𝟴: 𝗔𝗻 𝗨𝗻𝗺𝗶𝘀𝘀𝗮𝗯𝗹𝗲 𝗖𝗼𝗺𝗯𝗮𝘁 𝗦𝗽𝗼𝗿𝘁𝘀 𝗦𝗽𝗲𝗰𝘁𝗮𝗰𝗹𝗲 𝗖𝗼𝗺𝗶𝗻𝗴 𝗕𝗮𝗰𝗸 𝘁𝗼 𝗣𝗮𝘁𝘁𝗮𝘆𝗮


Pattaya Thailand – On November 9, 2024, Fight Club Championship will host FCC 8, a high-octane combat sports event that promises to be a major draw for both boxing and Muay Thai enthusiasts. With a stacked card featuring 4 Muay Thai fights and 8 professional boxing bouts, FCC 8 is set to deliver thrilling matchups that will showcase elite talent from around the globe.


Headlining the event will be two prestigious championship bouts under the banner of the Universal Boxing Organization (UBO) - the UBO Southeast Asia Championship and the UBO Inter-Continental Championship. The battle for the UBO Inter-Continental Heavyweight Championship will see Italy’s #2 ranked heavyweight, Alessio Bisutti, with an impressive record of 9 wins (8 by knockout) square off against Thailand’s #1 heavyweight, Suthat Kalalek, with a stellar record of 24 wins (13 by knockout).




This matchup promises to be a thrilling contest of experience, power, and national pride. The event, taking place at FCC Pattaya, will be a platform for fighters to prove their mettle, with competitors eyeing not just regional dominance but also international recognition.




In addition, FCC 8 brings in international competitors, adrenaline-filled action, and a showcase of combat sports excellence. With the blend of traditional Muay Thai contests and professional boxing fights, including international matchups and title defenses, this event will have something for every fight fan.





Mark your calendars for November 9, 2024, as FCC 8 promises to be one of the year's highly anticipated fight nights, merging the world of Muay Thai and professional boxing in an unforgettable showdown in Pattaya.





For reservations, please contact +66957243564. For more updates, follow our Instagram @fcc_promotion, Facebook @FCC Fight Club Championship - Thailand, and Youtube channel @Fcc-FightClubChampionship


พัทยา ประเทศไทย ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 Fight Club Championship จะเป็นเจ้าภาพ FCC 8 ซึ่งเป็นงานกีฬาการต่อสู้ออกเทนสูงที่สัญญาว่าจะดึงดูดทั้งผู้ที่ชื่นชอบการชกมวยและมวยไทย ด้วยการ์ดแบบเรียงซ้อนที่มีการต่อสู้มวยไทย 4 ครั้งและการชกมวยมืออาชีพ 8 ครั้ง FCC 8 พร้อมที่จะมอบการจับคู่ที่น่าตื่นเต้นซึ่งจะแสดงความสามารถชั้นยอดจากทั่วโลก


ไฮไลท์ของงานจะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์อันทรงเกียรติสองรายการภายใต้ร่มธงของ Universal Boxing Organisation (UBO) ได้แก่ UBO Southeast Asia Championship และ UBO Inter-Continental Championship การต่อสู้เพื่อชิงแชมป์ UBO Inter-Continental Heavyweight Championship พบกับ อเลสซิโอ บิสุตติ นักชกอันดับ 2 ของอิตาลี พร้อมสถิติชนะ 9 นัด (น็อกเอาต์ 8 นัด) พบกับ สุทัศน์ กะลาเลก รุ่นเฮฟวี่เวตอันดับ 1 ของไทย ด้วยสถิติชนะ 24 นัด ชนะ (13 โดยการน็อกเอาต์)



การจับคู่ครั้งนี้สัญญาว่าจะเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นของประสบการณ์ อำนาจ และความภาคภูมิใจของชาติ งานที่จัดขึ้นที่ FCC พัทยา จะเป็นเวทีให้นักสู้ได้พิสูจน์ความกล้าหาญ โดยผู้เข้าแข่งขันไม่เพียงแต่จับตามองการเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับจากนานาชาติอีกด้วย




นอกจากนี้ FCC 8 ยังนำผู้เข้าแข่งขันระดับนานาชาติ การแข่งขันที่ตื่นเต้นเร้าใจ และการแสดงความเป็นเลิศด้านกีฬาต่อสู้มาด้วย ด้วยการผสมผสานระหว่างการแข่งขันมวยไทยแบบดั้งเดิมและการชกมวยอาชีพ รวมถึงการจับคู่ระดับนานาชาติและการป้องกันตำแหน่ง งานนี้จะมีทุกสิ่งสำหรับแฟนไฟต์ทุกคน





ทำเครื่องหมายปฏิทินของคุณสำหรับวันที่ 9 พฤศจิกายน 2024 เนื่องจาก FCC 8 สัญญาว่าจะเป็นหนึ่งในคืนชกที่ทุกคนตั้งตารอแห่งปี โดยผสมผสานโลกของมวยไทยเข้ากับการชกมวยอาชีพเข้าด้วยกันในการประลองที่ไม่อาจลืมเลือนในพัทยา





สำรองที่นั่งกรุณาติดต่อ +66957243564 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Instagram @fcc_promotion, Facebook @FCC Fight Club Championship - ประเทศไทย และช่อง Youtube @Fcc-FightClubChampionship

2
ไร้สังกัด / โป๊ยเซียน
« on: November 02, 2024, 05:54:09 PM »
ฉลอง 88 ปี ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน จัดกิจกรรม “โป๊ยเซียน ยิ่งให้ยิ่งได้”
มอบเงินสนับสนุน 888,888 บาทและมอบผลิตภัณฑ์แก่ผู้มาบริจาคโลหิต ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย


            (2 พฤศจิกายน 2567) บริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ ตราโป๊ยเซียน ทั้งยาดมตราโป๊ยเซียน พิมเสนน้ำตราโป๊ยเซียน ยาดมพีเป๊กซ์ ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยกระดับภาพลักษณ์อุตสาหกรรมสมุนไพรไทยไปสู่ระดับสากล และมุ่งหวังให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีคุณภาพไปพร้อมกับการสร้างสรรค์สังคมแห่งการแบ่งปัน สร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน



            ล่าสุด บริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด โดย ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ กรรมการและที่ปรึกษาบริษัทฯ จัดกิจกรรม “โป๊ยเซียน ยิ่งให้ยิ่งได้” ฉลองวาระครบรอบ 88 ปี ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้โอกาส และการให้ชีวิต มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ จำนวน 888,888 บาท แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภายในงานได้รับเกียรติจาก ภญ.วรณี งามพฤฒิกร ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายผลิตถุงบรรจุโลหิตฯ เป็นผู้รับมอบ พร้อมมอบผลิตภัณฑ์ในเครือฯและของที่ระลึก มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท แก่ผู้มาบริจาคโลหิต ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย




            ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ เผยว่า “ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน เราเล็งเห็นความสำคัญในการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของผู้บริจาคโลหิต เพราะการบริจาคโลหิตคือการให้ที่ยิ่งใหญ่และการให้ชีวิต ซึ่งเป็นวิธีการช่วยชีวิตผู้อื่นที่ดีที่สุด ที่ทุกคนสามารถทำได้ นอกจากได้ช่วยชีวิตผู้อื่นแล้วยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตัวเองด้วย เรียกว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้” อีกทั้งเรายังมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยด้วย จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อแทนคำขอบคุณทุก ๆ โอกาสที่คนไทยมอบให้เรามาตลอด 88 ปี จึงขอเชิญชวนคนไทยมาร่วมทำบุญครั้งใหญ่บริจาคโลหิตเพื่อนำไปใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ต้องการเลือดตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมรับของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน ได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. – 16:00 น. ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ครับ”




            ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน ยังมีกิจกรรมแทนคำขอบคุณคนไทยอีกมากมาย ติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ Facebook Fanpage : โป๊ยเซียน-POYSIAN หรือ Line OA : @poysian

            การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้โอกาสและการให้ชีวิต

#88ปีโป๊ยเซียนยิ่งให้ยิ่งได้ #PoysianGoGreenTogether #ให้ทุกการพักผ่อนมีโป๊ยเซียนทุกลมหายใจ
#ยาดมตราโป๊ยเซียน #poysianinhaler









3
ฉลอง 88 ปี ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน จัดกิจกรรม “โป๊ยเซียน ยิ่งให้ยิ่งได้”
มอบเงินสนับสนุน 888,888 บาทและมอบผลิตภัณฑ์แก่ผู้มาบริจาคโลหิต ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย


            (2 พฤศจิกายน 2567) บริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ ตราโป๊ยเซียน ทั้งยาดมตราโป๊ยเซียน พิมเสนน้ำตราโป๊ยเซียน ยาดมพีเป๊กซ์ ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยกระดับภาพลักษณ์อุตสาหกรรมสมุนไพรไทยไปสู่ระดับสากล และมุ่งหวังให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีคุณภาพไปพร้อมกับการสร้างสรรค์สังคมแห่งการแบ่งปัน สร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน




            ล่าสุด บริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด โดย ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ กรรมการและที่ปรึกษาบริษัทฯ จัดกิจกรรม “โป๊ยเซียน ยิ่งให้ยิ่งได้” ฉลองวาระครบรอบ 88 ปี ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้โอกาส และการให้ชีวิต มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ จำนวน 888,888 บาท แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภายในงานได้รับเกียรติจาก ภญ.วรณี งามพฤฒิกร ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายผลิตถุงบรรจุโลหิตฯ เป็นผู้รับมอบ พร้อมมอบผลิตภัณฑ์ในเครือฯและของที่ระลึก มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท แก่ผู้มาบริจาคโลหิต ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย




            ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์ เผยว่า “ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน เราเล็งเห็นความสำคัญในการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ของผู้บริจาคโลหิต เพราะการบริจาคโลหิตคือการให้ที่ยิ่งใหญ่และการให้ชีวิต ซึ่งเป็นวิธีการช่วยชีวิตผู้อื่นที่ดีที่สุด ที่ทุกคนสามารถทำได้ นอกจากได้ช่วยชีวิตผู้อื่นแล้วยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตัวเองด้วย เรียกว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้” อีกทั้งเรายังมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยด้วย จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อแทนคำขอบคุณทุก ๆ โอกาสที่คนไทยมอบให้เรามาตลอด 88 ปี จึงขอเชิญชวนคนไทยมาร่วมทำบุญครั้งใหญ่บริจาคโลหิตเพื่อนำไปใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ต้องการเลือดตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมรับของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน ได้ตั้งแต่เวลา 9:00 น. – 16:00 น. ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ครับ”




            ผลิตภัณฑ์ตราโป๊ยเซียน ยังมีกิจกรรมแทนคำขอบคุณคนไทยอีกมากมาย ติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ Facebook Fanpage : โป๊ยเซียน-POYSIAN หรือ Line OA : @poysian

            การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้โอกาสและการให้ชีวิต

#88ปีโป๊ยเซียนยิ่งให้ยิ่งได้ #PoysianGoGreenTogether #ให้ทุกการพักผ่อนมีโป๊ยเซียนทุกลมหายใจ
#ยาดมตราโป๊ยเซียน #poysianinhaler









4
16 คู่มวยเดือดออกหมัดกันดุฉลองคืนฮาโลวีนชกกันสนั่นเวทีในรายการ "RUSE OF LEGENDS จัดโดยสองคู่เขยไทย-ปินส์ นายศุภณัฐ จันทร์แรม และ บริโก้ ซานติก แห่ง NARIS HIGHLAND-SPACEPLUS BOXING PROMOTIONS


            เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่เวทีมวยชั่วคราว Spaceplus RCA Plaza โปรโมเตอร์สองคู่เขย มิสเตอร์บริโก้ ซานติก ชาวฟิลิปปินส์ พร้อมด้วย นายศุภณัฐ จันทร์แรม จัด 16 คู่มวยมันส์โดยมีนักชกฝีมือดีจาก 15 ประเทศ และมีชิงเข็มขัดแชมป์ 5 เส้น ขึ้นดวลหมัดฉลองคืนฮาโลวีนในศึก " RUSE OF REGENDS" รับประกันความมันส์โดย NARIS HIGHLABD-SPACEPLUS BOXING PLOMOTIONS โดยได้รับเกียรติจากนายนริส สิงห์วังชา ประธานสหพันธ์มวยเอเชีย และนายกสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย และ พล.ต.ดำรงค์ สิมะขจรบุญ เป็นประธานที่ปรึกษาการแข่งขัน




            สำหรับผลการแข่งขันในรายการมีดังนี้

คู่ที่ 1. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นแบนตั้มเวท พิกัด 118 ปอนด์ คาร์ลอส อ่อง จากสิงคโปร์ ชนะ TKO  วิสิทธิศักดิ์ สายแวว นักชกไทยยกที่ 4

คู่ที่ 2. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท พิกัด 115 ปอนด์ โมฮัมเหม็ด คาลิส จากแทนซาเนีย ชนะคะแนน อดิศักดิ์ เกตุเปี่ยม นักชกไทยแบบไม่เป็นเอกฉันท์ 2 : 1

คู่ที่ 3. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์เฟเธอร์เวท พิกัด 130 ปอนด์ ชาวิน ฮาย นูเยน กำปั้นเวียดนาม ทุบกำปั้นอินโดนีเซีย ซิอิส ฟาดาฟี่ จากอินโดนีเซียจอดป้ายยก 2

คู่ที่ 4 .อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวท พิกัด 168 ปอนด์ อริเฮอร์ อิสมายล็อฟ จากอุสเบกิสถาน ไล่อัด พัฒน์พงค์ กัาวเอี่ยม นักชกไทยชนะ TKO ไปในยกที่ 3







คู่ที่ 5. อุ่นเครื่อง 4 ยก รุ่นเฟเธอร์เวท พิกัด 126 ปอนด์ เรนาโต้ ชา จากฟิลิปปินส์ แลกหมัดเดือดกับ ชีลาฟ คูลันเบฟ จากรัสเซีย จนถึงกลางนก 3 หัวชนจนเกิดแผลแตกกรรมการยุติการแข่งขันทำให้ไม่มีผลการตัดสินในคู่นี้

คู่ที่ 6. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวท พิกัด 168 ปอนด์ อัสลี่ ฮาฟิส จากมาเลเซีย ชนะคะแนน ประจักษ์ มานพชัยยิม นักชกไทย

คู่ที่ 7.อุ่นเครื่องมวยหญิง (6ยก) รุุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท พิกัด 115 ปอนด์ เลทีเซีย คัมพาน่า จากฝรั่งเศส ชนะ KO สุกัญญา มานพชัยยิม นักชกสาวไทยไปในยกที่ 4

คู่ที่ 8.อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นมิดเดิลเวท พิกัด 160 ปอนด์ ลุยจิ ดี เชสเซนโซ่ จากแอฟริกาใต้ชกเหมือนมีธุระด่วนชนะ TKO อรรถพล คำชาญ นักชกไทยในยกแรก







คู่ที่ 9. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นมินิมั่มเวท พิกัด 105 ปอนด์ เรนเก้น ออฟพาส จากฟิลิปปินส์ ชนะ TKO  นฤเบศน์ สิงห์มนัสศักดิ์ นักชกไทยยกที่ 4

คู่ที่ 10. อุ่นเครื่อง 6 ยก รุ่นเฟเธอร์เวท พิกัด 126 ปอนด์ เจอร์มาเน่ ฮาดิสัน จากสหรัฐอเมริกาชนะ TKO พุฒิชัย กติกาโชคสกุล นักชกไทยยก1

คู่ที่ 11. มวยหญิง ชิงแชมป์ PAT Female Atom Weight พิกัด 102 ปอนด์ (8 ยก) วัชรพร ปุ่นอินเตอร์ ชนะ TKO  มัณฑิกา สิงห์มนัสศักดิ์ นักชกไทยยกที่ 3 ได้รับเกีบรติจากนายนริศ สิงห์วังชา ประธานสหพันธ์มวยแห่งเอเชียขึ้นร่วมแสดงความยินดีและคาดเข็มขัดแชมป์ให้

คู่ที่ 12. ชิงแชมป์ WBC Asia Female Light Fly weighr Title พิกัด 108 ปอนด์ (10ยก) เจสเซอร์เบล พากาดัว จากฟิลิปปินส์ แพ้คะแนน ปิยะลักษณ์ มานพชัยยิมส์ นักชกสาวไทยคว้าแชมป์ไปครอง







คู่ที่ 13. ชิงแชมป์ WBC Asia Continenta Sper Light weight พิกัด 140 ปอนด์ (10ยก) ระหว่าง จิมมี่ ปายปา จากฟิลิปปินส์ แพ้คะแนน มาดิ ซาบาส นักชกอิหร่านคว้าเข็มขัดไปครองสุดมันส์

คู่ที่ 14.ชิงแชมป์ WBC Asis รุ่นซุปเปอร์เวลเตอร์เวท พิกัด 154 ปอนด์ (10ยก)  วิคเตอร์ นัคเบ้ จากออสเตรเลีย ไล่ถล่ม สตีฟ ออร์เก้น เฟอร์ดีนัคบัส จากอินโดนีเซียชนะ TKO ยกแรกพร้อมคว้าเข็มขัดกลับบ้าน

คู่ที่ 15. ชิงแชมป์ WBC Muaythai Female mini Flyweight world Tifle พิกัด 105 ปอนด์ (5 ยก) เทสซ่า คาโคเนน จากฝรั่งเศส แพ้คะแนน ฟ้าเชียงราย ส.สกุลทอง นักชกสาสไทยที่กลายเป็นเจ้าของเข็มขัดเส้นนี้

คู่ที่ 16. ปิดท้ายรายการมวยไทย (3 ยก) ระหว่าง ออสซี่ โคน็อกอีมี่ จากฟินแลนด์ พบกับ ต้นเพชร ศิษย์ชาญสิงห์ คู่นี้ไม่มีการตัดสินจากเข่าลอยติดพันในจังหวะยุติการแข่งขันของ ออสซี่ จน ต้นเพชร ไม่อยู่ในสภาพแข่งต่อได้


            ทั้งหมดคือคู่มวยสุดมันส์ฉลองค่ำคืนวันฮาโลวีนในรายการนี้อีกด้วย












5
เปิดตัวคณะผู้บริหาร สมาคมช่างผมประเทศไทย




               วันที่ 30 พย. 2567 ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้มีงานเปิดตัวสมาคมช่างผมประเทศไทย และมอบโลกเกียรติคุณ แก่คณะกรรมการสมาคม เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการขับเคลื่อนองค์กร โดยมี คุณทวินันท์ คงคราญ รองผู้อำนวยการใหญ่ด้านการสื่อสารและภาพลักษณ์ องค์กรสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายรัฐวุฒิ ด่านทอง นายกสมาคมช่างผมประเทศไทย เป็นประธานเปิดตัวคณะผู้บริหารสมาคมช่างผมประเทศไทย

               โดยได้ที่ปรึกษานายกสมาคมฯ มีชื่อดังนี้ 1. อ.ณัฐวัฒน์ ปิยะศิริภัณฑ์, 2. ดร.พจน์เวท เต็มนิรันรัตน์, 3. ดร.ณรงค์ ศรีเกรียงทอง, 4. อ.ศิริพจน์ ตุ่มศิริ, 5. อ.วงเดือน ยะปัญญา และอุปนายกสมาคมฯ 1. อ.สมชาย พิจารณา, 2. อ.เฉลิมศักดิ์ สุดทิศ, 3. อ.นิศารัตน์ ชื่นจิตต์

               โดยในงาน มีคณะกรรมการสมาคม, คณะอนุกรรมการเทคโนโลยีความงาม, ประธานช่างผมประเทศไทยประจำจังหวัด และแขกผู้มีเกียรติกว่า 500 ท่าน มาร่วมงานเปิดสมาคมช่างผมประเทศไทย และมีภารกิจหลัก คือส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพช่างผมของไทย ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพช่างผมให้มีรายได้ที่มั่นคง ส่งเสริม แข่งขันจัดแต่งผมไทย พัฒนาต่อยอดระดับเอเชีย สู่เวทีระดับโลก รวมถึงการจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม เช่น ตัดผมฟรี ให้กับคนในชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน

               นอกจากนี้ ในงานยังมีพิธีมอบโลกเกียรติคุณ ใบแต่งตั้งพร้อมเข็มประจำตำแหน่ง ให้แก่ คณะกรรมการสมาคมช่างผมประเทศไทย จำนวน 100 รางวัล เป็นขวัญกำลังใจในการต่อยอดวิชาชีพ และยังมีแฟชั่นโชว์จากผู้สนับสนุนสมาคม ที่เข้ามาเพิ่มสีสันในงาน เพื่อร่วมแสดงความยินดี กับ นายกสมาคมและคณะกรรมการสมาคมช่างผมประเทศไทยในโอกาสงานเปิดตัวสมาคมช่างผมประเทศไทยอีกด้วย

#ช่างผม #ช่างผมไทย #สมาคมช่างผมประเทศไทย #รัฐวุฒิด่านทอง







































6
ศึกชิงอันดับอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง ดุเดือด เพื่อสิทธิลุย ลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์


คีแรน วินเซนต์

31 ตุลาคม 2567 – การชิงชัยอันดับในตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง เพิ่มความเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อมีการประกาศยืนยันให้สิทธิ์นักกอล์ฟที่ทำผลงานใน 32 อันดับแรก เข้าร่วมแข่งขันในศึกลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ปีที่สอง ณ สนามริยาด กอล์ฟ คลับ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อลุ้นตั๋วเข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาลหน้า           

ลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ จัดแข่งขันเป็นปีที่สอง เพื่อให้นักกอล์ฟลุ้นคว้าสิทธิ์เข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาล 2025 ร่วมกับผู้ที่คว้าอันดับหนึ่งของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง โดยแข่งขันแบบสโตรกเพลย์ สามวันสี่รอบรวม 72 หลุม  ระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคมนี้         

โดยเมื่อจบซีซั่น นักกอล์ฟที่ทำผลงานอันดับ 2-8 ของอินเตอร์เนชันแนล แรงกิ้ง จะได้บายรอบแรก และเข้าร่วมแข่งขันลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ในรอบที่สองโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ และแชมป์เอเชียนทัวร์ ฤดูกาล 202           

ส่วนนักกอล์ฟอีก 25 คนจากอันดับ 9-40 ของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง จะได้สิทธิร่วมแข่งขันในรอบแรก ขณะที่โปรกอล์ฟระดับแถวหน้าและมือสมัครชั้นนำจากทั่วโลก ก็มีสิทธิเข้าร่วมชิงชัยตามลำดับประเภทที่กำหนด


นอกจากนี้ ลิฟ กอล์ฟ โปรโมรชันส์ ยังให้โอกาสนักกอล์ฟที่ตกชั้นจากลิฟ กอล์ฟ ลีก เมื่อจบฤดูกาลและนักกอล์ฟ ที่มีผลงานในโอเพ่น โซน อันดับที่ 25-48 ในฤดูกาล 2024 และไม่มีทีมร่วม ได้ลุ้นรักษาสิทธิ์การเล่นในปี 2025 ด้วยเช่นกัน         

ราฮุล ซิงห์ ผู้อำนวยการการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เผยว่า  “อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เติบโตและมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเส้นทางสู่ ลิฟ กอล์ฟ ลีก โดยอันดับหนึ่งของตารางอินเตอร์ เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง จะได้เข้าสิทธิ์เข้าร่วมลิฟ กอล์ฟ ลีก ขณะที่นักกอล์ฟอีกกว่า 30 คน มีโอกาสลุ้นผ่านการแข่งขันที่น่าตื่นในศึกลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์”         

“การชิงชัยอันดับคะแนนสะสมมีความเข้มข้นมากขึ้นสำหรับนักกอล์ฟที่ทำผลงานดีนับจากนี้ไปจนจบฤดูกาลมีโอกาสขยับขึ้นมาอยู่ลำดับต้นๆ ของตาราง โดยยังเหลืออีก 4 ทัวร์นาเมนท์ และมีคะแนนให้ชิงชัยอีกมากมาย ขณะที่เรากำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง” ซิงห์ กล่าวเสริม         

ทั้งนี้ในปี 2022 สกอตต์ วินเซนต์ โปรกอล์ฟจากซิมบับเว ได้เข้าร่วมทีม Iron Heads GC ในลิฟ กอล์ฟ ลีก สองฤดูกาล หลังจบผลงานในอันดับ 1 ของตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง ขณะที่แอนดี้ โอเกิลทรี จากสหรัฐอเมริกา คว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ อิงแลนด์ และกาตาร์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ครองตำแหน่งเบอร์หนึ่งอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง  และได้สิทธิ์เข้าร่วมลิฟกอล์ฟลีก ในทีม HyFlyers GC

สำหรับการแข่งขันลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ จัดครั้งแรกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งการชิงชัยลุ้นสนุกสูสี ก่อนเป็น คีแรน วินเซนต์ น้องชายของสกอตต์ วินเซนต์ และจินนิชิโร่ โคซูม่า ที่ชนะเพลย์ออฟได้ตั๋วเข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ร่วมกับ คัลเล่ ซามูจา จากฟินแลนด์ ที่คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนท์

โดยคีแรน วินเซนต์ ได้ฟอร์มทีมใหม่ในทีม Legion XIII  พร้อมกับจอน ราห์ม ดีกรีสองแชมป์เมเจอร์จากสเปน ขณะที่จินนิชิโร่ โคซูม่า เข้าร่วมทีม IronHeads GC และ ซามูจา ได้รับการทาบเข้าร่วมทีม Cleeks GC


ทางด้านจาโค่ อัชเลอร์ จากแอฟริกาใต้ พลาดเพลย์ออฟอย่างเฉียดฉิวสโตรกเดียว ส่วนสองโปรกอล์ฟไทยอย่าง ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ และสุรดิษ ยงค์เจริญชัย จบใน 10 อันดับแรกของลิฟ กอล์ฟ โปรโมรชันส์ ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ฤดูกาล 2024 โดยอัตโนมัติ         

ขณะที่แชมป์รายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ อย่างเบน แคมพ์เบลล์, เวด ออร์มสบี้ และกากันจีต บูลลาร์ ไม่สมหวังในการคว้าตั๋วสู่เวทีใหญ่ผ่านลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์           

ทั้งนี้ ลิฟ กอล์ฟ ลีก ถือเป็นเวทีใหญ่ที่มอบโอกาสเปลี่ยนชีวิตสำหรับนักกอล์ฟที่ทำผลงานโดดเด่นในการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ และเหล่าโปรกอล์ฟมือดังของเอเชียนทัวร์ รวมถึงนักกอล์ฟจากทั่วโลก ต่างหมายตาตั๋วทองคำใบนี้         

โดยปัจจุบัน ลิฟ กอล์ฟ ลีก มีนักกอล์ฟมือดังระดับโลกร่วมชิงชัยหลายคน แบ่งเป็น 13 ทีม 54 คน แข่งขันทั่วโลก 14 ทัวร์นาเมนท์ พร้อมเงินรางวัลก้อนโต ในฤดูกาล 2024


รูปแบบการแข่งขันลิฟ โปรโมชันส์ มีแข่งขัน 3 วัน 4 รอบ แบบสโตรกเพลย์ โดยนักกอล์ฟที่ทำผลงานในท็อป 20 จากรอบแรก จะได้ผ่านเข้ารอบที่สอง ซึ่งจะมีการรีเซ็ตสกอร์ใหม่ และจะมีนักกอล์ฟที่ได้บายรอบแรก ซึ่งประกอบด้วยผู้เล่นอันดับ 2-8 ของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง, แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ และแชมป์จากทัวร์ต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงนักกอล์ฟที่ตกชั้นจากลิฟ กอล์ฟ ลีก และจาก โอเพ่น โซน ที่ไม่มีทีม เข้าร่วมแข่งรอบนี้ด้วย         

เมื่อจบรอบสอง นักกอล์ฟที่ทำผลงานใน 20 อันดับแรก จะผ่านเข้าสู่การแข่งขันวันสุดท้าย โดยหากเสมอกันจะต้องดวลเพลย์ออฟเพื่อตัดสิน และจะมีการรีเซ็ตคะแนนใหม่สำหรับการเล่น 36 หลุมในวันสุดท้ายเช่นกัน ทั้งนี้หลังจบรอบสุดท้ายในวันเสาร์ แชมป์จะได้รับเงินรางวัล 200,000 เหรียญสหรัฐฯ พร้อมคว้าสิทธิเข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาล 2025           

ส่วนอันดับ 2 และ 3 จะได้รับเงินรางวัล 150000 เหรียญสหรัฐฯ และ 100,000 เหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ โดยนักกอล์ฟที่จบในอันดับ 2-10 จะได้สิทธิ์ร่วมแข่งขันรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ 2025 ที่จัดร่วมกับเอเชียนทัวร์ ทุกรายการ         

ทางด้าน โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและซีอีโอ ของเอเชียนทัวร์ กล่าวว่า “นักกอล์ฟจากเอเชียนทัวร์ ทำได้ดีในลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ครั้งที่แล้ว และในปีนี้เราคาดหวังจะได้เห็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งเช่นกัน เส้นทางและโอกาสสู่ลิฟ กอล์ฟ ลีก  ผ่านการแข่งขันรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ มีความสำคัญสำหรับเราอย่างมากในการดึงดูดนักกอล์ฟฝีมือดีจากทั่วโลกและทำให้การแข่งขันเอเชียนทัวร์มีชื่อเสียงในเวทีระดับโลกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ได้ที่เว็บไซต์
[size=14ptwww.internationalseries.com][/size]

7
ยัวซ่าแบตเตอรี่ จัด Meet & Greet กับนักแข่งระดับโลก Joan Mir และ Luca Marini ในงานโมโตจีพีไทยแลนด์ 2024


            ยัวซ่าแบตเตอรี่เอาใจแฟนสายมอเตอร์สปอร์ต จัดกิจกรรม  Meet & Greet แบบใกล้ชิดสุด ๆ กับ 2นักแข่งระดับโลกจากทีม Repsol Honda Team ทั้ง Joan Mir #36 และ Luca Marini #10 ที่บูธกิจกรรมของยัวซ่าแบตเตอรี่ภายในงาน "โมโตจีพีไทยแลนด์ 2024" โดยมีผู้บริหารของยัวซ่าแบตเตอรี่ประเทศไทย นำโดย มร.สึเนะโนริ โยชิมูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณพัณณ์ชิตา ชีวีวัฒน์ ผู้อำนวยการบริหาร กลุ่มงานขาย ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์




            ทั้งนี้ 2 นักแข่งยังได้มอบของรางวัลพิเศษให้กับแฟนคลับผู้โชคดีที่ร่วมเล่นเกมส์กับยัวซ่าแบตเตอรี่ และถ่ายภาพร่วมกันอย่างสนุกสนานเป็นกันเองอีกด้วย สนใจแบตเตอรี่ “YUASA” คุณภาพและมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น สอบถามข้อมูลสินค้าและร้านตัวแทนจำหน่าย โทร 09-9331-3337 หรือ 02-769-7300 ต่อ 7315 จันทร์-ศุกร์ เวลา 8:30-17:00 น.

8
กลุ่มบริษัทยูนิไทย และซียูอีแอล จัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ณ กองบัญชาการนาวิกโยธิน สัตหีบ จ.ชลบุรี


กลุ่มบริษัทยูนิไทย และซียูอีแอล ได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการปล่อยปูไข่และกุ้งทะเลเพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ และจัดกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ให้กับทีมผู้บริหารที่ กองบัญชาการนาวิกโยธิน สัตหีบ จ.ชลบุร






กลุ่มบริษัทยูนิไทยเล็งเห็นความสำคัญของการรักษาและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเลเพื่อสิ่งแวดล้อม และการประกอบอาชีพดั้งเดิมของชุมชนชายฝั่งทะเล ทางกลุ่มบริษัทยูนิไทย ได้จัดกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ ในครั้งนี้ทีมงานกิจกรรมเพื่อสังคมได้จัดให้มีการปล่อยแม่พันธุ์ปูและกุ้งกลับคืนสู่ท้องทะเลเป็นการสร้างสมดุลห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศทางทะเลและสร้างโอกาสการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติของสัตว์น้ำ ตามพันธกิจของบริษัทที่สนับสนุนพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยได้รับจากเกียรติจาก คุณพลชนพ อุปถัมภ์ Head, People & Organization, Thailand เป็นผู้กล่าวเปิดงาน จากนั้น Navy Blue Team ได้นำเข้าสู่กิจกรรมฐานเสริมสร้างความสัมพันธ์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์แต่ละหน่วยธุรกิจ และปิดท้ายด้วยการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำร่วมกัน

9
เอสซีจี แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 และ 9 เดือนปี 2567
แก้เกมระยะสั้น เร่งลดต้นทุนทั้งองค์กร ปิดกิจการไม่ทำกำไร
เดินเกมระยะยาวลุยโครงการอีเทนปิโตรเคมีเวียดนาม ดันปูนคาร์บอนต่ำ-พลาสติกรักษ์โลกมูลค่าเพิ่มสูง
เติบโตตามแนวทาง Inclusive Green Growth


กรุงเทพฯ : 31 ตุลาคม 2567 – เอสซีจี แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 และ 9 เดือนปี 2567 แก้เกมเศรษฐกิจรุมเร้า ตั้งเป้า 1) มุ่งลดต้นทุนภาพรวมองค์กร 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 2) ลดเงินทุนหมุนเวียนลง 10,000 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1 ปี 2568 3) ยกเลิกกิจการที่ไม่ทำกำไร เเละ 4) ขายสินทรัพย์ (Asset Divestment) ลดต้นทุนการผลิต เร่งเพิ่มเชื้อเพลิงทดแทน ตั้งเป้าโรงงานปูนซีเมนต์ในไทยใช้ร้อยละ 50 เดินเกมระยะยาว ลุยปิโตรเคมีเวียดนามลงทุนเพิ่มทางเลือกใช้อีเทนลดต้นทุนวัตถุดิบ ด้วยงบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าแล้วเสร็จปี 2570 เร่งพัฒนา-ส่งออกปูนคาร์บอนต่ำ พลาสติกรักษ์โลกดีมานด์สูง ด้านตลาดอาเซียนโตต่อเนื่อง เสริมความแข็งแกร่งตามแนวทาง Inclusive Green Growth เตรียมรับมือสงครามขยายตัว เศรษฐกิจโลกผันผวนรุนแรง วัฏจักรปิโตรเคมีทั่วโลกอ่อนตัวลากยาวกว่าที่คาด และค่าเงินบาทผันผวน


นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “ผลประกอบการ 9 เดือนปี 2567 เอสซีจี มีรายได้ 380,660 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน จากปริมาณการขายของเอสซีจี เคมิคอลส์ และเอสซีจีพี โดย EBITDA (กำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย โดยรวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม) 38,768 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไร 6,854 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 75 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากค่าใช้จ่ายการเดินเครื่องโครงการลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals – LSP) ส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลงขณะที่กำไรไม่รวมรายการพิเศษ ลดลงร้อยละ 46 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับไตรมาส 3 ของปี 2567 มีรายได้ 128,199 ล้านบาท โดย EBITDA 9,879 ล้านบาท กำไร 721 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 81 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า การปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลง และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง ประกอบกับไตรมาสก่อนเป็นช่วงที่มีรายได้เงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น


เอสซีจีคาดว่ารายได้ของปี 2567 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3% จากปีก่อน เพราะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนรุนแรง วัฏจักรปิโตรเคมีทั่วโลกอ่อนตัวลากยาว สงครามตะวันออกกลาง สินค้าจากจีนเข้ามาแข่งขันภายในประเทศมากขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาทผันผวน นับเป็นความท้าทายต่อการดำเนินธุรกิจและมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อยาวนาน เอสซีจีจึงมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง และรัดกุมยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้า 1) มุ่งลดต้นทุนภาพรวมองค์กร 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2568  2) ลดเงินทุนหมุนเวียนลง 10,000 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1 ปี 2568  3) ยกเลิกกิจการที่ไม่ทำกำไร เช่น SCG Express และธุรกิจด้านดิจิทัลเทคโนโลยี OITOLABS ในประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังมีกิจการที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณายกเลิก เเละ 4) ขายสินทรัพย์ (Asset Divestment) เพิ่มความคล่องตัวและมุ่งเน้นรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ประกอบกับยกระดับประสิทธิภาพการผลิต รักษา EBITDA ให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ต่อเนื่อง อาทิ เพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทนโรงงานปูนซีเมนต์ในไทยร้อยละ 50 ภายในปีนี้ การใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ (Automation) ผลิตกระเบื้อง แม่นยำ รวดเร็ว ลดวัสดุเหลือใช้ เป็นต้น  อย่างไรก็ตาม เอสซีจีมีการลงทุนในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายเติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย


ในระยะยาว เรื่องกรีน Inclusive Green Growth ยังเป็นโอกาสและความได้เปรียบทางธุรกิจ ดังนั้นจึงเร่งลงทุนโครงการอีเทนที่ LSP ลดต้นทุนวัตถุดิบ ด้วยงบลงทุน 700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั่วโลก ทั้งยังช่วยลดคาร์บอนไดออกไซต์ในกระบวนการผลิต พร้อมดันนวัตกรรมกรีนมูลค่าเพิ่มสูง อาทิ ปูนคาร์บอนต่ำ เจนเนอเรชัน 2 ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง มีสัดส่วนการใช้ปูนคาร์บอนต่ำทดแทนแบบเดิมร้อยละ 86 พลาสติกรักษ์โลก SCGC GREEN POLYMER TM เติบโตต่อเนื่อง


เอสซีจี เคมิคอลส์ (เอสซีจีซี) ยังมีความท้าทายจากสถานการณ์วัฏจักรปิโตรเคมีขาลง กำลังการผลิตใหม่ เเละความต้องการเคมีภัณฑ์โลกชะลอตัว ดังนั้นจึงรุกสร้างศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันระยะยาว ด้วยโครงการลงทุนการปรับปรุงกระบวนการผลิต LSP เพื่อสามารถรับก๊าซอีเทนประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพราะเป็นวัตถุดิบที่ต้นทุนสามารถแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั่วโลก และเพิ่มความยืดหยุ่นของวัตถุดิบในการผลิต ใช้เงินงบลงทุนประมาณ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เพื่อสร้างถังรับก๊าซอีเทน และสาธารณูปโภคการรับวัตถุดิบ (Supporting Facilities) คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จปลายปี 2570


สำหรับโครงการ LSP เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา และสามารถผลิตได้ 74,000 ตัน โดยเป็นยอดขายในช่วงทดลอง ทั้งนี้ ธุรกิจมุ่งบริหารจัดการการผลิตของโรงงานทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานระยองโอเลฟินส์ (ROC) โรงงานมาบตาพุดโอเลฟินส์ (MOC) และโรงงาน LSP ให้เหมาะสมกับราคาวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันสูงสุด ซึ่งขณะนี้โรงงาน LSP ได้หยุดการเดินเครื่อง เพื่อบริหารต้นทุนธุรกิจโดยภาพรวม ทั้งนี้ จะมีการประเมินการกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์เหมาะสม

สำหรับนวัตกรรมกรีน SCGC GREEN POLYMER TM ไปได้ดี ความคืบหน้าล่าสุด อาทิ ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำ บางจากฯ และปัญจวัฒนาพลาสติก ผลิต “บรรจุภัณฑ์หัวเชื้อน้ำมันดีเซลรักษ์โลก FURiO Ultra HD” จากวัสดุใช้แล้วในครัวเรือนนำมาปรับปรุงคุณสมบัติสูตรเฉพาะทำให้บรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังผ่านการรับรองจาก GRS (Global Recycled Standard) และร่วมกับ คาโอ อินดัสเตรียล บริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น พัฒนา “บรรจุภัณฑ์ขวดแชมพูรักษ์โลก” จากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง สามารถรีไซเคิลได้ร้อยละ 100


สำหรับกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและที่อยู่อาศัย ภาพรวมยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณจากภาครัฐ เพื่อเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่ตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้างของไทยยังชะลอตัว จากงานโครงการที่ชะลอตัว และภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ เร่งต่อยอดเทคโนโลยีก่อสร้างด้วย 3D Printing และพัฒนาวัสดุที่สามารถแข็งตัวและให้กำลังอัดคล้ายกับปูนซีเมนต์ชนิดพิเศษ (Special Cementitious Materials) รองรับการผลิตขึ้นรูปในตลาดโลก ล่าสุด ลงนามร่วมกับบริษัท Samsung E&A ประเทศเกาหลีใต้ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว แม่นยำ ลดต้นทุนและวัสดุเหลือใช้จากงานก่อสร้าง รวมทั้งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ โดยเฉพาะการนำ 3D Printing Mortar ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้านคุณภาพ ด้วยวัสดุที่พัฒนาและจดสิทธิบัตรมากว่าสิบปี พร้อมสนับสนุนด้านคำปรึกษา (Technology Consultation) สามารถขึ้นรูปชิ้นงานที่มีความซับซ้อนสูง ไปจนถึงรูปแบบอาคารก่อสร้างหลายชั้น สำหรับใช้ในการก่อสร้างในประเทศซาอุดิอาระเบีย ล่าสุด SCG International ได้ส่งมอบปูนมอร์ตาร์ล็อตแรกไปยังประเทศซาอุดิอาระเบีย พร้อมแผนขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียใต้ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (SAMEA) รองรับภาคธุรกิจและการก่อสร้างในภูมิภาค นอกจากนี้ ผลักดันโซลูชันตอบโจทย์ อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยรักษ์โลก “รถโม่เล็ก CPAC” เหมาะกับงานก่อสร้างในพื้นที่จำกัด ช่วยลดเสียงรบกวน และ ”คอนกรีตคาร์บอนต่ำซีแพค” ช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5  ร่วมมือกับ AP Thailand ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการบ้านแนวราบกว่า 56 โครงการภายในปี 2567 ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1,112,600 กิโลกรัมคาร์บอน (Kg CO2) เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 117,116 ต้น


สำหรับผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ เอสซีจี ยังได้รับการรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับสากล (Environmental Product Declaration - EPD) ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์สำเร็จรูปเสือมอร์ตาร์ ถือเป็นรายแรก ครอบคลุมปูนมอร์ตาร์ 10 ผลิตภัณฑ์ ปูนซีเมนต์เอสซีจีและเสือ รวม 8 ผลิตภัณฑ์  และคอนกรีตผสมเสร็จซีแพค 27 ผลิตภัณฑ์ (คอนกรีตผสมเสร็จ จะได้รับการรับรองในเดือน พ.ย. 2567)

เอสซีจี ดิสทริบิวชั่นแอนด์รีเทล รุกตลาดค้าปลีกศักยภาพสูงสำหรับสินค้าและบริการเรื่องบ้านที่โตต่อเนื่อง ล่าสุด เร่งขยายโมเดิร์นเทรด Mitra 10 ในประเทศอินโดนีเซีย เปิดเพิ่มอีก 2 สาขาที่เมืองจาบาเบกา และซามารินดา โดยยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่งภายในปี 2567 พร้อมเดินหน้าเสิร์ฟกลุ่มสินค้า House Brand ที่หลากหลาย ราคาเข้าถึงได้ ในช่องทางจัดจำหน่ายภายในประเทศ อาทิ กลุ่มสินค้าตกแต่ง แบรนด์ UNIX  กลุ่มสินค้าเหล็ก แบรนด์ TOPSTEEL และกลุ่มอุปกรณ์เครื่องมือช่าง TOPPRO นอกจากนี้ คิวช่าง (Q-Chang) เเพลตฟอร์มศูนย์รวมช่างคุณภาพและบริการดูแลบ้านครบวงจร เติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเครือข่ายช่างผู้เชี่ยวชาญกว่า 10,000 ราย ให้บริการลูกค้ามากกว่า 300,000 รายทั่วประเทศ รุกเสริมเเกร่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยครอบคลุมทุกความต้องการ พร้อมเปิดรับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่พร้อมร่วมมือสร้างศักยภาพการขยายธุรกิจ และเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต


เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง รุกนวัตกรรมวัสดุตกแต่งภูมิทัศน์ ร่วมสร้าง จ.ร้อยเอ็ด แลนด์มาร์คภาคอีสาน ด้วยการออกแบบชูวัฒนธรรมสร้างอัตลักษณ์ เลือกใช้บล็อกและกระเบื้องปูพื้นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตร้อยละ 40 ได้รับรอง SCG Green Choice และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย อาทิ บล็อกปูพื้น กระเบื้องปูพื้นเอสซีจี รุ่น Pavement, Serena และกระเบื้องปูพื้นเอสซีจีเทคโนโลยีใหม่ รุ่น UVT เป็นต้น ทั้งยังผลักดันสินค้าสำเร็จรูป และระบบติดตั้ง ตอบโจทย์ก่อสร้างรวดเร็ว เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าที่ต้องการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม อาทิ ไม้เชิงชายรุ่นพร้อม ไม้ฝาและไม้ตกแต่งทำสีสำเร็จ และวัสดุต่อเติมที่ทำงานง่าย ทนน้ำทนชื้น อย่างแผ่นสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เป็นต้น

เอสซีจี เดคคอร์ (SCGD) มุ่งลดต้นทุน เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด ติดตั้ง Hot Air Generator ที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมหนองแค ลดต้นทุนได้ 16.8 ล้านบาทต่อปี พร้อมเดินหน้ารุกตลาดเวียดนามสร้างการเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดเร่งปรับไลน์ผลิตกระเบื้องเซรามิกเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนขนาดใหญ่ กำลังการผลิต 2.5 ล้านตารางเมตร ทั้งยังขยายช่องทางจัดจำหน่าย พร้อมเสิรฟ์สินค้าหลากหลายตอบโจทย์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เปิดร้านจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกและสุขภัณฑ์  V-Ceramic ร้านแรกทางภาคใต้ของเวียดนาม

เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ เติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการและผลักดันการใช้พลังงานสะอาดภายในประเทศมากขึ้น ทำให้มีกำลังผลิตรวม 526 เมกะวัตต์ จากโครงการภาครัฐและภาคเอกชน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย ลงนามการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว วงเงิน 1,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการ Solar Private PPA (Power Purchase Agreement) สำหรับการลงทุนติดตั้งโซลาร์ในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับองค์กรและบริษัทต่าง ๆ โดยมีกำลังผลิตรวม 88.5 เมกะวัตต์ อีกทั้งการเชื่อมต่อด้วยระบบเครือข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Microgrid) มีแผนขยายผลในกลุ่มโรงงานบริษัทโตโยต้า ในนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี สำหรับแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานความร้อนจากพลังงานสะอาด Rondo Heat Battery มีความคืบหน้าโครงการติดตั้งที่โรงงานปูนซีเมนต์ เอสซีจี จ.สระบุรี แล้วกว่าร้อยละ 45 ซึ่งดำเนินการออกแบบแล้วเสร็จ และได้เริ่มการผลิตวัสดุกักเก็บความร้อน  (Thermal Media) เก็บความร้อนของแบตเตอรี่กักเก็บความร้อนจากพลังงานสะอาด (Heat Battery) โดยคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องจักรได้ประมาณไตรมาส 2 ของปี 2568


เอสซีจีพี รุกขยายในธุรกิจบรรจุภัณฑ์และโซลูชันที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภค เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีศักยภาพเติบโตสูง ล่าสุดร่วมมือกับ Once Medical Company Limited พัฒนาโซลูชันเข็มฉีดยาและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงอื่น ๆ เพื่อเสริมศักยภาพการผลิตของ VEM Thailand และขยายเครือข่ายลูกค้าได้อย่างแข็งแกร่งและครอบคลุมยิ่งขึ้น อีกทั้ง มุ่งบริหารต้นทุนและเพิ่มความสามารถทำกำไร ด้วยการปรับพอร์ตเพิ่มยอดขายสินค้ามูลค่าสูง เพิ่มสัดส่วนส่งออกกระดาษบรรจุภัณฑ์ไปประเทศที่มีความต้องการ บริหารต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มการใช้กระดาษรีไซเคิลภายในประเทศ และขยายเครือข่ายการจัดหากระดาษรีไซเคิลเพิ่มขึ้น รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดต้นทุนพลังงานอย่างต่อเนื่อง

นายธรรมศักดิ์ กล่าวปิดท้ายว่า “ช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ ทุกภาคส่วนต้องรวมพลัง ช่วยเหลือกันและกัน  สำหรับเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา เอสซีจีร่วมกับภาคีเครือข่ายให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมอบถุงยังชีพ 1,140 ถุง สุขากระดาษ 3,600 ชิ้น เตียงกระดาษ 20 หลัง ห้องน้ำสำเร็จรูป 6 ห้อง ตั้งโรงครัว ทำอาหารให้ชุมชน 8 แห่ง สนับสนุนวัสดุซ่อมแซมโรงเรียน 15 แห่งในพื้นที่ประสบภัย ส่วนภาคธุรกิจต้องเร่งปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจให้พร้อมรับมือกับกฎเกณฑ์ มาตรการที่เกี่ยวกับโลกร้อน นอกจากเอสซีจีจะจัดโครงการ Go Together ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ เพื่อยกระดับความสามารถผู้ประกอบการ SMEs ให้ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังได้จัดหลักสูตร NZAP (NET ZERO Accelerator Program) สำหรับผู้ประกอบการ SMEs และผู้บริหารภาครัฐรุ่นใหม่ ให้เข้าใจนโยบายภาครัฐ กลไกการค้า การเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจคาร์บอนต่ำ เพื่อติดอาวุธ ลดต้นทุน เพิ่มกำไร และเกิดอุตสาหกรรมสีเขียวควบคู่กับการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ”

#####

ข้อมูลสำคัญทางการเงินของเอสซีจี


ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 เอสซีจีมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 721 ล้านบาท ซึ่งรวมรายการเงินสดที่ได้จากสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยหรือ Interest Rate Swap (IRS) มูลค่า 2,183 ล้านบาท จาก เอสซีจี เคมิคอลส์ โดยที่กำไรสำหรับงวดลดลงร้อยละ 81 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า การปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง ประกอบกับไตรมาสก่อนเป็นช่วงที่มีรายได้เงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น ทั้งนี้ หากไม่รวม IRS ขาดทุนสำหรับงวดจะเท่ากับ 1,462 ล้านบาท สำหรับรายได้จากการขายอยู่ที่ 128,199  ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน  เนื่องจาก เอสซีจี เคมิคอลส์ มีปริมาณขายเพิ่มขึ้นชดเชยกับยอดขายที่ลดลงของเอสซีจีพี ในขณะที่ EBITDA เท่ากับ 9,879 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 39 จากไตรมาสก่อน


ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2567 เอสซีจีมีรายได้จากการขายอยู่ในระดับเดียวกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 380,660 ล้านบาท เป็นผลมาจากปริมาณขายของเอสซีจี เคมิคอลส์ และ เอสซีจีพีที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ยอดขายกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้างลดลง ส่วน EBITDA ลดลงร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 38,768  ล้านบาท กำไรสำหรับงวดและกำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษ  (Profit excluding extra items[1]) เท่ากับ 6,854 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 75 และร้อยละ 46 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากค่าใช้จ่ายในการเดินเครื่องโรงงานปิโตรเคมี Long Son ที่ประเทศเวียดนาม (ค่าใช้จ่ายนี้ รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการเดินเครื่องที่เป็นเงินสดและค่าเสื่อมราคาที่ไม่เป็นเงินสด) ประกอบกับส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลง

สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 มีมูลค่า 867,046 ล้านบาท โดยร้อยละ 45 เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน (นอกเหนือจากไทย)

สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2567 นวัตกรรม สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High-Value Added Products & Services-HVA) มียอดขาย 115,712 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39 ของยอดขายรวม และสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม SCG Green Choice มียอดขาย 207,113 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 54 ของยอดขายรวม

มีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมส่งออกจากไทย ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ทั้งสิ้น 169,682 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45 ของยอดขายรวม

ผลประกอบการแยกตามรายธุรกิจ

เอสซีจี เคมิคอลล์ (เอสซีจีซี) ไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้จากการขาย 53,449 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากปริมาณขายเพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของ EBITDA อยู่ที่ 1,540 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 50 จากไตรมาสก่อน EBITDA from Operations อยู่ที่ 1,340 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 จากไตรมาสก่อน ขาดทุนสำหรับงวดเท่ากับ 1,480 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากไตรมาสก่อน จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง ประกอบกับไตรมาสนี้รับรู้ขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ 1,302 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากราคาขายสินค้าปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ EBITDA ลดลงร้อยละ 46 และ EBITDA from Operations ลดลงร้อยละ 51 ขาดทุนสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 2,532 ล้านบาท จากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าและจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลง

เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ รายได้จากการขายในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เท่ากับ 20,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่สูงขึ้นจากไตรมาสก่อน รวมถึงการทำการตลาดปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำมากขึ้น ในขณะที่ EBITDA เท่ากับ 2,479 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน กำไรสำหรับงวดอยู่ที่ 225 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 71 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการซ่อมแซมเครื่องจักรตามฤดูกาล เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายลดลงร้อยละ 3 จากการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐที่ล่าช้าในขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 และกำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 690 ล้านบาท จากการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตและพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของโรงงานซีเมนต์ในภูมิภาคมูลค่า 578 ล้านบาท

เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง และเอสซีจี ดิสทริบิวชั่นแอนด์รีเทล ไตรมาส 3 ปี 2567 รายได้จากการขายในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เท่ากับ 33,593 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดย EBITDA เท่ากับ 899 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน กำไรสำหรับงวดอยู่ที่ 314 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 45 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากความต้องการที่ลดลงตามฤดูกาล รวมถึงเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทยและประเทศในภูมิภาค ประกอบกับไตรมาสก่อนเป็นช่วงที่มีรายได้เงินปันผลรับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
รายได้จากการขายลดลงร้อยละ 13 จากเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทยและประเทศในภูมิภาค แต่ EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และกำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้นร้อยละ 214 จากการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า


เอสซีจี เดคคอร์ 9 เดือนปี 2567 มีรายได้จากการขายในช่วง 9 เดือนของปี 2567 เท่ากับ 19,585 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มี EBITDA อยู่ที่ 2,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 730 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 69 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

เอสซีจีพี 9 เดือนปี 2567 มีรายได้จากการขายในช่วง 9 เดือนของปี 2567 เท่ากับ 101,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย EBITDA เท่ากับ 13,293 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 3,756 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


[1]รายการพิเศษ หมายถึง รายการที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำของธุรกิจ ที่เป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด

(1)รายการพิเศษในช่วง 9 เดือนของปี 2566 ประกอบด้วย:

1.ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของโรงงานซีเมนต์ในภูมิภาค ของ เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์   = -578 ล้านบาท

2.กำไรจากปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน = 14,822 ล้านบาท



10
จบงานอย่างยิ่งใหญ่ งานโยคะครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ
Thailand Yoga Art & Dance ปี 2567
ซึ่งจัดเป็นปีที่ 8 ในวันที่ 25-27 ตุลาคม 2567 ที่ โรงแรมเดอะซายน์ พัทยา – นาเกลือ














               จบไปแล้วกับงานโยคะครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ Thailand Yoga Art & Dance ปี 2567 ซึ่งจัดเป็นปีที่ 8 ในวันที่ 25-27 ตุลาคม 2567 ที่ โรงแรมเดอะซายน์ พัทยา – นาเกลือ ปีนี้ ทุกคนเต็มอิ่มกับกิจกรรมมากมายทั้งใน Indoor และ Out door ทั้งคลาสโยคะบนบก และ ในน้ำ Aqua Yoga , คลาสเต้นทุกรูปแบบ ,คลาสฟิสเนต ,คลาสทำกับข้าว yoga Fly , Sup Yoga, Stand up Paddle Board, บำบัดด้วยน้ำแข็ง (Ice Bath), พอกโคลนจากเนปาล, Singing Bowl คลาสกลองบำบัด คลาสโยคะหัวเราะ โยคะหน้า และอีกหลากหลายหลาส จัดเต็มถึง 117 คลาสใน 3 วัน กับ 11 ห้องเรียน จากครูผู้สอน 66 ท่าน ทั่วโลก งานนี้มีคนเข้าร่วมจำนวน 1020 คน จาก 13 ประเทศ อาทิเช่น เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงค์โปร์ เวียดนาม ไต้หวัน จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อเมริกา เบลเยี่ยม ฮ่องกง และไทย งานนี้ จัดขึ้นโดยบริษัท เมคเฟรนส์ ฟอร์ยู จำกัด และได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน อาทิเช่น เมืองพัทยา , ทททเมืองพัทยา ,สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฯ ,AIA VAtality True Corporation , บุญรอดบริวเวอร์รี่ vannesse













             พบกับกิจกรรมโยคะดีๆ เช่นนี้ในงาน Thailand Yoga Art & Dance ที่พัทยา วันที่ 31 ต.ค -2 พ.ย 2568
สอบถามเพิ่มเติม : Line Official : makefriendsforu/Page:thailandyogaart&dance/IG:thailand_yogaartanddance


The biggest yoga event, Thailand Yoga Art & Dance 2024 has ended, which will be held for the 8th year on 25-27 October 2024 at The Zign Hotel Pattaya – Na Kluea.













คุณชญาดา มาตรเจริญ (Chayada martcharoen)
ผู้จัดงาน Thailand Yoga Art & Dance

 
              This year, everyone was full of activities. Plenty both indoor and outdoor. There are yoga classes on land and in water- Aqua Yoga , all types of dance classes, fitness classes, cooking classes, yoga Fly, Sup yoga, stand up paddle board, Ice Bath, Mud Therapy, Singing Bowl, therapy drum classes. Laughter Yoga, Facial Yoga and many more classes, complete with 117 classes.in 3 days with 11 classrooms from 66 teachers around the world, the event was attended by 1020 people from 13 countries including Korea, Japan, Malaysia, Singapore, Vietnam, Taiwan, China, Philippines, Indonesia, America, Belgium, Hong Kong and Thailand. This event was organized by Make Friends For U Co.,Ltd and received cooperation and support from both the government and private sectors such as Pattaya City, TAT- Pattaya , Tourism Industry Council, AIA Vatality, True Corporation, Boon Rawd, Vanesse

               Meet great yoga activities like this at the Thailand Yoga Art & Dance event in Pattaya, next year on 31 Oct. – 2 Nov. 2025.

More info: Line Official : makefriendsforu/Page:thailandyogaart&dance/IG:thailand_yogaartanddance











11
EMMA CLINIC ไม่หยุดอัปความรู้  ส่ง “อ.พญ.วาสิตา หรือหมอกวาง” ดีกรีศัลยแพทย์งานแก้สุดปัง
บินตรงเอ็กซ์คลูซีฟเทรนนิ่งความรู้ใหม่ๆเทรนด์ศัลยกรรมจมูก ณ ประเทศสเปน
ใจฟูเป็นคลินิกแห่งเดียวจากไทยผนึกหมอทั่วโลก เผยทรงจมูกทิศทางสวยสไตล์ธรรมชาติมาแรง


EMMA CLINIC (เอมม่า คลินิก) เดินหน้าไม่หยุดพัฒนา เทคนิคใหม่ๆ เพื่อให้คลินิก เป็นผู้นำ ในทุกบริการศัลยกรรม เพื่อนำความรู้เทคนิคต่างๆ ดีไซน์ให้ลูกค้าทุกท่านสวย หล่อ มีความปลอดภัย ทรงจมูกวิเคราะห์ให้เหมาะในสไตล์แบบฉบับของตัวเอง ตอบโจทย์ในทุก GEN


สำหรับงานศัลยกรรมจมูก ทรงจมูก  TEARDROP เอกลักษณ์ของ EMMA CLINIC ทรงจมูกมีความสโลป สไตล์ธรรมชาติ ด้านงานแก้จมูก อ.พญ.วาสิตา เสริมสกุลวัฒน์ หรือ หมอกวาง แพทย์เฉพาะทาง สาขาศัลยศาสตร์ตกแต่ง (Plastic Surgery) เลขที่ประกอบใบวิชาชีพ 33684 มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี บุคลิกอ่อนหวาน แนวคิดทันสมัย มีความละเอียด


อ.พญ.วาสิตา เสริมสกุลวัฒน์ หรือ หมอกวาง เปิดเผยว่า “ ดีใจอย่างมากเมื่อได้ไปเรียนรู้เทคนิคการศัลยกรรมทรงจมูก เป็นงานสัมมนาและเวิร์กช้อป Intensive live Surgery Course ณ ประเทศสเปน ที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์ที่ได้แลกเปลี่ยนการศัลยกรรมจมูกจากแพทย์ทั่วโลก ซึ่ง EMMA CLINIC เป็นคลินิกเดียวจากประเทศไทย ในภูมิภาคเอเชีย  เทคนิคใหม่ที่ฝั่งยุโรปกำลังฮอต เรียกว่า Preservation Rhinoplasty


คาดว่าทิศทางทรงจมูกในอีก 3ปี ทรงจมูกสวยสไตล์ธรรมชาติครองใจลูกค้าทุก GEN ในประเทศไทย และเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั่วโลก สามารถปรึกษาก่อนศัลยกรรมเพื่อความเข้าใจในแต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน ประกอบด้วยโครงสร้างใบหน้า ทั้งนี้มีปัญหาแต่ละท่าน เช่น จมูกเริ่มบาง หรือต้องการเปลี่ยนทรง งานแก้ทรงจมูก ลูกค้าต้องคำนึงถึงคลินิกที่มีคุณภาพ การดูแลหลังการศัลกรรม  ประสบการณ์แพทย์และความเชี่ยวชาญจึงสำคัญค่ะ”

สอบถามและดูข้อมูลผ่านช่องทางโซเซียลแบรนด์ EMMA CLINIC

IG : https://www.instagram.com/emmaclinic_thailand/
FB : https://www.facebook.com/EmmaclinicNoseClose
Tiktok : https://www.tiktok.com/@emmaclinic?_t=8qzwFDxZAXg&_r=1
Line : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=emmaclinic

12
15 พฤศจิกายน 2567 ร่วมฉลองเทศกาลลอยกระทง
กับ 5 โรงแรมหรูวิวริมทะเล ในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์




             5 โรงแรมหรู ในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ขอเชิญทุกท่านร่วมสืบสานประเพณีไทย พร้อมกับเฉลิมฉลองเทศกาล “วันลอยกระทง” ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เพลิดเพลินพร้อมอิ่มอร่อยในค่ำคืนที่แสนพิเศษ ท่ามกลางวิวสวยริมทะเล พร้อมกับกิจกรรมพิเศษที่เตรียมไว้รอต้อนรับทุกท่าน






1.         โรงแรมเคปฟาน เกาะสมุย ณ ห้องอาหารหิว พบกับเซตพิเศษมื้อค่ำ ราคา 3,500++ บาท ต่อท่าน เด็กอายุต่ำกว่า12 ปี ราคา 1,000++ บาท ต่อท่าน

15.00-18.00 น. – กิจกรรมประดิษฐ์กระทง

18.00-19.00 น. – สนุกสนานกับคอกเทลปาร์ตี้ ณ ห้องอาหารหิว

18.00-20.30 น. – ร่วมรับประทานอาหาร เซตพิเศษมื้อค่ำ พร้อมชมการแสดงและกิจกรรมลอยกระทงบริเวณสระว่ายน้ำหลักของโรงแรมฯ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า กรุณาติดต่อ โรงแรมเคปฟาน เกาะสมุย โทร. 077-602-301 หรือสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capefahnhotel.com


2.         โรงแรมเคปกูดู เกาะยาวน้อย ณ ห้องอาหารฮอร์นบิล ฟรีกิจกรรมพิเศษสำหรับลูกค้าที่เข้าพักกับโรงแรมในค่ำคืนวันลอยกระทง

15.00-18.00 น. – กิจกรรมประดิษฐ์กระทง

18.00-19.00 น. – สนุกสนานกับคอกเทลปาร์ตี้และกิจกรรมลอยกระทงบริเวณสระว่ายน้ำหลักของโรงแรมฯ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า กรุณาติดต่อ โรงแรมเคปกูดู เกาะยาวน้อย โทร. 076-592-600 หรือสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capekuduhotel.com


3.         โรงแรมเคปนิทรา หัวหิน ณ ห้องอาหารร็อคส์ เพลิดเพลินกับกิจกรรมและอิ่มอร่อยไปกับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำสไตล์บาร์บีคิว ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. ในราคา 1,390 บาท (สุทธิ) ต่อท่าน (เด็กอายุต่ำกว่า12 ปี ลดครึ่งราคา)

15.00 – กิจกรรมประดิษฐ์กระทง

18.00-19.00 น. – สนุกสนานกับคอกเทลปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ

18.30-22.00 น. – ร่วมรับประทานอาหาร บุฟเฟ่ต์สไตล์บาร์บีคิว ณ ห้องอาหารร็อคส์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า กรุณาติดต่อ โรงแรมเคปนิทรา หัวหิน โทร. 032-516-600 หรือสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capenidhra.com


4.         โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. บริเวณสระว่ายน้ำหลักของโรงแรมฯ ตื่นตาตื่นใจไปกับเหล่าสาวงามที่เข้าร่วมกิจกรรมการประกวดนางนพมาศพร้อมอิ่มฟินกับบุฟเฟต์ มื้อค่ำ  ในราคา 1,500 บาท (สุทธิ) ต่อท่าน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา *พิเศษสำหรับการจองล่วงหน้า ในราคาเพียง 1,200 บาท (สุทธิ) ต่อท่าน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา (สำหรับการจองล่วงหน้า ในราคาพิเศษ ไม่สามารถแลกเปลี่ยน ยกเลิก หรือคืนเงินได้ )

กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า ติดต่อโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต โทร. 076-391-123 หรือสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.capepanwa.com


5.         โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง บริเวณวงเวียนน้ำพุ อิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติมื้อค่ำเลิศรสพร้อมการแสดงที่ตระเตรียมไว้ต้อนรับทุกท่านในราคาเพียงท่านละ 850 บาท (สุทธิ) เด็กส่วนสูง 90-120 เซนติเมตร ลดครึ่งราคา

สำรองที่นั่งล่วงหน้า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง โทร. 038-804-844 หรือสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.kantarybay-rayong.com


###########

#เคปแอนด์แคนทารีโฮเทลส์ #ฉลองคืนวันลอยกระทง #ลอยกระทง

####################

* โรงแรมในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไข

โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านทางช่องทางการติดต่อสื่อสารของโรงแรมฯ

#######################

* กลุ่มโรงแรมในเครือ เคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ สนับสนุนการป้องกันการทารุณสัตว์

ซึ่งโรงแรมฯ มีนโยบายชัดเจนในการห้ามไม่ให้มีการขาย หูฉลาม รังนก และตับห่าน ในทุกห้องอาหารของโรงแรม

13
Maison Berger Paris เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ล่าสุด SPIRALE Collection


              Maison Berger Paris แบรนด์เครื่องหอมชั้นนำจากฝรั่งเศส ภูมิใจนำเสนอคอลเลกชันใหม่ล่าสุด "SPIRALE Collection" ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เกลียวโค้งที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมมอบประสบการณ์ความหอมและการตกแต่งบ้านที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นชุดตะเกียงน้ำหอม SPIRALE ที่ช่วยฟอกอากาศและสร้างความหอมให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่คุณชื่นชอบ หรือ ชุดก้านกระจายความหอม SPIRALE Scented Bouquet ที่ให้คุณเลือกน้ำหอมที่ชื่นชอบได้เอง คอลเลกชันนี้จะช่วยเพิ่มสีสันและความสดชื่นให้บ้านของคุณอย่างแน่นอน

ชุดตะเกียงน้ำหอม SPIRALE

              ตะเกียงน้ำหอมจาก Maison Berger Paris ผลิตในประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1898 โดยมีคุณสมบัติพิเศษในการฟอกอากาศ กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ สร้างบรรยากาศหอมสดชื่น และเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของคุณ ด้วยดีไซน์เกลียวที่สวยงามและทันสมัย ตะเกียงน้ำหอมสามารถฟอกอากาศได้ภายในเวลาเพียง 20 นาทีต่อพื้นที่ 110 ตารางฟุต โดยจะขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และช่วยกระจายความหอมให้บ้านของคุณ

              นอกจากนี้ ชุดตะเกียงน้ำหอม SPIRALE มาพร้อมดีไซน์เกลียวที่สะดุดตา จัดอยู่ในเซ็ตของขวัญที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ 5 ชิ้น ได้แก่ ไส้ตะเกียง ตัวครอบตะเกียงสีเงิน ฝาปิด กรวยเติมน้ำหอม และน้ำหอมขนาด 250 มล. พร้อมเลือกสัมผัสกับกลิ่นหอมที่หลากหลายจาก 3 สีที่โดดเด่น ได้แก่

•   สีแดงอำพัน (Amber Red) มาพร้อมน้ำหอมกลิ่น Rhubarb Radiance ขนาด 250 มิลลิลิตร กลิ่นหอมสดชื่นที่เต็มไปด้วยพลังและชีวิตชีวา
•   สีใส (Transparent) มาพร้อมน้ำหอมกลิ่น Air Pur ขนาด 250 มล. ออกแบบมาเพื่อช่วยฟอกอากาศโดยเฉพาะ ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์โดยไม่ทิ้งกลิ่นใดๆ เพื่อเพิ่มความบริสุทธิ์ให้กับอากาศในบ้านของคุณ
•   สีดำ (Spirale Noire) มาพร้อมน้ำหอมกลิ่น Velvet of Orient ขนาด 250 มล. กลิ่นหอมลึกลับและอบอุ่นที่สร้างบรรยากาศที่ชวนให้หลงใหล จำหน่ายราคาชุดละ 2,250 บาท จากราคา 3,180 บาท และฟรีน้ำหอม ขนาด 50 มล. กลิ่นใด ๆ จำนวน 1 ขวด


ชุดก้านกระจายความหอม SPIRALE Scented Bouquet

              ก้านกระจายความหอมที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ด้วยโครงสร้างเกลียวที่โดดเด่น เพิ่มความเก๋ไก๋ให้กับบ้านของคุณ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีแดงอำพัน (Amber Red) สีดำ (Spirale Noire) และสีขาวขุ่น (Frosted) ยิ่งไปกว่านั้น ความพิเศษของชุดก้านกระจายความหอม SPIRALE ให้คุณสามารถเลือกน้ำหอมชนิดเติมได้ตามความชอบส่วนตัว ปรับแต่งบรรยากาศในบ้านได้ตรงใจที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมหวานของมวลดอกไม้ กลิ่นสะอาดสดชื่น กลิ่น Aroma หรือแม้แต่กลิ่นที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศและขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เฉพาะจุด จำหน่ายราคาชุดละ 1,246 บาท จากปกติ 1,780 บาท (ไม่มีน้ำหอมชนิดเติม)

เติมความเก๋ไก๋ให้บ้านของคุณด้วยคอลเลกชัน SPIRALE ช่วงแนะนำลดราคา 30%

              คอลเลกชัน SPIRALE มาพร้อมดีไซน์โค้งเกลียวที่ช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับบ้านของคุณ ทั้งยังเป็นตัวช่วยสร้างบรรยากาศความหอมในแบบที่คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็นตะเกียงน้ำหอมสำหรับฟอกอากาศหรือชุดก้านกระจายความหอมที่คุณเติมน้ำหอมเองได้ ให้บ้านของคุณหอมสะอาดและสดชื่นได้ทุกวัน โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว มอบส่วนลด 30% ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ถึง 30 พฤศจิกายน 2567

              ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี แบรนด์ Maison Berger Paris ในไทย ที่จัดเต็มทั้งความหอมและส่วนลดแบบที่คุณไม่ควรพลาด รีบมาเลือกช้อปสินค้ากันได้ที่ร้าน Maison Berger Paris ทุกสาขา หรือช้อปสะดวกผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษได้แล้ววันนี้ที่ Facebook: MaisonBergerThailand, LINE: @maisonbergerthai, IG:maisonbergerthailand, www.maisonbergerthailand.com , Lazada, Shopee, ShopSabuy และ Tiktok สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-672-2088

14
เอสซีจีรับรางวัลเกียรติยศด้านความยั่งยืนกลุ่ม Sustainability Excellence 7 ปีซ้อน
พร้อมบริษัทในกลุ่ม SCGP, SCGJWD และ Q-CON คว้ารวม 5 รางวัล ในงาน SET AWARDS 2024


นายชนะ ภูมี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี (คนที่ 2 จากซ้าย) รับรางวัลเกียรติยศบริษัทจดทะเบียนด้านความยั่งยืน (Sustainability Awards of Honor) ซึ่งมอบให้บริษัทที่ได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนยอดเยี่ยมติดต่อกันตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป โดยปีนี้เอสซีจีได้รับรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ในงาน “SET AWARDS 2024” จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร

ขณะที่บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP โดยนายเถลิงศักดิ์ ราชบุรี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกิจการเยื่อและกระดาษ (คนที่ 1 จากขวา) รับรางวัล Best Innovation Company Awards ในประเภทรางวัล SET Awards of Honor สะท้อนความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมที่มีคุณค่าช่วยส่งเสริมภาพรวมอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022-2024 โดยได้วิจัยและพัฒนา “ยูคาลิปตัสไฮบริดสายพันธุ์ใหม่เพื่อความยั่งยืน” ที่ช่วยเสริมมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า จากการผสมเกสรต่างสายพันธุ์ร่วมกับการพัฒนาเทคนิคชีวโมเลกุลระดับสูงและเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ยูคาลิปตัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีการเติบโต และให้ผลผลิตที่สูงขึ้น 40%  สามารถทนโรค ทนแมลง และเหมาะกับพื้นที่ในการปลูกในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยและปริมาณน้ำฝนปกติ


ด้านบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD โดยนายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (คนที่ 2 จากขวา) รับรางวัล Highly Commended Supply Chain Management Awards ซึ่งมอบแก่บริษัทจดทะเบียนที่มีความสามารถโดดเด่นในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานจนเกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อบริษัทและคู่ค้าอย่างเป็นรูปธรรมตามเป้าหมายที่องค์กรกำหนดจนเป็นที่ตระหนัก จากโครงการจัดการระบบขนส่งและพัฒนานักขับอัจฉริยะ (FLEET MANAGEMENT AND SMART DRIVER) ที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบการขนส่งให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับบริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON (คนที่ 1 จากซ้าย) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฯ กลุ่มธุรกิจสมาร์ทลีฟวิง(Smart Living) โดยนาย ณรงค์เวทย์ วจนพานิช กรรมการผู้จัดการ รับ 2 รางวัล ในหมวดบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 3,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ได้แก่ รางวัล Outstanding CEO Awards มอบให้ผู้บริหารสูงสุดที่สร้างความสำเร็จ และเป็นผู้ยึดถือหลักคุณธรรมในการบริหารงาน มีวิสัยทัศน์และความสามารถเชิงกลยุทธ์ ใส่ใจกับกิจกรรมด้านนักลงทุนสัมพันธ์ที่สนับสนุนการสร้างความยั่งยืนให้องค์กร และรางวัล Best Company Performance Awards มอบให้บริษัทที่มีผลการดำเนินงานและการกำกับดูแลกิจการที่ดี ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ได้เป็นอย่างดี


เอสซีจีดำเนินธุรกิจตามแนวทาง Inclusive Green Growth โดยมุ่งสร้างความสามารถในการแข่งขันพร้อมความยั่งยืนทั้งภายในองค์กร ชุมชน และสังคมในวงกว้างผ่านการดำเนินงานตามกลยุทธ์ Regenerative Transformation ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ Net Zero 2050 การเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ด้วยการเน้นใช้พลังงานสะอาด พัฒนาเทคโนโลยี และผลิตสินค้าคาร์บอนต่ำ  Nature Positive เน้นการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางธรรมชาติ รวมทั้งปรับตัวต่อความเสี่ยงทางกายภาพที่เกิดจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น และ Inclusive Society การสร้างสังคมที่เป็นธรรมและเท่าเทียม

นอกจากรางวัล SET AWARDS แล้ว เอสซีจียังได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับสากล ด้วยการเป็นบริษัทแรกในอาเซียนที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในดัชนี DJSI World ตั้งแต่ปี 2004 ในกลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง  และอยู่ในกลุ่มผู้นำ 3 อันดับแรกติดต่อกันยาวนานถึง 14 ปี รวมทั้งยังได้รับการจัดอันดับดัชนีความยั่งยืนหรือ ESG Risk Rating ในระดับ Low Risk เป็น ESG Industry Top Rated 2024 ในกลุ่ม Industrial  Conglomerates จาก Morningstar Sustainalytics  และได้รับ MSCI ESG Ratings ระดับ AA (Leader) กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง (Construction Materials) จาก Morgan Stanley Capital International (MSCI) อีกด้วย

15
ชวนดู A Chinese Odyssey ภาค 3 ฉบับจีนสุดมันส์ที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24


              สาวกไซอิ๋วไม่ควรพลาดชม “A Chinese Odyssey 3” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ไซอิ๋ว เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 3” ภาพยนตร์จีน แนวรอมคอมแฟนตาซีที่ผสมผสานความดราม่า นำแสดงโดย “หางเกิง” อดีตสมาชิกวงซูเปอร์จูเนียร์ รับบทเป็น “จุนเป่า” หรือ “หงอคง” ที่กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์ และ “อู๋จิง” รับบทเป็น “พระถังซัมจั๋ง”






              ในภาคนี้ เรื่องราวเล่าถึง จื่อเสีย และ ชิงเสีย นางฟ้าฝาแฝด โดยจื่อเสียมีความรักกับ จุนเป่า ซึ่งในอีกห้าร้อยปีจะกลายเป็น หงอคง แต่เมื่อจื่อเสียใช้กล่องแสงจันทร์เพื่อดูอนาคต นางพบว่าหากรักกับหงอคง นางจะต้องตาย จึงพยายามเลิกกับจุนเป่า ในขณะเดียวกัน วานรหก หูปลอมตัวเป็นหงอคงและพยายามจับ พระถังซัมจั๋ง กิน แต่ถูกเจ้าแม่กวนอิมจับและส่งมอบให้เง็กเซียงฮ่องเต้ อย่างไรก็ตาม เง็กเซียงฮ่องเต้กลับปล่อยวานรหกหูออกมา ซึ่งเป็นแผนของเง็กเซียงฮ่องเต้เพื่อปกปิดความผิดที่เขียนเทียนสูผิดพลาด มาลุ้นกันสิว่าหงอคงจะแก้ไขวิกฤตนี้ได้หรือไม่ และความรักของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เวลา 14.55 น. ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และ https://true4u.com/live

Pages: [1] 2 3 ... 2455