Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - happy

Pages: 1 ... 590 591 [592] 593 594 ... 2405
8866
ต้อนรับการคัมแบ็กที่ติดอยู่ในหัวใจ NCTzen ชาวไทย! ช้อปปี้ จับมือ เอสเอ็ม ทรู
จัดกิจกรรม NCT 127 VIDEO CALL EVENT

ร่วมฉลองเปิดตัวอัลบั้มใหม่ “Sticker” กับกิจกรรมวิดีโอคอลสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับเมนคนโปรด
รับมหกรรมแคมเปญ Shopee 10.10 Brands Festival ราคาน่าคบ มีครบทุกแบรนด์ดัง


                แรงไม่แผ่ว หลังจาก 9 เมมเบอร์จากวง NCT 127 (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ทั้ง TAEIL (แทอิล), JOHNNY (จอห์นนี่), TAEYONG (แทยง), YUTA (ยูตะ), DOYOUNG (โดยอง), JAEHYUN (แจฮยอน), JUNGWOO (จองอู), MARK (มาร์ค) และ HAECHAN (แฮชาน) ได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลงไตเติล ‘Sticker’ จากอัลบั้มใหม่ในรอบ 1 ปีครึ่ง ซึ่งอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 นี้ยังได้ทุบสถิติยอดสั่งจองล่วงหน้าทะลุ 2.12 ล้านชุดเป็นที่เรียบร้อย และเพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ พร้อมสร้างเซอร์ไพร์สต้อนรับมหกรรม​ Shopee 10.10 Brands Festival ราคาน่าคบ มีครบทุกแบรนด์ดัง ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน จึงได้ร่วมมือกับ เอสเอ็ม ทรู จัดกิจกรรมพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อเหล่าสาวกชาว NCTzen กับ กิจกรรม NCT 127 VIDEO CALL EVENT ที่ผู้โชคดีจะได้รับสิทธิ์มีทแอนด์กรี๊ดกับเมมเบอร์คนโปรดแบบตัวต่อตัวในรูปแบบของวิดีโอคอล

                NCTzen ชาวไทยสามารถร่วมลุ้นเป็น 1 ใน 135 ผู้โชคดีที่จะได้เข้าร่วมกิจกรรม​ NCT 127 VIDEO CALL EVENT ในรูปแบบวิดีโอคอลตัวต่อตัวกับเมมเบอร์คนโปรดให้ฉ่ำใจนานถึง 2 นาทีเต็ม พร้อมรับอัลบั้มที่มีลายเซ็นของศิลปินที่เลือก และชื่อผู้โชคดีบนปก โดยมีกติกาง่าย ๆ เพียงซื้ออัลบั้ม​ NCT 127 The 3rd Album ‘Sticker’ (Sticky Ver.) พร้อมเลือกศิลปินที่อยากจะคอลด้วย จากร้าน​ KOREATOWN OFFICIAL SHOP BY SHOPEE บน Shopee Mall ระหว่างวันที่ 27 กันยายน (เวลา 12.00 น.) ถึง วันที่ 4 ตุลาคม (เวลา 23.59 น.) 2564 ซึ่งช้อปปี้จะทำการสุ่มและประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางหน้ากิจกรรม และผ่านการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันช้อปปี้ ในวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ภายในเวลา 18:00 น. เพื่อกรอกแบบฟอร์มยืนยันการรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมต่อไป โดยกิจกรรม​ NCT 127 VIDEO CALL EVENT จะจัดขึ้นภายในเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งทางค่ายต้นสังกัดจะทำการยืนยันวันร่วมกิจกรรมโดยตรงกับผู้โชคดี หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนของการยืนยันสิทธิ์

                และทุก ๆ การซื้ออัลบั้ม NCT 127 The 3rd Album ‘Sticker’ (Sticky Ver.) จากร้าน KOREATOWN OFFICIAL SHOP BY SHOPEE บน Shopee Mall ยังจะได้รับสินค้าที่ระลึกเป็น Exclusive Photo Card 1 ใบ ต่อ 1 อัลบั้ม ที่มีเฉพาะที่ช้อปปี้เท่านั้น นอกจากนี้ ชาว NCTzen ยังจะได้รับสิทธิพิเศษอื่น ๆ จากช้อปปี้ อาทิ โค้ดส่งฟรี โค้ดรับเงินคืน และสิทธิประโยชน์อีกมากมายเมื่อชำระเงินผ่าน ShopeePay ตลอดจนโค้ดส่วนลด 500 บาท เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท เพียงระบุโค้ด KFCSPSEPS500 เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตกรุงศรี First Choice, โค้ดส่วนลด 100 บาท เมื่อช้อปครบ 800 บาท เพียงระบุโค้ด BBLD100 เมื่อชำระผ่านบัตรเดบิต ธนาคารกรุงเทพ, และโค้ดส่วนลด 400 บาท เมื่อช้อปครบ 2,000 บาท เพียงระบุโค้ด CITIROP921 เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตซิตี้ รอยัล ออร์คิด พลัส มาสเตอร์การ์ด

                สำหรับมิวสิกวิดีโอเพลง​ ‘Sticker’ ที่ถูกเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ด้วยยอดวิวบน YouTube กว่า 52 ล้านวิว และล่าสุด อัลบั้ม ‘Sticker’ (สติกเกอร์) ยังมียอดสั่งจองล่วงหน้าทะลุ 2.12 ล้านชุดไปแล้วเรียบร้อย สำหรับอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 นี้ ประกอบไปด้วยเพลงหลากหลายแนวทั้งหมด 11 เพลง โดยเพลงไตเติล ‘Sticker’ (สติกเกอร์) เป็นเพลงแนว Hip-hop Dance ที่มาพร้อมเบสไลน์อันหนักหน่วงและเสียงขลุ่ยพิรีอันมีเอกลักษณ์ติดหู รวมถึงเสียงร้องที่ทรงพลัง ในขณะที่เนื้อเพลงถ่ายทอดเนื้อหาเกี่ยวกับการที่จะคอยอยู่เคียงข้างคนรักในโลกอันซับซ้อน และเขียนประวัติศาสตร์ของเราสองคน โดยได้นักทำเพลงฮิตอย่าง ‘Yoo Young Jin’ มารับหน้าที่แต่งเนื้อร้องและทำนอง พร้อมด้วยโปรดิวเซอร์ชื่อดังของอเมริกา ‘Dem Jointz’ ที่มาร่วมแต่งทำนองทำให้เสียงมีเอกลักษณ์อย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญสองสมาชิกของวงอย่าง TAEYONG (แทยง), และ MARK (มาร์ค) ยังมาช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเพลงนี้ ด้วยการแต่งท่อนแร็ปเช่นกัน ในส่วนของมิวสิก วีดีโอเพลง ‘Sticker’ นั้น มีการตีความบรรยากาศของภาพยนตร์ตะวันตก ด้วยการใช้เสน่ห์แบบใหม่ (Neo) ของ NCT 127 พร้อมยกระดับความสนุกในการรับชม ด้วยบรรยากาศแบบอนาคตที่ผสมผสานโปรดักชันต่าง ๆ อาทิ สถานที่หลากหลายแบบ ไฟสุดอลังการ ป้ายเรืองแสง เอฟเฟกต์พิเศษ และอื่น ๆ อีกมากมาย

                พลาดไม่ได้แล้วกับกิจกรรม NCT 127 VIDEO CALL EVENT โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและศึกษาเงื่อนไขการร่วมกิจกรรมได้ที่​ https://shopee.co.th/m/nct127-video-call-event ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันช้อปปี้ได้ฟรีจาก​ App Store, Google Play Store และ App Gallery

8867
The 1 Exclusive ยกระดับที่สุดแห่งประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟเพื่อสมาชิกคนพิเศษ
เปิดตัวศูนย์รวมทุกบริการและสิทธิประโยชน์ของ The 1 Exclusive ครบจบบนแอป The 1 เท่านั้น

ชูความพิเศษและสะดวกสบายที่สมาชิก The 1 ทุกคนต้องมี พร้อมจัดเต็มโปรโมชั่นตรงใจสุดคุ้มตลอดทั้งปี


The 1 (เดอะ วัน) ผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์มอันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล เดินหน้ายกระดับที่สุดแห่งประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟให้กับ The 1 Exclusive โปรแกรมดูแลสมาชิกคนพิเศษที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ตอกย้ำความสะดวกสบายสูงสุด เปิดตัวหน้า The 1 Exclusive ศูนย์รวมทุกบริการและสิทธิประโยชน์เฉพาะสำหรับสมาชิก The 1 Exclusive บนแอป The 1 เท่านั้น พร้อมจัดเต็มหลากหลายโปรโมชั่นพิเศษกว่าใครในทุกๆ เดือน ล่าสุดส่งกิจกรรมโปรโมชั่น Exclusive Treasure Hunt ที่ทั้งสนุกสนานและมอบที่สุดแห่งความคุ้มค่า แลกเพียง 1 คะแนน รับคืนสูงสุดถึง 111,111 คะแนน

คุณอรญา คูนลินทิพย์ Head of Customer Segment – Wealth Program Management, The 1 กล่าว “The 1  มุ่งมั่นยกระดับการดูแลสมาชิกในทุกๆ กลุ่มให้ดียิ่งขึ้นเสมอมา โดยเฉพาะกลุ่ม Top Spenders อย่างสมาชิก The 1 Exclusive  ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งกับ The 1 และเครือเซ็นทรัล โดย The 1 Exclusive คือ Digital Loyalty Program ที่มอบประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟกว่าใครในทุกมิติ ในรูปแบบ Digital Experience เชื่อมต่อประสบการณ์แบบ Omni-Channel ไร้รอยต่อ ผ่านช่องทางแอป The 1 เท่านั้น ซึ่งพร้อมให้บริการอย่างครบวงจรและช่วยให้สมาชิกสามารถเข้าถึงความพิเศษของ The 1 Exclusive ได้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่สมาชิก The 1 Exclusive ที่ใช้แอป The 1 จะมียอดใช้จ่ายสูงกว่าถึง 30% และในวันนี้ The 1 พร้อมเปิดตัวหน้า The 1 Exclusive ซึ่งเป็นเสมือนเลานจ์รับรองในรูปแบบออนไลน์สำหรับสมาชิกคนพิเศษของเรา โดยเป็นศูนย์กลางรวบรวมทุกบริการและสิทธิประโยชน์ที่คัดสรรมาอย่างดี เข้าถึงได้ง่ายเพียงคลิกเดียวจากหน้าแรกของแอป จึงมั่นใจได้ว่า สมาชิกคนพิเศษของเราจะไม่พลาดสิทธิ์ที่ The 1 มอบให้ลูกค้า The 1 Exclusive โดยเฉพาะผ่านแอป The 1 อย่างแน่นอน”

หลังจากเปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2563 จำนวนสมาชิก The 1 Exclusive ก็ได้เติบโตขึ้นจากปีที่แล้วถึง 40% โดยยอดการใช้จ่ายต่อสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 37% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยังมีอัตราการกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง (retention rate) สูงถึง 98% ความสำเร็จในก้าวแรกนี้เกิดขึ้นได้ด้วยแนวคิดหลักในการนำเสนอ Personalized Experience อย่างตรงจุดให้กับสมาชิก The 1 Exclusive โดยมอบการดูแลที่พิเศษกว่าสมาชิกทั่วไป ทั้งในส่วนของบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งได้นำมารวมกันอยู่ในหน้า The 1 Exclusive บนแอป The 1 ทั้งหมด จึงไม่ต้องพกบัตรสมาชิกอีกต่อไป และยังเปิดให้สมาชิกทั่วไปสามารถเข้าชมความพิเศษทั้งหมดนี้ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ปุ่มโทรออกถึง Personal Shopper ติดต่อผู้ช่วยช้อปส่วนตัวได้โดยตรงในคลิกเดียว ให้ช้อปได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นในยุคนิวนอร์มอล​ หลากหลายรีวอร์ดพิเศษเฉพาะสมาชิก The 1 Exclusive ที่คัดสรรและจัดหมวดหมู่มาให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเรตการแลกคะแนนที่พิเศษกว่าสมาชิกปกติ​ The 1 Mission มิชชั่นเฉพาะที่มาพร้อมรางวัลสุดคุ้มกว่าใคร รวมไปถึงบทความข่าวสารจาก The 1 Today ที่เลือกสรรให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก The 1 Exclusive

นอกจากบริการและสิทธิประโยชน์ดังกล่าว The 1 ยังนำเสนอแคมเปญโปรโมชั่นที่คุ้มค่ากว่าใครให้กับสมาชิก The 1 Exclusive อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งเดือนในทุกๆ เดือน ซึ่งรวมอยู่ในหน้า The 1 Exclusive ในแอป The 1 เช่นกัน เริ่มจากวันที่ 1 ของเดือน ด้วยแคมเปญ​ ‘ช้อปสนั่นทุกวันที่ 1’ สำหรับสมาชิก The 1 Exclusive ที่ถือบัตรเครดิตเซ็นทรัล The 1 The Black, Black และ Luxe รับเครดิตเงินคืนสูงถึง 25% เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท ต่อด้วยแคมเปญ ‘Wow Redemption’ ทุกศุกร์แรกของเดือน โดยแลกเพียง 1 คะแนนเพื่อรับส่วนลดสุดคุ้ม ซึ่งสามารถนำไปช้อปผ่านร้านค้าต่างๆ ในเครือเซ็นทรัล แคมเปญ ‘Double Digit Day’ ไม่ว่าจะเป็น 10.10 11.11 หรือเดือนไหนๆ สมาชิก The 1 Exclusive ก็จะได้ดีลที่พิเศษและคุ้มค่ากว่าสมาชิกทั่วไปอย่างแน่นอน


ล่าสุด ทุกวันที่ 15 ของทุกเดือน เริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2564 The 1 ส่งโปรโมชั่นที่มาในรูปแบบกิจกรรมออนไลน์ที่ทั้งสนุกและคุ้มค่า ในชื่อแคมเปญ ‘Exclusive Treasure Hunt’ เชิญชวนให้สมาชิก The 1 Exclusive โหลดแอป The 1 เพื่อตามหาดีลพิเศษที่ซ่อนอยู่ในหน้า The 1 Exclusive เมื่อพบแล้ว ก็สามารถกดแลกเพียง 1 คะแนน เพื่อรับคะแนนมากกว่าเดิมกลับไป โดยอาจได้รับสูงสุดถึง 111,111 คะแนน

สัมผัสประสบการณ์พิเศษจาก The 1 Exclusive ได้แล้ววันนี้ โดยสมาชิก The 1 สามารถอัปเกรดสถานะสมาชิกเป็น The 1 Exclusive ในเดือนถัดไปหลังจากเพียงสะสมยอดใช้จ่ายในกลุ่มเซ็นทรัลตั้งแต่ 250,000 บาทขึ้นไป หรือ 400,000 บาทเมื่อรวมกับยอดใช้จ่ายจากร้านค้าผู้เช่าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลและเซ็นทรัลเอ็มบาสซีที่เข้าร่วม ผ่านการยื่นใบเสร็จ ณ จุดแลกของสมนาคุณทุกสาขา​ โดยสามารถเช็คยอดใช้จ่ายสะสมแบบ Real Time ได้ผ่านแอปพลิเคชั่น The 1 ซึ่งจะเแสดงผลยอดซื้อสะสมทั้งแบบเฉพาะเครือเซ็นทรัล รีเทล และแบบรวมยอดทั้งเครือเซ็นทรัล รีเทล และร้านค้าผู้เช่าในศูนย์การค้าเซ็นทรัล และเซ็นทรัล เอ็มบาสซีที่เข้าร่วม


Description automatically generatedดาวน์โหลดแอป The 1 วันนี้ เพื่อเช็คสถานะสมาชิก พร้อมติดตามข่าวสารอัปเดต และข้อมูลสิทธิประโยชน์มากมายได้ทั้งบน App Store และ Play Store

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสิทธิพิเศษจาก The 1 Exclusive ได้ที่ https://www.the1.co.th/the1Exclusive/privileges

8868
พาณิชย์สานฝันคนรุ่นใหม่ ปั้น Design Service Sandbox
ชูความคิดสร้างสรรค์ผนวกเทคโนโลยีสร้างธุรกิจใหม่สู่ตลาดสากล


              กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์​ เปิดตัวกิจกรรม​ Design Service Sandbox (สนามทดลองแนวคิดธุรกิจ) ขึ้นเป็นครั้งแรก สานฝันคนรุ่นใหม่ระดมความคิดสร้างสรรค์นำเทคโนโลยี พัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้านการพัฒนาศักยภาพทางการตลาดของ SMEs และ Micro SMEs ให้สามารถปรับตัว แสวงหาโอกาส สามารถนำความรู้ด้านการออกแบบและเทคโนโลยีดิจิทัล มาพัฒนาธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับในสากล ล่าสุดจัดกิจกรรม Design Service Sandbox : DEMO Day เปิดเวทีให้นักออกแบบนักพัฒนาเทคโนโลยี ดิจิทัล และ SMEs ที่เป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ลงสนามทดลองแนวคิดธุรกิจ (Sandbox) สร้างนวัตกรรมสินค้าและบริการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ และขยายโอกาสเติบโตสู่ระดับสากล


              หม่อมหลวงคฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมบริการออกแบบ หรือ Design Service Society 2021 ดำเนินงานโดยสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งในปีนี้ มุ่งเน้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการออกแบบ (Design Service) และนักพัฒนาเทคโนโลยี ผู้ประกอบการ Tech Startup/ SMEs ในคอนเซ็ป “Tech Innovation x Design Creativity” เพื่อดึงศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อผลักดันภาคธุรกิจให้พร้อมรับมือความท้าทายและการแข่งขันในอนาคตของประเทศไทยและในตลาดโลกด้วย Digital Transformation ซึ่งสอดรับกับนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้านการพัฒนาศักยภาพทางการตลาดของ SMEs และ Micro SMEs สามารถนำความรู้ด้านการออกแบบและเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจสู่สากล


              โครงการ Design Service Society 2021 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบริการออกแบบ หรือ Design Service ให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ช่วยสนับสนุน ยกระดับ ผู้ประกอบการให้สามารถปรับตัว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต โดยกิจกรรมภายใต้โครงการ ประกอบด้วย

              -     กิจกรรมสัมมนาส่งเสริมความรู้ด้านการออกแบบเพื่อการพัฒนาธุรกิจ (Webinar) ภายใต้หัวข้อ “The future of business: transformation through design and technology” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ซึ่งกรมได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในวงการมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการออกแบบและเทคโนโลยีอาทิ เช่น เรื่อง Business Transformation by Design / Design Service / Design-Driven Enterprise และ Digital Solution for Business ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 600 ราย

              -     กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการออกแบบและพัฒนาผลงานต้นแบบ “Design Service Sandbox” ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง นักออกแบบ กับ นักพัฒนาเทคโนโลยี Startup หรือ SMEs ในการขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจใหม่ที่สามารถตอบโจทย์อุตสาหกรรมของประเทศได้ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักออกแบบ นักพัฒนาเทคโนโลยีและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ตลอดการรับสมัครโครงการ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกว่า 200 ราย ซึ่งมีผู้ผ่านคัดเลือกเข้าร่วมทั้งสิ้น 44 ราย โดยผู้เข้าร่วม 44 ราย ได้แบ่งเป็น 10 ทีม เพื่อร่วมกันพัฒนาผลงานต้นแบบตลอดระยะเวลา 1 เดือน ภายใต้ 4 โจทย์หลัก ได้แก่ Thailand: Kitchen of the World (สรรสร้างนวัตกรรมอาหาร บรรจุภัณฑ์ หรือ บริการ ดันครัวไทยสู่ครัวโลก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต), Agricultural Transformation (ปั้นเกษตรอัจฉริยะ ด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล คิดค้น Solution ที่ช่วยยกระดับภาคการเกษตรของไทย ให้มีมูลค่าเพิ่มสู่สากล), Innovation Solutions to for a Renewable-Powered Future (ค้นหาคำตอบ สำหรับแหล่งพลังงานทางเลือก สร้างโอกาส ปั้นธุรกิจ รับมือการเปลี่ยนแปลงในอนาคต) และ Innovation solution for New Normal (คิดค้นนวัตกรรมสินค้าและบริการใหม่ ๆ แก้ปัญหาธุรกิจ คาดการณ์เทรนด์สินค้าในยุค New Normal)

              -     กิจกรรมแสดงผลงานต้นแบบ “Demo Day” ซึ่งจัดขึ้น เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดไอเดียจากไอเดียของผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะเป็นการนำเสนอผลงานและรับฟังคำแนะนำจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน เช่น ผู้บริหารจาก DITP, DEPA, THAI BISPA, SCG Adventure, Banpu และ RISE เป็นต้น จากนั้นกรมจะมีการประชาสัมพันธ์ผลงานต้นแบบให้เป็นที่รู้จัก เพื่อให้เกิดการรับรู้ถึงศักยภาพอุตสาหกรรมบริการออกแบบให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและสากล โดยกลุ่มผู้ประกอบการและนักพัฒนาเทคโนโลยีสามารถนำความรู้และคำแนะนำไปต่อยอดไอเดียทางธุรกิจในอนาคตได้ รวมถึงมีการผลักดันเหล่านักออกแบบให้สามารถแสดงศักยภาพในเวทีการประกวดระดับนานาชาติ อาทิ DEmark, G-Mark ซึ่งเป็นเวทีประชันฝีมือของบรรดานักออกแบบฝีมือดีและเป็นประตูสู่การแข่งขันในระดับสากลอีกด้วย


              ซึ่งผลงานที่ชนะรางวัล​ Design Service Sandbox “Demo Day” ในปีนี้ ได้แก่

              รางวัลที่ 1  UPCYDE: แนวคิด Startup ผลิตภัณฑ์รองเท้าจากขยะทางการเกษตร

              Solution ที่ช่วยแก้ปัญหาขยะทางการเกษตรที่มีปริมาณมาก พร้อมสามารถสร้างมูลค่าเพื่มเติมให้กับขยะทางการเกษตร โดยแปรรูปขยะทางการเกษตร โดยเลือกผลิตรองเท้า (หนังเทียม Vegan Leather) ที่ทำมาจากขยะทางการเกษตร เช่น สับปะรด และ ทุเรียน สนับสนุนให้เกิด Sustainability Society มากยิ่งขึ้น และสนับสนุน circular economy และ waste transformation

              รางวัลที่ 2 Happy meal : นวัตกรรมอาหาร Future Food โปรตีนจาก “ไข่ผำ”

              ต่อยอดวัตุดิบของไทยจับกระแสอาหาร Plant-based จาก "ไข่ผำ" พืชน้ำในประเทศไทย แหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพ อัดแน่นด้วยโภชนาการ ผ่านสินค้าต้นแบบอาทิ Green Pearl Protein Bar หลากหลายรสชาติ

              รางวัลที่ 3 GachaThani : แนวคิด Art Toy และ AR Guide tour ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี

              จับเทรนด์การเติบโตของ Art Toy มาสร้างโอกาสเพื่อพัฒนา Gallery platform เชื่อมโยง community ของผู้ซื้อ-ผู้ขายในประเทศไทยผ่านเว็บไซต์ ต่อยอดสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าโดยการนำเทคโนโลยี AR ร่วมถึงเกมเข้ามาใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับลูกค้า

              ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมหรือกิจกรรมดี ๆ ของสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้ที่ www.ditp-design.com และwww.facebook.com/DitpValueCreation/

8869
การันตีสถานีข่าวคุณภาพ...TNN ช่อง 16 คว้ารางวัล “รายการข่าวดีเด่น” งานประกาศผลทีวีสีขาว สะท้อนความมุ่งมั่น พัฒนาข่าวให้ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง เพื่อสังคมไทย


กรุงเทพฯ 27 กันยายน 2564 – อีกหนึ่งบทพิสูจน์สถานีข่าวคุณภาพตัวจริง...มูลนิธิ จำนง รังสิกุล ผู้ดำเนินโครงการ “รางวัลสีขาว” ที่ได้รับการสนับสนุนหลักจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) โดยพิจารณาผลงานที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) เพื่อส่งเสริมและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้เกี่ยวข้องในสายงานโทรทัศน์ ได้ผลิตรายการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชม สังคม และวงการโทรทัศน์ไทย สำหรับการจัดงานครั้งที่ 2 นี้​ รายการ TNN-ข่าวค่ำ จากสถานี TNN ช่อง 16 ได้รับรางวัลรางวัลในประเภท​ “รายการข่าวดีเด่น” ซึ่งได้รับการพิจารณาตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับนักวิชาการและนักสื่อสารมวลชน โดยมี นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด เป็นผู้แทนรับรางวัล ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมแสดงจุดยืนของสถานีข่าว TNN ช่อง 16 ที่มุ่งมั่นตั้งใจนำเสนอข่าว เพื่อร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาสังคมไทยมาตลอด 13 ปี สอดคล้องกับแนวคิด “ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง” ให้กับประชาชน และสังคมไทย ซึ่งรางวัลอันทรงเกียรตินี้ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทีมข่าว TNN เดินหน้าสร้างสรรค์และพัฒนาคอนเทนต์ข่าว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ชมทั่วประเทศต่อไป






8870
Red Sun เอาใจชาว Young Gen สายด้อม สายเกา
จัดเต็มฉายแสง โปรโมชั่น RED SUN BUFFET FAN MEET ในราคาสุดฟิน




อันยองฮาเซโย 안녕하세요 ชาวด้อมพระอาทิตย์ ต้อนรับคัมแบคสเตจ~ เรดซัน (Red Sun) เปิดทางสู่เส้นทางเป็นผู้นำร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทย ด้วยรสชาติเมนูอาหารเกาหลีต้นตำรับระดับแชมป์เปี้ยน และบรรยากาศร้าน ที่จะเปิดประสบการณ์การรับประทานอาหารเกาหลี ด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้ม​ “RED SUN BUFFET FAN MEET” เอาใจ   สายเกา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แฟน มีท” เพื่อเปิดพื้นที่ให้ชาวด้อมมาแฟนชานท์ ปั่นวิว กันได้เต็มที่ พร้อมฟินไปกับอาหารรสชาติแบบเกาหลีแท้ ๆ และฟังเพลงฮิตติดเมลอนชาร์ต เหมือนไปดูคอนเสิร์ตทิพย์




ครั้งนี้เรดซัน ขอชวนแม่ ๆ และชาวด้อม มาร่วมเปิดตำนานความอร่อยของเรดซัน แบบจัดหนักจัดเต็ม เอาใจสายเกา สายติ่ง ยกขบวนพาเหรดอาหารเกาหลีมาให้แบบอลังการ ในแบบต้นตำรับแท้ ๆ ขนมาระเบิดความมันให้ฟาดฟันกันแบบถึงใจ จะด้อมไหนก็ใช่ โดนใจไปหมด มาฟินครบรส โบกบงเรดซัน​ ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน – 31 ตุลาคม 2564 ที่ร้านเรดซัน ทุกสาขา


สำหรับ RED SUN BUFFET FAN MEET มีมาให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ ดังนี้

             ●    แฟนเมด สายหมู สู้ไม่ถอย ราคา 339+ บาท


พบกับความหลากหลายแบบคาดไม่ถึง! กับสายหมูจุใจ เล่นใหญ่เกินราคา กับชุดหมูออริจินัล ชุดหมูรวมตอกไข่ ชุดหมูสไลซ์ หมูสไลซ์ตอกไข่ หมูหมักซอสเกำหลี เซ็ตท็อปปิ้งภูเขาไฟ หมูสับทรงเครื่อง แฮม เเละ Topping อื่น ๆ อีกกว่า 35 เมนู อีกทั้งยังมีเมนู Side dish สุดฮิต อย่าง ข้าวผัดเรดซันดีกรีแชมป์เปี้ยน และจูม็อกบับเมนูสุดโปรด พร้อมเครื่องเคียงเกาหลีจัดหนักจัดเต็ม เสิร์ฟเพลินเติมตลอดเวลา​ พิเศษ! สำหรับนักเรียน นักศึกษา โชว์บัตร สแกน QR CODE กรอกข้อมูล จ่ายในราคา 299+ บาท

             ●    แฟนด้อม สายชิคชีทมีทไก่ ราคา 469+ บาท


เกินต้าน! แฟนด้อมต้องใจบาง หมูจุก ๆ เนื้อเน้น ๆ ชีสไม่ยั้ง ไก่ไม่อั้น เเละน้ำซุปที่มีให้เลือกกันถึง 3 รส ทั้งน้ำซุปออริจินอล น้ำซุปจาจัง และน้ำซุปต้มยำ อีกทั้งยังมี Topping ให้เติมกันแบบฟิน ๆ ถึง 68 เมนู ที่สำคัญยังมี Side Dish สุดฮอตให้เลือกอีกกว่า 10 เมนู สไตล์เกาหลีแท้ ๆ อย่างข้าวผัดเรดซัน 3 หน้าต๊อกสไลซ์ผัดเบคอนชีส ข้าวหน้าหมูนุ่ม ข้าวหน้าเนื้อนุ่ม เป็นต้น พร้อมทั้งยังมีเครื่องเคียงให้แบบจัดหนักจัดเต็ม กินเพลินกันแบบยาว ๆ ไม่อิ่มไม่เลิก พิเศษ! สำหรับนักเรียน นักศึกษา โชว์บัตร สแกน QR CODE กรอกข้อมูล รับฟรี เครื่องดื่มโซดาผลไม้ มูลค่า 69 บาท 1 แก้ว              (ต่อ 1 สิทธิ์)

             ●    แฟนไซน์ สายซีฟู๊ดคู่สายดอง ราคา 599+ บาท


ความอร่อยขั้นสุด ที่สุดของสายกิน อร่อยแบบจัมโบ้ X10 ที่มีมากกว่า 90 เมนู ระเบิดความฟินถึงใจในบุฟเฟ่ต์แฟนไซน์ ที่สุดของความเป็นเรดซัน จัดเต็มทั้งสายเนื้อ สายหมู สายซีฟู๊ด สายดอง และสายหวาน ครบทุกมิติของเมนูเกาหลีแท้ ๆ รวมความอร่อยไว้ที่เดียว พร้อมน้ำซุปที่มีให้เลือกถึง 4 รสชาติ ทั้งน้ำซุปออริจินอล น้ำซุปจาจัง น้ำซุปต้มยำ และน้ำซุป ยอบกิ (ความเผ็ดเดือดX10) ที่สุดของความเป็นเรดซัน​ พิเศษ! สำหรับนักเรียน นักศึกษา โชว์บัตร สแกน QR CODE กรอกข้อมูล รับฟรี เครื่องดื่มโซดาผลไม้  มูลค่า 69 บาท 1 แก้ว (ต่อ 1 สิทธิ์)


คุณบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร


คุณนพวินท์ รอดริน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดซัน จำกัด (2)

ไม่ว่าคุณจะเป็นด้อมไหน นูน่า ออนนี่ หรืออปป้า ก็มาอิ่มฟินที่ร้านเรดซัน ทุกสาขาได้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน – 31 ตุลาคม 2564 นี้ สอบถาม และติดตามกิจกรรมดี ๆ ได้ที่ Facebook@RedSunThailandTokpokki และ                          IG: @Redsunthailand
















8871
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก สานต่อโครงการ Life's Better with Dogs
บริจาควัคซีนและอาหารสุนัข เนื่องในวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day)




              เนื่องด้วยทุกวันที่ 28 กันยายนของทุกปี ได้กำหนดให้เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) จึงสานต่อโครงการ Life's Better with Dogs เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงความรุนแรงและอันตรายของโรคพิษสุนัขบ้า รวมถึงเห็นความสำคัญของการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไป ตลอดจนการสร้างองค์ความรู้ในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและโรคสัตว์สู่คนจากเหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 อีกด้วย


              สัตวแพทย์หญิงชนัดดา เครือประดับ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า “องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก​ ทำงานในการขับเคลื่อนสังคม นโยบาย และปกป้องคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ต่างๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีบทบาทในการทำงานด้านสัตว์ในชุมชน เช่น สุนัขและแมว โดยเฉพาะในเรื่องของการควบคุมและจัดการประชากรสุนัขอย่างมีมนุษยธรรม อีกทั้งยังส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกในการเลี้ยงสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อให้คนและสัตว์อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยภายใต้โครงการ Life's Better with Dogs ซึ่งได้เริ่มการทำงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การอบรมให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องโรคพิษสุนัขบ้า การดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบ การจัดทำคู่มือสำหรับฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์เป็นผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และการรณรงค์ฉีดวัคซีนให้กับสุนัขและแมวจรจัด เป็นต้น โดยปีนี้เนื่องในวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) เราได้มอบวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับกรมปศุสัตว์ เพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัดให้ปลอดโรคและยังทำให้ชุมชนปลอดภัยจากอันตราย พร้อมมอบอาหารสุนัขให้แก่วัดหัวคู้ จังหวัดสมุทรปราการและชุมชนดินแดง​ เพื่อช่วยเหลือในช่วงวิกฤษโควิด-19 อีกด้วย”




              ข้อมูลล่าสุดในปีนี้จากกรมควบคุมโรค เผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ารวมทั้งสิ้น 5 รายทั่วประเทศไทย* และด้วยข้อจำกัดในการปฏิบัติงานภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและทำหมันในสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มที่ลดลง สัตว์ถูกทอดทิ้งมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชน ทั้งนี้สิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ คือ เรื่องสวัสดิภาพสัตว์และการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบ ตลอดจนปฏิบัติตามแนวทางที่เรียกว่า CNVR ได้แก่ Catch คือ การจับสุนัขและแมว N คือ Neuter การทำหมัน V คือ Vaccinate การฉีดวัคซีน และ R คือ Return การนำกลับไปที่เดิม สิ่งเหล่านี้จะเป็นวิธีควบคุมจำนวนประชากรสุนัขที่ได้ผลและมีมนุษธรรม รวมถึงการสร้างสวัสดิภาพที่ดีให้กับสุนัขด้วยเช่นกัน






              สำหรับโครงการ Life's Better with Dogs ที่มุ่งรณรงค์และให้ความช่วยเหลือเพื่อให้สุนัขมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทั่วไปมีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยง ตลอดจนลดปัญหาสุนัขจรจัดในประเทศไทยอย่างยั่งยืน ในปีนี้องค์กรฯ ได้มอบวัคซีนฯ จำนวน 20,100 โดส ให้แก่กรมปศุสัตว์ อีกทั้งยังส่งมอบอาหารสุนัขและแมวจำนวนกว่าสองตัน ถวายแด่พระปริยัติวงศาจารย์ (ประชุม ปวโร) เจ้าคณะตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ เจ้าอาวาสวัดหัวคู้ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้ผู้ดูแลนำไปเลี้ยงสุนัขจรจัดที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งภายในวัดเป็นจำนวนมากกว่า 400 ตัว ซึ่งส่วนหนึ่งของสุนัขเหล่านี้ถูกนำมาทิ้งเนื่องจากเจ้าของได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 นอกจากนี้ยังได้มอบอาหารเพื่อช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดในพื้นที่ชุมชนดินแดงจำนวนรวมกันทั้งสุนัขและแมวเกือบ 400 ตัวอีกด้วย

*อ้างอิง​ https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=20344&deptcode=brc

###

เกี่ยวกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก หรือ World Animal Protection เป็นองค์กรเพื่อคุ้มครองปกป้องสวัสดิภาพสัตว์ และยุติการทารุณกรรมสัตว์อย่างถาวร โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 มีบทบาทในการให้คำปรึกษากับองค์การสหประชาชาติและสภายุโรป ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ สร้างความแตกต่างให้สัตว์ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ถูกทารุณกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยดำเนินงานครอบคลุมทั้งสัตว์ในชุมชน – สุนัข, สัตว์ป่า - สัตว์ในฟาร์ม รวมถึงการให้ความรู้ด้านปศุสัตว์ที่มีมนุษยธรรมอันส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนและสัตว์ ข้อมูลเพิ่มเติม​ www.worldanimalprotection.or.th

8872
Infinix เปิดตัวแล็ปท็อประดับพรีเมียมรุ่นแรก INBook X1
ผนึกกำลังกับ Intel และ Microsoft เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า


                Infinix แบรนด์ระดับโลกที่ได้รับความนิยมและกำลังเติบโตในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ครั้งแรกกับการเปิดตัวแล็ปท็อปเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด INBook X1 กับการออกแบบที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ Infinix โดดเด่นด้วยความบางและน้ำหนักเบา ผสานเข้ากับการใช้งานประสิทธิภาพสูงสุด โดยการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการรุกตลาดในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Infinix ด้วยการผนึกกำลังร่วมกับ Intel และ Microsoft ตั้งเป้ามอบประสบการณ์การใช้งานและนำเสนออุปกรณ์ที่เหนือกว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน
                         
โดย INBook X1 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่


                1. INBook X1 Pro มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i7 พร้อมการ์ดจอ Intel Iris Plus สูงสุดถึง 64EU ราคา 21,990 บาท

                2. INBook X1 พร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i5 ราคา 15,900 บาท

                3. INBook X1 พร้อมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i3 – ราคา 11,900 บาท

                ด้วยประสบการณ์และความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคในตลาดสมาร์ตโฟน เราพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดใหม่ร่วมกับ Intel และ Microsoft ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปซีรีส์แรก ที่นับว่าเป็นการตอกย้ำความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของแบรนด์ Infinix ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการมอบสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าของเราทั่วโลก


ครั้งแรกกับความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม

                INBook X1 ของ Infinix มาพร้อมตัวเครื่องที่เคลือบผิวด้วยอลูมิเนียมแบบผิวทราย โดยเลือกใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดอากาศยานเพื่อความแข็งทนทาน​ ป้องกันการขีดข่วน ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 1.48 กิโลกรัม และหนาเพียง 16.3 มิลลิเมตร พร้อมบานพับหมุนได้ 180 องศา จนสามารถกางราบกับพื้นได้ ช่วยให้ผู้ใช้นำเสนอไอเดียใหม่ ๆ หรือแชร์วิดีโอได้ในทุกลักษณะตามที่ต้องการ นอกจากนี้ซีรีส์ INBook X1 ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อหลายพอร์ตเพื่อรองรับการใช้งานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูล การชาร์จความเร็วสูง และการแคสต์หน้าจอ

                นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ 55 วัตต์ต่อชั่วโมง (Wh) ที่ทำให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวันจากการชาร์จครั้งเดียว ซึ่งนานถึงประมาณ 11 ชั่วโมงสำหรับการใช้เวลาบนหน้าจอเพื่อท่องเว็บไซต์ต่างๆ เล่นวิดีโอและอีกมากมาย ผู้ใช้งานยังจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีระบบการจัดการแบตเตอรี่ของ Infinix ทำให้แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานขึ้น ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในหลายสถานการณ์ นอกจากนี้ อะแดปเตอร์ 65W PD3.0 AC ของ INBook X1 ยังเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จโดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 70% ภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้น ที่ชาร์จขนาดเล็กยังรองรับโทรศัพท์มือถือ Infinix ทั้งหมดได้อย่างสะดวก ทำให้การทำงานขณะเดินทางง่ายขึ้นอย่างแท้จริง


สีสันที่สดใสและคมชัดจนสะดุดตา

                ซีรีส์ INBook X1 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเทาอวกาศ และสีแดงแพลตตินัม ซึ่งดีไซน์โดยรวมของแล็ปท็อปให้ประกายของโลหะเพื่อแสดงถึงความสวยงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนตามแนวเขตพรมแดนของนอร์เวย์ ทั้งยังแสดงออกถึงการออกแบบที่ไร้ขีดจำกัดและลักษณะเด่นเฉพาะตัวของแล็ปท็อป Infinix อีกด้วย ตัวเครื่องเป็นโลหะที่บางเบาประกอบด้วยจอแสดงผล FHD IPS ขนาด 14 นิ้ว แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางวิศวกรรมของ Infinix ด้วยขอบนอกบางพิเศษเพียง 4.19 มิลลิเมตรทุกด้าน เพื่อประโยชน์ในการใช้พื้นที่หน้าจอได้อย่างสูงสุด




ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีที่สุด

                ซีรีส์ INBook X1 มาพร้อมขุมพลังจากโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงจาก Intel พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Microsoft 365* ที่ติดตั้งมาเพื่อรองรับการทำงานที่ใช้ทรัพยากรระบบสูง เช่น การประมวลผลข้อมูลและการเขียนโปรแกรม อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการการใช้งานนอกสถานที่ที่หลากหลาย ระบบระบายความร้อน Poloar Monster ใช้ท่ออากาศเกรดมาตรฐานทหารเพื่อลดอุณหภูมิในขณะทำงานหนักหน่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                อย่างไรก็ตาม การรักษาประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโลกในยุคปัจจุบัน INBook X1 มาพร้อมแอปพลิเคชันการแสดงภาพหน้าจอซิงโครไนซ์ ที่ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงโซลูชันหลายหน้าจอผ่านช่วยให้สามารถซิงค์ไครไนซ์ไฟล์การทำงานกับแล็ปท็อป โทรทัศน์ และสมาร์ตโฟนเครื่องอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ในทุกที่ทุกเวลา

                นอกจากนียังมี INBook X1 Pro ที่มาพร้อมกับการ์ดเครือข่ายไร้สายในตัวที่รองรับ WiFi 6 และ Bluetooth 5.1 ที่ช่วยเพิ่มความเร็วเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีเว็บแคมความละเอียด 720P ที่สามารถปิดได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อความเป็นส่วนตัว รวมถึงไมโครโฟนดิจิทัลสองตัวเพื่อการสื่อสารทางวิดีโอและเสียงได้อย่างราบรื่น แม้ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง ตอบสนองวิถีการทำงานใหม่ที่จำเป็นต้องใช้การประชุมทางวิดีโอเป็นหลัก ทั้งยังมีระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงโน้ตบุ๊กได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ในด้านความบันเทิง INBook X1 Pro มาพร้อมระบบสเตอรีโอแบบสี่ชั้นเพื่อให้เสียงรอบทิศทาง โดยเพิ่มประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีเสียง DTS ที่มีสิทธิบัตรเพื่อให้ประสบการณ์ภาพและเสียงที่ดื่มด่ำขั้นสูงสุดทั้งในตัวอาคารและนอกอาคาร

                INBook X1 มีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ทาง JD Central กรุณาคลิกที่ลิงก์​ https://cutt.ly/YEgfkzm

###

เกี่ยวกับอินฟินิกซ์

อินฟินิกซ์ โมไบล์ (Infinix Mobile) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2556 เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ออกแบบ ผลิต และทำการตลาดโทรศัพท์มือถือให้ขยายตัวทั่วโลกภายใต้แบรนด์ อินฟินิกซ์ (Infinix) โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผสานเข้ากับมือถืออย่างพิถีพิถัน นำเสนอสไตล์ที่โดดเด่น เด็มเปี่ยมไปด้วยพลังและประสิทธิภาพ เป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานในทุกย่างก้าว ด้วยแนวคิดที่เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์อย่าง “THE FUTURE IS NOW” พร้อมกับแสดงตัวตนให้โลกได้เห็นว่าอินฟินิกซ์มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ตลอดจนรูปลักษณ์ที่เฉียบและมีสไตล์สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่อยากตกเทรนด์

กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีการจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งทวีปแอฟริกา ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ โดยในช่วงปี พ.ศ. 2561 - 2563 อินฟินิกซ์ (Infinix) ได้ขยายตัวถึง 160% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน  และมีแผนใหญ่ที่จะสร้างมือถือระดับเรือธงที่มีดีไซน์ที่โดดเด่นและข้อเสนอที่คุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.infinixmobility.com

8873
วช. เปิดตัวนวัตกรรม“สีย้อมอสุจิ บี อาร์”จากสารสกัดข้าวเหนียวดำ คว้ารางวัลการวิจัยแห่งชาติปี 64


วันที่ 27 กันยายน 2564 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดกิจกรรม NRCT Talk “เปิดบ้านงานวิจัยและนวัตกรรม By NRCT : รางวัลการวิจัยแห่งชาติ ครั้งที่ 9” โชว์สิ่งประดิษฐ์สีย้อมอสุจิ บี อาร์ จากสารสกัดข้าวเหนียวดำหนึ่งเดียวในโลก นวัตกรรมสำหรับผู้มีบุตรยาก ประยุกต์ใช้งานทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดี ประจำปี 2564  เผยช่วยลดต้นทุนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เพิ่มมูลค่าข้าวไทย


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัย กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ วช.ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 9 เพื่อเป็นการเชิดชูนักประดิษฐ์ที่สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อประเทศ สร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้นักวิจัย นักประดิษฐ์เกิดการพัฒนาศักยภาพ และสมรรถนะการผลิตผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ สามารถผลักดันการประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยในปี 2564  วช. ได้มอบรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ประเภทผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดี สาขาการศึกษา ให้กับนวัตกรรม“สีย้อม บีอาร์”ของ ผศ.ดร.ฌลณต เกษตร อาจารย์ภาควิชาเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำหรับนำไปใช้ตรวจอสุจิ สู่การแก้ไขปัญหาผู้มีบุตรยากและปัญหาอัตราการเกิดน้อย โดยใช้วัตถุดิบหลัก “ข้าวเหนียวดำ” นับเป็นผลงานที่มีคุณูปการต่อวงวิชาการ สอดรับนโยบายของประเทศ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน


ผศ.ดร.ฌลณต เกษตร และผศ.ดร.สิรินารถ ชูเมียน นักวิจัยผู้คิดค้น เปิดเผยว่า การตรวจน้ำอสุจิในเพศชาย เป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอนวิชาจุลทรรศนศาสตร์ เป็นการคัดกรองเบื้องต้น เพื่อวิเคราะห์สภาวะการมีบุตรยากในเพศชาย ประเมินความสมบูรณ์ สัดส่วน รูปร่าง รวมถึงการเคลื่อนที่และจำนวนของอสุจิ ซึ่งจะต้องใช้สีย้อมในการตรวจดู แต่เนื่องจากสีย้อมนำเข้ามีราคาแพง ใช้งานยุ่งยาก และใช้เวลานาน ประกอบกับมีสารเคมีสังเคราะห์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้เรียนหรือผู้ใช้งาน ดังนั้น จึงได้พัฒนาชุดสีย้อมอสุจิจากสารสกัดธรรมชาติขึ้น โดยเลือกใช้ข้าวเหนียวดำเป็นส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งหาได้ง่ายโดยทั่วไป มีความปลอดภัย ใช้งานง่าย และช่วยเพิ่มมูลค่าให้ข้าวไทยอีกทางหนึ่ง


การพัฒนาในครั้งนี้ยังเป็นการกระตุ้นการเรียนการสอนแบบ STEM ไปพร้อม ๆ กัน คือ การใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสกัดสี​(Science,Technology) การออกแบบเครื่องย้อมอัตโนมัติ(Engineering) และการคำนวณสารต่าง ๆ ที่ใช้ในการสกัด (Mathematics) เป็นการบูรณาการความรู้ของภาควิชาเทคนิคการแพทย์ ผลลัพธ์ คือ ได้นวัตกรรมชุดย้อมสีอสุจี บีอาร์ (Sperm BR staining kit) ที่มีราคาถูกกว่าสีเคมีสังเคราะห์ ปลอดภัย ไร้สารพิษตกค้าง โดยปัจจุบันนำไปประยุกต์ใช้ในศูนย์ผู้มีบุตรยากของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อวางแผนและรักษาชายที่มีภาวะมีบุตรยากได้ตรงจุด หรือใช้ในกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์โรงพยาบาลชลบุรี โดยใช้ย้อมตัวอย่างจากสำลีป้ายช่องคลอด กรณีผู้หญิงถูกกระทำชำเรา ซึ่งจะสามารถเป็นหลักฐานชี้ตัวผู้กระทำความผิดได้ จึงขอขอบคุณการสนับสนุนจาก วช. ในการพัฒนางานวิจัยในครั้งนี้




ท้ายที่สุด ทีมนักวิจัย สามารถคิดค้นสีย้อมอสุจิทดแทนการนำเข้าได้สำเร็จ และมีประสิทธิภาพสูงใกล้เคียงกับสีสังเคราะห์ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติและประเทศ ถือเป็นงานวิจัยแรกของโลกที่ใช้สารสกัดธรรมชาติจากข้าวเหนียวดำ ในอนาคตคาดว่า สีย้อม บีอาร์นี้จะมีความจำเป็นมากขึ้น เนื่องจากการตรวจอสุจิในประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และประชาชนมีความสนใจเพิ่มขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถเดินทางเข้ามาตรวจได้ที่ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยขณะนี้มีความพร้อมพัฒนาและวิจัยร่วมกับภาครัฐหรือเอกชน อาทิ กรมการค้าระหว่างประเทศในการสร้าง Roadmap และร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาสีย้อมให้เป็นรูปแบบผง เพื่อสะดวกในการใช้งาน ตอบโจทย์การผลิตเชิงพาณิชย์ พร้อมขยายการใช้งานไปสู่คลินิก หรือโรงพยาบาลในประเทศต่อไป




“โดยสารแอนโทรไซยานิน เป็นสารหลักที่สกัดได้จากเปลือกข้าวเหนียวดำ หรือแกลบ สามารถติดสีตัวอสุจิได้ดีที่สุด จึงใช้สารสกัดดังกล่าว ร่วมกับสารเพิ่มประจุบวก Potassium alum เพื่อไปจับกับสารพันธุกรรมประจุลบในนิวเคลียส วิธีการย้อม โดยนำน้ำอสุจิใส่ในภาชนะใช้แผ่นสไลด์จุ่ม รอให้แห้ง นำสีย้อมมาป้าย และส่องดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ ถือว่าตอบโจทย์การแพทย์แม่นยำ สำหรับการตรวจระดับ DNA ได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ โดยได้รับการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย” ผศ.ดร.ฌลณต กล่าว

8874
สศท. มอบรางวัลชนะเลิศให้แก่ทีมผู้ชนะ
จากการแข่งขันในรายการ “SACICT WAR CRAFT สงครามทำมือ”


                สศท. หรือ สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) จัดพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันรายการ “SACICT WAR CRAFT สงครามทำมือ” เรียลิตี้ที่เฟ้นหาสุดยอดทีมออกแบบผลิตภัณฑ์จักสาน โดยได้รับเกียรติจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์​ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายพรพล เอกอรรถพร รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย นายกรกต อารมย์ดี นักออกแบบและเจ้าของแบรนด์ KORAKOT ร่วมแสดงความยินดีกับ นายชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต และ ทีมเจ้าตัวกลม ผู้รับรางวัลชนะเลิศ ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล 100,000 บาท ณ สตูดิโอ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด เมื่อเร็ว ๆ นี้








                ผู้ที่สนใจและต้องการดูผลงานของผู้เข้าแข่งขัน หรือติดตามกิจกรรมจากทางสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์​ www.sacict.or.thหรือ Facebook : สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย

###

เรียงจากซ้ายไปขวา
1.      นายกรกต อารมย์ดี นักออกแบบและเจ้าของแบรนด์ KORAKOT
2.      นายชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต ดารานักแสดง
3.      นางสาวพรรณณิชา จันทวนิชกุล ผู้เข้าแข่งขันทีมเจ้าตัวกลม
4.      นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 
5.      นายเปรม บัวชุม ผู้เข้าแข่งขันทีมเจ้าตัวกลม
6.      นางสาวภานุมาส สีขวา ผู้เข้าแข่งขันทีมเจ้าตัวกลม
7.      นายพรพล เอกอรรถพร รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย

8875
อร่อยซ่าแนวใหม่ สนุกได้ทุกไอเดีย กับ มิรินด้า ซอลท์เลมอนโซดา ใหม่!


                กรุงเทพฯ - บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย ชวนมาอร่อยซ่าแนวใหม่ สนุกได้ทุกไอเดีย พร้อมรีเฟรชความสดชื่นโดนใจไปกับเครื่องดื่มกลิ่นเลมอนโซดาใหม่ล่าสุด มิรินด้า ซอลท์เลมอนโซดา อร่อยซ่า ครบรสชาติเปรี้ยว หวาน ซอลท์ สุดยูนีคเอาใจเหล่าวัยรุ่น Gen Z พร้อมอัดแน่นคุณประโยชน์จากวิตามิน B3 B6 และ B12 ที่มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง ให้คุณสร้างสรรค์ไอเดียความสนุก ซ่าได้ทุกที่ทุกเวลา


                ร่วมเติมเต็มความซ่า สดชื่นแบบครบรสชาติไปกับ​ มิรินด้า ซอลท์เลมอนโซดา ได้แล้ววันนี้ ในรูปแบบขวด PET ขนาด 345 มิลลิลิตร และ 440 มิลลิลิตร หาซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Facebook MirindaThailand และเว็บไซต์ www.suntorypepsico.co.th



New! Mirinda Salted Lemon Soda Launched as New Refreshing Drink Idea​ Everyone Can Enjoy


Bangkok - Suntory PepsiCo Beverage (Thailand), manufacturer and distributor of Suntory and PepsiCo beverage brands in Thailand, invites Gen Z to experience a new refreshing​ Mirinda Salted Lemon Soda​ variant (Lemon soda flavored), providing new-generation customers a new idea to freshen up the day. The Mirinda Salted Lemon Soda features a uniquely harmonious blend of sour, sweet, salty flavors to appeal to Gen Z. It is abundant in nutritional properties such as Vitamin B3, B6, and B12 that contributes to the normal function of the brain and nervous system, allowing Gen Z and people of all generations to come up with new, fun and creative ideas and stay alive anywhere and anytime.


Let’s live a vibrant life and stay alive with a new refreshing drink “Mirinda Salted Lemon Soda” It is available in a 345-ml PET bottle and a 440-ml PET bottle at all convenience stores, retail and wholesale outlets, supermarkets and leading department stores nationwide. For more information, visit Facebook MirindaThailand and www.suntorypepsico.co.th

8876
HP จัดสัมมนาออนไลน์ (ฟรี) โอกาสสำหรับ SME และ Startup ฝ่าวิกฤตในยุคปัจจุบัน


กลับมาอีกครั้งสัมมนาออนไลน์ที่รวมกูรูและผู้บริหารในแวดวงธุรกิจชั้นนำ กับประสบการณ์การทำตลาดให้โตแบบก้าวกระโดด ยิ่งกว่าติดปีก หวังช่วยเหลือ SME - Startup ฝ่าวิกฤตในสถานการณ์ปัจจุบัน กับ 3 ผู้บริหารของบริษัทชั้นแนวหน้าของไทย ที่นำบริษัทก้าวสู่ความสำเร็จผ่านเทคนิคการตลาดดิจิทัลยุคใหม่ โดย​ มร.ลิม ชุน เต็ก กรรมการผู้จัดการ เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) ร่วมด้วย​ คุณโซอี้ ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์, และ​ คุณหนึ่ง ธัญญ์นิธิ อภิชัยโชติรัตน์ เจาะลึกถึงเทคนิค กลยุทธ์ตลาดยุคใหม่ การบริหารเงินและตลาดในยุคดิจิทัล พร้อมไขทุกความลับในกาสร้างธุรกิจให้เติบโต รู้ทันการทำตลาดในยุคปัจจุบันและอนาคต ร่วมฟังสัมมนาออนไลน์ (ฟรี) วันพุธที่ 29 กันยายน 2564 เวลา 15.00 -  16.00 น. Facebook LIVE โซอี้ ดิจิตอล Shortcut

ขอเชิญผู้ประกอบการธุรกิจทุกรูปแบบที่ได้รับผลกระทบช่วงนี้ สามารถชมเพื่อนำไปปรับใช้เเละต่อยอดกับธุรกิจได้ พร้อมร่วมสนุกตอบคำถามเพื่อลุ้นรับของรางวัล ได้ที่​ https://www.facebook.com/DigitalShortcut

#HPforBusiness #HPTH #HPSubscriptionprogram #SME #Technology #Windows10 #โซอี้DigitalShortcut #การตลาดออนไลน์

8877
สามโปรสาวไทยรับเทียบเชิญสู้ศึก “ฮานา ไฟแนนเชียลกรุ๊ป แชมเปียนชิพ” ชิงกว่า 40 ล้านบาท ที่เกาหลีใต้


27 กันยายน 2564 - เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์, จารวี บุญจันทร์ และ อรกนก สร้อยสุวรรณ สามโปรสาวของไทย ได้รับเชิญร่วมแข่งขันกอล์ฟรายการ ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 พันล้านวอน หรือราว 42.5 ล้านบาท  ซึ่งเป็นการกลับมาจัดแข่งเป็นครั้งที่ 2 ณ สนามอโดนิส คันทรีคลับ ในเมืองโพชอน จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 30 กันยายน -3 ตุลาคมนี้ โดยมีดาวดังจากทั่วโลกอย่าง ลิเดีย โค ยอดฝีมือจากนิวซีแลนด์, มินจี ลี แชมป์เมเจอร์จากออสเตรเลีย และเยียลิมิ โนห์ นักกอล์ฟมือสมัครเล่นทีมโซลไฮม์คัพจากสหรัฐ นำทัพลงชิงชัย

ศึกกอล์ฟ ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป แชมเปียนชิพ เป็นรายการใหญ่ในเลดีส์ เอเชียนทัวร์ (แอลเอที) ซีรีส์ จัดโดยเอเชีย กอล์ฟ ลีดเดอร์ส ฟอรัม เริ่มครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว เพื่อช่วยพัฒนาวงการกอล์ฟสตรีในภูมิภาคเอเชีย ในปีนี้กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 3 ตุลาคมนี้ โดยจัดแบบไม่มีผู้ชมภายใต้มาตรการความปลอดภัยในป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นักกอล์ฟทุกคนที่ร่วมแข่งขันต้องเข้ารับการตรวจโควิด-19 แบบ PCR test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางไปเกาหลีใต้

พอล พาร์ก ผู้อำนวยการการแข่งขันกอล์ฟ ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป แชมเปียนชิพ กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการจัดทัวร์นาเมนต์ระดับนานชาติครั้งแรกในเกาหลีใต้นับตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเราได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างละเอียดครบถ้วนเพื่อความปลอดภัยของนักกอล์ฟ แคดดี้ และเจ้าหน้าที่ โดยแยกโรงแรมที่พัก และรถบัสสำหรับผู้เล่นจากชาติอื่นโดยเฉพาะ และในฐานะที่การแข่งขันกอล์ฟ ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป แชมเปียนชิพ เป็นรายการใหญ่ที่ 2 ของแอลเอที ซีรีส์ ในปี 2021 และรายการใหญ่ที่สุดในเอเชีย จึงมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกเพื่อให้แฟนกีฬากอล์ฟได้รับชมและสนุกกับการแข่งขัน”


ลิเดีย โค

ขณะเดียวกันฝ่ายจัดการแข่งขันเผยในปีนี้มีนักกอล์ฟมือดังระดับแนวหน้าของโลกยืนยันเข้าร่วมประชันวงสวิงหลายราย รวมถึง ลิเดีย โค อดีตมือหนึ่งโลกจากนิวซีแลนด์ ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ 2020, มินจี ลี มือ 10 ของโลกจากออสเตรเลีย ที่เพิ่งคว้าแชมป์เมเจอร์แรกของตัวเองที่ฝรั่งเศส เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเยียลิมิ โนห์ มือสมัครเล่นจากสหรัฐฯ ซึ่งได้รับเลือกติดทีมโซลไฮม์คัพครั้งแรกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเคแอลพีจีเอทัวร์ ก้าวสู่ความเป็นทัวร์อันดับ 1 ของโลก ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เชิญนักกอล์ฟดาวรุ่งจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทยร่วมแข่งขันด้วย


มินจี ลี

โดยนักกอล์ฟสาวชาวไทยที่ได้รับเชิญเข้าร่วมชิงชัยในสัปดาห์นี้ได้แก่ “โปรแชมเปญ” เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์, “โปรไนท์” อรกนก สร้อยสุวรรณ และ “โปรว่าน” จารวีร์ บุญจันทร์


เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ โปรวัย 24 ปี ซึ่งเพิ่งคว้าแชมป์ไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการที่สองให้กับตัวเองมาหมาดๆ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เผยว่า “รู้สึกประทับใจมากที่ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นต้องการพัฒนานักกอล์ฟอาชีพในภูมิภาคเอเชียในระยะยาว  และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมแข่งขันรายการนี้ เพราะนักกอล์ฟทุกคนล้วนอยากมาแข่ง รวมทั้งมั่นใจว่าฝ่ายจัดการแข่งขันจะสามารถจัดการแข่งขันภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันผู้หญิงหันสนใจกีฬากอล์ฟมากกว่าเมื่อก่อน และมีนักกอล์ฟอาชีพหญิงจากเอเชียหลายคนก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก และเป็นแบบอย่างให้กับนักกอล์ฟเยาวชนรุ่นใหม่เดินตามฝันสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพในอนาคต”


ทางด้าน จารวี บุญจันทร์ อดีตนักศึกษามหาวิทยาดุ๊ก วัย 22 ปี กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเชิญร่วมแข่งขันในรายการ ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป แชมเปียชิพ 2021 และตื่นเต้นที่จะได้แข่งในรายการนี้ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ยังไม่มีโอกาสได้กลับเอเชียหลังจากเรียนจบ จึงเฝ้ารอการลงเล่นที่เกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลงเล่นกอล์ฟอาชีพนอกสหรัฐอเมริกาด้วย ขอขอบคุณฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ที่ให้การสนับสนุนกีฬากอล์ฟมาต่อเนื่อง โดยจัดการแข่งขันรายการ ฮานา แบงก์ แอลพีจีเอ แชมเปียนชิพ มาเป็นเวลานานในเกาหลีใต้ และให้การสนับสนุนนักกอล์ฟหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ เยลิมี โนห์ และมินจี ลี วงการกอล์ฟสตรีพัฒนาเติบโตขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเอเชีย ฉันรู้สึกภูมิใจและทึ่งมากที่ได้เห็นชื่อนักกอล์ฟที่คุ้นเคยอยู่บนลีดเดอร์บอร์ด ซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญสำหรับฉัน และหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟเยาวชนรุ่นใหม่ทั้งชายและหญิง ในการเดินตามความฝันของพวกเขาเช่นกัน”


ขณะที่ อรกนก สร้อยสุวรรณ โปรสาวดาวรุ่งวัย 20 ปี กล่าวว่า “รู้สึกยินดีที่เห็นบริษัทไฟแนนเชียลยักษ์ใหญ่ให้ความสนใจในกีฬา โดยเฉพาะกีฬากอล์ฟ และหวังว่าจะได้ร่วมแข่งขันรายการนี้ต่อไปอีกหลายปี ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนทั่วโลกไม่เฉพาะแค่การแข่งขันกีฬา จึงอยากขอบคุณ ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ที่ยังคงให้การสนับสนุนและผลักดันให้สามารถจัดการแข่งขันได้”

สำหรับศึก ฮานา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป แชมเปียนชิพ 2021 เป็นการประชันฝีมือของโปรสาว 50 อันดับแรกของโรเล็กซ์ วีเมนส์ เวิลด์ แรงกิ้ง 2020 หรือ 2021 ร่วมด้วยผู้เล่นท็อป 30 ในอันดับทำเงินของแอลพีจีเอ ทัวร์ 2020, นักกอล์ฟทำเงิน 20 อันดับแรกในเจแอลพีจีเอ 2020 ของญี่ปุ่น, ท็อป 5 อันดับทำเงินในเลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ 2020 และผู้เล่นรับเชิญจากเอเชีย กอล์ฟ ลีดเดอร์ส ฟอรั่ม หรือ AGLF อีก 10 คน

8878
นินจาแวน ปิดดีลซีรีส์ E ระดมทุน 578 ล้านเหรียญสหรัฐ


กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 27 กันยายน 2564 – นินจาแวน ผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนรอบใหม่ซีรี่ส์ E ด้วยจำนวนเงิน 578 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 19,324 ล้านบาท การระดมทุนรอบล่าสุดนี้ นินจาแวนได้เงินลงทุนจาก Geopost/DPDgroup, B Capital Group, Monk's Hill Ventures และ Zamrud ซึ่งเป็นกลุ่มทุนที่เชื่อมโยงกับกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาลีบาบากรุ๊ป บริษัทแม่ของลาซาด้า ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมลงทุนในรอบนี้เช่นกัน

เงินทุนดังกล่าวจะนำไปเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีของบริษัท เพื่อรองรับโครงสร้างต้นทุนระยะยาวแบบยั่งยืน ตลอดจนคุณภาพและความสม่ำเสมอของการดำเนินงานของบริษัท เงินทุนจะถูกลงทุนใน micro-supply chain solutions ของนินจาแวน เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



“คุณภาพของบริษัทที่ร่วมลงทุนในรอบนี้ เป็นสัญญาณชัดเจนว่าตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังตระหนักถึงโอกาสที่สามารถเกิดขึ้นสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซ เรามั่นใจว่านินจาแวนจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในธุรกิจนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภค” มร. ชาง เหวิน หลาย ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) ของนินจาแวนกรุ๊ป กล่าวว่า “เรายังคงมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งหมดของเรา ในขณะที่เราก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและเสริมสร้างนวัตกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนจากผู้ร่วมลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถต่อยอดความสำเร็จต่อไป”

“GeoPost/DPDgroupทำงานร่วมกับนินจาแวนมาหลายปีแล้ว เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนการเติบโตอย่างโดดเด่นของนินจาแวน และการเป็นผู้นำการระดมทุนครั้งใหม่นี้ ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตอกย้ำความไว้วางใจของเราในทีมผู้บริหารของนินจาแวน การร่วมลงทุนครั้งนี้ ยังเป็นก้าวสำคัญในแผนปรับใช้กลยุทธ์ Together & Beyond ของเราที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเร่งความเร็วในตลาดใหม่ๆ อย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” มร. บอริส วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอของบริษัท GeoPost/DPDgroup กล่าว

"เราเชื่อมั่นในศักยภาพของอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังของการใช้เทคโนโลยีในโลจิสติกส์ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การบริหารและเติบโตของนินจาแวน รวมไปถึงความเชี่ยวชาญในภูมิภาคนี้ ทำให้เรามั่นใจว่าการเป็นพันธมิตรกับนินจาแวน จะช่วยให้เราสามารถให้บริการและรองรับระบบนิเวศของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วทั้งภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้น” Mr. Kenny Ho, Head of Investment for Southeast Asia, อาลีบาบา กรุ๊ป  กล่าว

นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปีพ.ศ.2557 นินจาแวนกลายเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เครือข่ายโลจิสติกส์แบบครบวงจรครอบคลุม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยเชื่อมต่อผู้ส่งสินค้ากว่า 1.5 ล้านคน กับผู้รับสินค้าเกือบ 100 ล้านคน ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานและเจ้าหน้าที่จัดส่งมากกว่า 61,000 คน ซึ่งคอยจัดการดูแลการจัดส่งพัสดุประมาณ 2 ล้านชิ้นต่อวันทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ด้วยความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญของนินจาแวนในด้านธุรกิจโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีระบบการให้บริการเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนแบรนด์ที่สร้างช่องทางการขายออนไลน์โดยตรงถึงผู้บริโภค ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจเหล่านี้ เราตั้งเป้าที่จะเสริมสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของเรา โดยให้ความสำคัญกับผู้จัดส่งและความพึงพอใจของผู้รับเป็นอันดับแรก ด้วยการใช้กระบวนการแก้ไขปัญหาที่ง่ายดาย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นแก่ผู้ใช้บริการของนินจาแวนทุกคน”
ชาง เหวิน กล่าว

มร. เพียซ เอิง, กรรมการบริหารรฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นินจาแวน ประเทศไทย กล่าวว่า “การระดมทุนรอบใหม่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตของเราในประเทศไทย ด้วย 3 กลยุทธ์หลักนั่นก็คือ เสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มการสนับสนุนSME และให้บริการที่เชื่อถือได้ และในเร็วๆนี้เราจะย้ายไปที่คลัวสินค้าแห่งใหม่ ที่ติดตั้งสายพานลำเลียงอัตโนมัติเพื่อเพิ่มศักยภาพในการคัดแยก รวมถึงเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าถึง 60%ในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ ในขณะเดียวกัน เราจะเพิ่มจำนวนพนักงานประมาณ 1,000 คน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ SMEs ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย”


1 จำนวนผู้ส่งสินค้ากับนินจาแวนใน 12 เดือนที่ผ่านมา

###

เกี่ยวกับ นินจา แวน

นินจาแวน นินจาแวน คือ ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุสำหรับธุรกิจทุกขนาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวในปีพ.ศ.2557 นินจาแวน เริ่มดำเนินการในประเทศสิงคโปร์ในฐานะบริษัทด้านโลจิสติกส์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทได้กลายมาเป็นหนึ่งในบริษัทโลจิสติกส์ด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค โดยขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมใหม่ที่เพิ่มโอกาสด้านอีคอมเมิร์ซให้เหมาะสมกับตลาด ปัจจุบันนินจาแวนขยายเครือข่ายครอบคลุม 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ninjavan.co

8879
“จุรินทร์” เดินหน้าช่วยผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่ม
มอบ DITP ลุยจัด “THAIFEX - Virtual Trade Show”
29 ก.ย.– 3 ต.ค. นี้
ตั้งเป้านำเงินเข้าประเทศกว่า 830 ล้านบาท


กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ประกาศความพร้อมจัดการเจรจาธุรกิจออนไลน์ Virtual - Online Business Matching สำหรับสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ผ่านแพลตฟอร์ม​ www.thaifex-vts.com ในวันที่ 29 กันยายน - 3 ตุลาคมนี้ ตั้งเป้ากระตุ้นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของไทยให้ขยายตัวหลังจากเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งตอบโจทย์ผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ให้สามารถเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทยได้จากทุกมุมโลก


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า Virtual - Online Business Matching หรือ V-OBM เป็นกิจกรรมพิเศษที่จะจัดขึ้นในงานแสดงสินค้าอาหารเสมือนจริง THAIFEX - Virtual Trade Show (THAIFEX-VTS) ซึ่ง DITP จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มของไทย รวมถึงธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ได้นำเสนอสินค้า บริการ และร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าจากต่างประเทศได้สะดวกและง่ายขึ้น ผ่านแพลตฟอร์ม www.thaifex-vts.com

โดยในการเข้าร่วมกิจกรรม V-OBM นั้น ผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าสามารถเลือกผู้ประกอบการตามหมวดหมู่ ชื่อบริษัท หรือสินค้าที่สนใจ เพื่อทำการนัดหมายเจรจาธุรกิจผ่านระบบ โดยเลือกช่วงเวลานัดหมายตามวันเวลาที่เหมาะสมกับไทม์โซนที่ต่างกันของแต่ละประเทศ

“การจับคู่เจรจาธุรกิจ V-OBM ครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่ม เป็นจำนวนมาก มีผู้ประกอบการสินค้าอาหารกลุ่มใหม่ๆ เข้าร่วมเพิ่มจากเดิม ได้แก่ สินค้าอาหารฮาลาล, สินค้าอาหารออแกนิกส์ และสินค้าอาหารแห่งอนาคต (Future Food) รวมถึงสินค้าที่ได้รับเครื่องหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI Products) สะท้อนให้เห็นการจัดงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากผู้ค้าอย่างกว้างขวาง เนื่องจากขณะนี้ไม่สามารถจัดงานในรูปแบบออฟไลน์ได้ตามปกติจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การจัดงานแบบออนไลน์จึงเป็นช่องทางที่จะทำให้ผู้ขายได้พบกับผู้ซื้อ/ผู้นำเข้า โดยมีผู้ประกอบการไทยสมัครเข้าร่วมการเจรจาธุรกิจออนไลน์แล้วจำนวน 368 บริษัท มีผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าลงทะเบียนเข้าชมงานและนัดหมายเพื่อเจรจาธุรกิจล่วงหน้ากว่า 1,433 ราย จาก 99 ประเทศ เราตั้งเป้าหมายว่างานนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มของไทยได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น สามารถนำเงินเข้าประเทศได้กว่า 830 ล้านบาท” นายจุรินทร์ กล่าว


นอกจากกิจกรรม V-OBM แล้ว ผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าที่ลงทะเบียนร่วมงาน THAIFEX – VTS บนแพลตฟอร์ม www.thaifex-vts.com ยังสามารถเข้าชมงานและเยี่ยมชมบูธที่สนใจได้เสมือนกับการเดินงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในสถานที่จริง สามารถดูรายละเอียดสินค้าแบบ 360 องศา รวมทั้งพูดคุยกับผู้ประกอบการที่จัดแสดงสินค้าผ่าน   V-OBM และการ VDO Call หรือทางข้อความได้ 24 ชั่วโมงผ่านการ Chat มากกว่านั้น ยังมีระบบกระดานสนทนาสำหรับประกาศซื้อ-ขายให้ติดต่อกลับได้ รวมถึงระบบแนะนำสินค้าและบริษัทให้กับผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าสามารถค้นหากันได้ง่ายขึ้น จึงนับได้ว่า THAIFEX – VTS เป็นงานที่มีบทบาทสำคัญสำหรับผู้ส่งออกของไทยที่กำลังมองหาผู้ซื้อต่างประเทศ และ www.thaifex-vts.com ก็นับเป็นแพลตฟอร์มแห่งอนาคตของสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ที่พร้อมสำหรับการเจรจาธุรกิจได้เต็มศักยภาพ

ผู้ประกอบการที่สนใจธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม สามารถลงทะเบียนเข้าชมงาน THAIFEX – VTS ได้ที่ www.thaifex-vts.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โทร. 1169 หรือ www.ditp.go.th

8880
รายงานข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศ ณ วันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564 เวลา 8.00 น.


📍 กรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 3 - 21 ug/m3
📍 ภาคกลาง มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 35 ug/m3
📍 ภาคเหนือ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 37 ug/m3
📍 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 23 ug/m3
📍 ภาคใต้ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 26 ug/m3
📍 ภาพรวมทั้งประเทศ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ระหว่าง 1 - 37 ug/m3

อย่าลืมสวมอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง
#DustBoy #pm2_5

ที่มา : รายงานค่าฝุ่น PM2.5 (ug/m3) จากจุดติดตั้งเครื่องวัดฝุ่น DustBoy

ศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพอากาศ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://pm2_5.nrct.go.th

Pages: 1 ... 590 591 [592] 593 594 ... 2405