happy on December 27, 2020, 10:53:30 PM
มาคาเลียส เผยผลสำรวจปี 2020
ชี้นักท่องเที่ยวไทยชอบใช้ “เงินสด”

              มาคาเลียส ออนไลน์ทราเวลแพลตฟอร์ม (Online Travel Platform) แหล่งรวมและจำหน่ายวอเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย เผยผลสำรวจไลฟ์สไตล์ด้านการท่องเที่ยวจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่มาใช้บริการตลอดปี 2020 กว่า 100,000 ราย พบกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นิยมใช้ “เงินสด” สำหรับจองและชำระค่าที่พัก เพราะง่าย สะดวก ไม่ต้องการสร้างหนี้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 อีกทั้งยังพบว่ากว่า 50% ชอบเที่ยว “ใกล้กรุง” และชอบท่องเที่ยวแบบ “ครอบครัว” เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูก


              นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ปีนี้เป็นปีที่ 4 สำหรับ มาคาเลียส ที่เปิดให้บริการจำหน่ายวอเชอร์โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ ในประเทศไทย ซึ่งได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ และมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปีนี้มีจำนวนลูกค้ามาใช้บริการสูงถึงกว่า 100,000 คน และมียอดจำหน่ายวอเซอร์สูงถึง 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 30 ล้านบาท แม้จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม เป็นต้นมา แต่ภาพรวมของธุรกิจการจำหน่ายวอเชอร์ที่พักกลับโตสวนกระแส ด้วยปัจจัยบวกหลายประการ อาทิ การปิดประเทศทำให้คนไทยหันมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น การจัดแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่นพิเศษของภาคเอกชน ทั้ง โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น


              โดยล่าสุด มาคาเลียส ได้ทำแบบสำรวจไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวและความพึงพอใจจากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการกว่า 100,000 คน ตลอดปี 2020 เพื่อใช้ในการปรับปรุงบริการ และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งพบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้


              รูปแบบการเดินทาง​ พบว่า กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการซื้อวอเชอร์ที่พักส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม​ “ครอบครัว” นิยมเดินทางแบบพ่อ แม่ ลูก และมองหาที่พักที่มี Kids Club สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก อีกทั้งยังพบว่า กลุ่มครอบครัวที่เดินทางมาพร้อมเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี จะยินยอมเสียค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นสำหรับสถานที่ที่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเด็กได้ เช่น มีกิจกรรมสำหรับเด็ก การล่องเรือดูธรรมชาติ ชมปลาโลมา เป็นต้น

              การเลือกสถานที่ท่องเที่ยว​ พบว่า นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวในสถานที่ที่​ “ใกล้กรุง” สามารถขับรถยนต์ไปด้วยตนเองได้จากกรุงเทพเฉลี่ยระยะทางไม่ทางไม่เกิน 200-300 กิโลเมตร เนื่องจากในปีนี้มีวันหยุดเป็นจำนวนมาก แต่ช่วงระยะวันหยุดต่อครั้งจะสั้นเฉลี่ยประมาณ 3-4 วัน อีกทั้งการเที่ยวใกล้กรุงยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้มีเงินเหลือสำหรับการท่องเที่ยวทริปต่อไปได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อันดับ 1 คือ จังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา รองลงมาได้แก่ ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปราณบุรี กาญจนบุรี ระยอง ตราด และจันทบุรี

              ค่าที่พัก พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกที่พักในราคาเฉลี่ยประมาณ 900-1,500 บาท ต่อคนต่อคืน หรือประมาณ 2,000-3,000 บาท ต่อห้อง เพราะมองว่าการเลือกที่พักในราคาระดับกลางจะช่วยประหยัด และทำให้สามารถเที่ยวได้หลายสถานที่เพิ่มขึ้น

              รูปแบบการชำระเงิน​ พบว่า กลุ่มลูกค้ากว่า 85% นิยมใช้ “เงินสด” สำหรับการสั่งซื้อวอเชอร์ที่พัก โดยชำระเงินผ่าน Mobile Application เป็นหลัก ด้วยเหตุผลคือ สะดวก และไม่ชอบกรอกรายละเอียด หากชำระผ่านบัตรเครดิต นอกจากนี้ยังไม่ต้องการสร้างหนี้เพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด-19 รองลงมาคือ การชำระผ่านบัตรเครดิต และการชำระผ่านธนาคารในรูปแบบการจ่ายผ่านเคาเตอร์เซอร์วิส


              นางสาวณีรนุช​ กล่าวต่อว่า “งานเทศกาลต่างๆ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งในช่วงเทศกาลนักท่องเที่ยวยินยอมที่จะจ่ายค่าที่พักในราคาที่สูงขึ้น เพื่อแลกกับประสบการณ์ต่างๆ เช่น ในช่วงเทศกาลพลุเมืองพัทยา มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ยอมจ่ายค่าที่พักในราคาสูง เพื่อให้มองเห็นการแสดงพลุจากห้องพัก อีกทั้งคาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ก็เป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยพร้อมจะจ่ายค่าที่พักในราคาที่สูงเพื่อแลกกับบรรยากาศการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้องรับปีใหม่

              ทั้งนี้ มาคาเลียส เชื่อมั่นว่าธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยทางผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมืออยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพของสถานที่ การสร้างประสบการณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว และที่สำคัญคือการรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัยอยู่ตลอดเวลา”