activity on August 19, 2020, 08:06:52 AM
ปอร์เช่ ลงทุนกว่า 15 พันล้านยูโร ในโครงการพัฒนายานพาหนะแห่งอนาคตระยะเวลา 5 ปี เดินหน้าอย่างเเข็งเเกร่งท่ามกลางวิกฤติไวรัสด้วยโคโรน่าด้วยกำไรจากผลประกอบการครึ่งปีแรก 1.2 พันล้าน ยูโร



สตุ๊ทการ์ท, ประเทศเยอรมนี. ผ่านครึ่งแรกของปี 2020 อันสุดท้าทายไปเป็นที่เรียบร้อย Porsche AG สามารถบรรลุ เป้าผลตอบแทนจากการขายที่ 9.9 เปอร์เซ็นต์ รายได้จากการขายทำได้ที่ 12.42 พันล้านยูโร หรือลดลง 7.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ในส่วนของผลตอบแทนจากการขายนั้นมีตัวเลขที่ 1.23 พันล้านยูโร ลดลง 26.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2019 ผลประกอบการที่ดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับคู่แข่งมีพื้นฐานจากโครงการพัฒนาที่ครอบคลุมถึง ศักยภาพการดำเนินงานในแง่ของจุดคุ้มทุนรวมทั้งความสำเร็จอย่างงดงามของผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่จากปอร์เช่

“สถานการณ์ปัจจุบันเต็มไปด้วยความท้าทายอย่างสูงสำหรับบริษัท เรากำลังบริหารจัดการองค์กรท่ามกลางวิกฤติไวรัส โคโรน่าอย่างเป็นระบบและเต็มไปด้วยความรับผิดชอบ ในขณะที่ยังคงต้องเสาะแสวงหาโอกาสต่างๆ ไปด้วย เราเพิ่งทำการ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจ นับตั้งแต่ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ (Porsche 911 Turbo) จนถึงปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบซึ่งได้รับการเลือกให้เป็นที่สุดของรถยนต์ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม ล้ำสมัยอันดับ 1 ของโลกเมื่อไม่นานมานี้” Oliver Blume ประธานกรรมการบริหาร Porsche AG กล่าวต่อไปอีกว่า “เรายืนหยัดเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์และสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แก่วงการรถสปอร์ต จิตวิญญาณแห่งนักบุกเบิก คือ แรงผลักดันให้เรามุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ” Blume เสริม “ปอร์เช่จะทุ่มงบประมาณลงทุนกว่า 15 พันล้านยูโร ตลอดระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น”

“เมื่อพิจารณาถึงการลงทุนในแง่มุมของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีดิจิทัล ปอร์เช่ยังคงมีการพัฒนาที่ก้าว กระโดด” ข้างต้นคือคำยืนยันจาก Lutz Meschke รองประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้รับผิดชอบดูแลส่วน งานการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศของ Porsche AG “พร้อมกันนั้นเรายังคงไล่ตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของเรา ในส่วนของผลตอบแทนจากการขาย เพื่อให้ปอร์เช่สามารถดำเนินกิจการได้โดยสวัสดิภาพในระยะยาว” นั่นคือเหตุผลที่ CFO ของปอร์เช่กล่าวถึงการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม “การเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มตัวในทุกภาคส่วนคือสิ่งที่ เราต้องการเพื่อให้กิจการดำรงอยู่ต่อไป” Meschke กล่าวสำทับ

ยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่: ยังคงสถานะที่แข็งแกร่งในตลาดทั่วโลก
ตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ทั่วโลกในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2020 ปรับลดลง 12.4 เปอร์เซ็นต์ หรือ 116,964 คัน ในภาพรวมถึงแม้ว่าศูนย์บริการ Porsche Centres หลายแห่งจำเป็นต้องหยุดดำเนินงานชั่วคราวเป็นระยะเวลา หลายสัปดาห์ก็ตาม แต่ปอร์เช่ไทคานน์ใหม่ (The new Porsche Taycan) ยังคงมียอดส่งมอบกว่า 4,480 คัน ในส่วนของปอร์เช่ 911 รถสปอร์ตระดับตำนานกลับมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 2.2 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นยอดจำหน่าย 16,919 คัน ทางด้านปอร์เช่ คาเยนน์  (Porsche Cayenne) คือรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดด้วยยอดส่งมอบรวมทั่วโลกกว่า 39,245 คัน ตามติดด้วยปอร์เช่ มาคันน์ (Porsche Macan) ที่สามารถส่งมอบถึงมือลูกค้าถึง 34,430 คัน ประเทศจีนยังคง เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำแห่งนี้ ด้วยยอดจำหน่ายในครึ่งแรกของปี 2020 ที่ 39,603 คัน ในส่วนทวีปยุโรปมีตัวเลขส่งมอบที่ 32,312 และประเทศสหรัฐอเมริกาที่ 24,186 คัน ในระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายน

วิเคราะห์สถานการณ์ด้วยเหตุผล
“อย่างไรก็ตามวิกฤติไวรัสโคโรน่าทิ้งร่อยรอยความเสียหายเอาไว้กับปอร์เช่ไม่น้อย” Meschke ให้ความเห็น “ในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกาเราได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการหดตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 สำหรับประเทศจีน และตลาดอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย อย่างเช่น เกาหลีและญี่ปุ่นหลายสิ่งหลายอย่างเริ่มฟื้นคืนกลับมาได้อีกครั้งในช่วงไม่กี่ สัปดาห์ที่ผ่านมา” Meschke กล่าวว่ายังคงเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ถึงช่วงเวลาที่เหลือของปีว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป “เรามองในแง่ดีว่าจะสามารถชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน มีนาคม เมษายน และพฤษภาคมได้แน่นอน ว่าสิ่งนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อไม่มีการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าอีกครั้ง” Meschke อธิบาย ปี 2020 คือปีแห่งไวรัสโคโรน่า ปอร์เช่จำเป็นต้องปรับลดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในส่วนของผลตอบแทนจากการขายที่ 15 เปอร์เซ็นต์ ลง “แต่เราจะพยายามลงมือทุกวิถีทางที่ทำได้” Meschke กล่าวทิ้งท้าย “เพื่อให้ยังคงบรรลุเป้าหมายอัตราผลตอบแทน จากการขายด้วยตัวเลข 2 ตำแหน่ง ในปี 2020”

การพัฒนาอย่างยั่งยืน: หน้าที่รับผิดชอบต่อสังคมของปอร์เช่
ปอร์เช่ มุ่งมั่นที่จะเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนยิ่งกว่าที่ผ่านมา ด้วยการผสมผสาน และเข้าถึงทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นภาคเศรษฐกิจการรักษาสภาพแวดล้อมและมิติทางสังคมต่างๆ “ที่ปอร์เช่ ความสำเร็จเชิงพาณิชย์และหน้าที่ รับผิดชอบต่อสังคมคือสิ่งที่ต้องดำเนินควบคู่ไปด้วยกันเสมอ” Blume แสดงความเห็นต่อไปว่า “สิ่งสำคัญประการหนึ่ง สำหรับเราในขณะที่รับมือกับวิกฤติไวรัสโคโรน่า คือ การรับบทบาทขับเคลื่อนสังคมให้เดินไปในทิศทางที่เหมาะสมและ มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบการช่วยเหลือผู้อื่นคือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรปอร์เช่” ข้างต้นคือคำยืนยันจาก ประธานกรรมการบริหารนั่นคือเหตุผลที่ปอร์เช่พิจารณาขยายขอบเขตกิจกรรมทางสังคมทั้งในระดับประเทศและระดับ สากลให้มากยิ่งขึ้นด้วยโครงการ “Porsche helps” ซึ่งให้การสนับสนุนส่งเสริมแก่กองกำลังบรรเทาสาธารณภัย  องค์กร การกุศล  สถานพยาบาลและผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ ในหลากหลายช่องทาง

เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี