MSN on January 21, 2020, 09:02:10 AM
ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยชี้ค่าเงินบาทแข็งดึงดูดคนไทยแห่ลงทุนอสังหาฯ ในลอนดอน


มร.แฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ปัญหาทางการเมืองภายในสหราชอาณาจักรใกล้สิ้นสุดลงหลังการเซ็นต์สัญญาข้อตกลงการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มกราคม ปี 2563 สิ่งที่ตามมาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอนคือผลกระทบต่อภาคการเงินของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ เนื่องมาจากสหราชอาณาจักรจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมหาศาลจากการถอนตัวเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป”

“ช่วงระยะเวลานี้ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไทยที่ต้องการลงทุนอสังหาฯในสหราชอาณาจักรหรือลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นทั้งการลงทุนเพื่อเก็งกำไรหรือเพื่อใช้อยู่อาศัยเอง เพราะเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้น ซึ่งแข็งค่ามากกว่าค่าเงินอื่นในหลายๆ ภูมิภาค ณ เวลานี้ โดยมีอัตราแข็งค่าสูงสุดในรอบ 6 ปี ในขณะเดียวกันมูลค่าอสังหาฯ ก็ราคาถูกลงและผู้ซื้อเองก็สามารถต่อรองข้อเสนอได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย”

จากผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ พบว่า ในช่วงหนึ่งปีจนถึงเดือนกันยายน 2562 ราคาขายเฉลี่ยในย่านไพร์มใจกลางลอนดอนปรับลดลงร้อยละ 3.9 เป็นการลดต่ำที่สุดในรอบ 12 เดือน ในขณะที่ย่านไพร์มรอบนอกลอนดอนปรับลดลงร้อยละ 3.5 ซึ่งปรับลดลงต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561

อย่างไรก็ตามสัญญาณความไม่แน่นอนยังมีอยู่ในตลาด การเติบโตของราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยทั่วสหราชอาณาจักรยังคงทรงตัว มีการปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จนถึงเดือนกันยายน 2562 เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตต่อปีที่ร้อยละ 7.5 ก่อนการลงประชามติเบร็กซิต




มร.ข่าน กล่าวเพิ่มว่า “ในปี 2561 - 2562 นักลงทุนไทยมีอัตราการซื้ออสังหาฯในลอนดอนสูงสุด ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการลงทุน เนื่องจากปัจจัยหลักข้างต้นที่ดึงดูดผู้ซื้อชาวไทย รวมไปถึงกลุ่มผู้ซื้อจากสิงคโปร์และฮ่องกงที่กำลังรอจังหวะในการลงทุนในสหราชอาณาจักรและลอนดอน หากมองย้อนกลับไปในช่วง 4 - 5 ปีที่ผ่านมาตอนเบร็กซิตเพิ่งเริ่มเกิดขึ้น ความต้องการอสังหาฯ ในสหราชอาณาจักรของกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยเพิ่มขึ้นอยู่ประมาณร้อยละ 40 - 50 หากเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ความต้องการเพิ่มขึ้นสูงขึ้นถึงร้อยละ 80 หลังค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น”

“ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหราชอาณาจักรทำให้จำนวนผู้ซื้อชาวไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในทำเลไพร์ม อย่างเช่น เคนซิงตัน (Kensington), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), ฮอลแลนด์ พาร์ค (Holland Park), เบลกราเวีย (Belgravia) และ แฮร์รอดส์ (Harrods) โดยร้อยละ 60 ซื้อไว้เพื่อให้ลูกหลานที่มาศึกษาต่อ และอีกร้อยละ 30 - 40 ซื้อไว้เพื่อการลงทุนเก็งกำไร ซึ่งลดลงจากช่วง 5 ปีก่อน ที่ร้อยละ 90 ซื้อไว้เพื่อการศึกษาของลูกหลาน ทั้งนี้จะเห็นได้ชัดว่านักศึกษาต่างชาติเป็นส่วนสำคัญของตลาดอสังหาฯ”

“นอกจากนี้ความต้องการเช่ายังคงมีมากกว่าอุปทานในตลาดและผลักดันราคาอสังหาฯในพื้นที่ดังกล่าว เพราะผู้อยู่อาศัยจำนวนมากหันมาเช่ากันมากขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะในแฮมเมอร์สมิธ (Hammersmith) ที่มีค่าเช่าระหว่าง 900 - 950 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 - 5 ทุกๆปี และมีอัตราผลตอบแทนจากค่าเช่าสุทธิร้อยละ 2.8 - 2.9 ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.2 - 1.3 ล้านปอนด์สำหรับ  2 ห้องนอน และราคา 1.5 - 1.6 ล้านปอนด์สำหรับ 3 ห้องนอน บริเวณนี้ถือเป็นย่านที่มีราคาไม่แพงมากนักสำหรับการอยู่อาศัย หากเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง และตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางลอนดอน ซึ่งห่างเพียงไม่กี่สถานี”