wmt on December 15, 2018, 12:30:09 PM




ห้องอาหารพระยา ไดนิ่ง โรงแรมพระยา พาลาซโซ      





เดินทางย้อนเวลาสู่ประวัติศาสตร์สำรับอาหารไทย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจวบจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ณ ห้องอาหารพระยา ไดนิ่ง ณ โรงแรมพระยา พาลาซโซ  สำรับอาหารไทยแต่ละยุคสมัยและในแต่ละภูมิภาค ล้วนแล้วแต่สะท้อนถึงฐานรากทางวัฒนธรรมและอิทธิพลทางสังคมของแต่ละช่วงยุคสมัยของประเทศไทยทั้งสิ้น

โรงแรมพระยา พาลาซโซ ภายใต้เครือมนทาระ ดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์ความรู้และประวัติศาสตร์จากชนรุ่นก่อนส่งต่อถึงชนรุ่นหลังสืบไป ด้วยการรักษาไว้ซึ่งทั้งสถาปัตยกรรมดั้งเดิม สไตล์ พาลาดิโอ ตั้งแต่รัชกาลที่ 6 ไปจนถึงการทำนุบำรุงรักษาไว้ ซึ่งตำรับอาหารไทยตั้งแต่สมัยโบราณกาลจวบจนถึงอาหารไทยที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพื่อส่งต่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของฐานรากวัฒนธรรมไทยจากรุ่นสู่รุ่น ในห้องอาหารพระยา ไดนิ่ง เฉกเช่นเดียวกับการรักษาไว้ซึ่งสูตรอาหารใต้แบบดั้งเดิมรสมือแม่ที่ ซีฟู้ด ณ ตรีสรา และ ห้องอาหาร พรุ ซึ่งใช้วัตุดิบที่ปลูกเองและวัตถุดิบจากท้องถิ่นเพื่อความยั่งยืน ซึ่งได้รับรางวัล มิชลินเพลท และ มิชลิน1 ดาว ตามลำดับ  โดยหวังว่าจะสามารถส่งต่อวิสัยทัศน์ผ่านสถาปัตยกรรมและสำรับอาหารไทย ณ โรงแรมพระยา พาลาซโซและห้องอาหารพระยา ไดนิ่ง สู่ชนรุ่นหลังเช่นกัน

พระยา ไดนิ่ง พาท่านเดินทางสู่ยุคสุโขทัย ด้วย เมนู “หลน” ซึ่งสะท้อนถึงความเรียบง่ายแต่ร่ำรวยทางวัตถุดิบ กับ “หลนปู” และ “หลนปลาเค็ม” โดยสะท้อนให้เห็นถึงสมัยสุโขทัยที่ยังมีวิธีการปรุงแบบเรียบง่ายและเป็นเมนูอาหารที่รวมความอุดมของวัตถุดิบเช่นผักสดต่างๆหลากหลายชนิด เป็นต้น ไปสู่กรุงศรีอยุธยา ซึ่งเริ่มรับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากต่างชาติ พร้อมทั้งได้รับวัตถุดิบสำคัญ ในสำหรับอาหารไทย อย่าง “พริก” รวมถึงวิธีการ ผัด และทอด ไม่ว่าจะเป็นเมนู “กุ้งโสร่ง” “น้ำพริกกะปิ” “ขนมจีนน้ำยาปลา” หรือ แม้แต่ “แกงมัสมั่น”

ไล่เรียงมาจนถึงยุครัตนโกสินทร์  โดยมีการสถาปนา “กรุงเทพมหานครฯ”  ขึ้นเป็นเมืองหลวง ในขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นจุดกำเนิดของ ราชวงศ์จักรี ซึ่งยังคงปกครองประเทศไทยมาจวบจนถึงปัจจุบัน ในช่วงยุคสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์นี้ ถือเป็นจุดสำคัญของอาหารไทยในปัจจุบันนี้ ทั้งการถือกำเนิดของ “สตรีทฟู้ด” โดยพ่อค้าแม่ค้าชาวจีนที่มาตั้งถิ่นฐาน และ การถือกำเนิดของ อาหารยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก อย่าง “ผัดไทย”หรือแม้แต่เป็นจุดกำเนิดของ “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” อันเป็นกาพย์ที่ถูกกล่าวถึงอยู่ตลอดจนทุกวันนี้ และเป็นเหมือนรากฐานในบทการละครและเรื่องราวเกี่ยวกับสำรับอาหารไทยมาเสมอ

พระยา ไดนิ่ง ตระเตรียมเมนูขึ้นชื่อ รวมถึงเมนูที่หาทานยากได้ปัจจุบัน ทั้งยังแสดงออกถึงเรื่องราวความเป็นมาในแต่ละยุคของประเทศไทย จากการศึกษาเมนูตำรับตำราโบราณต่างๆ รวมไปถึงหนังสืออาหารสำรับชาววัง  อย่าง  “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” บทประพันธ์ในรัชกาลที่ 2, “คู่มือแม่ครัว” ประพันธ์โดย ล. เภตรารัตน์,“ตำรับกับเข้า” ประพัน์โดยหม่อมซ่มจีนหรือ หนังสือ “เรื่องเล่าชาววัง หรือ ชีวิตในวัง” โดยหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ ซึ่งได้กลายเป็น เมนูซิกเนเจอร์ ของห้องอาหาร พระยา ไดนิ่ง อย่าง “ล่าเตียง”,“แสร้งว่ากุ้งปลาดุกฟู” “แกงรัญจวน” และ “หมูผัดส้มเสี้ยว” รวมไปถึงขนมหวานอย่าง “บัวลอยลูกตาล” อีกด้วย

ห้องอาหารพระยา ไดนิ่ง ตั้งอยู่ใน โรงแรมพระยา พาลาซโซ เป็นอาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเดินทางได้โดยทางเรือเท่านั้น โดยทางโรงแรมมีบริการเรือรับส่งไปท่าต่างๆในบริเวณใกล้เคียง ตลอด 24 ชั่วโมง และ ท่าเรือหลักทั้งท่าพระอาทิตย์ และ ท่าเรือวัดราชาธิวาส (ซึ่งสามารถจอดรถได้ที่ท่านี้)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ของ โรงแรมพระยา พาลาซโซ ได้ที่ โทร. 02-883 2998 หรือ 081-402 8118   และที่ reservation@prayapalazzo.com สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.prayapalazzo.com


MENU_Praya Dining-หมูผัดส้มเสี้ยว


MENU_Praya Dining-หลนปู


MENU_Praya Dining-ล่าเตียง


แสร้งว่ากุ้งปลาดุกฟู


แกงรัญจวน


โรงแรมพระยา พาลาซโซ
ตั้งอยู่บนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นเส้นเลือดและหัวใจของชาวไทย พร้อมมอบประสบการณ์ล้ำค่าในแบบดั้งเดิมแก่ผู้เข้าพัก ผ่านเรื่องราวของอดีตกาลที่ขับขานเล่าเรื่องผ่านทุกซอกมุมของประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ผสมผสานกลิ่นอายอิตาเลียน-ไทย อันเป็นอัตลักษณ์ของความเฟื่องฟูในยุคพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ยังคงโดดเด่น แม้จะผ่านกาลเวลาแล้วกว่า ๑๐๐ปี ตราบจนถึงปัจจุบันที่โรงแรมพระยาพาลาซโซ.

ภายใต้เครือมนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป โรงแรมพระยาพาลาซโซ ซึ่งเปิดให้บริการห้องพักหรูและการบริการอันเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมในความเป็นไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕และมีการบูรณะปรับปรุงเพิ่มเติมแล้วเสร็จทั้งในส่วนห้องพักและห้องอาหารในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑

โรงแรมพระยาพาลาซโซได้รับรางวัล อนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น จาก สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และรางวัล สุดยอดโรงแรมบูติกไทย ทั้งในส่วนเขตที่ตั้ง ริมฝั่งแม่น้ำและทะเลสาบ (River &Lake)และในส่วนแนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) อีกด้วย

เกี่ยวกับมนทาระ ฮอสพิทาลิตี้
มนทาระ ฮอสพิทาลิตี้ ดำเนินงานด้วยหลักการครอบครัว และ คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทย เราต้องการให้แขกทุกท่านที่เข้ามาพักที่โรงแรมในเครือ ได้สัมผัสกับการบริการที่ยอดเยี่ยม เปี่ยมด้วยความจริงใจ และได้สัมผัสกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจเพื่อทำนุบำรุงรักษาไว้ซึ่งวีถีชีวิตความเป็นไทย และสืบสานต่อวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์สู่ชนรุ่นใหม่ต่อไป

เราลงทุนและให้ความสำคัญกับมาตรฐานการบริการอันดีเลิศ ซึ่งเชื่อมต่อถึง นักลงทุน นักเดินทาง รวมถึง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรงแรม

โรงแรมและรีสอร์ทในเครือมนทาระ ประกอบด้วย “ตรีสรา รีสอร์ท” ในภูเก็ต ตรีสรา ในภาษาสันสกฤตแปลว่า "สวนในสวรรค์ชั้นสาม" รีสอร์ทแห่งนี้มอบประสบการณ์สุดพิเศษบนเกาะภูเก็ต อยู่ห่างจากสนามบินภูเก็ตเพียง 15 นาที โอบล้อมไปด้วยป่าเขตร้อนและสวนพันธุ์ไม้หายาก พูลวิลล่าที่กว้างขวาง 60 หลังหันหน้าเข้าหาทะเล และบ้านพักส่วนตัวขนาด 2-7 ห้องนอน เรียงรายรอบอ่าวที่เงียบสงบบนแนวชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือที่เป็นธรรมชาติและงดงามของภูเก็ต ได้รับรางวัล “Condé Nast Traveler’s Gold List” 4 ปีซ้อน รวมถึงในปี พ.ศ. 2561 นี้ด้วยรวมไปถึง ร้านอาหาร“พรุ (PRU)” ร้านอาหาร 1 ดาว มิชลิน แห่งแรกและแห่งเดียวในภูเก็ต  ภายใต้ปรัชญา ‘ปลูก-ดูแล-เข้าใจ’คอนเซปท์อาหารแบบ Farm-to-table มีเป้าหมายในการสรรสร้างอาหารเพื่อเชิดชูความอุดมของชายฝั่งอันดามันและแสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยทางทรัพยากรของประเทศไทย ร้านอาหารพรุ ใช้วัตถุดิบจากฟาร์มที่เพาะปลูกเอง และเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจากชาวประมง ชาวนาและผู้ผลิตในชุมชนท้องถิ่นเพื่อความยั่งยืน รวมไปถึง ร้านอาหาร “ซีฟู้ด แอท ตรีสรา” ซึ่งปรุงอาหารใต้รสต้นตำรับจากรสมือแม่ ซึ่งได้รับรางวัล มิชลิน เพลท เช่นกัน

ในปี พ.ศ. 2560 โรงแรม พระยา พาลาซโซ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครือมนทาระ ฮอสพิทาลิตี้  เป็นโรงแรมหรู สไตล์แมนชั่น กลิ่นอาย อิตาเลียน-ไทย ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และมีการบูรณะปรับปรุงโรงแรมเพิ่มเติมพร้อมทั้งเปิดตัวห้องอาหารไทยสูตรชาววังดั้งเดิม ใน เดือน พฤศจิกายนพ.ศ. 2561

โรงแรมล่าสุดภายใต้เครือมนทาระ ฮอสพิทาลิตี้ คือ โรงแรมปรินซ์เธียเตอร์ เฮอริเทจ สเตย์ ในปี พ.ศ. 2561 ชุบชีวิตโรงภาพยนตร์ที่ทำด้วยโครงสร้างไม้เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี (ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง) อย่าง ‘ปรินซ์ รามา’ มาบูรณะปรับปรุงใหม่ให้เป็นบูติคโฮเทล โรงแรมมีห้องทั้งหมดจำนวน 26 ห้อง 130 เตียง อยู่ใจกลางย่านบางรัก อันเป็นย่าน Creative District หรือย่านพื้นที่สร้างสรรค์ของกรุงเทพมหานครซึ่งอุดมไปด้วยสตรีทฟู้ดมากมาย โรงแรมปรินซ์เธียเตอร์ เฮอริเทจ สเตย์ อยู่ภายใต้ บริษัท เฮอริเทจ สเตย์ จำกัด (Heritage Stay Co.,LTD) ในเครือมนทาระ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการรักษาไว้และส่งต่อเรื่องราวของมรดกทางวัฒนธรรมและความสำคัญของชุมชนท้องถิ่นสู่สังคม

ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.montarahospitality.com
« Last Edit: December 15, 2018, 12:37:28 PM by wmt »