happy on February 28, 2018, 07:48:31 PM
แมงปอ ชลธิชา เปิดใจถึงอดีตสามีผู้จัดการส่วนตัว เลิกกันแบบจบไม่สวย ถูกโกงนับ 10ล้าน!!


มีชีวิตที่แฮปปี้ดีมาก อีกทั้งยังมีลูกชายวัยกำลังน่ารัก 1 คน สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว แมงปอ ชลธิชา ล่าสุดเธอได้มาพร้อมกับลูกชายตัวน้อยวัย 5 เดือน น้องสปูน มาพูดคุยในรายการ คุยแซ่บShow ทาช่อง one31 ที่มี หนิง ปณิตา, เบนซ์ พรชิตา และเป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร พร้อมกับเปิดใจถึงงานในวงการบันเทิงเมื่อสมัยที่เธอกำลังโด่งดังหนักมาก แต่มาตอนนี้หลายคนมองว่า เธอตกอับ!!

“ตอนนี้ชีวิตโอเคดี แต่หลายๆ คนอาจจะมองว่าตกต่ำรึเปล่า แต่จริงๆ มันอยู่ที่ความคิดเราว่าเป็นแบบไหน”

ครั้งแรกเราเคยแต่งงานแล้ว แต่มาครั้งนี้มีลูกแล้วไม่แต่ง? “ก็คือเราเคยแต่งงานแล้ว จะบอกว่าผิดหวังจากครั้งแรกก็ก้ำกึ่งเนอะ เพราะว่าเราแต่งแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เรารู้สึกว่า ไม่ต้องจัดงานใหญ่โตหรืออะไร เราก็มีความสุขได้ การมีน้องสปูนเป็นการคุยกันและตั้งใจที่จะมี เราไปจดทะเบียนตอนท้องได้ 8 เดือนค่ะ คือด้วยความที่เราเคยจัดงานแต่งงานมาแล้ว และมันไม่ได้พิสูจน์ว่าเราจะอยู่กันอย่างยาวนาน มาครั้งนี้ก็เลยตัดสินใจว่าทำแบบนี้ดีกว่า แต่เราคุยกับคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่าย เค้าก็โอเค ไม่มีปัญหาค่ะ มันก็แตกต่างนะระหว่างแต่งงานกับไม่แต่งงาน ช่วงนั้นปอยังอายุน้อยและทำงานเยอะ เราไม่ได้ออกไปไหนเลย ไม่ได้อยู่กับเพื่อน ไม่ได้ไปเที่ยว เลยรู้สึกว่าเราต้องมาเป็นแม่บ้านแม่เรือนตั้งแต่อายุยังน้อยเหรอ ก็อยากใช้ชีวิตที่อิสระอยู่ พูดตามตรงว่าผิดที่ตัวเราด้วยค่ะ ต้องขอบคุณสำหรับเวลา อายุเรามาถึงตอนนี้แล้ว ทำให้เราเข้าใจอะไรเยอะขึ้น ทั้งความรู้สึกเราและความรู้สึกเค้า พอมีลูกชีวิตก็ดูซอฟท์ลงเข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เรายังรับงานอยู่นะคะ แต่รับไม่เยอะ เพราะน้องเค้ายังเด็ก อยากให้เวลาเค้าเต็มที่ค่ะ”

“ก่อนที่จะมีเค้าไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานเลย คนก็ถามเยอะเหมือนกัน เราก็อยากแต่งนะ แต่รอเวลาให้เค้ารู้เรื่องก่อน เค้าจะได้อยู่ในบรรยากาศนั้นด้วย”

ที่ยังไม่จัดงานแต่งงาน คนมองว่าเราดร๊อปลง เลยไม่อยากใช้เงินฟุ่มเฟือย? “จะพูดอย่างนั้นก็ใช่ค่ะ หมายถึงเรื่องเก็บเงินไว้ให้ลูกค่ะ ถ้าอยากจะจัดก็อยากแค่ทำงานเล็กๆ มีรูปถ่ายพ่อแม่ลูกก็พอค่ะ”

มีคนเม้าท์ว่าเราตกอับถึงขั้นต้องไปขายข้าวแกง ทั้งๆ ที่เราเคยเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งของค่าย? “ค่ะ คือจริงๆแล้วร้านนี้เป็นร้านของคุณแม่ค่ะ เค้าขายส้มตำอาหารตามสั่ง พอมีน้องแล้วเราก็ไปอยู่กับคุณแม่ที่บ้าน เพราะเวลาเรามีงานเราก็ต้องฝากเค้าเลี้ยง มันก็ต้องเป็นไปโดยปริยายที่เราต้องช่วยเค้า บางทีมีสั่งข้าว 30-40 กล่อง เค้าทำไม่ทันเราก็ต้องไปช่วยเค้า ตามจริงไม่ได้มีแค่ขายข้าวแกงค่ะ เราก็นั่งรถไปตลาด ไปเหมาซื้อรองเท้ามาทเรามาขายออนไลน์มั้ย พยายามหาอะไรทำตลอดค่ะ”

รู้สึกว่าจุดที่เรายืนอยู่ เราคิดว่าเราตกอับมั้ย? “ไม่ค่ะ ปอมีความสุขมากกว่า ปอคิดว่ามันอยู่ที่เราจะคิดว่ายังไง คือเมื่อก่อนนี้ปอหาเงินง่าย มาตอนนี้เราโฟกัสที่ลูกค่ะ เก็บเงินให้ลูกดีกว่า คนที่มองเราแบบนี้ก็ไม่มีนะคะ เพราะคนทุกวันนี้มองอะไรเข้าใจขึ้น ต้องขอบคุณโซเชียลที่มีหลายๆ คนเข้ามาเยอะแยะเต็มไปหมด ถ้ามีคนตั้งประเด็นขึ้นมา ก็จะมีแฟนคลับมาเถียงให้เยอะแยะค่ะ”

รายได้ตอนนี้ตกประมาณเท่าไหร่? “ต่อเดือนตกประมาณแสนถึงสองแสนค่ะ ส่วนหนี้ก็มีแค่รถอย่างเดียวค่ะ”









ในวันที่เป็นเบอร์หนึ่งของค่าย แล้วตัดสินใจลาออกมารับงานอิสระ มาวันนี้ถ้าย้อนกลับไปอยากเป็นอย่างนั้นอยู่มั้ย? “ถ้าย้อนกลับไปคงไม่ค่ะ เพราะวันนี้ปอมีน้องแล้ว เราต้องเลือกลูก ตอนนั้นเดือนนึง 30 วัน ปอมีงาน 40 งานต่อเดือนค่ะ”

การที่เราออกมาจากค่ายเก่า เป็นเพราะว่าเราผิดใจกับลูกเจ้าของค่าย อดีตแฟนเก่า ถูกถีบออกมาจากค่าย? “(หัวเราะ)ไม่ใช่ค่ะ ไม่เกี่ยวกับประเด็นว่าเป็นแฟนกันแล้วเลิกกัน แต่มันเป็นเรื่องของเงินมากกว่าค่ะ ประมาณว่าผลประโยชน์ไม่ได้ทัดเทียมกับงานที่ทำค่ะ คือเค้าเป็นผู้จัดการปอด้วยค่ะ คิดว่าเราถูกโกงด้วยค่ะ”

ทำไมถึงถูกโกง? “ด้วยความที่ปอไว้ใจนะคะ ให้เค้าดูแลปอทั้งหมด ปอซื้อบ้านตั้งแต่อายุ 16 เค้าบอกว่าเรายังเด็ก เป็นชื่อตัวเองไม่ได้หรอก ไม่สามารถซื้อเป็นชื่อปอได้ ใส่ชื่อเค้าทั้งบ้านทั้งรถเป็นชื่อเค้าหมด เวลาที่ไปงานไม่ว่าจะขายได้กี่ล้านตลับ ปอไม่ได้ส่วนแบ่งนะคะ แต่จะได้ค่างานโชว์แต่ละคืนๆ เท่านั้นเอง เค้าไม่ได้จ่ายมาทุกครั้ง ก็ทบไว้เรื่อยๆ และด้วยความที่เค้าเป็นแฟน เราก็ไว้ใจเค้าค่ะ”

พอวันที่เราเลิกกัน แต่เราไม่ได้คืน? “ไม่ค่ะ มันไม่เกี่ยวกับเลิกกันนะ พอเราเลิกกันแล้วต่างคนต่างมีคนใหม่ ก็ยังเป็นผู้จัดการที่ดูแลเราอยู่ ไปสักพักใหญ่ แต่ด้วยความที่เรายังรัก และนับถือเค้าอยู่ การดำเนินชีวิตก็ยังคงเหมือนเดิม คือถ้าเราจะไปไหนก็ให้เค้าโอนเงินมาให้หน่อย ซึ่งเงินนี้เป็นเงินของปอนะคะ เค้าก็ให้ทุกครั้ง แต่มันไม่เท่าจำนวนเงินที่ปอฝากไว้ไง”

ตอนนี้ยังมีเงินเหลืออยู่ที่เค้ามั้ย? “ก็ยังมีค่ะ ถ้าจะไปทวงเค้ามันก็ยากแล้ว เพราะอย่างบ้านกับรถมันก็ไม่ใช่ชื่อเรา เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เราตามหาเค้าไม่เจอแล้ว ตอนนี้เรามีน้อง มีครอบครัวใหม่แล้ว เราก็อโหสิให้เค้าไปนานแล้ว ถามว่าเสียดายมั้ย ก็เสียดายนะคะ มูลค่าทั้งหมดที่เค้าเอาไปก็เกือบสิบล้านค่ะ เราตามหาเค้าไม่เจอแล้ว และอีกอย่างเค้าไม่ได้เป็นหนี้แค่เรา แต่เป็นหนี้คนอื่นเยอะแยะเลย แล้วเจ้าหนี้เค้าก็มองว่าเค้าเป็นผู้จัดการ เราเป็นศิลปิน เค้าก็มาทวงที่ปอ ชื่อเราก็เสียไปด้วยค่ะ มีเอาปืนมาวางต่อหน้าด้วย”

“กับค่ายใหม่ย่านลาดพร้าว ก็โบกมือลาเป็นอิสระแล้วค่ะ เพราะว่านักร้องเค้าเยอะมาก แล้วระบบการขายงานหรือว่างานมันไม่พอกับการใช้ชีวิตของเราค่ะ ตอนนี้ก็ฉีกสัญญาทิ้งแล้วค่ะ”

เจออุปสรรคแบบนี้อยากจะออกจากวงการบันเทิงมั้ย? “มีคนถามว่าอยากจะอำลาวงการเพราะตกอับรึเปล่า จริงๆ ไม่ใช่ค่ะ ถ้าเราอยากจะอำลาวงการจริงๆ เราเคยมีความคิดนี้มาตั้งแต่ตอนที่เงินหาย 10 ล้านแล้ว เพราะเรามีความารู้สึกว่ากลัวคน ขนาดคนใกล้ตัวยังทำขนาดนี้ แล้วเราไม่มีใครเลย”



ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama และ www.sanook.com

คลิปสัมภาษณ์ แมงปอ ชลธิชา ตกอับ ต้องขายอาหารตามสั่งเลี้ยงปากท้อง !?!
https://www.youtube.com/watch?v=uoSHbSKqS1E

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=uoSHbSKqS1E" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=uoSHbSKqS1E</a>