happy on January 07, 2018, 06:45:11 PM
SACICT ปลุกความอาร์ตในตัวทุกคน ชวนเที่ยว เรียนรู้ สู่วิถีคนคราฟต์

ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT เชิญชวนประชาชนทุกคน “ชวนเที่ยวเรียนรู้สู่วิถีคนคราฟต์” ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561 (Thailand Tourism Festival 2018) มุ่งสร้างการรับรู้และการยอมรับในภูมิปัญญาของงานศิลปหัตถกรรมไทย ผ่านการท่องเที่ยว จัดขึ้นระหว่างวันที่17 - 21 มกราคม 2561 ที่สวนลุมพินี


นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า SACICT เป็นหนึ่งหน่วยงานภายใต้กำกับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีบทบาทในการส่งเสริมให้ชุมชนหัตถกรรมได้มีการต่อยอดภูมิปัญญา สนับสนุนให้เกิดการสร้างสังคมแห่งความร่วมมือกันระหว่างคนในชุมชน และกับบุคคล/หน่วยงานนอกพื้นที่ และผลักดันให้เกิดความเชื่อมโยงทั้งเพื่อการค้าและการท่องเที่ยว โดยใช้ภูมิปัญญาด้านงานหัตถกรรมและเสน่ห์ของชุมชนเป็นทรัพยากรในการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความสุขร่วมกันของคนในชุมชนสู่ความกินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืนของชุมชน

ในปี 2561 SACICT มีแนวทางในการผลักดันชุมชนหัตถกรรมให้เกิดความเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว โดยการสนับสนุนให้ชุมชนเป็นจุดหมายไปพร้อมๆกับการท่องเที่ยว (Craft Destination) ที่นำเสนอคุณค่า และภูมิปัญญาของการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมภายในชุมชน เริ่มต้นจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561 (Thailand Tourism Festival 2018) ที่จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 17 - 21 มกราคม 2561 ณ สวนลุมพินีภายใต้แนวคิด “สัมผัสวิถีไทย เติมความสุขใจ สร้างรายได้ ใส่รอยยิ้ม” SACICT จึงได้คัดเลือก 4 ชุมชนที่มีจุดเด่นอันเป็นอัตลักษณ์และมีจุดขายที่แตกต่างกันเข้าไปร่วมจัดแสดงและจำหน่ายภายในงานฯ ภายใต้แนวคิด “ชวนเที่ยวเรียนรู้สู่วิถีคน คราฟต์” (Travel & Learn หมายถึง Travel ออกไปเที่ยว ออกไปสัมผัสวิถีไทย เติมความสุขใจ ด้วยงาน คราฟต์และ Learn ออกไปเรียนรู้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง มี Moment of Silence แบบวิถีคนทำคราฟต์) ประกอบด้วย


ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ กลุ่มชุมชนบ้านหนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ กลุ่มชุมชนหนองบัวแดง การทอผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ และเทคนิคการทอผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่ม ที่มีการทอผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติปลอดสารเคมีในทุกขั้นตอน ลักษณะเด่นของผ้าทอมือหนองบัวแดง คือ การสืบสานภูมิปัญญา การทอผ้าของคนในชุมชนและสืบทอดวิธีการทอและลวดลายลงบนผืนผ้าที่ย้อมจากวัสดุจากธรรมชาติ โดยมี นางสาวอนัญญา เค้าโนนกอก ครูช่างศิลปหัตถกรรมประจำปี 2554 ได้รวมกลุ่มชาวบ้านหนองบัวแดง ตั้งเป็นกลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติโดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น สีครามที่มาจากต้นคราม สีเหลืองจากแก่นขนุน สีดำจากผลมะเกลือ สีแดงจากครั่ง และสีม่วงจากเปลือกมังคุด เป็นต้น และ จุดสำคัญในการย่อมผ้าทอมือหนองบัวแดง คือ โคลน ทุกขั้นตอนใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น และมีขั้นตอนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม




ผ้าบาติก ลายโบราณ จ.กระบี่ เริ่มเข้ามาทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้รับอิทธิพลมาจาก มาเลเซีย ซึ่งมาเลเซียเองก็ได้รับอิทธิพลมาจากอินโดนีเซียอีกทอดหนึ่ง คนไทยรู้จักผ้าบาติกในลักษณะของ “ผ้าพันหรือผ้าปาเต๊ะพัน” โดยเรียกตามวิธีนุ่ง คือ พันรอบตัว คำว่า “โสร่ง” ก็มาจากภาษาอินโดนีเซีย เช่นเดียวกัน หมายถึง ผ้านุ่ง คนในท้องถิ่นภาคใต้ เรียกบาติกว่า “ผ้าปาเต๊ะ” หรือ “ผ้าบาเต๊ะ” นายธนพล รักษาวงศ์ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2559 ผู้สืบทอดลวดลายผ้าบาติกเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะของภาคใต้ต่อกันมาหลายชั่วอายุคน จุดเด่นของผ้าบาติกโบราณใช้เทคนิคการพิมพ์ลายด้วยการ สร้างบล็อกโลหะให้เกิดลวดลายต่างๆ โดยการสร้างสรรค์ลวดลายมักได้แรงบันดาลใจจากพืชพรรณธรรมชาติ สถานที่สำคัญและสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยปัจจุบันได้พัฒนางานผ้าบาติกจากเดิมที่เป็นผ้าผืน ให้กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อให้สามารถตอบสนองกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น โดยยังคงการออกแบบลาย และทำบล็อกโลหะด้วยตนเองตามแบบภูมิปัญญาในนามกลุ่ม “มูราบาติก”




กลุ่มอนุรักษ์ผีตาโขน จ.เลย ประเพณีแห่ผีตาโขนจัดเป็นส่วนหนึ่งในงานบุญประเพณีใหญ่ หรือที่เรียกว่า "งานบุญหลวง" หรือ "บุญผะเหวด" ซึ่งตรงกับเดือน 7 มีขึ้นที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และจัดเป็นการละเล่นที่ถือเป็นประเพณีทุกปี เกี่ยวโยงกับงานบุญพระเวสหรือเทศน์มหาชาติประจำปีกับพระธาตุศรีสองรัก กระบวนแห่ผีตาโขนโดยแต่งกายคล้ายผีและปีศาจใส่หน้ากากขนาดใหญ่ ที่เป็นเอกลักษณ์มีลวดลายที่งดงามแตกต่างกันไป นายอภิชาติ คำเกษม ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2556 และเป็นประธานกลุ่มอนุรักษ์ผีตาโขน จังหวัดเลย ได้รักษาประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมของจังหวัดเลยไว้ ด้วยการใช้ความชำนาญในงานเซรามิคพัฒนาหน้ากากผีตาโขนในรูปแบบต่างๆ เช่น โคมไฟ แก้วเซรามิค ทำให้ประเพณีโบราณกลมกลืนไปกับการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว




กลุ่มรุ่งอรุณของเล่นโบราณ จ.กรุงเทพมหานคร “ของเล่นโบราณ” เป็นของเล่นที่เกิดจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษปู่ย่าตายาย สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของท้องถิ่นนั้นๆ เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความสุข ความสนุกสนาน ตลอดจนฝึกพัฒนาการสร้างเสริมลักษณะนิสัยของเด็กจากของเล่นแต่ละชนิด อีกทั้งยังมีส่วนช่วยสานสัมพันธ์กันในกลุ่มเพื่อนๆหรือระหว่างลูกหลาน กับพ่อแม่ปู่ย่าตายายได้เป็นอย่างดี นายทวีทรัพย์ นามขจรโรจน์ ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2560 และผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ของเล่นโบราณ “รุ่งอรุณ” ในเขตทวีวัฒนา จ.กรุงเทพมหานคร ผู้ที่เคยอยู่ในวัยที่เคยสัมผัสภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งอยู่ในของเล่นโบราณหลากหลายชนิดมาก่อน จึงเป็นที่มาให้เกิดการอนุรักษ์งานของเล่นโบราณเอาไว้เพื่อส่งต่อ เรื่องราวให้ลูกหลานได้รู้จักต่อไปในอนาคตก่อนที่จะสูญหายไปจากสังคมไทย

ในโอกาสนี้จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมชื่นชม ให้กำลังใจ และสนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยจากผู้ผลิต บริเวณพื้นที่ SACICT หรือ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ที่งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2561 (Thailand Tourism Festival 2018) ระหว่างวันที่ 17 - 21 มกราคม 2561 ณ สวนลุมพินีสอบถามโทร. 1289 หรือ facebook.com/sacict