happy on December 05, 2016, 07:42:08 PM

ชื่อไทย: ออฟฟิศ คริสต์มาส ปาร์ตี้
วันเข้าฉาย: 15 ธันวาคม ปี 2016
จัดจำหน่าย: บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด

เรื่องย่อ

                    ใน Office Christmas Party ในตอนที่ซีอีโอสาว (เจนนิเฟอร์ อนิสตัน) พยายามจะปิดสาขาของน้องชายผู้ปาร์ตี้หนักของเธอ เขา (ที.เจ. มิลเลอร์) และหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของเขา (เจสัน เบทแมน) จะต้องระดมทีมเพื่อนร่วมงานของพวกเขามาจัดงานปาร์ตี้คริสต์มาสสุดเวอร์วังอลังการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับว่าที่ลูกค้าคนสำคัญของพวกเขาและปิดดีลการขายที่จะทำให้พวกเขาไม่ต้องตกงาน คอเมดีเรื่องล่าสุดจากผู้กำกับวิล สเป็คและจอช กอร์ดอน  (Blades of Glory) ร่วมแสดงโดยโอลิเวีย มันน์, จิลเลียน เบล, วาเนสซา เบเยอร์, คอร์ทนีย์ บี. แวนซ์, ร็อบ คอร์ดดราย, แซม ริชาร์ดสัน, เจมี ชุง, แรนดัลล์ ปาร์คและเคท แม็คคินนอนในภาพยนตร์สุดฮาประจำเทศกาลปีใหม่

                    ดรีมเวิร์คส์ พิคเจอร์สและรีไลแอนซ์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยบลูกราส ฟิล์มส์/เอนเตอร์เทนเมนต์ 30 ภาพยนตร์โดยสเป็คและกอร์ดอน OFFICE CHRISTMAS PARTY อำนวยการสร้างโดยสก็อต สตูเบอร์, พี.จี.เอ., กายมอน คาซาดี้, พี.จี.เอ. และแดเนียล แร็พพาพอร์ท, พี.จี.เอ. เรื่องราวโดยจอน ลูคัส และสก็อต มัวร์ ร่วมด้วยทิโมธี ดาวลิง บทภาพยนตร์โดยจัสติน มาเลนและลอรา โซลอน ร่วมด้วยแดน เมเซอร์ กำกับโดยวิล สเป็คและจอช กอร์ดอน

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=5CjwE8lo0Zk" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=5CjwE8lo0Zk</a>

ฮาป่วนรับธันวาคม ปิดออฟฟิศ แล้วมาเปิดปาร์ตี้ กับ OFFICE CHRISTMAS PARTY

ธันวาคม นี้ เตรียมปิดออฟฟิศ แล้วมาปาร์ตี้กันสุดเหวี่ยง กับเหล่านักแสดงสายฮาระดับท็อปของอเมริกา ใน OFFICE CHRISTMAS PARTY ออฟฟิศ คริสต์มาส ปาร์ตี้ ความฮาสุดป่วนบังเกิดขึ้น เมื่อซีอีโอของบริษัท (เจนนิเฟอร์ อนิสตัน) พยายามจะปิดสาขาของน้องชายซึ่งชอบปาร์ตี้เป็นหลัก (ที.เจ. มิลเลอร์) ดังนั้น เขาและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (เจสัน เบทแมน) จึงชวนเพื่อนร่วมงานมาจัดปาร์ตี้ฉลองคริสต์มาส เพื่อสร้างความประทับใจให้ว่าที่ลูกค้าคนสำคัญและพยายามปิดดีลการขาย เพื่อรักษาตำแหน่งหน้าที่การงานไม่ให้หลุดลอยไป

พบกับคอเมดี้สุดฮา OFFICE CHRISTMAS PARTY ออฟฟิศ คริสต์มาส ปาร์ตี้ กำกับโดย จอช กอร์ดอน และ วิล สเป็ค ร่วมด้วยนักแสดงอย่าง เคท แม็คคินนอน, โอลิเวีย มันน์, จิลเลียน เบล และคอร์ทนีย์ บ. แวนซ์ 15 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์




เกี่ยวกับงานสร้าง

มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดในรอบปี

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว งานปาร์ตี้คริสต์มาสของออฟฟิศเป็นธรรมเนียมที่ทุกคนเฝ้ารอคอย มันเป็นค่ำคืนสุดมันส์ของการดื่มเหล้าสังสรรค์ ที่ทำให้เส้นแบ่งระหว่างเพื่อนร่วมงานและเพื่อน เจ้านายและลูกน้องเลือนลางไป

นับตั้งแต่ความตกต่ำที่เกิดจากเหตุการณ์ที่บานปลายของค่ำคืนนั้น ที่บ่อยครั้งนำไปสู่อาการเมาค้างของพนักงานนับไม่ถ้วน การฟ้องร้องกัน และคำขอโทษที่น่าอึดอัดใจนานหลายสัปดาห์ แผนกบุคคลผู้กระตือรือร้นใช้เวลาหลายทศวรรษในความพยายามที่จะคุมบรรดาตัวป่วนในงานปาร์ตี้คริสต์มาสของออฟฟิศให้อยู่หมัด จนกระทั่งการเฉลิมฉลองที่เคยเป็นตำนานนี้ได้พัฒนากลายเป็นงานปาร์ตี้สุภาพชนที่เรียบง่ายสำหรับครอบครัวที่รู้จักกันทุกวันนี้ในรูปแบบของ “งานปาร์ตี้ฉลองวันหยุด”

“งานปาร์ตี้คริสต์มาสของออฟฟิศเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่อลหม่านกว่านี้ มันเหมือนหมาป่าดุร้ายที่คุณจะได้เห็นที่พิพิธภัณฑ์ลา บรี ทาร์ พิทส์ครับ” ผู้อำนวยการสร้างสก็อต สตูเบอร์กล่าว “งานปาร์ตี้ฉลองวันหยุดในปัจจุบันเป็นเหมือนหมาปั๊กไร้บ้าน...มันจะไม่ทำร้ายใครและเล่นกับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ลึกๆ ลงไปแล้ว มันก็ยังมีดีเอ็นเอของหมาป่าซ่อนอยู่ครับ”

“งานปาร์ตี้คริสต์มาสของออฟฟิศไม่ใช่การเฉลิมฉลองทางศาสนา” ที.เจ. มิลเลอร์ ผู้รับบทเคลย์ แวนสโตน ประธานสาขาชิคาโก้บริษัทซีโนเทค กล่าว “มันเป็นการเฉลิมฉลองการปลดปล่อย และการไม่กลัวที่จะบอกเจ้านายคุณว่าคุณคิดยังไงโดยไม่โดนไล่ออกน่ะครับ”

ผู้กำกับวิล สเป็คและจอช กอร์ดอน ถูกดึงดูดเข้าหาคอนเซ็ปต์ของค่ำคืนมหัศจรรย์ ที่กำแพงทางหน้าที่การงานและสังคมถูกโค่นลง

“มันเป็นการทำความฝันของคนทั่วไปให้เป็นจริง ในการทำให้ค่ำคืนหนึ่งในแต่ละปี เป็นคืนที่คนใช้ชีวิตกันอย่างตรงไปตรงมา บางที อาจจะอาศัยความช่วยเหลือจากยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยน่ะครับ” สเป็คกล่าว

“งานปาร์ตี้คริสต์มาสของออฟฟิศทำลายระบบชนชั้นได้จริงๆ ครับ” กอร์ดอนกล่าว “ทันใดนั้น ทุกคนตั้งแต่ระดับบนจนถึงระดับล่างก็จะมีความเท่าเทียมกัน ซึ่งมันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความตลกขบขันครับ”

ผู้อำนวยการสร้างแดเนียล แร็พพาพอร์ทกล่าวเสริมว่า “ที่งานปาร์ตี้คริสต์มาส ความเสี่ยงสูงลิบลิ่วครับ มันเป็นที่ที่ความหวังและความฝันถูกสร้างขึ้น แต่มันก็เป็นที่ที่สิ่งเหล่านั้นพังโค่นลงมาเหมือนกัน คุณจะอยู่ห่างจากการทำลายทั้งชีวิตของคุณเพียงแค่การดื่มแก้วเดียวเท่านั้นล่ะครับ”

ไอเดียเริ่มแรกสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สมาชิกครอบครัวคนหนึ่งเล่าให้ผู้อำนวยการสร้างกายมอน คาซาดี้ฟังเกี่ยวกับงานปาร์ตี้คริสต์มาสสุดเสื่อมที่เธอเพิ่งไปเข้าร่วมมา

“ระหว่างที่เธอเล่าให้เราฟังถึงสเกลและความสนุกสนานของมัน ผมก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าปาร์ตี้แบบนั้นน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของคอเมดีเรท R เยี่ยมๆ ได้” คาซาดี้กล่าว “มันมีความตื่นเต้นลุ้นระทึกของการได้เห็นความโกลาหลแบบนั้นภายในหนัง มันอาจจะบานปลายเลยเถิดไปแต่คุณก็ไม่ต้องกังวลถึงผลลัพธ์ที่ตามมาหรือไม่ต้องมาทำความสะอาดในตอนเช้าน่ะครับ”

แม้ว่าเรื่องราวนี้จะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่เกินจริง แต่ทีมผู้สร้างก็หาวิธีนำเสนอเรื่องราวนี้ในแบบที่สมจริง

“เราอยากเห็นกลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์แบบมีปัญหาที่สุด” คาซาดี้อธิบาย “แล้วได้เห็นกำแพงพังลงมา มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกใหม่ และมีคนสานสายสัมพันธ์กันในชั่วข้ามคืน กุญแจสำคัญคือการรักษาความสนุกสนานของการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสแบบไม่บันยะบันยังเอาไว้เป็นอันดับแรก พร้อมกับการสอดแทรกเรื่องราวของผู้คนในออฟฟิศเข้าไปน่ะครับ”

“งานปาร์ตี้เป็นดาวเด่นของเรื่อง” สเป็คกล่าว “แต่นั่นก็ทำให้ตัวละครของเราสำคัญยิ่งขึ้น พวกเขาจะต้องเป็นคนที่สมจริงและเข้าถึงได้ ที่คุณอยากจะใช้เวลาในค่ำคืนสุดป่วนด้วย งานปาร์ตี้จะไม่สนุกหรอกครับถ้าคุณไม่รู้จักใครซักคน”

“เราอยากให้ตัวละครแต่ละตัวเริ่มต้นขึ้นด้วยความสมจริง” กอร์ดอนกล่าว “ดังนั้น เมื่อสิ่งต่างๆ เริ่มหลุดโลกมากขึ้นเรื่อยๆ คุณก็จะยังสนใจและอยากติดตามเรื่องราวของพวกเขาครับ”





งานปาร์ตี้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดขึ้น

ในออฟฟิศของซีโนเทค สาขาชิคาโก้ กำลังใจของพนักงานกำลังตกต่ำถึงขีดสุดหลังจากที่ซีอีโอรักษาการณ์ผู้จริงจังของพวกเขา แครอล แวนสโตน (เจนนิเฟอร์ อนิสตัน) ได้ประกาศแผนการที่จะยุบสาขาที่มีผลประกอบการไม่เข้าท่าก่อนหน้าวันคริสต์มาส ด้วยความตระหนักว่าเพียงแค่ปาร์ตี้ฉลองวันปีใหม่คงไม่เพียงพอที่จะปลุกปลอบจิตใจของพนักงานของเขาได้ ประธานสาขานิสัยพิลึก (และน้องชายของแครอล) เคลย์ แวนสโตน (ที.เจ. มิลเลอร์) ก็ได้ขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของเขา จอช (เจสัน เบทแมน) และหัวหน้าวิศวกรระบบ เทรซีย์ (โอลิเวีย มันน์ป ในการเนรมิตปาฏิหาริย์วันคริสต์มาสของพวกเขา ด้วยการจัดงานปาร์ตี้คริสต์มาสสุดเวอร์วังที่ลืมไม่ลง เพื่อเอาชนะใจว่าที่ลูกค้ากระเป๋าหนัก (คอร์ทนีย์ บี. แวนซ์) และรักษางานของทุกคนเอาไว้ให้ได้

ในตอนที่ทีมงานรวบรวมทีมนักแสดงชั้นแนวหน้าเพื่อรับบทพนักงานออฟฟิศผู้ไม่พอใจ เจสัน เบทแมนเป็นตัวเลือกแรกในบทจอช ผู้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ประจำออฟฟิศ

“เจสันถนัดในการเป็นศูนย์กลางของความโกลาหลวุ่นวาย และเขาก็สามารถโต้ตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ มันเป็นทักษะที่นักแสดงน้อยคนนักที่จะมีครับ” สเป็คกล่าว

“เจสันมีสมดุลที่ยอดเยี่ยมของการแสดงคอเมดีแบบสมจริง แต่ก็ไม่กลัวที่จะดูซื่อบื้อน่ะครับ” กอร์ดอนกล่าวเสริม

เบทแมนและอนิสตันเป็นตัวเลือกแรกของสเป็คและกอร์ดอนสำหรับบทของพวกเขา หลังจากที่เคยร่วมงานกับทั้งคู่มาก่อนในภาพยนตร์ปี 2010 เรื่อง The Switch และ Office Christmas Party ก็เป็นการร่วมงานกันครั้งที่ห้าของอนิสตันและเบทแมนและเป็นครั้งที่สองกับสเป็คและกอร์ดอน

“เจนและเจสันเป็นเพื่อนรักกันมากๆ” สตูเบอร์กล่าว “พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งในและนอกจอ ซึ่งส่งผลให้เกิดเคมีที่ดีเยี่ยม สไตล์การแสดงที่ลื่นไหลและผ่อนคลายของพวกเขาเป็นตัวช่วยกำหนดโทนให้กับทีมนักแสดงทุกคนจริงๆ ครับ”

“ถึงตอนนี้ พวกเราทุกคนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันค่ะ” อนิสตันกล่าว “มันมีความเข้าใจกันแบบทางลัดและความมั่นใจว่าเราทุกคนจะทำงานร่วมกันยังไง ถ้าคุณมีความไว้วางใจนั้น คุณก็จะบอกกันและกันได้ทันทีว่าอะไรเวิร์คหรืออะไรไม่เวิร์คค่ะ”

“เราได้สร้างตัวละครนี้สำหรับเจนนิเฟอร์เพราะเธอไม่กลัวอะไรเลยเมื่อเป็นเรื่องของการสวมบทเป็นตัวละครที่น่ารังเกียจในคอเมดีน่ะครับ” กอร์ดอนกล่าว “สำหรับเธอ ยิ่งบทท้าทายมากแค่ไหน ก็ยิ่งดีเท่านั้นครับ”

แทนที่จะแสดงบทแครอลออกมาเป็นผู้ร้าย อนิสตันกลับสร้างกรอบตัวละครของเธอในแง่ของความสัมพันธ์ที่เธอมีกับเคลย์ในสมัยเด็ก “ฉันมองแครอลว่าเป็นเหมือนจีนนี บูเอลเลอร์ภาคผู้ใหญ่ของเคลย์ที่เหมือนกับเฟอร์ริส บูเอลเลอร์น่ะค่ะ” อนิสตันกล่าว “เธอมีความขุ่นเคืองที่เหลือเชื่อกับเขาเพราะเขาเป็นตัวตลกและมีเวลาในการค่อยๆ เติบโต แต่เธออยากจะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนที่ฉลาดที่สุดและมีความสามารถที่สุด น่าเสียดายที่เธอยังไม่ได้พัฒนาแง่มุมที่อ่อนโยน น่ารักของตัวเองขึ้นมาค่ะ”

สำหรับเคลย์ แวนสโตน ผู้กำกับต้องการนักแสดงผู้สามารถสร้างความโกลาหลและความเป็นมืออาชีพอย่างจริงจังได้พอๆ กัน และพวกเขาก็พบคุณสมบัตินี้ในตัวของนักแสดงและนักแสดงตลก ที.เจ. มิลเลอร์
“ที.เจ. เป็นคนแบบที่คุณเดินเข้าไปในบาร์ด้วย แล้วสิบนาทีให้หลัง เขาจะกลายเป็นศูนย์กลางของคนร้อยคนครับ” กอร์ดอนกล่าว “เขามีเสน่ห์พอๆ กับตัวละครของเขาเลย”

“ที.เจ.ใส่เอาความอบอุ่นและความเป็นมนุษย์อย่างเหลือเชื่อเข้าไปในแบบที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน” สเป็คกล่าว

“ผมสร้างตัวละครของผมจากอดีตเจ้านายจริงๆ คนหนึ่งที่เชื่อว่าคุณสามารถสนุกไปพร้อมๆ กับการทำงานให้เสร็จได้” มิลเลอร์กล่าว “เธอไม่เคยมองว่าการสนุกเป็นอุปสรรคต่อประสิทธิผลการทำงานเลย และนั่นก็เป็นหลักการที่ผมใช้กับกลยุทธการจัดการของเคลย์ครับ”

“การร่วมงานกับเจสัน เบทแมนและเจนนิเฟร์ อนิสตันเป็นเรื่องน่ากลัวครับ” มิลเลอร์สารภาพ “แต่พวกเขาก็ช่างอบอุ่นและเป็นมืออาชีพ แม้ว่าผมจะได้ดูพวกเขามาตลอดชีวิต แต่พวกเขาก็ให้การสนับสนุนนักแสดงที่ประสบการณ์น้อยกว่าอย่างผมอย่างเหลือเชื่อเลยครับ”

สำหรับบทหัวหน้าวิศวกรระบบ เทรซีย์ โอลิเวีย มันน์พิสูจน์ตัวเองว่ามีคุณสมบัติมากพอสำหรับบทนี้

“โอลิเวียมีจังหวะการแสดงตลกที่ยอดเยี่ยม เธอรู้เสมอว่าจะใส่มุขตรงไหนและจะชงมันขึ้นมายังไงให้สมบูรณ์แบบน่ะครับ” กอร์ดอนกล่าว “แต่เราก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าเธอจะชำนาญเรื่องเทคนิคพอๆ กับตัวละครของเธอน่ะครับ”

“ตอนที่เราส่งบทไปให้เธอสองสามหน้า เธอเหมือนกับปลดปล่อยมันทั้งหมดและอ่านมันก่อนหน้าที่เราจะพบกันครั้งแรกครับ” สเป็คเล่า

“ตอนที่ฉันอ่านบท ฉันก็ชื่นชมที่เทรซีย์เป็นส่วนสำคัญของทีม” มันน์กล่าว “บทผู้หญิงจำนวนมากในคอเมดีเป็นพวกขาวีนหรือทำได้แค่เพียงไล่ตื๊อพระเอกหรือบอกเขาว่าเขาพลาดอะไรไป ฉันชอบที่เทรซีย์มีความสามารถจริงๆ และเป็นคนแบบที่พยายามมองไปข้างหน้าและนำบริษัทไปสู่อนาคตน่ะค่ะ”

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เทรซีย์ได้ออกแบบรูปแบบไวไฟใหม่ที่สามารถกอบกู้บริษัทได้ หากพวกเขาสามารถคว้าตัวลูกค้าบิ๊กบึ้มอย่างวอลเตอร์ เดวิส (คอร์ทนีย์ บี. แวนซ์) เอาไว้ได้

“วอลเตอร์อยู่ในจุดที่เขารู้สึกว่าทุกบริษัทเหมือนๆ กันไปหมด” แวนซ์กล่าว “วอลเตอร์อยากจะทำธุรกิจกับบริษัทที่แคร์พนักงานของตัวเอง และตัวละครของที.เจ.ก็จับจุดได้ เขาก็เลยเชิญวอลเตอร์มาร่วมงานปาร์ตี้ยิ่งใหญ่สุดอลังที่ออฟฟิศเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขามีวัฒนธรรมการทำงานที่ดีน่ะครับ”

“คอร์ทนีย์ แวนซ์เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับบทวอลเตอร์” สเป็คกล่าว “เราต้องการคนที่จะให้ความรู้สึกน่ายำเกรงและไม่เผยความรู้สึก ตัวละครแต่ละตัวเลยต้องคิดหาสิ่งที่จะเปิดล็อคเขาให้ได้ครับ”

“ในตอนที่คอร์ทนีย์ปล่อยตัวเองสบายๆ ในที่สุด มันก็กลายเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงและสุดโต่งครับ” กอร์ดอนกล่าว “มันน่าทึ่งว่าเขาเก๋าเกมขนาดไหนและเขาก็เผยถึงความน่าขันของตัวละครตัวนี้ออกมาจริงๆ”

ในตอนที่เคลย์, จอชและเทรซีย์วางแผนจัดงานปาร์ตี้คริสต์มาส พวกเขาก็พบกับเสียงต่อต้านจากแมรี (เคท แม็คคินนอน) หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลผู้หมกมุ่นกับกฎระเบียบในทันที

“แมรีจริงจังกับงานมากๆ และอยากให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยและสบายใจค่ะ” แม็คคินนอนกล่าว “สิ่งที่น่าขันคือกฎหลายอย่างของเธอทำให้คนรู้สึกอึดอัดค่ะ”

“ตอนที่เราพบแมรีครั้งแรก เธอค่อนข้างจะเจ้าระเบียบ” แม็คคินนอนอธิบาย “แต่พอเวลาในค่ำคืนนั้นผ่านไปเรื่อยๆ เธอก็ได้รับการยุยงจากเพื่อนร่วมงานและทำอะไรที่น่าสนใจหลายๆ อย่าง มีตอนหนึ่ง ฉันได้เข้าฉากกับคอร์ทนีย์ บี. แวนซ์ด้วย ฉันเพิ่งจะได้ดูเขามาใน The People v. O.J. Simpson และฉันก็คิดว่าเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เก่งที่สุดในรุ่นของเรา ฉันก็เลยรู้สึกแปลกมากๆ ที่ได้ร้องเพลงโฟล์คซองของเยอรมันที่น่าขันคู่กับเขา ระหว่างสวมชุดเดรสตลกๆ ที่มีคอเสื้อปลอมติดอยู่น่ะค่ะ”

สเป็คและกอร์ดอนเป็นแฟนผลงานของแม็คคินนอนจาก Saturday Night Live มานานแล้วก่อนที่เธอจะได้รับเลือกให้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ “ในการแสดงสเก็ตช์ของเธอใน SNL เคททำให้ตัวละครแต่ละตัวมีเอกลักษณ์เหลือเกิน พวกเขาทั้งมีมิติและน่าขันมากๆ เราก็เลยรู้ว่าเราจะปล่อยให้เธอโลดแล่นไปกับไอเดียนี้ในแบบของตัวเองได้อย่างงดงามครับ” กอร์ดอนกล่าว

“ครั้งแรกที่เราได้เห็นแมรี เธอสวมเสื้อสเว็ตเตอร์วันหยุดแบบที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนา” สเป็คกล่าว “ด้วยความที่มันไม่ได้มีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง เราก็เลยใช้เวลาหลายเดือนในการออกแบบและใช้เวลาถักมันขึ้นอีกหลายวัน แต่มันก็จะบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ครับ”

“เราพูดกันถึงเรื่องภูมิหลังของแมรีและได้ข้อสรุปว่าเธออาจจะเป็นความเยอรมัน ด้วยความรักในกฎระเบียบของเธอ” สเป็คเล่า “เราหาเพลงโฟล์คซองของเยอรมันให้เธอร้อง แล้วเธอก็ตัดสินใจว่ามันเป็นเพลงเกี่ยวกับลูกเป็ด โดยไม่ได้แปลมันออกมา แต่เธอก็ยอมรับมันครับ”

“เคทคิดไอเดียที่ว่าแมรีมีนกแก้วขึ้นมา และการเลี้ยงดูนกพวกนั้นให้มีชีวิตเป็นสิ่งที่เป็นแรงจูงใจในการทำงานของเธอครับ” กอร์ดอนกล่าว

ผู้ที่อยู่ตรงกันข้ามกับแมรี ผู้พิทักษ์กฎ คือเจเรมี (ร็อบ คอร์ดดราย) ชายผู้ตรมทุกข์ ผู้เริ่มต้นการทำงานที่ซีโนเทคเมื่อหลายปีก่อนในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์

“เจเรมีเป็นคนที่ตรมทุกข์อย่างเหลือเชื่อเพราะเขาเป็นหนึ่งในพนักงานไม่กี่คนในสภาพแวดล้อมออฟฟิศที่เป็นพิษอย่างเหลือเชื่อนี้ ที่แคร์สถานการณ์ของบริษัทจริงๆ” คอร์ดดรายกล่าว “เขาอยู่ที่นั่นมานานและเห็นอะไรมากเกินไปแล้ว เขาก็เลยรู้สึกอยากปกป้องมันและอยากต่อสู้นิดๆ เพียงแต่เขาลืมไปแล้วว่าเขาโกรธเรื่องอะไรน่ะครับ”

วาเนสซา เบเยอร์ เพื่อนร่วมแสดงใน SNL ของแม็คคินนอน รับบท อัลลิสัน ผู้ช่วยนิสัยดีแต่ปากเสียของเคลย์ ผู้พยายามจะรักษาสมดุลชีวิตของเคลย์ที่ยุ่งเหยิง พร้อมๆ กับการรักษาสิทธิในการเลี้ยงดูลูกๆ ของเธอกับอดีตสามีผู้ไร้ความรับผิดชอบของเธอ

“จากบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่ดุเดือด เรารู้ว่าอดีตสามีของอัลลิสันไม่ใช่คนดีซักเท่าไหร่” เบเยอร์อธิบาย “เธอก็เลยพยายามเดินหน้าต่อกับชีวิตและคิดว่าเธออาจจะพบผู้ชายที่ใช่เข้าแล้ว ซึ่งเขาก็คือเฟร็ด (แรนดัลล์ ปาร์ค) แต่เขากลับกลายเป็นฝันร้าย แม้ว่าเธอจะเจอกับความผิดหวังต่างๆ มากมาย อัลลิสันก็ยังคงเป็นคนที่ค่อนข้างจะมองโลกในแง่ดีค่ะ”

แรนดัลล์ ปาร์ค (Fresh Off the Boat) รับบท เฟร็ด จากแผนกบัญชี ผู้ที่อัลลิสันหลงชอบหัวปักหัวปำ

“เฟร็ดและอัลลิสันได้คุยกันที่งานปาร์ตี้ และความพึงพอใจระหว่างกันของพวกเขาก็ชัดเจน” ปาร์คบอก “แล้ว...ผมไม่อยากจะตัดสินเฟร็ดหรอกนะครับ แต่เขามีอะไรบางอย่าง...แล้วตอนที่เขาเปิดใจให้อัลลิสัน มันก็เหมือนกับการส่งสัญญาณเตือนให้กับเธอครับ”

แม้ว่าเธอจะต้องเจอกับตารางการทำงานที่แน่นเอี้ยดจากการถ่ายทำ SNL ในนิวยอร์กพร้อมกับที่เธอต้องถ่ายทำ Office Christmas Party ในแอตแลนตา แต่เบเยอร์ก็เรียนรู้ที่จะดื่มด่ำกับความสุขที่เรียบง่ายของชีวิตในกองถ่าย “มันมีโถเยลลี่ตั้งอยู่บนโต๊ะของฉัน ซึ่งเราก็สนุกกับการแอบกินมันระหว่างเทค ภายหลังเราถึงได้รู้ว่าทีมงานได้พ่นสเปรย์อะไรซักอย่างบนนั้น หวังว่าเราทุกคนจะรอดชีวิตนะคะ”
แซม ริชาร์ดสันจาก Veep รับบท โจเอล ที่ปรึกษาทางกฎหมายผู้อ่อนโยนแต่ขี้หงุดหงิดของซีโนเทค ผู้มีความใฝ่ฝันลับๆ ที่อยากจะเป็นดีเจ

“โจเอลกลัวการถูกโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ” ริชาร์ดสันกล่าว “ตอนที่เคลย์ต้องการดีเจแบบเร่งด่วน โจเอลก็มองว่ามันเป็นโอกาสในการได้เจิดจรัส และปาร์ตี้ก็บานปลายออกไปในทันทีครับ”

เจมี ชุง รับบท เมแกน ผู้ประสานงานฝ่ายโซเชียล มีเดีย ผู้ถูกมองข้าม ผู้พบเหตุผลที่จะรักงานของตัวเองก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น

“ตอนที่เราได้พบกับเมแกน เธอกำลังเชิดใส่กฎฝ่ายบุคคลของแมรีด้วยการสวมเสื้อคว้านลึกครับ มันไม่ใช่การกระตุกหนวดเสือ แต่เธอเลิกแคร์กฎระเบียบพวกนี้แล้วและรู้สึกขาดแรงจูงใจ แต่ในตอนจบปาร์ตี้ เธอกลับผูกพันกับเพื่อนร่วมงานและกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจริงๆ”

คารัน โซนี คนขับแท็กซีผู้ขโมยซีนใน Deadpool รับบท เนท หัวหน้าฝ่ายไอที ผู้ถูกกดขี่ และจ้างโสเภณีสาวให้ปลอมตัวเป็นแฟนสาวของเขา

“พวกคนที่เนททำงานด้วยเป็นพวกที่เลวร้ายที่สุด เขาก็เลยสร้างแฟนสาวปลอมๆ ที่ชื่อเบ็กก้าขึ้นมาเพื่อเป็นกลไกป้องกันตัวน่ะครับ” โซนีกล่าว “แทนที่จะทำให้เบ็กก้าเป็นคนธรรมดา เนทกลับอ้างว่าเธอเป็นนางแบบและนักแสดง พวกเขาไม่เชื่อเขา เขาก็เลยต้องจ้างโสเภณีชั้นสูงที่ชื่อว่าซาวันนาห์ มาสวมบทนี้ครับ”

การมาถึงของซาวันนาห์ (แอ็บบี้ ลี) และแมงดาของเธอ ทรีนา ที่รับบทโดยจิลเลียน เบลจาก 22 Jump Street กลายเป็นเหมือนไม้ขีดที่จุดประกายดินระเบิดให้กับงานปาร์ตี้คริสต์มาสของซีโนเทค

“ตัวละครของฉันเป็นแมงดาตัวแสบที่ค้ายาด้วย” เบลกล่าว “ฉันอิงตัวละครของฉันจากเดร็กเซลจาก True Romance ซึ่งเป็นแมงดาคนโปรดตลอดกาลคนหนึ่งของฉัน มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับวิลและจอชที่จะทำให้เธอน่ากลัวเพื่อให้เธอเป็นภัยคุกคามสำหรับตัวละครตัวอื่นๆ ฉันคิดว่าคงจะสนุกดีที่จะทำให้เธอมีปัญหาเรื่องความวิตกกังวล เพระมันไม่ใช่สิ่งที่เราจะได้เห็นในหนังเกี่ยวกับแมงดาก่อนหน้านี้น่ะค่ะ”

“เดิมทีบทของจิลเลียนถูกเขียนขึ้นให้เป็นผู้ชายครับ” สตูเบอร์อธิบาย “แต่เราชื่นชอบสิ่งที่จิลเลียนนำมาสู่ตัวละครตัวนี้จริงๆ เธอสร้างความแปลกใหม่ที่ทำให้มันกลายเป็นบทในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนครับ”

“นักแสดงตลกทุกคนมีพรสวรรค์มากจนคุณไม่อยากจะจำกัดพวกเขาให้อยู่กับสิ่งที่อยู่ในบทอย่างเคร่งครัดครับ” สตูเบอร์กล่าวต่อ “พวกเขามีสัญชาตญาณที่ยอดเยี่ยม จนเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขามีไอเดียสำหรับมุขตลก เราก็จะให้อิสระกับพวกเขาในการแสดงอีกเทค ซึ่งช่วยให้เรามีวัตถุดิบเยี่ยมๆ ที่จะเล่นด้วยได้ในช่วงโพสต์น่ะครับ”

“นักแสดงของเราเป็นนักแสดงตลกที่เหลือเชื่อ” แร็พพาพอร์ทกล่าว “มันเหมือนกับการผสมผสานวัตถุดิบชั้นเชิศพวกนี้เพื่อปรุงเป็นอาหารที่น่าพึงพอใจจริงๆ น่ะครับ”
« Last Edit: December 05, 2016, 07:47:54 PM by happy »

happy on December 05, 2016, 07:52:04 PM



ตกแต่งทางเดิน – การสร้างดินแดนมหัศจรรย์ในฤดูหนาว

“เรารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเราอยากให้หนังเรื่องนี้เกิดขึ้นในชิคาโก้” กอร์ดอนบอก “หนังโปรดหลายเรื่องของเราถ่ายทำที่นั่น ทั้งหนังคริสต์มาสคลาสสิกหลายเรื่องและหนังช่วงเริ่มแรกของจอห์น ฮิวจ์ด้วยครับ”

“เราต้องการจะนำความคิดอ่านที่คลาสสิกแบบนั้นมาสู่หนังเรื่องนี้ ที่แม้มันจะเป็นเรื่องใหม่ แต่ก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยและอบอุ่น” สเป็คกล่าวเสริม “เราอยากจะนำเสนอชิคาโก้แบบในหนังเรื่อง Planes, Trains and Automobiles Chicago ที่เราโตมากับมันครับ”

การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 2 เมษายน ปี 2015 ที่อาคารเฟเดอรัล พลาซาในชิคาโก้ ฟ้าฝนเป็นใจให้กับทีมงานในวันนั้น เพราะฉากนั้นเป็นฉากที่จอช ตัวละครของเบทแมนจะต้องเดินผ่านคณะนักร้องเพลงคริสต์มาสในตอนที่หิมะตก ด้วยทีมงานสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ที่คอยเตรียมงานเพื่อสร้างหิมะปลอม ท้องฟ้ากลับเปิดกว้างและหิมะช่วงปลายฤดูก็โปรยปรายลงมาจริงๆ

“ในช่วงสองสามวันหลังจากนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เราถ่ายทำข้างนอก เราก็จะเจอกับหิมะครับ” กอร์ดอนเล่า “มันเหลือเชื่อทีเดียวล่ะ”

ในช่วงปลายเรื่อง เคลย์ ที่รับบทโดยมิลเลอร์ ได้เดิมข้ามสะพานสเตท เซนต์ และบอกจอชว่าเขาไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าเยอะแยะในฤดูหนาวเพราะน้ำหนักตัวเขาเพิ่มขึ้นมา 30 ปอนด์ เพื่อเป็น “ฉนวนความร้อน” ตามความเป็นจริง มิลเลอร์ได้สวมเสื้อผ้าหลายชั้นด้านในด้วยอากาศที่หนาวลงอย่างฉับพลันและคาดไม่ถึงในชิคาโก้ ทำให้อุณหภูมิลดต่ำถึงระดับลบยี่สิบองศา หิมะและลมตามธรรมชาติทำให้ฉากนี้กลายเป็นเรื่องจริงเหลือเกินสำหรับนักแสดง

หลังจากการถ่ายทำในชิคาโก้ช่วงเริ่มแรกสิ้นสุดลง ทีมงานก็ย้ายไปจอร์เจีย ที่ซึ่งเบทแมน, มันน์และมิลเลอร์ต้องต้อนกวางเรนเดียร์เข้าไปในลิฟท์ขนของภายในส่วนโหลดของของอาคารเอที แอนด์ ทีในกลางเมืองแอตแลนตา

“มันเป็นเรื่องยากที่จะถ่ายทำกวางเรนเดียร์ในช่วงกลางฤดูร้อน ที่พวกมันกำลังสลัดขนและเขาน่ะครับ” กอร์ดอนเล่า “จริงๆ แล้ว เราจะต้องสร้างเขากวางของเราขึ้นมาติดบนหัวกวางแต่ละตัวด้วย เราต้องทุ่มเทกับพวกมันมาก แต่พวกมันก็คุ้มค่าจริงๆ ครับ”

ฉากภายในถูกถ่ายทำที่แอตแลนตา ฟิล์ม สตูดิโอในเมืองฮิราม รัฐจอร์เจีย ที่ซึ่งผู้ออกแบบงานสร้างแอนดรูว์ ลอว์ส ได้สร้างฉากออฟฟิศหลักขึ้นมา จากเค้าโครงแบบดีไซน์ของสถาปนิกชาวเยอรมัน/อเมริกัน ลุดวิก ไมส์ แวน เดอ โรห์

สตูเบอร์ตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับลอว์สและทีมงานของเขาหลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยร่วมงานกันมาแล้วในภาพยนตร์ปี 2006 เรื่อง The Break-Up “เหมือนกับ Office Christmas Party เรื่องราวส่วนใหญ่ใน The Break-Up ก็เกิดขึ้นในโลเกชันเดียวครับ” สตูเบอร์เล่า “แอนดรูว์มีพรสวรรค์เป็นพิเศษในการจัดหาสถานที่ที่มีซอกหลืบเล็กๆ น้อยๆ ตามที่เราต้องการ ซึ่งก็ทำให้ฉากนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกของการเป็นออฟฟิศที่ถูกล้อมรอบด้วยผนังสี่เหลี่ยม ผมรู้สึกพอใจจริงๆ ที่ได้ทีมงานชุดนี้กลับมาร่วมงานด้วย เพราะทุกแง่มุมของสิ่งที่พวกเขาสร้างเป็นเกรด A+ ครับ”

ลอว์สใช้แบบดีไซน์ในการสร้างอาคารออฟฟิศที่ดูเก่าแก่อย่างน่าเชื่อ ที่ซึ่งเหตุการณ์ส่วนใหญ่ในเรื่องราวจะเกิดขึ้นได้ ลอว์และทีมงานของเขาได้แรงบันดาลใจจากอาคารโดมิเนียน เซ็นเตอร์ของไมส์ แวน เดอ โรห์ในโตรอนโตเป็นพิเศษ “ลุคของอาคารนั้นเป็นตัวจุดประกายให้กับพวกเขาในแง่ของบริษัทแบบที่พวกเขาอยากจะเป็นและรูปแบบอาคารที่พวกเขาอยากจะอยู่น่ะครับ” ลอว์สกล่าว

“เราพิจารณาการถ่ายทำในอาคารบางแห่งของไมส์ แวน เดอ โรห์จริงๆ แต่การทำอะไรหลายอย่างที่เราวางแผนไว้คงจะเปลืองงบน่าดู” แร็พพาพอร์ทเล่า “บางครั้ง วิธีการถ่ายทำที่ดีที่สุดคือการสร้างมันขึ้นมาครับ”

เป็นเรื่องเหมาะสมที่ภายนอกของออฟฟิศซีโนเทคจะถูกถ่ายทำในชิคาโก้ ที่อาคารเฟเดอรัล ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบอีกชิ้นหนึ่งของไมส์ แวน เดอ โรห์

ล็อบบี้ของอาคารเฟเดอรัล จนถึงบริเวณลิฟท์ ปรากฏอยู่ในหน้าจอ ซึ่งมันเป็นจุดที่จะถูกผสมผสานด้วยฉากจากสเตจที่มีขนาดใหญ่กว่าในแอตแลนตา

ลอว์สและทีมงานของเขาได้สร้างพื้นที่ออฟฟิศขนาด 30,000 ตารางฟุตขึ้นมาภายในสองชั้น ที่ครอบคลุมซาวน์สเตจสองแห่ง (ทมงานได้รื้อถอนกำแพงระหว่างสเตจทั้งสองออกเพื่อสร้างฉากออฟฟิศ) โดยมีเอเทรียมสองชั้นตรงกลาง และออฟฟิศรายล้อมมันทั้งสามฝั่ง พร้อมด้วยบันไดที่โดดเด่น

“มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงแอ็กชันที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เราจำเป็นจะต้องใช้พื้นที่กว้างขวางครับ” ลอว์สกล่าว

“ฉากนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการถ่ายทำหนังด้วยเลนส์อนามอร์ฟิคครับ” กอร์ดอนกล่าว “ผมคิดว่าในตอนที่ความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้นในหนัง การถ่ายทำบนสเตจจะช่วยทำให้ภาพที่ออกมามีความแวววาวมากขึ้น ฉากนี้จะต้องใหญ่พอที่จะรองรับจินตนาการสุดบรรเจิดของเคลย์ได้ ซึ่งในกรณีนี้หมายถึงมันจะต้องใหญ่พอให้พระเยซูขี่ม้าขาวผ่านออฟฟิศระหว่างที่ปาร์ตี้กำลังดำเนินไปอย่างสุดเหวี่ยงได้น่ะครับ”

ฉากนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยแบ็คดร็อปความยาว 250 ฟุตที่ฉายภาพของย่านเนียร์ นอร์ธในชิคาโก้ โดยเฉพาะบริเวณรอบถนนสเตทและวาบัช

ด้วยความที่ฉากนี้มีพื้นที่กว้างขวางและมีหน้าต่างอยู่ทั่วไปหมด เราก็เลยไม่อยากใช้กรีนสกรีนครับ” สตูเบอร์กล่าว

“ด้วยแบ็คดร็อปที่ฉายภาพชิคาโก้ นักแสดงก็ไม่จำเป็นต้องจินตนาการว่าตัวเองกำลังอยู่ในปาร์ตี้ตอนกลางคืน เพราะคุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณอยู่ที่นั่นจริงๆ” สเป็คเล่า “ถ้าเราลักไก่ด้วยการใช้วิชวล เอฟเฟ็กต์ ผมคิดว่ามันคงจะไม่ให้ความรู้สึกสมจริงแบบนี้หรอกครับ”

ฉากนี้มีขนาดใหญ่และสะดวกสบายพอที่ทีมงานหลายคนจะนอนตามโซฟาต่างๆ ระหว่างช่วงพักรับประทานอาหารเที่ยง หรือแม้กระทั่งนักแสดงก็ยังพบพื้นที่พิเศษของตัวเองสำหรับเวลาว่างของพวกเขาอีกด้วย

“มันน่าทึ่งมากที่มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นออฟฟิศจริงๆ ได้อย่างรวดเร็ว” กอร์ดอนเล่า “ทุกคนเริ่มมีที่ทางของตัวเอง ที.เจ. ใช้เวลาขลุกอยู่ในออฟฟิศและห้องน้ำของเคลย์ แม้ว่ามันจะใช้งานไม่ได้ก็ตามครับ”

หลังจากที่เธอสำรวจพื้นที่สเตจครั้งแรก เจนนิเฟอร์ อนิสตันก็ประทับใจกับสเกลและรายละเอียดของมัน “มันดูสมจริงเหลือเกิน ฉันไม่ได้อยู่ในฉากแบบนี้มานานแล้วค่ะ”

“ผมรู้สึกดีที่ได้ยินเสียงตอบรับแบบนี้จากนักแสดงเพราะตอนที่พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้พวกเขาทุ่มเทได้มากกว่า” สเป็คกล่าว “เมื่อทุกคนเคยชินกับมัน กระบวนการนี้ก็จะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากๆ ครับ”

“ตอนที่เราปิดกล้อง การโบกมือลาออฟฟิศนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้าทีเดียวครับ” กอร์ดอนเล่า “เราใช้เวลาหลายวันมากๆ ในสถานที่ที่วิเศษสุดแห่งนี้ จนมันเริ่มจะให้ความรู้สึกเหมือนบ้านจริงๆ เลยครับ”