เรื่องย่อ : บุพเพสันนิวาส

“ พี่หน่อง-อรุโณชา” เป็นปลื้ม จับ “โป๊ป-เบลล่า” ลงละครพีเรียดย้อนยุค ใน “บุพเพสันนิวาส”





          ถือฤกษ์ดีกันตั้งแต่ต้นปีกับผู้จัดยิ้มหวานสุดน่ารัก "พี่หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธ์" บอสใหญ่แห่งค่าย บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ลั่นฆ้องเปิดกล้องละครใหม่แห่งปี กับ "บุพเพสันนิวาส" ที่งานนี้ ผู้จัดคนเก่งของเราก็ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว คว้าเอาสองพระนางที่ดูท่าว่าเคมีลงตัวกันมากๆอย่าง "โป๊ป ธนวรรธน์" รับบทโดย พ่อเดช มาประกบคู่กับนางเอกหน้าหวานอย่าง เบลล่า ราณี กับบท "แม่การะเกด" สาวยุคปัจจุบันที่หลงเข้าไปในยุคแผ่นดินของสมเด็จพระนารายฯ นอกจากนี้ยังได้นักแสดงมากฝีมือร่วมทัพย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็น "พี่แหม่ม-จินตหรา , ปั้นจั่น-ปรมะ , ปราง-กัญญ์ณรัณ , หลุยส์–สก๊อต , นุ่น-รมิดา , ซูซี่-สุริษา , เหมียว-ชไมพร , แอ๊ว-อำภา" ที่แต่งตัวย้อนยุคจัดเต็มร่วมบวงสรวงกันอย่างคับคั่งไปเมื่อเช้าวันศุกร์ ที่ 22 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา

          เรื่องราวของ "บุพเพสันนิวาส" แม้ชาติภพก็มิอาจกั้นบุพเพสันนิวาสแห่งรักได้ เมื่อ เกศสุรางค์หญิงสาวธรรมดาที่พรหมลิขิตหรือว่าเพราะกรรมบันดาล ส่งเธอกลับไปยังอดีตอันแสนไกลถึงยุคพระนารายณ์มหาราช สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ร่างเธอได้มาอยู่กับหญิงสาวที่ใครๆนิยมชมชอบนักเพราะการะเกด นั้นถึงแม้จะเป็นหญิงงาม แต่น้ำใจช่างน่าชังนัก เธอจึงไม่เป็นที่ปรารถนาของใครๆ รวมทั้ง หมื่นสุนทรเทวา คู่หมายของเธอเอง เมื่อเธอมาอยู่ในร่างใหม่ ที่เจ้าของวิญญาณเก่าฝากฝังให้เธอทำดีไถ่โทษความร้ายกาจในอดีตไว้ เกศสุรางค์จึงปฏิวัติการะเกดใหม่เป็นคนละคนจากหญิงที่งามแค่เพียงภายนอก ก็งามถึงภายใน จนเป็นที่เลื่องลือไปไกล หมื่นสุนทราเทวาไม่รู้ว่า เมื่อใดที่ใจของเขาเปลี่ยนไปเมื่อยาม ได้มองการะเกดอีกครั้ง จากความชิงชังแปรเปลี่ยนรักใคร่ และยิ่งมีเหตุให้เขาและเธอต้องตกลงหมั้นหมายกันจริงๆ เขาไม่คิดจะปฏิเสธพันธะนี้อีกต่อไปหากเพราะเหตุการณ์ที่ต้องแย่งชิงอำนาจภายในราชวงศ์และความขัดแย้งของ ชาวต่างชาติในแผ่นดินกรุงศรี เกศสุรางค์ รู้อยู่เต็มอกว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น แต่มิอาจพูดออกไปได้ ทำให้เธอรู้สึกทุกข์เสียยิ่งกว่าไม่รู้ หากเพราะคำว่าสิ่งใดจะเกิดก็ต้องเกิด เธอจึงได้แต่เฝ้ามองประวัติศาสตร์เคลื่อนไปอย่างที่เคยเป็น โดยที่เธอไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอันใดได และที่เกศสุรางค์ไม่คาดฝันยิ่งกว่าการได้เดินทางกลับมาสู่อดีตก็คือ เหตุผลที่แท้จริงว่าอำนาจที่ ส่งเธอมานั้นมิใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะกระแสแห่งกรรมและพรหมลิขิต ที่ขีดไว้ให้ให้มีบุพเพสันนิวาสต่อชายคนหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะกี่ชาติ จะวนเวียนเปลี่ยนแปรไปสักกี่ชาติ จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป

          แฟนๆละครพีเรียดต้องห้ามพลาดเด็ดขาด กับการที่ทั้งคู่จะได้เป็นคนรักคู่ครองในทุกๆชาติไปหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ "บุพเพสันนิวาส" ต้องติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เร็วๆนี้

“โป๊ป – เบลล่า ” ประชันฝีมือครั้งแรก ในละครพีเรียดสองภพ ดั่ง “ บุพเพสันนิวาส” ให้ทั้งคู่มาพบรักกัน







          เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกันของสองพระนาง อย่าง "โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ" และ "เบลล่า ราณี แคมเปน" ในละครพีเรียดย้อนยุคเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" นวนิยายของ รอมแพง ซึ่งถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรกทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 โดย "พี่หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธ์" บอสใหญ่แห่งค่าย บรอดคาซท์ไทย เทเลวิชั่น จำกัด งานนี้ยังได้สองพระนางสวย หล่อ อย่าง "โป๊ป ธนวรรธน์" มารับบทเป็น พ่อเดช เล่นประกบคู่กับนางเอกหน้าหวานอย่าง "เบลล่า ราณี" ที่รับบทเป็น "แม่การะเกด" และ "เกศสุรางค์" สาวยุคปัจจุบันที่หลงเข้าไปในยุคของสมเด็จพระนารายณ์ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบฝีมือดีอีกมากมายมาร่วมทัพย้อนยุคไม่ว่าจะเป็น "ปั้นจั่น - ปรมะ, ปราง – กัญญ์ณรัณ, พี่แหม่ม – จินตหรา, หลุยส์ – สก๊อต, นุ่น – รมิดา' ซูซี – สุษิรา, เหมียว-ชไมพร, พี่แอ๊ว – อำภา" ที่จะมาสร้างความสุขให้กับแฟนๆละครแนวดราม่า พีเรียด ให้ได้อินได้ฟินไปตามๆกัน และเรายังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ ทั้งสองพระนางถึงบทบาทที่ได้รับในละครและการเจอกันครั้งแรกนี้โดยพระเอกหนุ่มโป๊ป ธนวรรธน์ เผยว่า

          "เป็นละครพีเรียดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างจากทุกๆเรื่องที่เคยเล่นมา เพราะย้อนไปไกล ยุคก่อนพระนเรศวรอีก ในเรื่องไม่ได้พูดถึงประวัติศาสตร์มาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความรักแบบย้อนอดีตปัจจุบัน เราได้รับบทเป็น พ่อเดช หรือ ขุนศรีวิศาลวาจา เป็นนักทูตที่ต้องไปเจรจากับทางฝรั่งเศส เป็นคนขรึมๆ ฉลาด แรกๆเหมือนจะไม่ชอบนางเอก แต่ถ้าตอนได้รักแล้วรักจริง สำหรับเรื่องนี้ยากพอสมควร เพราะต้องเล่นให้ดูเป็นพีเรียดมากมีทั้งเรื่องการพูด บุคลิกท่าทาง ประมาณสองเดือนได้ การปรับตัวในซีนที่ยากๆ เป็นซีนที่ต้องพูดเยอะๆ เล่นอารมณ์แบบโกรธ โรแมนติก งอน หลายอารมณ์ในซีนเดียว ส่วนตัวเราชอบทุกซีน กับเบลล่าไม่เคยร่วมงานกัน เจอกันแบบผ่านๆ ได้ติดตามผลงานเบลมาตลอด พอได้มาร่วมงานกันจริงๆ ก็เข้ากันได้ดีครับ เขาเป็นคนเก่ง น้องทำการบ้านมาดี เราสองคนจะคล้ายๆกันครับ พี่ใหม่ก็ไม่ต้องมาปวดหัวกับพวกเรามากครับ ก็ฝากติดตามละครเรื่อง บุพเพสันนิวาสกันด้วยนะครับ"

          ส่วนนางเอกสาวสวยของเรา "เบลล่า ราณี" เผยว่า

          "ละครเรื่องนี้เล่นเป็นสองตัวละคร มีในส่วนของอดีตชื่อ การะเกด เป็นผู้หญิงที่ร้ายมาก เจออะไรมาเยอะ รักและหวงพระเอกมาก ร้ายกับทุกคน ยกเว้นคนที่ตัวเองรัก ร้ายจนแบบโดนมนต์ คำสาปและต้องตายไป เพราะร้ายถึงขั้นฆ่าคนได้ อีกตัวละครชื่อ เกศสุรางค์ ซึ่งอยู่ในส่วนของปัจจุบัน เป็นผู้หญิงตัวอ้วน น่ารักสดใส และเป็นคนตลก ที่แอบชอบเพื่อนสนิท ก็จะเป็นพี่ ปั้นจั่น เล่นในเรื่อง เกศสุรางค์ได้เข้าไปอยู่ในร่างของการะเกด เพราะประสบอุบัติเหตุตายในที่ที่เดียวกับการะเกด พอเธอฟื้นขึ้นมาในร่างของการะเกดก็แอบดีใจเพราะฉันผอม สวย หุ่นดี แต่ไม่ได้รับการต้อนรับจากใครเลยมีแต่คนเกลียด จนเกิดความสงสัย และเกิดเรื่องราวสนุกสนานตามมา แบบมาสร้างความปั่นป่วนในยุคของเขา สอนคนในยุคนั้นทำนู้นนี่ ตัดกางเกงในบ้าง ทำเครื่องกรองน้ำบ้าง อะไรที่เป็นยุคใหม่ประมาณนี้ ส่วนในเรื่องของอารมณ์เล่นยากพอสมควร เพราะสองตัวละครนี้ต่างกันมากๆ เหมือนมีอยู่วันหนึ่ง ต้องเล่นเป็นทั้งสองตัวละครจะเหนื่อยมาก ทั้งบทที่ดราม่าหนักเปลี่ยนมาเป็นอารมณ์กุ๊กกิ๊กน่ารักกับพระเอก และเรื่องการแต่งหน้า ทำผม ลุกที่สลับไปมา ยากค่ะแต่ก็สนุกดี เรื่องเดียวคุ้ม แถมในเรื่องตอนแรกพระเอกยังเกลียดการะเกดอีก แต่พอมาเป็น เกศสุรางค์ที่อยู่ในร่างการะเกด ทำให้พระเอกหลงรักเราในความน่ารักที่เป็นโก๊ะๆ มันจะมีทั้งความวุ่นวาย ทั้งความสนุก ลุ้น ดราม่า บอกเลยแค่ได้อ่านบทประพันธ์แล้วคือดีมาก พอนำมาทำเป็นบทละครยิ่งขยี้เข้าไปอีก สนุกมากๆค่ะ ฝากติดตามความโก๊ะ เปิ่น ของเกศสุรางค์ ที่มาสร้างสีสันในยุคเก่า และอยากให้รอดูการพัฒนาการของความรักด้วยบุพเพสันนิวาสของทั้งคู่ว่าจะลงเอยกันอย่างไรกันด้วยนะค่ะ"

          เรื่องย่อสั้น "บุพเพสันนิวาส" บทประพันธ์ รอมแพง เป็นละครแนวพีเรียด ดราม่า เรื่องราวเกี่ยวกับนักโบราณคดีสาวอ้วนวัย 25 ปีชื่อ เกศสุรางค์ ( รับบทโดย ราณี แคมเปน ) ที่แอบรักเพื่อนสนิทก็คือ เรืองฤทธิ์ ( รับบทโดย ปั้นจั่น ปรมะ) แต่เธอไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะไม่มาถึงเพราะเธอได้ประสบอุบัติเหตุรถตู้พลิกคว่ำเสียชีวิตคาที่ หลังจากนั้นเธอก็ได้พบกับวิญญาณ แม่การะเกด ( รับบทโดย ราณี แคมเปญ ) ที่สำนึกในการกระทำอันเลวร้ายของตัวเอง จึงขอให้ เกศสุราค์ทำดี เพื่อแก้ไขความผิดของตัวเอง เมื่อเกศสุรางค์ ได้ใช้ชีวิตอยู่ในร่างของการะเกด ก็พบกับ หมื่นสุนทรเทวา หรือพ่อเดช ( รับบทโดย ธนวรรน์ วรรธนะภูติ ) ซึ่งแต่ก่อนเกลียด การะเกดเพราะนิสัยร้ายๆของเธอ กลับมาทำให้เขารักเธอได้เพราะความเปิ่นๆ โก๊ะๆ ความผูกพันระหว่างแม่หญิงการะเกดตัวปลอมกับพ่อเดช ค่อยๆก่อตัวขึ้นทีละน้อย รู้กันอยู่แก่ใจทั้งคู่ แต่ยังปากแข็งใจแข็งไม่ยอมรับ เกศสุรางค์ต้องหักห้ามใจตัวเอง จากการบอกความในใจของพ่อเดช ว่ารักเธอ เพราะคิดว่าสักวันหนึ่งเธอจะต้องกลับไปยังโลกของเธอ และเธอเคยปฏิญาณแล้วว่าจะรักเรืองฤทธิ์ เพียงผู้เดียว ที่สำคัญคือพ่อเดชเป็นคนรักของแม่หญิงการะเกด ไม่ใช่ของเธอ เธอจึงทำเป็นไม่สนใจและขอเลื่อนการแต่งงานออกไป ทำให้พ่อเดชเสียใจมากและคิดว่าแม่หญิงการะเกดไม่ได้รักตัวเองเลย แต่ด้วยบุพเพสันนิวาส ทำให้เกศสุรางค์ได้รู้ความจริงว่า จริงๆแล้วเรืองฤทธิ์ก็คือพ่อเดชมาเกิดใหม่ และยังได้เจอกับวิญญาณการะเกดที่มาขอบคุณ และอนุญาติให้ใช้ร่างของเธอได้เลยเพราะเธอได้หมดบุญแล้ว ส่วน เกศสุรางค์ก็หมดบุญในชาติปัจจุบัน แต่กลับมาเกิดในชาติอดีตแทนเพื่อที่จะได้ครองรักกับเนื้อคู่ของเธอ คือขุนศรีวิศาลวาจา หรือ พ่อเดชนั่นเอง

          เรียกได้ว่าเป็นการพบกันครั้งแรกของ "โป๊ป – เบลล่า" ในบทบาทที่แปลกใหม่ทั้งคู่ มาช่วยกันลุ้น เอาใจช่วย กับความรักของเขาทั้งสองที่จะมีเรื่องให้แฟนๆละครได้อิน ดูแล้วต้องแอบขำ แอบเขิน ไปตามๆกัน ติดตามชมใน ละคร บุพเพสันนิวาส ได้เร็วๆนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3

เรื่องย่อ: บุพเพสันนิวาส







          ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด

          บทประพันธ์ : รอมแพง

          บทโทรทัศน์ : ศัลยา

          กำกับการแสดง : ภวัต พนังคศิริ

       บุคลิกตัวละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส"         
          พ่อเดช/หมื่นสุนทรเทวา/ขุนศรีวิสารวาจา
          ชายหนุ่มหน้าตาโบราณ แววตาคมกล้า มองใครทะลุถึงหัวใจ สีหน้าสงบเยือกเย็นอยู่เสมอ เสน่ห์ของพ่อเดชอยู่ที่นัยน์ตาพูดได้ทั้งยามรักยามชัง และความหึงหวงที่ซ่อนเร้นไม่มิด เก่ง ฉลาด รู้ทันคน โดยเฉพาะเกศสุรางค์ที่เห็นมาตั้งแต่ต้นว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่พูดน้อย เฝ้าแต่คอยสังเกต เก็บงำความรู้สึกลึกๆแม้กระทั่งความรัก บางครั้งหัวหมุนเพราะเจอลวดลายของสาวแสบแบบเกศสุรางค์ อย่างที่ไม่เคยมีหญิงใดในอยุธยาเสมอเหมือน จนติด จนเคยชิน และรักได้โดยไม่รู้ตัว

          เกศสุรางค์
          ร่างอวบอ้วน แม้จะหน้าตาสวยงาม นิสัยร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดี เฉลียวฉลาด เกลียดการข่มขู่ดูถูกกัน เป็นนักสู้ ไม่นิ่งเฉยกับความไม่ถูกต้อง จิตใจเข้มแข็ง มุ่งมั่นกับสิ่งที่เห็นว่าควร เมื่อไปอยู่ในร่างของการะเกดได้นำพาความน่ารัก ช่างพูด ช่างซักถาม กระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น มีอารมณ์ขัน และวาจาคารมคมคายไปด้วย ทำให้เป็นที่ประทับใจของผู้คนชาวอยุธยา โดยเฉพาะพ่อเดชหรือหมื่นสุนทรเทวาจนตกหลุมรักอย่างไม่ตั้งใจ

          การะเกด
          หน้าตาสวยงาม รูปร่างอ้อนแอ้นแบบบาง แต่นิสัยเลวร้ายมาก ความไม่ดีทุกอย่างอยู่ในตัว ทั้งปากร้าย ใจคด ขี้อิจฉา โกหกปลิ้นปล้อน สุดท้ายถึงกับใจเหี้ยมคิดฆ่าคน บาปกรรมสนองจนต้องตาย

          พ่อเรือง/หมื่นเรืองราชภักดี/ขุนเรืองอภัยภักดี
          เพื่อนสนิทของพ่อเดช ทะเล้น ขี้เล่น และเจ้าชู้ ตกหลุมรักเกศสุรางค์ในร่างการะเกดอย่างจริงจัง ห้ามใจไม่ได้กับความแปลกและน่าค้นหาของเกศสุรางค์ แม้จะรู้ว่าเป็นคู่หมายของเพื่อน ในที่สุดต้องยอมรับว่าอกหัก จึงหันไปสนใจแม่หญิงจันทร์วาดจนได้แต่งงานกัน

          เรืองฤทธิ์
          ชายหนุ่มเพื่อนสนิทของเกศสุรางค์ เขาแอบหลงรักเกศสุรางค์มาตลอด แต่ไม่เคยบอกเพราะกลัวจะเสียเพื่อนไป เขาจึงเก็บงำเรื่อยมา และเขาก็มีหน้าตาเหมือนพ่อเรืองไม่มีผิดเพี้ยน

          แม่หญิงจันทร์วาด
          หน้าตาสวยหวาน กิริยาเรียบร้อยอย่างยิ่ง เป็นประมาณไฮโซในอยุธยาเพราะพ่อเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ กิริยาระเหิดระหง เป็นคนชั้นสูง กรีดกรายเล็กน้อยพองาม สายตาดูถูกการะเกดเห็นว่าเป็นคนบ้านนอก จึงแค้นมากว่าการะเกดได้เป็นคู่หมายของบุรุษที่ตนเองพึงใจ ร่วมมือกับคุณหญิงจำปากลั่นแกล้งการะเกด จนสุดท้ายเห็นความดี ประกอบกับรู้ว่าพ่อเดชไม่เปลี่ยนใจแน่นอน จึงหันไปรักพ่อเรืองแทน

          ออกญาโหราธิบดี
          บิดาของพ่อเดช เก่งทางโหราศาสตร์และอักษรศาสตร์ เป็นราชครูของพระนารายณ์ ใจดี เมตตากรุณาต่อการะเกดจริงใจ แม้ในยามการะเกดร้ายกาจใครๆเกลียดก็ตาม แต่เกรงใจเมีย ยกให้เป็นใหญ่ในบ้าน มีเมียบ่าวหลายคน ลูกอีกเยอะ มองเหตุการณ์บ้านเมืองทะลุ คาดการณ์หลายอย่างแม่นยำ

          คุณหญิงจำปา
          มารดาพ่อเดช เกลียดชังการะเกดมาก เข้มงวดดุว่า แต่ไม่สามารถขัดขวางเรื่องการแต่งงานของลูกชายกับการะเกดได้ ทำได้แต่แสดงกิริยารังเกียจ พูดจากระทบกระแทกแดกดัน และยุยงลูกชายให้เกลียดด้วย สุดท้ายเห็นความดีความจริงใจ เห็นว่าลูกชายรักจริง เห็นแก่ความสุขของลูกจึงต้องยอมแพ้ความดีของเกศ สุรางค์ที่เป็นการะเกดด้วย

          แม่มะลิ/ตองกีมาร์/ท้าวทองกีบม้า           
          ลูกครึ่งแขกเบงกอลทางพ่อ และญี่ปุ่น-โปรตุเกสทางแม่ สวยคมขำ รูปร่างดีเพราะเผ่าพันธุ์ เป็นเพื่อนสนิทการะเกด...ถูกชะตากัน จำใจแต่งงานกับฟอลคอนเพราะผิดหวังจากพ่อเดช สุดท้ายก็รักฟอลคอนเพราะเห็นว่ารักจริง แต่ในที่สุดฟอลคอนตาย ตัวเองถูกจับต้องอาญาขังคุก แต่ทำความดีในคุกจนได้เป็นข้าราชการ สุดท้ายเป็นหัวหน้าห้องเครื่องหวาน มีฝีมือทำขนมเป็นที่เลื่องลือ

          หลวงสุรสาคร/คอนสแตนติน ฟอลคอน/ออกพระฤทธิกำแหง/เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์
          เชื้อสายกรีก เข้ามารับราชการในราชสำนักอยุธยา เป็นที่โปรดปรานของพระนารายณ์เพราะเป็นคนฉลาดและเข้าใจเพ็ดทูลเรื่องราวต่างๆ มักจะมีแนวคิดใหม่ๆมาเสนอให้พระนารายณ์เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์หลายอย่างของราชสำนัก จนเป็นที่เล่าลือว่าฟอลคอนมักใหญ่ใฝ่สูงอยากเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เคยใส่ความว่าออกญาโกษาธิบดีกินสินบน จนต้องถูกโบยจนตายสมดังที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ เป็นคนใจร้าย วาจาสามหาว มุทะลุดุดัน เจ้าแผนการ แต่จงรักภักดีต่อพระนารายณ์เป็นที่สุด สุดท้ายเมื่อเกิดกบฏพระเพทราชา พระนารายณ์สิ้นพระชนม์ จึงถูกกลุ่มกบฏสังหาร

          แย้ม , ผิน
          สองบ่าวผู้จงรักภักดีต่อการะเกด ตามวิถีของทาสสมัยก่อนคือซื่อสัตย์ต่อนาย แม้ว่าจะถูกต่อว่าหรือลงโทษรุนแรงอย่างใด ก็ยังรักยังภักดี จนเมื่อได้รับความเมตตาจากเกศสุรางค์ในร่างของการะเกด สองบ่าวยิ่งทวีความรักและพร้อมปกป้องแม่นายของตน สองคนคิดเหมือนกัน ทำเหมือนกันต่อการะเกด แย้มดูจะเงียบกว่าผินที่มักมีวาจาโผงผาง บู๊เก่ง แต่เมื่อพูดบ้างแย้มก็ทำให้คนฟังอึ้งได้เหมือนกัน

          นางปริก
          แม่ครัวของคุณหญิงจำปา ไม่ชอบการะเกดเพราะเคยโดนดุด่าและบางทีถึงขั้นตบตี เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน มีโอกาสต้องลอบทำร้ายการะเกด

          นางจวง
          บ่าวในเรือนคุณหญิงจำปา ทำงานจิปาถะ เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี

          นายจ้อย
          เป็นคนสนิทหมื่นสุนทรเทวา ทำหน้าที่เหมือนทนายหน้าหอ ขนของตามนาย แจวเรือ และไปกับนายทุกที

          ท่านชีปะขาว
          ชายแก่วัยประมาณ 60 ปี เป็นครูประจำสำนักฝึกต่อสู้ เขาเป็นผู้มีวิชาอาคม และมีความน่าเกรงขาม เป็นที่เคารพของเหล่าทหารที่ช่วยกันปกป้องบ้านเมือง

          โกษาเหล็ก
          อายุประมาณ 50 ปีกว่า รูปร่างสูงใหญ่ นัยน์ตาคมเหมือนตาเหยี่ยว เสียงพูดเด็ดขาดชัดเจน แค่ฟังก็รู้ว่ามีอำนาจ

          โกษาปาน
          อายุประมาณ 30-35 ปี รูปลักษณะสง่าผ่าเผย นัยน์ตาคมกล้า บอกลักษณะมีภูมิปัญญา สำเนียงพูดชัดเจน เป็นน้องชายโกษาเหล็ก

          ฟานิก
          หน้าตาออกเหมือนแขก กิริยาเหมือนแขก คือเหมือนลุกลี้ลุกลนนิดๆ อายุประมาณ 40 ปีกว่า
         
          คุณหญิงนิ่ม
          อายุประมาณ 40 ปี รูปร่างท้วมนิดๆ ถือยศถือศักดิ์ นัยน์ตาจ้องจับผู้คนแบบสำรวจตรวจตรา วาจาชัดเจน

          ศรีปราชญ์
          ร่างสันทัด อายุประมาณ 30 ปีปลาย หน้าตาออกแนวอาร์ตหน่อยๆ คือดูแล้วน่าจะเป็นคนลึกซึ้ง อารมณ์อ่อนไหว

          สิปาง
          แม่ของเกศสุรางค์ อายุประมาณ 50 ปี เป็นคนจิตใจดี อ่อนโยน

          นวล
          ยายของเกศสุรางค์ เป็นอดีตข้าหลวงในวังเก่า จึงได้ถ่ายทอดวิชาเย็บปักถักร้อยให้เกศสุรางค์ตั้งแต่ยังเด็ก
 
           รายชื่อนักแสดง
          พ่อเดช/หมื่นสุนทรเทวา รับบทโดย ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ
          เกศสุรางค์ - การะเกด " ราณี แคมเปน
          หลวงสุรสาคร/คอนสแตนติน ฟอลคอน " หลุยส์ สก๊อตต์
          แม่มะลิ/ตองกีมาร์) " สุษิรา แอนจิลีน่า
          เรืองฤทธิ์ – พ่อเรือง/หมื่นเรืองราชภักดี " ปรมะ อิ่มอโนทัย
          แม่หญิงจันทร์วาด " กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล
          ออกญาโหราธิบดี " นิรุตติ์ ศิริจรรยา
          คุณหญิงจำปา " ชไมพร จตุรภุช
          โกษาเหล็ก " สุรศักดิ์ ชัยอรรถ
          คุณหญิงนิ่ม " คุณหญิงนิ่ม
          โกษาปาน " ชาติชาย งามสรรพ์
          พระเพทราชา " ศรุต วิจิตรานนท์
          หลวงสรศักดิ์ " จิรายุ ตันตระกูล
          สมเด็จพระนารายณ์ " ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง
          ชีปะขาว " วัชรชัย สุนทรศิริ
          แย้ม " รมิดา ประภาสโนบล
          ผิน " จรรยา ธนาสว่างกุล
          จ้อย " วิศรุต หิมรัตน์
          ปริก " อำภา ภูษิต
          จวง " วิมลพันธ์ ชาลีจังหาญ
          สิปาง " ปวีณา ชารีฟสกุล
          คุณยายนวล " บรรเจิดศรี ยมาภัย
          หลวงศรียศ รับบทโดย วิศววิท วงษ์วรรณลภย์
          คลาร่า " ซูซานน่า เรโนล
          ฟานิก " ไชย ขุนศรีรักษา
          ศรีปราชญ์ " ณฐณพ ชื่นหิรัญ

         "อำนาจเหนือดวงจิตเป็นดังบุพเพสันนิวาส ที่นำพาดวงใจสองดวงให้มาบรรจบกัน"
          ดุจดั่งความรักของ เกศสุรางค์ นักโบราณคดีสาวร่างอ้วนวัย 25 ปี ที่มีหน้าตาสุดแสนธรรมดา ทว่าเธอเป็นคนมีนิสัยร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดี และมีความรู้ด้านโบราณคดีและภาษาฝรั่งเศสเป็นอย่างดี เธอจึงเป็นที่รักของคนใกล้ชิด แต่ผู้ที่เกศสุรางค์อยากได้รับความรักจากเขามากที่สุดก็คือ เรืองฤทธิ์ เพื่อนสนิทที่คบกันมานานหลายปี แต่เพราะคิดว่าเรืองฤทธิ์คงไม่สนใจคนหน้าตาธรรมดาๆ แถมยังอ้วนจนหน้าเกลียด เกศสุรางค์จึงต้องเก็บงำความรักที่มีต่อเขาเรื่อยมา เพื่อรอคอยวันที่เธอจะกล้าเผยความในใจกับเขา โดยที่ไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะมาไม่ถึง
          เพราะวันหนึ่งขณะที่เกศสุรางค์และเรืองฤทธิ์เดินทางกลับจากไปทำงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รถตู้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ยังผลให้เกศสุรางค์เสียชีวิตคาที่ !
          ขณะเดียวกัน ณ อีกช่วงกาลหนึ่งย้อนเวลาไป 333 ปี ในพ.ศ. 2225 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นเมื่อ แม่หญิงการะเกด สาวสวยแต่จิตใจร้ายกาจ สั่งให้ ผิน กับ แย้ม สองบ่าวผู้ซื่อสัตย์ไปล่มเรือของ แม่หญิงจันทร์วาด เหตุเพราะไม่พอใจที่เห็นจันทร์วาดชม้ายชายตาให้ หมื่นสุนทรเทวา หรือ พ่อเดช คู่หมั้นของการะเกด แล้วแผนร้ายครั้งนี้ก็ทำให้บ่าวของแม่หญิงจันทร์วาดจมน้ำตายไปหนึ่งคน แต่แม่หญิงจันทร์วาดรอดชีวิต
          เรื่องนี้ร้อนถึงหมื่นสุนทรเทวา เขามั่นใจว่างานนี้เป็นฝีมือของแม่หญิงใจคด ปากจัด เอาแต่ใจ อารมณ์ร้าย ขี้อิจฉา จนผู้คนเอือมระอาไปทั่วอยุธยาอย่างการะเกด เพราะในคืนเกิดเหตุเขาเห็นการะเกดเดินอยู่แถวท่าน้ำ และถึงเขาจะเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเธอ แต่เขาก็ไม่เคยรักเธอเลย ส่วนเรื่องหมั้นหมายเป็นเพียงความต้องการของผู้ใหญ่ เพราะ ออกญาโหราธิบดี บิดาของหมื่นสุนทรเทวาได้เคยขอการะเกด ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทเอาเมื่อครั้งยังเด็ก พอพ่อแม่ของการะเกดเสียชีวิตไปตั้งแต่ปีกลาย ด้วยความสงสาร ออกญาโหราธิบดีจึงพาการะเกดมาอยู่ที่เรือนด้วย แม้ คุณหญิงจำปา ภรรยาจะไม่เห็นด้วย แต่ก็คัดค้านสามีไม่ได้ และออกญาโหราธิบดีก็ไม่เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นฝีมือของการะเกด หมื่นสุนทรเทวาจึงต้องหาทางพิสูจน์ด้วยการร่าย "มนต์กฤษณะกาลี" ซึ่งเป็นมนต์ศักดิ์สิทธิ์โบราณ สาปแช่งผู้ที่คิดร้ายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มีอันเป็นไป
          แล้วก็เป็นไปตามคาด มนต์กฤษณะกาลีทำให้การะเกดทุรนทุรายจนสิ้นใจตาย โดยมีผินกับแย้มเท่านั้นที่เฝ้าร่างไร้ลมหายใจของการะเกดอยู่ทั้งคืน เพราะไม่กล้าไปบอกใครว่านายของตนตายแล้วด้วยฤทธิ์ของมนต์กฤษณะกาลี เพราะนั่นจะทำให้ทุกคนรู้ว่านายของตนเป็นผู้วางแผนทำร้ายแม่หญิงจันทร์วาดจริงๆ
          ขณะที่หมื่นสุนทรเทวายังร่ายมนต์กฤษณะกาลีไม่หยุด วิญญาณของการะเกดได้ไปพบกับวิญญาณของเกศสุรางค์ การะเกดสำนึกในการกระทำเลวร้ายของตัวเอง และเหมือนเธอรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเกศสุรางค์ เธอจึงอ้อนวอนขอให้เกศสุรางค์ทำดี แก้ไขความผิดที่เธอเคยทำเอาไว้แทนด้วย ก่อนที่วิญญาณของการะเกดจะเลือนหายไป ส่วนวิญญาณของเกศสุรางค์ก็ได้ยินเสียงร่ายมนต์กฤษณะกาลี จึงเดินไปทางเสียงก่อนจะถูกแสงสีขาวดูดหายไป
          เมื่อเกศสุรางค์ลืมขึ้นมาอีกครั้ง เกศสุรางค์ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าตัวเองมาอยู่ในร่างของแม่หญิงการะเกด เช่นเดียวกับที่ผินและแย้มก็ตกใจที่นายของตนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เสียงร้องเอ็ดตะโรของสามสาว เรียกให้ทุกคนในเรือนไทยแห่กันเข้ามาดู รวมทั้งหมื่นสุนทรเทวาด้วย ทุกคนมองเกศสุรางค์อย่างประณามหยามเหยียดว่าเป็นตัวชั่วร้าย เกศสุรางค์พยายามบอกกับทุกคนว่าเธอไม่ใช่แม่หญิงการะเกด แต่เธอมาจากยุครัตนโกสินทร์ ทว่าไม่มีใครเชื่อ และแม้เธอจะหลุดพ้นข้อกล่าวหาว่าวางแผนล่มเรือแม่จริงจันทร์วาดเพราะเธอไม่ตายก็ตาม แต่ทุกคนก็คิดว่าการะเกดโดนอำนาจของมนต์กฤษณะกาลีเข้า เลยกลายเป็นแม่หญิงจิตวิปลาสไปเสียแล้ว
          และถึงเกศสุรางค์จะได้มีโอกาสมาอยู่ในร่างของคนสวยตามความฝัน แต่เธออยากกลับบ้านไปหา สิปาง มารดา และ คุณนวล ยายของเธอมากกว่า เกศสุรางค์พยายามคิดหาทางกลับไปสู่โลกของตัวเองให้ได้ แต่เธอไม่รู้จะทำยังไง เกศสุรางค์จึงไปหาหมื่นสุนทรเทวาเพราะคิดว่าเขาอาจจะช่วยเธอได้บ้าง ทว่าหมื่นสุนทรเทวากลับไม่ยอมพูดกับเธอดีๆ ซ้ำยังมีท่าทางรังเกียจราวกับว่าเธอเป็นกิ้งกือไส้เดือน ทั้งๆที่แม่หญิงการะเกดมีรูปร่างหน้าตาสวยงามราวภาพวาดก็ตาม เกศสุรางค์อยากรู้ว่าทำไมหมื่นสุนทรเทวาถึงเกลียดคู่หมั้นของตัวเองนักหนา จึงไปตะล่อมถามจากผินและแย้ม โดยอ้างว่ามนต์กฤษณะกาลีทำให้เธอมึนๆจนจำอะไรไม่ได้ ผินกับแย้มเล่าถึงอดีตที่เธอนิสัยเลวร้ายอย่างไร แต่สิ่งที่น่าสะพรึงยิ่งกว่านั่นคือ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันแม่หญิงการะเกดวางแผนร้ายล่มเรือแม่หญิงจันทร์วาดจนมีคนตาย !
          เกศสุรางค์นึกถึงสิ่งที่วิญญาณของแม่หญิงการะเกดบอกว่าขอให้เธอช่วยแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดแทน เกศสุรางค์ก็เลยคิดว่าถ้าเธอสามารถทำให้ทุกคนรักและให้อภัยการะเกดได้ เธออาจจะได้กลับบ้าน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเกศสุรางค์จึงทำใจยอมรับที่จะใช้ชีวิตอยู่ในร่างของแม่หญิงการะเกด
          แต่การะเกดคือเกศสุรางค์ สาวร่างอ้วนที่จิตใจดีมีเมตตา เฉลียวฉลาด มีอารมณ์ขัน รักความยุติธรรม ไม่แบ่งแยกชนชั้น คนทั้งบ้านจึงประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงเหมือนเป็นคนละคนของแม่หญิงการะเกด จากวาจาผรุสวาทเป็นเนืองนิตย์กลายเป็นวาจาอ่อนหวานไม่ถือตัว ถึงกับเรียกบ่าวสองคนว่า "พี่" ตามวิถีนับญาติของคนไทยสมัยปัจจุบัน ทำให้คุณหญิงจำปาขัดเคืองใจยิ่งนัก นอกจากนั้นพฤติกรรมอื่นๆของแม่หญิงการะเกดที่ทำให้ผู้คนตกตะลึง อาทิเช่น แจกเงินบ่าว ซื้อข้าวของเครื่องใช้แจกคนในเรือน คิดทำเครื่องกรองน้ำแทนการใช้สารส้มแกว่งแบบโบราณ เย็บปักถักร้อยเก่ง ร้อยมาลัยเป็น ทำกับข้าวได้ และสุดท้ายคือขอไปทำบุญที่วัด ซึ่งร้อยวันพันปีการะเกดตัวจริงไม่เคยกระทำ
          คุณหญิงจำปาปักใจว่าผีเข้าสิงการะเกด หมื่นสุนทรเทวาถึงกับพูดจาขู่เข็ญเกศสุรางค์ต่างๆนานาให้รับสารภาพ แม้ว่าในใจของตนจะเผลอไผลไปกับความน่ารักและความดีที่ไม่เคยเห็นในตัวการะเกด แต่ก็พยายามค้นหาความจริงที่เป็นคำถามรบกวนจิตใจตลอดเวลา เกศสุรางค์ปฏิเสธเสียงแข็ง ยืนยันว่าตนคือการะเกด ที่ดูเหมือนวิปลาสไปเพราะฤทธิ์ของมนต์กฤษณะกาลีเท่านั้น ไม่ช้าตนจะเป็นการะเกดคนเดิม
          ต่อจากนั้นเกศสุรางค์พยายามทำตัวกลมกลืนกับวิถีชีวิตอยุธยาให้มากขึ้น เพื่อให้หมื่นสุนทรเทวาเลิกสงสัยเสียที แต่สาวรัตนโกสินทร์ในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องจำเป็นมาเป็นสาวอยุธยาในศตวรรษที่ 17 ต้องพบกับความยุ่งยากนานับประการในการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งการแต่งตัว การเดินลุกนั่ง การกินการอยู่ การอาบน้ำขับถ่าย ตลอดจนภาษาพูดที่แตกต่างแม้เป็นภาษาไทยเหมือนกัน
          บรรยากาศของเรือนออกญาโหราธิบดีจึงดำเนินต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายค่อยๆปรับตัวปรับใจกับความแปลกใหม่ที่เผชิญ
          สิ่งที่เกศสุรางค์พอใจอย่างยิ่งคือ การได้เห็นอยุธยาด้วยตาของเธอเอง มิใช่จากบันทึกของผู้คนทั้งไทยและชาวต่างชาติ ออกญาโหราธิบดีให้หมื่นสุนทรเทวาพาการะเกดไปเที่ยวตลาดหรือ "ป่า" ที่ชาวอยุธยาเรียก ภูมิทัศน์ของอยุธยาที่เธอเคยจินตนาการจากหนังสือหรือจากคำสอนของอาจารย์ปรากฏให้เห็นจะๆตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นป้อมเพชรอันเลื่องชื่อ วัดพระศรีสรรเพชร์ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ และวัดไชยวัฒนารามที่เธอเปรียบเทียบวัดไชยตรงหน้ากับวัดไชยที่รัฐบาลไทยบูรณะจนสมบูรณ์ในปัจจุบัน เธอได้นั่งเรือวนรอบเกาะอยุธยา ได้เห็นวังหลวงที่งดงามอร่ามเรืองด้วยทองคำทุกหนทุกแห่ง ได้เห็นแล้วว่าอยุธยานั้นเป็นราชธานีที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด ด้วยการค้าขายกับชาวต่างประเทศที่พากันเข้ามาเสริมสร้างความมั่งคั่งสมบูรณ์ให้ดินแดนนี้
          นับวันเกศสุรางค์ในร่างของแม่หญิงการะเกด ก็เป็นความเคยชินของหมื่นสุนทรเทวาที่จะพูดคุยด้วย ที่จะพาไปเที่ยวที่ต่างๆในอยุธยา ที่จะตอบคำถามมากมายหลายเรื่องที่เกศสุรางค์สรรหาขึ้นมาถาม ความอยากรู้อยากเห็นของเกศสุรางค์ส่งผลต่อความกระตือรือล้นของหมื่นสุนทรเทวาที่จะตอบและอธิบาย คำพูดเฉลียวฉลาดฉะฉาน ไม่มีทีท่าเอียงอาย หรือทอดสะพานอย่างที่เคยเป็น แววตาซื่อตรงที่จ้องจับและคอยฟังคำตอบจากเขา หมื่นสุนทรเทวาไม่รู้ตัวว่าความเกลียดชังแต่ก่อนหายไปไหนหมด ความรู้สึกที่มาแทนที่คือความสนใจใยดี อาทรห่วงหา และร้อนรุ่มยามเธอมีใครอื่นมาสนใจใกล้ชิด ใครคนนั้นไม่ใช่คนเดียว ความหงุดหงิดจึงเป็นทวีคูณ คนแรก หมื่นเรืองราชภักดี เพื่อนสนิท ที่ดูจะสนใจแม่การะเกดเป็นพิเศษ และแม่การะเกดก็ดูจะมีไมตรีตอบ แต่หมื่นสุนทรเทวาไม่รู้สาเหตุว่าเพราะหมื่นเรืองราชภักดีนั้นหน้าตาเหมือนเรืองฤทธิ์ เพื่อนชายที่เกศสุรางค์หลงรักอยู่
          นอกจากความตื่นตาตื่นใจกับบ้านเมืองและผู้คนในอยุธยา เกศสุรางค์ยังพบว่าตนเองตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบบุคคลที่เธอรู้จักในประวัติศาสตร์หลายคน อาทิเช่น เจ้าพระยาโหราธิบดี ศรีปราชญ์ เจ้าพระยาโกษาเหล็ก เจ้าพระยาโกษาปาน พระเพทราชา หลวงสรศักดิ์ หลวงศรียศ นายพลเดส์ฟาร์ช สังฆราชปัลลู เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ และท้าวทองกีบม้า บางคนที่เธอรู้ชะตากรรมของเขาเหล่านั้นว่าจะสิ้นชีวิตก่อนเวลาอันควร แม้จะพยายามส่งสัญญาณเตือนด้วยความหวังว่าอาจจะช่วยไม่ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้น แต่เธอก็ต้องตระหนักว่า กงล้อประวัติศาสตร์ไม่สามารถหมุนกลับได้
          อีกคนในประวัติศาสตร์ที่เกศสุรางค์ใกล้ชิดสนิทสนม ได้รับรู้รายละเอียดความเป็นไปในชีวิตคือ ท้าวทองกีบม้า หรือ แม่มะลิ หญิงสาวลูกครึ่งแขก-ญี่ปุ่น ที่พ่อชาวเบงกอลชื่อ ฟานิก เป็นพ่อค้าขายผ้าในตลาด ทั้งสองรู้จักกันเพราะฟานิกถูก หลวงสุรสาคร ข้าราชการชาวกรีกและฝรั่งคนสนิทข่มขู่รังแก เกศสุรางค์เห็นจึงเข้าไปช่วยโต้เถียง เพราะเห็นว่าฟานิกไม่ผิด แค่ผู้หญิงอยุธยาเถียงกับฝรั่งก็เป็นเรื่องที่ผู้คนฮือฮาตกใจลือกันไปทั่วแล้ว แต่ยังโต้เถียงกันเป็นภาษาฝรั่งเศส ชื่อของแม่หญิงการะเกดเป็นที่โจษขานกันทั่ว นับว่าดังเพียงชั่วข้ามคืน ต่อจากนั้นเกศสุรางค์จึงกลายเป็นมิตรสนิทกับแม่มะลิ ไปมาหาสู่พูดคุยกันเป็นประจำ
          เกศสุรางค์พบว่าหมื่นสุนทรเทวาเนื้อหอมไม่ใช่ย่อย คนหนึ่งคือแม่หญิงจันทร์วาด ที่เกศสุรางค์ยกให้เป็น "กิ๊ก" ของคุณพี่หมื่น เนื่องจากแม่หญิงจันทร์วาดรู้ว่าหมื่นสุนทรเทวานั้นเป็นคู่หมายของการะเกด แต่ยังมีทีท่าทอดสะพานอยู่เนืองๆ และตัวคุณพี่หมื่นก็เหมือนมีไมตรีตอบในบางครั้งบางคราวด้วย เป็นเหตุให้เกศสุรางค์พูดจาล้อเลียนอยู่เสมอ หมื่นสุนทรเทวาขุ่นเคืองใจทุกครั้งเพราะเขาไม่มีใจชอบแม่หญิงจันทร์วาดเลยแม้แต่น้อย ทำให้แม่หญิงผู้นั้นทวีความชังการะเกดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะสังเกตเห็นว่าหมื่นสุนทรเทวามีสายตาผิดปกติเมื่อมองการะเกด จันทร์วาดจึงเข้ากันได้ดีกับคุณหญิงจำปา เพราะคุณหญิงจำปาเกลียดชังแม่การะเกดเหลือเกิน แต่อยากได้จันทร์วาดเป็นลูกสะใภ้ สองคนจึงรวมหัวกันแกล้งการะเกดต่างๆนานา
          อีกคนหนึ่งที่มีใจให้หมื่นสุนทรเทวาคือแม่มะลิ เกศสุรางค์นั้นเชียร์เพื่อนจนสุดตัว แต่หมื่นสุนทรเทวากลับพูดจาเป็นนัยๆว่า อย่าออกแรงหนุนผู้ใดให้เขาเลย คนที่เขาพอใจคือคนที่เกศสุรางค์เห็นยามส่องกระจกต่างหาก ทำให้แม่หญิงตัวแสบถึงกับหวั่นไหวในใจกับวาจาเกี้ยวพายอกย้อนของหนุ่มอยุธยา แต่พยายามกลบเกลื่อนไม่ยอมรับลูกเดียว
          บุพเพสันนิวาสทำงานไปเรื่อยๆ ความผูกพันระหว่างแม่หญิงการะเกดตัวปลอมกับขุนนางหนุ่มแห่งอยุธยาก่อตัวขึ้นทีละน้อยๆ ทีท่านั้นต่างก็รู้กันอยู่แก่ใจ แต่ปากแข็งใจแข็งไม่ยอมรับทั้งคู่ จนวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นทอล์คออกเดอะทาวน์ของอยุธยา คือเรือที่หมื่นสุนทรเทวาและการะเกดนั่งมาด้วยกัน ถูกเรือลำหนึ่งชนอย่างแรงจนคว่ำลง หมื่นสุนทรเทวาถูกหัวเรือกระแทกที่กกหูจนตกน้ำสลบไป เกศสุรางค์ใช้วิธี "เมาท์ทูเมาท์" ช่วยให้ฟื้นขึ้นมาได้ เรื่องนี้เป็นที่โจษจันอื้ออึงทั้งอยุธยา เกศสุรางค์ไปทางไหนก็ถูกมองถูกซุบซิบจนเริ่มจะรู้สึกเดือดร้อน ทำนองเดียวกันหมื่นสุนทรเทวาที่ตอนนี้ได้รับอวยยศเป็น ขุนศรีวิสารวาจา ก็รู้สึกเช่นกัน จึงเสนอตัวว่าจะออกเรือนกับแม่หญิงการะเกด
          เหมือนระเบิดลง หลายคนสะเทือนกันไปหมด คนที่อกหักจากข่าวนี้ คนแรกคือขุนเรืองราชภักดีที่เฝ้าปลูกต้นรักกับการะเกด คนต่อมาคือแม่หญิงจันทร์วาด เพราะแม้แต่คุณหญิงจำปาก็ช่วยไม่ได้ และคนสุดท้ายคือแม่มะลิที่เสียอกเสียใจมากมาย เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าสองคนเป็นคู่หมายกัน สุดท้ายแม่มะลิจึงตัดสินใจรับปากจะแต่งงานกับหลวงสุรสาคร ที่พยายามเทียวไล้เทียวขื่อกับตนมาตั้งแต่เกิดเรื่องวิวาทกับแม่หญิงการะเกดในครั้งกระโน้น เกศสุรางค์ไปงานแต่งงานด้วย และในวันนั้นเองจึงได้รู้ว่าหลวงสุรสาครคือ คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ ส่วนแม่มะลิคือ มารี เดอ กีมาร์ หรือ ท้าวทองกีบม้า บุคคลสำคัญสองคนในประวัติศาสตร์ไทยนั่นเอง
          ทางด้านขุนศรีวิสารวาจารู้ว่าเหตุการณ์เรือล่มเป็นฝีมือของฟอลคอนจึงไปเอาเรื่อง เกศสุรางค์ขอตามไปด้วย ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่าฟอลคอนไม่ยอมรับ แต่ก่อนจะกลับเกศสุรางค์ก็ไปได้ยินฟอลคอนคุยกับพวกของเขาเป็นภาษาฝรั่งเศส ว่าพวกเขาจะเผาตลาดแล้วโยนความผิดให้พวกทหารไทย เพื่อที่ฝรั่งอย่างพวกเขาจะได้เข้าให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้าน แล้วค่อยๆชวนให้พวกชาวบ้านหันมานับถือพวกตนแทน แล้วในขณะนั้นฟอลคอนเกิดได้กลิ่นน้ำอบของผู้หญิงไทยเข้า จึงรู้ว่ามีใครบางคนอยู่ในบริเวณนั้นก็เลยตามหาและไล่ยิงเกศสุรางค์ จนเธอเกือบจะถูกยิง แต่พ่อเดชมาช่วยและพาหนีไปได้ทัน
          พ่อเดชทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงเกศสุรางค์มากที่ทำตัวเสี่ยงเกินไป จนเขาโพล่งความในใจที่มีต่อหญิงสาวออกมาว่าเขารักเธอ ทำเอาเกศสุรางค์อึ้งไปเลย ใจหนึ่งเธอก็ดีใจที่ได้รับรู้ความรู้สึกของเขา แต่อีกใจเธอก็ต้องหักห้ามใจตัวเอง เพราะคิดว่าสักวันหนึ่งเธอก็จะต้องกลับไปยังโลกของเธอ และเธอเคยปฏิญาณแล้วว่าเธอจะรักเรืองฤทธิ์ผู้เดียวไปตลอดชีวิต ที่สำคัญก็คือว่าพ่อเดชเป็นคนรักของแม่หญิงการะเกด ไม่ใช่ของเธอ เกศสุรางค์จึงทำเป็นไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำว่ารักจากพ่อเดช มิหนำซ้ำยังขอให้การแต่งงานเลื่อนออกไป โดยอ้างว่าน่าจะรอให้ขุนศรีวิสารวาจาเข้าไปรับตำแหน่งในวังให้เรียบร้อยเสียก่อน นั่นสร้างความเสียใจให้กับพ่อเดชมาก เพราะเขาคิดไปว่าแม่หญิงการะเกดไม่ได้รักเขาเลย หารู้ไม่ว่าเกศสุรางค์เองก็ต้องหักห้ามใจตนเองเหมือนกัน
          วันหนึ่งเกศสุรางค์ที่อยากหาหนังสืออ่านเพื่อให้ลืมความทุกข์ใจ เธอจึงเข้าไปในห้องทำงานของออกญาโหราธิบดีตามที่ได้รับอนุญาต แล้วเกศสุรางค์ก็เห็นพานอะไรบางอย่างอยู่บนหลังตู้จึงหยิบมาดู โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือบทสวดมนต์กฤษณะกาลี ซึ่งใครที่ยังไม่ได้ทำพิธีขออนุญาตไม่สามารถจับต้องได้ ดังนั้นเพียงแค่เกศสุรางค์แตะมือลงไป วิญญาณของเธอก็กระเด็นหลุดจากร่างของแม่หญิงการะเกดทันที ! พ่อเดชกลับมาถึงเรือนพอดี จึงได้เห็นวิญญาณของเกศสุรางค์ยืนอยู่ข้างๆร่างของแม่หญิงการะเกดที่นอนไร้ลมหายใจอยู่บนพื้น ก่อนที่วิญญาณของหญิงสาวผู้นั้นจะเลือนหายไป พ่อเดชปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมามีวิญญาณของหญิงสาวผู้อื่นอยู่ในร่างของการะเกด
          ท่านชีปะขาว อาจารย์ของพ่อเดชที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงตามมาถามว่าเขารักใคร เขาตอบโดยไม่ต้องคิดว่าเขารักวิญญาณผู้หญิงคนนั้นที่เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใครและมาจากไหน แต่ตอนนี้เขาต้องการให้เธอกลับมาอยู่กับเขา ท่านชีปะขาวจึงบอกให้ท่องมนต์กฤษณะกาลี เพื่อเรียกวิญญาณของแม่หญิงผู้นั้นกลับมา ด้วยความรักที่มีต่อเกศสุรางค์เขาจึงนั่งท่องมนต์กฤษณะกาลีข้ามวันข้ามคืนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
          ส่วนทางด้านวิญญาณของเกศสุรางค์นั้นก็หลุดล่องลอยไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย เกศสุรางค์ร้องไห้ด้วยความกลัวจับใจ และในขณะที่มิติของทั้งสองโลกบรรจบกัน วิญญาณของเธอได้กลับไปยังโลกปัจจุบัน และได้ไปเห็นว่าคุณสิปางกำลังนั่งร้องไห้อยู่หน้ารูปตั้งหน้าศพของเกศสุรางค์ แล้วยายนวลก็เข้ามาปลอบใจ เกศสุรางค์จึงรู้ว่าตัวเธอตายไปแล้วตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น และได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเรืองฤทธิ์ก็รักเธอมากเสียจนขอบวชตลอดชีวิต
          เกศสุรางค์ซาบซึ้งใจมาก แล้วขณะที่จ้องพระเรืองฤทธิ์อยู่นั้น เธอก็เห็นเงาสะท้อนของพ่อเดชอยู่ในร่างของเรืองฤทธิ์ เธอจึงเข้าใจแล้วว่า แท้จริงแล้วเรืองฤทธิ์ก็คือพ่อเดชมาเกิดใหม่ แล้วไม่เพียงเท่านั้น เกศสุรางค์ยังได้พบกับแม่หญิงการะเกดที่มาในสภาพที่สวยงาม อันเป็นผลจากบุญที่เกศสุรางค์ทำให้อยู่เรื่อยๆ การะเกดมาขอบคุณเกศสุรางค์และมาอนุญาตให้เกศสุรางค์ใช้ร่างของเธอได้เลย เพราะเธอหมดบุญแล้ว ส่วนเกศสุรางค์นั้นก็ได้หมดบุญในชาติปัจจุบันเช่นกัน แต่กลับไปเกิดใหม่ในชาติอดีตแทน เพื่อที่จะได้ไปครองรักกับเนื้อคู่ของเธอซึ่งก็คือขุนศรีวิสารวาจานั่นเอง
          เมื่อวิญญาณของแม่หญิงการะเกดเลือนหายไปแล้ว เกศสุรางค์ก็ได้ยินมนต์กฤษณะกาลีอีก เธอรู้ว่าไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตในชาติปัจจุบันได้อีกแล้ว จึงกลับไปกราบลาแม่กับยายและร้องไห้แทบจะขาดใจ ก่อนจะกลับเข้าไปในร่างของแม่หญิงการะเกด
          เมื่อร่างของการะเกดฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง พ่อเดชที่ร่างกายอิดโรยมากจากการนั่งท่องมนต์มาหลายวัน ก็สวมกอดร่างของเธอเอาไว้แน่นและกระซิบบอกข้างหูของเกศสุรางค์ว่า...ไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหน แต่ให้รู้เอาไว้ว่าเธอคือแม่หญิงที่เขาจะรักตลอดไป เกศสุรางค์ดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป และเธอก็ไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะรักเขาอีกต่อไป เพราะพ่อเดชเป็นเนื้อคู่ของเธอที่บุพเพสันนิวาสดลบันดาลให้ทั้งสองได้มาพบกัน

“โป๊ป – เบลล่า ” ประชันฝีมือครั้งแรก ในละครพีเรียดสองภพ ดั่ง “บุพเพสันนิวาส” ให้ทั้งคู่มาพบรักกัน







          เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกันของสองพระนาง อย่าง "โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ" และ "เบลล่า ราณี แคมเปน" ในละครพีเรียดย้อนยุคเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" นวนิยายของ รอมแพง ซึ่งถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรกทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 โดย "พี่หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธ์" บอสใหญ่แห่งค่าย บรอดคาซท์ไทย เทเลวิชั่น จำกัด งานนี้ยังได้สองพระนางสวย หล่อ อย่าง "โป๊ป ธนวรรธน์" มารับบทเป็น พ่อเดช เล่นประกบคู่กับนางเอกหน้าหวานอย่าง "เบลล่า ราณี" ที่รับบทเป็น "แม่การะเกด" และ "เกศสุรางค์" สาวยุคปัจจุบันที่หลงเข้าไปในยุคของสมเด็จพระนารายณ์ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบฝีมือดีอีกมากมายมาร่วมทัพย้อนยุคไม่ว่าจะเป็น "ปั้นจั่น - ปรมะ, ปราง – กัญญ์ณรัณ, พี่แหม่ม – จินตหรา, หลุยส์ – สก๊อต, นุ่น – รมิดา' ซูซี – สุษิรา, เหมียว-ชไมพร, พี่แอ๊ว – อำภา" ที่จะมาสร้างความสุขให้กับแฟนๆละครแนวดราม่า พีเรียด ให้ได้อินได้ฟินไปตามๆกัน และเรายังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ ทั้งสองพระนางถึงบทบาทที่ได้รับในละครและการเจอกันครั้งแรกนี้โดยพระเอกหนุ่มโป๊ป ธนวรรธน์ เผยว่า

          "เป็นละครพีเรียดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างจากทุกๆเรื่องที่เคยเล่นมา เพราะย้อนไปไกล ยุคก่อนพระนเรศวรอีก ในเรื่องไม่ได้พูดถึงประวัติศาสตร์มาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความรักแบบย้อนอดีตปัจจุบัน เราได้รับบทเป็น พ่อเดช หรือ ขุนศรีวิศาลวาจา เป็นนักทูตที่ต้องไปเจรจากับทางฝรั่งเศส เป็นคนขรึมๆ ฉลาด แรกๆเหมือนจะไม่ชอบนางเอก แต่ถ้าตอนได้รักแล้วรักจริง สำหรับเรื่องนี้ยากพอสมควร เพราะต้องเล่นให้ดูเป็นพีเรียดมากมีทั้งเรื่องการพูด บุคลิกท่าทาง ประมาณสองเดือนได้ การปรับตัวในซีนที่ยากๆ เป็นซีนที่ต้องพูดเยอะๆ เล่นอารมณ์แบบโกรธ โรแมนติก งอน หลายอารมณ์ในซีนเดียว ส่วนตัวเราชอบทุกซีน กับเบลล่าไม่เคยร่วมงานกัน เจอกันแบบผ่านๆ ได้ติดตามผลงานเบลมาตลอด พอได้มาร่วมงานกันจริงๆ ก็เข้ากันได้ดีครับ เขาเป็นคนเก่ง น้องทำการบ้านมาดี เราสองคนจะคล้ายๆกันครับ พี่ใหม่ก็ไม่ต้องมาปวดหัวกับพวกเรามากครับ ก็ฝากติดตามละครเรื่อง บุพเพสันนิวาสกันด้วยนะครับ"

          ส่วนนางเอกสาวสวยของเรา "เบลล่า ราณี" เผยว่า

          "ละครเรื่องนี้เล่นเป็นสองตัวละคร มีในส่วนของอดีตชื่อ การะเกด เป็นผู้หญิงที่ร้ายมาก เจออะไรมาเยอะ รักและหวงพระเอกมาก ร้ายกับทุกคน ยกเว้นคนที่ตัวเองรัก ร้ายจนแบบโดนมนต์ คำสาปและต้องตายไป เพราะร้ายถึงขั้นฆ่าคนได้ อีกตัวละครชื่อ เกศสุรางค์ ซึ่งอยู่ในส่วนของปัจจุบัน เป็นผู้หญิงตัวอ้วน น่ารักสดใส และเป็นคนตลก ที่แอบชอบเพื่อนสนิท ก็จะเป็นพี่ ปั้นจั่น เล่นในเรื่อง เกศสุรางค์ได้เข้าไปอยู่ในร่างของการะเกด เพราะประสบอุบัติเหตุตายในที่ที่เดียวกับการะเกด พอเธอฟื้นขึ้นมาในร่างของการะเกดก็แอบดีใจเพราะฉันผอม สวย หุ่นดี แต่ไม่ได้รับการต้อนรับจากใครเลยมีแต่คนเกลียด จนเกิดความสงสัย และเกิดเรื่องราวสนุกสนานตามมา แบบมาสร้างความปั่นป่วนในยุคของเขา สอนคนในยุคนั้นทำนู้นนี่ ตัดกางเกงในบ้าง ทำเครื่องกรองน้ำบ้าง อะไรที่เป็นยุคใหม่ประมาณนี้ ส่วนในเรื่องของอารมณ์เล่นยากพอสมควร เพราะสองตัวละครนี้ต่างกันมากๆ เหมือนมีอยู่วันหนึ่ง ต้องเล่นเป็นทั้งสองตัวละครจะเหนื่อยมาก ทั้งบทที่ดราม่าหนักเปลี่ยนมาเป็นอารมณ์กุ๊กกิ๊กน่ารักกับพระเอก และเรื่องการแต่งหน้า ทำผม ลุกที่สลับไปมา ยากค่ะแต่ก็สนุกดี เรื่องเดียวคุ้ม แถมในเรื่องตอนแรกพระเอกยังเกลียดการะเกดอีก แต่พอมาเป็น เกศสุรางค์ที่อยู่ในร่างการะเกด ทำให้พระเอกหลงรักเราในความน่ารักที่เป็นโก๊ะๆ มันจะมีทั้งความวุ่นวาย ทั้งความสนุก ลุ้น ดราม่า บอกเลยแค่ได้อ่านบทประพันธ์แล้วคือดีมาก พอนำมาทำเป็นบทละครยิ่งขยี้เข้าไปอีก สนุกมากๆค่ะ ฝากติดตามความโก๊ะ เปิ่น ของเกศสุรางค์ ที่มาสร้างสีสันในยุคเก่า และอยากให้รอดูการพัฒนาการของความรักด้วยบุพเพสันนิวาสของทั้งคู่ว่าจะลงเอยกันอย่างไรกันด้วยนะค่ะ"

          เรื่องย่อสั้น "บุพเพสันนิวาส" บทประพันธ์ รอมแพง เป็นละครแนวพีเรียด ดราม่า เรื่องราวเกี่ยวกับนักโบราณคดีสาวอ้วนวัย 25 ปีชื่อ เกศสุรางค์ ( รับบทโดย ราณี แคมเปน ) ที่แอบรักเพื่อนสนิทก็คือ เรืองฤทธิ์ ( รับบทโดย ปั้นจั่น ปรมะ) แต่เธอไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะไม่มาถึงเพราะเธอได้ประสบอุบัติเหตุรถตู้พลิกคว่ำเสียชีวิตคาที่ หลังจากนั้นเธอก็ได้พบกับวิญญาณ แม่การะเกด ( รับบทโดย ราณี แคมเปญ ) ที่สำนึกในการกระทำอันเลวร้ายของตัวเอง จึงขอให้ เกศสุราค์ทำดี เพื่อแก้ไขความผิดของตัวเอง เมื่อเกศสุรางค์ ได้ใช้ชีวิตอยู่ในร่างของการะเกด ก็พบกับ หมื่นสุนทรเทวา หรือพ่อเดช ( รับบทโดย ธนวรรน์ วรรธนะภูติ ) ซึ่งแต่ก่อนเกลียด การะเกดเพราะนิสัยร้ายๆของเธอ กลับมาทำให้เขารักเธอได้เพราะความเปิ่นๆ โก๊ะๆ ความผูกพันระหว่างแม่หญิงการะเกดตัวปลอมกับพ่อเดช ค่อยๆก่อตัวขึ้นทีละน้อย รู้กันอยู่แก่ใจทั้งคู่ แต่ยังปากแข็งใจแข็งไม่ยอมรับ เกศสุรางค์ต้องหักห้ามใจตัวเอง จากการบอกความในใจของพ่อเดช ว่ารักเธอ เพราะคิดว่าสักวันหนึ่งเธอจะต้องกลับไปยังโลกของเธอ และเธอเคยปฏิญาณแล้วว่าจะรักเรืองฤทธิ์ เพียงผู้เดียว ที่สำคัญคือพ่อเดชเป็นคนรักของแม่หญิงการะเกด ไม่ใช่ของเธอ เธอจึงทำเป็นไม่สนใจและขอเลื่อนการแต่งงานออกไป ทำให้พ่อเดชเสียใจมากและคิดว่าแม่หญิงการะเกดไม่ได้รักตัวเองเลย แต่ด้วยบุพเพสันนิวาส ทำให้เกศสุรางค์ได้รู้ความจริงว่า จริงๆแล้วเรืองฤทธิ์ก็คือพ่อเดชมาเกิดใหม่ และยังได้เจอกับวิญญาณการะเกดที่มาขอบคุณ และอนุญาติให้ใช้ร่างของเธอได้เลยเพราะเธอได้หมดบุญแล้ว ส่วน เกศสุรางค์ก็หมดบุญในชาติปัจจุบัน แต่กลับมาเกิดในชาติอดีตแทนเพื่อที่จะได้ครองรักกับเนื้อคู่ของเธอ คือขุนศรีวิศาลวาจา หรือ พ่อเดชนั่นเอง

          เรียกได้ว่าเป็นการพบกันครั้งแรกของ "โป๊ป – เบลล่า" ในบทบาทที่แปลกใหม่ทั้งคู่ มาช่วยกันลุ้น เอาใจช่วย กับความรักของเขาทั้งสองที่จะมีเรื่องให้แฟนๆละครได้อิน ดูแล้วต้องแอบขำ แอบเขิน ไปตามๆกัน ติดตามชมใน ละคร บุพเพสันนิวาส ได้เร็วๆนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3

ละคร “บุพเพสันนิวาส” ตอนที่1 ออกอากาศวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561









          ในพุทธศักราช 2225 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นเมื่อ การะเกด (เบลล่า-ราณี) สาวสวยแต่จิตใจร้ายกาจ สั่งให้ ผิน (หยา-จรรยา) กับ แย้ม (นุ่น-รรมิดา) สองบ่าวผู้ซื่อสัตย์ไปล่มเรือของ แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง-กัญญ์ณรัณ) เหตุเพราะไม่พอใจที่เห็นจันทร์วาดชม้ายชายตาให้ พ่อเดช หรือหมื่นสุนทรเทวา (โป๊ป-ธนวรรธน์) คู่หมั้นคู่หมายของตัวเอง แล้วแผนร้ายครั้งนี้ก็ทำให้บ่าวของแม่หญิงจันทร์วาดจมน้ำตายไปหนึ่งคน แต่แม่หญิงจันทร์วาดรอดชีวิต เรื่องนี้ร้อนถึงพ่อเดชมั่นใจว่างานนี้เป็นฝีมือของแม่หญิงใจคด ขี้อิจฉาอย่างการะเกด ส่วนเรื่องหมั้นหมายนั้นเป็นเพียงความต้องการของผู้ใหญ่ พ่อเดชจึงหาทางพิสูจน์ด้วยการร่าย "มนต์กฤษณะกาลี" มนต์ศักดิ์สิทธิ์โบราณ ที่สาปแช่งผู้คิดร้ายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มีอันเป็นไป แล้วก็เป็นไปตามคาด มนต์กฤษณะกาลีทำให้การะเกดทุรนทุรายจนสิ้นใจตาย ขณะที่พ่อเดชยังคงร่ายมนต์กฤษณะกาลีไม่หยุด วิญญาณของการะเกดได้ไปพบกับเกศสุรางค์ นักโบราณคดีสาวร่างอ้วนที่มีหน้าตาธรรมดา แต่เป็นคนมีนิสัยร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดี และมีความรู้ด้านโบราณคดีและภาษาฝรั่งเศสเป็นอย่างดี เธอจึงเป็นที่รักของคนใกล้ชิด แต่ผู้ที่เกศสุรางค์อยากได้รับความรักจากเขามากที่สุดก็คือ เรืองฤทธิ์ (ปั้นจั่น-ปรมะ) เพื่อนสนิท เกศสุรางค์ต้องเก็บงำความรักที่มีต่อเรืองฤทธิ์ เพื่อรอคอยวันที่เธอจะกล้าเผยความในใจกับเขา โดยที่ไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะมาไม่ถึง เพราะระหว่างเกศสุรางค์และเรืองฤทธิ์กลับบ้านเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ ทำให้วิญญาณเกศสุรางค์หลุดลอย จนมาเจอวิญญาณการะเกดที่สำนึกในการกระทำเลวร้ายของตัวเอง เธอจึงอ้อนวอนขอให้เกศสุรางค์ทำดี แก้ไขความผิดที่เธอเคยทำเอาไว้แทนด้วย ก่อนที่วิญญาณของการะเกดจะเลือนหายไป ส่วนวิญญาณของเกศสุรางค์ก็ได้ยินเสียงร่ายมนต์กฤษณะกาลี เมื่อเกศสุรางค์ลืมขึ้นมาอีกครั้ง เกศสุรางค์ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าตัวเองมาอยู่ในร่างของแม่หญิงการะเกด เกศสุรางค์พยายามบอกกับทุกคนว่าเธอไม่ใช่แม่หญิงการะเกด แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ และเข้าใจว่าแม่หญิงการะเกดจิตวิปลาสไปแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามชมได้ในละคร "บุพเพสันนิวาส" ตอนแรก คืนวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD (ช่อง 33)

ละคร “บุพเพสันนิวาส” ตอนที่ 2 ออกอากาศวันพฤหัสบดืที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561









          เกศสุรางค์ (เบลล่า-ราณี) นึกถึงสิ่งที่วิญญาณของแม่หญิงการะเกด (เบลล่า-ราณี) ขอร้องให้เธอช่วยแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดแทน เกศสุรางค์เลยคิดว่าถ้าเธอสามารถทำให้ทุกคนรักและให้อภัยการะเกดได้ เธออาจจะได้กลับบ้าน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเกศสุรางค์จึงทำใจยอมรับที่จะใช้ชีวิตอยู่ในร่างของการะเกด และได้รับรู้ถึงความร้ายกาจของการะเกดที่กระทำต่อทุกคน แต่ในร่างของการะเกดก็คือเกศสุรางค์ จากวาจาผรุสวาทเป็นเนืองนิตย์กลายเป็นวาจาอ่อนหวานไม่ถือตัว ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นวิปลาสไปแล้ว เกศสุรางค์พยายามทำตัวกลมกลืนกับวิถีชีวิตอยุธยาให้มากขึ้น และก็ต้องพบกับความยุ่งยากนานับประการทั้งการดำเนินชีวิตประจำวัน ตลอดจนภาษาพูดที่แตกต่างแม้เป็นภาษาไทยเหมือนกัน แต่สิ่งที่เกศสุรางค์พอใจอย่างยิ่งในการอยู่ในร่างการะเกดคือ การได้เห็นความเป็นอยู่ของอยุธยาด้วยตาของเธอเอง มิใช่จากบันทึกของผู้คนทั้งไทยและชาวต่างชาติภูมิทัศน์ของอยุธยาที่เธอเคยจินตนาการจากหนังสือ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น และช่างเจรจาของเกศสุรางค์ ทำให้หมื่นสุนทรเทวาจากที่เคยเกลียดชังแปรเปลี่ยนเป็นพูดคุยด้วย และพาไปเที่ยวตลาดในอยุธยา นอกจากความตื่นตาตื่นใจกับบ้านเมืองและผู้คนในอยุธยา เกศสุรางค์ยังได้พบบุคคลที่เธอรู้จักในประวัติศาสตร์หลายคน หนึ่งในนั้นคือ แม่มะลิ หรือ ตองกีมาร์ (ซูซี่-สุษิรา) เพราะเกิดเหตุการณ์ ฟานิก (ทองขาว) ถูก หลวงสุรสาคร หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน (หลุยส์ สก๊อตต์) ข่มขู่รังแก เกศสุรางค์เห็นจึงเข้าไปช่วยโต้เถียง เพราะเห็นว่าฟานิกไม่ผิด งานนี้ชื่อของแม่หญิงการะเกดจึงเป็นที่โจษขานกันทั่วพระนคร ติดตามชม ความน่ารักของเกศสุรางค์ได้ใน บุพเพสันนิวาส คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD (ช่อง 33)

ละคร “บุพเพสันนิวาส” (ตอนที่3) ออกอากาศวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561









          หลังจาก เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า-ราณี) เริ่มคุ้นชินแล้วก็พบว่า หมื่นสุนทรเทวา (โป๊ป-ธนวรรธน์) ก็เนื้อหอมไม่ใช่ย่อย คนหนึ่งคือ แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง-กัญญ์ณรัณ) ที่เกศสุรางค์ยกให้เป็น "กิ๊ก" ของคุณพี่หมื่น เนื่องจากแม่หญิงจันทร์วาดรู้ว่าหมื่นสุนทรเทวานั้นเป็นคู่หมายของการะเกด แต่ยังมีทีท่าทอดสะพานอยู่เนืองๆ และตัวคุณพี่หมื่นก็เหมือนมีไมตรีตอบในบางครั้งบางคราวด้วย เป็นเหตุให้เกศสุรางค์พูดจาล้อเลียนอยู่เสมอ หมื่นสุนทรเทวาขุ่นเคืองใจทุกครั้งเพราะเขาไม่มีใจชอบแม่หญิงจันทร์วาด ทำให้จันทร์วาดไม่ชอบการะเกดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะสังเกตเห็นว่าหมื่นสุนทรเทวามีสายตาผิดปกติเมื่อมองการะเกด จันทร์วาดจึงเข้ากันได้ดีกับคุณหญิงจำปา เพราะคุณหญิงจำปาเกลียดชังแม่การะเกดเหลือเกิน แต่อยากได้จันทร์วาดเป็นลูกสะใภ้ ด้านหมื่นสุนทรเทวาก็เคยความเคยชินที่จะพูดคุยกับเกศสุรางค์ในร่างการะเกดมากขึ้น และพาไปเที่ยวที่ต่างๆ ในอยุธยา ที่จะตอบคำถามมากมายหลายเรื่องที่เกศสุรางค์สรรหาขึ้นมาถาม ความอยากรู้อยากเห็นของเกศสุรางค์ส่งผลต่อความกระตือรือล้นของหมื่นสุนทรเทวาที่จะตอบและอธิบาย คำพูดเฉลียวฉลาดฉะฉาน ไม่มีทีท่าเอียงอาย หรือทอดสะพานอย่างที่เคยเป็น แววตาซื่อตรงที่จ้องจับและคอยฟังคำตอบจากเขา หมื่นสุนทรเทวาไม่รู้ตัวว่าความเกลียดชังแต่ก่อนหายไปไหนหมด งานนี้มาลุ้นกันต่อว่าหมื่นสุนทรเทวาจะมองการะเกดเปลี่ยนไปได้แค่ไหน ติดตามชมได้ในละคร "บุพเพสันนิวาส" คืนวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD (ช่อง 33)

ละคร “บุพเพสันนิวาส” ตอนที่ 4 ออกอากาศวันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2561









          ด้านเกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า-ราณี) ได้ขอ คุณหญิงจำปา (เหมียว-ชไมพร) ไปทำบุญที่วัด ทำให้เกศสุรางค์ได้พบกับผู้คนมากมาย ทั้งบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เธออยากได้เห็น นั่นก็คือท่านพระยาโกษาเหล็ก (หนู-สุรศักดิ์) และเกศสุรางค์ได้รู้ความจริงว่า ออกญาโกษาธิบดี (หนิง-นิรุตติ์) คือพระราชครูของขุนหลวง ผู้เขียนหนังสือจินดามณี หนังสือเรียนเล่มแรกของไทย ส่วนข่าวการเรื่องเรือล่มของ แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง-กัญญ์ณรัณ) ก็ยังถูกพูดถึง ผู้คนต่างตราหน้าว่าการะเกดคือสาเหตุที่ทำให้เรือล่ม ทำให้เกศสุรางค์เกิดความรู้สึกท้อแท้และเสียใจที่มีแต่คนรังเกียจทำให้เกศสุรางค์คิดถึงบ้านมากขึ้น จนหมื่นสุนทรเทวาจากที่เคยเกลียงชังการะเกดมาก มาตอนนี้กลับมีความรู้สึกที่มาแทนที่คือความสนใจใยดี อาทรห่วงหา และร้อนรุ่มยามเธอมีใครอื่นมาสนใจใกล้ชิด ความหงุดหงิดจึงเป็นทวีคูณ เมื่อมีชายเข้าใกล้เกศสุรางค์ คนแรกคือ หมื่นเรืองราชภักดี (ปั้นจั่น-ปรมะ) เพื่อนสนิท ที่ดูจะสนใจแม่การะเกดเป็นพิเศษ และแม่การะเกดก็ดูจะมีไมตรีตอบ แต่หมื่นสุนทรเทวาไม่รู้สาเหตุว่าเพราะหมื่นเรืองราชภักดีนั้นหน้าตาเหมือน เรืองฤทธิ์ (ปั้นจั่น-ปรมะ) เพื่อนชายที่เกศสุรางค์หลงรักอยู่ในภพปัจจุบัน ส่วนทางด้าน ออกหลวงสุรสาคร (หลุยส์ สก๊อตต์) ก็ยังคงเดินขอ แม่มะลิ (ซูซี่-สุษิรา) แต่งงานแต่มะลิยังคงปฏิเสธ ติดตามชมได้ในละคร "บุพเพสันนิวาส" คืนวันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม 2561 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD (ช่อง 33)

กระแส “ออเจ้า” ฟีเว่อร์ “เบลล่า-ราณี” กวาดเรตติ้งทั่วพระนคร สุดประทับใจใน “บุพเพสันนิวาส” โกอินเตอร์ดังข้ามประเทศ







          ชั่วโมงนี้ต้องยอมกราบในความ ออเจ้า ให้กับเธอจริงๆ สำหรับนางเอกสาวหน้าหวาน "เบลล่า-ราณี แคมเปน" ที่ดูท่าว่ากระแส "ออเจ้า" จากละคร "บุพเพสันนิวาส" มาแรงแซงโค้งกระฉากเรตติ้งให้กับช่อง3 อีกครั้งกับตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั่วประเทศ 13 เรียกว่ากวาดมาทั่วพระนครเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของ พี่หน่อง - อรุโณชา ภาณุพันธุ์ บอสใหญ่แห่งค่ายบรอดคาซ์ทไทยเทเลวิชชั่น ที่หยิบจับเอา บทประพันธ์รอมแพง มาสร้างเป็นละครโทรทัศน์โดยอาจารย์แดง ศัลยา ทำให้ละครนั้นออกมาสนุก ครบรส จนกลายเป็นมีกระแสชื่นชอบและชื่นชมในฝีมือการแสดงของนางเอกหน้าหวาน "เบลล่า" และนอกจากนี้ยังทะยานเข้าสู่เป็นที่นิยมของประเทศจีน มีการใส่ซับไตเติล (Subtitle) ภาษาจีน เพื่อฉายในจีน ดูกันได้พร้อม ๆ กับคนไทย เพราะนอกจากจะได้รับความบันเทิงแล้ว ยังได้ความรู้เกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจในสมัยกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย กันอีกด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เบลล่า เล่าว่า

          "ก่อนอื่นเบลต้องขอบคุณแฟนๆละครช่อง 3 และก็ขอขอบคุณพี่หน่องนะคะ ที่มอบบทบาทของการะเกดและเกดสุรางค์ให้กับเบล แล้วยิ่งตอนนี้กระแสดังไปไกลอีกหลายๆเลยคะ อย่างประเทศจีน และก็มีแฟนๆอีกหลายประเทศเลยคะที่โพสต์รูปเบลในลีลาการทำปากคว่ำบ้าง แต่งตัวเป็นเกดสรางค์บ้าง คือเบลก็ดีใจนะคะ ที่กระแสตอบรับดีมากขนาดนี้ แล้วเบลก็ได้อ่านกระแสต่างในทวิตเตอร์ที่ติดแฮดแทคมาคะ ก็ดีใจคะที่ทุกคนชื่นชอบและชื่นชมในตัวเบลและก็ตัวนักแสดงทุกๆคนในเรื่องนี้ คือเรียกว่าทุกคนมีบทบาทที่สำคัญในทุกตัวละครซึ่งก็เต็มที่ในการทำงานครั้งนี้คะ และฉากที่เป็นไฮไลต์กับกระแสที่ดังในตอนนี้คือ ท่าปากคว่ำ เบลขอบอกเลยว่า กว่าจะท่าปากคว่ำจะออกมาแบบนี้คือหลายเทคมากมาก พี่ใหม่ ผู้กำกับของเราทำงานละเอียดมาก เอารูปพี่กิ๊ก สุวัจนี มาให้ดูจริงๆ คือต้องเบะให้ได้เท่านี้ ต้องมีองศาประมาณนี้ คือ พี่ใหม่ทุ่มเทจริงคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนคะ ยังไงเบลก็ฝากติตามกันด้วยนะคะรับรองสนุกแน่นอจริงๆและแถมยังได้รู้ความหมายของคำของคนพูดสมัยโบราณกันอีกด้วย"

          แฟนๆละคร ต้องห้ามพลาดกับออเจ้าแม้แต่ตอนเลยนะเจ้าคะ ความสนุกจะเข้มข้นขึ้นทะลุผ่านจอไปยังกรุงศรีอยุธยาเลยก็ว่าได้!!! ทำเอาพระนครต้องสะเทือนแน่นอนใน "บุพเพสันนิวาสทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา20.20 - 22.50 น.ทางช่องไทยทีวีสี 3 และช่อง 3 HD

ละคร “บุพเพสันนิวาส” ตอนที่ 5 ออกอากาศวันพุธที่ 7 มีนาคม 2561









          เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า-ราณี) ตื่นเต้นที่ได้พบบุคคลที่เธอรู้จักในประวัติศาสตร์อีกคน คือ โกษาปาน (เก่ง-ชาติชาย) ที่มาพร้อมกับ โกษาเหล็ก (หนู-สุรศักดิ์) และ แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง-กัญญ์ณรัณ) ได้มาร่วมสนทนาและต่อบทโคลงกลอนกันที่เรือนของ ออกญาโหราธิบดี (หนิง- นิรุตติ์) เธอรู้ชะตากรรมของเขาเหล่านั้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้จะพยายามส่งสัญญาณเตือนด้วยความหวังว่าอาจจะช่วยไม่ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้น แต่เธอก็ต้องตระหนักว่า กงล้อประวัติศาสตร์ไม่สามารถหมุนกลับได้ หนำซ้ำหมื่นสุนทรเทวาไม่เชื่อ ยิ่งกล่าวหาว่าเกศสุรางค์เป็นหญิงวิปลาส ทำให้เกศสุรางค์น้อยใจ จึงขอลงจากเรือน เมื่อเกศสุรางค์เห็นมะม่วงเลยนึกทำมะม่วงน้ำปลาหวานให้แขกมาเยือนบ้าน และบ่าวไพร่ในเรือนได้ลองกินกัน ทุกคนต่างพากันติดอกติดใจ เพราะเป็นสิ่งที่แปลกใหม่และไม่เคยมีใครเคยได้ทานมาก่อนทุกคนเอ็นดูในความน่ารักของเกศสุรางค์ในร่างการะเกดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ หมื่นสุนทรเทวา (โป๊ป-ธนวรรธน์) เกิดความรู้สึกที่เปลี่ยนไป และคอยจะพาการะเกดไปเที่ยวที่ต่างๆในอยุธยา และก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเรือที่หมื่นสุนทรเทวาและเกศสุรางค์นั่งมาเกิดล่ม และหมื่นสุนทรเทวาถูกเรืออีกลำกระแทกที่กกหูจนตกน้ำสลบไป เกศสุรางค์ใช้วิธี "เมาท์ทูเมาท์" ช่วยให้ฟื้นขึ้นมาได้ และในระหว่างที่เกศสุรางค์ช่วยชีวิตหมื่นสุนทรเทวานั้น หมื่นสุนทรเทวายังเห็นเกศสุรางค์ตัวจริงในร่างของการะเกด ทำให้หมื่นสุนทรเทวาเกิดคำถามขึ้นมากมายอยู่ในใจ แต่การที่ผู้หญิงในสมัยก่อนเมาท์ทูเมาท์ผู้ชายกลางตลาดแบบนี้ ทำให้เล่าลืออื้ออึงไปทั่วพระนคร เรื่องราวกำลังสนุกเข้มข้น ติดตามชมได้ในละคร "บุพเพสันนิวาส" คืนวันพุธที่ 7 มีนาคม 2561 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD (ช่อง 33)

เม้าท์ทูเม้าท์!! ทั่วพระนคร “เบลล่า” ผายปอด “โป๊ป” กลางตลาด ใน “บุพเพสันนิวาส”









          ถึงคราวที่ทั้งสองพระนาง "โป๊ป-ธนวรรธน์" และ "เบลล่า-ราณี" จะมาเสิร์ฟความฟินให้กับแฟนละคร "บุพเพสันนิวาส" ได้ฟินจิกหมอนกันชุดใหญ่กันแล้วละจ้า ในฉากที่ หมื่นสุนทรเทวา (โป๊ป-ธนวรรธน์) พา เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า-ราณี) นั่งเรือไปเที่ยวตลาด ระหว่างทางเกศสุรางค์ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของสมัยอยุธยาจนเรือโคลง หมื่นสุนทรเทวารีบคว้าตัวเกศสุรางค์ไว้แต่ไม่ทัน ทำให้ทั้งคู่จมน้ำ ในระหว่างหมื่นสุนทรเทวาลอยคออยู่ในน้ำ จู่ๆ มีเรืออีกลำดันพุ่งมาชนหมื่นสุนทรเทวาเข้าอย่างจัง ทำให้หมื่นสุนทรเทวาหมดสติแน่นิ่งจมดิ่งลงไปใต้น้ำ เกศสุรางค์จึงใช้ความสามารถที่ตนเคยเป็นนักว่ายน้ำในยุคปัจจุบันดำลงไปช่วยหมื่นสุนทรเทวา แต่เมื่อช่วยหมื่นสุนทรเทวาขึ้นมาได้เขากลับไม่ได้สติ เกศสุรางค์ตกใจด้วยความเป็นห่วง จึงตัดสินใจใช้วิธีเม้าท์ทูม์ทูเม้าท์าท์ผายปอดให้หมื่นสุนทรเทวาเพื่อช่วยชีวิต ทำเอาหมื่นสุนทรเทวาถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เพราะไม่มีผู้หญิงในสมัยอยุธยาคนไหนจูบผู้ชายก่อน แล้วยิ่งต่อหน้าผู้คนกลางตลาดไปอีก งานนี้เลยเก็บเบื้องหลังฉากความวุ่นวายปนความน่ารักของเกศสุรางค์มาให้ชมกัน รับประกันว่าฉากนี้ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

          โดยฉากนี้ใช้เวลาถ่ายทำกันถึง 2 วัน 2 สถานที่กันเลย โดยวันแรกถ่ายทำกันที่แอ๊กซ์สตูดิโอ เพื่อถ่ายฉากใต้น้ำก่อน เป็นคัทที่โป๊ปจมน้ำแล้วเบลล่าต้องดำลงไปช่วย เมื่อเบลล่ารู้ว่าจะต้องดำลงไปลึกถึงก้นสระก็ถึงกับหน้าซีด ด้วยความที่ว่ายน้ำไม่แข็ง แต่ด้วยสปิริตเบลล่าขอดำเองโนแสตนอิน งานนี้โป๊ปจึงออกตัวว่าไม่ต้องกลัวหรอกถ้าเกิดไรขึ้นพี่จะดันตัวน้องขึ้นเอง แหมๆ พระเอกมากค่ะพี่โป๊บ!!! จากนั้นมาต่อกันที่คัทเบลล่าช่วยโป๊บขึ้นจากน้ำเป็นวันที่ 2 ของการถ่ายทำ "พี่ใหม่-ภวัต พนังคศิริ" ผู้กำกับ ยกทีมงานไปถึงค่ายนเรศวร จ.กาญจนบุรี ซึ่งในวันนั้นต้องทำงานแข่งกับแสงอาทิตย์ยามเย็น ไม่รอช้าเริ่มที่เบลล่าดึงโป๊ปที่หมดสติขึ้นมาจากน้ำ แต่โป๊ปไม่ฟื้น เบลล่าเลยตัดสินใจเม้าท์ทูเม้าท์ช่วยชีวิตโป๊ปทันที ซึ่งไม่ง่ายนัก เพราะพี่ใหม่อยากให้เบลล่าแสดงท่าทางที่ถูกวิธี จึงต้องทบทวนขั้นตอนการผายปอดกันตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว เมื่อเบลล่าเข้าใจก็ถ่ายทำกันเลย แค่คัทแรกเทคแรกตอนเม้าท์ทูเม้าท์ทั้งโป๊ปและเบลล่าหลุดขำกันเลย เพราะเมื่อกลางวันเบลล่าจัดหนักกินทั้งแกงส้มไข่อม ส้มตำปูปลาร้า พอโป๊ปรู้ว่าเบลล่าจัดเต็มมาขนาดนี้ ทำเอาโป๊ปหวั่นใจเพราะต้องใกล้ชิดถึงขั้นลมหายใจใกล้กัน แต่ด้วยความที่พี่ใหม่ต้องการภาพที่หลากหลายเลยขอเปลี่ยนมุมกล้องเพื่อความสวยงามแบบครบถ้วน งานนี้ทั้งคู่จึงต้องใกล้ชิดกันไปมาอีกนับไม่ถ้วน ทั้งกลั้นหายใจใส่กัน ทั้งขำกันอยู่หลายรอบ ทำเอาทั้งโป๊ปและเบลล่าเกือบหมดแรง เรียกว่ากว่าจะผ่านฉากนี้ไปได้ก็ทั้งนักแสดงและทีมงานก็ลุ้นและเกร็งไปตามๆกัน เห็นเบื้องหลังยังสนุกขนาดนี้เตรียมล้างตาไว้ได้เลย เพราะ "บุพเพสันนิวาส" จะออนแอร์ฉากนี้ให้ได้ชมกันในคืนวันพุธที่ 7 มีนาคม 2561 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 33 HD ห้ามพลาด!!!

ละคร “บุพเพสันนิวาส” ตอนที่ 6 ออกอากาศวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2561









          เหตุการณ์ที่ เกศสุรางค์ (เบลล่า-ราณี) ใช้วิธี "เมาท์ทูเมาท์" ช่วยชีวิต หมื่นสุนทรเทวา (โป๊ป-ธนวรรธน์) ให้ฟื้นขึ้นมา เรื่องนี้เป็นที่โจษจันอื้ออึงทั้งอยุธยา หมื่นสุนทรเทวาจึงเสนอตัวว่าจะออกเรือนกับการะเกด เพราะเริ่มรู้สึกตกหลุมรักเกศสุรางค์ในร่างการะเกดไปเสียแล้ว เกศสุรางค์ก็เช่นกันความรู้สึกดีๆก่อตัวขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เกศสุรางค์ต้องหักห้ามใจ ว่าเธอไม่สามารถรักหมื่นสุนทรเทวาได้เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าหมื่นสุนทรเทวาคือคู่หมายของการะเกดไม่ใช่ของตนเอง

          หมื่นสุนทรเทวาได้รับอวยยศเป็น ขุนศรีวิสารวาจา ในขณะเดียวกัน หมื่นเรื่องราชภักดี ได้รับอวยยศเป็น ขุนหลวงอภัยภักดี และในวันนั้นเอง ออกพระวิสุทร (เก่ง-ชาติชาย) ได้เข้ามาเจรจากับขุนศรีวิสารวาจาและขุนหลวงอภัยภักดี ถึงเรื่องที่ ออกหลวงสุรสาคร (หลุยส์ สก๊อตต์) คิดการร้ายที่อาจส่งผลกระทบต่อ พระยาโกษาเหล็ก (หนู-สุรศักดิ์) ส่วนหลวงสุรสาครก็เดินหน้าเข้าหา แม่มะลิ (ซูซี่-สุษิรา) หลังจากที่หลวงสุรสาครได้ตกหลุมรักและต้องการจะแต่งงานกับมะลิ แต่แม่มะลิยืนกรานกับฟานิกผู้เป็นพ่อว่านางก็ไม่มีวันแต่งงานกับหลวงสุรสาครถึงขั้นเอ่ยว่าเหตุผลคือนางเกลียด หลวงสุรสาครทำให้ฟานิกผู้เป็นพ่อเป็นกังวลใจถึงเหตุการณ์ที่จะตามมา "บุพเพสันนิวาส" จะนำพาความรักความรักดำเนินต่อไปอย่างไร โปรดติดตามได้ในตอนต่อไป คืนวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2561 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD (ช่อง 33)

ละคร “บุพเพสันนิวาส” (ตอนที่7) ออกอากาศวัน พุธ ที่ 14 มีนาคม 2561









          เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า-ราณี) พูดกับ ขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป-ธนวรรธน์) ถึง แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง-กัญญ์ณรัณ) และ แม่มะลิ (ซูซี่-สุษิรา) ที่มีใจให้ขุนศรีวิสารวาจา แต่ ขุนศรีวิสารวาจากลับพูดเป็นนัยว่า ให้การะเกดกลับกลับไปส่องคันฉ่อง (กระจก) ดูนั้นคือคนที่ตัวเองพอใจ ทำให้เกศสุรางค์ถึงกับหวั่นไหวในใจ ด้าน คุณหญิงจำปา (เหมียว-ชไมพร) ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของขุนศรีวิสารวาจา ที่คิดจะออกเรือนกับการะเกด หลังจากเหตุการณ์ "เม้าท์ทูเมาท์" กลางตลาด ถึงแม้ว่าการะเกดจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ไม่มีใครรู้ว่าวิญญาณที่อยู่ในตัวการะเกดนั้นคือเกศสุรางค์ เพราะความร้ายกาจที่การะเกดเคยทำไว้ แต่ถึงกระนั้นคุณหญิงจำปาก็ยอมรับในการตัดสินใจของขุนศรีวิสารวาจา จึงยอมสอนงานบ้านงานเรือนให้กับการะเกด ทำให้คุณหญิงจำปาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการะเกดจนมองเป็นเอ็นดู ด้านเกศสุรางค์เองยังคงสนุกสนาน ที่จะนำอะไรแปลกใหม่มาให้ทุกคนได้เห็น สิ่งนั้นก็คือ "เครื่องกรองน้ำ" ยิ่งพาให้ทุกคนในเรือนตื่นตาตื่นใจเพราะไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน แต่ขึ้นชื่อว่าเกศสุรางค์ก็มีเรื่องวุ่นวาย ต้องให้ขุนศรีวิสารวาจาต้องปวดหัวอีกแล้ว เมื่อเกศสุรางค์แอบหนีไปเดินตลาดท่าจีน ซึ่งเป็นตลาดที่เลืองชื่อเรื่องผู้หญิงโคมเขียว ครั้งนี้เกศสุรางค์ได้ไปมีเรื่องทะเลาะตบตีกับจีนเฝ้าซ่อง จนทำให้เรื่องถึงหูคุณหญิงจำปา! และเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้เกศสุรางค์ได้พบกับบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อีกคนหนึ่งนั่นก็คือ หลวงศรียศ (เอิร์ท-วิศววิท)

          หลังจากที่ หมื่นสุนทรเทวา ได้รับอวยยศขึ้นเป็น ขุนศรีวิสารวาจา ก็มีงานราชการเข้ามา ขุนศรีวิสารวาจาต้องไปออกงานราชทูตที่ฝรั่งเศสกับท่าน พระวิสุทธสุนทร (เก่ง-ชาติชาย) ที่จำเป็นต้องห่างบ้านห่างเรือนเป็นปีๆ เรื่องราวสนุกเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะเลยหนาออเจ้า ติดตาม "บุพเพสันนิวาส" ตอนต่อไป ในวันที่พุธที่ 14 มีนาคม 2561 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD (ช่อง 33)

ละคร “บุพเพสันนิวาส” (ตอนที่8) ออกอากาศวัน พฤหัสบดี ที่ 15 มีนาคม 2561









          ขุนศรีวิสารวาจา (โป๊ป-ธนวรรธน์) ได้พา เกศสุรางค์ในร่างการะเกด (เบลล่า-ราณี) และบ่าวไพร่ไปงานแข่งเรือประเพณีโบราณ พร้อมกับ แม่หญิงจันทร์วาด (ปราง-กัญญ์ณรัณ) ซึ่งมีเรือของเหล่าขุนนาง นำโดย ขุนเรืองอภัยภักดี (ปั้นจั่น-ปรมะ) , หลวงสรศักดิ์ (ก๊อต-จิรายุ) และ หลวงศรียศ (เอิร์ท-วิศววิท) เข้าร่วมแข่งขันกับพวกชาวบ้านในการแข่งเรือครั้งนี้ เกศสุรางค์จึงเต้นและร้องเพลงเชียร์เรือเหล่าขุนนางพร้อมทั้งสั่งให้บ่าวไพร่ร้องเพลงเชียร์ด้วย ปรากฎเรือขุนนางเป็นฝ่ายชนะ หลังจากนั้นขุนศรีวิสารวาจาก็พาการะเกดไปก่อกองทรายในงานวัดร่วมกับแม่หญิงจันทร์วาดและขุนหลวงอภัยภักดี แม่หญิงจันทร์วาดสังเกตุเห็นถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของขุนศรีวิสารวาจาที่มีต่อการะเกด ขุนเรืองอภัยภักดีเห็นอกเห็นใจแม่หญิงจันทร์วาด จึงมีท่าทีอยากจะเข้ามาดูแลหัวใจของแม่หญิงจันทร์วาด ขุนศรีวิสารวาจารู้สึกว่าการะเกดนั้นมิใช่คนเดิมอีกต่อไป เพียงแต่ความงดงามภายในจิตใจของเกศสุรางค์ ทำให้ขุนศรีวิสารวาจานั้นหมดคำถาม ไม่อยากรู้ว่าเธอคือใครอีกต่อไป ทำได้เพียงแค่รอให้บุพเพสันนิวาสพาดำเนินต่อไป ส่วน แม่มะลิ (ซูซี่-สุษิรา) ตัดสินใจรับปากจะแต่งงานกับ หลวงสุรสาคร (หลุยส์ สก๊อตต์) เพราะหลวงสุรสาครยอมเปลี่ยนศาสนามาเพื่อแต่งงานกับแม่มะลิ และด้วยเหตุผลที่รู้ว่าความรักของแม่มะลิที่มีต่อ ขุนศรีวิสารวาจาไม่มีทางเป็นไปได้ และในวันนั้นเองเกศสุรางค์จึงได้รู้ว่าหลวงสุรสาครคือ คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ ส่วนแม่มะลิคือ มารี เดอ กีมาร์ หรือ ท้าวทองกีบม้า บุคคลสำคัญสองคนในประวัติศาสตร์ไทยนั่นเอง และความอยากรู้อยากเห็นของเกศสุรางค์ทำให้เธอได้รู้ คอนสแตนติน ฟอลคอน คือชาวฝรั่งที่เข้ามาทำงานกับ โกษาเหล็ก (หนู-สุรศักดิ์) โดยหารู้ไม่ว่า คอนสแตนติน ฟอลคอนผู้นี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหามากมายในวงราชการ จนถึงขั้นมีผู้ที่ต้องเสียชีวิต! งานนี้จักต้องมีผู้ใดที่เสียเลือดเสียเนื้อ ติดตามชม "บุพเพสันนิวาส" ได้ในตอนต่อไป ในวันที่พฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม 2561 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 และช่อง 3 HD (ช่อง 33)