MSN on March 17, 2015, 01:00:02 PM
บางกอก อินเตอร์เนชัลแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36

สถานที่: อิมแพ็ค เมืองทองธานี

วันที่จัดกิจกรรม: 25 มีนาคม 2558 - 5 เมษายน 2558 เวลา 11:00 น.
 
บางกอก อินเตอร์เนชัลแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36
Type :Exhibition Public
Date :25 March 2015 - 05 April 2015
Detail :สถานที่จัดงาน: ชาเลนเจอร์ 1-3
บัตรราคา 100 บาท

วันวีไอพี (VIP Day) 23 มี.ค. เวลา 12.00 - 20.00 น.
วันสื่อมวลชน (Press Day) 24 มี.ค. เวลา 09.59 - 18.00 น.
วันจัดแสดงงาน (Public Day) 25 มี.ค. - 5 เม.ย.
จ.-ศ. เปิด-ปิด เวลา 12.00 - 22.00 น.
ส.-อา. เปิด-ปิด เวลา 11.00 - 22.00 น.

Contact Event Organizer
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด
โทร. 02-971-6467
เว็บไซต์: www.grandprixgroup.com
เว็บไซต์งาน: www.bangkok-motorshow.com
« Last Edit: March 24, 2015, 03:15:23 PM by MSN »

MSN on March 17, 2015, 01:01:13 PM
โซนี่ ร่วมออกบู๊ธจัดแสดงเทคโนโลยีล่าสุดในงาน Motor Show 2015



           บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เตรียมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีล่าสุดที่งาน Bangkok International Motor Show 2015 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 บู๊ธ D02 อิมแพค เมืองทองธานี ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน ศกนี้

          พบกับผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องเสียงรถยนต์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ชุดฟร้อนท์ระดับไฮเรสออดิโอ ซึ่งนำมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในเอเซีย ส่งตรงจากงาน CES 2015 และการเปิดตัวครั้งแรกของ เครื่องเล่นวิทยุซีดีในรถยนต์กำลังขับสูงถึง 100 วัตต์ในตัว เครื่องแรกในโลกที่ให้เสียงกระหึ่มทรงพลังโดยไม่ต้องต่อแอมป์พลิฟลายเออร์เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงพกพาระดับไฮเรสออดิโอ และกล้อง Action Cam และเร้าใจกับโปรโมชั่นราคาพิเศษ พร้อมของสมนาคุณสุดคุ้มภายในงาน ตลอดจนกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

          โซนี่ไทยจึงใคร่ขอเรียนเชิญสื่อมวลชน และผู้สนใจทุกท่านที่มีโอกาสเข้าชมงาน Bangkok International Motor Show 2015 แวะชมเทคโนโลยี และสัมผัสประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์โซนี่ล่าสุดได้ที่บู๊ธโซนี่ ที่งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม จนถึง 5 เมษายน ศกนี้

MSN on March 17, 2015, 01:17:59 PM
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เตรียมแนะนำ “เดลิกา สเปซ แวกอน”รถยนต์อเนกประสงค์ เหนือระดับ (Premium MPV) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และแอททราจรุ่นปี 2015 ในงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36



           มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว “เดลิกา สเปซ แวกอน”รถยนต์อเนกประสงค์เหนือระดับ (Premium MPV) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เจาะกลุ่มนักธุรกิจและครอบครัว พร้อมด้วยมิตซูบิชิ “แอทราจใหม่ รุ่นปี 2015” ที่ปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ให้การประหยัดน้ำมันพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันยิ่งขึ้น พร้อมส่งรถครบไลน์ร่วมงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ พลาดไม่ได้กับข้อเสนอสุดพิเศษดาวน์ต่ำ 10% ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% บัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 25,000 บาท และฟรีประกันภัยชั้น 1 ลุ้นรับทองคำมูลค่า 58 บาท และข้อเสนอพิเศษอีกมากมายในงานและที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ

          มร. โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้ว่าในปีนี้มิตซูบิชิ เตรียมเปิดตัว“เดลิกา สเปซ แวกอน”รถยนต์อเนกประสงค์เหนือระดับ (Premium MPV) นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่โดดเด่นด้วยระบบความปลอดภัยครบครัน สมรรถนะและดีไซน์ที่ลงตัวทั้งภายนอกและภายใน ห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายรองรับได้ถึง 7 ที่นั่ง ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เหมาะสำหรับนักธุรกิจและผู้ที่มองหารถสำหรับครอบครัว พร้อมแนะนำรถยนต์มิตซูบิชิ “แอททราจ รุ่นปี 2015” ที่ได้รับการปรับโฉมภายนอกให้เท่ยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าและคิ้วฝากระโปรงท้ายแบบโครเมียมรมดำ ล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว สีเงินรมดำ พร้อมสีมาตรฐานใหม่ “สีเทาไทเทเนี่ยม” โดยภายในมาพร้อมเบาะหนังสีดำ เพิ่มความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยการเย็บด้วยด้ายสีแดงนอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่ครบครันยิ่งขึ้นและยังคงให้ความประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม

          นอกเหนือจากการเปิดตัว 2 รุ่นดังกล่าวแล้ว มิตซูบิชิยังคงนำรถรุ่นต่างๆ ร่วมงานครบทุกรุ่นทั้ง มิตซูบิชิ “มิราจ” รุ่นปี 2015 ที่มาพร้อมนิยาม “ให้คุณสนุกได้มากกว่า” และมิตซูบิชิ “ไทรทันใหม่” รถกระบะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์การเป็นที่สุดของรถกระบะอเนกประสงค์แบบสปอร์ต “Ultimate Sport Utility Truck” ที่มาโชว์ครบทุกรุ่นทั้ง ดับเบิ้ลแค็บ เมกะแค็บและซิงเกิ้ลแค็บ รวมไปถึงมิตซูบิชิ “ปาเจโร่ สปอร์ต” รุ่น

          ปี 2014 ที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งชุดไฟส่องสว่างกลางวันฟรีสำหรับทุกรุ่น รวมทั้งมิตซูบิชิ “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” พิเศษกับอีกไฮไลท์ของงานด้วยรถยนต์มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ตกแต่งพิเศษซึ่งได้แรงบันดาลใจจากความชอบส่วนตัวของ “มาริโอ้ เมาเร่อ” พรีเซ็นเตอร์ของมิตซูบิชิ แอททราจ และ “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” นักแสดงหญิงชื่อดัง

          นอกจากนี้ยังมีโซนใหม่ของงานบริการหลังการขายภายใต้ชื่อ “Believe in Mitsubishi … Believe in Service” เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานบริการหลังการขาย พร้อมจัดแสดงอุปกรณ์ตกแต่งมิตซูบิชิ ไทรทันใหม่และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ RalliArt ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ รุ่นดับเบิ้ลแค็บภายในงานจะได้รับสติกเกอร์คาร์บอนติดเสาประตูกลางมูลค่า 610 บาท พร้อมติดตั้งฟรีในวันรับรถ

          สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์มิตซูบิชิภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 และที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้ รับข้อเสนอพิเศษดังนี้ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่เลือกดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 10% หรือผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน และบัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท ในขณะที่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รับดอกเบี้ย 0% ส่วนมิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รับดอกเบี้ยต่ำ 1.45% โดยรับเพิ่มบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 25,000 บาท และ“ไดมอนด์ โปรเทคชั่น” ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงฟรี 1 ปี

          ทั้งนี้ลูกค้าที่รับมอบรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2558 มีสิทธิ์ลุ้นรับทองคำและคูปองน้ำมันจากกิจกรรม “มิตซูบิชิ แฮปปี้ เฟสติวัล” (Mitsubishi Happy Festival) รวม 580 รางวัลมูลค่ารวมกว่า 8.6 ล้านบาท
          - ทองคำหนัก 58 บาท จำนวน 1 รางวัล
          - ทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 200 รางวัล
          - คูปองน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท จำนวน 379 รางวัล
          พิเศษ…!! สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นในงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36;
          - กระเป๋าเดินทางสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงาน และรับรถภายในวันที่ 31 พฤษภาคม
          - ผ้าขนหนูไทรทันสำหรับลูกค้าที่ทดลองขับภายในงาน

          ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์มิตซูบิชิ ในงาน “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่36 และโชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายนนี้
          สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 หรือ โทร. 02-529-9500 ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น.

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยได้ที่
Website : http://www.mitsubishi-motors.co.th
Facebook : https://www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
Instagram : @MitsubishiMotors_Thailand
Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand

MSN on March 17, 2015, 01:19:01 PM
Mitsubishi Motors to introduce “Delica Space Wagon”, the premium MPV imported from Japan and “Attrage 15MY” at the 36th Bangkok International Motors Show



           Mitsubishi Motors Thailand will introduce “Delica Space Wagon”, a premium MPV, which is imported from Japan and caters to business and family usages, at the upcoming Bangkok International Motor Show. Also to be highlighted is the Mitsubishi “Attrage” 15MY that boasts a new exterior and interior design, and still offers low fuel consumption as well as a host of safety features. A complete line-up of Mitsubishi products will be presented at the show with special promotions being offered – 10% low-down payment, 0% interest rate, Mitsubishi gift voucher with a maximum value of 25,000 Baht and free first-class insurance. In addition customers who place orders at the show are also eligible for special lucky draw prizes including 58 bath of gold. All special promotions campaigns will be offered at the show and at all Mitsubishi dealerships nationwide.

          Mr. Morikazu Chokki, President of Mitsubishi Motors (Thailand) Co. Ltd., talked about Mitsubishi’s participation at the upcoming 36th Bangkok International Motor Show, which will be held during March 25 through April 5, stating that Mitsubishi will introduce “Delica Space Wagon”, a premium MPV model imported from Japan. “The new model delivers outstanding exterior design and utility together with high level of safety functions, performance, spacious interior with 7 seats plus complete utility. It is an ideal MPV for businessmen and those looking for a perfect family vehicle,” he said. Meanwhile, the Mitsubishi “Attrage 15MY” comes with an updated design to enhance its appearance with dark chrome front grille and trunk lid garnish, dark chrome 15-inch alloy wheels and new “Titanium Grey” body color. The interior provides a higher level of sportiness through the black leather-upholstered seats with red stitching. The Attrage’s main highlights include its extremely low fuel consumption and full package of safety functions.
Apart from the introduction of these two models, Mitsubishi will also be exhibiting a full range of products. While the “Mirage 15MY” is featured with the “Make life more fun” slogan, the Mitsubishi “All New Triton” has been developed under the “Ultimate Sport Utility Truck” concept and will be shown in single cab, mega cab and double cab body variants. The Mitsubishi “Pajero Sport 14MY” comes with improvements including daytime running lights that are offered as standard across the range. The Mitsubishi “Lancer EX” compact sedan will also be presented. The Mitsubishi “Attrage and Mirage” that are specially customized through inspiration from celebrities “Mario Maurer”; the Mitsubishi Attrage presenter and “Taew Nattaporn Tameeruks” will also be displayed as the highlights at the Mitsubishi showcase.

          At Mitsubishi’s booth, a new zone for After Sales service, Accessories and RalliArt products will be introduced under the theme “Believe in Mitsubishi … Believe in Service”. It will provide after sales service information, display accessories for the All New Triton and RalliArt products for sale. Customers who place orders for the All New Triton Double Cab will also receive B-pillar decoration foil worth 610 Baht with free installation on delivery date.

          Customers who place orders for Mitsubishi vehicles at the 36th Bangkok International Motor Show and at all Mitsubishi showrooms nationwide from March 25 to April 5 will also enjoy special offers. All New Triton buyers can choose between low down payment starting at 10% or 84-month installment plan, and get a Mitsubishi gift voucher valued at 10,000 Baht, while customers who book the Pajero Sport will be offered 0% interest rate and 1.45% interest rate for the Mirage, Attrage and Lancer EX. All models come with Mitsubishi gift vouchers with maximum value of 25,000 Baht and the “Diamond Protection” package consisting of first-class vehicle insurance and 24-hour roadside assistance service for 1 year.

          In addition, customers who receive their vehicles within April 30 this year are also eligible for the “Mitsubishi Happy Festival” campaign lucky draw and stand a chance to win gold and gift vouchers worth a total of over 8.6 million Baht.
          - 1st prize 58-Baht Gold 1 prize
          - 2nd prize 1-Baht Gold 200 prizes
          - 3rd prize 10,000 Baht gift voucher 379 prizes
          Special…!! Booking customers at the 36th Bangkok International Motor Show will receive:

          Travelling bag for customers who place orders at the Motor Show and receive the vehicle within May 31. All New Triton towel for customers who book a test drive at the Motor Show.

          Details of special campaign for customer who purchase any model of Mitsubishi at the 36th Bangkok International Motor Show and nationwide showroom from 25 March till 5 April 2015

          For more information please contact “Mitsubishi Dealers nationwide” or call “Mitsubishi Call Center”: 1800 900 009 or 02-529-9500 from Monday - Saturday during 8.30-17.00.

Please follow Mitsubishi Motors Thailand’s movement from;
Website : http://www.mitsubishi-motors.co.th
Facebook : https://www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
Instagram : @MitsubishiMotors_Thailand
Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand

MSN on March 17, 2015, 01:22:03 PM
ซูบารุ เตรียมเผยโฉม All NEW OUTBACK สุดยอดรถยนต์ด้านความปลอดภัยครั้งแรกในไทยด้วยราคา 2.59 ล้านบาท







           ซูบารุ เตรียมเผยโฉม All NEW OUTBACK สุดยอดรถยนต์ด้านความปลอดภัยครั้งแรกในไทย ด้วยราคา 2.59 ล้านบาท ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 25 มี.ค. – 5 เม.ย. นี้ ที่ ชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี

          ซูบารุ พร้อมลงสังเวียนตลาดรถครอสโอเวอร์เมืองไทยแบบเต็มสูบ ล่าสุดส่ง ‘The All-new OUTBACK’ ร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 หลังจากเรียกน้ำย่อยด้วยการอวดโฉมให้แฟนคลับชาวไทยได้สัมผัสโมเดลใหม่ล่าสุดไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

          บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ซูบารุจะใช้เวทีการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 เป็นเวทีที่จะเผยโฉม Flagship Model แห่งปี อันได้แก่ ‘The All-new OUTBACK’ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ในราคา 2.59 ล้านบาท รถยนต์รุ่นนี้ได้รับผลตอบรับที่ดีจากทั่วทุกมุมโลกที่พิสูจน์สมรรถนะ จนสามารถคว้ารางวัลการการันตีด้านความปลอดภัย จากหลายสถาบัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ ‘The All-new OUTBACK’ สามารถสร้างยอดขายแบบติดลมบน ในทุกประเทศทั่วโลก และปรากฏการณ์ดังกล่าวกำลังจะเกิดขึ้นในเมืองไทยด้วยเช่นกัน

          ‘The All-new OUTBACK’ สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะแห่งผู้นำด้านคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยการคว้ารางวัลการันตีระดับโลกมาครองได้อย่างภาคภูมิ อาทิ รางวัลการันตีความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก 2014 European New Car Assessment Programme (EURO NCAP), รางวัล 2015 Canadian Black Book (CBB) Best Retained Value Award ถือเป็นการคว้ารางวัลสุดยอดรถยนต์คุณภาพแบบ 6 ปีซ้อน, รางวัลรถยนต์ที่ปลอดภัยสูงสุดแห่งปีจาก 2015 TOP SAFETY PICK (TSP) เป็นต้น และด้วยคุณภาพ สมรรถนะแห่งความเป็นที่สุดนี้ ‘The All-new OUTBACK’ จึงเป็นหลักที่ช่วยผลักดันให้ยอดขายรถยนต์ซูบารุ ในอเมริกาพุ่งสูงสุดถึง 500,000 คันในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จที่ซูบารุต้องจารึกไว้ อย่างเต็มภาคภูมิ

          ทั้งนี้ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 นอกจากจะเปิดตัวรถครอสโอเวอร์สุดฮอตระดับโลก อย่าง‘The All-new OUTBACK’ เป็นครั้งแรกในไทยแล้ว บ.ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) ยังได้เอาใจผู้ที่ชอบความเร็วและแรง ผสานความดุดันของเครื่องยนต์ซูบารุ ด้วยการเผยโฉมรถสปอร์ต ‘ซูบารุ BRZ’ ในราคาเริ่มต้นที่ 2.08 ล้านบาท และเผยโฉมรถสปอร์ตซิกเนเจอร์ของซูบารุ WRX STI ที่มาพร้อมชุดแต่ง ‘STI KIT’ เอกสิทธิ์แห่งดีไซน์ที่ผสานความแรงอย่างลงตัว ในราคา 3.35 ล้านบาท และผู้ที่ชอบการเดินทางในทุกมิติก็ยังได้สัมผัส กับ ‘SUBARU FORSTER’ ในราคาเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท ภายในงานอีกด้วย

MSN on March 17, 2015, 01:24:04 PM
Subaru Ready to Unveil All NEW OUTBACK, the Ultimate in Automotive Safety,for the First Time in Thailand for 2.59 Million Baht at the 36th Bangkok International Motor Show







          Subaru Ready to Unveil All NEW OUTBACK, the Ultimate in Automotive Safety, for the First Time in Thailand for 2.59 Million Baht at the 36th Bangkok International Motor Show from March 25 - April 5 at Challenger Hall,  IMPACT Muang Thong Thani

          Subaru is ready to fully enter the Thai crossover market with its latest launch of the “All-new OUTBACK” at the 36th Bangkok International Motor Show, after giving the Thai fan club a preview of the new model at the end of last year.

          TC Subaru (Thailand) Co., Ltd. revealed that Subaru will take the stage at the 36th Bangkok International Motor Show to showcase the flagship model of the year. This “The All-new OUTBACK” will be officially launched in Thailand, with a price tag of 2.59 million baht. This vehicle has been well-received in every corner of the globe, where it has received awards from many institutions that guarantee its safety features. This is the main factor that allows “The All-new OUTBACK” to command steady sales in countries all over the world. And now, the phenomenon is here in Thailand, as well.

          “The All-new OUTBACK” has demonstrated Subaru’s power as the leading provider of quality and safety. It has been the proud recipient of numerous awards, such as the 5-star safety designation from the 2014 European New Car Assessment Programme (EURO NCAP); the 2015 Canadian Black Book (CBB) Best Retained Value Award, a great reflection of quality as the company has won such an award for six consecutive years; and the safest car of the year award from 2015 TOP SAFETY PICK (TSP), among others. This superior performance has boosted sales of “The All-new OUTBACK” for Subaru in the United States, which shot up to 500,000 units last year. This is indeed a proud record of success for Subaru.

          In addition to the launch of “The All-new OUTBACK” crossover at the 36th Bangkok International Motor Show for the first time in Thailand, TC Subaru (Thailand) Co., Ltd. will also cater to those who love speed and power, combined with the signature qualities of a Subaru, with the unveiling of the sporty “Subaru BRZ”, with prices starting at 2.08 million baht. It will also launch Subaru’s signature sports car, “WRX STI”, which comes with a “STI KIT” of accessories that reflect an exclusive, well-executed design. This package comes with a tag of 3.35 million baht. And for those who like to travel in all dimensions, the company will showcase the “SUBARU FORSTER”, with prices starting at 1.69 million baht, at the event.

MSN on March 19, 2015, 02:48:48 PM
นิสสัน รุกตลาดหนักต้นปี นำเสนอรถครบทุกเซกเมนต์ ชู 4 โมเดลหลัก ล้ำสมัย นำตลาด ในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36


 
           นิสสัน แนะนำ นิสสัน จู๊ค ใหม่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ นิสสัน อัลเมร่า รุ่นสปอร์ตเทค รุกตลาดหนักตั้งแต่ตันปี จัดโชว์รถครบทุกรุ่นทุกเซกเมนต์ ตอบทุกความต้องการ ตอกย้ำความเป็นนวัตกรรมที่ตื่นเต้น เร้าใจ

          นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ต่อเนื่อง พร้อมยกทัพรถนิสสันมาจัดแสดงโชว์ ครบทุกรุ่นทุกเซกเมนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม ตอกย้ำพันธะสัญญาของบริษัทในการสร้างนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมแนะนำข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น ปลุกกระแสกำลังการซื้อและกระตุ้นยอดขายในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 นี้
          นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “จากความสำเร็จนับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์นิสสัน มาร์ช อีโค คาร์ คันแรกในประเทศไทย เมื่อปี 2553 รวมไปถึงการทะยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆอีก 10 รุ่น และ รุ่นไมเนอร์เชนจ์อื่นๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งใน งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36นี้ นิสสันมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สรรสร้างจากนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจและครบครันด้วยรถยนต์ทุกรุ่นทุกเซ็กเมนต์ให้แก่ลูกค้าทุกระดับที่จะเข้ามาเยี่ยมชมรถภายในบูธนิสสันของเรา พร้อมได้จัดเตรียมโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับรถแต่ละรุ่นให้กับลูกค้าได้เลือกสรร อาทิเช่น ดาวน์ต่ำ 5% หรือ อัตราดอกเบี้ย 0% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่นิสสันจะกระตุ้นกำลังการซื้อและปลุกกระแสตลาดรถยนต์ตั้งแต่ต้นปี และเรามั่นใจว่า รถยนต์ทุกรุ่นจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่ได้ไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นิสสัน ที่ล้วนเป็นรถยนต์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น เทคโนโลยีอัจฉริยะ ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความปลอดภัยที่เหนือระดับ”
          สำหรับบูธของนิสสันในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 36 จัดแสดงภายใต้แนวคิด นวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจ Innovation that excites พื้นที่ 1,728 ตารางเมตร ถูกออกแบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญการสร้างสรรค์เทคโนโลยีพร้อมกับอุปกรณ์สื่อสารรูปแบบต่างๆ ภายใต้วงแหวนแห่งประสบการณ์ โดยจะเน้นการถ่ายทอดสัมผัสแห่งความปิติยินดีที่นำเสนอจากความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจในอดีตของนิสสันในฐานะที่เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตยานยนต์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ผู้เข้าชมงานภายในบูธนิสสันยังจะได้สัมผัสนวัตกรรมการใช้พลังกลิ่นหอมของอโรมาที่ฟุ้งกระจายอยู่โดยบริเวณรอบๆ ทำให้ผู้เข้าชมงานเกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลายภายใต้บรรยากาศความพลุกพล่านและคึกคักของงานด้วย
          นิสสันได้นำรถยนต์มาจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 9 รุ่น คือ นิสสัน เทียน่า นิสสัน ซิลฟี นิสสัน ลิวิน่า นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน เออร์แวน และอีก 4 รุ่นที่นับเป็นไฮไลต์ คือ นิสสัน จู๊ค ใหม่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา และ นิสสัน อัลเมร่า รุ่นสปอร์ตเทค
          นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังได้ฉายภาพถึงจุดเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การเป็นนิสสันยุคใหม่ ที่มาพร้อมกับนโยบายเชิงรุกว่า “หลังจากการเปิดตัวนิสสันมาร์ช ซึ่งได้รับความนิยมและตอบรับอย่างล้นหลามเมื่อ 5 ปีก่อน นิสสันก็ได้ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่อาจเรียกได้ว่าเป็นยุคใหม่ของนิสสัน ซึ่งจากการไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอรถรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่มีความใหม่ แตกต่าง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งด้านสมรรถนะและดีไซน์ ที่มีความล้ำสมัย และมีความเท่ห์ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มลูกค้าของนิสสันขยายกว้างขึ้น โดยมีลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 แสนราย โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากที่สุด หลายปีมานี้และนับจากนี้ไป นิสสันจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากขึ้น โดยมีการพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการ ทั้งในด้านปริมาณและด้านคุณภาพการบริการหลังการขาย”
          นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่า “นิสสันมีแผนที่จะพัฒนาและยกระดับโชว์รูมและศูนย์บริการของนิสสันให้มีความครบวงจร ได้มาตรฐาน คลอบคลุมทุกหัวเมืองใหญ่ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราได้เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการในเมืองใหญ่หลายจังหวัด อาทิ หัวหิน นางรอง ฯลฯ โดยขณะนี้มีจำนวน 209 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 220แห่งภายในปี 2558 นี้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และมีความมั่นใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของนิสสันมากขึ้น”
          พบกับข้อเสนอสุดพิเศษอื่นๆที่น่าสนใจได้จากโปรแกรม Nissan Easy Pay ผู้สนใจสามารถสัมผัสและเยี่ยมชมนวัตกรรมรถยนต์นิสสันได้ที่บูธภายในงานตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึงวันที่ 5 เมษายน 2558 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลส์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

4 รุ่น ไฮไลท์ ของนิสสัน ในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
          นิสสัน จู๊ค ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Bold and Futuristic Design ด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ เพิ่มความดุดันด้วยไฟรี่ LED รูปทรงใหม่แบบ Boomerang Shape ล้ำสมัยและเฉียบคมด้วยกระจังหน้า กันชนหน้า และกันชนท้ายใหม่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ คนรุ่นใหม่ นำเทรนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยกับระบบสื่อสาร EZ Talk ใส่ความปลอดภัยเต็มขั้น ด้วยถุงลม 6 จุดรอบคัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ประเภทคอมแพค สปอร์ตครอสโอเวอร์ ด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านคัน ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และกว่า 1 หมื่นคันในประเทศไทย นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา
นิสสัน จู๊ค ใหม่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มี 6 สี โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น
NEW JUKE 1.6 S 799,000 บาท
NEW JUKE 1.6 E 854,000 บาท
NEW JUKE 1.6 V 884,000 บาท
          อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่นิสสันภูมิใจนำเสนอ ได้แก่ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม ที่ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยภายนอกและภายในที่โดดเด่นเหนือใคร ประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด ผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในกลุ่มรถยนต์ประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับขี่ และไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ ส่วนพื้นที่ภายในแบบ 3 แถว และที่นั่งแบบ 5+2 ที่ ซันรูฟแบบพาโนรามิค
และประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอย สนุกและเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ง่ายๆด้วย NISSAN CONNECT ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ที่รื่นรมย์อย่างเหนือระดับ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีด้วยยอดขายรวมกว่า 3,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร มี 6 สี โดยมีทั้งหมด 4 รุ่น
ALL-NEW NISSAN X-Trail 2.0 S 2WD CVT 1,172,000 บาท
ALL-NEW NISSAN X-Trail 2.0 E 2WD CVT 1,246,000 บาท
ALL-NEW NISSAN X-Trail 2.0 V 4WD CVT 1,325,000 บาท
ALL-NEW NISSAN X-Trail 2.5 V 4WD CVT 1,551,000 บาท
          นิสสันยังเสริมทัพไลน์รถกระบะด้วย นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ ซึ่งเป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะตอนเดียวที่ติดตั้งกล้องมองหลังและที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมนำเสนอผู้ที่ต้องการพลังงานทางเลือกด้วย นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ทุกตัวถัง ทำให้นิสสันครบครันด้วยรถกระบะครบทุกการใช้งาน ตอกย้ำชื่อเสียงอันโดดเด่นในสมรรถนะพันธุ์แกร่งของรถกระบะนิสสัน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกระดับ
นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มี 3 สี
NP300 NAVARA SC / 6MT Chassis 498,000 บาท
NP300 NAVARA SC / S 6MT 508,000 บาท
NP300 NAVARA SC / SL 6MT 516,000 บาท
นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มี 7 สี
NP300 NAVARA SC (S 6MT Gasoline) 456,000 บาท
NP300 NAVARA KC (E 6MT Gasoline) 579,000 บาท
NP300 NAVARA DC CALIBRE (E 6MT Gasoline) 749,000 บาท
          นอกจากนี้ นิสสันยังกระตุ้นตลาดอีโค คาร์ ด้วย นิสสัน อัลเมร่า รุ่น สปอร์ตเทค รถอีโค คาร์ ซีดาน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ซึ่งได้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้นิยมความเป็นรถสปอร์ต ด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องกันชนล่างลายรังผึ้งแบบสปอร์ต กระจังหน้าแบบโครเมียม รมดำ สเกิร์ตด้านข้างและด้านหลัง ไฟหน้าฮาโลเจนพร้อมด้วยภายในสีโครเมียม รมดำ ไฟส่องสว่าง เวลากลางวัน พร้อมกับล้ออัลลอยด์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว สีรมดำพิเศษ และโลโก้รุ่นด้านท้าย Sportech และพวงมาลัยหุ้มหนัง ทั้งหมดนี้เป็นการออกแบบเพื่อให้อัลเมร่า สปอร์ตเทค เป็นรถที่ดูทันสมัยแต่เต็มไปด้วยพละกำลัง
นิสสัน อัลเมร่า รุ่น สปอร์ตเทค เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร มี 3 สี โดยมีทั้งหมด 2 รุ่น
NISSAN ALMERA 1.2 E Sportech 525,000 บาท
NISSAN ALMERA 1.2 VL Sportech 625,000 บาท

MSN on March 19, 2015, 02:49:26 PM
ครั้งแรกของฟอร์ด เรนเจอร์ ต่อสายตาชาวโลก พร้อมพบกับฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015

          - พบฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะพันธุ์แกร่งที่จะสร้างมาตรฐานให้กับตลาดรถกระบะ
          - พร้อมเปิดจอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถเอนกประสงค์สมรรถนะสูง ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีและความสะดวกสบายอย่างลงตัว ในงานนี้
          - พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถฟอร์ดทุกรุ่นเฉพาะในงานนี้เท่านั้น



          ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศแผนเปิดตัวรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ครั้งแรกของโลก ภายในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 รวมถึงพร้อมเปิดตัว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถเอนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดกลางเป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน โดยฟอร์ดจะผลิตรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ ณ โรงงานของฟอร์ดในประเทศไทย เพื่อการจำหน่ายในประเทศและส่งออกในภูมิภาค
          “การเปิดตัวรถใหม่ทั้งสองรุ่นนี้ เป็นการสานต่อกลยุทธ์หลักในการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่คุณภาพระดับโลกในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง” มร. แมท แบรทลีย์ ประธาน ฟอร์ด อาเซียน กล่าว
          “เราได้ใส่ความเชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำด้านรถกระบะ และรถอเนกประสงค์ระดับโลกของเรา ไว้ในฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เราเชื่อมั่นว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยดึงดูดให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้นทั่วภูมิภาคอย่างแน่นอน”
          ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ยังคงความเป็น “รถกระบะพันธุ์แกร่ง” และจะยังคงเป็นรถที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะได้เหมือนกับฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นปัจจุบันได้ทำมาแล้ว
          เพื่อเป็นการเจาะกลุ่มตลาดรถเอนกประสงค์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด อีกทั้งเป็นเทคโนโลยีที่มีครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้ผสมผสานเอาความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดร่วมกับสมรรถนะการขับขี่แบบทั่วไปที่ยอดเยี่ยม พร้อมระบบการควบคุมที่เป็นเลิศ ส่งผลให้เป็นรถอเนกประสงค์ที่อยู่เหนือความคาดหมายกว่ารถเอนกประสงค์ทั่วไป
          ฟอร์ดจะประกาศราคาพร้อมเปิดจองรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015
          นอกจากนี้ บูธของฟอร์ดจะมีการจัดแสดงรถแนวหน้าระดับโลกทุกรุ่นที่จำหน่ายในเมืองไทย ได้แก่ ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รถเอสยูวีสำหรับคนเมือง ฟอร์ด เฟียสต้า ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย และฟอร์ด โฟกัส รถยนต์นั่งขนาดกลางที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย และในช่วงเวลาพิเศษนี้ ฟอร์ดพร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ฟอร์ดรุ่นต่างๆ ในงานมอเตอร์ โชว์
          “เรามีความยินดีที่จะมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถฟอร์ดทุกรุ่นในงาน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของรถฟอร์ดคันใหม่ได้ง่ายขึ้น” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
          นอกจากรถรุ่นใหม่ระดับโลกที่ฟอร์ดได้เตรียมนำมาแสดงในงานแล้ว ผู้เข้าชมยังจะได้พบกับการจัดแสดงและการให้ความรู้แบบอินเตอร์แอคทีฟในเรื่องด้านคุณภาพ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และเทคโนโลยีอัจฉริยะของฟอร์ด อีกด้วย
          งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ อาคาร อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

MSN on March 19, 2015, 02:55:35 PM
โคโรลล่า อัลติส เผยโฉม เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น พร้อมแนะนำพรีเซนเตอร์ใหม่ “ไอซ์ – ปรีชญา”






 
          นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์ซีดานสายพันธุ์สปอร์ต โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ตอกย้ำไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่รักความท้าทายต้องการความเร้าใจ มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นในตัวเองจนคนรอบข้างต้องหันมามอง (Look at Me Now) พร้อมเปิด พรีเซนเตอร์คนล่าสุด “ไอซ์ - ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” คู่กับ “ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558 ที่ ลานกิจกรรมเซ็นทรัลเวิลด์สแควร์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ
          นายวิเชียร กล่าวว่า “การเปิดตัว โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ถือเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่รักความท้าทาย ต้องการความเร้าใจ โดยเฉพาะผู้ที่รักการขับรถที่ให้อารมณ์สนุกสนานในการขับขี่ โดย โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นในตัวเองจนคนรอบข้างต้องหันมามอง ภายใต้แรงบันดาลใจของรถยนต์ที่ผ่านบทพิสูจน์จากสนามแข่งขันระดับโลกอย่างนูร์เบอร์กริง ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวชัดเจนทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่น่าหลงไหล โดยเฉพาะช่วงล่างใหม่ที่ถูกออกแบบเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ให้สอดคล้องกับการขับขี่แบบสปอร์ต ประกอบกับครีบแหวกม่านอากาศออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยลดแรงต้านอากาศและลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน”

โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น
แรงบันดาลใจจากการแข่งขันระดับโลกที่พิสูจน์สมรรถนะรถยนต์อย่างแท้จริง
          โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจของรถยนต์ที่ผ่านบทพิสูจน์ถึงความทนทานของเครื่องยนต์ ความหนึบของช่วงล่าง รวมถึงความแม่นยำของระบบเบรค ความเข้มข้นของรูปแบบการแข่งขันที่ยาวนาน ความยากและท้าทายของสนามแข่งขันระดับโลกนูร์เบอร์กริง
          ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ดุดันสะดุดตา ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) นับตั้งแต่บริเวณใต้ท้องรถ ไปจนถึงกระจกมองข้างและไฟท้าย ช่วยลดแรงต้านอากาศ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความสนุกสนานในการขับขี่ พร้อมกับสมรรถนะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลังด้วย เครื่องยนต์เบนซิน DOHC Dual VVT-i 4 สูบแถวเรียง 1,800 ซีซี และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ที่ถูกปรับแต่งใหม่เพื่อเพิ่มอารมณ์การขับแบบสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นและประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยช่วงล่างที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลแต่เกาะถนนดียิ่งขึ้น มีการควบคุมบังคับที่คล่องตัว ระบบเบรคแม่นยำฉับไว ตลอดจนระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น คือ สุดยอดรถยนต์ที่มีความยอดเยี่ยมเร้าใจสไตล์สปอร์ตทั้งดีไซน์และสมรรถนะ

ภายนอก...โฉบเฉี่ยว ด้วยจิตวิญญาณแห่งยานยนต์สปอร์ต
- ดุดันด้วยกระจังหน้า Piano Black พร้อมแถบ Gun Metallic
- ดีไซน์เร้าใจสปอร์ตทุกมุมมองด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง ท่อไอเสียแบบสปอร์ต
และสปอยเลอร์หลังดีไซน์พิเศษ
- บ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษด้วยสติกเกอร์ Nurburgring Edition บริเวณด้านข้างตัวรถ
- โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อม ไฟ LED Day Time Running Lights
และไฟท้าย LED Surface illumination แบบรมดำ
- ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์เข้มทุกมุมมอง

ภายใน … เข้ม เต็มอารมณ์ในทุกรายละเอียด
- ภายในสีดำสไตล์สปอร์ต
- เบาะหนังคู่หน้าแบบ Bucket Seat กระชับสรีระ ทุกจังหวะการขับขี่ ปั้มโลโก้ ESPORT และ ด้ายแดง
- วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้าแบบ Piano Black พร้อมแถบสีแดง และบุด้วยวัสดุแบบนุ่ม
- วัสดุตกแต่งแผงประตูสีแดง บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตพันธ์แท้
- แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift เร้าใจสไตล์สปอร์ต
- มาตรวัดเรืองแสง 3 วง สปอร์ตเต็มขั้น
- พวงมาลัยหุ้มหนังตะเข็บแดงปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง
- เครื่องเล่น DVD หน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับระบบนำทางอัจฉริยะ Smart G-BOOK

          นายวุฒิกร กล่าวว่า “เพื่อเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์อันโดดเด่นของ อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น โตโยต้ามีความยินดีที่ได้นักแสดงสาวมากความสามารถ “ไอซ์ - ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” ที่ประสบความสำเร็จจนได้รับการยกย่องเป็นนางเอกร้อยล้านคนล่าสุดจากภาพยนตร์ “ไอฟาย แต้งกิ้ว เลิฟยู้ว” มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ควบคู่ไปกับ ไมค์ - พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล
          เรามั่นใจว่าด้วยภาพลักษณ์ที่คล่องแคล่วและเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของทั้ง 2 คน จะสะท้อนเอกลักษณ์ของ โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ถึงความเป็นยนตรกรรมที่โฉบเฉี่ยวดุดัน ทั้งภายนอกและภายใน เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะความเร้าใจระดับโลกที่ตอบสนองได้ในทุกระดับของการขับขี่”
          “เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของรถยนต์โคโรลล่า อัลติส นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ในฐานะรถ โปรดักชั่นคันแรกที่ผลิตจากสายการผลิตในประเทศไทยเหมือนรถที่จำหน่ายอยู่ในโชว์รูม ที่สามารถพิชิตสนามนูร์เบอร์กริงสนามแข่งรถระดับตำนานของโลก เราจึงได้จัดกิจกรรม “Corolla Esport So Excited So Nurburgring” ตามรอยการแข่งขันรถระดับตำนาน พร้อมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ความท้าทายจากสนามเวิลด์กรังด์ปรีซ์ เพื่อขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน โดยลูกค้าที่ซื้อรถยนต์โคโรลล่า อัลติส เกียร์อัตโนมัติทุกรุ่น ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 30 เมษายน 2558 จะได้รับสิทธิ์ในการส่งคูปองร่วมลุ้นชิงโชค หาผู้โชคดีในวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 โดยจะมีการจับรางวัลเป็น แพกเกจทัวร์ ประเทศเยอรมัน – เบลเยี่ยม สำหรับ 2 ท่าน จำนวน 12 รางวัล รางวัลละ 300,000 บาท รวมมูลค่า 3,600,000 บาท” นายวุฒิกร กล่าวในที่สุด

เลือกเป็นเจ้าของ โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ได้ 2 สี
- สีขาวมุก...White Pearl
- สีดำ…Attitude Black Mica

ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและเครื่องปรับอากาศ)
- รุ่น 1.8 ESport Nurburgring Edition สีขาวมุก 959,000 บาท
- รุ่น 1.8 ESport Nurburgring Edition สีดำ 949,000 บาท

ร่วมสัมผัส โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต นูร์เบอร์กริง เอดิชั่น ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 6 เมษายน 2558 ที่เมืองทองธานี

และที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 410 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558

MSN on March 20, 2015, 03:29:40 PM
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขนทัพยนตรกรรม 5 รุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวแบรนด์ รถสปอร์ตหรู Mercedes-AMG ในงานมอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36




 
           บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างสีสันครั้งใหม่ให้กับวงการรถหรูอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมรุ่นล่าสุดกว่า 5 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ อย่าง The new C-Class BlueTEC HYBRID ที่ประกอบในไทย (CKD), The new CLA Shooting Brake, The new GLE-Class Coupé, The new V-Class และ Mercedes-AMG GT S รวมทั้งจัดทัพนำขบวนยนตรกรรมหรูกว่า 30 คัน มาจัดแสดงใน งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
          มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงไม่หยุดนิ่งที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” และสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ให้แก่ลูกค้า ซึ่งไฮไลท์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากจะมีการเปิดตัวยนตรกรรม 5 รุ่นใหม่ ที่ครบครันในทุกเซ็กเมนต์แล้ว ในปีนี้บริษัทฯ ยังได้นำเสนอบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ "โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่" ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกับที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ใช้ในงานปารีส มอเตอร์ โชว์ โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกในเอเชียที่นำเสนอบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ดังกล่าว โดยการออกแบบจะเน้นไปที่การนำวัสดุ ลาเมลลา (Lamella) มาออกแบบบูธให้มีลักษณะของความพริ้วไหว บ่งบอกรูปลักษณ์ที่หรูหรา และโฉบเฉี่ยวของยนตรกรรม พร้อมดีไซน์แสงสีเสียง เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของรถยนต์ทั้ง 5 รุ่นใหม่ ให้เห็นได้อย่างเด่นชัด”
          “ภายในบูธได้แบ่งออกเป็น 6 โซนหลัก ประกอบด้วย โซนที่ 1 การแสดงยนตรกรรมในกลุ่ม New Generation Compact Car โซนที่ 2 การแสดงยนตรกรรมในกลุ่ม Contemporary Luxury โซนที่ 3 การแสดงยนตรกรรมในกลุ่ม Dream Car โซนที่ 4 การจัดแสดงยนตรกรรมกลุ่ม AMG และ AMG Sport ภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG โซนที่ 5 การจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี BlueTEC HYBRID ที่ปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำเสนอรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดในตระกูล Contemporary Luxury ให้กับผู้บริโภคได้อย่าง ครบครันทั้ง C-E-S และโซนที่ 6 การจัดแสดงยนตรกรรมไฮไลท์ อันได้แก่ AMG GT S และ The new GLE-Class Coupé”
          มร. มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในปีนี้ นับเป็นปีที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ รวมกว่า 5 รุ่น ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่ม New Generation Compact Car (NGCC) อย่าง The new CLA Shooting Brake รถยนต์สปอร์ตคอมแพ็คแบบ 5 ประตู, กลุ่ม Contemporary Luxury อย่าง The new C-Class BlueTEC HYBRID ยนตรกรรมหรูที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดซึ่งประกอบในไทย (CKD), The new V-Class รถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 6 ที่นั่ง และกลุ่ม Dream Car อย่าง The new GLE-Class Coupé รถหรูที่ผสานดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวของรถยนต์สไตล์คูเป้ เข้ากับความแข็งแกร่งของรถยนต์แบบเอสยูวีไว้ได้อย่างลงตัว ปิดท้ายด้วย การเปิดตัวแบรนด์ Mercedes-AMG อย่างเป็นทางการในประเทศไทยผ่านการแนะนำรถยนต์รุ่น Mercedes-AMG GT S ซึ่งเป็นรถสปอร์ตรุ่นที่ 2 ของค่ายนี้ให้ลูกค้าได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด”

          The new C-Class BlueTEC HYBRID
          The new C-Class BlueTEC HYBRID นับเป็นยนตรกรรมในตระกูล C-Class ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซลไฮบริดในกลุ่ม Contemporary Luxury ให้ครบครันมากยิ่งขึ้น โดยรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น คือ C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive และ C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic มาพร้อมกับ เทคโนโลยี HYBRID การทำงานอย่างยอดเยี่ยมของระบบควบคุมพลังงาน ซึ่งทำหน้าที่ในการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดใน การประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษทุกครั้งที่ชะลอความเร็วหรือเบรก มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์แปลงพลังงานจลน์ที่เหลืออยู่ในระบบขับเคลื่อนให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าสะสมไว้ในแบตเตอรี่ลิเธี่ยม-ไอออนเพื่อเก็บสำรองไว้และนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งรถยนต์ รุ่นนี้ยังได้ผ่านมาตรฐานความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณไอเสีย (Euro 6) ที่เข้มงวด อีกด้วย
          สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ของ The new C-Class BlueTEC HYBRID ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดด้านสุนทรียศาสตร์แบบสมัยใหม่ผสานความพริ้วไหว และองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ตัวรถดูสปอร์ต ทันสมัย และเร้าใจขณะขับขี่ โดย C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive หรูหราด้วยกระจังหน้าแบบคลาสสิกที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์บน ฝากระโปรงลาย 3 แถบเสริมโครเมียม และรุ่น C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic มาพร้อมกระจังหน้าแบบสปอร์ต มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางบนลาย 2 แถบ พร้อมด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG สำหรับดีไซน์ภายใน ที่ได้รับการออกแบบโดยเน้นความหรูหรา แต่ยังคงความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วย แผงคอนโซลกลางที่สร้างเป็นชิ้นเดียวกับพนักวางแขน รวมถึง touchpad ที่ติดตั้งบริเวณ ที่พักแขน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ เครื่องเสียง อาทิ วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 ที่บริเวณคอนโซลได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
          นอกจากนี้ สำหรับ C 200 Avantgarde ยังนับเป็นยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมอีกรุ่นหนึ่งที่มี ความโดดเด่นด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ Avantgarde ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว 5 ก้านคู่สีเทา และ ไฟหน้า LED High performance ที่ช่วยเพิ่มความสามารถของการส่องสว่างให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น พร้อมด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ผสานกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สีดำ ที่สะท้อนความเป็นสปอร์ตสำหรับคนรุ่นใหม่
          - C 200 Avantgarde ราคา 2,590,000 บาท
          - C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive ราคา 2,840,000 บาท
          - C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic ราคา 3,090,000 บาท

          The new CLA Shooting Brake
          CLA 250 Shooting Brake AMG Sport รถยนต์สปอร์ตคอมแพ็คแบบ 5 ประตู โดดเด่นด้วย ดีไซน์ภายนอก ที่โฉบเฉี่ยว เร้าใจ จากเส้นสายลวดลายงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า ลายเพชร (Diamond radiator grille) สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สร้างความโดดเด่นเคียงคู่อย่างกลมกลืนไปกับชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG (กันชนหน้า-หลังและ สเกิร์ตข้าง), กันชนท้ายแบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งชายล่างของกันชนสีเดียวกับตัวรถ, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตลาย Multi-spoke จาก AMG ขนาด 18 นิ้ว และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (Electric panoramic sliding glass sunroof) เลื่อนเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ตลอดจนกระโปรงหน้าที่ยาว บานหน้าต่างแคบเรียว กระจกหน้าต่างข้างแบบไร้กรอบและหลังคาที่ลาดต่ำลง ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจและ ความน่าหลงใหลให้กับรถยนต์คันนี้มากยิ่งขึ้น
          สำหรับ ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัย ด้วยดีไซน์ของความแตกต่างที่ผสานกันได้อย่างลงตัว กับเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำคลาสสิก ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แผงประตูบุด้วย DINAMICA microfibre สีดำ รวมถึงประโยชน์การใช้สอยที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 จอแสดงผลใหม่ในชุดควบคุมระบบมัลติมีเดียหน้าจอขนาด 8 นิ้วพร้อมรองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation SD-card navigation), ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 12 สี ด้วยหลอดไฟ แบบ LED เป็นต้น
          นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน ได้ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยอันกว้างขวางทั้งยังประกอบด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอันทันสมัย โดย The new CLA Shooting Brake มาพร้อมกับอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานชุด EASY-PACK tailgate ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติ ซึ่งทำงานในระบบกลไกกึ่งไฟฟ้า สามารถเปิดได้จากปุ่มควบคุมเบาะนั่งผู้ขับขี่, บานประตูท้าย หรือจากกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ และยังสามารถปิดลงอีกครั้งด้วยปุ่มควบคุมที่บานประตูท้าย พร้อมทั้งการที่สามารถปรับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังออกเป็น 1/3 : 2/3 ตอน ทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีพื้นที่เก็บบรรทุกสัมภาระด้านหลังที่มีความจุถึง 495-1,354 ลิตร นับเป็นความจุสูงสุดของรถยนต์หรูในเซ็กเมนต์นี้ ซึ่งพื้นที่นี้สามารถรองรับทุกอุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์ทำงานคู่ใจ ซึ่งตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับได้เป็นอย่างดี
          The new CLA Shooting Brake ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,200-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 17.5-18.2 กม./ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-DCT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles) The new CLA 250 Shooting Brake AMG Sport ราคา 2,890,000 บาท

          The new GLE-Class Coupe
          The new GLE-Class Coupé นับเป็นสมาชิกลำดับล่าสุดในรถยนต์ตระกูลคูเป้ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่โดดเด่นด้วยการผสานดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวของรถยนต์สไตล์คูเป้ เข้ากับ ความแข็งแกร่งของรถยนต์แบบเอสยูวี (Sport Utility Vehicle: SUV) ไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบ ดีไซน์ภายนอก ให้ดูสปอร์ต ปราดเปรียว ด้วยลายเส้นโค้งเว้า ที่ให้ความรู้สึกถึง ความพลิ้วไหว พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ เสริมไฟหน้าโค้งมน พร้อมด้วยกรอบไฟแบบ LED เส้นสายหลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัย คล้ายกับในรถยนต์ S-Class Coupé โดยรุ่นที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นรุ่น The new GLE 450 AMG 4MATIC Coupé ที่มาพร้อมกับการตกแต่งกระจังหน้า ด้วยตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง และไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมฟังก์ชั่น Active Light System พร้อมด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบด้วย กันชนหน้า-หลัง ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว แบบ AMG 5 ก้านคู่ และหลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟ ซึ่งสามารถ เลื่อนเปิด-ปิดได้อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า
          สำหรับ ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบโดยเน้นความหรูหรา สง่างาม แต่ยังคงกลิ่นอาย ความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิมด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพชั้นดีที่ยืดหยุ่นต่อการใช้งานและสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย เบาะนั่งด้านหลังแบบ 3 ที่นั่ง สามารถพับได้แบบ 1/3 : 2/3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อมมอนิเตอร์ขนาด 8 นิ้ว และคอนโทรลเลอร์ที่รองรับการใช้งานระบบนำทางแผนที่ Garmin® ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) แบบ 3 สี
          ด้านเทคโนโลยี The new GLE-Class Coupé มาพร้อมกับระบบ Dynamic Select ที่มีโหมด การขับขี่ 5 แบบ คือ Individual ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, Comfort ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, Slippery เหมาะกับการวิ่งบนถนนที่ลื่น, Sport และ Sport+ เน้นการเพิ่มความเร้าใจให้กับการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอากาศ (AIRMATIC) พร้อมระบบควบคุมระดับ ADS (Adaptive Damping System) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน และระบบเซ็นเซอร์ การพลิกคว่ำ
          The new GLE-Class Coupé มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 เทอร์โบคู่ พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 2,996 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 367 แรงม้า ที่ 5,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 520 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,800-4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive The new GLE 450 AMG 4MATIC Coupé ราคา 7,990,000 บาท

          The new V-Class
          เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new V-Class รถยนต์อเนกประสงค์ (Multi-Purpose Vehicle: MPV) แบบ 6 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยพื้นที่ห้องโดยสารอันกว้างขวาง ที่ผสานภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ตและหรูหราของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไว้ได้อย่างลงตัว สำหรับ ดีไซน์ภายนอก ได้ถูกออกแบบให้มีลายเส้นที่สวยงาม ดีไซน์ด้านข้างแสดงให้เห็นความกว้างขวางของตัวรถพร้อมเสริมความ พลิ้วไหวด้วยมุมโค้งมนด้านหลังรับกับกระจกหลังขนาดใหญ่และแถบโครเมียมใต้กระจก กระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ Avant-garde พร้อมเพิ่มความดุดันกับล้ออัลลอยแบบ 19 นิ้ว ไฟหน้าดีไซน์ใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยี LED Intelligent Light System อย่างเต็มรูปแบบ ปิดท้ายด้วยไฟท้าย LED ซึ่งออกแบบอย่างงดงามลงตัว
          สำหรับ ดีไซน์ภายใน ได้รับการออกแบบอย่างสร้างสรรค์และล้ำสมัย แต่ยังคงความเรียบง่ายในการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง ห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลายทั้งลายไม้คลาสสิกเคลือบเงาแบบผิวเปียโน วัสดุหุ้มที่นั่งแบบ nappa leather คุณภาพสูงที่เดินตะเข็บอย่างหรูหรา พร้อมไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับได้ 3 สี
          นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางสะดวกสบาย กับที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบแยกส่วนสไตล์ captain seat 4 ตำแหน่งพร้อมโต๊ะทำงานอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สอดคล้องกับความต้องการได้อย่างหลากหลาย ประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวาและฝาท้ายควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งจากภายในห้องโดยสารและจากกุญแจรีโมท ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าและ TEMPMATIC สำหรับผู้โดยสารด้านหลังสามารถแยกปรับการทำงานได้อย่างอิสระ พร้อมยกระดับสุนทรียภาพในการการเดินทางด้วยเครื่องเสียงแบบพรีเมี่ยมพร้อม แป้นควบคุมแบบสัมผัส (touchpad) และระบบเสียงรอบทิศจาก Burmester ที่มาพร้อมกับลำโพง 15 ตัว และ bass reflex box นำเสนอพลังเสียงระดับ 640 วัตต์ ไปสู่ผู้โดยสารใน ทุกตำแหน่งที่นั่ง
          ด้านเทคโนโลยี ของ The new V-Class ได้ถูกออกแบบให้ทำงานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ระบบ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย (Safe driving), ระบบรักษาการทรงตัวกรณีมีลมขวางปะทะตัวรถด้านข้าง (Crosswind Assist), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST), ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Parking Assist พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง อีกทั้งยังติดตั้งตัวช่วยในสถานการณ์คับขันที่มาแบบครบครันอย่าง โปรแกรมการควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Adaptive ESP® (Electronic Stability Program), ระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock Braking System), ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรก BAS (Brake Assist), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration Skid Control), ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็คโทรนิค EBD (Electronic Brake force Distribution), ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® และถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างรวม 6 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
          V 250 BlueTEC AVANTGARDE มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 190 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,400-2,400 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 9.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 206 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16.7 กม./ลิตร ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS
          The new V250 BlueTEC AVANTGARDE ราคา 5,490,000 บาท

          Mercedes-AMG GT S
          Mercedes-AMG GT S นับเป็นรถสปอร์ตรุ่นที่ 2 ของค่าย Mercedes-AMG ที่โดดเด่นทั้งในด้านดีไซน์และสมรรถนะ พร้อมตอบโจทย์ในการเป็นรถสปอร์ตที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน โดย ดีไซน์ภายนอก ของรถยนต์รุ่นนี้ มาพร้อมกับรูปลักษณ์แบบสปอร์ต ด้วยกระจังหน้าแบบ Diamond Grille หมุดสีดำ พร้อมสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลางที่เพิ่มเสน่ห์และความกำยำให้แก่ผู้พบเห็น ไฟหน้าแบบ LED High Performance Headlamp ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วในด้านหน้า และ 20 นิ้วในด้านหลังแบบ AMG 10 ก้าน สีไทเทเนียม เกรย์ (Titanium Grey) สปอยเลอร์หลังแบบปรับระดับได้อัตโนมัติ และหลังคา พาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic glass sunroof) เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ตลอดจนกระโปรงหน้าที่ยาว ด้านท้ายที่โค้งมน บานหน้าต่างแคบเรียว กระจกหน้าต่างข้างแบบไร้กรอบและหลังคาที่ลาดต่ำลง ดีไซน์ภายใน มีการออกแบบให้ก้าวล้ำทันสมัย ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Nappa แบบปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ พวงมาลัยแบบ AMG performance หุ้มด้วยหนังแท้สลับ DINAMICA microfibre ที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ
          โครงสร้างตัวถังของ Mercedes-AMG GT S มาในรูปแบบของ Aluminium spaceframe ที่ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ผสมผสานกับเหล็ก และแมกนีเซียม ที่มีการนำมาใช้ตาม จุดต่างๆ ของตัวรถ ทำให้มีน้ำหนักรวมของตัวรถเพียง 1,890 กิโลกรัม นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ ยังได้มีการวางเครื่องยนต์แบบ Front mid-engine และการกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง ในอัตราส่วน 47:53 เพื่อให้เกิดการบังคับควบคุมที่ดีเยี่ยม รวมถึงระบบอ่างน้ำมันเครื่องแบบแห้ง หรือ Dry sump แบบเดียวกับที่ใช้ในสนามแข่ง เพื่อป้องกันน้ำมันเครื่องถูกส่งไปไม่ทั่วถึงในจังหวะที่ตัวรถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
          ด้านเทคโนโลยี มาพร้อมระบบควบคุมช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL ที่ปรับได้ 3 โหมด การขับขี่ ได้แก่ Comfort, Sport และ Sport+ ที่สามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการใน การเดินทาง, ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST, โปรแกรมควบคุม การทรงตัวอัตโนมัติ (ESP), ระบบรักษาระดับความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) เป็นต้น
          Mercedes-AMG GT S มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 3,982 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 510 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิด 650 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,750-4,750 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (AMG SPEEDSHIFT DCT 7-speed sports transmission) โดยรถยนต์รุ่นนี้ยังได้ผ่านมาตรฐานความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณไอเสีย (Euro 6) อีกด้วย Mercedes-AMG GT S ราคา 14,900,000 บาท

          ยนตรกรรมอื่นๆ ในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์
          นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 30 คันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล และรถนำเข้ารุ่นอื่นๆ อาทิ A-Class, B-Class, CLA-Class, C-Class Coupé, E-Class, E-Class Coupé, E-Class Cabriolet, S-Class, SLK-Class, CLS-Class, G-Class, GL-Class, ML-Class
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า
          นอกเหนือจากขบวนรถยนต์มากมายที่นำมาจัดแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดข้อเสนอพิเศษสุดเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ท่านลูกค้าดังนี้
          - รับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ทุกรุ่น สำหรับลูกค้าที่รับมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2558
          - พิเศษ! สำหรับ The E-Class Saloon และ Estate รับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เมื่อจัดไฟแนนซ์กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง โดยมีเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
          - แคมเปญ MercedesCard – สมัครบัตรเครดิตเมอร์เซเดสการ์ดลุ้นรับรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ A 180 AMG Sport และรางวัลอื่นๆกว่า 2.4 ล้านบาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)
          เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่น-แนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี

MSN on March 23, 2015, 11:53:50 AM
แอสตัน มาร์ติน เตรียมเผยโฉมไฮไลท์ล่าสุด Vanquish และ DB9 รุ่น Carbon Edition ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ 2558





          แอสตัน มาร์ติน บางกอก โดย บริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด เตรียมสร้างมิติใหม่ของวงการไฮลักชัวร์รี่สปอร์ตคาร์ ส่ง Vanquish และ DB9 รุ่น Carbon Edition เปิดตัวครั้งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2558

          ด้วยรูปลักษณ์โดดเด่น Vanquish Carbon Edition เป็นสุดยอดยนตรกรรม GT ที่เจาะลึกแก่นแท้แห่งสุนทรียภาพแห่งความลึกลับอันน่าหลงใหลสรรค์สร้างจากคาร์บอนไฟเบอร์ สุดยอดวัสดุศาสตร์ ที่มีน้ำหนักเบาสอดประสานกับความแข็งแกร่งและความสามารถในการขึ้นรูปทรงได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงเป็นวัสดุที่เหมาะกับรูปทรงโค้งเพรียวของยนตรกรรม GT เป็นอย่างยิ่ง สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและความงดงามอันเปี่ยมรสนิยม ซึ่งถูกนำมาใช้ในการรังสรรค์ Vanquish Carbon โดยเฉพาะ ทั้งสปลิตเตอร์ หน้า ช่องรับลมด้านข้าง ครอบกระจกมองข้าง และหลังคา ล้วนผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยส่วนประกอบสีดำ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า ฝากระโปรงหน้า ตะแกรงรับลมด้านข้าง ขอบหน้าต่าง ปลายท่อไอเสีย Zircotec และล้ออัลลอยขึ้นรูปเงาดำ 10 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว ด้วยภาพลักษณ์อันดุดันและสัมผัสอันโดดเด่น ตอกย้ำดีเอ็นเอแห่งขุมพลังของ แอสตัน มาร์ติน ได้อย่างถึงแก่น Vanquish Carbon มาในโทนสี Vanquish Carbon Black และ Vanquish Carbon White

          อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของแอสตัน มาร์ติน ที่สร้างความหลงใหลในความสง่างามแบบสไตล์เจมส์บอนด์ที่โด่งดังไปทั่วโลกกับ DB9 Carbon Edition ด้วยยนตรกรรมสุดหรูพิเศษคันนี้ออกแบบภายใต้แนวคิดแต่งเติมให้น้อยแต่โดดเด่นสะดุดตา ผสานความเรียบง่าย ความสุขุม และความเร้าใจไว้ในโทนสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ แต่คงไว้ซึ่งสมรรถนะ ความงดงาม และเทคโนโลยีเหนือระดับตามแบบฉบับของ DB9 พร้อมก้าวไปอีกขั้นด้วยการตกแต่งภายในและภายนอกอย่างมีสไตล์ พร้อมสะกดทุกสายตา โดยมีชิ้นส่วนภายนอกรังสรรค์จากใยคาร์บอนคุณภาพสูง ให้ความงดงามเหนือระดับ และน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ สปลิตเตอร์หน้า ครอบกระจกมองข้าง ช่องรับลมด้านข้าง แถบคาดไฟท้าย และดิฟฟิวเซอร์ท้าย จัดเรียงอย่างสร้างสรรค์ด้วยดีไซน์อันเข้มขรึมที่ทั้งสอดประสานและขับเน้นสีตัวถังภายนอกอย่างอย่างสะดุดตา หน้าหลงใหล เติมเต็มทุกรายละเอียดแห่งความโฉบเฉี่ยวที่เหนือระดับ DB9 Carbon Edition มาในโทนสี Carbon Black

          สัมผัสประสบการณ์แรงดึงดูดเกินต้านทาน ของสุดยอดไฮลักชัวร์รี่สปอร์ตคาร์ ได้ที่บู๊ทแอสตัน มาร์ติน หมายเลข A5 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558

MSN on March 23, 2015, 11:54:56 AM
Aston Martin Unviels Vanquish and DB9 in Carbon Edition for the first time in Southeast Asia, at the 36th Bangkok International Motor show 2015





          Aston Martin Bangkok, Heritage Motor Sales and Services (Thailand) Co.,Ltd. is prepared to impress fans with the launch of its Vanquish and DB9 in Carbon Edition for the first time in Southeast Asia at the much-awaited 36th Bangkok International Motor Show 2015.

          The Aston Martin Vanquish Carbon Edition is the ultimate grand tourer unleashed soaring performance, startling dynamics and deeply indulgent luxury combined in the Vanquish to create an extraordinary GT car -- the ultimate expression of Aston Martin. The special edition delves deep into its character and subtly but unmistakably accentuates its innate dynamism. Sculpted from carbon fibre, the Vanquish Carbon celebrates the incredible material and its inherent engineering and aesthetic beauty. The deep front carbon fibre splitter, side strakes, mirror caps and roof are complemented by black grille, bonnet and side strake meshes, black trim around the side windows, zircotec exhaust tailpipes and gloss black forged 10-spoke 20-inch alloy wheels. Powerful, menacing and coolly tactile, the Vanquish Carbon concentrates Aston Martin's dynamic DNA to absolute purity. It is available in Vanquish Carbon White and Vanquish Carbon Black.

          The other timeless elegance to be showcased is the Aston Martin DB9 Carbon Edition. This exclusive special edition sees minimal adornment achieve maximum impact, fusing simplicity, discretion and drama in a unique dark theme. Beautiful in form, lightweight in function only the most precise carbon weave is used to fashion five exterior details. Front splitter, mirror caps, side strake, rear lamp infills and rear diffuser are deftly applied to create a dark design theme either complementing or contrasting with the choice of exterior paint. It maintains the irresistible blend of potency, beauty and technical expertise of the current DB9 but goes further, with expertly styled exterior and interior features. The DB9 Carbon is available in Carbon Black.

          Experience the irresistible magnetism, ultimate creations at Aston Martin Booth A5, the 36th Bangkok International Motor show 2015, Challenger Hall, Impact Muang Thong Thani on March 25th to April 5th, 2015.

MSN on March 24, 2015, 03:14:24 PM
พบกับนวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนโลกสู่อนาคตจากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36








 
          นวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนโลกสู่อนาคตจากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ พบกับรถบีเอ็มดับเบิลยู i3 ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ และครั้งแรกกับการเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36

ไฮไลท์ของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ
· บีเอ็มดับเบิลยู i3
· บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer
· บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive
· มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์
· มินิ พร้อมชุดแต่งสยาม แพ็คเกจ

          กรุงเทพฯ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมระดับพรีเมียม ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ด้วยการจัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDriveและการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมีไฮไลท์สำคัญอื่นๆ ของงานได้แก่ มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ และมินิพร้อมชุดแต่งสยามแพ็คเกจ ผู้เยี่ยมชมบูธบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ของแบรนด์ระดับโลกอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งนำทัพยนตรกรรมหรูทั้งสามแบรนด์ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มาจัดแสดง อย่างคับคั่ง ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยลูกค้าสามารถรับข้อเสนอและโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงานได้ ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี

บีเอ็มดับเบิลยู i3
          บีเอ็มดับเบิลยู i3 ซึ่งจะจัดแสดงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดจากบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ตอบสนองความท้าทายสำหรับการขับขี่ในเมืองได้อย่างลงตัว การจัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 ในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งยนตรกรรมระบบไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างแท้จริง
          นิยามของการเดินทางในเมืองแบบใหม่นั้น ต้องอาศัยความคิดที่ก้าวไปมากกว่าการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและ การขับขี่ที่ปราดเปรียว จึงเกิดเป็นคอนเซ็ปต์การออกแบบทางสถาปัตยกรรม LifeDrive ซึ่งสร้างขึ้นสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู i3 โดยเฉพาะ โครงสร้างการออกแบบนี้ประกอบด้วยสององค์ประกอบ คือ Life โมดูล และ Drive โมดูล สำหรับ Life โมดูลนั้นคือห้องโดยสารของตัวรถซึ่งเปรียบเสมือนเรือนกระจก เกิดจากการนำวัสดุเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอน (CFRP) มาปฏิวัติใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นครั้งแรก วัสดุนี้เองเป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของบีเอ็มดับเบิลยู i3 เส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอนนี้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเหล็ก ขณะที่มีน้ำหนักเบากว่าถึงร้อยละ 50 และเบากว่าถึงร้อยละ 30 หากเทียบกับอะลูมิเนียม ส่งผลให้ยานยนต์ระบบไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูมีน้ำหนักเพียง 1,315 กิโลกรัม และสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที
          ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบา และความแข็งแกร่งที่สามารถรับแรงดึงระดับสูงของเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับห้องโดยสาร ขณะที่ลดการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ส่งผลให้สามารถใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กลงและเบากว่า นำไปสู่ระยะเวลาในการชาร์จไฟที่ลดลงและระยะทางในการขับขี่ที่ไกลยิ่งขึ้น นอกจากนี้การออกแบบ Life โมดูลยังช่วยถ่วงศูนย์ให้กับบีเอ็มดับเบิลยู i3 เสริมความลื่นไหลมั่นคงในการขับขี่อีกด้วย
          สำหรับ Drive โมดูล ซึ่งผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมทั้งหมด ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 22 กิโลวัตต์ กระบวนส่งกำลังแบบไฟฟ้า ระบบรองรับการกระแทก MacPherson และระบบรองรับแรงกระแทกด้านหลังเชื่อมต่อ 5 จุด พร้อมทั้งโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โครงสร้างนี้วางแบตเตอรี่ไว้บริเวณล้อหลัง มอบสมรรถนะในการขับขี่ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และเพิ่มเพิ่มแรงขับ ให้กับ ตัวรถอีกด้วย
          ประโยชน์อีกด้านของแนวคิดด้านสถาปัตยกรรม LifeDrive นี้ยังรวมถึงการออกแบบโดยปราศจากซุ้มเกียร์ จากการแยก Driveโมดูลออกมา ซึ่งแตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู i3 มีพื้นที่ใช้สอยภายในเทียบเท่าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ในขณะที่มีมิติภายนอกเทียบเคียง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 ในขนาดที่เล็กกว่า
          · กำลัง 170 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive และมอเตอร์ไฟฟ้ามอบแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร
          · แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 22 กิโลวัตต์ ระบบไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนได้ไกลถึง 130-160 กิโลเมตร ในชีวิตประจำวัน
          · ยานยนต์ระบบไฟฟ้าคันแรกของโลกที่มาพร้อมกับความสามารถในการเพิ่มระยะขับเคลื่อน จากเครื่องยนต์เบนซิน 2 สูบ ขนาด 650 ซีซี ซึ่งมอบกำลัง 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวจะสร้างพลังงานไฟฟ้าเพื่อเพิ่มระยะขับเคลื่อนสูงสุดต่อวันได้ถึง 300 กิโลเมตร ส่งผลให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที
          · ความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม. เพื่อประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน
          · ระบบกระจายน้ำหนักสมดุลที่ 50-50
          · ใช้เวลาเพียง 30 นาที ชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่าน DC quick-charge
          · ใช้เวลาประมาณ 3-6 ชั่วโมงชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่าน AC quick-charge ด้วย BMW i Wallbox
          · ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงชาร์จแบตเตอรี่ได้ร้อยละ 80 ผ่านเต้าเสียบทั่วไป

บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer
          การเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เป็นการขยายสายผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยูให้ครอบคลุมอีกเซ็กเมนท์หนึ่ง โดยสมาชิกใหม่ของยนตรกรรมหรูคอมแพคนี้ ผสมผสานความสะดวกสบาย พื้นที่การใช้งานอเนกประสงค์เข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ความสง่างาม และสไตล์ที่โดดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้อย่างกลมกลืน โดยรุ่น Active Tourerเป็นการต่อยอดโมเดลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 เพิ่มเติมจากรุ่น Coupe ก่อนหน้า ด้วยการออกแบบที่ลงตัวส่งผลให้ รุ่น Active Tourer มอบมิติภายนอกของรถยนต์คอมแพคพร้อมทั้งความรู้สึกปลอดโปร่งกว้างขวางภายในห้องโดยสารได้อย่างดีเยี่ยม
          "พื้นที่เก็บสัมภาระอเนกประสงค์ ซึ่งเพิ่มพื้นที่จากความจุ 468 ลิตร เป็น 1,510 ลิตร และสามารถปรับเบาะด้านหลังแยกแบบ 40:20:40 ซึ่งเป็นฟีเจอร์มาตรฐาน ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นด้วยเบาะหลังแบบเลื่อนได้ ช่วยเพิ่มระยะระหว่างเข่ากับเบาะหน้า หรือเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีแผ่นรองพื้นที่พับเก็บได้สำหรับซ่อนพื้นที่เก็บสัมภาระ ซึ่งมาพร้อมกับถาดรองสัมภาระที่มีประโยชน์ใช้สอยหลากหลายอีกด้วย
          · บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer เปิดตัวด้วย the new BMW 218i Active Tourer M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบที่มาพร้อมกับความสามารถในการประหยัดพลังงานและพลังขับเคลื่อนที่โดดเด่น เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มอบแรงม้าสูงถึง 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า
          · แชสซีที่ได้รับการพัฒนาใหม่ประกอบด้วย ระบบรองรับแรงกระแทกสปริงเชื่อมต่อจุดเดียวติดตั้งบริเวณล้อหน้าและแบบเชื่อมหลายจุดที่แกนหลัง พร้อมผสานความคล่องตัวและมีทิศทางที่แม่นยำของตัวรถด้วยระบบรักษาเสถียรภาพการควบคุมและระบบรองรับแรงกระแทกเพื่อความนุ่มสบาย
          · เพื่อเสริมความโดดเด่นให้แก่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 2 Active Tourer บนท้องถนน จึงสามารถเลือก ชุดแต่ง M Aerodynamics แพกเกจ และ ล้ออัลลอย M light-alloy wheels ขนาด 18 นิ้ว สำหรับตกแต่งภายนอก และเสริมสไตล์สปอร์ตให้สมบูรณ์แบบด้วย พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ M รวมไปถึงเบาะที่นั่งแบบสปอร์ตสำหรับภายในห้องโดยสารได้อีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive
          บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive ประสบความสำเร็จในการผสมผสานสุนทรียภาพในการขับขี่ ระหว่าง ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ xDrive all-wheel-drive และสัมผัสแห่งความหรูหราของบรรยากาศภายใน ห้องโดยสาร มอบประโยชน์ใช้สอยอเนกประสงค์ซึ่งมาในรูปแบบของยานยนต์ระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด
          ระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบมอบกำลังถึง 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งมอบกำลัง 70 กิโลวัตต์/95 แรงม้า โดยมีแหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งสามารถชาร์จไฟจากเต้าเสียบที่บ้านได้ พร้อมทั้งความสามารถในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมดแบบปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร
          นอกเหนือจากการตั้งค่าการขับเคลื่อนในปุ่ม BMW Driving Experience Control อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูนั้น บีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive ยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 3 รูปแบบตาม ความต้องการของผู้ขับขี่และสภาวะเส้นทางที่เผชิญ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะไฮบริดซึ่งนำความแกร่งและการประหยัดพลังงานมาผสานกันอย่างกลมกลืน(AUTO eDrive) ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (MAX eDrive) และโหมด SAVE Battery เพื่อรักษาระดับประจุในแบตเตอรี่ไว้เท่าเดิม
          ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความคล่องตัวจะประทับใจกับฟีเจอร์การเลือกแหล่งพลังงาน โดยบีเอ็มดับเบิลยู คอนเซ็ปต์ X5 eDrive มาพร้อมกับสายเคเบิลสำหรับชาร์จไฟทุกคัน แบตเตอรี่ซึ่งติดตั้งบริเวณใต้พื้นที่เก็บสัมภาระแทบจะไม่ส่งผลต่อพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางซึ่งสามารถวางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ถึง 2 ใบ หรือวางถุงกอล์ฟขนาด 46 นิ้วได้มากถึง 4 ใบ
มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์
          ภายหลังการเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่กรุงเจนีวา บรรดาแฟนมินิชาวไทยจะได้ร่วมสัมผัสถึงรายละเอียดของคอนเซ็ปต์ยนตรกรรมมินิรุ่นล่าสุดนี้ ณ บูธมินิ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
          มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์มาพร้อมกับแนวคิดที่เปี่ยมไปด้วยความละเอียดซับซ้อน ล้ำสมัยโฉบเฉี่ยว และ ความสง่างาม โดยการออกแบบที่โดดเด่นของมินิได้รับการเติมเต็มด้วยการนำวัสดุคุณภาพสูงมาใช้ใน ทุกรายละเอียด รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและวัสดุที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ การนิยามความหมายใหม่ของมินินี้ยังคงยึดสไตล์ที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก ทำให้สามารถจดจำความเป็นมินิได้ในแรกเห็นทั้ง การออกแบบตกแต่งภายนอกและภายใน โดยคอนเซ็ปต์ของการนำสีและวัสดุแบบใหม่มาใช้มอบนิยามใหม่ให้แก่ความหรูหราแบบร่วมสมัยและคุณภาพระดับพรีเมี่ยมในเซ็กเมนท์รถยนต์นี้
          · ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ มินิเป็นตัวแทนของการใช้พื้นที่ขนาดเล็กที่สุดให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเพิ่มความยาวและความกว้างมากกว่ามินิ คลับแมนรุ่นปัจจุบันที่ 26 และ 17 เซนติเมตรตามลำดับ ให้แก่คอนเซ็ปต์รถยนต์ใหม่ ส่งผลให้มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ก้าวขึ้นเป็นยนตรกรรมในคลาสใหม่
          · การออกแบบทุกส่วนของมินิเต็มไปด้วยความปราดเปรียวที่เป็นเอกลักษณ์ แนวหลังคาที่ทอดยาวสะท้อนให้เห็นถึงพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น การดีไซน์คอนเซ็ปต์ใหม่ยังมอบความสง่างามเหนือระดับที่ได้รับการเน้นให้โดดเด่นด้วยขนาดตัวรถที่กว้างขวาง นอกจากนี้มุมมองด้านข้างยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพอันยอดเยี่ยมของมินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ได้ในทันที จากฐานล้อที่ยาว การวางตำแหน่งกระจกที่ราบเรียบและระยะห่างจากล้อถึงกันชนหน้าที่สั้นแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวของมินิ
          · การออกแบบที่โดดเด่นที่สุดในส่วนท้ายของตัวรถคือประตูที่สามารถเปิดแยกซ้ายขวาได้ กรอบประตูแบบดั้งเดิมได้รับการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ซึ่งจากเดิมเป็นโลหะ ในส่วนของตัวประตูและกรอบที่ล้อมรอบบริเวณส่วนท้ายทั้งหมดของตัวรถมอบความรู้สึกสุขุม เรียบหรู
          · พื้นที่ภายในตัวรถกว้างขวางขึ้นเช่นเดียวกับมิติภายนอก มินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์มาพร้อมกับ 4 ประตู และ 5 ที่นั่งมอบพื้นที่กว้างกว่าเดิมเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน
          · การนำวัสดุแบบใหม่มาใช้ในการตกแต่ง โดยนำหนังนูบัคสีฟ้าสดใส หนังแก้ว Berry Red เม็ดสีแจ่มชัด หนังเกรดพรีเมี่ยมสัมผัสอ่อนนุ่มสีดำ มาผสมผสานกันเพื่อมอบบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟสไตล์มินิ อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังเสริมด้วยวัสดุเคลือบเงินมอบความพรีเมี่ยมเหนือระดับอีกด้วย
          · ฟีเจอร์ภายในที๋โดดเด่นที่สุดของมินิ คลับแมน คอนเซ็ปต์ได้แก่ บริเวณแผงหน้าปัดหุ้มด้วยหนังสีฟ้า อมเทาผสมกับพื้นผิวเซรามิกพอร์ซเลนสีขาว ในส่วนแผงหน้าปัดสีดำที่อยู่เหนือขึ้นไปมอบรูปลักษณ์และความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ขณะที่ไฟด้านหลังแบบซ่อนหลอดไฟให้แสงทางอ้อม มอบบรรยากาศหรูหราเหนือระดับให้แก่ส่วนคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าได้อย่างน่าประทับใจ

ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 13 ปี มินิ ประเทศไทยกับมินิแฮ็ทช์ 3 ประตูและมินิ คันทรี่แมนพร้อมชุดแต่งสยามแพ็คเกจ
          ครั้งแรกก้บการเปิดตัวมินิพร้อมชุดแต่งเฉพาะสำหรับประเทศไทยเท่านั้น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 13 ปี ของมินิ ประเทศไทยด้วยชุดแต่ง สยามแพ็คเกจ ที่มาพร้อมสติ๊กเกอร์ลายพิเศษ แบ็ดจ์กระจังหน้าเฉพาะรุ่น และไฟ LED projector ส่องลงพื้นข้างประตูโลโก้มินิ
          ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งมินิ สยามแพ็คเกจเพิ่มเติมได้สำหรับมินิแฮ็ทช์ 3 ประตูและมินิคันทรี่แมนทุกรุ่น ด้วยราคาพิเศษเพียง20,000 บาท จำนวนจำกัดเฉพาะในงานบางกอก อินเตอร์เนชั้นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 นี้เท่านั้น

แคมเปญพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
          สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ทำการจองรถยนต์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2558 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:
          - BMW 116i และ 116i M Sport : iPad Air 2 (64 GB WIFI)
          - BMW X1 sDrive18i, X1 sDrive18i Line และ M Sport, X1 sDrive20d Line และ M Sport, BMW 3 Series GT: Rimowa Salsa Deluxe 35L
          - BMW 5 Series*, และรุ่นนำเข้า* : iPad Air 2 (64 GB WIFI + Cellular)
          - BMW 7 Series** และ BMW ActiveHybrid 7 L ทุกรุ่น : MacBook pro 13.3” 256 GB
          - X3 xDrive20i, X3 xDrive20d, X3 xDrive20d Highline : Cruise Bike BMW

          (*ยกเว้นรุ่น BMW 3 Series Touring, BMW 5 Series Touring, BMW 2 Series, BMW 4 Series, BMW Z4, BMW X5)
          (**ยกเว้นรุ่น BMW 730Ld Business)

          สำหรับลูกค้ามินิที่ทำการจองภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2558 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:
          · เฉพาะในงานมอเตอร์โชว์นี้เท่านั้น จอง MINI ทุกรุ่น ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 เมษายน 2558 และออกรถภายใน 30 เมษายน 2558 รับฟรี เครื่องชงกาแฟ NESCAFÉ® Dolce Gusto® รุ่น New MINI Limited Versionมูลค่า 7,490 บาท
· พร้อมเงื่อนไขพิเศษ อาทิเช่น ผ่อนเริ่มต้นที่ 11,500 บาท และ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี สำหรับMINI Countryman
          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญดังกล่าวหรือผลิตภัณฑ์การเงินอื่นๆ จาก BMW Financial Services และ MINI Financial Services สามารถติดต่อได้ที่ BMW Contact Center โทร. 1-800-269-269 ถ้าโทรออกจากโทรศัพท์มือถือ โทร. 1-401-269-269 หรือติดต่อได้ทีผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติม
          โปรแกรมคุ้มครองการบำรุงรักษา BMW Service Inclusive (BSI) และ MINI Service Inclusive (MSI) ได้ปรับเปลี่ยนเพิ่มเป็นโปรแกรม BMW และ MINI Service and Extended Warranty packages โดยมีระยะเวลาคุ้มครองรถยนต์ถึง 5 ปี/100,000 กม. สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู และ
5 ปี/50,000 กม. สำหรับมินิ
          ในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปี ของการมอบโปรแกรมบริการหลังการขายสำหรับลูกค้า BMW Service Inclusive หรือ BSI ในประเทศไทย ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิจะได้รับข้อเสนอการต่อระยะเวลาคุ้มครองรถยนต์ BMW และ MINI Service and Extended Warranty packages ซึ่งเป็นแพ็กเกจมาตรฐานที่มาพร้อมกับรถยนต์ใหม่ทุกคัน เพิ่มความสบายใจให้แก่ลูกค้าด้วยการครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษารถยนต์ถึง ถึง 5 ปี/100,000 กม. สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู และ 5 ปี/50,000 กม. สำหรับมินิ พร้อมทั้งการรับประกันภายใต้เงื่อนไขและข้อตกลงเช่นเดียวกันการรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตลอดระยะเวลาการคุ้มครองนี้อีกด้วย

MSN on March 24, 2015, 03:14:59 PM
จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ยกขบวนยานยนต์พรีเมี่ยมระดับโลก เปิดจองพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 International Motor show 2015 พบกัน ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 บูธ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ 25 มีนาคม – 5 เมษายนนี้ วันธรรมดา 12.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 11.00-22.00 น.



          ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย นำขบวนสุดยอดรถยนต์สปอร์ตซีดานและเอสยูวีที่การันตีด้วยรางวัลระดับโลก เปิดจองในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 Bangkok International Motor Show 2015 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2558 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 ที่บูธ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เอาใจแฟนๆ ของสองแบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษด้วยยานยนต์รุ่นท้อปของคลาส อาทิ จากัวร์เอฟ-ไทป์ (F-type), จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ (XF), จากัวร์ เอ็กซ์เจ (XJ) รวมถึง เรนจ์โรเวอร์ อีโวค, แลนด์โรเวอร์ ดีเฟนเดอร์, ฟรีแลนเดอร์, นำเสนอขายในราคาพิเศษสุดภายในงาน พร้อมรับโปรโมชั่นและแพ็คเกจฟรีมากมาย ทั้งการรับประกันตัวถังนาน 5 ปี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี และส่วนลด 15% เมื่อซื้อชิ้นส่วนประดับยนต์ของแท้ พร้อมบริการติดตั้งและซ่อมบำรุงโดยช่างผู้ชำนาญที่ผ่านการฝึกอบรมจากัวร์แลนด์โรเวอร์ของ ซิตี้ ออโต้โมบิล

          มร.ริชาร์เ เฮก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดเผยว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่จะได้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 ผ่านการนำเสนอขบวนยานยนต์ที่โดดเด่นของเรา โดยปี 2558 ยังเป็นปีที่ ซิตี้ ออโต้โมบิล กำหนดเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่บนถนนพระราม 4 ในเดือนพฤษภาคม เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายศูนย์บริการของเราให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันเราบริหารงานศูนย์บริการ 3 แห่ง ได้แก่ เพรสทีจ มอเตอร์  คาร์ส ถนนวิทยุ, จีที คาร์ส ถนนเพชรบุรี และ จีบี ออโต้โมบิลส์ ในจังหวัดภูเก็ต โดยเรายังมีแผนการลงทุนจัดหาอุปกรณ์และเทคโนโลยีและขยายเครือข่ายบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่มีต่อรถยนต์จากัวร์แลนด์โรเวอร์ที่เพิ่มมากขึ้น ผ่านการนำเสนอบริการทั้งก่อนและหลังการขายชั้นเลิศแก่ลูกค้าของเราในประเทศไทย”

          ท่านสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับยานยนต์และข้อมูลเชิงเทคนิคได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com และ www.jaguarthailand.com

MSN on March 24, 2015, 03:17:13 PM
ฟอร์ดเปิดตัว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเผยโฉมรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ครั้งแรกของโลก ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
 
· ฟอร์ดประกาศราคารถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถอเนกประสงค์สมรรถนะสูง ราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท พร้อมเปิดรับจองในงาน
· ฟอร์ดเผยโฉมรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นครั้งแรกในโลก เพื่อสานต่อกลยุทธ์การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่คุณภาพระดับโลกและสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง



          ฟอร์ดเดินหน้าสานต่อกลยุทธ์หลักในการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่คุณภาพระดับโลกในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเผยโฉมรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เป็นครั้งแรกของโลกพร้อมเปิดตัวรถอเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ในภูมิภาคอาเซียน ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36
          การเปิดตัวของรถระดับโลกของฟอร์ดทั้งสองรุ่นในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการแนะนำรถยนต์คุณภาพระดับโลกแก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
          “เราภูมิใจในประสบการณ์การพัฒนารถกระบะและรถอเนกประสงค์ที่มีมาอย่างยาวนานของเราเป็นอย่างยิ่ง ความเป็นผู้นำและความเชี่ยวชาญของเราในอุตสาหกรรมยานยนต์นี้สะท้อนไว้อย่างอย่างชัดเจนในรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโชว์รูฟอร์ด พร้อมทั้งตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ระดับโลก” มร.แมท แบรดลีย์ ประธานฟอร์ด อาเซียน กล่าว
          ฟอร์ดจะผลิตรถทั้ง 2 รุ่นนี้ ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย เพื่อการจำหน่ายในประเทศและส่งออกในภูมิภาค
          รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะด้วยรูปโฉมใหม่ พร้อมพละกำลังและสมรรถนะอันเหนือชั้น รวมถึงฟังก์ชั่นอัจฉริยะ ทำให้เจ้าของ ฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมลุยในทุกเส้นทาง
          ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่จะเปิดตัวในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนในปีนี้

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับแก่ผู้บริโภค ด้วยการผสมผสานความสมบุกสมบันแบบออฟโรดเข้ากับการขับขี่ที่เหนือชั้นและความคล่องตัวที่เกินความคาดหมายจากรถอเนกประสงค์ทั่วไป

          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งยังนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดรถอเนกประสงค์ทั่วโลกของฟอร์ดมาใช้ ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถสานต่อความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านความทนทานและความอเนกประสงค์
          ตัวรถถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สวยงามและมีความทนทานในระดับแถวหน้าของตลาด ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อความปลอดภัย การเชื่อมต่ออย่างเหนือชั้นและความสะดวกสบายเป็นเลิศ
          “รถรุ่นใหม่ระดับโลกของฟอร์ดในแต่ละรุ่น ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับรถในรุ่นนั้นๆ และสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้กับฟอร์ดมากยิ่งขึ้น เรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่นี้ จะสามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ให้กับฟอร์ดด้วยการเป็นรถอเนกประสงค์ที่อัจฉริยะมากที่สุดและมีสมรรถนะสูงที่สุดในตลาด” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติพร้อมระบบ Terrain Management System หลังคาพาโนรามิคมูนรูฟแบบปรับไฟฟ้าที่สามารถเปิดให้เห็นวิวท้องฟ้าขนาดใหญ่ เบาะนั่งแถวที่ 3 แบบปรับไฟฟ้าพับเรียบและประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist และระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมด้วยระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดบอดในระหว่างที่กำลังขับขี่หรือในขณะที่ขับรถเพื่อเตรียมถอยรถออกจากที่จอด
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถรุ่นล่าสุดของฟอร์ด พร้อมด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และคำสั่งแบบแยกสี ช่วยให้การเลือกใช้งานเมนูต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่มาพร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ (TDCi) ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบและ เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ (TDCi) ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ติดตั้งพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด
          ผู้สนใจสามารถจอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสองล้อ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,459,000 บาท และสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,599,000 บาท โดยการส่งมอบรถจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้
          ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีสีให้เลือก5 สี ได้แก่สีขาว คูล ไวต์ (Cool White) สีดำ แบล็ก ไมก้า เมทัลลิก (Black Mica Metallic ) สีเงิน อะลูมินัม เมทัลลิก (Aluminum Metallic) สีทอง สปาร์คลิ่ง โกล์ด เมทัลลิก (Sparkling Gold Metallic) และสีแดง ซันเซต เมทัลลิก (Sunset Metallic)

บูธจัดแสดงงานแบบอินเตอร์แอคทีฟ
นอกจากจะมีการจัดแสดงรถแนวหน้าระดับโลกทุกรุ่นที่จำหน่ายในเมืองไทยแล้ว บูธของฟอร์ดยังมีการจัดกิจกรรมแบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่ผู้เข้าร่วมชมบูธจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการดำเนินธุรกิจและความเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 4 ประการของฟอร์ด ได้แก่ ด้านคุณภาพ (Quality) ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green) ความปลอดภัย (Safe) และเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart)
          ฟอร์ดยังได้ติดตั้งจอสัมผัสแบบดิจิตอลที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมสร้างประสบการณ์ในการเลือกปรับแต่งรถยนต์ในรูปแบบ 3 มิติ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นรถ และสีรถ ตามความสนใจ รวมถึงชุดตกแต่งพร้อมคำนวณราคาสำหรับในบางรุ่น
          ฟอร์ด ยังได้จัดแสดงพร้อมให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง (24-hour Roadside Assistance Application) โดยจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อเข้าถึงการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะในช่วงเวลาคับขัน ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้รถได้อย่างสบายใจไม่ว่าจะอยู่ที่ส่วนใดของประเทศ
          ฟอร์ดยังได้จัดแสดงเครื่องยนต์รุ่นต่างๆ รวมถึง เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.2 ลิตร ทีดีซีไอ (TDCi) และ 2.2 ลิตร ทีดีซีไอ (TDCi) เครื่องยนต์อีโค่บูสต์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เห็นถึงส่วนประกอบของเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
          นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมชมบูธยังสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การบริการที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า รวมถึงศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถฟอร์ดทั่วประเทศและโปรแกรมการบริการหลังการขายต่างๆ ซึ่งรวมถึงโปรแกรมช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน (24 Hours Roadside Assistance) โปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ (Scheduled Service Plan) ประกันภัยฟอร์ด (Ford Ensure) โปรแกรมจัดส่งอะไหล่ใน 24 ชั่วโมง (24-hour Parts Delivery Guarantee) และโปรแกรมขับขี่อุ่นใจ (Premium Protection Plus) และ การให้บริการรถเคลื่อนที่ (Mobile Service)
          “เราจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาการบริการลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์การบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องคุณภาพอันดีเยี่ยมของรถระดับโลกของเรา” นางสาวยุคนธร กล่าว

ข้อเสนอสุดพิเศษ
          ฟอร์ดได้เตรียมข้อเสนอสุดเร้าใจสำหรับรถทุกรุ่นที่วางขายในประเทศไทย สำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานนี้
โดยงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 36 นี้ จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 ณ อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี