MSN on June 23, 2012, 07:46:47 AM
“ซาบีนี่” จูงมือหนูน้อยเข้าร่วมโครงการ “ซาบีนี่แคมป์” รุ่น7 ตะลุยกิจกรรม “สปอร์ต เลิฟเวอร์” สุดมันส์ ในตอน “กีฬาเป็นยาวิเศษ...เย้!”

“ชุดชั้นในเด็กซาบีนี่” โดยบริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เอาใจน้องหนู จัดแคมป์เรียนรู้สำหรับเด็กผู้หญิงที่  ป๊อบที่สุด อันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง ในโครงการ “ซาบีนี่แคมป์” รุ่น 7 ซาบีนี่ สปอร์ต เลิฟเวอร์ - Sabinie Sport Lover ตอน “กีฬาเป็นยาวิเศษ...เย้!” ชวนน้องๆ หนูๆ อายุระหว่าง 6-12 ปี จำนวน 110 คน ร่วมสนุกกับการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเรียนรู้ชนิดกีฬา และการออกกำลังกายที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การพัฒนาความแข็งแรงทางด้านร่างกายเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างพัฒนาการด้านจิตใจ อารมณ์ สติปัญญา และสังคม ในรูปแบบ One Day Camp ณ เดอะไพน์ รีสอร์ท จ. ปทุมธานี

นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในสำหรับเด็ก “ซาบีนี่” กล่าวว่า “โครงการซาบีนี่แคมป์ในครั้งนี้ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 7 ในตอนที่มีชื่อว่า “กีฬาเป็นยาวิเศษ...เย้!” เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด SQ (Sport Quotient)เป็นกิจกรรมที่ทางซาบีนี่ได้สร้างสรรค์ขึ้นในรูปแบบ One Day Camp เพื่อเป็นการส่งเสริมให้น้องๆ เยาวชนได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ จากการเล่นกีฬาและการออกกำลังกาย ที่นอกจากจะเป็นการเพิ่มความแข็งแรงด้านร่างกายแล้ว ยังเสริมสร้างพัฒนาการที่สำคัญของหนูน้อยแบบฉลาดรอบด้านด้วยกีฬา ทั้งทางสรีระร่างกาย อารมณ์ สังคมและจิตใจ และช่วยเพิ่มทักษะทางสติปัญญาในการแก้ปัญหาต่างๆ รวมถึงการรู้รักสามัคคีและการผูกมิตรกับผู้อื่นได้อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากแพทย์หญิงดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะมาแนะเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับ “SQ (Sport Quotient) กีฬาสร้างลูกฉลาด” ให้กับ      คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ พร้อมพบกิจกรรมแสนสนุกสุดสร้างสรรค์ในรูปแบบฐานเกมส์ต่างๆ ที่มอบประสบการณ์ให้กับคุณหนูๆ อย่างครบครัน นอกจากจะได้ออกกำลังกายและสร้างความสามัคคีภายในกลุ่มแล้ว ยังได้ฝึกพัฒนาสมองกับการแก้โจทย์ปัญหาในแต่ละฐานอีกด้วย

เริ่มจาก ฐานธนูหัวใจ ที่ให้น้องๆ ฝึกทักษะด้านคณิตศาสตร์ เช่น การกะระยะ ทิศทาง จำนวน รวมทั้งได้บริหารกล้ามเนื้อมัดเล็ก ช่วยฝึกการทำงานระหว่างสายตาและมือที่ต้องเล็งลูกธนูยิงให้ตรงเป้า ฐานที่ 2 วอลเล่ย์ลั้นลา      เน้นฝึกสมาธิและความอดทนพยายาม รวมถึงปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ภารกิจรับส่งลูกโป่งใส่น้ำสำเร็จลุล่วง ฐานที่ 3 บาสเกต ดึ๋ง ดึ๋ง ฝึกการคิดแก้ปัญหาอุปสรรคที่เจอระหว่างทางที่วิ่งไปชูตบาส เช่น การวิ่งซิกแซก ชุดที่สวมใส่ และการช่วยเหลือกันภายในทีม ฐานที่ 4 ฮูลาฮูปหรรษา น้องๆ จะได้ออกกำลัง ฝึกความยืดหยุ่นของร่างกาย ในการส่งต่อห่วงฮูลาฮูปให้เร็วที่สุด เป็นฐานที่จะช่วยส่งเสริมความสามัคคี การทำงานเป็นทีม และการคิดวางแผน และฐานว่ายน้ำตะลุมบอล เป็นการฝึกทักษะการเคลื่อนไหวของร่างกายให้ว่องไว เพื่อว่ายน้ำตะลุมบอลตามที่กติกากำหนด น้องๆ จะต้องช่วยเหลือกันในทีม มีน้ำใจนักกีฬาและรู้จักให้อภัยกัน เมื่อเพื่อนหรืออีกฝ่ายแย่งบอลไม่ได้ โดยทุกฐาน นอกจากช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย และจิตใจแล้ว น้องๆยังสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน การอยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยหล่อหลอม และปลูกฝังเด็กๆวัยใสในวันนี้ ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต นายอมรเทพ กล่าว

อาจารย์แพทย์หญิง ดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล แนะเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับ “SQ (Sport Quotient) กีฬาสร้างลูกฉลาด” ให้กับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ว่า “ความสามารถทางด้านกีฬาหรือความสามารถในด้านการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Bodily-kinesthetic intelligence) ถือเป็นความสามารถของมนุษย์ 1 ใน 8 ด้านมีที่มาจากทฤษฎีพหุปัญญา (heory of multiple intelligences) ของ Professor Howard Gardner แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้คิดขึ้นในปีคศ. 1983 ในช่วงวัยเด็กเป็นวัยที่ต้องการออกกำลังกายและการเคลื่อนไหวอิสระอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำไปสู่การเจริญเติบโตของร่างกาย ความแข็งแรงทนทาน และความยืดหยุ่นของกระดูกและกล้ามเนื้อ วิทยาการความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบันพบว่าพัฒนาการที่สมบูรณ์ของเด็กทุกคนเกิดขึ้นได้จากการที่คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการเลี้ยงดูที่มุ่งเน้นพัฒนา 3 ด้านหลักอย่างสมดุลย์ดำเนินไปพร้อมๆ กัน นั่นคือพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์สังคม และด้านสติปัญญา โดยจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญแต่เพียงด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้เพราะนั่นจะเป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติของเด็ก โดยมีผลงานวิจัยจากต่างประเทศทั้งในเอชีย ยุโรปและอเมริกาพบว่าเด็กกลุ่มที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นประจำในปริมาณที่พอเหมาะ ประมาณวันละ 60 นาที มีผลเรียนในโรงเรียนดีกว่าเด็กที่ไม่ออกกำลังกายหรือไม่เล่นกีฬา นอกจากนี้การเลือกชนิดกีฬาหรือท่าทางในการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยควรให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายในปริมาณเหมาะสมเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ควรวอร์มอัพและคูลดาวน์ทุกครั้งที่เล่นกีฬา โดยการทำท่ากายบริหารที่ช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนและหลังการเล่นกีฬา ทั้งยังช่วยฝึกทักษะทางด้านสมองให้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น เพิ่มความแม่นยำ ฝึกการจดจำ ความทนทานและความกระตือรือร้น

“การเลือกชนิดกีฬาตามวัย อาทิ เด็กวัย 6–10 ปี ควรเลือกชนิดกีฬาที่ทำให้เด็กได้ออกกำลัง เคลื่อนไหวอวัยวะของร่างกายอย่างสนุกสนาน ผ่อนคลาย  เช่น เต้นแอโรบิก วิ่งจ๊อกกิ้ง วิ่งเร็ว กิจกรรมปีนป่าย บัลเล่ต์ หรือว่ายน้ำ เป็นต้น ส่วนเด็กที่เริ่มโตขึ้นในวัย10-12 ปีสามารถฝึกให้เล่นกีฬาที่ยากขึ้นมาเล็กน้อย กีฬาที่เน้นความแม่นยำ ความคล่องแคล่วว่องไว มีการใช้งานของสายตาและมือมากขึ้น ฝึกการทรงตัว การหลบหลีก และฝึกความสามัคคีในการเล่นกีฬาแบบเป็นทีมได้มากขึ้น เช่น กีฬาแชร์บอล บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล ปิงปอง ขี่จักรยาน โดยเล่นแบบไม่หักโหมนัก เด็กในวัยนี้ควรออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมง และควรมีการแบ่งการออกกำลังกายออกเป็น 30 นาที พักอย่างน้อย 5 นาที ในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นที่อากาศไม่ร้อน แสงแดดไม่แรงจนเกินไป” แพทย์หญิงดวงรัตน์ กล่าว

น้องว่านน้ำ - ชนมน สมคิด อายุ 7 ปี ตัวแทนหนูน้อยที่เข้าร่วมซาบีนี่แคมป์ในครั้งนี้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมซาบีนี่แคมป์ หนูชอบกีฬายิงธนูมากที่สุดค่ะ เพราะนอกจากจะสอนให้หนูรู้สึกสนุกกับการออกกำลังกาย ฝึกสมาธิและความแม่นยำแล้ว ยังทำให้หนูได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ รู้จักความสามัคคีและการผูกมิตรกับผู้อื่น ผ่านกิจกรรมสนุกๆ มากมายในวันนี้ค่ะ

น้องบัว – นลินลดา ทัพภวิมล อายุ 9 ปี ตัวแทนหนูน้อยที่เข้าร่วมซาบีนี่แคมป์ในครั้งนี้ กล่าวว่า ปกติหนูชอบเล่นกีฬาวอลเล่ย์บอลและแบดมินตันค่ะ วันนี้หนูได้มาร่วมกิจกรรมซาบีนี่แคมป์เลยรู้สึกสนุกมาก ได้ออกกำลังกายกับเพื่อนๆ และยังได้เรียนรู้คุณประโยชน์จากการออกกำลังกาย ที่ช่วยทักษะทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและจิตใจ และช่วยเพิ่มทักษะทางสติปัญญาในการแก้ปัญหาต่างๆ อีกด้วยค่ะ

ชุดชั้นในเด็กซาบีนี่คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด “ซาบีนี่ สปอร์ต เลิฟเวอร์” ชวนให้น้องๆ มารู้จักกีฬาชนิดต่างๆ ผ่านลวดลายการ์ตูนสุดน่ารักของหนูน้อยซาบีนี่ ทั้งกีฬาในร่มอย่างยิมนาสติก ฟิคเกอร์สเก็ต ยกน้ำหนัก และกีฬากลางแจ้งอย่าง    ว่ายน้ำ บาสเก็ตบอล ขี่ม้าหรือยิงธนู เพื่อส่งเสริมให้น้องๆ รู้จักการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ โดยการออกกำลังกาย เสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จิตใจแจ่มใส โดยชุดชั้นในสำหรับเด็กซาบีนี่ สปอร์ต เลิฟเวอร์ ยังคงคุณสมบัตินุ่มสบายด้วยเส้นใยธรรมชาติ ที่ผลิตจากฝ้ายแท้ 100% ภายใต้สัญลักษณ์ COTTON USA สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และไม่ระคายเคืองต่อผิวอันบอบบางของคุณหนูๆ ประกอบด้วย บราตะขอหลัง บราสวมหัว เสื้อกล้ามครึ่งตัว เสื้อทับ บราฮาล์ฟสลิป กางเกงขาสั้น และกางเกงใน จำหน่ายในราคาตั้งแต่ 280-350 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้   ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมติดตามภาพกิจกรรมแสนสนุกจากซาบีนี่แคมป์รุ่น 7 ตอน “กีฬาเป็นยาวิเศษ...เย้!” ได้ทาง www.facebook.com/sabinie
« Last Edit: June 23, 2012, 08:01:17 AM by MSN »

MSN on June 23, 2012, 08:05:03 AM

นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในสำหรับเด็ก “ซาบีนี่”
 

แพทย์หญิง ดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล
 

น้องว่านน้ำ - ชนมน สมคิด อายุ 7 ปี


น้องบัว – นลินลดา ทัพภวิมล อายุ 9 ปี


หนูน้อยซาบีนี่ ที่เข้าร่วมโครงการซาบีนี่แคมป์ รุ่นที่ 7 ตอน “กีฬาเป็นยาวิเศษ...เย้!”