enjoynews on March 28, 2012, 12:28:03 PM
เผยโฉมยนตรกรรมใหม่ 3 รุ่นก่อนใครในอาเซียนกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
•   ครั้งแรกในอาเซียนกับ 3 ยนตรกรรมใหม่ล่าสุด The new M-Class สุดยอดยนตรกรรม  ออฟโรดสไตล์สปอร์ต The new B-Class คอมแพ็คสปอร์ตทัวเรอร์ใหม่ที่ให้ความคล่องแคล่วปราดเปรียว และ Concept A-Class  ต้นแบบคอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่
•   พร้อมพบกับการปรากฏตัวคู่กันเป็นครั้งแรกของซุปเปอร์คาร์ C 63 AMG Coupé Black Series & Ducati Diavel AMG Special Edition โดยความร่วมมือระหว่าง          เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอเอ็มจี และดูคาติ
•   พบกับโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนรักแบรนด์ดาวสามแฉก

กรุงเทพฯ – บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สานต่อความเป็นผู้นำแห่งวงการอุตสาหกรรมยานยนต์หรู เผยโฉมรถใหม่ครั้งแรกในอาเซียนถึง 3 รุ่น รวมทั้งจัดทัพนำขบวนยนตรกรรมหรูกว่า 22 คัน ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ จัดแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555 นี้  ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี พร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษมัดใจลูกค้า
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงรักษาตำแหน่งของการเติบโตสูงสุดในตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นในการนำเสนอรถยนต์แบบหลากหลายและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค  ในปีนี้เราได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ไว้อย่างยิ่งใหญ่ในฐานะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นผู้บุกเบิกโลกแห่งยนตรกรรม ผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกยานยนต์แห่งอนาคต และเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายในยนตรกรรมมาตลอดระยะเวลา 125 ปีที่ผ่านมา โดยบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้สะท้อนถึงปรัชญาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ว่า       “The best or nothing” โดยเราได้สร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่มรถยนต์คอมแพ็คในประเทศไทยด้วยการนำเสนอรถยนต์ต้นแบบ Concept A-Class, the new M-Class  และ the new B-Class ให้คนไทยได้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกในอาเซียน”
“ไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีนี้ คือ การเผยโฉมยนตรกรรมใหม่ถึง 3 รุ่นเป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยเริ่มจากการนำเสนอรถ SUV ใหม่ล่าสุด The new M-Class รถยนต์อเนกประสงค์ออฟโรดสไตล์สปอร์ต ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่างรถซาลูนสำหรับการขับขี่ทั่วไป เข้ากับการขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบออฟโรดได้อย่างลงตัว ถัดมาเป็น The new B-Class รถยนต์นั่งสำหรับครอบครัวสไตล์คอมแพ็คสปอร์ตทัวเรอร์โฉมใหม่ ที่ปรับปรุงรูปลักษณ์ให้ดูโฉบเฉี่ยวพร้อมทั้งประสิทธิภาพการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ต่อด้วยคอนเซ็ปต์คาร์ Concept A-Class รถยนต์ต้นแบบของรถยนต์นั่งแบบคอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ และปิดท้ายด้วยสุดยอดยนตรกรรมแบบซุปเปอร์คาร์สปอร์ตคูเป้ที่พัฒนาจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class Coupé นั่นก็คือ C 63 AMG Coupé Black Series ที่เคียงคู่กับมอเตอร์ไบค์ดูคาติ Ducati Diavel AMG Special Edition” ดร. เพาฟเลอร์กล่าว
The new M-Class  : สุดยอดยนตรกรรมออฟโรดสไตล์สปอร์ตที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
The new M-Class เป็นรุ่นที่ 3 ของตระกูล M-Class ยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับ         พรีเมี่ยมแบบออฟโรด 5 ที่นั่ง ที่เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายและลงตัว มีรูปลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นสปอร์ต สะท้อนถึงตัวตนที่บ่งบอกประสิทธิภาพความแข็งแกร่ง ความทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว ปราดเปรียว แต่แฝงไว้ซึ่งความปลอดภัย มีดีไซน์และสไตล์เป็นของตนเอง ดูโดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยต่างๆ ตลอดจนอุปกรณ์แบบครบครันที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ML 250 CDI BlueEFFICIENCY 4MATIC ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รหัสตัวถัง W166 ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี ขุมพลัง 150 กิโลวัตต์/ 204 แรงม้าที่ 4,200 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 1,800 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 9 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ถ่ายทอดผ่านกำลังเกียร์อัตโนมัติเดินหน้าแบบ 7 จังหวะ 7G-TRONIC PLUS พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบออฟโรด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทั้งการขับขี่บนท้องถนนทั่วไปและสไตล์ออฟโรด ทำให้เพลิดเพลินในการขับขี่
The new B-Class : นิยามใหม่ของคอมแพ็คสปอร์ตทัวเรอร์สำหรับครอบครัว
เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new B-Class เป็นรุ่นที่ 2 ของตระกูล B-Class ยนตรกรรมที่มีรูปลักษณ์ดีไซน์สไตล์สปอร์ต ที่สื่อถึงความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว และมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น ภายนอกถูกออกแบบโดยเน้นย้ำถึงความกว้างขวางและสมรรถนะที่โดดเด่นเกินมิติของตัวรถ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบฮาโลเจนพร้อมระบบส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด ไฟ daytime แบบทรงกลม และไฟท้ายแบบใหม่ที่ช่วยเน้นถึงความกว้างของตัวรถ รวมทั้งประตูบานท้ายขนาดใหญ่ ในขณะที่ขอบห้องเก็บสัมภาระต่ำ ทำให้การขนย้ายสัมภาระสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนภายในห้องโดยสารถูกออกแบบเพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกสบายสูงสุด โดยสามารถปรับการใช้งานเพื่อให้มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระเพิ่มมากขึ้นได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เบาะนั่งด้านหลังพับลงได้ทั้งในแบบ 1/3 และ 2/3  เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำตำแหน่งที่นั่ง โดย B 200 BlueEFFICIENCY มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รหัสตัวถัง W246 ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,250 – 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก        0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 8.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 181 กม./ชม. ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ แบบ 7G-DCT (Dual Clutch Transmission) มาพร้อมฟังก์ชัน ECO Start/Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น

Concept A-Class : นวัตกรรมคอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่
Concept A-Class เป็นยนตรกรรมที่สร้างนิยามใหม่ให้แก่โลกยานยนต์แห่งอนาคต ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยว แสดงออกถึงพลังแห่งความคล่องแคล่วปราดเปรียวในทุกอณู ด้วยมุมมองด้านข้างที่ดึงดูดสายตาด้วยแนวเส้นที่เฉียบคม 3 เส้นโดยผู้ออกแบบรถยนต์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามพริ้วไหวของธรรมชาติ สายลม เกลียวคลื่นผสานด้วยวิศวกรรมอากาศยาน บวกกับการตกแต่งภายในที่มีจุดเด่นอยู่ที่แผงคอนโซลด้านหน้า ที่มีลักษณะรูปร่างเหมือนปีกเครื่องบิน หุ้มด้วยผ้ายืดโปร่งแสงชนิดพิเศษที่สามารถมองทะลุเห็นโครงสร้างที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ด้านหลังได้ นอกจากนั้นรูปทรงของช่องปรับอากาศและช่องระบายลมที่อยู่บนแผงคอนโซล ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ท การแสดงผลของอุปกรณ์ต่างๆ บนแผงหน้าปัดเน้นด้วยสีแดงคล้ายกับเครื่องบินไอพ่นขณะกำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แบบวางขวาง ขนาด 2.0 ลิตร รุ่น M270 พร้อมระบบไดเรคอินเจคชั่นและเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 155 กิโลวัตต์/ 210 แรงม้า ใช้ระบบส่งกำลังแบบคลัชท์คู่เดินหน้า 7 จังหวะ และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า นอกจากนั้นยังเป็นคอมแพ็คคาร์รุ่นแรกของโลกที่มีการติดตั้งระบบเตือนภัยอุบัติเหตุด้วยระบบเรดาร์ที่มีการทำงานร่วมกับระบบช่วยเบรคที่จะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ อาทิ การชนท้าย ซึ่งระบบด้านความปลอดภัยนี้ เรียกว่า ระบบ Collision Prevention Assist โดยระบบจะแสดงการเตือนในรูปแบบของภาพและเสียงให้แก่ผู้ขับขี่ และระบบช่วยเบรกที่จะตอบสนองทันทีเพิ่มความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น 
C 63 AMG Coupé Black Series & Ducati Diavel AMG Special Edition : ซุปเปอร์คาร์สปอร์ตคูเป้เหนือระดับสไตล์รถแข่งที่เคียงคู่มากับมอเตอร์ไบค์ดูคาติ
เป็นครั้งแรกที่สองแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านการออกแบบที่มีสไตล์บวกกับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าทันสมัยด้วยช่างฝีมือ อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอเอ็มจีได้จับมือเป็นพันธมิตรกับมอเตอร์ไบค์ชั้นนำ ดูคาติ ร่วมกันออกแบบชุดแต่งพิเศษโดยนำมาตกแต่งในเมอร์เซเดส-เบนซ์ C 63 AMG Coupé Black Series ซึ่งเป็นโมเดลที่ 4 ของตระกูล Black Series โดยถูกพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class Coupé  รุ่นล่าสุด ผสมผสานความเป็นที่สุดของรถยนต์นั่งแบบสปอร์ตคูเป้ที่มีดีไซน์อันน่าเร้าใจ พร้อมด้วยเทคโนโลยีและพลังในการขับเคลื่อนที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์ในโลกของมอเตอร์สปอร์ต มาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่น M 156 เครื่องยนต์แบบ V8 ความจุกระบอกสูบ 6.3 ลิตร กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 517 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 4.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. ขุมพลังของเครื่องยนต์ถูกส่งผ่านระบบส่งกำลัง AMG SPEEDSHIFT MCT 7 Speed ไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หลัง โดยผู้ขับสามารถเลือกโหมดการทำงานให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์การขับขี่ โดยเฉพาะในโหมด RACE START ที่ให้อารมณ์เช่นเดียวกับการแข่งขันความเร็วในสนามแข่ง พร้อมด้วยระบบกันสะเทือน AMG Sports ที่พัฒนาใหม่ล่าสุดสามารถเลือกตั้งระดับให้เข้ากับสถานการณ์การขับขี่ นอกจากนั้นภายในยังตกแต่งให้ได้บรรยากาศเช่นเดียวกับรถแข่งความเร็วทางเรียบชั้นนำ
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 22 คันในทุกเซ็กเมนต์ ภายใต้แนวคิด “BlueEFFICIENCY” นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ CGI เครื่องยนต์ดีเซล CDI และเครื่องยนต์ BlueDIRECT ที่มีขนาดเล็กลง แต่ให้พละกำลังสูง ที่สำคัญเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตระกูล           C-Class, E-Class, S-Class และ Niche Models อาทิ C 200 BlueEFFICIENCY, E 200 NGT BlueEFFICIENCY ELEGANCE with COMAND Online รถยนต์ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงได้ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ NGV โดยสามารถเลือกโหมดการใช้งานระหว่างก๊าซหรือน้ำมันได้เพียงแค่กดปุ่มที่พวงมาลัย  ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมเชื้อเพลิง, S 300 Long Wheelbase, SLK 200 BlueEFFICIENCY Sports AMG Roadster และ C 250 BlueEFFICIENCY Coupé Edition 1 เป็นต้น
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าภายในงาน
นอกเหนือจากขบวนรถมากมายที่นำมาจัดแสดงภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์แล้ว  เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ดังนี้
1.   ข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุดถึง 60 เดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 สำหรับ      ผู้สั่งซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น S-Class หรือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ E 300 AVANTGARDE Sports ทุกคัน

2.   ข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุดถึง 36 เดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียง 47,900 บาทต่อเดือน สำหรับผู้สั่งซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์      C 250 BlueEFFICIENCY Coupé Edition 1

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ได้ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2555 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี