FB on September 27, 2013, 08:57:47 AM
          บทบาทและคาแรคเตอร์ตัวละคร “ต้มยำกุ้ง2-3D”

          ขาม คนเลี้ยงช้างที่มีวิชามวยโบราณสุดร้ายกาจ คือนักสู้ผู้ต้องการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ กับ ขอน ช้างคู่กายที่เป็นเหมือนพี่น้องที่ผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก หลังจากสูญเสียพ่อใหญ่จากเหตุการณ์ร้านต้มยำกุ้งที่ออสเตรเลีย ทำให้เขารู้สึกผิดและสัญญากับตัวเองว่าจะต้องดูแลไม่ให้ใครมาพรากชีวิตขอนไป ได้อีก แต่แล้วเรื่องที่เขากลัวที่สุดกลับเกิดขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ ต่างจากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง เพราะสิ่งที่พวกมันต้องการไม่ได้มีเพียงแค่ช้าง สิ่งที่พวกมันต้องการแท้จริงแล้วคือความสามารถของเขานักสู้ที่สืบเชื้อสาย โดยตรงจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นทหารจตุลังคบาททหารกล้าผู้มีความสามารถในการใช้ แม่ไม้มวยไทยโบราณที่เรียกว่า“มวยคชสาร”ในการต่อสู้เหนือกว่าผู้ใดนั่นเอง
          จา พนม ยีรัมย์ คือสุดยอดแอ็คชั่นซูเปอร์สตาร์เบอร์1ของเมืองไทยที่ได้รับการยอมรับมากที่ สุดคนหนึ่งของโลกภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์และลีลาเฉพาะตัวในการเล่นเรียลแอ็ค ชั่นแบบสมจริงผสมผสานกับศิลปะแม่ไม้มวยไทย รวมไปถึงพื้นฐานในความสามารถเฉพาะตัวในศิลปะการต่อสู้แขนงต่างๆและยิมนาสติก ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดกับผลงานการแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นที่โด่งดังไป ทั่วโลกอย่าง “องค์บาก1-2-3” และ “ต้มยำกุ้ง” ส่งผลให้ชื่อเสียงของ “โทนี่ จา” ขึ้นทำเนียบสุดยอดนักแสดงแอ็คชั่นแห่งทศวรรษ
          แอล ซี พ่อค้าอาวุธข้ามชาติ เป็นคนฉลาดมองคนออกทะลุปรุโปร่ง เจ้าเล่ห์แบบพ่อค้าที่ไว้ใจไม่ได้ จอมวางแผนและสิ่งใดที่ต้องการต้องได้มาแบบไม่เกี่ยงวิธีการ หลงใหลในศิลปะการต่อสู้แบบเข้ากระแสเลือด ชอบดูการต่อสู้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะมวยโบราณ คลั่งขนาดที่ถ่ายเป็นวิดีโอเก็บไว้ดูแบบซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่มีเบื่อ แม้จะอยู่ท่ามกลางแผนการใหญ่ระดับโลกก็ยังสนุกกับการเห็นนักสู้เก่งๆมาอยู่ ในคอลเล็คชั่นการต่อสู้ในวิดีโอของเขารวมทั้งขามด้วย
          RZA ศิลปินผู้มีความสามารถอันหลากหลาย นอกเหนือจากบทบาทที่คนทั้งโลกรู้จักในฐานะไอคอนของดนตรีฮิปฮอป คือโปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ด,นักดนตรี,นักแต่งเพลง รวมไปถึงการเป็น1ในตัวจักรสำคัญในความสำเร็จของทุกอัลบั้มของ Wu-Tang Clan กลุ่มศิลปินแร็ปชาวอเมริกันที่โด่งดัง อีกบทบาทหนึ่งที่สร้างความโดดเด่นไม่แพ้กันนั่นคือการที่เข้าไปมีส่วนในงาน แสดงของภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องทั้ง AMERICAN GANGSTER,COFFEE AND CIGARETTE ฯลฯ รวมทั้งรับหน้าที่ในงานดนตรีประกอบให้กับภาพยนตร์สุดฮิตอย่างkill bill ของเควนติน ทาแรนติโน่ และ ต้มยำกุ้ง หรือ THE PROTECTOR ในเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ด และAMERICAN GANGSTER ของผกก.ริดลี่ย์ สก็อตต์ และด้วยความหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ ภาพยนตร์ และดนตรี แฟนๆจะได้เห็นผลงานการแสดง,เขียนบท,กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาอย่างTHE MAN WITH THE IRON FITS ล่าสุดรับบทตัวร้ายใหญ่สุดคู่ปรับของจาพนมใน ต้มยำกุ้ง2-3D
          จ่ามาร์ค นายตำรวจหนุ่มไทย ซื่อสัตย์ รักความยุติธรรม ผู้มีส่วนสำคัญในการเปิดโปงเหล่าอาชญากรข้ามชาติที่เกี่ยวพันกับการลักลอบ ค้าสัตว์อย่างผิดกฏหมาย รวมไปถึงเครือข่ายค้ามนุษย์และยาเสพติดที่เกิดขึ้นใน“ร้านต้มยำกุ้ง”ซิดนี่ ย์ ประเทศออสเตรเลีย ทั้งๆที่เป็นตำรวจในซิดนี่ย์แท้ๆ แต่ต้องเดินทางมาเมืองไทยพร้อมปฏิบัติการลับบางอย่าง หลังจากที่ค้นพบเบาะแสสำคัญที่คาดว่าจะโยงใยไปถึงเครือข่ายของเหล่าอาชญากร ร้ายที่ตำรวจสากลกำลังต้องการตัว และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้จ่ามาร์คได้พบกับขามอีกครั้ง เดิมพันครั้งนี้ไม่เพียงพิสูจน์ฝีมือในการไขคดี แต่ยังเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้เลื่อนขั้นตัวเองหนีจากการดูถูกของเพื่อน ร่วมงานและตำรวจรุ่นใหม่ ทำให้เขาทุ่มเทและบ้าระห่ำกับงานครั้งนี้เป็นพิเศษ เพียงแต่งานนี้ไม่ง่ายเพราะเบาะแสชี้เป้ามาที่ขามเพื่อนเก่าแสนซื่อของเขา เอง ทำให้ต้องใช้ทักษะความกะล่อนแหกคอกเพื่อสืบหาคนร้ายที่แท้จริงให้ได้
          หม่ำ จ๊กม๊ก หรือ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ตลกศิลปิน นักแสดง พิธีกร นักร้อง ผู้กำกับ ฯลฯ มากความสามารถซึ่งเป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงอย่างสูง สุดมีแฟนๆทุกเพศทุกวัยทั่วประเทศ เริ่มต้นโด่งดังในฐานะตลกเมื่อประกบกับตลกขั้นเทพ เทพ โพธิ์งาม และโด่งดังแบบสุดขีดในฐานะหัวหน้าแก๊งสามช่า หม่ำ-เท่ง-โหน่งในรายการวาไรตี้โชว์ “ชิงร้อยชิงล้าน” ที่ยืนหยัดมากว่า2ทศวรรษ หลังจากความเสร็จในภาพยนตร์เรื่อง “มือปืน/โลก/พระ/จัน” ปีพ.ศ.2544 ส่งผลให้มีผลงานภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องใน
          ฐานะ นักแสดงนำและรับเชิญมากถึง43เรื่องในระยะเวลา12ปี ก่อนที่จะหันมาเอาดีในฐานะผกก.อย่างเต็มตัวจากบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมใน ปี2547 ปัจจุบันมีผลงานการกำกับภาพยนตร์และเป็นโปรดิวเซอร์ถึง11เรื่อง
          ปิง ปิง แฝดพี่จากเมืองจีน มาอยู่กับเสี่ยสุชาติเจ้าของปางช้าง ปิงปิงมีทักษะวิชาการฝังเข็มแบบจีนที่ด้านหนึ่งใช้รักษาโรคประจำตัวของซือ ซือแฝดน้องที่เป็นเหมือนดวงใจของเธอ แต่อีกด้านหนึ่งคืออาวุธแสนอันตรายที่สามารถเล่นงานผู้คนได้ตั้งแต่ทำให้ เป็นอัมพาต สะกดจุด รีดความลับจนถึงแก่ความตายได้ด้วยเข็มเพียงเล่มเดียว นอกจากนี้เธอเองยังมีวิชาการต่อสู้แบบจีนที่ร้ายกาจอยู่ด้วย พูดได้ว่าเธอคือตัวอันตรายที่สุดที่ซ่อนทุกสิ่งไว้ใต้ความอ่อนโยนสวยงามแบบ ตุ๊กตาจีน
          จีจ้า หรือ ญาณิน วิสมิตะนันทน์ แอ็คชั่นซูเปอร์สตาร์หญิงหน้าหวานเจ้าของฉายา “เล่นจริง เจ็บจริง” อดีตสาวน้อยขี้โรคที่ฝึกฝนเทควันโด้เพื่อร่างกายแข็งแรงแต่กลับคว้าเทควัน โด้สายดำดั้งที่1ได้ตอนอายุ13ปี และสายดำดั้ง2และ3จนอายุ14ปีหันมาเป็นครูสอนเทควันโด้ และคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด้เยาวชนกรุงเทพฯ ตอนเรียนม.ปลาย หลังจากนั้นมีโอกาสเข้าไปแคสติ้งภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่อง “เกิดมาลุย” ที่กำกับโดยพันนา ฤทธิไกร โดยต้องทดสอบความสามารถพื้นฐานทางด้านแอ็คชั่นทั้งการเตะ การกระโดดในรูปแบบและท่าต่างๆ ก่อนที่จะได้รับโอกาสทำเวิร์คช็อพเดโมแอ็คชั่นการต่อสู้ให้กับทางปรัชญา ปิ่นแก้วและเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ แห่งสหมงคลฟิล์มฯ จนสหมงคลฟิล์มฯไฟเขียวสร้างโปรเจ็คต์ภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่อง“ช็อคโกแลต”ให้ จีจ้าญาณินรับทนำโดยเฉพาะโดยมีพันนา ฤทธิไกรและท็อปวีระพล ภูมาตย์ฝนบ่มเพาะทักษะและความสามารถทางการต่อสู้ให้กับจีจ้าตลอด4ปีเต็ม และเมื่อภาพยนตร์เข้าฉายชื่อของจีจ้า ญาณินพร้อมสโลแกนเล่นจริงเจ็บจริงก็เป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จไปทั่ว ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ ตามด้วยภาพยนตร์เรื่องที่2ในแนวแอ็คชั่นโรแมนติคอย่างจีจ้าดื้อสวยดุ และแอ็คชั่นคอมมิดี้อย่างจั๊กกะแหล๋น
          No.2 เป็นทั้งชื่อและฉายาถูกจัดอันดับให้เป็นนักฆ่ามือดีที่สุดในอันดับที่2ที่ ไม่เคยแพ้ใครโหดและเลือดเย็น รูปร่างสูงใหญ่ เป้าหมายคือพิชิตno.1ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ไอ้ขาม
          MARRESE CRUMP จากเด็กน้อยวัย7ขวบที่ถูกพี่ชายนำไปฝากตัวกับครูสอนศิลปะการต่อสู้ชาวเกาหลี หลังจากนั้นก็รู้ว่าศิลปะการต่อสู้คือสิ่งเดียวในโลกที่เขาหลงใหลก่อนที่จะ ฝึกฝนและเรียนรู้ต่อมาในทุกศิลปะการต่อสู้ที่มีอยู่บนโลกใบนี้ทั้ง คาราเต้,มวยไทย,กังฟู,กาโปเอย์รา (ศิลปะการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากบราซิล) ,เทควันโด้,นินจุสึ(วิชาการต่อสู้โบราณของญี่ปุ่น-วิชาการต่อสู้ของนิ นจา),ศิลปะการต่อสู้ของฟิลิปปินส์ฯลฯมีผลงานภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ใน ตำแหน่งACTION CO-ORDINATORในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องG.I. JOE ผลงานที่โดดเด่นคือเรื่อง WRONG SIDE OF TOWNโดยได้ร่วมแสดงกับ Rob Van Dam, Ja Rule และนักมวยปล้ำชื่อดังอย่าง Dave Bautista ล่าสุดรับบทผู้ร้ายที่เป็นคู่ปรับคนสำคัญของจาพนมในต้มยำกุ้ง2-3D
          Twenty นักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ที่อยู่ข้างกาย แอลซี เป็นทุกอย่างทั้งคนรักและนักฆ่า เธอถูกเรียกว่า 20 โดยการจัดอันดับความสามารถในการต่อสู้ของ แอล ซี ผู้ชุบชีวิตเธอขึ้นมาและหยิบยื่นความเป็นสุดยอดมือสังหารให้เพราะเชื่อมั่น ว่าในเบื้องลึกของแววตาที่หนุ่มๆมิอาจมองข้าม เรือนร่างที่แสนเซ็กซี่ ล้วนแล้วแต่อัดแน่นไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นนักสู้ที่ฝั่งลึกอยู่ในตัว เธอและพร้อมที่จะแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธแห่งความคลั่งแค้นที่เตรียมถาโถมและ เล่นงานทุกคนโดยไม่ลังเลโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายทุกคนในโลกยกเว้นแอลซี
          หญิง รฐา โพธิ์งาม ลูกสาวของน้อย โพธิ์งามตลกหญิงชื่อดังของเมืองไทย คือนักร้อง นักแสดงสาวมากความสามารถ ลูกไม้หล่นใต้ต้น เป็นที่รู้จัก โด่งดังและประสบความสำเร็จจากผลงานเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม ญา ญ่า ญิ๋ง และทำให้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงเมื่อ14ปีที่แล้ว หลังจากนั้นมีผลงานต่อเนื่องทั้งอัลบั้มเพลงและผลงานทางด้านการแสดงละคร โทรทัศน์ ,ซี่รี่ส์และละครเวที จนกระทั่งในปีพ.ศ.2555 ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดเมื่อหม่อมน้อย มล.พันธุ์เทวนพ เทวกุลผกก.ชื่อดัง เลือกให้หญิงรฐามารับบทคุณบุญเลื่องในภาพยนตร์เรื่องจันดาราปฐมบทและจันดารา ปัจฉิมบทจนสามารถคว้ารางวัลดาวรุ่งหญิงยอดเยี่ยมจากบท
          ดัง กล่าว และเป็นที่ฮือฮาอีกครั้งเมื่อได้รับเกียรติให้เดินพรมแดงในเทศกาลภาพยนตร์ นานาชาติเมืองคานส์ประเทศฝรั่งเศสในฐานะ1ในนักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่องONLY GOD FORGIVES ที่แสดงร่วมกับไรอัน กอสลิ่ง และมีผลงานดราม่าเข้มข้นอย่างนางฟ้าจากผลงานการกำกับของตั๊กบงกช ล่าสุดรับบทนักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่หมายเลข20ในต้มยำกุ้ง2-3Dซึ่งเป็นการกลับมา ร่วมงานกับปรัชญา ปิ่นแก้วที่ปั้นให้ญาญาญิ่งเป็นที่รู้จักอีกครั้งในรอบ14ปี

FB on September 27, 2013, 08:58:17 AM
          จาก “ต้มยำกุ้ง” สู่ “THE PROTECTOR” ถล่มBOX-OFFICE ฮอลลีวู้ด
          ครองอันดับ1 ทั่วเอเชียและยุโรป คือความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์
          ของภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
          เป็น ที่ยอมรับว่าความโดดเด่นอย่างถึงที่สุดในความเป็นภาพยนตร์ REAL ACTION MARTIAL ARTS ที่เน้นศิลปะการต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบที่ทั้งสวยงาม หนักหน่วง รุนแรง ดุดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่วงท่าของ “ทุ่ม-ทับ-จับ-หัก” จาก “มวยคชสาร” คือหัวใจสำคัญจากการผนึกกำลังการออกแบบควบคุมฉากการต่อสู้โดย “พันนา ฤทธิไกร” และถูกนำเสนอผ่านลีลาแอ็คชั่นซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะตัวชนิดที่ไม่มีใครลอก เลียนแบบได้ของ“จาพนม ยีรัมย์” ภายใต้การกำกับภาพยนตร์แบบโชว์อานุภาพแบบถึงขีดสุดโดย “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ทำให้“ต้มยำกุ้งภาคแรก” สามารถสร้างความตื่นตะลึงและสร้างความฮือฮาให้กับคอภาพยนตร์แอ็คชั่นไปทั่ว โลกจนต้องมีการบันทึกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ถึงสถิติความสำเร็จต่างๆที่ เกิดขึ้นทั้งในประเทศ และนานาประเทศทั่วโลกถึงกระแสต้มยำกุ้งฟีเวอร์อย่างที่ไม่เคยมีภาพยนตร์ไทย เรื่องใดสามารถทำได้มาก่อนในประวัติศาสตร์ตราบจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น การถล่มUS.BOX-OFFICEในอันดับ4 และขึ้นอันดับ 1 BOX-OFFICE ในหลายประเทศ ของเอเชีย อาทิ ฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ และในอีกหลายประเทศทั้งทางทวีปอเมริกา, ยุโรป ทำรายได้จากทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใต้ชื่อภาษาอังกฤษ THE PROTECTOR ใน US. ฮอลลีวู้ด และ WARRIOR KING ใน UK.

          “TYG2” ที่สุดแห่งภาพยนตร์ REAL ACTION ภาคต่อที่ไม่ใช่แค่คนไทย
          แต่ยังรวมไปถึงเหล่าบรรดาคอหนังแอ็คชั่นจากทั่วโลกที่เฝ้ารอคอย
          จากกระแส ความสำเร็จอันมหาศาลของ ต้มยำกุ้ง หรือ THE PROTECTOR กล่าวได้ว่าในรอบทศวรรษที่ผ่านมาไม่มีนักแสดงแอ็คชั่นฮีโร่คนใดในโลกที่ได้ รับการยกย่อง กล่าวถึง อย่างที่เกิดขึ้นกับโทนี่ จา ขนาดเกิดเป็นกระแสแฟนคลับของโทนี่ จาฟีเวอร์ในแทบทุกประเทศจากทั่วโลก และเมื่อพูดถึงไอคอนหรือสิ่งทีเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทยแน่นอนว่านอกจาก ช้าง,ผัดไท ทุกคนล้วนต่างไม่ลืมชื่อของโทนี่ จา ต้องยอมรับว่าหลังจากความสำเร็จของ “องค์บาก” ภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลกเรื่องแรกที่ทำให้โลกรู้จักศิลปะการต่อสู้มวย ไทย,ภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยและแอ็คชั่นฮีโร่จากเมืองไทย จนถึงวันนี้9ปีผ่านไปเมื่อลองพิมพ์ชื่อ ONGBAK ในGOOGLE SEARCH จะมีรายการค้นหาที่เกี่ยวข้องถึงเกือบ7ล้านรายการ แต่เมื่อพูดถึงความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์แอ็คชั่นจาก ประเทศไทยย่อมไม่พ้น “ต้มยำกุ้ง” และถ้าพูดถึงภาพยนตร์แอ็คชั่นภาคต่อที่พูดได้ว่าคนทั้งโลกรอคอยแน่นอนว่า ต้องเป็น “ต้มยำกุ้ง2-3D” หลังจากใช้เวลานานถึง8ปีเต็ม(พ.ศ.2556) ถึงเวลาแล้ว “ต้มยำกุ้ง2-3D” จะปรากฎสู่สายตาผู้ชมภาพยนตร์ด้วยความยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีภาพยนตร์REAL ACTION MARTIAL ARTSของโลกเรื่องใดเคยทำได้มาก่อน

          จาพนมผนึกกำลังจีจ้าญาณินพร้อมหม่ำ จ๊กม๊ก
          เปิดตัวแอ็คชั่นเซ็กซี่สตาร์หญิงคนใหม่ รฐา โพธิ์งาม
          กับครั้งแรกในการเผชิญหน้า2คู่ปรับสั่งตรงจากฮอลลีวู้ด
          RZA นักแสดง-แร็ปเปอร์ระดับโลก VS. MARRESE CRUMP ไฟท์เตอร์ระดับพระกาฬ
          พร้อมระดมเหล่าสุดยอดทีมแอ็คชั่นฮีโร่มือ1ของไทยและต่างชาติ
          ร่วมสร้างปรากฎการณ์ REAL ACTION MARTIAL ARTS ครั้งยิ่งใหญ่
          “สห มงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บาแรมยู” พร้อมแล้วที่จะเปิดจินตนาการความมันส์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดกับภาพยนตร์ REAL ACTION MARTIAL ARTS ภาคต่อที่คนทั้งโลกรอคอย 8ปีเต็มพร้อมการ

          กลับ มาตอกย้ำขีดศักยภาพไร้ขีดจำกัดในความเป็นซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นฮีโร่ระดับโลก ของ จา พนม ยีรัมย์ ผนึกกำลังแอ็คชั่นคูณสองคู่กันเป็นครั้งแรกบนแผ่นฟิล์มกับแอ็คชั่นฮีโร่หญิง จีจ้า ญาณิน ร่วมแท็คทีมทวีความเข้มข้นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากซูเปอร์สตาร์ตลก อันดับ1ของเมืองไทย หม่ำ จ๊กม๊ก ตะลึงตากับ
          การพลิกบทบาท ครั้งสำคัญในชีวิตของหญิง รฐา โพธิ์งาม ผสมผสานเสน่ห์ความสวยอันตรายสุดร้ายกาจพร้อมความสามารถทางการต่อสู้กับการแส ดงแอ็คชั่นเต็มตัวเป็นครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม ปะทะ2คู่ปรับคนสำคัญของจาพนมใน “ต้มยำกุ้ง2-3D”ที่ถูกส่งตรงมาจากฮอลลีวู้ด RZA โปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ดไอคอนดนตรีฮิปฮอประดับโลก,นัก ดนตรี,นักแต่งเพลง,มือเขียนบท,นักแสดง,ผู้กำกับภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดผู้ หลงใหลในศิลปะการต่อสู้รับบทผู้ร้ายคนสำคัญคู่ปรับของจา พนม และ MARRESE CRUMP นักแสดงจากฮอลลีวู้ดผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้หลากหลายชนิดที่ปรากฏอยู่บน โลกใบนี้รับบทนักฆ่าที่เก่งกาจที่สุดที่ส่งมาเพื่อจัดการจา พนมในต้มยำกุ้ง2โดยเฉพาะ พร้อมด้วยเหล่าไฟท์เตอร์นักสู้แอ็คชั่นมือ1ที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ใน แขนงต่างๆทั้ง คาซู แพททริค แทงค์ แชมป์ศิลปะการต่อสู้Trickzจากฝรั่งเศส (จีจ้าดื้อสวยดุ,UNLEASHED,โคตรสู้โคตรโส,CHINESE ZODIAC) ,เดวิด อิสมาโลน (องค์บาก, ULTRA
          VIOLET,THE MEDALLION) ,ทีมไฟท์ติ้งคลับจากBANGKOK KNOCKOUTโคตรสู้โคตรโส ซึ่งแต่ละคนล้วนต่างมีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป โดยถูกระดมมาร่วมปะทะความมันส์ในฐานะคู่ปรับกับจาพนม ยีรัมย์ และจีจ้า ญาณินโดยเฉพาะ
          และเพื่อให้ “ต้มยำกุ้ง2 (TYG2-3D)” คือที่สุดแห่งการมาของอภิมหาความมันส์ของภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่นเรื่องยิ่ง ใหญ่ที่สุดประจำปีพ.ศ.2556ที่คอหนังแอ็คชั่นจากทั่วโลกรอคอย เหล่าทีมงานและบุคลากรมือ1ผู้อยู่เบื้องหลังความอลังการของภาพยนตร์แอ็คชั่น ทั่วฟ้าเมืองไทยถูกระดมมารวมตัวกันเพื่อการนี้ นำทีมโดยสุดยอดปรมาจารย์แอ็คชั่นคิวบู๊ พันนา ฤทธิไกร(องค์บาก,ต้มยำกุ้ง,เกิดมาลุย,โคตรสู้โคตรโส,ช็อคโกแลต ฯลฯ)รับหน้าที่ควบคุมฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ให้กับทุกๆฉากแอ็คชั่น ที่เกิดขึ้นในต้มยำกุ้ง2 พร้อมสร้าง
ความตื่นตะลึงและสร้างความเซอร์ไพรส์ช็อคความรู้สึกและเต็มไปด้วยความแปลกใหม่สุดท้าทายอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
พร้อม การแท็คทีมร่วมกันของ2ผู้กำกับแอ็คชั่นมือ1ของเมืองไทยอย่าง วีระพล ภูมาตย์ฝน (อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของจีจ้า ญาณิน รวมทั้งออกแบบและกำกับฉากแอ็คชั่นในช็อคโกแลต,จีจ้าดื้อสวยดุ และเป็นแอ็คชั่นสตันท์เพื่อนร่วมรุ่นของจา พนม) และสมใจ จันทร์มูลตรี(องค์บาก,บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม,7ประจัญบาน2,ส้มตำ,คนไฟบิน ,จั๊กกะแหล๋น) มารับหน้าที่ในการออกแบบและกำกับฉากแอ็คชั่นการต่อสู้
ไม่ เพียงเท่านั้นงานนี้ยังได้เหล่าทีมแอ็คชั่นสตันท์เสี่ยงตายมือดีที่สุดในทีม มวยไทยสตันท์ของพันนา ฤทธิไกรที่อยู่เบื้องหลังความมันส์ของฉากแอ็คชั่นต่างๆในภาพยนตร์แอ็คชั่น ของไทยและฮอลลีวู้ด รวมทั้งเป็นผู้ถ่ายทอดและฝึกสอนความสามารถทางมวยไทยให้แองเจลิน่า โจลี่ได้โชว์ศักยภาพในความเป็นนางเอก
          แอ็คชั่นมาแล้วใน SALT และ เซ้ง กวี ศิริคเณรัตน์ ผู้อยู่เบื้องหลังฉากแอ็คชั่นเสี่ยงตายในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอย่างRAMBO4,THE HANG OVER2) STUNT COORDINATOR ระดับฮอลลีวู้ดที่ทำให้แบรนด์ Thai Stuntmen สู่ระดับสากล มาร่วมเสริมทัพความยิ่งใหญ่ให้กับฉากแอ็คชั่นของต้มยำกุ้ง2 พูดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของปรัชญา ปิ่นแก้วเพื่อประกาศให้รู้ว่าทีมแอ็คชั่นไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกโดยเฉพาะ อย่างยิ่งนี่คือดรีมทีมของต้มยำกุ้งอย่างแท้จริง
          “ทีมงาน เบื้องหลังของเราถือได้ว่าเราได้มือดีอันดับ1ของประเทศไทยทั้งหมดมาร่วมกัน เริ่มตั้งแต่ พันนา,เซ้ง(กวี ศิริคเณรัตน์) มาจนถึงท็อปวีระพลนะครับ อย่างพันนาเราคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากเขาเป็นมือหนึ่งของเมืองไทยทำงานมา ตั้งแต่องค์บาก เป็นผู้ให้กำเนิดจาพนม,จีจ้ามาจนถึงภาคนี้เราก็ระดมทีมงานทีมเดิมมาทำงานอีก ครั้งหนึ่ง ส่วนท็อปเป็นมือหนึ่งของพันนา ผมได้ทำงานอย่างเต็มตัวกับท็อปในช็อกโกแลตซึ่งเราก็จะได้เห็นว่า ท็อปมีความสามารถเป็นที่ยอมรับว่าทำให้ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งคือจีจ้าที่มา เป็นนักสู้ที่โลดแล่นในภาพยนตร์ได้ชนิดที่ว่าครองใจคนดูไปแล้วทั่วโลก ส่วนเซ้งเป็นคนที่มีผลงานทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศ โดยเฉพาะหนังต่างประเทศ (อยู่เบื้องหลังฉากแอ็คชั่นเสี่ยงตายในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอย่างRAMBO4,THE HANG OVER2) มาร่วมเสริมทัพความยิ่งใหญ่ให้กับฉากแอ็คชั่นของต้มยำกุ้ง2-3D อย่างกรณีของเซ้งเขาจะถนัดการถ่ายทำประเภทเสี่ยงอันตรายทั้งในเรื่องของความ เร็ว ความสูงต้องมีเครื่องมือสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษฉากอันตรายเหล่านั้น ต้องมีการออกแบบที่ถูกต้องเลือกใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสมซึ่งในเรื่องนี้ เซ้งทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีอย่างกรณีฉากที่จาพนมจะต้องกระโดดสะพานกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นสะพานที่มีความสูงมากเราก็ออกแบบให้Saveที่สุดในการทำงาน นอกจากจะsaveที่สุดแล้วภาพจะต้องออกมาด้วยภาพที่หวือหวาที่สุดด้วยคือVisual ออกมาต้องตรึงคนดูให้ได้ ซึ่งเซ้งก็ทำได้ดีมากๆและก็ปลอดภัยไม่มีใครบาดเจ็บ รวมทั้งเราจะต้องเห็นStuntทุกคนตกสะพานจริงๆตกไปพร้อมกับมอเตอร์ไซด์เป็น สิ่งที่ตกกันจริงๆไม่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย และรวมไปถึงฉากรถดริฟท์เราก็ได้มือดริฟท์รถมือหนึ่งของไทยชื่อหนึ่งเขามีผล งานในการแข่งขันรถดริฟท์ที่เก่งที่สุดในประเทศไทยมีผลงานในหนังโฆษณาต่างประ เทศมาหลายเรื่องอยู่เหมือนกันซึ่งในเรื่องนี้เราต้องฝากชีวิตของจาพนมไว้บน หลังรถคือต้องมีการดริฟท์จริง ๆซึ่งจะผิดพลาดไม่ได้เลยเพราะเท่ากับอันตรายถึงชีวิตได้ ก็เป็นฉากที่ทีมงานทุกคนจะลุ้นมากที่สุดเพราะถือว่าเป็นฉากที่อันตรายที่สุด ภาพที่ออกมาก็มีทั้งตื่นเต้นทั้งน่ากลัวสวยงาม รวมทั้งเหล่านักสู้นักแสดงแอ็คชั่นที่เคยร่วมงานกันมาหลายเรื่องอาทิ คาซู (พระเอกจีจ้าดื้อสวยดุ)รวมทั้งทีมStuntโคตรสู้โคตรโส เรามีการสู้กันท่ามกลางเปลวไฟที่เราdesignให้เกิดไฟขึ้น ทุกคนจะต้องมีไฟติดตามตัวสู้ไปไฟติดไปด้วย อันนั้นก็เป็นอันตรายอีกแบบ แต่ว่าทุกคนเป็นทีมที่ถือว่ามีความสามารถจริงๆ แล้วก็สามารถทำฉากอันตรายให้ทุกคนไม่มีใครเป็นอันตรายแม้แต่คนเดียว แต่ว่าภาพออกมาน่ากลัวมากฉากสู้กันกลางไฟคือทุกคนมีไฟติดที่
          ตาม ตัวตามเท้าด้วยเวลาเตะกันไฟก็ติดหน้าไปด้วยตัวจาพนมโดนด้วย ตัวนักต่อสู้ก็โดนกันด้วยคือโดนไฟกันจริงๆ เพราะฉะนั้นในหนังเรื่องนี้เราระดมเอามือหนึ่งทุกคนมาทำงานด้วยกันทุกคน ทุ่มเทให้กับหนังเรื่องนี้ซึ่งเป็น3มิติของแอ็คชั่นไทยเรื่องแรก ก็เพื่อที่เราต้องการให้หนังออกมาเป็นที่ประทับใจคนดูมากที่สุด

FB on September 27, 2013, 08:58:42 AM
          THE FIRST 3D-REAL ACTION
          กับปรากฎการณ์ความมันส์ของ TYG2
          NON-STOP หยุดทุกลมหายใจกับสารพัดแอ็คชั่นดีไซน์
          พร้อมฉากเสี่ยงตายของ จาพนม ยีรัมย์

          แต่ สิ่งที่พูดได้ว่าคือการพลิกปรากฎการณ์ปฎิวัติรูปแบบของภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ ถือได้ว่าเป็นสุดยอดความพิเศษซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ “ต้มยำกุ้ง2” ในครั้งนี้ซึ่งรับรองว่าไม่เพียงสร้างเอกลักษณ์ความโดดเด่นที่ถือได้ว่าแตก ต่างและเป็นความแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน จนกล่าวได้ว่าการกลับมาครั้งนี้คือการเปิดประตูแห่งจินตนาการที่จะเกิดขึ้น ในโลกภาพยนตร์แอ็คชั่น ณ พ.ศ.นี้ นั่นคือการนำเสนอภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง2 ในรูปแบบของภาพยนตร์ 3D-REAL ACTION อย่างเต็มรูปแบบตลอดทั้งเรื่องเป็นครั้งแรกภายใต้โจทย์สำคัญที่ว่าทุกวินาที แห่งความตื่นตาที่พร้อมปรากฎบนจอภาพยนตร์ล้วนผ่านการออก แบบมาเพื่อรองรับกับการผสมผสานระหว่างการดีไซน์ของทุกมุมกล้องในทุกมิติของ ภาพออกมาเพื่อรองรับกับทุกๆคิวของทุกๆฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ที่ผ่านออกแบบมา เพื่อหวังผลทางด้านภาพในความเป็นภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่น3มิติที่สมบูรณ์แบบ ที่สุดตามความตั้งใจของเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐบอสใหญ่แห่งค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลหลังจากที่สร้างมิติใหม่ให้คนทั้งโลกได้รู้จักแอ็คชั่น ไทยอย่างองค์บากและต้มยำกุ้งมาแล้ว โดยงานนี้ปรัชญา ปิ่นแก้วเองที่เรียกได้ว่าเป็นผู้กำกับคนแรกของเมืองไทยที่เคยสร้างมิติใหม่ ให้กับวงการเพลงด้วยการกำกับมิวสิควิดีโอสามมิติมาก่อนหน้านี้รวบรวมความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ทั้งหมด ผสมผสานกับความเชี่ยวชาญในการกำกับภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่นที่ตัวเองคุ้นเคย เป็นอย่างดีตั้งใจรวมไปถึงการร่วมงานกับจาพนมมาตลอด10ปี ตั้งใจให้ “ต้มยำกุ้ง2-3D” เป็นภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่น3มิติที่สมบูรณ์ที่สุดให้สมกับที่คนทั้งโลกรอคอย
          “การ ที่ตัดสินใจถ่ายทำเรื่องนี้เป็น3มิติ เป็นส่วนหนึ่งมาจากความชอบส่วนตัวด้วยที่ผมเป็นคนชอบดูหนัง3มิติอยู่แล้ว พอเรามีโอกาสทำแล้วด้วยความที่เป็นหนังแอ็คชั่นด้วย ผมว่ามันเหมาะสมเข้ากันกับภาพของ3มิติถ้าโดยส่วนตัวผมชอบดูหนัง3มิติที่ฉาย ในสวนสนุกนะ เพราะเป็นการสร้างงาน3มิติที่จงใจเล่นกับคนดู เล่นกับความรู้สึกอย่างเดียวเลย โดยที่เนื้อหานี่ไม่สำคัญเลย แต่ว่าพอเรามาทำอยู่ในภาพยนตร์ที่จำเป็นต้องมีการเล่าเรื่องด้วยมีเนื้อหา ที่จะต้องสื่อสารกับคนดูด้วย เราจึงต้องมีการออกแบบโดยการใช้ฉาก3มิติที่จะเน้นที่จะเล่นกับคนดู หรือเล่นให้คนดูเกิดการตกใจคงต้องมีเป็นจังหวะๆบางครั้งเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นหมัดเท้าเข่าศอกต่างๆนาๆมันเอื้อต่อการ ที่เหมือนจะทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาจะถูกอันตรายจากการต่อสู้จากมือหมัดเท้า จากนักแสดงบนจอดอยู่แล้ว แต่ว่าเราต้องเลือกใช้ อย่างตอนผมถ่ายหนังที่เป็น2มิติปกติเวลาถึงฉากแอ็คชั่น เวลาจาพนมสู้เราไม่สามารถเอากล้องไปใกล้เขาได้เลย เพราะว่าการสู้เขาต้องไม่พะวงหรือระแวงกับการที่มีกล้องอยู่ใกล้ตัว เพราะฉะนั้นยิ่งกล้องอยู่ไกลเท่าไหร่ เขายิ่งแสดงได้ดีมากเท่านั้น แล้วพอเราทำเป็น3มิติ มันกลับกันการที่กล้องยิ่งใกล้ตัวเท่าไหร่ภาพ3มิติจะออกมาดีเท่านั้น เพราะฉะนั้นอันนี้มันจึงกลายเป็นอันตรายสำหรับนักแสดง และก็อันตรายต่อเครื่องไม้เครื่องมือด้วย เพราะฉะนั้นไอ้ตอนทำเป็นฉาก3มิติ เราจึงต้องเลือกใช้ให้ถูกจังหวะแล้วภาพที่ออกมาก็ทำให้ทุกคนทีมงานพอใจมาก คือเราจะได้เห็นคิวบู๊แบบจาพนมที่พอเราเอามาทำเป็น 3 มิติแล้ว มันกลายเป็นความแปลกใหม่ มันสวยงามมาก บางภาพระหว่างที่ถ่ายทำผมแทบจะรู้สึกเลยว่าภาพนี้มันน่าจะอยู่ในตัวอย่าง หนังได้เลยคือเป็นจาพนมเข่าลอยมาและทิ่มมาข้างหน้าคนดูกันเลย พูดได้ว่าเป็นช็อตที่เรียกร้องความสนใจได้ดีมากๆ ก็เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะสนุกซึ่งโดยส่วนตัวเราสนุกไปแล้วก็คิดว่าคนดู น่าจะสนุกตามไปด้วยไม่ยาก”
พร้อมกับงานโปรดักชั่นที่ทุ่มทุนมหาศาล มากกว่า500ล้านบาทให้ทุกๆฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์ยิ่งใหญ่อลังการเสี่ยง ตายกว่าดุดันกว่าต้มยำกุ้งภาคแรกอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นการเนรมิตฉากไล่ล่า และ แอ็คชั่นการต่อสู้ระหว่างจาพนมกับมอเตอร์ไซค์แว๊นนับสิบคันบนดาดฟ้าหลังคา ตึกที่เต็มไปด้วยความหวาด เสียวลุ้นระทึกอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนไม่ว่าจะเป็นคิวแอ็คชั่นที่สตันท์ ต้องเสี่ยงกับหลังคาสังกะสีที่หวิดเฉือนคอในขณะที่มอเตอร์ไซค์ชนจาพนมจนได้ รับบาดเจ็บในฉากดังกล่าว หรือคิวบู๊แอ็คชั่นการต่อสู้บนที่สูงที่มอเตอร์ไซค์จะต้องพุ่งชนจาพนมจนทะลุ หลังคาลอย่ขึ้นไปกลางอากาศพร้อมกับเป็นคิวแอ็คชั่นที่จาพนมต้องฟันศอกใส่ ผู้ร้ายจนตกจากที่สูงทั้งคนและมอเตอร์ไซค์หรือแม้แต่ฉากแอ็คชั่นดีไซน์ที่ มอเตอร์ไซค์จะต้องพุ่งลอยข้ามจากดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่งพุ่งไปชนตึกที่อยู่ฝั่ง ตรงกันข้ามรวมไปถึงการคิดค้นฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความ เซอร์ไพรส์แปลกใหม่ และท้าอันตรายอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกกับการที่จาพนมจะต้องถูกเหวี่ยง ตัวจากรถบรรทุกที่พุ่งชนสะพานกาญจนาภิเษกลอยข้ามออกไปจากตัวคอสะพาน
          เหิน ดิ่งลงไปยังกลางแม่น้ำด้วยความสูงมากกว่าตึก20ชั้นโดยไม่ใช้ตัวแสดงแทน หรือการที่จะต้องเสี่ยงตายด้วยการเกาะบนหลังคารถยนต์ที่กำลังวิ่งมาด้วยความ เร็วสูงพร้อมกับดริฟท์หมุนตัว360องศาเพื่อสะบัดให้จา
          พนมหลุด จากหลังคารถให้ได้ ซึ่งรวมเป็นฉากแอ็คชั่นNON-STOPที่มีความยาวถึง14.50นาทีเลยทีเดียว โดยใช้เวลาในการถ่ายทำนานถึง8เดือน งานนี้จาพนมพระเอกนักบู๊ที่ต้องมีส่วนร่วมสำคัญในการเสี่ยงชีวิตและทุ่มสุด ตัวในทุกๆฉากของต้มยำกุ้ง2-3D การันตีกับแฟนๆด้วยตัวเองเลยว่าถึงภาค2ของต้มยำกุ้งไม่ได้ไปถ่ายทำในต่าง ประเทศ แต่ยืนยันว่าการถ่ายทำทุกฉากในประเทศไทยล้วนอัดแน่นและถึงพร้อมไปด้วยภาพ แอ็คชั่นสุดมันส์Non-Stopชนิดที่ว่าไม่ต้องให้หยุดหายใจกันเลยทีเดียว
          “อย่าง ในต้มยำกุ้งภาคแรกที่เราได้ดูมีการไปถ่ายทำที่ซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย การถ่ายทำพูดได้ว่ามีความมันแบบสุดๆ พอมาในภาค2หลายคนมองว่าไม่ได้ถ่ายเมืองนอกอย่างนี้อลังการความมันส์จะลดลงรึ เปล่าซึ่งผมต้องขอบอกว่าความมันส์นั้นไม่ได้ลดลงเลยมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น เพราะพอเราตัดสินใจที่จะถ่ายทำในภาค2นี้ในเมืองไทย นั่นหมายความว่าแต่ละLOCATIONในเมืองไทยที่ถูกเลือกมาล้วนเอื้ออำนวยในการ ที่เราจะใส่ความเต็มที่ในการทำคิวแอ็คชั่นได้ถึงขีดสุดประกอบกับความหลาก หลายของคิวแอ็คชั่นที่ดีที่สุดที่ถูกดีไซน์คิดค้นขึ้นมาสำหรับในภาค2 เพราะในภาคแรกเราถูกจำกัดในเรื่องของโลเกชั่นสถานที่ในการถ่ายทำทั้งซึ่งก็ ไม่เอื้ออำนวยให้เราได้ถ่ายทำอย่างเต็มที่อย่างที่เราต้องการที่สุดรวมทั้ง เขาเองมีกฎหมายข้อบังคับหลายๆอย่าง เขตหรือจุดของการถ่ายทำตามท้องถนนสถานที่สาธารณะ เราจะไปกระโดดตีลังกาทำข้าวของพังไม่ได้แต่ในต้มยำกุ้งภาค2 เมื่อเราถ่ายทำในประเทศไทยเราสามารถใส่ดีกรีความมันส์เพิ่มเข้าไป และทีมงานของพี่ปรัชญาเอง อาจารย์พันนาผู้สร้างสรรค์ผลงานDesignของฉากแอ็คชั่น ก็สามารถจินตนาการออกมาได้หมด แล้วยิ่งเราถ่ายทำกันในรูปแบบของภาพยนตร์3มิติ ทำให้เราสามารถเติมจินตนาการในความมันส์ได้ในทุกรูปแบบให้คนดูได้สัมผัสถึง ความเป็น3มิติมากขึ้น

          ประวัติ จาพนม ยีรัมย์
          ซูเปอร์ สตาร์แอ็คชั่นฮีโร่ชาวไทยที่หลงใหลในศิลปะการต่อสู้และเพื่อเดินตามความฝัน ที่จะเป็นแอ็คชั่นสตาร์เหมือนดั่งเฉินหลงฮีโร่ในดวงใจตั้งแต่อายุได้11ปี ตัดสินใจฝึกฝนท่วงท่าการต่อสู้แบบครูพักลักจำก่อนที่จะพบจุดเปลี่ยนครั้ง สำคัญในชีวิตเมื่อได้ดูหนัง “เกิดมาลุย” ผลงานมาสเตอร์พีซของพันนา ฤทธิไกร จนขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตในกองถ่ายทำภาพยนตร์ตั้งแต่เป็น เด็กประจำกองถ่าย,เสิร์ฟน้ำ,ทำอาหาร,ยกอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำ อาทิ รีเฟล็กซ์ ,รางดอลลี่ ฯลฯไปพร้อมกับการเรียนรู้และฝึกฝนในสิ่งที่รักจากปรมาจารย์คิวบู๊ พร้อมบ่มเพาะความสามารถในศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบทั้ง เทควันโด้ มวยไทย กระบี่ กระบอง ยิมนาสติก และกีฬาทุกประเภทเมื่อตัดสินใจศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยพละศึกษาจังหวัด มหาสารคามตามคำแนะนำของพันนา จนได้มีโอกาสแสดงฝีมือในการเป็นสตันท์แมน และนักแสดงร่วมในภาพยนตร์หลายเรื่อง หลังจากนั้นได้ร่วมกับพันนา ฤทธิไกรทำโปรเจ็คต์เกี่ยวกับมวยไทยโดยรวบรวมเงินรายได้ทั้งหมดที่มีถ่ายทำ ด้วยฟิล์มภาพยนตร์ขึ้นมาเพื่อนำเสนอ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” โดยได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่ของ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ประธานบริษัทสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล จึงเป็นจุดเริ่มต้นและที่มาของ“องค์บาก”ภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยมาตรฐานโลกที่ กลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา ทำให้ชื่อของโทนี่ จา แจ้งเกิดและเป็นที่รู้จักในระดับโลก ปีพ.ศ. 2548 ไม่มีสิ่งใดจะฉุดรั้งความสำเร็จและภาพลักษณ์พระเอกแอ็คชั่นฮีโร่ขวัญใจคน ทั้งโลกได้อีกต่อไปเมื่อ “ต้มยำกุ้ง” ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ให้เป็นภาพยนตร์ไทยที่ประสบความสำเร็จสูงที่ สุดในโลก และเป็นหนังไทยเรื่องเดียวที่ติดอันดับ4BOX-OFFICEของฮอลลีวู้ดอย่างที่ไม่ เคยมีหนังไทยเรื่องใดทำได้มาก่อน
          ปี 2551 รับรางวัลBEST ACTION ACTOR ท่ามกลางเหล่านักแสดงแอ็คชั่นระดับแถวหน้าของโลก อาทิ เฉินหลง,หยวนเปียว,ดอนนี่ เยน,เจ็ท ลี ฯลฯในงาน Martial Arts Global Celebrationประเทศจีน
          ปี2551 และ2552 มีผลงานการแสดงและกำกับภาพยนตร์เรื่อง“องค์บากภาค2 และ3” ปี2556 มีโปรเจ็คต์ “จาVS.ดอล์ฟ” ภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมมิดี้ที่แสดงและกำกับภาพยนตร์ซึ่งอยู่ในระหว่างการถ่าย ทำ และที่กำลังจะเข้าฉาย “ต้มยำกุ้ง2-3D”

          ประวัติพันนา ฤทธิไกร
          ผู้ควบคุมฉากแอ็คชั่น “ต้มยำกุ้ง2-3D”
          นัก แสดง,ผู้กำกับภาพยนตร์,โปรดิวเซอร์,ผู้ออกแบบฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ในระดับ ตำนานที่ได้รับการยกย่องให้เป็นปรมาจารย์ทางด้านแอ็คชั่นคิวบู๊ระดับแถวหน้า ของเมืองไทยคร่ำหวอดอยู่ในวงการการภาพยนตร์มากว่า32ปี นอกจากไอคอนภาพลักษณ์ในความเป็น“นักแสดงเสี่ยงตายบ้าระห่ำ” และการคิดค้นออกแบบและกำกับคิวบู๊ด้วยตัวเองในสไตล์ “กล้าเสี่ยง ยอมตาย ทุ่มสุดตัว ”ที่ติดตัวซึ่งส่งผลให้ได้รับการยอมรับว่าคือต้นตำรับเรียลแอ็คชั่นจนกลาย เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักแสดง,ผู้กำกับ,คนทำหนังแทบทั้งวงการ รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานรวมกันมาอย่างยาวนานตลอด10ปีกับผู้กำกับ ภาพยนตร์อย่างปรัชญา ปิ่นแก้วและเป็นผู้ก่อตั้งทีมสตันท์แมนจนสร้างชื่อเสียงแจ้งเกิดในภาพยนตร์ หลายร้อยหลายพันเรื่องทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ มีลูกศิษย์ลูกหาอย่างมากมาย รวมทั้งปลุกปั้นนักแสดงแอ็คชั่นทั้งราชา ราชินีนักบู๊แอ็คชั่นฮีโร่มากมาย อาทิ มล.สุรีย์วัล สุริยง ,โทนี่ จา พนมยีรัมย์,เดี่ยวชูพงษ์,จีจ้า ญาณิน ,นุ้ยเกศริน,ไฟท์ติ้งคลับฯลฯ และเป็นที่มาของสโลแกนอย่าง “ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน” , “เล่นจริงเจ็บจริง” , “พระเอกแอ็คชั่นสตันท์เสี่ยงตาย” คือขุมกำลังสำคัญที่มีส่วนในการสร้างมาตรฐานภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลก ประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับ และสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปในทุกประเทศทั่วโลกได้ตื่นตะลึง ทึ่งกับอานุภาพอันรุนแรงหนักหน่วงของแม่ไม้มวยไทย ลีลาและรูปแบบการดีไซน์ของคิวแอ็คชั่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในภาพยนตร์ แอ็คชั่นไทยอย่าง องค์บาก,เกิดมาลุย,ต้มยำกุ้ง,ช็อคโกแลต,โคตรสู้โคตรโส ฯลฯ เกิดเป็นเทรนด์ของสไตล์แอ็คชั่นดีไซน์ที่มีอิทธิพลไปสู่ภาพยนตร์แอ็คชั่น ต่างๆอีกหลายเรื่องทั่วโลกรวมทั้งภาพยนตร์แอ็คชั่นจากฮอลลีวู้ด

          ประวัติ ปรัชญา ปิ่นแก้ว
          ผู้กำกับภาพยนตร์ “ต้มยำกุ้ง2-3D”
          ปรัชญา ปิ่นแก้ว นักเล่าเรื่อง,ครีเอทีฟ,อาร์ทไดเรคเตอร์,ผู้กำกับมิวสิควิดีโอมือ รางวัล(เจ้าของรางวัลผู้กำกับมิวสิควิดีโอยอดเยี่ยมโทรทัศน์ทองคำ4ครั้งจาก เพลงเก็บตะวัน-โดยอิทธิ พลางกูร,ลูกผู้ชาย-ฉัตรชัย เปล่งพานิช,กระจกร้าว-ไฮร็อค,ไวกว่าแสง-หรั่งร็อคเคสตร้า และเป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอสามมิติคนแรกของเมืองไทยผู้กำกับภาพยนตร์ไทย,โป รดิวเซอร์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย ตลอดระยะเวลากว่า25ปีที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงไทยได้รับการยกย่องให้เป็น นักปั้นมือทอง เป็นผู้แจ้งเกิดให้กับเหล่านักแสดง,ศิลปิน,นักร้อง,ซูเปอร์สตาร์ระดับแถว หน้ารวมไปถึงเหล่าบุคคลากรระดับคุณภาพที่อยู่เบื้องหลังในทุกสาขาอาชีพของวง การบันเทิงไทยไม่ว่าจะเป็นวงการโทรทัศน์,เพลง,วิทยุ,แฟชั่น,ไอที,แอนิเม ชั่น,โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ไม่เพียงเปิดโอกาสและสร้างผู้กำกับหน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในวงการภาพยนตร์อย่าง บัณฑิต ทองดี(มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม,พุ่มพวง),คงเดช จาตุรันต์รัศมี(สยิว,เฉิ่ม)หม่ำ จ๊กม๊ก(บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยาม,แหยมยโสธร),มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล(คนผีปีศาจ,รักแห่งสยาม) แต่ยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่สามารถเปิดตลาดภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยในตลาด ภาพยนตร์ของโลกได้เป็นผลสำ เร็จจากสุดยอดงานกำกับภาพยนตร์แอ็คชั่นแห่งทศวรรษอย่างองค์บาก,ต้มยำ กุ้ง,ช็อคโกแลต และทำให้โลกรู้จักซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นของเมืองไทยอย่างจาพนม ยีรัมย์,จีจ้าญาณิน,เดี่ยวชูพงษ์ ฯลฯ มีผลงานการกำกับภาพยนตร์ รองต๊ะแล่บแป๊บ,เกิดอีกทีต้องมีเธอ,องค์บาก,ต้มยำกุ้ง1,ช็อคโกแลต,ฝันหวาน อายจูบ,THE KICK วอนโดนเตะ, และล่าสุดกำลังจะมีต้มยำกุ้ง2-3D

FB on October 01, 2013, 09:42:52 AM
ต้มยำกุ้ง 2-3D อลังการงานแอ็คชั่นส่งความมันส์ทะลุจอ “จา พนม” เสี่ยงตายโดดสะพานกาญจนาภิเษก สูงเทียบเท่าตึก 20 ชั้น






     
          เรียกกระแสแฟนๆ หนังแอ็คชั่นจากทั่วโลกได้อยู่หมัด จนเป็นที่จับตามองถึงการกลับมาของ “จา พนม ยีรัมย์” ซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นฮีโร่เบอร์ 1 ใน “ต้มยำกุ้ง 2-3D” โปรเจ็คต์ภาพยนตร์แอ็คชั่นภาคต่อที่ทุ่มทุนสร้างกว่า500ล้านบาทโดย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ภายหลังการปล่อยตัวอย่างเวอร์ชั่นล่าสุดออกมา เกิดกระแสถามถึงฉากแอ๊คชั่นฉากหนึ่ง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยทีเดียว นั่งคือ ฉากบนสะพานกาญจนาภิเษก เพื่อเนรมิตความยิ่งใหญ่อลังการของฉากแอ็คชั่น ที่ลงทุนปิดการจราจรบนสะพานกาญจนาภิเษกเพื่อถ่ายทำฉากสำคัญในฉากนี้ทาง ผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้ว ได้มีการระดมเอาทีมงานกว่า 200 ชีวิต รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังหนังแอ็คชั่นระดับแถวหน้าของเมืองไทยและภาพยนตร์แอ็ค ชั่นฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวู้ดมาร่วมสร้างความหวือหวาตื่นเต้น
โดยในฉากนี้ จาจะต้องเสี่ยงตายด้วยการถูกเหวี่ยงตัวตกจากสะพานกาญจนาภิเษก หลังจากที่ถูกไล่ล่าอย่างดุเดือดจากผู้ร้าย ซึ่งสะพานนี้มีความสูงเทียบเท่าได้กับความสูงของตึก 20 ชั้น แต่ระดับความหวาดเสียวถูกทวีคูณขึ้นไปอีกเมื่อพระเอกนักบู๊ต้องถูกจับห้อย ตัวค้างกลางอากาศอยู่เหนือแม่น้ำเจ้าพระยา จากรถเครนที่ถูกยื่นออกไปจากตัวสะพานที่สูงขึ้นไปอีก 30 เมตรก่อนที่จะถูกเหวี่ยงตกลงมาใต้สะพานอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปะทะกับกระแสลมต้านที่กระแทกเข้ากับร่างกายตลอดเวลา และกว่าจะได้ภาพหวือหวาออกมาสมใจผู้กำกับปรัชญา ปิ่นแก้ว พระเอกจาจะต้องห้อยตัวอยู่เหนือสะพานอยู่หลายชั่วโมงทีเดียวตลอดการถ่ายทำ ซึ่งผกก.ปรัชญา ได้เล่าให้ฟังถึงไอเดียและความตั้งใจในการถ่ายทำฉากนี้ว่า

          “ในหนังแอ็คชั่นที่สร้างความตื่นเต้นให้กับคนดู มักจะมีการนำเสนอการเสี่ยงตายในรูปแบบต่างๆซึ่งการเล่นกับความสูงก็ยังใช้ ได้อยู่เสมอ เวลาเราดูหนังที่สู้กันบนยอดตึก บนเฮลิคอปเตอร์ หรือหน้าผาสูงมันจะทำให้เราลุ้นจากการตก ในต้มยำกุ้ง 2 ผมเลยนำแง่มุมตรงนี้มาใช้ โดยเฉพาะบ้านเรามีสะพานสูงๆอยู่หลายที่ ซึ่งเคยคิดอยู่เสมอว่าสักวันเราอยากจะมาถ่ายหนังที่นี่แล้วก็วันนี้ฝันก็ เป็นจริงแล้ว ในฉากนี้จา พนมเขาต้องเสี่ยงชีวิตด้วยการห้อยโหนออกไปด้วยตัวเอง ผมกับพันนาคิดจนเราเคาะว่าเราอยากได้ภาพแบบนี้แต่ว่ามันจะไม่ได้ผลเลยถ้าจา เค้าไม่กล้าเล่นด้วยตัวเองและผมให้จาตัดสินใจว่าเค้าพร้อมจะเล่นไหมปรากฏว่า เค้าพร้อมที่จะเล่น ถ้าได้ดูจากหนังอาจจะคิดว่าใช้เทคนิค แต่ผมขอยืนยันเลยว่าเป็นการแสดงจริงๆ ของจา พนมครับ ฉากแบบนี้นะครับปกติแล้วหนังไทยเราไม่มีโอกาสได้ทำเลย เพราะว่ามันต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก และต้องใช้ทีมงานที่มีความพร้อมจริงๆ แต่หนังเรื่องต้มยำกุ้งเรามีความพร้อมที่จะทำและประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่าฉาก แอ็คชั่นที่มีการเสี่ยงตายแบบนี้หนังไทยก็มี คนไทยเราก็ทำได้ครับ

          ในขณะที่พระเอก จา พนม เองได้เผยถึงความรู้สึกในการทำงานครั้งนี้ว่าแม้จะผ่านงานยากๆ เสี่ยงตายมาหลายแต่ครั้งนี้เป็นฉากที่ยิ่งใหญ่ไม่เคยทำมาก่อนแถมยังเสียวที่ สุดในชีวิต

          “ก่อนการโดดผมก็เตรียมใจไว้เหมือนกันครับ เตรียมความพร้อมเตรียมใจไหว้พระสวดมนต์ ครับ (หัวเราะ) ก็พี่ปรัชคิด อาจารย์พันนาคิดมา ผมตอบสนองครับ ฉากนี้เราเล่นกับเรื่องของแรงโนมถ่วง แรงดึงดูดของโลก ก็หวาดเสียวครับตอนที่เสียวที่สุดก็คือช่วงจังหวะที่นับ 5 4 3 2 แอ็คชั่น พอปล่อยเนี่ยมันมีความรู้สึกว่าเหวอนะแต่ได้อารมณ์มาแบบของจริง เสียวจริงครับ (หัวเราะ) แต่ผมมีความสบายใจอุ่นใจก็คือทีมงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ ทีมสตันท์แมน ทีมเซฟตี้ทุกคนนะครับ ดูแลความปลอดภัยอย่างดี จนทำให้เราเกิดความรู้สึกว่าเราสบายใจ เราถึงเล่น แต่ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่ผมได้ไปโหนอยู่ข้างบน ถือว่าผมโชคดีแล้วนะครับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาโหนสะพาน เพราะปกติแล้วไม่มีใครบ้ามาโหนแบบนี้นะครับ (หัวเราะ)” 


          นอกจากนี้ พันนา ฤทธิไกร ปรมาจารย์ผู้ควบคุมและออกแบบฉากแอ็คชั่นที่อยู่เบื้องหลังของฉากเสี่ยงตาย ครั้งนี้ยังเผยถึงแนวทางในการออกแบบการต่อสู้ในต้มยำกุ้ง 2 ที่รับประกันว่าจะเพิ่มระดับดีกรีความเสี่ยงและดีไซน์ของฉากแอ็คชั่นที่แปลก และยากกว่าเดิมเพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ไม่อายใคร

          “ถ้าเราไม่คิดต่อ คิดเลียนแบบเขา เราก็ได้เท่าเขาหรือเป็นรองเขา ถ้าเราคิดใหม่ทำใหม่ ทำในสิ่งที่เขาคิดไม่ได้ทำไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ท้าทาย ต้มยำกุ้ง 2 จะมี 3D เข้ามาทำให้ดูสมจริงมากขึ้น จา จะลอยเข้ามาหาคนดูให้เกิดอารมณ์ร่วมในฉากมากขึ้นรับรองว่าสามมิติในเรื่อง นี้เหมาะสมกับหนังเรียลแอ็คชั่น ต่อยจริง เล่นจริง ทำจริง แบบต้มยำกุ้งที่สุดครับ”

          แค่เพียงฉากเดียวก็ทุ่มตัว ทุ่มแรงใจสร้างกันขนาดนี้แล้ว ขอบอกว่านี่เป็นเพียงหนึ่งในฉากเรียกน้ำย่อยเท่านั้น สามารถติดตามงานแอ็คชั่นสุดจัดจ้านของ “ต้มยำกุ้ง 2-3D” ในแบบทะลุจอ 23 ตุลาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์

FB on October 01, 2013, 09:46:50 AM



 
ทำไม “ต้มยำกุ้ง2-3D” ถึงเป็นหนังที่ต้องดู? พูดคุยอย่างออกรสกับแอ็คชั่นหญิง “เล่นจริง เจ็บจริง” จีจ้า ญาณิน ในความยากที่เต็มไปด้วยความท้าทาย กับหลากหลายความเซอร์ไพรส์ที่ทุ่มสุดตัว

Q: ก่อนอื่นคงต้องเล่าให้เราฟังแล้วละว่าในภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง2-3Dจีจ้ารับบทเป็นใครอย่างไร
J : สวัสดีค่ะ จีจ้า ญาณิน ค่ะ สำหรับในเรื่อง ต้มยำกุ้ง 2 (3D) รับบทเป็น ปิงปิง ค่ะ เป็นคน ร่าเริง อ่อนโยน มีจิตใจดี แต่ว่าข้างในจิตใจแล้วค่อนข้างอ่อนไหว ปิงปิงจะมีน้องสาวอยู่คนหนึ่งชื่อว่า ซือซือ ตัวปิงปิงเองจะเป็นคนที่รักน้องมาก ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นคนทะมัดทะแมง และเป็นผู้หญิงที่มีความเข้มแข็งมาก เพราะน้องสาวของเขาจะค่อนข้างขี้โรค ทำให้ต้องคอยดูแลน้องคนนี้ตลอดเวลา และนี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมปิงปิงเองถึงต้องดูโตกว่าวัย ทั้งปิงปิงและซือซือจะมีลุง ที่มีฐานะค่อนข้างรวย เป็นเศรษฐีเลย แต่ว่ามีความชอบที่แปลกอย่างหนึ่ง คือ ชอบสะสมสัตว์หายากหรือสัตว์แปลกๆ จนวันหนึ่งลุงสุชาติได้ส่งคนไปลงพื้นที่ แล้วไปถูกใจเจ้าขอนเข้า ซึ่งขอนก็คือช้างของขาม ขามนี้นำแสดงโดยพี่จา พนม ค่ะ พอถูกใจก็ทำให้อยากได้ไอ้ขอนมาเป็นของตัวเอง พยายามทำทุกวิถึทาง จนมีเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องกัน และเป็นเหตุให้ขามหรือพี่จา พนมเนี่ยะ ตกเป็นผู้ต้องหา ทำให้เราต้องออกตามล่า และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในต้มยำกุ้ ง2-3D

Q : เมื่อเทียบกับผลงานของจีจ้า2เรื่องก่อนหน้า บทบาทในต้มยำกุ้ง 2-3D แตกต่างกันอย่างไร
J : ถ้าสำหรับบทบาทปิงปิงในเรื่องต้มยำกุ้ง 2 (3D) นี้มีความแตกต่างกับช็อคโกแลต หรือเรื่อง ดื้อสวยดุ ในเรื่องช็อคโกแลตเราเล่นไปตามอารมณ์ที่เรารู้สึกว่าเด็กอยากได้ของ เด็กไม่ได้ดั่งใจ มันมีความเป็นเด็กค่อนข้างใสๆ อยู่เยอะมาก ส่วนพอโตมาในของดื้อสวยดุจะออกเป็นวัยรุ่นที่โผงผางคิดอย่างไรแสดงออกอย่าง นั้น พูดอย่างนั้นไปเลย แสดงออกมาโต้งๆ ตรงๆ ทุกอย่างจริงใจ แต่พอมาเป็นในเรื่องต้มยำกุ้ง 2-3D บทของปิงปิงจะเป็นตัวละครพี่ที่มีน้องที่ต้องคอยดูแลแล้วเหมือนกับว่าต้อง โตกว่าวัย ต้องรับผิดชอบอะไรมากกว่าวัย คือจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะต้องเก็บอารมณ์ เป็นคนที่ว่าแรงนะ เป็นวัยรุ่นที่ไม่จะไม่ใสมากแล้ว เรื่องนี้อย่างที่บอกคือมันต้องมีความรับผิดชอบ การดูแลชีวิตอีกชีวิตหนึ่งน้องที่ป่วยอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นคนที่พึ่งพาได้ ต้องเป็นคนเก็บอารมณ์ และเป็นคนที่ต้องทำอะไรเฉียบขาด แสดงออกค่อนข้างสุขุมขึ้น ในเรื่องนี้ค่อนข้างนิ่งกว่า และโตกว่า 2 เรื่องก่อน

Q.ฟังๆดูแล้วตัวละครปิงปิงค่อนข้างมีความเป็นดราม่าที่มีความกดดันอยู่สูงเลยทีเดียว
J : ค่ะตัวละครปิงปิงเป็นตัวละครที่ได้รับความกดดันค่อนข้างมาก โดยที่เริ่มต้นจากการที่แต่แรกนี้ก็เหมือนไม่เหลือใครอยู่แล้วต้องอาศัยอยู่ กับลุงกับน้องสาว ซึ่งมีคนที่รักเหลืออยู่น้อยมากแล้ว แล้วต้องมาสูญเสียลุงไปอีก และมันก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนมีสิ่งที่ต้องปกป้องมากขึ้น ดูแลมากขึ้น แล้วในภาพยนตร์มันจะต้องเกิดสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องปกป้องคนที่เรารักจน สุดตัวสุดหัวใจอีก ไหนน้องสาวจะต้องป่วยอีก แล้วจะต้องเผชิญความกดดันต่างๆ อีก จนทำให้รู้สึกว่า การตัดสินใจของปิงปิงที่จะทำอะไรในแต่ละครั้ง คือ เป็นคนที่ต้องเด็ดขาด ทำให้คาแรคเตอร์ที่แสดงออกมาลึกๆ แล้วดูเหี้ยมโหด แต่จริงๆ ที่เขาทำไปมีเหตุผลทุกอย่าง เขาทำไปเพื่ออะไร และทำเพื่อคนที่เขารัก ตามล่าเพื่อล้างแค้นให้กับคนที่เขารักมีหลายเหตุผล หลายตัวแปร

Q.แน่นอนว่าเป็นนางเอกแอ็คชั่นจะไม่พูดถึงเรื่องฉากแอ็ค ชั่นหรือการต่อสู้คงไม่ได้ แฟนๆจะได้เห็นจีจ้าออกคิวบู๊โชว์ศิลปะการต่อสู้ในรูปแบบใดบ้าง
J : สำหรับความสามารถในเรื่องการต่อสู้ของเรื่องนี้ก็คือ เราจะไม่ได้เน้นมวยไทยอย่างเดียวแล้ว ในการต่อสู้ของเรื่องนี้จะเน้นความเป็นสากลมากขึ้น จะเป็นการต่อสู้ได้ในหลายๆ รูปแบบ แต่ตัวปิงปิงนี้จะมีอาวุธพิเศษอย่างหนึ่งติดตัวด้วย ซึ่งแตกต่างจากเรื่องอื่นก็คือ เป็นเข็มค่ะ เป็นเข็มที่มี 2 แบบ คือเป็นเข็มที่ใช้รักษาในการฝังเข็มกับเข็มที่เป็นเหมือนลูกดอกอาบยาพิษได้ ด้วย เหมือนเป็นอาวุธลับ ประจำตัว สาเหตุที่ปิงปิงในเรื่องเขาเลือกที่จะใช้เข็ม เพราะว่า น้องเขา คือตัวซือซือ ก็จะเป็นโรคหอบหืด เป็นโรคประจำตัว เป็นโรคลมชักนะค่ะ ปิงปิงก็จะใช้เข็มคอยรักษาน้องไปด้วย และอีกนัยหนึ่งก็จะใช้เข็มป้องกันตัวไปด้วย ส่วนอาวุธของตัวซือซือน้องสาวเนี้ย ก็จะมีเหมือนกัน ทั้งคู่นี้จะผูกพันกัน ปูว่าเล่นศิลปะป้องกันตัวสากลมาด้วยกัน คือเล่นได้หลายอย่าง แต่อาวุธนี้ก็จะแตกต่างกันไป ปิงปิงใช้เข็ม ส่วนซือซือก็จะเป็นพวกแส้ หรือว่าแหวนเข็มอาบยาพิษ

Q. ว่ากันว่าในต้มยำกุ้ง 2 (3D) มีอะไรที่เซอร์ไพรส์มาฝากแฟนๆ เยอะ อันแรกสุดเลยแฟนๆ จะได้เห็นจีจ้าญาณินมีแฝด
J : ในเรื่องที่เห็นจ้า มี 2 ร่าง จริงๆ ไม่ใช่ (หัวเราะ) ในเรื่องมีฝาแฝดด้วย เป็นแฝดน้อง เหมือนกับเป็นพี่น้องที่ค่อนข้างรักกันมาก แสดงโดย วานวาน เขาเล่นเทควันโดมาก่อนแล้วเขาก็มาเล่นพวกตีลังกา จนได้เป็นสแตนอินเป็นสตั้นหญิง เขาเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างแกร่งมากคนหนึ่งเลย ถ้าเล่นเวทด้วยกันนี้จะเล่นยึดข้อซึ่งกล้ามขึ้นได้แบบแมนมาก ตัวเล็กแต่ดูเป็นคนแข็งแรงมากค่ะ ในเรื่องของการเล่นเตะต่อย เป็นคนที่ท่าทางแข็งแรง รำสวย รำหมายถึงพวกรำเทควันโด แล้วก็เป็นคนหัวไว ที่สำคัญคืออย่างในเรื่องนี้ คืออยู่กับเขาแล้วจ้ารู้สึกสบายใจ ในเรื่องเวลาถ่ายหนังด้วยกันนี้เขาต้องเล่นเป็นน้อง และเหมือนเราต้องดูแลเขา แต่ในชีวิตจริง เรื่องจริงเลยคือเขาเป็นคนดูแลจ้า ทุกอย่างเขาจะเป็นห่วง อย่างไปห้องน้ำด้วยกัน เดี๋ยววานไปเป็นเพื่อน เอาข้าวไหม นั้นโน้นนี้ไหม คือเป็นการดูแลกัน คือของเล็กๆ น้อยๆ วานชอบทำขนมมาให้ทานและเป็นคนทำขนมอร่อย และหลังๆ เหมือนจ้าได้ใจอยากทานอะไรปุ๊บก็จะไปอ้อนวาน มีเวลาเขาก็จะทำให้ที่บ้านทานด้วยแล้วก็แบ่งมาให้เราทานด้วย ก็คือแบบจะนึกถึงกันตลอดเวลา แล้วโดยส่วนตัววานเขาจะเลี้ยงซูการ์ไรเดอร์ จ้าก็อยากเลี้ยงแต่ไม่มีเวลาเลี้ยง แม่ก็ไม่ให้เลี้ยง ใครก็ไม่ให้เลี้ยง เขาบอกว่าขนาดรับผิดชอบตัวเองยังลำบากเลย ก็คือวานก็จะหิวมาให้เล่นซะอย่างงั้น ซูการ์ไรเดอร์แบบอ้วนๆ 2 ตัว มันคือรายละเอียดที่เราอยู่ด้วยกันมาหลายเดือนนะค่ะ แต่ว่าจะเหมือนเขาดูแลเรามากกว่าแต่ในเรื่องเหมือนเราดูแลเขา มันก็เลยมีความผูกพันกันหลายๆ อย่าง นั่งคุยกัน ปรึกษาอะไรกัน ว่างๆ วันหยุด ก็โทรหาร้านบุฟเฟต์เค้ก อีกวันเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านราเม็ง หาร้านของกินที่เป็นบุฟเฟต์แบบนี้ค่ะ พออีกอาทิตย์ต่อมาพี่ในกองก็จะถามว่าไปทำอะไรกันมา 2 คน แก้มห้อยกันมาเลยจะชอบไปตะลุยหาของกินกัน ซึ่งมันจะเป็นสไตล์นี้กันมากกว่า วานจะเป็นคนน่ารัก เรียบๆ ง่ายๆ ไม่มีพิษไม่มีภัยกับใคร ที่สำคัญเราสองคนอายุเท่ากันเลยค่ะ เกิดปีเดียวกันเลย แต่ว่าวานเขาจะตัวเล็กกว่า

Q.ถึงจะเล่นแอ็คชั่น แต่หนังทุกเรื่องของจีจ้าก็จะการพูดถึงตลอดคือลุคส์เสื้อผ้าหน้าผมแล้วในต้มยำกุ้ง 2 (3D) เป็นอย่างไร
J : ในเรื่องนี้เสื้อผ้าจ้าจะเปลี่ยนไปเลย เพราะตัวพี่ปรัชผู้กำกับและพี่ป็อบ (เอกศิษฎ์ มีประเสริฐสกุล) สไตล์ลิสต์เขาอยากให้ลองเปลี่ยนดูบ้างจากคาแรคเตอร์ที่ผ่านมาสังเกตุได้ เราจะเน้นกางเกงเป็นหลักเลย อย่างช็อคโกแลตนี้จะดูเด็กๆ ใสๆ สำหรับในเรื่องนี้ที่ต้องใส่กระโปรงเล่นแอ็คชั่น แต่บุคลิกมันก็จะต่างจากในช็อคโกแลต เรื่องนี้เสื้อผ้าจะเน้นๆ แนววินเทจ ดูได้จากทรงผมเลย จะเป็นทรงบ็อบ ทรงมอสเลยไปแบบนี้ค่ะ ดูโตขึ้น จะดูเป็นสาว อารมณ์เหมือนเจ้าหญิง เหมือนคุณหนู คุณหนูน่าทะนุทะนอม แต่ว่ากลับต้องมาเรียนแอ็คชั่นด้วยลุคส์ของคุณหนูแบบนี้ ก็แปลกตาดีอยากให้ลองดูกัน แล้วก็จะมีการแต่งหน้าเล่นตลอด ซึ่งในช็อคโกแลตนี้จะไม่แตะเครื่องสำอางค์ เล่นเลย เรื่องนี้ต้องมีการกรีดตาทุกฉาก กรีดตาหางตาเชิด ที่สำคัญเรื่องนี้ใส่กระโปรงเล่น ซึ่งมันก็จะต้องมีท่ากระโดด กระโดดปุ๊บมันก็จะมีปัญหาเรื่องกระโปรงบิน บินซ้าย บินขวา บินมาโปะหน้า แต่ว่าด้วยความพยายามก็ทำให้ทุกอย่างผ่านมาด้วยดี

Q : ฟังดูแล้วอย่างนี้ สำหรับจีจ้ากระโปรงจะไม่เป็นอุปสรรคในการเล่นแอ็คชั่นหรืออย่างไร
J : ถึงจะใส่กระโปรง แต่ก็ยังต้องเล่นแอ็คชั่นอยู่ พี่เขาก็จะมีเทคนิคจะทำอย่างไรให้มันเล่นแอ็คชั่นสะดวกนะ ใส่กระโปรงยาวไปก็จะมีปรับขึ้นนิดหนึ่ง หรือว่ามันฉีกขาไม่ได้ก็ฝ่าข้างมันไปเลยโน้นนี้นั้น คือมันก็จะมีการแก้ไข ก็อยากให้ติดตามกันสำหรับการใส่กระโปรงและก็มีแอ็คชั่น การกระโดดลงจากตึก 2 ชั้นอะไรอย่างนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ในเรื่องก็ขอพี่เขาว่าฉากไหนที่มันบู๊เยอะนะ ก็จะขอพี่สไตล์ลิสต์ว่าขอเป็นกางเกงนะ ก็ได้กางเกงจริงแต่ยังแอบแฝง ดูอย่างเสื้อก่อนเลย มันก็จะมีผ้าพริ้วๆ แต่ก็จะมีหลายเลเยอร์หน่อยค่ะ เวลาต่อสู้เข้าคิวแอ็คชั่นก็อาจมีการปะทะโดนกระแทก โดนชก โดนต่อย โดนศอก ส่วนกางเกงก็จะเป็นกางเกงขายาวเหมือนกัน แต่คราวนี้เราไม่ใส่กางเกงยีนส์ เราไม่ใส่กางเกงวอร์มแต่จะใส่เป็นกางเกงผ้า คือทุกอย่างก็จะมีดีไซน์มีลูกเล่น และเราแอบมีฮู้ดด้วย ซึ่งในภาพยนตร์ก็จะมีอยู่หลายชุดเหมือนกัน ชุดที่ใส่นี้เป็นชุดที่เรียกว่าออกศึกระดับปานกลาง แต่ก็ยังมีเป็นชุดออกศึกแบบเต็มสตรีมเป็นแบบชาวร็อคอันนั้นเป็นแบบว่าเหมือน รู้ตัวละว่าต้องไปรบ เราจะเตรียมตัวต่อสู้เต็มที่เราก็เลยจะเปลี่ยนชุดนั้นเต็มที่ เรียกว่าชุดบู๊

Q : หนักใจมั้ยได้ข่าวว่าคู่ปรับในเรื่องนี้นอกจากพี่จาแล้วยังเป็นฝรั่งชาวต่างชาติด้วย
J : ใช่ค่ะ คู่ต่อสู้ ตัวใหญ่มากเลยแต่ละคน แอ็คชั่นของเรื่องนี้ก็คือจะมีความหลากหลายกันไปในตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีตั้งแต่ แอ็คชั่น 2 คน แอ็คชั่น 3 คน แอ็คชั่นกลุ่ม ซึ่งเรื่องนี้จะมีความแปลกแตกต่างตรงที่ดีไซน์เราจะเริ่มไม่เหมือนเดิมละ เอาที่แอ็คชั่นฝาแฝดก่อน ตอนที่ปิงปิงกับซือซือต้องเล่นด้วยกัน เพราะฉะนั้นหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการวิ่ง การกระโดด หรือว่าท่าทางแต่ละจังหวะต้องคล้าย ต้องสัมพันธ์กัน ซึ่งทำให้มีหลายๆ อย่างเลยในการแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่จ้ากับวานวาน ที่แสดงเป็นซือซือน้องสาวจ้านี้ต้องซ้อมไปด้วยกัน อันนี้เราไม่ยากอยู่แล้ว เพราะเราสนิทกันคลุกคลีอยู่มาด้วยกันหลายเดือน และเราก็เริ่มชินจังหวะ ชินอะไรกัน แล้วเราก็จะเริ่มด้วยการซ้อมกันก่อน แต่ที่จะเริ่มยากขึ้นนี้คือ แอ็คชั่นที่เราจะต้องเข้าจังหวะกับนักแสดงคนอื่น อย่างมาริสนักแสดงต่างชาติที่จะเป็นฝรั่งค่อนข้างตัวใหญ่อันนี้เหมือนเรา ต้องเล่นแอ็คชั่นกับหมีตัวโตใหญ่ๆ ซึ่ง 1 คือความไวของเราต้องเพิ่มขึ้นเพราะเขาเร็ว เรื่องแรงนี้ไม่ต้องห่วงเราเจ็บแน่นอนอย่างไรแอ็คชั่นนี้เราต้องยอมเจ็บ แน่นอนค่ะ ตรงนี้ก็คือเราก็ได้ซ้อมนะกับคุณมาริส เราต้องซ้อมจังหวะกับเขาก่อนจนเรารู้สึกว่าเราชินกับเขาละ ตอนแรกเราเห็นเขาเบ่งกล้ามปุ๊บเราก็กลัวแล้ว คือตัวใหญ่มาก แล้วคือพอเราเข้าฉากด้วยกันนานๆ เข้า พอเล่นแล้วเขาเริ่มเซฟเรา และเรารู้จังหวะกันละ แต่จะมีปํญหาคือภาษาค่ะ เวลาคุยกันค่อนข้างเมื่อยมือมาก เราจะมีล่าม แต่ภาษาแอ็คชั่นมันไม่ต้องมีอะไรมากมาย พอเราชี้จังหวะอะไรกันคือเราจะเข้าใจ แล้วก็แรกๆ เราจะไม่ซ้อมกันแรงมาก เขาเรียกว่าเดินดูไลน์ ดูจังหวะกัน พอเริ่มชิน จังหวะเริ่มดีปุ๊บเราเริ่มใส่แรง โดยการเพิ่ม 40%, 60%, 100% อย่างนี้ แต่ 100% จะเก็บไว้ถ่ายวันจริงมากกว่าเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว แล้วก็ตัวแอ็คชั่นของเรื่องนี้ค่อนข้างยาก

Q.อยากให้จ้าลองยกตัวอย่างฉากแอ็คชั่นที่ยากๆ ที่เราต้องแสดงในต้มยำกุ้ง 2 (3D)
J.สำ หรับแอ็คชั่นของจ้าในหนังก็จะมีทั้งการต่อสู้กันมีทั้งของ ปิงปิง ซือซือ ขาม ก็คือ จ้า วานวาน พี่จา มันต้องมีจังหวะที่ฝาแฝดตามล่าขาม ค่อนข้างยากเหมือนกันเพราะว่ามันเป็นจังหวะที่ทุกอย่างต้องซิงค์กัน ปิงปิงออกซือซือเข้า ปิงปิงจับซือซือเหวี่ยง ซือซือต้องเตะทันที ขามต้องหลบ คือทุกอย่างมันไล่บี้กันเลย มันบี้กันคือจังหวะมันบี้กันตลอดมันไม่มีช่องว่าง ค่อนข้างเหนื่อยเลย แล้วก็ต้องสู้ในสถานที่ที่มันแคบๆ มันก็จะเป็นสภาพแวดล้อมที่บีบบังคับเหมือนกัน ซึ่งในบทปิงปิงกับซือซือเป็นพี่น้องฝาแฝดกันเพราะฉะนั้นความสัมพันธ์กันนี้ มันต้องมีอยู่ในสัญชาตญาณเลยซึ่งรวมไปถึงในส่วนของแอ็คชั่นด้วยคือต้องรู้ใจ กัน เพราะมันจะมีจังหวะที่ต้องเล่นไล่บี้กันเลยเพื่อมันจะได้ไม่มีช่อว่าง แล้วอารมณ์ของเรื่องราวตอนนั้นคือเราต้องการฆ่าคนๆ หนึ่งเลย อารมณ์ที่เราต้องไล่ฆ่าคนๆ หนึ่งต่อเนื่องต่อเนื่องกัน สมมติว่าปิงปิงเข้าเตะปุ๊บโดนผลักออกมาปุ๊บซือซือต้องรับ ซือซือโดนผลักออกปิงปิงต้องรับทันที่ให้ได้ แล้วพอเราเหวี่ยงอีกคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งจะต้องรู้ว่าเราจะต้องเตะแล้วนะ ต้องมีการซักซ้อมกันอย่างดีเลย ที่สำคัญเลย ลุกรับ ไม่ว่าอะไรจะเกินกันมา เราจะต้องระวังกันเอง และระวังของรอบข้างด้วย เพราะทุกอย่างอุปกรณ์ประกอบฉากเต็มไปหมดเลย ระวังตัวเองด้วย ระวังคนอื่นด้วย เขาก็ระวังเราก็ระวัง ช่วยๆ กันอะไรอย่างนี้ อีกอันหนึ่งที่รู้สึกว่า ยาก ยาก ยาก ยาก ยาก เลยก็คือ เข้าไปพัวพันกับแอ็คชั่น 3 เส้า ของหมี 2 คน ก็คือเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวที่ต้องเข้าไปอยู่ในแอ็คชั่นของผู้ชายตัวใหญ่ๆ 2 คน บึ๊กๆ แล้วถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เป็นแอ็คชั่นที่ค่อนข้างยากมาก เพราะว่าตัวจ้าเหมือนจิ้งจก จิ้งจกขึ้นไปเกาะบนตัวหมีแล้วถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เป็นลูกลิงอะไรแบบนั้นค่ะ เราต้องทำผู้ร้ายให้ได้มากที่สุด แรงที่สุด เป็นฉากที่ต้องต่อสู้กับมาริส เวลาเข้ากระทำทีต้องให้ได้หนักที่สุด และดูหนักจริงๆ เพราะว่าด้วยความที่เป็นคนตัวเล็ก คนตัวเล็กบุ๊บเป็นปัญหาเสียเปรียบ ทำอะไรแล้วก็จะดูไม่แรง เพราะฉะนั้นทุกดอกที่เข้าไปต้องใส่เต็ม ใส่เต็ม ตีศอกก็ต้องเข้าไปตีเต็มๆ เลย เขากลับบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย บางทีแอบท้อ หลังๆ เลย พี่ปรัช (ปรัชญา ปิ่นแก้วผู้กำกับภาพยนตร์) พี่ท็อป (วีระพล ภูมาตย์ฝน ผู้กำกับคิวบู๊) บอกใส่เต็ม เอาเต็มๆ เลยนะ เต็มๆ จะได้ให้มันจบๆ ไป กว่าจะผ่านเลือดตาแทบกระเด็น ไหนจะโดนเหวี่ยงลงพื้นเสร็จปุ๊บ ถูกรับแล้วโดนโยนอีกอะไรอย่างนี้ ก็เป็นแอ็คชั่นที่ค่อนข้างทุลักทุเลเหมือนกัน แต่ก็มันดีค่ะ

Q : ว่ากันว่าทุกองค์ประกอบในการเกิดขึ้นของโปรเจ็คต์ภาพยนตร์แอ็คชั่นภาคต่อที่ คนทั้งโลกรอคอยอย่างต้มยำกุ้ง 2-3D ไม่มีฉากไหน ไม่มีส่วนไหนของภาพยนตร์ง่ายเลย แม้แต่ฉากแอ็คชั่น3เส้าที่จ้าพูดถึง จริงมั้ยที่ว่าทุกๆฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์ล้วนเป็นโจทย์ที่ยากและท้าทาย ตั้งแต่การวางโจทย์ ตั้งแต่การคิดออกแบบดีไซน์เลยทีเดียว
J : ค่ะ (หัวเราะ) แล้วทุกๆ ก็จะมีโจทย์ที่แตกต่างกัน แต่ล้วนแล้วคือยากทั้งสิ้นอย่างฉากแอ็กชั่น 3 เส้าความยากอยู่ตรงนี้ค่ะคือ ผู้ชาย 2 คนที่ต่อสู้กัน ก่อนอยู่แล้วนั่นคือมาริสกับพี่จา แล้วเราต้องเข้าไปพัวพันในการต่อสู้นั้นกลายเป็น 3 คน ค่อนข้างยากที่ความต่างของศิลปะที่แต่ละคนใช้ คือปิงปิงใช้ศิลปะการต่อสู้อย่างหนึ่ง ขามก็ใช้แบบหนึ่ง ตัวมาริสก็จะใช้อีกแบบหนึ่งไปเลย แล้วคือต้องเอามาต่อสู้กัน มันมีความยากตั้งแต่ตอนคิดคิวแล้ว ตั้งแต่ตอนดีไซน์คิวต้องมีการดีไซน์กันมาก่อนว่าถ้าคุณต่อยด้วยมวยไทยมา จ้าไม่แน่ใจว่ามวยของมาริสรู้สึกจะเรียกว่าฟิฟตี้ทู คือเขาจะใช้มือ เท่าที่จ้าศึกษาและสังเกตุจะเห็นว่าศิลปะการต่อสู้ที่เขาใช้ มันเป็นการโจมตีที่ช่องว่างน้อยมาก แล้วถ้าโจมตีนี้เขาก็จะปัดป้องอย่างนี้ ซึ่งเรารู้สึกว่าถ้าเราปีนขึ้นไปแล้วมันต้องทุ่มทั้งแรงกายแรงใจที่จะกระทำ ให้ได้สักดอก, 2 ดอก อะไรแบบนี้ และน้อยมากที่จะทำให้เขาเจ็บค่ะ เนื่องจากเขาตัวใหญ่แล้วช่องว่างเขายังน้อยอีก เขาไม่ค่อยเปิด แล้วเขาเป็นคนไหวมาก ก็ถ้าทะเลาะกันจริงๆ ก็คงไม่เอาค่ะ ส่วนพี่จาเองไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะศิลปะมันดีไซน์ใกล้เคียงกัน จังหวะที่เล่นกัน ก็คือโอเคนะค่ะ เหมือนกับว่าเคยซ้อมด้วยกันมาแล้ว คือมันจะเห็นว่าเล่นยังไง คือมันรู้ไลน์กัน แต่ว่าที่เป็นปัญหาจะเป็นของมาริสมากกว่าค่ะ อย่างที่บอกคือกลัวเขาด้วย ค่อนข้างตัวใหญ่ แต่พอซ้อมกับเขาไปก็ค่อนข้างโอเคขึ้น แต่พอเล่นกับเขาต้องใช้แรงจริงทั้งหมด ไม่อย่างนั้นจะรู้สึกว่าเรากระทำอะไรเขาไม่ได้เลยตอนที่อยู่ในฟิล์มภาพมันจะ ใหญ่ พูดได้ว่าสำหรับฉากต่อสู้กันที่เป็นลักษณะ 3 เส้า ของหญิง 1 ชาย 2 เป็นฉากโหดมาก มีความน่าสนใจตรงที่ อย่างแรกเลยเปิดความอลังการ คือเราอยากให้เห็นฉากที่เป็นท้ายเรือ (แต่จ้าไม่แนใจว่ามันเรียกว่าเรืออะไร) ฉาก 3 เศร้าที่เราต้องการจะให้เห็นเนี้ยมันเป็นฉากที่ค่อนข้างอลังการมากเลย ฉากที่เราถ่ายมันเป็นอู่ต่อเรือ เพราะฉะนั้นคือ จะค่อนข้างใหญ่แล้วก็เปิดฉากภาพกว้างมากซึ่งโดยปกติแล้วเนี้ยฉากการต่อสู้ เนี้ยจะถ่ายภาพแคบๆ ถ่ายภาพกลาง แต่จะไม่ค่อยได้เห็นฉากกว้างๆ แบบนี้นะค่ะ แล้วก็เป็นฉากที่มีคน 3 คนต่อสู้กันอยู่ การต่อสู้เป็นการต่อสู้คนละแขนงแต่ว่าเอามารวมการต่อสู้ให้อยู่ในฉากเดียว กันได้ด้วย ตรงนี้ก็น่าสนใจอยากให้ดูกัน

Q: มีฉากแอ็คชั่นฉากไหนในมุมมองของจ้าคิดว่ามันแปลกใหม่ น่าสนใจ สำหรับคนดู แต่ขณะเดียวกันก็ท้าทายสำหรับคนเล่นมากๆ
J : สำหรับเรื่องนี้ ความแปลกตาหรือความสวยในความคิดของจ้ามีค่อนข้างเยอะมาก ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าการที่เราไปวิ่งกระโดดมีคิวแอ็คชั่นต่อสู้กันอยู่บน ท่ามกลางไอ้พวกเครื่องจักรอะไรพวกนี้เป็นร้อยๆเครื่อง เป็นการทำให้เกิดการดีไซน์ของฉาก ของโลเคชั่นที่เราไปถ่ายนี้รู้สึกดูแปลกตาขึ้นไปอีก แล้ว ต้องขอบอกว่าทั้งหมดทั้งมวลเลยที่เราไปถ่ายล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องจักรจริงๆ ทั้งหมดที่ใช้ตัดเหล็ก แต่ละอันไม่น่าเบากว่า 25 ตันที่เราต้องไปถ่าย ไปกระโดดข้ามอะไรแบบนี้ ซึ่งมีความอันตรายค่อนข้างสูง แต่เราก็มีการไปซ้อมในสถานที่จริง สำหรับในฉากนี้ก็คือได้เข้าฉากคู่กับ (เราเวียนมาเจอกันอีกแล้ว) คาซู ที่เป็นพระเอกของเราในเรื่องดื้อสวยดุค่ะ แต่ในเรื่องนี้เรามาสู้กันเอง เพราะเขาเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน ก็คือเป็นฉากที่ตัวปิงปิงตามไล่ล่าขามมาติดๆ กลับพบว่ามีคนอีกลุ่มหนึ่งเหมือนกันที่ตามไล่ล่าขาม พอมาเจอกันซึ่งก็คือตัวละครที่คาซูแสดงนั่นเอง ก็เลยกลายเป็นว่าเราก็โดนลูกหลงเข้าไปด้วย ก็คือจะสู้กับพี่จา แต่ว่าคาซูดันหลุดออกมาพอดี ก็เลยมีการกระโดดเหยียบพี่จาปุ๊บ แต่ไปถีบคาซู และต้องมีการตีลังกาหหงายหลับกลับมาศอกพี่จาอีกทีหนึ่ง คือเป็นการโจมตีที่ให้เกิดผลมากที่สุด คือ ทำ 1 ครั้งแต่ต้องตีให้ได้ 3 ครั้ง ค่อนข้างเป็นท่าที่ทำยากพอสมควรเลยค่ะ หลายเทกเหมือนกันฉากนี้ แล้วในฉากนี้ก็จะมีการรวบรวมเอานักแสดงแอ็คชั่นมากฝีมือหลายๆ คนเลยเหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพวกนักแสดงของไฟท์ติ้งที่เคยแสดงโครตสู้โครตโส ไม่ว่าจะเป็น โอ๋ ปอม จ้าว นัท มากฝีมือกันทั้งนั้นค่ะรับรองว่ามันส์แน่นอน

FB on October 01, 2013, 09:47:34 AM
Q : เห็นในภาพยนตร์ตัวอย่างมีการโชว์ฉากโชว์แอ็คชั่นกับมอเตอร์ไซด์ด้วย
J : ค่ะจีจ้าก็โดนด้วย เพราะพี่พันนากับพี่ท็อป ได้ดีไซน์คิวแล้วคิดว่า กลัวจ้าไม่สนุกเหมือนพี่จา ก็เลยมีฉากมอเตอร์ไซค์วิบากเหมืนกันต้องหนีมอไซค์เหมือนกันด้วยค่ะ ตรงนี้ก็เป็นฉากไล่ล่ากันบนตึกเลย ขึ้นตึก ยังจะเอามอไซค์ตามล่าเราขึ้นมาอีก โอเคเราก็หนีๆ กันไป นอกจากมอไซค์วิบากแล้ว เราก็ยังเจออีกคนหนึ่ง ซึ่งเราอยู่คู่กันมานานก็คือพี่หม่ำ เรื่องนี้เราก็เจอกันอีกแล้วค่ะ ก็พี่หม่ำหลายๆ คนก็ยังคงจำจ่ามาร์คได้นะคะ ในเรื่องนี้ก็ยังคงไม่ได้เลื่อนขั้นก็ยังคงเป็นจ่ามาร์คอยู่ ก็คือเรื่องนี้ต้องมามีบู๊ด้วยกันคือพี่หม่ำ มีจ้า มีพี่จาค่ะ แต่ทีนี้ไอ้ความไม่ธรรมดาอยู่ที่มอเตอร์ไซค์ในภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง 2 (3D) จะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่แต่งแล้ว (แว๊น) ที่เครื่องมันจะแรงกว่าปกติ คือเราก็จะถูกเขาไล่ล่าวนขึ้นตึก ก็จะมีการเล่นแอ็คชั่นกับมอเตอร์ไซค์ด้วย และเล่นในที่แคบหลังจากที่ขึ้นไปบนตึกแล้ว เราก็จะต้องหนีให้ทันให้ได้ไม่งั้นเราก็โดนเหยียบแน่นอน เหยียบจริงๆ ด้วย ก็ต้องมีวิ่งหนี หลบ มีการทำลายข้าวของ ฉากนี้เป็นฉากที่ง่ายที่สุดตั้งแต่ทำมาเป็นฉากทำลายข้าวของโดยไม่คิดอะไร แล้วก็จะมีฉากดีไซน์คิวแอ็คชั่นกันระหว่างฝาแฝดอีกคนหนึ่งด้วยเหมือนกัน ก็ต้องเล่นจังหวะให้ประสานกันเหมือนเดิม แต่สุดท้ายในฉากมอเตอร์ไซค์ก็มีพลาดค่ะ ด้วยเพราะเนื้อที่ที่มันแคบมาก มอเตอร์ไซค์ที่เขาปล่อยไหลมา ปล่อยไหลมาเต็มๆ เลยก็มีที่หลบไม่ทัน เพราะว่าตอนแรกเหมือนลืมล็อคคอมอไซค์ ที่นี้พอมอไซค์ที่มันถลาโดยที่ไม่มีคนขับมันวิ่งตามเราเองได้ด้วย พอเราวิ่งนี้ปุ๊บมันหักคอตามเราได้ด้วย มันดันเป็นวงของมันพอดีนะค่ะ ก็มีบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย

Q : แสดงว่าการเล่นแอ็คชั่นยังไงก็ยังคู่กับการบาดเจ็บที่ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จีจ้า ญาณินมักจะเจออยู่เสมอ
J : เรื่องเจ็บเนื้อเจ็บตัว มันมียิบย่อย ช้ำ เลือดออก โดยบาดบ้าง โดนนั้นโดนนี้บาดเล็กๆ น้อย ๆ มันเป็นปกติของหนังแอ็คชั่นในทุกเรื่องที่ผ่านมาอยู่แล้ว แต่ในเรื่องนี้ยังไม่ได้โดนอะไรมากมายเพราะว่าคำนวณการซ้อมและการเซฟตี้ค่อน ข้างดีแล้ว

Q : เห็นในภาพข่าวจะมีฉากมอเตอร์ไซด์ 300 คันไล่ล่าจ่าพนมไปบนถนนพระราม3ชนิดที่ว่าปิดถนนกันเลย มีภาพจีจ้าไปเป็นช่างภาพเบื้องหลังตอนถ่ายทำด้วย
J : (หัวเราะ) ก็จริงๆ บางวันที่ไม่มีคิว ก็จะมีแวะไปดู ไปเชียร์ ไปให้กำลังใจพี่ๆ ในกองถ่ายบ้างเหมือนกันค่ะ อยากเห็นความอลังการ ฉากขับมอเตอร์ไซค์ไล่ล่าเป็นฉากที่อลังการมากๆ เพราะว่ารวมแก๊งมอเตอร์ไซค์ประมาณกว่า 300 คัน ซึ่งเป็นการถ่ายทำที่คนค่อนข้างเยอะ รถค่อนข้างเยอะ แล้วการถ่ายทำยากมาก ต้องมีการถ่ายฉากฮ.ช็อต คือ ใช้เฮลิคอปเตอร์ในการถ่ายทำด้วย เสียงดังมากแล้วก็ไม่อยากจะหลุดเข้าไปอยู่เลยในนั้นแน่นอนเพราะต้องโดนรถ เหยียบแน่ๆ เพราะกว่า 300 คันเลย แล้วก็เห็นว่าต้องมีรถตำรวจคอยนำ แล้วก็คอยตามตลอด เพราะว่า 1. คือพยายามไม่ให้เกิดอันตรายเกิดขึ้นเพราะถ้าล้มคันหนึ่งอาจจะลำบากอีกหลาย คันเลยซึ่งก็ดูแลได้ยากมากเลยค่ะพูดถึงความปลอดภัยของอันนี้ แต่ว่าสำหรับภาพที่ออกมากที่เห็นคือสวยเลย เห็นในตัวอย่างแล้วรู้สึกว่าสวยคุ้มค่าที่ถ่ายทำแบบนั้น นอกจากนี้ยังมีฉากอลังการอีกหลายๆ ฉากมากๆ ที่จ้าแอบไปดูก็คือเป็นฉากที่ว่าขามหรือพี่จาต้องกระโดดสะพานกาญจนาภิเษก ซึ่งค่อนข้างสูงมากให้ความรู้สึกเหมือนเล่นปันจี้จ้ำแอบอยากไปกระโดดด้วยแต่ เราไม่มีฉากนั้น ตอนไปยืนดูก็รู้สึกลุ้นเหมือนกัน เพราะว่ามันค่อนข่างสูงมาก ค่อนข้างอันตรายมาก

Q : หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมต้มยำกุ้ง 2-3D ใช้เวลาถ่ายทำนานมาก ไม่เห็นจะฉายซะที
J : หลายๆ คนอาจจะมีความสงสัยถึงวิธีการถ่ายทำต้มยำกุ้ง 2 (3D) ทำไมถึงได้ถ่ายทำนาน ซึ่งมันจะมีความละเอียดอ่อนหลายอย่างค่ะ เอาเป็นว่าตั้งแต่ขั้นตอนการเขียนบทซึ่งเป็นสิ่งที่บอกได้เลยว่าวงการหนัง ไทยเรามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุกอย่างแล้ว พยายามทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อที่จะให้คนดูได้ดูกันแล้วรู้สึกดีที่สุดนะค่ะ ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับปรุงหลายครั้งเพื่อให้บทออกมาสมบูรณ์ ในเรื่องของการทำแอ็คชั่นก็ต้องมีวิธีการซ้อม เตรียมการซ้อมนานเพราะว่าด้วยความที่เรามีนักแสดงต่างชาติมาก ต่างชาติต่างภาษา ก็ต้องมีการเก็บตัวซ้อมด้วยกัน แล้วก็ฉากมันก็มีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นแอ็คชั่นการต่อสู้คู่ 3 เส้าอย่างที่บอก คนโน้นสู้กับคนนี้ คนนี้สู้กับคนนั้น ก็เลยต้องมีการซ้อมเพื่อที่จะให้เล่นได้เข้าขากัน ฉากแต่ละฉากสำหรับต้มยำกุ้ง 2 ที่ต้องเตรียมการจะค่อนข้างใหญ่อลังการ และที่สำคัญเลยคือ เรื่องนี้เป็นแอ็คชั่น 3D เรื่องแรกของเมืองไทย เรื่องแรกเนี้ยะ กล้อง 1 ตัว 40 กิโลลองแบกแล้วค่ะ เอาวางบนบ่าเฉยๆ ขยับตัวไม่ได้แล้วระหว่างนั้นต้องมีคนประคอง เข้าใจเลยว่าคนเป็นตากล้องเนี้ยะต้องแข็งแรงมากจริงๆ ที่สำคัญคือเวลาเรามูฟหรือเคลื่อนไหวเร็วๆ เขาไม่ได้ถือถ่ายไปถ่ายมาแต่เขาต้องแบกวิ่ง แบกขึ้นแบกลงด้วย คือภาพเนี้ยะด้วยความที่ว่ามันเป็น 3D จังหวะมุมต้องได้จริงๆ เพราะฉะนั้นในการถ่ายทำแต่ละซีนแต่ละฉากจะต้องค่อนข้างพิถีพิถัน ต้องใช้คำนี้เลยพิถีพิถันเหมือนเรากว่าจะทำอาหาเสร็จอย่างหนึ่งก็ต้องใช้เวล อันนี้ก็เหมือนกันกว่าจะเซ็ทกล้อง ระยะของ3มิติ ถ่ายทำกว่าจะถ่ายได้ฉากหนึ่งนี้สำหรับกล้อง 3D ค่อนข้างยาก แล้วต้องใช้อย่างต่ำคือ 2 กล่อง เรื่องนี้ใช้ 2 กล้อง กล้อง 1 ก็ 40 กิโลกรัมแบกกันคนละ 40 กิโลกรัมค่ะแล้วก็อย่างที่บอกกล้องหนักจริงๆ นะแล้วก็บางทีมุมมันไม่ชัด ไม่ได้จริงๆ ก็ต้องถ่ายใหม่ แล้วก็ต้องใช้ระยะเวลาในการเซ็ตกล้องระยะหนึ่งนะค่ะ เซ็ตกล้องจัดมุม รอกล้องโหลดนั้นโน้นนี้ หรือแม้กระทั่งก็จะมีปัญหาบ้างครั้งที่นักแสดงถ่ายได้แล้ว แต่ถ้ามุมกล้องยังไม่ได้ก็ต้องมีการเทคใหม่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการถ่ายทำหนังอยู่แล้ว ที่ต้องเกิดเหตุการอย่างนี้ขึ้น

Q :ฟังๆ ดูแล้วการถ่ายทำหนัง 3D โดยเฉพาะแอ็คชั่นจะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะกว่าหนังปกติโดยทั่วไป
J : ค่ะ สาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ระยะเวลาในการถ่ายทำนานขึ้น ก็คือแต่ละฉากนะค่ะ เช่นฉากพูดก็ต้องคำนึงถึงระยะความเป็น 3D เช่นคนยืนพูดกับฉากจะต้องสัมพันธ์กันให้ออกมาเป็น 3D มีระยะห่างระหว่างหน้ากับหลังมีความลึกความตื้นระหว่างคนกับฉากให้ดูเป็น มิติค่ะ หรือว่าเป็นฉากที่มีระยะห่างระหว่างมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งออกมาจากฉากก็ต้องกะ ระยะของกล้องให้ดีๆ ความสัมพันธ์ระหว่างคน ของ กล้อง มันถึงทำให้การทำงานทุกอย่างค่อนข้างละเอียดมากขึ้น มันไม่เหมือนถ่ายธรรมดา อันนี้ก็เป็นงานที่ยากขึ้นมาหน่อย แต่ที่ถ่ายกล้องปกติก็รู้สึกว่าไม่ง่ายนะอันนี้ต้องบอกว่ายาก แต่อันนี้ยากกว่าค่ะ งาน 3D มันยากขึ้น อย่างที่บอกค่ะว่าถ้ากล้องธรรมดาส่วนใหญ่จะมีผู้ช่วย แค่2 คนหรือ 1 คน แต่ถ้าเป็นกล้อง 3 D จะมีผู้ช่วยเป็นหางว่าวเลยค่ะ อย่างฉากที่ต้องถ่าย 360 องศาคนรอบนอกก็ต้องเคลียร์หมด จะต้องไม่เห็นคนรอบนอกเลย ทีนี้อารมณ์เหมือนเล่นงูกินหางกันนะค่ะ คนที่ไลน์สายกล้องก็ต้องเก็บสายให้เร็วที่สุด กล้อง 40 กิโลแล้วต้องหมุนให้เร็วที่สุด คนช่วยแบกกล้องก็ประมาณ 3-4 คนเข้าไปแล้ว แล้วไลน์เส้นอีก อย่างถ้ากล้องหันมาแล้วลายสายยังเก็บไม่หมดก็ต้องเทคใหม่ก็เป็นเรื่องยาก เหมือนกัน แต่ก็น่ารักดี

Q : กว่าจะเสร็จออกมาเป็นหนัง1เรื่อง คนทำ คนสร้าง รวมไปถึงนักแสดงเองดูตั้งใจกันมากๆที่จะสร้างหนังออกมาให้คนๆดูกันในเวลา เพียงไม่กี่ชั่วโมง
J : คือจ้าคิดอย่างนี้ค่ะ จ้าว่าหนังไทยตอนนี้ สำหรับแอ็คชั่นไทยหลายๆ เรื่องมีคนต่างชาติรู้จักหนังไทยมากขึ้น ในส่วนของแอ็คชั่นค่อนข้างเป็นไปได้เยอะ ตั้งแต่มีองค์บาก ตั้งแต่มีต้มยำกุ้งอย่างนี้ ที่นี้ต้มยำกุ้ง 2 (3D) ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จ้าว่าจะทำให้คนทั่วโลกจดจำอะไรได้มากขึ้น แต่ว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ กลุ่มคนที่ทำให้หนังสำเร็จออกมาก็คือ ตั้งแต่คนสร้างเลยเสี่ยเจียง คนทำอย่างพี่พันนา ฤทธิไกร, พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พี่ท็อป วีระพล แล้วก็พี่สตั้นแมนหลายๆ คน สำหรับต้มยำกุ้ง 2 มันมีความแปลกแตกต่างไปจากเดิม มันมีดีไซน์ที่คิดค้นขึ้นใหม่เพิ่มเติมขึ้นจากเดิมโดยที่ทุกคนล้วนแล้วแต่ ตั้งใจให้ไปสู่ความเป็นสากลมากขึ้น เรื่องของต้มยำกุ้งนี้จะมีความน่าสนใจในเรื่องของอย่างที่บอกเราจะจับอะไร หลายๆ อย่างมาเล่น อย่างเช่น เรามีการนำมอเตอร์ไซค์มาเล่นแอ็คชั่น แล้วก็จะเป็นฉากที่จะขายโลเคชั่นในเมืองไทยที่สวยๆ หลายอย่าง เช่น สะพานกาญจนาภิเษก วิวที่เราจะไม่ค่อยได้เห็นกัน อย่างภาคแรกที่ผ่านๆ มาจะไปบุกที่เมืองนอกใช่ไหมค่ะ แต่ในเรื่องนี้บุกเข้าเมืองไทยโลเคชั่นจะยากมาก อย่างเช่น ถนนพระราม 3 ที่เราจะเห็นมอเตอร์ไซค์ 300 กว่าคันบุกกลางเมืองเลยแล้วเสียงจะดังมาก วงเวียน 22 กรกฎา แถวเยาวราช อย่างนี้ หรือไม่ก็ปิดถนนถ่ายอันนี้ก็ถ่ายยากพอสมควร แต่ก็สำเร็จกันได้วยดี สะพานกาญจนาภิเษกที่เราจะได้เห็นวิว ถ้าเราไม่ได้ไปยืนตรงนั้นเราก็จะไม่ค่อยได้เห็นวิวตรงนั้นสักเท่าไหร่ หรือขยับเข้ามาในเมืองอีกโลเคชั่นหนึ่งก็คือถนนราชดำริ อันนั้นก็ถือว่ากลางเมืองเลยนะ ใกล้สี่แยกราชประสงค์ค่อนข้างจะยากตรงที่ 1. คือแหล่งชุมชน จะเป็นการยากตอนการทำงานมาก แต่ก็จะฝ่าฟันไปถ่ายทำกันได้ด้วยดี

Q : แน่นอนว่ารวมทั้งการที่เราจะได้เห็น 2แอ็คชั่นซูเปอร์สตาร์ของบ้านเรา จีจ้าญาณินและจาพนม เล่นบู๊แอ็คชั่นร่วมกันเป็นครั้งแรกบนจอด้วย
J :ใช่แล้ว จ้ารู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนดูหลายคนรอคอยมีคนรีเควสมานานแล้วว่า เมื่อไรจีจ้ากับจา จะได้มาเจอกันสักที เรื่องนี้ได้มาเจอกันแน่นอนค่ะ ได้มาเจอกันไม่เท่าไร ผู้กำกับแต่ละคน พี่ปรัชญา พี่พันนา พี่ท็อปนี้ บอกว่าเจอกันธรรมดาไม่ได้เอามาสู้กันดีกว่า ก็คือเรื่องนี้มาสู้กัน แต่จะสู้กันอยางไร เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร จ้าก็อยากให้ติดตามชมกันบอกไป เดี๋ยวจะไม่มันส์ (หัวเราะ)

Q : มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงอยากรู้แล้วว่า ต้มยำกุ้ง 2-3D เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
J : เรื่องราวของต้มยำกุ้ง 2 จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับขามกลับมาตามหาช้างอีกครั้ง แต่คราวนี้จะไม่เหมือนเดิมหละ เป็นเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวละครหลายตัวที่เข้ามาเป็นตัวแปร เช่น อย่างในเรื่องจ้าจะเล่นเป็นปิงปิงซึ่งเป็นหลานลุงสุชาติ ซึ่งชอบสะสมสัตว์หายากบังเอิญลุงได้ส่งคนไปลงพื้นที่ ไปเจอขอน ซึ่งเป็นช้างของขาม ลุงดันถูกใจมากก็เลยทำทุกวิถีทาง ขอซื้อก็แล้ว นั้นโน้นนี้ก็แล้ว ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ขอนมา ที่นี้ได้ขอนมาด้วยวิธีไหนไม่รู้หละ ขามตามหาเพราะขามเริ่มเป็นห่วงขอนก็เลยตามหาว่าช้างหายไปไหน จนเกิดเข้ามาพัวพันเป็นผู้ต้องหารอะไรสักอย่างหนึ่ง คือเกิดเป็นเรื่องราวขึ้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หลานของลุงสุชาติก็เลยมีการตามล่าจนเกิดเป็นเรื่องที่พัวพันที่ใหญ่ขึ้นตาม มาค่ะ ก็ติดตามชมกันได้ในเรื่องต้มยำกุ้ง 2 (3D) ค่ะ

          หลากหลายแง่มุมที่คุณยังไม่รู้ ทะลุจอออกมาสัมผัสตัวตนอีกด้านของแอ็คชั่นหญิง จีจ้า ญาณิน

Q : ดูจากในหนังเราจะเห็นว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้แกร่งมากสู้กับสตันท์ อัดกับผู้ร้ายแล้วตัวจริงของจีจ้าญาณินเป็นอย่างไร
J : เป็นคนหลากอารมณ์ค่ะ แล้วแต่เลยว่า บ้างทีจะชิลล์ก็ชิลล์ เป็นคนซีเรียสกับงานก็ซีเรียส บทจะเป็นคนขี้กังวลก็กังวล บทจะเป็นคนที่สบายก็สบาย แต่ก็เป็นคนโผงผางบ้างทีก็พูดไม่ค่อยคิด ตรงไปตรงมา บ้างทีก็ขวานผ่าซากไป แล้วแต่เป็นคนมี 2 พาร์ทเลย บทจะใจเย็นก็ใจเย็น บทจะใจร้อนก็ใจร้อน เป็นคนจริงจัง จริงใจค่ะ บทอยากจะเล่นก็เล่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปเลย บทจะอยู่นิ่งๆ ก็นิ่งไปเลย อยากอ่านหนังสือ ปิดตัวเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียวเงียบๆ อะไรอย่างนี้ เป็นคนโรเมนติกบางเวลา

Q : แสดงว่าจีจ้าตัวจริงกับที่เห็นในหนังไม่เหมือนกัน
J : จริงๆ จีจ้าเป็นจีจ้าค่ะ คือถ้าเริ่มจากนิสัยคิดอย่างไงก็พูดอย่างนั้น จนพอเริ่มโตแล้วก็จะรู้สึกว่าควรเก็บอารมณ์เก็บความรู้สึกไว้บ้าง เริ่มต้องใจเย็นมากขึ้น โตมาก็ใจเย็นมากขึ้นนะ ตอนเด็กๆ จะหุนหันพันแล่นใจร้อนโผงผางกว่านี้ พยายามบอกกับตัวเองให้มีเหตุผลกับทุกอย่างๆ มากขึ้น อย่าใช้อารมณ์มากเกินไป ใครที่ได้รู้จักจ้า ทุกคนจะมองภาพในฟิล์มมองภาพจากหนังจะดูเป็นสาวห้าวแก่นโน้นนี้นั้น ซึ่งจริงๆ แล้วจ้าจะเป็นคนที่เซนซิทีฟพอสมควร แล้วก็เป็นคนคิดเยอะ คิดมาก ขึ้กังวล เหมือนจะมีความมั่นใจในตัวเอง แต่บ้างครั้งก็ไม่ได้มีความมั่นใจมากนะค่ะ เหมือนเป็นคนที่ขัดแย้งในตัวเองนะค่ะ
แต่มันคงไม่ถึงกับบอบบางเป็นคนอดทน ต่อเรื่องของความลำบากๆ ได้ดีพอสมควร เพียงแต่ว่าเรากังวลไปเองกับในสิ่งที่เรายังไม่รู้ คิดมากไปก่อน ซึ่งหลายคนๆ คนหรือเพื่อนที่รู้จัก ก็จะค่อยบอกว่าอันนี้ยังไม่เกิดเลย อย่าพึ่งไปคิดมาก อย่าพึ่งไปอย่างนั้นอย่างนี้สิ อย่าพึ่งคิดไปก่อนอะไรอย่างนี้ค่ะ แต่พอตัวเราได้เผชิญหรือได้เจอกับอุปสรรคตัวนั้นเข้ามาในชีวิตเราจริงๆ ก็ผ่านมันไปได้เกือบทุกครั้ง เกือบทุกเรื่องนะ ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนที่อ่อนแออะไรมาก แต่จะเป็นคนที่ขี้กังวลไปก่อน อย่างในหนังคนจะคิดว่าสาวนักบู๊ต้องห้าวนั้นโน้นนี้ วันๆ นั่งเล่นเวทอะไรหรอเปล่า จริงๆ คือ อันนั้นมันเป็นพาร์ทของการทำงาน พอชีวิตเราหลังเลิกงาน ชีวิตก็เหมือนปกติทั่วไปเลย คือ ช็อปปิ้ง ชอบหาขนมอร่อยทาน วันหยุดนี้ไปสรรหาในเน็ตว่าร้านเค้กร้านไหนอร่อย บุฟเฟ่ต์ร้านเค้กร้านไหนอร่อย ราเม็งร้านไหนน่ากิน คือก็จะอย่างนี้ค่ะ ช็อปปิ้งของกระจุกกระจิก ตามเทรนด์เปล่า หรือซื้อนิตยสารแฟชั่นมาดูบ้าง เพียงแต่ความชอบของเราคือ ชอบบางอย่าง แต่ขี้เกียจทำบ้างอย่าง เช่น ขี้เกียจแต่งหน้า กระโปรงบ้าง อย่างไม่กล้าใส่ กระโปรงบ้าง อย่างกล้าใส่ อย่างกระโปรงสั้นไปอยากใส่นะแต่เรารู้สึกว่าขาเรามันเป็นกล้ามเราไม่กล้า แล้วก็จะปรับกระโปรงให้มันยาวลงมาน้อย หรือช่วงไหนที่อ้วนๆ ก็จะใส่เป็นกระโปรงยาวไปเลย อะไรอย่างนั้นมากกว่า

Q : มาถามเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์บ้าง ถ้าไม่ถ่ายหนังจีจ้าชอบทำอะไร
J : ดูหนัง ฟังเพลง เพลงยังชอบแนวบอสซ่าเลย คือฟังเพลงง่ายๆ หวานๆ คือไม่ใช่ฮาสคอกระโชกโฮกฮากอะไรตลอดเวลาแบบนี้ ชอบไปทะเล แต่อารมณ์นี้ไปได้ทั้งทะเลและภูเขา ถ้ามีวันหยุดและมีตังค์ ไปหมดไปไหนก็ได้ของให้มีกลุ่มเพื่อนที่สนุกๆ ไปด้วยกันก็เท่านั้น

Q : จีจ้าญาณินมีใครเป็นไอดอล
J : มีคุณแม่เป็นไอดอลค่ะ เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและอดทนที่สุดและแกร่งที่สุด ผู้หญิงที่เรียกว่า “แม่”

Q : สิ่งที่เรียนรู้และได้รับจากการเป็นจีจ้า ญาณิน
J : เก็บตัวตั้งแต่ปี 47 ช็อคโกแลตออกปี 51 ปี 2547-2551 อุ๊ยนาน คนก็รู้หมดเลยว่าตอนนี้อายุเท่าไร ตั้งแต่ปี 47-51 มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก จากผู้หญิงที่ไม่มีใครรู้จักในช่วงข้ามคืน อยู่ดีๆ ก็เป็นไอดอลของใครหลายๆ คน อยู่ดีๆ ก็มีคนมายกย่องให้เป็น ฮีโร่แอ็คชั่นหญิง จะ 10 ปีอยู่แล้วยังเขิลอยู่เลย แต่อย่างที่บอกให้นิยามว่าจ้าคืออะไร จ้าก็คือจ้าแบบนี้ ตอนปี 47 เป็นอย่างไงก็เป็นอย่างงั้น แต่จะพยายามแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง นิสัยที่มันไม่ดี นิสัยที่มันแย่ก็พยายามลดลง มุมมองอะไรที่มองในแง่ร้ายๆ ก็พยายามมองมันให้ดีขึ้น อย่างที่บอกก็พยายามมีเหตุผลกับตัวเองมากขึ้น เพราะเราโตขึ้นมากกว่า
ย้อนกลับไปในตอนแรกสุดเลย ตอนที่จ้าได้มาทำงานตรงนี้ สิ่งที่คาดฝันไว้ มันมาก แต่กลายเป็นว่าผลตอบรับที่ได้กลับมามันมากกว่า คนชอบในสิ่งที่เราทำ และตอบรับในสิ่งที่เราทำมากๆ เลย คือ มีคนมาชื่นชม เป็นที่รักของใครต่อใคร อยู่ดีๆ มีคนรู้จักทั้งโลกอย่างนี้ จากคนโนเนมเลย และสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้พยายามรักษาระดับของตัวเอง เขาเรียกว่าอะไร สำนึก เพื่อที่จะให้รู้ไม่ลืมตัวตนตลอดเวลา คือ เตือนตัวเอง ตลอดเวลาว่าเรามาจากไหน แล้วเราอยู่แค่ไหนเราถึงจะมีความสุขที่สุด อยู่ได้แค่ไหน พยายามไม่ให้ตัวเองลอยขึ้นไป บอกความรู้สึกตัวเอง เพราะว่าเมื่อวันไหนที่เราตก เราจะได้ไม่เจ็บมากตั้งใจทำงานทุกวันอยู่แล้วค่ะ เพื่อให้คนดูเขารู้สึกว่าคุ้มค่ากับการที่เสียเงินมาดูเรา เพื่อจะได้ความบันเทิง ความรู้สึกอิ่มใจ กลับไป
อยากให้นึกถึงเวลาที่ จ้าตั้งใจทำงาน ในไลฟ์สไตล์ชีวิตที่จ้าจะใช้อย่างไรก็ตามนี้ คือโอเคนั้นคือชีวิตข้างนอก ชีวิตส่วนตัวละ แต่อยากให้คนเริ่มชอบเราด้วยผลงาน เพราะฉะนั้นอยากให้ตั้งใจดูผลงานที่ออกมาต่อๆ ไปมากกว่า ว่างานที่เราจะทำออกมา เนื้องานออกมาเป็นอย่างไร งานมันเป็นอย่างไร อยากให้ดูกันที่ตัวงานค่ะ

Q : สิ่งที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต
J : สิ่งที่ดีที่สุด คือ ภูมิใจในความที่หาเงินได้เองโดยการใช้ชีวิตสุจริตทุกวัน ทุกวัน คือไม่ได้ไปเบียดเบียนใครเขา ไม่ได้ไปทำร้ายใครเขาอะไรแบบนี้ หรือว่าถ้าได้ไปทำร้ายใครโดยไม่ได้ตั้งใจ ต้องขอโทษ ณ ตรงนี้ ทุกวันนี้ คืออยู่อย่างนี้แฮปปี้

Q : สุดท้ายแล้วภาพแอ็คชั่นหญิงเล่นจริงเจ็บจริง ถ้าเลือกได้นอกจากบทบาทแอ็คชั่นแล้วมีบทแบบไหนที่อยากเล่นอีกบ้าง
J : คือมันเป็นภาพจำไปแล้วเนอะ คำว่า เล่นจริงเจ็บจริง ใครคิดคำนี้ (หัวเราะ) แต่ว่ามันก็เจ็บจริง ในตอนแรก ครั้งแรกสุด คือมันเจ็บจริงนะ ชินบอกไม่ถูก ไม่รู้เหมือนกันมันชินไปเอง กับคำๆ นี้ แต่ในชีวิตจริงถ้าเลือกได้ก็ไม่ได้อยากเจ็บจริงตลอดเวลา อยากจะหวานจริง โรแมนติกจริงๆ นะคะ

FB on October 03, 2013, 10:19:48 PM
“จีจ้า ญาณิน” เซอร์ไพรส์แฝดหญิง สวมกระโปรงพริ้วแอ็คชั่น จัดเต็มบู๊ทุกคิวหมัด เท้า เข่า ศอกทะลุจอ “ต้มยำกุ้ง 2-3D”



          ยกกำลัง 2ความมันส์ แถมงานนี้ทุกคิวบู๊พร้อมทะลุทะลวง ในแบบเรียลแอ็คชั่น ที่เป็นเอกลักษณ์เสี่ยงตายในสไตล์ “พันนา ฤทธิไกร” ที่รับหน้าที่ควบคุมทุกฉากแอ็คชั่น ภายใต้การกำกับแบบเหนือจินตนาการของ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” เพื่อรองรับระบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ เพื่อให้การกลับมาครั้งนี้ของ “ต้มยำกุ้ง 2-3D” คือที่สุดแห่งปรากฎการณ์ของภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลก ให้สมกับที่คนทั้งโลกรอคอยมา8ปี และที่เซอร์ไพรส์สุดๆ คือการปรากฎตัวของซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นหญิงอย่างจีจ้า ญาณิน ที่มานุ่งกระโปรงพริ้วโชว์ลีลาแอ็คชั่น พร้อมคู่หูในบทฝาแฝดนักสู้แล้ว ยังต้องเล่นจริงเจ็บจริงแบบทุ่มสุดตัวปะทะกับจา พนม

          “เราจะไม่ได้เน้นมวยไทยอย่างเดียวแล้ว ในการต่อสู้ของเรื่องนี้จะเน้นความเป็นสากลมากขึ้น จะเป็นการต่อสู้ได้ในหลายๆ รูปแบบ ในเรื่องจ้าก็จะมีน้องฝาแฝดอีกคนหนึ่ง(วานวาน )น้องเขาเป็นสตั้นท์หญิงมาก่อน ก็ถนัดเทควันโด แล้วก็เก่งพวกตีลังกา ที่อาจจะดูแปลกตาคือเรื่องนี้มีใส่กระโปรงเล่น แต่ถึงใส่กระโปรงก็ยังต้องเล่นแอ็คชั่นอยู่ เพียงแต่เราจะมีเทคนิคให้เล่นแอ็คชั่นได้สวยงาม ไม่ว่าจะเตะหรือกระโดดจากตึก 2 เรื่องนี้ก็ค่อนข้างบู๊เยอะ เวลาต่อสู้เข้าคิวแอ็คชั่นก็อาจมีการปะทะโดนกระแทก โดนชก โดนต่อย โดนศอก คือถึงจะแอ็คชั่นแต่ก็ต้องสวย เพราะเราเป็นผู้หญิง ผู้หญิงอย่าหยุดสวย และที่สำคัญจ้าเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนดูหลายคนรอคอยมีคนรีเควสมานานแล้วว่าเมื่อไรจีจ้ากับจา จะได้มาเจอกันสักที เรื่องนี้ได้มาเจอกันแน่นอนค่ะ ได้มาเจอกันไม่เท่าไร ผู้กำกับแต่ละคน พี่ปรัชญา พี่พันนา พี่ท็อปนี้ บอกว่าเจอกันธรรมดาไม่ได้เอามาสู้กันดีกว่า ก็คือเรื่องนี้มาสู้กันแบบเต็มๆ อยู่หลายฉากเหมือนกัน แต่จะสู้กันอยางไร ก็อยากให้ติดตามชมกันบอกไป เดี๋ยวจะไม่มันส์ (หัวเราะ)”

          มาทั้งทีก็ต้องให้จัดเต็ม คู่ปรับของแอ็คชั่นหญิงหน้าหวานอย่างจีจ้า ยังต้องไปร่วมบู๊กันชนิดถวายชีวิตโดยมีคู่ต่อสู้ร่างใหญ่ยักษ์ยักกะหมีอย่าง มาริส ไฟท์เตอร์สุดโหดจากฮอลลีวู้ดที่ว่ากันว่าเชี่ยวชาญทุกศิลปะการต่อสู้ที่มีในโลกเลยทีเดียว

          “แอ็คชั่นของเรื่องนี้ก็คือจะมีความหลากหลายกันไปในตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีตั้งแต่ 2 คน 3 คน แอ็คชั่นกลุ่ม ซึ่งเรื่องนี้จะมีความแปลกแตกต่างตรงที่ดีไซน์ที่ไม่เหมือนเดิม คือแอ็คชั่นฝาแฝด จ้ากับคู่หูวานวานต้องเล่นด้วยกันเพราะฉะนั้นหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการวิ่ง การกระโดด แต่ละจังหวะต้องสัมพันธ์กัน กว่าจะถ่ายทำเราก็ต้องมีการเก็บตัวฝึกซ้อมคลุกคลีกันอยู่หลายเดือน แต่ที่ยากขึ้นคือ แอ็คชั่นที่เราต้องเข้ากับนักแสดงต่างชาติอย่างมาริส เหมือนเราต้องเล่นแอ็คชั่นกับหมีตัวโตใหญ่ๆ ซึ่งความไวของเราต้องเพิ่มขึ้นเพราะเขาเร็ว เรื่องแรงนี้ไม่ต้องห่วงเราเจ็บแน่นอนอย่างไงก็ต้องยอมเจ็บ พอเราเข้าฉากด้วยกันนานๆ เข้า ก็จะรู้จังหวะกัน แต่จะมีปํญหาคือภาษาค่ะ เวลาคุยกันค่อนข้างเมื่อยมือมาก เราจะมีล่าม แต่ภาษาแอ็คชั่นมันไม่ต้องมีอะไรมากมาย พอเราชี้จังหวะอะไรกันคือเราจะเข้าใจ แล้วก็แรกๆ เราจะไม่ซ้อมกันแรงมาก เขาเรียกว่าเดินดูไลน์ ดูจังหวะกัน พอเริ่มชิน จังหวะเริ่มดีปุ๊บเราเริ่มใส่แรง โดยการเพิ่ม 40% , 60%, 100% อย่างนี้ แล้วก็ตัวแอ็คชั่นของเรื่องนี้ค่อนข้างยาก แต่เพราะด้วยความที่จ้าเป็นคนตัวเล็ก จะเสียเปรียบ ทำอะไรแล้วก็จะดูไม่แรง เพราะฉะนั้นทุกดอกที่เข้าไปต้องใส่เต็ม ใส่เต็ม ตีศอกก็ต้องเข้าไปตีเต็ม ๆ เลย เขากลับบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย บางทีแอบท้อ หลังๆ เลย พี่ปรัช, พี่ท็อปบอกใส่เต็ม เอาเต็มๆ เลยนะจะได้ให้จบไป กว่าจะผ่านเลือดตาแทบกระเด็น ไหนจะโดนเหวี่ยงลงพื้นเสร็จปุ๊บ ถูกรับแล้วโดนโยนอีกอะไรอย่างนี้ แต่ก็มันส์ดีค่ะ”

          ทุ่มสุดตัวเพื่อแฟนๆ ขนาดนี้ เตรียมตัวสัมผัสความมันส์สุดขีดที่รับประกันว่าไม่เพียงหมัดเท้าเข่าศอกจาก จา พนมเท่านั้น เพราะงานนี้แอ็คชั่นหญิงจีจ้าญาณินการันตีมาแล้วว่าจัดเต็มเข้มทุกคิวแอ็คชั่นที่สำคัญระดมมากันชนิดทะลุจอในแบบ3มิติเต็มรูปแบบ 23 ต.ค. นี้ร่วมสร้างปรากฎการณ์ “ต้มยำกุ้ง 2-3D” ทุกโรงภาพยนตร์

FB on October 10, 2013, 06:58:37 AM
MOVIE GUIDE: ต้มยำกุ้ง 2 3D

ตัวอย่าง ต้มยำกุ้ง 2 แบบ 3D - TYG2 Final Trailer 3D Version
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=kb51ig67UiQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=kb51ig67UiQ</a>

ต้มยำกุ้ง 2 คลิปจากภาพยนตร์1 (3D) / TYG2 Clip 3D - 01
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=QNlhRtsMxMU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=QNlhRtsMxMU</a>

ต้มยำกุ้ง 2 คลิปจากภาพยนตร์2 (3D) / TYG2 Clip 3D - 02
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=-mEntAO1iX8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=-mEntAO1iX8</a>

RZA ศัตรูผู้แข็งแกร่งของ ใน ต้มยำกุ้ง2 (3D) / RZA in TYG2
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=3m1OvLZWkf4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=3m1OvLZWkf4</a>





           ภาพยนตร์ Action 3D ที่จะทำให้คุณมันส์ไปกับสุดขีดขั้นของการต่อสู้ครั้งใหม่ โดย จาพนม เสี่ยงตายทุกวินาที และการดีไซน์ฉากต่อสู้เสี่ยงตายทุ่มทุนสร้างสูงสุดของภาพยนตร์แอ๊คชั่นไทย ที่ทั้งโลก¬ต้องจับตา พร้อมการถ่ายทำในระบบ 3 มิติทุกขั้นตอนในภาพยนตร์ ต้มยำกุ้ง 2 - 3D พร้อมกัน 23 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

          วิธีการดูแบบ 3D
          รูปแบบ 3D ใน Youtube เป็นลูกเล่นเล็กๆ ของ Youtube แต่ต้องย้ำว่ายังไม่ใช่เเบบ Real 3D เหมือนในโรงภาพยนตร์
          วิธีการดูง่ายๆ คือเข้าไปในตัวอย่าง version ที่เป็น 3D
          - เปิดยูทูปแล้วคลิกไปที่มุมขวาล่าง
          - กด Setting (รูปฟันเฟือง) แล้วกดเปิด 3D
          - แล้วเลือกตั้งค่า (Setting) สีตามแว่นสีๆที่ตนเองมี แล้วเริ่มต้นความมันส์ได้เลย
          หรือหากไม่มีเเว่น สามารถดูได้ โดย Set ค่าเป็น NO Glasses แล้วใช้การมองไขว้ คือเอาตาซ้ายมองจอขวา เอาตาขวามองจอซ้าย
« Last Edit: October 16, 2013, 09:24:16 AM by FB »

FB on October 11, 2013, 03:14:57 PM
ตะลึงต้มยำกุ้ง 2-3D ดีไซน์บู๊ 3 มิติ แอ็คชั่น 3 เส้าไม่มียั้ง จีจ้าจับมือแฝด VS.จาพนม ระดมอัด MARRESE ไฟท์เตอร์ระดับพระกาฬคู่ปรับจากฮอลลีวู้ด






 
         ระดมฉากแอ็คชั่นมันส์ต่อเนื่องในรูปแบบ non-stop ไม่ให้หยุดหายใจ ให้สมกับเป็นหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ที่ทุกคนรอคอย เพราะงานนี้ สหมงคลฟิล์มฯ ระเบิดทุนสร้างกว่า 500 ล้านบาท กับ “ต้มยำกุ้ง 2-3D” ที่จะขาดหายไปไม่ได้โดยเด็ดขาดก็คือการโชว์แอ็คชั่นที่เน้นศิลปะการต่อสู้แบบสมจริง (Real Action Martial Arts) อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญ พันนา ฤทธิไกร สร้างสรรค์มากว่า 3 ทศวรรษ ก่อนที่จะกลายเป็นเทรนด์ฮิตไปทั่วโลก โดยพระเอกนักบู๊อย่าง “จา พนม” เพียงแต่ครั้งนี้พิเศษยิ่งกว่า เมื่อมีแอ็คชั่นหญิง เล่นจริงเจ็บจริงอย่าง จีจ้า ญาณิน มาเพิ่มระดับดีกรีความมันส์พร้อมด้วยการอิมพอร์ทไฟท์เตอร์ระดับพระกาฬจากฮอลลีวูดมาเป็นคู่ปรับคนสำคัญ

          โดยซีนไฮไลท์สำคัญที่คอหนังบู๊จะต้องห้ามกระพริบตา นั่นคือการปะทะกันของ จีจ้า ฝาแฝด และจาพนม ที่ระดมหมัด เท้า เข่า ศอก จัดเต็มไม่มียั้งอัดใส่ MARRESE (มารีส) ไฟท์เตอร์ระดับพระกาฬ คู่ปรับจากฮอลลีวู้ด ซึ่งเป็นคิวบู๊พิเศษที่จัดหนักจัดเต็มโดย พันนา ฤทธิไกร และท็อป วีระพล ภูมาตย์ฝน ผู้ออกแบบฉากแอ็คชั่น จากไอเดีย และการกำกับแบบเหนือจินตนาการในรูปแบบ3มิติโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว กับการระดมประเคนหมัดใส่กันแบบไม่มียั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเสียงกำปั้นปะทะกล้ามเนื้อกันอย่างจังๆ เลยทีเดียว

          “ครับผมเชื่อว่าคนอยากเห็นจีจ้า สู้กับจา พนม และก็รวมทั้งนักต่อสู้เก่งๆ หลายๆ คนซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมดเลยที่จีจ้าจะต้องรับมือ ในเรื่องนี้จีจ้าจะเป็นตัวละครที่มีการสะสมความแค้นมาซึ่งจะต้องมีการแสดงออกมาในแววตา และสถานการณ์ในฉากที่จีจ้าต้องสู้กับจา เป็นสิ่งที่จ้าจะต้องใส่เต็มที่ซึ่งดูจากการแสดงจีจ้าก็เต็มที่ แล้วทั้งคู่เองต่างมีความคุ้นเคยกันมาก่อนในชีวิตจริง เคยซ้อมกันมาก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเข้าฉากนี้จ้าก็ไม่ยั้งใส่เต็มที่เลยซึ่งจาก็โอเค และในขณะเดียวกันจีจ้ายังต้องต่อสู้กับนักสู้ที่เป็นชาวต่างชาติอย่างมาริสในฉากนี้ด้วยสำหรับมาริสเป็นคนที่เร็วมาก น่ากลัวมาก อันตรายมาก ส่วนตัวจีจ้าจะต้องมีการต่อสู้ในลักษณะทีมเวิร์คของคู่แฝด ฉะนั้นการออกแบบฉากจะต้องออกแบบเป็นการต่อสู้ที่มีลักษณะพิเศษการทำ2คนให้เหมือนเป็นคนเดียวในการต่อสู้ซึ่งบางครั้งก็มีอาวุธมาช่วยด้วยซึ่งอาวุธของจีจ้ากับน้องจะต้องแตกต่างกัน แต่สิ่งที่หนักหน่วงที่สุด คือฉากการต่อสู้ในลักษณะ 3 เส้าในอู่ต่อเรือที่จะมีทั้งจาพนม,จีจ้าพร้อมแฝด และมาริสที่พันนากับท็อปออกแบบมา ซึ่งในฉากนี้บางครั้งเราก็ไม่สามารถไปบล็อกอะไรเขาได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเป็นฉากที่ต้องใช้การต่อสู้ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวด้วย แต่อย่างกรณีมาริสกับจีจ้าฉากที่เขาเข้าฉากกันมันก็หยุดไม่ได้ มารีสเป็นคนที่เร็วแล้วก็ต่อยแบบไม่ค่อยยั้ง แล้วจีจ้าก็ยังไงเขาก็เป็นผู้หญิง เฉพาะฉากนั้นที่เขาโดนมาริสอัดจะเห็นว่าอัดจริงๆ โดนๆแบบกระแทกกันจริงๆดูแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ทั้งๆ ที่ผมก็อยู่กับฉากแบบนี้มาเยอะ แต่ว่าอาจเป็นเพราะว่าความน่ากลัวของมาริส เขาเร็วมากดุดันตัวใหญ่มาก พอสู้กับจีจ้า เราก็เลยจะต้องให้จีจ้ามีอาวุธเป็นตัวช่วย และก็ตั้งจัดเต็มระดมอัดแบบไม่มียั้งเพื่อจะพยายามคว่ำผู้ชายทั้ง2คนนี้ให้ได้”

          ทุ่มสุดตัวขนาดนี้หนุ่มๆก็อย่าลืมไปเอาใจช่วยเชียร์และให้กำลังใจ จา พนม, จีจ้าและมาริส 3 นักแสดงแอ็คชั่นที่มาร่วมสร้างปรากฎการณ์ความมันส์ของ “ต้มยำกุ้ง 2-3D” ถ่ายทอดความเป็นเรียลแอ็คชั่นในรูปแบบ 3 มิติอย่างเต็มรูปแบบ 23 ตุลาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์

FB on October 15, 2013, 08:32:36 AM
















« Last Edit: October 15, 2013, 04:42:41 PM by FB »

FB on October 15, 2013, 04:40:50 PM
บทสัมภาษณ์ “RZA ผู้ร้ายตัวกลั่น บอสใหญ่ผู้คลั่งไคล้ศิลปะการต่อสู้ที่พร้อมเด็ดหัว จาพนม จาก ต้มยำกุ้ง 2 3D”








 
          ทำความรู้จักกับ RZA แห่ง Wu-Tang Clan ไอคอนฮิปฮอป, โปรดิวเซอร์, นักแสดงและผู้กำกับจากฮอลลีวู้ดกับบทบาท LC
ผู้ร้ายตัวกลั่น บอสใหญ่ผู้คลั่งไคล้ศิลปะการต่อสู้ที่พร้อมเด็ดหัว “จาพนม” ใน “ต้มยำกุ้ง 2-3D” ภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่น 3 มิติ” ที่คนทั้งโลกรอคอย

          คาแรคเตอร์ของ แอล ซี (รับบทโดยรีซ่า RZA) พ่อค้าอาวุธข้ามชาติ เป็นคนฉลาดมองคนออกทะลุปรุโปร่ง เจ้าเล่ห์แบบพ่อค้าที่ไว้ใจไม่ได้ จอมวางแผนและสิ่งใดที่ต้องการต้องได้มาแบบไม่เกี่ยงวิธีการ หลงใหลในศิลปะการต่อสู้แบบเข้ากระแสเลือด ชอบดูการต่อสู้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะมวยโบราณ คลั่งขนาดที่ถ่ายเป็นวิดีโอเก็บไว้ดูแบบซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่มีเบื่อ แม้จะอยู่ท่ามกลางแผนการใหญ่ระดับโลกก็ยังสนุกกับการเห็นนักสู้เก่งๆ มาอยู่ในคอลเล็คชั่นการต่อสู้ในวิดีโอของเขารวมทั้งขามด้วย

          ประวัติของ รีซ่า (RZA) ศิลปินผู้มีความสามารถอันหลากหลาย นอกเหนือจากบทบาทที่คนทั้งโลกรู้จักในฐานะไอคอนของดนตรีฮิปฮอป คือโปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ด,นักดนตรี,นักแต่งเพลง รวมไปถึงการเป็น 1 ในตัวจักรสำคัญในความสำเร็จของทุกอัลบั้มของ Wu-Tang Clan กลุ่มศิลปินแร๊พชาวอเมริกันที่โด่งดัง อีกบทบาทหนึ่งที่สร้างความโดดเด่นไม่แพ้กันนั่นคือการที่เข้าไปมีส่วนในงานแสดงของภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องทั้ง AMERICAN GANGSTER,COFFEE AND CIGARETTE ฯลฯ รวมทั้งรับหน้าที่ในงานดนตรีประกอบให้กับภาพยนตร์สุดฮิตอย่างkill bill ของเควนติน ทาแรนติโน่ และ ต้มยำกุ้ง หรือ THE PROTECTOR ในเวอร์ชั่นอเมริกา และAMERICAN GANGSTER ของผกก.ริดลี่ย์ สก็อตต์ และด้วยความหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ ภาพยนตร์ และดนตรี แฟนๆ จะได้เห็นผลงานการแสดง,เขียนบท,กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาอย่างTHE MAN WITH THE IRON FITS ที่แน่นอนว่าเขาดูแลในส่วนของเพลงและดนตรีประกอบด้วย ว่ากันว่าเขาทำหนังเรื่องนี้เพื่อคาราวะหนังชอว์บราเธอร์สและหนังกำลังภายในยุค 70 ตัวภาพยนตร์ได้นักแสดงระดับเออย่างรัสเซลล์ โครว์, ลูซี่ ลิว, เจมี่ ชุง และได้เควนติน ทาแรนตินี่มาร่วมพรีเซนท์โปรเจ็คต์ ล่าสุดรับบทตัวร้ายใหญ่สุดคู่ปรับของจา พนมยีรัมย์ในต้มยำกุ้ง 2

          Q. ก่อนอื่นอยากให้รีซ่า (RZA) แนะนำตัวเองให้กับแฟนๆ ชาวไทยได้รู้จักกันก่อนที่เราจะไปพูดคุยเจาะลึกถึงการร่วมงานในโปรเจ็คต์ภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลกอย่าง “ต้มยำกุ้ง 2-3D”
          R. สวัสดีครับผมชื่อ รีซ่า ผมเป็นผู้ก่อตั้ง วูทังแคลน (Wu-Tang Clan) ซึ่งคือกลุ่มศิลปินฮิปฮอปที่มีชื่อเสียง ที่มีผลงานเพลงและมียอดขายอัลบั้มได้หลายล้านชุดทั่วโลก และมีสิ่งหนึ่งที่ผมหลงไหลนอกเหนือจากการเป็นโปรดิวเซอร์ก็คือตัวผมเองมีความรักความสนใจในหนังกำลังภายในจากเอเชีย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ผมได้มีการนำเอาสิ่งเหล่านี้เข้ามาใส่ในงานเพลงของผม และทำให้ผมได้รู้จักกับบุคลากรในฮอลลิวู้ดอย่าง จิม จาร์มุช ที่กำกับ Ghost Dog และ เควนติน ทารันติโน่ ที่กำกับ Kill Bill และผมก็ได้มีโอกาสเริ่มทำเพลงให้หนัง มีผลงานมาแล้วประมาณ 10 เรื่อง และพวกเขาก็ได้มีการแนะนำและชักชวนว่าผมน่าจะลองเอาดีทางด้านการแสดงหนังดูบ้าง ดังนั้นผมจึงเริ่มแสดงหนังเรื่องแรกที่ชื่อ Coffee and Cigarettes ต่อมาก็เรื่อง Derailed และหลังจากเรื่องนั้น หลายคนที่ได้เห็นบอกกับผมว่าผมมีความสามารถ และก็เริ่มเสนอบทต่างๆ ให้กับผม และผมก็เริ่มชื่นชอบกับบทบาทใหม่นี้ นั่นคือการเป็นนักแสดง จนท้ายที่สุดก็นำผมเข้ามาสู่การเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ โดยมีThe Man with the Iron Fists เป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของผม โดยก่อนหน้านั้นผมได้มีโอกาสไปศึกษาการทำหนังกับ เควนติน ทารันติโน่ อยู่ประมาณ 6 ปี จากนั้นเขาก็บอกผมว่าผมสำเร็จการศึกษาแล้ว ผมกับเพื่อนสนิท อีไล รอธ จึงร่วมกันเขียนบทภาพยนตร์ และผมก็รับหน้าที่ผู้กำกับ ผมก็ภูมิใจกับมันมาก ดีใจที่ได้ฝากผลงานไว้ในโลกของหนังกังฟู มันคือหนังแอ็คชั่นสุดมันส์ ส่วนภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผมที่กำลังจะเข้าฉายก็คือ ต้มยำกุ้ง 2-3D

          Q. ทราบมาว่าบทบาทที่คุณได้รับในภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง 2-3D เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับบทตัวร้ายคนสำคัญที่เป็นคู่ต่อกรคนสำคัญของจาพนม
          R. ครับตัวละครที่ผมได้รับบทมีชื่อว่า แอล ซี และผมสามารถพูดได้ตรงนี้เลยว่านี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผมเลยทีเดียวกับการที่ได้รับบทนี้ สำหรับแอลซี ตัวละครของผมเป็นพ่อค้าอาวุธเถื่อน เขามีธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่เขาหลงใหลที่สุดก็คือมาร์เชียลอาร์ท (ศิลปะการต่อสู้) พูดได้ว่าเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่คลั่งไคล้ในศิลปะการต่อสู้ และคอยเฟ้นหานักสู้ที่เก่งที่สุดในโลกมาอยู่ในทีม

          Q. เสน่ห์ความน่าสนใจที่ทำให้ริซ่าแห่งวูทังแคลนตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในโปรเจ็คต์ภาพยนตร์แอ็คชั่นที่คนทั้งโลกรอคอยอย่าง “ต้มยำกุ้ง 2-3D”
          R. สิ่งที่ทำให้ผมสนใจในตัวละครนี้ก็คือ ด้วยการที่ตัวผมเองถือได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังแอ็คชั่นไทย อย่างเช่น องค์บาก หรือ ต้มยำกุ้ง ซึ่งการได้รับโอกาสเข้ามาร่วมงานกับ โทนี่ จา ก็คือสิ่งที่ดึงดูดผมเข้ามาร่วมแสดงในเรื่องนี้ และยังมีเรื่องของตัวละคร ปกติแล้วผมรับบทเป็นตัวละครฝ่ายดี อย่างเช่นหนังที่ผมเขียนบทและกำกับเองอย่างเรื่อง The Man with the Iron Fists ที่ผมแสดงเป็นพระเอก ดังนั้นผมจึงอยากลองรับบทเป็นผู้ร้ายดูบ้าง สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจรับบทนี้ก็คือถึงแม้ แอลซี จะเป็นผู้ร้าย แต่เขาก็มีอะไรบางอย่างที่เชื่อมถึงกับความสนใจของผม นั่นก็คือความหลงใหลในเรื่องศิลปะการต่อสู้ และผม รีซ่า ผมรักศิลปะการต่อสู้ นั่นทำให้ผมและตัวละครนี้มีอะไรบางอย่างเหมือนกัน และความสนใจแบบเดียวกันก็ช่วยให้ผมถ่ายทอดตัวตนของเขาในเรื่องนี้ออกมาได้

          Q. พอรู้ว่าต้องมาถ่ายทอดตัวละครที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญขนาดนี้ คุณมีวิธีการเตรียมตัวเพื่อสวมบทแอลซีคู่ปรับของจาพนม อย่างไรบ้าง
          R.ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องมีฉากแอ็คชั่นมากแค่ไหน ผมมีเวลาไม่มากนักกับผู้ออกแบบคิวบู๊ ดังนั้นผมจึงนำสไตล์ของตัวเองมาใช้ แต่ถึงกระนั้นผมเองก็ไม่ใช่คนแปลกหน้ากับศิลปะการต่อสู้สักทีเดียว ผมรู้ว่าตัวเองจะเตะหรือต่อยยังไง และตัวผมเองก็พยายามฟิตให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดตลอดเวลา ผมอยากทำอะไรมากกว่าที่พวกเขาต้องการ ผมอยากบอกพวกคุณ มันยังมีองค์ประกอบในเรื่องการแสดงอีกด้วย ซึ่งการที่จะทำแบบนั้น นั่นคือการนำบุคลิกเท่ห์ๆ ที่ผมเติบโตขึ้นมาใช้ คือการเป็นพวกฮิปฮอป ซึ่งผสมผสานกับบุคลิกของนักธุรกิจ ดังนั้นสำหรับผมแล้วตัวละครนี้... ผมคิดว่าคนดูอาจชอบเขาด้วยซ้ำ เพราะเขาเป็นคนมีเสน่ห์ แต่ท้ายที่สุดเขาก็คือผู้ร้าย และเมื่อเขาขาดสติ คุณก็จะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาที่ถูกระเบิดออกมา

          Q. เป็นอย่างไรบ้างในการร่วมงานกับแอ็คชั่นฮีโร่ของไทยอย่างจาพนม และปรัชญา ปิ่นแก้วผู้กำกับหนังแอ็คชั่นไทยระดับโลกอย่างองค์บากและต้มยำกุ้ง
          R. ผมคิดว่า โทนี่จา เป็นแอ็คชั่นสตาร์ที่เจ๋งที่สุดในปัจจุบัน ผมเป็นแฟนผลงานของเขา ส่วน ปรัชญา ผมก็ชอบหนังของเขาเกือบทุกเรื่อง อย่างเช่น ช็อคโกแล็ต หรือ ต้มยำกุ้ง ภาคหนึ่งและสอง หรืออาจมีสาม ผมเป็นแฟนผลงานของพวกเขา ซึ่งรวมถึง พันนา ด้วย ผมพบกับทั้งสามคนในอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ผมทำเพลงให้กับ Kill Bill ของ เควนติน ทารันติโน่ พวกเราคุยกันว่าสักวันจะมาร่วมงานกัน และวันนั้นก็มาถึงแล้ว

          Q. สำหรับเหล่าสาวกคอหนังแอ็คชั่น คุณมีอะไรที่อยากบอกให้พวกเขารู้ตัวก่อนว่าในต้มยำกุ้ง 2-3D มีอะไรเจ๋งๆ ที่ห้ามพลาด
          R. แน่นอนว่าถ้าพูดถึงเรื่องศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเรียลแอ็คชั่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์ที่นำเสนอโดยปรัชญา, พันนา และจาพนม ในหนังคุณจะได้เห็นฉากสตันท์ที่น่าทึ่งที่สุด ซึ่งหนังแต่ละเรื่องที่พวกเขาสร้างก็มีการยกระดับให้สูงขึ้น ทำให้คนดูยิ่งทึ่งขึ้นไปอีก และสิ่งที่ผมได้มีส่วนร่วมอีกอย่างก็คือ การนำสิ่งที่แตกต่างเข้ามา นั่นก็คือสไตล์การต่อสู้ที่แปลกแตกต่างในแบบที่ไม่มีใครเคยเห็น แต่ก็ยังมอบความเกรี้ยวกราด และรุนแรงตามสไตล์หนังแอ็คชั่น ผมคิดว่าคนดูจะรู้สึกถึงความจริงจังและพลังงานที่เกิดขึ้น พวกเรายังมีสุดยอดฝีมือมากมายปรากฏตัวในหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาริส ครัมพ์ เขาสุดยอดมาก ผมคิดว่าถ้าเขาพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ เขาอาจเป็นแอ็คชั่นสตาร์ในอนาคต แถมยังหน้าตาดีอีกด้วย คุณจะได้เห็นผู้ชายผิวดำสองคนรุมอัด โทนี่จามันบ้าดี เหมือนได้กลับไปอยู่ในถิ่นเก่าของตัวเองยังไงยังงั้น ผมยังจำฉากการถ่ายทำในวันนั้นได้ดี เราจะเห็นแอลซีที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลเพราะว่าโดนโทนี่จาอัดซะน่วมเลย (หัวเราะ) มันเป็นการถ่ายทำในฉากสุดท้ายของหนัง ที่คาแร็คเตอร์ของผม แอลซีไล่ขามมาจนจับตัวได้ก็เลยเกิดฉากต่อสู้ไคลแม็กซ์ พวกเราต้องมีการพุ่งทะลุกระจกขนาดมหึมา และตกลงมาบนพื้น มันเป็นอะไรที่บ้ามาก และก็ยังมีสาวงามหญิง (รฐา) ปรากฏตัวในฉาก คุณต้องไปดูในหนังเอง ผมอยากให้ทุกคนได้ดูหนัง และสนุกกับฉากแอ็คชั่นสามมิติ พวกเรา มีการเตะก้นมากมายในหนัง ซึ่งขอบอกไว้เลยว่าสนุกมาก และผมก็ยังได้กินน้ำมะพร้าวเยอะเลย (หัวเราะ) ผมชอบน้ำมะพร้าวพอๆกับที่ผมได้อัด ขาม (หัวเราะ)

          Q. แน่นอนว่าคำถามนี้ไม่ถามไม่ได้ เป็นอย่างไรบ้างกับการเล่นแอ็คชั่นกับจาพนม
          R. โทนี่แกร่งมาก แต่เขาก็ยอมให้ผมอัดเขาอยู่หลายทีนะ (หัวเราะ) ไม่งั้นผมก็คงไม่สามารถมานั่งให้สัมภาษณ์อยู่ตรงนี้ได้ ผมอยากให้ทุกคนได้ติดตามชมผลงานเรื่องนี้ มาดูผมบู๊กับโทนี่จาใช่แล้ว ผู้ชายที่หมัดหนักดั่งเหล็ก สุดยอดนักรบมวยไทย ลองมาดูกันว่าใครกันแน่ที่จะเป็นนักสู้อันดับหนึ่งของโลก

          Q. คำถามสุดท้ายแล้วมีฉากไหนในภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง2-3Dที่คุณชื่นชอบที่อยากพูดถึง
          R. ผมคิดว่าฉากที่ผมชอบที่สุดคือตอนที่ No. 20 ที่รับบทโดยหญิง (รฐา โพธิ์งาม) เข้ามาในสังเวียนเพื่อสู้กับ No. 31 ที่ผมชอบฉากนั้นก็เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอมีพิษสงแค่ไหน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเธอก็สามารถโค่นเขา และผมก็ยังชอบแนวทางที่ตัวละครของผมตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอทำ โดยในฉากนั้นผมก็มีการแสดงในลักษณะอิมโพรไวซ์ (เล่นสด) อยู่พอสมควร และผมคิดว่ามันออกมาเท่ห์และน่าจะทำให้คนดูชื่นชอบไม่มากก็น้อย

          Q. ท้ายนี้อยากฝากอะไรกับบรรดาคอหนังแอ็คชั่นและแฟนๆของริซ่าและวูทังแคลน
          R. ผมอยากบอกกับแฟนๆ ทั่วโลกว่า หนังแอ็คชั่นถูกสร้างเพื่อที่จะมอบความสนุกให้กับคุณ มันคือความสุขในการได้เข้าไปดูหนัง กินป็อปคอร์น นั่งพิงเบาะ และก็สนุกไปกับสิ่งที่พวกเรามอบให้กับ ต้มยำกุ้ง 2 หรือในอเมริกาเราอาจเรียกมันว่า The Protector 2 แต่ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไร โทนี่ จา และ รีซ่า จะทำให้คุณทึ่งสำหรับใครก็ตามตั้งตารอหนังเรื่องนี้ เตรียมตัวพบกับฉากสตันท์ที่น่าทึ่งที่สุด จากทีมสตันท์ที่เก่งที่สุดโดย พันนา กับสุดยอดผู้กำกับ ปรัชญา รวมถึงแอ็คชั่นฮีโร่ที่เจ๋งที่สุดในยุคนี้ โทนี่ จา และผู้ชายที่เท่ที่สุด รีซ่า ผมสนุกกับมันมาก
 
           **จาพนม พูดถึง รีซ่า
          ในภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง2-3Dก็ จะมีหลายๆฉากที่ถือได้ว่าเป็นฉากไฮไลท์ของภาพยนตร์ที่ผมต้องเข้าฉากกับ รีซ่า หรือ แอลซี (ชื่อตัวละครในเรื่อง) แล้วในฉากเราต้องมีการเข้าคิวแอ็คชั่นบู๊กันหั่นแหลก ซึ่งเรื่องของมาร์เชียลอาร์ทหรือศิลปะการต่อสู้ ก็มีความแปลกใหม่ ซึ่งตลอดการถ่ายทำตัวผมเองกับรีซ่าเราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนนะครับ เพราะเขาก็มีพื้นฐานทางด้านศิลปะการต่อสู้อยู่แล้ว ผมก็มีมวยไทย เราเลยมานั่งคุยกันว่า สิ่งไหนที่ทำแล้วจะออกมาลงตัวและสวยงามที่สุดในหนัง ซึ่งเขาก็สามารถทำหน้าที่ของเขาออกมาได้อย่างสุดยอดมากครับ การได้อยู่กับเขาและถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของพลัง เขามีสปิริตของการเป็นนักแสดงมาก และอีกอย่างก็คือเขาเป็นผู้ชายที่เป็นมิตรมาก พออยู่ด้วยแล้วก็รู้สึกมีพลัง แล้วเขาก็สอนฮิปฮอปด้วย เวลาที่เราเล่นหนังนะครับ เราก็อาจจะเครียด ก็เลยต้องผ่อนคลายด้วยการร้องแร็ป พอซีเรียสเราผิวปากมันก็จะผ่อนคลาย มันช่วยให้หนังของเรามีรสชาติ ต้องไปดูครับ ต้มยำกุ้งภาคสองครับ มีอะไรใหม่ๆแน่นอนครับโดยเฉพาะ แร็ปเปอร์กับมวยไทยครับ

FB on October 15, 2013, 05:00:05 PM
หนึ่งนักสู้ที่พร้อมหยุดทุกปรากฏการณ์ ความมันส์แบบใหม่กำลังจะบังเกิด
 

 
          หนึ่งนักสู้ที่พร้อมหยุดทุกปรากฏการณ์ ความมันส์แบบใหม่กำลังจะบังเกิด
          ครั้งแรกแห่งการรวมตัวของ 6 นักสู้เลือดเดือดที่พร้อมถ่ายทอดทุกวินาทีแห่งความมันส์ ให้เข้มข้นสะใจในรูปแบบ 3 มิติ “ต้มยำกุ้ง 2 – 3D”
          เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.tyg2movie.com
          23 ตุลาคมนี้ พิสูจน์ทุกความมันส์แบบทะลุจอทั้งในระบบปกติและ 3 มิติ
          ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
          “จา พนม” (ขาม) เจ้าของ “มวยคชสาร” หนึ่งเดียวที่โลกจับตา ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมการต่อสู้ที่ดุเดือด สะใจ ในรูปแบบ Real Action ที่ดับเบิ้ลความมันส์จนห้ามกะพริบตา
          ริซ่า (แอลซี) จอมวางแผนเพื่อให้ได้มาทุกสิ่งที่ต้องการโดยไม่เกี่ยงวิธีการ สะสมนักสู้จากทั่วทุกมุมโลกไว้เป็นคอลเล็คชั่นของตัวเอง
          หม่ำ จ๊กม๊ก (จ่ามาร์ค) ตำรวจสากลที่ต้องกลับมาเมืองไทยด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ได้พบ “ขาม” อีกครั้ง ในฐานะของ “ฆาตกร” ที่จับตัวยากและอันตรายที่สุด
          “จีจ้า ญาณิน” (ปิงปิง) นักฆ่าฝาแฝดที่มีเข็มพิษเป็นอาวุธคู่กาย แต่จะเป็นยังไง... เมื่อศัตรูของเธอครั้งนี้คือชายที่ทุกฝ่ายต่างแย่งชิงตัว
          มารีส ครัมพ์ (นัมเบอร์ทู) นิ่ง ดุดัน มือหนึ่งแห่งการสังหารที่ฆ่าเหยื่อได้ในเสี้ยววินาที ไม่มีใครทัดเทียม จนกระทั่งเขาได้พบกับ “ขาม”
          รฐา โพธิ์งาม (ทเวนตี้) มือสังหารแสนสวย เซ็กซี่ สุดเหี้ยมโหด ใช้ทุกส่วนของร่างกายเป็นอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นทั้งร่างกายที่ถูกฝึกมาเพื่อให้ฆ่า หรือเสน่ห์มายาที่ชวนหลงใหล

FB on October 17, 2013, 02:00:40 PM
“ต้มยำกุ้ง 2-3D”ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมใจผนึกกำลัง ช่วยคนไทยปะทะน้ำท่วมพร้อมเปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของ พร้อมกัน 19 ตุลาคานี้ ณ.ตลาดนัดสวนจตุจักร!!!


 
          สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล และภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง 2-3D จัดกิจกรรมพิเศษพร้อมร่วมเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบ อุทกภัย กับกิจกรรม “ต้มยำกุ้ง 2-3D ผนึกกำลังรวมน้ำใจ ช่วยคนไทยปะทะน้ำท่วม” นำโดยนักแสดงนำจากภาพยนตร์ อย่าง หม่ำ จ๊กม๊ก, จีจ้า ญาณิน วิสมิตะนันทน์ และ หญิง รฐา โพธิ์งาม กับการเปิดบูธพิเศษเฉพาะกิจกลางตลาดนัดสวนจุตจักรรับบริจาคสิ่งของ และเงินบริจาคพร้อมกัน ในวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 น. ณ บริเวณกองอำนวยการตลาดนัดสวนจตุจักร ตรงทางเข้าประตู 1

          ทั้ง นี้อยากเชิญชวนผู้ที่อยู่ในละแวกสวนจตุจักรและผู้ที่สนใจร่วมบริจาคสิ่งของ พร้อมกับเงินบริจาคมาร่วมกิจกรรมในวันและเวลาดังกล่าว นอกจากจะได้พบกับนักแสดงนำอย่างใกล้ชิด ยังสามารถถ่ายภาพร่วมกับนักแสดงที่อยู่บริเวณบูธ หรือ ในขณะที่เดินขบวนเพื่อรับบริจาคในบริเวณต่างๆของตลาดนัดสวนจตุจักรได้อีก ด้วย และพิเศษกว่าใครภายในบูธของต้มยำกุ้ง 2-3D จะมีการจำหน่ายของที่ระลึกจากภ. อาทิเช่น เสื้อยืด, แว่นตา 3 มิติ, ดีวีดี, โปสเตอร์ของภ. จำนวนจำกัด เพื่อรายได้ที่ได้รับจากการขายของที่ระลึก การบริจาคเงิน และการบริจาคสิ่งของต่างๆ ทั้งหมดจะถูกรวบรวมไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดต่างๆโดยไม่หักค่าใช้ จ่ายใดๆ

          หากท่านใดที่ไม่สะดวกไปร่วมงานสามารถนำของไปบริจาค หรือร่วมสมทบทุนได้ ณ ออฟฟิศ บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 388 อาคารเอส.พี ชั้น 9 บี สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึง 21 ตุลาคม 2556 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com /sahamongkolfilmint

FB on October 21, 2013, 04:41:17 PM
ครั้งแรกและครั้งเดียวกับปรากฏการณ์ บู๊ แอ็คชั่น สุดเดือดกับ ต้มยำกุ้ง 2-3D ขอท้าดวลให้คุณปล่อยหมัดไม่ยั้งซัดให้สุดพลังกับเหล่านักสู้ เพื่อลุ้นรับของรางวัลพรีเมี่ยมจากภาพยนตร์ก่อนใคร



          บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดกิจกรรมเอาใจแฟนหนังต้อนรับการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่กับภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์แห่งปี ต้มยำกุ้ง 2-3D ที่พร้อมให้คุณเปิดประสบการณ์ท้าดวลปล่อยหมัดหนักให้สุดพลังปะทะกับเหล่าบรรดาฮีโร่ นักสู้ฝีมือฉกาจจากภาพยนตร์ อาทิ จา พนม, จีจ้า, หญิง รฐา, RZA (ริซ่า) และ MARRESEZ (มารีส) พร้อมลุ้นรับของรางวัลพรีเมี่ยมจากภาพยนตร์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลก

          ร่วมสนุกกับกิจกรรม Action Punching (แอ๊คชั่น พันซ์ชิ่ง) โรดโชว์ มันส์ทะลุจอ ที่ตระเวนขนความสนุกแบบ 3 มิติของจริง ให้คุณได้เป็น1ในนักสู้เพื่อท้าดวลความแข็งแกร่งเสมือนได้อยู่ในภาพยนตร์ ครั้งแรกและครั้งเดียวที่คุณจะได้สนุกสนานไปกับการปล่อยพลังหมัดอันหนักหน่วงปะทะกับสุดยอดเหล่าฮีโร่แบบตัวต่อตัวให้สุดแรงเหนี่ยวภายในเวลาที่กำหนด เพื่อลุ้นครอบครองของรางวัลสุดพิเศษอย่าง หมวก, เสื้อยืด, ผ้าพันคอ ฯลฯ Limited Editionจากภาพยนตร์ต้มยำกุ้ง2-3Dก่อนใคร พลาดไม่ได้สำหรับแฟนตัวจริง!! ติดตามเข้าร่วมสนุกเพื่อทดสอบกำปั้นที่ท้าให้คุณเป็นผู้ชนะในประสบการสุดมันส์ก่อนใคร ตั้งแต่ วันที่ 9 – 27 ตุลาคมนี้เท่านั้น!! พร้อมเกาะติดข่าวสารความเคลื่อนไหวและสถานที่ในการร่วมกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/sahamongkolfilmint
« Last Edit: October 21, 2013, 04:42:57 PM by FB »

FB on October 23, 2013, 09:34:14 AM
ระเบิดความมันส์กับปรากฏการณ์แอ็คชั่น หยุดโลก กับ ต้มยำกุ้ง 2 พร้อมลุ้นเป็นเจ้าของ ปิกอัพฮีโร่ นิว มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่รุ่น ดับเบิ้ลแค็ป มูลค่า 879,000 บาทที่โรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์



สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลร่วมกับบริษัท มาสด้า เซลล์(ประเทศไทย) จํากัด และโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์เชิญร่วมเป็นหนึ่งในปรากฎการณ์แอ็ค ชั่นมันส์ทะลุจอในรูปแบบ3มิติกับ“โทนี่ จา” แอ็คชั่นสตาร์ตัวจริงระดับโลกและต้มยำกุ้ง2-3Dสุดยอดภาพยนตร์เรียลแอ็ค ชั่นฟอร์มยักษ์ทุนสร้างกว่า500ล้านบาทที่คนทั้งโลกรอคอย ครั้งแรกและครั้งเดียวที่ให้คุณลุ้นเป็น 1 ใน 10 ผู้โชคดี ร่วมไขกุญแจเป็นเจ้าของปิกอัพฮีโร่ นิว มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่รุ่น ดับเบิ้ลแค็ป มูลค่า 879,000 บาทเมื่อซื้อภาพยนตร์ต้มยำกุ้ง 2 ทุก 2 ที่นั่งที่โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ / อีจีวี/ พารากอนซีนีเพล็กซ์/เอสพานาดซีนีเพล็กซ์/ พาราไดซ์ซีนีเพล็กซ์และเมกาซีนีเพล็กซ์ ตั้งแต่23 ตุลาคม –13 พฤศจิกายน 2556 เท่านั้น ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของกิจกรรมพร้อมประกาศรายชื่อ 10 ผู้โชคดี ที่ได้ร่วมลุ้นเป็นเจ้าของรถ 11 ธันวาคม 2556 ทาง www.majorcineplex.com, www.tyg2movie.comhttp://www.sahamongkolfilm.com/

ร่วมพิสูจน์อภิมหาปรากฏการณ์ความมันส์ทะลุจอทั้งในรูปแบบ 3 มิติ และระบบปกติกับ ต้มยำกุ้ง 2 - 3D พร้อมกันทั่วประเทศ 23 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป