สถิติของ Porsche Asia Pacific ในไตรมาสแรกที่เข้าใกล้เป้าหมายด้านยนตรกรรมสปอร์ตไฟฟ้า
Porsche Asia Pacific ปิดไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 ด้วยผลงานดีเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 28% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
47% ของรถยนต์ใหม่ที่ส่งมอบถึงมือลูกค้า เป็นรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นสนับสนุนทิศทางในการดำเนินงานของบริษัทในระดับโลก ภายในปี 2025 ครึ่งหนึ่งของรถยนต์ปอร์เช่ที่ถูกจำหน่ายออกไป จะต้องเป็นรถพลังงานไฟฟ้า หรือ hybrid
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังคงเป็นภูมิภาคสำคัญในฐานะกำลังหลักที่ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้แก่ปอร์เช่ ด้วยการสร้างสรรค์แนวทางใหม่ให้อนาคตของยนตรกรรมสปอร์ต โดยเริ่มต้นจากการประกาศเปิดตัวโครงการระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก ผ่านสถานีชาร์จพลังงานประสิทธิภาพสูง high performance EV charging network เครือข่ายความร่วมมือกับ Shell พันธมิตรทางธุรกิจรายล่าสุด สิงคโปร์. Porsche Asia Pacific สร้างสถิติผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดในไตรมาสแรก ด้วยตัวเลขยอดส่งมอบรถสปอร์ตรวมถึง 827 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตสูงถึง 28% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า
ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าคือศูนย์กลางในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้า กว่า 47% ของจำนวนรถที่จำหน่าย ล้วนแล้วแต่เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (BEVs) หรือรถยนต์ไฟฟ้า plug-in hybrid (PHEVs) สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทสามารถมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ถูกต้องได้อย่างรวดเร็วสนองตอบนโยบายการดำเนินงานในระดับสากล ภายในปี 2025 ครึ่งหนึ่งของรถใหม่จากปอร์เช่ที่จำหน่ายในตลาดจะต้องเป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า 100% หรือติดตั้งขุมพลัง hybrid ก็ตาม
ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ถูกส่งมอบถึงมือลูกค้าในไตรมาสนี้เป็นจำนวนกว่า 150 คัน หรือคิดเป็นเกือบร้อยละ 5 ของยอดจำหน่ายทั่วโลก
นิวซีแลนด์ และประเทศ 3 สหายในภูมิภาค ที่ประกอบด้วย ประเทศไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย สามารถสร้างผลงานได้ในระดับยอดเยี่ยม ถือเป็นดาวเด่นที่มีความสำคัญต่อแบรนด์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยังคงเปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่อาจมองข้ามได้ ส่งผลให้บรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน (ASEAN) ทั้งหลายดำรงสถานะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับปอร์เช่ในการวาดฝันถึงอนาคตของรถสปอร์ตได้ในระยะยาว
“แนวคิดของความเป็นหนึ่งเดียวและจิตวิญญาณแห่งนักบุกเบิก คือแรงผลักดันให้ทีมงานปอร์เช่รวมถึงพันธมิตรของเราสรรสร้างเครื่องมือในการพัฒนาต่างๆ ผ่านไอเดียด้านนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นจนทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม การได้เห็นลูกค้าตกหลุมรักยนตรกรรมสปอร์ตของเราเปรียบเสมือนกำลังใจอันยิ่งใหญ่ ตามหลักปรัชญาที่ว่าปอร์เช่คือสายเลือดของรถสปอร์ตพันธุ์แท้ โดยไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ Hybrid หรือรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทั้งหมดกำเนิดขึ้นจากความศรัทธา และความหลงใหล เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด” Arthur Willmann Chief Executive Officer ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Porsche Asia Pacific กล่าว
มากกว่า 60% ของผู้ครอบครองปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ซึ่งได้รับมอบรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบของพวกเขาในช่วงไตรมาสแรกนั้น ล้วนเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหม่ของแบรนด์ปอร์เช่ทั้งสิ้น ร่องรอยอารยธรรมที่ปอร์เช่สืบสานมายาวนานกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์อีกครั้ง ด้วยความยอดเยี่ยมของยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าดังกล่าว
สิ่งที่มาพร้อมกับการเปิดตัว ไทคานน์ (Taycan) ในฐานะรถไฟฟ้า 100% คือการแถลงนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิตด้วยโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon - offsetting) ซึ่งปอร์เช่นำมาใช้ในปี 2020 การพัฒนาอย่างยั่งยืนยังคงเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ Porsche Asia Pacific เช่นเดิมในปีนี้
การร่วมมือกับ Shell คือความสำเร็จครั้งแรกของเครือข่ายสถานีชาร์จพลังงานประสิทธิภาพสูง high performance charging network ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมต่อการเดินทางสัญจรระหว่างประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย ผลของการประสานงานดังกล่าวครอบคลุมการติดตั้งจุดชาร์จพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง direct-current (DC) chargers ขนาด 180 kW ในสถานีบริการ Shell 6 แห่ง รองรับการชาร์จพลังงานประสิทธิภาพสูงสุดในเส้นทางหลักของทั้ง 2 ประเทศ เป็นการเน้นย้ำพันธสัญญาของทั้ง 2 องค์กร ในการก้าวไปข้างหน้าเพื่อผลักดันให้เกิดอัจฉริยภาพแห่งการเดินทางบนเส้นทางต่างๆ ในภูมิภาคนี้
ปอร์เช่ยังคงพยายามในการส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเร้าใจ การนำพาลูกค้า รวมทั้งผู้หลงใหลในรถยนต์ปอร์เช่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์คือภารกิจลำดับต้น สนับสนุนด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และการดึงพันธมิตรที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพเข้ามาร่วมปฏิบัติงาน
เครือข่ายการจัดจำหน่ายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่กำลังเติบโตเริ่มด้วยการเปิดตัวศูนย์บริการ Porsche Centre Ara Damansara และ Porsche Centre Johor Bahru ที่กำลังจะเปิดในประเทศมาเลเซีย
Porsche Asia Pacific มีพันธกิจในการชักนำผู้คนเข้ามาสู่โลกของยนตรกรรมสปอร์ตระดับตำนาน ผ่านนิทรรศการ pop-up ที่มีชื่อว่า “Driving Tomorrow” จัดขึ้นที่ศูนย์จัดแสดง Jewel Changi Airport ประเทศสิงคโปร์ ต้อนรับผู้เข้าชมงานมากกว่า 20,000 คน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ปอร์เช่ยังเปิด Porsche Studio Hanoi ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงที่คึกคักของประเทศเวียดนาม รับหน้าที่เป็นประตูบานแรกในการเข้าสู่โลกแห่งยานยนต์สปอร์ต ด้วยโชว์รูมในรูปแบบ contemporary ให้ความรู้สึกเหมือนการไปพักผ่อน ณ บูติก โฮเต็ล ที่หรูหราและสง่างาม เช่นเดียวกับยนตรกรรมสปอร์ตอันทรงคุณค่าจากปอร์เช่
นับจากนี้ลูกค้าและผู้หลงใหลในรถยนต์ปอร์เช่จะยังคงได้รับความตื่นตาตื่นใจแบบไม่รู้จบ จากบรรดายนตรกรรมสปอร์ตหลากหลายรูปแบบ เริ่มต้นด้วยตระกูลรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ทั้ง 4 รุ่น ตามมาด้วย ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ (The new Porsche 911 GT3) ที่กำลังจะเปิดตัวอีกในไม่นาน มั่นใจได้ว่าวิสัยทัศน์ของปอร์เช่ในปีนี้ คือการรังสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตในฝันของลูกค้าทุกคนให้กลายเป็นความจริง
เกี่ยวกับ Porsche Asia Pacific Pte Ltd
Porsche Asia Pacific Pte Ltd เป็นบริษัทในเครือของ Dr. Ing. h.c. F. Porsche AG ในฐานะผู้ผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูงระดับชั้นนำของโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี มีวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นประสิทธิผลสูงสุดสำหรับการส่งมอบยนตรกรรมสปอร์ตชั้นเลิศให้แก่ผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม 911 นอกจากนั้นปอร์เช่ยังสร้างสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) มาคันน์ (Macan) พานาเมร่า (Panamera) 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) และ 718 เคย์แมน (718 Cayman) ในปี 2019 ได้เปิดตัวปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรก
ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ตุลาคม ปี 2001 ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานในตลาดภูมิภาค เอเชีย แปซิฟิก อย่างใกล้ชิดตามนโยบายจากปอร์เช่สำนักงานใหญ่ มุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านของงานบริการ การพัฒนาธุรกิจ การตลาด สื่อสารมวลชนและประชาสัมพันธ์ รวมทั้งด้านการขาย ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก รับบทบาทในการประสานงานครอบคลุมทั้ง 13 ประเทศในภูมิภาค ประกอบด้วย: บรูไน, กัมพูชา, เฟรนช์ พอลินีเซีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, มองโกเลีย, นิวแคลิโดเนีย, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, ไทย และเวียดนาม
Porsche Asia Pacific
Head of PR & Communications
Yannick Ott
Phone : +65 9656 9112
Email : Yannick.ott@porsche-ap.com
ติดตามบทความ online ได้จากนิตยสาร Christophorus Magazine http://www.christophorus.porsche.com/.
เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญ ทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
AAS Auto Service Co., Ltd. โทร. 02-522-6655 ext. 101-103 หรือ https://dealer.porsche.com/thailand
Porsche Centre Bangkok โทร. 02-522-6655
Porsche Centre Pattanakarn โทร. 02-369-1111
Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911
Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 โทร. 02-288-0911
« Last Edit: April 24, 2021, 11:19:21 AM by activity »
Logged